20 กันยายน 2567, 05:27:14
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 184 185 [186] 187 188 ... 472   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ  (อ่าน 2516798 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 39 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4625 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2554, 17:25:27 »

พิชิตสารพัดเชื้อโรคหลังน้ำลด
น้ำท่วม พัดพาเชื้อโรคหลากหลายชนิดที่ปกติไม่ได้อยู่ในบ้าน หรือทำให้เชื้อโรคบางชนิดที่มีอยู่แล้วเจริญเติบโตมากขึ้น

 

สารเคมีที่เคยนอนนิ่งอยู่ในซอกตู้ ใต้พื้นก็ลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ และเป็นคราบติดกระจายเป็นบริเวณกว้างหลังน้ำลด สัตว์มีพิษชนิดต่าง ๆ ก็ย้ายที่อาศัยจากนอกบ้านมาอยู่ตามซอกตู้ ใต้พื้น ใต้บันไดของบ้านของเราแทน

เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ที่มาจากเชื้อโรค, สารเคมี และสัตว์มีพิษ เมื่อน้ำลด เราคงต้องยอมเสียเวลาทำความสะอาด สำรวจตามจุดต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนในบ้านกลับมามีบ้านที่อบอุ่น, ปลอดภัยอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านที่มีคุณตา คุณยาย และเด็กเล็กอยู่ในบ้านควรยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ

บ้านสะอาดและแห้ง ยังไม่พอ

นพ.อิทธิชัย วัชรีคุปต์ แพทย์สาขาอายุรกรรมทั่วไป รพ.กล้วยน้ำไท (แผนกผู้สูงอายุ) กล่าวว่า œผู้สูงอายุและเด็กเล็กต้องเผชิญความเครียดจากสภาพน้ำท่วมขังหรือย้ายบ้านอยู่แล้ว เมื่อต้องกลับมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเชื้อโรค สารพิษ และสัตว์มีพิษจะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอลง และพร้อมจะเกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย

ความเครียด ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล และ DHEA ที่หลั่งจากต่อมอาดรีนัลเสียสมดุลและมีส่วนทำให้การทำงานของภูมิคุ้มกันลดต่ำลง เสี่ยงทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ง่ายกว่าปกติ

คุณณัฐนันท์ ปัญญาโกศา นักสุขศึกษา กล่าวว่า สิ่งแรกที่เราสามารถทำได้อย่างง่ายๆ คือ ก่อนย้ายกลับเข้าไปในบ้าน เราควรสำรวจสิ่งต่างๆ ให้ทั่ว ก่อนจะเดินเข้าไปในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ควรสับคัตเอาท์ในบ้านลงก่อนที่จะเดินเข้าไปในบริเวณบ้านที่มีน้ำท่วมขังเพื่อป้องกันไฟดูด ควรเปิดประตู หน้าต่างให้รับแสงแดดจัดๆ หลายๆ วันเพื่อฆ่าเชื้อ และให้ลมโกรก เพื่อระบายอากาศและความอับชื้น รวมทั้งเก็บกวาดกิ่งไม้ ทำความสะอาดตะกอน และคราบต่างๆ ที่มากับน้ำ โดยไล่ทำความสะอาดส่วนอื่นๆ อย่างละเอียด และควรนำผ้าที่อยู่ในที่อับมาซัก, ตากแดดจัดเพื่อฆ่าเชื้อ รวมทั้งต้องดูแลร่างกายทุกคนในบ้านให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่สุก และน้ำดื่มที่สะอาด หลังน้ำลดอาจเสี่ยงต่อการมีเชื้อโรค, สารพิษ และสัตว์มีพิษ

เชื้อโรค

หลังน้ำลด ปัญหาของเชื้อรามักมาเป็นอันดับแรก โดยเราสามารถได้รับเชื้อจากการสัมผัส เชื้อราที่อยู่บนผนังที่อาจมีคราบเปียกชื้น, ใต้ตู้ที่อับชื้น, ผ้าม่าน, ในท่อแอร์, ด้านหลังวอลล์เปเปอร์, ในฉนวนกันความร้อนชนิดเส้นใย ใต้พื้นพรมที่ด้านบนอาจจะดูแห้ง, เสื้อผ้า และชุดชั้นในที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าที่อับ

เชื้อรามีหลายชนิด แต่ละชนิดทำให้เกิดโรคต่างกันไป ตัวที่ควรต้องระวังคือเชื้อราเดอร์มาโตไฟต์ซึ่งทำให้เกิดกลาก, เชื้อ Pityrosporum Ocbiculare และเชื้อMalassezia Furfur ก่อให้เกิดโรคเกลื้อน, เชื้อ Tinea Nigra ทำให้เกิดโรคด่างดำ และเชื้อCandida ที่เป็นสาเหตุของโรคเชื้อราในช่องคลอด

วิธีกำจัดเชื้อรา

1. ทิ้ง ถ้าเป็นของไม่มีค่าควรนำไปทิ้ง

2. ทำให้แห้งก่อนฆ่าเชื้อพรม ผนัง วอลล์เปเปอร์ เสื่อน้ำมัน พื้นไม้ กระเบื้องยาง สำรวจดูข้างใต้ว่าเปียกหรือไม่ ถ้าเปียกให้ทำให้แห้ง อาจใช้พัดลมเป่า หรือใช้เครื่องดูดน้ำออก เปิดห้องให้อากาศถ่ายเท และเพื่อลดความชื้นของห้อง

3. เปลี่ยนใหม่ เช่น ฝ้า, ฉนวนหุ้มท่อแอร์

4. ถอดซัก และตากแดดจัดๆ จนกว่าจะแห้งสนิท เช่น ผ้าม่าน, ผ้าปูที่นอน, ผ้าห่ม ฯลฯ ถอดออกไปซักและตากแดดจัดๆ ให้แห้งสนิท

5. เปิดขึ้นไปดูและทำให้แห้งก่อนฆ่าเชื้อ เช่น เส้นใยลดความร้อนที่อยู่ในฝ้าควรเจาะขึ้นไปดู ถ้าพบเชื้อราให้กำจัดส่วนที่มีเชื้อราทิ้ง ส่วนที่ไม่พบเชื้อราให้ทำให้แห้งแล้วใส่น้ำยาฆ่าเชื้อในบริเวณใกล้เคียง

เชื้อแบคทีเรีย

เชื้อเลปโตสไปร่าที่ก่อให้เกิดโรคฉี่หนู โรคนี้มาได้จากทั้งหนูและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ มักจะพบในบริเวณที่น้ำท่วมขัง หรือบริเวณที่ชื้นแฉะ เกิดจากการที่สัตว์ เช่น หนู, สุนัข, แมว, วัว ฯลฯ ปัสสาวะลงในน้ำหรือดิน สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางผิวหนังโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีบาดแผลเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น และยังเข้าสู่ร่างกายได้ทาง หู จมูก และปาก เชื้อจะสามารถอยู่ในธรรมชาติได้นานถึง30-45 วัน

วิธีทำความสะอาด กำจัดบริเวณที่มีน้ำท่วมขังหรือชื้นแฉะโดยการทำให้แห้ง แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด เชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินอาหาร เช่น อหิวาตกโรค, โรคบิด, โรคไทฟอยด์ สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการกำจัดบริเวณขยะสด และบริเวณที่แมลงวันชอบ ทำความสะอาดพื้นผิวบริเวณที่คาดว่า อาจจะมีอุจจาระปนเปื้อน เชื้อปรสิต เช่น พยาธิตัวจี๊ด พยาธิปากขอ พยาธิไส้เดือน ยุง ฯลฯ วิธีทำความสะอาด ทำความสะอาดคราบดิน ทรายต่างๆ ที่อาจมีไข่พยาธิติดมา และถ้ามีเด็กเล็กควรให้ล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร และระวังไม่ให้เด็กเอามือเข้าปากหลังจากคลานบนพื้น รวมทั้งทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

สารพิษ

สำหรับสารพิษในบ้านที่อาจยังหลงเหลืออยู่บนพื้นบ้านหลังน้ำท่วม สามารถทำความสะอาดได้โดย

1. ยาฆ่าหนูชนิดก้อน ถ้าซึมเข้าผิวหนังอาจส่งผลต่อระบบประสาททำให้เกิดอาการงุนงง อาเจียน ควรรีบพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการ

2. ยาฆ่าปลวก ถ้าซึมเข้าผิวหนังอาจทำให้เป็นผื่นแดง ควรพบแพทย์เมื่อมีอาการ

วิธีทำความสะอาด

ควรใช้น้ำเปล่าล้างให้สะอาด ถ้าใช้น้ำยาสารเคมีในน้ำยาอาจทำปฏิกิริยากับสารที่ตกค้างได้

สัตว์มีพิษ

1. งู มีงูหลายชนิดที่อาจเข้ามาอาศัยในบ้านเราได้เนื่องจากงูชอบที่แห้ง เช่น งูเหลือม งูเห่า งูจงอาง งูเขียวหางไหม้ งูแมวเซา งูกะปะ ฯลฯ โดยปกติแล้วเมื่อเราย้ายเข้ากลับเข้ามาในบ้าน ถ้าไม่มีอาหาร และมีคนอยู่ในบ้านเกิดเสียง งูมักจะย้ายออกไปเองเพราะงูชอบอยู่ในที่เงียบ วิธีกำจัดคือ หลีกเลี่ยงการมีพื้นที่รกไม่ได้ใช้งานในบ้าน และไม่ให้มีหนูในบ้าน เพราะหนูเป็นอาหารของงู

2. ตะขาบ มีวิธีกำจัดโดยกำจัดบริเวณที่รกและแดดส่องไม่ถึง

3. ยุงมีวิธีกำจัดได้โดย กำจัดแหล่งน้ำที่นิ่งขังอยู่ในบ้าน

4. แมงป่อง สามารถกำจัดได้ด้วยวิธี กำจัดเศษใบไม้ใบหญ้าที่กองสุมอยู่รอบบ้านออก เนื่องจากเป็นที่อยู่อาศัยของแมงป่อง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้ำท่วมจะทิ้งความเสียหายไว้มากมาย แต่ทุกคนทุกครอบครัวก็ไม่ควรท้อแท้หรือสิ้นหวังไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ควรคิดในแง่บวกและให้กำลังใจกันโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ท่านอาจยังรู้สึกสูญเสียที่เห็นบ้านที่อยู่มานานต้องเสียหาย ลูกหลานและคนใกล้ชิดควรช่วยกันดูแลและวางแผนช่วยกันทำความสะอาด กำจัดสัตว์พิษและสิ่งสกปรกอย่างจริงจัง เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเหมือนเดิม

ลิขสิทธิ์บทความของ e-magazine.info

ติดตามบทความ สุขภาพ หรืออ่าน แมกกาซีน

ที่มาข้อมูล : www.e-magazine.info

http://lifestyle.th.msn.com/health/tips/article.aspx?cp-documentid=5599093
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4626 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2554, 17:32:52 »

"มาร์ค" ติง รบ.อย่ารีบส่งสัญญาณรอดแล้ว - ปิด ศปภ.เพราะหลายพื้นที่น้ำยังขัง
วันที่ 03 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 16:32:33 น.
   
 
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยว่า ขณะนี้ชัดเจนว่ามีประชาชนจำนวนมากขอให้ ปชป.ช่วยติดตามมาตรการเยียวยาของรัฐบาล เพราะยังมีความสับสนมากเรื่องของหลักเกณฑ์ ระยะเวลาการยื่นขอเงินชดเชยเยียวยา ทั้งนี้ ปชป.ได้มีการหารือและอยากนำเสนอว่า ยังเป็นห่วงสถานการณ์ที่ยังมีน้ำค้างอยู่ทั้งบริเวณทางเหนือของ กทม. ปริมณฑล ดูการบริหารจัดการหรือการเข้าไปดูแลของ ศปภ.แล้วถือว่ายังน้อยเกินไป วันนี้เวลาเราฟังรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีพูด ก็พยายามพูดเหมือนกับว่าปัญหาจบลงแล้วหรือใกล้จบแล้ว หรือแม้กระทั่งการพูดว่า ศปภ.กำลังจะปิดตัวลง และไม่สบายใจที่เห็นความขัดแย้งเกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ติดกัน เพียงแต่มีประตูระบายน้ำกั้นอยู่ แทนที่รัฐบาลจะบริหารให้เกิดความร่วมแรงร่วมใจ ความสามัคคีกัน กลับปล่อยให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งที่ความจริงแล้วคน กทม.และคนปริมณฑลมีน้ำใจให้กันและกัน คอยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต่อไปหลายหมู่บ้านในปริมณฑลหรือทางเหนือของ กทม.จะต้องมีการสูบน้ำออก เพื่อกู้บ้าน และต้องการกระสอบทรายเพื่อนำมาใช้ในการนี้ อยากให้ กทม.นำกระสอบทรายที่นำมาทำคันกั้นน้ำไปให้หมู่บ้านต่างๆ จะสามารถใช้ทรัพยากรให้เป็นประโยชน์ได้ และยังเป็นการแสดงออกว่า ประชาชนมีน้ำใจซึ่งกันและกัน รวมทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำในส่วนที่เหลือทำได้อย่างสะดวกราบรื่นมากยิ่งขึ้น

 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1322904803&grpid=00&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4627 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2554, 17:35:22 »

ขยะตกค้างวันละ 1.2 หมื่นตัน "ผู้ว่าฯกทม." บอกปีใหม่จะไม่ไปฉลองที่ไหนหากดูดน้ำและเก็บขยะไม่หมด
วันที่ 03 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 17:00:25 น.
 
 
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 3 ธันวาคม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เดินทางไปร่วมเก็บขยะทำความสะอาดถนนในพื้นที่ดอนเมือง หลักสี่ และบริเวณหมู่บ้านทรัพย์เจริญ ซอยวิภาวดีรังสิต 25 โดยได้เข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่เทศกิจ อาสาสมัครช่วย กทม.จาก 3 จังหวัด คือ ระยอง หนองบัวลำพู และแม่ฮ่องสอน ขนขยะและเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม และไม่สามารถซ่อมแซมใช้การได้อีกต่อไป ขึ้นรถขยะของ กทม.ไปเผาทิ้งทำลายต่อไป

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ให้สัมภาษณ์ว่า น่าหนักใจว่าวันนี้ กทม.ยังมีขยะ ซึ่งเป็นขยะที่มาจากน้ำท่วมกับขยะที่เกิดขึ้นในช่วงน้ำลดในพื้นที่ต่างๆ รวมแล้ววันละ 12,000 ตัน แม้ว่าเวลานี้ที่ฝังกลบขยะของ กทม.ทั้ง 3 แห่ง คือที่หนองแขม สายไหม และอ่อนนุช จะทำงานได้เต็มที่ 100% แล้ว แต่การรวบรวมจัดเก็บยังทำได้แค่ 80-90% เท่านั้น คาดว่าหลังจากน้ำลดจนหมด จะสามารถดำเนินการทุกอย่างได้เต็มที่ การจัดการนอกจากฝังกลบแล้ว ก็จะย่อยส่วนที่ย่อยได้เอาไปทำปุ๋ยหมักด้วย

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมขังใน กทม.เวลานี้นั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า หลายพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ และน้ำเริ่มเน่าเสียมากแล้วด้วย โดยเฉพาะเขตดอนเมือง แม้ว่าถนนสายหลักๆ น้ำจะแห้งหมดแล้ว แต่ในหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่งยังมีน้ำอยู่ อย่างไรก็ตาม จากการเร่งระบายและสูบน้ำออกของ กทม.นั้นสามารถระบายน้ำออกได้เร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้มาก คาดว่าอีกไม่นานทุกอย่างจะดีขึ้นแน่นอน

ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า สำหรับการเปิดประตูระบายน้ำที่คลองพระยาสุเรนทร์เพิ่มขึ้นอีก 10 เซนติเมตร เพื่อระบายน้ำจาก จ.ปทุมธานี และคลองหกวาสายล่าง ลงอุโมงค์ยักษ์ เพื่อออกแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ตนขอเวลาอีก 24 ชั่วโมง เพื่อดูรายละเอียดและดูผลที่อาจจะเกิดขึ้นก่อน ถ้าไม่มีผลเสียกับพื้นที่ใดๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

 

เมื่อถามว่า เทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ กทม.จะได้ฉลองปีใหม่กันหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ใจของตนเวลานี้ ไม่ได้คิดถึงงานฉลองที่ไหนใดๆ ทั้งสิ้น และไม่อยากไปไหนเลย สิ่งที่อยากจะทำให้เสร็จเร็วที่สุดคือ ระบายน้ำในเขต กทม.ที่ยังมีน้ำท่วมขัง และเก็บขยะที่ยังตกค้างให้หมดก่อนถึงจะเริ่มคิดถึงเรื่องอื่นๆ ได้

 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1322906470&grpid=03&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4628 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2554, 17:38:16 »

"ปลัด สธ." รับสนองพระราชดำรัส "สมเด็จพระเทพฯ" ห่วงเชื้อราหลังน้ำลด
วันที่ 03 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 14:26:12 น.
 
 
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถึงกรณีที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ห่วงปัญหาเชื้อราในบ้านเรือนประชาชนหลังน้ำท่วมว่า พระองค์ท่านพระราชดำรัสในเรื่องนี้ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข และตนกำลังจะสนองพระราชดำรัส ซึ่งเชื้อราที่เราพบเป็นเชื้อที่ไม่ทำอันตรายแก่ทุกคนที่สภาพร่างกายปกติ แข็งแรง แต่เชื้อราจะมีผลเฉพาะกลุ่มคน 2 ประเภท คือ คนที่มีภูมิต้านทานต่ำ และกลุ่มที่แพ้ง่ายหรือเป็นโรคภูมิแพ้ ดังนั้นทางกระทรวงได้มีข้อแนะนำผู้ที่จะเข้าไปทำความ สะอาดบ้านควรจะสวมถุงมือ และถ้าเรารูสึกตัวว่าเราเป็นโรคภูมิแพ้หรือร่างกายในช่วงนั้นอ่อนแอไม่แข็งแรง พยายามสวมหน้ากากอนามัยทำความสะอาดบ้านในเบื้องต้น

นพ.ไพจิตร์กล่าวว่า ทางกระทรวงได้สนองพระราชดำรัสเราจะใช้อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณ 1 ล้านคนเข้าไปแนะนำแจกคู่มือช่วยประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลมีนโยบายในช่วงวันที่ 1-5 ธ.ค.จะได้เร่งดำเนินการสนองตอบในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา อย่างไรก็ตาม เชื้อราที่รุนแรงมากที่สุดคือทำให้ปอดอักเสบ เพราะถ้าร่างกายอ่อนแอ ภูมิต้านทานต่ำ เวลาที่สูดมันจะทำให้เกิดอาการปอดอักเสบหรือปอดบวมได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีลักษณะของภูมิต้านทานต่ำก็อาจจะถึงเสียชีวิตได้ อาทิ ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งแล้วต้องกินยากดภูมิต้านทาน ควรสวมหน้ากากอนามัยเข้าไปทำความสะอาดบ้าน หากมีอาการรุนแรงให้รีบไปพบแพทย์ทันที แต่สถิติคนที่แพ้เชื้อราขณะนี้มีจำนวนน้อย และยังไม่พบผู้เสียชีวิต รวมทั้งยืนยันว่ายังไม่พบเชื้อโรคใหม่ๆ เกิดขึ้นแต่อย่างใด

 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1322897199&grpid=00&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4629 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2554, 20:17:22 »

ทำไมกระทรวงเกษตรต้องมีชื่อ บรรหาร พ่วงไปทุกที่
แค่นี้ ยังไม่พออีกหรือ ??


กรมชลจัดเต็มเครื่องสูบ-ใช้งบเยียวยา8พันล. อีก7วันสวนส้มโอนครปฐมโผล่พ้นน้ำ


นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การระบายน้ำทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก พร้อมด้วยนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษารมว.เกษตรฯ และผู้บริหารกรมชล ประทานว่า ตามที่กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทานเร่งรัดดำเนินมาตรการลดปริมาณน้ำเหนือและเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ขณะนี้แม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำลดลงและปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่ทุ่งฝั่งตะวันตกบริเวณทุ่งเจ้าเจ็ด-บางยี่หน ทุ่งพระยาบรรลือ และทุ่งพระพิมล ลดลงตามไปด้วย

สำหรับแม่น้ำท่าจีนที่มีสภาพลำน้ำคดเคี้ยว กรมชล ประทานได้เร่งการระบายน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น ด้วยการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณประตูระบายน้ำตามคลองต่างๆ ในแม่น้ำท่าจีน เช่น คลองโยง คลองมหาสวัสดิ์ โดยคลองโยง มีประตูระบายน้ำกว้าง 6 เมตร จำนวน 2 ช่อง มีสถานีสูบน้ำถาวร 8 เครื่อง และได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ขนาด 3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที 2 เครื่อง และขนาด 12 นิ้ว รวม 3 เครื่อง รวมระบายน้ำได้วันละประมาณ 2.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ระดับน้ำในคลองโยงเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ลดลง 28 เซนติเมตร และแนวโน้มจะลดลงอย่างต่อเนื่อง

นอกจากการระบายน้ำในภาพรวมแล้ว ปัจจุบันกรมชลประทานได้เข้าไปเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระดับพื้นที่ คือ การระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง ทั้งในเขตชุมชนและพื้นที่การเกษตร โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินงานทำคันกั้นน้ำด้วยกระสอบทราย และติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยในพื้นที่เกษตรที่เป็นสวนส้มโอ ต.ทรงคะนอง อ.สามพราน จ.นคร ปฐม กรมชลประทานได้บูรณาการร่วมภาคประชาชนและองค์กรท้องถิ่น นำเครื่องจักร เครื่องมือ ทำคันกั้นตามแนวถนน ความยาวประมาณ 6 กิโลเมตร และติดตั้งเครื่องสูบน้ำสนับสนุนภารกิจ จำนวน 31 เครื่อง เพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่แม่น้ำท่าจีน สามารถระบายน้ำได้วันละ 5.5 แสนลูกบาศก์เมตร และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำท่วมขังให้รวดเร็วยิ่งขึ้น กรมชลประทานจะติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว เพิ่มเติมอีก 10 เครื่อง ทำให้สามารถระบายน้ำได้ถึงวันละ 6.8 แสนลูกบาศก์เมตร

ดังนั้น จากมาตรการดังกล่าวคาดว่าในอีก 1 สัปดาห์ร่องสวนจะโผล่พ้นน้ำ เกษตรกรจะสามารถเข้าฟื้นฟูสวนส้มโอของตนเองได้ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้วางกรอบแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น และพืชผักที่ได้รับความเสียหายที่คาดว่าจะมีจำนวนทั้งสิ้น 50,000 ราย เป็นพื้นที่ 0.46 ล้านไร่

โดยเกษตรกรได้รับเงินสดช่วยเหลือเป็นมูลค่า 7,300 บาท/ราย แบ่งเป็น ค่าพันธุ์ไม้ผลและเมล็ดพันธุ์ผัก 5,000 บาท/ราย ค่าเตรียมพื้นที่เพาะปลูก 2,000 บาท และค่าสนับสนุนการปลูกพืชบริโภคครัวเรือน 300 บาท/ราย คาดว่าจะใช้งบประมาณเยียวยา 8,000 ล้านบาท

หน้า 9

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFkyOHdOVEF6TVRJMU5BPT0=&sectionid=TURNd05RPT0=&day=TWpBeE1TMHhNaTB3TXc9PQ==
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4630 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2554, 23:17:17 »

การ์ตูนจาก มติชนออนไลน์


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4631 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2554, 23:18:26 »

ฉบับวันนี้

 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4632 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 13:59:05 »

สวัสดี วันอาทิตย์ั้ 4 ธันวาคม ช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครับ

หยุดยาวในบรรยากาศน้ำท่วม และน้ำท่วมกำลังลดลง

ทำให้ผู้คน เบื่อๆ อยากๆ โดยเฉพาะที่ต้องทำความสะอาดบ้าน หลังน้ำลด ซึ่งไม่ใช่งานง่ายๆ เลย

ให้กำลังใจกันครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4633 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 14:00:56 »

ฝาก V D O ไว้ชมกันในวันหยุดยาว ความยาว 44 นาที ไม่มีโฆษณา

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=bDI74Q16FCQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=bDI74Q16FCQ</a>

http://www.youtube.com/watch?v=bDI74Q16FCQ&feature=player_embedded
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4634 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 17:00:27 »

สวัสดีตอนบ่ายครับ

ดู VDO ซะเพลินครับ อากาศร้อนมาก สลับกับการเดินตรวจหลังโกดัง ซึ่งน้ำยังคงค้างในไร่นา
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4635 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 18:21:21 »

มาแล้วครับ....ถุงยังชีพมีสินค้าหมดอายุบรรจุอยู่ สนใจเชิญรับไปบ้านละถุง

ข้าวหมดอายุโผล่ถุงยังชีพบางบัวทอง! ส.ส.พท.โบ้ย จว.จัดซื้อ อ้างขอมาแจกเฉยๆ
4 ธันวาคม 2554 17:03 น.

 
       ชาวบัวทอง 4 สุดเซ็ง ส.ส.นนทบุรี เพื่อไทย แจกถุงยังชีพ เปิดเจอข้าวสาร น้ำพริกตาแดงหมดอายุตั้งแต่ปี 2010 แห่คืน เจ้าตัวปัดพัลวัน อ้างถุงหมดอายุแต่ข้าวสารยังกินได้ เชื่อคนบรรจุไม่ทันคิด ไล่ไปซักจังหวัดนนท์ โบ้ยแค่เอามาแจกต่อ ขณะที่ อบต.พิมลราช จ่อแจกถุงเดียวกันคืนนี้
       
       วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหมู่บ้านบัวทอง 4 ต.พิมลราช ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า ในวันนี้ (4 ธ.ค.) นายวันชัย เจริญนนทสิทธิ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ได้นำถุงยังชีพมาแจกให้แก่ประชาชนภายในหมู่บ้านจำนวน 600 ชุด ซึ่งประชาชนก็ได้นำคูปองไปขอรับตามทางผู้บริหารท้องถิ่นจัดระเบียบและประชาสัมพันธ์เอาไว้ โดยภายในถุงยังชีพประกอบไปด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น ข้าวสาร น้ำปลา และน้ำพริกตาแดง เป็นต้น ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดกลับพบว่า ข้าวสาร และน้ำพริกตาแดงนั้นหมดอายุ โดยถุงข้าวสารระบุว่าผลิตเมื่อปี 2008 และควรบริโภคก่อนปี 2010
       
       เมื่อพบเช่นนั้นชาวบ้านบางส่วนจึงนำถุงยังชีพดังกล่าวไปคืน แต่นายวันชัยได้พยายามอธิบายว่า ข้าวสารไม่ได้หมดอายุ แต่เป็นเพียงอายุของถุงที่บรรจุข้าวสารที่หมดอายุเท่านั้น ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นคนมีการศึกษาจึงไม่เชื่อคำชี้แจงของนายวันชัย บางส่วนได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่อีกหลายคนแสดงความไม่พอใจและโยนถุงยังชีพทิ้งต่อหน้าต่อตานายวันชัย
       
       ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อนายวันชัยทางโทรศัพท์เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยนายวันชัยชี้แจงเช่นเดียวกับที่ชาวบ้านได้เรียกร้องเข้ามา โดยกล่าวว่า ถุงที่บรรจุข้าวสารมีระบุวันที่หมดอายุจริง แต่ความเป็นจริงข้าวสารไม่ได้หมดอายุ เป็นเพียงของถุงที่บรรจุเท่านั้น คาดว่าคนที่บรรจุคงไม่ทันคิด
       
       เมื่อถามต่อถึงกรณีของน้ำพริกตาแดงที่หมดอายุเช่นกัน นายวันชัยปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น โดยแนะนำให้ไปสอบถามกับทางจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นผู้จัดเตรียมถุงยังชีพดังกล่าว ส่วนตนเป็นแค่ผู้ที่มาแจกจ่ายต่อเท่านั้น ไม่ใช้ผู้จัดซื้อ จึงไม่สามารถทราบว่าสิ่งของหมดอายุหรือไม่อย่างไร อย่างไรก็ตาม ตนจะเก็บถุงยังชีพไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบต่อไป
       
       จากนั้นผู้สื่อข่าวได้แจ้งไปยังนายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ถึงกรณีนี้ โดยนายวิมกล่าวว่า ได้ทราบข่าวแล้วเช่นกัน จึงได้ตรวจสอบไปยังนายวันชัย ก็ทราบข้อมูลเดียวกับสื่อมวลชนที่นายวันชัยบอกว่าไม่ได้มีส่วนในการจัดซื้อ เป็นคนมาแจกอย่างเดียว จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
       
       รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในช่วงดึกของคืนนี้ (4 ธ.ค.) จะมีการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ที่ ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยเบื้องต้นจะมีการแจกถุงยังชีพอีกนับพันถุง ซึ่งเป็นถุงชุดเดียวกับที่นำมาแจกที่หมู่บ้านบัวทอง 4 และมีสิ่งของที่หมดอายุ


จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000154523
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4636 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 18:23:44 »

ผู้ว่าฯ นนท์ ปัดส่งถุงยังชีพหมดอายุให้ ส.ส.พท.แจก - “ประชา” ลั่นพร้อมสอบแน่
4 ธันวาคม 2554 17:27 น.

 
       ผอ.ศปภ.แย้มอาจลดขนาดการทำงาน ปัดโยนงานกระทรวงไหน อึ้งเจอข่าว ส.ส.นนท์ แจกถุงยังชีพหมดอายุ อ้างยังไม่รู้ข้อมูล ยันสอบตามข้อเท็จจริง โบ้ยจังหวัดแจกถุงไม่เกี่ยว ศปภ. ด้านผู้ว่าฯ นนท์ ปัดพัลวันไม่ใช่ถุงของจังหวัด ยัน “วันชัย” ไม่เคยประสานขอไปแจก คาดขอเอกชนเอง
       
       วันนี้ (4 ธ.ค.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.กระทรวงยุติธรรม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงการปรับขนาดของ ศปภ.ว่า เนื่องสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้เริ่มคลี่คลาย จึงอาจจะมีลดขนาดพื้นที่การทำงานลง และเหลือเพียงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่ไว้คอยประสานการทำงานกับหน่วยงานอื่นๆ เช่นเดิม โดยจะเน้นเรื่องการระบาย หรือสูบน้ำออกจากพื้นที่ที่น้ำท่วมขัง ทั้งนี้ขอยืนยันว่าการลดขนาดดังกล่าวไม่ได้เป็นการโยนงานให้กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งรับผิดชอบ หรือลอยแพประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำท่วมขังอย่างแน่นอน
       
       ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ชาวบ้าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ออกมาโวยเรื่องของการที่มี นายวันชัย เจริญนนทสิทธิ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้นำถุงยังชีพที่หมดอายุไปแจกจ่ายแก่ชาวบ้าน พล.ต.อ.ประชานิ่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนตอบว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลว่ามีการกระทำดังกล่าว แต่จะดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริงอย่างแน่นอน โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขอเรียนย้ำว่า ขณะนี้ทาง ศปภ.ไม่ได้มีหน้าที่แจกจ่ายถุงยังชีพแล้ว และได้มอบหมายให้ทางผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัดไปดำเนินการแจกจ่ายเอาเอง
       
       ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.กระทรวงการต่างประเทศ จะคืนพาสปอร์ตให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ดินรัชดาฯ เมื่อได้ยินคำถาม พล.ต.อ.ประชาได้ตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง
       
       ด้าน นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ชาวบ้านนนทบุรี ออกมาโวย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทยคนหนึ่ง ได้นำถุงยังชีพหมดอายุไปแจกให้กับชาวบ้านใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรีนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่ได้รับรายงาน แต่ไม่ใช่ถุงยังชีพของทาง จ.นนทบุรี หรือหน่วยงานราชการอย่างแน่นอน เนื่องจากก่อนที่จะนำสิ่งของไปแจกจ่าย ทางจังหวัดจะต้องมีการตรวจสอบของที่บรรจุอยู่ในถุงเสียก่อน อีกทั้งไม่เคยได้รับการประสานงานหรือสั่งการให้ ส.ส.คนดังกล่าวนำถุงยังชีพไปบริจาค แต่อาจจะเป็นไปได้ที่ ส.ส.คนนั้นได้ประสานกับภาคเอกชนนำของไปแจกจ่ายเอง อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ยังมีพื้นที่ประสบภัยหลายจุด ซึ่งก็ได้มีหลายหน่วยงานนำสิ่งของยังชีพเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งจากกลุ่มมูลนิธิต่างๆ ภาคเอกชน รวมถึงประชาชนที่มีจิตศรัทธานำของมาบริจาคเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าถุงยังชีพเหล่านั้นบางเสียอาจจะเกิดการเน่าเสีย


 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000154537
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4637 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 18:38:34 »

เสียดายของครับ........

ส้มโอขึ้นชื่อนครปฐมยังจมน้ำยืนต้นตายแล้วกว่า 3 พันไร่สูญ 200 ล้านบ.
4 ธันวาคม 2554 16:44 น.

 
        นครปฐม - สถานการณ์อุทกภัยที่นครปฐมยังวิกฤต สวนส้มโอสายพันธุ์มีคุณภาพและขึ้นชื่อของนครปฐมกว่า 5 พันเริ่มยืนต้นตายแล้วกว่า 3 พันไร่ ทำให้เกษตรกรได้รับความเสียหายแล้วในเบื้องกว่า 200 ล้านบาท เผยหากน้ำไม่ลดส้มโอนครชัยศรีที่ขึ้นชื่อแห่งนี้อาจสูญพันธุ์
      
       วันนี้ (4 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายที่ได้รับกระทบจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นคปฐม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการปลูกส้มโอที่ขึ้นชื่อที่สุดของ จ.นครปฐม ในพื้นที่ 4 ตำบลจำนวน 5 พันไร่ของ อ.สามพราน จ.นครปฐม ประกอบด้วย ต.ไร่ขิง ต.ทรงคะนอง ต.หอมเกร็ด และ ต.บางเตย พบว่าสวนส้มโอดังกล่าวได้ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างหนัก โดยน้ำจากแม่น้ำท่าจีนได้ไหลบ่าเข้าท่วมขังพื้นที่สวนส้มโอมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ระดับน้ำในสวนสูงถึง 2 เมตร จนถึงขณะนี้พบว่าส้มโอได้ยืนต้นตายแล้วกว่า 3 พันไร่จากจำนวน 5 พันไร่ของพื้นที่ทั้งหมด 4 ตำบลดังกล่าว ซึ่งทำให้เกษตรกรชาวสวนส้มโอขึ้นชื่อแห่งนี้ได้รับความเสียหายหากคิดเป็นเงินในเบื้องต้นคาดว่าไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท และอาจจะส่งผลกระทบในระยะยาวทำให้เกษตรกรที่ปลูกส้มโอในพื้นที่ จ.นครปฐมแห่งนี้ไม่มีพันธุ์ส้มโอที่ดีที่มีคุณภาพมาทำการเพาะปลูกต่ออีกด้วย
      
       ทั้งนี้ เนื่องจากส้มโอแต่ละต้นมีอายุในการเก็บเกี่ยวผลผลิตยาวนานถึง 25 ปี หากมีการปลูกต้นส้มโอใหม่จะต้องใช้เวลาถึง 4 ปีจึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ และสิ่งที่สำคัญคือเกษตรกรอาจไม่สามารถหาสายพันธุ์ส้มโอที่ดีที่มีคุณภาพได้ดังเดิม และหากระดับน้ำที่ท่วมอยูในสวนขณะนี้ยังไม่แห้ง อาจจะทำให้ส้มโอในพื้นที่ จ.นครปฐม ยืนต้นตายหมดไปในที่สุด
      
       โดย "ส้มโอนครชัยศรี"เป็นผลไม้ที่นิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งมีชื่อเสียงมานาน โดยปลูกกันมากในพื้นที่ อ.นครชัยศรี สามพราน และ อ.พุทธมณฑล มีมูลค่าการส่งออกถึง 2 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งสายพันธุ์ส้มที่ปลูกในพื้นที่ของ จ.นครปฐม ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ นับว่าเป็นการรับประกันถึงรสชาติและถิ่นกำเนิดได้เป็นอย่างดี แต่ก่อนหน้าที่มวลน้ำจะมาถึงเกษตรกรต้องมีการดำเนินการในการป้องกันสวนของตัวเองเพียงลำพังมาก่อนหน้า และหน่วยงานที่เข้ามาดูแลนั้นปล่อยเวลาให้เนิ่นนานเกินกว่าที่จะรับสถานการณ์ได้ทัน และขณะนี้เกษตรกรหลายคนได้เริ่มทำใจว่าจะต้องเสียสวนส้มโอที่มีค่าทางวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นของคนนครปฐมและเป็นของที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดและประเทศ จนมีการบรรจุไว้ในคำขวัญประจำจังหวัดของเมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเมืองส้มโออีกด้วย


จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000154517
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4638 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 18:49:55 »

ประชา" แจงลดขนาด ศปภ. เหตุน้ำท่วมคลี่คลาย ปฎิเสธไม่ใช่การลอยแพประชาชน
วันที่ 04 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 18:33:40 น.
 
 
  พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะ ผอ.ศปภ. เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้เริ่มคลี่คลาย จึงอาจจะมีการลดขนาดพื้นที่การทำงานลง และเหลือเพียงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ไว้คอยประสานการทำงานกับหน่วยงานอื่นๆ เช่นเดิม โดยจะเน้นเรื่องการระบายหรือสูบน้ำออกจากพื้นที่ที่น้ำท่วมขัง ทั้งนี้ขอยืนยันว่า การลดขนาดดังกล่าวไม่ได้เป็นการโยนงานให้กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งรับผิดชอบหรือลอยแพประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำท่วมขังอย่างแน่นอน


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1322998422&grpid=03&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4639 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 19:00:59 »

ปัญหาแก้กันไม่ถูกจุด กระทรวงใคร-กระทรวงมัน เพียงเพื่อจะใช้เงินกันเท่านั้น โรดโชว์ชาวต่างประเทศ ก็คือได้ไปท่องต่างประเทสและใช้เงินเบี้ยงเลี้ยง

โรงงานที่จมน้ำ ต้องฟื้นฟูนานหลายเดือน ปัญหาคือค่าใช้จ่าย ในการซื้อเครื่องใหม่ ค่าติดตั้ง ทดสอบเดินเครื่อง รวมทั้งการจ่ายเงินเดือนพนักงานที่ยังไม่สามารถทำงาน โดยต้องรอเครื่องจักรให้พร้อมเดินเครื่องทำงานไปด้วยกัน อาจใช้ระยะเวลารอถึง 6 เดือนต่อจากนี้ ใครคือคนจ่ายค่าแรงงาน ??

เอาเงินที่จะไปโรดโชว์ในต่างประเทศ.....มาจ่ายส่วนนี้ไม่ดีกว่าหรือ ??

"วรรณรัตน์ ชาญนุกูล" มั่นใจ 7 นิคมน้ำท่วม กลับมาผลิตปกติ มี.ค.-เม.ย.55
วันที่ 04 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 15:21:53 น.  
 

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวยืนยันภายหลังนำคณะลงตรวจพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร เชื่อมั่นว่านิคมอุตสาหกรรมทั้ง 7 แห่ง ที่ประสบปัญหาอุทกภัยช่วงที่ผ่านมา จะสามารถกลับมาเดินเครื่องทำการผลิตได้เต็มที่อีกครั้ง ทุกบริษัท ภายในเดือนมีนาคม หรือเมษายน 2555 เนื่องจากรายงานระบุว่าทั้ง 7 นิคม อยู่ระหว่างการฟื้นฟู เร่งเก็บทำความสะอาด และหลายโรงงานเริ่มเปิดดำเนินการไปบ้างแล้ว ขณะเดียวกัน รัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูให้แก่ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม มีแผนเยียวยาและป้องกันน้ำท่วมในอนาคตชัดเจน


นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างจัดทำแผนเดินทางไปโรดโชว์ เพื่อให้กลุ่มธุรกิจจากหลายประเทศมีความมั่นใจว่า ขณะนี้ประเทศไทยรอดพ้นจากปัญหาอุทกภัยแล้ว รวมทั้งมีแผนป้องกันในระยะยาว ส่วนปัญหาที่มีบางบริษัทเลิกกิจการซึ่งอาจทำให้พนักงานบางส่วนได้รับผลกระทบตกงานนั้น ขณะนี้กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ประสานไปยังบริษัทต่างๆ ที่ต้องการรับพนักงานเพิ่มเติม โดยจะหางานให้พนักงานเหกล่านี้ทำในบริษัทอื่นๆ แทน

 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1322986938&grpid=&catid=05&subcatid=0500
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4640 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 19:11:20 »

ควีนเอลิซาเบธถวายพระพรในหลวง
พระราชสาส์น ควีนเอลิซาเบธ ถวายพระพร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


          her majesty queen elizabeth ii has sent a birthday message to his majesty king bhumibol adulyadej.

          the message reads:

          “it gives me great pleasure to offer my warmest congratulations to your majesty as you celebrate the auspicious occasion of your 84th birthday. i have been following the reports of the floods in thailand with concern and would like to offer my condolences to your majesty and to the thai people in this time of tragedy.  i wish your majesty good health, longevity and happiness and send you my very best wishes for continued happiness and prosperity of all.

          elizabeth r.

          british embassy, bangkok

          4 december 2011

คำแปล

          สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองแห่งสหราชอาณาจักรทรงส่งพระราชสาส์นมาถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ

          พระราชสาส์นมีใจความว่า:

          “หม่อมฉันขอถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษาของฝ่าพระบาท หม่อมฉันได้ติดตามรายงานข่าวอุทกภัยในประเทศไทยด้วยความห่วงใย และขอแสดงความเสียใจมายังฝ่าพระบาทและประชาชนชาวไทยในมหันตภัยครั้งนี้

          หม่อมฉันขอถวายพระพรให้ฝ่าพระบาททรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ทรงพระชนมายุยิ่งยืนนาน และทรงพระเกษมสำราญ และขอส่งความสุขสวัสดีมายังประชาชนชาวไทยทั้งปวง”

          เอลิซาเบธ

          british embassy, bangkok

          4 december 2011

http://www.komchadluek.net/detail/20111204/116861/ควีนเอลิซาเบธถวายพระพรในหลวง.html
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4641 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 20:28:52 »


ทนลำบากต่อไปอีกสักนิดครับ ถนน ทางรถไฟ จะซ่อมเสร็จเดือนสิงหาคม ปีหน้า

พิษน้ำท่วม!!!ถนนพังยับ 500 เส้นทาง ใช้งบซ่อมหมื่นล้าน เสร็จ ส.ค.ปีหน้า
ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2554 17:56:03 น.

วันนี้(4 ธ.ค.) มีรายงานว่า กระทรวงคมนาคม จะอนุญาตให้กรมทางหลวงซ่อมแซมถนนสายหลักที่ชำรุดเสียหายจากเหตุอุทกภัยกว่า 21 เส้นทาง รวมแล้วกว่า 31 โครงการ ตั้งแต่ช่วงระหว่างเดือนธันวาคม 2554 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2555 คิดเป็นค่าซ่อมบำรุงกว่า 1,879 ล้านบาท มีโครงข่ายต่อเนื่องกว่า 677 โครงการ ซึ่งจะเป็นโครงการต่อเนื่องไปจนถึงเดือนสิงหาคมปีหน้า ประมาณมูลค่าการดำเนินการทั้งหมดกว่า 10,000 ล้านบาท

ขณะที่กรมทางหลวงชนบท จะฟื้นฟูเส้นทางเข้านิคมอุตสาหกรรม 4 เส้นทาง มูลค่ากว่า 78 ล้านบาท และเส้นทางสายรองอื่นๆอีก 454 เส้นทาง มูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินการ 10 เดือนหลังจากน้ำลด

ทั้งนี้ การซ่อมแซมทางรถไฟและอาณัติสัญญาณ คาดว่าจะมีการใช้งบประมาณกว่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งสถานีที่ได้รับผลกระทบ คือ สถานีรังสิต-ดอนเมือง สถานีรังสิต-เชียงราก สถานีหนองปลาดุก-สุพรรณบุรี สถานีศาลายา-วัดสุวรรณ-งิ้วราย ส่วน สถานีชุมทางหนองปลาดุก-สุพรรณบุรี มีการงดเดินรถในขณะนี้


http://www.ryt9.com/s/nnd/1294648
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4642 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2554, 20:32:02 »

เลือกตั้งเสร็จ...พี่น้องประชาชนก็ไร้ค่า... (เศรษฐศาสตร์วันหยุด)
ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2554 01:47:51 น.

หลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่...สิ่งที่ดูว่า รัฐบาลจะกระวนกระวายมากเป็นพิเศษ กรณีของความเดือดร้อนของบรรดานักลงทุนทั้งหลาย และดูว่ารัฐบาลจะกระวนกระวายมากเสียกว่าความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนด้วยซ้ำไป....

ไม่งั้นคงไม่เห็นประชาชนในหลายพื้นที่..ที่ยังต้องระทมทุกข์กับสภาพน้ำท่วมบ้านอยู่ตอนนี้ โดยที่รัฐบาลไม่พยายามทำอะไรให้มันเป็นชิ้น เป็นอันสักนิดที่จะช่วยเยียวยาพี่น้องประชาชนเหล่านั้น ไม่สนใจว่าพวกเขาจะต้องทนกับสภาพน้ำเน่าที่ท่วมขังอยู่นานนับเดือนแล้ว...ถ้าจะอ้างว ก็จ่ายเงินชดเชยให้แล้วบ้านละ 5 พัน... ถามว่ามันพออะไรกับสภาพความเสียหาย...

แต่พอนักลงทุนต่างชาติออกมา โวยวาย ออกมาขู่ว่าจะย้ายฐานการผลิต หนี...รัฐบาลทำเหมือนจะเป็นจะตาย... ดิ้นรนสารพัด ตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาไม่รู้กี่ชุด...ส่งรัฐมนตรีลงไปดูแล....แต่กับพี่น้องประชาชน แค่แจกถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น ยังตกหล่น แถมส่งคนเข้าไปทำงานแบบไม่ดูตาม้าตาเรือจนก่อให้เกิดความ "แตกแยก"...

ลองตั้งสติกันดีๆ ซิว่า...โรงงาน ระดับชาติ พวกนักลงทุนข้ามชาติที่เข้า มาลงทุนในประเทศไทย...ทำให้เราได้ อะไรบ้าง...นอกจากค่าจ้างขั้นต่ำ... มีอุตสาหกรรมรถยนต์มากี่สิบปี ในบ้านเรา...ยังไม่มีปัญญาจะมีรถประจำชาติเหมือนคนอื่นๆ...คนไทยได้อะไรนอกจากลูกจ้างขันนอตกับผลิตชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ไม่ได้ก่อ ให้เกิดความรู้เรื่องเครื่องจักรจนเรา สามารถผลิตรถของเราเองได้แบบ "โปรตอนซาก้า"...

ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆที่เข้ามา...แรงงานไทยได้เรียนรู้อะไรบ้าง... ได้พัฒนาทักษะอะไรบ้างจนสามารถคิดค้นต่อยอดจนสร้างนวัตกรรมของ ตัวเอง...พอโรงงานเกิดอุบัติเหตุ หรือมีเหตุที่อยากหนีไปลงทุนที่อื่น... คนไทยก็นั่งตัวสั่นกลัวตกงาน....

รัฐบาลพอใจกับการที่คนไทยเป็นได้แค่ลูกจ้างที่รับแต่ค่าจ้างใน อัตราแรงงานขั้นต่ำอย่างนี้ไปตลอดชาติ หรือไง...ให้นายทุนคอยกดหัวไว้อย่างนี้ตลอดไปหรือไงกัน....

ถ้าเป็นอย่างนั้น..."ไทย"...ก็เป็น เบี้ยคนพวกนี้ตลอดไปนั่นแหละ... พอเรียกร้อง โวยวายอะไรมาที ก็ต้องยอม กลัวเขาหนีไปที่อื่น กลัวคนไทยไม่ได้ เป็น "ลูกจ้างเขา"...

ถ้าคนส่วนใหญ่ยังมีรายได้ ในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ...ไทยก็เป็นประเทศ "ยากจน" ไปจนชั่วลูก ชั่วหลานนั่นแหละ...

ก็ไหนบอกจะทำสงครามกับความยากจนไง...นี่อะไรกันที่ไปรับปากกับคนทั่วประเทศว่าจะขยับค่าจ้างให้เป็น 300 บาท/วัน...ทันทีที่ชนะเลือกตั้ง.... พอเอาเข้าจริงก็ทำไม่ได้อย่างที่พูด... จำได้ทีแรกบอกว่าภายใน 90 วัน... แต่ทำไม่ได้ต้องเลื่อนไปเป็นต้นปี'55... มาล่าสุดก็ขยับไปอีกแล้ว...ไปเริ่มเมษายนปี'55...หลังโดนนายทุนญี่ปุ่น กับเกาหลี ขู่ว่าจะย้ายหนีไปเวียดนาม ไปพม่า...

แล้วหากถึงเวลาเกิดมีอะไรขึ้นมาอีก...เขาออกมาขู่อีก...ก็ไม่มีใครกล้ารับประกันว่าจะไม่เลื่อนออกไปอีก...

หรือว่าพอหมดหน้าเลือกตั้งแล้ว...ก็มองไม่เห็นหัวพี่น้องประชาชนที่เคยไปยกมือไหว้ ปลกๆๆ...เอาไว้จะเลือกครั้งใหม่ ก็ค่อยไป "หลอก" เขาอีกรอบงั้น เหรอไง....

พงษ์พันธุ์


http://www.ryt9.com/s/nnd/1294424
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4643 เมื่อ: 05 ธันวาคม 2554, 09:37:46 »


สวัสดี พี่ๆ เพื่อน น้องๆ ชาวหอ และทุกท่าน ในวันพ่อ 5 ธันวาคม ครับ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ




ภาพจากไทยโพสต์ ออนไลน์
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4644 เมื่อ: 05 ธันวาคม 2554, 09:48:55 »

ยินดีซื้อประกันภัย กลัวแต่หาบริษัทรับประกันไม่เจอ ?? !!

บังคับประกันคุ้มครอง5ภัยพิบัติ บีบคนซื้อจ่ายเพิ่ม-แบงก์เงินล้นพอปล่อยกู้
เศรษฐกิจ                                                                                                                5 ธันวาคม 2554 - 00:00

      พิษน้ำท่วมพ่วงการเมืองป่วน คปภ.จ่อออกประกาศเพิ่ม 5 ภัยพิบัติในกรมธรรม์ภาคบังคับ ทั้งอุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว ลูกเห็บ จลาจล คนซื้อประกันต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 279 บาทต่อวงเงิน 1 ล้านบาท  แบงก์เตรียมลดอัตราปล่อยกู้โครงการถูกน้ำท่วม "กรุงศรี" หวั่นอสังหาริมทรัพย์ซึมยาว ลุ้นรัฐบาลออกมาตรการอุ้ม ธปท.ยันสภาพคล่องเพียบ รับมือปล่อยกู้หลังน้ำลดได้
      นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปี 2555 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จะมีการออกกรมธรรม์ภาคบังคับในการประกันบ้านเพิ่มจากอัคคีภัยอีก 5 ภัย คือ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว ลูกเห็บ และจลาจล ซึ่งจะมีค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น 279 บาทต่อสินเชื่อบ้าน 1 ล้านบาท แต่ถือว่าไม่ได้สร้างภาระด้านการเงินให้แก่ลูกค้ามากนัก ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยซึ่งได้ปรับลดลงมา จะเป็นปัจจัยหนุนในการลดต้นทุนการซื้อที่อยู่อาศัย
      ในส่วนของธนาคารได้เตรียมเสนอผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัย ซึ่งจะพ่วงกับการทำประกันดังกล่าว เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมจะถูกประเมินราคาตลาดลดลง 10-20% และจะเป็นอุปสรรคในการกำหนดราคาขายของผู้ประกอบการและการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งในโครงการที่ถูกน้ำท่วมมาก อาจถูกลดอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan to Value : LTV ratio) อยู่ที่ 80-90% ขณะที่พื้นที่ไม่ถูกน้ำท่วมจะให้ LTV อยู่ที่ 90-100%
      นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ทิศทางสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปี 2555 จะไม่เติบโตมากกว่าปี 2554 เนื่องจากผู้บริโภคยังมีความกังวลปัญหาน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ทำให้อาจชะลอการซื้อบ้าน ดังนั้น ต้องรอดูว่ารัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นตลาดมากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากไม่มีมาตรการใดออกมา จะทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึมยาวจนถึงไตรมาส 2 ปี 2555 เพราะธุรกิจนี้ถือเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำ
      ทั้งนี้ ในส่วนของยอดสินเชื่อใหม่ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 26,000-27,000 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 10% เพราะในช่วงเดือน พ.ย.มีประมาณ 23,000 ล้านบาท จากเป้าที่วางไว้ 30,000 ล้านบาท เนื่องจากภาวะน้ำท่วมทำให้ยอดสินเชื่อชะลอตัว ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 92,000 ล้านบาท และสิ้นปีจะอยู่ที่ 93,000 ล้านบาท ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับต่ำ และควบคุมได้ โดยลูกหนี้รายใดที่คาดว่าจะมีปัญหาในการผ่อนชำระ ธนาคารจะเข้าไปดูแล ซึ่งหากผ่อนชำระไม่ไหวจะต้องเจรจาปรับโครงสร้างหนี้
      นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปัจจุบันสภาพคล่อองในระบบธนาคารพาณิชย์ รวมถึงในมือของ ธปท.มีสูงมาก โดยธนาคารพาณิชย์มีสินทรัพย์สภาพคล่องทั้งสิ้น 2 ล้านล้านบาท ส่วนสภาพคล่องที่ ธปท.ดูดซับ มีถึง 4.7 ล้านล้านบาท มีทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงและมีความมั่นคง ถือว่าเพียงพอสำหรับการปล่อยกู้ที่จะมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นเพื่อใช้สำหรับซ่อมแซมบ้านเรือนและโรงงานที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตปกติ หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย
      ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์ไม่ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยในตลาดทั้งเงินฝากและเงินกู้ลงมากนัก หลังจาก ธปท.ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 3.25% จาก 3.5% เพราะธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ได้ปรับลดดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ลงไปก่อนหน้านี้ แต่จากนี้ไป ธนาคารพาณิชย์จะมีการปรับดอกเบี้ยลงอีกหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับดอกเบี้ยในตลาดเงิน การปล่อยกู้ และเงินฝากหรือสภาพคล่องภายในธนาคารนั้นเอง.


http://www.thaipost.net/news/051211/49138
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4645 เมื่อ: 05 ธันวาคม 2554, 10:24:33 »

เรื่องนี้โพสต์ขึ้นหน้าเว็ปมาหลายวันแล้ว และยังไม่มีคำตอบ จากการที่มีเจ้าหน้าที่ของ ศปภ. ไปย้าย(ด้วยการลาก)รถยนต์ที่จอดอยู่บนชั้น 2 ของอาคารจอดรถ ลงมาจอดชั้นล่างเป็นจำนวนมาก (โดยไม่มีการแจ้งให้เจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวทราบ) จนรถยนต์ดังกล่าวถูกน้ำท่วมถึงมิดทั้งคัน และมีรถยนต์อีกหลายคันสูยหายไปในช่วงนำไปจอดหนีน้ำ และไม่มีคำตอบจาก รปภ. ของการท่าอากาศยานฯ และ ศปภ.

รถหายที่ ศปภ. (ภาคพิสดาร)
ถูกทุกข้อ                                                                                                                               3 ธันวาคม 2554 - 00:00

เรียน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ผ่านคุณสามวา สองศอก หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
        ดิฉันขอสะท้อนการทำงานของ ศปภ.แบบขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ ทั้งนี้ คนที่ทำหน้าที่รับหน้าเสื่อคือ พลตำรวจเอกพงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายตำรวจที่มีโลโก้นักพีอาร์สร้างภาพลักษณ์ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตลอดชีวิตการทำงาน ไปนั่งประจำการเฉพาะกิจในเต็นท์รับเรื่องหน้าเต็นท์แจ้งเรื่องรถจมหายใต้บาดาลภายในสนามบินดอนเมือง  เพื่อนำรถเหล่านั้นกลับไปซ่อมแซมหรือขายซากทิ้งต่อไป
        รถยนต์จำนวน 166 คัน ซึ่งจอดอยู่บริเวณด้านล่างภายในบริเวณสนามบินดอนเมืองน้ำท่วมมิดถึงหลังคา ในจำนวนหนึ่งเป็นรถที่เจ้าของนำรถมาจอดบริเวณชั้น 2 ชั้น 3 ภายในอาคารต่างๆ ของสนามบินดอนเมือง ทั้งในส่วนที่เป็น  ศปภ.และสถานที่รองรับผู้อพยพจากภัยน้ำท่วม แล้วถูกทางราชการยกจากชั้นบนลงมาจอดชั้นล่าง ซึ่งถูกน้ำท่วมจนถึงหลังคา โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีเจตนาเล็งเห็นผลได้ว่าบริเวณด้านล่างน้ำกำลังจะท่วมถึง แล้วยังลากรถเหล่านี้ลงไปจอดในจุดที่สุ่มเสี่ยงว่าจะไม่ปลอดภัยเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อเจ้าของรถยนต์ ซึ่งไม่ได้พึงประสงค์ให้น้ำท่วมมิดคันเช่นนั้น
    เป็นที่น่าสังเกตด้วยว่ารถยนต์ที่เข้าไปจอดแทนที่เป็นรถตู้ของส่วนราชการ รถที่มียี่ห้อและเลขทะเบียนเลขสวย ทั้งนี้ มีการผลัดเปลี่ยนกันจอด  เนื่องจากดิฉันได้สังเกตว่า ในวันที่ 14 พ.ย. และวันที่ 30 พ.ย. เป็นรถคนละชุด
        พฤติกรรมการทำงานของเจ้าหน้าที่จดบันทึกประชาชนผู้เดือดร้อนจากน้ำท่วมรถไม่ได้มีการบันทึกหมายเลข กท.รถ ตลอดจนจุดที่นำรถมาจอดแล้วถูกยกลงมาไว้ข้างล่าง เมื่อเจ้าของรถระบุให้มีการจดบันทึกรายละเอียด เจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าหงุดหงิดและจดด้วยลายมือที่อ่านแทบไม่ออก และยิ่งเมื่อทราบข้อมูลว่ารถยนต์แต่ละคันไม่ได้มีประกันชั้น 1 แต่อย่างใด ก็ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร
        พล.ต.อ.พงศพัศให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า "รถยนต์ที่เจ้าของนำมาจอดชั้นบนของอาคารตามคำเชิญชวนของรัฐบาลแล้วถูกยกลงมาน้ำท่วมข้างล่าง จะต้องได้รับการเยียวยาเป็นขั้นบันไดด้วยความเป็นธรรม เพราะความผิดไม่ได้เกิดขึ้นจากเจ้าของแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ยกรถลงมาก็ไม่ได้เจตนา คิดว่าน้ำคงจะไม่ท่วม ต้องใช้หลักเมตตาธรรมในการสอบสวนไต่ความเรื่องที่เกิดขึ้น"
    "แต่เมื่อน้ำท่วมเกิดความเสียหาย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพประสานงานทั้งหมด รถทั้ง 166 คันเป็นรถโตโยต้า 71 คัน  รถฮอนด้า 28 คัน รถมิตซูบิชิ 27 คัน รถมาสด้า 5 คัน รถอื่นๆ ที่เป็นรถยุโรปอีก  5 คัน รถไม่ทราบยี่ห้ออีก 5 คัน มีประกันชั้น 1 เพียงคันเดียว นอกนั้นมีประกันชั้น 3 และบางคันมีเพียง พ.ร.บ.เท่านั้น"
    "ขณะนี้กำลังแยกแยะรถที่เจ้าของนำไปจอดข้างบนและถูกนำมาจอดข้างล่าง อีกประเภทหนึ่งที่เจ้าของนำมาจอดชั้นล่างตั้งแต่ต้น ผมจะนำเรื่องทั้งหมดเสนอต่อรัฐบาลเพื่อตัดสินใจช่วยเหลืออีกครั้งหนึ่ง เพราะผมไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจ เพียงแต่มารับเรื่องราวเท่านั้น แต่โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกเห็นใจที่เจ้าของรถต้องเกิดความเสียหายจากการทำงานของทางราชการและควรได้รับความช่วยเหลือ  แต่ทั้งนี้ต้องรอรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว"
        ทางรัฐบาลได้รับความร่วมมือจากสถานีตำรวจวิภาวดีรังสิตเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ช่วยล้างรถ และยังได้ติดต่อบริษัทโตโยต้า บริษัทฮอนด้า และอีกหลายบริษัท บริษัทสหมิตร บริษัทประกันต่างๆ เข้ามาช่วยยกรถเพื่อล้างรถแต่เพียงภายนอก แต่จะไม่ดำเนินการภายในรถแต่อย่างใด (รถแต่ละคันเมื่อเปิดดูภายในเต็มไปด้วยเชื้อราสีขาวและมีกลิ่นเหม็นมาก เนื่องจากน้ำท่วมมิดหลังคาเป็นเวลานานเกือบเดือน)
    รถจำนวน 70 กว่าคัน ผ่านการล้างรถเพียงภายนอก บางส่วนก็มีการลากรถออกไปแล้ว แต่บางส่วนก็ยังจอดตายอยู่ภายในสนามบินดอนเมืองเพื่อรอการตัดสินใจของรัฐบาลในการช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อที่นำรถมาจอดตามคำเชิญชวนของรัฐบาลและต้องตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแต่อย่างใด ด้วยรถยนต์ที่ใช้ในการประกอบอาชีพทำงานต้องอยู่ในสภาพที่ต้องขายซากทิ้งแต่เพียงสถานเดียว ไม่สามารถใช้งานได้แต่อย่างใด
        ดิฉันขอตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การล้างรถแต่เพียงภายนอกไม่ได้หมายความว่ารถยนต์จะใช้การได้ เนื่องจากการขับเคลื่อนรถยนต์ยังไม่ได้รับการเยียวยาแต่อย่างใด ยังไม่มีตัวแทนจากรัฐบาลพูดถึงตัวเลขความเสียหายที่จะเยียวยาให้  เพียงแต่ให้ลงทะเบียนไว้เท่านั้น
    ขั้นตอนของรัฐบาลเป็นเพียงการขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันหนึ่งๆ เท่านั้น  ปราศจากความจริงใจอย่างแท้จริง ในเมื่อรัฐบาลได้งบประมาณเพื่อเยียวยาสนามบินดอนเมือง บรรดารถยนต์ที่ได้รับความเสียหายเหล่านี้จากการทำงานของข้าราชการที่สะเพร่าปัดสวะให้พ้นตัวเท่านั้น จนเกิดความเสียหายก็ควรจะมีส่วนได้รับการช่วยเหลือเยียวยาด้วย
        การตั้งเต็นท์ทำงานก็อยู่ไกลจากอาคารที่เจ้าของรถเหล่านี้จะไปเข้าห้องน้ำหรือพักผ่อนได้ ต้องเดินจากเต็นท์ไปยังอาคารที่ผู้ลี้ภัยจากน้ำท่วมพักอยู่  แทนที่จะขอความร่วมมือขอรถสุขาเคลื่อนที่จากหน่วยงานกรุงเทพมหานครมาจอดอยู่ใกล้เคียง เนื่องจากกว่าจะรอลงทะเบียน กว่าจะรอการตรวจสอบข้อมูล  กว่าจะลากรถมาในจุดที่จะล้างรถ และนำไปจอดรวมกัน ตลอดจนการลากรถออกไปตามสถานที่ต่างๆ ทุกอย่างต้องใช้เวลาทั้งสิ้น
        ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่การทำงานของ ศปภ.ที่ผ่านมาสะท้อนถึงการบริหารงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแบบสะเพร่าที่ไม่ได้มีการวางแผนบริหารจัดการที่ดี จึงไม่สามารถรับมือกับปัญหาน้ำท่วมได้ รัฐบาลกลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้น้ำในทุกจุด เครื่องบินที่จอดอยู่ภายในสนามบินดอนเมืองยังถูกเคลื่อนย้ายไปจอดอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิและอู่ตะเภา แต่รถยนต์ที่เจ้าหน้าที่ทำผิดพลาดไว้แล้วกลับปล่อยให้แช่น้ำจนเกิดความเสียหาย ข้าวของที่ได้รับการบริจาคจากหน่วยงานต่างๆ ไม่ได้รับการบริหารจัดการแจกจ่ายให้ผู้ที่เดือดร้อนให้ทันเหตุการณ์ ทำให้ของต่างๆ เหล่านี้ได้รับความเสียหายล่องลอยไปกับสายน้ำที่ท่วมมิดสนามบินดอนเมือง
        มีผู้เข้ามาติดต่อรับรถจำนวน 36 คน ในจำนวนเจ้าของรถที่เกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ยกรถนำมาไว้จนน้ำท่วมมิดหลังคา เท่าที่ติดต่อกันได้เมื่อวันพุธที่ 30 พ.ย. ประกอบด้วย ศิริวรรณ สุขวิเศษ รถฮอนด้าซีวิค  "2 ฮ  2067" โทร. 08-1930-0792 เบน ฮอนด้า แอคคอร์ด "2 ธ 8198" โทร. 08-4672-5757 กษม จักรเครือ รถมิตซูบิชิ "พฬ 7994" สมใจ นิติวิไลวิชญ์ รถฮอนด้าแจ๊ส  "ศง 8573" โทร. 08-7991-7141 คิม รถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส "ฌพ 684" โทร.08-7519-2758 รถดังกล่าวนี้มีสติ๊กเกอร์มาติดรับซื้อรถจมน้ำอุบัติเหตุ หยู 08-9569-7334 พิชญ์รถยก 08-1631-5161
        หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด เป็นสื่อกลางของผู้ที่เดือดร้อนและต้องการได้รับความเป็นธรรม หากใครอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ขอเสียงเพื่อแสดงความคิดเห็นเพื่อหาทางออกด้วยเป็นการขอบคุณอย่างยิ่ง
    ดิฉัน ปาริชาติ ประคองจิตร์ เพื่อนผู้เสียหายจากรถถูกยกใน ศปภ.เขียนรายงานเหตุการณ์ พร้อมกันนี้ดิฉันได้ส่งรูปภาพเหตุการณ์วันนั้นมาด้วยค่ะ
                                ปาริชาติ ประคองจิตร์

ตอบ คุณปาริชาติ
    ปัญหารถหายและรถจมน้ำท่วมที่ ศปภ.ดอนเมือง จะไม่เกิดขึ้นถ้านายกฯ  ยิ่งลักษณ์ ยอมรับว่าน้ำท่วมดอนเมืองและให้ประชาชนนำรถไปจอดที่อื่น ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นความรับผิดชอบเต็มๆ ของ ศปภ.และรัฐบาล เรื่องนี้ต้องฝากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยแก้ปัญหา ซึ่งควรจะช่วยเหลือประชาชนให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ใช่แค่รับเรื่องแล้วยุบ ศปภ.หนีความทุกข์ประชาชน


http://www.thaipost.net/news/031211/49086
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4646 เมื่อ: 05 ธันวาคม 2554, 10:56:37 »

 

ขณะนี้กำลังมีการถ่ายถอดพระราชพิธีมหามลคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ผ่าน ทีวี วงการเฉพาะกิจอยู่ครับ

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4647 เมื่อ: 05 ธันวาคม 2554, 11:11:00 »

"กูเกิ้ล" ทำโลโก้รูปธงไตรรงค์เฉลิมฉลองวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวามหาราช
วันที่ 05 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 10:30:30 น.



วันที่ 5 ธ.ค. เว็บไซต์สืบค้นข้อมูลระดับโลก หรือ กูเกิ้ล ได้ปรับโลโก้กูเกิ้ล (ประเทศไทย) เป็นรูปธงไตรรงค์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันชาติของไทย 5 ธันวาคม นอกจากนี้ ยังพบว่า เมื่อนำเมาส์ไปวางบนโลโก้ดังกล่าว จะมีข้อความ "เรารักประเทศไทย" ปรากฎขึ้น

 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1323055313&grpid=02&catid=&subcatid=
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #4648 เมื่อ: 05 ธันวาคม 2554, 13:20:55 »

ในหลวงมีพระราชดำรัสให้บริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ไม่แตกแยก

พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ.ค. 2554


    วันที่ 5 ธ.ค. เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราชไปยังพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ ประตูราชสำราญ รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่โถงล่างพระที่นั่งบรมสถิตยมโหฬาร
 
    เวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ออกพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในท้องพระโรงพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

    เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ไปทรงยืนเฝ้าฯ ที่แท่นหน้ามุขเด็จ พระที่จักรีมหาปราสาท พร้อมแล้ว เจ้าพนักงานรัวกรับและเปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

    ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึกประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด พระสงฆ์ทั่วราชอาณาจักรเจริญไชยมงคลคาถา ย่ำฆ้องกลองระฆัง พร้อมกับการประกอบพิธีกรรมของศาสนาอื่นๆ
 
    เมื้อสิ้นสุดเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพรแล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ จบแล้ว เสด็จฯไปเฝ้าฯ ณ ท้องพระโรงหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
 
    จากนั้น นายกรัฐมนตรีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร-พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ประธานรัฐสภา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนสมาชิกรัฐสภา ประธานศาลฎีกา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนข้าราชการตุลาการ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณาและกล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี

    การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ มีใจความให้คนไทยและเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานร่วมกันแก้ไขบรรเทาทุกข์ให้ผู้ประสบปัญหาน้ำท่วม รวมถึงบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนต่อไป
 

  "ท่านทั้งหลายที่ได้อยู่ ณ ที่นี้ ผู้อยู่ในหน้าที่ทั้งฝ่ายพลเรือน และทหารย่อมทราบแก่ใจอยู่ทั่วกันว่า ความมั่นคงของประเทศชาติจะเกิดมีขึ้นได้ ก็ด้วยประชาชนในชาติอยู่ดี มีสุขไม่มีทุกข์ยากเข็ญ

  ดังนั้น การสิ่งใดที่เป็นความทุกข์เดือดร้อนของประชาชน  ทุกคนทุกฝ่ายจึงต้องถือเป็นหน้าที่จะต้องร่วมมือกันปฏิบัติแก้ไขให้เต็มกำลัง  โดยเฉพาะขณะนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนลำบากจากน้ำท่วม จึงชอบที่จะร่วมมือกันปัดเป่าแก้ไข ให้ผ่านพ้นไปโดยเร็วและจัดทำโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน อย่างเช่น โครงการต่างๆ ที่เคยพูดไปนั้น  ก็เป็นการแนะนำไม่ใช่สั่งการ แต่ถ้าเป็นการปรึกษากันแล้วเห็นว่า เป็นประโยชน์คุ้มค่าและทำได้ก็ทำ

  ข้อสำคัญจะต้องไม่ขัดแย้งแตกแยกกัน อาจจะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน    เพื่อให้งานที่ทำบรรลุผลที่มีประโยชน์  เพื่อความผาสุขของประชาชนและความมั่นคง ปลอดภัยของประเทศชาติ

  ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครอง รักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัยและ อำนวยความสุขความเจริญแก่ท่านทั่วกัน "


 
    จากนั้นผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทั้งหมดถวายความเคารพ ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ประทับรถพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินการกลับ โดยมีประชาชนรอเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างเนืองแน่นตลอดเส้นทางที่เสด็จพระราชดำเนินผ่าน และเสด็จพระราชดำเนินถึง รพ.ศิริราช เวลาประมาณ 12.00 น.



      บันทึกการเข้า
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #4649 เมื่อ: 05 ธันวาคม 2554, 15:32:11 »

สุขสันต์วันพ่อแห่งชาติ
ขอให้คุณพ่อเหยงและคุณพ่อซีมะโด่งทุกๆท่านมีความสุขน่ะจ๊ะ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 184 185 [186] 187 188 ... 472   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><