23 พฤศจิกายน 2567, 04:45:22
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 132 133 [134] 135 136 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3551546 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 12 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #3325 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 02:04:34 »

http://www.thaiflood.com/floodmap
ไม่ทราบว่าติดตามแผนที่ที่ไซต์นี้กันหรือเปล่าครับ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #3326 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 04:04:22 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 05 ตุลาคม 2554, 21:01:11
รายงานข่าวน้ำท้วม

                    

                          สำหรับผมนั้น พยายามเขียน วิเคราะห์น้ำท้วม อย่างใจเป็นกลาง เป็นการมองต่างมุม ผมไม่ไปคิดปรุงแต่งอะไรเลยในสิ่งที่เกิดขึ้น เขียนแล้วก็แล้วกันไปเราแสดงความคิดเห็นไปเขาก็ไม่ทำตามอยู่แล้ว มันไม่มีผลทั้งนั้น เป็นความรู้ เขียนผ่านไป ก็ลืมมันทันทีเพราะเป็นอดีต ผมจึงไม่ทุกข์อะไรเลย ผมก็อยากให้ทุกท่านเป็นแบบผม อย่าไปคิดปรุงแต่งมัน หรือวิตกกังวลในสิ่งที่มาไม่ถึง เราทำอะไรมันไม่ได้ทั้งนั้น เพราะเราไม่ได้เป็นผู้กระทำ เราเป็นผู้ได้รับผลจากการกระทำของคนอื่น และเราก็ว่าเขาไม่ได้ และไม่มีประโยชน์เสียด้วย ถือว่าเป็นกรรมนี่ละดี มันจะได้ยุติที่ตัวเรา ไม่คิดปรุงแต่งให้เกิดทุกข์ ครับ

                          วันนี้หลายฝ่ายออกมายืนยัน รวมทั้งคุณปราโมทย์  ไม่กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน บอกว่ารับรองน้ำไม่ท้วม กทม.ชั้นใน และขณะนี้ร่องความกดอากาศสูง (มวลอากาศเย็น) ได้แผ่ลงมาลงไปถึงอ่าวไทยแล้ว มีผลทำไห้ภาคเหนือ ภาคกลางปริมาณฝนจะหมดไปแล้วครับ

                           อดทนเข้าไว้นะครับสำหรับท่านที่ถูกน้ำท้วม  โชคดีครับ

                           พรุ่งนี้ผมต้องไปสิงห์บุรีไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี หนึ่งวัน เพื่อให้คนที่ดูแลแม่ไปโอนที่ดินที่อุทัยธานี ครับ

                           ราตรีสวัสดิ์ครับ



พี่สิงห์ขราาา
เค้ายิ่งเครียดๆกันเรื่องน้ำท้วม...
หนิงอยากเครียดไปด้วยคะ(เพื่อกวามสมจริง!)
พอเข้ามาอ่านสถานการณ์น้ำท้วมที่นี่...
..
..
ตกลงคุณปราโมทย์ ท่านอดีตอธิบดีของเรา..
กลัดหรือไม่กลัดคะ?
..
..
ไม้กลัดไม่ไช่เหรอพี่??
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #3327 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 04:25:03 »



แม่นแน่...
หนูรับประกัน...







ว่า"กลัด"คะ
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #3328 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 04:46:10 »

บอกแล้ว...ว่าsheชอบ"ล้วง"
..
..
อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2483
ที่บ้านแขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ  เข้าเรียนที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ธนบุรี
และโรงเรียนอำนวยศิลป์ที่เขตพญาไท
ตามลำดับ เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8 แล้ว
ได้เข้าเรียนที่คณะวิศวกรรมชลประทาน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ใน พ.ศ. 2501
จนจบปริญญาช่างชลประทานบัณฑิต (เกียรตินิยม) ใน พ.ศ. 2506

..
..
รุ่นพี่พี่ไข่-กมล พี่ชายหนิง
และรุ่นพี่พี่สิงห์ด้วย!
..
..
ฮั่นแน่




<a href="http://122.155.18.14/~zp00000612/mediaplayer.swf?file=http://videolink.nationchannel.com/data/1/2011/10/07/7fk8afb8a6fh5hbeabaaa.mp4" target="_blank">http://122.155.18.14/~zp00000612/mediaplayer.swf?file=http://videolink.nationchannel.com/data/1/2011/10/07/7fk8afb8a6fh5hbeabaaa.mp4</a>


 
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3329 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 05:07:16 »

อรุณสวัสดิ์ ค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                       ขอบคุณมากที่แก้ไขให้ถูกต้อง เพราะบางครั้งลืมตรวจสอบครั้งที่สอง ครับ

                       ขณะนี้เวลา 05:06 น. พี่สิงห์อยู่ที่สนามบินดอนเมือง รอขึ้นเครื่องไปนครศรีธรรมราช ครับ

                       สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3330 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 05:08:45 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 07 ตุลาคม 2554, 02:04:34
http://www.thaiflood.com/floodmap
ไม่ทราบว่าติดตามแผนที่ที่ไซต์นี้กันหรือเปล่าครับ

                ไม่รู้จัก ผมไม่ใช่นักท่องเวบ แต่ก็ขอบคุณมาก
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3331 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 08:23:25 »

 
รู้ประวัติ พุทธสาวก อรหันต์ เอตทัคคะ

ลำดับที่ ๒๘

พระพาหิยเถระ

เอตทัคคะในทางขิปปาภิญญา

(ตรัสรู้เร็วพลัน)

                       พระพาหิยะ เกิดในวรรณแพศย์ ตระกูลกุฎุมพี แคว้นพาหิยะ คงจะเรียกชื่อท่านตามชื่อแคว้น เมื่อเจริญวัยขึ้นได้ประกอบอาชีพค้าขายตามบรรพบุรุษ เนื่องจากมีถิ่นฐานอยู่แถบชายฝั่งทะเล จึงอาศัยเรือเดินทะเลบรรทุกสุวรรณภูมิ อันตั้งอยู่ในแคว้นกัมโพชะ อินเดียตอนเหนือ ท่าจอดเรือรับส่งขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือสุปปารกะ ในอปรันตชนบท

                         • เรือแตกแต่รอดตาย

                         การเดินเรือค้าขายเป็นไปตามปกติตลอดมา แต่วันหนึ่งขณะที่เรือกำลังเล่นอยู่ในทะเลใกล้จะถึงท่าสุปปารกะ ได้มีลมพายุเกิดคลื่นใหญ่ซัดเรืออับปางลงลูกเรือตายทั้งหมด พาหิยะ คนเดียวเท่านั้นที่อาศัยเกาะแผ่นกระดานสามารถพยุงกายมิให้จมน้ำตายเป็นเหยื่อปลาในทะเล พยายามกระเสือกกระสนประคองกายเข้ามาถึงฝั่งที่ท่าสุปปารกะได้ แต่พาหิยะก็มาถึงท่าเพียงตัวเท่านั้น เสื้อผ้าที่สวมใส่หลุดหายไปในทะเล เหลือแต่ร่างกายที่เปลือยเปล่า ณ บริเวณท่าเรือสุปปาระกะนั้น มีพ่อค้าประชาชนหนาแน่น เพราะเป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าและการค้าขาย พาหิยะ นอนหมดแรงอยู่ที่ชายฝั่งทั้งหิวทั้งเพลีย นอนคิดหาหนทางเพื่อเอาชีวิตรอดต่อไป แต่รู้สึกเขินอายที่ร่างกายเปลือยเปล่า ไม่มีสิ่งใดปิดบังร่างกายเลย จึงใช้เปลือกไม้บ้างใบไม้บ้าง เท่าที่จะหาได้มาทำเป็นเครื่องปิดบังแทนเครื่องนุ่งห่ม และได้เข้าไปอาศัยร่มเงาที่ศาลเทพารักษ์แห่งหนึ่งใกล้ ๆ บริเวณท่าเรือสุปปารกะนั้น พอความเหนื่อยเพลียบรรเทาลงแล้ว จึงถือแผ่นกระเบื้องเที่ยวขออาหารจากชาวบ้าน
 
                         • อรหันต์เปลือย

                         ในยุคสมัยนั้นคำว่า “พระอรหันต์” เป็นคำที่ประชาชนกล่าวขานกันทั่วไปว่า มีอยู่ที่โน่นบ้าง มีอยู่ที่นี่บ้าง แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดได้เคยพบพระอรหันต์จริง ๆ เลย พอได้เห็นพาหิยะผู้นุ่งเปลือกไม้ มีร่างกายผ่ายผอม ถือแผ่นกระเบื้องเดินมาในลักษณะอย่างนั้น ต่างก็พากันเข้าใจว่า “นี่แหละ คือ พระอรหันต์” ดังนั้นจึงพากันให้อาหารบริโภคอย่างอุดมสมบูรณ์ พร้อมทั้งเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ทำให้พาหิยะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น แต่พาหิยะปฏิเสธไม่ยอมรับเสื้อผ้ามาสวมใส่ เพราะเกิดความคิดว่า “ถ้าสวมใส่เสื่อผ้าแล้ว จะทำให้เสื่อมจากลาภสักการะ” อีกทั้งก็เริ่มเข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นพระอรหันต์จริง ๆ จึงดำรงชีวิตและปฏิบัติตนไปตามนั้น ใบไม้และเปลือกไม้ที่แห้งไปก็เปลี่ยนใหม่ ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้นามต่อท้ายชื่อของท่านว่า “ทารุจิริยะ” และเรียกชื่อท่านเต็ม ๆ ว่า “พาหิยทารุจิริยะ” ซึ่งแปลว่า พาหิยะผู้มีเปลือกไม้เป็นเครื่องนุ่งห่ม และท่านได้ดำเนินชีวิตโดยทำนองนี้เรื่องมาเป็นเวลานาน

                        • พระพรหมมาเตือนให้กลับใจ

                        วันหนึ่ง ได้มีพระพรหม ผู้เคยเป็นสหายเก่าที่เคยปฏิบัติธรรมร่วมกันในอดีตชาติกับพาหิยะ และได้บรรลุธรรมถึงชั้นอนาคามิผล เมื่อตายแล้วได้ไปเกิดในพรหมชั้นสุทธาวาส ได้ติดตามดูพฤติกรรมของพาหิยะมาตลอด เห็นว่าสหายกำลังปฏิบัติผิดทาง ดำเนินชีวิตด้วยการลวงโลก ซึ่งจะทำให้เขาไปเกิดในทุคติอบายภูมิ จึงลงมาเตือนให้สติว่า “พาหิยะ ท่านไม่ใช่พระอรหันต์ บัดนี้ พระอรหันต์ที่แท้จริงเกิดขึ้นแล้วในโลกขณะนี้ พระองค์ประทับอยู่ ณ พระเชตะวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี แคว้นโกศล”

                        • เดินทางทั้งวันทั้งคืน

                        พาหิยะ ได้ฟังคำเตือนของพระพรหมผู้เป็นสหายเก่าแล้วเกิดความสลดใจในการกระทำของตนเอง รู้สึกสำนึกผิดเลิกละการกระทำนั้น และเกิดความปิติยินดีที่ทราบว่า พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นแล้วในโลก จึงรีบออกเดินทางจากท่าเรือสุปปารกะ มุ่งสู่เมืองสาวัตถี ซึ่งมีระยะทางถึง ๑๒๐ โยชน์ (๑๙๒ กม.) ท่านเดินทางทั้งวันทั้งคืนอย่างรีบร้อน เพื่อเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาให้เร็วที่สุดเพราะไม่รู้แน่ว่าความตายจะมาถึงเมื่อใด ท่านเดินทางมาถึงเมืองสาวัตถี ในเวลารุ่งเช้าแล้วรีบตรงไปยังพระเชตวันมหาวิหาร เมื่อได้ทราบว่า ขณะนี้พระบรมศาสดา เสด็จเข้าไปบิณฑบาตรในเมือง จึงรีบติดตามไปในเมืองและได้พบพระผู้มีพระภาคกำลังเสด็จบิณฑบาตรอยู่ ด้วยความปีติยินดีอย่างที่สุดได้เข้าไปกราบแทบพระบาทแล้ว กราบทูลขอให้ทรงแสดงธรรมให้ฟัง พระพุทธองค์ตรัสห้ามว่า “พาหิยะ เวลานี้ มิใช่เวลาแสดงธรรม”

                        • ตรัสรู้เร็วพลัน

                        พาหิยะ ได้พยายามกราบทูลอ้อนวอนถึง ๓ ครั้ง พระบรมศาสดา จึงทรงแสดงพระธรรมเทศให้ฟัง โดยตรัสสอนให้สำรวมอินทรีย์ คือ เมื่อเห็นรูปก็สักแต่ว่าเห็น ได้ยินเสียงก็สักแต่ว่าได้ยิน ได้กลิ่นก็สักแต่ว่าได้กลิ่น ลิ้มรสก็สักแต่ว่าลิ้มรส และสัมผัสสักแต่ว่าสัมผัสเท่านั้น อย่ายินดียินร้ายในสิ่งเหล่านั้น และหมั่นสำเหนียกศึกษาในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา อยู่เป็นนิตย์ พาหิยะ ส่งกระแสจิตไปตามกระแสพระธรรมเทศนา ก็ได้บรรลุพระอรหัตผลในทันที ท่านได้กราบทูลขออุปสมบท แต่พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยพระญาณว่า ในอดีตชาติท่านพาหิยะ ไม่เคยทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสามเณรด้วยบาตรและจีวรเลย เมื่อบวชแล้วบาตรและจีวรที่จะเกิดด้วยบุญฤทธิ์ก็จะไม่มี จึงรับสั่งให้ท่านไปหาบาตรและจีวรมาให้ครบก่อน และในขณะที่ท่านกำลังแสวงหาบาตรและจีวรอยู่นั้นได้ถูกอมนุษย์ผู้เคยเป็นศัตรูกันมากแต่อดีตชาติ เข้าสิงร่างแม่โคลูกอ่อนวิ่งเข้าขวิดท่านตาย จึงถือว่าท่านนิพพานตั้งแต่ยังไม่ได้บวช

                         พระพุทธองค์ เสด็จกลับจากบิณฑบาตทอดพระเนตรเห็นศพของท่านนอนอยู่ริมทางจึงรับสั่งให้ภิกษุที่ติดตาม จัดการฌาปนกิจให้ท่าน และทรงยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ในทาง ขิปปาภิญญา คือ ตรัสรู้เร็วพลัน
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3332 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 08:25:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 06 ตุลาคม 2554, 20:52:22
ข่าวดีที่กล้าแสดงออก !

                        - นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสิงห์บุรี ได้พูดผ่านออก TV ของ NBT ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีสั่งให้ทหารปิดประตูระบานน้ำที่ไทรงาม และบางโฉมศรี ให้ได้และกำลังจะปิดได้ ว่า เมื่อปิดประตูระบายน้ำทั้งสองได้แล้ว น้ำจะไม่สามารถระบายไปทางทุ่งฝั่งตะวันออกได้ น้ำจะกลับเข้ามาอยู่ในลำแม่น้ำเจ้าพระยา ท้วมที่สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา และคิดว่าเขตเศรษฐกิจของสิงห์บุรี  อ่างทอง  อยุธยา คงไม่สามารถป้องกันเอาไว้ได้ ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ? .....มันก็เป็นความจริงแฮะ!!

                         - ช่อง อสมท. ได้ไปสัมภาษย์ชาวนากำแพงเพชร จำชื่อไม่ได้ เป็นสุภาพสตรีอายุปานกลางพูดได้ดีมากว่า เมื่อวานที่นานั้นมีข้าวเหลืองแก่กำลังจะเกี่ยวอยู่แล้ว เพียงชั่วเวลาคืนเดียว น้ำจากเขื่อนภูมิพลที่ปล่อยออกมา เอาเงินสองแสนกว่าบาทของฉันหายไปทันที ฉันจะเอาอะไรกิน จะเอาอะไรไปใช้หนี้  ขอวอนท่านนายก และรัฐบาล อย่ามัวไปหามาตรการณ์ช่วยคนมีเงิน พวกเศรษฐ๊ที่จะช่วยให้ได้ซื้อรถคันแรก และบ้าน อยู่เลย ให้เอาเงินนั้นมาช่วยชาวนาอย่างอิฉันที่หมดตัวภายในคืนเดียว ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ? ดีกว่าขอวิงวอน .....มันก็เป็นความจริงแฮะ!!

                          - ไม่แปลกที่ทุกท่านคงเห็นภาพทาง TV ที่น้ำท้วมอยุธยา โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจ นิคมอุตสาหกรรมถุกน้ำท้วมราบเป็นหน้ากลอง อย่างที่ผมบอกเอาไว้ เราไปกักน้ำให้อยู่ในลำแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ปล่อยลงทุ่งสองฝั่งเจ้าพระยา ไม่ระบายลงทะเลไปทางสุพรรณบุรี  ผลคือน้ำถูกบังคับเหมือนท่อน้ำ ฉีดน้ำเข้าใส่อยุธยา ปทุมธานี กทม. ขณะนี้ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าน้ำจะไม่ท้วมกรุงเทพฯ แม้แต่ตัวผมครับ

                          - เราเสียเขตอุตสาหกรรมไปแล้ว  อย่าให้เสียเขตเศรษฐกิจหัวใจ คือ กทม. เลยครับ เท่ากับเราเสียเอกราชไม่สามารถป้องกันได้ โปรดเปิดประตูน้ำบางโฉมศรี ไทรงานให้น้ำท้วมทุ่งตะวันออก โปรดเปิดน้ำให้เข้าทุ่งตะวันตก และโปรดเปิดน้ำไปสุพรรณบุรี  ถ้ากระจายน้ำไปได้สามทางพร้อมๆกัน  ระดับน้ำจะลดลงมากเพราะเป็นพื้นที่ใหญ่มาก ระดับน้ำจะไม่ท้วมสูง  ทุกคนอยู่ได้หมดครับ แต่อนิจจาสายเกินแก้เสียแล้ว น่าเสียดายจริงๆๆ ประเทศไทย

                             ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ

                         ผมอยู่นครศรีธรรมราชครับ เช้านี้แสงแดดจ้า ท้องฟ้าแจ่มใส ไร้ฝน ครับ
      บันทึกการเข้า
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #3333 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 08:38:15 »

ไม่ได้แวะมานาน พี่สิงห์สบายดีนะครับ ^^
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3334 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 09:43:03 »

อ้างถึง
ข้อความของ phraisohn เมื่อ 07 ตุลาคม 2554, 08:38:15
ไม่ได้แวะมานาน พี่สิงห์สบายดีนะครับ ^^
สวัสดีครับ คุณน้องไพรสนต์

                      พี่สิงห์สบายดีทั้งกาย และใจ ครับ

                      เธอเป็นอย่างไรบ้าง ? ทั้งสุขภาพและการงาน อย่าลืม เธอต้องสร้างครอบครัวใหม่เป็นของตนเอง ในขณะเดียวกันก็ต้องเอาใจใส่ดูแลพ่อ-แม่ หรือผู้มีพระคุณ คนที่มีความกตัญญูต่อ บิดา มารดา ครู และผู้อุปการะคุณ เป็นผู้ที่เจริญ จะมีผู้ช่วยที่มองไม่เห็นคอยเป็นกำลังใจและคุ้มครองให้ประสพความสำเร็จในชีวิตเสมอ

                      สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3335 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 09:47:16 »


อย่าลืมแสดงมุทิตาจิตต์แด่

พี่ทองอู่  จักรสิงห์

พี่ผู้อาวุโสของชมรมฯ

วันอาทิตย์ที่ ๙  ตุลาคม เวลา ๑๘: ๐๐ น. ณ ภัตตาคารสวนกุหลาบ ซอยอารีย์
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3336 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 10:06:09 »

ออกคำเตือนมาได้สักครึ่งชั่วโมงแล้วครับ..........

คำเตือนจากเทศบาลนครนครสวรรค์
หากท่านได้ยินสัญญาณเตือนภัยเป็นไซเรนดับเพลิงพร้อมเสียงแตรรถดังสลับต่อเนื่องกันตลอดเส้นทาง

แสดงว่ากำลังเกิดน้ำไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่เขตเมืองที่ไม่อาจควบคุมได้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง อพยพ ขนย้ายทรัพย์สินสู่ที่ปลอดภัยโดยทันที

พื้นที่รองรับผู้ประสบภัยน้ำท่วม
•สำนักงานเทศบาลนครนครสวรรค์
•วัดคีรีวงศ์
•โรงเรียนเทคโนโลยีภาคเหนือ
•สนามกีฬากลางจังหวัด


http://nsm.go.th/index.asp
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3337 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 10:13:28 »

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครสวรรค์ เริ่มวิกฤติมากขึ้น เนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ
มีหลายพื้นที่ที่พนังกั้นน้ำแตก เนื่องจากนครสวรรค์มีแม่น้ำไหลผ่านหลายสาย ที่สำคัญในขณะนี้คือ แม่น้ำปิง
ซึ่งมีน้ำก้อนใหญ่จากเขื่อนภูมิพล ที่ปล่อยล้านสปินเวย์ออกมาเกือบ 200 ล้าน ลบ.เมตร/วินาที

วันนี้ (7 ต.ค.) มีน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 4,596 ลบ.เมตร/วินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 18 ลบ.เมตร/วินาที
ระดับน้ำหน้าตึกเจ้าพระยาหลักทรัพย์ ถนนริมเขื่อน สูงขึ้น 2 ซ.ม. เป็น 66 ซ.ม. จากขอบบนของพนังกั้นน้ำหรือ
มีระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงกว่าพื้นถนนถึง 1.50 + 0.66 = 2.16 ซ.ม. แล้ว
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3338 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 10:14:02 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 07 ตุลาคม 2554, 10:06:09
ออกคำเตือนมาได้สักครึ่งชั่วโมงแล้วครับ..........

คำเตือนจากเทศบาลนครนครสวรรค์
หากท่านได้ยินสัญญาณเตือนภัยเป็นไซเรนดับเพลิงพร้อมเสียงแตรรถดังสลับต่อเนื่องกันตลอดเส้นทาง

แสดงว่ากำลังเกิดน้ำไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่เขตเมืองที่ไม่อาจควบคุมได้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง อพยพ ขนย้ายทรัพย์สินสู่ที่ปลอดภัยโดยทันที

พื้นที่รองรับผู้ประสบภัยน้ำท่วม
•สำนักงานเทศบาลนครนครสวรรค์
•วัดคีรีวงศ์
•โรงเรียนเทคโนโลยีภาคเหนือ
•สนามกีฬากลางจังหวัด


http://nsm.go.th/index.asp

สวัสดีครับ คุณเหยง

                        เป็นไปได้บอกให้เก็บเลยสิ่งของตั้งแต่เดี๋ยวนี้ บัดนี้ เพราะอย่าลืมระดับน้ำที่แตกต่างกันสามเมตร นั้น พอแตกเจาะทะลุทะลวงได้แรงดันมหาศาล มันจะแผ่กว้างทันที อย่าว่าแต่สิ่งของต้องขนย้ายเลย  แม้ชีวิตคนยังช่วยตัวเองหนีไม่ทันเลยถ้าอยู่ในบริเวณที่แตก ครับ

                        เหยงอย่ายอมแพ้ อย่ายกธงขาว ต่อสู้ต่อไปกับน้ำ เอาชนะมันให้ได้  อย่าลืมยาวิเศษ "ยอมแพ้มัน เราฉิบหายหมดตัวทันที  และไม่มีใครช่วยเลย" นี่จะเป็นกำลังใจที่ทำให้เราเอาชนะมันได้ครับ เรามีลูก ลุกน้องต้องดูแลรับผิดชอบ  พี่สิงห์ ขอเป็นกำลังใจเอาชนะมันให้ได้ในครั้งนี้ ครับ

                        สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3339 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 10:18:44 »

ข้อมูลเป็นภาพครับ.....

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3340 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 10:22:14 »

พยากรณ์อากาศครับ.............
แต่หาข่าวดีไม่เจอเลย ?? ++!!!

อุตุนิยมวิทยา ชี้ ภาคกลาง อีสานตอนล่าง ตะวันออก และใต้ฝั่งตะวันตก ฝนหนัก เตือนชาวเรือระวังคลื่นสูง

วันนี้ (7 ต.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศโดยทั่วไป ว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะทำให้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะนี้ ส่วนทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร จึงขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย 

สำหรับการพยากรณ์อากาศมีดังนี้

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก สุโขทัย และพิษณุโลก อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา สุรินทร์ และบุรีรัมย์ อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชลบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=562&contentID=168157
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3341 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 10:32:12 »

                       ผมขอวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยดลใจท่านนายกรัฐมนตรี  คุณบรรหาร  อธิบดีกรมชลประทาน  อย่าดึงดันว่าจะรับสถานการณ์น้ำได้  ยอมรับความจริง ท่านรับน้ำจำนวนมหาศาลไม่ไหวหรอกครับ อย่าดึงดันเลย คนได้รับทุกข์มากเพียงพอแล้ว

                       - ยอมปล่อยให้น้ำไหลผ่านประตูบางโฉมศร๊ ไทรงาม ตามเดิม เพื่อเข้าสู่แก้มลิงธรรมชาติ เอาน้ำไปพักไว้ ที่ลุ่มเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก

                       - ยอมปล่อยน้ำเข้าแก้มลิงธรรมชาติฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา

                       - ยอมปล่อยน้ำไปทางสุพรรณบุรีเพื่อระบายลงทะเลให้มากกว่านี้

                       - ยอมปล่อยน้ำไปลงแม่น้ำบางปะกงให้มากกว่านี้

                         ถ้าทำสี่อย่างพร้อมกัน ณ บัดนี้ น้ำจะไปพักอยู่ในแก้มลิงธรรมชาติ  และไหลลงทะเลเพิ่มขึ้น ลดปริมาณน้ำที่จะเข้าท้วมตามตัวเมือง เขตเศรษฐกิจ แหล่งอุตสาหกรรม ลงได้ ในขณะเดียวกันระดับน้ำที่สูงมากทุกจังหวัดจะลดลง ทันที  คนยังพออยู่ได้ ตามบนถนนหนทาง แต่ถ้าปล่อยให้น้ำอยู่อย่างนี้ น้ำไม่มีที่ไป น้ำจะท้วมแบบขั้นบันได ถนนก็ไม่มีให้คนอยู่ ครับ ตรองด้วยปัญญาให้ดีๆ ให้สมกับเป็นมนุษย์อันประเสริฐ  จะรักษาคะแนนเสียง หรือจะให้คนด่า ไล่ สาบแช่ง ครับ  ซึ่งตอนนี้คนที่จมน้ำมานาน ก็ไม่พอใจแล้ว เขาก็มีปัญญาคิดออกแบบผมเหมือนกัน ครับ
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #3342 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 10:46:40 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 07 ตุลาคม 2554, 10:14:02
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 07 ตุลาคม 2554, 10:06:09
ออกคำเตือนมาได้สักครึ่งชั่วโมงแล้วครับ..........

คำเตือนจากเทศบาลนครนครสวรรค์
หากท่านได้ยินสัญญาณเตือนภัยเป็นไซเรนดับเพลิงพร้อมเสียงแตรรถดังสลับต่อเนื่องกันตลอดเส้นทาง

แสดงว่ากำลังเกิดน้ำไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่เขตเมืองที่ไม่อาจควบคุมได้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง อพยพ ขนย้ายทรัพย์สินสู่ที่ปลอดภัยโดยทันที

พื้นที่รองรับผู้ประสบภัยน้ำท่วม
•สำนักงานเทศบาลนครนครสวรรค์
•วัดคีรีวงศ์
•โรงเรียนเทคโนโลยีภาคเหนือ
•สนามกีฬากลางจังหวัด


http://nsm.go.th/index.asp

สวัสดีครับ คุณเหยง

                        เป็นไปได้บอกให้เก็บเลยสิ่งของตั้งแต่เดี๋ยวนี้ บัดนี้ เพราะอย่าลืมระดับน้ำที่แตกต่างกันสามเมตร นั้น พอแตกเจาะทะลุทะลวงได้แรงดันมหาศาล มันจะแผ่กว้างทันที อย่าว่าแต่สิ่งของต้องขนย้ายเลย  แม้ชีวิตคนยังช่วยตัวเองหนีไม่ทันเลยถ้าอยู่ในบริเวณที่แตก ครับ

                        เหยงอย่ายอมแพ้ อย่ายกธงขาว ต่อสู้ต่อไปกับน้ำ เอาชนะมันให้ได้  อย่าลืมยาวิเศษ "ยอมแพ้มัน เราฉิบหายหมดตัวทันที  และไม่มีใครช่วยเลย" นี่จะเป็นกำลังใจที่ทำให้เราเอาชนะมันได้ครับ เรามีลูก ลุกน้องต้องดูแลรับผิดชอบ  พี่สิงห์ ขอเป็นกำลังใจเอาชนะมันให้ได้ในครั้งนี้ ครับ

                        สวัสดี


เอาใจช่วยด้วยค่ะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3343 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 11:15:08 »

ภาพจากดาวเทียมอุตุนิยมฯ ของสหรัฐ ชุดที่ 1 บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดีย
แต่ไม่น่ากระทบกับประเทศไทย




      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3344 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 11:20:00 »

โครงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนไม่ให้น้ำท้วมภาคกลาง ในฤดูน้ำหลาก

โครงการที่ ๑

การขุดแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก และการขุดแม่น้ำป่าสักฝั่งตะวันออก ของแม่น้ำเจ้าพระยา

และมีประตูเปิดในหน้าน้ำ ปิดในหน้าแล้ง เรือบรรทุกหนักสัญจรได้

เสนอโดย

นายมานพ  กลับดี
 
ประชาชนผู้ไม่อยากให้คนไทยต้องถูกน้ำท้วมซ้ำซาก หมดตัวทุกปี


วัตถุประสงค์

                    - เร่งระบายน้ำทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ในฤดูน้ำหลาก ลงทะเลเพิ่มขึ้นอีกสองเท่าจากเดิม

                    - ขยายเขตเศรษฐกิจ  ได้เมืองใหม่ให้คนมีที่อยู่อาศัย ได้เขตอุตสาหกรรม โดยไม่ต้องไปแย่งพื้นที่เกษตรที่มีอย่างจำกัด

                    - มีน้ำประปา และน้ำใช้เพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี ลดการเจาะบ่อบาดาล

                    - ไม่ต้องลงทุกมากนัก เพราะเราจะพัฒนาที่ดินสองฝั่งแม่น้ำใหม่ที่เป็นผลจากการขุดดินขึ้นมาและถมดินลงสองฝั่งแม่น้ำ นำไปจัดสรรค์ที่อยู่อาศัย ตัวเมือง เขตอุตสาหกรรม ฯลฯ

                     - เป็นการเพิ่ม GDP ของประเทศอย่างมหาศาล โดยไม่ต้องลงทุนมาก ดีกว่าการเอาเงินไปทำถนน ทำเขื่อน ซ่อมแซม ช่วยเหลือตอนน้ำท้วม มากมายมหาศาลมากนักในแต่ละปี ๆ

หลักการ

                       โดยปกติดินที่อยู่ตามธรรมชาติจะอัดแน่น เมื่อขุดออกมาแล้วถมลงไปใหม่จะขยายตัวได้มากกว่าเท่าครึ่ง สมมติ เราขุดแม่น้ำลึก ๑๐.๐๐ เมตร กว้าง ๑๐๐ เมตร เราจะได้ที่ดินถมโดยประมาณทั้งสองฝั่งแม่น้ำที่ถมสูง ๒.๐๐ เมตร เราจะได้ที่ดินกว้างฝั่งละ ๓๕๐ เมตร นำมาพัฒนาเพื่อขายเอาเป็นเงินค่าขุดแม่น้ำ และเวนคืนที่ดิน ครับ

วิธีการทำ

                      - เวนคืนที่ดินตามแนวทางที่แม่น้ำตัดผ่าน ด้วยความยุติธรรม ตรงสู่ทะเลให้มากที่สุด สายตะวันตกเริ่มจากอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เพราะว่าแม่น้ำเจ้าพระยานั้นพอเลยจากอำเภอพรหมบุรีขึ้นไปทางเหนือแม่น้ำเจ้าพระยาจะกว้างมาก แต่จากอำภเภอพรหมบุรีจะเลยไปเป็นคอขวดเมื่อเข้าสู่จังหวัดอ่างทอง อยุธยาตัวเมือง และขยายออกที่บางไทร อยุธยาจึงรับน้ำเต็มๆ ไปลงทะเลแถวๆ บางบอน บางขุนเทียน หรือเกือบถึงสมุทรสาคร  สำหรับแม่น้ำป่าสักให้เริ่มต้นที่สระบุรี ก่อนถึงตัวเมืองตัดผ่านนครนายก รังสิต บางปะกงไปเลย ลงทะเล

                      - ให้สิทธิผู้ที่แม่น้ำตัดผ่านที่ดิน สามารถซื้อที่ดินที่พัฒนาแล้วในราคามิตรภาพกลับคืน

                      - ประมูลที่ดินที่พัฒนาแล้ว หรือยัง ให้เอกชนสนใจมาลงทุนขุด พัฒนาที่ดินเป็นแปลงๆ เองตามแบบที่กำหนด

                      - ทำโครงการด้วยความโปร่งใสจริงๆ ไม่มีผลประโยชน์ แอบแฝง

                      - ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลแท้จริง ได้มีส่วนร่วมในการทำ แล้วจะสำเร็จ อย่ามุบมิบเผด็จการ

                      ผมขอเสนอคร่าวๆ แบบนี้ไปก่อน ในส่วนรายละเอียดนั้นมันมีมากมหาศาล ขอให้เป็นไอเดียสั้น ๆ ให้สามารถเข้าใจได้ถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น ทิศทางการหาเงินเอามาลงทุนขุดแม่น้ำ และผลกระทบกับคนจำนวนมากที่จะต้องโดนเวนคืนที่ดิน แต่ก็คุ้มสุดคุ้ม ตั้งแต่รัชกาลที่ ๕ เป็นต้นมาประเทสไทยไม่เคยมีการขุดแม่น้ำเพิ่มเลย มีแต่ถมคลองที่พระองค์ท่านขุดเอาไว้เพื่อป้องกันน้ำท้วม กทม.เสียอีก จะช้าจะเร็วก็ต้องขุดครับ เพราะมันจำเป็นต่อการลดปัญหาน้ำท้วมซ้ำซาก จริงๆ ผมยังเชื่อมั่นว่าใช้เงินลงทุนน้อยกว่า เอาเงินไปถมถนนเพิ่ม ซ่อมถนน ทำเขื่อนป้องกันน้ำท้วม และเงินช่วยชาวบ้านที่ถูกน้ำท้วม เงิมซ่อมแซมต่างๆ นาๆ และการเสียโอกาสในการทำธุรกิจทางการเกษตร และอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท้วม และระดับน้ำมันจะท้วมสูงขึ้นทุกปี เป็นอย่างนี้ ดังเช่นที่ท่านเห็นภาพตาม TV อยู่ในขณะนี้

                       คิดอย่างไรก็คุ้มค่ากับการลงทุนครับ ขอให้ทุกท่านตรองด้วยปัญญา ตามหลัก กาลามสูตร ครับ

                       สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #3345 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 11:20:57 »

ชุดที่ 2 นี่น่ากลัว หากเกิดขึ้นจริง
หย่อมความกดอากาศต่ำในมหาสมุทรปาแซฟิค บริเวณทิศตะวันออกของหมู่เกาะฟิลิปปินส์
ลูกนี้หากพัฒนาเป็นพายุ เป็นเรื่องแน่


      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3346 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 12:50:16 »


สรุป

วันนี้ ปริมาณน้ำไหลผ่าน นครสวรรค์ อุทัยธานี  ชัยนาท  สิงห์บุรี  อ่างทอง  อยุธยา ปทุมธานี กรุงเทพฯ

เพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อวาน ทุกจังหวัด

เขื่อนภูมิพล ยังคงระบายน้ำออกมามากกว่าเมื่อวานนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเขื่อนพระรามหก ครับ

      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #3347 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 17:12:48 »

น้ำถึงกรุงเทพรึยังคะพี่ๆ?
ถึงแน่นะคะ?
ไม่ไปขังตามสถานีรถไฟใต้ดิน..
แค่นึกก็...อยากไปฝึกดำน้ำอีกแล้วคะ


หนิงสงสารเจ้าของฟาร์มไก่อยุธยาสิพี่!
เลี้ยงในโรงเรือน น้ำมา ไก่จะหนีกันยังไง
ไม่จมน้ำเป็นแสนๆตัว...
น่าสงสารไก่
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #3348 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 17:51:10 »

พี่สิงห์คะ,
ขยายลำน้ำ
กะขุดรอกลำน้ำไม่ให้ตื่นเขิน
ได้ดิน ได้ทรายเหมือนกัน..

เค้ามีการขุดรอกเจ้าพระยากันมั่งมั้ยคะพี่??
นึกภาพน้ำเหนือพัดพา...
คงตื้นเขินไปไม่มากก็น้อย

(เขาขุดทราย แถบแม่น้ำในเยอรมัน
นำไปขายคะ สำหรับก่อสร้าง..มากันใน
เรือท้องแบน วางกองริมน้ำ ใครจะซื้อ
เข้าไปเค้าตักกะเครนใส่รถบรรทุกเป็นcu.m
m³คะ... )
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #3349 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2554, 20:57:28 »

อ้างถึง
ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 07 ตุลาคม 2554, 17:51:10
พี่สิงห์คะ,
ขยายลำน้ำ
กะขุดรอกลำน้ำไม่ให้ตื่นเขิน
ได้ดิน ได้ทรายเหมือนกัน..

เค้ามีการขุดรอกเจ้าพระยากันมั่งมั้ยคะพี่??
นึกภาพน้ำเหนือพัดพา...
คงตื้นเขินไปไม่มากก็น้อย

(เขาขุดทราย แถบแม่น้ำในเยอรมัน
นำไปขายคะ สำหรับก่อสร้าง..มากันใน
เรือท้องแบน วางกองริมน้ำ ใครจะซื้อ
เข้าไปเค้าตักกะเครนใส่รถบรรทุกเป็นcu.m
m³คะ... )


สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก
                    ทรายในลำน้ำเจ้าพระยามีมหาศาลมากที่ทำให้แม่น้ำตื่นเขิน แต่เนื่องจากเมื่อก่อนอนุญาติให้ขุดทรายได้ผลคือทำให้ตลิ่งพัง จึงงดการดูดทรายในลำแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด และแม่น้ำเจ้าพระยาไม่เคยลอกแม่น้ำเลยแถมที่บ้านพี่สิงห์เป็นแม่น้ำใหญ่มากมีเกาะกลางน้ำด้วยทางกรมชลประทานก็ดูดทรายมาปิดกั้นน้ำจนกลายเป็นที่ดินเพิ่มขึ้นแทนที่จะเป็นเกาะเหมือนเดิมเก็บน้ำได้มาก ตามเดิม เพราะในสมัยที่พี่สิงห์เรียนหนังสืออยู่ที่บ้านจากที่เคยน้ำท้วมทุกปี ปรากฏว่าสิบกว่าปีน้ำไม่ท้วมเลย คนเลยชิน มาท้วมทุกปีระยะหลังและรุนแรงมากเพราะเราะทำถนน ถมที่กันมากจนน้ำไม่มีที่ไป มันจึงท้วมระเนระนาด ดังที่เห็นในภาพ ครับ

                          ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 132 133 [134] 135 136 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><