23 พฤศจิกายน 2567, 18:23:32
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 72 73 [74] 75 76 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3561578 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 24 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #1825 เมื่อ: 10 เมษายน 2554, 20:54:32 »

อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 10 เมษายน 2554, 17:49:05
สวัสดีค่ะพี่สิงห์์และพี่ๆทุกท่าน...

สวัสดีค่ะ คุณน้องไข่มุก ที่รัก
                    สงกรานต์นี้เธอไปเที่ยวที่ไหน สำหรับพี่สิงห์กลับไปที่บ้านสิงห์บุรี ครับ
                    สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #1826 เมื่อ: 10 เมษายน 2554, 20:55:17 »

                         ขอบคุณมากครับคุณเหยง ที่กรุณา
                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #1827 เมื่อ: 10 เมษายน 2554, 21:04:54 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
                         เนื่องจากเข้าเทศกรานต์สงกรานต์แล้ว พีี่สิงห์ได้ไปค้นตามเวบ เอามาให้ทุกท่านได้อ่านเพื่อให้ทราบความหมายของสงกรานต์ และอย่าลืมกลับไปบ้าน ไปทำบุญบังสกุลกระดูก ลแะรดน้ำกระดูกให้กับบุปพการี รดน้ำพ่อ-แม่ ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพ และสังสรรค์กับพี่ๆ น้องๆ หลาน เหลน ด้วยนะครับ และขอให้เดินทางทั้งไปและกลับด้วยความปลอดภัย
                         ราตรีสวัสดิ์ครับ


วันสงกรานต์

          วันสงกรานต์ ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย จนกระทั่งมาเปลี่ยนแปลงให้เป็นวันที่ 1 มกราคม ตามหลักสากลของนานาประเทศเมื่อปี พ.ศ.2483 แต่แม้จะกำหนดวันขึ้นปีใหม่ให้ตรงตามหลักสากลแล้ว สำหรับคนไทยเองก็ยังยึดเอาวันสงกรานต์เป็นวันที่มีความสำคัญอยู่

          แล้วรู้ไหมว่า จริง ๆ แล้ว สงกรานต์ ไม่ได้เป็นเพียงประเพณีปีใหม่ที่เก่าแก่ของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นประเพณีปีใหม่ของประเทศพม่า ลาว กัมพูชา รวมไปถึงชนกลุ่มน้อยชาวไตแถบเวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีน รวมทั้งที่ประเทศศรีลังกาและทางตะวันออกของประเทศอินเดียอีกด้วย โดยคำเต็ม ๆ ของ "วันสงกรานต์" ต้องเรียกว่า "ตรุษสงกรานต์" แต่คนทั่วไปนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า "สงกรานต์" เท่านั้น

          ทั้งนี้ คำว่า "ตรุษ" เป็นภาษาทมิฬ แปลว่า ตัด หรือ ขาด หมายถึง ตัดปี ขาดปี หรือสิ้นปี เพราะฉะนั้น "ตรุษ" จึงมีความหมายถึงการแสดงความยินดีที่ปีเก่าผ่านไป และมีชีวิตอยู่รอดมาตลอดปีนั่นเอง ซึ่งคนไทยในสมัย่กอนจะถือเอาเดือนเมษายนเป็นวันสิ้นปี และวันปีใหม่ จึงมีพิธีทำบุญวันตรุษ 3 วัน คือ วันแรม 14 ค่ำ เดือน 4 , วันแรม 15 ค่ำ เดือน 4 และวันขึ้น 1 ค่ำ ของเดือน 5

          ส่วนคำว่า "สงกรานต์" มาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า การก้าวขึ้น ย้ายขึ้น เคลื่อนย้าย ในที่นี้หมายถึงการเคลื่อนที่ของพระอาทิตย์จากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ ซึ่งจะตรงกับวันที่ 13 14 15 เมษายน โดย

           วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า "วันมหาสงกรานต์" หรือ "วันสังขารล่อง" ถือเป็นวันสงกรานต์ปี

           วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า "วันเนา" หรือ "วันเน่า" ซึ่งแปลว่า "อยู่" หมายถึงอีก 1 วันถัดจากวันมหาสงกรานต์ เป็นวันที่ดวงอาทิตย์เข้ามาอยู่ในราศีใหม่เรียบร้อยแล้ว

           วันที่ 15 เมษายน เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราช เรียกว่า "วันเถลิงศก" หรือ "วันพญาวัน" ซึ่งเป็นวันสำคัญวันแรกของปีใหม่นั่นเอง

          อย่างไรก็ตาม ในสมัยก่อนไม่ได้กำหนดให้วันที่ 13-15 เป็นวันสงกรานต์ดังเช่นปัจจุบัน แต่ต้องใช้การคำนวณตามหลักเกณฑ์ในคัมภีร์สุริยยาตร์ ซึ่งอาจจะตรงกับวันที่ 14-16 เมษายนในบางปี แต่ปัจจุบันนี้ได้กำหนดในวันที่ 13-15 เมษายนของทุกปีเป็นวันสงกรานต์ และวันหยุดราชการ เพื่อให้ง่ายต่อการกำหนดวันประกอบพิธี

          สำหรับวันสงกรานต์นั้น ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เป็นวันที่ลูกหลานจะกลับมาสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวขอพรจากผู้ใหญ่ และแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว จึงถือเอาวันสงกรานต์เป็น "วันครอบครัว" อีกหนึ่งวันด้วย เพราะเรามักจะเห็นภาพของคนในเมืองใหญ่ ๆ ต่างพากันเดินทางกลับบ้านไปหาครอบครัวในต่างจังหวัด ทำให้การจราจรติดขัดหนาแน่น และยังมีข่าวการเกิดอุบัติเหตุมากมายในเทศกาลนี้

          ขณะที่ "น้ำ" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ถึงความชุ่มชื่นในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันด้วยสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เรามักจะเห็นภาพวัยรุ่นลงมาเล่นน้ำ สาดน้ำใส่กัน ประกอบกับยังมีการประชาสัมพันธ์ในเชิงการท่องเที่ยวว่าเป็น "Water Festival" ทำให้คนเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า "น้ำ" เป็นเพียงประเพณีเล่นน้ำที่มีเพียงแค่ความสนุก และดับร้อนในเดือนเมษายนเท่านั้น

          ด้วยเหตุนี้คนรุ่นใหม่หลาย ๆ คน จึงไม่เข้าใจความหมาย และรากเหง้าของประเพณีสงกรานต์อย่างแท้จริง ซึ่งเราควรช่วยกันสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ว่า เทศกาลสงกรานต์ เป็นประเพณีที่มีคุณค่าอย่างมาก เพราะเป็นวันที่แสดงถึงความรัก ความสามัคคี ความกตัญญู ฯลฯ มิใช่เพียงเพื่อความสนุกสนานแต่เพียงเท่านั้น

ความหมายของ วันสงกรานต์

          คำว่า "สงกรานต์" มาจากภาษาสันสฤกตว่า สํ-กรานต แปลว่า ก้าวขี้น ย่างขึ้น หรือก้าวขึ้น การย้ายที่ เคลื่อนที่ คือพระอาทิตย์ย่างขึ้น สู่ราศีใหม่ หมายถึงวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งตกอยู่ในวันที่ 13, 14, 15 เมษายน ทุกปี แต่วันสงกรานต์นั้นคือวันที่ 13 เมษายน เรียกว่า วันมหาสงกรานต์ วันที่ 14 เป็นวันเนา วันที่ 15 เป็นวันเถลิงศก

          ความหมายของคำอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสงกรานต์ มีดังนี้

          สงกรานต์ ที่แปลว่า "ก้าวขึ้น" "ย่างขึ้น" นั้นหมายถึงการที่ดวงอาทิตย์ขึ้นสู่ราศีใหม่ อันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกเดือนที่เรียกว่า สงกรานต์เดือน แต่เมื่อครบ 12 เดือนแล้วย่างขึ้นราศีเมษอีกจัดเป็นสงกรานต์ปี ถือว่าเป็น วันขึ้นปีใหม่ทางสุริยคติ ในทางโหราศาสตร์

          มหาสงกรานต์ แปลว่า ก้าวขึ้นหรือย่างขึ้นครั้งใหญ่ หมายถึงสงกรานต์ปี คือปีใหม่อย่างเดียว กล่าวคือสงกรานต์หมายถึงได้ทั้งสงกรานต์เดือนและสงกรานต์ปี แต่มหาสงกรานต์ หมายถึง สงกรานต์ปีอย่างเดียว

          วันเนา แปลว่า "วันอยู่" คำว่า "เนา" แปลว่า "อยู่" หมายความว่าเป็นวันถัดจากวันมหาสงกรานต์มา 1 วัน วันมหาสงกรานต์เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ย่างสู่ราศีตั้งต้นปีใหม่ วันเนาเป็นวันที่ดวงอาทิตย์เข้าที่เข้าทาง ในวันราศีตั้งต้นใหม่เรียบร้อยแล้ว คืออยู่ประจำที่แล้ว

          วันเถลิงศก แปลว่า "วันขึ้นศก" เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ การที่เปลี่ยนวันขึ้นศกใหม่มาเป็นวันที่ 3 ถัดจากวันมหาสงกรานต์ก็เพื่อให้หมดปัญหาว่าการย่างขึ้นสู่จุดเดิมสำหรับต้นปีนั้นเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาเพราะอาจมีปัญหาติดพันเกี่ยวกับชั่วโมง นาที วินาที ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ที่จะเปลี่ยนศกถ้าเลื่อนวันเถลิงศกหรือวันขึ้นจุลศักราชใหม่มาเป็นวันที่ 3 ก็หมายความว่าอย่างน้อยดวงอาทิตย์ได้ก้าวเข้าสู่ราศีใหม่ไม่น้อยกว่า 1 องศา แล้วอาจจะย่างเข้าองศาที่ 2 หรือที่ 3 ก็ได้

          วันสงกรานต์เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ ซึ่งกษัตริย์สิงหศแห่งพม่า ทรงตั้งขึ้นเมื่อปีกุนวันอาทิตย์ พ.ศ. 1181 โดยกำหนดเอาดวงอาทิตย์เข้าสู่ราศีเมษได้ 1 องศา ประกอบกับไทยเราเคยนิยมใช้จุลศักราช สงกรานต์จึงเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยอีกด้วย

          ในปีแรกที่กำหนดเผอิญเป็นวันที่ 13 เมษายน ซึ่งอันที่จริงไม่ใช่วันที่ 13 เมษายนทุกปี แต่เมื่อเป็นประเพณีก็จำเป็นต้องเอาวันนั้นทุกปี เพื่อมิให้การประกอบพิธีซึ่งมิได้รู้โดยละเอียดต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา วันที่ 13 จึงเป็นวันสงกรานต์ของทุกปี

          ปกติวันสงกรานต์จะมี 3 วัน คือเริ่มวันที่ 13 เมษายน ถึงวันที่ 15 เมษายน วันแรกคือวันที่ 13 เป็นวันมหาสงกราต์ วันที่พระอาทิตย์ต้องขึ้นสู่ราศีเมษ วันที่ 14 เป็นวันเนา (พระอาทิตย์คงอยู่ที 0 องศา) วันที่ 15 เป็นวันเถลิงศกใหม่ และเริ่มจุลศักราชในวันนี้ เมื่อก่อนจริงๆ มีถึง 4 วัน คือวันที่ 13-16 เป็นวันเนาเสีย 2 วัน (วันเนาเป็นวันอยู่เฉยๆ) เป็นวันว่างพักการงานนอกบ้านชั่วคราว 

          จะเห็นได้ว่าวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย จนถึง พ.ศ. 2483 ทางราชการจึงได้เปลี่ยนไหม่ โดยกำหนดเอาวันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ เพื่อให้เข้ากับหลักสากลที่นานาประเทศนิยมปฏิบัติ อย่างไรก็ตามแม้จะมีการเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ประชาชนก็ยังยึดถือว่าวันสงกรานต์มีความสำคัญ


คำทำนายเกี่ยวกับสงกรานต์


          สังคมไทยอยู่คู่กับความเชื่อและหลักโหราศาสตร์มาช้านาน ไม่เว้น วันสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย ที่นอกจากจะเป็นวันดีมีการรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้ใหญ่ และมีการเล่นสาดน้ำคลายร้อนกันอย่างสนุกสนานแล้ว ในแต่ละปี ก็จะมีคำทำนายทางโหราศาสตร์เกี่ยวกับ เทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน แตกต่างกันไปด้วย ซึ่งตามตำราพรหมชาติฉบับหลวง บอกเอาไว้ดังนี้...

13 เมษายน วันมหาสงกรานต์

              หากตรงกับวันอาทิตย์ ปีนั้นไร่นาเรือกสวน เผือกมัน มิสู้แพงแล

              หากตรงกับวันจันทร์ จะแพ้เสนาบดี ท้าวพระยาและนางพระยาทั้งหลาย

              หากตรงกับวันอังคารและวันเสาร์ จะเกิดอันตรายกลางเมือง จะเกิดเพลิงและโจรผู้ร้าย และจะเจ็บไข้นักแล

              หากตรงกับวันพุธ ท้าวพระยาจะได้เครื่องบรรณาการมาแต่ต่างเมือง แต่จะแพ้ลูกอ่อนนักแล

              หากตรงกับวันพฤหัสบดี จะแพ้ข้าไท พระสงฆ์ราชาคณะจะได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจกันแล

              หากตรงกับวันศุกร์ ข้าวน้ำ ลูกหมากรากไม้ทั้งหลายจะอุดม แต่จะแพ้เด็ก ฝนและพายุชุม จะเจ็บตากันมากนักแล


14 เมษายน เรียกว่า วันเน่า หรือวันเนา

               ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันเนา ข้าวจะตายฝอย จะได้ยินเสียงคนต่างภาษา ท้าวพระยาจะร้อนใจนักแล

               ถ้าวันจันทร์เป็นวันเนา เกลือจะแพง นางพระยาจะร้อนใจ มักจะเกิดความไข้ต่างๆ

               ถ้าวันอังคารเป็นวันเนา หมากพลู ข้าวปลาจะแพง จะแพ้อำมาตย์มนตรีทั้งปวง

               ถ้าวันพุธเป็นวันเนา ข้าวจะแพง คนทั้งหลายจะได้รับความทุกข์ร้อน แม่หม้ายจะพลัดที่อยู่

               ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันเนา ลูกไม้จะแพง ตระกูลทั้งหลายจะร้อนใจนักแล

               ถ้าวันศุกร์เป็นวันเนา ข้าวจะแพง แร้งกาจะตายห่า สัตว์ในป่าจะเกิดอันตราย

               ถ้าวันเสาร์เป็นวันเนา ข้าวปลาจะแพง จะเกิดเพลิงกลางใจเมือง ขุนนางจะต้องโทษ ข้าวจะตายฝอย น้ำจะน้อยกว่าทุกปี สมณชีพราหมณ์จะร้อนใจนัก ผักปลาจะแพงแลฯ

15 เมษายน เรียกว่า วันพญาวัน หรือวันเถลิงศก

               ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันเถลิงศก พระมหากษัตริย์จะรุ่งเรืองด้วยพระเดชานุภาพ จะมีชัยชนะแก่ศัตรูทั่วทิศาทั้งปวงแล

               ถ้าวันจันทร์เป็นวันเถลิงศก พระราชเทวี และหมู่นางสนม ราชบริพาร จะประกอบไปด้วยสุขและสมบัติทั้งปวง

               ถ้าวันอังคารเป็นวันเถลิงศก อำมาตย์มนตรีทั้งปวงจะอยู่เย็นเป็นสุข แม้จะต่อยุทธ์ด้วยปัจจามิตร ณ ใดๆ ก็จะมีชัยชนะทุกเมื่อแล

               ถ้าวันพุธเป็นวันเถลิงศก ราชบัณฑิต ปุโรหิตโหราจารย์ จะมีสุขสำราญเป็นอันมาก

               ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันเถลิงศก สมณะพราหมณาจารย์จะปฏิบัติชอบด้วยธรรมวินัยอันประเสริฐแล

               ถ้าวันศุกร์เป็นวันเถลิงศก พ่อค้าพานิชทั้งหลาย อันไปค้าขายในประเทศต่าง ๆ จะประกอบไปด้วยพัสดุเงินทอง และมีความสุขเป็นอันมากแล

               ถ้าวันเสาร์เป็นวันเถลิงศก หมู่ทแกล้วทหารทั้งปวง จะประกอบไปด้วยความสุข และวิชาการต่างๆ แม้จะกระทำยุทธ์ด้วยข้าศึก ณ ทิศใด ๆ ก็จะมีชัยชนะทุกเมื่อแล 

             และนี่ก็คือ คำทำนายเกี่ยวกับวันสงกรานต์ 13-14-15 เมษายน ตามความเชื่อโบราณ ที่นำมาฝากกัน ส่วนคำทำนายปีนี้จะดีหรือไม่อย่างไร แต่ก็ขออวยพรให้ทุก ๆ คนมีความสุขในวันสงกรานต์ วันขึ้นปีใหม่ไทยนี้กันถ้วนหน้านะคะ



ประกาศสงกรานต์จุลศักราช ๑๓๗๓
พุทธศักราช ๒๕๕๔


ปีเถาะ ตรีศก จันทรคติเป็นปกติมาส ปกติวาร สุริยคติเป็นปกติสุรทิน
วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ เมษายน เวลา ๑๓ นาฬิกา ๓๓ นาที ๓๖ วินาที
ตรงกับเวลา ๑๓ นาฬิกา ๕๑ นาที ๓๖ วินาที (เวลามาตรฐานประเทศไทย) *
นางสงกรานต์นามว่า กาฬกิณีเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่วงา
หัตถ์ขวาทรงขอช้าง หัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จนั่งมาเหนือหลังกุญชร(ช้าง)เป็นพาหนะ

เกณฑ์พิรุณศาสตร์ปีนี้ พุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก ๖๐๐ ห่า
ตกในเขาจักรวาล ๒๔๐ ห่า ตกในป่าหิมพานต์ ๑๘๐ ห่า ตกในมหาสมุทร ๑๒๐ ห่า ตกในโลกมนุษย์ ๖๐ ห่า

เกณฑ์นาคราชให้น้ำปีเถาะ นาคราชให้น้ำ ๒ ตัว ทำนายว่า ฝนต้นปีน้อย กลางปีงาม และปลายปีอุดมดีแล

เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในนา จะได้ ๑๐ ส่วน เสียเพียงส่วนเดียว ธัญญาหาร มังสาหารบริบูรณ์ ประชาชนทั้งหลายจะอยู่เย็นเป็นสุข

วันเถลิงศกตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๖ เมษายน เวลา ๑๗ นาฬิกา ๓๑ นาที ๑๒ วินาที
ตรงกับเวลา ๑๗ นาฬิกา ๔๙ นาที ๑๒ วินาที (เวลามาตรฐานประเทศไทย) *
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1828 เมื่อ: 10 เมษายน 2554, 21:11:56 »

ประกาศสงกรานต์

ปีพุทธศักราช 2554

ปีเถาะ มนุษย์ผู้หญิง ธาตุไม้ โทศก จุลศักราช 1373 ทางจันทรคติ เป็นปกติ มาสวาร ทางสุริยคติ เป็นปกติสุรทิน

วันที่ 14 เมษายน เป็น วันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 5 เวลา 13 นาฬิกา 25 นาที 25 วินาที

นางสงกรานต์ ทรงนามว่า กิริณีเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่ว งา พระหัตถ์ขวาทรงขอ พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จนั่งมาเหนือหลังกุญชร (ช้าง) เป็นพาหนะ

วันที่ 16 เมษายน เวลา 17 นาฬิกา 31 นาที 12 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น 1373

ปีนี้ วันศุกร์เป็นธงชัย วันศุกร์เป็นอธิบดี วันพฤหัสบดีเป็นอุบาทว์ วันอาทิตย์เป็นโลกา วินาศ

ปีนี้ วันพุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 600 ห่า ตกใน โลกมนุษย์ 60 ห่า ตกในมหา สมุทร 120 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า ตกในเขาจักรวาล 240 ห่า นาคให้น้ำ 5 ตัว

เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 6 ชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผล 9 ส่วน เสีย 1 ส่วน ธัญญาหาร ผลาหาร มัจฉมังษาหาร จะบริบูรณ์

เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีปถวี (ดิน) น้ำงามพอดี

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1829 เมื่อ: 10 เมษายน 2554, 21:20:11 »

ส่วนคำทำนายมาจาก
  

วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 5 เวลา 13 นาฬิกา 25 นาที 25 วินาที

วันที่ 16 เมษายน เวลา 17 นาฬิกา 31 นาที 12 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น 1373

นั่นคือ วันมหาสงกรานต์ เป็นวันพฤหัสบดี, วันเนา ตรงกับวันศุกร์ และวันเถลิงศกคือวันเสาร์

หนังสือตรุษสงกรานต์ของ อ.สมบัติ พลายน้อย ได้กล่าวถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับวันมหาสงกรานต์ วันเนา (วันถัดจากวันมหาสงกรานต์) และวันเถลิงศก ดังนี้

1.ถ้าวันอาทิตย์ เป็น วันมหาสงกรานต์ ปีนั้นพืชพันธุ์ธัญญาหารไม่สู้จะงอกงามนัก ถ้าวันอาทิตย์เป็น วันเนา ข้าวจะตายฝอย คนต่างด้าวจะเข้าเมืองมาก ท้าวพระยาจะร้อนใจ ถ้าวันอาทิตย์เป็น วันเถลิงศก พระมหากษัตริย์จะมีพระบรมเดชานุภาพ ปราบศัตรูได้ทั่วทุกทิศ

2.ถ้าวันจันทร์ เป็น วันมหาสงกรานต์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ตลอดจนคุณหญิง คุณนายทั้งหลายจะเรืองอำนาจ ถ้าวันจันทร์เป็น วันเนา มักเกิดความไข้ต่างๆ และเกลือจะแพง นางพญาจะร้อนใจ ถ้าวันจันทร์เป็น วันเถลิงศก พระราชินีและท้าวนางฝ่ายในจะมีความสุขสำราญ

3.ถ้าวันอังคาร เป็น วันมหาสงกรานต์ โจรผู้ร้ายจะชุกชุม จะเกิดการเจ็บไข้ร้ายแรง แต่ถ้าวันอังคารเป็น วันเนา ผลหมากรากไม้จะแพง ถ้าวันอังคารเป็น วันเถลิงศก ข้าราชการทุกหมู่เหล่าจะมีความสุข มีชัยชนะแก่ศัตรูหมู่พาล

4.ถ้าวันพุธ เป็นวัน มหาสงกรานต์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะได้รับการยกย่องจากต่างประเทศ ถ้าวันพุธเป็น วันเนา ข้าวปลาอาหารจะแพง แม่หม้ายจะพลัดที่อยู่ ถ้าวันพุธเป็น วันเถลิงศก บรรดานักปราชญ์ราชบัณฑิตจะมีความสุขสำราญ

5.ถ้าวันพฤหัสบดี เป็น วันมหาสงกรานต์ ผู้น้อยจะแพ้ผู้เป็นใหญ่ และเจ้านาย ถ้าวันพฤหัสบดีเป็น วันเนา ผลไม้จะแพง ราชตระกูลจะมีความร้อนใจ ถ้าวันพฤหัสบดีเป็น วันเถลิงศก สมณชีพราหมณ์จะปฏิบัติกรณียกิจอันดีงาม

6.ถ้าวันศุกร์ เป็น วันมหาสงกรานต์ พืชพันธุ์ธัญญาหารจะอุดมสมบูรณ์ ฝนชุก พายุพัดแรง ผู้คนจะเป็นโรคตาและเจ็บไข้กันมาก ถ้าวันศุกร์เป็น วันเนา พริกจะแพง แร้งกาจะเป็นโรค สัตว์ป่าจะเป็นอันตราย แม่หม้ายจะมีลาภ ถ้าวันศุกร์เป็น วันเถลิงศก พ่อค้าคหบดีจะทำมาค้าขึ้น มีผลกำไรมาก

7.ถ้าวันเสาร์ เป็น วันมหาสงกรานต์ โจรผู้ร้ายจะชุกชุม จะเกิดการเจ็บไข้ร้ายแรง ถ้าวันเสาร์เป็น วันเนา ข้าวปลาจะแพง ข้าวจะได้น้อย ผลไม้จะแพง น้ำน้อย จะเกิดเพลิงกลางเมือง ขุนนางจะต้องโทษ ถ้าวันเสาร์เป็น วันเถลิงศก บรรดาทหารทั้งปวงจะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู
[/size]

สรุปรวมคำพยากรณ์คือ
"ผู้น้อยจะแพ้ผู้เป็นใหญ่และเจ้านาย พริกจะแพง แร้งกาจะเป็นโรค สัตว์ป่าจะเป็นอันตราย แต่แม่หม้ายจะมีลาภ และบรรดาทหารทั้งปวงจะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู"


ที่แน่ๆ แม่หม้ายจะมีลาภ ขัวร์  เหอๆๆ

ส่วน บรรดาทหารทั้งปวงจะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู นั้นไม่ชัวร์ เพราะทำยังไงก็แพ้เสื้อแดง  เค้าไม่ยอม
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #1830 เมื่อ: 10 เมษายน 2554, 21:30:12 »

มาอ่านเรื่องวันสงการนต์และคำทำนายค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #1831 เมื่อ: 11 เมษายน 2554, 06:32:12 »

ประกาศสงกรานต์จุลศักราช ๑๓๗๓
พุทธศักราช ๒๕๕๔


ปีเถาะ ตรีศก จันทรคติเป็นปกติมาส ปกติวาร สุริยคติเป็นปกติสุรทิน
วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ เมษายน เวลา ๑๓ นาฬิกา ๓๓ นาที ๓๖ วินาที
ตรงกับเวลา ๑๓ นาฬิกา ๕๑ นาที ๓๖ วินาที (เวลามาตรฐานประเทศไทย) *
นางสงกรานต์นามว่า กาฬกิณีเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่วงา
หัตถ์ขวาทรงขอช้าง หัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จนั่งมาเหนือหลังกุญชร(ช้าง)เป็นพาหนะ

เกณฑ์พิรุณศาสตร์ปีนี้ พุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก ๖๐๐ ห่า
ตกในเขาจักรวาล ๒๔๐ ห่า ตกในป่าหิมพานต์ ๑๘๐ ห่า ตกในมหาสมุทร ๑๒๐ ห่า ตกในโลกมนุษย์ ๖๐ ห่า

เกณฑ์นาคราชให้น้ำปีเถาะ นาคราชให้น้ำ ๒ ตัว ทำนายว่า ฝนต้นปีน้อย กลางปีงาม และปลายปีอุดมดีแล

เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในนา จะได้ ๑๐ ส่วน เสียเพียงส่วนเดียว ธัญญาหาร มังสาหารบริบูรณ์ ประชาชนทั้งหลายจะอยู่เย็นเป็นสุข

วันเถลิงศกตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๖ เมษายน เวลา ๑๗ นาฬิกา ๓๑ นาที ๑๒ วินาที
ตรงกับเวลา ๑๗ นาฬิกา ๔๙ นาที ๑๒ วินาที (เวลามาตรฐานประเทศไทย) *



สวัสดียามเช้าทุกท่านครับ

อย่าลืมทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้กับบรรพบุรุษของท่าน เป็นประเพณีที่ดีงาม ที่ควรรักษาเอาไว้ ให้คงอยู่กับประเทศไทย ตลอดไป
และ
อย่าลืมไปรดน้ำปู่ หญ้า ตา ยาย พ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ ครู อาจารย์ และพระสงฆ์-พระพุทธรูป
ขอให้เดินทางด้วยการมี "สติ" ครับ

      บันทึกการเข้า
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #1832 เมื่อ: 11 เมษายน 2554, 07:06:47 »

สวัสดี ครับ พี่สิงห์ เช้าวันจันทร์
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #1833 เมื่อ: 11 เมษายน 2554, 09:38:17 »

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์...และพี่น้องทุกท่าน...
...บังเอิญเมื่อคืนเจอรูปพี่สิงห์...เลยขออนุญาตเอามาลงค่ะ...ไว้เจอตัวจริงจะนำรูปไปให้ค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #1834 เมื่อ: 11 เมษายน 2554, 09:40:00 »

...ตอนไปเวียตนามเหนือค่ะ...ไม่ทราบพี่สิงห์ได้หรือยังคะ...

      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #1835 เมื่อ: 11 เมษายน 2554, 21:00:48 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 08 เมษายน 2554, 09:54:15
คุณน้องจันทร์ฉาย(ต่อ)

แก่นของศาสนาพุทธ


                          นี่ละแก่นของศาสนาพุทธ ที่แท้จริง คำสอนของพระองค์จำนวน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์นั้น รวมอยู่ที่ "รู้" ในกระดาษแผ่นนี้แผ่นเดียวเท่านั้น  ไม่ต้องไปขวนขวายที่ไหนอีกแล้วครับ
                          ในสมัยพุทธกาล ถ้าผู้ใดรู้และเข้าใจ กระดาาแผ่นนี้ อย่างแท้จริง ก็ได้ชื่อว่า ได้ "ดวงตาเห็นธรรม" และถ้าผู้ใดน้อมนำคำสอนนี้ไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันในการดำงค์ชีวิต ถ้าเป็นปุถุชนม์ธรรดา ก็บรรลุขั้น "โสดาบัน" แล้วครับ
                          สวัสดี

พี่สิงห์ พี่ตู่คะ
ติ๋มอ่านหนังสือ "ของฝากจากหลวงปู่ดุลย์" ตลอดเสาร์อาทิตย์คะ อ่านแล้วความคิดกลับมาสู่ความเป็นธรรมดา สงบ เรียบง่ายดีจัง
กราบขอบพระคุณพี่สิงห์อีกครั้งที่เป็นเพื่อนทางธรรมแก่น้องๆด้วยอีกอย่าง ท่ามกลางการทำอีกหลายๆอย่างที่พี่สิงห์ให้พวกเรา ธรรมะเป็นสิ่งประเสริฐสุดที่เราพึงให้และพึงรับเมื่อมีโอกาสจริงๆค่ะ
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1836 เมื่อ: 12 เมษายน 2554, 13:13:55 »

ติ๋ม

ก๊งหนึ่ง......นงนุช            ปิ๊งๆ


ก๊งสอง.......พุทธวาจา     เอิ่มม

ก๊งสาม.......                   งง งง

ก๊งสี่........
                   สะใจจัง
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #1837 เมื่อ: 12 เมษายน 2554, 21:12:23 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก
                         ขอบคุณมาก พี่สิงห์จะไม่มีรูปนี้อยู่พอดี ครับ
                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #1838 เมื่อ: 12 เมษายน 2554, 21:35:58 »

สวัสดีปีใหม่ครับ คุณน้องจันทร์ฉาย คุณน้องเอมอร คุณน้องตู่ คุณเหยง และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
                         วันที่ ๑๓ เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ ในโอกาสนี้ พี่สิงห์ก็ขอให้พรแด่ทุกท่านครับ
                          "คนเราทุกวันนี้ทุกข์เพราะความคิด ถ้าไม่คิดก็ไม่ทุกข์"
                          ความคิดที่ทำให้ทุกท่านทุกข์ ประการแรก คือ ความคิดในอดีตที่ท่านยังไปคร่ำครวญถึงมัน ยังไปเสียได้ ยังอยากได้ พูดง่าย ๆ คือยังไปยึดติดกับมันทั้งๆ ที่ความจริงมันผ่านไปแล้ว ไม่สามารถเรียกคืนมาได้ทั้งสิ้น ได้แต่เอาไว้เป็นบทเรียนเท่านั้นที่ยังจะพอมีประโยชน์ ดังนั้นเราไม่ควรไปคิดถึงมันเลยในเรื่องอดีตที่ผ่านมา เก็บแต่ความทรงจำดีๆเอาไว้ แต่อย่าไปหลงอยู่กับมัน ถ้าเราไม่คิดเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เราก็จะพ้นทุกข์แล้วครับ
                           ความคิดที่ทำให้ทุกข์ประการที่สองคือ ความคิดที่ยังมาไม่ถึง แต่เราไปกังวลถึงผลที่เราจะได้รับ คือความคิดในอนาคต เพราะเราไปยึดติดกับสิ่งที่เคยได้รับ ทั้งๆที่มันยังไม่เกิดขึ้นเลย ดังนั้น ถ้าไม่อยากทุกข์ก็อย่าไปคิด หรือกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ยังไม่เกิดขึ้น เราก้พ้นทุกข์แล้วครับ
                           ความคิดที่ทำให้ทุกข์ประการที่สามคือ ความคิด ณ ปัจจุบัน ที่เราสัมผัสได้จาก "อยาตนะ ๖" คือ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่ทำให้เกิดเวทนา ที่เรายังไปยึดติดกับสิ่งที่เราเคยได้รับมาแล้ว เมื่อเราไปคิดปรุงแต่งขึ้นมาเพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจ มันก็เลยทำให้วิตกกังวล  กลายเป็นความทุกข์ ท่านจะต้องมี "ตาปัญญา" ที่จะทำให้ท่านอยู่เหนือเวทนาที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันให้ได้ คือ ท่านต้องมี "สติ"(ความระลึกได้) จากการเคลื่อนไหวอวัยวะของร่างกาย ทั้งอิริยาบทหลักและอิริยาบทย่อย เพียงเท่านี้ "ตาปัญญา" ก็จะบังเกิดขึ้นแก่ท่าน ท่านจะอยู่เหนือเวทนาที่จะได้รับ ไม่หลงอยู่ในความคิดหรือเป็นทาษความคิดของตนเอง ท่านก็จะไม่ทุกข์
                           นี่คือ "สัจจธรรม"  ท่านก็จะพ้นทุกข์  คือให้มี "สติ" อยู่กับ ปัจจุบัน แต่ท่านต้องอยู่เหนือมันด้วย "ตาปัญญา" ครับ
                           ตาปัญญา คือ ความจริงทางปัญญาที่เกิดจากความคิดที่ท่านสัมผัสได้ รู้ได้ เข้าใจได้แจ่มแจ้ง หรือได้ดวงตาเห็นธรรม เป็นอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับท่าน แทงตลอดในสัจจธรรม คือความจริงที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ มันเกิดขึ้นเองจากความคิดของจิต
                           สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #1839 เมื่อ: 12 เมษายน 2554, 21:39:47 »

สวัสดีค่ะ พี่สิงห์
 มารับพรสงกรานต์
พร้อมทั้งธรรมในการดำเนินชีวิตค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #1840 เมื่อ: 12 เมษายน 2554, 21:45:03 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ที่รัก
                         ขอบคุณมาก พรุ่งนี้เช้ามืดพี่สิงห์ไปสิงห์บุรี ไปทำบุญสงกรานต์ที่วัดพระนอน บ้านพี่สิงห์ และทอดผ้าป่าตอนกลางวันกับพี่ชายใหญ่ รดน้ำแม่และพี่ๆ ให้พรหลาน เหลน รับประทานข้าวในหมู่พี่-น้อง รดน้ำกระดูกพ่อ บังสกุลที่อนุสาวรีย์ และจะไปเยี่ยมญาติๆด้วยครับ
                         ราตรีสวัสดิ์ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1841 เมื่อ: 12 เมษายน 2554, 22:04:42 »

สวัสดีครับพี่สิงห์

พรุ่งนี้ก็จะไปนครปฐมเช่นกันครับ เยี่ยมคุณแม่แล้ว คงต่อไปชะอำสัก 2 คืนครับ
csloxinfo หยุดให้บริการเน๊ต 5 วัน เลยหาเรื่องไปพักผ่อนยาวครับ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1842 เมื่อ: 12 เมษายน 2554, 22:10:50 »

สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ .. พี่สิงห์     หึหึ

      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
jeam
สมาชิกวิสามัญ
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 574

« ตอบ #1843 เมื่อ: 12 เมษายน 2554, 22:29:18 »

      บันทึกการเข้า

I think, therefore I am.
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #1844 เมื่อ: 13 เมษายน 2554, 02:35:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 12 เมษายน 2554, 21:35:58
สวัสดีปีใหม่ครับ คุณน้องจันทร์ฉาย คุณน้องเอมอร คุณน้องตู่ คุณเหยง และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน
                         วันที่ ๑๓ เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ ในโอกาสนี้ พี่สิงห์ก็ขอให้พรแด่ทุกท่านครับ
                          "คนเราทุกวันนี้ทุกข์เพราะความคิด ถ้าไม่คิดก็ไม่ทุกข์"
                          ความคิดที่ทำให้ทุกท่านทุกข์ ประการแรก คือ ความคิดในอดีตที่ท่านยังไปคร่ำครวญถึงมัน ยังไปเสียได้ ยังอยากได้ พูดง่าย ๆ คือยังไปยึดติดกับมันทั้งๆ ที่ความจริงมันผ่านไปแล้ว ไม่สามารถเรียกคืนมาได้ทั้งสิ้น ได้แต่เอาไว้เป็นบทเรียนเท่านั้นที่ยังจะพอมีประโยชน์ ดังนั้นเราไม่ควรไปคิดถึงมันเลยในเรื่องอดีตที่ผ่านมา เก็บแต่ความทรงจำดีๆเอาไว้ แต่อย่าไปหลงอยู่กับมัน ถ้าเราไม่คิดเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เราก็จะพ้นทุกข์แล้วครับ
                           ความคิดที่ทำให้ทุกข์ประการที่สองคือ ความคิดที่ยังมาไม่ถึง แต่เราไปกังวลถึงผลที่เราจะได้รับ คือความคิดในอนาคต เพราะเราไปยึดติดกับสิ่งที่เคยได้รับ ทั้งๆที่มันยังไม่เกิดขึ้นเลย ดังนั้น ถ้าไม่อยากทุกข์ก็อย่าไปคิด หรือกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ยังไม่เกิดขึ้น เราก้พ้นทุกข์แล้วครับ
                           ความคิดที่ทำให้ทุกข์ประการที่สามคือ ความคิด ณ ปัจจุบัน ที่เราสัมผัสได้จาก "อยาตนะ ๖" คือ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่ทำให้เกิดเวทนา ที่เรายังไปยึดติดกับสิ่งที่เราเคยได้รับมาแล้ว เมื่อเราไปคิดปรุงแต่งขึ้นมาเพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจ มันก็เลยทำให้วิตกกังวล  กลายเป็นความทุกข์ ท่านจะต้องมี "ตาปัญญา" ที่จะทำให้ท่านอยู่เหนือเวทนาที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันให้ได้ คือ ท่านต้องมี "สติ"(ความระลึกได้) จากการเคลื่อนไหวอวัยวะของร่างกาย ทั้งอิริยาบทหลักและอิริยาบทย่อย เพียงเท่านี้ "ตาปัญญา" ก็จะบังเกิดขึ้นแก่ท่าน ท่านจะอยู่เหนือเวทนาที่จะได้รับ ไม่หลงอยู่ในความคิดหรือเป็นทาษความคิดของตนเอง ท่านก็จะไม่ทุกข์
                           นี่คือ "สัจจธรรม"  ท่านก็จะพ้นทุกข์  คือให้มี "สติ" อยู่กับ ปัจจุบัน แต่ท่านต้องอยู่เหนือมันด้วย "ตาปัญญา" ครับ
                           ตาปัญญา คือ ความจริงทางปัญญาที่เกิดจากความคิดที่ท่านสัมผัสได้ รู้ได้ เข้าใจได้แจ่มแจ้ง หรือได้ดวงตาเห็นธรรม เป็นอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับท่าน แทงตลอดในสัจจธรรม คือความจริงที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ มันเกิดขึ้นเองจากความคิดของจิต
                           สวัสดี

มารับพรคำสอนที่นี่จากพี่สิงห์เช่นกันค่ะ พรประเสริฐสุดคือธรรมะอันเป็นแนวทางทำให้ปฏิบัติตนได้ถูกต้องกับปัญหาที่กำลังเกิดและเผชิญด้วยความคิดที่มีสติและไม่นำมาซึ่งความทุกข์

สวัสดีปีใหม่ไทยเพื่อนพี่น้องทุกท่านค่ะ






      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #1845 เมื่อ: 13 เมษายน 2554, 02:40:32 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 12 เมษายน 2554, 22:04:42
สวัสดีครับพี่สิงห์

พรุ่งนี้ก็จะไปนครปฐมเช่นกันครับ เยี่ยมคุณแม่แล้ว คงต่อไปชะอำสัก 2 คืนครับ
csloxinfo หยุดให้บริการเน๊ต 5 วัน เลยหาเรื่องไปพักผ่อนยาวครับ


พักผ่อนให้สนุกสบายนะครับเหยง ฝากกราบคุณแม่ด้วยคน ขอท่านอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลานอย่างมีความสุข
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #1846 เมื่อ: 13 เมษายน 2554, 10:40:29 »

...สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ...พี่สิงห์...น้องติ๋ม...น้องเหยง...น้องอร...น้องหยี...น้องเจียม...น้องมีนา...น้องไข่มุก...ปี๊ด...และพี่ๆน้องๆที่รักทุกท่านค่ะ...

      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
TU14
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 342

« ตอบ #1847 เมื่อ: 13 เมษายน 2554, 12:48:08 »

สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ พี่สิงห์ และน้องๆทุกคน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #1848 เมื่อ: 13 เมษายน 2554, 20:29:38 »

สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ คุณน้องลูกหยี ที่รัก
                        พี่สิงห์ไม่ได้คุยกับเธอนานมากเลย เป็นอย่างไรบ้าง เธอและครอบครัวคงสบายดีนะ
                        พี่สิงห์เกือบจะได้มีโอกาสไปเยี่ยมเธอที่มาดดริด เหมือนกัน แต่บังเอิญยอดซื้อปูนไม่ถึงครับในปีที่ผ่านมา เขาจะไปกันเดือนพฤษภาคม ศกนี้
                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #1849 เมื่อ: 13 เมษายน 2554, 20:39:26 »

สวัสดีวันสงกรานต์ขึ้นปีใหม่ไทย คุณอรสา คุณน้องตู่ คุณเหยง คุณน้องมีนา คุณน้องเอมอร คุณน้องจันทร์ฉาย และชาวซีมะโด่งที่รักทุกคน ครับ
                       พี่สิงห์ได้ไปรดน้ำแม่ พี่ สงน้ำพระ ทอดผ้าป่า ที่วัดพระนอน สิงห์บุรีมาครับ เชิญชมภาพ
                       ราตรีสวัสดิ์


      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 72 73 [74] 75 76 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><