22 พฤศจิกายน 2567, 22:24:06
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ดันประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพ จุรินทร์ชง9มาตรการเวทีประชุม รมต.อาเซียน  (อ่าน 5001 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2553, 19:23:23 »


           ขอขอบคุณเวบคมชัดลึด วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.komchadluek.net/detail/20100722/67532/%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%8A%E0%B8%8A.%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%879%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99.html

                          

                  ประชุม รมว.สาธารณสุขอาเซียน เน้นหารือให้ประชาชน
                          เข้าถึงบริการสุขภาพมากขึ้นในราคาไม่แพง


          วันที่ 22 กรกฎาคม การประชุมครั้งนี้จะเน้นการหารือเกี่ยวกับแนวทางให้ประชาชน
เข้าถึงบริการสุขภาพให้มากขึ้นโดยที่ราคาไม่แพง ซึ่งตามปกติการประชุมแต่ละครั้ง
จะหารือเฉพาะในเรื่องของโรคติดต่ออุบัติใหม่ แต่เนื่องจากในรอบปีที่ผ่านมา
ไม่มีการแพร่ระบาดของโรคที่รุนแรง

จึงหาแนวทางในการพัฒนาความร่วมมือด้านสุขภาพเพื่อลดปัญหาสุขภาพของประชากร

                        

          นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข แถลงข่าวว่า รัฐมนตรีสาธารณสุข
จากทุกประเทศจะกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมถึงกรอบความร่วมมือด้านสุขภาพ

          โดยให้ความสำคัญใน 3 เรื่องหลัก คือ

1.อาหารปลอดภัย

2.การควบคุมโรค โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 และ

3.การเข้าถึงบริการด้านสุขภาพและการส่งเสริมด้านสุขภาพ


                    ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

          รมต.จุลินทร์ ยัง ชง 9 มาตรการช่วยคนไทยเข้าถึงบริการ คือ

1.เพิ่มงบเหมาจ่ายรายหัวสำหรับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อให้บริการด้านสุขภาพฟรี
แก่ประชาชนจาก 2,401 บาทต่อคนต่อปี เป็น 2,546 บาทต่อคนต่อปีในปี 2554

2.การรักษาพยาบาลฟรีโรคที่ใช้จ่ายสูงเช่นโรคเอดส์เบาหวานความดันโลหิตสูงโรคหัวใจและจิตเวช

3.ขยายสิทธิรักษาพยาบาลกลุ่มผู้ใช้แรงงาน 8.7 แสนคน ให้ครอบคลุมถึงบุตรและคู่สมรส

4.แก้ปัญหาโรคความดัน เบาหวาน และโรคอ้วน ซึ่ง 1 ใน 3 ของประชากร กำลังเผชิญกับโรคนี้
โดยจะเร่งคัดกรองให้เข้ามารับการรักษา รณรงค์ให้เปลี่ยนพฤติกรรมทานอาหารและให้ออกกำลังกาย

5.หญิงตั้งครรภ์ทั่วประเทศ 8 แสนคนต่อปีให้ได้รับสารไอโอดีนครบถ้วน

6.ปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อเสริมสารไอโอดีนในเกลือและน้ำปลา

7.เด็กตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลไปจนถึงชั้น ป.6 ได้รับบริการนมโรงเรียนฟรี

8.รณรงค์ลด ละ เลิก เหล้าและบุหรี่อย่างมีประสิทธิภาพ และ

9.ยกระดับสถานีอนามัย  1 หมื่นแห่งเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
เพื่อส่งเสริมสุขภาพ และเพิ่มการเข้าถึงบริการของประชาชนในปี 2553-2554


           "การประชุมครั้งนี้จะมีหารือถึงเรื่องขยายกรอบความร่วมมือของประเทศ
อาเซียนกับอีก 3 ประเทศเพิ่มเติม ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย ซึ่งไทย
พร้อมที่จะสนับสนุนในการขยายความร่วมมือกับ 3 ประเทศนี้" นายจุรินทร์กล่าว

                     รักนะ รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2553, 19:42:47 »

 
ขอขอบคุณเวบฐานเศรษฐกิจวันเสาร์ที่ 31 กรกฏาคม 2010 ณัฐญา เนตรหิน    ข่าวรายวัน
http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=37486:2010-07-31-06-45-21&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524

รมว.สธ.พร้อมเดินหน้าโครงการรักษาพยาบาลฟรีรวมโรคร้ายแรง



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  เปิดเผยถึงแนวทางการขับเคลื่อน
การทำงานของกระทรวงสาธารณสุข หลังมอบนโยบายแก่ข้าราชการกระทรวงฯ5 จังหวัดชายแดน
ภาคใต้ และ อสม.ใหม่ ของจังหวัดนราธิวาส ว่า

จากนี้ไปโครงการรักษาพยาบาลฟรี ซึ่งรวมถึงการรักษาฟรีในโรคร้ายแรงทั้งระบบอาทิโรคเอดส์
โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคจิตเวช

ส่วนโรคไตผู้ป่วย เสียค่าใช้บริการเพียงการล้างเลือดแทนไตจาก1,500 บาทต่อครั้ง เหลือจ่าย
เพียง500บาทส่วนที่เหลือรัฐเป็นผู้ออกให้เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงการบริการของรัฐอย่างทั่วถึง



นอกจากนี้ จะมีการตรวจสอบบัญชีรายชื่อยาสมุนไพรอีกกว่า 400 รายการ เพื่อเตรียม
พิจารณานำขึ้นบัญชีเข้าเป็นยาในโครงการ รักษาพยาบาลฟรี

ส่วนการใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทองเพื่อเข้ารับการรักษาฟรีนั้น ปัจจุบันยังติดปัญหาเรื่อง
ระบบฐานข้อมูลของประชาชน เนื่องจากบางพื้นที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ไม่มีอินเทอร์เนตใช้
ทำให้ไม่สามารถแยกประเภทสิทธิ์ว่าเป็นข้าราชการ ผู้ประกันตนหรือประชาชนทั่วไปได้
เบื้องต้นได้แก้ปัญหาโดยการจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการด้วยแผ่นดิสและกระจายข้อมูลไป
ยังสถานพยาบาลทุกแห่ง

ซึ่งประชาชนจะเริ่มใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทองในทุกพื้นที่ตั้งแต่วันที่1 ตุลาคม นี้
 
ส่วนโครงการไทยเข้มแข็งที่มีความล่าช้าจากปัญหาถูกร้องเรียนเรื่องการทุจริตนั้น
ยืนยันว่า ปัญหาดังกล่าวจบแล้ว และพร้อมเดินหน้าโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง
เพื่อก่อสร้างอาคารบริการ ที่พักแพทย์และพยาบาล ปรับปรุงระบบสาธารณสุข จัดซื้ออุปกรณ์และ
เครื่องมือทางการแพทย์ รวมถึงการพัฒนาโรงพยาบาลทั่วประเทศ

นอกจากนี้ยังตั้งเป้าภายใน 2 ปีจะยกระดับสถานีอนามัยเป็นรพ.ส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล
ครบ10,000แห่งทั่วประเทศ โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพดังกล่าว จะต้องมี

การปฏิบัติใน 5 ด้าน คือ
ส่งเสริมสุขภาพ ควบคุมป้องกันโรค รักษาอาการเบื้องต้น ฟื้นฟูสุขภาพ คุ้มครองผู้บริโภค


ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ
ในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ โรงพยาบาลทั่วประเทศจะดำเนินการตามโครงการโรงพยาบาลสาธารณสุข

ยุคใหม่ให้คนไทยสุขภาพดี มีรอยยิ้ม ด้วยบริการ 3 ดี (3 S)ประกอบด้วย
S1 บรรยากาศ (Structure). บรรยากาศดี
S2 บริการ (Service).บริการดี ทั้งการแพทย์ (Medical Service)และทั่วไป (General Service)
S3 บริหารจัดการ (System) บริหารจัดการที่ดี
   

รักนะ รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #2 เมื่อ: 02 สิงหาคม 2553, 13:33:49 »


ขอขอบคุณเวบเดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 02 สิงหาคม 2553 ที่สนับสนุนเนื้อหาข่าว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=23&contentId=82130



'สารสนเทศ Information technology (IT)' เร่งพัฒนา คือยาดี!

ความเคลื่อนไหวในวงการแพทย์ไทยในกรณีที่ไม่ใช่เรื่องวุ่นๆแต่เป็นกรณีสร้างสรรค์ก็มีที่น่าสนใจ...

คือ "การพัฒนาสารสนเทศทางการแพทย์”
   
เพื่อให้บริการผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วจะเป็นการบูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ
จากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งจากสถานพยาบาล และหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน

เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการดูแลรักษาสุขภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการเข้ารับบริการของประชาชน
เป็นการระบุของ นพ.ฆนัท ครุธกูล ผู้จัดการศูนย์หัวใจ ฯ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล รามาธิบดี   
เป็นการระบุที่มีนัยเกี่ยวโยงถึงการที่จะมีการจัด ประชุมระดับชาติ

“เมดิคัล ดาต้า สแตนดาร์ดส์ เอ็กซ์โปร์” ในช่วงวันที่ 20-21 ส.ค. 2553
ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


โดยความร่วมมือกันระหว่าง โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ,
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ,สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
สมาคมเวชสารสนเทศไทย, คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ สำนักคณะกรรมการอุดมศึกษา
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
   
รศ.นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
ในฐานะประธานจัดงานประชุม ระบุว่า... การประชุมดังกล่าวนี้จะเกี่ยวกับ

“ระบบสารสนเทศทางการแพทย์” จะเป็นโอกาสที่ดีในการ “พัฒนาศักยภาพด้านสาธารณสุข”

โดยคณะผู้จัดประชุมมุ่งเน้นพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการแพทย์ ซึ่งเป็นบันไดขั้นสำคัญ
ในการใช้ประโยชน์จาก

ระบบสารสนเทศทางการแพทย์

เป็นตัวแปรหลักที่ต้องหาทางเลือกเพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์ร่วมกันเพื่อพัฒนาบุคลากร
ด้านเทคโนโลยีสาร สนเทศทางการแพทย์ได้ต่อเนื่อง
   
ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีเล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งต่อข้อมูลทางการแพทย์ เนื่องจาก
ระบบบริการสุขภาพเป็นข้อมูลที่ยากต่อการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันระหว่างโรงพยาบาล
เข้าถึงได้ยาก และแตกต่างกันออกไป


จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงและองค์กรที่เกี่ยวข้องจัดการประชุมเรื่องระบบสารสนเทศทางการแพทย์
เพื่อสนับสนุนการให้บริการทางการแพทย์ และหน่วยงานภาคเอกชนที่ส่งเสริมและผลักดันการนำ
เทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์ไปสู่ภาคอุตสาหกรรมเพื่อศักยภาพของประเทศไทยในด้านนี้
   
“การใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์มีประโยชน์มาก"

ตัวอย่างการใช้ทำประวัติและนัดหมาย จะสามารถกำหนดรายละเอียดผู้ป่วยได้สะดวกและรวดเร็ว
ไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องค้นหาแฟ้มประวัติผู้ป่วย และสามารถเติมข้อมูลเข้าไปให้ถูกต้อง รวมถึง
สามารถรู้สถิติสารสนเทศได้เร็วขึ้น อาทิ จำนวนผู้ป่วย, ประสิทธิ ภาพยา, การเบิกจ่ายยา, ราคายา,
รวมทั้งสามารถติดตามสถานการณ์ โรคต่าง ๆ และ

ส่งต่อข้อมูลระหว่างโรงพยาบาลกับโรงพยาบาลได้อีกด้วย ...รศ.นพ.อาทิตย์ ระบุ
   
ขณะที่ นพ.ฆนัท เสริมว่า... การจัดประชุม “เมดิคัล ดาต้า สแตนดาร์ดส์ เอ็กซ์โปร์” ครั้งนี้
ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์

http://cvmc.mahidol.ac.th/mds/

หรือติดต่อสอบถามที่ โทร. 0-2201-2211 ต่อ 237 ซึ่งนี่เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมด้าน
บุคลากรและการวิจัยในการรองรับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารทางสุขภาพของประเทศ
โดยเฉพาะด้านการกำหนดมาตรฐานและการกำหนดข้อมูลใช้ประโยชน์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยและ
รวมถึงการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน
   
ที่ผ่านมาในอดีต การรักษาผู้ป่วยมีปัญหาอันเนื่องจากระบบเกิดขึ้นหลายรูปแบบที่ทำให้
ผู้ป่วยเกิดอาการเบื่อแพทย์ เบื่อโรงพยาบาล เช่น
การที่ผู้ป่วยต้องเสียเวลาเกือบทั้งวันในการเข้าพบแพทย์ตามโรงพยาบาล หรือ การฟ้องร้อง
ซึ่งการพัฒนาระบบข้อมูลสุขภาพจะช่วยได้

   
“จะช่วยให้การสืบค้นข้อมูลของผู้ป่วยทำได้สะดวกรวด  เร็ว และช่วยให้แพทย์เข้าถึงข้อมูล
ได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งสามารถส่งต่อข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือ

ส่งต่อไปยัง กระทรวงสาธารณสุข เพื่อการกำหนดนโยบายสาธารณสุขของประเทศได้
อย่างมีประสิทธิภาพ”
...นพ.ฆนัท ระบุ
   
ทั้งนี้ การประชุมเกี่ยวกับ “ระบบสารสนเทศทางการแพทย์” ดังกล่าวนี้ ถือว่า
สอดคล้องโดยตรงกับ แผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนระบบพัฒนา
ข้อมูลข่าวสารสุขภาพที่ ครม.มีมติเมื่อ20 ก.ค.ที่ผ่านมา   
นี่เป็น “เรื่องไม่วุ่นเกี่ยวกับแพทย์” ที่น่าติดตามผล!!.


 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

เครือข่ายกระทรวงสาธารณสุข Virtual Private Network:VPN ใกล้จะมีจริงแล้ว
ทำให้รักษาได้ที่ ร.พ.ทุกแห่งที่ เป็นสมาชิกเครือข่ายสาธารณสุข VPN โดยประชาชนจะ
ใช้บัตรประชาชน สมาร์ทการ์ด เข้าตรวจได้ทุกที่ในประเทศไทย ใช้สิทธิฟรีรักษาได้
แพทย์ที่ทำการรักษาจะล็อคอินเข้าไปใน ร.พ.ที่คนไข้เคยรักษาได้ ทำให้รักษาต่อเนื่องได้ทันที

 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><