คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ

[Kaimook]

สวัสดีค่ะพี่เหยง...

[เหยง 16]

สวัสดีจ๊ะ น้ำอ้อย

[เหยง 16]

เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา 08.55 น. ผมได้รับโทรศัพท์จาก หนุงหนิง ครับ คุยกันประมาณ 20 นาที

หนุงหนิงและครอบครัว เดินทางมาประเทศไทย และบินตรงไปพักผ่อนที่ภูเก็ต ก่อนจะต่อไปยังบ้านเกิดที่สงขลา เพื่อซ่อมแซมบ้านและเยี่ยมคุณแม่ แล้วจึงเดินทางกลับเยอรมัน โดยเที่ยวนี้ไม่ได้แวะกรุงเทพ เนื่องจากซื้อตั๋วบินตรงไปภูเก็ต แต่ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่สุวรรณภูมิเท่านั้น

หนุงหนิง บอกว่า หากมีโอกาส จะ plan ทริ๊ปมาไทยในปีต่อๆไปและเผื่อเวลาให้สำหรับชาวหอ เพื่อจะได้พบปะสังสรรค์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเมืองสิงห์บุรีของพี่สิงห์, อุทัยธานีของพี่ป๋อง และไปทัวร์ภาคเหนือด้วย

[เหยง 16]

วันนี้ ช่วงบ่ายผมมีแขกเชิญคือ กงสุลเกษตรสหรัฐ ประจำประเทศไทย และคณะจะไปเยี่ยมที่นครสวรรค์

ขออนุญาตเตรียมตัวรับแขกสักนิดครับ ในฐานะเจ้าภาพ แล้วจะเข้ามาในเว็ปช่วงค่ำๆ ครับ

[เหยง 16]

ระหว่างรอคณะกงสุลฝ่ายเกษตร ประจำสถานฑูตอเมริกา เดินทางจากจังหวัดสระบุรี มายังจังหวัดนครสวรรค์

ไปดูประกวดนางงามจักรวาลที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกาครับ

วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 12:12:56 น.  มติชนออนไลน์
ฮือฮา ผู้ประกวดมิสยูนิเวิร์สปีนี้ ถูกจับถ่ายหวิว ชนิดแฟนๆ ต้องอึ้ง

หนังสือพิมพ์"นิวยอร์ก โพสต์"รายงานเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ว่า ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส หรือนางงามจักรวาล ประจำปี 2010 นี้ ปรากฎว่า ทางผู้ประกวดได้จับผู้ประกวดหลายชาติมาถ่ายภาพกึ่งนู๊ดเพื่อสนับสนุนโปรโมตการประกวดขาอ่อนโลกนี้ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสด ในวันที่ 23 ส.ค.ที่เมืองลาส เวกัส ของสหรัฐ โดยมีนางงามจากชาติต่าง ๆ เข้าร่วม เช่น น.ส.ริลาโตย่า วู้ดส์ นางงามจากชาติตรินิแดด และโตบาโก้,น.ส.ริม่า ฟาเกียห์ นางงามสหรัฐ,น.ส.แองเจล่า มาร์ตินี่ นางงามจากอัลบาเนีย และน.ส.โรซานน่า เพอร์เซลล์ นางงามจากไอร์แลนด์ ขณะที่ภาพหวิวกองประกวดอ้างเหตุผลว่า ในการทำงานถ่ายภาพหวิวโปรโมตการประกวดครั้งนี้ กองประกวดได้พยายามขอให้ผู้ประกวดร่วมงานด้วยในลักษณะประนีประนอมยอมรับกันได้มากที่สุด

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1282022003&grpid=01&catid=

ชมไปพลางๆ ก่อนนะครับ...อีกสักพักใหญ่จะกลับมาต่อครับ

19 สิงหาคม 2553ล 12.40 น.
ภาพเพิ่มเติม..อีกเพียงเลยครับที่

ระทวย! ยลหุ่นโฉมงามผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สโพสท่าชุดว่ายน้ำ (4)
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000115133

ระทวย! ยลหุ่นโฉมงามผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สโพสท่าชุดว่ายน้ำ (3)

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000115132

ระทวย! ยลหุ่นโฉมงามผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สโพสท่าชุดว่ายน้ำ (2)
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000115131

ระทวย! ยลหุ่นโฉมงามผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สโพสท่าชุดว่ายน้ำ (1)
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000115129

[เหยง 16]

มร. Orestes Vasquez กงสุลฝ่ายเกษตร สถานฑูตอเมริกา ประจำประเทศไทย และผู้ชำนาญการเกษตรประจำสถานฑูตมาเยี่ยมพร้อมหารือเรื่องสินค้าเกษตรคือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ของปี 2553/2554 นี้

[เหยง 16]

พร้อมมอบของที่ระลึกให้แก่กันครับ







เวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ผู้มาเยี่ยมจึงขอลากลับ

[ดร.มนตรี]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 17 สิงหาคม 2553, 18:44:00
	มร. Orestes Vasquez กงสุลฝ่ายเกษตร สถานฑูตอเมริกา ประจำประเทศไทย และผู้ชำนาญการเกษตรประจำสถานฑูตมาเยี่ยมพร้อมหารือเรื่องสินค้าเกษตรคือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ของปี 2553/2554 นี้

สวัสดีตอนเย็นๆ ครับ พี่เหยง

พอจะแชร์ ประเด็นการหารือ ได้หรือเปล่าครับ พี่  น่าสนใจ ครับ ...

[เหยง 16]

สวัสดี ดร.มนตรี

คุยกันเรื่องผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของประเทศไทยในปีนี้ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทยเคยส่งของเมล็ดข้าวโพดสูงถึง 3.2 ล้านตัน แต่เมื่อตั้งโรงการผลิตอาหารสัตว์ เพื่อเลี้ยงสัตว์เอง พร้อมตั้งโรงงานแปรรูปเพื่อการส่งออกสินค้า เนื้อ ไข่ นม ส่งผลให้การส่งออกเมล็ดข้าวโพดลดลง โดยบางปีส่งออกเมล็ดข้าวโพดได้ไม่เกิน 5 แสนตัน ทั้งๆที่มีตลาดรอบประเทศไทย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน รวม 3 ประเทศมีกำลังซื้อรวมกว่า 20 ล้านตัน ซึ่ง 3 ประเทศนี้ต้องไปซื้อจาก สรอ. ทั้งสิ้น  แต่ภาคการเพาะปลูกข้าวโพดกลับไม่มีการขยายตัวเพื่อรองรับการแปรรูป และการส่งออกเมล็ดอย่างสอดคล้องและไม่มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกอย่างมีรูปธรรม ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกและอาจรวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ไม่ร่ำรวยขึ้นเลย ทั้งนี้รวมไปถึงเกษตรกรผู้ปลูกข้าว(ซึ่งรัฐจะดูแลเป็นพิเศษเพราะคนเยอะมาก และเสียงในการเลือกตั้งก็มากที่สุดในประเทศ แต่ก็ไม่ได้รับผลดีสักที) อ้อยโรงงาน มันสำปะหลัง ฯลฯ ด้วย

พร้อมๆกับเรื่องที่ดินและราคา ซึ่งที่ดินของประเทศไทยมีแนวโน้มแพงกว่าที่ดินในสหรัฐครับ เมื่อเทียบไร่ต่อไร่ อาทิ ที่ดินซึ่งเป็นสวนยางในจังหวัดกระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี ฯ จะมีราคาแพงกว่าที่ดินที่เป็นไร่นาในส่วนอื่นในประเทศไทย (ราคาเกิน 100,000 บาท/ไร่ขึ้นไปมากๆ), ในขณะที่ สรอ. ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40,000 บาทต่อไร่ ซึ่งราคาที่ดินแพงๆนี้จะมีผลกระทบต่อเกษตรกรของไทยโดยตรงคือ ไม่มีเงินพอที่จะซื้อที่ดินเป็นของตัวเอง รวมทั้งมีต้นทุนการเพาะปลูกที่แพงขึ้น จะทำให้ผลผลิตที่ได้จากไร่นาสู้ราคากับตลาดโลกไม่ได้

ฯ

[ดร.มนตรี]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 17 สิงหาคม 2553, 19:26:20
	สวัสดี ดร.มนตรี คุยกันเรื่องผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของประเทศไทยในปีนี้ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทยเคยส่งของเมล็ดข้าวโพดสูงถึง 3.2 ล้านตัน แต่เมื่อตั้งโรงการผลิตอาหารสัตว์ เพื่อเลี้ยงสัตว์เอง พร้อมตั้งโรงงานแปรรูปเพื่อการส่งออกสินค้า เนื้อ ไข่ นม ส่งผลให้การส่งออกเมล็ดข้าวโพดลดลง โดยบางปีส่งออกเมล็ดข้าวโพดได้ไม่เกิน 5 แสนตัน ทั้งๆที่มีตลาดรอบประเทศไทย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน รวม 3 ประเทศมีกำลังซื้อรวมกว่า 20 ล้านตัน ซึ่ง 3 ประเทศนี้ต้องไปซื้อจาก สรอ. ทั้งสิ้น  แต่ภาคการเพาะปลูกข้าวโพดกลับไม่มีการขยายตัวเพื่อรองรับการแปรรูป และการส่งออกเมล็ดอย่างสอดคล้องและไม่มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกอย่างมีรูปธรรม ส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกและอาจรวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ไม่ร่ำรวยขึ้นเลย ทั้งนี้รวมไปถึงเกษตรกรผู้ปลูกข้าว(ซึ่งรัฐจะดูแลเป็นพิเศษเพราะคนเยอะมาก และเสียงในการเลือกตั้งก็มากที่สุดในประเทศ แต่ก็ไม่ได้รับผลดีสักที) อ้อยโรงงาน มันสำปะหลัง ฯลฯ ด้วย พร้อมๆกับเรื่องที่ดินและราคา ซึ่งที่ดินของประเทศไทยมีแนวโน้มแพงกว่าที่ดินในสหรัฐครับ เมื่อเทียบไร่ต่อไร่ อาทิ ที่ดินซึ่งเป็นสวนยางในจังหวัดกระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี ฯ จะมีราคาแพงกว่าที่ดินที่เป็นไร่นาในส่วนอื่นในประเทศไทย (ราคาเกิน 100,000 บาท/ไร่ขึ้นไปมากๆ), ในขณะที่ สรอ. ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40,000 บาทต่อไร่ ซึ่งราคาที่ดินแพงๆนี้จะมีผลกระทบต่อเกษตรกรของไทยโดยตรงคือ ไม่มีเงินพอที่จะซื้อที่ดินเป็นของตัวเอง รวมทั้งมีต้นทุนการเพาะปลูกที่แพงขึ้น จะทำให้ผลผลิตที่ได้จากไร่นาสู้ราคากับตลาดโลกไม่ได้ ฯ

ขอบพระคุณครับพี่เหยง ...

น่าสนใจครับ ... วันก่อนผมทานข้าวบาสมาติ แล้วติดใจเม็ดข้าวขาว ยาวๆ หอมและนุ่ม มาก ...





จึงไปหาซื้อตั้งใจเอามาสำรองไว้ในครัว หุงทานเอง ...

ได้มาจาก TOP โรบินสัน ... กิโลละ 349  แพคอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ระบุว่านำเข้าจากอังกฤษ

ในบริเวณเดียวกันยังเห็นข้าวอีกหลายรูปแบบ สวยงามและน่าทานต่างๆกันไป


หากเราสามารถทำให้เกษตรกร ของเราเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตรได้ และรายได้ตกอยู่กับเกษตรกร เต็มเม็ดเต็มหน่วย คงจะดีไม่น้อย นะครับ ...

[ดร.มนตรี]

ข้าวหอมมะลิตอนนี้ ตก ก.ก.ละ 30-40 บาท นั่นหมายความว่า

หากพื้นที่ในการปลูกข้าวเท่ากัน ใช้แรงงานพอๆกัน  รายได้ของเกษตรกร ควรเพิ่มอย่างน้อย 5-10 เท่า ถ้าสามารถพัฒนาพันธ์ข้าวให้มีมูลค่าเทียบเ่ท่า บาสมาติ

----------------

เจอพอดีครับ ...

http://www.food-resources.org/news/24/03/10/322

พัฒนาพันธุ์ข้าว "หอมมะลิ" หวังยกระดับราคาขายเทียบชั้น "บาสมาติ"
Wed, 03/24/2010 - 00:00 | by info
ส่งไปใน FB ของคุณ

ศูนย์ วิทยาศาสตร์ข้าว มก. เร่งพัฒนาข้าวใหม่ ให้ดัชนีน้ำตาลต่ำ หวังยกระดับราคาขายเทียบชั้นข้าวบัสมาติ หลังปล่อยให้ชาติอื่น ทำข้าวเลียนแบบหอมมะลิมาหลายปี พร้อมปรับปรุงพันธุ์ข้าวหอมมะลิ รับมือข้าวแจ๊สแมนจากสหรัฐฯ แย่งพื้นที่ในตลาดโลก กลางปีเตรียมทดลองปลูกข้าวหอมมะกันเปรียบเทียบข้าวหอมไทย หวังให้ได้กลิ่นกันจะจะว่าข้าวใครหอมกว่าใครแน่

รศ.ดร.อภิชาติ วรรณวิจิตร ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าวและ การค้นหาและใช้ประโยชน์จากยีนข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังพัฒนาพันธุ์ข้าวหอมมะลิให้มีคุณสมบัติดีและสามารถขาย ได้ในราคา สูงเทียบเท่าข้าวบาสมาติ (Basmati rice) ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวหอมของอินเดีย

"ข้าวหอมมะลิของไทยขายได้ราคาประมาณ 30-40 บาทต่อกิโลกรัม หากเป็นข้าวไม่ขัดสีอย่างมากสุดก็ขายได้ไม่เกินกิโลกรัมละ 90 บาท แต่ ข้าวบาสมาติมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 300 บาท หากเราสามารถพัฒนาข้าวหอมมะลิให้มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นและสามารถ ขายได้ราคา เท่ากับข้าวบาสมาติได้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของข้าวไทยในตลาด โลกได้ หลังจากที่เราปล่อยให้ชาติอื่นๆ พัฒนาสายพันธุ์ข้าวเลียนแบบข้าวหอมมะลิของไทยมาหลายปี" รศ.ดร.อภิชาติ กล่าว

ขณะนี้ รศ.ดร.อภิชาติ ได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัย การ เกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) จำนวน 41 ล้านบาท ในการปรับปรุง พันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิให้เมล็ดมีความยืดตัวสูงขึ้นเมื่อหุงต้ม และมีดัชนีน้ำตาลต่ำ เพื่อให้เหมาะแก่ผู้บริโภคที่เป็นเบาหวาน หรือผู้ที่ต้องการบริโภคข้าวเพื่อสุขภาพ และสามารถจำหน่ายได้ ในราคา สูงเช่นเดียวกับข้าวบาสมาติของอินเดีย โดยคาดว่าจะได้ข้าวหอมมะลิพันธุ์ใหม่ที่มีคุณสมบัติดังกล่าวในอีก ไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า

"เราไม่ได้ต้องการพัฒนาพันธุ์ใหม่ที่ขายได้ราคาดีเหมือนบาสมาติขึ้น มาเพื่อเป็นคู่แข่งของข้าวหอมมะลิเดิมของเรา แต่ต้องการทำให้ทั้งสองอย่างควบคู่กันไป เพื่อเป็นการเสริมตลาดข้าวหอมมะลิที่มีอยู่เดิม" รศ.ดร.อภิชาติ กล่าวกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ภายในงานสัมมนาพิเศษเรื่องข้าว "งานวิจัยข้าวไทย : วิกฤตและโอกาส" ที่มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 53 ณ อาคารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน

นอกจากนั้น ภายใต้ทุนวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจาก สวก. รศ.ดร.อภิชาติ ยังมีโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาข้าวขาวดอกมะลิที่มีคุณสมบัติดีหลาย ประการรวม อยู่ด้วยกัน ทั้งความสามารถทนต่อโรค แมลง สภาพแวดล้อม และให้ผลผลิตสูง เพื่อเตรียมรับมือกับข้าวแจ๊สแมน (Jazzman rice) ที่สหรัฐฯ พัฒนาขึ้นให้มีความหอมเทียบเท่าข้าวหอมมะลิของไทย และเตรียมที่จะปลูกเชิงพาณิชย์ในอีกไม่กี่ปีนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวหอมมะลิของไทยได้

ขณะเดียวกัน รศ.ดร.อภิชาติ ยังมีโครงการศึกษาวิจัยเปรียบ เทียบคุณสมบัติของข้าวขาวดอกมะลิของไทยกับข้าวหอมแจ๊สแมน ในพื้นที่ปลูกในประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับมหาวิทยาลัยรัฐหลุยส์เซียนา (Louisiana State University) ซึ่งเป็นเจ้าของพันธุ์ข้าวแจ๊สแมน ภายหลังจากที่ได้มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนนัก ศึกษาและ บุคลากรเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเริ่มศึกษาได้ราวกลางปีนี้ และใช้เวลาอีกอย่างน้อยหนึ่งปีจึงจะรู้ผล

"เราต้องการพิสูจน์ว่า หากนำข้าวแจ๊สแมนมาปลูกในประเทศ ไทย จะให้กลิ่นหอมเทียบเท่าข้าวขาวดอกมะลิของไทย และให้ผลผลิตสูงกว่าตามที่ได้มีการอ้างไว้หรือไม่ เพราะแม้แต่ข้าวหอมมะลิที่ปลูกในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย ยังให้ค่าความหอมไม่เท่ากันเลย และโดยปกติข้าวที่มีสารหอมมากมักให้ผลผลิตต่ำ" รศ.ดร.อภิชาติ เผย ซึ่งผลจากการวิจัยเปรียบเทียบข้าวทั้งสองสายพันธุ์ จะเป็นข้อมูลให้ประเทศไทยเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต ได้ ซึ่งข้าวแจ๊สแมนเป็นข้าวไม่ไวแสง มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น และเวียดนามก็สนใจที่จะนำมาปลูกด้วยเช่นกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทยแน่ เพราะเวียดนามเป็นคู่แข่งอันดับหนึ่งของไทย

[ดร.มนตรี]

หากคิดต่อ ... ถ้าเราจะทดลองทำโมเดลเล็กๆ ทดลองเป็นต้นแบบฯ ช่วย เกษตรกรบ้านเรา

1. มีโครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการเรียนรู้ที่จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันให้บริการสำหรับ นร.มัธยม ในพืันที่ จังหวัดเชียงราย

2. บรอดแบนด์ความเร็วสูง ครอบคลุมพื้นที่ในชนบท ... ดังนั้นเกษตรกรในชนบท ของ จ.เชียงราย ย่อมเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้

3. สร้างฐานข้อมูล โดยเป็นองค์ความรู้แบบเรียนรู้ เข้าใจง่ายๆ ทั้งองค์ความรู้ในประเทศ และองค์ความรู้จากตปท. เช่นองค์ความรู้ทางการเกษตร ของ อเมริกา ผ่าน สนง.กงสุลเกษตร

... จากนั้นก็จัดทำโครงการฯแล้วนำความรู้สู่เกษตรกรในโครงการ ฯ 

หากต้องการเริ่มต้นในโครงการต้นแบบฯ ที่ เชียงรายซึ่งมีความพร้อมในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ... ทดลองทำเป็นต้นแบบ เพื่อปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

ผมยินดีสนับสนุนนะครับ ...

[เหยง 16]

ปัญหาที่พี่พบคือ เกษตรกรมักไม่ยอมรับข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นจริง

เช่น เมื่อวันพุธที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา พี่ไปสำรวจผลผลิตที่ปลูก ณ ตำบลลาดทิพรส อ.ตาคลี นครสวรรค์

ชาวบ้านกำลังเก็บฝักถั่วเขียวอยู่ท่ามกลางสายฝน

ซึ่งเมื่อถามไปว่า: ขายได้เท่าไร

เขาตอบว่า : ขายได้ถังละ 900 บาท (หรือเท่ากับ กก.ละ 56.25 บาท)

พี่ตอบกลับไปว่า : ตอนนี้รับซื้ออยู่ ถังละ 512 บาท (หรือเท่ากับ กก.ละ 32 บาท เท่านั้น)

ซึ่งเขามีปฏิกริยาไม่เชื่อ ?? !! นี่แหละข่าวลือ คนข้างบ้านนำถั่วเขียวเข้าไปขายในตลาดตาคลี กลับมาบอกขายได้ถังละ 900 เขาเชื่อครับ

[เหยง 16]

และในวันนั้น ไปพบนักเรียนหญิงของอำเภอตาคลีครับ พวกเธอหนีโรงเรียนในช่วงเที่ยงไปเล่นน้ำที่ฝายในเขตตำบลหัวหวาย

ถือว่า รำฤกถึงอตีดที่พวกเราเคยเป็นเด็กก็แล้วกัน เพราะถือซะว่าเด็กเหล่านี้ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย เพียงแต่มีหนุ่มๆขี่มอเตอร์ไซด์จะจอดเฝ้า ก็ OK

[ดร.มนตรี]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 17 สิงหาคม 2553, 21:44:24
	ปัญหาที่พี่พบคือ เกษตรกรมักไม่ยอมรับข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นจริง เช่น เมื่อวันพุธที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา พี่ไปสำรวจผลผลิตที่ปลูก ณ ตำบลลาดทิพรส อ.ตาคลี นครสวรรค์ ชาวบ้านกำลังเก็บฝักถั่วเขียวอยู่ท่ามกลางสายฝน ซึ่งเมื่อถามไปว่า: ขายได้เท่าไร เขาตอบว่า : ขายได้ถังละ 900 บาท (หรือเท่ากับ กก.ละ 56.25 บาท) พี่ตอบกลับไปว่า : ตอนนี้รับซื้ออยู่ ถังละ 512 บาท (หรือเท่ากับ กก.ละ 32 บาท เท่านั้น) ซึ่งเขามีปฏิกริยาไม่เชื่อ ?? !! นี่แหละข่าวลือ คนข้างบ้านนำถั่วเขียวเข้าไปขายในตลาดตาคลี กลับมาบอกขายได้ถังละ 900 เขาเชื่อครับ

เห็นด้วยครับพี่ ... จากประสบการณ์ในการทำโครงการใหม่ๆ ขึ้นมา ปัญหาแรกคือเรื่องเหล่านี้ นี่แหละครับ


นึกถึงสมัยก่อนตอนทำโปรเจคประเภท Water Pollution นอกจากชาวบ้านจะไม่เข้าใจแล้ว จนท.ของรัฐ (ในสมัยเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว) ก็ยังไม่ค่อยจะยอมเข้าใจ

มีอยู่คราวหนึ่ง ... ตอนปรับปรุงระบบบำบัำดน้ำเสียให้กับ นิคมฯอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งใน กทม. เจอ ชาวบ้านต่อต้าน ... จนท.อนามัย ท่านก็ไม่ฟังเสียง จะแจ้งความจับลูกเดียว

เกือบถอดใจ ลาออกจาก Manager ที่รับผิดชอบโครงการฯ แต่ ไม่อยากทิ้งงานกลางทาง จึงฮึดสู้ มั่นใจว่าต้องผ่านได้

ตั้งสติอยู่พักหนึ่ง ... แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ต้องทำความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย


คิดแล้ว จึงเตรียมการจัดสัมมนาทันที ...ยกหูโทรศัพท์  โทรหาท่านไกรศักดิ์ บุตรท่านนายกฯ ชาติชาย ซึ่งตอนนั้น ท่านไกรศักดิ์เป็นประธานที่ปรึกษาผู้ว่า กทม. (ดร.พิจิตต) ด้านสิ่งแวดล้อม .... เพื่อเชิญท่านมาร่วมบรรยายทำความเข้าใจกับชาวบ้าน และ จนท. กทม. ซึ่งเมื่อท่านเข้าใจเรื่องราว ท่านให้ความกรุณามาก แม้ท่านจะติดงานอื่น ในวันที่เราจัดบรรยาย (วันสิ่งแวดล้อมโลก) ท่านกรุณา ส่ง ท่านรองประธานที่ปรึกษา (รศ.ดร.หรรษา สงวนน้อย)

ได้ท่านรองประธานฯ มา 1 ท่าน ประสานงานเพิ่มเติมได้อีก 2 ท่าน คือ 1. ท่านรองผู้ว่าฯ การนิคมฯ (ดร.สราวุธ) และ 2. ผู้เชี่ยวชาญจาก อังกฤษ



สุดท้ายก็ผ่านมาได้ครับ ... ทำกันจนจบโครงการ ปัญหาด้าน Water Pollution ในพื้นที่ก็จบลงได้ด้วยดี ...

แต่ก็เล่นเอาหมดเหงื่อไปหลายเหมือนกัน ^_^


"เข้าใจ เข้าถึง แล้วจึงพัฒนา"  ยังคงเป็นอมตะวาจา ครับพี่

[ดร.มนตรี]

สวัสดีตอนเช้าครับ พี่เหยง ...


วันนี้ประชุมทั้งวัน คงไม่ได้เข้าเว็บ  ... ยกกาแฟมาเสิร์ฟก่อนครับ ^_^

[เหยง 16]

สวัสดีครับ ดร. มนตรี และทุกๆคน ในเช้าวันพุธ

ช้อนและกาแฟชุดนี่ ดีไซน์สวยดีจัง

[เหยง 16]

เช้านี้ ข่าวฝนตกตลอดเมื่อวันวานที่ผ่านมา ดูแล้วไม่ค่อยจะดีเลย

เรื่องแรก เราอาจจะต้องสูญเสียบุคคลในราชการ กรณีปลัดกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และคณะที่จังหวัดน่าน

เรื่องที่สอง มีน้ำท่วมหลายๆ พื้นที่ ที่นครสวรรค์ ได้ข่าวว่าอำเภอเก้าเลี้ยวน้ำท่วมเป็นสอก ทั้งๆที่ติดแม่น้ำปิง แต่ระบายไม่ทัน??

ทั้งนี้ไม่รวมถึงพื้นที่อื่นๆในภาคเหนือ ที่ฝนกระหน่ำอย่างหนักตลอดคืน

[ดร.มนตรี]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 18 สิงหาคม 2553, 09:26:10
	เช้านี้ ข่าวฝนตกตลอดเมื่อวันวานที่ผ่านมา ดูแล้วไม่ค่อยจะดีเลย เรื่องแรก เราอาจจะต้องสูญเสียบุคคลในราชการ กรณีปลัดกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และคณะที่จังหวัดน่าน เรื่องที่สอง มีน้ำท่วมหลายๆ พื้นที่ ที่นครสวรรค์ ได้ข่าวว่าอำเภอเก้าเลี้ยวน้ำท่วมเป็นสอก ทั้งๆที่ติดแม่น้ำปิง แต่ระบายไม่ทัน?? ทั้งนี้ไม่รวมถึงพื้นที่อื่นๆในภาคเหนือ ที่ฝนกระหน่ำอย่างหนักตลอดคืน

ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดฯ ทส. ... เป็นบุคคลากรที่มีคุณค่าต่อประเทศอีกท่านหนึ่ง

เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ... เคยมีโอกาสร่วมประชุมกับท่าน 2-3 ครั้ง สมัยท่านยังอยู่กรมควบคุมมลพิษ ก.วิทย์

รู้สึกชื่นชมท่านมาก ตอนนั้นยังคิดในใจเลยครับ ... ว่าท่านจะต้องได้ขึ้นถึง  ปลัดกระทรวงแน่นอน ...


ล่าสุดพบ ฮ. ลำที่ตกแล้วครับ ....


ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวท่านด้วยครับ

[ดร.มนตรี]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 18 สิงหาคม 2553, 09:23:19
	สวัสดีครับ ดร. มนตรี และทุกๆคน ในเช้าวันพุธ ช้อนและกาแฟชุดนี่ ดีไซน์สวยดีจัง

ครับพี่ ... "เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์"  ทำของธรรมดาให้มีมูลค่าเพิ่ม (ขึ้นมาได้อีกมากมาย) ^_^

[ดร.มนตรี]

ลาพี่เหยงกลับบ้านก่อนครับ  ... วันนี้เหนื่อยเล็กน้อย ...  กลับบ้านนอนเอาแรงก่อน ครับ ^_^

[ดร.มนตรี]

หลับไปหนึ่งงีบ ตื่นมาเจอคลิป น่าจะขำขำ ... แต่ไม่แน่ใจว่าจะขำดีหรือเปล่า ครับนี่ ^_^


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=oi9nZELwAA8" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=oi9nZELwAA8</a>

[ดร.มนตรี]

อีกสักคลิป ... แล้วถือโอกาสราตรีสวัสดิ์ 

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=tj8ggSo1EEY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=tj8ggSo1EEY</a>

[ดร.มนตรี]

สวัสดีตอนเช้าครับ พี่เหยง ...

วันนี้รีบมาทำงานแต่เช้า ... เพราะเรื่องที่คุยกับพี่เมื่อวาน  

เมื่อคืนนอนคิด ... นึกขึ้นได้ว่า เมื่อต้นปี (ก.พ.53) ได้มีโอกาสเรียนพบกับท่านกงสุลใหญ่อเมริกัน (ไมเคิล เค. มอร์โรว์)  ร้อยเรียงเรื่องราวแล้ว เช้านี้เลยรีบมาเขียนโครงการ Concept คล้ายที่คุยกันเมื่อวาน ...


ถ้าโครงการนี้สำเร็จ ... ต้องให้เครดิตพี่เหยง ในฐานะผู้จุดประกายความคิด ขอบคุณครับ ^_^

		อ้างถึง			ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 11 มีนาคม 2553, 13:08:46
	อ้างถึง ข้อความของ ว่าน เมื่อ 11 มีนาคม 2553, 11:55:54 สวัสดีค่ะ พี่ ดร. มนตรี ... เนี่ยพี่มนตรีคะ ว่านตัดสินใจถูกเนาะ ที่ไม่ไปอินทนนท์กับพี่วันนั้นอ้ะ   มีแต่สาวๆ สวยๆ ทั้งนั้นเลย ฮริ้ววววววววววววววววววว ตัวจริงนุ้งว่านคุยไม่เก่งค่ะ ขี้อ๊าย ขี้อายยยยยยยยยยยย (เหรอนั่น ฮี่ๆ) วันนั้นเด็กๆ ไปด้วยหลายคนไงคะ ก็เลยต้องร่าเริงหน่อย แหะๆ ไม่รู้นุ้งว่านขอบพระคุณพี่อย่างเป็นทางการหรือยัง ที่วันนั้นเลี้ยงข้าวพวกเรา แหะๆ ขอบพระคุณมากๆ เลยค่ะ   พี่ไปเชียงใหม่เดือนที่แล้ว ...   มี 3 เรื่องสำคัญ ข้อ 1.  ร่วม การประชุมนานาชาติ ของท่าน กงสุลใหญ่อเมริกัน (ไมเคิล เค. มอร์โรว์) หัวข้อ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ภาคเหนือประเทศไทย โอกาสและความท้าทายในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ(Northern Thailand's Creative Economy Conference: Opportunities and Challenges in IT Sector) ระหว่าง 18-19 ก.พ.2553 ที่โรงแรมแชงกรีลา เชียงใหม่ ข้อ 2. สร้างศูนย์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาการศึกษาในภูมิภาค  Kick Off ที่เชียงใหม่ และ ... High Light เลย ต้อง.... ข้อ 3. เจอน้องว่าน ตัวเป็นๆ ...  ดังนั้น พี่ต่างหากต้องเป็นฝ่ายขอบคุณ น้องว่านและคณะว่านเชิญยิ้ม  ที่ทำให้ภารกิจพี่บรรลุความสำเร็จ ครบ 3 ข้อ  ครับ  ^_^

[ดร.มนตรี]

ต่อยอดจากโครงการเดิม ...

เครดิตภาพ: โครงการต้นแบบศูนย์ทางไกลเพื่อการศึกษาและพัฒนาชนบท เฉลิมพระเกียรติฯ ม.แม่ฟ้าหลวง