หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์
คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927
|
|
« ตอบ #8700 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2556, 09:48:26 » |
|
รออีกสัก หลายๆปี เราจะชื่นใจที่ได้เห็นต้นไม้ใหญ่ๆครับพี่ ต้นยางนา นีไม้ร้อยปี
หน้าฝนเข้ามาแล้ว น่าจะชุ่มฉ่ำทำให้ไม้ปลูกใหม่อยู่ยาวทุกต้นนะครับ...
|
“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้ อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8701 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2556, 10:42:29 » |
|
หนุน
วันนี้ต้องเอาขวดโค๊ก ขวดเปปซี อย่าง 1.25 และ 2 ลิตร กรอกน้ำใส่่เอาไว้ แล้วไปรดช่วยสร้างความชุ่มชื้น คาดว่า ต้องทำอีกหลายวันจนกว่าจะมีฝนตก ป้องกันต้นไม้เฉาตายขากการขาดน้ำ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8702 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2556, 19:41:19 » |
|
ฝนตกเมื่อหนึ่งทุ่มที่ผ่านมา ตกอยู่เกือบครึ่วชั่วโมง
ฝนชุดนี้น่าจะช่วยให้ดินเปียกชื้นไปได้อีกสัก 2 - 3 วัน
ไม่ต้องขนน้ำไปรดต้นไม้ในวันพรุ่งนี้แล้ว ?
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8703 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2556, 19:42:31 » |
|
หนุน
เห็นข่าวบอกว่า รถยนต์ขากลับจากจันทบุรี ตราด ชลบุรี หนาแน่นจนติดยาวหลาย ก.ม. แล้วชาวซีมะโด่ง กลับถึงบ้านกันแล้วหรือยัง ??
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #8704 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2556, 19:57:32 » |
|
หลายๆๆคันมาทางด่วนพิเศษระหว่างเมือง จึงติดมั้ง
หรือติดด้านอื่น ไม่ได้ดูข่าวครับ
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8706 เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2556, 20:31:29 » |
|
สินค้าของตี๋ มูลค่าสูง เช่น ถั่วเหลือง มุมาก ได้มาก
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8707 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2556, 07:00:29 » |
|
ฝนเริ่มลดลงในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ร้อยละ 40 ของพื้นที่เท่ากับภาคกลาง กทมงและปริมณฑล ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ฝนมีสูงถึงร้อยละ 70 ของพื้นที่ คลื่นในทะเลสูง 2 เมตรขึ้นไป ชาวเรือต้องระมัดระวังพยากรณ์อากาศ ประจำวันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจาก ภัยธรรมชาติในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ โดยกลุ่มฝนจะเคลื่อนจากด้านตะวันตกไปทางด้านตะวันออก อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8708 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2556, 07:52:18 » |
|
เรื่องของไฟฟ้าดับใน 14 จังหวัดภาคใต้ เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา..อีกที ความไม่มั่นคงทางไฟฟ้า กรณี “ไฟฟ้าดับ 4.53 ชั่วโมงในภาคใต้ 14 จังหวัด” วันที่ 21 พฤษภาคม ถือเป็น “วิกฤติร้ายแรง” ด้านพลังงานไฟฟ้าของไทย ซึ่งจะต้อง “มีคนรับผิดชอบ” ต่อ “ความผิดพลาด” ที่เกิดขึ้น แต่ด้วย การบริหารประเทศแบบไทยๆ ทุกอย่างจึงถูก ปัดความรับผิดชอบ ไปด้วยข้ออ้างง่ายๆ ฟ้าผ่าสายส่ง เป็นเหตุสุดวิสัย เลยไม่ต้องมีใครรับผิดชอบ
คนไทยก็เชื่อง่าย ประชาชน และ ธุรกิจ ใน 14 จังหวัดภาคใต้ เลย ต้องก้มหน้ารับผิดชอบความเสียหายกันเอง ทั้งๆ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) เป็นผู้ผิด ตามคำให้สัมภาษณ์ของ คุณพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีคมนาคม
“เหตุ” ที่ทำให้ “ไฟฟ้าดับ” ในภาคใต้ทั้งภาค รัฐมนตรีพงษ์ศักดิ์ แถลงต่อสื่อว่า สายส่งไฟฟ้าไปภาคใต้มี 4 เส้น 500 กิโลวัตต์ 2 เส้น 230 กิโลวัตต์ 2 เส้น ช่วงเช้าวันที่ 21 พฤษภาคม กฟผ.ปลดสายส่ง 500 กิโลวัตต์ 1 เส้น เพื่อซ่อมบำรุง และ เส้นที่ 2 เกิดชำรุด คาดว่าเกิดจากฟ้าผ่า (คงได้รับรายงานอย่างนั้น) จึงต้องจ่ายไฟผ่านเส้น 230 กิโลวัตต์ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ทำให้ส่งไฟฟ้าเกินกำลัง ส่งผลให้สายส่ง หลุดจากระบบ
เมื่อไม่มีไฟจากภาคกลาง โรงไฟฟ้าภาคใต้ เช่น โรงไฟฟ้าขนอม จะนะ เขื่อนรัชชประภา ก็ผลิตไฟเต็มกำลัง 1,600 เมกะวัตต์ จนถูกปลดจากระบบโดยอัตโนมัติ เพราะวันที่ 21 พ.ค. ความต้องการใช้ไฟอยู่ที่ 2,200 เมกะวัตต์ แสดงว่าไฟที่ส่งจากภาคกลางไปสู่ภาคใต้สูงถึง 600 เมกะวัตต์ หรือ 600,000 กิโลวัตต์ น่าตกใจไหม
รัฐมนตรีพงษ์ศักดิ์ แถลงด้วยว่า ภาคที่สายส่งเต็มกำลัง และ เสี่ยงภัยที่สุด ต่อจากภาคใต้ก็คือ กรุงเทพมหานคร และ ภาคอีสาน ถ้าไฟฟ้าดับทั้งกรุงเทพฯ 3-4 ชั่วโมง คงดูไม่จืดแน่นอน
เรื่องพื้นๆอย่างนี้ ผมเชื่อว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ย่อมรู้ดีอยู่แล้ว เมื่อจะปิดซ่อม จึงควรวางแผนบริหารจัดการระบบให้ดี ไม่ใช่มาอ้างส่งเดชว่า “ฟ้าผ่าสายส่ง” จริงไม่จริงก็ไม่รู้ ฟ้าผ่าในเมืองไทยมีทุกวันอยู่แล้ว เมื่อฝนฟ้าคะนอง ถ้าฟ้าผ่าสายส่งได้ แสดงว่าสายส่งมีปัญหา ขนาด สนามกอล์ฟ เขายังติดตั้ง สายล่อฟ้าผ่า กันเลย
ยิ่งฟัง คุณอัญชลี ชวนิชย์ ประธานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ แถลงถึง ตัวเลขการใช้ไฟฟ้าสูงสุดทุกภาคของไทย ก็ยิ่งน่าเป็นห่วง และเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น เมื่อ ตัวเลขการใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯขัดกันเอง
คุณอัญชลี บอกว่า ภาคใต้ น่าห่วงที่สุด เพราะมีกำลังการผลิต 1,600 เมกะวัตต์ แต่ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด 2,353 เมกะวัตต์ ส่วน กรุงเทพฯ ต้องการใช้ไฟสูงสุด 9,963 เมกะวัตต์ ดึงไฟมาจากทั่วประเทศ ภาคกลาง ต้องการใช้ไฟสูงสุด 8,895 เมกะวัตต์ ดึงมาจากภาคอื่นเช่นกัน ภาคตะวันออก ต้องการใช้ไฟสูงสุดราว 6,000 เมกะวัตต์ ผลิตได้จากโรงไฟฟ้าในพื้นที่ ภาคอีสาน ต้องการใช้ไฟสูงสุด 3,265 เมกะวัตต์ ซื้อจากลาวเป็นหลัก และ ภาคเหนือ ต้องการใช้ไฟสูงสุด 2,710 เมกะวัตต์ ผลิตจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
ผมบวกตัวเลขดูคร่าวๆแล้ว รวมการใช้ไฟฟ้าสูงสุดเท่ากับ 33,186 เมกะวัตต์ เห็นตัวเลขแล้วตกใจ เพราะไทยมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมประมาณ 30,000 เมกะวัตต์ (ผมยังหาตัวเลขแน่นอนไม่ได้) ส่วนการใช้ไฟฟ้าสูง เว็บไซต์ กฟผ. ระบุว่า 16 พ.ค. ไทยทำสถิติใหม่ 26,598.1 เมกะวัตต์ ตัวเลขของประธาน กฟผ. จึงสูงกว่าสถิติใหม่ถึง 6,587.9 เมกะวัตต์ หรือ 6,587,900 กิโลวัตต์ และสูงกว่ากำลังผลิตไฟฟ้ารวมประมาณ 3,186 เมกะวัตต์ หรือ 3,186,000 กิโลวัตต์
ทั้ง 2 ตัวเลข มาจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ทั้งสิ้น ผมจึงไม่ทราบว่า ตัวเลขไหนจริง ตัวเลขไหนไม่จริง แต่ทำให้ข้อมูลของ กฟผ.น่าเชื่อถือลดลง
แต่ไม่ว่า ตัวเลขไหนจะจริงหรือไม่จริงก็ตาม ก็เป็นตัวเลขที่สะท้อนถึง วิกฤติไฟฟ้าไทย ที่ มาถึงแล้วในวันนี้ ถ้า กรุงเทพฯ จะเกิดไฟฟ้าดับแบบภาคใต้ เพราะ สายส่งไฟฟ้าในกรุงเทพฯก็มีขนาดเล็กเกินกำลังการใช้ไฟ เลยทำให้เกิดอาการ “ไฟฟ้าตก” บ่อยๆ แค่คิดก็สยองแล้วครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/347164
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8710 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2556, 15:59:11 » |
|
หนุน
ขนาดหนังสือพิมพ์ที่เชียรรัฐบาลยังเล่นแรงขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องเล่น เล่น และน่าจะเป็นเรื่องที่มีเบื้องหลัง
ข้อสังเกตุ ปกติที่เห็นแม้แต่เสาไฟฟ้าส่องสว่าง ทุกต้นต้องมีสายดิน เสาแรงสูงจะไม่มีสายดินเพื่อให้ไฟฟ้า รวมทั้งไฟจากฟ้าผ่าไหลลงกราวด์เชียวหรือ ??
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8711 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2556, 16:18:14 » |
|
บทท้ายของ ท่านขุนน้อย ในไทยโพสต์.......
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Gospel of Buddha...Water surrounds the lotus flower, but does not wet its petals. - ดอกบัวมีน้ำล้อมรอบ แต่น้ำไม่เปียกกลีบบัว...http://www.thaipost.net/news/270513/74124
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8712 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2556, 20:19:50 » |
|
ใครๆ ก็ซ้ำเติม ธปท. ที่ไม่ยอมฝ่ายการเมือง เรื่องขอลดดอกเบี้ย เพื่อให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวตามใจ รมต.คลัง
วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เวลา 02:12 น. ข่าวสดออนไลน์ อะไรที่ผิด บทบรรณาธิการผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตั้งข้อสงสัยกับตัวเลขจากแถลง การณ์ทางเศรษฐกิจของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
เพราะตัวเลขดังกล่าวออกมาต่ำกว่า ประมาณการ ที่ธปท.คาดเอาไว้ล่วงหน้า
อย่างไรก็ดี การจะพิสูจน์ว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่ จะต้องทำด้วยการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ใช่เรื่องเกินวิสัย
เพราะในเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองหรือความเสื่อมโทรมของประเทศนั้น มิใช่สิ่งที่จะหยิบยกมาพูดหรือกล่าวหาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอย่างลอยๆ ได้
โดยเฉพาะเมื่อต่างฝ่ายต่างเป็นองค์กรหลักด้านเศรษฐกิจของประเทศ
เพราะการตั้งข้อสังเกตดังกล่าว กลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองสำหรับคนอื่น-กลุ่มอื่นนำไปใช้กล่าวหา สศช.ว่า จงใจแต่งตัวเลขเพื่อเอาใจรัฐบาล และกดดันให้ ธปท.ลดดอกเบี้ยลงมานั้น
นำไปสู่การกล่าวหาว่า มีการสมคบคิดกันเพื่อจะให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยนำประเทศชาติไปเป็นเครื่องสังเวย
มีหรือรัฐบาล-หน่วยงานด้านเศรษฐกิจแห่งไหนจะเกิดความยินดีที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นลดลง การตัดสินใจลงทุนหรือบริโภคชะลอตัวลง
และถึงขั้นนั้นแล้ว แม้แต่การลดดอกเบี้ยลงมาก็อาจไม่สามารถช่วยเหลือหรือกอบกู้ได้
การเหมารวมง่ายๆ ว่าหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง ยอมเป็นเครื่องมือให้รัฐบาลกระทำการที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม
เป็นข้อกล่าวหาร้ายแรง และดูถูกเหยียดหยามองค์กร-ตัวบุคคลที่ถูกพาดพิง
หากระบุว่าตัวเลขเศรษฐกิจออกมาต่ำกว่าประมาณการที่คาดการณ์ไว้ เหตุใดจึงไม่เกิดคำถามในทางกลับกันว่าการทำประมาณการนั้นมีความถูกต้องแม่นยำมากน้อยเพียงใด
และเมื่อคาดการณ์ผิดแล้ว จะทำการปรับปรุงแก้ไขเพื่อมิให้ผิดพลาดซ้ำรอยเดิมหรือไม่-อย่างไร
ความผิดจากการไม่เรียนรู้จากความผิดพลาดดั้งเดิมนั้น ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
ธปท.ยิ่งน่าจะเข้าใจเรื่องนี้กว่าใคร http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk9UVTVOVFUzTVE9PQ==§ionid=
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8713 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2556, 20:21:55 » |
|
แถมเจอตอบโต้ จาก สศช.......บอกว่าสอนมวย ์อีกต่างหากอย่างภาคภูมิใจสศช.ยัน GDP ถูกต้อง สอนมวย ธปท.ลืมคิด ศก.นอกระบบ
เลขาธิการ สศช.แจงจัดทำจีดีพี ตามมาตรฐานสากล จี้ธปท.แยกแยะตัวเลขประมาณการกับตัวเลขจีดีพีจริง แถมสวนกลับเคยประกาศตัวเลขดัชนีบริโภคภาคเอกชนต่ำกว่าตัวเลขจริงของสศช. แจงเหตุผลสำคัญที่การบริโภคต่ำ เพราะส่งออกไม่ได้ กำไรน้อยลง ส่วนการจ้างงานที่สูงแต่ชั่วโมงการทำงานลดลง แนะสร้างโมเดลการคำนวณให้ครบถ้วนกว่านี้...
เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2556 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้แถลงข่าวนัดพิเศษเพื่อชี้แจงการจัดทำผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ว่า สศช.ในฐานะหน่วยงานจัดทำตัวเลขจีดีพีขอยืนยันตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2556 ที่ประกาศเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมาเป็นไปตามมาตรฐานสากล ตามระบบรายได้ประชาชาติมาตรฐานสากลขององค์การสหประชาชาติ ที่ใช้กันทั่วโลก ขณะเดียวกันได้ร่วมกับโครงการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) 2 โครงการ คือ โครงการการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการเผยแพร่ข้อมูล และการเผยแพร่ข้อมูลระดับสูง เน้นการเผยแพร่ข้อมูลระยะสั้นที่รวดเร็ว ตรงเวลา มีความโปร่งใส ซึ่งประเทศไทยผ่านการประเมินมาตรฐานคุณภาพจากไอเอ็มเอฟตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา และปัจจุบันสามารถเผยแพร่ได้ 8 สัปดาห์ภายหลังสิ้นสุดไตรมาส
“จีดีพีไตรมาส 1/2556 ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงตัวเลขที่ออกมาขยายตัว 5.3% ไม่เป็นไปตามธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ต้องการ ทางสศช.ขอยืนยันว่าข้อมูลจีดีพีเป็นส่วนหนึ่งของรายได้ประชาชาติที่มาจาก 3 ด้าน คือ การผลิต การบริโภคหรือการใช้จ่าย และรายได้ โดยทั้ง 3 ส่วนต้องสัมพันธ์กันและสมดุลตามทฤษฏีและเป็นไปตามมาตรฐาน”
ขณะเดียวกันจะต้องแยกแยะให้ชัดเจนระหว่างตัวเลขประมาณการณ์คือการพยากรณ์หรือการคาดการณ์ กับตัวเลขจีดีพีที่เป็นตัวเลขจริง ถ้าเป็นข้อมูลทางการขอให้เชื่อ สศช.เพราะรวบรวมข้อมูลพื้นฐานจากทุกแหล่ง ส่วนตัวเลขประมาณการณ์ อาจจะไม่เป็นไปตามพยากรณ์ ต้องขึ้นกับสภาพความจริงจะเกิดขึ้นอย่างไร เพราะไม่มีโมเดลใดที่แม่นยำ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของมนุษย์ การใช้จ่าย การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ ภาวะภัยแล้ง น้ำท่วม และระหว่างข้อมูลทั้งสองก็ยังมีข้อมูลดัชนี ซึ่งจัดทำได้รวดเร็วกว่าการประมวลข้อมูลจริง
“จีดีพีไตรมาส 1 ที่ขยายตัว 5.3% ความจริงน่าจะโตมากกว่านี้เพราะฐานของไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าต่ำ แต่เพราะส่งออกต่ำกว่าเป้า ขยายตัวได้เพียง 4.5% จากเป้า 10% อีกทั้งค่าเงินบาทแข็งค่าทำให้ส่งออกไม่เป็นไปตามเป้า รายได้จากเงินดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อแลกเป็นเงินบาทก็น้อย ต้นทุนผู้ประกอบการก็เพิ่มจากค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ทำให้กำไรของผู้ประกอบการไม่สูงอย่างที่คิด ซึ่งกำไร ก็คือ จีดีพี ซึ่งลดลง อีกทั้งเมื่อนำจีดีพีไตรมาส 1/2556 ไปเทียบกับไตรมาส 4/2555 ก็ลดลง โดยติดลบ 2.2% การดูจีดีพีต้องเทียบทั้งกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและต้องเทียบกับไตรมาส ก่อนหน้าด้วย ส่วนตัวเลขว่างงานต่ำ การจ้างงานสูงต้องเข้าใจว่า ผู้ประกอบการต้องคงการจ้างงานไว้เพื่อรักษาแรงงานเพราะถ้าปล่อยไปแล้วจะไม่ ได้กลับมา แต่ชั่วโมงการทำงานจริงน้อยลง”
ขณะที่ส่วนของการบริโภคที่ธปท.มีความเห็นว่าทำไมถึงต่ำนั้น หากดูข้อมูลที่ ธปท.ประมาณการณ์หรือพยากรณ์การบริโภคเอกชนจะขยายตัว 5.8% ขณะที่จีดีพี ไตรมาส 1/2556 ของสศช.แสดงการบริโภคครัวเรือนขยายตัว 4.2% ก็ยังสูงกว่าดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน (PCI) ที่ธปท.จัดทำซึ่งขยายตัว 3.7% ในไตรมาส 1 และจากที่ ธปท.ประมาณการการบริโภคภาคเอกชน 5.8%ก็เพราะคิดว่าจีดีพีไตรมาส 1จะโต 6-8% ซึ่งในส่วนนี้ธปท.ก็บอกเองว่ามีโอกาส 51% ส่วนจะสูงกว่านี้มีโอกาส 30%
ทั้งนี้ มีประเด็นน่าสังเกตว่าตั้งแต่ปี 2549เป็นต้นมา การขยายตัวของการใช้จ่ายประชาชนปกติขยายตัว 4% จากที่สินค้าเกษตรราคาดี การใช้จ่ายประชาชนก็ดีขึ้น เมื่อใดราคายางพาราและข้าวดี ก็ออกรถปิคอัพมากขึ้น แต่ปี 2554 เป็นต้นมาราคาสินค้าเกษตรดิ่งลงตลอด และในปี 2556 ก็คงยังไม่ดี ขณะที่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนปี 2556 จะแย่ลงจากปี 2555 เพราะการซ่อมแซมบ้าน การซื้อของทดแทนน้ำท่วม การชดเชยบ้านและไร่นาจ่ายกันไปหมดแล้ว และโครงการรถคันแรกจากที่จอง 1.2 ล้านคัน ส่งมอบส่วนใหญ่ในปีก่อนไปแล้ว ยังค้างส่งมอบปีนี้ 530,000 คัน เป็นแรงส่งที่ลดลงเรื่อยๆ และจะสิ้นสุดในไตรมาส 3 ของปีนี้ และการขยายตัวของสินเชื่อใหม่ในไตรมาส 1/2556 ก็ติดลบถึง 105,295 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบได้จากดือนธ.ค. 2554-มี.ค. 2555 มีสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้น 229,397 ล้านบาท แต่ในเดือนธ.ค. 2555- มี.ค. 2556 มีสินเชื่อใหม่ 124,104 ล้านบาท
ส่วนระบบข้อมูลที่สศช.ใช้จะดูทั้งด้านการผลิตและการใช้จ่าย เมื่อส่งออกไม่ได้ตามคาด แสดงว่ามีสินค้าอยู่ในสต๊อก ซึ่งสศช.เก็บข้อมูลตั้งแต่สินค้าหมวดอาหาร หมวดไม่ใช่อาหาร สินค้าถาวร สินค้ากึ่งคงทนถาวรและสินค้าบริการ หากดูด้านบริโภค ธปท.ต้องไปดูโครงสร้างของธปท.ด้วยว่าได้คำนวณสินค้าครบทุกประเภทหรือไม่ ซึ่งคิดว่ายังขาดหมวดบริการ
"ต้องไม่ลืมว่า คนออกจากบ้านต้องกินในร้านอาหาร ดูหนัง เที่ยวผับ และมีรายจ่ายด้านการศึกษา รักษาพยาบาล ค่าอินเตอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ตลอดจนการให้บริการของคนรับใช้ซึ่งเป็นเศรษฐกิจนอกระบบ ซึ่งสศช.คำนวณครบหมด จึงต้องถามกลับไปที่ ธปท.ว่าได้คำนวณพวกนี้หรือไม่"
นอกจากนี้ การบริโภคภาคครัวเรือน การใช้ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงแบ่งเป็นทั้งใช้กับรถยนต์ส่วนตัว รถสาธารณะ ถูกแยกในหมวดขนส่ง คมนาคมและยังมีน้ำมันที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมอีก ซึ่งต้องแยกแยะ ไม่ใช่บอกว่าการใช้น้ำมันมีปริมาณสูง ทำไมการบริโภคต่ำ และยังไม่นับรวมการใช้น้ำมันกับรถยนต์ของราชการด้วยจะต้องดูละเอียด อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ทีมจีดีพีของ สศช.จะประชุมร่วมกับทีมเทคนิคของธปท. โดยในอดีต ธปท.เคยปรับการจัดทำตัวเลขการลงทุนภาคเอกชนซึ่งเดิมแตกต่างกัน ได้ปรับให้สอดคล้องกับ สศช.มาแล้ว http://www.thairath.co.th/content/eco/347406
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8714 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2556, 20:25:07 » |
|
มาเจอประธานธนาคารกรุงเทพจำกัด (มหาชน) เฉลยว่า ระหว่าง ธปท. กับ สศช. ใครคิดผิดกันแน่ ??'โฆสิต' งงจีดีพีสภาพัฒน์ต่ำกว่าคาด จี้ทบทวนประชานิยม
"โฆสิต" จี้รัฐทบทวนนโยบายประชานิยม เหตุกระตุ้น ศก.ได้ผลแค่ระยะสั้น เห็นได้ชัดจากตัวเลขจีดีพีของสภาพัฒน์ต่ำกว่าคาด แนะลงทุนระยะยาวกระตุ้นเศรษฐกิจ ปิดช่องทุจริต และดูความเหมาะสมของหนี้ในอนาคต...
เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2556 นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่า ตัวเลขที่ออกมาต่ำกว่าที่ได้คาดหมายไว้ และจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้อยู่ในระดับ 4% น้อยกว่าที่ธนาคารเคยมองไว้ที่ระดับ 5% โดยปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากภาครัฐเป็นหลัก โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายประชานิยม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะยังมีแรงส่งให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อเนื่องในระยะนี้
ทั้งนี้ ยอมรับว่านโยบายประชานิยมเป็นมาตรการที่ให้ผลระยะสั้น โดยเฉพาะการอุปโภคและบริโภคในประเทศที่ควรจะยังได้รับแรงส่งต่อเนื่อง แต่เมื่อดำเนินนโยบายประชานิยมอย่างเต็มที่แล้ว แต่เศรษฐกิจขยายตัวต่อได้แค่นี้ การอุปโภคบริโภคชะลอตัวลงเร็ว สภาพัฒน์อาจต้องทบทวนการดำเนินนโยบายอีกครั้งว่า ยังควรใช้นโยบายนี้ต่อไปหรือไม่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนไปใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวที่จะเหมาะสมกว่า เช่น การเตรียมความพร้อมโครงการลงทุน ป้องกันปัญหาการคอรัปชัน และความเหมาะสมของภาระหนี้ในอนาคต
ส่วนการใช้อัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการขยายตัวเศรษฐกิจ เป็นการกระตุ้นระยะสั้น ขณะเดียวกันการลดดอกเบี้ยยังมีความหมายอื่นๆ ตามมาอีกด้วย เช่น การออม และการลงทุน เมื่อดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อนานเกินไปจะนำไปสู่ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ กลายเป็นอีกปัญหาอนาคตที่ต้องใช้ความรอบคอบ http://www.thairath.co.th/content/eco/346483
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8715 เมื่อ: 27 พฤษภาคม 2556, 20:43:14 » |
|
บาทแข็ง ก็ทำให้คนไทยรวยได้เช่นกัน อาทิ เจ้าสัว ซี พี ที่ซื้อกิจการ MAKRO 188,800 ล้านบาท ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว บาทแข็งเกือบๆ 28 บาท แลกดอลล่าร์สหรัฐซึ่งกำลังอ่อนตัว เพื่อให้ฝรั่งเอากลับบ้านไป กำไรดีลอัตราแลกเปลี่ยนเงินคิดแล้วก็เกือบ 12,000 ล้านบาทไทย เข้าไปแล้วครับ
บาทอ่อน มีตัวอย่างที่อดีตผู้นำของไทยรายหนึ่งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลล่าร์สหรัฐกับเงินบาทไทย จากวิกฤติต้มยำกุ้ง จนมีเงินเหลือเฟือ มาสร้างพรรค พร้อมหว่านเงินซื้อตัวอดีต ส.ส. เข้าพรรคและชนะการเลือกตั้งจนได้เป็นรัฐบาล ก็เพราะเล่นค่าเงินบาทอ่อน ส่งผลให้บรรดาลูกน้องจะเอาแบบอย่างสร้างตัวนั่นเองครับ ถึงได้พยายามถล่ม ธปท. แบบไม่ว่างเว้น ทุกวัน ทุกคืน ก็ว่าได้
|
|
|
|
ti2521
|
|
« ตอบ #8716 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2556, 00:39:39 » |
|
.....สวัสดีครับ พี่เหยง ติดตามครับ.....
|
เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ สำหรับผม อย่างไรก็ได้
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8717 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2556, 05:27:54 » |
|
ตี๋
ตามต่อได้เลยครับ รมต.รับลูก ออกมาต่อว่า สศช. กล่าวหา ธปท.ว่าไม่เชื่อข้อมูลของ สศช. เพื่อขอให้ลดดอกเบี้ยอีก'โต้ง'อัดธปท.ไม่ให้เกียรติสศช. ตั้งข้อสงสัยตัวเลขจีดีพี "โต้ง" อัด ธปท.ไม่ให้เกียรติ สศช. ตั้งข้อสงสัยตัวเลขจีดีพีจนเลยเถิด ประชุม ครม.พรุ่งนี้ เรียกทุกหน่วยงานเศรษฐกิจแจง ชี้หาก กนง.ลดดอกเบี้ยเพียงแค่ 0.25% หรือไม่ลดเลย ถือว่าไม่รู้ร้อนรู้หนาว...
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 56 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวภายหลังหารือกับนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง ว่า การที่ ธปท.ตั้งข้อสงสัยในตัวเลข สศช. ที่แถลงต่อสาธารณะนั้น ถือว่าเป็นการตั้งข้อสังเกตที่เลยเถิดเกินไป และในฐานะที่เป็นหน่วยงานราชการด้วยกัน ไม่ควรตั้งข้อสงสัยเช่นนี้ เพราะถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติส่วนราชการเท่าใด โดยในการประชุม ครม. วันที่ 28 พ.ค.นี้ จะเชิญกระทรวงการคลัง สศช. และ ธปท. ให้มารายงานตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสแรกให้ครม.รับทราบ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการนโยบายการเงิน ควรใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยอย่างเหมาะสม ไม่ใช่เป็นเรื่องของการชนะใคร หรือไม่ชนะใคร เพราะการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของชาติไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยได้เดินมาอย่างดีอยู่แล้ว และแม้ว่าค่าเงินบาทในเวลานี้ได้อ่อนค่าลงแล้ว แต่ควรอ่อนค่ากว่านี้อีกหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาได้พูดมาตั้งแต่ค่าเงินบาทอ่อนค่ามากกว่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายจนทุกวันนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าไปมากแล้ว
“ผมอยากให้ ธปท.พูดคุยกับผู้ส่งออกที่เป็นผู้หาเลี้ยงประเทศบ้างว่า คิดอย่างไร หาก กนง.คิดลดดอกเบี้ยเพียงแค่ 0.25% หรือไม่ลดเลย ต้องถือว่า กนง.อยู่ในภาวะไม่รู้ร้อนรู้หนาว ซึ่งควรลดมากกว่านี้ แต่ลดเท่าใด จะตรงใจกับตัวเองหรือเปล่า คงต้องติดตามดูผลการประชุม กนง. ในวันที่ 29 พ.ค. ซึ่งถ้าลดไม่ถึง 0.5% ก็จะไม่ซื้อเสื้อหนาวให้เป็นของขวัญ”.http://www.thairath.co.th/content/eco/347450
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8718 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2556, 05:29:18 » |
|
สวัสดีครับทุกท่าน
เมื่อคืนฝนตกหนักในระดับ 3 ใน 4 อากาสเย็นลงมากทีเดียว ขนาดเปิดแอร์ที่ 24 องศา ต้องปรับให้ไปอยู่ที่ 27 องศาทีเดียว
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8719 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2556, 07:23:58 » |
|
ฝนลดลงจากเมื่อวานนี้ รวมทั้งภาคใต้ฝั่งอันดามัน แต่คลื่นยังสูงเกิน 2 เมตร ชาวเรือ นักท่องเที่ยวต้องระมัดระวังพยากรณ์อากาศ ประจำวันอังคารที่ 28 พฤษภาคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝน อยู่ในเกณฑ์กระจายในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ โดยกลุ่มฝนจะเคลื่อนจากด้านตะวันตกไปทางด้านตะวันออก อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #8720 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2556, 09:54:30 » |
|
ต่อเรื่องตัวเลข GDP และความพยายามลดดอกเบี้ยเพื่อลดค่าเงินบาทไทย โพลห่วงเกาเหลา'คลัง-ธปท.' โต้งโดดป้องสภาพัฒน์ กดดันกนง.ลดดอกเบี้ยเศรษฐกิจ 28 May 2556 - 00:00 'โพลนักเศรษฐศาสตร์' มองยังไม่ถึงเวลาใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบาย กังวลเกาเหลา 'กิตติรัตน์ - ประสาร' 80% ยังเชื่อมั่น 'ผู้ว่าฯ ธปท.' “โต้ง" หนุนหลังสภาพัฒน์ หลังโดน ธปท.ตำหนิ พร้อมลุยกดดัน กนง. ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพล) ร่วมกับ คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 35 แห่ง จำนวน 65 คน เรื่อง “ผู้ว่าฯ ธปท. ดอกเบี้ย และรัฐมนตรีฯ คลัง กับปัญหาค่าบาทแข็ง” พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ถึง 63.1% กังวลมากถึงมากที่สุดต่อปัญหาความขัดแย้งทางความคิดที่เกิดขึ้น ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับผู้ว่าฯ ธปท. ขณะที่อีก 32.3% กังวลน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะเดียวกัน เมื่อถามว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันถึงเวลาหรือยังที่ต้องใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยเฉพาะในประเด็นค่าเงินบาท 46.2% เห็นว่ายังไม่ถึงเวลา โดยให้เหตุผลว่าอัตราดอกเบี้ยไม่ใช่ต้นตอของปัญหา ขณะที่ 29.2% เห็นว่าถึงเวลาแล้วเนื่องจากค่าเงินบาทแข็งเพราะดอกเบี้ยสูงกว่าประเทศอื่นๆ ประกอบกับเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มชะลอตัว ขณะที่ 24.6% บอกว่าไม่แน่ใจ สำหรับประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29 พ.ค.ที่จะถึงนี้ นักเศรษฐศาสตร์ 41.5% คาดว่า กนง.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เป็น 2.50% ขณะที่ 38.5% คาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิม เมื่อถามว่ามีความเชื่อมั่นมากน้อยเพียงใดต่อการทำหน้าที่ผู้ว่าฯ ธปท.ของ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล โดยเฉพาะการเตรียมมาตรการรองรับค่าเงินบาทแข็ง 80.0% เชื่อมั่นมากถึงมากที่สุด มีเพียง 13.8% ที่ไม่ค่อยเชื่อมั่น ด้าน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงสถานการณ์ค่าเงินบาท ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตั้งข้อสงสัยในตัวเลขเศรษฐกิจที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ (สศช.) แถลงต่อสาธารณะนั้นถือว่าเป็นการตั้งข้อสังเกตที่เลยเถิดเกินไป และไม่ควรนำมาเป็นประเด็น ซึ่ง สศช.เป็นหน่วยงานราชการที่ทำหน้าที่รวบรวมตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศอยู่แล้ว ในฐานะที่เป็นหน่วยงานราชการด้วยกันไม่ควรตั้งข้อสงสัยเช่นนี้ เพราะถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติส่วนราชการเท่าใด โดยในการประชุม ครม.วันที่ 28 พ.ค.นี้ จะเชิญกระทรวงการคลัง สศช.และ ธปท.ให้มารายงานตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสแรก ให้ ครม.รับทราบ “ผมอยากให้ ธปท.พูดคุยกับผู้ส่งออกที่เป็นผู้หาเลี้ยงประเทศบ้างว่าคิดอย่างไร หาก กนง.คิดลดดอกเบี้ยเพียงแค่ 0.25% หรือไม่ลดเลยต้องถือว่า กนง.อยู่ในภาวะไม่รู้ร้อนรู้หนาว ซึ่งควรลดมากกว่านี้ แต่ลดเท่าใดจะตรงใจกับตัวเองหรือเปล่าคงต้องติดตามดูผลการประชุม กนง.ในวันที่ 29 พ.ค. ซึ่งถ้าลดไม่ถึง 0.5% ก็จะไม่ซื้อเสื้อหนาวให้เป็นของขวัญ” นายกิตติรัตน์ ระบุ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการ สศช. เปิดเผยกรณีตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีไตรมาส 1 ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ออกมาไม่สอดคล้องกับผลการประเมินของ ธปท. โดยชี้แจงว่าการจัดทำตัวเลขจีดีพีซึ่งยึดตามมาตรฐานสากลขององค์การสหประชาชาติที่ใช้กันทั่วโลก มีการประเมินผลติดตามคุณภาพจากองค์กรระหว่างประเทศที่ดูสถิติอย่างต่อเนื่อง “ที่ผ่านมา สศช.ได้ประเมินผลบนพื้นฐานความครบถ้วน สมบูรณ์ อาจจะมีความแตกต่างจากข้อมูลในเรื่องของการประมาณการ ซึ่งการออกมาชี้แจงครั้งนี้เป็นเพียงการชี้แจงหลักการของการจัดทำผลจีดีพีของสภาพัฒน์เท่านั้น ไม่ได้เป็นการตอบโต้ทางแบงก์ชาติแต่อย่างใด” นายอาคมกล่าว. http://www.thaipost.net/news/280513/74166
|
|
|
|
Dtoy16
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424
|
|
« ตอบ #8721 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2556, 11:16:01 » |
|
เราอยากหูตาสว่างก็มาเปิดซีมะโด่ง กระทู้คุณพิเชษฐ์นี่แหละ ได้ความรู้มากมาย (คุณสรยุทธ คุณกนก คุณอะไร อะไร) ก็ไม่ได้ดู ได้ฟังเพราะเดี๋ยวนี้ไม่ได้อยู่หน้าจอทีวีซะแล้ว
นานนานจะมีคนเรียกคุณพิเชษฐ์ในเวปใช่ไหมแต่เราเดา ว่าที่นครสวรรค์ต้องเรียกคุณพิเชษฐ์กันทั้งนั้น
|
|
|
|
Keartipong07
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 391
|
|
« ตอบ #8722 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2556, 13:03:11 » |
|
emo26:Dเรียน น้องเหยง๑๖ - พี่ปิ้ง ขอแจ้งข่าวกิจกรรมการไปมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์กีฬา ให้แก่ รร.บ้านหนองกุงน้อย ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ ๒๔ พ.ค.๕๖ (วันวิสาขบูชา ) ตามโครงการมอบทุนการศึกษาประจำปี พ.ศ.๒๕๕๖ ของ มูลนิธิเพือการศึกษาตระกูลมีเพียร สำเร็จเป็นทีเรียบร้อยแล้ว.. มูลค่าเป็นเงิน รวมทั้งสิ้น ๕๐,๐๐๐ บาท บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการทุกประการ.. ตามหลักฐานภาพถ่าย ที่แนบมาด้วยแล้ว - พี่ปิ้งขอขอบคุณในจิตต์อันเป็นกุศลและน้ำใจไมตรี ของพวกเราน้องพี่ซีมะโด่งทั้งหลาย ที่ได้มีส่วนร่วมโครงการฯ ใน การ บริจาคเงินซื้อหนังสือ " ประมวลลำนำกลอนของ ดวงจำปา " ( สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับหนังสือ ให้ไปรับที่หมอตุ่น กรรมการ สมาคมฯได้ ) - สุดท้าย นี้ พี่ปิ้งขออนุโมทนาบุญ ( บุญคือ ความอิ่มเอิบใจ ความสุขใจ ) ในกิจกรรมครั้งนี้ ให้แก่พวกเรา น้องพี่ซีมะโด่ง ทั้งหลาย โดยทั่วถึงกันทุกคน ด้วยความระลึกถึงเสมอ พี่ปิ้ง๐๗
|
|
|
|
Keartipong07
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 391
|
|
« ตอบ #8723 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2556, 14:04:02 » |
|
|
|
|
|
Keartipong07
Full Member
ออฟไลน์
กระทู้: 391
|
|
« ตอบ #8724 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2556, 14:24:41 » |
|
|
|
|
|
|