30 มิถุนายน 2567, 23:09:06
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 20 21 [22] 23 24 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3335985 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #525 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2553, 18:55:05 »

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 13:56:54
...น้องมนตรีคะ...บิลลี่เดอะคิด...คุ้นหูมากๆค่ะ...แต่พี่ตู่ไม่เคยดู...ไม่รู้จักค่ะ...เชยมากๆ...
...แต่เรื่องพล นิกร กิมหงวน...คุ้นหูแน่ๆค่ะ...เพราะเรียนมา...
...พี่สิงห์คะ...ทำตามที่กุศลแนะนำดีที่สุดค่ะพี่...
...หรือไม่งั้นพี่ก็ไปกับอาจารย์ถาวร...ให้รู้แล้วรู้รอด...จะได้หายอยากไปค่ะ...(ทำตามกิเลส)...


ครับพี่ ^_^
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #526 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2553, 18:56:16 »

สวัสดียามค่ำที่แสนทรมารครับ ดร.สุริยา
                         เมื่อวานตอนเที่ยงก่อนแข่งขัน ผมไปซ้อมกอล์ฟที่สนาม Drive เพื่อตรวจสอบวงสวิงให้ถูกต้องและเป็นการยึดกล้ามเนื้อ แต่ก่อนหน้านั้นก็ไปยืนซ้อม Putt มาครึ่งชั่วโมง ผลคือ รู้สึกว่าร่างกายเรามันจะหล้าเกินไป  ติดขัดในการสวิง  แต่ก็ไม่คิดอะไร
                         start 12:30 น. ขณะแข่งขันช่วงแรกแดดร้อนจัดมาก จนเหงื่อออกมากเต็มตัว แต่ภายหลังเล่นไปได้เก้าหลุม ฝนตก  ต้องเล่นกลางฝน และแดดออกจัดอีกจนจบการแข่งขันที่เวลา 17:00 น. รู้สึกเลยว่าไม่สบาย รีบอาบน้ำกลับบ้าน แต่สั่นเป็นลูกนกตกน้ำ กลับถึงบ้านด้วยความย่ามใจจึงไม่ได้รับประทานยาแก้ไขและยาแก้แพ้อากาศ เพราะก่อนหน้านั้นกินยามาอาทิตย์ครึ่งจนเบื่อ
                          04:00 น. พนักงาน Nok Air โทรศัพท์มา check in และเดินทางไปดอนเมือง ขึ้นเครื่อง 06:00 น. มาถึงโรงแรมอาบน้ำ อ่านหนังสือพระไตรปิฎก ไปทำงาน รู้สึกเลยว่าถ้าจะไม่ไหว แอร์เย็น อากาศไม่ถ่ายเท บ่ายสี่โมงขอตัวกลับโรงแรม หยากจะนอนพักแต่ไม่หลับ 17:00 น.ลุกไปอาบน้ำปรากฎว่า ตาแดง  ตัวร้อนมาก หนาว สั่นเป็นลูกนก  จึงรู้ว่าไม่ดีเสียแล้วแสดงว่ามีเชื้อโรคเข้าร่างกายแน่นอน เพราะมีอาการไข้รุนแรง ภายในช่องปากระบมปวดร้าว จึงไปกินข้าวเย็นเป็นข้าวต้ม และกินยาพาราเซทตามอลไปสองเม็ด ขึ้นมาเดินจงกรมให้อาหารย่อยได้สักพัก เดินแบบไม่มีแรง ปวดเหมื่อย จึงขึ้นห้องให้พนักงานโรงแรมไปซื้อยาลอร่าตาดีนแก้แพ้อากาศ มากินเสริม
                        ขณะนี้ลดแอร์ต่ำสุด ใส่เสื้อสามตัว เพราะหนาว มึนศรีษะ  มีความกังวลเหมือนกัน แต่ได้บอกที่เค้าเตอร์โรงแรมว่าอาจารย์ไม่สบายนะ คอยตรวจสอบให้ด้วย จะโทรศัพท์ไปหาหลายชาย หรือน้องเขยก็เกรงใจ เพราะเขาให้เราพักแต่เรากลับซ้อมกอล์ฟอย่างหนักสองอาทิตย์ที่ผ่านมา พอเลิกกินยา มันก็เลยกลับมาหาตัวเองอีก นี่ละนะหมองูตายเพราะงู แต่คิดไปอีกทีหนึ่งเราผิดเองที่ไม่ยอมพักให้หายขาดจริงๆ ทั้งๆทรมานมาเดือนหนึ่งแล้ว ไม่เคยเป็นอย่างนี้เลยนานมากแล้ว  ชีวิตมันก็มีเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดา  ถ้าเราไม่ดูแลร่างกายให้ดี  ขนาดดูแลมากแล้วยังไม่เพียงพอเลย
                        เขียนมานี้จะบอกว่า คนเราเวลาอยู่คนเดียวป่วย มันทรมานใจ  ต้องตัดตัณหาและปล่อยวางอย่างหนัก เพื่อเอาชนะใจตนเองไม่ให้คิดเรื่องเจ็บป่วย
                        อย่าลืมสัญญษ ถ้าข้าตายเองเอาไปเผาด้วย สวดสามวันพอ  ไม่ต้องบอกใคร  ไม่ต้องทำบุญให้ เพราะทำไปมากแล้ว ประกันชีวิตมีสามฉบับ ขอเพียงแค่นี้จริงๆ
                          สวัสดี ราตรีสวัสดิ์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #527 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2553, 19:07:46 »





จะทดลองนั่ง "เจริญสติ" เพื่อรักษา "เวทนา" ที่ได้รับ เพื่อควบคุมอารมณ์ไม่ให้ "สังขารา" ว่ามันจะเป็นไปได้ไหม
สวัสดี
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #528 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2553, 19:24:48 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 18:56:16
สวัสดียามค่ำที่แสนทรมารครับ ดร.สุริยา
...
                        อย่าลืมสัญญา ถ้าข้าตายเองเอาไปเผาด้วย สวดสามวันพอ  ไม่ต้องบอกใคร  ไม่ต้องทำบุญให้ เพราะทำไปมากแล้ว ประกันชีวิตมีสามฉบับ ขอเพียงแค่นี้จริงๆ
                          สวัสดี ราตรีสวัสดิ์
เฮ่ย...ข้าตายก่อนเอ็ง แน่นอน...แต่สั่งเสียพวกน้องๆ เราชาวหอฯไว้แล้ว อย่าห่วง...
เอาเราไปเผาง่ายกว่าสอบมิดเยียร์อีก
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #529 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2553, 20:51:16 »

พี่สิงห์  ไม่ได้อยู่คนเีดียวหรอกครับ  พี่ๆ น้อง ๆ เพียบเลย ทั้งแสดงตัวและไม่แสดงตัว


พวกเรารักและเคารพพี่สิงห์ นะครับ รักษาสุขภาพครับพี่ ...
      บันทึกการเข้า
supapon
มือใหม่หัดเมาท์
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 90

« ตอบ #530 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2553, 23:00:16 »

พี่สิงห์ ระวังเป็นไข้หวัด 2009 กับโรคฉี่หนู นะ ให้หมอตรวจหรือยังคะ

ขอให้หายเป็นปรกติไวไวนะคะ

miew.
ปล.พี่สองคนทำไมต้องแย่งกันตายก่อน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #531 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 07:20:48 »

    
     




วันนี้วันที่ 23 ตุลาคม เป็นวันปิยะมหาราช
เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคต
พระผู้ให้กำเนิด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

       
          พระบาทสมเด็จพระปริมทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามเดิมว่า "สมเด็จเจ้าฬ้าชายจุฬาลงกรณ์ บดินทรเทพมหากุฎ บุรุษยรัตนราชรวิวงศ์ วรุตมพงศ์บริพัตรสิริวัฒนราชกุมาร" เป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๙ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพศิรินทรา บรมราชินี พระบรมราชสมภพเมื่อวันอังคารที่ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๓๙๖
          ทรงได้รับการศึกษาขั้นแรกจากสำนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าบุตรี กรมหลวงวรเสรฐสุดา พระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ ๓ ผู้ทรงรอบรู้ด้านอักษรศาสตร์ และโบราณราชประเพณีอย่างดียิ่ง นอกจากนั้นทรงศึกษาภาษามคธกับพระปริยัติธรรมธาดา(เนียม) เมื่อเป็นหลวงราชาภิรมย์ กรมราชบัณฑิต ทรงศึกษาวิชาการยิ่งปืนไฟจากสำนัก พระยาอภัยศรเพลิง(ศรี) ทรงศึกษาวิชาคชกรรมกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ และวิชาอื่นๆ อันสมควรแก่บรมราชกุมาร
          นอกจากนี้ ได้ทรงศึกษาภาษาอังกฤษ จากชาวต่างประเทศโดยตรง คือ นางแอนนาเลียวโนแวนส์ ครูสตรีชาวอังกฤษ ต่อมาทรงศึกษากับหมอจันดเล ชาวอเมริกัน และ เมื่อเสวยราชสมบัติแล้ว พุทธศักราช ๒๔๑๖ ได้ทรงศึกษา ได้ทรงศึกษากับครูชาวอังกฤษ ชื่อฟรานซิส ยอร์จ แพตเตอสัน ต่อมาก็ทรงพระอุตสาหะศึกษาด้วยพระองค์เองจนมี ความรู้ภาษาอังกฤษอย่างแตกฉาน
          ในด้านวิชารัฐศาสตร์ ราชประเพณีและโบราณคดีนั้น สมเด็จพระบรมชนกนาถเป็นผู้พระราชทานการฝึกสอนด้วยพระองค์เองตลอดมา
          หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๑๑ เหล่าเสนาบดีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พร้อมใจกันอัญเชิญสมเด็จ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ฯ ขึ้นเถลิงราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๕ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
 


 พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ ๑
 
          พระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๑๑ ขณะนั้นทรงพระชนมายุเพียง ๑๔ พรรษา สมเด็จพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ซึ่งขณะมีบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ รับหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ระหว่างนั้นพระองค์ได้เสด็จประพาสต่างประเทศ คือ อินเดีย และชวา เพื่อทอดพระเนตรวิทยาการสมัยใหม่ที่ ประเทศทางตะวันตกนำมาเผยแพร่เพื่อนำเป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศต่อไป
 


  พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ ๒
 
          เมื่อพระชนมายุบรรลุพระราชนิติภาวะ ทรงผนวชเป็นพระภิกษุเป็นเวลา ๒ สัปดาห์ แล้วจึงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๑๖ และนับจากนั้นมาก็ทรงพระราชอำนาจเด็ดขาดในการบริหารราชการแผ่นดิน ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติ ทรงปกครองทำนุบำรุงพระราชอาณาจักรให้มั่นคั่งสมบูรณ์ ดัวยรัฐสมบัติ พิทักษ์พสกนิกรให้อยู่เย็นเป็นสุข บำบัดภัยอันตรายทั้งภายในภายนอกประเทศ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่างๆ อันก่อให้เกิดคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์และสามารถธำรงเอกราชไว้ตราบจนทุกวันนี้
<<กลับ

--------------------------------------------------------------------------------
 
อ้างอิง
คณะกรรมการสวัสดิการ สำนักนายกรัฐมนตรี. ๒๕๔๖. เทิดพระเกียรติ ๑๕๐ ปี สมเด็จพระปิยมหาราช. กรุงเทพฯ. คณะกรรมการสวัสดิการ สำนักนายกรัฐมนตรี.
สุภักดิ์ อนุกูล. 2530. วันสำคัญของไทย.กุรงเทพฯ. อักษรบัณฑิต.
 
ภาพประกอบ
คณะกรรมการสวัสดิการ สำนักนายกรัฐมนตรี. ๒๕๔๖. เทิดพระเกียรติ ๑๕๐ ปี สมเด็จพระปิยมหาราช. กรุงเทพฯ. คณะกรรมการสวัสดิการ สำนักนายกรัฐมนตรี.

 
 


            
 
 
  
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #532 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 10:22:29 »

...พี่สิงห์เข้ามาโพสท์...แสดงว่าหายแล้ว...
...รักษาสุขภาพค่ะ...พี่สิงห์อย่าหักโหมมาก...
...คนเราจะรู้ตัวเองเสมอว่าตอนนี้อ่อนแอหรือแข็งแรงแค่ไหน...
...ถ้านั่งสมาธิมากแล้วเครียด...จะดูหนังดูละครบ้างก็ได้นะพี่...
...หลวงพ่อบอกเป็นธรรมชาติของจิต...ปล่อยมันออกนอกบ้าง...
...พอรู้ตัวแล้ว...ก็เรียกเข้ามา...
...ไม่บังอาจสอนพี่สิงห์นะคะ...เพราะว่าพี่น่ะอยู่ใกล้พระไตรปิฎก...
...ว่างๆขอยืมอ่านบ้างค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #533 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 10:28:14 »

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 18:30:52
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 15:03:08
...ชอบประโยคทีเด็ด...ประโยคสุดท้ายจังเลยค่ะ...พี่สิงห์...
...ความดีก็เหมือนกางเกงใน...ต้องมีติดตัวไว้...แต่ไม่ต้องเอามาโชว์...
...ขืนเอามาโชว์...ก็ขายหน้าแย่เลยค่ะ...
...โดยเฉพาะผู้หญิง...จะต้องกลัวโดนล้อว่า...วันนี้ใส่กางเกงในสี...เหรอ...
...เปรียบเทียบได้ดีจริงๆค่ะ...


สงสัยซุปเปอร์แมน เธอ บินผ่านมาอ่าน เธอเลยเลิกโชว์กางเกงในไว้ข้างนอกแล้วครับ ^_^





...ผ้าขะม้าแดง...เห็นแล้วคิดถึงใครน้อ...
...น้องดร.มนตรีเกิดไม่ทันแน่...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #534 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 12:45:15 »

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 23 ตุลาคม 2553, 10:28:14
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 18:30:52
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 15:03:08
...ชอบประโยคทีเด็ด...ประโยคสุดท้ายจังเลยค่ะ...พี่สิงห์...
...ความดีก็เหมือนกางเกงใน...ต้องมีติดตัวไว้...แต่ไม่ต้องเอามาโชว์...
...ขืนเอามาโชว์...ก็ขายหน้าแย่เลยค่ะ...
...โดยเฉพาะผู้หญิง...จะต้องกลัวโดนล้อว่า...วันนี้ใส่กางเกงในสี...เหรอ...
...เปรียบเทียบได้ดีจริงๆค่ะ...


สงสัยซุปเปอร์แมน เธอ บินผ่านมาอ่าน เธอเลยเลิกโชว์กางเกงในไว้ข้างนอกแล้วครับ ^_^





...ผ้าขะม้าแดง...เห็นแล้วคิดถึงใครน้อ...
...น้องดร.มนตรีเกิดไม่ทันแน่...

"จอมพลผ้าขาวม้าแดง" ใช่ไหมครับ ^_^



จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 หลังจากการทำรัฐประหารรัฐบาลของจอมพลถนอม กิตติขจร

ในช่วงที่บริหารประเทศ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ได้ประกาศยกเลิกสถาบันทางการเมืองต่าง ๆ เช่น พรรคการเมืองลง โดยกล่าวว่า "ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว" ทั้งยังได้สร้างผลงานทั้งทางด้านการปรับปรุงการบริหารและการพัฒนาประเทศไว้ มากมาย ผลงานที่สำคัญ ๆ ได้แก่ การออกกฎหมายเลิกการเสพและจำหน่ายฝิ่นโดยเด็ดขาด กฎหมายปราบปรามพวกนักเลง อันธพาล กฎหมายปรามการค้าประเวณี และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศ ทำการศึกษา ค้นคว้า วิจัย จนกระทั่งได้จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศฉบับที่ 1 (ปี พ.ศ. 2504 - พ.ศ. 2509) ซึ่งแผนดังกล่าวเป็นแม่แบบของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับต่อ ๆ มาจนถึงปัจจุบัน มีการสร้างสาธารณูปโภคสำคัญที่เป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิต เช่น ไฟฟ้า, ประปา, ถนน ให้กระจายไปทั่วทั้งในเมืองและชนบท ซึ่งเรียกว่า "น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก"

จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2506 ที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ด้วยโรคไตพิการเรื้อรัง รวมอายุได้ 55 ปี และเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวที่เสียชีวิตลงในขณะที่ดำรงตำแหน่ง ซึ่งหลังการเสียชีวิตสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยได้เปิดเพลง "พญาโศก" เป็นการไว้อาลัยแก่ท่านด้วย

จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มีฉายาว่า "จอมพลผ้าขาวม้าแดง" นับเป็นนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำของคนไทย เพราะตลอดระยะเวลาที่ครองตำแหน่งและมีบทบาท ท่านได้ใช้มาตรการเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด เพื่อจัดการความสงบเรียบร้อยของประเทศ เช่น ประหารชีวิตเจ้าของบ้านทันที หลังจากบ้านใดเกิดเพลิงไหม้ เพราะถือว่าเป็นการก่อความไม่สงบ การใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 17 การปราบปรามการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นผู้ที่รื้อฟื้นกิจกรรมที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น จัดงานเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพ การสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ การประดับไฟบนถนนราชดำเนินในวันเฉลิมพระชนม์พรรษา เป็นต้น

นอกจากนี้แล้ว ในระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของจอมพลสฤษดิ์ ประเทศไทยได้เกิดมีกรณีพิพาทกับประเทศกัมพูชา เพื่อนบ้าน ในกรณีประสาทเขาพระวิหาร ในศาลโลก ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการเรื่ยรายเงินบริจาคจากประชาชนชาวไทยคนละ 1 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีในศาลโลก ซึ่งในคำตัดสินของศาลโลก ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2505 ได้ตัดสินให้ตัวปราสาทเขาพระวิหารตก เป็นของกัมพูชา ซึ่งหลังจากทราบคำตัดสินของศาลโลกแล้ว จอมพลสฤษดิ์ได้มีแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้แก่ประชาชนชาวไทยด้วยตนเองผ่าน ทางวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


ที่มา: http://th.wikipedia.org
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #535 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 12:51:21 »

พี่สิงห์ พอจะเล่าเรื่องของ จอมพลท่านนี้ให้น้องๆฟังบ้างได้ไหมครับ ^_^
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #536 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 14:27:35 »

...ตอนท่านถึงแก่อสัญกรรม...พี่ตู่อายุแค่ 10 ขวบ...
...แต่หนังสือพิมพ์ขายข่าวท่านได้เป็นปีๆ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #537 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 14:51:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ supapon เมื่อ 22 ตุลาคม 2553, 23:00:16
พี่สิงห์ ระวังเป็นไข้หวัด 2009 กับโรคฉี่หนู นะ ให้หมอตรวจหรือยังคะ

ขอให้หายเป็นปรกติไวไวนะคะ

miew.
ปล.พี่สองคนทำไมต้องแย่งกันตายก่อน
ตอบง่ายมากเลยครับคุณน้องเหมียว
1-ตายก่อนก็จะได้ไม่ต้องห่วงว่า จะไม่มีคนจัดการเรื่องเอาศพไปเผาให้
2-ตายก่อนสบายกว่าล้วนๆ ไม่ต้องลำบากเอาอีกฝ่ายไปเผาแน่นอนเลย
จริงไหมครับ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #538 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 15:15:47 »

สวัสดีคุณน้องตู่
                        เมื่อคืนลุกมากินยาแก้ไข้ตอนห้าทุ่ม ณ ขณะนี้อยู่สนามบินนครศรีธรรมราช รู้สึกว่ายังมีไข้  เพราะไม่ได้รับประทานยาแก้อักเสบ เมื่อเช้าตื่นมาพยายามออกกำลังกายตอนหกโมงเช้า รำ TAI  CHI  SALEE YOKA และโยคะท่านมัสการพระอาทิตย์สองรอบ และนั่งเจริญสติ จนแดดจ้าจึงไปรับประทานอาหารเช้า ประชุมที่โรงงานช่วงเช้าใช้เสียงมากทำให้กลับมาเป็นไข้ต่ออีกรอบครับ
                        เหตุที่เข้ามาโพสต์เมื่อเช้าเพราะวันนี้เป็นวันปิยะมหาราช ครับ เสียดาย ดร.มนตรี  ไม่ควรพูดถึง จอมพลสฤษดิ์  ในวันนี้ (พี่สิงห์จะไม่พูดถึงในวันนี้) ควรจะมารำลึกถึงพระปิยะมหาราชดีกว่า  ปีหนึ่งคิดถึงบุญคุณท่านสักครั้งหนึ่งครับ ไม่มีความดำริจากท่าน  พวกเราก็คงไม่มีจุฬาฯ  ไม่ได้มีโอกาสเรียน จุฬาฯ ครับ
                        สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #539 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 15:18:20 »

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 23 ตุลาคม 2553, 12:51:21
พี่สิงห์ พอจะเล่าเรื่องของ จอมพลท่านนี้ให้น้องๆฟังบ้างได้ไหมครับ ^_^

สวัสดี ดร.มนตรี
                         วันนี้เป็นวันปิยะมหาราช   พี่สิงห์รำลึกถึงแต่บุญคุณของท่านเท่านั้นครับ เพราะพี่สิงห์ได้เรียนที่ จุฬาฯ
                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #540 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 15:19:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 23 ตุลาคม 2553, 15:18:20
อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 23 ตุลาคม 2553, 12:51:21
พี่สิงห์ พอจะเล่าเรื่องของ จอมพลท่านนี้ให้น้องๆฟังบ้างได้ไหมครับ ^_^

สวัสดี ดร.มนตรี
                         วันนี้เป็นวันปิยะมหาราช   พี่สิงห์รำลึกถึงแต่บุญคุณของท่านเท่านั้นครับ เพราะพี่สิงห์ได้เรียนที่ จุฬาฯ
                         สวัสดี

ครับพี่ิสิงห์ ^_^
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #541 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 15:25:05 »

 sorry



      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #542 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 15:30:08 »

สวัสดีครับคุณเหมี่ยว
                         ขอบคุณมากที่เป็นห่วง
                         พี่สิงห์ไม่มีอะไรแล้วในชีวิตนี้ อยู่เพื่อรอวันตายเท่านั้น ไม่โลภอะไรอีกแล้ว อยู่นานก็ลำบากทั้งตัวเองและหลานๆ และเพื่อนๆ นี่คือความจริง อย่างคนที่เขามีครอบครัวเขาอยู่เพื่อดูความสำเร็จ(ในทางวัตถุ  ร่ำรวยเงินทอง) ของลูกหลาน จึงอยู่นานๆ
                         ความหยากมี  หยากเป็น หยากได้  ไม่ต้องการแล้ว ขออยู่อย่างพอเพียง  ไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร ก็เพียงพอแล้วครับ ตอนนี้หยากตัดขาดโลกภายนอกให้มากๆ จิตจะได้เป็นสุข ยิ่งเกี่ยวข้องมากยิ่งก่อกิเลสมาก เพราะมันอดไม่ได้ จิตมันชอบสังขาร ไปเรื่อยๆ เผลอแปรบเดียวตกเป็นทาษของมันโดยไม่รู้ตัว  ทั้งๆ ที่คอยเตือนตัวเองเสมอว่า อย่าเป็นทาษของจิตตัวเอง คือ กระทำตามที่จิตมันคิดของมันไปตามอารมณ์ ต้องไม่ทำตามมันคิด  เราต้องอยู่กับปัจจุบัน
                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #543 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 15:30:34 »


 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือกำเนิดจาก “โรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2442 ณ ตึกยาว ข้างประตูพิมานชัยศรี ในพระบรมมหาราชวัง ด้วยมีพระราชปรารภที่จะทรงจัดการปกครองพระราชอาณาจักรให้ทันกาลสมัย จึงจัดตั้งโรงเรียนเพื่อฝึกหัดนักเรียนสำหรับรับราชการปกครองขึ้นในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งนักเรียนที่จบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้ จะได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กรับ ราชการใกล้ชิดพระองค์ และด้วยประเพณีโบราณที่ข้าราชการจะถวายตัวเข้าศึกษางานในกรมมหาดเล็ก ก่อนที่จะออกไปรับตำแหน่งในกรมอื่น ๆ ดังนั้น พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนนามโรงเรียนเป็น “โรงเรียนมหาดเล็ก” เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2445

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริที่จะขยายการจัดการศึกษา เพื่อผลิตนักเรียนไปรับราชการในกระทรวง ทบวง กรมอื่น ๆ ไม่เฉพาะกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกโรงเรียนมหาดเล็กเป็นโรงเรียนข้าราชการพลเรือน โดยใช้วังวินด์เซอร์เป็นสถานที่ประกอบการเรียนการสอน และสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2453 พร้อมทั้ง พระราชทานนามโรงเรียนแห่งนี้ว่า “โรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระ ราชดำริจัดตั้งขึ้น และได้ใช้เงินคงเหลือจากการที่ราษฎรเรี่ยรายกันเพื่อสร้างพระบรมรูปทรงม้านั้น มาใช้เป็นทุนของโรงเรียนแห่งนี้ นอกจากนี้ ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดที่ดินพระคลังข้างที่รวมเนื้อที่ทั้งสิ้น 1,309 ไร่เป็นเขตโรงเรียน โดยมีการจัดการศึกษาใน 5 โรงเรียน (คณะในปัจจุบัน) ได้แก่ โรงเรียนรัฎฐประศาสนศาสตร์ โรงเรียนคุรุศึกษา โรงเรียนราชแพทยาลัย โรงเรียนเนติศึกษา และโรงเรียนยันตรศึกษา

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริเห็นสมควรที่จะขยายการศึกษาในโรงเรียนข้าราชการพลเรือนฯ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น คือ ไม่เฉพาะสำหรับผู้ที่จะเล่าเรียนเพื่อรับราชการเท่านั้น แต่ผู้ใดที่มีความประสงค์จะศึกษาขั้นสูงก็สามารถเข้าเรียนได้ทั่วถึงกัน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐานโรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้า อยู่หัว ขึ้นเป็นมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2459 พร้อมทั้งพระราชทานนามว่า “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เพื่อเป็นอนุสาวรีย์สมพระเกียรติแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


ระหว่างปี พ.ศ. 2459 - 2465 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีการปรับปรุงมาตรฐานการศึกษาระดับประกาศนียบัตร พร้อมกับเริ่มเตรียมการเรียนการสอนระดับปริญญา โดยขณะนั้นจัดการศึกษาเป็น 4 คณะ ได้แก่ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ในปัจจุบัน) คณะวิศวกรรมศาสตร์ และ คณะอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และในระหว่างปี พ.ศ. 2481 - 2490 เริ่มเน้นการเรียนการสอนอันเป็นพื้นฐานของวิชาชีพในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยมีการจัดตั้งเตรียมมหาวิทยาลัย คือ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ในปัจจุบัน)

เมื่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงด้านภาษาและหนังสือหลายประการ เช่น ยกเลิกการใช้อักษร "ฬ" ให้ใช้ "ร,ล" แทน และ ยกเลิกการใช้ "ณ" ให้ใช้ "น" แทน  ดังนั้น จึงได้ปรากฏการเขียนชื่อมหาวิทยาลัยในรูปแบบอื่นอีก ได้แก่ "จุลาลงกรน์มหาวิทยาลัย" ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงไปตามสมัยนิยม อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ ในปี พ.ศ. 2487 ก็มีการประกาศยกเลิกการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และให้กลับไปใช้การเขียนภาษาในรูปแบบเดิม การเขียนชื่อมหาวิทยาลัยจึงกลับเป็นแบบเดิม

หลังจากนั้น ในช่วงพ.ศ. 2497 - พ.ศ. 2514 ยังสามารถพบการเขียนนามมหาวิทยาลัยว่า "จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย" ซึ่งไม่มีเครื่องหมายทัณฑฆาตที่ "ณ" เช่น พระราชบัญญัติจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ฉบับที่ 4, 5 และ 6

ระหว่างปี พ.ศ. 2491 - 2503 มหาวิทยาลัยก็ได้ขยายการศึกษาไปยังสาขาต่าง ๆ ให้กว้างขวางขึ้นโดยเน้นการศึกษาในระดับปริญญาตรีเป็นหลัก และตั้งแต่ พ.ศ. 2504 - ถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยได้ขยายการศึกษาระดับปริญญาตรีอย่างกว้างขว้าง พร้อมกับพัฒนาการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา และก่อตั้งหน่วยงานต่างๆ เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนและงานบริการทางวิชาการแก่สังคม


ที่มา: http://th.wikipedia.org
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #544 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 16:55:38 »

สวัสดีค่ะ พี่สิงห์ .. หายไว ๆ นะคะ      หึหึ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #545 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 21:13:19 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องลูกหยี และชาวเวบที่รักทุกท่าน
                          พี่สิงห์อยู่กรุงเทพฯ แล้ว ช่วงอยู่บนเครื่องไข้ขึ้นสูง ปวดหูมาก ได้แต่ทำใจทนเอา ไม่คิดถึงมัน พอถึงบ้านก็รับประทานยาแก้ไข้  ยาแก้แพ้อากาศ และยาฆ่าเชื้อ ขณะนี้ก็ยังรู้สึกว่ามีไข้อยู่ เป็นยาที่เหลือที่โรงพยาบาลสิงห์บุรีให้มาครับ ช่วงนี้คงเป็นต่อไปอีกอาทิตย์แน่ๆ ไม่ได้เจ็บคอเพราะทอลวิล แต่คอบวมเนื่องจากการอักเสบเรื้อรังต่อเนื่อง อากาศเปลี่ยนระหว่างกรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช คอบวมจากการใช้เสียงมากในการทำงานต่อเนื่อง และเป็นไข้  ไม่มีน้ำมูก   ไม่ไอ   ไม่มีสะเลด แต่มีอาการปวดตามข้อและกล้ามเนื้อเหมือนกันแต่ไม่มาก ครับ
                          คงต้องพักผ่อนให้มากกว่าเดิม  เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้คุยกับคุณสนธิ์   ชมดี  ไว้ว่าจะไปเยี่ยม พักผ่อนที่เขาค้อทะเลภูสักสาม-สี่วัน หาโอกาสนั่งเจริญสติ  ดูแลร่างกาย เพราะสภาพทุกอย่างให้  ถ้าเดินทางไม่เกินชั่วโมง  พี่สิงห์ไปนอนรักษาตัวที่นั่นแล้ว เพราะชอบตรงไม่มีแอร์ อาหาร  สถานที่ ครับ
                          ขอบคุณทุกท่านครับ ราตรีสวัสดิ์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #546 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 21:15:34 »




ขอขอบคุณ ดร.มนตรี ที่เอาเนื้อหาของพระปิยะมหาราช มาให้พวกเราได้รำลึกถึง  พี่สิงห์ไม่มีความสามารถซอกแซกไปหามาได้หรอกครับ
ขอบคุณ และราตรีสวัสดิ์
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #547 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 21:25:09 »



ถ่ายมาจากเรื่อพระตำหนัก ครับ sorry
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #548 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2553, 21:45:55 »

http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=13722
พบพระไตรปิฎก ร.5 พิมพ์อักษรสยาม–โรมันชุดแรกของโลก




นักวิชาการจุฬาฯ พบ พระไตรปิฎกฉบับจุลจอมเกล้าบรมธรรมิกมหาราช พ.ศ.2436 (รศ.112) รัชกาลที่ 5 พิมพ์ภาษาบาลี อักษรสยาม เทียบเสียงเป็นอักษรโรมัน พิมพ์ชุดแรกของโลก พระราชทานแก่สถาบันสำคัญในต่างประเทศกว่า 260 แห่งทั่วโลก ถือเป็นชุดหายาก มีคุณค่าสูง จัดพิมพ์เผยแพร่ความรู้ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
      
        รศ.ดร.สุภาพรรณ ณ บางช้าง (อ.แม่ชีวิมุตติยา) ประธานหอพระไตรปิฎกนานาชาติ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยพบพระไตรปิฎกฉบับนี้ ว่า ก่อนหน้านี้ หอพระไตรปิฎกฯ ได้ทำการรวบรวมพระไตรปิฎกฉบับต่างๆ ทั้งที่เก่าหายาก เช่น พระไตรปิฎกสุวรรณภูมิ ไทเขิน ล้านนา เชียงตุง และของใหม่ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ถึงรัชกาลที่ 5 ได้มาจากผู้มีจิตศรัทธานำมามอบให้ และค้นคว้าหอสมุดแห่งชาติเพิ่มเติม ที่หอสมุดได้พบพระไตรปิฎกฉบับจุลจอมเกล้าบรมธรรมิกมหาราช พ.ศ.2436 (รศ.112) รัชกาลที่ 5 จึงขออนุญาตทางหอสมุดถ่ายสำเนานำมาจัดพิมพ์ไว้ในหอพระไตรปิฎกฯ
      
       ดร.สุภา พรรณ กล่าวอีกว่า เมื่อทำการศึกษาพบว่าเป็นพระไตรปิฎกชุดหายากมีคุณค่าสูง พิมพ์ชุดแรกของโลก พิมพ์เป็นภาษาบาลี อักษรสยาม นำไปเทียบเสียงเป็นอักษรโรมัน ให้อัญเชิญพระราชนิพนธ์คาถาสรรเสริญพระรัตนตรัยในรัชกาลที่ 4 แสดงในอักษรโรมันด้วย เพื่อเป็นตัวอย่างการเทียบพยัญชนะและการออกเสียงอักษรไทย-บาลี กับอักษรโรมัน-บาลี เช่น พุท์โธ เป็น Buddho วัน์ทามิ เป็น Vandámî พระราชทานแก่สถาบันสำคัญในต่างประเทศกว่า 260 แห่งทั่วโลก เช่น อเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษ สวีเดน ออสเตรเลีย ฯลฯ ในเอเชีย ญี่ปุ่น ศรีลังกา อินเดีย และพระราชทานไปยังวัดต่างๆ 500 วัดทั่วประเทศ เพื่อเฉลิมฉลองครองราชย์ครบรอบ 25 ปีของพระองค์
      
       ดร.สุภา พรรณ กล่าวต่อว่า สาเหตุรัชกาลที่ 5 พิมพ์พระไตรปิฎกฉบับนี้ ทรงเห็นว่า รอบบ้านเราเวลานั้นกำลังตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกไปหมดแล้ว พระองค์ทรงเห็นบ้านเราคงจะไม่ปลอดภัย จึงได้เชิญพระเถระผู้ใหญ่ เสนาบดี ข้าราชการทุกฝ่ายมาประชุม ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ทำอย่างไรจึงจะช่วยกันปกปักรักษาเอกราชของชาติไว้ให้ได้ พระไตรปิฎกฉบับนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาอธิปไตยของชาติ ได้ประกาศให้นานาชาติรู้ว่าประเทศสยามนับถือพระพุทธศาสนา
      
       “หอ พระไตรปิฎกฯ ร่วมกับศูนย์หนังสือจุฬาฯ จัดทำหนังสือชื่อ นโม ไตรสรณคมน์ โครงการแปลและศึกษาพระไตรปิฎก ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ได้สำเนาอักษรสยาม-โรมัน มาใส่ไว้ และมีพระไตรปิฎกฉบับต่างๆ รวมอยู่ในหนังสือ นำมาเผยแพร่ให้แก่สถาบันการศึกษาและผู้สนใจทั่วไป”
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #549 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2553, 07:16:10 »

สวัสดีครับ ชาวเวบที่รักทุกท่าน
                        ขอขอบคุณ ดร.มนตรี  ที่อุตส่าห์ไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติม เพื่อรำลึกถึงพระคุณของท่าน วันปิยะมหาราช

                        วันนี้พี่สิงห์ตื่นหกโมงเช้ามารับประทานยาก่อนอาหาร หุงข้าวต้มเป็นอาหารเช้า ช่วงที่รอข้าวต้มสุขก็โพสต์การรำกระบอง 12 ท่าของป้าบุญมี   เครือรัตน์  เพื่อให้ท่านที่สนใจลองทำดู จะได้ลดความอ้วน รูปร่างดี และข้อเข่าไม่เสียแบบการเต้นแอโรบิค ขอเชิญทุกท่านติดตามอ่านได้ที่กระทู้ "ฝึกตันเถียนโยคะ" กับพี่สิงห์ครับ
                        เมื่อคืนรู้สึกว่า จะมีไข้ทั้งคืน วันนี้อยู่บ้านเพื่อพักผ่อน อีกสอง สามวัน คงดีขึ้นครับ
                        สวัสดียามเช้าครับทุกท่านครับ


สวัสดียามเช้าค่ะ คุณน้องลูกหยี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 20 21 [22] 23 24 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><