คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ

[เหยง 16]

วันนี้ฟ้าเริ่มเปิดแล้วครับ เดี๋ยวจะนำพยากรณ์อากาศมาลงให้ทราบครับ

[เหยง 16]

นานาทรรศกับผลการเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม.


ทรรศนะ "สื่อต่างชาติ" ต่อการ "เลือกตั้งผู้ว่ากทม." เรื่องของดุลอำนาจ "ชนชั้นกลาง-รากหญ้า" !!
วันที่ 04 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19:00:41 น.

หลังการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.จบไปแล้วเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2556 สื่อต่างประเทศหลายๆ สื่อแสดงความเห็นต่อการเลือกตั้งดังกล่าว อาทิ บลูมเบิร์ก เดอะ เจแปน ไทมส์ วอลล สตรีท เจอร์นอล ยูไนเต็ด เพรส อินเตอร์เนชันแนล และ นิวยอร์กไทมส์ เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ชี้ว่าเป็นการช่วงชิงความนิยมระหว่าง 2 พรรคใหญ่ ซึ่งแสดงออกถึงความขัดแย้งทางความคิด โดยสรุป ความเห็นสื่อต่างชาติต่อการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. มีดังนี้

หนังสือพิมพ์บลูมเบิร์ก เน้นเรื่องการทำงานระหว่างรัฐบาลและผู้ว่ากทม. อย่าง "ไร้รอยต่อ" แม้ว่าทั้งสองพรรคจะเป็นคู่แข่งและแบ่งแยกฐานเสียงและความเห็นร่วมกันอย่างชัดเจน และชัยชนะของพรรคประชาธิปัตย์ ที่สามารถรักษาฐานเสียงได้กทม.ได้อย่างเข้มข้น จนได้รับชัยชนะมาตลอดในการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. 3 ครั้งหลัง นอกจากนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร จะต้องแก้ไขปัญหากทม.ตามที่สัญญาไว้ อาทิ ปัญหาน้ำท่วม การสรางสวนสาธารณะเพิ่ม การขนส่งมวลชน และการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม ด้วยงบประมาณในการดูแลกทม.ราว 60,000 ล้านบาท

ด้านแอสโซซิเอท เพรสระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรกหลังมีเหตุการณ์ประท้วงของกลุ่มเสื้อแดง โดยการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการช่วงชิงความนิยมระหว่าง 2 พรรคใหญ่ และชี้ว่ากทม. นั้นเป็นฐานเสียงสำคัญของประชาธิปัตย์  นอกจากนี้ผลคะแนนเลือกที่ออกมาใกล้เคียงกัน ชี้ให้เห็นความขัดแย้ง และทางด้านพรรคเพื่อไทยเตรียมพิจารณาผลการทำงานในกทม.

ส่วนวอลล์ สตรีท เจอร์นอล ชี้ว่าการที่พรรครัฐบาลแพ้การเลือกตั้งผู้ว่ากทม. แสดงให้เห็นถึงความนิยมในตัวพรรคประชาธิปัตย์  และเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ เสริมประเด็นนี้ โดยอ้างคำพูดของนายกานต์ ยืนยง นักวิเคราะห์การเมืองไทย จากสยาม อินเทลิเจนซ์ ยูนิท (Siam Intelligence Unit) ว่าประชาธิปัตย์ชนะเพราะหลายพื้นที่ในกทม.ต้องการสร้างดุลทางอำนาจ และกลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะมีอำนาจมากไป รวมทั้งยังทำนายว่าในอนาคตการเมืองไทยจะเป็นการแข่งขันระหว่าง 2 พรรคใหญ่ 

ในขณะที่นิวยอร์ก ไทมส์ ก็เสริมประเด็นดังกล่าวว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในกทม. ถูกแบ่งแยกแยกด้วยกลุ่มฐานะทางเศรษฐกิจ โดยเขตที่มีคนชนชั้นกลางเป็นจำนวนมาก นิยมสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะที่เขตรอบนอก ที่มีชนชั้นรากหญ้ามากกว่า จะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย โดยอิงจากบทสัมภาษณ์ของร.ศ.สุขุม นวลสกุล นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ที่กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งแสดงว่าคนไทยไม่ชอบการเมืองแบบรวบอำนาจไว้ที่พรรคใดพรรคหนึ่ง ชอบถ่วงดุลอำนาจกันระหว่างสองพรรคใหญ่ สังเกตได้จากการที่ผู้สมัครอิสระได้คะแนนเพียงนิดเดียว

นอกจากนี้ บางกอก โพสต์ยังรายงานว่า หลังผลการเลือกตั้งที่ออกมาพลิกโผไปจากผลของเอกซิท โพลล์ ทำให้ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ บริพัตร ขอดูผลการเลือกตั้งอีกครั้งจากเจ้าหน้าคณะกรรมการการเลือกตั้ง เนื่องจากกลัวว่าผลโพลล์อาจชี้นำ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้เขาร่วมการเลือกตั้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 4.2 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 64 ของประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพฯ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1362379665&grpid=01&catid=&subcatid=

[เหยง 16]

ฟังการวิเคราะห์ของเครือมติชน...........

มติชนวิเคราะห์ ...ชัยชนะของปชป. ในศึกผู้ว่าฯกทม.
วันที่ 04 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15:00:01 น.

(ที่มา:มติชนรายวัน 4 มีนาคม 2556)
 
ผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครออกมาแล้ว

ผลที่ออกมาตรงกันข้ามกับผลโพล ทั้งโพลก่อนหน้านี้ และเอ็กซิตโพล

ผลที่ออกมาจึงทำให้กองเชียร์ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย...ช็อก!

แม้ว่าคะแนนที่ พล.ต.อ.พงศพัศ จะได้มากกว่าทุกครั้งที่พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครชิงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกับผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์

การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2552 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 934,602 คะแนน ชนะ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ที่ได้ 611,669 คะแนน

ได้คะแนนมากกว่า 300,000 คะแนน

เช่นเดียวกับชัยชนะเมื่อปี 2547 ที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 911,441 คะแนน ชนะ นางปวีณา หงสกุล ผู้สมัครอิสระ แต่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคไทยรักไทย ที่ได้ 619,039 คะแนน

ได้คะแนนมากกว่า 300,000 คะแนน

ขณะที่ครั้งนี้ ปี 2556 ผลคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระหว่าง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากพรรคประชาธิปัตย์ กับ พล.ต.อ.พงศพัศ มีช่องว่างแคบลง

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ 1.2 ล้านคะแนน พล.ต.อ.พงศพัศได้ 1.07 ล้านคะแนน ชนะไปประมาณแสนกว่าคะแนน

แต่แคบหรือกว้าง เมื่อได้คะแนนมากกว่าก็ได้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

เมื่อกองเชียร์ของพรรคเพื่อไทยผิดหวัง กองเชียร์ของพรรคประชาธิปัตย์ย่อมครึกครื้น

ครึกครื้นที่คนกรุงเทพฯส่วนใหญ่จาก 63 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ได้ออกมาโอบอุ้ม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และพรรคประชาธิปัตย์ตามคำเรียกร้องของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง

อย่าลืมว่า ในช่วงเปิดตัวนั้น เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง พล.ต.อ.พงศพัศ กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ แล้ว พล.ต.อ.พงศพัศ ได้ขายความสด

อย่าลืมว่า ในช่วงเปิดตัว พรรคเพื่อไทยในฐานะต้นสังกัดของ พล.ต.อ.พงศพัศได้ชูยุทธศาสตร์ "ไร้รอยต่อ" รับประกันความสำเร็จในนโยบายที่ประกาศออกไป

ชูจุดขาย "การบริหาร"

ดังนั้น ตั้งแต่โค้งแรกจนถึงโค้งสุดท้าย พรรคเพื่อไทยและ พล.ต.อ.พงศพัศ จึงนำเสนอให้คนกรุงเทพฯ...เปลี่ยน

แต่สุดท้ายคนกรุงเทพฯได้แสดงประชามติออกมาอีกทาง

ประชามติที่คนกรุงเทพฯส่งสัญญาณออกมา เป็นการตอกย้ำว่า เห็นด้วยกับปัญหา "การเมือง" ที่พรรคประชาธิปัตย์ชูขึ้นมาต่อต้านพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

การเมืองที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรค ที่ออกมาตอกย้ำเรื่องการเผาบ้านเผาเมือง เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยจะกลืนกินผืนแผ่นดินไทย เรื่องการสูญเสียฐานที่มั่นให้แก่คนเสื้อแดง

รวมถึงถ้อยแถลงที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์เปิดใจ และหลั่งน้ำตาในช่วงปลายการหาเสียง

นี่ย่อมตอกย้ำว่า คนกรุงเทพฯยังไม่ไว้วางใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ไว้วางใจพรรคเพื่อไทย จึงไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.พงศพัศ

แม้คะแนนความไว้วางใจจะเพิ่มขึ้น คือ ระยะห่างระหว่างคะแนนของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กับ พล.ต.อ.พงศพัศ น้อยกว่าผลคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเมื่อปี 2552 และปี 2547

แต่ก็ยังถือว่า คนกรุงเทพฯยังไม่ไว้วางใจ

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องตระหนัก เนื่องจากชัยชนะที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เกิดจากการที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องระดมสรรพกำลังทั้งมวลออกมาช่วยเหลือ

ทั้งตัวฐานคะแนน ตัวบุคคล นโยบาย เครดิตพรรค และสุดท้ายคือดึงเอา "การเมืองระดับชาติ" หาเสียงให้ "การเมืองระดับท้องถิ่น"

ผลการทุ่มสรรพกำลังยังทำให้พรรคประชาธิปัตย์รักษาแชมป์เอาไว้ได้

แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นชัยชนะที่เขย่าความเชื่อมั่นของพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างมากเช่นกัน

ดังนั้น คะแนนที่ออกมาจึงมิได้ส่งสัญญาณไปยังพรรคเพื่อไทยเท่านั้น หากแต่ยังส่งสัญญาณไปยังพรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่านับแต่นี้ต่อไป ทั้งสองพรรคต่างต้องทำการบ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานครอีกมาก... ก่อนที่การเลือกตั้งครั้งต่อไปจะอุบัติขึ้น

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1362368102&grpid=01&catid=&subcatid=

[เหยง 16]

สมจิตต์ จากช่อง 7 โต้ โอ๊ค-พานทองแท้ !!

"สมจิตต์" ช่อง 7 โต้ "โอ๊ค" คนกทม.เลือกสุขุมพันธ์ เพราะ"กล้าแสดงความรังเกียจคนทำร้ายบ้านเมือง" !!
วันที่ 04 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 18:25:06 น.

เลือกผู้ว่า กทม.ด้วยความกล้าที่จะแสดงความรังเกียจ ไม่ใช่เพราะกลัว !
 
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2556 นางสาวสมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวช่อง 7 ได้โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จากกรณีที่ โอ๊ค โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกรุงเทพมหานครว่า "คนกรุงเทพจำใจ เลือกแบบเดิมเพราะความกลัว" โดยนางสาวสมจิตต์ ระบุว่า " เลือกผู้ว่า กทม.ด้วยความกล้าที่จะแสดงความรังเกียจ ไม่ใช่เพราะกลัว !

ขอเป็นหนึ่งเสียงจากคนกรุงเทพส่งไปถึง พานทองแท้ ชินวัตร ให้รับทราบว่า "การลงคะแนนเลือกผู้ว่ากทม.สำหรับคนที่ปฏิเสธพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ได้เกิดจากความกลัว แต่เกิดจากความกล้าที่จะลุกขึ้นแสดงความรังเกียจคนที่ทำร้ายบ้านเมือง ไร้สัจจะ ข่มขู่ประชาชน เห็นประโยชน์การเมืองของตัวเองมาก่อนผลประโยชน์ของประชาชน และคำนึงถึงนโยบายที่ทำได้จริงไม่ใช่ประชานิยมที่จะนำพาชาติล่มจม"
 
ท้องฟ้าที่กรุงเทพสว่างที่เดียวไม่เพียงพอ แต่ภารกิจของคนที่กล้าแสดงความรังเกียจต่อความเลวยังต้องเหนื่อยหนัก ในการร่วมกันทำให้ความสว่างที่กรุงเทพส่องแสงไปทั่วประเทศด้วยในอีกสองปีกว่าข้างหน้านี้

ขอบคุณชัยชนะของคนกรุงเทพ ที่ทำให้เห็นแสงสว่างส่องไปถึงชัยชนะของคนทั้งประเทศในอนาคต

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1362390064&grpid=01&catid=&subcatid=

[เหยง 16]

และประเด็นสำคัญของ ตู่-จตุพร

“จตุพร” หมดโอกาสจริงๆ !?
5 มีนาคม 2556 03:31 น.

 
       เกาะกระแส
       
       00 นาทีนี้ก็ต้องแสดงความยินดีกับ “ชายหมู” กับพลพรรคปชป.ที่สามารถทำทุกทางจนสามารถเอาชนะ “พรรคเผาเมือง” ได้สำเร็จ และแม้ว่าจะมีนักวิจารณ์หลายคนมองแบบฉาบฉวยว่าคะแนนของผู้สมัครอิสระทั้งหมดในคราวนี้ถือว่า “น้อยที่สุด” และกลายเป็นว่าเป็นยุคของ “สองพรรคใหญ่” จริงๆ เพราะได้คะแนนทุบสถิติกว่า 1 ล้านขึ้น ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว หากไม่นับ “พวกสาวก” สองพรรคดังกล่าวแล้ว คะแนนชี้ขาดและเชื่อว่าเทมาให้ สุขุมพันธุ์ เกิดขึ้นในช่วงท้ายๆ หรือนาทีสุดท้าย เพื่อหวังสกัดกั้นการยึดเมืองหลวง ต่อต้านการยึดครองอย่าง “เบ็ดเสร็จ” นั่นแหละ
       
       00 ประกอบกับข่าวคราวที่ปล่อยออกมาว่า จตุพร พรหมพันธุ์ หรือแม้แต่ “ลูกเหลิม” คนใดคนหนึ่งจะมาเป็นรองผู้ว่าฯกทม.หาก พงศพัศ พงษ์เจริญ ได้รับเลือก และยิ่งเมื่อเจอกับแรงโหมกระพือของประชาธิปัตย์ในช่วงอาทิตย์สุดท้ายเพิ่ม “ความกลัว”ใช้แผน ยึดคนกรุงเป็นตัวประกันบวกเข้าไปอีก ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งฝ่ายพรรคเผาเมืองก็ “แรง” จริงๆ พิสูจน์ได้จากคะแนนทะลุล้านเสียง มันก็ไม่ธรรมดา ทำให้เกิดกระแสอยู่นิ่งไม่ได้ต้องชักชวนกันออกไปสกัด และนี่แหละจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนจึงไปใช้สิทธิ์มากเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ดีนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วจริงๆสำหรับ ปชป.ที่จะอาศัยวิธีการเก่าๆมาหากิน หากไม่สร้างผลงานที่จับต้องได้ วันหน้าต้องน้ำตาตก !!
       
       00 พูดถึง จตุพร แล้วงานนี้ถือว่า “ต้องห้าม” สร้างพลัง “ความเกลียด” และเป็นแรงกระตุ้นให้คนกรุงออกไปใช้สิทธิ์ได้ดีจริงๆ เพราะเพียงแค่ข่าวที่ออกมาว่าเขาจะมานั่งหนึ่งในรองผู้ว่าฯของ พงศพัศ ทำเอา “หูผึ่ง” ขณะที่ฝ่ายเพื่อไทยก็ “น้ำท่วมปาก” พูดไม่ออกจะยอมรับก็ไม่ได้ จะปฏิเสธก็กลัวเสียแนวร่วมเสื้อแดง แต่การนิ่งเฉย มันก็เป็นผลเสียอย่างที่เห็น ดังนั้นก็เป็นอันพิสูจน์ให้เห็นได้ดีว่าคำพูดของ ขวัญชัย ไพรพนา เฉพาะเรื่องอนาคตของ จตุพร นั่นน่าจะจริง และโอกาสจะได้กลายพันธุ์เป็นอำมาตย์ นั่งเก้าอี้รมต.นั้นริบหรี่จริงๆ
       
       00 ขออีกสักวันสำหรับพวกนักทำโพลทั้งหลาย รวมไปถึงสื่อทีวี ผู้ประกาศข่าวทางฟรีทีวี โดยเฉพาะช่อง 3 ที่ตอนแรกระริกระรี้หมายมั่นปั้นมือจะรายงานประกาศชัยชนะให้กับ พงศพัศ กับพรรคเพื่อไทย น่าสังเวชก็คือ สุขุม เฉลยทรัพย์ จากสวนดุสิตโพล สรยุทธ์ สุทัศนจินดา หรือแม้แต่ กิตติ สิงหาปัด ที่หน้าแตกยังไม่พอ พยายามจะอ้างโน่นอ้างนี่สารพัดเพื่อกลบเกลื่อน แต่ก็ยังไม่วายคิดเข้าข้างตัวเองขณะที่คะแนนเริ่มพลิกเป็นตรงกันข้ามทำนองว่า “ยังไม่แน่” ปลอบใจ จนในที่สุดเมื่อรู้ว่า สุขุมพันธุ์ มาแน่ก็ทนไม่ไหวตัดฉับเลิกเกาะติดการนับผลคะแนนแล้วหันมาเข้ารายการอื่นทันที
       
       00 สำหรับ “จูดี้” พงศพัศ แน่นอนแล้วว่า แม้จะพลาดเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ก็จะไม่ “ว่างงาน” เพราะเก้าอี้รองผบ.ตร.ควบเลขาฯปปส.ยังรออยู่ให้กลับไปนั่งอยู่เช่นเดิม และให้จับตาให้ดีว่าจะได้เป็น ผบ.ตร.คนต่อไปหรือเปล่า แต่เมื่อพิจารณาตามเส้นทางและการอ่อนน้อมถ่อมตัวอย่างที่เห็นมันก็เข้าเค้า เพราะเกษียณปี 59 แต่เงื่อนไขก็คือรัฐบาลปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ล้มคว่ำไปกับผลงาน “ห่วยแตก” เสียก่อน !!

 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000027107
 

[เหยง 16]

กลับมาที่พยากรณ์อากาศครับ

วันนี้ปริมาณฝนลดลงในทุกภาค แต่ก็ยังมีฝนตกอยู่
กทม. มีฝนตกอยู่ประมาณร้อยละ 20 ของพื้นที่

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 5 มีนาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจายในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 7-9 มีนาคม 2556 คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนจากประเทศพม่าเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีฝนกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และตาก
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย เลย หนองบัวลำภู และชัยภูมิ
อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง มีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

[เหยง 16]

เมื่อเช้านี้ มีภาระกิจ ไปปักหลักคันที่ดิน เพื่อจะซื้อครับ
ให้เจ้าของที่ตัดอ้อยส่งโรงงานให้เรียบร้อยซะก่อน ถึงจะเริ่มขบวนการวัดและตรวจสอบเขตที่ดิน

[เริง2520]

กิจการก้าวหน้าดีครับ เซ็งลี้ฮ้อ ครับ

[เหยง 16]

น้องเริง

แสดงถึงภาคเกษตรกรรมยังไม่แข็งแรง
เกษตรกรจำนวนหนึ่งและลูกหลานที่สืบทอด ไม่อยากทำไร่-ทำนา
ขายที่ดินเพื่อแบ่งทรัพย์ให้ลูกๆ แล้วไปหาอาชีพใหม่

วันนี้ที่นครสวรรค์ มี Big C สาขา 2 ขนาดใหญ่ เปิดเมื่อ 24 ธ.ค. 2555 ,
Testco Lotus ขนาดใหญ่ เปิดเมื่อ 22 ก.พ. 2556
ไม่นับรวม Home Pro เปิดเมื่อปีที่แล้ว โดยมี Idea Home และ Light Max ขนาดใหญ่ประกบ
พนักงานประจำห้าง เปิดรับสมัครกันแบบงานใหญ่เพื่อป้อนเข้าทำงานห้าง
ไม่รวมถึงพนักงานของร้าน MK สุกี้, Hot Pot, อิชิบัง, S&P, และสารพัด
บวกกับพนักงานของธนาคารที่เปิดตามห้าง ที่ตามเข้าไปเปิดสาขาอีกหลายแห่ง
คนรวยสุดตอนนี้คือ เจ้าของที่ดินใกล้ห้างฯ ดังกล่าวครับ  สร้างหอพัก บ้านพักเป็นพรึบ
ห้องพักเต็มเพียบ (รวมทั้งของ ดร.มนตรี ซึ่งอยู่ตรงสี่แยกสะพานเดชาฯ พอดี)

คนไทยส่วนใหญ่สมัครใจเป็นพนักงานกินเดือนเดือนตามห้างฯ กันเพิ่มขึ้น ทิ้งอาชีพเดิมกันเป็นส่วนใหญ่
การซื้อที่ดิน ไม่ได้ทำได้ทุกผืนครับ เขาเรียกว่า ต้องมีวาสนาเช่นกัน
ต้องเลือกผืนที่อยู่ใกล้เรา เป็นโฉนด มีทางเข้าออก และแปลงไม่ใหญ่เกินสตางค์ของเรา

[เริง2520]

ทุ่งนาและต้นตาลที่เคยลงภาพไว้ไม่เกิน ๕ ปี จะหมดไปแล้ว

มีบ้าน ตึก ขึ้นมาแทน  ด้วยว่าไม่ไกลและติดถนนสาย ๓๔๕ ที่ไปบางบัวทองและบางใหญ่ห้างจะขึ้นตามมา

วันก่อนคุยกับศักดิ์ชัย  จิราธิวัฒน์ บอกว่าแยกบางใหญ่ ถนนรัตนธิเบศร์

จะเป็นทำเลที่ดีมาก ห้างเซ็นทรัลจะใหญ่มาก เป็นรองแต่ที่ลาดพร้าวเท่านั้น

ยี่สิบปีก่อนเขาเคยบอกผมว่าห้างเดอะมอลล์จะเป็นคู่แข่งของห้างเขา แล้วก็จริง

สยามพารากอนยิ่งใหญ่มากๆ  

และสามสิบปีก่อนเขาเคยบอกว่าจะสร้างเซ็นทรัลที่เชียงใหม่ ห้างท้องถิ่นคัดค้าน  

เขาบอกว่าถ้าเราไม่ไปเชียงใหม่ ห้างอื่นก็ไป       ผมท่าจะแย่คุยกับแต่อดีต

[เหยง 16]

น้องเริง

การฟื้นอดีตมาคุยกันในวันนี้ เป็นการสรุปว่า ในขณะนั้นเรามีมุมมองตรงกับปัจจุบันนี้หรือไม่ ??
เซ็นทรัลใหญ่จริงที่ลาดพร้าวและยึดถือเอาไว้ตลอดมา แต่ไม่แบ่งปันให้ รฟท.เลย ??!!

มีมุมมองว่า เซ็นทรัลจะซื้อที่ผืนใหญ่เพื่อพัฒนา โดยไม่ยอมซื้อที่ดินผืนเล็ก
ดังเช่นที่พิษณุโลก ขอนแก่น
ห้างใหญ่แล้ว อย่างอื่นจะตามมา มีที่ดินเหลือ ก็จะพัฒนาพ่อยอดไปได้อีก
โดยไม่โดนห้างอื่น สร้างใหม่มาแย่งลูกค้า

[เหยง 16]

ฟัง "แม่ลูกจันทร์" ของไทยรัฐ วิจารณ์ผลการเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ครับ

ตามฟอร์ม


หลังจากเยิ่นกันเต็มเหยียดมา 45 วัน เดินสายหาเสียงจนน้ำลายเหนียวไข่ดันบวม

คำตอบสุดท้ายของคนกรุงเทพฯในศึกเลือกตั้งชิงเสาชิงช้าทองคำ คือให้โอกาส ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร แชมป์เก่า ทำงานต่อไปอีก 4 ปี

เล่นเอาสำนักโพลหน้าแตกหมอไม่รับเย็บไปตามๆกัน

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าผลคะแนนรวมทั้ง 50 เขต ปฏิเสธไม่ได้ว่าฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯ

เหนียวแน่นหนึบหนับเกินห้ามใจ

ถ้าฐานเสียง ปชป.ไม่ปึ้กก์จริง...การเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่แล้ว พรรคประชาธิปัตย์คงไม่กวาดเก้าอี้ ส.ส.กรุงเทพฯได้ถึง 23 คน จากทั้งหมด 33 คน

ถ้าดูจากผลการเลือกตั้งสมาชิกสภา กทม.ล่าสุด จะพบคำตอบว่าทำไมพรรคประชาธิปัตย์จึงผูกขาดเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ติดต่อกันถึง 12 ปี??

เพราะพรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ก.ถึง 46 คน จากทั้งหมด 61 คน

พรรคประชาธิปัตย์เหมาเก้าอี้ ส.ข. ได้ถึง 210 คน จากทั้งหมด 256 คน

แบ่งให้ ส.ข.พรรคเพื่อไทย แทรกเป็นยาดำ 39 คน

“แม่ลูกจันทร์” จึงไม่แปลกใจที่ “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์” จะเอาชนะ “พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ” ผู้ท้าชิงจากพรรคเพื่อไทยไปได้อย่างสะดวกโยธิน

ผลการรวมคะแนนจาก 50 เขต ประชาธิปัตย์เอาชนะไปได้ 38 เขต พรรคเพื่อไทย ชนะ 12 เขตเท่านั้นเอง

ถึงศึกเลือกตั้งครั้งนี้ “ชายหมู” จะไม่ชนะ “จูดี้” ขาดกระจุย

แต่ถือว่าเป็นชัยชนะที่หวานเจี๊ยบกำลังงาม

โดยเฉพาะการได้คะแนนรวมเกิน 1 ล้าน 2 แสนคะแนน เป็นสถิติใหม่ของตัวเอง ของพรรคประชาธิปัตย์และของการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

อย่างไรก็ตาม “แม่ลูกจันทร์” ให้กำลังใจ พล.ต.อ.พงศพัศ และพรรคเพื่อไทยในฐานะผู้แพ้ที่ดี

ขอชื่นชม นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ประกาศจะร่วมมือกับผู้ว่าฯกทม.พัฒนากรุงเทพฯเพื่อประโยชน์ของชาว กทม.อย่างเต็มกำลัง

จะไม่มีการแบ่งขั้วแบ่งข้างให้เป็นอุปสรรคการแก้ปัญหาประชาชน

ถ้ามองด้านบวก ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ชี้ว่าเสียงสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในเมืองหลวงเพิ่มขึ้นในระดับน่าพอใจ

คะแนนเลือก “พงศพัศ” ก็ทะลุหลักล้านเหมือนกันนะโยม

จากที่เคยแพ้ประชาธิปัตย์บานทะโร่กว่าสามแสนคะแนน ครั้งนี้สามารถไล่เข้าใกล้คู่แข่งขึ้นอีกครึ่งช่วงตัว

สิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งคือการที่พรรคเพื่อไทยไม่ใช้วิธีหาเสียงโจมตีใส่ร้ายคู่แข่ง

แต่เน้นหาเสียงโดยการขายนโยบาย

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า นี่แหละคือ “จุดสลบ” ที่ “พงศพัศ” ต้องพ่ายแพ้ “สุขุมพันธุ์”

เพราะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เป็นสงครามการเมือง

การรบโดยไม่ออกอาวุธก็มีแต่แพ้สถานเดียว

“แม่ลูกจันทร์” มองว่าการสัประยุทธ์ครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์เขี้ยวกว่า เก๋าเกมกว่าพรรคเพื่อไทย

พรรคประชาธิปัตย์ลุยหาเสียงโค้งสุดท้ายแบบไม่เน้นเสนอนโยบาย

แต่เน้นโจมตีคู่แข่งสุดลิ่มทิ่มประตู

ยิ่งพรรคเพื่อไทยไม่ยอมตอบโต้ก็เท่ากับโดนรุมยำข้างเดียว

โค้งสุดท้าย “พงศพัศ” จึงเหี่ยวปลายด้วยประการฉะนี้แล

“แม่ลูกจันทร์” มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า

การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.งวดนี้เป็นการปะทะกันระหว่างผู้สมัคร 2 พรรคใหญ่ 2 คน

คะแนนจึงไปกระจุกตัวที่เบอร์ 16 กับ เบอร์ 9 แค่ 2 เบอร์

ทำให้ผู้สมัครอิสระได้คะแนนน้อยมากๆ น้อยอย่างน่าตกใจ

ต่างจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่ผู้สมัครอิสระโกยคะแนนชาวกรุงเทพฯเป็นกอบเป็นกำ

ปล. “แม่ลูกจันทร์” ดีใจที่ชาวเมืองหลวงออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งทะลุเป้า 60 เปอร์เซ็นต์แม้มีฝนตกขัดจังหวะตลอดทั้งวัน

มิน่าล่ะ...รถติดระเบิดเถิดเทิง.


“แม่ลูกจันทร์”

[เหยง 16]

อัพเดท การขอคืนพื้นที่อุเทนถวาย

ศธ.เร่งเคลียร์คืนที่ "อุเทนถวาย" ให้จุฬาฯ เผยย้ายไปตั้งใหม่ที่ ต.บางปิ้ง จ.สมุทรปราการ
วันที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16:22:41 น.

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ว่า จากการหารือร่วมกับ นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้เกี่ยวข้องเข้าพบกรณีข้อพิพาทการทวงคืนที่ดินมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ว่า อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เข้ามาชี้แจงข้อมูลที่ดินบริเวณดังกล่าวว่าที่ดินได้มีการตีความ โดยคณะกรรมการชี้ขาดการยุติการดำเนินคดีแพ่งของหน่วยราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเป็นสิทธิของจุฬาฯ และให้ มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายย้ายออกไป โดยหลังจากนี้ตนจะประสานไปยังผู้บริหาร มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เพื่อให้ดำเนินการตามมติดังกล่าว ส่วนกรณีกลุ่มศิษย์เก่าและบุคลากรของวิทยาเขตจะออกมาเคลื่อนไหวประท้วงอีกหรือไม่นั้น เรื่องนี้เป็นหน้าที่ที่ผู้บริหารจะต้องไปทำความเข้าใจกับบุคลากรและศิษย์เก่า ว่าจะต้องย้ายสถานศึกษาใหม่ เพราะที่ดินดังกล่าวจุฬาฯเป็นเจ้าของตามกฎหมาย

รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กล่าวต่อว่า สำหรับการย้าย มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายไปที่ใหม่นั้น จะต้องมีสถานที่ใหม่และงบประมาณรองรับ โดยจะพิจารณาเรื่องของความเหมาะสมเป็นหลัก อาทิ ในจุดนั้นต้องไม่มีสถานศึกษาประเภทเดียวกันตั้งอยู่และจะพิจารณาที่ดินที่รัฐบาลเป็นเจ้าของอยู่แล้วเท่านั้น ทั้งนี้ในเบื้องต้นพื้นที่ใหม่อาจจะเป็นที่ดินของราชพัสดุ ต.บางปิ้ง จ.สมุทรปราการ

ด้านนายสืบพงษ์ ม่วงชู รักษาการรองอธิการบดี มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย กล่าวว่า ตนยินดีและพร้อมที่จะเข้าไปให้ข้อมูลกับรัฐมนตรีว่าการ ศธ. และการที่นักศึกษาและศิษย์เก่าอุเทนถวายออกมาประท้วงจุฬาฯ เพื่อเรียกร้องขอคืนที่ดินและย้ายวิทยาเขตไปตั้งที่อื่นนั้นเป็นการออกมาประท้วงบนหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าแต่เดิมที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินที่ได้รับพระราชทานมา แต่ภายหลังถูกขั้นตอนทางกฎหมายทำให้ที่ดินตรงนั้นตกเป็นของจุฬาฯ ดังนั้นแล้วบรรดานักศึกษาปัจจุบันและศิษย์เก่าจึงออกมาเรียกร้องสิทธิเดิมของมหาวิทยาลัย แต่อย่างไรก็ตาม หากในท้ายที่สุดแล้วผู้บังคับบัญชาสั่งให้ย้ายวิทยาเขตไปตั้งยังที่อื่นก็คงต้องปฏิบัติตาม 

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1362475393&grpid=00&catid=&subcatid=

[หนุน'21]

ผมชอบ 2 บล็อคนี้ครับพี่เหยง เหอ เหอ

  

		อ้างถึง
	00 พูดถึง จตุพร แล้วงานนี้ถือว่า “ต้องห้าม” สร้างพลัง “ความเกลียด” และเป็นแรงกระตุ้นให้คนกรุงออกไปใช้สิทธิ์ได้ดีจริงๆ เพราะเพียงแค่ข่าวที่ออกมาว่าเขาจะมานั่งหนึ่งในรองผู้ว่าฯของ พงศพัศ ทำเอา “หูผึ่ง” ขณะที่ฝ่ายเพื่อไทยก็ “น้ำท่วมปาก” พูดไม่ออกจะยอมรับก็ไม่ได้ จะปฏิเสธก็กลัวเสียแนวร่วมท่าน แต่การนิ่งเฉย มันก็เป็นผลเสียอย่างที่เห็น ดังนั้นก็เป็นอันพิสูจน์ให้เห็นได้ดีว่าคำพูดของ ขวัญชัย ไพรพนา เฉพาะเรื่องอนาคตของ จตุพร นั่นน่าจะจริง และโอกาสจะได้กลายพันธุ์เป็นอำมาตย์ นั่งเก้าอี้รมต.นั้นริบหรี่จริงๆ                00 ขออีกสักวันสำหรับพวกนักทำโพลทั้งหลาย รวมไปถึงสื่อทีวี ผู้ประกาศข่าวทางฟรีทีวี โดยเฉพาะช่อง 3 ที่ตอนแรกระริกระรี้หมายมั่นปั้นมือจะรายงานประกาศชัยชนะให้กับ พงศพัศ กับพรรคเพื่อไทย น่าสังเวชก็คือ สุขุม เฉลยทรัพย์ จากสวนดุสิตโพล สรยุทธ์ สุทัศนจินดา หรือแม้แต่ กิตติ สิงหาปัด ที่หน้าแตกยังไม่พอ พยายามจะอ้างโน่นอ้างนี่สารพัดเพื่อกลบเกลื่อน แต่ก็ยังไม่วายคิดเข้าข้างตัวเองขณะที่คะแนนเริ่มพลิกเป็นตรงกันข้ามทำนองว่า “ยังไม่แน่” ปลอบใจ จนในที่สุดเมื่อรู้ว่า สุขุมพันธุ์ มาแน่ก็ทนไม่ไหวตัดฉับเลิกเกาะติดการนับผลคะแนนแล้วหันมาเข้ารายการอื่นทันที

 

[เริง2520]

มาตามข่าวพยากรณ์อากาศครับ

[เหยง 16]

น้องเริง

ฟ้าเปิดแล้ว แต่ไร่นาในส่วนที่ปลูกข้าวรอเก็บเกี่ยวบ่นกันระงม ข้าวเปียกมาก กลัวถูกตัดราคา
ส่วนที่ยังไม่ได้ปลูกดีใจ ฝนช่วยลดความร้อน และน้ำท่าเพิ่มขึ้น

[เหยง 16]

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 6 มีนาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 16:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไป ยกเว้นภาคเหนือจะมีอุณหภูมิทรงตัว ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปยังคงมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 7-9 มีนาคม 2556 คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนจากประเทศพม่าเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 17:00 วันนี้ ถึง 17:00 วันพรุ่งนี้

 

ภาคเหนือ  มีเมฆบางส่วน และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ และแพร่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน และอุณหภูมิสูงขึ้น
อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 
ภาคตะวันออก  มีเมฆบางส่วน และอุณหภูมิสูงขึ้น
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆเป็นส่วนมาก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
มีเมฆบางส่วน และอุณหภูมิสูงขึ้น
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

[เหยง 16]

เช้าวันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2556 ฟ้าเปิดแดดออกแล้วครับ
ฝนไปแล้ว แต่ก็มาหลายพื้นที่ยังพอมีฝน อากาศร้อนอบอ้าว เริ่มกลับเข้ามาในพื้นที่

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 7 มีนาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนยังคงมีกำลังอ่อนลง ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นโดยทั่วไป ยกเว้นภาคเหนือจะมีอุณหภูมิทรงตัว ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปยังคงมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 7-9 มีนาคม 2556 คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนจากประเทศพม่า
เข้ามาปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ  มีเมฆบางส่วน และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ และแพร่
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีเมฆบางส่วน และอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

ภาคกลาง  มีเมฆบางส่วน และอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆเป็นส่วนมาก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆบางส่วน และอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

[ทราย 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 05 มีนาคม 2556, 13:35:00
	เมื่อเช้านี้ มีภาระกิจ ไปปักหลักคันที่ดิน เพื่อจะซื้อครับ ให้เจ้าของที่ตัดอ้อยส่งโรงงานให้เรียบร้อยซะก่อน ถึงจะเริ่มขบวนการวัดและตรวจสอบเขตที่ดิน

ขยายอีกกี่ไร่จ๊ะ

[หนุน'21]

สวัสดีครับพี่เหยง พี่ทราย พี่เริง และสมาชิกที่เข้ามมาติดตามข่าวคราวทุกท่าน
กิจการพี่เหยงขยายใหญ่โตขึ้นทุกวันๆ พวกเราก็ติดตามดูด้วยความสุข
ในความรู้ความสามารถของพี่เหยงครับ

 

[ทราย 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 07 มีนาคม 2556, 08:02:06
	สวัสดีครับพี่เหยง พี่ทราย พี่เริง และสมาชิกที่เข้ามมาติดตามข่าวคราวทุกท่าน กิจการพี่เหยงขยายใหญ่โตขึ้นทุกวันๆ พวกเราก็ติดตามดูด้วยความสุข ในความรู้ความสามารถของพี่เหยงครับ

หวั่นๆว่าเพื่อนจะวิกน้ำในอนาคตไหวมั๊ยเนี๊ยยยย ...

[เหยง 16]

อจ.ทราย, ครูเริง, หนุน, และแหลม

เหมือนเป็นไฟต์บังคับ ไม่ซื้อก็อดได้ครับ
ความเจริญมันรุกไปหาอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องเร่งการจัดหาพื้นที่ใกล้ตัวเก็บเอาไว้ก่อน
มิฉะนั้น ปัญหาการขยายตัวของชุมชนจะมาบังคับให้ชาวบ้านขายที่ดินออกไปเร็วและมากขึ้น
ห้างฯ ดังต่างๆ บุกเร็วมาก ปี 2554-2556 เปิดตัวไปแล้ว Big C สาขา 2, Home Pro, ล่าสุดคือ Tesco Lotus
ไม่รวมโชว์รูมรถยนต์ขยายทีเดียวหลายแห่งคือ Honda เพิ่มสาขา, Hundai เพิ่มสาขา, Nissan เพิ่มสาขา, Toyota เพิ่มสาขา รวมทั้งเชฟโรเร็ต ทุกยี่ห้อที่เอ่่ยมา ขยายสาขาทั้งสองฝั่งถนน
ตามมาด้วยรถยนต์บรรทุกของจีน Shaccmann, รถตักล้อยางขนาดใหญ่จากจีน, Komatsu จากญี่ปุ่น, Kubota จากญี่ปุ่น
ที่สำคัญ แม้แต่ Jonh Deer ก็กลับมาเปิดกิจการในเมืองไทยอีกครั้งและเลือกนครสวรรค์เป็นจุดกระจายสินค้า
ถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก และถนนสายเอเชีย (ชัยนาท-นครสวรรค์-กำแพงเพชร) เป็นสายที่ถูกเลือกครับ

ที่สำคัญ เป็นฝีมือของภรรยาและคุณลูกสาวครับ

[เริง2520]

ซื้อเก็บไว้ก็มีกำไรแล้ว โอกาสมาถึงแล้ว

[เหยง 16]

สวัสดี น้องเริง

เดี๋ยวมาให้คำตอบครับ ขอไปรายงานตัวทีแบงก์ก่อน

[เหยง 16]

หายไปค่อนวันเลย ??

พี่ชอบสะสมหนังสือ เป็นหนังสือเครื่องกระเบื้อง เครื่องกังไส ที่รฤกงานศพคุณหญิงล้อม โอสถานุเคราะห์
แฟนพี่ชอบอ่าน แต่อ่านประวัติคุณหญิงล้อม โอสถานุเคราะห์ ซึ่งเป็นมารดาคุณสุรัตน์ โอสถานุเคราะห์ แทน
ตระกูลนี้คือเจ้าของ โอสถสภา เต็ก เฮง หยู นั่นเอง
คุณหญิงล้อม ได้เงินจากการขายยา เก็บไว้ส่วนหนึ่ง แล้วนำไปซื้อเป็นที่ดินสะสมเอาไว้
รวมทั้งได้ที่ดินจากผู้มาขอซื้อยา เนื่องจากไม่มีเงินสดก็มี
สั่งสมที่ดินได้มากมายให้กับตระกูลและทายาท ซึ่งขณะนี้เป็นชั่วที่ 3 แล้ว

จุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของบรรดานักสะสมที่ดิน ที่พอมีเงินออม ที่สะสมที่ดินเอาไว้ให้ลูกหลาน
โดยโบราณเลือก "ที่ดินดำ-น้ำชุ่ม"เป็นเบื้องต้น เนื่องจากเพาะปลูกได้ผลผลิตดี
ต่อมาการเลือกที่ดินก็เปลี่ยนไป เป็นการเลือกที่ดินที่มีถนนผ่าน แต่เดิมขอเป็นถนนอะไรก็ได้+มีคลองมีหนองยิ่งดีใหญ่
โดยยังยึดหลักใช้ที่ดินเพื่อการเพาะปลูก อาสัยน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ป้องกันภัยแล้ว
หากมีถนน จะสามารถเข้า-ออกได้สะดวก
ถนนเริ่มมีการพัฒนา จากถนนดินเป็นถนนลูกรัง, ถนนลาดยาง, ถนนคอนกรีต การเลือกที่ดินก็พัฒนาขึ้นไปอีก
ต่อมาหน้าที่ดินติดถนนเริ่มสำคัญ นั่นคือความกว้างของหน้าที่ดินส่วนที่ติดกับถนน กว้างมาก-ราคาดี
กว้างนิดเดียว แต่ที่ยาวตั้งฉากกับถนน-ราคาไม่ดี และไม่เหมาะกับการพัฒนา ต้องซื้อที่ดินข้างเคียงมาเสริม
ซึ่งมาตรงกับการพัฒนาเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย คือ "หมู่บ้าน" และแหล่งพานิชยกรรมใหม่ หรือ "ตลาดห้องแถวใหม่"
และที่พัฒนาต่อมาคือ "การสร้างโรงงานอุตสาหกรรม" หรือ "นิคมอุตสาหกรรม"

ตัวอย่าง: โครงการสร้างโรงสีข้าวที่ร่วมโครงการรับจำนำกับรัฐบาล มีวงเงิน 300, 200 ล้านบาท
มีสเป๊คว่าหน้าที่ดินต้องติดถนนดำ (ถนนราดยาง เป็นอย่างต่ำ, ถนนลูกรังไม่เอาเลย)
หน้าที่ดินไม่น้อยกว่า 400 เมตรที่ติดถนน เนื้อที่ต้องมากกว่า 100 ไร่ขึ้นไป)
รวมทั้งต้องถมปรับให้ที่ดินให้สูงเสมอผิวถนน นี่เป็นที่มาของบรรดาโรงสีมากมาย ในโครงการฯ
และสร้างความเสียหายกับธนาคารหากไม่มีโครงการรับจำนำ ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ รวม 2 ปี
มีโรงสีล้มไปหลายโรง

แต่..ยังมีที่ดินอีกรูปแบบหนึ่งคือ ที่ดินซึ่งถนน ทางรถไฟฟ้า จะตัดผ่าน หรือราชการจะเวนคืนสร้างเขื่อน
ที่ดินประเภทนี้ลงทุนได้กำไรสูง ดังเช่น เขื่อนป่าสักฯ ที่มีผู้บริหารของรัฐ ได้กำไรจากการเวณคืน
เริ่มแรกขอให้ทราบแนวเวนคืนที่ชัดเจน เพื่อป้องกันความผิดพลาด (อาจถึงล้มละลายทีเดียว ถ้าซื้อผิดแปลง)
จากนั้นก็ออกไล่ซื้อที่ดินตามแนวเวณคืน ปลูกต้นไม้ทั้งพืชล้มลุก ไม้ยืนต้น กระต๊อบ-เล้าหมู ห้ามรื้อ คิดเป็นเงินได้หมด
ทุกอย่างมีค่าไปหมด (ต้นชะอม 1 กอ(ต้น)-ตีราคา 200 บาท-และใน 1 งานมีมากกว่า 200 กอ ??)
เมื่อถนนผ่าน ก็ได้ค่าเวนที่ดินคืนบวกค่าสิ่งปลูกสร้าง ค่าต้นไม้ทุกต้นที่มีอยู่, หากมีที่ดินเหลือคือกำไร!!!
ดังเช่นขณะนี้กำลังมีการเวนคือที่ดินเพื่อสร้างรถไฟฟ้า 5 สาย บวกกับทางด่วนบางปะอิน-โคราช, บางปะอิน-นครสวรรค์,
ทางด่วนสายบางใหญ่-นครปฐม-ไปกาญจนบุรี ในโครงการท่าเรือเมืองทวาย
ทราบมาว่า ผู้หญิงสูงศักดิ์ได้บุญจากการสร้างพระ กว้านซื้อที่ดินในโครงการต่างๆ เอาไว้ทุกพื้นที่
หากงานนี้ผ่านไปอย่างราบรื่น เธอจะกลับมาเล่นการเมืองแบบมีเงินถุง-เงินถังแน่นอนครับ