04 กรกฎาคม 2567, 16:17:30
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 568 569 [570] 571 572 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3349663 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 11 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14225 เมื่อ: 20 มีนาคม 2558, 09:54:26 »



ธรรม
ธรรมชาติ
พระธรรม
ธรรมารมณ์
ปรมัตถธรรม
สภาวะธรรมในรูป-นาม  มันคือ อะไร?

ธรรม คือ สิ่งที่เป็นจริง มีอยู่จริง เที่ยงแท้เสมอ เป็นได้ทั้งสังขตะธรรม และอสังขตะธรรม เป็นนาม

ธรรมชาติ คือ สิ่งที่มีอยู่จริง เป็นจริง เป็นได้ทั้ง รูป และนาม เช่น สัตว์ บุคคล ตัวตน สิ่งของ เรา เขา ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม(อากาศ และสูญญากาศ) ธาตุไฟ เป็นสมมติิบัญัติ

ส่วนอารมณ์ต่าง ๆ อาการต่าง ๆ มันเป็นสภาวะของธรรม ที่ไปปรุงแต่งสัตว์ มันก็เป็นธรรมชาติิ เป็นนาม  เพื่อให้เข้าใจ จึงแยกออกเป็น ปรมัตถธรรม

พระธรรม คือคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และก็เป็นจริงเสมอ เป็นนาม แต่เข้าใจได้

ธรรมารมณ์ เป็นนาม เป็นอารมณ์ที่จิตสัมผัสได้

ปรมัตถธรรม เป็นนาม เป็นสภาวะธรรมที่ประกอบไปด้วย รูป  จิต  เจตสิก และนิพพาน

สภาวะธรรมในรูป-นาม คือาการ อารมณ์ที่เกิดขึ้นกับรูป-นาม เป็นปรมัตถ์

เวลาเราเจริญจิตภาวนา เราจะพิจารณา สภาวะธรรม ที่เกิดขึ้นกับรูป-นาม ณ ปัจจุบัน และทั้งไม่ยินดี ไม่เพลินเพลิน ไม่ยินร้าย ไม่ชอบ ไม่ชัง ไปกับมัน แบบให้รู้ในสภาวะธรรมนั้น ซื่อ ๆ ตรง ๆ ไม่เอาผิด ไม่เอาถูก ไม่เอาเหตุ ไม่เอาผล ใด ๆ

และอย่าหลงไปพิจารณา ไปเพ่ง ในสมมติบัญญัติ แทน มันไม่ใช่่

สมมติบัติญัติิ มันเป็นชื่อเรียกของ สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา  เขา  สิ่งของ ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุน้ำ ธาตุไฟ เพราะสมมตบัญญัติไม่มีอาการ ไม่มีอารมณ์เกิดขึ้น

ก็พอจะจำแนกตามภูมิตนเองที่มีอยู่

ไม่ต้องเชื่อใคร ในธรรม

ทุกท่านก็พิจารณาเอาเองด้วยหลัก กามาลสูตร เถิด

แต่อย่าลืมว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา  อย่าไปยึดติดกับมัน จนเกิดวิจิกิจฉา ขึ้นในจิต เลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของวิญญูชนม์ นักปราชญ์ เถิด

สวัสดี
[/quote]

สวัสดีทุกท่านครับ

วันนี้ มาทำบุญเนื่องในเทศกาลตรุษไทย คือเทศกาลส่งท้ายปีเก่าของไทย ชาวบ้านจะทำบุญสามวันด้วยกัน ก่อนที่จะถึงเทศกาลขึ้นไปใหม่ไทย คือสงกรานต์ ชาวบ้านจะทำบุญ ๔ วัน โดยวันสุดท้าย จะเป็นการทำบุญกระดูกให้บรรพบุรุษ นึกถึงคุณความดีของท่าน ที่ให้กำเหนิด เลี้ยงดูเรา จนเติบใหญ่

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14226 เมื่อ: 20 มีนาคม 2558, 09:58:05 »



วันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๘

ทางวัดปากแรต  ได้เรียนเชิญให้ไปทอดผ้าป่า เพื่อฉลองมณฑป  ที่ได้มาทอกฐินเอาไว้เมื่อสองปี ก่อน ได้สร้างเสร็จแล้ว  ขอเชิฐมาร่วมเปิดอย่างเป็น ทางการ

พี่สิงห์  ก็คงต้องฉลองศรัทธา ไปร่วมครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14227 เมื่อ: 20 มีนาคม 2558, 10:12:57 »



พี่สิงห์  ต้องกราบขออภัย จริง ๆ ที่ไม่สามารถไปร่วมไว้อาลัย แสดงความเสียใจต่อการจากไปของคุณย่าจวบ(จิรพงศ์)  สิทธิพงศ์  ที่เชียงรายได้
(ทราบวันนี้เอง โดยบังเอิญ)

คุณน้องป้อม คุณอู๊ด  เสียใจด้วยครับ ที่คุณย่า  ท่านต้องจากไป  
แต่ดูอายุแล้ว ๘๙ ปี มีชีวิตคุ้มแล้วครับ

จริง ๆ พี่สิงห์  เพิ่งทิ้งตั๋วเครื่องบิน กทม.-เชียงราย ไปกลับเมื่อวันที่ ๑๖-๑๗ มีนาคม นี้เอง เพราะยังไม่แน่ใจว่าขึ้นเครื่องบินได้ เพราะอยู่ภายใต้ความดัน พี่ชาย  ห้ามเดินทางเครื่องบิน จนกว่าจะเลยหนึ่งเดือนไปแล้ว ซึ่งเชื่อว่าแผลผ่าตัดจะติดสนิท (เขาหวังดี)

คุณย่า  ท่านไปดีแล้ว เหลือแต่พวกเรานี่ละ  ยังต้องรับทุกข์ต่อไป

เกิด แก่  เจ็บ  ตาย  เป็นเรื่องธรรมดา ที่ทุกคนต้องประสพ ด้วยกันทั้งนั้น

รักมาก  ก็เศร้าโศกมาก เป็นเรื่องธรรมดา

สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14228 เมื่อ: 20 มีนาคม 2558, 11:22:05 »





ดร.สุริยา
ทางคุณตั้ม
SCG Metall sheets ประมาณราคามาให้ดู

ดร.สุริยา
ทางโรงเรียนจะตอกเสาฤกษ์ วันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๘

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14229 เมื่อ: 20 มีนาคม 2558, 16:38:45 »



ดอกจามจุรี (ก้ามปู) กำลังออกดอก ที่วัดปากแรต

ธรรมนิยาย ลีลาวดี ตอน ๑๐ ๑๑

ไม่มีข้อธรรมอะไรใหม่เลย จากเดิม
มีแต่ทุกข์  
การสูญเสียเนื่องจากคนรัก
การลดกำลังอาวุธของ มคธ vs โกศล ก็ไม่ได้ผล เพราะ " ริษยา"

พระเรวัตตะจากวัดเวฬุวัน มอบให้พระเทวฑัต  ดูแล และมีชนม์เป็นอันมากมาฟังธรรม รวมทั้งพระเจ้าอชาติศรัตรู มาเป็นลูกศิษย์พระเทวฑัต เป็นช่วง ๘ ปี ก่อนพระพุทธเจ้าจะเสด็จปรินิพพาน

ธรรมที่พระเทวฑัตสอนคือ ธรรมของพระพุทธองค์ นั่นเอง ท่านบอกว่า ธรรมนั้นมีอยู่แล้ว ไม่ต้องเชื่อพระพุทธเจ้า  ไม่ต้องเชื่อพระสงฆ์  ให้เชื่อแต่พระธรรม เท่านั้น

เมื่อเป็นดังนี้พระเรวัตตะ จึงปลีกวิเวกออกไปจากวัดเวฬุวัน เพราะท่านเป็นเจ้าอาวาสมามากกว่าสิบปีแล้ว ท่านต้องการบรรลุธรรมบ้างอย่างน้อยพระโสดาบัน

ขณะนั้น พระพุทธองค์  อยู่เมืองโกสีมพี

สงฆ์ ฆารวาส ในเมืองมคธ  สับสนในสิ่งที่พระเทวฑัต  สอน จึงแบ่งเป็นสองฝ่าย

พระเรวัตตะ ท่านก็ออกธุดงค์

ผู้แต่ง ยังไม่มีธรรมอันใดใหม่มาใช้ในการเขียนนิยาย วนไปมาของเดิม ซึ่งปัญหาของปุถุชนม์ มันก็มีแค่นั้น คือ

คนหนุ่ม-สาว ก็ความรัก การสูญเสียคนรัก  ความรักไม่สมปราถนา เป็นส่วนใหญ่

ปัญหาของคนกลางคน คนคงแก่เรียน คือ ทิฏฐิ

ปัญหาของเศรษฐี คือความตระหนี่  ริษยา

ปัญหาของ นายบ้าน คือการกดขี่ผู้ยากไร้ ไม่มีเมตตา

ปัญหาของ คนสูงอายุ คือ สามี ภรรยา บุตร ต้องตายจากไป

พี่สิงห์  ก็สรุป ให้เข้าใจอย่างย่อ ๆ นี่ละปัญหาของมนุษย์  ผู้หลงอยู่ในความคิด  ไม่เห็นความจริงในธรรม จึงเป็นผู้เป็นไปกับทุกข์นั้น ไม่เป็นผู้ดู

ตอน ๑๑ เป็นต้นไปเป็นเรื่องของพระเรวัตตะ โดยตรง ในสิ่งที่ท่านประสพ  เพราะลีลาวดีตายไปแล้วตั้งแต่ ตอนที่ ๑๐

ก็จะพยายามฟัง เพื่อเฟ้นธรรม ที่ต่างจากของเดิม มาสรุปให้ทุกท่ายได้ติดตามครับ

สวัสดี

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14230 เมื่อ: 20 มีนาคม 2558, 18:00:37 »


วัดปากแรต มีมะม่วงพิมเสน มะม่วงแก้ว  อกร่อง กะร่อน มะม่วงมันแตงกวา

ธรรมนิยาย ตอน ๑๒
ไม่มีธรรมอะไรใหม่ เล่าประวัติ
- พูดถึงลัทธิ พราหมณ์ ปราพาชก ฤษี นิครนณ์
- นางปฏาจารา
- องคุลิมาร
- นางเกสาโคตมี

ไม่มีธรรมอันใดใหม่เลย

พระเรวัตตะ ท่านออกธุดงค์ไปทางใต้ ท่านเข้าไปพักในบ้านล้างนอกหมู่บ้าน ในนั้นมีชายหนุ่ม อยู่ก่อนแล้ว ได้เชิญท่านไปพักด้วย และถามท่านว่าเป็นสมณะใช่ไหม? ท่านก็ตอบว่าใช่จึงได้สนทนากัน ชายหนุ่มผิดหวังเรื่องความรักเป็นลูกเศรษฐีมาจากแคว้นอังคะ จะไปวัดเวฬุวันเพื่อไปขอคำชี้แนะจากพระพุทธองค์

ชายหนุ่มแต่งงานได้หนึ่งเดือนเขามีความสุขมาก แต่ภรรยาตายลงไป จึงทำใจไม่ได้ ที่จะให้คลายโศก
พ่อของชายหนุ่ม เอาพราหมณ์  มาสอนให้คลายโศก ก็ถูกชายหนุ่มตีโต้คำสอนลุกจากไป และในทำนองเดียวกัน ลัทธิต่าง ๆ ตามคำสอนนั้น ๆ ก็ถูกชายหนุ่มตีโต้ ด้วยความจริง ต้องลุกจากไปทุกคน ลัทธิไหนก็ช่วยคลายโศกไม่ได้

พ่อของเขาจึงไปนำสาวงาม มาให้อยู่สองต่อสอง สามงามปลนเปรอด้วยราคา ก็ไม่สำเร็จ ร้องเพลง ร่ายรำ ก็ไม่สำเร็จ กลับทำให้ชายหนุ่มเบื่อหน่าย จนต้องยอมแพ้จากไป

วันหนึ่งท่านเศรษฐีจึงนำเพื่อนเศรษฐีมา ท่านเศรษฐีบอกว่า อาการของลูกชายท่าน มีคนเดียวเท่านั้นที่จะรักษาได้ คือ พระสมณโคดม โดยยกตัวอย่างคำสอน เช่น

นางปฎาจารา ที่สูญเสียสามี ลูกสองคน พ่อ แม่ พี่ชาย จนตัวเองเป็นบ้า เดินแก้ผ้าคร่ำครวญทุกข์ของนาง จนเข้ามาในวัดเชตวัน พระสมณโคดม เพียงพูดให้สติเท่านั้น เธอก็คลายโศก ขอบวช และสำเร็จเป็นพระอรหันต์ คำพูดของสมณโคดม ท่านพูดว่า ดูก่อนน้องหญิง น้ำตาที่เธอร้องให้ออกมาด้วยความโศกเศร้าเสียใจนั้น มีมากกว่าน้ำในมหาสมุทร ทั้งสี่เสียอีก เพียงเท่านี้นางปฎาจารา ก็มีสติ ได้คิด

ในทำนองเดียวกันกับโจรองคุลิมาร ท่านพูดเพียง เราหยุดทำบาปแล้ว แต่ท่านไม่หยุด เท่านั้น องคุลิมารก็มีสติได้คิด โยนดาบทิ้งทันที ขอบวชและต่อมาสำเร็จเป็นพระอรหันต์

ในทำนองเดียวกัน นางกีสาโคตมี ลูกของนางตาย นางอุ้มลูกร้องให้เพื่อให้หมอหายารักษาให้ลูกของนางฟื้น นางเดินจนพบพระพุทธองค์ พระพุทธองค์บอกว่า ท่านรักษาให้หายได้ แต่นางต้องไปหาเม็ดผักกาดจากบ้านที่ไม่เคยมีใครตายเลย  นางก็ไปทุกบ้าน แต่ทุกบ้านล้วนมีคนตาย จึงไม่ได้เม็ดผักกาด นางได้คิดทุกบ้านมีคนตาย ทุกคนต้องสูญเสียทั้งนั้น นางจึงขอบวช และสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในเวลาต่อมา

ชายหนุ่มได้ฟังดังนั้น จึงขออนุญาติพ่อ-แม่ เดินทางไปวัดเวฬุวัน เพื่อจะให้พระพุทธองค์ทรงช่วยให้คลายโศก บังเอิญมาพบพระเรวัตตะเสียก่อน

เรามาตามดูกันว่า พระเรวัตตะจะตอบ จะสอนชายหนุ่มนี้อย่างไร ด้วยธรรมะข้อไหน  จึงจะคลายโศกลงได้

อย่าลืม เวลาใครโศก  ใครทุกข์  ท่านต้องอดทนรับฟังเรื่องของเขา ให้เขาได่ระบายออกมาให้หมด แล้วเขาจะคลายโศกลงได้บ้าง พร้อมที่จะพูดคุยด้วยเหตุ-ผล

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14231 เมื่อ: 20 มีนาคม 2558, 20:38:19 »



ปู่ทวี  เป็นเจ้าของ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนอินทโมลีประทาน ป่วยด้วยโรคเบาหวานต้องฉีดอินสุริน ทุกวัน  ช่วยตัวเองไม่ได้

เมื่อวาน น้องชายมาเยี่ยม เอาเนื้อเป็ดให้กินไปสามชิ้น ผลคือเบาหวานขึ้น ไม่กินข้าว ไม่นอนมาหนึ่งคืน หนึ่งวัน เอาแต่พูดเพ้อในสิ่งที่ตนเคยทำมา คือครู จนลูกให้ยานอนหลับไปหกเม็ดก็ไม่นอน เพิ่มอินสุริน เป็น ๓๐ ก็เอาไม่อยู่ ถ้าเป็นอย่างนี้ต้องให้น้ำเกลือ ต้องเอาไปโรงพยาบาลแน่คืนนี้

เมื่อค่ำ  เห็นอยู่คนเดียว ผมเพิ่งทราบเลยบอกคนดูแล อย่าให้ยานอนหลับเลย  ผมก็เลยนั่งคุยด้วย  ท่านก็หาว่าผมเป็นญาติศึกษาพัต เป็นครู เพราะหน้าเหมือน จำเสียงได้ ก็คุยกัน เพราะเรื่องที่ท่านคุย เราก็รู้จัก ครูพวกนั้น คุยกันเป็นชั่วโมง เสร็จแล้ว ก็บอก ปู่กินข้าวดีกว่า สุดท้ายแกก็กินข้าวจนได้ กินไปมากพอสมควรจบด้วยขอกล้วยน้ำว้าลูกหนึ่ง ท่านก็กินของท่านเองจนหมด แล้วก็คุยต่ออีกนาน ตาท่านก็ชักปรือแล้ว ก็บอกไปว่า ปู่  ผมต้องขึ้นไปนอนละ ไปได้นะ ปู่อยู่สองคนนะ ท่านก็บอกว่าได้ไปเหอะ เป็นอันว่าไม่ต้องพาไปโรงพยาบาล แล้ว

ใครมีทุกข์  เราต้องให้เขามีที่ระบาย  เราจะต้องอดทนรับฟัง ไม่โต้แย้งใด ๆ  จะมีสติ หรือไม่มีสติ แบบปู่ทวี  เราก็ต้องอดทน เมื่อเขาได้ระบายออกมาหมดแล้ว ความทุกข์ก็คลาย  เราต้องอดทน อย่าหนี  อย่าตอบโต้  พูดด่วยอาการปกติ  

มันใช้ได้จริง ๆ ครับ

ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14232 เมื่อ: 21 มีนาคม 2558, 09:15:52 »



สวัสดีทุกท่านครับ

วันนี้ ได้ไปทำบุญ ที่วัดพระนอน เนื่องในเทศกาลตรุษไทย เป็นวันที่ ๓

ความเจริญเข้ามาในสังคมไทย วัดไม่ได้เป็นสถานที่ ที่จะทำให้หนุ่มสาว ได้พบกัน มีกิจกรรมร่วมกัน ดังแต่ก่อนแล้ว

เด็ก ๆ ไม่ได้มาเล่น หมากขะเย่ง ขี่ม้าก้านกล้วย  ขี่ม้าส่งเมือง เล่นหึ่ม  กอยโหน่ง อีกแล้ว และคนรุ่นใหม่ ไม่รู้จักแล้ว

วัดทำหน้าที่ ให้คนมาทำบุญ และจัดงานศพ  ไม่ใช่ที่เล่น ที่ชุมนุม พบปะสังสรรค์ ดูหนังกลางแปลง หนังขายยา ลิเก  อีกต่อไปแล้ว

วันนี้ท้องฟ้าครึ้ม  แต่คงไม่มีฝนตก ดี อากาศจะได้ไม่ร้อน มีลม

วันนี้ มีมะม่วงน้ำปลาหวินรับประทาน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14233 เมื่อ: 21 มีนาคม 2558, 09:18:36 »



พรุ่งนี้  ต้องไปบวชพระ ที่วัดพระนอน

เณรให้ช่วยถือผ้าไตร เวียนรอบโบสถ์

ได้ถวายปัจจัย ในการบวช ฉลองเพล เครื่องอัฏถะบริขาร ค่าอาหาร จำนวน สามหมื่นบาท พ่อ-แม่ ท่านเสียแล้ว มีแต่พี่สาว แต่งงานไปแล้ว  ท่านบวชมาตั้งแต่เด็ก อยู่ที่วัด ไม่มีบ้าน  จึงไม่ได้กลับบ้าน ท่านจบปริญญาตรีแล้ว ก็อุปัฏฐาน ท่านได้เท่านี้ ต่อไปนี้ท่านต้องช่วยตัวท่านเองแล้ว เพราะเป็นพระแล้ว

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #14234 เมื่อ: 21 มีนาคม 2558, 15:05:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 20 มีนาคม 2558, 10:12:57


พี่สิงห์  ต้องกราบขออภัย จริง ๆ ที่ไม่สามารถไปร่วมไว้อาลัย แสดงความเสียใจต่อการจากไปของคุณย่าจวบ(จิรพงศ์)  สิทธิพงศ์  ที่เชียงรายได้
(ทราบวันนี้เอง โดยบังเอิญ)

คุณน้องป้อม คุณอู๊ด  เสียใจด้วยครับ ที่คุณย่า  ท่านต้องจากไป 
แต่ดูอายุแล้ว ๘๙ ปี มีชีวิตคุ้มแล้วครับ

จริง ๆ พี่สิงห์  เพิ่งทิ้งตั๋วเครื่องบิน กทม.-เชียงราย ไปกลับเมื่อวันที่ ๑๖-๑๗ มีนาคม นี้เอง เพราะยังไม่แน่ใจว่าขึ้นเครื่องบินได้ เพราะอยู่ภายใต้ความดัน พี่ชาย  ห้ามเดินทางเครื่องบิน จนกว่าจะเลยหนึ่งเดือนไปแล้ว ซึ่งเชื่อว่าแผลผ่าตัดจะติดสนิท (เขาหวังดี)

คุณย่า  ท่านไปดีแล้ว เหลือแต่พวกเรานี่ละ  ยังต้องรับทุกข์ต่อไป

เกิด แก่  เจ็บ  ตาย  เป็นเรื่องธรรมดา ที่ทุกคนต้องประสพ ด้วยกันทั้งนั้น

รักมาก  ก็เศร้าโศกมาก เป็นเรื่องธรรมดา

สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ ต้องขอโทษพี่ๆเพื่อนๆและน้องๆด้วยที่ไม่ได้แจ้งข่าวให้ทราบเลย อยู่ไกลมากค่ะ  เกรงใจเหลือเกิน งานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมือนที่คุณย่าต้องการค่ะ วันนี้ยังอยู่เชียงรายเพราะมีศพญาติต่อเนื่องอีกค่ะ กลับเชียงใหม่พรุ่งนี้ค่ะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14235 เมื่อ: 21 มีนาคม 2558, 19:14:37 »



สวัสดีค่ะ คุณน้องป้อม ที่รัก

อย่าเกรงใจพี่สิงห์

งานศพ เป็นงานที่พี่สิงห์ ต้องไป

เป็นประโยชน์ กับพี่สิงห์ด้วย  คือการระลึกถึงความตายให้บ่อย ๆ

เมื่อจิตระลึกถึงความตายบ่อย ๆ  มันจะไม่กลัวความตาย  จึงต้องไปงานศพ

คนเรานั้น กลัวตายที่สุด  จึงต้องฝึกให้มาก ด้วยการไปงานศพ นี่ละ

เสียใจด้วย  เดินทางปลอดภัยครับ  ดูแลคุณอู๊ด  ด้วย ระลึกถึงเสมอ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14236 เมื่อ: 22 มีนาคม 2558, 06:02:13 »



ลาภ ยศ สุข คำสรรเสริญ

นำมาซึ่งทุกข์ทั้งสิ้น มันเป็นความจริง
เราสุขตอนได้รับ แต่แล้วมันก็ผ่านไป ผลของมัน มีแต่ทุกข์

สามเณรท่านก็อยากมีหน้ามีตา จึงจัดเสียใหญ่โต(ตามสายตาของเรา) แต่ท่านก็ไม่มีเงิน มีแต่ทุกข์ใจ  ท่านหวังชาวบ้านช่วย ท่านลืมไปว่า ชาวบ้านมีแต่ผู้สูงอายุ คนละร้อยก็แย่แล้ว คนวัยย์ทำงานเขาก็ไม่มาช่วย

นี่ละทุกข์ ละ

สุดท้าย เราก็ต้องช่วย เกินงบก็ต้องช่วย  เราช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเห็นธรรมไปด้วย ว่ามันน่าจะเกิดความสุขใน ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สำหรับสามเณร แต่กลับประสพทุกข์

วันนี้ เป็นเจ้าภาพ บวชพระให้สามเณร ที่วัดพระนอนครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14237 เมื่อ: 22 มีนาคม 2558, 16:14:41 »



สวัสดีทุกท่านครับ

วันนี้ ไปบวชพระ ที่วัดพระนอน
ผ่านไปด้วยดี มีพระผู้ใหญ่มาเป็นพระอุปัชชา
การจัดแบบนี้ต้องใช้เงินมาก สามเณรท่านถึงบอกว่าไม่พอ
เราอยู่ในฐานะที่จะช่วยได้  เรายังอยู่ในสังคม เราต้องกลมกลืนกับสังคม ถึงเราจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องจำยอม และช่วยเหลือรับผิดชอบ ก็ได้รับคำเยินยอจาก ชาวบ้าน ผู้เฒ่า ผู้แก่ ที่มาอนุโมทนา  เราก็ไม่หลงไปกับคำเยินยอนั้น ด้วยอาการนิ่ง สงบ อุเบกขา ดี สุดในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย ดีใจ ไม่ชอบ เราก็ละเสีย  มันไม่ก่อประโยชน์ใดๆ

วันนี้สามารถอุ้มผ้าไตร เวียนรอบโบสถ์ได้  สามารถนั่งกับพื้นได้  มีเจ็บบ้างกรณีที่เรานั่งผิดท่าผิดทาง ผิดจังหวะ เราก็ขยับเสียใหม่ เรานึกว่าเราคือคนเจ็บ

มีผิดหวัง อาจจะไม่ถูกต้องตรงที่ผิดหวัง เพราะคาดหวังเอาไว้สูง สามเณร จบปริญญาตรี  รู้บาลี  แต่กลับท่องขันนาค ไม่ได้เลยเหมือนกับคนทั่วไปเมื่อพ่อ แม่ให้บวช ท่องขันนาคไม่ได้ ต้องให้พระสอน ตลอด

ต้องเอาวิธีการที่ท่านเจ้าคุณพระเทพวิสุทธโมลี  บอกพ่อเรื่องกำหนดวันบวชว่า บวชวันไหน ได้ทั้งนั้น มีข้อแม้ ต้องท่องขันนาคได้  พี่สิงห์ ยังภูมิใจอยู่ถึงวันนี้ ท่องสามวัน จำได้หมด ไปซ้อมกับพระกรรมวาจา สามรอบ ไม่ผิดเลย ท่านจึงกำหนดวันบวชให้  นั่นคือกติกาของท่าน

สมัยนี้ถ้าทำแบบนั้น คงไม่มีใครบวช เป็นแน่ เพราะท่องไม่ได้ทั้งนั้น

ขันนาค มันไม่ยากเลย  ถ้าเข้าใจความหมาย จำได้ว่า พระท่านแปลให้ฟังเราทราบความหมาย จึงจำได้  ไม่ใช่ท่องแบบนกแก้วนกขุนทอง โดยเฉพาะเวลาพระท่านถาม การเป็นโรค นาค มนุษย์ เณรยังให้พระท่านบอก

เราต้องยอมรับกติกาว่า การท่องขันนาคสมัยนี้ มันยาก อุปปัชชา ท่านก็ต้องจำยอม

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14238 เมื่อ: 23 มีนาคม 2558, 06:37:37 »



อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

เพื่อความสะบายใจของทุกคน ในหมู่พี่-น้อง
วันนี้ 09:00 น. มีนัดตรวจ x-ray และทำอัลตราซาวด์ อวัยยวัะภายในอีกครั้ง โดยเฉพาะ ถุงน้ำดี

เหตุจากผลการตรวจของโรงพยาบาลรามาธิบดี

เมื่อปีที่แล้ว พี่สิงห์ ได้มีโอกาสไปยโสธร พี่คุณหมอหาญ ก็จับตรวจอัลตร้าซาวด์ ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ

เมื่อเดือน กพ. ตรวจที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ขณะตรวจ คุณหมอ ผู้ตรวจก็บอกเราว่า อวัยยวะภายในปกติดี  แต่ในรายงานบอกว่าพบก้อนเนื้อในถุงน้ำดี

ข้อสังเกต รายงานของผลการตรวจร่างกายของโรงพยาบาลนั้น ความน่าเชื่อถือน้อยเกินไป มันเป็นการติกตามหัวข้อภายหลังโดยพยาบาล ไม่ใช่คุณหมอ ผู้ตรวจ คุณหมอ ไม่ได้พูดอะไรกับเราเลย ว่าเราอ้วน ความดัน มีแต่ปกติดี ในความเห็นส่วนตัวมันเป็นเรื่่องการค้า ต้องการให้ไปตรวจซ้ำใหม่ หวังดี แต่เราเสียเงินแพงมาก เจ็ดพันบาท มีแต่ทุกข์ เช่น

หาว่าเราอ้วน ไม่ออกกำลังกาย กินขนม กินน้ำอัดลม กินผักพวกสารเก๊า ทั้ง ๆ ที่เราทำตรงกันข้ามหมดทุกประการในชีวิตที่ผ่านมาทุกท่านก็ทราบ

หาว่าเราเป็นโรคความดันสูง  คุณหมอวัดด้วยปรอตออกมาจำได้ว่า 135-83 มม. โรคมายเกรน ปวดหัว มึนหัว ก็ไม่มีีไม่เคยกินยาแก้ปวดเลย ตรวจซ้ำสิงห์บุรี ก็ปกติของผู้สูงอายุ

หาว่าเป็นโรคพยาธิ  ตรวจซ้ำที่สิงห์บุรี  ก็ปกติ ไม่พบพยาธิ

หาว่าเรามีก้อนเนืื้อในถุงน้ำดี  เราก็ไม่เคยท้องอืด  ตัวเหลือง แต่ประการใด  

ดังนั้น วันนี้จึงตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่งที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี

งดดื่มน้ำมาตั้งแต่เที่ยงคืน และงดอาหารเช้า ตามที่ทางโรงพยาบาลสั่ง

ผลเป็นอย่างไรเป็นเรื่องของร่างกายที่ต้องดูแลตามสถาพ มันเสื่อมโทรมแล้ว

เรามาอาศัยเขาอยู่ชั่วคราว ก็ต้องซ่อมแซมเขาให้ปกดี ให้ดีที่สุด เพราะ "รูปอาศัยนาม  นามก็อาศัยรู" ธรรมชาติมันเป็นเช่นนั้น

เราเองนั้น ทุกวัน ก็กำลังเดินไปสู่ความตาย ทีละก้าว ทีละวัน
 การเกิดทุกครั้งมีแต่ทุกข์

ทุกข์กาย ทุกข์ใจ

ทุกข์กาย ประกอบด้วย การเกิด การเจ็บ การแก่ การตาย

ทุกข์ใจ ประกอบด้วย ประสพกับสิ่งที่ไม่รักไม่ชอบก็ทุกข์ใจ ปราถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นก็ทุกข์ใจ พลัดพรากจากสิ่งที่รักที่ชอบก็ทุกข์ใจ

ทุกข์ใจเกิดจาก ความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่มาผัสสะทางทวารทั้งหก

ทุกข์ใจ ที่เกิดจาก ได้ลาภ-เสื่อมลาภ ได้ยศ-เสื่่อมยศ มีคนสรรเสริญ-นินทา ได้สุข-ประสพทุกข์

และทุกข์ใจ ในรูป-นาม หรือขันธ์ ๕ นี่ละ

นี่คือทุกข์ ๑๐ ประการ ที่พระพุทธองค์ ทรงสอนให้รู้เอาไว้

เมื่อรู้ทุกข์  ก็ดับที่เหตุ คืออุปาทาน ดำนงชีวิตตามมรรคมีองค์ ๘ ประการ ก็จะห่างไกลทุกข์ ถึงซึ่งพระนิพพาน ได้

พระนิพพาน คือ สภาวะที่สงบ ระงับ จากกิเลสทั้งปวง

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14239 เมื่อ: 23 มีนาคม 2558, 19:15:40 »



สวัสดียามค่ำ ทุกท่านครับ

วันนี้ ได้ไปตรวจอัลตร้าซาวด์ อวัยวะภายใน ประกอบไปด้วย ไต ตับ ถุงน้ำดี คุณหมอไม่ได้บอกอะไร และไม่ได้ซักถามกันเลย มีแต่สั่ง หายใจเข้าลึก ๆ กั้นลมหายใจ  หายใจได้ และให้นอนตะแคง

ผลตรวจนั้น คุณหมอไม่ได้บอก  แต่พรุ่งนี้รู้ครับ

พรุ่งนี้วันอังคาร ไปพบคุณหมอสมเจตต์  ศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัด

คงถามคุณหมอว่า จะกลับไปทำงานได้หรือยัง ขึ้นเครื่องบินได้ไหม และจะออกกำลังกายได้เมื่อไร

ตอนนี้รู้สึกว่าตนเองจะอ้วน เพราะน้องสาวกลัวขาดสารอาหารก็พยายามให้กินปลา คือโปรตีนไปรักษาแผลผ่าตัด  แต่ก็กินไม่มาก เน้นผักให้มาก ๆ จะได้กินข้าวน้อย ๆ แต่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย เดินจงกรมมากก็ไม่ได้ นั่งขัดตะหมาดมากก็ไม่ได้  แต่ก็ฝืนทำให้มาก เดินจนฝ่าเท้าแย่เหมือนกัน

วันนี้ต้องอดอาหารเช้า หลังทำอัลตร้าซาวด์เสร็จ ก็สิบโมงกว่า ได้แต่กินกล้วยน้ำว้า ๒ ผล

ตอนนี้เช้าก็กินกล้วยน้ำว้าทุกวัน วันละ ๒ ผล  ดูซิว่า หนึ่งเดือน มีอะไรเกิดขึ้นกับกายของเราบ้าง

กล้วยน้ำว้าหวีละสิบบาทเอง

สองวันมานี้ อากาศไม่ร้อน เพราะวันก่อนมีฝนตกกลางคืนมาก และวันนี้ท้องฟ้ามีเมฆ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #14240 เมื่อ: 23 มีนาคม 2558, 21:52:45 »

สวัสดีครับ พี่สิงห์

ผมไม่ได้เข้ามาทักทาย หลายวัน.  แต่ก็ตามอ่านอยู่. แต่เป็นคอมพิวเตอร์ คนละเครื่อง
เครื่องนั้นอ่านได้ เหมือนคนนอก. แต่โพสต์ไม่ได้ครับ

ขอให้พี่สิงห์หายไวๆ หมายความว่าออกกำลังกายได้ตามปกติครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14241 เมื่อ: 24 มีนาคม 2558, 06:22:49 »


เณรท่านเป็นคนชัยภูมิ  จึงมีการผูกข้อมือเรียกขวัญตามประเพณี
พี่สิงห์ เป็นคนสุดท้ายที่ผูกข้อมือให้เณร

สวัสดีครับ คุณสมชาย

ขอบคุณมาก

คงต้องรอเวลาให้มั่นใจ ตามที่พยาบาลบอก คือสามเดือนไปแล้ว

ก็หวังว่ากล้ามเนื้อเดิมคงจะไม่หมดไป แต่ก็ต้องสร้างกันใหม่ ต้องค่อย ๆ สร้างเมืาอสองเดือนไปแล้ว คือยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เบาๆ ไปก่อน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14242 เมื่อ: 24 มีนาคม 2558, 06:44:50 »


พี่สิงห์ ยกของหนักไม่ได้  พระท่านเลยให้ถือเฉพาะผ้าไตรเฉย ๆ ในการแห่นาคเวียนรอบโบสถ์

อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

วันนี้ เวลา 09:00 น. พี่สิงห์ ต้องไปพบคุณหมอสมเจตต์  ศัลยแพทย์  ผู้ทำการผ่าตัดไส้เลื่อน  ตามนัด

ต่อไปนี้ พี่สิงห์ ต้องกินยา รักษาต่อมลูกกมากโต ๔ ปี มันเป็นโรคของผู้ชาย ผู้สูงอายุ ยา STERCIA-5 Finasteride Tablets 5 mg (ยังข้องใจอยู่ คุณหมอไม่ได้ตรวจ ท่านเดาเอา จากการที่เราบอกว่าปกติ จะลุกมาฉี่บ่อยในเวลากลางคืน สอง สาม ครั้ง)

พี่สิงห์  กินยาน้อยมาก มาเป็นสิบปี  ก็ต้องกลับมากินยา ทั้ง ๆ ตั้งใจอยู่อย่างธรรมชาติ ใช้อาหาร การออกกำลังกาย และภาวนา เป็นเครื่องอยู่ ให้มาก

อาหารนี่ละที่เราควบคุมไม่ได้ เพราะยังต้องซื้อเขากิน ได้แต่หลีกเลี่ยงให้มาก เท่านั้น

ขยาดเรายังเป็นอย่างนี้ แล้วคนที่อยู่ิย่างประมาทล่ะ!

คงเป็นเรื่องกรรมเก่า  จะได้สบายใจ เราก็ก้มหน้ารับกรรมเก่าต่อไป
ในขณะเดียวกัน
 
เราก็เพียรทำกุศลที่ยังไม่เกิดขึ้น ให้เกิดขึ้น
เราก็เพียรละอกุศลที่ยังไม่เกิดขึ้น ไม่ให้เกิดขึ้น
เราก็เพียรละอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ให้หมดไป
เราก็เพียรทำกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว(ศีล สมาธิ ปัญญา) ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14243 เมื่อ: 24 มีนาคม 2558, 06:54:49 »



สำหรับทุกท่านที่ติดตาม ธรรมนิยายเรวดี ที่ยังเหลืออยู่นั้น มันไม่มีธรรมมะใหม่ เพราะเป็นเรื่อง ผิดหวัง ความรัก และการโต้ตอบคารม โต้วาทีระหว่างพระเรวัตตะ กับศาสนาอื่นทั้งหก แล้วจะเอามาเล่าให้ฟัง ภายหลังจากลีลาวดีเสียชีวิตลง

แต่ก็บอกก่อนว่า ลีลาวดี ด้วยความปราถนาในความรักต่อพระเรวัตตะ ยิ่ง ได้กลับชาติมาเกิดใหม่เป็นบุตรของท่านเศรษฐี เมืองพาราณาสี ชื่อรัตนปราณี พอเธออายุได้ ๕ ขวบ เธอระลึกชาติได้หมด และเมื่อเป็นสาวก็ติดตามหาพระเรวัตตะ เพื่อของแต่งงาน

สาวนพระเรวัตตะ ขณะเข้าสมาธิลึก ก็เห็นภาพเมืองะาราณาสี ปราสาท ที่ลีลาวดีมาเกิดใหม่

มาติดตามกันว่า ความรักจะสมรักไหม! ทั้งคู่จะได้อยู่รวมกันไหม! พระเรวัตตะ จะสึกออกมาแต่งงานไหม ! และมันจะจบลงอย่างไร!

5555!

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14244 เมื่อ: 24 มีนาคม 2558, 08:00:37 »



ผลการตรวจอัลตร้าซาวด์ ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี

ก็ตรงกับ คุณหมอ ที่รามาตรวจ คือปกติ

หมอหลานชาย  ไปดูผลตรวจแล้ว ถือว่าปกติ เพราะชิ้นเนื้อเล็ก ๆ ในถุงน้ำดีนั้นพบโดยทั่วไปอยู่ในคนปกติอยู่แล้ว

เมื่อวานคุณหมอที่ตรวจ  ท่านก็พยายามตรวจโดยละเอียดแล้ว มันก็ปกติดี

อย่างที่บอก รายงานของรามา  เขาหวังดีเกินเหตุ เพื่อทางการค้า ของเจ้าหน้าที่จัดทำรายงาน  ไม่ใช่คุณหมอ  ผู้ตรวจบอก

แต่ก็ดี  จะได้รู้ไว้

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
อ้อย17
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,908

« ตอบ #14245 เมื่อ: 24 มีนาคม 2558, 09:38:45 »


                  ดีใจด้วยค่ะ พี่สิงห์ ที่ทุกอย่างปกติ

          อีกไม่นานพี่ก็จะได้ออกกำลังกายอย่างที่ชอบได้โดยไร้กังวล
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14246 เมื่อ: 24 มีนาคม 2558, 13:39:20 »



สวัสดีค่ะ คุณน้องอ้อย17 ที่รัก

ขอบคุณมาก

คุณหมอสมเจตต์  บอกว่าสองเดือนนับจากวันผ่าตัดสามารถออกกำลังกายได้ปกติ

ถ้าตีกอล์ฟ ต้องสามเดือน เพราะต้องหัดใหม่ เริ่มสร้างกล้ามเนื้อใหม่

คุณหมอ  บอกว่า สามารถเดินทางโดยเครื่องบิน ไปทำงานได้ตามปกติ แต่งดยกของหนัก เท่านั้น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14247 เมื่อ: 24 มีนาคม 2558, 13:46:40 »



สวัสดีทุกท่านครับ

วันนี้ ไปพบหมอ คุณหมอสมเจตต์  ศัลยแพทย์ผ่าตัด โรงพยาบาลสิงห์บุรี

แผลเป็นปกติดีแล้ว แต่ขอให้ครบสองเดือนค่อยออกกำลังกาย

สำหรับต่อมลูกหมากโตนั้น คุณหมอ บอกว่า กินยากันเอาไว้เฉย ๆ เท่านั้น จะได้ปัสสาวะสะดวก (จริง ๆ หมอไม่ได้ตรวจ) กินดีกว่าไม่กิน ป้องกันเอาไว้ไม่ให้มันโต เพราะผู้สูงอายุทุกคน มันต้องโต  ตามธรรมชาติของมันอยู่แล้ว  แต่ถ้ากินยาแล้วมันจะไม่โต มีผลดีกว่า เท่านั้นเอง

สำหรับเนื้อในถุงน้ำดีนั้น  คุณหมอบอกว่า เป็นเรื่องปกติ มันโตเพียง ๔ มิลลิเมตรเอง  แต่ถ้าพบก้อนเนื้อโตกว่า ๑๐ มิลลิเมตร เมื่อไร นั่นละ มีโอกาสเป็นมะเร็งได้ อันนั้นต้องระวัง

อาหารของก้อนเนื้อ มะเร็งคือโปรตีนจากเนื้อสัตว์  เราก็ไม่กินมันเสียก็หมดเรื่อง หรือนาน ๆ กินทีก็ได้  เราไม่ให้อาหารมันเสียอย่างมันก็ฝ่อไปเอง  ไม่กินเนื้อเราก็อยู่ได้

เราก็ต้องดูแลตนเองต่อ อาหาร ออกกำลังกาย เจริญสติภาวนา และนอนหัวค่ำ งดกาแฟ-น้ำชา  นี่คือสิ่งที่เราต้องทำ  ตอนนี้ไม่ได้ดื่มกาแฟ มา ๒๓ วันแล้ว

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14248 เมื่อ: 24 มีนาคม 2558, 14:01:55 »



ตกลง ดร.สุริยา  จะเอาแบบนี้

มันก็สวยดี  ขอบคุณมาก

สวัสดี

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14249 เมื่อ: 24 มีนาคม 2558, 14:20:09 »



น้ำหนักชั่งเมื่อเช้า 69 กิโลกรัม (ปกติจะอยู่ที่ 67-69 กิโลกรัม)

ความสูงเมื่อก่อน 174 เซนติเมตร  ตอนนี้ลดลงเหลือ 169 เซนติเมตร ทางโรงพยาบาลรามา วัด

ดังนั้น  BMI  = 69÷(1.69×1.69)  = 24.16 น้อยกว่า 25 ตามสแตนดาร์ดคนเอเซีย

ก็ปกติ  แต่ทางโรงพยาบาลรามา บอกว่า เป็นโรคอ้วน  ทั้ง ๆ ที่ไม่มีพุง และเป็นคนโครงสร้างใหญ่

ก็เรียนให้ทราบ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 568 569 [570] 571 572 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><