23 พฤศจิกายน 2567, 04:13:12
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 42 43 [44] 45 46 ... 472   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ  (อ่าน 2591445 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 54 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1075 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2553, 09:53:46 »

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 53 อากาศร้อนอบอ้าว เมฆมาก ยังกับว่าจะมีฝนตกและเห็ดโคนออก...นี่เป็นเพราะอากาศแปรปรวน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1076 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2553, 10:46:36 »

ทุกภาคทั่วไทยมีฝนเป็นแห่งๆจนถึงฝนฟ้าคะนอง
14 ธันวาคม 2553 05:45 น.

 
       กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันอังคารที่ 14 ธันวาคม 2553 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อน ทำให้มีลมใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ส่งผลให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนเกิดขึ้นได้
       
        สำหรับในช่วงวันที่ 15-19 ธ.ค. นี้ จะมีความกดอากาศสูงหรือ มวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรกหลังจากนั้นอากาศจะเย็นลง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นในระยะนี้
       
        พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

        ภาคเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และ เพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
       
        ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศา และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
       
        ภาคกลาง มีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด ประมาณ 23-24 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
       
        ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
       
        ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และ สงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
       
        ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
       
        กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000175395
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1077 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2553, 11:44:21 »

อดึตทหารญี่ปุ่นยุคนานกิง ใช้ชีวิตเพื่อคนจีนจนวันตาย
14 ธันวาคม 2553 07:34 น.


  สำหรับคนทั่วไป ไม่มีใครทราบเลยว่าชายชราผู้เป็นหมอคนนี้คือทหารผ่านศึกญี่ปุ่น ที่ยังคงอยู่ในจีนนับแต่สงครามต่อต้านญี่ปุ่นยุติไปแล้ว (ช่วงปี พ.ศ. 2480 - 2488) ไม่มีใครทราบแม้แต่บุตรสาวของเขาเอง (ภาพไชน่าเดลี) 


       ในช่วงสัปดาห์เดียวกับกระแสข่าวพิธีมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพนั้น มีข่าวการร่วมไว้อาลัยอย่างเงียบๆ ของชาวเน็ตจีน กับการจากไปของหมอจีนวัยชราในเมืองจี่หนันคนหนึ่ง เขาชื่อหมอซัน ผู้จากไปในวัย 103 ปี การเสียชีวิตของเขาไม่ได้เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ใดๆ จนกระทั่งข่าวแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ผู้คนจึงร่วมกันเขียนไว้อาลัย
       
       หมอยาจีนที่ชื่อ ซัน ในจี่หนันผู้นี้ เดิมในอดีตเคยเป็นทหารญี่ปุ่นที่รบในปฏิบัติการ สะพานมาร์โค โปโล (Marco Polo Bridge Incident หรือ 卢沟桥事变) เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2480
       
       ชีวิตของเขาเคยได้รับการเสนอเป็นสารคดีข่าวในไชน่าเดลีย์ เมื่อปีที่แล้ว ก่อนเสียชีวิตหนึ่งปี ซึ่งหมอซัน ในวัย 102 ปีนั้นได้ให้สัมภาษณ์บอกเล่าเรื่องราวชีวิตในอดีตของเขาว่า มีชื่อจริงคือฮิโรชิ ยามาซากิ ซึ่งได้เปลี่ยนเป็น ซัน ในเวลาต่อมา และใช้ชีวิตเป็นหมอรักษาผู้ป่วยอยู่ที่เมืองจี่หนันมานานกว่า 70 ปีแล้ว
       
       "ผมเคยประจำการเป็นแพทย์อยู่อยู่นาน 6 เดือนในกองทัพญี่ปุ่น เข้าปฎิบัติการรบในศึกสะพานมาร์โค โปโล ก่อนที่จะหนีทัพ และตัดสินใจใช้ชีวิตในจีนเพื่อชดใช้คืนในสิ่งที่กองทัพญี่ปุ่นได้เคยก่อไว้" ยามาซากิกล่าวกับนักข่าวจีนเมื่อปีที่แล้ว
       
       ศึกสะพานมาร์โค โปโล คือการรบระหว่างกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นกับกองทัพคณะปฏิวัติแห่งชาติจีน ซึ่งนักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ถือเอาว่า เป็นจุดแตกหักที่ทำให้เกิดสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง (พ.ศ. 2480-2488)
       
       โดยหลังจากการศึกที่สะพานมาร์โค โปโล กองทัพญี่ปุ่นซึ่งยามาซากิประจำอยู่ ก็เคลื่อนบุกตีเซี่ยงไฮ้ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของจีนในเดือนถัดมา และเพื่อให้บรรลุภารกิจยึดจีนให้ได้ภายใน 3 เดือน กองทัพญี่ปุ่นจึงส่งกำลัง 3 เหล่าทัพ พร้อมเครื่องบินทิ้งระเบิดเข้าถล่มนานกิง
       
       นานกิง (หรือ หนานจิง) เมืองหลวงของจีนในเวลานั้นและยังเป็นที่ตั้งสุสานของดร.ซุนยัดเซ็น ถูกกองทัพญี่ปุ่นบุกขยี้จนเจียงไคเช็กต้องถอยทัพหนีไปที่ ฉงชิ่ง ทิ้งพลเมืองเกือบ 1 ล้านคน กับกำลังทหารป้องกันนานกิงเพียงไม่กี่หมื่นคน กระทั่งนานกิงแตกเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ.1937 และแปรสภาพกลายเป็นทุ่งสังหารหมู่ของปีศาจสงคราม

 

       "ฝูงปีศาจ"
       ประวัติศาสตร์นานกิงบันทึกว่า ทหารญี่ปุ่นทำลายทุกสิ่ง และทุกชีวิตที่ขวางหน้า ฆ่า ปล้น ชิง เผา ข่มขืน ทรมาน ชาวนานกิงทั้งเมืองอย่างวิปริต ยิงเป้า ตัดคอ แขวนคอ ตัดแขน-ขาทั้งสี่ ตัดอวัยวะเพศ ฝังและเผาทั้งเป็น บังคับให้ลูกชายข่มขืนแม่ พ่อข่มขืนลูกสาว
       
       ยามาซากิ ซึ่งประจำการเป็นแพทย์ทหารในกองกำลังที่ถูกเรียกว่า "ฝูงปีศาจ" นี้ ไม่อาจทนดูความวิปริตที่เพื่อนทหารของตนกระทำต่อชาวเมืองผู้ไร้ทางต่อสู้ ที่สุดจึงได้หาทางหลบหนีออกจากค่าย และเดินเท้าไปจนถึงซานตง โดยความตั้งใจว่าจะหาทางข้ามทะเลกลับไปยังประเทศญี่ปุ่น
       
       "แรกเริ่มเดิมที ผมไม่เคยคิดจะเป็นทหาร แต่ด้วยเหตุที่รัฐบาลญี่ปุ่นออกกฎหมายบังคับให้ทุกครอบครัวต้องส่งลูกชายหนึ่งคนเข้าเกณฑ์ไปรบ ดังนั้น เพื่อไม่ให้พี่ชายที่เพิ่งแต่งงานมีครอบครัวต้องเสี่ยงชีวิต ผมซึ่งเป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัว ตอนนั้นอายุ 31 ปี ทำงานเป็นแพทย์และยังไม่มีครอบครัว จึงรับหมายเกณฑ์มาเป็นทหาร"
       
       ยามาซากิถูกส่งตัวไปประจำการอย่างเร่งด่วน ในกองพลที่ปฏิบัติการรบบนสะพานมาร์โค โปโล ตลอดเวลา 6 เดือน หลังจากศึกครั้งนั้น เขาได้พบเห็นเพื่อนทหารญี่ปุ่นกลายสภาพเป็นปีศาจสงคราม สังหารผู้คนเพื่อความบันเทิง ครั้งหนึ่งเขาเห็นเด็กทารกชาวจีนถูกทหารญี่ปุ่นกระหน่ำแทงด้วยดาบปลายปืนอย่างสนุกสนานเหมือนแทงกระสอบซ้อมมือ ยามาซากิ พยายามเข้าไปยับยั้งความบ้าคลั่งและช่วยชีวิตทารกน้อยคนนั้น แต่สายเกินไป
       
       "เหตุการณ์นั้นทำให้ผมตัดขาดจากกองทัพ" ยามาซากิพูด และเล่าว่า ผมวางแผนหนีทัพในกลางดึกของคืนนั้น และเดินเท้ามุ่งหน้าไปทางชายฝั่งตะวันออก เพื่อหาทางกลับญี่ปุ่น แต่ด้วยความที่ไม่ได้กินอาหาร เป็นเวลา 4 วัน 4 คืน ในที่สุดก็ล้มหมดสติไป"
       
       "ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่า ตนเองอยู่ในบ้านของชาวนาจีนแก่ๆ ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งช่วยชีวิตและให้ที่พักกับอาหาร เมื่อผมสามารถลุกเดินได้ คู่สามีภรรยาวัยชรา ให้เสื้อผ้าชุดใหม่กับผม มันเป็นชุดใหม่ๆ สะอาด ชุดเดียวที่พวกเขามีอยู่ ผมมองดูเสื้อผ้านี้ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทำได้เพียงแค่โค้งคำนับเขา
       
       "นอกจากนั้น พวกเขายังยอมสละแป้งข้าว ที่มีสำรองเพียงน้อยนิดมาทำอาหารให้ผมเก็บไว้กินตอนเดินทาง"
       
       ยามาซากิ หวนรำลึกภาพครอบครัวนี้ครั้งใด ก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตา
       "พวกเขารู้ทั้งรู้ว่าผมเป็นทหารญี่ปุ่น แต่ก็ยังช่วยชีวิตผม"
       
       ยังมีคนจีนอีกหลายคนที่ช่วยยามาซากิตลอดการเดินทาง ซึ่งในที่สุด ก็เดินไปจนถึงเมืองจี่หนัน เขาเปลี่ยนชื่อของตน เป็น ซัน ระหว่างที่รอข้ามทะเลกลับญี่ปุ่น เขาได้งานเป็นคนเฝ้าโกดังเก็บเสบียงของกองทัพญี่ปุ่นที่สถานีรถไฟ
       
       ที่นี่ ยามาซากิ ได้เห็นความลำบากของคนจีน เขาแอบเปิดประตูให้คนงานจีนขโมยอาหารประทังชีวิต รวมถึงเสบียงยังชีพอื่นๆ กระทั่งถูกจับได้ จึงโดนสอบสวนโบยตีอย่างทรมาน แต่เขาไม่ยอมเอ่ยปากซัดทอดหรือเป็นพยานว่ามีคนงานจีนคนไหนที่เกี่ยวข้อง
       
       การยอมรับโทษเพียงลำพังในครั้งนั้น ทำให้คนงานจีนรู้สึกถือเขาเสมือนหนึ่งเป็นพี่ชาย ถึงขนาดที่มีเพื่อนจีนคนหนึ่งได้แนะนำหญิงจีนให้เขารู้จัก เธอซึ่งต่อมาได้สมรสเป็นคู่ชีวิตเขา

ฮิโรชิ ยามาซากิ วัย 101 ปี กับครอบครัวเด็กจีน ในคลีนิคของเขาที่จี้หนัน มณฑลซานตง

       "เส้นทางสายใหม่"
       ที่จี่หลินนี้ ยามาซากิ ได้ตัดสินใจว่าจะประยุกต์ความรู้ทางการแพทย์ที่ตนมี และศึกษาเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนอย่างคร่ำเคร่ง เพื่อเปิดคลีนิคหมอรักษาผู้ป่วยชาวจีนที่ยากจนโดยไม่คิดค่ารักษา และไม่ยอมกลับญี่ปุ่นอีกเลยแม้ว่าสงครามระหว่างจีน - ญี่ปุ่นจะยุติไปแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2488
       
       "หลังจากที่กองทัพคอมมิวนิสต์สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ในปี 2492 ผมได้ฟังเสียงของประธานเหมา เจ๋อตง ที่ประกาศว่าจะดำเนินนโยบายอย่างเป็นมิตรกับชาวต่างชาติทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน ในเวลานั้น ผมรู้สึกตื้นตัน"
       
       ยามาซากิได้งานในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาเก็บเงินเดือนให้กับผู้ยากจนอื่นๆ เขาไม่เคยพูดกับใครเกี่ยวกับความหลังของตนเอง แม้กระทั่งครอบครัว โดยบุตรสาวของเขาเพิ่งจะรู้ว่าพ่อของตนเคยเป็นใคร ก็เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้เอง หลังจากที่บังเอิญไปได้ยินชายคนหนึ่งซึ่งพ่อเขาเคยช่วยรักษาเมื่ออดีต 40 ปีก่อน
       
       แต่ไม่ว่าจะนานเพียงใด ยามาซากิ ไม่เคยลืมความจริงที่เขาเก็บไว้ข้างในเงียบๆ นั่นคือความทารุณที่ทหารญี่ปุ่นได้เคยทำไว้
       
       หลังจาก 40 ปี ที่เข้ามาเหยียบแผ่นดินจีนพร้อมกับกองทัพจักรพรรดิ์ ยามาซากิ ได้กลับไปประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2519 สี่ปีหลังจากที่จีนกับญี่ปุ่นได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการทูต
       
       "แม้ว่า ครอบครัวของผมที่ญี่ปุ่นจะดีใจมากและต้องการให้ผมกลับมาอยู่ในญี่ปุ่น ผมก็ได้แต่บอกครอบครัวว่า ประเทศจีนคือบ้านของผมแล้ว ผมต้องกลับบ้าน"
       
       ในปีนั้น ยามาซากิทราบข่าวว่า เมืองทากิโมโต บ้านเกิดของเขา ในญี่ปุ่น ต้องการที่จะสานมิตรภาพระหว่างเมืองกับเมืองจี่หนัน เขาจึงอาสาทำงานในโครงการนี้
       
       ยามาซากิ เขียนจดหมายไปถึงนายนากาโซเน่ ยาสุฮิโร นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในเวลานั้น ถึงแผนงานของเขา และได้รับจดหมายตอบกลับมาจากนายกฯ
       
       ซึ่งในที่สุดด้วยการร่วมปฏิบัติงานของเขา ทำให้การกระชับความสัมพันธ์ของสองเมืองนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดีในปี พ.ศ. 2526 และเขาได้รับจดหมายแสดงความขอบคุณจากทางการทั้งสองเมือง
       
       "ยามาซากิ บอกว่า นี่คือสิ่งดีๆ สิ่งเดียวในชีวิตที่ผมรู้สึกว่าทำสำเร็จ"
       
       ในความจริง ยามาซากิผู้เงียบขรึม ได้ทำมากกว่าที่เขาพูด ทุกๆ ปี ยามาซากิจะอุทิศเงินสวัสดิการที่ตนได้รับจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้กับชาวจีน เขายังได้สอนภาษาญี่ปุ่นให้กับนักเรียนจีนที่สนใจ โดยไม่คิดเงินทอง และออกเดินทำงานกวาดถนนหนทางสาธารณะรอบๆ ที่พักของตน ทุกวัน ตลอด 20 ปีที่ผ่านมานี้
       
       เขายังอุทิศหนังสือและอุปกรณ์การแพทย์ที่ซื้อมาจากญี่ปุ่นจำนวนมากแก่ห้องสมุดและโรงพยาบาลที่ยากไร้ในเมืองจี่หนัน โดยไม่มีของฝากอะไรจากญี่ปุ่นแก่ครอบครัวตัวเองเลย
       
       เขาเชื่อว่า หนทางที่ดีที่สุดที่จะขอโทษ และชดใช้กับความรู้สึกผิดที่ตนและทหารญี่ปุ่นในครั้งนั้นได้เคยทำไว้ มีแต่เพียงการชดใช้ด้วยการทำความดีต่อคนจีนให้มากยิ่งๆ ขึ้นไปเท่านั้น
       
       เมื่อล่วงสู่วัยชรา บรรดาผู้คนที่เคยรู้จักอดีตของเขาเริ่มสูญหายตายจากไปเกือบหมด จนแทบไม่มีใครรู้จักยามาซากิ ทหารญี่ปุ่นคนนี้อีกต่อไป
       
       เส้นทางที่ยามาซากิตั้งใจเมื่อแรกหนีทัพกลับญี่ปุ่นนั้น ได้เปลี่ยนเป็นทางสายใหม่ ซึ่งนำไปสู่การอุทิศตนเพื่อชดใช้และสร้างสันติภาพ
       
       ยามาซากิ วัย 103 ปี เสียชีวิตอย่างสงบด้วยชราภาพ ในวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมานี้ โดยเมื่อครั้งที่เขายื่นคำร้องขอทำบัตรประจำตัวจากทางการจีนนั้น ยามาซากิได้ระบุแนบท้ายไว้ว่า "เมื่อผมตาย ผมขออุทิศร่างกายเพื่อเป็นประโยชน์ทางการแพทย์แก่ชาวจีน โปรดได้รับร่างกายนี้ไว้ด้วย"
[/size]




"ตราบใดที่ดวงจันทร์ยังทอแสง ขอให้มนุษย์มีเมตตาต่อกัน" ลายมือของยามาซากิ

สือมวลชนจีนเมื่อครั้งไปสัมภาษณ์ ยามาซากิ ปี พ.ศ. 2552



จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000175338
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1078 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553, 09:55:34 »

เช้าวันพุธที่ 15 ธันวาคม 53 อีก 15 วันก็จะสิ้นปี 2553 แล้ว
วันนี้อากาศค่อนข้างร้อน อบอ้าว ระวังฝนด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1079 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553, 17:30:48 »

เวียดนามอาลัยมารดาวีรชน ลูกชาย 9 คนสละชีพเพื่อชาติ
15 ธันวาคม 2553 11:28 น.

อาลัยรัก-- จากกันไปนาน 40-50 ปีกว่า เมื่อยังมีชีวิตอยู่ "แม่ถู" ยังจุดเทียนให้กับดวงวิญญาณของบุตรชาย วีรบุรุษทั้ง 9 คนอยู่เสมอ และ บัดนี้คุณยายเหวียนถิถู (Nguyen Thi Thu) ได้กลับไปอยู่กับทุกคนแล้ว ในสุสานวีรชนแห่งแผ่นดินบ้านเกิด ที่ทุกคนหลั่งเลือดต่อสู้พิทักษ์ปกป้องมา.  


       Photos by Tin Tuc
       ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ชาวเวียดนามหลายพันคนได้ร่วมกับครอบครัวนางเหวียนถิถู (Nguyen Thi Thu) เพื่ออาลัยเป็นครั้งสุดท้ายในวันอังคาร 12 ธ.ค.ศกนี้ ที่บ้านเกิด จ.กว๋างนาม (Quang Nam) ในภาคกลางของประเทศ ทางการได้จัดงานพิธีศพ “มารดาวีรชนแห่งชาติ” อย่างสมเกียรติ
      
       นางถู สูญเสียบุตรชายไปทั้ง 9 คน ในสงครามต่อสู้กับฝรั่งเศสเพื่อเอกราช และในสงครามกับสหรัฐฯ เพื่อให้เวียดนามได้เป็นประเทศเอกราช ซึ่งนำมาสู่การรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวในปี 2519 นอกจากนั้น ยังสูญเสียบุตรเขย พร้อมหลานสาว 1 คน
      
       มารดาวีรชนถึงแก่กรรมเมื่อวันศุกร์ด้วยวัย 106 ปี ท่ามกลางความเศร้าสลด ของญาติมิตร และเพื่อนบ้านร่วมคอมมูนเดียวกัน ทุกคนรู้จัก เคารพนับถือและเทิดทูนการเสียสละของสมาชิกครอบครัวนี้
      
       นางถู แต่งงานตั้งแต่อายุ 20 ปี มีลูกทั้งหมด 12 คน เป็นหญิง 1 คน ชาย 11 ในนั้น 1 คนเสียชีวิตแต่เยาว์วัย และนับตั้งแต่สามีถึงแก่กรรมในปี 2532 ชีวิตในบั้นปลายอาศัยอยู่กับบุตรสาวคนโตซึ่งปัจจุบันอายุ 86 ปี และบุตรชายคนสุดท้องวัย 68 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดงานศพของมารดาในวันนี้
      
       นางฮายบ่าจิ (Hai Ba Tri) บุตรสาวเพียงคนเดียวก็เป็นมรดาวีรชนอีกคนหนึ่ง สามีของนางกับบุตรสาว 1 คน เสียชีวิตในสงครามกับสหรัฐฯ เช่นกัน
      
       พิธีแห่ศพจากบ้านพักในคอมมูนเดียนจาง (Dien Trang) อ.เดียนบาน (Dien Ban) จ.กว๋างนาม จัดขึ้นในเช้าวันอังคาร ขบวนแถวของผู้คนทอดยาวไปตามสองข้างทาง เป็นจำนวนหลายพันคน ขณะมุ่งไปยังสุสานวีรชนเดียนจาง พิธีฝังศพแล้วเสร็จลงเวลา 10.40 น.ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวติ๋นตึก (Tin Tuc)
      
       ทางการจังหวัดได้จัดทหารกองเกียรติยศขบองกองทัพประชาชนเข้าร่วมพิธีศพของมารดาวีรชนแห่งชาติครั้งนี้ด้วย สำนักข่าวออนไลน์ภาษาเวียดนาม กล่าว
      
       เกิดปี ค.ศ.1904 นางเหวียนถิถู ได้รับการยกย่องเชิดชูเป็นนักปฏิวัติที่เสียสละอย่างสูงผู้หนึ่ง แม้ว่าบุตรชายจะล้มตายลงคนแล้วคนเล่าในสงครามกับข้าศึกที่มีอาวุธเหนือกว่า แต่ไม่เคยย่อท้อ ทั้งยังให้กำลังใจ ให้ทุกคนร่วมต่อสู้ต่อไป คำพูดของ “แม่ถู” ที่ว่า “ต้องเสียสละต่อไป” ยังก้องอยู่ในหูของเพื่อนบ้านตลอดมา

       (โปรดเลื่อนลงเพื่ออ่านต่อ)


       2

อาลัยรัก-- จากกันไปนาน 40-50 ปีกว่าแล้ว คุณยายเหวียนถิถู (Nguyen Thi Thu) ยังคงจัดสำหรับกับข้าวเลี้ยงดูบุตรชาย วีรบุรุษทั้ง 9 คนอยู่เสมอ และ บัดนี้คุณยายได้กลับไปอยู่กับทุกคนแล้วในสุสานวีรชนแห่งเดียวกันที่แผ่นดินบ้านเกิด ที่ทุกคนหลั่งเลือดต่อสู้พิทักษ์ปกป้องมา.  

       3
      
       บ้านหลังที่อยู่ทุกวันนี้เมื่อ 40-50 ปีก่อน เคยเป็นแหล่งหลบซ่อนของนักรบกองโจรในช่วงสงครามกับสหรัฐฯ โดยขุดอุโมงค์ไว้ในบริเวณสวนหลังบ้าน ทำผนังและเพดานอย่างแน่นหนา ข้างบนเลี้ยงวัวเอาไว้หลายสิบตัว อำพรางทางการระบอบไซ่ง่อนกับกองทัพสหรัฐฯ เอาไว้
      
       นางถูกับบุตรสาวจะคอยจัดหาอาหารไว้เลี้ยงดูนักรบปฏิวัติ และคอยจุดตะเกียงน้ำมันส่งสัญญาณบอกนักรบ เกี่ยวกับเวลาเข้าเวลาออกที่ปลอดภัย หลังออกปฏิบัติการโจมตีข้าศึกแต่ละครั้ง สื่อของทางการกล่าว
      
       “ในวันนี้สวนหลังบ้านของนางถูเต็มไปด้วยผู้คนที่ไปไว้อาลัยมารดาของทุกคนที่ต่อสู้เสียสละเพื่อประเทศชาติ ญาติๆ และเพื่อนบ้าน ชาวเวียดนามทั่วไปจากท้องถิ่นและจังหวัดอื่นที่ทราบข่าวไปกันไปที่นั่นเพื่ออาลัยเป็นครั้งสุดท้าย” ติ๋นตึก กล่าว
      
       บุตรชาย 3 คนแรกสละชีพ เมื่อปี 2491 คนที่ 4 ในปี 2497 ในช่วงสงครามต่อต้านฝรั่งเศส อีก 5 คน ทยอยเสียสละชีวิตในปี 2509, 2515 (2 คน) 2517 และคนล่าสุดในวันที่ 30 เม.ย.2518 ขณะสู้รบในกรุงไซ่ง่อน ซึ่งทำให้ฝ่ายกองโจรสามารถยึดเมืองหลวงของอดีตเวียดนามใต้ได้ในวันเดียวกัน ส่วนบุตรเขยเสียชีวิตในปี 2500 และ บุตรสาว (หลานสาว) สิ้นชีพในการสู้รบปี 2516
      
       ในปี 2536 นางถู ได้รับเหรียญตราแห่งเกียรติยศจากประธานาธิบดีเวียดนาม และ ประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติจากประธานรัฐสภาเวียดนาม ประวัติและรูปภาพกาต่อสู้ของ “แม่ถู” ได้รับการจารึกไว้ในพิพิธภัณฑ์ทหารของกองทัพประชาชนเวียดนาม
      
       ในปี 2550 ในโอกาสครบรอบปีที่ 60 วันแห่งวีรชนและนักรบเก่า กระทรวงแรงงาน สวัสดิการสังคมและนักรบเก่าในยุคนั้น ได้จัดสร้างอนุสาวรีย์มารดาวีรชนแห่งชาติขึ้นที่ อ.เติมกี๋ (Tam Ky) อนุสาวรีย์สูง 15.2 เมตร ปั้นหล่อเป็นรูปของนางเหวียนถิถู เพื่อให้เป็นตัวแทนของมารดาวีรชนผู้เสียสละทั่วประเทศ
      
        อาลัยมารดาวีรชนแห่งชาติ
วันนี้หลานๆ ช่วยกันนำคุณยายถูไปสู่สวงสวรรค์ เพื่ออยู่ร่วมกับคุณลุงกับคุณน้าอีก 9 คน.  

       4
ทหารกองเกียรติยศของกองทัพประชาชน ไปช่วยส่งดวงวิญญาณของมารดาวีรชนแห่งชาติ.

       5
รถนำคุณยายถูไปยังสุสานวีรชน มารดาวีรชนแห่งชาติจะสถิตในดวงใจของชาวเวียดนามตลอดไป.

       6
ทหารผ่านศึกที่ยังมีชีวิตอยู่ไปร่วมงานศพ หลายคนเคยหลบซ่อนที่บ้านและได้กินข้าวของ "แม่ถู".

       7
ชาวเวียดนามจากต่างท้องถิ่นและต่างจังหวัดที่ทราบข่าวไปร่วมงานศพคุณยายถูเนืองแน่น.

       8
จากกันไป 40-50 ปีกว่าๆ บัดนี้คุณยายได้อยู่ร่วมกับลูกชายทั้ง 9 แล้ว ณ สุสานวีรชน ใน จ.กว๋างนาม (Quang Nam).

       9
 
 

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000175989
 
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1080 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553, 19:23:34 »

สวัสดีค่ะ พี่เหยง      รักนะ

เมื่อวานที่ Lisbon มีหมอกหนาทั้งวันค่ะ
ตื่นมาตอนหกโมงครึ่ง  เห็นหมอกแล้วยังรู้สึกธรรมดา
แต่เวลาล่วงเลยไปเป็นสาย บ่าย ค่ำแล้ว หมอกยังหนาอยู่
เลยรู้สึกสลึมสลือทั้งวัน

ภาพนี้ถ่ายเวลา 17.30 น. จากหน้าต่างในห้องครัวค่ะ ..
หมอกยังหนาอยู่มาก และเป็นแบบนี้ตลอดทั้งวัน


      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1081 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2553, 11:15:16 »

หะยี

วันนี้ฝนตกหลายพื้นที่ ขัยนาท สระบุรี ฝนก็ตก
ชาวนาแย่ตามเคย ฝนตกจนต้นข้าวล้ม เกี่ยวลำบากขึ้น
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1082 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2553, 12:09:19 »

วันนี้ (ศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2553) อากาศกลับมาหนาวเย็น เช้ามีฝนตกประปรายถึงตกหนัก ไม่มีแดดครับ

ประกาศเตือนภัย
"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในภาคใต้ "

ฉบับที่ 9 (250/2553) ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2553

 
     บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรง ได้แผ่ลงมาปกคลุมลงถึงประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ และอากาศจะหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 3-6 องศาเซลเซียส และมีลมแรง
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงจะพัดเข้ามาปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ในช่วงวันที่ 17-19 ธันวาคม ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย [/size]
 
 
 
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #1083 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2553, 12:38:47 »

เชียงใหม่วันนี้ตื่นเช้าขึ้นมาเจอฝน
คาดว่าอากาศหนาวจะมาอย่างเอาจริงเอาจังแล้ว
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1084 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2553, 17:01:54 »

Updated สถานการณ์ครับ

ประกาศเตือนภัย
"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในภาคใต้ "

ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2553
 
     
ในช่วงวันที่ 17-19 ธันวาคม 2553 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงได้อีก 2-4 องศาเซลเซียส และมีฝนเกิดขึ้นได้ในระยะนี้
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ในช่วงวันที่ 17-20 ธันวาคม 2553 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไประวังอันตรายจากฝนตกหนัก ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าวไว้ด้วย


ประกาศ ณ วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ออกประกาศ เวลา 16.00 น.

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
[/b]

 
 
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1085 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2553, 19:13:40 »

ขอบคุณที่นำเรื่องคุณยายถูมาลงให้ได้อ่านค่ะ .. ซึ้งและสงสาร      เอิ่มม
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1086 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2553, 19:00:57 »

ขอบใจหะยี ที่เข้ามาคอมเมนต์เรื่องคุณยายถู ชาวเวียตนาม
เขาเสียสละชีวิตลูกๆ เพื่อเอกราช เป็นเรื่องที่น่านับถือและจดจำเป็นอย่างยิ่ง


หากพบเห็น 2 ภาพต่อไปนี้ ก็อิ้งจนพูดไม่ออกแล้ว



      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1087 เมื่อ: 19 ธันวาคม 2553, 21:09:34 »

และแกก็ทำแบบนี้มาทุกปี .. ตลอดระยะเวลาที่ลูกเสียชีวิตไป
ความรักของแม่ ยิ่งใหญ่จริง ๆ

นับถือคุณยายค่ะ
     sorry
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1088 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2553, 08:56:57 »

นี่แหละหัวอกของคนที่เป็นแม่คน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1089 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2553, 08:58:11 »

วันนี้ เมืองไทยอุ่นขึ้นหน่อย หลังจากหนาวเย็นมากว่า 3-4 คืน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1090 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2553, 08:59:25 »

สวัสดีคุณป้อม16

ทางเหนืืออุ่นขึ้นไหม ??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1091 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2553, 12:17:25 »

เดลี่นิวส์ ออนไลน์ เชิญชวนนั่งรถไฟไปเที่ยวอำเภอท่าเรือ พระนครศรีอยุธยา ช่วงปีใหม่

นั่งรถไฟไป'ท่าเรือ' ไหว้พระ-ชมวิว-หิวก็หม่ำ

 

1.รำแก้บนหลวงพ่อโต วัดสะตือ
2.องค์หลวงพ่อโต ตอนน้ำท่วม
3.บรรยากาศเขื่อนพระราม 6
4.ตลาดเก่า
5.ของฝาก "ขนมบ้าบิ่น"
6.วิถีชาวตลาด
7.ศาลาบูชาพระเครื่อง วัดสะตือ
8.ร้านบะหมี่เจ้าเก่า ตลาดท่าเรือ
9.วิถีชาวตลาด
10.หอยทอดร้อนๆ


http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEl3TVRJMU13PT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1DMHhNaTB5TUE9PQ==
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #1092 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2553, 13:08:27 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 20 ธันวาคม 2553, 08:59:25
สวัสดีคุณป้อม16

ทางเหนืืออุ่นขึ้นไหม ??

หนาววันฝนตกวันเดียวเอง
นอกนั้นสบายๆ  ใส่เสื้อกันกนาวเฉพาะตอนเช้า กลางคืนห่มผ้าตามปกติ
นี่พูดถึงคนในเมืองนะ
บนดอยไม่นับ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1093 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2553, 18:08:07 »

อุบลฯประกาศ 21 อำเภอประสบภัยหนาว พร้องแจกผ้าห่ม 200,000 ผืน ได้ยินแล้ว..หนาวเป็นที่สุด

เห็นบอกว่า เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน ก็จะทำในทำนองนี้

คนไทยเริ่มซื้อผ้าห่มกันหนาวเพื่อตัวเองกันไม่เป็นซะแล้ว แจกได้ทุกปี ผืนหนึ่งๆมีอายุการใช้งาน 5-7 ปี แต่ปีหน้าก็แจกอีก
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #1094 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2553, 20:38:18 »

 


สวัสดีครับพี่เหยง ...


ปล.

สาว (เหลือ) น้อย กับ ฤดูหนาว ครับ ^_^





      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1095 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2553, 22:31:49 »

สวัสดีครับ ดร.มนตรี

ไปทัวร์ถึงไหนกันแล้ว ??

หิมะตกขนาดนี้ ไม่ต้องแจกผ้าห่มตามอย่างเขาน่ะ
      บันทึกการเข้า
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #1096 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2553, 22:39:54 »

 สวัสดีค่ะพี่เหยง พี่ป้อม แม่ยอดยาหยี น้องดร.มนตรี....
อ่านเรื่องคุณหมอซัน คุณยายถู อยากรู้จังค่ะทำอย่างไรอายุถึงได้ยืนยาวขนาด100ปีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #1097 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2553, 22:40:55 »

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 21 ธันวาคม 2553, 20:38:18



สวัสดีครับพี่เหยง ...


ปล.

สาว (เหลือ) น้อย กับ ฤดูหนาว ครับ ^_^






สาวน้อยน่ารักจังค่ะ ดูแล้วหนาววววววววมากๆนะคะ...
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1098 เมื่อ: 22 ธันวาคม 2553, 08:52:51 »

สวัสดี น้ำอ้อย
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1099 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2553, 08:58:43 »

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ..       หึหึ

      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
  หน้า: 1 ... 42 43 [44] 45 46 ... 472   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><