เหยง 16
|
|
« ตอบ #4225 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2554, 11:40:05 » |
|
ข้อมูลน้ำที่จังหวัดนครสวรรค์ วันนี้ (พฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน 2554)
มวลน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์วันนี้ 3,140 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากเมื่อวานนี้อีก 92 ลบ.ม./วินาที
ระดับน้ำท่วมลดลงในวันนี้อีก 12 ซ.ม. โดย 18 วันที่ผ่านมา ระดับน้ำลดสะสม 107 ซ.ม.
รวมวันนี้เป็น 19 วัน ระดับน้ำลดลงทั้งหมด 119 ซ.ม.
หมายเหตุ ระดับน้ำลดต่ำกว่าตลิ่งรวม 48 ซ.ม. แต่ยังสูงพอจะท่วมพื้นที่แอ่งกระทะในเมืองได้
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4226 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2554, 14:46:21 » |
|
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4228 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2554, 21:59:39 » |
|
นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ฟื้นฟู จ.นครสรรค์ 5 พ.ย.นี้ วันพฤหัสบดีที่ 03 พฤศจิกายน 2011 เวลา 20:12 น. สุวิภา บุษยบัณฑูร ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ จะเดินทางไปที่ จ.นครสรรค์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับประชาชน และราชการ เอกชนทุกภาคส่วน หลังสถานการณ์น้ำท่วมลดลงเป็นปกติ รวมทั้งจะมีการประชุมร่วมกับข้าราชการในการฟื้นฟูเยียวยาจิตใจประชาชน โดยพิจารณาว่าอาจต้องใช้เวลานานในการเยียวยาเท่าไรอย่างไรอาทิ การช่วยเหลือครอบครัวละ 5 พันบาท และการซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบเป็นรายๆhttp://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=91370&catid=176&Itemid=524
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4229 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2554, 22:06:40 » |
|
ดร.มนตรี
วันนี้ได้ถอนเครื่องคูโบต้าพร้อมนาคขนาด 7 นิ้ว จำนวน2 เครื่องคืนเจ้าของไปแล้วครับ พร้อมให้ค่าตอบแทน อีกทั้งได้ถอนปั๊มน้ำดับเพลิง หน้า 3 นิ้วยี่ห้อ Honda จำนวน 4 เครื่อง เก็บเข้าโกดังแล้ว คงเหลือเครื่องยันม่าร์พร้อมนาค 8 นิ้ว ตั้งไว้เฉยๆ พร้อมจะเดินหากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา รวมทั้งวางปั๊มไดร์โว่ เพียง 3 ตัวไว้ประจำจุด โดยไม่ได้เดินเครื่องทุกตัว เนื่องจากน้ำลดลงมาก จึงปล่อยให้ลดลงเอง
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4230 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2554, 22:12:19 » |
|
ถามชาวหอเก่าทุกท่าน
ใครมีข่าวของคุณถาวร บ้าง เพราะกำหนดถึงสุวรรณภูมิในวันนี้
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #4231 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 08:31:33 » |
|
เป็นข่าวดีที่สุด ของเช้าวันนี้ ... ดีใจจังเลยครับ
น้องน้ำ หรือจะมาสู้ พี่เหยง
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #4232 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 08:34:44 » |
|
พี่สิงห์ ... น่าจะทราบนะครับ
ปล.
พี่ถาวร กลับมา ...แต่ผมไปต่อ ...
22-26 พ.ย. นี้ รับเชิญ ไปเกาหลี ครับ ... แม้น้ำจะท่วม ฝนจะแล้ง
ชีวิต ก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4233 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 09:09:02 » |
|
ดร.มนตรี
อวยพรล่วงหน้า "เดินทางปลอดภัย สนุกกับงานและการท่องเที่ยว"
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4234 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 09:10:06 » |
|
บ้านพี่สิงห์ อยู่ในซอยหลังการบินไทย น่าจะไม่แคล้ว น้ำไปเยี่ยมถึงบ้านในวันหรือสองวันนี้เป็นแน่
|
|
|
|
ดร.มนตรี
|
|
« ตอบ #4235 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 12:20:23 » |
|
|
|
|
|
ทราย 16
|
|
« ตอบ #4236 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 12:57:12 » |
|
น่าจะไปพักกะครอบครัว พี่สาวที่ชลบุรีน่ะ
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4238 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 16:08:25 » |
|
อจ.ทราย
ติดต่อได้แล้วครับ เมื่อเช้านี้เอง คุรถาวรกลับถึงเมืองไทยเมื่อเย็นวันวานนี้ โดยไปพักบ้านพี่สาวที่จังหวัดชลบุรี ตามที่คาดเอาไว้
ส่วนที่บ้านบางกรวย น้ำท่วมอยู่ในระดับ 1.20 เมตร โดยมีเพื่อนบ้านช่วยดูแลให้
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4239 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 16:12:30 » |
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4240 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 16:21:39 » |
|
ข้อมูลน้ำที่จังหวัดนครสวรรค์ วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2554
มวลน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ในวันนี้ 3,065 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากเมื่อวานนี้ 75 ลบ.ม./วินาที
ระดับน้ำท่วมลดลงในวันนี้ 10 ซ.ม. โดย 19 วันที่ผ่านมาระดับน้ำลดลงสะสมที่ 119 ซ.ม.
รวมวันนี้เป็น 20 วัน ระดับน้ำลดลงทั้งหมด 129 ซ.ม.หมายเหตุ: ระดับน้ำลดต่ำกว่าตลิ่งรวม 58 ซ.ม. แต่ยังท่วมในทุ่ง ไร่ นา และพื้นที่ลุ่มต่ำอยู่
|
|
|
|
|
Pete15
|
|
« ตอบ #4242 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 21:45:02 » |
|
เป็นความผิดพลาด ครั้งยิ่งใหญ่ ของผู้สื่อข่าว กิตติมศักดิ์อย่างท่าน เย้ง ที่รายงานข่าว ว่า "มีเพื่อนบ้านช่วยดูแลให้" ในระดับ 1.20 m เนี้ยนะ ต้องใช้ คําว่า " มีเพื่อนบ้านช่วยดูนํ้าให้ " ถึงจะน่าเชื่อถือ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4243 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 21:47:15 » |
|
สื่อฝรั่งอึ้ง! สิ่งประดิษฐ์แบบไทยๆ แสนมีประโยชน์ยามน้ำมา4 พฤศจิกายน 2554 14:45 น. คริสเตียนไซน์ มอนิเตอร์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - หากถามผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า เข้าห้องน้ำกันที่ไหน? คำตอบที่ได้รับอาจเป็น “โรงเรียนที่ตรงโน่น” “ถ่ายใส่ถุงพลาสติก” หรือคำตอบที่ไม่น่าเชื่ออย่าง “อั้นไว้” เว็บไซต์ข่าวคริสเตียนไซน์ มอนิเตอร์ เสนอรายงานวานนี้ (3) ถึงสิ่งประดิษฐ์แสนสร้างสรรค์ยามน้ำท่วมที่ช่วยตอบคำถามข้อนี้ได้
บ้านอาสาใจดี อีกหนึ่งเครือข่ายจิตอาสาบรรเทาอุทกภัยไทยที่สื่อต่างประเทศชื่นชม ในบทความเรื่อง “Thailand floods: floating toilets, makeshift jet skis, and doggie lifejackets” รายงานว่า ประชาชนไทยจำนวนมากต้องอาศัยอยู่กับน้ำสกปรกมานานหลายเดือน จากอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งคร่าชีวิตผู้ประสบภัยไปแล้วไม่ต่ำกว่า 400 ราย การต่อสู้รักษาพื้นที่แห้งยังคงดำเนินต่อไป จนกว่ามวลน้ำเหม็นเน่าปริมาณมหาศาล รวมทั้งขยะมากมายจะระบายออกสู่อ่าวไทย นั่นอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน ทว่า กิจวัตรประจำวันพื้นฐานของมนุษย์ เช่น การขับถ่ายของเสีย กำลังกลายเป็นเรื่องยากลำบากขึ้นทุกขณะ แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นต้องอยู่กับน้ำ ชาวไทยก็ระดมความคิดสร้างสรรค์ที่อยู่ในจิตวิญญาณ เพื่อสร้างอุปกรณ์ต่างๆ ที่ช่วยในการปรับตัวเข้าหาน้ำ จนแม้แต่สื่อในต่างประเทศยังต้องประหลาดใจ คอตโต้ บริษัทสุขภัณฑ์ห้องน้ำ ได้ออกแบบสุขาลอยน้ำที่ผู้ประสบภัยสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย และถูกสุขอนามัย ยิ่งไปกว่านั้น สุขลอยน้ำของคอตโต้มีระบบจัดการน้ำอัจฉริยะ โดยใช้เชื้อจุลินทรีย์บําบัด ก่อนระบายออก นอกจากนี้ เครื่องไม้เครื่องมือที่ชาวบ้านสร้างกันเองหลายชิ้นก็กลายเป็นที่กล่าวขานบนโลกอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่ “จักรยานสะเทินน้ำสะเทินบก” ที่สร้างมาจากถังกับจักรยาน ไปจนถึง “โฟมยกรถยนต์” หนีน้ำท่วม กระทั่ง “เสื้อชูชีพขวดพลาสติก” ซึ่งใช้เพียงเสื้อเก่าๆ ขวดพลาสติก และหนังยาง คนไทยจำนวนมากกำลังใช้อินเทอร์เน็ต เสาะหาวิธีเอาตัวรอดจากน้ำท่วม และแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน “บ้านอาสาใจดี” ศูนย์อาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ก็มีการจัดเวิร์คชอปผลิตอุปกรณ์ที่เป็นประโยชน์ในช่วงน้ำท่วมต่างๆ นานา ณ อาคารบรรษัทบริหารสินทรัพย์ (บบส.) ปากซอยพหลโยธิน 3 “คนไทยมีความคิดสร้างสรรค์เหลือล้นจากทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด มีการใช้ขวดน้ำ ท่อพลาสติก สร้างแพที่แข็งแรงมากๆ” ไบรอัน บีตตี้ อาสาสมัครชาวต่างชาติ ให้สัมภาษณ์ เขายังชื่นชมคนไทย ว่า มีความคิดสร้างสรรค์ดีเยี่ยม แม้เผชิญกับวิกฤตน้ำท่วม โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลสำคัญผ่านทางโซเชียลมีเดีย และคลิปตัวการ์ตูน ไบรอัน บีตตี้ เปิดเผยความรู้สึกในมุมมองของชาวต่างชาติ ว่า บรรดานักศึกษาเทคนิคยิ่งทำให้เขาประหลาดใจ ด้วยการสร้างอุปกรณ์ที่มีประโยชน์อย่างยิ่งจากข้าวของที่มีอยู่ในมือ “กลุ่มนักศึกษายังพยายามส่งต่อความรู้” เช่น การสร้างอุปกรณ์เตือนน้ำท่วมจากท่อพลาสติกและลูกปิงปอง เมื่อระดับน้ำสูงขึ้น ลูกปิงปองก็จะลอยขึ้น เปิดตัวส่งสัญญาณ บีตตี้กล่าวว่า “แทนที่จะต้องถ่างตาดูน้ำทั้งคืน เพราะเป็นกังวลว่าน้ำจะมาตอนคุณหลับ” อีเอ็มบอล (ภาพจากเฟซบุ๊กของบ้านอาสาใจดี) ณ ศูนย์ประสานงานของบ้านอาสาใจดี ยังมีการแจกจ่าย “ถุงจัดหนัก” สุขาเคลื่อนที่ฉุกเฉินที่ใช้เพียงขวดพลาสติกขนาด 1.5 ลิตร ตัดขอบให้เรียบ แล้วสวมถุงจัดหนักลงไป และมีการสอนทำ “อีเอ็มบอล” ช่วยบำบัดน้ำเน่า ทั้งนี้ คริสเตียนไซน์ มอนิเตอร์ กล่าวสรุปว่า ขณะที่รัฐบาลไทยคาดการณ์ปัญหาน้ำท่วมผิดพลาดมาตลอด ผู้ประสบภัยชาวไทยเริ่มหันเข้าหากลุ่มจิตอาสา เช่น บ้านอาสาใจดี หรือกลุ่มอื่นๆ และเริ่มพึ่งพาตนเอ เจ็ตสกีฝีมือคนไทย อีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ยามน้ำมา จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000140771
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4244 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 21:49:02 » |
|
ชอบภาพนี้มากครับ คิดได้ไง.... เอาปั๊มน้ำมาต่อเป็นเครื่องพ่นน้ำให้เรือวิ่งไปข้างหน้าได้ เจ็ตสกีฝีมือคนไทย อีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ยามน้ำมา
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4245 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 21:58:09 » |
|
เย็นวันนี้ออกไปที่ตลาดปากน้ำโพมาครับ ตลาดยังค่อนข้างเงียบเหงา ร้านจำนวนมากยังไม่สามารถเปิดค้า-ขายได้ เนื่องจากการเก็บทำความสะอาดยังไม่แล้ว ค่ำ่ลง ไฟหน้าบ้านจำนวนมากปิดมืดสนิท หลายบ้านยังบอกว่า น้ำประปายังไม่สะดวกนัก ภัตตาคารหงษ์ฟ้า เปิิดบริการอย่างแน่นขนัด ด้วยพรุ่งนี้ นายกฯปู-ยิ่งลักษณ์ จะไปที่นครสวรรค์ เพื่อสร้างโมเดลใหม่ในชื่อ "ปากน้ำโพโมเดล" ซึ่งเป็นการเก็บกู้เมืองหลังน้ำท่วม จึงมีพวกล่วงหน้ามาและรับเลี้ยงกันที่ภัตตาคาร
|
|
|
|
Pete15
|
|
« ตอบ #4246 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 21:59:04 » |
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4247 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 22:07:46 » |
|
เจแปนไทม์สชี้ รบ.ไทย-ญี่ปุ่น ล้วนรับมือภัยพิบัติ “ชุ่ย” ไม่สนคำเตือนนักวิชาการ31 ตุลาคม 2554 19:42 น. เจแปนไทม์ส/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เฉกเช่นภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิในญี่ปุ่น วิกฤตอุทกภัยไทยจะส่งผลสะเทือนต่ออุปทานและราคาของข้าว กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์ รวมทั้งรถยนต์ ในระดับโลก หนังสือพิมพ์เจแปนไทม์สรายงานวันนี้ (31) แต่คนจำนวนมากกลับตั้งคำถามว่า ใครคือผู้บริหารจัดการภัยพิบัติครั้งนี้กันแน่ ระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ผู้ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ทั้งที่ไร้ประสบการณ์ด้านการเมือง หรือการจัดการภัยพิบัติ ในฐานะประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่ง ไทยสูญเสียผลผลิตข้าวไปแล้ว 1 ไตรมาสในปีนี้ บริษัทต่างชาติ เช่น ฟอร์ด ฮอนด้า โตโยต้า นิคอน และ เวสเทิร์น ดิจิตัล ล้วนประสบภาวะชะงักงันในห่วงโซ่อุปทานโลก ขณะที่มวลน้ำยังคงท่วมนิคมอุตสหากรรม ซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่หลายพันโรง ท่ามกลางวิกฤตภัยพิบัติ ประชาชนทั่วเอเชียต่างเบื่อหน่ายกับสภาวะอัมพาตในประเทศของตนมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ภัยสึนามิ วันที่ 11 มีนาคม พรรคเดโมเครติก ปาร์ตี แกนนำรัฐบาลญี่ปุ่น ต้องดิ้นรนผลักดันนโยบาย โดยมีแรงต้านจากข้าราชการที่ยังภักดีต่อพรรคลิเบรัล เดโมเครติก ปาร์ตี (แอลดีพี) ซึ่งเป็นรัฐบาลมายาวนานเกือบ 54 ปี ต่อมา ด้วยข้อครหาการรับมือวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะที่ผิดพลาด นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง จำต้องประกาศลาออก หลังคะแนนนิยมตกต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคะแนนนิยมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ตกต่ำเช่นกัน ด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของพรรคเพื่อไทยมาจากชาวนาและชนชั้นรากหญ้าผู้ยากจน ท่ามกลางตัวเลือกที่น่าหนักอก รัฐบาลยิ่งลักษณ์เลือกสละพื้นที่ชนบท และปริมณฑลทางเหนือของกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันพื้นที่ชั้นใน แม้นายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะออกโทรทัศน์เรียกร้องการปรองดอง แต่ก็ยังถูกถางถางที่เคยรับประกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่า กรุงเทพฯ ไม่ท่วมแน่นอน หรือการสวมรองเท้าบูตเบอร์เบอร์รีราคาแสนแพงลุยน้ำท่วมย่านคนยากจน ทักษิณเป็นผู้สั่งการทีมทำงานแก้วิกฤตน้ำท่วมตัวจริง จากนครดูไบ ที่อยู่ห่างออกไป 5,000 กิโลเมตร เสียงวิจารณ์อีกมากยังกล่าวโทษทักษิณ ว่า เป็นต้นเหตุของน้ำท่วมใหญ่ โดยทักษิณได้ประโยชน์จากการสร้างเขื่อน การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า การสร้างนิคมอุตสาหกรรม และการตั้งหมู่บ้านจัดสรรในพื้นที่การเกษตรที่ควรเป็นแก้มลิงรองรับมวลน้ำฝน หนังสือพิมพ์เจแปนไทม์ส รายงานอ้างถึงสื่อไทย ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เคยกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีหญิงมือใหม่คนนี้ ว่า มัวแต่สนใจกับการปูทางพาทักษิณกลับบ้าน จนเพิกเฉยต่อคำเตือนของนักวิชาการ กรณีปริมาณน้ำฝนที่มากกว่าปกติราว 25 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลไม่ใส่ใจที่จะปล่อยน้ำจากเขื่อนที่มีปริมาณน้ำสะสมจำนวนมากตั้งแต่เดือนกรกฎาคม หลังจากนั้น ทางการยังขาดการจัดการระบบการระบายน้ำที่ดี มิหนำซ้ำ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนอื่นๆ ยังออกมาส่งสัญญาณผิดๆ หรือปิดบังข้อมูลที่ประชาชนควรรู้ ขณะที่นักการเมืองมักถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่เหล่าข้าราชการ ผู้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ต้องเป็นผู้บริหารจัดการอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ หรือล้มเหลวของรัฐบาล นักการเมืองญี่ปุ่นพยายามรักษาหน้า ข้าราชการจังหวัดอิวาเตะ หนึ่งในพื้นที่ประสบภัยสึนามิ ขัดขวางไม่ให้แพทย์ หรืออาสาสมัครเข้าพื้นที่ หากไม่มีคำสั่งจากเบื้องบน ท่ามกลางความกังวลเรื่องอาหารปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น เคยแถลงข่าวว่า ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการปนเปื้อน เพราะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน แต่ไม่นานหลังคำแถลงรับประกัน ก็มีการตรวจเจออาหารปนกัมมันตภาพรังสี และพบจุดเปื้อนกัมมันตภาพรังสีมากกว่า 20 จุด ทั่วญี่ปุ่น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะนักแผ่นดินไหววิทยา ต่างไม่พอใจรัฐบาลที่เพิกเฉยต่อคำเตือนถึงประวัติศาสตร์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ บริเวณชายฝั่งจังหวัดฟูกูชิมะและพื้นที่ใกล้เคียง เช่นเดียวกับประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญจากกรมชลประทานก็รู้สึกไม่ต่างกับผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่น หลังจากเคยเตือนนักลงทุนถึงภัยในการก่อสวนอุตสาหกรรมในพื้นที่น้ำท่วมถึง การชักเย่อระหว่างนักการเมือง กับข้าราชการ ทำให้ทหาร-ตำรวจ ต้องมาแบกปัญหาหนักไว้ทั้งหมด ช่วงเกิดภัยสึนามิ ทหารญี่ปุ่นสามารถช่วยชีวิตผู้ประสบภัยจากอาคารต่างๆ ไว้หลายพันชีวิต ขณะที่ โยชิฮิโระ มูราอิ ผู้ว่าราชการจังหวัดมิยางิ ได้รับเสียงชื่นชมจากคนทั้งญี่ปุ่น ประเทศที่เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี 6 คน ในรอบ 5 ปี ส่วนทหารไทยก็ได้รับการเสียงขอบคุณจากประชาชนที่ทุ่มเทสร้างพนังกั้นน้ำ เติมกระสอบทราย และช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างสุดความสามารถ แม้มีเสียงนกเสียงกาป่าวร้องให้ระวังการรัฐประหาร อีกด้านหนึ่ง ประชาชนก็ร่วมด้วยช่วยกันกับกลุ่มอาสาต่างๆ โดยไม่อาศัยความช่วยเหลือจากทางการ โลกแห่งการสื่อสารสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที โดยไม่มัวรีรอความเมตตาจากรัฐบาลที่บริหารงานผิดพลาดจาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000138798
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4248 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 22:16:20 » |
|
สื่อนอกซูฮก! “รู้สู้ flood” กับคลิปวาฬสีน้ำเงิน แจงอุทกภัยไทย ชัดเจนกว่ารัฐบาล1 พฤศจิกายน 2554 19:13 น. วอลล์สตรีทเจอร์นัล/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ผู้ประสบภัยอุทกภัยในประเทศไทยต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันมานานหลายสัปดาห์ กรณีการขาดแหล่งข้อมูลที่ชัดเจน และเชื่อถือได้ ขณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลก็รายงานข้อมูลกันไปคนละทิศคนละทาง จนประชาชนแทบจะไม่อยากรับฟังข่าวสารจากทางภาครัฐ ดังนั้น ผู้คนจำนวนมากจึงหันไปพึ่งแหล่งข้อมูลอื่นๆ โดยเฉพาะชุดวิดีโอแอนิเมชันสุดสร้างสรรค์ที่ได้รับความนิยมบนโลกออนไลน์ ด้วยการใช้ “วาฬสีน้ำเงิน” เป็นสัญลักษณ์อธิบายปัญหาอุทกภัยไทย วิดีโอชุดนี้ตราตรึงใจสาธารณชนทั่วไป เนื่องจากมีการรวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์ ชัดเจน และมีวิธีเล่าเรื่องที่สนุกสนาน คลิปแอนิเมชัน ตอนที่ 1 อธิบายถึงปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลที่ยังไม่สามารถระบายออกจากพื้นที่รอบๆ กรุงเทพฯ คลิปนี้มีผู้เข้าชมแล้วมากกว่า 750,000 ครั้ง ตั้งแต่อัปโหลดขึ้นเว็บไซต์ยูทิวบ์ วันที่ 25 ตุลาคม ขณะเดียวกัน ทางเฟซบุ๊กก็มีผู้กด “ถูกใจ” แล้วมากกว่า 78,000 ครั้ง แอนิเมชันตอนแรกความยาว 5 นาที อธิบายถึงกระบวนการที่ฝนตกหนัก จนก่อมวลน้ำปริมาณมหาศาล ซึ่งได้รับการเปรียบเทียบกับน้ำหนักของ “วาฬสีน้ำเงิน 50 ล้านตัว” วาฬยิ้มร่าตาแป๋วฝูงนี้แหวกว่ายลงมาตามแผนที่ประเทศไทย แสดงถึงความต้องการลงสู่ทะเลเต็มแก่ กระทั่งออกแรงดันคันกั้นน้ำที่ขวางหน้า “ดังนั้น สิ่งที่เราทำได้ดีกว่าตอนนี้ คือ ตั้งสติ และตั้งคำถามว่า เราจะเตรียมตัวอย่างไร ให้เราไม่ตกเป็นผู้ประสบภัย แม้จะอยู่ในภาวะน้ำท่วม” เสียงบรรยายใน “รู้สู้ flood ep.1: รู้จักน้ำท่วมให้มากขึ้น” เตือนสติผู้ชม คลิปแอนิเมชันตอนอื่นๆ มีการปรับมาใช้มนุษย์หัวโตเป็นตัวละครหลัก อธิบายวิธีประเมินสถานการณ์เบื้องต้น โดยคำนวณจากระดับน้ำทะเล และเสนอคำแนะนำวิธีเอาตัวรอด เมื่อน้ำท่วมบ้าน นอกนั้น ยังมีคำแนะนำเรื่องสุขภาพ เช่น วิธีการหลีกเลี่ยงน้ำสกปรกด้วยการแต่งกายที่มิดชิด สวมรองเท้าบูท หรือใช้ถุงพลาสติกแทน กรณีที่ไม่มีรองเท้าบูต ชุดวิดีโอแอนิเมชัน “รู้สู้ Flood” นำทีมการผลิตโดย นายธวัชชัย แสงธรรมชัย ผู้รวบรวมกลุ่มอาสาสมัครในแวดวงแอนิเมชันในชื่อ “กลุ่มรู้สู้ Flood” ซึ่งทำงานร่วมกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โดยมีนักวิชาการคอยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล จอน รัสเซลล์ บรรณาธิการเอเชีย ที่ปักหลักในประเทศไทยของ “เดอะ เน็กซ์ เว็บ” (The Next Web) เว็บไซต์ข่าวสารเทคโนโลยีระหว่างประเทศ ให้เหตุผลที่วิดีโอชุดนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ว่า เป็นเพราะสามารถเติมเต็มความต้องการข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือได้แก่ประชาชน ขณะที่รัฐบาลเคยรับประกันครั้งแล้วครั้งเล่าว่า “เอาอยู่ๆ” เพียงเพื่อจะได้เห็นคนบางคนออกมาประกาศว่า รับมือไม่ไหว ในทางตรงกันข้าม วิดีโอชุดนี้ไม่มีถ้อยคำที่ไร้สาระ และอธิบายข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา รู้สู้ flood ep.1: รู้จักน้ำท่วมให้มากขึ้น จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9540000139335
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #4249 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2554, 22:42:30 » |
|
พื้นที่"ไข่ขาว"จ่อวิกฤต "ขาใหญ่"ทำคนฝั่งธนฯอ่วม วันที่ 04 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 15:24:59 น.
ในขณะที่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำโดย ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ประโคมข่าว-ให้ความหวังอยู่ตลอดเวลาว่าจะระดมทุกสรรพกำลังป้องกันพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ชั้นใน ในฐานะพื้นที่ "ไข่แดง" ของประเทศเอาไว้ให้ได้
คน กทม.ทั้ง 50 เขต จึงคาดหวังไปว่ากลางมหาอุทกภัยครั้งนี้จะยังสามารถใช้ชีวิตตามปกติ-เดินตัวแห้งต่อไปได้
แต่เมื่อพ้นช่วงวิกฤตน้ำทะเลหนุนสูงสุดปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แล้วความจริงปรากฏว่า พื้นที่ที่รัฐบาล-ศปภ. สามารถ "เอาอยู่" มีเพียง กทม.ชั้นในไม่กี่เขตเท่านั้น
ขณะที่พื้นที่ กทม.ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกส่วนใหญ่ กลายเป็น "ไข่ขาว" ที่ภาครัฐรับมือพอเป็นพิธี
ไม่น่าแปลกใจที่เขตสายไหม หนองจอก มีนบุรี ในเวลานี้ ต้องรับน้ำที่ถูกบิดเบือนไม่ให้วิ่งตามธรรมชาติ หรือไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ นั่นคือ เขตหลักสี่ จตุจักร ดินแดง ไปเต็มๆ
จนถูกวิจารณ์เรื่องแบ่งแยกแล้วปกครอง-2 มาตรฐาน-เกิดโซน "ไพร่" และ "อำมาตย์" ในทางปฏิบัติ
กรณีชาวบ้านเขตคลองสามวามารวมตัวกันกดดันให้รัฐบาลเปิดประตูระบายน้ำ ส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากการความอัดอั้น-ไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดทั้งๆ อยู่ในเมืองหลวงเหมือนกัน แต่กลับ "ท่วมไม่เท่ากัน"
ที่หนักไปกว่า กทม.ฝั่งตะวันออกไกล คือ กทม.ฝั่งตะวันตก หรือฝั่งธนบุรี ในพื้นที่ซึ่งชาวบ้านแอบเย้ยหยันตัวเองว่าเป็น "ลูกเมียน้อย" ที่เวลานี้ต้องเผชิญกับมวลน้ำมหาศาลก้อนเดียวกันกับที่เคยทำให้ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จมบาดาลในชั่วข้ามคืน
เหตุที่ชาวฝั่งธนฯรวมถึงคนจังหวัดใกล้เคียง ทั้ง จ.นครปฐม และสมุทรสาคร ต้องนอนหวาดผวากับน้ำทุ่งที่มีปริมาตร 2,700 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่เตรียมไหลหลากมาอย่างเงียบเชียบ เพื่อกลืนกินชีวิตประจำวันของพวกเขา
เรื่องนี้เชื่อกันว่า มีนักการเมืองขาใหญ่ต้องนอนสะดุ้ง 2 คน
โดยนักการเมืองที่เป็นรัฐมนตรีที่มีบทบาทสำคัญ ใน ศปภ. ซึ่งน่าจะไม่พอใจพฤติกรรมของนักการเมืองขาใหญ่อีกคนที่ไม่ยอมระบายน้ำ ได้ตัดสินใจเปิดประตูระบายน้ำสำคัญแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ตามคำแนะนำของนักวิชาการ เป็นเหตุให้น้ำทะลักเข้ามาใน จ.ปทุมธานี และนนทบุรีอย่างควบคุมไม่ได้
ผลสุดท้ายจึงลงเอยที่หายนะ! ไม่เพียงพฤติกรรมของนักการเมืองบางคน สภาพพื้นที่ฝั่งธนฯยังต่ำด้วยทำให้ประสิทธิภาพการเทน้ำทิ้งทะเลด้อยกว่าอีกฝั่งอย่างเห็นได้ชัด เพราะมีเพียงคลองพระยาบันลือ คลองพระพิมล และคลองมหาสวัสดิ์ ที่คอยขวางทางและส่งน้ำไปยังแม่น้ำท่าจีน สภาพพื้นที่ซึ่งยังเป็นทุ่งและสวน
ถึงขนาด ธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ จากพรรคชาติไทยพัฒนา ยอมสารภาพว่า เมื่อได้ท่วมแล้ว กว่าที่ กทม.ฝั่งเมืองหลวงเก่าจะแห้ง อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 40 วัน เพราะแม่น้ำท่าจีน มีศักยภาพในการระบายน้ำเพียงวันละ 40-50 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทำให้ รมว.เกษตรฯหลุดปากถามกลางวง ครม.ว่า "สะใจหรือยัง?" ก่อนเสนอตัวเข้ามาดูแลพื้นที่ "ไข่ขาว" ด้วยตนเอง
แม้สถานการณ์จะร้ายแรงเข้าขั้นวิกฤต แต่ดูเหมือน แกนนำรัฐบาล-ศปภ.กลับไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าที่ควร เห็นได้จากการให้สัมภาษณ์ของนายกฯที่พูดถึงพื้นที่ "กทม.ฝั่งลูกเมียน้อย" นี้แบบผ่านๆ ต่างกับ "กทม.ฝั่งลูกเมียหลวง" ที่อธิบายอย่างละเอียดยิบ
ผู้สันทัดกรณีวิเคราะห์แรงจูงใจทางการเมืองว่า อาจมาจากการที่ ส.ส.กทม.ฝั่งธนบุรีทั้ง 9 คน ไม่มี ใครสวมเสื้อแดงติดตรา "เพื่อไทย" แม้แต่คนเดียว ทำให้เครื่องไม้เครื่องมือในพื้นที่เหล่านี้ด้อยกว่าพื้นที่ที่มี ส.ส.พท.อยู่หลายเท่าตัว กระทั่งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ยังถูกดึงไปช่วยระบายน้ำอีกฝั่งจนหมด
ไม่ว่าข้อวิเคราะห์ดังกล่าวจะมีมูลความจริงกี่เปอร์เซ็นต์ แต่เป็นความเห็นที่สะกิดใจ "ผู้ตกทุกข์" ฝั่งธนฯ เข้าเต็มๆ
สิ่งที่รัฐบาลโดย ศปภ.ต้องทำคือให้ความสำคัญกับพื้นที่นี้มากขึ้น ก่อนที่วันเพ็ญเดือนสิบสอง "น้ำจะนองเต็มตลิ่ง" ในเทศกาลลอยกระทงจะมาถึง
เพราะถึงเวลานั้น น้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้ง ที่เคยจมระดับเข่า-เอว อาจจะพุ่งไปที่ระดับอก-หัว จนเป็นไปได้ที่อาจมีคนจมน้ำตายในบ้านพักของตัวเอง
อย่าแบ่งแยกการช่วยเหลือคน กทม.เป็นโซนไพร่-โซนอำมาตย์ หรือเลือกปฏิบัติ 2 มาตรฐานแบบที่เคยใช้โจมตีรัฐบาลชุดก่อนๆ เพราะจะทำให้วาทกรรมดังกล่าวย้อนกลับมาถล่ม-ทลายรัฐบาลเสียเอง!!!
|
|
|
|
|