คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ

[เหยง 16]

เพืี่อให้อาการของตาไม่ระคายเคืองจากการนั่งหน้าจอคอมพ์นาน จึงต้องหากิจกรรมอื่นทำแทนครับ
ตั้งแต่บ่ายสี่โมง จึงพาครอบครัวไปร่วมงานของสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย
ซึ่งวันนี้เป็นการประชุมใหญ่ รวมทั้งมี Motor Show ซึ่งเป็นรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่เพียบ
เสียดายว่า เวลามีไม่พอ ทำให้ไม่มีโอกาสถ่ายภาพ Pritty มาให้ชมกันเลย...ปีหน้าจะขอแก้ตัวครับ ??

[เหยง 16]

มีแต่พูด แต่ยังไม่มีใครได้เงินช่วยเหลือ ??

“เผดิมชัย” เชื่้อน้ำท่วมลูกจ้างตกงานไม่ถึงล้านคน
17 ธันวาคม 2554 09:29 น.

 
       “เผดิมชัย” มั่นใจแรงงานกระทบน้ำท่วมตกงานไม่ถึงล้านคน สั่งหน่วยงานในกระทรวงแรงงาน ผนึกกำลังช่วยเหลือรักษาสภาพจ้างงาน หางานให้ทำ สั่ง กสร.รวบรวมปัญหาแรงงานน้ำท่วม หากผลกระทบแรงงานหนัก อาจให้ สปส.ทบทวนชงบอร์ดของบประกันสังคมช่วยแรงงานน้ำท่วมรายละ 3 พันบาท ด้านปลัดแรงงานเตรียมหารือบอร์ดประกันสังคม 27 ธ.ค.นี้
      
       วานนี้ (16 ธ.ค.) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “กระทรวงแรงงานห่วงใย ใส่ใจ ผู้ใช้แรงงาน” บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่า รัฐบาลพยายามที่จะให้มีการจ้างงานต่อ โดยนำมาตรการป้องกันและบรรเทาการเลิกจ้างด้วยการช่วยนายจ้างจ่ายค่าจ้าง 2,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน ซึ่งมีเงื่อนไขนายจ้างต้องทำข้อตกลงกับกระทรวงแรงงานว่า จะต้องไม่เลิกจ้าง และต้องจ่ายค่าจ้าง ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 ของค่าจ้างเดิม รวมถึงโครงการเพื่อนช่วยเพื่อนให้แรงงานที่ได้รับกระทบน้ำท่วมไปทำงานในจังหวัดอื่นที่ไม่ประสบน้ำท่วม ซึ่งมีตำแหน่งงานรองรับกว่า 7.7 หมื่นอัตรา
      
       “จ.ปทุมธานี ถือว่าเป็นจังหวัดตัวอย่างที่นายจ้างให้ความสำคัญ และร่วมมือกับกระทรวงแรงงานในการบรรเทาการเลิกจ้างกว่าร้อยละ 90 ดังนั้น ผมมั่นใจว่าจะไม่มีผู้ใช้แรงงานตกงานเป็นล้านตามที่หลายฝ่ายกังวล เพราะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกฝ่ายทั้งหน่วยงานของกระทรวงแรงงาน นายจ้างและลูกจ้าง หากแรงงานประสบปัญหาเช่น ถูกเลิกจ้างไม่ได้รับเงินชดเชย ตกงาน ก็ให้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน หรือโทร.สายด่วน 1546, 1506 เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือ” รมว.รง.กล่าว
      
       นายเผดิมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีแรงงานที่ประสบภัยน้ำท่วมบางส่วนตกสำรวจ และติดต่อนายจ้างไม่ได้ หยุดงานและไม่ได้รับค่าจ้าง ก็ได้กำชับให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) ดูแลกลุ่มนี้ให้เข้มข้นขึ้น เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย อีกทั้งยังได้ให้ กสร. รวบรวมปัญหาต่างๆ ของแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
      
       “หากพบว่ามีแรงงานได้รับผลกระทบในลักษณะดังกล่าวจำนวนมากก็จะมอบให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ไปพิจารณาหามาตรการช่วยเหลือ หรืออาจนำแนวคิดเดิมที่จะมีการนำงบบริหารจัดการของสปส.มาจัดสรรเป็นเงินช่วยเหลือให้กับแรงงานโดยตรงรายละ 3,000 บาท อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการประกันสังคมก่อน” รมว.รง.กล่าว
      
       นายดำรงค์ เปรมสวัสดิ์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า โดยภาพรวมใน จ.ปทุมธานี มีแรงงานได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมกว่า 4 แสนคน ในสถานประกอบการกว่า 1 หมื่นแห่ง ซึ่งในจำนวนนี้เป็นแรงงานรับเหมาช่วง (ซัปคอนแทรก)กว่า 3 หมื่นคน และกลับเข้าทำงานแล้วกว่า 3 แสนคน แรงงานถูกเลิกจ้าง 6,407 คน ในสถานประกอบการ 14 แห่ง มีการจ่ายเงินชดเชยรวมกว่า 221 ล้านบาท
      
       “ได้มีแรงงานที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมมาขอความช่วยเหลือในกรณีต่างๆ เช่น ติดต่อนายจ้างไม่ได้ หยุดงาน และไม่ได้รับค่าจ้าง ซึ่งได้ช่วยเจรจากับนายจ้างเพื่อให้แรงงานเหล่านี้ได้รับค่าจ้างและได้รับเงินชดเชยตามกฎหมายกรณีถูกเลิกจ้าง ส่วนการป้องกันการเลิกจ้างนั้นได้พยายามเชิญนายจ้างให้เข้าร่วมโครงการป้องกันและบรรเทาการเลิกจ้างของกระทรวงแรงงาน” นายดำรงค์ กล่าว
      
       นางสมปอง ศรประยูร วัย 36 ปี พนักงานบริษัท วู๊ดล๊อค จำกัด ผลิตไม้สำเร็จรูป อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า โรงงานถูกน้ำท่วมจนต้องหยุดงาน และนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างในช่วงเดือน ต.ค.และ พ.ย.นี้ พร้อมทั้งไม่มีความชัดเจนเรื่องการจ้างงาน จึงได้ไปยื่นคำร้องที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.ปทุมธานี เพราะไม่แน่ใจว่านายจ้างจะเลิกจ้างหรือไม่ เนื่องจากช่วงหยุดงานต้องไปกู้เงินนอกระบบกว่า 1 หมื่นบาท เสียดอกเบี้ยร้อยละ 25 มาใช้จ่ายเพื่อดูแลครอบครัว จึงอยากให้กระทรวงแรงงาน หรือรัฐบาล จัดหาเงินมาช่วยเหลือบ้าง ซึ่งอาจจะนำเงินจากกองทุนประกันสังคมมาช่วยเหลือแรงงาน ส่วนนายจ้างหากจะเลิกจ้าง ก็อยากได้ค่าจ้างค้างจ่ายและสิทธิอื่นๆ ตามกฎหมาย
      
       น.ส.ปณยา เพิ่มขุนทด วัย 45 ปี พนักงานฝ่ายผลิตบริษัท คาซิโอ้ประเทศไทย จำกัด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ตนกับเพื่อนพนักงานหลายร้อยคนได้ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากกระทรวงแรงงาน เนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทประกาศเลิกจ้าง เนื่องจากย้ายกิจการไปเปิดโรงงานแห่งใหม่ที่ จ.นครราชสีมา โดยการเลิกจ้างมีผลในวันที่ 31 มกราคม 2555 ส่งผลให้พนักงานทั้งหมด 1,333 คนตกงาน และนายจ้างระบุว่าจะจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย
      
       “บรรดาพนักงานมองว่า บริษัทไม่เป็นธรรม จึงมายื่นข้อเรียกร้องต่อผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เพื่อให้นายจ้างจ่ายค่าบอกเลิกจ้างล่วงหน้าให้แก่พนักงาน รวมถึงจ่ายค่าชดเชยเพิ่มขึ้น เนื่องจากพนักงานมีอายุงานตั้งแต่ 6-25 ปี อีกทั้งขอให้กระทรวงแรงงานหางานรองรับพนักงานที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป” น.ส.ปณยา กล่าว
      
       นายสมาน ถมยา ผู้จัดการฝ่ายแรงงานสัมพันธ์ บริษัท กู๊ดเยียร์ ( ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ใน จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทมารับเกียรติบัตรจาก รมว.แรงงาน กล่าวว่า บริษัทประสบภัยน้ำท่วม แต่ก็ได้เข้าร่วมโครงการป้องกันและบรรเทาการเลิกจ้างของกระทรวงแรงงาน โดยบริษัทจ่ายค่าจ้างให้แก่พนักงานเต็ม 100% และหากมาช่วยฟื้นฟูบริษัทจะได้รับค่าจ้าง 150% ซึ่งได้จ่ายค่าจ้างตั้งแต่เดือน ต.ค.2554 ไปจนถึงเดือน มี.ค.2555 เนื่องจากต้องการรักษาสภาพการจ้างงานไว้ ซึ่งในเดือน มี.ค.ปีหน้าคาดว่าจะเปิดโรงงานผลิตสินค้าได้
      
       ด้านนพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า ตนจะนำแนวคิดในเรื่องการนำงบบริหารจัดการของสปส.มาจัดสรรเป็นเงินช่วยเหลือให้แก่แรงงานโดยตรงรายละ 3,000 บาท ซึ่งเป็นการช่วยเหลือแบบเงินก้อนเดียว เข้าหารือในประชุมบอร์ด สปส.ในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบอร์ด สปส.ว่า จะให้ความเห็นชอบหรือไม่
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงาน รมว.แรงงาน ได้มอบเกียรติบัตรให้แก่สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการป้องกันและบรรเทาการเลิกจ้าง 27 แห่ง ทั้งนี้ ในส่วนของจ.ปทุมธานีมีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการ 266 แห่ง ลูกจ้าง 110,118 คน นอกจากนี้ ยังมีการจัดหางานในตำแหน่งงานว่างรองรับกว่า 3,986 อัตรา ใน 57 ตำแหน่งงาน ของ 50 บริษัท รวมทั้งการสาธิตการประกอบอาชีพอิสระ 10 อาชีพ ขณะเดียวกัน ใน จ.ปทุมธานี มีบริษัทที่ได้รับกระทบจากน้ำท่วมและส่งคนงานไปทำงานกับบริษัทแม่ในต่างประเทศแล้ว 1,766 คน และเตรียมที่จะส่งเพิ่มอีก 3,321 คน ใน 23 บริษัท ส่วนใหญ่ไปประเทศญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย และ เวียดนาม

 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000160219
 

[เหยง 16]

อาชีพทำถุงก๊อปแบรนด์เนมยี่ห้องดังขาย มีแววรุ่งและทำเงินได้

ขึ้นไปอีกระดับ! เทรนด์กำลังฮิตถือถุึง(ปลอม) ร้านแบรนด์เนม
14 ธันวาคม 2554 16:32 น.

 
สาวคนหนึ่งกำลังถือถุงสินค้าแบรนด์ Chanel กับแบรนด์หรูอื่นๆ จนเต็มมือขณะเดินในห้าง (ภาพไชน่าเดลี่)
 

        เอเยนซี - รสนิยมการถือถุงกระดาษของแบรนด์สินค้าหรู กำลังฮิต โดยสาวจีนเริ่มนิยมหาซื้อถุงกระดาษแบรนด์เนม ที่ปลอมขายในอินเตอร์เน็ต ไว้ถือเดินโฉบเฉี่ยวในห้างสรรพสินค้า ซึ่งก็ดูดีและประหยัดเงินกว่าการซื้อกระเป๋า
       
       รายงานข่าวกล่าวว่า ความนิยมถือถุงสินค้าแบรนด์ดังนี้ เริ่มจากมีคนนำถุงกระดาษจริงมาโพสต์ขายออนไลน์ จากนั้นกลายเป็นธุรกิจที่ทำรายได้ดี จนมีผู้คิดจ้างผลิตถุงกระดาษปลอมขายออนไลน์ มากกว่า 80 ราย โดยถุงที่นิยมมากที่สุดคือถุงกระดาษของ Gucci และสำหรับสนนราคาของถุงกระดาษเหล่านี้ ตกอยู่ที่ระหว่าง ใบละ 5 - 40 หยวน เลยทีเดียว โดยราคาที่แพงนั้นเพราะใช้วัสดุเลียนแบบได้เนียนจนดูไม่ออก
       
       ว่ากันว่า ในแต่ละเดือนนั้น สำหรับร้านออนไลน์ร้านหนึ่งๆ สามารถขายถุงกระดาษปลอมของ Louis Vuitton ราคาใบละ 3 หยวน ได้มากกว่า 600 ใบ คนขายคนหนึ่งกล่าวว่า เขามีธุรกิจทำกล่องกระดาษ และการปลอมถุงสินค้าหรู เป็นเพียงงานเสริม เพื่อขายให้กับลูกค้าและก็ไม่ได้กำไรอะไรมากมาย
       
       สำหรับเหตุผลของความนิยมถือถุงกระดาษแบรนด์สินค้าหรูนี้ หยัง เสี่ยวย่า พนักงานออฟฟิศในเซี่ยงไฮ้ ที่มีถุงปลอมโลโก้ของ Gucci, Dior และ Louis Vuitton ยอมรับว่าไม่น่าจะใช่รอวดร่ำอวดรวย แต่ว่ามีความรู้สึกดีส่วนตัวกับสินค้า และการถือถุงกระดาษแบบนี้ เป็นเหมือนเครื่องเสริมราศีอีกอย่างเท่านั้น และคุณภาพของถุงก็ดี เมื่อเทียบกับราคา ซึ่งไม่ต่างจากถุงหิ้วของทั่วไปนัก"
       
       หมัว ไต้ชิง นักวิเคราะห์อาวุโส จากศูนย์วิจัยอีคอมเมิร์ซ จีน กล่าวว่า การขายถุงกระดาษปลอมก็เป็นความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญา เช่นเดียวกับการขายตัวสินค้าปลอม ซึ่งทางการได้พยายามปราบปราม แต่เนื่องจากเป็นการซื้อขายออนไลน์ ซึ่งยังมีความยากในการติดตามตัวผู้ซื้อผู้ขายอยู่

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000158404
 

[เหยง 16]

ภาคใต้ต้องระวัง ช่วงวันที่ 20-21 ธันวาคม มีไต้ฝุ่นเข้า 1 ลูกครับ

ประกาศเตือนภัย
"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนักในภาคใต้ตอนล่าง กับคลื่นลมแรงในอ่าวไทยตอนล่าง "
ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 18 ธันวาคม 2554
 
     บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง โดยเฉพาะทางภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลงได้อีก 1-3 องศา จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซีย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีฝนฟ้าคะนองกระจายและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าฝั่ง สำหรับชาวเรือขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 2-3 วันนี้
อนึ่ง พายุโซนร้อน “วาชิ” บริเวณตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์จะเคลื่อนตัวผ่านทะเลจีนใต้ตอนล่าง คาดว่าพายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำก่อนที่จะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 21 ธ.ค. 54 นี้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 20-22 ธ.ค. 54 และคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่าง มีกำลังแรงขึ้นด้วย โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

ประกาศ ณ วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ออกประกาศ เวลา 16.30 น.

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
 
 

[เหยง 16]

ตั้งแต่ก่อนน้ำจะท่วม จนน้ำลดลงแล้ว ยังไม่มีวี่แววการจัดการน้ำ หรือต้องรอให้น้ำท่วมใหม่ในปี 2555 ซะก่อน

วงเสวนาเรื่องน้ำแนะเพิ่มแก้มลิง-ตั้งคณะบริหารจัดการ
18 ธันวาคม 2554 17:27 น.

 
        เวทีเสวนาเรื่องการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ และการฟื้นฟูหลังอุทกภัย ที่หอรัชมงคล สวนหลวง ร.9 กรุงเทพมหานคร
        นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า น้ำเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อทุกชีวิต และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเห็นประโยชน์ของน้ำ พัฒนาโครงการต่างๆ กว่า 4,000 โครงการ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำกินน้ำใช้ที่พอเพียง ขณะที่ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น เป็นบทเรียนในการบริหารจัดการน้ำที่ต่างคนต่างจัดการ
        สิ่งที่ต้องทำคือ เร่งฟื้นฟูและบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และควรหาพื้นที่จัดการน้ำให้มีความสมดุลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน รวมถึงหาพื้นที่ทำแก้มลิงรับน้ำเพิ่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
        นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน เสนอให้รัฐบาลอย่าลังเลในการตัดสินใจตั้งคณะทำงานบริหารจัดการน้ำ ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ และสำรวจศึกษาเรื่องน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อวางแผนอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเสนอแนวทาง ขั้นตอนฟื้นฟูหลังเกิดอุทกภัย ให้ประชาชนรู้จักสู้กับภัยที่เกิดขึ้น และปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมหากเกิดน้ำท่วมอีกครั้ง

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000160870
 

[เหยง 16]

วันนี้พอมีเวลาว่าง ได้ขับรถเลียบดูพื้นที่ซึ่งอยู่หลังโกดังไปทางวัดท่าดินแดง-วัดบึงน้ำใส
เพื่อดูร่องรอยน้ำท่วมที่ผ่านมา

ถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก ซึ่งทางกรมทางหลวงส่งรถไปเกรดเพื่อไม่ให้หลุมบ่อเป็นอุปสรรค์ในการเดินรถ
แต่ฝุ่นก็ยังคละคลุ้งเช่นเดิม

[เหยง 16]

ขับรถลงทางสายรอง พบว่าที่ดินหลายแปลงเริ่มมีการไถเพื่อเตรียมปลูกพืชกันแล้ว

[เหยง 16]

มีทั้งปลูกข้าว ผัก ข้าวโพด

[เหยง 16]

แต่หลายแปลงก็ยังปล่อยให้น้ำท่วมขังอยู่ โดยมีคันนากั้นน้ำเอาไว้

[เหยง 16]

ดูที่เสาไฟฟ้า พบคราบน้ำอยู่ครึ่งเสา แสดงว่าน้ำท่วมสูงถึง 3 เมตรโดยประมาณ

[เหยง 16]

เมื่อดูจากบ้านชั้นเดียว ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง น้ำท่วมสูงกว่าขอบหน้าต่างด้านบน
แสดงว่า ช่วงน้ำท่วม ไม่มีใครสามารถอาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียวได้เลย

[เหยง 16]

นี่ก็เช่นกัน

[เหยง 16]

นี่ก็เป็นอีกชุดหนึ่ง แสดงว่า บ้านชั้นเดียวถูกน้ำท่วมสูงจนไม่น่าอาศัยอยู่ได้

[เหยง 16]

มองจากรั้ววัดบ้านบึงน้ำใส ระดับน้ำท่วมสูงมาก ทราบว่า ขนาดศาลาการเปรียญนั้น น้ำท่วมพื้นศาลาสูงกว่า 1 ศอก จนพระเณร ไม่สามารถพักอาศัยเช่นกัน

[เหยง 16]

เท่าที่พบ ต้นมะม่วม, ต้นขนุนส่วนใหญ่ ยืนจมน้ำตายหมดครับ ส่วนกอไผ่มักรอดอยู่ได้

[เหยง 16]

บ้านหลังนี้ เดิมปลูกเป็นบ้านขั้นเดียว แต่สามารถก่อเพิ่มเป็นสองชั้นและสามารถพักอาศัยอยู่ในช่วงน้ำท่วมได้
นับว่าสามรารถแก้ไขสถานการณ์ได้เก่งมาก
สังเกตุ น้ำท่วมมิดเกือบถึงขอบหน้าต่างด้านบนของชั้นล่างทีเดียว

[เหยง 16]

ดูจากคราบบนรั้งบ้านหลังนี้ อีกนิดเดียวก็ล้นข้ามเข้าไปแล้ว
ดีที่ว่า กำแพงรั้วมีความแข็งแรง ไม่อย่างนั้น รั้วล้มไปแล้ว !!

[เหยง 16]

จะได้เวลาเข้านอนแล้วครับ

ชมสาวจัดที่นอนให้ครับ

http://www.tcmag.com/magazine/girl_shows_how_to_make_a_bed/

[เหยง 16]

ราตรีสวัสดิ์ครับ

พรุ่งนี้จะมีการมอบทุนการศึกษา พระเณร ณ วัดนครสวรรค์
ขออนุญาตพักผ่อน เพื่อเช้าพรุ่งนี้จะต้องไปดูแลที่วัดครับ

[เหยง 16]

มาสวัสดีวันนี้ เอาตอนช่วง 22.05 น.ครับ

[เหยง 16]

เมื่อเช้าต้องไปทำพิธีมอบทุนของมูลนิธิหลวงพ่อบุญนำ ชิตมาโร วัดนครสวรรค์ ประจำปี 2554

โดยมูลนิธิ มอบทุนให้พระ-เณร ซึ่งเรียนเปรียญธรรม นักธรรม จาก 2 วันคือวัดนครสวรรค์ 22 รูป
                                            วัดเกรียงไกรเหนือ 4 รูป
                มอบทุนให้นักเรียน โรงเรียนนครสวรรค์ปัญญานุฏูล 12 ทุน

                มอบทุนให้โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เพื่อสงเคราะห์พระเณรอาพาธ 1 ทุน  

[เหยง 16]

มอบทุนให้โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เพื่อนำไปสงเคราะห์พระเณรอาพาธที่โรงพยาบาล

[เหยง 16]

ทุนสำหรับพระ เณร ที่ศึกษา ณ วัดนครสวรรค์ และวัดเกรียงไกรเหนือ

[เหยง 16]

ทุนสำหรับนักเรียน โรงเรียนนครสวรรค์ปัญญานุกูล



นักเรียนจำนวนหนึ่ง ไม่ได้ออกมารับทุน จึงมอบทุนส่วนที่เหลือให้อาจารย์รับไปมอบแทน

[เหยง 16]

ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก