คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ

[เหยง 16]

ผมกลับจากพิษณุโลก ถึงบ้าน 18.00 น.พอดี
โทรถาม อจ.ทราย พบว่า กลับถึง อ.ปัว จ.น่าน เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่บ่ายสามแล้วเช่นกัน

[ดร.มนตรี]

สวัสดีครับพี่เหยง ... และพี่น้องทุกท่าน

มาติดตามอ่าน ... พร้อมนำอากาศเย็นๆ และเบียร์เย็นๆ มาฝากดับร้อน ครับ  

[เริง2520]

เข้ามาดึ่ม ดับกระหาย คลายร้อนด้วย

[swsm]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 06 เมษายน 2556, 18:28:35
	ผมกลับจากพิษณุโลก ถึงบ้าน 18.00 น.พอดี โทรถาม อจ.ทราย พบว่า กลับถึง อ.ปัว จ.น่าน เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่บ่ายสามแล้วเช่นกัน

เพื่อนสิงคโปร์และบรูไนส่งข่าวว่า วานนี้ฝนตกหนักตลอดทั้งบ่าย   

[เหยง 16]

ครูเริง ดร.มนตรี

พายุมาดับร้อนให้แล้ว ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ?? !!!

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 7 เมษายน 2556
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 8 (83/2556) ลงวันที่ 07 เมษายน 2556

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้แล้ว ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนอบอ้าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในบางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และด้านตะวันออกของภาคเหนือก่อนในวันนี้ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากสภาวะอากาศดังกล่าวในช่วงวันที่ 7-9 เมษายน 2556 ไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. [/b][size]

ภาคเหนือ  อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-26 องศาเซลเซียส
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก
บางแห่งส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล
อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆบางส่วน โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากทางด้านตะวันออกของพื้นที่
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

[หนุน'21]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 05 เมษายน 2556, 19:56:51
	อ้างถึง ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 05 เมษายน 2556, 07:48:39 สวัสดีครับพี่เหยง มาครับ... มาเฉลี่ยความร้อน... ผมว่าร้อนๆแบบนี้ อยากยื่นกู้เงินสัก 30 ล้าน...!!! จะมีคนปล่อยมั๊ยครับ เอิ๊ก เอิ๊ก หรือว่าคอยกู้พร้อมๆกับ 2 ล้าน ล้าน ดีกว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า...   หนุน ไม่ต้องออกแรงกู้หรอก เขากู้แทนให้แล้ว คอยบอกลูก บอกหลานช่วยใช้หนี้ด้วยละกัน

ครับพี่เหยง
หากลูกชายผมรับราชการ
ภายหลังเขาเกษียณไปแล้ว 8 ปี
ประเทศไทยถึงจะใช้หนี้ (พร้อมดอกเบี่้ยบานเบอะ) ได้หมด
ถ้าไม่มีการโกงกิน และวาระแอบแฝง.....
เชื่อว่าเราจะพัฒนาระบบสาธารณููปโภค แบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว...

 

[เหยง 16]

หนุน

คำนวนดูซี
ยอดหนี้ 2.2 ล้านล้านบาท คิดแค่ร้อยละ 4
ส่งดอก-ส่งต้น รวม 50 ปี แบบหักต้นหักดอก
คิดไม่ออกเลย ??!!~ กลัว แต่ไม่รีบตายแน่นอน

[เหยง 16]

ทุกภาคมีฝน มีผลให้อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศลดลงประมาณ 1 องศา

ยังต้องระมัดระวังเรื่องพายุฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงในพื้นที่ที่มีฝนต่อไปอีกจนถึงพรุ่งนี้

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 8 เมษายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคะวันออก-เฉียงเหนือและทะเลจีนใต้แล้ว ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลงโดยทั่วไป และอาจทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงได้ในบางพื้นที่ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางและภาคตะวันออก จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว
ยังคงต้องระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองต่อไปอีก 1 วัน
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป และมีพายุฝนฟ้าคะนอง
กับลมกระโชกแรงบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค
อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 19-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.  

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
กับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์
บุรีรัมย์ และ นครราชสีมา อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
  
ภาคกลาง  อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง
ร้อยละ 10 ของพื้นที่ทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.  

ภาคตะวันออก  อากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และ ตราด
อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร  

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล
อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆบางส่วน และอากาศร้อน
มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันออกของพื้นที่
อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.  
 

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 31 มีนาคม 2556, 21:38:30
	สรุป ถึงวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2556 สำหรับยอดเิงินบริจาคสมทบมูลนิธิการศึกษาตระกูลมีเพียร เพื่อมอบให้โรงเรียนบ้านหนองกุงน้อย ต.บ้านค้อ อ.เมือง ขอนแก่น รวม 8 รายชื่อเป็นเงินทั้งสิ้น 11,668.01 บาท อ้างถึง ข้อความของ swsm เมื่อ 26 มีนาคม 2556, 10:05:26 อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 มีนาคม 2556, 17:09:38 จากข้อมูลที่ผมมี ขณะนี้มีผู้แสดงเจตจำนงร่วมบริจาคแล้ว ดังนี้ 1. พี่สิงห์ ซีมะโด่ง 2513 จำนวน 3,000 บาท 2. พี่เหยง ซีมะโด่ง 2516 จำนวน 2,000 บาท 3. พี่สมชาย ซีมะโด่ง 2517 จำนวน 2,000.56 บาท 4. หมอตุ่น ซีมะโด่ง 2525 จำนวน 1,025 บาท 5. พี่อี๊ด ซีมะโด่ง 2514 จำนวน 1,000.25 ข้อมูลล่าสุด 25 มีนาคม 2556 เวลา 11.45 น. 6. หยี ซีมะโด่ง 2523 จำนวน 642.00 บาท (ขอหนังสือ 1 เล่มค่ะ) อ้างถึง ข้อความของ pornchaiketlek เมื่อ 28 มีนาคม 2556, 20:22:56 เหยงพรุ่งนี้จะโอนเงินให้มูลนิธิเพื่อการศึกษาตระกูลมีเพียร จำนวน 1,500บาทครับ ความจริงวันนี้โอนแล้วแต่จดเลขบัญชีผิดเลยโอนไม่ได้ ขอหนังสือ 1เล่มครับ โด่ง อ้างถึง ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 31 มีนาคม 2556, 21:31:47 พี่ปิ้งครับ พี่ประทาน14 จะร่วมทำบุญให้กับโรงเรียนบ้านหนองกุงน้อย จำนวน 500 บาทครับ หากพี่ปิ้งไปร่วมประชุมสมาคมหอฯ ได้โปรดนำหนังสือไปมอบให้พี่ประทาน14 ด้วยครับ

		อ้างถึง			ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 01 เมษายน 2556, 14:56:50
	อ้างถึง ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 01 เมษายน 2556, 07:40:58 ผมขอร่วมสมทบทุนกับพี่ปิ้งด้วย 1,000 บาทครับจะโอนภายในวันนี้ครับ   แจ้งพี่เหยงเพื่อทราบครับ ขอบคุณครับ

		อ้างถึง			ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 05 เมษายน 2556, 19:36:50
	เหยง...พี่ตู่เพิ่งโอนเงินไปวันนี้เองนะคะ... เวลา 17.04 น....ค่ะ... ทาง ธ.ไทยพาณิชย์... โอนทางเอทีเอ็มค่ะ...เสีย 20 บาท... ขอหนังสือ 1 เล่มนะคะ... กรุณาส่งมาที่หมอประสิทธิ์ค่ะ... โรงพยาบาลบางละมุง ปณ.20150... เพราะว่าส่งที่บ้านบางทีไม่มีใครอยู่ค่ะ...

[เหยง 16]

สรุปยอดเงินสนับสนุน"มูลนิธิเพื่อการศึกษาตระกูลมีเพียร" ณ วันที่ 5 เมษายน 2556 มี

1. พี่สิงห์ ซีมะโด่ง 2513 จำนวน 3,000.00 บาท
2. เหยง ซีมะโด่ง 2516 จำนวน 2,000.00 บาท
3. สมชาย ซีมะโด่ง 2517 จำนวน 2,000.56 บาท
4. หมอตุ่น ซีมะโด่ง 2525 จำนวน 1,025.00 บาท
5. พี่อี๊ด ซีมะโด่ง 2514 จำนวน 1,000.25 บาท
6. น้องหยี ซีมะโด่ง 2523 จำนวน 642.00 บาท
7. โด่ง พรชัย เกตุเล็ก ซีมะโด่ง 2516 จำนวน 1,500.00 บาท
8. พี่ประทาน ซีมะโด่ง 14 จำนวน 500.00 บาท
9. หนุน สุเทพ ธัญญสิทธิ์ ซีมะโด่ง 21 จำนวน 1,000.00 บาท
10. พี่ตู่ เพลินพิศ ซีมะโด่ง 14 จำนวน 1,000.00 บาท

รวมเป็นเงิน 12,667.56 บาท

[เหยง 16]

จากไทยโพสต์ครับ

'ยุติธรรม-ปรองดอง-ประชาธิปไตย'
เปลว สีเงิน 8 April 2556 - 00:00

     คนไทยเสียเปรียบใครก็ได้ทั้งนั้น ยกเว้นกับประเทศชาติตัวเอง ดังนั้น วันหยุดเทศกาลไหนตรงกับเสาร์-อาทิตย์ ก็ต้องมีวัน "หยุดชดเชย" ให้ ตามหลักการ "เอาเปรียบประเทศชาติได้ แต่จะไม่ยอมให้ประเทศชาติเอาเปรียบ"    
    ดังนั้น วันนี้..วันจันทร์ (๘ เม.ย.) จึงหยุดชดเชย เพราะ "วันจักรี" ตรงกับเสาร์ เพื่อผมจะไม่เสียเปรียบ ก็จะหยุดเขียน แต่จะนำปาฐกถาเรื่อง "ความปรองดอง ความยุติธรรม และประชาธิปไตย" ของประธานศาลรัฐธรรมนูญ "ท่านวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์" ที่ธรรมศาสตร์ เมื่อ ๕ เม.ย.ในวาระครบรอบชาตกาล ๑๐๖ ปี "ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์" มาให้อ่านกัน
    ฮอต-ฮิต-ติดชาร์ต มากครับ ขอลอกจาก "สำนักข่าวอิศรา" บางช่วง-บางตอน เท่าที่เนื้อที่ตรงนี้จะอำนวย เริ่มความในปาฐกถาเลยนะครับ
     .........ที่ผ่านมานักการเมืองชอบพูดกันมากว่า "คืนอำนาจให้ประชาชน" หากพูดอย่างนั้นแปลว่า..."แกเอาอำนาจฉันไปใช้ตั้งนาน มาคืนอำนาจให้ฉันตัดสินใจแป๊บเดียว แต่ความจริงแล้ว ประชาชนเขามอบหมายให้ไปทำหน้าที่ ไม่ต้องเอามาคืนเขา เพราะอำนาจเป็นของเขาอยู่แล้ว  เพียงแต่รับในกติกากันว่า ผู้ที่ได้รับเสียงข้างมาก เป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลประเทศ และดูแลภายใต้กฎกติกา ไม่ใช่ดูแลตามอำเภอใจ"
    การชนะเลือกตั้ง ถือว่าได้รับมอบหมายจากประชาชนส่วนใหญ่ให้ดูแลประเทศ ไม่ใช่ได้รับใบอนุญาตให้ "ยึดสัมปทานของประเทศ" เพราะการบริหารประเทศไม่ใช่การบริหารธุรกิจเอกชน ............    
     "ผมใช้เวลาเมื่อปีที่แล้วทั้งปี เมื่อว่างจากงานที่มีแรงกดดันสูงทั้งหลาย ทำโครงการเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนในหลายพื้นที่ แม้กระทั่งดินแดนที่ดูเหมือนจะเป็นอันตราย คือจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดมุกดาหาร แต่มีคนที่มาฟังเกินเป้าหมายที่คาดคิดไว้ แม้แรกเริ่มจะมีแววตาไม่ค่อยเป็นมิตร แต่หลังจากได้พูดคุย ตอบคำถามกัน หน้าตาก็ยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้น แปลว่าความเป็นมิตรเกิดจากการได้เสวนา ได้สัมผัส พูดจา ซักถามกัน"
     ผมได้ตั้งคำถามว่า...เสียงข้างมากทำผิดกฎหมายได้หรือไม่? คำตอบแรกคือ..ได้ ถามต่อว่า...ถ้าชนะและได้เสียงข้างมากแล้ว ฆ่าคน ผิดไหม? ผู้ฟังเริ่มงง และตอบว่า...น่าจะผิด
     ผมจึงถามต่ออีกว่า...ถ้าชนะได้เสียงข้างมาก แล้วออกกฎหมายเก็บภาษีเฉพาะเสียงข้างน้อย โดยที่ตนไม่ต้องเสียภาษีได้ไหม? ผู้ฟังตอบว่า...งั้นไม่ได้แน่นอน!!
     หากย้อนไปดูประวัติศาสตร์เยอรมัน อย่างฮิตเลอร์ ได้เป็นผู้นำประเทศเยอรมัน ไม่ได้มาจากการยึดอำนาจ แต่มาจากการเลือกตั้ง แล้วสมัครพรรคพวกมาได้เสียงข้างมากในสภา จากนั้นก็แก้ไขกฎกติกา แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง ในที่สุด...ผู้นำและเสียงข้างมากเหล่านั้น ก็นำพาประเทศเยอรมันไปสู่หายนะ
     นั่นคือตัวอย่างของผู้นำ "ที่มาจากเสียงข้างมาก"!
     เยอรมันมีบทเรียนราคาสูง จึงมีศาลรัฐธรรมนูญที่มีอำนาจมาก ไม่ต้องมีใครยื่นคำร้อง ไม่ต้องเถียงว่ารับคำร้องได้หรือไม่ แต่ถ้าเห็นว่าฝ่ายบริหารกำลังจะละเมิดรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมันสามารถตั้งเรื่องเอง แล้วเรียกฝ่ายบริหารมาไต่สวนได้ และถ้าเห็นไม่ชอบมาพากลก็ออกคำสั่งห้ามได้
     อีกทั้งมีบทบัญญัติว่าด้วยการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ให้สิทธิแก่ประชาชนในการที่จะช่วยดูแลเพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญให้อยู่ในร่องในรอย ซึ่งรัฐธรรมนูญของไทยลอกมา ในมาตรา ๖๓ ในปี ๒๕๔๐ แล้วพัฒนามาเป็นมาตรา ๖๘ ของรัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๐ ที่เป็นปัญหาไม่ถูกใจในขณะนี้
     "ของเยอรมันเขาให้เป็นสิทธิของประชาชนที่จะดูแลกฎหมายรัฐธรรมนูญของเขา เราไปเอาของเขามา แต่เอามาไม่หมด"...............ฯลฯ
     "ประชาธิปไตย" ต้องยอมรับในเสียงข้างมาก ให้เกียรติเสียงข้างน้อย ฟังเหตุผล บางครั้งจำเป็นต้องเอาเหตุผลของเสียงข้างน้อยมาบรรจุไว้ในบางประเด็น ฉะนั้น ประชาธิปไตยไม่ใช่เอาเสียงข้างมากมาเป็นเกณฑ์ ต้องดูด้วยว่าเป็นไปตามกฎ กติกา มารยาทเพียงใด
     ผู้คุมกฎ กติกา จึงไม่ใช่คู่กรณี แต่ต้องมาจากองค์กรอื่น เพราะถ้าทำเอง ตัดสินเอง ท่านก็ถูกอย่างเดียว ไม่มีอะไรผิดพลาด ส่วนผู้ทำหน้าที่ตัดสิน คือคนที่ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไร ซึ่งองค์กรที่ทำหน้าที่ตัดสินคือ "องค์กรตุลาการ" ที่ขณะนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า "องค์กรตุลาการไม่ได้มีจุดยึดโยงกับประชาชน" ทั้งๆ ที่เป็นผู้ใช้อำนาจตุลาการ อันเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตย
     ถามตรงๆ ให้เลือกตั้งผู้พิพากษาเลยไหม?...ก็ไม่ได้ เพราะหัวคะแนนจะชนะคดีหมดทุกเรื่อง ตีกบาลใครก็ไม่ติดคุก และเห็นว่า มีไอเดียให้ประธานศาลฎีกาต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ อย่างนั้นหากมีการแต่งตั้งประธานศาลฎีกาไปให้ ไม่ถูกใจนักการเมือง ก็ไม่เห็นชอบ  ฉะนั้น ใครอยากเป็นประธานศาลฎีกา ก็โปรดทำตัวเป็นสมุนนักการเมือง แล้วจะได้ดี
     ถามว่า...ต้องการอย่างนั้นหรือไม่ ?
     ......ผมอยากจะพูดถึง "ระบบของความยุติธรรม" ว่ามันเกี่ยวโยงกันในระบบอุปถัมภ์หรือไม่?
     องค์กรตุลาการ ยึดโยงกับประชาชนตามกฎหมายที่ผู้แทนราษฎรวางโครงสร้างให้ศาล ผู้พิพากษา และตุลาการจึงอยู่อย่างนี้ตามกฎหมาย เช่น ระเบียบราชการฝ่ายศาลยุติธรรม ก็เป็นไปตามกฎหมายที่สภาฯ เป็นผู้ออก
     สำหรับสังคมไทยในระบบอุปถัมภ์ มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย การรู้ถึงและตอบแทนบุญคุณคนเป็นเรื่องดี แต่ถ้าตอบแทนกันหมด ใครแต่งตั้งให้ตำแหน่งก็ตอบแทนคนนั้น สิ่งนี้ต้องแยกกันให้ออก
     ผมเคยโต้เถียงกับอดีตผู้บังคับบัญชาที่เป็นที่เคารพนับถือถึงกรณีนี้ โดยผมเห็นว่า การที่ท่านสนับสนุนผู้ใต้บังคับบัญชา ถือเป็นหน้าที่ที่ท่านต้องสนับสนุนผู้ที่มีความรู้ความสามารถให้เข้าสู่ตำแหน่งหน้าที่ ไม่ได้ก่อให้เกิดบุญคุณ และผมก็ไม่ถือเป็นบุญคุณ ท่านมีบุญคุณกับผมข้อเดียว คือ "ให้ผมได้ทำงาน" และมีโอกาสแสดงความรู้ความสามารถในตำแหน่งหน้าที่เหล่านี้ได้  ซึ่งผมไม่เคยลืม
     ฉะนั้น จึง "ไม่มีวันนี้เพราะพี่ให้" เพราะถ้ามีวันนี้เพราะพี่ให้ แปลว่า ถ้าพี่ไม่ให้ คุณก็ไม่ได้เป็น คุณไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะได้รับตำแหน่งนี้ ถ้าพี่ไม่ให้!!
     ระบบอุปถัมภ์ที่มีมากจนสามารถไว้ใจได้หรือ ที่จะให้ "องค์กรกลาง" ที่ทำหน้าที่ตัดสินมาจากระบบที่เกี่ยวข้องกับการเมือง การเลือกตั้ง?
     ..........สำหรับศาลปกครองสูงสุด ต้องเป็นอิสระจากการแทรกแซงของอำนาจภายนอก แต่ตรวจสอบกันเองภายในองค์อำนาจนั้น ส่วนองค์กรภายนอกมีอำนาจตรวจสอบ แต่ไม่มีอำนาจแทรกแซง จึงมีเสียงครหานินทาอยู่เสมอว่า ตัดสินตามใบสั่ง!!
     ............เมื่อเป็นองค์กรตุลาการ เป็นศาล สิ่งสำคัญต้องมีหลักปฏิบัติ ต้องเคารพเสียงข้างมาก ต้องยึดถือแนวปฏิบัติ เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะถูกกล่าวหาว่า ๒ มาตรฐาน ซึ่งเป็นคำที่พูดกันเกร่อมาก ทั้งที่คนพูดยังไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอย่างไร ซึ่งหากตีความอย่างนั้น ศาลอาญาก็ ๒ มาตรฐาน เพราะมีคดีฆ่าคนเต็มไปหมด ที่บางเรื่องก็ยกฟ้อง บางเรื่องก็ลงโทษ บางเรื่องประหารชีวิต บางเรื่องจำคุกตลอดชีวิต บางเรื่องจำคุก ๑๕ ปี เพราะแต่ละเรื่องข้อเท็จจริงในแต่ละคดีไม่เหมือนกัน
     คำว่า ๒ มาตรฐาน จึงหมายความว่า"เรื่องเหมือนกันทุกอย่าง แต่ปฏิบัติหรือตัดสินไม่ตรงกัน"!
     วันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องพ้นสภาพ ส.ส.ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ คนเสื้อ-แดงก็ไปล้อมศาลว่า ๒ มาตรฐาน ทั้งที่ตั้งแต่เปิดศาลรัฐธรรมนูญมา เพิ่งเคยตัดสินคดีนี้เรื่องแรก หากเป็นคนละข้อหา คนละกฎหมาย จะใช้ ๒ มาตรฐานไม่ได้
     นี่คือความไม่รู้เรื่อง!
     .........สำหรับเรื่องปรองดอง จะเกิดการปรองดองได้ต้องรู้สมมติฐานของความแตกแยกก่อน ต้องแก้ที่สมมติฐานของความแตกแยก ซึ่งเป็นเหตุของปัญหา
     ถามว่า บ้านเมืองเราแตกแยกตั้งแต่เมื่อไหร่ หลายคนบอกว่าตั้งแต่ยึดอำนาจ ๒๕๔๙ แต่ผมว่าเริ่มมาก่อนนั้น เท่าที่ทบทวนดู ตั้งแต่ปี ๒๕๔๘ มีรายการช่อง ๙ คือ รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ตอนหลังกลายเป็นเมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจรไปตามที่ต่างๆ พอเดือนมกราคม ๒๕๔๙ มีการออก พ.ร.บ.กิจการโทรคมนาคม ๒๕๔๙ ที่เปลี่ยนแปลงให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมต่างด้าวถือหุ้นได้เป็น ๔๙% จากเดิม ๒๕% ตามกฎหมายเก่า
     กระทั่งมีการขายหุ้นของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้บริษัทเทมาเส็กของสิงคโปร์ ๗๓,๐๐๐ ล้านบาท จึงมีข้อโต้แย้งว่าต้องเสียภาษีเพียงใดหรือไม่ แต่ข้อเท็จจริงเสียเพียงภาษีมูลค่าเพิ่ม ๗% เท่านั้น ในช่วงนั้นคนเริ่มแสดงความไม่พอใจและมีการโต้เถียง โจมตีมากขึ้น รวมถึงการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่เป็นความไม่พอใจหนึ่ง กระทั่งมีการยุบสภาฯ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๙
     เมื่อจัดการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ฝ่ายค้านก็คว่ำบาตรการเลือกตั้ง บางพื้นที่แข่งขันเป็นของฝ่ายตรงข้าม จึงมีการดึงผู้สมัครมาลงหลายจุด และ กกต.ก็ตีความให้สมัครได้ จนมีปัญหาและเกิดช่องว่าง เกิดสุญญากาศขึ้น มีการฟ้องร้อง กกต.จนถูกศาลสั่งให้จำคุก เริ่มเห็นความขัดแย้งประปราย มีทั้งคนเชียร์และต่อต้าน ในที่สุดตำแหน่ง กกต.ก็ว่าง จนได้ กกต.ชุดใหม่จนถึงปัจจุบัน ในปี ๒๕๕๐ เริ่มมีการชุมนุมของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า นปก.และเริ่มมีความขัดแย้งเต็มที่
     ทีนี้จะปรองดองกันอย่างไร ต้องถามว่าทั้ง ๒ ฝ่ายคิดจะปรองดองกันจริงหรือเปล่า ที่ว่าอำมาตย์ ว่าไพร่ หรือแค่การอ้างเหตุมาเพื่อโยงใยถึงคนอื่น จนสร้างความแตกแยกมากขึ้น ถามว่าจริงจังจะปรองดองกันไหม?
     .............อีกต้นเหตุของความแตกแยกที่ทวีความรุนแรงขึ้นคือ "สื่อ" ที่ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างมี "สื่อดาวเทียม" ต่างปลุกระดม มอมเมาคนตัวเอง ไม่ได้พูดความจริงกันเต็ม ๑๐๐% และมีการส่งข้อความเข้ามาด่า พิธีกรในรายการก็พูดจาหยาบคาย ค่อนข้างน่าสมเพช สื่อนี่แหละที่เป็นส่วนหนึ่งของความแตกแยก ถือหางกันจนไม่ลืมหูลืมตา ถ้าสื่อต้องการเห็นความปรองดอง ต้องลดความรุนแรงลง.....ฯลฯ
     ผมภาวนาให้คู่ขัดแย้งหันหน้ามาพูดคุยกัน โดยผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่ไม่แน่ใจว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจจะปรองดองกันได้จริงๆ มั้ย ผมอยากให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย เลิกทะเลาะกันเถิดครับ ลดข้อเรียกร้อง ลดความต้องการลงบ้างจึงจะลงเอยกันได้.
.
 
http://www.thaipost.net/news/080413/71977

[เหยง 16]

สรุปอีกบทหนึ่งของไทยโพสต์วันนี้.........

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก G.W.F Hegel...We learn from history that we do not learn from history.- เราเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ว่า เอาเข้าจริงๆ แล้ว เราไม่ได้เรียนรู้อะไรจากประวัติศาสตร์เอาเลย...

http://www.thaipost.net/news/080413/71968

[เอมอร 2515]

ดีจังน้องเหยง.ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ

[Leam]

สวัสดียามเย็นครับ... พี่เหยง และพี่น้องทุกท่าน

ตั้งใจว่า.. จะโอนเงินเข้ามูลนิธิพี่ปิ้งภายในอาทิตย์นี้
ถ้าโอนแล้ว.. จะแจ้งให้ทราบนะครับ.

[เหยง 16]

แหลม

ขอขอบคุณแทนโรงเรียนบ้านหนองกุงน้อย
เดี๋ยวพี่ปิ้ง คงเข้าเว็ปบ้างน่า บอกติดสอบหนักทีเดียว

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 08 เมษายน 2556, 17:38:10
	ดีจังน้องเหยง.ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ

พี่'อร

เรื่องจริงที่ทุกคนไม่รู้ หรือลืมไปครับ

[หนุน'21]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 08 เมษายน 2556, 19:24:29
	อ้างถึง ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 08 เมษายน 2556, 17:38:10 ดีจังน้องเหยง.ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ พี่'อร เรื่องจริงที่ทุกคนไม่รู้ หรือลืมไปครับ

ขอบคุณครับพี่เหยง
เรื่องจริงหลายเรื่อง ผมว่าคนไทยหลายคนรู้และไม่มีวันลืมครับ...

 

[เหยง 16]

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 9 เมษายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงได้ในบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะนี้ไว้ด้วย

 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.[/size

 
ภาคเหนือ  อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และ นครราชสีมา
อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก  อากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว และตราด
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรังและสตูล
อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆบางส่วน กับมีอากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 

[เหยง 16]

เมื่อวานนี้ ไทยโพสต์พูดถึง "สื่อ" วันนี้มติชน ก็พูดถึงสื่อ แต่พาดพิงต่อ....??

โปรดฟังอีกครั้ง!! จาก เหยี่ยวถลาลม บอกถึงใคร !?!
วันที่ 09 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 08:00:21 น.

โปรดฟังอีกครั้ง
คอลัมน์ เหยี่ยวถลาลม

เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการปาฐกถาเรื่อง "ความปรองดอง ความยุติธรรม และประชาธิปไตย" เนื่องในงานวันสัญญา ธรรมศักดิ์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวปาฐกถา น่าฟัง (อีกครั้ง) ว่า...

"อีกหนึ่งต้นเหตุความแตกแยก คือสื่อ" !

"สื่อ"ตามความหมายของนายวสันต์รวมตั้งแต่สื่อกระแสหลักจนถึงสื่อในเครือข่ายของพรรคการเมือง โดยเฉพาะสื่อดาวเทียมที่ต่างก็ปลุกระดม มอมเมาแฟนคลับของตัวเอง ซึ่งนายวสันต์เห็นว่าพิธีกรบางคนพูดจาหยาบคายน่าสมเพช

"สื่อนี่แหละ ที่เป็นส่วนหนึ่งของความแตกแยก ถือหางกันจนไม่ลืมหูลืมตา ถ้าอยากเห็นความปรองดอง สื่อต้องลดความรุนแรง จิตใจต้องปรองดอง ไม่ใช่ปากพูดปรองดอง แต่เอามือไขว้หลังถือมีดดาบพร้อมฟันกัน แบบนี้ปรองดองกันได้ยาก...ผมอยากให้บ้านเมืองปรองดอง ...นิรโทษกรรม"

นายวสันต์ก็คงรู้สึกเหมือนกับหลายคนที่เหนื่อยหน่ายกับบรรยากาศการเมืองไทย

แต่"ผล"ย่อมมาจาก "เหตุ"

ปลูกแตงได้แตง ปลูกถั่วย่อมได้ถั่ว !

แต่ละคนได้ทำอะไรลงไป

สถานการณ์การเมืองในวันนี้เกิดจากสิ่งที่เรากระทำกันเอาไว้เมื่อวันก่อน

คำว่า"ปรองดอง"จะไม่มีในวันนี้ ถ้าไม่มี 19 กันยายน 2549 !?

"การเมือง" อันเป็นเรื่องของ"อำนาจ"และ"ผลประโยชน์"ได้นำพาประเทศและประชาชนสู่หุบเหวลึกเป็นเวลา 7 ปี

เมื่อทบทวนดูก็จะพบว่า ในห้วง 7 ปีนี้ เหตุการณ์ทางการเมืองอันไม่พึงปรารถนา ล้วนแต่เกิดจากความคิดที่แบ่งขั้วและกระทำกันอย่าง"สุดโต่ง"

เหมือนโรคร้ายระบาดไปทั่วทุกวงการ ไม่เว้นกระทั่งตุลาการ อัยการ ตำรวจ ทหาร ข้าราชการพลเรือน ผู้คนทั่วไป กระทั่งสื่อมวลชนกระแสหลัก และสื่อเครื่องมือของกลุ่มการเมือง

แน่นอนว่า ผู้ที่ครองตนด้วยความยากลำบากในภาวะ"สุดโต่ง"คงจะเป็น "กรรมการกลาง"

ศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นหนึ่งในกรรมการ

เมื่อท่านพูด คนจะฟัง แต่คนจะเชื่อเมื่อท่านทำ !?!!

( หน้า 11 มติชนรายวัน 9 เมษายน 2556 )
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1365469266&grpid=01&catid=&subcatid=


 

 

[เหยง 16]

เมื่อสักครู่ คุณสมควร ศิริจิตรจินดา วท.2516 อดีตหัวหอชายปี 2519
โทรมาคุยด้วย สอบถามเรื่องพี่สิงห์ เลิกนัดทานข้าวเที่ยง เพื่อรีบกลับ กทม.

[เหยง 16]

สมควร ศิริจิตรจินดา วท2516, ยงยศ ศรีศุภรัตน์ Rx16 และแต๋ง-วัฒนา โอภานนท์อมตะ วท 2516

รุ่น พป. 2513 รร.พระปฐมวิทยาลัย จัดสังสรรค์ ณ.ร้านเจ้าสัว ถนนบายพาส ข้างร้านลุงลอย ป่าลั่น
วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม 2556 เริ่มตั้งแต่ 18.30 น. ครับ

เพื่อนๆ ฝากบอกถึงแต๋ง-วัฒนา ไม่ได้เจอกันนานกว่า 30 ปีแล้ว

[เหยง 16]

ช่วงสงกรานต์ 10 - 17 เมษายน มีฝนแบบพายุฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง
โปรดระมัดระวังไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 10 เมษายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนและลาวแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ในวันนี้ (10 เม.ย.56) ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 10-17 เมษายน 2556 ไว้ด้วย
อนึ่ง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประเทศไทยจะมีอุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส และมีฝนตกในหลายพื้นที่
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่
บริเวณจังหวัดลำปาง ตาก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่
บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี และกาญจนบุรี
อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันทางตอนบนของภาค
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆบางส่วน กับมีอากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 

[เหยง 16]

17,000 แล้วครับ 

[เหยง 16]

ขออนุญาตออกไปทำธุระที่ตลาดปากน้ำโพสัก 2 ชั่วโมงครับ

[Leam]

สวัสดียามค่ำครับ... พี่เหยง และพี่น้องทุกท่าน

วันนี้อากาศร้อนพอทนครับ..