คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย

[Manop Klabdee]

                      

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี
??

                       เมื่อวันอังคาร ผมไปประชุมกรรมการรุ่น วศ. 2513 ได้พบและนั่งกับ ดร.สุริยา  ผมเห็นสารรูป ดร.สุริยา แล้วอด "สังขารา" ไม่ได้ คนเราทำไม? มันต้องทุกข์(หน้าตาดูเครียด ไร้อารมณ์ มีความกังวลอยู่ในจิตใจ เหมือนกับแบกทุกข์ไว้ทั้งสองบ่า) ขนาดนั้น ทั้งๆ ดร.สุริยา  รู้จักปลดทุกข์ด้วยการออกกำลังกาย ด้วยการพักผ่อน ด้วยการร้องเพลงคาราโอเกะ ด้วยการฟังเพลง เป็นต้น

                       พูดง่าย ๆ ดร.สุริยา กำลังขาดสติ หลงอยู่ในความคิดตัวเองอย่างหนัก ผลของมันจึงแสดงออกที่ใบหน้า และอาการทางกายที่เซื่องซึม  ถ้ามันมีงานมากก็ต้องพยายามใช้สติยู่กับปัจจุบัน ใช้เวลาให้ก่อประโยชน์ที่สุด ค่อยๆ ทำงานไปทีละอย่าง จัดความสำคัญของงานที่รับมาให้ถูก อันไหนสำคัญทำก่อน ต้องมีสติ ความเพียร และปัญญา ครับ

                       อย่าลืม พ่อ-แม่ เป็นมะเร็ง เพราะความเครียดนี่เอง มันมีเชื่ออยู่แล้ว ถ้าเราเป็นขึ้นมา คนรอบกายก็พลอยทุกข์เพราะเราไปด้วย แต่ถ้าคิดว่า ก็ดีมันจะได้ตาย ๆ ไป มันก็จริง แต่ความจริงก็คือ ผมหรือพี่ หรือน้อง ก็ต้องพา ดร.สุริยา ไปโรงพยาบาลอยู่ดี เดี่๋ยวนี้โรคมะเร็งมันไม่ตายง่ายอย่างที่เราปราถนา  มันเป็นปี สองปี กว่าจะตาย ผลคือตัวเองก็ทุกข์ คนรอบกายก็ทุกข์ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรเล่า

                       จริงอยู่ถ้าเราไม่มีงาน เราก็อด แต่ลองถามตัวเองดู ถ้าเราไม่ทำงานเลยตอนนี้ เราอยู่ได้ไหม? ผมถามตัวเองแล้ว ผมอยู่ได้ เพราะวันหนึ่งๆ กินนิดเดียว ถ้าถือศีลแปดกินสองมือ เราปลูกผักของเรากินก็ได้ ไม่ต้องไปตามห้าง เราก็อยู่ของเราได้ คนที่แย่กว่าเรายังมีแยะ

                       ลูกก็ไม่มี เมียก็ไม่มี(พออายุหกสิบแล้วอารมณ์ความต้องการทางเพศ มันหมดไปแล้ว) ภาระก็ไม่มี แล้วจะหางานมาทำให้จิตใจเศร้าหมองอยู่ทำไม ทุกข์ที่แบกไว้มันหนักเน้อ ปลดมันออกเสียบ้าง ยึดหลัก "พอเพียง" ถึงไม่มีเกียรติ ไม่มีใครนับหน้าถือตา เยินยอ...... เราก็อยู่ของเราได้ครับ

เราควรมีความคิดนี้อยู่ในจิตใจของเรา แล้วเราจะปล่อยวางได้

สังขาร ทั้งหลาย เป็น อนิจจัง
สังขาร ทั้งหลาย เป็น ทุกข์
ธรรม   ทั้งหลาย เป็น อนัตตา
(สังขาร คือ ร่างกายของเรา หรือ ความคิดของเรา : ธรรม คือ ร่างกาย ความคิด สิ่งรอบๆตัวเราที่เกิดจาก เหตุ...ปัจจัย)
จงมองหลักธรรมอันนี้ให้เข้าใจด้วยปัญญา

จิตเดิมแท้ของเราทุกคน มีแต่ความว่างเปล่า
อย่าเอาอะไรมาใส่จิตของเราให้มันรกรุงรังเลย
ปลด หรือทำความสะอาดที่มันรกอยู่นั้นให้ออกไปเสียให้หมด

ทุกข์เขามีเอาไว้เพื่อกำหนดรู้เท่านั้น ให้เรารู้เท่าทันมัน เราอย่าตกไปเป็นทาษของทุกข์นั้นเลย

จงกำหนดรู้อารมณ์ต่างๆ ของทุกข์นั้นตาม มรรค ๘ แต่อย่าไปเป็นทุกข์เสียเอง

การกำหนดรู้อารมณ์ทุกข์ เราจะพบสาเหตุแห่งทุกข์นั้น และจะไม่ตกไปเป็นทุกข์นั้น ด้วยปัญญา

จงใช้ปัญญา แล้ว ดร.สุริยา จะปล่อยวางได้ด้วยตัวเอง

ปรมาจารย์เว่ยหล่าง มีโศลกว่า : เสียงติเตียนเรานั้น มันทำให้เราไม่ชอบใจ แต่นั่นคือความปราถนาดีต่อเรา

[Manop Klabdee]

สวัสดีครับ สมาชิกที่ไปทัวร์ทำบุญที่วัดพระนอน ทุกท่าน
                       ผู้ใหญ่อี๊ดโทรศัพท์มาบอกว่า เมื่อคืนนี้สามารถซื้อปลาตะโกรก ปลาน้ำเงิน ปลาค้าว จากชาวบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้จำนวนมาก จึงเอาปลาตะโกรกนั้นมาทำน้ำยา สำหรับขนมจีน-น้ำยา ปกติปลาตะโกรกนั้นทำน้ำยาได้อร่อยไม่แพ้ปลากรายเลย เพราะเป็นปลาตัวใหญ่และมีก้างน้อย ดังนั้น ท่านจะได้กินขนมจีน-น้ำยาที่อร่อย เพราะแม่ครัวได้คัดอย่างดีมาทำให้จากหมู่บ้าน ครับ
                       นอกจากนี้จะมีแกงป่าปลาน้ำเงิน และปลาค้าวทอดกระเทียม ต้มยำปลาช่อนแม่ลา น้ำพริกผักสด ปลาช้อนแดดเดียว และคุณน้องเน๊ะจะทำแกงบอนมาสมทบครับ หลานจะเอาขนมเปี๊ยะมาให้
                       พี่สิงห์ได้ให้เขาเตรียมข้าวเอาไว้สำหรับให้พวกเราได้ใส่บาตรพระ ครบทุกคน
                       คุณแววตา จะนำทุเรียนไปถวายพระด้วย
                       อย่าลืมล้อหมุน 07:00 น.ตรง ที่หอพัก และ 07:30 น. บ้านอาจารย์พินิจ ครับ
                       สวัสดีครับ

                       รายชื่อผู้ร่วมเดินทาง
                        ๑. คุณมานพ
                        ๒. อ.เผ่า (ขึ้นที่หอพัก)
                        ๓. อ.แจ่มใส (ขึ้นที่หอพัก)
                        ๔. รศ.พินิจ
                        ๕. พี่ติ๋ว
                        ๖. คุณวิทิดา
                        ๗. คุณแววตา (ขึ้นที่หอพัก)
                        ๘. คุณหล้า (ขึ้นที่หอพัก)
                        ๙. ดร.กุศล
                       ๑๐. คุณอ้อย ๑๗
                       ๑๑. คุณทิปปี้ (ขึ้นที่หอพัก)
                       ๑๒. คุณอึ่ง (ขึ้นที่หอพัก)
                       ๑๓. รศ.ประกายแก้ว (ขึ้นที่หอพัก)
                       ๑๔.-๑๗. ครอบครัวคุณอดิสร ๔ ท่าน
                       ๑๘. คุณหลิว
                       ๑๙. คุณชิ้ง
                        รู้สึกว่าจะมีเท่านี้ครับ ที่สนใจไปทัวร์วัดพระนอน ลืมไปมีคุณเหยง และคุณน้องเน๊ะ ด้วยครับ

ชาวซีมะโด่งท่านใดสะดวกจะขับรถตามไปก็ได้ครับ ถ้าไม่รู้จักทางโทรศัพท์ติดต่อกันได้ครับ

[เหยง 16]

พี่สิงห์

ให้เวลา อจ.เผ่า เพิ่มสักนิด เผื่อเวลาให้พอกับการสนทนากับกรรมการวัดทั้งคณะ รวมทั้งเดินตรวจสอบตัวอาคารด้วยครับ

พวกเราที่เหลืออาจจะต้องทานข้าวรอไปด้วยก็ได้

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 21 พฤษภาคม 2554, 13:43:48
	พี่สิงห์ ให้เวลา อจ.เผ่า เพิ่มสักนิด เผื่อเวลาให้พอกับการสนทนากับกรรมการวัดทั้งคณะ รวมทั้งเดินตรวจสอบตัวอาคารด้วยครับ พวกเราที่เหลืออาจจะต้องทานข้าวรอไปด้วยก็ได้

มีเวลาเหลือเฟือครับ คณะจะไปถึงวัดพระนอน 10:00 น. ครับ คุณเหยง

นอกจากนี้มีพี่มรกต -สมจิต พี่เกิด น้องสาวผมวีรยา ญาติๆ และชาวบ้านบางพระนอน มาร่วมด้วยครับ

[Manop Klabdee]

ก่อนอื่น พี่สิงห์ต้องขอขอบคุณคณะผู้ดูแลเวบที่สามารถกู้คืนมาได้ครับ
เดิมทีพี่สิงห์รับทราบมาว่าเวบของพวกเราโดยแฮคเกอร์เอาไปแม้แต่ Admin. ก็ไม่สามารถเข้าไปจัดการได้
ต้องอาศัย Coppy ที่เก็บไว้ อย่างไรก็ดีพี่สิงห์ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการกู้ครั้งนี้ครับ
ขอบคุณมาก

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่งที่รักทุกท่าน
                       พี่สิงห์ขอรายงานคระทัวร์วัดพระนอนให้ทราบทางภาพครับ รถอดิสร มีครอบครัวอดิสรสี่คน อาจารย์พินิจ พี่ติ๋วและ ดร.กุศล รถตู้ที่เช่ามามีรศ.ประกายแก้ว พี่สิงห์ อาจารย์เผ่า รศ.แจ่มใส คุณแววตา คุณวิทิดา คุณหล้า ทิปปี้ คุณอึ่ง และคุรอ้อย ๑๗ คณะได้มาตั้งต้นรวบรวมพรรคพวกที่บ้านอาจารย์พินิจ คุณหล้านั้น คุณสุรชัยพามาส่งครับ หลายท่านเลยถือโอกาสรับประทานข้าวต้ม กาแฟที่บ้านอาจารย์พินิจ
                      คณะออกจากบ้านอาจารย์พินิจ 08:00 น. จุดแรกที่แวะเพื่อตั้งต้น คือ วัดเกศไชโย แวะนมัสการหลวงพ่อโต สมเด็จโต
                      10:00 น.จึงเริ่มเดินทางไปวัดพระนอน ถึงวัดพระนอน 10:40 น.ครับ โดยมีคุณเหยง คุณน้องเน๊ะ คุณหลิว
 และคุณมิ้ง ไปถึงก่อนและไปรับประทานอาหารก่อนเพราะไม่ได้กินข้าวเช้าครับ
                       เชิญชมภาพ

หลวงพ่อวัดเกศไชโย



พวกเราไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล





ชมพระพุทธรูป สมัย ร.๕





ขนมครก และโอเลี้ยง น้ำกระเจี๊ยบ น้ำดื่มต่างๆ ที่ทางวัดเกศไชโยฯ จัดเอาไว้ใหเญาติโยมกินฟรี

[Manop Klabdee]

                       คณะไปถึงวัดพระนอน มักทายกก้เริ่มพิธีสงห์เคาะรระฆังวัดนิมนต์พระขึ้นธรรมาศ ผมได้ให้พี่ติ๋วไปถวายภัตาหารแด่หลวงพ่อหินในโบสถ์ และเรียนเชิญอาจารย์เผ่าเป็นประธานจุดเทียนบูชาพระ(รศ.พินิจ ไม่ยอมขอให้อาจารย์เผ่า ทำหน้าที่แทน) คณะรับศีล ๕ ฟังพระเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญเพล ครับ (วันนี้พระรับนิมนต์สองงานที่ศาลาวัดจึงเหลือเพียงพระสองรูปกับสามเณร ๓๑ องค์ ครับ
                       เชิญชมภาพ

[Manop Klabdee]

                       เนื่องจากพวกเราโอกาสทำบุญแบบนี้มีน้อย ผมจึงให้พี่สาว กรรมการวัดจัดเตรียมข้าวสวยให้พวกเราได้มีโอกาสใส่บาตรพระกันครบทุกคน และให้ทุกท่านได้ถวายภัตาหารแด่พระเณร ด้วยครับ
                       ถ้าอยากดูภาพสวยๆ ต้องรอคุณอดิสร และวครับ
                       เชิญชมภาพครับ

[Manop Klabdee]

                       ภายหลังจากถวายภัตตาหารพระ-สามเณร เสร็จ ถึงตาพวกเราก็รับประทานอาหารกลางวันกันละครับ กับข้าวมี น้ำพริกเผาของคุณน้องเน๊ะ อุตส่าตำเองครับ ต้มยำปลาช่อน ปลาช่อนแดดเดียวทอดไม่ทันเลย แกงป่าปลาน้ำเงิน แกงปลาค้าว น้ำรพิกผักต้ม ปลาช่อนปลาดุกเผา ขนมจีนน้ำยา
                       อร่อยหรือไม่ดูเอาเองครับ

คุณมิ้ง บอกว่า จะมาบวชที่วัดพระนอน ชาวบ้านทำกับข้าวอร่อย

[Manop Klabdee]

                        เบื่องหลังความอร่อยคือพวกแม่ครัวครับ เป็นคนรุ่นใหม่ ญาติพี่สิงห์ทั้งนั้น ครับ
                        อาหารทั้งหมดพี่สิงห์เลี้ยง และได้ให้ปลาช่อนแดดเดียว คนละหนึ่งห่อ ยกเว้นอาจารย์พินิจ อาจารย์เผ่าได้มากหน่อย เป็นของติดมือทุกคน นอกจากนี้ก็มีกระท้อน ขนมเปี๊ยะ ส้มแผ่น(มะม่วงกวน) คุณน้องเนีะทำมะม่วงกวนทำเองมาแจกให้ด้วยครับ
                        เกือบตายแล้วลืมได้ไง คุณเหยงเอาฝรั่งมาทำบุญด้วย และคุณแววตาเอาทุเรียนมาร่วมทำบุญด้วยครับ

                        เชิญชมภาพ

[Manop Klabdee]

                       ดร.กุศล ได้รวบรวมเงินที่พวกเราช่วยกันบริจาคใส่ซองทำบุยพระ สามเณร และเหลืออีกประมาณหนึ่งหมื่นเป็นทุนซ่อมศาลาวัด คุณเหยง  ได้บริจาคซ่อมศาลาวัดอีกหนึ่งพันบาทและได้ให้ข้อคิดเห็นกับชาวบ้าน ขอขอบคุณมากครับคุณเหยง
                       คณะออกจากวัพระนอนบ่านสอง พี่สิงห์พาไปซื้อปลาช่อนดแดเดียวเพิ่มให้ครับ
                       เชิญชมภาพ

อาจารย์เผ่า และพวกเราทุกคนได้ถวายปัจจัยแด่พระ-สามเณร และเหลือทำบุญซ่อม-สร้างศาลาด้วยครับ



ธรรมมาศ สำหรับพระเทศน์ พ่อพี่สิงห์เป็นคนทำครับ



กระต่ายสำรับคนเกิดปีเถาะ(พี่มรกต และพี่สิงห์)พ่อทำเอาไว้สำหรับให้พระเหยียบขึ้นธรรมมาศ



หมูสำหรับผู้ที่เกิดปีกุน พ่อพี่สิงห์ทำเอาไว้ให้พระเหยีบขึ้นธรรมาศใหญ่



พี่มรกต พี่ชายพี่สิงห์ กล่าวต้อนรับ ขอบคุณอาจารย์์เผ่า



อาจารย์เผ่าได้ให้ข้อคิดเห็นเสนอแนวทางในการจะสร้างใหม่ หรือซ่อมแซม เพื่อให้ชาวบ้านได้ตัดสินใจ ครับ

[Manop Klabdee]

                       คณะออกจากวัดพระนอน ไปซื้อปลาช่อนแดดเดียว
                       ไปไหว้หลวงพ่อแพร ที่วัดพิกุลทอง
                       ไปไหว้พระนอนจักสีห๋
                       กลับถึงกรุงเทพฯ หดโมงเย็นไปแวะส่งคุณหล้า และชมบ้านคุณสุรชัยที่รังสิตด้วยครับ
                      เชิญชมภาพครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ไปทัวร์วัดพระนอนกับพี่สิงห์ครับ

ขอบคุณอดิสรและครอบครัวที่ขับรถให้อาจารย์พินิจ-พี่ติ๋ว ครับ

สวัสดี

[suriya2513]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 21 พฤษภาคม 2554, 08:05:21
	ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ??                        เมื่อวันอังคาร ผมไปประชุมกรรมการรุ่น วศ. 2513 ได้พบและนั่งกับ ดร.สุริยา  ผมเห็นสารรูป ดร.สุริยา แล้วอด "สังขารา" ไม่ได้ คนเราทำไม? มันต้องทุกข์(หน้าตาดูเครียด ไร้อารมณ์ มีความกังวลอยู่ในจิตใจ เหมือนกับแบกทุกข์ไว้ทั้งสองบ่า) ขนาดนั้น ทั้งๆ ดร.สุริยา  รู้จักปลดทุกข์ด้วยการออกกำลังกาย ด้วยการพักผ่อน ด้วยการร้องเพลงคาราโอเกะ ด้วยการฟังเพลง เป็นต้น                        พูดง่าย ๆ ดร.สุริยา กำลังขาดสติ หลงอยู่ในความคิดตัวเองอย่างหนัก ผลของมันจึงแสดงออกที่ใบหน้า และอาการทางกายที่เซื่องซึม  ถ้ามันมีงานมากก็ต้องพยายามใช้สตยู่กับปัจจุบัน ใช้เวลาให้ก่อประโยชน์ที่สุด ค่อยๆ ทำงานไปทีละอย่าง จัดความสำคัญของงานที่รักมาให้ถูก อันไหนสำคัญทำก่อน ต้องมีสติ ความเพียร และปัญญา ครับ                        อย่าลืม พ่อ-แม่ เป็นมะเร็ง เพราะความเครียดนี่เอง มันมีเชื่ออยู่แล้ว ถ้าเราเป็นขึ้นมา คอรอบกายก็พลอยทุกข์ เพราะเราไปด้วย แต่ถ้าคิดว่า ก็ดีมันจะได้ตายๆ ไป มันก็จริง แต่ความจริงก็คือ ผมหรือพี่ หรือน้อง ก็ต้องพา ดร.สุริยา ไปโรงพยาบาลอยู่ดี เดี่๋ยวนี้โรคมะเร็งมันไม่ตายง่ายอย่างที่เราปราถนา มันเป็นปี สองปี กว่าจะตาย ผลคือตัวเองก็ทุกข์ คนรอบกายก่อทุกข์ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรเล่า                        จริงอยู่ถ้าเราไม่มีงาน เราก็อด แต่ลองถามตัวเองดู ถ้าเราไม่ทำงานเลยตอนนี้ เราอยู่ได้ไหม? ผมถามตัวเองแล้ว ผมอยู่ได้ เพราะวันหนึ่งๆ กินนิดเดียว ถ้าถือสีลแปดกินสองมือ เราปลูกผักของเรากินก็ได้ ไม่ต้องไปตามห้าง เราก็อยู่ของเราได้ คนที่แย่กว่าเรายังมีแยะ                        ลูกก็ไม่มี เมียก็ไม่มี(พออายุหกสิบแล้วอารมณ์ความต้องการทางเพศ มันหมดไปแล้ว) ภาระก็ไม่มี แล้วจะหางานมาทำให้จิตใจเศร้าหมองอยู่ทำไม ทุกข์ที่แบกไว้มันหนักเน้อ ปลดมันออกเสียบ้าง ยึดหลัก "พอเพียง" ถึงไม่มีเกียรติ ไม่มีใครนับหน้าถือตา เยินยอ...... เราก็อยู่ของเราได้ครับ เราควรมีความคิดนี้อยู่ในจิตใจของเรา แล้วเราจะปล่อยวางได้ สังขาร ทั้งหลาย เป็น อนิจจัง สังขาร ทั้งหลาย เป็น ทุกข์ ธรรม   ทั้งหลาย เป็น อนัตตา (สังขาร คือ ร่างกายของเรา หรือ ความคิดของเรา : ธรรม คือ ร่างกาย ความคิด สิ่งรอบๆตัวเราที่เกิดจาก เหตุ...ปัจจัย) จงมองหลักธรรมอันนี้ให้เข้าใจด้วยปัญญา จิตเดิมแท้ของเราทุกคน มีแต่ความว่างเปล่า อย่าเอาอะไรมาใส่จิตของเราให้มันรกรุงรังเลย ปลด หรือทำความสะอาดที่มันรกอยู่นั้นให้ออกไปเสียให้หมด ทุกข์เขามีเอาไว้เพื่อกำหนดรู้เท่านั้น ให้เรารู้เท่าทันมัน เราอย่าตกไปเป็นทาษของทุกข์นั้นเลย จงกำหนดรู้อารมณ์ต่างๆ ของทุกข์นั้นตาม มรรค ๘ แต่อย่าไปเป็นทุกข์เสียเอง การกำหนดรู้อารมณ์ทุกข์ เราจะพบสาเหตุแห่งทุกข์นั้น และจะไม่ตกไปเป็นทุกข์นั้น ด้วยปัญญา จงใช้ปัญญา แล้ว ดร.สุริยา จะปล่อยวางได้ด้วยตัวเอง ปรมาจารย์เว่ยหล่าง มีโศลกว่า : เสียงติเตียนเรานั้น มันทำให้เราไม่ชอบใจ แต่นั่นคือความปราถนาดีต่อเรา

ขอบคุณมากครับที่เตือนสติ

[lek_adisorn]

สวัสดีครับพี่สิงห์และพี่น้องซีมะโด่งทุกท่าน เมื่อวานเช้าทานหน่อไม้รวกผัดกระเพรา นึกแล้วว่าท้องเสียแน่ ตกบ่ายหน่อยออกอาการมากขึ้น มากขึ้น และเพลียมาก ทำท่าจะจับไขเข้าอีก หมดแรงจริงๆ จึงต้องพัก มาดีขึ้นก็สาม สี่ทุ่มแล้วครับ

ภาพนิ่งถ่ายไม่มากครับ   ส่วนVDOจะเสนอต่อไปครับ

[lek_adisorn]

[lek_adisorn]

[lek_adisorn]

[lek_adisorn]

[Manop Klabdee]

สวัสดี อดิสร
                        ขอบคุณมากครับ
                        อย่าลืมกินมะม่วงด้วยนะ ป้าสำราญ สอยจากต้นเอามาให้พี่สิงห์สามลูก ลูกใหญ่มาก พี่สิงห์ให้เด็กเอาไปรับประทานกัน
                        อย่าลืมกินขนมเป๊ะด้วย หลานคนที่อุ้มลูกเป็นคนทำ และเอามาให้พี่สิงห์ พี่สิงห์ก็เลยฝากให้เธอรับประทานด้วย
                        ปรากฎว่า พี่สิงห์วันนั้นไม่มีอะไรติดมือเข้าบ้านเลย แจกให้พวกเราหมด ผลดีคือ บ้านพี่สิงห์ไม่รก และจิตปล่อยวางได้
      
                        อย่าลืมนัดกันใหม่ อ.ถาวร  ต้องการเลี้ยงแสดงความยินดีกับน้อง "นะ" อย่าเกรงใจเราต้องช่วยกันฉลองศรัทธา อ.ถาวร  เขาไม่เดือดร้อนหรอก เพราะเขาก็ต้องกินข้าวเย็นอยู่แล้ว อาจารย์ถาวร จะได้มีความสุข ถือว่าเราเป็นผู้ส่งเสริม ครับ
                        สวัสดี

เยอเนอเรชั่น ที่สามนี้ เป็นคนกตัญญู ต่อผู้มีอุปการะ และญาติผู้ใหญ๋ ได้ดีทั้งนั้นและมีอาชีพที่ดี ครับ

ขนมเป๊ะเขาทำเอง ไม่มีลูกจ้าง ทำเพียงแค่ตัวเองสามารถจะทำได้ ต่อ วัน ครับ

[lek_adisorn]

[lek_adisorn]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 24 พฤษภาคม 2554, 11:18:48
	สวัสดี อดิสร                         ขอบคุณมากครับ                         อย่าลืมกินมะม่วงด้วยนะ ป้าสำราญ สอยจากต้นเอามาให้พี่สิงห์สามลูก ลูกใหญ่มาก พี่สิงห์ให้เด็กเอาไปรับประทานกัน                         อย่าลืมกินขนมเป๊ะด้วย หลานคนที่อุ้มลูกเป็นคนทำ และเอามาให้พี่สิงห์ พี่สิงห์ก็เลยฝากให้เธอรับประทานด้วย                         ปรากฎว่า พี่สิงห์วันนั้นไม่มีอะไรติดมือเข้าบ้านเลย แจกให้พวกเราหมด ผลดีคือ บ้านพี่สิงห์ไม่รก และจิตปล่อยวางได้                                 อย่าลืมนัดกันใหม่ อ.ถาวร  ต้องการเลี้ยงแสดงความยินดีกับน้อง "นะ" อย่าเกรงใจเราต้องช่วยกันฉลองศรัทธา อ.ถาวร  เขาไม่เดือดร้อนหรอก เพราะเขาก็ต้องกินข้าวเย็นอยู่แล้ว อาจารย์ถาวร จะได้มีความสุข ถือว่าเราเป็นผู้ส่งเสริม ครับ                         สวัสดี

ขอบพระคุณมากครับพี่ มะม่วงผลใหญ่มากผมก็ไม่ทราบว่าของใคร พี่ติ๋วบอกให้ผมเอามา พี่ติ๋วไป 1 ผลครับ ขนมเปี๊ยะอร่อยครับใส้ก็อร่อยดีครับ

เมื่อตอนเย็นหลังจากส่งอ.พินิจและพี่ติ๋วแล้วผมจึงโทรหา อ.ถาวรครับ กราบขอบพระคุณ อ.ถาวรอีกครั้งครับ น้องนะไม่กล้าหรอกครับเขาขี้เกรงใจครับ

[lek_adisorn]

[Manop Klabdee]

คนนี้เป็นลูกสาวครูฟื้น และน้าแป้งร่ำ
น้าแป้งร่ำมีอาชีพทำขนมขาย มีฝีมือการทำข้าวเม่าทอด ขนมถ้วย ขนมไทยทุกชนิด



พี่สิงห์สำราจแล้ว แม่ครัวคนขวามือสุดเพื่อนรุ่นเดียวกัน นอกนั้นอายุน้อยกว่าพี่สิงห์เกี่ยวดองเป็นญาติพี่สิงห์ทุกคนครับ
ยังไม่ใช่แม่ครัวอาชีพ เป็นรุ่นลูกของบรรดาแม่ครัวใหญ่ ที่มาช่วยทำกับข้าวให้พวกเราได้รับประทานกัน
พวกญาติระดมกันมาทำได้รวดเร็ว และเติมใจที่จะทำให้ ครับ


พี่สิงห์ มีข้อดีอยู่อย่างคือ ยังไม่ลืมตนว่า เหล่ากอเรานั้น เป็นชาวนา อยู่อย่างพอเพียง ตามชีวิตชนบท
ทุกครั้งที่กลับบ้าน ไปทำบุญทุกเทศกาล พี่สิงห์จะไปไหว้ญาติที่มาทำบุญทุกคนเสมอ ไม่เคยลืมญาติ
งานบุญถ้ารู้จะไป แต่บางครั้งด้วยความเกรงใจว่าเราอยู่กรุงเทพฯ เขาจึงไม่บอกให้ทราบ
โดยเฉพาะงานศพ ถ้าพี่สิงห์รู้ต้องไปเสมอ และถ้าเป็นญาติผู้ใหญ่ พี่สิงห์จะแบกโลงศพขึ้นเผาทุกคน
เพราะถือเป็นผู้มีพระคุณที่เรา ลูกหลาน ต้องกระทำให้ท่าน เป็นตัวอย่างที่ดีให้คนรุ่นหลังได้กระทำตาม
ไม่เคยรังเกียจคนตายเลย ผมแทบจะทำหน้าที่สัปปะเร่อได้เลย
สวัสดี

[lek_adisorn]

[Manop Klabdee]

อดิสร
ทำอย่างไร? จะได้รูปเหลน เอาไปฝากแม่เขา ถ่ายได้สวยมากครับ
ขอบคุณมาก

[too_ploenpit]

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...

...อนุโมทนาบุญกับพี่สิงห์และทุกๆท่านด้วยค่ะ...

...เข้ามาชมรูปค่ะ...และจะเข้ามาเรียนพี่สิงห์ว่า...โปรแกรมทัวร์จิวจ่ายโกว...

...ทางบริษัททัวร์ได้ส่งมาให้หมอประสิทธิ์แล้วค่ะ...พี่สิงห์ช่วยบอกเบอร์แฟ็กซ์ด้วยค่ะ...

...จะได้ให้หมอประสิทธิ์บอกทางทัวร์แฟ็กซ์รายการไปให้พี่สิงห์และชาวซีมะโด่งท่านอื่นๆพิจารณาค่ะ...

...ขอของหลิวด้วยนะคะ...