เหยง 16
|
|
« ตอบ #9500 เมื่อ: 11 กันยายน 2556, 20:17:40 » |
|
พายุห่าใหญ่กระหน่ำกรุง เซ็นทรัลแจ้งฯ น้ำเจิ่งถนน รถติดยาวถึงหลักสี่ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 11 กันยายน 2556 19:18:00 น. 11 ก.ย.56 มีรายงานข่าวว่า หลังจากที่ช่วงเย็นที่ผ่านมา ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนักในหลายพื้นที่เช่นกัน อาทิ ถนนวิภาวดีรังสิต รถหนาแน่น เคลื่อนตัวได้ช้า ขณะที่ถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ น้ำท่วมขัง รถติดขัด เคลื่อนตัวช้า สลับหยุดนิ่ง ฝั่งขาเข้า ท้ายอยู่ที่วงเวียนหลักสี่ http://www.ryt9.com/s/nnd/1733756
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9501 เมื่อ: 11 กันยายน 2556, 20:18:37 » |
|
สวัสดี น้อง ดร.มนตรี
ฝนตกหนักใน กทม.และปริมาณฑล ติดฝนอยู่นอกบ้าน หรือเปล่า ??
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9502 เมื่อ: 12 กันยายน 2556, 10:47:01 » |
|
เมืองไทยมีแดดสลับกับฝน ซึ่งฝนมากกว่าเมื่อวานเล้กน้อย ฝนมากในภาคกลาง ภาคใต้ ทะเลส่วนที่มีฝน คลื่นสูง ลมแรง
พยากรณ์อากาศ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ เริ่มมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน น่าน พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ขอนแก่น สกลนคร มุกดาหาร ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และสระบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-29 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 70 อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9503 เมื่อ: 12 กันยายน 2556, 13:46:09 » |
|
เภสัชกรเผย ผักดองดีต่อร่างกาย ลดการเจ็บป่วย12 กันยายน 2556 06:39 น. อภัยภูเบศรชี้ผักดองดีต่อร่างกาย ใช้เป็นอาหารแก้โรค เหตุมีโปรไบโอติกส์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเหมือนโยเกิร์ต ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ระบุยิ่งขับถ่ายดีการเจ็บป่วยจะน้อยลง
ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว เภสัชกรชำนาญการ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า สมุนไพรนอกจากจะนำมารักษาโรค แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้ว ยังสามารถกินเพื่อรักษาสมดุลในร่างกายและทำให้ไม่เจ็บป่วยได้ด้วยซึ่งเป็นแนวทางที่ดีกว่า ทั้งนี้ ความเชื่อแบบไทยจะเชื่อว่า การกินอาหารหมักดองนั้นจะทำให้เกิดลมในอวัยวะต่างๆ และทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้ แต่มีการศึกษาพบว่า การหมักทำให้อาหารอยู่ในรูปที่ดูดซึมง่าย เนื่องจากการหมักทำให้เกิดการย่อยสลายสารอาหารให้อยู่ในรูปแบบโมเลกุลเล็กลง เหมาะสำหรับกลุ่มที่ขาดอาหาร นอกจากนี้ นักวิจัยจากสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยังพบว่า ผักดองพื้นบ้านนั้น สารโปรไบโอติกส์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียสายพันธุ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย “โปรไบโอติกส์ หมายถึงแบคทีเรียชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จะเห็นได้ว่ามีผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่สกัดสารเหล่านี้ขึ้น เช่น โยเกิร์ต ถือเป็นอาหารประเภทที่มีโปรไบโอติกส์สูง ซึ่งหลายคนเลือกรับประทานเพื่อให้สามารถขับถ่ายได้ดีขึ้น แต่พบว่า การกินผักดองที่ใช้ผักพื้นบ้านมาปรุงให้เหมาะสมกับตนเอง หรือธาตุเจ้าเรือนที่แต่ละคนมีความแตกต่างกันนั้นจะช่วยเพิ่มแบคทีเรียชนิดที่มีประโยชน์ต่อการย่อย โดยมีทั้งโปรไบโอติกส์ และพรีไบโอติก หรือเรียกว่า ซินไบโอติกส์ จะทำให้ช่วยเพิ่มการทำงานของโปรไบโอติก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงต่อสุขภาพได้ด้วย” ภญ. ผกากรอง กล่าว ภญ.ผกากรอง กล่าวอีกว่า การรับประทานอาหารหากไม่สมดุลก็สามารถทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะหากร่างกายไม่สามารถย่อยอาหารและดูดซึมอาหารได้ดี โดยผักดองถือเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้าน ซึ่งให้ประโยชน์และมีค่าใช้จ่ายน้อย จะเห็นได้ว่า บางประเทศมีการกินผักดองทุกมื้อ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น โดยที่ใส่ชนิดของผักให้เข้ากับสภาพอากาศ เช่น เติมขิงมากๆ เมื่อมีอากาศหนาว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความอบอุ่นได้ ส่วนประเทศไทย ถือว่ามีผักพื้นบ้านจำนวนมาก โดยผักที่สามารถนำมาดองได้ เช่น ผักเสี้ยน ผักกุ่ม ผักสามรส ที่ทำจากแครอท หัวไชเท้า แตงร้าน พริกชี้ฟ้า ผักกาดขาว มาผสมกัน เป็นต้น อย่างไรก็ตามการเพิ่มผักดองในมื้ออาหาร ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพกับระบบการขับถ่ายและเมื่อร่างกายสามารถขับถ่ายได้ตามปกติโอกาสจะเกิดการเจ็บป่วยก็น้อยลง จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000114692
|
|
|
|
เริง2520
|
|
« ตอบ #9504 เมื่อ: 12 กันยายน 2556, 14:27:01 » |
|
หลายคนคงสงสัยว่าสมุนไพรกับการทำงานเกี่ยวข้องกันอย่างไรหาคำตอบได้ที่นี่ เชื่อว่าคนที่อ่านบทความนี้คงจะมีเวลาให้ตัวเอง และได้ทบทวนตัวเองพร้อมคำถามที่ว่าเรากำลังเป็นหรือเหมือนสมุนไพรดังกล่าวอยู่หรือปล่าวน๊า? แต่ถ้าเป็นจะทำยังไง เรามาเริ่มสำรวจตัวเองกันเลยดีกว่า
1.ขิง/ข่า ขิงก็(รา) ข่าก็(แรง) เป็นอันตรายกับชีวิตการทำงานอย่างยิ่ง บางครั้งเป็นการกระทบกระทั่งด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เมื่อไม่ยอมกันคนละก้าว ก็เสียทั้งงานและภาพพจน์ขององค์กร ทางแก้: การทำงานในสำนักงานไม่ว่าองค์กรราชการ หรือเอกชนเป็นการรวมคนจากที่ต่างๆเข้าด้วยกัน จึงเป็นเรื่องปกติที่มีการกระทบกระทั่งกันระหว่างเพื่อนร่วมงานรู้จักยอมกันบ้าง ทำนองว่า "แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร" นอกจากจะไม่เสียสุขภาพจิตแล้ว ยังได้ประสิทธิภาพของงานสูง
2. ขมิ้นกับปูน ไม่ชอบเพื่อน ไม่ขอบเจ้านาย ไม่ชอบหน้าลูกค้า ไม่ชอบงานที่ทำหรือไม่ชอบทุกอย่างในชีวิต! ทางแก้: ปรับเปลี่ยนทัศนคติมองผู้อื่นในด้านดี หรืออย่างน้อยก็ตามความเป็นจริง มองลูกค้าว่าเป็นผู้ที่ทำให้เราเลี้ยงครอบครัวได้ เพราะการทำงานโดยทัศนคติไม่ดีอยากจะก้าวหน้า และที่แย่ที่ที่สุดคือการรอเวลาให้ผ่านชีวิตทำงานแต่ละวันอย่างแสนทรมาน
3.วานหางจระเข้ (ฟาดหาง) เจอเรื่องไม่ดีที่บ้าน ก็นำมาฟาดหางจระเข้กับเพื่อนหรือลูกน้อง ทางแก้: แยกแยะงานกับเรื่องส่วนตัว ให้คิดเสมอ งานส่วนงานไม่นำเรื่องส่วนตัวมาปนกับงานเพราะทุกคนก็ประสบเรื่องไม่ดีทั้งนั้น ลองแก้ปัญหาส่วนตัวโดยวิธีอื่น เช่นปรึกษาเพื่อนฝูง
4.(เย็น)ชา เย็นชากับลูกค้า ลูกค้าหลุดได้ เย็นชากับลูกน้อง ลูกน้องก็หนี เย็นชากับเจ้านาย ก็อาจตกงาน! ทางแก้: รักษาน้ำใจเพื่อนๆในที่ทำงาน จะทำให้หลายสิบชั่วโมงต่อสัปดาห์ในที่ทำงานเป็นสวรรค์
5.(สี)เสียด: ใช้วาจาเสียดสี เหยียดหยาม กระแทกกระทั้งคนรอบตัวเพื่อความสะใจ ต่อหน้าลูกค้าเอ่ย ครับๆค่ะๆลับหลังลูกค้าด่าว่าโง่ฯลฯ ทางแก้: การใช้คำพูดเชิงลบไม่ช่วยแก้ปัญหาใดๆทั้งสิ้น กลับยิ่งทำให้ผู้พูดลดคุณค่าและความน่าเชื่อถือลงลองมองด้านดีของคนอื่นบ้าง
6.มะขวิด ไล่ขวิดคนไปทั่ว ยุ่งเรื่องชาวบ้าน โดยไม่ทำงานของตัวเอง ทางแก้: กลับไปทำงาน เพราะเวลาวัดงานในตอนท้ายไม่ได้วัดกันที่ความคมของเขี้ยว เขาหรืองา 7.แมงลัก ขโมยไอเดียของคนอื่นแล้วยกว่าเป็นของตัวเอง ทางแก้: พัฒนาตนเองตลอดเวลาเรียนรู้จากความคิดของผู้อื่น แล้วนำไปต่อยอด เป็นการเพิ่มคุณค่าให้ตนเอง
8.รางจืด ใช้ชีวิตแบบจืดสนิท ทำงานแบบกางตำรา ไม่เริ่มงานเด็ดขาดแม้เข็มนาฬิกาอยู่ก่อนเวลาเริ่มงานไม่เคยไปสังสรรค์ด้วยกันฯลฯ ทางแก้: เปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตทำงานบ้างแล้วอาจพบว่าการทำงานก็เป็นเรื่องสนุกได้
7.กระบือเจ็ดตัว พอใจในความรู้ความ สามารถที่ตนมีอยู่ไม่ว่ามันจะจำกัดเพียงใดไม่ยอมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทางแก้: ความรู้หรือเทคโนโลยีที่เรียนมาเมื่อ 10-20 ปี ก่อน อาจแก้ปัญหารูปแบบใหม่ๆในปัจจุบันไม่ได้ โลกเปลี่ยนไปนาทีต่อนาที คนทำงานต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทัน ต้องศึกษาเพิ่ม ก็จะดีเอ๋ย..
|
|
|
|
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์
รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842
|
|
« ตอบ #9505 เมื่อ: 12 กันยายน 2556, 14:29:37 » |
|
|
เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9506 เมื่อ: 14 กันยายน 2556, 06:55:52 » |
|
ขอบใจ ป๋าทู
ที่มาโพสต์บอกครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9507 เมื่อ: 14 กันยายน 2556, 06:58:44 » |
|
น้องเริง
ยิ่งอายุมาก ยิ่งตำแหน่งสูง อาการที่ว่ามา เกิดแบบผสมผสานเลย ??
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9508 เมื่อ: 14 กันยายน 2556, 07:12:13 » |
|
ฝนตกเพิ่มขึ้นในทุกภาค โดยตกลงมาถึงร้อยละ 80 ทุกพื้นที่ เว้นภาคใต้ ส่วน กทม.และปริมณฑล ตกร้อยละ 70 ทะเลยังมีคลื่นสูง ต้องระมัดระวังพยากรณ์อากาศ ประจำวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2556 ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "สภาวะฝนในประเทศไทย" ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 14 กันยายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และชายฝั่งภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “มานหยี่” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีทิศทางการเคลื่อนตัวไปยังประเทศญี่ปุ่น พายุนี้ ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร นครพนม บุรีรัมย์ และสุรินทร์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี และลพบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 70 และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9509 เมื่อ: 14 กันยายน 2556, 07:15:24 » |
|
นครสวรรค์ฝนตกทั้งคืนแบบตกต่อเนื่อง และขณะนี้ยังไม่หยุดตกเลย ??
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9511 เมื่อ: 14 กันยายน 2556, 17:29:32 » |
|
หนุน
thank you 3 times
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9512 เมื่อ: 14 กันยายน 2556, 17:31:29 » |
|
โทนี่ แบลร์ (อีกครั้ง) ??ปาฐกถาของโทนี่ แบลร์ : วีรพงษ์ รามางกูรวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 08:40:02 น. (ที่มา:มติชนรายวัน 12 ก.ย.2556) เมื่อต้นเดือนกันยายนนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ สมัยที่อังกฤษมีปัญหาความแตกแยกของประชาชนในแคว้นไอร์แลนด์เหนือ ระหว่างชาวไอร์แลนด์ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ชาวคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ ถึงกับมีการจับอาวุธขึ้นสู้กัน ฝ่ายต่อต้านอังกฤษต้องการแยกไอร์แลนด์เหนือออกจากสหราชอาณาจักร ต่อสู้กันกว่า 30 ปี ในที่สุดก็สามารถปรองดองกันได้จนทุกวันนี้ นายโทนี่ แบลร์ ได้รับเชิญจากสถาบันวิเทศและความมั่นคงศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันเทวะวงศ์วโรปการเพื่อกิจการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ให้มาพูดในงานสัมมนาเรื่อง "ปรองดองกันเพื่ออนาคต : เรียนรู้จากประสบการณ์ของกันและกัน"
หลังจาก โทนี่ แบลร์ พูดเสร็จก็มีปฏิกิริยาจากสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ที่ออกมาในทางไม่พอใจอยู่มาก หลายคนเห็นว่าข้อเสนอของ โทนี่ แบลร์ ทั้ง 5 ข้อ ไม่เห็นมีอะไรใหม่ คนไทยก็คิดได้ ไม่ได้เป็นข้อเสนอที่ลี้ลับอะไร
ปฏิกิริยาดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะมีข่าวว่ากระทรวงต่างประเทศเป็นผู้เชิญ คนที่ไม่ชอบรัฐบาลก็มีปฏิกิริยาต่อต้านทันที ที่จริงสถาบันเทวะวงศ์วโรปการ เป็นผู้เชิญ
โทนี่ แบลร์ เริ่มต้นปาฐกถาของเขาโดยกล่าวออกตัวไว้โดยเป็นหลักฐานว่า เขาไม่ได้รับเงินค่าจ้างมาพูด เป็นการตอบโต้ฝ่ายที่ปล่อยข่าวว่ารัฐบาลจ่ายเงิน 20 ล้านบาท เพื่อจ้างอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษมาพูดให้กับรัฐบาล
การปล่อยข่าวดังกล่าวต้องถือว่าเป็นเรื่องของคนที่ไม่มีรสนิยม อย่างน้อยก็น่าจะให้เกียรติเขาในฐานะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของมิตรประเทศ เล่นการเมืองกันจนเลยเถิด ที่สำคัญเป็นเรื่องเท็จ ไม่เป็นความจริงอย่างที่นายโทนี่ แบลร์ ปฏิเสธ
เนื้อหาของปาฐกถาที่นายโทนี่ แบลร์ มาพูดมีประโยชน์อย่างมาก พูดได้ตรงจุดคนไทยด้วยกัน แม้ว่าจะคิดได้แต่ก็ไม่มีใครที่มีความกล้าหาญพอที่จะพูดได้ตรงจุดเท่านี้
นอกนั้น คนไทยด้วยกันพูดก็ไม่มีใครฟังกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในระดับสูงที่มีอำนาจอยู่ในองค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งในวงการต่างๆ ที่มีอิทธิพลในการชี้นำและกุมชะตากรรมของประเทศอยู่ในขณะนี้
ปาฐกถาของโทนี่ แบลร์ มีเนื้อหาสาระที่ทุกฝ่ายควรเอาไปคิดแม้ว่าจะทำใจยาก อยากให้มีการพูดแบบโทนี่ แบลร์ นี้บ่อยๆ ซ้ำๆ เพื่อเป็นการเตือนใจว่าเราทุกคนทุกฝ่ายที่อยากเห็นบ้านเมืองมีอนาคต มีความปรองดอง ไม่คิดจะทิ้งความแตกแยกไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน อย่างน้อยผู้ที่ยังมีอารมณ์โกรธ อารมณ์เกลียด หรือทนไม่ได้ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงจะได้ตระหนักว่าเป็นอันตรายต่อประเทศชาติในอนาคต
โทนี่ แบลร์ เริ่มต้นในการยกย่องประเทศไทยว่ามีความล้ำหน้าในทางเศรษฐกิจและสังคม อุตสาหกรรมหลายๆ อย่าง เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมทันสมัยอื่นๆ รวมทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่พัฒนาจนเป็นที่ชื่นชอบของชาวโลก มีพลเมืองถึง 67 ล้านคน เป็นประเทศใหญ่ประเทศหนึ่งของโลก ควรจะเป็นประเทศที่มีพลังอำนาจประเทศหนึ่งของภูมิภาคและของโลกด้วยซ้ำ
สิ่งแรก ถ้าจะไปถึงจุดที่ว่า คนไทยต้องมีความรู้สึกร่วมกันที่จะเอาชนะความรู้สึกขมขื่นในอดีต เพื่อจะได้ใช้โอกาสและศักยภาพที่มีอยู่ผลักดันให้ประเทศไปข้างหน้า ทำอย่างไรจึงจะให้เกิดมีกระแสความรู้สึกขึ้นให้ได้ว่าคนไทยต่างก็มีส่วนในการสร้างอนาคตของชาติด้วยกันทั้งนั้น เป็นประการแรก
ประการที่สอง อดีตนั้นเราคงต้องยอมรับว่าไม่มีใครพอใจทั้งหมด ต้องยอมรับสิ่งที่มันเกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ความแตกแยกนั้น แต่ละฝ่ายจะมองคนละด้านเสมอ และคงจะเป็นอย่างนั้นต่อไป แต่การปรองดองจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าเรายังยึดติดอยู่กับสิ่งเหล่านั้น เราต้องทำใจให้ได้ว่าเราจะขับเคลื่อนบ้านเมืองของเราไปสู่อนาคตอย่างไร อยากเห็นอนาคตของชาติเป็นอย่างไร
เรื่องที่สาม ความรู้สึกไม่เป็นธรรมในอดีต การมีสองมาตรฐาน ความรู้สึกเหล่านี้แม้ว่าจะห้ามไม่ให้เราคิดไม่ได้ แต่ข้างหน้าจะต้องทำให้เกิดความรู้สึกให้ได้ว่าสังคมของเรายังมีความเป็นธรรม ความเป็นธรรมนั้นยังสร้างขึ้นได้
แทนที่จะถกเถียงกันถึงความไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรมและพยายามจะชี้หาตัวผู้ผิด เราควรสร้างกรอบความคิดและกรอบการดำเนินการร่วมกัน เพื่อให้เกิดความร่วมมือเพื่ออนาคต มองไปข้างหน้า ไม่ใช่มองแต่ข้างหลังที่ขมขื่นอย่างเดียว
ข้อที่สี่ กรอบความคิดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปรองดองนั้น ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานในกรอบของประชาธิปไตย จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้
ความเป็นประชาธิปไตยนั้นต้องเป็นทั้งความคิด ทัศนคติ ความเชื่อ รูปแบบ จะมีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ หมายความว่า การจะเรียกร้องให้เกิดความปรองดองโดยบังคับให้คนคิดในกรอบอย่างอื่นที่ไม่ใช่ในกรอบประชาธิปไตยนั้นเป็นไปไม่ได้ ประชาธิปไตยไม่ใช่เฉพาะรูปแบบเท่านั้น ต้องเป็นประชาธิปไตยจริงๆ
สังคมของประเทศต่างๆ นั้นย่อมมีการแบ่งแยกกันเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะโดยชนชั้นวรรณะ ฐานะทางเศรษฐกิจ เชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อทางการเมือง สังคมนี้จะดำรงอยู่ได้ก็ด้วยระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น ไม่มีระบอบอื่น
ประชาธิปไตยไม่ใช่มีเฉพาะการเลือกตั้งเท่านั้น แต่ต้องรวมสิ่งอื่นที่กล่าวมาแล้วด้วย ประชาธิปไตยไม่ใช่ขบวนการเพื่อให้เสียงส่วนใหญ่ได้อำนาจการปกครองเท่านั้น แต่หมายถึงเสียงส่วนน้อยจะมีส่วนในอำนาจอย่างไร เสียงส่วนใหญ่จะสัมพันธ์กับเสียงส่วนน้อยอย่างไร ให้เสียงส่วนน้อยไม่รู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง
ปราการที่ห้า สังคมจะปรองดองกันได้ คนในสังคมต้องรู้สึกว่าเขาได้ประโยชน์ด้วย ถ้าเศรษฐกิจมีความเจริญก้าวหน้า ทุกคนได้ประโยชน์ ความแตกแยกแก้ไขได้ง่ายกว่าในกรณีที่เศรษฐกิจตกต่ำ คนตกงาน รัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ ไม่โปร่งใส
ถ้าจะเดินทางร่วมกันไปสู่ความปรองดอง รัฐบาลต้องแสดงให้เห็นว่าตนเองมีประสิทธิภาพ โปร่งใส เป็นรัฐบาลที่มีคุณภาพ สมกับที่ได้รับคะแนนนิยมจากเสียงข้างมาก สามารถทำให้ผู้คนมีฐานะดีขึ้น สามารถทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืน มีความสุข แต่ถ้าคนคิดว่ารัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ทำให้คนดีขึ้น รัฐบาลนั้นจะเรียกร้องการปรองดองได้ยาก
เมื่อวิเคราะห์คำพูดของ โทนี่ แบลร์ จะเห็นว่าเขาพูดอย่างมีความเข้าใจถึงโครงสร้างทางการเมืองของไทยได้เป็นอย่างดี ลึกซึ้ง ยังไม่มีคนไทยเสนอความเห็นอย่างเป็นระบบครบถ้วนอย่างนี้
นอกจากความที่คนในสังคมอยากจะเห็นอนาคตของประเทศ อยากจะปรองดอง ทำให้คนในสังคมเห็นว่าสังคมของตนมีความเป็นธรรม การปรองดองจะเกิดขึ้นไม่ได้ในกรอบความคิดอื่นที่ไม่ใช่กรอบความคิดประชาธิปไตย ประชาธิปไตยไม่ใช่เพียงรูปแบบ เป้าหมายและวิธีการก็ต้องเป็นประชาธิปไตย ที่สำคัญก็คือส่วนที่เป็นนามธรรมด้วย ทั้งความคิด วิธีคิด คุณค่าและวิถีทางดำเนินชีวิตก็ต้องเป็นไปในกรอบของประชาธิปไตยด้วย มิฉะนั้นการปรองดองก็จะไม่มีทางทำให้สำเร็จได้
กรอบความคิด การตัดสินใจ การดำเนินการ หากอยู่ในกรอบ 5 ประการ น่าจะนำไปใช้ได้กับการแก้ไขความขัดแย้งที่มีอยู่ในบ้านเรา ทั้งในเมืองหลวงกับนอกเมืองหลวง และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดภาคใต้
ที่สำคัญรัฐบาลต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถทำให้ประเทศชาติ คุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้คนดีขึ้น หากมิฉะนั้นแล้วหนทางที่จะนำไปสู่การปรองดองก็คงจะยากยิ่งขึ้น โดยยกกรณีสหราชอาณาจักรเป็นตัวอย่าง
เสียดายที่สื่อมวลชนของเรามีอคติ ไม่ได้ถ่ายทอดปาฐกถาของเขาและสื่อสารให้ครบถ้วน รังเกียจว่าเป็นความเห็นของคนต่างชาติ ทั้งๆ ที่เป็นข้อเสนอที่มีประโยชน์และมาจากประสบการณ์ของเขา
พวกเราน่าจะรับฟังและเอาไปคิด http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1378986326&grpid=&catid=02&subcatid=0207
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9513 เมื่อ: 15 กันยายน 2556, 08:30:06 » |
|
ฝนเพิ่มขึ้นเนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ฝนในภาคใต้น้อยลง แต่คลื่นสูง ลมแรงเช่นเดิม
พยากรณ์อากาศ ประจำวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และชายฝั่งภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “มานหยี่” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีทิศทางการเคลื่อนตัวไปยังประเทศญี่ปุ่น พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท และลพบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 60 และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9514 เมื่อ: 15 กันยายน 2556, 08:31:56 » |
|
เปิดเว็ปอุตุนิยมฯ ตอนเช้าประมาณ 07.15 น. เจอหน้าว่างเข้าให้.... ??
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9515 เมื่อ: 15 กันยายน 2556, 09:54:21 » |
|
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9517 เมื่อ: 15 กันยายน 2556, 09:56:16 » |
|
|
|
|
|
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์
คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927
|
|
« ตอบ #9518 เมื่อ: 15 กันยายน 2556, 10:08:58 » |
|
สวัสดีสายๆวันอาทิตย์ครับพี่เหยง ติดตามข่าวสารครีับ
ผมว่าที่โทนี่ แบลร์ พูด ก็เป็นภาพรวมสะท้อนสังคมไทยที่ชัดเจนนะครับ รัฐบาลต้องเอาไปคิดต่อว่า จะสร้างความเชื่อมั่นกับกลุ่มที่ไม่ค่อยเห็นด้วยยังไง อาการพูดอย่าง ทำอย่าง แสดงออกถึงกาารวางผลประโยชน์ไว้ล่วงหน้า ที่จะตามไปเก็บเกี่ยว ต้องให้น้อยลงกว่านี้มากๆๆๆๆๆ ครับ
|
“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้ อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
|
|
|
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์
คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927
|
|
« ตอบ #9519 เมื่อ: 15 กันยายน 2556, 10:11:24 » |
|
น่ารักดีครับพี่เหยง ช่วงนี้ดีนะ ไม่ต้องรดน้ำต้นไม้ 555...
|
“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้ อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9520 เมื่อ: 15 กันยายน 2556, 20:31:26 » |
|
หนุน
ยังจัดสวนไม่เก่งครับ หมดเงินกับหนังสือจัดสวนหลายเล่มแล้ว ??
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9521 เมื่อ: 15 กันยายน 2556, 20:32:54 » |
|
ข่าวดีสำหรับรุ่น 2516 แม้จะห่างกันมานาน
1 ต.ค. จะมีนายทหารยศพลอากาศตรี 1 นายคือ ว่าที่ พลอากาศตรี ชิน นาคบาง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพอากาศ
อดีตนักเรียนนายเรืออากาศที่มาเรียนวิศวะฯ จุฬาฯ และพักที่หอช่วงปี 2516
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #9522 เมื่อ: 15 กันยายน 2556, 20:36:28 » |
|
ส่วนรุ่น จุฬาฯ 2516
คณะเภสัชศาสตร์ พลตรีกฤษฎา เต็มบุญเกียรติ ผู้อำนวยการโรงงานเภสัชกรรมทหาร เป็นที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (อัตราพลโท)
พันเอกหญิงสุภัททา เต็มบุญเกียรติ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก (อัตราพลตรี)
|
|
|
|
|
|
|