15 พฤศจิกายน 2567, 13:27:16
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 220 221 [222] 223 224 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3535600 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #5525 เมื่อ: 02 มีนาคม 2555, 20:02:26 »

อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 02 มีนาคม 2555, 15:07:27




สองภาพนี้เป็นสถานที่อาบน้ำชนชั้นต่ำ(จันทาล) เราไปถึงค่ำแล้ว ภาพถัดไปต้องใช้แฟรตเราจึงถูกขอร้องไม่ให้ถ่ายรูปแต่ชมเฉยๆได้
ถัดขึ้นไปเป็นที่อาบน้ำชนชั้นกลาง
และบนสุดเป็นที่อาบน้ำชนชั้นสูง


โห .. แบ่งกันขนาดนี้เลยหรือคะ?
     งง งง
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5526 เมื่อ: 02 มีนาคม 2555, 20:17:34 »


สวัสดีครับท่านขุน ๒๘

                             อาสนะ(เสื่อ) ที่เห็นนั้น ทางคณะคุณสมศักดิ์ จัดซื้อมาจำนวน ๘๐ ผืน เพื่อให้ลูกทัวร์ได้ใช้ลองนั่งตามสถานที่ต่าง ๆ ในการปฏิบัติธรรม พอเสร็จงานแล้ว ก็ได้รวบรวมทั้งหมดถวายให้วัดไทยพุทธวิปัสสนา เอาไว้ใช้งานต่อครับ

                             แต่หนังสือสวดมนต์นั้น ทางหลวงพ่อเป็นคนแจก ทำดีมากมีครบถ้วนและเป็นฉบับแปลภาษาไทยด้วย แต่พอเสร็จงานแล้ว หลวงพ่อให้บริจาคเอาไว้ที่วัด โยมคนไหนอยากได้หนังสือสวดมนต์ให้ไปเอาที่สถานีวิทยุยานเกราะ เพราะหนังสือสวดมนต์ที่วัดไทยพุทธวิปัสสนามีไม่พอ เนื่องจากญาติโยมมาพักที่วัดเห็นหนังสือสวดมนต์ก็ขอพระท่านเอาไปเรื่อย ๆ จึงมีไม่พอและขนมาจากเมืองไทยมันยาก

                             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5527 เมื่อ: 02 มีนาคม 2555, 20:27:13 »



สวัสดีค่ะ คุณน้องยาหยี ที่รัก

                              ขอแสดงความยินดีด้วย ที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดพระบาท สมเด็จพระเทพฯ ถือเป็นมงคลในชีวิตของเธอ ทีเดียว

                              สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5528 เมื่อ: 02 มีนาคม 2555, 20:38:58 »



สวัสดีครับ คุณเหยง

                              ขอบคุณมากที่ส่งมาให้ดู  ผมจำไม่ได้แล้วว่า เคยไปงานนี้มากี่ครั้งมันนานมาก  ผมเป็นเพียงวิศวกรน้อย ๆ ที่ไม่มีความสำคัญกับคณะมากเท่าไร  ไม่เหมือน ดร.สุริยา  และมันหมดยุคของผมแล้ว

                              สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5529 เมื่อ: 02 มีนาคม 2555, 20:45:02 »

ดร.สุริยา  ขอความช่วยเหลือด้วย !

                                   วันนี้ตอนค่ำได้ไปนั่งรับประทานอาหารเย็นที่ Lobby ขอโรงแรม ได้พบกับ กวิน  ครั้งแรกไม่แน่ใจ  จนกระทั่งรับประทานอาหารเสร็จ ก็เดินผ่านโตีะกวิน  คิดว่าใช่แน่จึงเข้าไปทัก และกวิน ก็ทักว่าลุงสิงห์ใช่ไหม?

                                   ได้นั่งคุยกับกวิน นานมาก  จึงรู้ว่ากวินทำงานอะไรและมีแผนการอย่างไร  จึงใคร่ขอร้องให้ ดร.สุริยา พากวินไปพบคุณราเมศวร์ ที่ Soft Square ให้ด้วย   จะได้เรียนรู้แนวทางการทำงาน ครับ

                                    ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #5530 เมื่อ: 03 มีนาคม 2555, 00:18:40 »

วันนี้ไม่ได้ไปคณะครับ เพราะไปประชุมแบบก่อสร้างกับอาจารย์เผ่าที่ปากน้ำโพ
เสี่ยเล็ก ถาปัดจุฬาฯเพื่อนอาจารย์เผ่าเขาจะทำคอนโดริมเจ้าพระยา
(เสี่ยเล็กคือคนที่เลี้ยงข้าวมื้อค่ำพวกเราชาวหอฯ วันงานเผาคุณพ่อบวร ตอนขากลับที่เราผ่านปากน้ำโพ)
...
ส่วนเรื่องกวินนั้นจะจัดการให้ ไม่ยากเลย
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #5531 เมื่อ: 03 มีนาคม 2555, 00:22:08 »

 สวัสดีค่ะพี่สิงห์ เข้ามาดูรูปค่ะแอบอ่านแอบชมได้ความรู้เยอะเลยค่ะน้ำอ้อยยังไม่เคยไปเลยค่ะอินเดีย
ขอชมตรงนี้ก่อนละกันค่ะ ขอบพระคุณพี่สิงห์ และพี่กุศลมากๆนะคะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5532 เมื่อ: 03 มีนาคม 2555, 07:42:48 »

อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 03 มีนาคม 2555, 00:22:08
สวัสดีค่ะพี่สิงห์ เข้ามาดูรูปค่ะแอบอ่านแอบชมได้ความรู้เยอะเลยค่ะน้ำอ้อยยังไม่เคยไปเลยค่ะอินเดีย
ขอชมตรงนี้ก่อนละกันค่ะ ขอบพระคุณพี่สิงห์ และพี่กุศลมากๆนะคะ


สวัสดีค่ะ คุณน้องน้ำอ้อย ที่รัก

                                ปีหน้าพี่สิงห์ตั้งใจจะจัดทัวร์ไประลึกถึงพระพุทธเจ้าที่ท่านทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า "ภายหลังจากที่พระองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว ให้กุลบุตร-กุลธิดา มาระลึกถึงพระองค์ที่ สังเวชนีย์ ๔ แห่ง คือที่พระองค์ประสูติ  ทรงตรัสรู้  แสดงปฐมเทศนา และเสด็จปรินิพพาน  ผู้ใดได้ไประลึกถึงตามที่พระองค์ได้ทรงบอกไว้ ตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์" (สาเหตุ เพราะจะได้เห็นทุกข์ สามารถทำใจได้ ปล่อยวาง จิตคลายกำหนัดลง) โดยจะไปกับคณะหลวงพ่อพระมหา ดร.สุเทพ  อกิญฺจโณ  คงไปเดือนกุมภาพันธ์ ที่อากาศไม่ร้อน และหนาวพอสมควร

                                 คุณน้องน้ำอ้อย อย่าลืมทำตัวให้ว่างเอาไว้

                                 สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5533 เมื่อ: 03 มีนาคม 2555, 08:13:54 »



สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                              เมื่อวันพระขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๔ ที่ผ่านมาที่ได้ไปทำบุญที่วัดพระนอน ได้ไปเห็นคนแก่ท่านหนึ่ง ปกติจะมาทำบุญทุกวันพระ อายุประมาณ ๘๐ ปี ร่างกายยังแข็งแรงเดินได้คล่องแคล้วมาก แต่เป็นโรคความดัน สติเสื่อม ท่านหลง ๆ ลืม ๆ บางวันก็กินยาตามที่หมอสั่งให้เอาไว้ บางวันก็ลืม บางวันกินจริงแต่กินเกินขนาด เพราะท่านไม่มีสติ  ไม่รู้  ลูกหลานก็ไม่ได้เอาใจใส่ วันนั้น หลังจากใส่าบาตรเสร็จเห็นท่านกินยาเกินขนาด มันก็มึน งง อันตรายมาก  ไม่ดีเลย

                              จิตมันก็ได้คิดว่า "คนเรานั้นชีวิตมันไม่เที่ยง เมื่อแก่ลงเต็มไปด้วยโรค ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป เพราะขาดสติ ที่ไม่ได้เคยฝึกไว้ถึงแม้จะทำบุญประจำก็ตาม"

                              ดังนั้น สักวันหนึ่งเราก็ต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน จึงคิดว่า ถ้าเราได้มาบวชที่วัด เราจะต้องตั้งสถานที่เลี้ยงดูผู้สูงอายุที่วัด อย่างน้อยจะสามารถช่วยญาติโยม ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง ที่ไม่มีลูกหลานดูแล หรือดูแลไม่ทั่วถึงได้ ไห้ใด้รับการดูแลพอสมควร ได้กินข้าวตามเวลา กินยาตามที่หมอสั่ง ได้ปฏิบัติธรรม ฝึกจิตไม่ให้หลงลืม จิตใจสงบลงได้ ความเป็นอยู่คงจะดีขึ้น  ซึ่งเราสามารถทำได้

                               ปัจจุบันที่วัดมีพระ ๔ รูป กับเณรสามสิบองค์ พระท่านไม่สอนชาวบ้าน คือไม่เทศน์ พระท่านไม่ปฏิบัติธรรม ท่านสวดมนต์อย่างเดียว และเฝ้าวัดเท่านั้น  ชาวบ้านจึงไม่มีที่ผึ่งทางใจก็ได้มาอาศัยทำบุญทุกวันพระเท่านั้น  ถ้าเรามาบวช สามารถสอนให้ชาวบ้านปฏิบัติธรรม ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุให้มาอยู่ที่วัด ซึ่งเราสามารถช่วยได้ ทำได้  มันคงจะดีสำหรับชีวิตที่เหลือ  เรื่องปัจจัย ไม่ต้องกังวลทำเท่าที่มี  คนเขาเห็นเราทำ คงบริจาคเพิ่มให้เอง มันหน้าที่จะเป็นหนทางที่ดีสำหรับชีวิต อุทิศให้พระศาสนา  และชุมชน ดีกว่าปล่อยให้เสียเวลาไปวันหนึ่ง ๆ ๆ เป็นแน่

                                สวัสดีตอนเช้าทุกท่านครับ

                                เช้านี้ผมยังคงไปเดินจงกรมออกกำลังกาย รำชิกง  โยคะ  อากาศมีฝนแต่ไกล  ถึงแม้ร่างกายจะแย่ลงเพราะอาทิตย์ที่ผ่านมา ขับรถมาก อ่อนเพลีย  อากาศร้อน  ร่างกายเลยไม่ไหว เสไปเหมือนกันครับ

                                เช้านี้ทำจิตให้ผ่องใสเข้าไว้  อะไร ๆ ก็อย่าไปยึดมั่นถือมั่นกับมันมากนัก ปล่อยวาง มีอุเบกขาให้มาก ๆ มันจะดับไปเอง เพราะความคิดมันเป็นเพียงอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับจิต ไม่มีตัวตน คงอยู่ไม่ได้  ขอเพีบงมีอุเบกขา - ปัญญา หรือมีสติ เข้าไว้อย่าไปหลงตามที่คิด มันก็ดับไปของมันเอง  ธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้น นี่คือความจริงอันหนึ่งที่พึงจดจำเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน หรือ

                                พอประสบอะไรที่เราไม่รักไม่ชอบ ก็ให้มีขันติ อุเบกขา เข้าไว้ เพราะจิตมันจะปรุงแต่งทันที่ อย่าไปหลงตามที่จิตมันต้องการ  ต้องระลึกอยู่เสมอว่า จิตมนุษย์มันก็เป็นอย่างนี้ คนเราคิด ทำไม่เหมือนกัน ต่างจิต ต่างใจ อันไหนไม่ก่อประโยชน์ ก็อย่าไปคิด ไปเต้น ตามมัน เพราะหลงกระทำตามที่จิตมันคิด มีแต่ทุกข์  ให้มีอุเบกขาเข้าไว้มันก้็จะดับไปเองธรรมชาติมันเป็นเช่นนี้ เราจะมีแต่ความสงบแห่งจิต อยู่กับอิริยาบถย่อยของเราเข้าไว้  จิตมันจะไม่ฟุ้งซ่านทั้งสิ้น เพียงแค่นี้ปีติก็เกิดขึ้น  จิตจะคิดน้อยลง อยู่กับปัจจุบันมากขึ้น สามารถเตือนตัวเองได้โดยอัตโนมัติ ไม่หลงอยู่ในโมหะ

                                สวัสดีครับ

                               
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5534 เมื่อ: 03 มีนาคม 2555, 12:16:08 »

พี่สิงห์

พระสงฆ์ที่ เฝ้าวัด สวดมนต์ ไม่ปฎิบัติธรรม และไม่มีการสั่งสอน ตามที่กล่าวถึงนั้น
แสดงถึง
1.พระอาจจะสื่อสารกับชาวบ้านไม่ได้ ด้วยเรื่องของการที่ไม่ใช่พระที่เกิดในพื้นที่ ?? หรือ
2.พระไม่เคยได้รับการสั่งสอนให้เทศนา ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้เราจะเห็นได้ตอนไปฟังสวดศพ ในช่วงค่ำที่พระ 4 รูป ขึ้นบนอาสนะแล้วก็สวดอะไรก็ไม่รู้ !!~ จนจบ แล้วก็รับประเคนจตุปัจจัยไป และรับฉันในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นไปตามกฎ กติกา ที่มีมาอย่างยาวนาน
   แต่ที่วัดนครสวรรค์ พระที่จะไปสวดศพ ต้องเทศนาให้ผู้เข้าร่วมพิธีเป็นภาษาไทยก่อน จากนั้นจึงสวดไปตามปกติในภายหลัง และต้องถือปฎิบัติแบบนี้โดยตลอด มิฉะนั้นเจ้าอาวาสท่านไม่ยอม เพราะเห็นว่า สวดไป ญาติโยมก็ไม่เข้าใจว่าสวดอะไร
3.พระผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ดูแลกิจการสงฆ์ในวัด ยังไม่แจ้งถึงภาระกิจที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนา
   
ขอยกตัวอย่างครับ...
ผมได้อ่านบทความหลายบท ที่เคยเผยแพร่ว่า ชนชั้นจัณฑาลซึ่งเป็นวรรณะต่ำสุดของชาวอินเดีย เริ่มหันกลับมานับถือพระพุทธศาสนา ด้วยพระสงฆ์จากประเทศไทย(ไม่ได้จดจำว่าเป็นวัดใด เมืองใด? ครับ) ที่เผยแพร่คำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมทั้งการปฎิบัติธรรมประจำวันให้กับชนชั้นนี้ ส่งผลให้พิธีกรรมที่เจ้าสาวในวรรณะนี้จะต้องหาเงินหาทองไปเป็นสินสอด ทองหมั้น ให้กับหนุ่มอินเดีย ลดความเข้มข้นลงไปมากครับ

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5535 เมื่อ: 03 มีนาคม 2555, 14:40:50 »

วัดป่ามหาวัน เมืองไวสาลี



























เสาอโศก ที่สมบูรณ์ที่สุด















                          
                           ภาพวัดป่ามหาวัน เมืองไวสาลี เป็นมถานที่พระนางมหาประชาบดีโคตมี และเหล่าสายิกา จำนวน ๕๐๐ คน โกนผม แต่งตัวแบบภิกษุ มายืนที่หน้าประตูวัด เพื่อขอบวชเป็นภิกษุณี และในที่สุดก็ได้บวชเป็นภิกษุณี สมใจและสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในเวลาต่อมา

                           กิจกรรมที่ทำ คือ ฟังหลวงพ่อบรรยาย สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม เวียนเทียนรอบสถูป

                           เชิญชมภาพ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5536 เมื่อ: 03 มีนาคม 2555, 21:23:22 »

สวัสดียามค่ำครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                             วันนี้ Nok Air Late ไม่เป็นไปตามตารางเวลา ผมเลยกลับถึง กทม. ช้าไปครับ(ถึงบ้าน 20:30 น. จึงไม่ได้ไปงานแต่งงานลูกสาวเพื่อน คือท่านรองนิวัติจาก กฟภ.) และนอกจากนี้ก็เกิดเหตุระทึกทำให้ผู้โดยสารที่ไม่เคยบินบ่อย ๆ ตกใจกลัว คือ ช่วงลดระดับเพื่อจะ Landing ครั้งแรกตกหลุมอากาศขณะตีโค้งเลี้ยว แต่ครั้งที่สอง ผมนึกว่าจะพลิกคว่ำเสียแล้ว รุนแรงมากจนฝรั่งร้องลั่นเหมือนกัน ไม่เจอแบบนี้มานานมากแล้ว สำหรับผมไม่ได้ตกใจอะไรเลย และคิดต่อว่าถ้ามันจะตกและตายก็ไม่ได้กังวลอะไรเหมือนกัน เพราะกำลังนั่งปฏิบัติธรรม ด้วยการสัมผัสนิ้วมืออยู่ จึงไม่ได้ตกใจอะไร   สุดท้ายก็ลงปลอดภัยครับ หน้าร้อนอากาศมันเป็นอย่างนี้ครับ คือความหนาแน่นไม่สม่ำเสมอ และลมแรง

                              พรุ่งนี้เช้าภายหลังจากใส่บาตรพระที่หน้าบ้านเสร็จ ผมต้องเดินทางไปสิงห์บุรี ไปทำบุญเพลที่วัดพระนอนให้พ่อ(พ่อจากไปวันที่ ๑ มีนาคม) พี่เขย ปู่ ย่า และหลาน ประจำปี

                              ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #5537 เมื่อ: 04 มีนาคม 2555, 16:31:43 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 03 มีนาคม 2555, 07:42:48
อ้างถึง
ข้อความของ Kaimook เมื่อ 03 มีนาคม 2555, 00:22:08
สวัสดีค่ะพี่สิงห์ เข้ามาดูรูปค่ะแอบอ่านแอบชมได้ความรู้เยอะเลยค่ะน้ำอ้อยยังไม่เคยไปเลยค่ะอินเดีย
ขอชมตรงนี้ก่อนละกันค่ะ ขอบพระคุณพี่สิงห์ และพี่กุศลมากๆนะคะ


สวัสดีค่ะ คุณน้องน้ำอ้อย ที่รัก

                                ปีหน้าพี่สิงห์ตั้งใจจะจัดทัวร์ไประลึกถึงพระพุทธเจ้าที่ท่านทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า "ภายหลังจากที่พระองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว ให้กุลบุตร-กุลธิดา มาระลึกถึงพระองค์ที่ สังเวชนีย์ ๔ แห่ง คือที่พระองค์ประสูติ  ทรงตรัสรู้  แสดงปฐมเทศนา และเสด็จปรินิพพาน  ผู้ใดได้ไประลึกถึงตามที่พระองค์ได้ทรงบอกไว้ ตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์" (สาเหตุ เพราะจะได้เห็นทุกข์ สามารถทำใจได้ ปล่อยวาง จิตคลายกำหนัดลง) โดยจะไปกับคณะหลวงพ่อพระมหา ดร.สุเทพ  อกิญฺจโณ  คงไปเดือนกุมภาพันธ์ ที่อากาศไม่ร้อน และหนาวพอสมควร

                                 คุณน้องน้ำอ้อย อย่าลืมทำตัวให้ว่างเอาไว้

                                 สวัสดี

   lสวัสดีค่ะพี่สิงห์   เริ่มหยอดกระปุกค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5538 เมื่อ: 04 มีนาคม 2555, 20:29:31 »
















สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                              วันนี้พี่สิงห์ไปทำบุญครบรอบวันที่พ่อแก้ว  กลับดี จากไป คือวันที่ ๑ มีนาคม และถือโอกาสทำบุญให้ปู่ปั้น ย่าปั่น  กลับดี พี่เขยนายเล้ก  วิเลปะนะ นายนิตย์  กลับดี(หลานชาย) และคุณพ่อของหลานเขย  โดยทำบุญเพลที่วัดพระนอน ในหมู่พี่-น้องและญาติ ครับ

                              เชิญชมภาพ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5539 เมื่อ: 04 มีนาคม 2555, 20:36:11 »





ปู่ปั้น  กลับดี



ย่าปั้น  กลับดี



                           เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ผมได้เห็นรูปของปู่ปั้น และย่าปั้น  กลับดี  เพราะรูปเก็บอยู่ที่ลูกสาวของอาปรอง  กลับดี วันนี้น้องสาวเขาเอารูปมาด้วย พร้อมกระดูกปู่-ย่า ซึ่งบรรจุในโกฏไม้สักโบราณ ส่วนกระดูกนั้นเป็นสีขาวและเป็นผงแคลเซี่ยมเป็นส่วนใหญ่ ยุบตัวเหลือน้อยเต็มทีแล้ว  ปีติที่ได้ทำบุญให้ท่านทั้งสอง และคุณพ่อผมนั้น หน้าเหมือนย่าปั้น ครับ

                           เชิญชมภาพ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5540 เมื่อ: 04 มีนาคม 2555, 20:48:03 »



สามเณรที่เห็นหน้าในรูป วันนี้ผมถวายท่านไป สามพันบาท และรับเป็นโยมอุปฐาก ท่านดีใจมาก

ทุกครั้งที่ผมไปทำบุญ ผมก็ถวายท่านเป็นประจำส่วนตัวเสมอเพื่อให้ท่านเรียนหนังสือ


เชิญชวนผู้มีจิตเมตตา ใจบุญทุกท่านร่วมทำบุญส่งเสริมการศึกษา ครับ

                            วันนี้ผมได้ตกลง ของเป็นโยมอุปฐากเณร ๑ องค์ ในภาพที่บวชเรียนนักธรรมที่วัดจนจบแล้วกำลังเรียนต่อที่สำนักวัดพิกุลทอง วัดหลวงพ่อแพ  โดยขึ้นรถโดยสารจากวัดพระนอนไปเรียนที่วัดพิกุลทอง ไปเช้า-กลับเย็น บางวันก็ค้างที่วัดพิกุลทองเพื่อประหยัดเงิน พ่อ-แม่ เสียชีวิต จึงมาบวชเณรที่วัดพระนอนและเรียนไปด้วยจนจบ ม.๖ ตอนนี้กำลังเรียนพุทธศาสตร์ระดับปริญญาตรี โดยจะเลิกเรียนและสึกไปหางานทำ เนื่องจากพี่สาวที่เคยส่งเงินมาให้เรียน ไม่สามารถส่งได้อีกแล้ว ค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละไม่เกินสองพันบาทต่อเดือน ผมเลยบอกว่าเณรอย่าสึกเลยเรียนให้จบต่อไป ผมจะส่งให้เรียนเดือนละสองพันบาท (งดตีกอล์ฟประจำสัปดาห์สองครั้ง  หรือแบ่งกอล์ฟเอาเงินส่งท่านเรียนหนังสือ จะได้มีจิตใจอยากชนะบ้าง) และเมื่ออายุครบ ๒๐ ผมจะเป็นเจ้าภาพบวชให้ และถ้ามีโอกาสจากฝาก พระมหา ดร.สุเทพ  อากิญฺจโณ  ถ้าสนใจจะไปศึกษาต่อที่อินเดีย

                            ใครสนใจร่วมทำบุญกับผม เรียนเชิญครับ

                            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5541 เมื่อ: 04 มีนาคม 2555, 20:52:49 »



สถานที่นี้ร่มรื่นมาก อยู่หน้าโบสถ์ อยู่ริมแม่น้ำเก่า สักวันผมจะพัฒนาเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม  สงบดี ไม่พลุกพล่าน

หรือ สร้างเป็นกุฏิ ปฏิบัติธรรม ถ้าตัดสินใจบวชพระ

เดี๋ยวนี้จิต วางอุเบกขาเป็นส่วนใหญ่ เมื่อประสพกับสิ่งที่ไม่รัก ไม่ชอบ  คิดเสมอว่าธรรมชาติมันเป็นเช่นนั้นเอง

จิตคนไม่เหมือนกัน อุเบกขาดีที่สุด การวิวาท(ปรุงแต่งอารมณ์)มันก็ไม่เกิด


                                    
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #5542 เมื่อ: 04 มีนาคม 2555, 22:31:47 »

ความรู้สึกว่าเป็นนั่นเป็นนี่ มันไม่ใช่ของจริง มันเป็นความปรุงแต่ง พอเราไปยึดเข้า ก็เตรียมตัวทุกข์ได้เลย เพราะว่าไม่มีอะไรที่จะยึดติดถือมั่นได้เลยซักอย่าง เนื่องจากทุกอย่างล้วนไม่เที่ยงและแปรเปลี่ยน ขณะเดียวกันพอยึดติดถือมั่นว่าเป็นอะไร ก็จะมีกิเลสตามมา ขึ้นชื่อว่ากิเลสก็ล้วนทำให้เกิดทุกข์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความอยากได้หรืออยากผลักไส ก็ล้วนนำไปสู่ความทุกข์ใจ เพราะเมื่อความจริงไม่เป็นอย่างที่อยาก ก็เป็นทุกข์แล้ว ที่จริงเพียงแค่นึกอยาก ไม่ว่าอยากผลักไสหรือ อยากได้ครอบครองก็เป็นทุกข์แล้ว เพราะมันทำให้จิตดิ้นรน ทนอยู่เฉยไม่ได้ ก็ทุกข์ขึ้นมาทันที

ธรรมบรรยาย โดย พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5543 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 08:12:32 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 04 มีนาคม 2555, 22:31:47
ความรู้สึกว่าเป็นนั่นเป็นนี่ มันไม่ใช่ของจริง มันเป็นความปรุงแต่ง พอเราไปยึดเข้า ก็เตรียมตัวทุกข์ได้เลย เพราะว่าไม่มีอะไรที่จะยึดติดถือมั่นได้เลยซักอย่าง เนื่องจากทุกอย่างล้วนไม่เที่ยงและแปรเปลี่ยน ขณะเดียวกันพอยึดติดถือมั่นว่าเป็นอะไร ก็จะมีกิเลสตามมา ขึ้นชื่อว่ากิเลสก็ล้วนทำให้เกิดทุกข์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความอยากได้หรืออยากผลักไส ก็ล้วนนำไปสู่ความทุกข์ใจ เพราะเมื่อความจริงไม่เป็นอย่างที่อยาก ก็เป็นทุกข์แล้ว ที่จริงเพียงแค่นึกอยาก ไม่ว่าอยากผลักไสหรือ อยากได้ครอบครองก็เป็นทุกข์แล้ว เพราะมันทำให้จิตดิ้นรน ทนอยู่เฉยไม่ได้ ก็ทุกข์ขึ้นมาทันที

ธรรมบรรยาย โดย พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล

                        มันเป็นความจริงทุกประการ ตามที่หลวงพ่อพระไพศาล ท่านได้บรรยายเอาไว้ข้างต้น  

                        เราสามารถรับรู้ได้ด้วยตัวของเราเองจริงๆ ถ้าเจริญสติให้มากเข้าไว้ จนมันจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เหมือนเป็นนิสัยของเราใหม่อยู่กับการรู้สึกตัว  ไม่ต้องเตือน หรือท่องบ่น มันก็ระลึกได้เสมอ ว่าเราต้องอยู่กับอิริยาบถของรูปเรานี่ละ จิตมันจะไม่คิด จะปล่อยวางทั้งหมดเอง  เมื่อไม่คิด เห็นอะไรที่มันขวางหูขวางตา  มันปล่อยวางได้เพราะเรารู้ความจริงในธรรม  และมีอุเบกขามาเตือนทันที  แล้วสิ่งที่ปรุงแต่งมันก็ดับไปเอง มันเป็นของมันอย่างนี้  อยู่กับความไม่มีอะไร  ที่เป็นธรรมดา ๆ นี่ละ  ไม่มีอะไรที่พิเศษไปเลย เพราะธรรมมันเป็นอย่างนี้  อะไร ๆ ก็ไม่เอา ตามที่หลวงพ่อคำเขียน  ท่านได้สอนเอาไว้ คือ ไม่เอา  ไม่มี  ไม่เป็นทั้งสิ้น

                        ทุกสิ่งเราสามารถรู้ได้ด้วยตัวเองทั้งสิ้น  เมื่อรู้แล้วก็อดไม่ได้  ที่จะนำมาบอกกล่าวไว้  เพื่อให้ทุกท่านที่มีปัญญา  ได้พิจารณา และปฏิบัติตาม

                        สังคมจะอยู่ได้  ความสับสนจะไม่มี  การวิวาททางความคิดจะไม่เกิดขึ้น   ไม่มีอะไรมากเลย จริงๆ ขอเพียงแต่ละคน รักษากาย  วาจา  ใจ ของตนอยู่เป็นนิจ อยู่กับความรู้สึกตัวธรรมดา นี่ละ  ไม่ต้องไปกังวลกับผู้อื่นทั้งสิ้น ระวังแต่ตัวเราเท่านั้น  เมื่อทุกคนระวังกาย วาจา ใจ มีความรู้สึกตัวอยู่เสมอ  สิ่งที่เกิดความไม่ชอบมาพากลต่างๆ ในสังคมจะหายไปเอง เพราะไม่มีใครไปทำมันแล้ว

                        แต่ทุกวันนี้ แต่ละคนในสังคม ไม่ได้ระวังกาย จาวา ใจ ของตัวเองเลย  ไปหลงอยู่ในความคิดตัวเอง มันจึงมีแต่วิวาทกัน ไม่หยุดหย่อน  จนสังคมพิการไปแล้ว  ตามที่พระพุทธองค์ได้ทรงสอนไว้ มันก็เป็นจริงๆ

                        ถึงอย่างไร ก็ขออนุโมทนา ดร.สุริยา  ที่นำมาบอกกล่าว เป็นการเตือนตัวเอง  ให้ระวังกาย วาจา  ใจ ควบคุมอินทรีย์ ให้อยู่เป็นนิจในทางกุศลธรรม  ดีกว่าปล่อยจิตออกนอกไปรับรู้เรื่องที่ไม่สมควรต่างๆ ครับ

                        หมายเหตุ
                                       ความรู้สึกว่าเป็นนั่น เป็นนี่ กับการรู้สึกตัวในอิริยาบถ(กสย-ใจ)นั้น มันไม่เหมือนกัน การรู้สึกตัวของเรานั้น เราจะทราบในทุกส่วนของรูปว่ามีอะไรมากระทบ หรือเกิดขึ้นทันที เพียงแต่รับรู้ รับทราบด้วยความรู้สึกตัว ปล่อยมัน เฝ้าดูมัน  ใจก็เหมือนกัน เราจะมีความรู้สึกได้ทันทีว่าใจเราคิดอะไร ปล่อยมัน ดูมัน ดูมันด้วยความรู้สึกตัวนี่ละ โดยยึดอุเบกขาเอาไว้ให้มั่น  ด้วยวิริยะ  รู้  ดู  แต่อย่าคิดตาม จะมีแต่ความธรรมดาเท่านั้น และปีติแห่งจิต

                        สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5544 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 08:31:31 »



สถานที่พระโพธิสัตว์ทรงประสูติ  


                            
                               หลายคนถามผมเสมอ ไปอินเดียได้ไปพบ ได้ไปเห็น  ได้ไปรับรู้พลังอะไรบ้างไหม ?

                               ผมก็ตอบไปตามความจริง ว่า ไม่ได้รับรู้อะไรทั้งสิ้น  มีแต่ความเป็นธรรมดา  ได้ทราบว่าพระพุทธเจ้าของเรานั้นมีจริง  ไม่ใช่เป็นเพียงปรัชญา ทางตะวันออก เพราะภูเขา  แม่น้ำ  และซากวัตถุยังหลงเหลืออยู่ไม่เปลี่ยนแปลงไป

                               ได้รู้สึกสังเวชในสิ่งที่เห็น มันก็เป็นไปตามกฏไตรลักษณ์ทั้งสิ้น คือ อนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา

                               ได้รับความทุกข์  แต่ทุกข์นั้นไม่ได้ทำให้เราเสื่อมศรัทธาแต่ประการใด ทุกข์นั้นไม่ชนะจิตเราเลย

                               พลังต่าง ๆ ที่จะรับทราบได้นั้น  ไม่บังเกิดกับผมเลย  มีแต่ความสงบในการปฏิบัติธรรม  ที่ไม่รู้จักง่วงนอน  มีสติแจ่มใส  

                               ไปเพื่อระลึกถึงพระพุทธองค์ เป็นมงคลต่อชีวิต เป็นเครื่องเตือนตัวเอง ว่าไม่ช้า ไม่นาน เราก็ต้องเป็นดังซากอิฐซากปูน นั้น

                               ดังนั้น ต่อไปนี้ต้องอยู่ในความไม่ประมาท  เพราะเวลาเหลือน้อยลงแล้ว

                                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #5545 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 21:23:44 »


เรียน ดร.สุริยา ทราบ

                               ขอแสดงความเสียใจที่ ดร.สุริยา  ประสบอุบัติเหตุ รถชนกับรถ Taxi อาจจะเป็นเพราะขาดสติ  ส่งจิตออกนอก เลยขาดการระวังเท่าที่ควร จึงเกิดอุบัติเหตุ

                               ของแบบนี้มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน   คิดเสียว่า เราเคยทำกรรมกับเขามาก่อนก็แล้วกัน(จะได้สบายใจ) ชาตินี้เราจึงต้องมารับเคราะห์บ้าง เป็นเรื่องนอกกายทั้งนั้น   มันผ่านไปแล้ว  ไม่ต้องคิดอะไร  ก้าวไปข้างหน้าต่อ

                               วันที่ ๘ มีนาคม ไม่มีความจำเป็นทั้งสิ้นที่ ดร.สุริยา จะต้องไปช่วยผม  ผมคนเดียวเอาอยู่แน่นอน  

                               ผมกำลังกลุ้มอยู่เหมือนกัน ดร.เกรียงศักดิ์  สั่งพริตตี้มา ๔ คน(เอารูปมาโชว์) ให้มาทำหน้าที่รินไวน์ โดยเราต้องจ่ายคนละ ๒๐๐๐ บาท  แล้วมาโยนให้ผมดูแล (ผมนึกว่าเขาจะจ่ายเองเสียอีก) ไม่เกี่ยวกับทางพริตตี้ที่จ้างจากคุณอิทธิ มาจัดกอล์ฟ  มันคนละเรื่อง (ธนาวัติ-ดร.นิพนธ์  มันบอกแบบนั้น  ผมก็บอกว่าเงินมันหามายากนะ) ผมจึงต้องจำยอม

                                ขอความกรุณา ดร.สุริยา  บอกคุณกิตติ  เรื่องมาเก็บเงินให้ด้วยครับ อย่าให้เกิน 10:00 น. เพราะต้องจ่ายเงินค่าซะละเปาด้วย  และผมขอโบ้ยต่อให้คุณกิตติ (บอกกิตติ ให้ด้วย)  ดูแลพริตตี้ ๔ คน  แทนผมด้วย เขาจะมากัน ๔ โมงเย็น (ทำงานสามชั่วโมง รับ ๒๐๐๐ บาท) งามจริง ๆ งานนี้

                                ตอนนี้ ทีมยังไม่ครบ  กำลังให้ ดร.นิพนธ์ ตามอยู่ พรุ่งนี้เย็นคงทราบจำนวนที่แน่นอน

                                สวัสดี
           
                   
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #5546 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 21:27:41 »

อ้าว ..  พี่ป๋องประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ บาดเจ็บมากน้อยแค่ไหนคะ พี่สิงห์      sorry
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #5547 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 21:43:32 »

รถเสียหายนิดหน่อย แต่พี่ป๋องไม่เห็นไรเลย
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #5548 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 21:52:02 »

รถคันสีส้มขรึม ๆ ที่หยีเคยนั่งนั่นหรือคะ?

ขอบคุณพระ  ที่พี่ป๋องไม่เป็นอะไร
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #5549 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 22:55:20 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 05 มีนาคม 2555, 21:43:32
รถเสียหายนิดหน่อย แต่พี่ป๋องไม่เห็นไรเลย
เฮ้ออ ... โชคดีที่พี่ป๋องปลอดภัย
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 220 221 [222] 223 224 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><