02 กรกฎาคม 2567, 17:36:34
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 252 253 [254] 255 256 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3341998 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6325 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2555, 17:36:53 »

 

 ขอขอบคุณ  คุณอดิสร (เล็ก)  เป็นอย่างมาก ครับ ที่นำรูปมาโพสต์ ให้ทุกท่านได้ชม

ถึงอย่างไร ก็ต้องชมและขอบคุณ เพราะว่าคุณอดิสร เป็นคนที่มีความสม่ำเสมอ ในการกระทำ

โดยเฉพาะ ต่อจุฬาฯ ครุศาสตร์ หอพักนิสิต และชาวซีมะโด่ง

การกระทำที่สม่ำเสมอเป็นนิสัยที่หายากยิ่ง

 สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6326 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2555, 17:46:05 »








                           นักกอล์ฟเอเซียขนะรายการ Major ของ LPGA อีกแล้วครับ คราวนี้เป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ขนะครั้งแรก เป็นรายการใหญ่ ระดับ Major ทีเดียว และเป็นนักกอล์ฟหนึ่งเดียวของจีนแผ่นดินใหญ่ ใน LPGA

                           โปร.แหวน พรอนงค์  เพชรล้ำ ของไทย ก็เล่นดีมากครับ สำหรับรายการนี้ ได้อันดับที่ 36 คณะกรรมการจัดการแข่งขัน Set สนามให้เล่นอยาก ครับ

                           สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6327 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2555, 17:52:41 »




                              ดีใจครับ ที่เห็น Dustin Johnson กลับมาชนะอีกครั้ง หลังจากหยุดเล่น เพราะเจ็บ เป็นนักกอล์ฟที่วงสวิงสวย  ตีไกลมาก มีศักยภาพที่ชนะ U.S. Open สัปดาห์นี้ครับ

                              สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6328 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2555, 18:08:14 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                               วันนี้พี่สิงห์บาปอีกแล้ว และคงไม่มีวัดที่จะทำบุญ  คงไม่สามารถกลับไปอยู่บ้านที่อินทร์บุรี ยามแก่ หรือหาเมรเผาศพได้ครับ เป็นเพราะกรรมการวัดได้โทรศัพท์  จะให้ผมเป็นประธาน จัดผ้าป่าไปทอดที่วัดพระนอน ในวันอาสาฬหบูชา ที่จะถึงเพื่อหาเงินสร้างศาลาเอนกประสงค์ ที่ทางรัฐบาลให้เงินมาตอนน้ำท้วม แต่ไม่พอ เป็นศาลาสำหรับให้คนพักร้อนเวลามางานศพ  หลังเดิมผมก็ว่ามันอยู่ในสภาพใช้งานที่ดี เพียงแต่ไม่ได้ยกพื้น และทำให้สวยงาม  หลวงพ่อ  กรรมการวัด ท่านอยากสร้าง  แต่ไม่มีเงิน

                               ผมก็บอกว่าสำหรับผมนั้น ขอยุติการสร้างวัด โบสถ์  ศาลา  มันมีมากเกินพอแล้ว  เราอย่าทำให้ใครเดือดร้อนเพราะเราเลย  พระพุทธองค์ไม่ได้สอนให้ทำบุญด้วยการหาเงินมาสร้างศาลา  สร้างโบสถ์ ใครอยากสร้างเพื่อชื่อเสียง เกียรติยศ ก็สร้างไป  สำหรับผมนั้นไม่ต้องการชื่อเสียงทั้งสิ้น  ขอปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า และยึดหลักไม่ทำให้ใครเดือดร้อน  จึงไม่ขอเป็นประธานทั้งสิ้น

                               ผมได้สอนกลับไปมาก  ถ้าหลวงพ่ออยากสร้าง ก็หาเงินเองซิ  ทุกวันนี้คนไปทำบุญเข้าวัด  มีแต่การเรี่ยราย หลวงพ่อก็บอกว่าค่าไฟแพง เป็นหมื่น แต่ทำไม่ไม่คิดประหยัดไฟฟ้ากันเลย ไฟฟ้าเอย  พัดลมเอย หลวงพ่อท่านชอบเปิดนัก  ทั้งที่ไม่จำเป็น

                               พี่ชายใหญ่ผมเป็นประธานกรรมการ  ไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้  เคยบอกไปหลายครั้งแล้วก้ไม่ฟัง หวยจึงมาออกที่ผม  พี่ชายใหญ่เคยบอกไปแล้ว คน กรุงเทพฯ และทั่วไป เขาก็ย่ำแย่กันเหมือนกัน เศรษฐกิจตอนนี้ จะมาเรี่ยไรเงิน มันไม่สมควร  การทำบุญต้องไม่ให้เดือดร้อน และบังคับกัน

                               ผมคงต้องพิจารณาตัวเอง  เปลี่ยนวัดทำบุญ  คงต้องไปวัดโบสถ์  วัดที่ผมบวช เสียแล้วครับ

                               กรรมเสียแล้วเรา

                               ดร.สุริยา  วันนี้ผมนั่งอ่านข้อกำหนดในการบริจาคร่างให้กับนักเรียนแพทย์ของ จุฬาฯ  สงสัยต้องบริจาคร่างเสียแล้ว เพราะหาวัดเผาศพตัวเองไม่ได้ ครับ (คงต้องเขียนข้อกำหนดในประกันชีวิตใหม่ ให้โรงพยาบาล จุฬาฯ เขาจะได้เผาศพเราด้วย)

                               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6329 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2555, 18:53:33 »


                            ทุกครั้ง ที่ผมไปทำบุญวันพระที่วัดพระนอน  ผมก็บริจาคเงินติดกัณเทศน์กรณีที่มี และทำบุญค่าน้ำค่าไฟฟ้า ประจำ ครั้งละ 200-500 บาท แล้วแต่วาระ และก็ได้มอบปัจจัยให้เณรได้เรียนหนังสือเป็นประจำ

                             นอกจากนี้เวลาทอดกฐิน  ผ้าป่า  ก็บริจาคมิได้ขาดสม่ำเสมอ มาตลอด  ทางโรงเรียนที่เคยเรียนที่วัดก็บริจาคเป็นเงินอุดหนุนกิจกรรมโรงเรียนมิได้ขาดเช่นกัน

                             แต่การเป็นเจ้าภาพกฐิน  ผมไม่รับเพราะกำหนดมาเลยว่าต้องแข่งกับคนอื่นในการจองขึ้นอยู่กับเงิน  ผมก็บอกว่า เอาไว้ไม่มีใครทอดกฐินแล้ว  ผมจะเป็นเจ้าภาพเอง  แต่อย่ามากำหนดเรื่องเงินก้แล้วกัน

                             พระท่านชอบคิดทำโน่น  ทำนี่ แต่ท่านไม่ออกเงิน  ไม่หาเงิน  ได้แต่ขอให้ช่วยแบบนี้ละ

                             วันนี้ที่ผมสอนกลับไปนั้น  เขาก็ยอมรับเพราะมันเป็นความจริงทั้งสิ้น  ผมบอกไปว่าหยุดการทำบุญแบบนี้เสียทีหนึ่งเถอะ  ไม่ก่อประโยชน์อะไรเลย  ของเก่าดีก็ไปรื้อสร้างใหม่  มันไม่ควร เราควรทำอย่างไร ให้ชาวบ้านที่มาทำบุญ หมดทุกข์จะดีกว่า  อย่าไปเพิ่มภาระให้ชาวบ้านเลย  เงินทองมันหายาก  ให้ชาวบ้านเอาไว้ยามจำเป็นจะดีกว่า  อย่าเอามาสร้างวัดเพื่อเกียรติยศ ชื่อเสียงเลย  มันไม่สมควร

                             กรรมการที่โทรศัพท์มา ยอมจำนนในเหตุผลของผมทุกอย่าง ว่ามันเป็นความจริง  ดังนั้นอย่ามาบังคับผมให้เป็นประธานเลย  ผมไม่ต้องการทั้งสิ้น  อยากอยู่แบบคนไม่มีเกียรติสุข สงบกว่าครับ

                             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #6330 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2555, 19:58:59 »

พี่สิงห์ที่เคารพ,
พระก็เป็นมนุษย์ธรรมดานี่ล่ะพี่
เคยเกิดมา เป็นบุตรของพ่อแม่
เป็นสามี เป็นพ่อ...
วันนึง,เค้าก็ละจากเพศฆราวาส
เข้าสู่เพศบรรพชิต...อาจจะจาก
เดิมที่ไม่มีอะไรให้ใครอื้อฮืออ้าฮา
วันนึงก็มีคนมากราบคลานก้มค้อม
หากการดำรง/ครองผ้านั้น..อยู่ใน
พระวินัยตามที่ควร ก็ว่ากันตามควรคะ
แต่ไม่ใช่,แย้งมิได้ ขัดมิได้ พูดคุยมิได้
ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปาฏิหาริย์ ที่ฆราวาส
ต้องกลัวบาปนะคะ...
เรื่องที่พี่สิงห์รู้สึกข้างบน หนิงเห็นด้วยกับพี่คะ
พี่ทำถูกแล้วที่บอกท่านไปตามตรง ไม่รับด้วย
ความรู้สึกบาปที่มาเกาะกุมจิตพี่ด้วยความอึดอัด
การเรี่ยไร การขอ ต้องสองด้านค่ะโดยไม่มีใคร
รู้สึกถูกบังคับ...ไม่มีว่าใครไม่ให้ คับแคบตระหนี่
แต่มองว่าเค้าไม่ให้แต่ก็ไม่ขอไม่ทำความเดือดร้อน
ให้ใครน่ะ บุญสุดๆแล้วคะ.

พี่สิงห์อยู่นานอีกหลายปีคะ อย่ากังวลเรื่องวัด
วัดมีมากมายค่ะพี่ มากมายจนบางทีเกินความสามารถ
ที่จะพยุงตัวเอง.


nn.(จาบวด..she!)
      บันทึกการเข้า


จ๋า 15
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: เภสัชศาสตร์
กระทู้: 17

« ตอบ #6331 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2555, 20:01:49 »

แอบอ่านมาเรื่อยๆ ถึงตรงนี้ ต้องออกมาขออนุโมทนา สาธุ กับความคิดของพี่สิงห์ ด้วยคนค่ะ
ถึงมีความคิดแบบเดียวกันนี้ แต่ก็ยังไม่กล้าชนตรงๆกับกรรมการวัดหรือหลวงพ่อที่ท่านคิดจะสร้างโน่นสร้างนี่ใหม่สักที

ถ้าเข้าวัดพระนอนไม่ได้ และมาทำบุญแถวอำเภอเมืองหรืออำเภอพรหมก็ได้ค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6332 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2555, 20:17:59 »

อ้างถึง
ข้อความของ จ๋า 15 เมื่อ 11 มิถุนายน 2555, 20:01:49
แอบอ่านมาเรื่อยๆ ถึงตรงนี้ ต้องออกมาขออนุโมทนา สาธุ กับความคิดของพี่สิงห์ ด้วยคนค่ะ
ถึงมีความคิดแบบเดียวกันนี้ แต่ก็ยังไม่กล้าชนตรงๆกับกรรมการวัดหรือหลวงพ่อที่ท่านคิดจะสร้างโน่นสร้างนี่ใหม่สักที

ถ้าเข้าวัดพระนอนไม่ได้ และมาทำบุญแถวอำเภอเมืองหรืออำเภอพรหมก็ได้ค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณจ๋า ที่รัก

                     อำเภอพรหมบุรี  ตลาดปากบางบ้านตา  ตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตลาดปากบางก็บ้านยาย ครับ

                     เดิมทีพรุ่งนี้ กะว่าจะออกจากบ้านตีสี่เพื่อไปทำบุญวันพระ ที่วัดพระนอน เปลี่ยนใจ หุงข้าวใส่บาตรพระวัดลาดพร้าวที่หน้าบ้านแทนดีกว่า อานิสงค์คือ หลานสาวมีข้าวกิน  และเราก็มีข้าวกิน  ถ้าไปทำบุญวัดพระนอน หลานสาวไม่มีข้าวกิน

                      ใส่บาตรพระเสร็จ แล้วค่อยเดินทางไปสิงห์บุรี ไปเยี่ยมแม่ ดีกว่าครับ

                      ขอบคุณมากค่ะ และยินดีที่ได้ทักทายกันครับ  มีอะไรให้พี่สิงห์ช่วยยินดีเสมอ

                      สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6333 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2555, 20:26:47 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                                  ขอบคุณมาก สำหรับความคิดของเธอ  มันก็เหมือนกับความคิดของวิญญูชนม์ทั่วไปนั่นเอง ที่รู้ว่าอะไรควรกระทำ  อะไรไม่ควรกระทำ และอะไรที่ทำแล้วเป็นกุศลธรรม  ที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนแม้แต่ตัวเราเอง  พระบางองค์ท่านมองไม่ออกหรอกครับ เพราะท่านหลงอยู่แต่ในจิตตนเอง เท่านั้น  

                                  พระพุทธองค์ทรงเปรียบเอาไว้ คนต้องการหาแก่นไม้  แต่ไปได้กิ่งไม้  ใบไม้ เปลือกไม้  กระพี้ไม้ เพราะไม่รู้จักว่าแก่นไม้เป็นอย่างไร   ชื่อเสียง  ลาภ  สักการะ  ที่ญาติโยมนำมาถวาย นั้น คือใบไม้  กิ่งไม้  ยิ่งพุทธพาณิชย์ ไม่ต้องพูดถึง  ผิดคำสอนของพระพุทธองค์ และผิดศีล  ด้วย เพราะทำให้คนหลงมัวเมา และตัวเองได้เงิน

                                  เราอย่าไปว่าใครเลยครับ  เรารักษากาย  วาจา  ใจ  ของเราให้เป็นปกติ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเป็นดีที่สุด ครับ

                                  สวัสดี
                 
               

                                  
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6334 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2555, 20:34:23 »


                             ราตรีนี้ ขอลาไปก่อน เพื่อสวดมนต์ทำวัตรเย็น แผ่เมตตาให้กับสัตว์โลกทั้งหลายให้พ้นทุกข์  และเจริญสติ  สงบจิตตนเองให้เป็นปกติ ครับ

                             ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
จ๋า 15
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: เภสัชศาสตร์
กระทู้: 17

« ตอบ #6335 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2555, 20:47:34 »

พรุ่งนี้ไปทำบุญเหมือนกันค่ะ แต่ไปทำบุญที่วัดอัมพวันพรหมบุรี
เพราะพี่สะใภ้จะทำอาหารไปถวายหลวงพ่อทุกวันพระค่ะ

ไม่ค่อยชอบไปวัดนัก ชอบวัดจิตวัดใจตัวเองอยู่ที่บ้านมากกว่า
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6336 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2555, 06:12:38 »

อ้างถึง
ข้อความของ จ๋า 15 เมื่อ 11 มิถุนายน 2555, 20:47:34
พรุ่งนี้ไปทำบุญเหมือนกันค่ะ แต่ไปทำบุญที่วัดอัมพวันพรหมบุรี
เพราะพี่สะใภ้จะทำอาหารไปถวายหลวงพ่อทุกวันพระค่ะ

ไม่ค่อยชอบไปวัดนัก ชอบวัดจิตวัดใจตัวเองอยู่ที่บ้านมากกว่า


สวัสดียามเช้า ครับ คุณน้องจ๋า ที่รัก

                         การวัดจิต วัดใจตนเองอยู่ที่บ้าน นั่นแหละเป็นทางที่ประเสริฐ มากกว่าไปวัดครับ

                         สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6337 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2555, 06:28:30 »

เชวาเบิ้ลนำยูเครนแซงชนะสวีเดน

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน 2555 เวลา 05:34 น.











                          ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2012 เมื่อวันจันทร์ที่ 11 มิ.ย. ในกลุ่ม D คู่ที่ 2 ที่สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม เมืองเคียฟ ประเทศยูเครน เป็นแมตช์ระหว่าง "เจ้าภาพร่วม" ยูเครน ที่นำทัพโดย "เชวา" อังเดร เชฟเชนโก กองหน้าตัวเก๋า พบกับ สวีเดน ของดาวยิงชื่อดัง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

                          รูปเกมค่อนข้างสูสี ทั้งสองทีมแลกหมัดกันสนุก ยูเครน มีโอกาสลุ้นประตูจาก เชฟเชนโก แต่ซัดหลุดกรอบออกไป ในนาที 23 จากนั้นเป็นจังหวะของ อังเดร โวโรนิน ได้ยิงไกลเต็มข้อ แต่ อันเดรียส อิซัคส์สัน โกลสวีเดน ทุบทิ้งออกไปได้ ท้ายครึ่งแรก สวีเดน เกือบขึ้นนำจากการโหม่งของ อิบราฮิโมวิช แต่ลูกพุ่งชนเสา ทำให้ ยูเครน รอดพ้นการเสียประตูไปอย่างหวุดหวิด ครบ 45 นาทีแรก ยังเสมอกัน 0-0

                          ครึ่งหลังเปิดฉากมา 7 นาที สวีเดน ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 คิม คัลล์สตรอม เปิดบอลให้ อิบราฮิโมวิช ยิงเข้าไป เป็นประตูที่ 34 จากการลงสนามให้ทีมชาติ 78 นัดของเขา แต่อีก 3 นาทีต่อมา ยูเครน ก็ได้ประตูตีเสมอทันควัน จากการโหม่งของ เชฟเชนโก จากนั้นนาที 62 เชฟเชนโก ทำประตูที่ 2 ของเขาในนัดนี้ ด้วยการโหม่งลูกเตะมุมให้ ยูเครน แซงนำ สวีเดน 2-1 นาทีสุดท้าย สวีเดน พลาดโอกาสทองที่จะตีเสมอ เมื่อ โยฮัน เอลมานเดอร์ ทำชิ่งกับ อิบราฮิโมวิช หลุดเข้าไปยิงโล่ง ๆ ในกรอบโทษคนเดียว แต่ซัดข้ามคาน หมดเวลาการแข่งขัน ยูเครน ชนะ สวีเดน 2-1 เก็บสามแต้มเต็มได้สำเร็จ ทะยานขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม D ส่วน ยูเครน ไม่มีแต้ม จมบ๊วยของกลุ่ม



ตราไก่บุกมากกว่าแต่ได้แค่ไล่เจ๊าผู้ดี

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน 2555 เวลา 03:54 น.
















ตราไก่ไล่เจ๊าสิงโตคำราม

                           ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2012 เมื่อวันจันทร์ที่ 11 มิ.ย. ในกลุ่ม D คู่แรก ที่สนามดอนบาสส์ อารีนา เมืองโดเนตส์ค ประเทศยูเครน เป็นเกมบิ๊กแมตช์ประจำวัน ระหว่างทีมขวัญใจแฟนบอลชาวไทย "สิงโตคำราม" อังกฤษ พบกับแชมป์ยูโร 2 สมัย "ตราไก่" ฝรั่งเศส

                             เกมนัดนี้ อังกฤษ จัด 11 ตัวจริงด้วยการใช้ แดนนี เวลเบ็ค ยืนเป็นหน้าเป้าแทน เวย์น รูนีย์ ที่ถูกแบนใน 2 นัดแรก แดนกลางส่ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ปีกวัย 18 ปี ลงสนามเป็นตัวจริง อย่างพลิกความคาดหมาย ส่วน ฝรั่งเศส ใช้ทีมชุดใหญ่ตามคาด มี ฟรองค์ ริเบรี, ซาเมียร์ นาสรี กับ คาริม เบนเซมา นำทัพ

                             เริ่มฟาดแข้งไป 11 นาที ฝรั่งเศส ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะยิงของ ซาเมียร์ นาสรี แต่บอลไม่ตรงกรอบ นาที 15 อังกฤษเกือบขึ้นนำ แอชลีย์ ยัง จ่ายทะลุช่องให้ เจมส์ มิลเนอร์ หลุดเดี่ยว ก่อนลากหลบโกลฝรั่งเศส ฮูโก ยอริส แต่จังหวะยิงหลักไม่ดีทำให้ซัดไม่ตรงกรอบ เกือบเสียประตูทีมตราไก่ตอบโต้มาและได้ลุ้นจาก โยฮัน กาบาย แต่ โจ ฮาร์ต ยังพุ่งเซฟไว้ได้ นาที 30 อังกฤษ ขึ้นนำไปก่อน 1-0 สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดฟรีคิกให้ โจลีออน เลสคอตต์ โขกจ่อ ๆ เข้าไป

ห                            ลังโดนนำ ฝรั่งเศส เดินหน้าลุยแหลก นาที 35 เกือบตีเสมอได้จากลูกฟรีคิก นาสรี เปิดมาให้ อาลู ดิอาร์รา ขึ้นโหม่งเต็ม ๆ แต่ติดเซฟ ฮาร์ต บอลกระดอนไปเข้าทาง ริเบรี ที่โหม่งกลับมาให้ ดิอาร์รา ได้ลุ้นโขกตีเสมออีกครั้ง ทว่า บอลหลุดเสาสองออกไป อย่างไรก็ตาม อีก 4 นาทีต่อมา ทีมแดนน้ำหอมก็ตามตีเสมอได้สำเร็จ จากลูกยิงหน้ากรอบเขตโทษของ นาสรี หมดครึ่งแรกเสมอกัน 1-1

ฝรั่งเศสบุกมากกว่าแต่ยิงไม่ได้

                           เข้าสู่ครึ่งหลังเกมยังคล้ายคลึงกับครึ่งแรก นั่นคือ ฝรั่งเศส ได้ครองบอลมากกว่า นาที 64 คาริม เบนเซมา ได้ยิงไกล แต่ ฮาร์ต ป้องกันไว้ได้ 2 นาทีถัดมา เกล็น จอห์นสัน แบ๊กขวาทรีไลออนส์ได้ยิงบ้าง ทว่า ลูกข้ามคานไปไกล นาที 75 ริเบรี ตัวเก่งของทีมแดนน้ำหอม ได้ยิงมุมแคบ ยังไม่ผ่านมือ ฮาร์ต ย่างเข้านาที 77 อังกฤษเปลี่ยนตัวผู้เล่น 2 คน เอา อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ออก ส่ง เจอร์เมน เดโฟ ลงมาแทน และเอา สกอตต์ ปาร์คเกอร์ ออก ส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลง

                            นาที 80 กาบาย ได้ยิงหน้ากรอบโทษ ดีที่บอลไปแฉลบตัวผู้เล่นอังกฤษหลุดกรอบไปหวุดหวิด ท้ายเกม รอย ฮอดจ์สัน ส่ง ธีโอ วัลคอตต์ ลงมาแทน แดนนี เวลเบค ช่วงทดเจ็บ ฝรั่งเศส เกือบได้ประตูชัยจาก เบนเซมา แต่ ฮาร์ต ยังพุ่งไปรับไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม หมดเวลาการแข่งขัน เสมอกันไป 1-1 แบ่งกันทีมละหนึ่งแต้ม.
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #6338 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2555, 07:23:52 »

สวัสดีค่ะพี่สิงห์
 เช้านี้เข้าวัดทำบุญก่อนเข้าที่ทำงาน
เอาบุญและความอิ่มใจมาฝากค่ะ
วันนี้คนมาทำบุญมากกว่าที่เคย
สงสัยคนไทยเข้าวัดทำบุญมากขึ้นค่ะพี่สิงห์
นกปลาหน้าวัด ก็มากขึ้น
มีคนขาพิการพับต้นเตยเป็ฯดอกไม้มาขายต้นละ 60 บาท
เป็นการช่วยงานของเขา
เขาคงไม่อยากขอ แต่ทำงานมาแลกรายได้ค่ะ
ต้นใหญ่ และหอมมากด้วย
ตอนนี้หอมเต็มห้องทำงานแล้วค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6339 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2555, 07:40:26 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 12 มิถุนายน 2555, 07:23:52
สวัสดีค่ะพี่สิงห์
 เช้านี้เข้าวัดทำบุญก่อนเข้าที่ทำงาน
เอาบุญและความอิ่มใจมาฝากค่ะ
วันนี้คนมาทำบุญมากกว่าที่เคย
สงสัยคนไทยเข้าวัดทำบุญมากขึ้นค่ะพี่สิงห์
นกปลาหน้าวัด ก็มากขึ้น
มีคนขาพิการพับต้นเตยเป็ฯดอกไม้มาขายต้นละ 60 บาท
เป็นการช่วยงานของเขา
เขาคงไม่อยากขอ แต่ทำงานมาแลกรายได้ค่ะ
ต้นใหญ่ และหอมมากด้วย
ตอนนี้หอมเต็มห้องทำงานแล้วค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ที่รัก

                                คนไทยเข้าวัดมากขึ้นดีแล้ว  การทำบุญมันจะเป็นการสอนจิตตัวเองให้รู้จักอารมณ์ของการเป็นผู้ให้ เกิดปีติ  ยินดีขึ้นในจิตใจ  ให้จิตมันจำเอาไว้มากๆ มันจะได้ไม่โลภ ครับ

                                เราเห็นอะไร ไม่ดี  ไม่งาม ในวัด ปล่อยมันไป  ไม่ใช่เรื่องของเรา  เราเอาเฉพาะอารมณ์ของการให้ก็เพียงพอแล้ว ครับ

                                 คนที่พิการ แต่รู้จักทำมาหากิน ช่วยตัวเองเท่าที่จะทำได้นั้น สมควรสนับสนุน เธอคิดถูกแล้ว ที่ซื้อใบเตยพับ อย่างน้อยเธอได้ช่วยเขา และห้องทำงานกลิ่นหอมเป็นธรรมชาติ  ช่วยให้น่าอยู่ขึ้น  จิตใจสงบ เป็นสมาธิ ในการทำงานครับ

                                 เช้านี้พี่สิงห์ ลุกมาปฏิบัติธรรม ตีสี่ครึ่ง หุงข้าวใส่บาตรพระที่หน้าบ้านแทนการไปวัด

                                 วันนี้มีสุภาพสตรีท่านหนึ่งมาใส่บาตรที่เดียวกับพี่สิงห์(ปกติจะมี ๔-๕ ท่าน ตรงหน้าบ้าน รวมกัน) คงเป็นวันเกิด อยู่คอนโด เป็นสาว  รูปร่างดี แต่การแต่งตัวนั้นไม่เหมาะสม คือ นุ่งกางเกงขาสั้น ใส่เสื้อคลุมแบบมองไม่เห็นขากางเกง ครับ(นึกเอาเอง)  แต่ก็ดีที่ยังมาใส่บาตรพระ อย่างน้อยเขาก็จะมีอารมณ์เป็นผู้ให้บ้าง  ถึงแม้จะนานๆ ทีก็ตาม

                                 วันนี้เธอคงจิตแจ่มใส นะครับ

                                 สวัสดี
                 
                 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6340 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2555, 08:04:03 »

วันนี้เป็นวันพระ ปกติถ้าไปวัดพระท่านต้องเทศน์โปรดชาวบ้าน !

 
                  ดร.สุริยา  แต่งตั้งให้พี่สิงห์ เป็นอุบาสก ประจำเวบ ก็ขอทำหน้าที่แทนพระก็แล้วกัน
                      
                  ใครจะติดกัณฑ์เทศน์ก็เรียนเชิญครับ  จะได้เอาไปช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ

                              สวัสดี


จิตปภัสสร







การสร้างความรู้สึกตัว(สติ)  จะทำให้จิตไม่คิด ถ้าจิตไม่คิดถาวร นั่นละจิตปภัสสร

                              "จิตปภัสสร"  คนเราเกิดมาตั้งแต่มีรูปที่ประกอบไปด้วย ธาตุทั้ง ๔ คือ ดิน  น้ำ  ลม  ไฟ และมีอวัยวะครบ ๓๒ นั้น ก็จะมีความรับรู้(วิญญาณ)เกิดขึ้นทันทีอยู่ในท้องมารดา แต่ในขณะเดียวกันก่อนที่สามารถรับรู้ได้นั้น จิตจะเป็นปภัสสร  ที่ไม่มีอะไรปรุงแต่งเลยในจิต  เพราะจิตมันไม่มีอะไรเลย  ว่างเปล่า  

                                แต่ภายหลังรับรู้ได้ ก้เริ่มที่จะสะสม ความรับรู้อันนั้นเข้าไปเก็บในหน่วยความจำ คือสัญญา  ในขณะเดียวกันอันไหนที่เกิดอารมณ์ชอบ ไม่ชอบ เฉยๆ ก็จำเอาไว้ จิตค่อยๆ ปรุงแต่ง คือเจตสิกเริ่มทำงาน สะสมไปเรื่อยๆ เด็กจะส่งสัญญาณ ว่าชอบหรือไม่ คือการขยับตัว ดิ้นอยู่ในท้องนั้น นั่นคือการแสดงอาการของเจตสิกละ

                               เมื่อคลอดออกมาแล้ว ได้รับรู้ทางตา  หู  จมูก  ลิ้น  กาย  ใจ  มากขึ้น เจตสิกยิ่งแผลงฤทธิ์ อันไหนไม่ชอบก็โกรธ  ร้องให้  อันไหนชอบพอใจก็หัวเราะ สะสมไปเรื่อยๆ  ถ้าโกรธบ่อยๆ ก็สะสมเป็นสันดานที่ไม่ดี อันนี้ต้องคอยระวัง

                               พอโตขึ้น จิตจึงเต็มไปด้วยความยึดมั่นถือมั่น  ตังกู  ของกู  อยากได้แต่สิ่งที่พอใจ  ที่ต้องการทั้งนั้น

                               จากจิตที่เป็นปภัสสร  ว่างเปล่า เป็นจิตที่เต็มไปด้วย ความยึดมั่นถือมั่น มีแต่กิเลส และหลงอยู่แต่ในความคิดของตน จนแยกไม่ออก มีแต่คิด แล้วก็ทำตาม ๆ อยู่อย่างนั้น (ถ้าท่านมีเวลามองกาย-จิตตนเอง ท่านจะเห็นได้เอง)

                               นางโมราที่พระฤๅษีปลุกเสกใส่เอาไว้ในพระอบก้เช่นเดียวกัน อยู่ในผอบเป็นจิตที่เป็นปภัสสร เพราะฤๅษี ท่านลืมใส่หน่วยความจำ ดังนั้นนางโมรา จึงไม่รู้เลยว่าสิ่งในควรทำ  สิ่งไหนไม่ควรกระทำ ไม่รู้จักการทำดี  ไม่รู้จักการทำชั่ว ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น  มาเรียนรู้เอาต่อเมื่อประสบเหตุการณ์ต่างๆ จึงไม่สามารถตัดสินใจได้ เพราะไม่มีในหน่วยความจำ เกิดปุ๊ป โตปั๊ป เสพสุขทันที เจตสิกมีน้อย จึงกระทำในสิ่งที่ผู้รู้พึงพูดว่าไม่ควรกระทำ ฉันใดฉันนั้น

                               เมื่อเราสะสมสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่น จนหลงอยู่ในจิตเสียแล้ว  การที่จะทำให้หลุดพ้นจากมันนั้น จึงเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง เพราะจะต้องเอาชนะจิตตนเอง ที่มันยึดมั่นถือมั่นเสียแล้ว สะสมเป็นสันดาน หลงอยู่อย่างนั้น

                              พระพุทธองค์ถึงทรงสอนว่า ต้องละทิ้งความยึดมั่นถือมั่นของตนเองให้หมด ด้วยข้อปฏิบัติคือศีล นี่ละ มันจะทำให้จิตค่อยๆ คลายลง ด้วยข้อห้ามต่างๆ ที่จะเอาชนะจิต และก็เป็นข้อห้ามที่ผู้ปฏิบัติแล้ว สามารถอยู่ในสังคมได้ปกติ สงบ  สุข เพราะจะไม่เบียดเบียนใครทั้งสิ้น

                              วันนี้เป็นวันพระ ผมขอให้ทุกท่านตั้งใจถือศีล ๕ ครับเพื่อเอาชนะจิตตนเอง ไม่ยึดติดกับมัน

                              เอวังด้วยประการฉนี้ สาธุ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6341 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2555, 15:22:39 »


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                               วันนี้ผมไปเยี่ยมแม่ที่สิงห์บุรีมา แม่อ่อนแรงมากเหมือนผลไม้ที่สุกคาต้น จะล่วงเมื่อไรเท่านั้น แม่รับอาหารทางสายยางได้น้อยลง  แรงอ่อนไปมากบางครั้งลืมตายาก แต่ยังสามารถรับรู้  ตอบสนองได้ดี  รู้ตัว

                               ผมจึงได้อธิบายสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ให้คนดูแลแม่เข้าใจว่า หัวใจ  ปอด  ไต ของยายดีมาก ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นที่จะทำให้ยายจากไปคือ การเสื่อมของระบบย่อยอาหาร จะรับได้น้อยลง และผลจากอาหารน้อยลงจะทำให้ยายมีแรงน้อยลงด้วย

                               วันนี้ตอนที่แม่รู้สึกตัว ผมเลยสอนแม่ให้ยอมรับความจริง เพราะแม่กลัวความตายขึ้นมา คือจิตมันกลัว ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่กลัว ผมเลยบอกแม่ว่า คนเรานั้นต้องพิจารณาเอาไว้เสมอ แม่จำให้ได้ว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดา  เรามีความเจ็บเป็นธรรมดา และเรามีความตายเป็นธรรมดา  ทุกคนที่เกิดมาต้องตายทุกคน จะช้าหรือเร็วเท่านั้นหนีไม่พ้น  แม่ต้องพิจารณาเอาไว้ให้มั่น แล้วความกลัวก็จะค่อยๆ หายไป ให้มีสติเข้าไว้  อย่าไปคิดอะไรทั้งสิ้น  แม่ก็รับคำ

                               ผิวพรรณของแม่หมองลง คือหมดสภาพมากขึ้นกว่าเดิม

                               อาทิตย์หน้าผมคงต้องไปอยู่กับแม่แล้ว เพราะคุณหมอวิทิต  น้องสาว  รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  ทุกคนไม่อยากอยู่ในสภาพนั้น รับไม่ได้ คงต้องเป็นผม ที่สามารถรับสภาพได้  อย่างน้อยเป็นเพื่อนคนดูแล  และยกเอาแม่มาเป็นอาจารย์พิจารณาว่า สังขารทั้งหลาย เป็นอนิจจัง  สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์  ธรรมทั้งหลาย เป็นอนัตตา ในการปฏิบัติธรรมเจริญสติ ครับ

                               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #6342 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2555, 15:40:56 »

ขอให้คุณแม่เจริญในธรรม เข้าใจ เข้าถึงและปฏิบัติดังที่พี่ปรารถนา
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #6343 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2555, 18:39:39 »

พี่สิงห์,
คุณแม่พี่วันนี้เหนื่อยคะ
ดูแล้วรู้สึกว่าท่านเหนื่อย
หนิงสงสารท่านจังเลยคะ.


ลงชื่อ
น้องปภัสสร
ศิษย์ตังกู!
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6344 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2555, 20:10:25 »

อ้างถึง
ข้อความของ พธู ๒๕๒๔ เมื่อ 12 มิถุนายน 2555, 15:40:56
ขอให้คุณแม่เจริญในธรรม เข้าใจ เข้าถึงและปฏิบัติดังที่พี่ปรารถนา


สวัสดีครับ คุณพธู ๒๕๒๔

                         ขอบพระคุณมากครับ  พี่สิงห์ก็ปราถนาให้แม่สุข สงบ หมดความกังวลและกลัว ครับ

                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6345 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2555, 20:16:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 12 มิถุนายน 2555, 18:39:39
พี่สิงห์,
คุณแม่พี่วันนี้เหนื่อยคะ
ดูแล้วรู้สึกว่าท่านเหนื่อย
หนิงสงสารท่านจังเลยคะ.


ลงชื่อ
น้องปภัสสร
ศิษย์ตังกู!

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                                   แม่เจ็บแผลที่เกิดจาก การกดทับที่ก้น ครับ มันไม่หาย ทั้งๆ ที่เรารักษาอย่างดี ขนาดผมเองนั่งปฏิบัติธรรมเจริญสติมาก  ยังรู้สึกเจ็บเลย  ตอนนี้จึงต้องใช้หมอนรองมานั่งแทนเลย เพราะกล้ามเนื้อกดทับ

                                   เนื่องจากอาหารรับได้น้อย  แม่เลยผอมลงมาก และแรงอ่อนไปมาก

                                   พี่สิงห์ คิดถูกที่ได้พาแม่ไปทำบุญเมื่อวันวิสาขะบูชาที่ผ่านมา  ได้กลับไปนอนบ้านพี่สาวที่แม่เคยนอน  เพราะนั่นอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของแม่

                                   แม่เจ็บแผลนั้นดี  เพราะเท่ากับแม่ยังรับรู้ได้ดีอยู่ และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ กลางคืนแม่จะไม่นอน  แต่จะนอนกลางวัน

                                   คนที่น่าสงสารคือ น้องสาวพี่สิงห์ และคนดูแล ครับ

                                   ขอบคุณมาก

                                    สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6346 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2555, 21:07:18 »

สังขารทั้งหลาย เป็นอนิจจัง

สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์

ธรรมทั้งหลาย เป็นอนัตตา

ความจริงของ "ธรรม" มันเป็นอย่างนี้  ธรรมในที่นี้เป็นทั้งธรรมที่มีเหตุ - ปัจจัย และธรรมที่ไม่มีเหตุ - ปัจจัย

                            ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
ประทาน14
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2514
คณะ: เภสัชศาสตร์
กระทู้: 999

« ตอบ #6347 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2555, 22:12:18 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 12 มิถุนายน 2555, 15:22:39

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                               วันนี้ผมไปเยี่ยมแม่ที่สิงห์บุรีมา แม่อ่อนแรงมากเหมือนผลไม้ที่สุกคาต้น จะล่วงเมื่อไรเท่านั้น แม่รับอาหารทางสายยางได้น้อยลง  แรงอ่อนไปมากบางครั้งลืมตายาก แต่ยังสามารถรับรู้  ตอบสนองได้ดี  รู้ตัว

                               ผมจึงได้อธิบายสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ให้คนดูแลแม่เข้าใจว่า หัวใจ  ปอด  ไต ของยายดีมาก ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นที่จะทำให้ยายจากไปคือ การเสื่อมของระบบย่อยอาหาร จะรับได้น้อยลง และผลจากอาหารน้อยลงจะทำให้ยายมีแรงน้อยลงด้วย

                               วันนี้ตอนที่แม่รู้สึกตัว ผมเลยสอนแม่ให้ยอมรับความจริง เพราะแม่กลัวความตายขึ้นมา คือจิตมันกลัว ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่กลัว ผมเลยบอกแม่ว่า คนเรานั้นต้องพิจารณาเอาไว้เสมอ แม่จำให้ได้ว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดา  เรามีความเจ็บเป็นธรรมดา และเรามีความตายเป็นธรรมดา  ทุกคนที่เกิดมาต้องตายทุกคน จะช้าหรือเร็วเท่านั้นหนีไม่พ้น  แม่ต้องพิจารณาเอาไว้ให้มั่น แล้วความกลัวก็จะค่อยๆ หายไป ให้มีสติเข้าไว้  อย่าไปคิดอะไรทั้งสิ้น  แม่ก็รับคำ

                               ผิวพรรณของแม่หมองลง คือหมดสภาพมากขึ้นกว่าเดิม

                               อาทิตย์หน้าผมคงต้องไปอยู่กับแม่แล้ว เพราะคุณหมอวิทิต  น้องสาว  รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  ทุกคนไม่อยากอยู่ในสภาพนั้น รับไม่ได้ คงต้องเป็นผม ที่สามารถรับสภาพได้  อย่างน้อยเป็นเพื่อนคนดูแล  และยกเอาแม่มาเป็นอาจารย์พิจารณาว่า สังขารทั้งหลาย เป็นอนิจจัง  สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์  ธรรมทั้งหลาย เป็นอนัตตา ในการปฏิบัติธรรมเจริญสติ ครับ

                               สวัสดี


ถึงแม้จะรู้และเข้าใจแต่บางครั้งในฐานะลูกก็ทำใจได้ยากเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้นะครับพี่สิงห์
      บันทึกการเข้า
จ๋า 15
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: เภสัชศาสตร์
กระทู้: 17

« ตอบ #6348 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2555, 22:43:24 »


คุณแม่พี่สิงห์ admit เป็นคนไข้ของพี่วิทิต ที่ รพ.สิงห์บุรีหรือคะ 

คุณพ่อของจ๋าทั้งที่ท่านปฏิบัติธรรมมานาน
แต่ภาวะเสื่อมของสังขารต้องใช้เครื่องช่วยหายใจก็ก่อทุกข์ทรมานสาหัส
ขนาดท่านอยู่ ICU หมอบอกว่าไม่รู้สึกตัว แต่เราสัมผัสได้ว่าจิตภายในของท่านยังรับรู้
ถึงจิตจะละความกลัวได้ แต่เวลาที่เจ็บปวดจิตอาจจะฟุ้งไปจับจุดที่เกิดความทรมานได้
เลยใช้วิธีเปิดซีดีธรรมะให้ฟังตลอดเวลาจนท่านละสังขารไปเองเลยค่ะ
ขนาดเราไม่ต้องเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง ยังเครียดมากๆเลยค่ะ

นี่คุณแม่พี่สิงห์ ท่านยังตอบสนองได้ คนดูแลจะต้องอยู่ด้วยตลอดนี่
ทั้งเศร้าเสียใจทั้งเหนื่อยทั้งเครียด เห็นใจมากๆเลยค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6349 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2555, 04:51:42 »

สวัสดีครับ คุณประธาน

                             ขอบคุณมาก ที่คอยเป็นกำลังใจเสมอมา

                             สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 252 253 [254] 255 256 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><