คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ

[เหยง 16]

หาดูได้ยาก.. ไต้ฝุ่น+เฮอริเคน 4 ลูกอาละวาดพร้อมๆ กันในแปซิฟิก
9 สิงหาคม 2557 02:31 น.

 
 
แผนภูมิจากภาพดาวเทียมขององค์การ NOAA แห่งสหรัฐในวันศุกร์ที่ 8 ส.ค.นี้ แสดงให้เห็นไต้ฝุ่นฮาลอง (Halong) ทางซ้ายสุดที่กำลังมุ่งหน้าเข้าเกาะญี่ปุ่น ไต้ฝุ่นเจเนวีฟ (Geneveve) อยู่กึ่งกลางหลังจากข้ามเส้นแบ่งเวลาเข้ามาปั่นตัวเองขึ้นเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5 อวดนัยน์ตาเล็กแหลมแข่ง ไกลออกไปอีกฟากหนึ่งของแปซิฟิก เฮอริเคนอิเซล (Iselle) กับเฮอริเคนฆูลิโอ (Julio) กำลังหมุนคว้างมุ่งเข้าถล่มเกาะฮาวาย. 
 

       ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ได้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาดูได้ยากอีกครั้งหนึ่งในวันศุกร์ 8 ส.ค.นี้ เมื่อพายุรุนแรงในเขตร้อน 4 ลูก อาละวาดพร้อมๆ กันในมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่ทะเลจีนตะวันออก-ญี่ปุ่น ไปจนถึงทะเลฮาวาย ในนั้นมี 1 ลูกที่พัดข้ามเส้นแบ่งเวลาโลก เดินทางไกลกว่า 3,000 กิโลเมตรเข้าสู่เขตแปซิฟิก ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยเช่นกัน
       
       ขณะที่ไต้ฝุ่นฮาลอง (Halong) ชื่อเวียดนาม กำลังพัดเข้าซัดเกาะใต้ของญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ด้วยความแรงในระดับ 3 "ซูเปอร์ไต้ฝุ่นเจเนวีฟ" (Geneveve) ก็กำลังหมุนเคว้งอยู่ย่านใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิกราวคลุ้มคลั่ง เป็นไต้ฝุ่นระดับ 5 ซึ่งเป็นความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางระดับสูงสุด ในบรรดาพายุรุนแรงเขตร้อน
       
       ไกลออกไปพายุใหญ่อีก 2 ลูกคือ เฮอริเคนอิเซล (Iselle) กับเฮอริเคนฆูลิโอ (Julio) กำลังมุ่งหน้าเข้าถล่มหมู่เกาะฮาวายในสุุดสัปดาห์นี้เช่นกัน และกำลังจะเป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี ที่จะมีเฮอริเคนลูกหนึ่งพัดขึ้นฝั่งถึงเกาะใหญ่ และยังเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปีที่มีพายุแฝดเคลื่อนเข้าสู่ย่านนี้ ครั้งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2502 เฮอริเคน 2 ลูกพัดห่างจากเกาะราว 100 กิโลเมตร ทั้งนี้เป็นสถิติขององค์การพยากรณ์อากาศของรัฐบาลสหรัฐ
       
       อิเซลกำลังจะพัดตรงเข้านครโฮโนลูลู แต่สำหรับฆูลิโอคาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพัดเฉียงขึ้นไปในแนวตะวันตกเฉียงเหนือ เฉียดๆ ไปในขณะที่ "ไต้ฝุ่น" เป็นชื่อที่ใช้เรียกพายุรุนแรงในเขตร้อนในย่านแปซิฟิกและแปซิฟิกตะวันตก เฮอริเคนก็คือ "ไต้ฝุ่น" ที่เรียกกันในย่านแปซิฟิกตะวันออก หลังเส้นแบ่งเวลาสากล ไปจนถึงย่านแอตแลนติก ส่วนย่านแปซิฟิกใต้ลงไปจนถึงออสเตรเลียเรียก "ไซโคลนเขตร้อน"
       
       "เฮอริเคนเจเนวีฟ" เคลื่อนตัวข้ามเส้นแบ่งเวลาสากลเข้าสู่แปซิฟิกตะวันตกในเช้าวันที่ 7 ส.ค. (ตามเวลาซีกตะวันออก) จากพายุที่อ่อนแรงกำลังจะมลายไป เมื่อเจอกับผิวน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีอุณหภูมิสูงกว่าเหมือนกับเครื่องยนต์ที่ใกล้หมดน้ำมันใกล้จะดับได้รับเชื้อเพลิงใหม่ ปั่นตัวเองขึ้นอีกครั้งจนกลายเป็นไต้ฝุ่นระดับ 4 (Catagory 4) และ 5 ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 209 และ 241 กม./ชม.ตามลำดับ นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่าปรากฏการณ์นี้เกิดจากอิทธิพลจากปรากฎการณ์เอลนีนโญในย่านนี้
       
       ตามข้อมูลขององค์การบริหารภาคพื้นมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งสหรัฐ (US National Oceanic and Atmospheric Administration) หรือ NOAA ซึ่งเป็นหน่วยงานพยากรณ์อากาศของรัฐบาล ครั้งก่อนหน้านี้ที่เฮอริเคนลูกหนึ่งกลายมาเป็นไต้ฝุ่นเกิดขึ้นในปี 2549 โดยเฮริเคนอิโอเกะ (Ioke) พัดข้ามเส้นแบ่งเวลาสากลสู่ย่านแปซิฟิกตะวันตก เเดินทาง 17 วันจากอะแลสกาสู่ฮาวาย และเมื่อปี 2545 ก็มีเฮอริเคนเอลี (Ele) อีกลูกหนึ่งสร้างปรากฏการณ์เดียวกัน
       
       อย่างไรก็ตามการเดินทางของพายุทั้งสองลูกสั้นกว่า เส้นทางของไต้ฝุ่นเจเนวีฟอย่างเทียบกันไม่ได้
       
       เจ้าของสถิติระยะทางเป็นเฮอริเคน/ไต้ฝุ่นที่ชื่อจอห์น (John) ซึ่งเมื่อปี 2537 เดินทางไกลถึง 11,425 กม. โดยใช้เวลา 31 วัน
       
       เจเนวีฟเริ่มเคลื่อนจากจุดกำเนิดในแปซิฟิกตะวันออกเมื่อวันที่ 25 ก.ค. เดินทางมา 3,000 กม. ตามเส้นทางห่างจากเกาะฮาวายลงไปทางทิศใต้ ข้ามเส้นแบ่งเวลา และคาดว่าจะหมุนคว้างอยู่ในทะเลเปิดจนกระทั่งสิ้นฤทธิ์ไปเองในอีกหลายวันข้างหน้า.
       .

 
 
แผนภูมิประกอบข่าวพยากรณ์อากาศของโทรทัศน์ CNN ที่จับจากหน้าจอ แสดงให้เห็นตำแหน่งพายุใหญ่ทั้ง 4 ลูกชัดเจนยิ่งขึ้นในวันที่ 8 ส.ค.นี้.

 
 
ไต้ฝุ่นระดับ 3 ชื่อเวียดนาม "ฮาลอง" กำลังพัดไอน้ำคละคลุ้งขณะพุ่งเข้าหมู่เกาะญี่ปุ่นในวันศุกร์ 8 ส.ค.นี้ ไกลออกไปในย่านใจกลางแปซิฟิก ไต้ฝุ่นระดับ 5 เจเนวีฟกำลังหมุนคว้างอย่างไร้จุดหมาย แต่ได้สร้างประวัติการณ์อีกครั้งหนึ่ง จากเฮอริเคนเดินทางไกล 3,000 กิโลเมตรข้ามเส้นเขตแดนมาเป็นไต้ฝุ่น.

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9570000090623
 

[เหยง 16]

พายุทั้ง 4 ตัวครับ

ซ้ายไปขวา : ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นฮาลอง Halong, ไต้ฝุ่นเจเนวีฟ Genevieve, พายุโซนร้อนไอซิล Issele
และขวาสุด: พายุเฮริเคนจูลิโอ Julio

พายุ 3 ลูกด้านขวามือ เป้าหมายคือเกาะฮาวาย และ เกาะมิดเวย์

[เหยง 16]

ญี่ปุ่นถูกโจมตีด้วยพายุซุปเปอร์ไต้ฝุ่น 2 ลูก คือ นอกูริ และล่าสุดคือ ฮาลอง

ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นนอกูรี เมื่อเดือนที่แล้ว



ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นฮาลอง




หมายเหตุ: ระยะเวลาห่างกัน 1 เดือนพอดี

[เหยง 16]

ลักษณะและเวลาที่จะขึ้นฝั่งของพายุ

เจนีวีฟ



อิเซล



จูลิโอ

[เหยง 16]

ประเทศไทยมีฝนตกเฉลี่ยร้อยละ 60 ทั่วประเทศ อาจมีน้ำฝนสะสมในบางพื้นที่จนเกิดดินโคลนถล่ม น้ำท่วม
นักนิยมไพร นักเดินเขา ต้องระมัดระวัง
คลื่นในทะเลอันดามันสูงกว่า 20 เมตร ชาวเรือ นักท่องเที่ยวต้องระวัง

ประจำวันที่ 9 สิงหาคม 2557
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกอยู่ในเกณฑ์กระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนสะสมที่ตกต่อเนื่อง สำหรับทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “หะลอง” (HALONG) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวในช่วงวันที่ 9-10 สิงหาคม 2557 ขอให้ตรวจสอบลักษณะอากาศก่อนออกเดินทางด้วย โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมี
ฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตก
หนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมาก
บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

[เหยง 16]

                                              พยากรณ์อากาศประจำวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2557
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกอยู่ในเกณฑ์กระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ สำหรับทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “ฮาลอง” (HALONG) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นในวันนี้ ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวในช่วงวันที่ 10-11 สิงหาคม 2557 ขอให้ตรวจสอบลักษณะอากาศก่อนออกเดินทางด้วย โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง สุโขทัย และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี ลพบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ตั้งแต่จังหวัดระนองขึ้นไป: ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆมาก โอกาสมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

[เหยง 16]

ทิศทางของพายุฮาลอง

[เหยง 16]

โพสต์ภาพใหม่ครับ

เป็นภาพสุดท้ายของ JTWC แล้วครับ พรุ่งนี้ "ฮาลอง" จะสลายตัวในทะเลเหนือประเทศญี่ปุ่นแล้ว
คงจะมีฝนตกในพื้นที่ดังกล่าวต่อเนื่องไปอีก 2 วัน

[เหยง 16]

วันแม่ 12 ส.ค. 2557

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=e7EVporstKo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=e7EVporstKo</a>

http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=e7EVporstKo

[เหยง 16]

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=L9i7MyUXgo8" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=L9i7MyUXgo8</a>

http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=L9i7MyUXgo8

[เหยง 16]

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=rBcklELymys" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=rBcklELymys</a>


http://www.youtube.com/watch?v=rBcklELymys&feature=player_detailpage

[เหยง 16]

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=gsY0PgmDKYc" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=gsY0PgmDKYc</a>



http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=gsY0PgmDKYc

[เหยง 16]

"จุมพิตของแม่" บทเพลงอมตะรับวันแม่
10 สิงหาคม 2557 09:26 น.


       ต้อนรับการมาถึงของเทศกาลวันแม่แห่งชาติของไทยเรา ในวันที่ 12 สิงหาคม ด้วยเพลงรำลึกถึงพระคุณแม่ที่มีชื่อเสียงมากเพลงหนึ่งในประเทศจีน นั่นคือเพลง มามะเตอเหวิน(妈妈的吻) หรือ จุมพิตของแม่
       
       มามะเตอเหวิน เป็นเพลงที่แต่งขึ้นเมื่อปี 1980 โดย หวัง ฟู่หลิน ประพันธ์เนื้อร้อง กู่ เจี้ยนเฟิน ประพันธ์ทำนอง โดยแรงบันดาลใจมาจากความรักอันบริสุทธิ์ไม่ปรุงแต่งของมารดา โดยเฉพาะมารดาชาวจีนในชนบท สะท้อนวัฒนธรรมความคิดความรู้สึกแบบบ้านๆ ของชนชั้นแรงงานในจีน เพลงนี้ ต้นฉบับร้องโดย เฉิง หลิน

 
       เฉิง หลิน เป็นนักร้องหญิงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากในยุค 80s บทเพลงที่เธอขับร้องหลายเพลงยังคงขับกล่อมยุคสมัยมาจนถึงปัจจุบัน เอกลักษณ์ของเธอคือน้ำเสียงอันทรงพลังและการบรรเลงเพลงซอทุ้มต่ำอันไพเราะ
       
       อย่างไรก็ตาม บทเพลง มามะเตอเหวิน ฉบับที่โด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั้วแผ่นดินจีนนั้น ร้องโดยนักร้องหญิงชาวเจียงซู จู เสี่ยวหลิน

 
       ทั้งนี้ ในส่วนเทศกาลวันแม่ของประเทศจีน ถูกกำหนดขึ้นทุกวันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม ซึ่งตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา ทางการจีนได้กำหนดให้วันแม่เป็นวันรำลึกถึงมารดาผู้ยากไร้ในชนบทที่ต้องตรากตรำทำงานหนักเพื่อบุตรธิดาอันเป็นที่รัก

 
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=M7Ne10rwAK0" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=M7Ne10rwAK0</a>   
   
       มามะเตอเหวิน ต้นฉบับร้องโดย เฉิง หลิน

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=cofGqU5fpDo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=cofGqU5fpDo</a>
       
       มามะเตอเหวิน ฉบับยอดฮิตร้องโดย จู เสี่ยวหลิน

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Rue6awmVVgY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Rue6awmVVgY</a>
       
       มามะเตอเหวินร้องโดยนักร้องเด็ก เป้ย เป้ย

 
       在那遥远的小山村小呀小山村
       zai4 na4 yao2 yuan3 de xiao3 shan1 cun1 xiao3 ya xiao3 shan1 cun1
       ไจ้น่าเหยาหย่วนเตอเสี่ยวซานชุน เสี่ยวยาเสี่ยวซานชุน
       ณ หมู่บ้านชนบทเล็กๆ อันห่างไกล ชนบทเล็กๆ แห่งนั้น
       
       我那亲爱的妈妈已白发鬓鬓
       wo3 na4 qin1 ai4 de ma1 ma yi3 bai2 fa1 bin4 bin4
       หวั่วน่าชินไอ้เตอมามะ อี่ไป๋ฟาปิ้นปิ้น
       แม่อันเป็นที่รักของฉัน ผมหงอกขาวโพลน
       
       过去的时光难忘怀难忘怀
       guo4 qu4 de shi2 guang1 nan2 wang4 huai2 nan2 wang4 huai2
       กั้วชี่ว์เตอสือกวงหนันวั่งหาย หนันวั่งหวย
       วันเวลาเก่าๆ ยากลืมเลือน ช่างยากจะลืมเลือน
       
       妈妈曾给过我多少吻多少吻
       ma1 ma ceng2 gei3 guo4 wo3 duo1 shao3 wen2 duo1 shao3 wen2
       มามะเฉิงเก่ยกั้วหวั่ว ตัวเส่าเหวินตัวเส่าเหวิน
       จุมพิตที่มารดามอบให้ฉัน จุมพิตนับไม่ถ้วน
       
       吻干我那脸上的泪花
       wen2 gan1 wo3 na4 lian3 shang4 de lei4 hua1
       เหวินกานหวั่วน่าเหลี่ยนซั่งเตอเล่ยฮวา
       จูบซับน้ำตาบนหน้าให้แห้งหาย
       
       温暖我那幼小的心
       wen1 nuan3 wo3 na4 you4 xiao3 de xin1
       เวินหน่วนหวั่วน่าโย่วเสี่ยวเตอซิน
       ปลอบให้หัวใจดวงน้อยๆ อบอุ่น
       
       妈妈的吻甜蜜的吻
       ma1 ma de wen2 tian2 mi4 de wen2
       มามะเตอเหวินเถียนมี่เตอเหวิน
       จุมพิตของแม่ จุมพิตอันแสนหวาน
       
       叫我思念到如今
       jiao4 wo3 si1 nian4 dao4 ru2 jin1
       เจี้ยวหวั่วซือเนี่ยนเต้าหรูจิน
       ทำฉันตราตรึงถึงวันนี้
       
       妈妈的吻甜蜜的吻
       ma1 ma de wen2 tian2 mi4 de wen2
       มามะเตอเหวินเถียนมี่เตอเหวิน
       จุมพิตของแม่ จุมพิตอันแสนหวาน
       
       叫我思念到如今
       jiao4 wo3 si1 nian4 dao4 ru2 jin1
       เจี้ยวหวั่วซือเนี่ยนเต้าหรูจิน
       ทำฉันตราตรึงถึงวันนี้
       
       *遥望家乡的小山村小呀小山村
       yao2 wang4 jia1 xiang1 de xiao3 shan1 cun1 xiao3 ya xiao3 shan1 cun1
       เหยาวั่งจยาเซียงเตอเสี่ยวซานชุน เสี่ยวยาเสี่ยวซานชุน
       เหม่อมองไกล ไปยังบ้านเกิด ณ ชนบทเล็กๆ ชนบทเล็กๆ แห่งนั้น
       
       我那可爱的小燕子可回了家门
       wo3 na4 ke3 ai4 de xiao3 yan4 zi ke3 hui2 le jia1 men2
       หวั่วน่าเข่อไอ้เตอเสี่ยวเอี้ยนจื่อเข่อหุยเลอจยาเหมิน
       นกนางแอ่นน้อย โบยบินกลับสู่มาตุภูมิ
       
       女儿有个小小心愿小小心愿
       nv3 er2 you3 ge4 xiao3 xiao3 xin1 yuan4 xiao3 xiao3 xin1 yuan4
       หนี่ว์เอ๋อร์โหย่วเก้อเสี่ยวเสี่ยวซินย่วนเสี่ยวเสี่ยวซินย่วน
       ลูกสาวตั้งใจหวัง ด้วยความหวัง
       
       再还妈妈一个吻一个吻
       zai4 huan2 ma1 ma yi1 ge4 wen2 yi1 ge4 wen2
       ไจ้หวนมามะอีเก้อเหวิน อีเก้อเหวิน
       มอบหนึ่งจุมพิตกลับไปให้แด่แม่ หนึ่งจุมพิตนี้
       
       吻干她那思念的泪洙
       wen2 gan1 ta1 na4 si1 nian4 de lei4 zhu1
       เหวินกานทาน่าซือเนี่ยนเตอเล่ยจู
       จูบซับรอยน้ำตาแห่งความคิดถึง
       
       安抚她那孤独的心
       an1 fu3 ta1 na4 gu1 du1 de xin1
       อานฝู่ทาน่ากูตู๋เตอซิน
       ปลอบโยนความเดียวดายในหัวใจ
       
       女儿的吻纯洁的吻
       nv3 er2 de wen2 chun2 jie2 de wen2
       หนี่ว์เอ๋อร์เตอเหวิน ฉุนเจี๋ยเตอเหวิน
       จุมพิตแสนบริสุทธิ์จากลูกสาว
       
       愿妈妈得欢喜
       yuan4 ma1 ma de xi3 huan
       ย่วนมามะเต๋อสี่ฮวน
       หวังให้แม่ยินดีปรีดา
       
       女儿的吻纯洁的吻
       nv3 er2 de wen2 chun2 jie2 de wen2
       หนี่ว์เอ๋อร์เตอเหวิน ฉุนเจี๋ยเตอเหวิน
       จุมพิตแสนบริสุทธิ์จากลูกสาว
       
       愿妈妈得欢喜**
       yuan4 ma1 ma de xi3 huan
       ย่วนมามะเต๋อสี่ฮวน
       หวังให้แม่ยินดีปรีดา
       
       ซ้ำ *-** 1 รอบ

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9570000090375
 
 

[เหยง 16]

กลับจากนครปฐม เมื่อวานนี้แล้วครับ

ออกเดินทาง 13.00 น. ถึงบ้าน 17.20 น.

เลยเวลาไป 1 ชั่วโมงกว่า เพราะรถติด เนื่องจาก ปชช. กลับจาก ตจว. เต็มตลอดทาง

[เริง2520]

วันนี้มากันมากเลย

ทั้งหมด: 21 (แสดงตัว: 18, ซ่อนตัว: 3)
เริง2520, เหยง 16, khesorn mueller, Manop Klabdee, Dtoy16, หนุน'21, monapan478, Pete15, churaipatara, Lawyervat, Cartstelaz, nok15, supichaya, kumpolcomcai, CurseForU, อ้อย17, Saknarin0819159387, naneba

[Dtoy16]

           คุณเหยง น้องเริง  ได้เปิดเพลงวันแม่ฟังเพลินเพลินขณะอยู่ร.พที่ลูกสะใภ้มาคลอดหลานชาย
             เปิดเวปจากเทปเลตเลยพิมพ์อะไรไม่ได้  ไพเราะ ทุกภาษา ความหมายก็ดีน่ะค่ะ

[เหยง 16]

คุณต้อย


ยินดีด้วยครับ ที่ได้เป็น "คุณย่า หรือ อาม่า" แล้ว

[เหยง 16]

ไปอ่านเจอ แต่ไม่มีหอจุฬาฯ อยู่ในลิสต์ด้วย

13 หอพักสยอง...เรื่องหลอนๆ ที่น้องปี 1 ต้องรู้!!!

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9570000092295

ลองอ่านเล่นดูครับ

[เหยง 16]

วันนี้ (อาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม 2557)

ไปทอดผ้าป่า ที่อำเภอวังน้ำเขียว นครราชสีมา รวม 9 วัด

ออกเดินทาง 04.30 น. เพิ่งกลับถึงบ้านในขณะนี้เองครับ

[เหยง 16]

วัดอยู่ห่างออกไปจากตำบลหมูสี ปากช่อง เข้าเขต อ.วังน้ำเขียว 14 กม. ภาพคงได้ตามมาในโอกาสหน้าครับ

[เหยง 16]

เห็นด้วยกับคุณเปลว สีเงิน ในเรื่องนี้ครับ

เปลว สีเงิน
Saturday, 16 August, 2014 - 00:00
เมื่อเขา 'สะท้อนเรา' ให้สะทก.
มีคนถามผม เปิดสภา สนช.คัดเลือกตัวประธานและรองฯ ไปตั้งแต่ ๘ สิงหา แล้วเมื่อไหร่จะเปิดประชุม เพื่อโหวตเอาคนมาตั้งเป็นนายกฯ ให้มันจบเป็นเรื่องๆ ไปซักทีล่ะ?
    ก็นั่นน่ะซี...ผมก็อยากรู้เหมือนกัน!
    แต่เห็นเขากะการณ์กันว่า วันที่ ๑๘ สิงหาบ้าง ๒๐-๒๑  สิงหาบ้าง จะเรียกประชุมสมาชิก สนช.ทั้ง ๒๐๐ คน เพื่อพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๕๘ บ้าง โหวตตัวนายกฯ บ้าง
    ก็แค่กะการณ์ แต่จริงๆ แล้วจะเปิดสภา สนช.ได้วันไหน  ตัวว่าที่ประธานสภา สนช.เอง "ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร  วิชิตชลชัย"
    ท่านก็คงให้คำตอบไม่ได้?
    เพราะถึงขณะนี้ ตำแหน่งประธานสภาฯ ของนายพรเพชร และตำแหน่งรองประธานของนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย และนายพีระศักดิ์ พอจิต
    ก็ยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมา!
    ความจริง ระดับนายพรเพชรซึ่งเป็นนักกฎหมายน่าจะเข้าใจได้ ถึงท่านได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" แล้ว แต่ตามใบลาออกจะมีผลวันที่ ๑ ก.ย.๕๗
    แต่ตอนนี้ยังเดือนสิงหา....!?
    นั่นหมายความว่า ขณะนี้ท่านยังมีสภาพเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่ คือสวมหมวก ๒ ใบ ใบหนึ่งผู้ตรวจ และอีกใบ สมาชิก สนช.ในความหมาย ส.ส.และ ส.ว.
    จะเป็นทั้งประธานสภาฯ และทั้งผู้ตรวจการแผ่นดินในคราวเดียวกันได้หรือไม่ ผมดูๆ รัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว ไม่เห็นมีบอกว่าเข้าลักษณะต้องห้าม
    ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่?
    ต้องไปถาม คสช.หรือท่านเนติบริกร เพราะผม "ไม่ประสา" เรื่องกฎหมายจริงๆ!
    ไม่ประสาเหมือนสังคมไทย-สังคมสื่อวันนี้ ไม่มีอะไรให้ยึดถือเป็นแก่น-เป็นแกน-เป็นสาระ เพื่อสรรค์สร้างเป็นทางวิถีให้สังคมชาติกันแล้ว
    แค่มนุษย์เพศหญิงไทยใหญ่คนหนึ่ง บังเอิญหน้าตาดีอย่างที่เรียกว่า "สวย" ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหาร
    แค่นั้นแหละ...เป็นข่าวใหญ่ระดับชาติ ถึงขนาดออกข่าวด้วยใช้คำว่า...นักท่องเที่ยวตกตะลึงในความงาม
    ...!?!?
    หนังสือพิมพ์พาดหัว พาดก้านคอ โทรทัศน์โหมประโคมอื้ออึง สื่อออนไลน์กระหน่ำโพสต์ กระหน่ำแชร์
    และผู้คนก็แห่ไปดูหน้าสาวเสิร์ฟคนสวยที่ร้านในเชียงใหม่กัน ชนิดต้องจองคิว-จองโต๊ะข้ามวัน-ข้ามคืนกันเลย!
    ตั้งแต่โลกสื่อสารเข้าสู่ยุคดิจิตอลนี่ ผมว่ามนุษย์มันเพี้ยน มันบ้า มันติงต๊อง ไร้สาระจนน่าห่วง
    คล้ายยุคดิจิตอลมันดูดสติ-สัมปชัญญะ ในการใคร่ครวญ ไตร่ตรอง เพื่อการแยกแยะในแต่ละเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในวงจรชีวิตไปหมด คนยุคใหม่วันนี้ จึงมีประสาทสัมผัสต่อเรื่องราว
    เหมือนจระเข้....!
    เห็นอะไรไหวๆ ผ่านหน้า ไม่ว่าก้อนดิน ก้อนอิฐ ก้อนอุจจาระ "งับ" แล้วขยอกลงท้อง ลงสมองตามสัญชาตญาณหมด โดยไม่แยกแยะ
    ชาวบ้านซึ่งเป็น "ตัวรับ" น่าสงสาร เพราะตกเป็นเหยื่อ "ตัวส่ง" คือระบบสื่อโดยเฉพาะสื่อยุคดิจิตอลที่ทำเพื่อสนองตอบธุรกิจเป็นหลัก ข้อมูลข่าวสารสาระเป็นรอง
    ดูแล้วก็ขำ ประมูลช่องทีวีดิจิตอลกัน "คนละช่อง" ก็เหลือรับประทานแล้ว แต่ด้วยโมหะอันห่อหุ้มด้วยโลภะอีกชั้น
     ถึงขั้นแย่งกันประมูลคนละ ๒ ช่อง ๓ ช่อง ๔ ช่อง ช่องละเป็นพันๆ ล้าน
    แล้วก็มาชักแหง็กๆ "ตายไม่ลง" กันตอนนี้!
    ๓๐-๔๐ ช่อง แย่งกันก่ายจอไปหมด อีกซักปี ไม่มีเค้กให้แย่งกันขม้ำ ก็คงหัวโต แห้งตายทีละราย-สองราย
    ที่รวยและสบาย คือเกาหลี ญี่ปุ่น ที่ขายละคร ขายเกมโชว์ และพวกขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอล รวมถึงพวกทำรายการและพวกดารา ที่กลายเป็นสินค้าเหล่าช่องดิจิตอลต้องแย่งกัน
    จากราคา ๑๐ บาท ไปแข่งราคากันเป็น ๑๐๐ เป็น ๑,๐๐๐
    ลงท้าย คือ...แข่งกันตาย "ยกเข่ง"!
    เพราะมันมากช่อง แต่น้อยสมองนั่นแหละ ดาราตด  ดาราเยี่ยว ก็ไปถ่ายทำมาออกเป็นข่าว นั่งเมาธ์กันหน้าจอเป็นวรรคเป็นเวร
    แค่ขับรถปาดหน้ากัน แค่กินไอติมเจอไม้แดง ช่องดิจิตอลมูลค่าพันล้าน มันก็ยังแย่งกันทำเป็นข่าว ในขณะที่ข้าวรับจำนำทำประเทศเกือบล่มจม แทบไม่เป็นข่าว
    หนักกว่านั้น ด้วยบ้อท่า "ขยะออนไลน์" หลายๆ ชิ้น กลายเป็นเนื้อหาสาระที่แต่ละช่องดิจิตอลแย่งกันดึงข่าว-ดึงรูป ตามที่มีคนโพสต์ในอินเทอร์เน็ตเป็นข่าวออกจอ เรียกว่าเอาไปหากินต่อดิบๆ
    ชนิด ไม่มีที่มา-ที่ไป เขาโม้ เขาหลอก เขาแต่ง เพื่อเอามาโพสต์สนุกๆ ตามออนไลน์แค่ไหน ก็เอาไปออกดิบๆ ดื้อๆ ตามนั้น
    แล้วประมูลกันมาทำไมคนละ ๒ ช่อง ๓ ช่อง...หือ ก็ดีเหมือนกัน กลายเป็นยุคเงิน-ยุคทอง ของพวกพิธีกร พวกอ่านข่าว ที่ต้องแย่งซื้อตัวกันโครมๆ
    แบบนี้...น้ำขึ้นให้รีบตักเน้อ...พรรคพวก!
    ขืนชะล่าใจ นานไป จากที่ตัก "หมดน้ำ" เหลือแต่ขี้โคลนให้ขอด ดังนั้น ตักพอเต็มแล้วรีบขยับขยาย เล็งหาที่มั่นอยู่แบบ "ดังในเนื้อ" ด้วยมาตรฐาน ไม่ต้องฟู่ฟ่า เหมือนฟางสุมไฟ จะชัวร์กว่าแยะเลย
    ก็ลองขนาด "สาวเสิร์ฟสวย" ยังแย่งกันทำข่าวขึ้นหน้า  ๑ ออกโทรทัศน์ ๒-๓ วันติด มันก็บ้าใบ้ ไร้สาระ เต็มทีแล้ว
    ถ้าแบบนี้คือข่าวระดับชาติ มันมีให้ทำทุกวันแหละ....
    ไปซ่องที่เรียกว่า "สถานอาบ-อบ-นวด" อันมีเต็มบ้าน-เต็มเมือง เรียกมายืนเรียงคิวในฐานะ "สาวสวย" ทำเป็นข่าวมาพาดหัว-พาดจอ ได้ทุกวัน
    จะให้ดรามา บ่อน้ำตาแตกขนาดไหน ก็ร่ายไปซี สวย...แต่ไปเป็น ส.ส. เป็นรัฐมนตรีหญิงไม่ได้ ต้องมาทำงานบริการเพื่อเลี้ยงพ่อ เลี้ยงแม่ เลี้ยงผัว ยังไง ก็จาระไนไป
    เพ้อเจ้อ ไร้สาระแบบนี้ ถนัดกันอยู่แล้วมิใช่หรือ?
    "ความสวย-ความหล่อ-การแปลงเพศ" เดี๋ยวนี้กลายเป็นคุณสมบัติคู่บ้าน-คู่เมืองไปแล้ว     
    และเป็นคุณสมบัติสร้างงาน-สร้างเงิน-สร้างชื่อเสียง ที่สังคมไทยยอมรับ นิยม ชมชื่น ชนิดสุดลิ่มทิ่มดากไปแล้ว
    ถ้าจะว่า นี่คือ "จุดแข็ง" สังคมไทยวันนี้ ก็ลองมาดู "จุดอ่อน" สังคมไทยบ้างว่า...มีมั้ย?
    เรามองตัวเอง มักมองไม่ค่อยเห็น นี่..."ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ)" เขาบอกว่า
    "ไทยอาจไม่เป็นประเทศที่น่าสนใจในการลงทุนเหมือนที่ผ่านมาในสายตาของนักลงทุนญี่ปุ่นแล้ว"
    เพราะเมืองไทยดีทุกอย่าง เสียแต่คนไทยมีจุดอ่อน ๑๐  อย่าง คือ         
    ๑.คนไทยรู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก โดยเฉพาะหน้าที่ต่อสังคม คือเป็นประเภทมือใครยาวสาวได้สาวเอา
    เกิดเป็นธุรกิจการเมือง, ธุรกิจราชการ, ธุรกิจการศึกษา  ทำให้ประเทศชาติล้าหลังไปเรื่อยๆ
        ๒.การศึกษายังไม่ทันสมัย คนไทยจะเก่งแต่ภาษาของตัวเอง ทำให้ขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่างๆ ไม่กล้าแสดงออก ขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเอง จึงตามหลังชาติอื่น จะเห็นว่าคนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกเพื่อโอกาสที่ดีกว่า
        ๓.มองอนาคตไม่เป็น คนไทยมากกว่า ๗๐% ทำงานแบบไร้อนาคต ทำแบบวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ น้อยคนที่จะทำงานแบบเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน
        ๔.ไม่จริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ทำแบบผักชีโรยหน้า หรือทำด้วยความเกรงใจ ต่างกับคนญี่ปุ่นหรือยุโรปที่จะให้ความสำคัญกับสัญญาหรือข้อตกลงอย่างเคร่งครัด
    เพราะหมายถึงความเชื่อถือในระยะยาว ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิตความน่าเชื่อถือด้านนี้ลงเรื่อยๆ
        ๕.การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่ ประชากรประมาณ ๖๐-๗๐% ที่อยู่ห่างไกล ขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและชุมชน ซึ่งเป็นหน้าที่ภาครัฐต้องส่งเสริม
        ๖.การบังคับใช้กฎหมายไม่เข้มแข็ง และดำเนินการไม่ต่อเนื่อง ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปราบปรามไม่จริงจัง  การดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจหรือบริวารจะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน ไม่มีมาตรฐาน ต่างกับประเทศที่เจริญแล้ว ข้อนี้กระบวนการยุติธรรมจะต้องปรับปรุง
    ๗.อิจฉาตาร้อน สังคมไทยไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ เลี้ยงเป็นศรีธนญชัย ยกย่องคนมีอำนาจ มีเงิน โดยไม่สนใจภูมิหลัง โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูกแล้วไปเกาะผู้มีอำนาจ เอาตัวรอด
    คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่าผู้ก่อการร้าย ดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้ารานํ้า ทำให้คนดีไม่กล้าเข้ามา เพราะกลัวเปลืองตัว
        ๘.เอ็นจีโอค้านลูกเดียว NGO บางกลุ่ม อิงอยู่กับผลประโยชน์ NGO ดีๆ ก็มี แต่มีน้อย บ่อยครั้งที่ประเทศไทยเสียโอกาสอย่างมหาศาล เพราะการค้านหัวชนฝา เหตุผลจริงๆ ไม่ได้พูดกัน
     ๙.ยังไม่พร้อมในเวทีโลก การสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีการค้าระดับโลกของไทยยังขาดทักษะและทีมเวิร์กที่ดี ทำให้สู้ประเทศเล็กๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้
     ๑๐.เลี้ยงลูกไม่เป็น ปัจจุบันเด็กไทยขาดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกัน เป็นขี้โรคทางจิตใจ ไม่เข้มแข็ง เพราะเราเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ไม่สอนให้ลูกช่วยตัวเอง
    ต่างกับชาติที่เจริญแล้ว เขาจะกระตือรือร้นช่วยตนเอง ขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเอง และจะสอนให้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม
    เป็นไง...เขามองคนไทยทะลุมั้ย ผมว่า "พรุนทั้งตัว" ด้วยซ้ำ จะหวัง คสช.อุดรูพรุนด้วยปฏิรูป ก็กลัว "อกหักตอนแก่"...เฮ้อ!
 

[เริง2520]

น่าอ่าน น่าสนใจและน่าจะจริง

[เหยง 16]

ติดประชุม และทำรายงานซะ 2 วันเต็ม ไม่ได้เข้าเว็ปเลยครับ

[เหยง 16]

ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งทางภาคเหนือและอีสานตอนบน ต้องระวังเรื่องน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังฉับพลัน


       กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2557 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศพม่า ลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
       
        ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แพร่ พะเยา ลำปาง ตาก เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู สกลนคร และนครพนม ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมต่อเนื่องไว้ด้วย
       
        หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 22-24 ส.ค. ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศพม่า ลาว และเวียดนามตอนบน มีกำลังอ่อนลง แต่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์กระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
       
        พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
       
        ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แพร่ พะเยา ลำปาง และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
       
        ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู สกลนคร และนครพนม อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
       
        ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
       
        ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
       
        ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
       
        ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
       
        กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 
 
 

[เหยง 16]

ช่วงบ่ายออกไปประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครสวรรค์ครั้งที่ 3/2557 มาครับ
กลับถึงบ้านเกิน 5 โมงเย็น ฟ้าทำท่าและไม่ตกครับ