13 พฤศจิกายน 2567, 14:59:29
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 427 428 [429] 430 431 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3532517 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #10700 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2556, 08:48:36 »

พยากรณ์อากาศ ประจำวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนลดลง กับมีอากาศเย็น ส่วนลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร และพิจิตร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมาก
บริเวณจังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

มีภาคตะวันออก ฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี ระยอง และจันทบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ
จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สงขลา และนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีโอกาสฝนตก ร้อยละ 40
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10701 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2556, 15:55:19 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 18 ตุลาคม 2556, 21:30:19
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง แขกผู้มาเยือน ที่รัทุกท่าน

ปีนี้ตั้งใจจะทอดกฐินอุทิศส่วนกุศลให้พ่อ-แม่  ที่จากไป
ที่วัดปากแรต  วัดนี้พ่อเป็นคนสร้าง  อยู่ที่ลำแม่ลา  การ้อง  ถิ่นปลาช้อนอร่อยของสิงห์บุรี

ผมไม่ได้แจกซกองทำบุญให้ใครเลย  ไม่กล้า  เกรงใจเพราะซองกฐินมันแยะมากในแต่ละปี  จนกลายเป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญให้กับบางคนได้

ผมจึงไม่มีชื่อกรรมการทอดกฐินเลย  ใครอยากจะทำบุญร่วมกับผมโทรศัพท์แจ้งมาได้ที่ผม 0817000760 หรือทาง line ก็ได้ หรือ
โอนเงินเข้าบัญชี มานพ  กลับดี  ธนาคารกรุงเทพฯ สาขามีนบุรี สะสมทรัพย์ เลขที่ 1450396146 ก็ได้
โปรดแจ้งที่อยู่ด้วยจะได้ออกใบอนุโมทนาบัตรให้ครับ

ขอบพระคุณมากครับ
สวัสดี







สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือนที่รักทุกท่าน

                 วันนี้พี่ติ๋ว  ได้โทรศัพท์มาบอกว่า ทางคณะที่ไปร่วมงานศพคุณยายเต็ม  ฝ่ายอินทร์  จะเหมารถตู้ไปทอดกฐิน ที่วัดปากแรต กับผม ในวันอาทิตย์ที่ ๒๗ ตุลาคม ศกนี้

                 ผมรู้สึกยินดียิ่ง ครับ

                 ต้องขอขอบคุณ มา ณ ที่นี้ จะบอกให้ชาวบ้านดูดู  ปลาช้อนแม่ลาแท้ ๆ มาให้ ครับ

                 ใครจะไปรถตู้กับอาจารย์พินิจ  ก็เรียนเชิญนะครับ

                 ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

เมื่อเช้าได้รับโทรศัพท์จาก ดร.กุศล  รายงานให้ทราบว่า
วันอาทิตย์ที่ ๒๗ ตุลาคม ที่จะไปทอดกฐินกับคุณมานพ  กลับดี นั้น
พี่หมอโอภาส คุณแววตา คุณวิทิดา  คุณพรชัย อ.พินิจ-พี่ติ๋ว ดร.กุศล และกำลังรออาจารย์เผ่า  ยืนยัน จะมีรถตู้ไปหนึ่งคัน

ผมได้ให้ชาวบ้านไปดูๆ ปลาช้อนแม่ลาเอาไว้ให้แล้ว
สำหรับผมนั้น ได้ไปเหมาแม่ค้าข้าวเม่า เตรียมเอาไว้ให้ และขนมเปี๊ยะ ร้านเหลนที่อร่อยของอำเภออินทร์เตรียมเอาไว้ให้ทุกท่านด้วย

วัดปากแรตหาไม่ยากครับ
ทางวัดไม่ได้หุงข้าวปลาอาหารพิเศษ แต่ชาวบ้านจะทำข้าวหม้อ แกงหม้อ อาหารแบบพื้นบ้านเอาไว้คอยต้อนรับ แบบอาหารชาวนา
และมีเพื่อนๆ จากโรงเรียนอินทร์บุรี จะไปร่วมด้วย ครับ

เรียนเชิญท่านที่มีเวลาว่าง ถือว่าไปเที่ยวบ้านนอก ของสิงห์บุรี ครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10702 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2556, 16:02:06 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

ขอให้ไปถึงวัดปากแรต ก่อน 09:30 น. จะเป็นเวลานำผ้าไตร กฐิน เวียนรอบโบสถ์ ครับ

พี่ติ๋วบอกว่า  เหยงมา  คงมีฝรั่งกิมจู มาฝากพวกเรา

ขอบคุณมาก  ที่มาร่วมทอดกฐินด้วยกัน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
KUSON
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,125

« ตอบ #10703 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2556, 16:44:13 »

พี่สิงห์ครับ
       พี่ป๋องจะขับรถไปเองหลังจากไปนอนค้างที่อุทัย
       ผมฝากซื้อขนมเปี๊ยะของโปรด 4 กล่องเล็ก บอกหลานพี่สิงห์ด้วย
       และคิดว่าคงมีคนอยากซื้ออีกหลายคนเผื่อๆไปก็ดีครับ
      บันทึกการเข้า
ประทาน14
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2514
คณะ: เภสัชศาสตร์
กระทู้: 999

« ตอบ #10704 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2556, 17:56:29 »

สวัสดีครับ พี่สิงห์
ผมต้องขออภัยที่ไม่สามารถไปร่วมงานบุญนี้ได้
ขอส่งใจไปร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10705 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2556, 20:34:28 »

อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 21 ตุลาคม 2556, 16:44:13
พี่สิงห์ครับ
       พี่ป๋องจะขับรถไปเองหลังจากไปนอนค้างที่อุทัย
       ผมฝากซื้อขนมเปี๊ยะของโปรด 4 กล่องเล็ก บอกหลานพี่สิงห์ด้วย
       และคิดว่าคงมีคนอยากซื้ออีกหลายคนเผื่อๆไปก็ดีครับ

              ขนมเปี๊ยะมีไว้แจก  ไม่ขาย เฉพาะวันนั้น

                              แต่ถ้ากลัวว่า  ของแจกไม่ดี ก็จะให้เขาเอามาจำหน่ายด้วย
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10706 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2556, 20:36:20 »

อ้างถึง
ข้อความของ ประทาน14 เมื่อ 21 ตุลาคม 2556, 17:56:29
สวัสดีครับ พี่สิงห์
ผมต้องขออภัยที่ไม่สามารถไปร่วมงานบุญนี้ได้
ขอส่งใจไปร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ

สวัสดีครับ คุณประทาน

              ไม่เป็นไรครับ จะอนุโมทนาบุญให้ 
             
               มันเป็นประเพณี ครับ

               สวัสดี

 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10707 เมื่อ: 21 ตุลาคม 2556, 20:55:52 »


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                       บางท่านอาจจะสงสัย ตั้งคำถาม

                       ทำไมนักปฏิบัติธรรม  อย่างพี่สิงห์  ต้องทำบุญส่งเสริมในการสร้างถาวรวัตถุ ทางพุทธศาสนา ?

                        ก็ขอตอบว่า มันเป็นประเพณีไทย  ที่กระทำกันมานาน เป็นความเชื่อทางใจ ในอานิสสงค์ของการทอดกฐิน ที่ปฏิบัติกันมานาน ตั้งแต่สมัยพุทธกาล มรการกรานต์กฐิน ตอนออกพรรษา ครั้งนั้น ทำผ้าไตรจัวร เสร็จภายในวันเดียว โดยเริ่มตั้งแต่กรอด้าย

                        ผมมีหน้าที่สืบทอดประเพณีที่ดีงามนั้นไว้  พระท่านก็จะได้เงินเอาไปบำรุงวัด ประจำปี  ที่เป็นก้อนใหญ่สุด  ถ้าไม่มีเงินจากการทอดกฐิน ทางวัดก็จะไม่มีโบสถ์  ศาลา เมรุเผาศพ  เจดีย์ กุฏิ มณฑป ประจำวัด ทางวัดอาศัยเงินทอดกฐิน ประจำปีนี่ละ

                        สำหรับผมนั้น ตั้งใจเพียงว่า เรายังขาดตก  บกพร่องในการดูแล บิดา-มารดา ตอนท่านยังมีชีวิตอยู่  เมื่อท่านจากไปแบบไม่มีโอกาสพบกันอีกแล้ว ก็ขอทำบุญทอดกฐิน อุทิศส่วนกุศล ให้ท่าน  จะถึงหรือไม่  ผมไม่ทราบ  แต่ผมจะได้รู้อารมณ์ของการให้ ที่เกิดปีติ  จากการทำกุศลครั้งนี้

                         และอีกประการหนึ่งเป็นธรรมเนียมไทย ของครอบครัวที่ไม่มีลูกชายบวช  การทอดกฐินมีอานิสสงส์เท่ากับการมีลูกบวชพระ  ถึงมันจะต่างจากวิทยาศาสตร์ แต่เป็นสิ่งที่ดี  ก่อประโยชน์  ก็ควรจะทำ รักษาประเพณีนี้เอาไว้

                         ส่วนจะทอดกฐินวัดไหน  ก็ขึ้นอยู่กับเหตุ-ปัจจัย ของแต่ละคน

                         ผมเลือกวัดปากแรต เพราะเป็นวัดเล็ก  และพ่อเป็นคนสร้างมาแต่ต้น  ที่ผมรับรู้มาทั้งสิ้น และผมก้เคยบวชเณรที่วัดนี้ และมางานวัดประจำปี เพื่อหาเงินสร้างวัดตั้งแต่เริ่มต้น  โดยตามพ่อไปด้วย  จึงมีความผูกพันธ์พอสมควร

                        ส่วนพระท่าน  กรรมการวัด  จะเอาเงินไปทำอะไร  ก็แล้วแต่ท่าน  หมดหน้าที่ของผมแล้ว

                        ผมมีความเชื่อมั่นว่า การทำบุญ ให้ทาน การสงเคราะห์ นั้น ทำมาก เรายิ่งได้ผลตอบแทนมากเป็นเงาตามตัว  ผมก็ประสบสิ่งนั้นมาเสมอ ไม่ขาดแคลน  มีผู้อุปถัมภ์ผมมาตลอด  แต่เราต้องกระทำเอาเองด้วย  ไม่หวังรอคอยให้ใครมาช่วย

                         และผมทำบุญ ตัวผมเองก็ไม่เดือดร้อน  เราทำเท่าที่เราจะสามารถแบ่งให้ได้  และผมก็ปราถนาให้ทุกท่านมีส่วนในการทำบุญร่วมกัน  จะได้เกิดเป็นกัลยาณมิตร ในภพหน้า  ทำมาก ทำน้อยไม่สำคัญ แล้วแต่กำลังศรัทธาที่จะเจียดให้ได้

                         ก็เรียนให้ทุกท่านได้ทราบ คร่าว ๆ ครับ

                         ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #10708 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2556, 10:27:41 »

ฝนตกในพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยภาคอื่นๆ ปริมาณฝนลดลง
แต่อากาศจะเริ่มหนาวเย็นเพิ่มขึ้น โปรดระมัดระวังสุขภาพในช่วงเปลี่ยนแปลงฤดูฝนสู่ฤดุหนาว
โบราณนิยมให้"ทานแกงเลียง"ซึ่งมีรสเผ็ดร้อนเพื่อปรับสมดุลย์ของร่างกายเพื่อรับความหนาวเย็น


พยากรณ์อากาศ ประจำวันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อน แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ส่วนลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้
สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 24-27 ต.ค.นี้ ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิลดลงได้อีก 2-4 องศาเซลเซียส และมีอากาศเย็น
อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “ฟรานซิสโก” (Francisco) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางประเทศญี่ปุ่น ในช่วงวันที่ 25-26 ตุลาคมนี้ ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ  อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร และพิจิตร

อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย
โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัด
นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 30
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #10709 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2556, 10:34:50 »

ขณะนี้เหลือพายุอีก 2 ลูก อยู่ที่ญี่ปุ่นทั้งคู่ครับ.....



ซ้ายมือ : ฟรานซิส Francis อยู่ใกล้เกาะญี่ปุ่นที่สุด กำลังแสดงอานุภาพ หลัง"พายุไต้ฝุ่นฟิโทว์" ลูกที่แล้วผ่านไป
ขวามือ  : เลกีมา Lekima  กำลังตีคู่เบียดพายุไต้ฝุ่นฟรานซิสในขณะนี้ อาจเสริมจนมีความแรงของพายุเพิ่มขึ้น ??
                                     รวมทั้งอาจทอนกำลังพายุฟรานซิส ก็เป็นได้ กำลงัจับตาดูอยู่ ??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #10710 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2556, 10:35:37 »

ผมกำลังจะเดินทางไปนครปฐม และไปร่วมงานจุฬาฯของจังหวัดนครปฐม
คงงดเข้าเว็ป 2 วันเต็มครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10711 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2556, 11:12:16 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

เกิดเป็นคุณเหยง  นี่น่ารักเสมอ  ที่ไปร่วมงานจุฬาฯ นครปฐม
นึกว่าพายุจะหมดไปแล้วปีนี้ 26 ลูกแล้ว
เดินทางปลอดภัยครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10712 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2556, 12:24:22 »

กฐิน เป็นศัพท์ในพระวินัยปิฎกเถรวาท เป็นชื่อเรียกผ้าไตรจีวรที่พระพุทธเจ้า ทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้อยู่จำพรรษาครบ 3 เดือนแล้ว สามารถรับมานุ่งห่มได้

โดยคำว่าการทอดกฐิน หรือการกรานกฐิน จัดเป็นสังฆกรรมประเภทหนึ่งตามพระวินัยบัญญัติเถรวาทที่มีกำหนดเวลา คือพระสงฆ์สามารถกระทำสังฆกรรมนี้ได้นับแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เท่านั้น โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ และอนุเคราะห์ ภิกษุผู้ทรงคุณที่มีจีวรชำรุด

ดังนั้น กฐินจึงจัดเป็นเรื่องเกี่ยวกับสังฆกรรมของพระสงฆ์โดยจำเพาะ ซึ่งนอกจากในพระวินัยฝ่ายเถรวาทแล้ว กฐินยังมีในฝ่ายมหายานบางนิกายอีกด้วย แต่จะมีข้อกำหนดแตกต่างจากพระวินัยเถรวาท

การได้มาของผ้าไตรจีวร อันจะนำมากรานกฐินตามพระวินัยบัญญัติของเถรวาทนี้ พระพุทธองค์ไม่ทรงห้ามการรับผ้าจากผู้ศรัทธาเพื่อนำมากรานกฐินด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้เกิดทานพิธีการถวายผ้ากฐิน หรือการทอดกฐินของพุทธศาสนิกชนขึ้น และด้วยการที่ การถวายผ้ากฐินนั้น จัดเป็นสังฆทาน คือถวายแก่คณะสงฆ์โดยไม่เจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เพื่อให้คณะสงฆ์นำผ้าไปอปโลกน์ ยกให้ แก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งตามที่คณะสงฆ์ลงมติ(ญัตติทุติยกรรมวาจา) และกาลทาน ที่มีกำหนดเขตเวลาถวายแน่นอน คณะสงฆ์วัดหนึ่ง ๆ สามารถรับได้ครั้งเดียวในรอบปี จึงทำให้ประเพณีการทอดกฐินเป็นบุญประเพณีนิยมที่สำคัญของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย

ประเพณีการทอดกฐินของพุทธศาสนิกชนไทยมีมาช้านาน โดยมีทั้งพิธีหลวงและพิธีราษฎร์ โดยการถวายผ้าพระกฐินของพระมหากษัตริย์จัดเป็นพระราชพิธีที่สำคัญประจำปี ในปัจจุบันถวายผ้ากฐินในแง่การสนับสนุนผ้าไตรจีวรเพื่อใช้ในสังฆกรรมสำคัญของคณะสงฆ์ได้ถูกลดความสำคัญลงไป แต่กลับให้ความสำคัญกับบริวารของกฐินทานแทน เช่น เงิน หรือวัตถุสิ่งของ เพื่อนำสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาถาวรวัตถุและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งจัดเป็นสังฆทานอย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน

กฐินมีกำหนดระยะเวลาถวาย จะถวายตลอดไปเหมือนผ้าชนิดอื่นมิได้ ระยะเวลานั้นมีเพียง 1 เดือน คือตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (วันเพ็ญเดือน 12) ระยะเวลานี้เรียกว่า กฐินกาล คือระยะเวลา ทอดกฐิน หรือ เทศกาลทอดกฐิน

ความเป็นมาของกฐิน
ภิกษุชาวเมืองปาไฐยรัฐ 30 รูป ได้เดินทางเพื่อมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดเชตะวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี แต่ยังไม่ทันถึงเมืองสาวัตถี ก็ถึงวันเข้าพรรษาเสียก่อน พระสงฆ์ทั้ง 30 รูป จึงต้องจำพรรษา ณ เมืองสาเกตุ ในระหว่างทาง พอออกพรรษาแล้ว ภิกษุเหล่านั้นจึงได้ออกเดินทางมาเข้าเฝ้าพระศาสดาด้วยความยากลำบากเพราะฝนยังตกชุกอยู่ เมื่อเดินทางถึงวัดพระเชตวัน พระพุทธเจ้าได้ตรัสถามถึงความเป็นอยู่และการเดินทาง เมื่อทราบความลำบากนั้นจึงทรงอนุญาตให้ ภิกษุผู้จำพรรษาครบถ้วนไตรมาส สามารถรับผ้ากฐินได้ และภิกษุผู้ได้กรานกฐินได้อานิสงส์ 5 ประการ ภายในเวลา

อานิสงส์กฐิน (นับจากวันที่รับกฐินจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4) คือ
          1.   ไปไหนไม่ต้องบอกลา
          2.   ไม่ต้องถือไตรจีวรไปครบสำรับสามผืน
          3.   ฉันคณโภชนะได้ (รับนิมนต์ที่เขานิมนต์โดยออกชื่อโภชนะฉันได้)
          4.   เก็บอดิเรกจีวรไว้ได้โดยที่ยังมิได้วิกัปป์ และอธิษฐาน โดยไม่ต้องอาบัติ
          5.   จีวรลาภอันเกิดขึ้น จักได้แก่ภิกษุผู้ได้กรานกฐินแล้ว
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10713 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2556, 19:14:50 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่งและแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกทท่าน

วันนี้เป็นวันที่หนักวันหนึ่งในการทำงาน ครับ

ต้องขอขอบคุณ เจ้านาย ที่เอเซียกรุ๊ป ที่ขอร่วมทำบุญในการทอดกฐิน และได้ให้ส้มโอมาจำนวนหนึ่ง ผมจะได้เอาไปทอดกฐินด้วย

พรุ่งนี้ วันปิยะมหาราช
เป็นวันหยุด ทุกท่านคงอยู่กับครอบครัว
ผมไม่มีครอบครัว  คงต้องไปตีกอล์ฟออกกำลังกาย

สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
อ้อย17
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,908

« ตอบ #10714 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2556, 20:28:22 »

พี่สิงห์คะ  สวัสดีค่ะ

   พี่สิงห์จะไปอินเดียเมื่อไหร่นะคะ
 
      เพื่อนอ้อยเขาสนใจอยากไปด้วย ยังพอมีที่ว่างไหมคะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10715 เมื่อ: 22 ตุลาคม 2556, 21:05:35 »

อ้างถึง
ข้อความของ อ้อย17 เมื่อ 22 ตุลาคม 2556, 20:28:22

พี่สิงห์คะ  สวัสดีค่ะ

   พี่สิงห์จะไปอินเดียเมื่อไหร่นะคะ
  
      เพื่อนอ้อยเขาสนใจอยากไปด้วย ยังพอมีที่ว่างไหมคะ

สวัสดีค่ะ คุณน้องอ้อย ที่รัก

                     กำลังรอรายละเอียดจากหลวงพ่อ ดร.พระมหาสุเทพ  อกิญจโณ เจ้าอาวาสวัดไทยมคธพุทธวิปัสสนา เจ้าอาวาสวัดไทยเชตะวันพุทธวิปัสสนา  เจ้าอาวาสวัดสมานราษฏร์(ชลบุรี) และเจ้าอาวาสวัดไทยพาราณาสีพุทธวิปัสสนา(กำลังขอจดทะเบียน) ท่านเพิ่งกลับจากอินเดีย ตอนนี้ท่านกำลังวุ่นกับการทอดกฐินที่วัดสมานราษฏร์ ชลบุรี ท่านทราบเรื่องแล้ว กำลังจัดโปรแกรมให้

                      กำหนดเอาไว้ปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือช่วงมาฆะบูชา จะเป็นช่วงที่อากาศดี  คือไม่หนาวมาก แต่ต่ำกว่า ๒๐ องศาเซนเซียส และประมาณ ๑๐ องศา ที่วัดเชตะวัน

                       หลวงพ่อมีกำหนดการออกมาแล้วจะประกาศให้ทุกท่านได้ทราบ

                       สำหรับผู้ที่จะไปอินเดียมีข้อแนะนำคือ ท่านจะต้องเริ่มต้นออกกำลังกาย ตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง  เวลาไปอินเดีย จะได้ไม่เจ็บป่วย  จะได้ทำบุญ ปฏิบัติธรรม  อิ่มบุญเต็มที่ ครับ

                        ออกกำลังกายง่าย ๆ ด้วยการเดินจงกรมเร็ว ๆ วันละ หนึ่งชั่วโมง

                        การไปควรหาคู่นอนไปด้วย  จะได้สะดวก สะบาย ไม่ต้องเกรงใจกัน

                        แต่ปกติ คนไปแสวงบุญที่อินเดียส่วนใหญ่ ไม่ยึดติด ไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรมากนัก เผชิญอุปสรรคได้ทุกรูปแบบ เราไปกับพระ เอารถเป็นพระอุโบสถย์  อยู่กับการสวดมนต์เป็นหลัก เข้าเมืองตาหลิ่ว หลิ่งตาตาม เพราะพระพุทธองค์ ให้ไปเห็นความทุกข์  เริ่มต้นจากห้องน้ำดาวล้านดวง นั่งรถไกล ๆ วันละ ๑๔ ชั่วโมง เป็นอย่างน้อย  ไม่สนุกเลย  แต่ก็ไม่มีใครบ่นทั้งสิ้น  มีแต่อิ่มบุญ ครับ

                        เพราะมันเป็นอินเดีย ที่สุดของที่สุด ในโลก

                        ๑๑ วัน ๑๐ คือ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ สามหมื่นต้น ๆ ไปสมัคร และจ่ายเงินที่หลวงพ่อ สถานีวิทยุยานเกราะ  บางกระบือ  ท่านต้องเตรียมรูป ขอวีซ่าอินเดีย(ร้านถ่ายรูปจะรู้) สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัว และพาสปอร์ต

                        สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10716 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2556, 10:50:16 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี้เป็นวันปิยะมหาราช  ทุกท่านทราบดีอยู่แล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งบางท่านอาจจะยังไม่ทราบ คือ อะไรเป็นเหตุให้พระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ ๕ ทรงได้ขึ้นครองราช  มีน้อยคนนักที่ทราบเรือ่งนี้ โปรดติดตาม

ภายหลังจากรัชกาลที่ ๔ เสด็จไปทรงดูสุริยุปราคา ที่ตำบลหว้ากอ ประจวบฯ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10717 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2556, 15:50:54 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

วันนี้วันปิยะมหาราช
พี่สิงห์ ดูรายการถ่ายทอดสด ของสมาคมนิสิตเก่า จุฬาฯ ช่อง ๙ อสมท.
เป็นรายการสด ขอรับบริจาคเงิน ทุนจุฬาฯ สงเคราะห์ ให้กับนิสิตที่ยากจน แต่ขานทุนทรัพย์ในการเรียน
นึกถึงบุญคุณของ จุฬาฯ ในฐานะศิษย์เก่า จึงได้บริจาคเงิน โดยคุณบวร  วงษ์สินอุดม เป็นผู้รับ โทรศัพท์
จำนวน 5000 บาท

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10718 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2556, 20:11:49 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 23 ตุลาคม 2556, 10:50:16
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

วันนี้เป็นวันปิยะมหาราช  ทุกท่านทราบดีอยู่แล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งบางท่านอาจจะยังไม่ทราบ คือ อะไรเป็นเหตุให้พระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ ๕ ทรงได้ขึ้นครองราช  มีน้อยคนนักที่ทราบเรือ่งนี้ โปรดติดตาม

ภายหลังจากรัชกาลที่ ๔ เสด็จไปทรงดูสุริยุปราคา ที่ตำบลหว้ากอ ประจวบฯ

ทั้งรัชกาลที่ ๔ และพระโอรสองค์โตจุฬาลงกรณ์ ได้รับเชื้อมาเลเรีย เป็นไข้ป่าสมัยนั้นทั้งสองพระองค์ สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เป็นมาก พอ ๆ กับพระบิดา

ก่อนที่รัชกาลที่ ๔ จะสวรรคต ได้เรียกประชุมข้าราชการทั้งหมด และได้นิมนต์พระที่ขบเปรียญ ๙ ประโยคมาด้วย พระองค์ ได้ท่องพระไตรปิฏกเป็นภาษาบาลี และแปรเป็นภาษาไทย แล้วถามพระว่า พระองค์แปลได้ถูกต้องหรือไม่ มหาเปริยญก็ตอบว่า พระองค์แปลได้ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนเลย

รัชกาลที่ ๔ จึงประกาศว่า สิ่งที่พระองค์จะมีรับสั่งนี้ พระองค์มีสตอสมบูรณ์  รู้ตัว ไม่ฟั่นเฟือนเพราะพิษไข้ พระองค์รับสั่งว่า เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตไปแล้ว ขอให้ สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์พระโอรสองค์โต เป็นพระมหากาัติริย์สืบไป และทรงให้บรรดาอำมาตย์ให้สัตย์สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เพราะอายุยังน้อย ไม่สามารถจะแย่งชิง หรือมีกำลังที่จะแย่งชิงบัลลังค์กับใครได้

ด้วยรับสั่งอันนี้  จึงไม่มีใครกล้าที่จะทรยศ สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ จึงได้เป็นรัชกาลที่ ๕ ดังที่เราทราบกัน  วันที่พระราชทานเพลิงศพรัชกาลที่ ๔ พระองค์ยังเป็นไข้หนัก  ยืนไม่อยู่ในการเสด็จถวายพระเพลิง  แต่ด้วยบุญบารมี ในที่สุดก็ทรงหายพระประชวร และเป็นกษัติริย์ที่ทำคุณประโยชน์เป็นอย่างมากให้กับชาวสยาม และประเทศสยาม ดังที่เราได้ทราบกัน

วันนี้ ระลึกถึงพระองค์ ผู้ให้กำเนิดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ที่ทำให้ผมได้มีอาชีพ ทำมาหากิน มาดูแลพ่อ-แม่ พี่น้อง หลาน และตัวเอง ให้มีชีวิตอยู่ได้ตามเหตุ-ปัจจัย

จึงได้บริจาคเงิน เข้ากองทุนจุฬาสงเคราะห์ จำนวน ๕๐๐๐ บาท

พรุ่งนี้ ผมต้องเดินทางไปทำงานที่นครศรีธรรมราช Boarding 09:15 น. โดย Nok Air

ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10719 เมื่อ: 23 ตุลาคม 2556, 20:27:16 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                     มีอยู่เรื่องหนึ่งอยากเรียนให้ทุกท่านได้ทราบ

                     ตอนที่ผมไปซ้อมกอล์ฟเพื่อเตรียมตัวแข่งขัน Senior Pro. ที่สนามกอล์ฟโวยาสพานอรามา ตอนเย็นได้พบdy[ผู้จัดการสนามกอล์ฟ ได้คุยกัน เขาเรียนให้ทราบว่า เขาชอบมากในสิ่งที่ท่านเขียนเกี่ยวกับธรรมะ ได้ติดตามอ่านมาโดยตลอด

                     เขาเป็นบุคคลภายนอกที่บังเอิPเข้ามาและได้อ่านธรรมะของผม ที่เขียนในแต่ละวัน

                     จริง ๆ ยังมีหลายท่านที่ติดต่อมาทาง gmail ของผม ว่าเขาได้ติดตามอ่านธรรมะ ที่ผมเขียน และบางท่านจะเชิญให้ผมไปสอนปฏิบัติธรรม

                       เมื่อมีคนติดตามอ่าน  ผมเองจึงจำเป็นต้องเขียนต่อไปเรื่อย ๆ ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน

                       แต่ช่วงนี้ผมแพ้ใจตนเองอย่างมาก  จึงไม่ได้เขียนธรรมะ มาหลายวัน

                      ขอเวลาปรับปรุงตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง เพราะหลงกระทำไปในสิ่งที่จิตมันต้องการ  จนลืมตน  แต่จริง ๆ ไม่ได้ลืมตน แต่มันเป็นทิฏฐิสติ  ไม่ใช่สัมมาทิฏฐิสติ ครับ

                       ในเมื่อใจเราไม่บริสุทธิ์  ก็เลยไม่ได้เขียน

                       เพราะสิ่งที่เขียน เราต้องกระทำแล้ว  เห็นผลแล้ว  จึงจะนำมาบอกกล่าว ด้วยจิตที่บริสุทธิ์

                       ก็เรียนให้ทุกท่านได้ทราบ

                       สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10720 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2556, 08:00:37 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

พี่สิงห์ อยู่สนามบินดอนเมือง  รอขึ้นเครื่องไปทำงานที่นครศรีธรรมราช
boarding 09:15 น .

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10721 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2556, 08:50:56 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

              อยู่สนามบินดอนเมือง

              เมื่อเช้ามีดได้หุงข้าว สวดมนต์ทำวัตรเช้า ภาวนา เดินจงกรมออกกำลังกายที่หน้าบ้าน และใส่บาตรพระตอน 07:00 น. ก่อนออกเดินทางมาสนามบินดอนเมือง

              ธรรมะวันนี้ขอนำอริยะสัจจ ๔ ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ มาทบทวน กันครับ

              อริยะสัจ ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ ประกอบด้วย

                          ๑. ทุกข์
                          ๒. สมุทัย
                          ๓. นิโรธ
                          ๔. นิโรธคามินิปฏิปทา หรือ มรรค

              ทุกข์ คือ ความไม่สบายกาย  ความไม่สบายใจ ประกอบไปด้วย ๗ ประการ ที่มนุษย์ ทุกคนจะต้องประสบอยู่เสมอ คือ
                           ๑. ความเกิด ก็เป็นทุกข์
                           ๒. ความแก่ หรือสูงวัยขึ้น ก็เป็นทุกข์
                           ๓. ความเจ็บไข้ได้ป่วย ก็เป็นทุกข์
                           ๔. ความตายก็เป็นทุกข์
                           ๕. ความประสบกับสิ่งที่ไม่รัก ไม่ชอบ ก็เป็นทุกข์
                           ๖. มีความปราถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น ก็เป็นทุกข์
                           ๗. ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ก็เป็นทุกข์
                           ว่าโดยย่อคือ อุปาทานขันธ์ ๕ ก็เป็นทุกข์ คือความยึดมั่นถือมั่นในรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ล้วนเป็นทุกข์ทั้งสิ้น  ถ้าบุคคลใด พิจารณาไม่เห็นความจริงนี้ ล้วนตกเป็นทุกข์ทั้งสิ้น ส่วนบุคคลใดพิจารณาเห็นความจริงอันนี้ เมื่อประสบกับทุกข์ ก็สามารถวางจิตของตน คิดถอนจิตไม่ให้หลงไปเป็นทุกข์ ได้
                            ทุกข์นี้ พระพุทธองค์ ท่านให้กำหนดรู้  ท่านล่ะกำหนดรู้แล้วหรือยัง

              สมุทัย คือ สาเหตุ หรือปัจจัย ที่ทำให้เกิดทุกข์ คือ ตัณหา หรือความทะยานอยาก ประกอบไปด้วย ๓ ประการ คือ
                           ๑. กามตัณหา คือความทะยานอยากที่เกิดจากการสัมผัสทางอายตนะ เมื่อ ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้ดมกลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรส ได้สัมผัสทางกาย  ได้ปล่อยใจนึกคิด  ก็เกิดความพอใจ ความยินดี  ความเพลินเพลิน และอยากได้อีกเสมอ เป็นเหตุให้เกิดทุกข์อยูร่ำไป หรือเมื่อสัมผัสแล้ว ไม่ยินดี ไม่เพลิดเพลิน ก็ไม่อยากที่จะสัมผัสอีก ก็เป็นเหตุให้เกิดทุกข์เช่นกัน
                           ๒. ภวตัณหา คือความทะยานอยากที่จิตอยากมี อยากเป็น จึงเป็นต้นเหตุแห่งการเกิดทุกข์ทั้งสิ้น การอยากมีอยากเป็นเกิดจากความยึดมั่นถือมั่นในรูปนาม หรืออายตนะ นั่นเอง
                           ๓. วิภวตัณหา คือความทะยานอยากแห่งจิตที่ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น คือไม่อยากพ้นทุกข์ถาวร หรือไม่อยากนิพพาน นั่นเอง
                           สมุทัยนี้ พระพุทธองค์ ท่านให้ละ ท่านล่ะละตัณหาได้แล้วหรือยัง

               นิโรธ คือ ปัจจัยที่จะทำให้พ้นทุกข์ แก้ที่สาเหตุ เมื่อสาเหตุแห่งทุกข์ คือตัณหา หรือความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ ๕ เราก็ต้องทำตรงกันข้ามคือ ละตัณหา ให้ได้ หรือ อย่าไปยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ ๕ นั้นเสีย พิจารณาให้เห็นความจริงอันนี้ ก็จะสามารถวางจิตของต้นให้ห่างทุกข์ได้
                           นิโรธนี้ พระพุทธองค์ท่านสอนให้ทำให้แจ้ง  ท่านล่ะทำให้แจ้งแล้วหรือยัง

                นิโรธคามินีปฏิปทา หรือ มรรคมีองค์ ๘ คือหาทางดำเนินชีวิตอันประเสริฐ ๘ ประการ อันเป็นทางสายกลาง ที่มนุษย์ควรปฏิบัติประกอบด้วย ๘ ประการ คือ
                            ๑. สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบตามอริยะสัจจ ๔
                            ๒. สัมมาสังกับโป ความดำริชอบในการออกจากกาม(อายตะนะ)
                            ๓. สัมมากัมมันโต คามประพฤติชอบทางกาย
                            ๔. สัมมาวาจา คือ การพูดจาชอบ
                            ๕. สัมมาอาชีโว คือมีอาชีพที่ชอบ
                            ๖. สัมมาวายามะ คือความเพียรพยายามในการทำกุศล ละชั่ว
                            ๗. สัมมาสติ คือความระลึกชอบ
                            ๘. สัมมาสมาธิ คือ ความตั้งใจมั่นชอบ
                            มรรคนี้ พระพุทธองค์ทรงสอนให้มนุษย์ทำให้เกิดขึ้น  ท่านล่ะ ทำให้เกิดขึ้นหรือยัง

                 หมดเวลาพอดี  จะต้องขึ้นเครื่องบินแล้วครับ

                 สวัสดี
                 
           

             
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10722 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2556, 10:56:04 »


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

พี่สิงห์ อยู่นครศรีธรรมราช เรียบร้อยแล้ว
ที่นครศรีธรรมราช ฝนตกตั้งแต่เช้า เพิ่งหยุดตก
ตอนเครื่องบิน มาถึงสนามบินนี่เอง ทางสนามบินยังเปิดไฟ Runway อยู่เลย  โชคดีที่ฝนหยุดตก เมื่อมาถึง

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #10723 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2556, 16:00:37 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 21 ตุลาคม 2556, 16:02:06
สวัสดีครับ คุณเหยง

ขอให้ไปถึงวัดปากแรต ก่อน 09:30 น. จะเป็นเวลานำผ้าไตร กฐิน เวียนรอบโบสถ์ ครับ

พี่ติ๋วบอกว่า  เหยงมา  คงมีฝรั่งกิมจู มาฝากพวกเรา

ขอบคุณมาก  ที่มาร่วมทอดกฐินด้วยกัน

สวัสดี



พี่สิงห์

ถ้าไม่มีฝนตกในเช้าวันนี้ และมีร้านฝรั่งเปิดขายแล้ว เชื่อว่ามีฝรั่งไปฝากครับ ??
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #10724 เมื่อ: 24 ตุลาคม 2556, 16:10:40 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

อากาศที่นครศรีธรรมราช  ต่างจาก กทม.มาก
ผลคือ หายใจมีน้ำมูก คือแพ้อากาศ ร่างกายต้องปรับตัว
เดินทางเร็วก็จริง  แต่อากาศไม่เหมือนกัน
เป็นธรรมดา  ย่อมได้ผลกระทบนั้น หลีกเลี่ยงไม่พ้น

กำลังจะได้เวลาออกกำลังกาย ชิกง-โยคะ และเดินจงกรม

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 427 428 [429] 430 431 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><