คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ

[Dtoy16]

ฝนมาพร้อมวันกินเจ ค่อนข้างหนักทีเดียวแต่เป็นช่วงกลางคืนและบ่ายวันนี้    คุณเหยง นี่เวลามันตั้ง42ปีมาแล้วที่พวกเรามาเรียน อยู่หอจุฬา รู้สึกเหมือนไม่นาน เลย จริ้งจริง

[เหยง 16]

ปีที่เกิด 6 ตุลา 2519
หอหญิงเก่า (ที่ถูกรื้อในปี 2525) เกิดน้ำท่วมขนาดถึงเข่า

[เหยง 16]

ขณะนี้มีพายุเหลืออยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก / ทะเลจีน 2 ลูก

[เหยง 16]

พายุไต้ฝุ่นลูกที่ 24 คอปปู KOPPU



พายุโซนร้อนลูกที่ 25 จำปี CHAMPI

[เหยง 16]

ปธน.อากิโนออกทีวีเตือนชาวฟิลิปปินส์ระวังพายุไต้ฝุ่น“คปปุถล่ม

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2558 20:18:14 น.

ประธานาธิบดี เบนิญโญ อากิโนของฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศในวันนี้ เพื่อเตือนประชาชนให้ระวังอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “คปปุ" (KOPPU) ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย และดินถล่มในหลายจังหวัดทางเหนือของกรุงจาการ์ตา
ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ประธานาธิบดีอากิโนออกแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศเพื่อเตือนประชาชนเกี่ยวกับพายุไต้ฝุ่น หลังจากที่เขาเคยเตือนภัยพิบัติจากพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในปี 2013 ซึ่งคร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์มากกว่า 6 พันคน และไร้ที่อยู่อาศัย 14 ล้านคน
ทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ระบุว่า พายุคปปุอาจทำให้เกิด storm surge สูงถึง 4 เมตร

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2276351

[เหยง 16]

ฟิลิปปินส์เตือนภัย “ไต้ฝุ่นคอปปุ” ซัดฝั่งพรุ่งนี้-คาดฝนตกหนักต่อเนื่องถึง 3 วัน
17 ตุลาคม 2558 14:40 น.



อเล็กซานเดอร์ ปามา หัวหน้าสำนักงานป้องกันความเสี่ยงและจัดการภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์ เปิดแถลงข่าวเพื่อเตือนประชาชนถึงอันตรายจากไต้ฝุ่นคอปปุ (Koppu) ซึ่งจะพัดเข้าสู่หมู่เกาะฟิลิปปินส์ในวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.)

       เอเอฟพี - รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกประกาศเตือนภัยประชาชนเรื่องพายุไต้ฝุ่นคอปปุ (Koppu) ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน คลื่นพายุซัดฝั่ง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากตลอดช่วง 3-4 วันข้างหน้า
       
       สำนักอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ ระบุว่า ไต้ฝุ่นคอปปุซึ่งเป็นพายุที่มีกำลังแรงอันดับ 2 ที่ซัดถล่มแดนตากาล็อกในปีนี้ จะพัดเข้าสู่ชายฝั่งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ (18 ต.ค.) และคาดว่าจะกินเวลาอย่างน้อย 3 วันกว่าพายุลูกนี้จะเคลื่อนพ้นหมู่เกาะฟิลิปปินส์ในวันอังคาร (20)
       
       เอสปี คายานัน ผู้อำนวยการสำนักอุตุนิยมวิทยา เตือนว่า ไต้ฝุ่นคอปปุซึ่งมีความเร็วลมรอบจุดศูนย์กลางถึง 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจทวีกำลังแรงขึ้นอีกเมื่อเข้าใกล้ชายฝั่ง และเมื่อปะทะเข้ากับมวลสภาพอากาศที่รุนแรงใกล้เคียง จะทำให้ไต้ฝุ่นลูกนี้เคลื่อนผ่านตอนเหนือสุดของเกาะลูซอนไปอย่างช้าๆ
       
       “พายุลูกนี้อาจอยู่ในภาวะกึ่งนิ่ง (semi-stationary) เมื่อพัดขึ้นฝั่ง” เธอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
       
       ไต้ฝุ่นคอปปุซึ่งเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ด้วยความเร็วเพียง 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะทำให้เกิดฝนตกหนักในจังหวัดออโรราทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของฟิลิปปินส์ ก่อนจะเคลื่อนไปทางทิศเหนือของเกาะลูซอน และออกสู่ทะเลในที่สุด
       
       แม้กรุงมะนิลาจะไม่ได้อยู่ในเส้นทางพายุโดยตรง แต่ คายานัน ชี้ว่าศูนย์กลางของไต้ฝุ่นลูกนี้มีความกว้างมาก จนแม้แต่ภาคใต้ของฟิลิปปินส์ก็อาจเกิดฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรง
       
       เธอเตือนว่า พื้นที่ที่ไต้ฝุ่นลูกนี้เคลื่อนผ่านจะมี “ฝนตกหนักถึงหนักมาก” และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งความแรงเทียบเท่า “สึนามิ”
       
       สำนักงานป้องกันพลเรือนฟิลิปปินส์เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายทะเลให้ระวังอันตรายจากคลื่นพายุซัดฝั่งที่อาจสูงถึง 14 เมตร พร้อมประกาศให้เรือทุกชนิดงดออกจากฝั่ง คิดเป็นพื้นที่กว่าครึ่งประเทศ
       
       ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ตามริมแม่น้ำได้รับคำแนะนำให้อพยพ ก่อนที่จะเกิดอันตราย
       
       “ถ้ามีประกาศเตือนให้อพยพ เราก็ขอวิงวอนให้ท่านปฏิบัติตามด้วย” อเล็กซานเดอร์ ปามา หัวหน้าสำนักงานป้องกันความเสี่ยงและจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ แถลง พร้อมแนะให้ประชาชนงดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์นี้
       
       ด้านประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์ก็ได้ออกมาเตือนแล้วว่า ไต้ฝุ่นคอปปุอาจจะสร้างความเสียหายรุนแรงเป็นพิเศษ เนื่องจากฝนที่จะตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน
       
       หมู่เกาะฟิลิปปินส์ต้องเผชิญพายุเฉลี่ยปีละ 20 ลูก และส่วนใหญ่เป็นพายุที่มีความรุนแรง
       
       

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9580000116374
 

[เหยง 16]

พายุในวันนี้

ไต้ฝุ่นลูกที่ 24 คอปปุ KOPPU



ไต้ฝุ่นลูกที่ 25 จำปี CHAMPI

[เหยง 16]

ภาพจากดาวเทียม



มีหย่อมความกดอากาศต่ำเกิดขึ้นอีก 1 จุด
ต้องรอดูว่าจะพัฒนาขึ้นเป็นพายุหรือไม่??

[เหยง 16]

In Pics : “ไต้ฝุ่นคปปุ” เริ่มอ่อนกำลังหลังแผลงฤทธิ์ถล่ม “ปินส์” จมบาดาล-ชาวบ้านดับแล้ว 9 ศพ
19 ตุลาคม 2558 15:48 น.

 
       รอยเตอร์ – อิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่นคปปุ (Koppu) ซึ่งพัดถล่มภาคเหนือจองฟิลิปปินส์ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (18 ต.ค.) ส่งผลให้บ้านเรือนพังเสียหายเป็นจำนวนมาก เสาไฟฟ้าล้มระเนระนาด ต้นไม้ใหญ่หักโค่น และเกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากวาตภัยครั้งนี้ขยับเพิ่มเป็นอย่างน้อย 9 ราย
       
       สายฝนซึ่งเทกระหน่ำระหว่างที่ไต้ฝุ่นคปปุเคลื่อนตัวผ่านเกาะลูซอนเมื่อวานนี้(18) ทำให้หลายเมืองและหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอกและไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ขณะที่ทางการฟิลิปปินส์เตือนว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก
       
       ไต้ฝุ่นคปปุซึ่งอ่อนกำลังจากระดับ 4 ลงมาอยู่ที่ระดับ 1 กำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ไปทางทิศเหนือในวันนี้ (19) โดยมีการพยากรณ์ว่า มันน่าจะอ่อนแรงลงอีกจนกลายเป็นเพียงพายุโซนร้อนในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
       
       “ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่เราไม่สามารถเข้าถึงได้ หมู่บ้านต่างๆ ถูกน้ำท่วมประมาณ 60-70% บางแห่งระดับน้ำสูงถึง 3 เมตรก็มี... ประชาชนราว 20,000 คนยังติดค้างอยู่ในบ้านเรือน และกำลังต้องการอาหารและน้ำดื่ม” เฮนรี เวลาร์ด รองนายกเทศมนตรีเมืองแฮน (Jaen) ในจังหวัดนูเอบาเอซิฮา (Nueva Ecija) ทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา เผย
       
       สำนักงานบรรเทาความเสี่ยงและจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ ระบุว่า พบชาวบ้านพลัดตกต้นไม้และถูกกำแพงคอนกรีตล้มทับเสียชีวิต 2 ราย ขณะที่หน่วยยามฝั่งพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 7 ศพในทะเล
       
       หมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่ห่างไกลแม่น้ำในจังหวัดนูเอบาเอซิฮาก็หนีความเดือดร้อนไม่พ้น เนื่องจากมีกระแสน้ำไหลหลากลงมาตามที่ราบและหุบเขาต่างๆ
       
       “เราไม่คาดคิดมาก่อน จู่ๆ น้ำก็ไหลเข้ามาท่วมบ้าน พวกเราเลยต้องอพยพขึ้นที่สูง” เรย์นาโต ซิมบูฮัน หัวหน้าชุมชนวัย 44 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในชาวบ้านหลายร้อยที่หนีไปอาศัยอยู่ตามโรงเรียนและหอประชุมในเมืองซานตาโรซา ให้สัมภาษณ์
       
       “ชุมชนเราอยู่ห่างจากแม่น้ำ 7 กิโลเมตร แต่น้ำก็ยังท่วมจนได้” ซิมบูฮัน ระบุ พร้อมเสริมว่า ระดับน้ำที่ท่วมสูงถึง 5 ฟุตได้พัดพาเอาปศุสัตว์และบ้านเรือนที่ปลูกสร้างไม่แข็งแรงจมหายไป
       
       ก่อนหน้านี้ ทางการฟิลิปปินส์ได้สั่งอพยพประชาชนเกือบ 183,000 คนที่อาศัยอยู่ตามที่ราบลุ่มและพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม แต่ยังมีชาวบ้านอีกราว 6,000 คนที่ตกค้างอยู่ตามท่าเรือต่างๆ ของเกาะลูซอน
       
       หมู่เกาะฟิลิปปินส์ต้องเผชิญพายุปีละราวๆ 20 ลูก ซึ่งส่วนใหญ่มีอานุภาพรุนแรง
 
Credit Manager online at http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9580000117030








 

[เหยง 16]

วันนี้ (20 ต.ค.) พายุ 2 ลูกยังอยู่ในมหาสมุทรปาซิฟิก/ ทะเลจีน

ลูกที่ 24 อ่อนตัวเป็นพายุโซนร้อนแล้ว หลังจากถล่มภาคเหนืองของฟิลิปปินส์ และพัดเฉียงไม่ขึ้นเกาะไต้หวัน



ลูกที่ 25 เป็นพายุไต้ฝุ่น ความเร็วลมศูนย์กลางเกิน 100 ไมล์/ขั่วโมง แต่กลับกลับออกสู่มหาสมุทร ญี่ปุ่นรอดตัวไป











 

[เหยง 16]

ภาพถ่ายจากดาวเทียม

[เหยง 16]

พายุไต้ฝุ่นระดับ 4คอปปุ KOPPUสลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำไปแล้ว
และน่าจะไปถึงเกาะไต้หวัน

ส่วนพายุไต้ฝุ่นระดับ 3 จำปี CHAMPI พัดหมุนกลับสู่มหาสมุทนแปซิฟิก
ทำให้เกาะญี่ปุ่นปลอดภัย

[เหยง 16]

ภาพจากดาวเทียม




 

[เหยง 16]

ส่วนพายุลูกทีี่ 26 หรือ TD26W เริ่มต้นก่อตัวเป็นดีเปรสชั่นเมื่อวานนี่้ (22 ต.ค.)
วันนี้เริ่มอ่อนตัว และจะสลายตัวแล้วครับ

[เหยง 16]

ค่ำที่ 23 ตุลาคม
ชาวจุฬาฯ นครสวรรค์ นัดสังสรรค์ที่ห้องอาหารแฟรี่เมนู
โดยมี ผวจ. นายธนาคม จงจิระ (รัฐ 2522) ซึ่งเพิ่งย้ายจากลพบุรี ไปร่วมงาน

[เหยง 16]

1

[เหยง 16]

2



ยืนหลัง คือ พตอ.ราชันย์ อินทร์สิงห์ รัฐ & RCU 2516

[เหยง 16]

“แพทริเชีย” พายุเฮอริเคนแรงสุดเท่าที่เคยมีมาของซีกโลกตะวันตก ขึ้นฝั่งเม็กซิโกคืนนี้ คาดสร้างความเสียหายหนัก
24 ตุลาคม 2558 00:00 น.


       เอพี/เอเจนซีส์ - พายุเฮอริเคน “แพทริเชีย” ซึ่งมีความรุนแรงของลมเฉียดๆ 325 ก.ม.ต่อชั่วโมง สูงที่สุดเท่าที่เคยปรากฏในซีกโลกตะวันตก เคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งแปซิฟิกของเม็กซิโกในวันศุกร์ (23 ต.ค.) โดยเจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศระบุว่า พายุปีศาจร้ายลูกนี้จะ “ขึ้นฝั่งโดยมีศักยภาพที่จะสร้างความวิบัติหายนะร้ายแรง” ในช่วงบ่ายหรือเย็นของวันเดียวกัน ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าเวลาเมืองไทยราว 12 ชั่วโมง
       
       ประชาชนผู้พำนักอาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งแปซิฟิก ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโก ซึ่งมีทั้งสถานรีสอร์ตและหมู่บ้านชาวประมง พากันเสริมความแข็งแรงของบ้านเรือนด้วยการนำไม้กระดานมาตีปิดประตูหน้าต่าง และซื้อหาอาหารข้าวของต่างๆ เตรียมไว้ก่อนที่เฮอริเคนแพทริเชียจะเข้ามาถึง ขณะที่มีรายงานว่าได้มีการอพยพบ้างแล้วในเมืองปวยร์โต วายาร์ตา

 
       แพทริเชียมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางในระดับเกือบๆ 200 ไมล์ต่อชั่วโมง (325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ทำให้มันกลายเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยจดบันทึกกันในแถบแปซิฟิกตะวันออกหรือกระทั่งในแอตแลนติก เดฟ โรเบิร์ตส์ ผู้ชำนาญการเฮอริเคน ของศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุ
       
       พลังฤทธิ์เดชของแพทริเชียนี้ สามารถเปรียบเทียบได้กับไต้ฝุ่นไห่เอี้ยน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายไปกว่า 7,300 คนตอนที่มันพัดผ่านฟิลิปปินส์เมื่อ 2 ปีก่อน ทั้งนี้ตามรายงานขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก นอกจากนั้นยังมีผู้คนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยมากกว่า 4 ล้านคน และบ้านเรือนกว่า 1 ล้านหลังถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายใน 44 จังหวัดของภูมิภาคเซนทรัลวิซายาส อันเป็นกลุ่มหมู่เกาะกลุ่มใหญ่ที่มีจังหวัดยากจนที่สุดบางแห่งของฟิลิปปินส์รวมอยู่ด้วย

 
       ในเม็กซิโก เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตเทศบาลหลายสิบแห่งของรัฐโกลีมา, นายาริต และ ฮาลิสโก ทางด้านผู้ว่าการรัฐโกลีมา ได้ออกคำสั่งปิดโรงเรียนในวันศุกร์ (23) เมื่อทางศูนย์เฮอริเคนพยากรณ์ว่าพายุลูกนี้อาจจะขึ้นฝั่งในบริเวณระหว่างเมืองมันซานิโย เมืองท่าที่มีกิจกรรมคึกคักแออัดของโกลีมา และเมืองปวยร์โต วายาร์ตา เมืองตากอากาศหรูหราของรัฐฮาลิสโก โดยมีศักยภาพที่จะก่อให้เกิดความวิบัติหายนะอย่างร้ายแรง
       
       ตามผลการทำสำมะโนประชากรปี 2010 ในรัฐฮาลิสโกมีประชากรกว่า 7.3 ล้านคน ขณะที่เขตเทศบาลเมืองปวยร์โต วายาร์ตา มีกว่า 255,000 คน สำหรับรัฐโกลีมามีกว่า 650,000 คน โดยเมืองมันซานิโยมีกว่า 161,000 คน

 
       การอพยพได้ดำเนินไปในปวยร์โต วายาร์โต เมื่อวันศุกร์ (23) โดยเจ้าหน้าที่นำประชาชนไปอาศัยชั่วคราวในสถานที่หลบภัย 14 แห่งส่วนใหญ่เป็นโรงเรียน ทั้งนี้ตามเว็บไซต์ของรัฐบาลรัฐฮาลิสโก
       
       โรแบร์โต รามิเรซ ผู้อำนวยการของคณะกรรมาธิการน้ำแห่งชาติของเม็กซิโก ซึ่งดูแลหน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาของประเทศด้วย แถลงว่า ความรุนแรงของเฮอริเคนแพทริเชีย สามารถที่จะพัดเอารถยนต์ลอยขึ้นฟ้า, ทำลายบ้านเรือนที่ไม่ได้สร้างอย่างแข็งแรงมั่นคงด้วยปูนซีเมนต์และเหล็กกล้า และจะสามารถพัดเอาคนที่อยู่กลางแจ้งตอนที่พายุกระหน่ำเข้ามาให้ปลิวกระเด็น
       
       รามิเรซบอกว่าด้วย ประชาชนที่อาจได้รับอันตรายจากเฮอริเคนปีศาจลูกนี้มากที่สุด จะเป็นพวกที่อาศัยอยู่ในบริเวณชายฝั่ง โดยเฉพาะในรัฐฮาลิสโก

 
       เมื่อถึงตอนเช้าตรู่วันศุกร์ ความเร็วลมสูงสุดที่บริเวณใกล้ศูนย์กลางของแพทริเซียได้เพิ่มขึ้นเป็น 200 ไมล์ต่อชั่วโมง (325 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ทำให้มันเป็นพายุระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตามมาตรวัดซัฟฟีร์-ซัมป์สัน ที่ใช้วัดความรุนแรงของลมพายุเฮอร์ริเคน
       
       แพทริเชียมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองมันซานิโย ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 235 กิโลเมตร และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือด้วยความเร็ว 19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคาดหมายกันว่าจะขึ้นฝั่งในบริเวณระหว่างมันซานิโย กับ ปวยร์โต วาญาร์ตา ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในตอนบ่ายจนถึงเย็นวันศุกร์
       
       ศูนย์เฮอริเคนคาดหมายว่า แพทริเชียจะทำให้เกิดฝนตกระหว่าง 6 นิ้วจนถึง 12 นิ้ว แต่บางพื้นที่อาจจะตกรุนแรงถึง 20 นิ้ว ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่ม

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9580000118842
 

[เหยง 16]

พายุในมหาสมุทรแปซิฟิก น่าจะหมดลงแล้ว ปีนี้น่าจะมีทั้งสิ้น 26 ลูก
ขณะที่พายุเฮอริเคนแพทริเซียอ่อนแรงลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ
แต่มีผลกระทบต่อเม็กซิโกต่อไปอีก 1-2 วัน

พายุ “แพทริเซีย” ทำลายหมู่บ้านชาวประมงเม็กซิโก แต่พื้นที่อื่นแทบไม่ได้รับความเสียหาย
25 ตุลาคม 2558 10:41 น.


       เอเอฟพี – พายุแพทริเซียเข้าทำลายหมู่บ้านชาวประมงแห่งหนึ่งบริเวณชายฝั่งแปซิฟิกของเม็กซิโก แต่ทางการรู้สึกโล่งใจที่ได้เห็นว่าเมื่อวานนี้ (24) เฮอริเคนลูกใหญ่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมาลูกนี้ไม่ได้ขยายขอบเขตการทำลาย และได้อ่อนกำลังลงแล้วในขณะที่มันกำลังเคลื่อนสู่ทางตอนเหนือ
       
       บ้านไม้และบ้านอิฐที่มุงหลังคาด้วยสังกะสีและใบไม้ของ 40 ครอบครัวในหมู่บ้านชาเมลาได้ถูกพัดทำลายเมื่อพายุแพทริเซีย ทำให้เกิดดินถล่ม ในขณะที่พายุระดับ 5 ลูกนี้อยู่ในรัฐจาลิสโก เมื่อค่ำวันศุกร์ (23)
       
       40 ครอบครัวนี้รอดชีวิต เนื่องจากพวกเขาได้อพยพไปยังศูนย์พักพิงก่อนดินถล่ม ซึ่งเกิดขึ้นห่างไปทางตอนใต้เพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น
       
       ชาวบ้านได้กลับมาเก็บกวาดซากความเสียหายเมื่อวันเสาร์ (24) และบ่นว่า รัฐบาลไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใด ๆ เลย
       
       “เราไม่เหลืออะไรแล้ว บ้านผมไม่อยู่แล้ว” กริเซลดา เฮอร์นันเดซ กล่าวขณะมองดูพื้นที่ว่างเปล่าที่บ้านของเขาเคยตั้งอยู่

 
       ในขณะที่ชาวหมู่บ้านชาเมเลาสูญเสียแทบทุกสิ่ง แต่ภูมิภาคนี้ส่วนใหญ่กลับแทบไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ เลย และทางการยินดีที่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
       
       ประธานาธิบดี เอ็นริเก เปญา เนียโต ได้สั่งยกเลิกประกาศเตือนภัยเฮอริเคนสำหรับรัฐจาลิสโก รัฐโคลิมา และรัฐนายาริค ในขณะที่เขาไปเยือนภูมิภาคนี้ และระบุว่า ความเสียหาย “น้อยกว่าที่คาดไว้”
       
       “คำเตือนต่าง ๆ อาจจะถูกขยายความเกินจริง แต่มันก็ดีกว่าที่ได้รับคำเตือน” รูเบ็น ฟรีโกโซ เจ้าของร้านอาหารซึ่งกลับมาเปิดกิจการของเขาใหม่ในเมืองตากอากาศปูเออร์โตวัลลาร์ตาหลังจากพายุผ่านพ้นไป
       
       บรรดาโรงแรมริมทะเลในเมืองนี้ได้เคลียร์แขกออกก่อนที่พายุแพทริเซียจะมาถึง ในขณะที่นักท่องเที่ยวหลายพันคนถูกอพยพออกไปโดยรถบัสและเครื่องบิน หลายคนถูกส่งไปที่ศูนย์พักพิง แต่ท้ายสุดเมืองนี้กลับแทบไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ เลย
       
       เกราร์โด รูอิซ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เม็กซิโกปลอดภัยแล้ว เพราะว่าประชาชนมีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี และเทือกเขาซีเออร์รามาเดรออกซิเดนทอลก็ทำให้เฮอริเคนลูกนี้ชะลอความเร็วลง
       
       “เราโชคดีที่ผลกระทบถูกเบี่ยงเบน” ไปยังเทือกเขาดังกล่าว เขากล่าว และเสริมว่า “ธรรมชาติมีไมตรีจิต”

 
       

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9580000119108
 

[เหยง 16]

[เหยง 16]

หวาดเสียว! มนุษย์สลิงกว่า 10 ชีวิตปีนติดไฟบนยอดองค์พระปฐมเจดีย์รับงานเทศกาลที่จะมาถึงปลาย พ.ย.นี้ (ชมคลิป)
27 ตุลาคม 2558 17:13 น.

 
       นครปฐม - มนุษย์สลิงกว่า 10 ชีวิตเริ่มปีนป่ายองค์พระปฐมเจดีย์ที่มีความสูงกว่า 120 เมตรเพื่อนำดวงไฟกว่า 3,000 ดวง และไฟกระพริบอีก กว่า 600 ดวงขึ้นไปติดประดับให้เกิดความสวยงามรับเทศกาลเฉลิมฉลองนมัสกาลองค์พระปฐมเจดีย์ที่จะมีขึ้นในช่วง 22-30 พ.ย.นี้ ท่ามกลางสายตาของนักท่องเที่ยวที่ลุ้นระทึกด้วยความหวาดเสียวและตื่นเต้น
       
       
       
       วันนี้ (27 ต.ค.58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณโดยรอบองค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นักท่องเที่ยว และพุทธศาสนิกชนที่เข้ามากราบไหว้บูชา ขอพรพระร่วงโรจนฤทธิ์ และพระประธานทางต่างๆ ที่อยู่โดยรอบองค์พระปฐมเจดีย์ต่างตื่นตาและตื่นเต้นกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่ปีนองค์ปฐมเจดีย์ที่มีความสูงกว่า 120 เมตร จากฐานเพื่อนำดวงไฟกว่า 3,000 ดวงและไฟกระพริบอีก กว่า 600 ดวง ขึ้นไปติดประดับให้เกิดความสวยงามเพื่อรอรับเทศกาลเฉลิมฉลองนมัสกาลองค์พระปฐมเจดีย์ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
       
       ทั้งนี้ หลายปีที่ผ่านมาการนำดวงไฟมาติดที่องค์พระปฐมเจดีย์เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม สิ่งที่เกิดขึ้นคือจะมีภาพของมนุษย์ 10 กว่าคนจะปีนป่ายตั้งแต่ฐานองค์พระปฐมเจดีย์ ไปจนถึงบนยอดนพศูร จุดสูงสุดของเจดีย์ เป็นภาพที่สร้างความตื่นเต้น หวาดเสียว และสร้างความประทับใจให้กับผู้คนที่พบเห็น และเป็นสัญญาณบอกว่าเทศกาลประจำปี ในการนมัสกาลองค์พระปฐมเจดีย์จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้
       
       โดยทุกครั้งก่อนที่ทีมงานติดตั้งดวงไฟนับสิบชีวิตจะขึ้นไปทำหน้าที่ของตัวเองพระพรหมเวที เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์จะนำกล่าวบูชาขอขมาและขอพรพระร่วงโรจนฤทธิ์ และเหล่าช่างจะร่วมกันกล่าวขอขมาพระร่วงฯ จากนั้นพระพรหมเวที จะมอบเหรียญพระร่วงคล้องคอให้ช่างทุกคนก่อนจะพรมน้ำมนต์ให้เพื่อความเป็นสิริมงคล
       
       การปฏิบัติเช่นนี้มีมาตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมาที่ทีมงานชุดนี้ได้ทำงานมา ไม่เคยมีสักครั้งที่จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น และทุกคนเชื่อว่านี่คือพรและบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพระร่วงโรจนฤทธิ์ที่ดลบันดาลให้ความปลอดภัยกับพวกเขาให้ทำภารกิจด้วยความลุล่วงตลอดเวลา 20 กว่าปี
       
       นายพรเทพ ฐิติเบญจพล หัวหน้างานไฟฟ้าองค์พระปฐมเจดีย์ บอกว่า การทำงานติดตั้งดวงไฟ ตนได้รับมอบหมายมาตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งจะต้องใช้หลอดไฟแบบ 25 แรงเทียน จำนวน 3 พันกว่าดวง และหลอดไฟแบบกระพริบอีก 600 กว่าดวง การติดตั้งใช้เวลา 8-10 วันจึงจะเสร็จสิ้น
       
       ส่วนองค์เจดีย์จะใช้ส่วนที่คนปีนขึ้นได้เท่านั้น 16 คน ซึ่งก่อนหน้านั้นการติดดวงไฟจะทำเป็นเพื่อเป็นการถวายเป็นพุทธบูชา แต่ต่อมาพระพรหมเวที ได้ดำรัสว่าในช่วงหลังน่าจะเป็นการประดับไฟเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะวัดพระปฐมเจดีย์ก่อกำเนิดจากสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงริเริ่มให้มีการบูรณะและปฎิสังขรณ์ให้องค์พระปฐมเจดีย์ มีความยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกดังเช่นทุกวันนี้
       
       สำหรับองค์พระปฐมเจดีย์ เป็นปูชนียสถานอันสำคัญของประเทศไทยอยู่ภายในวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร มีประวัติความเป็นมายาวนานในแผ่นดินสุวรรณภูมิ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระโคตมพุทธเจ้า
       
       องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ใหญ่ รูประฆังคว่ำ ปากผายมหึมา โครงสร้างเป็นไม้ซุงรัดด้วยโซ่เส้นมหึมาก่ออิฐ ถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องปูทับ ประกอบด้วยวิหาร 4 ทิศ กำแพงแก้ว 2 ชั้นเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เป็นที่เคารพสักการบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ทางวัดกำหนดให้มีงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวม 9 วัน 9 คืน เป็น ประจำทุกปี โดยมีความสูงประมาณ 120 เมตร
       
       สำหรับการจัดงานเฉลิมฉลองในปีนี้ ได้กำหนดให้เริ่มในวันขึ้น 12 ค่ำถึงแรม 5 ค่ำ เดือน 12 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ย.ถึง 30 พ.ย. 58 เป็นเวลา 9 วัน 9 คืนและในปีนี้ยังได้มีการจัดงานพิธีครบ 100 ปีพระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราชปูชนียบพิตร โดยกำหนดให้มีพิธีการในวันที่ 1-4 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งจะมีการบวงสรวงเครื่องสักการบูชา แด่องค์พระร่วงโรจนฤทธิ์ ณ หน้าวิหารหลวงพ่อพระร่วงฯ การเททองหล่อพระร่วงฯจำลองสูง 2.45 เมตร จำนวน 2 องค์ อัญเชิญพระร่วงโรจนฤทธิ์องค์จำลอง และพระบรมฉายาลักษณ์ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 ผ้าไตรพระราชทาน จากสถานีรถไฟจังหวัดนครปฐม สู่องค์พระปฐมเจดีย์ และพิธีทางศาสนาที่สำคัญอีกหลายกิจกรรม

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9580000120009
 

[เหยง 16]

ฝั่งมหาสมุทรอินเดีย เกิดหย่อมความกดอากาศขนาดกลาง และหย่อมความกดอากาศต่ำ รวม 3 จุด
คงต้องติดตามในอีก 1 ถึง 2 วัน



ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก / ทะเลจีน เงียบหลังหมดพายุจำนวน 26 ลูกไปแล้ว
โดบลูกสุดท้านสลายตัวไปในวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา

[เหยง 16]

ปีนี้พายุมี 26 ลูก
แต่กระเซ้ฯมาประเทศไทยโดยลูกที่ 19 ในรูปของดีเปรสชั่น
ซึ่งอ่อนตัวจากระดับพายุไต้ฝุ่น -> พายุโซนร้อน -> ดีเปรสชั่น -> หย่อมความกดอากาศต่ำ
ช่วงวันที่ 15 ของเดือนกันยายน ที่ผ่านมา
ชื่อ พายุหว่ามก๋อ VAMCO ส่งผลให้ฝั่งตะวันออก อาทิ ชลบุรี จันทบุรี ระยอง น้ำท่วมหนักมีผู้เสียชีวิต
เมืองพัทยาน้ำท่วมสูง ทั้งที่อยู่ติดอ่าวไทย
และยังมีอิทธิพลไปถึงจังหวัดเพชรบุรี ลงไปถึงจังหวัดกระบี่

[เหยง 16]

ที่สุดของวันนี้
หย่อมความกดอากาศในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งมี 3 ลูกนั้น มี1 ลูกพัฒนาขึ้นเป็นพายุโซนร้อน Tropical cyclone




ความเร็วลมเริ่มที่ 6 น๊อต พัดขึ้นทางทิศเหนือ

[เหยง 16]

พายุถล่มพัดหลังคาบ้าน ปชช.เสียหาย ผู้ว่าฯ อ่างทองสั่ง จนท.สำรวจช่วยเหลือ
29 ตุลาคม 2558 10:57 น.


       อ่างทอง - พายุปลายฝนต้นหนาวถล่มเมืองอ่างทอง พัดหลังคาบ้านเรือนประชาชนหอบเอาสังกะสีปลิวว่อนไปตกกลางทุ่งนาจนได้รับความเดือดร้อนบ้านเปียกทั้งหลัง ผู้ว่าฯ สั่งนายอำเภอไชโย พื้นที่เกิดเหตุส่ง จนท.เข้าสำรวจช่วยเหลือประชาชนแล้ว
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ได้เกิดพายุฝนกระหน่ำมาอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลชัยฤทธิ์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 2 หลัง เนื่องจากลมพายุได้พัดเอาสังกะสีหลังคาบ้านหายไปทั้งแถบ จนทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะบ้านของ นายอำนาจ ใยบัว อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 42/1 หมู่ 2 ตำบลชัยฤทธิ์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง
       
       ต่อมา เช้าวันนี้ (29 ต.ค.) นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ได้สั่งการให้นายอำเภอไชโย ส่งเจ้าหน้าเข้าไปสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว
       
       ทั้งนี้ นายอำนาจ ใยบัว เจ้าของบ้านเปิดเผยว่า ขณะที่ตนพักอยู่ในบ้านกับภรรยา และลูกสาว อายุ 9 ขวบ ก็ได้เกิดลมพายุพัดหลังคาบ้านที่เป็นสังกะสีปลิวหลุดออกจากหลังคาปลิวไปตกที่กลางท้องนา และเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักนานกว่า 2 ชั่วโมง หลังฝนหยุดตกตนได้เข้าสำรวจภายในบ้านพบข้าวของได้รับความเสียหายบางส่วนเนื่องจากเปียกน้ำ และภายในบ้านโดนน้ำฝนสาดกระจายเปียกไปทั้งบ้าน ตนพร้อมด้วยภรรยา และลูกสาวต้องหามุมหลบนอนภายในบ้าน แต่โชคดีที่ฝนไม่ตกลงมาซ้ำอีก
       
       “พอรุ่งเช้าผมได้ไปเก็บสังกะสีที่ปลิวไปกลางทุ่งนาเพื่อนำมาเตรียมซ่อมบ้านต่อ และเช้าวันนี้ทางหน่วยงานราชการก็ได้เข้าสำรวจดูความเสียหาย พร้อมเตรียมการช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว” นายอำนาจ กล่าว

 
 
 จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9580000120691