23 พฤศจิกายน 2567, 15:49:24
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 335 336 [337] 338 339 ... 472   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ  (อ่าน 2598780 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 38 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8400 เมื่อ: 28 เมษายน 2556, 17:18:45 »

วันนี้มีแต่เรื่องหนักหัว.....??

“อุเทน ชาติภิญโญ” เปิดหน้าชนงบสู้น้ำ ชำแหละทีโออาร์ 3.5 แสนล้านพิรุธอื้อ
27 เมษายน 2556 06:39 น.


       ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เป็นที่รู้กันว่ากว่าที่ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท หรือ “พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้าน” จะฝ่าฟันผ่านด่านฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และศาลรัฐธรรมนูญมาได้เมื่อต้นปีก่อนเรียกว่าแทบรากเลือด
       
       และทั้งๆ ที่อ้างว่าเป็นเรื่อง “เร่งด่วน” แต่น่าแปลกว่าตั้งแต่เดือน ม.ค.55 ที่กฎหมายฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ กลับมีการกู้เงินตามอำนาจ พ.ร.ก.ฉบับนี้ไปเพียง 1 หมื่นล้านบาท และมีการเบิกจ่ายไปเพียงราว 5 พันล้านบาทเท่านั้น
       
       ชี้ให้เห็นว่า “ความเร่งด่วน” ที่รัฐบาลหยิบยกขึ้นมาใช้อ้างในตอนนั้น มันไม่ใช่และฟังไม่ขึ้นเลย
       
       ที่สำคัญ “เงื่อนไข” ของ พ.ร.ก.ดังกล่าวจะต้องกู้เงินทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.56 หรือเหลือเวลาอีกเพียงเดือนเศษเท่านั้น มิเช่นนั้นจะเท่ากับรัฐบาลหมดสิทธิกู้เงินก้อนนี้ ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลรู้ดีในข้อกำหนดที่ว่า จึงได้วาง “เดดไลน์” ขั้นตอนประกาศผู้ชนะการประมูลในช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อให้เริ่มต้นดำเนินการก่อสร้างตอกเสาเข็มโครงการต่างๆได้เดือน มิ.ย.56 นี้
       
       แต่คงไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะล่าสุดต้อง “สะดุดตอ” อีกครั้ง เมื่อ “อุเทน ชาติภิญโญ” อดีตประธานคณะกรรมการประธานผันน้ำลงทะเล ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เข้ายื่นหนังสือต่อองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ให้ตรวจสอบคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ที่มี “ปลอดประสพ สุรัสวดี” รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ได้ออก พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท เพื่อบริหารจัดการน้ำ ที่อาจเป็น “ช่องโหว่”ให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น และอาจไม่ชอบด้วยอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต พ.ศ.2546 (UNCAC 2003) ซึ่งประเทศไทยเป็นรัฐภาคี และได้ให้สัตยาบันที่สหประชาชาติไว้แล้ว เมื่อวันที่ 1 มี.ค.54
       
       น่าสนใจที่ว่า “อุเทน” เคยเป็นคีย์แมนคนสำคัญใน ศปภ.ที่สู้กับวิกฤตน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 54 เป็นหนึ่งในทีมที่ปรึกษา “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และเป็นอดีตกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ที่เพิ่งลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
       
       พูดง่ายๆว่าเป็น “อดีตคนใน” ที่สำคัญคนหนึ่งของพรรคเพื่อไทยนั่นเอง
       
       ในวันที่ “อุเทน” หันหลังให้พรรคเพื่อไทยนั้น ได้เคยให้เหตุผลในวันนั้นไว้ว่า ต้องการออกมาดูแลธุรกิจส่วนตัว ซึ่งหลายคนข้องใจในเหตุผลที่ว่าแต่พอมาถึงวันนี้ทุกคนก็ถึงบางอ้อ ว่าต้นสายปลายเหตุน่าจะมาจากความไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท ที่เสมือนเป็นการ “ตีเช็คเปล่า” เปิดช่องให้หาประโยชน์กันอย่างไม่ถูกต้องชอบธรรม และหากยังสวมเสื้อเพื่อไทยอยู่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้ไม่ถนัด จึงเลือกที่จะถอยออกมาเพื่อให้มีอิสระมากกว่า
       
       “ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์” ไม่รอช้าขอเปิดใจ “อุเทน ชาติภิญโญ” ถึงที่มาที่ไปในการออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ และเปิดพื้นที่ให้ “จัดหนัก” ชำแหละทีโออาร์ 3.5 แสนล้านที่เขาบอกว่า งานนี้พิรุธอื้อ...
       
       -เป็นมาอย่างไรถึงหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาต่อสู้
       
       ผมมีสโลแกนประจำใจแต่ไหนแต่ไรมาแล้วว่า “ประเทศชาติต้องอยู่รอด” ก่อนจะมาเพิ่มเป็น “ประเทศชาติต้องอยู่รอด พรรคเพื่อไทยจึงจะอยู่ได้” คือประเทศชาติต้องมาก่อนพรรค จนกระทั่ง ณ วันนี้ ผมลาออกจากพรรคเพื่อไทยตามที่รู้กันแล้ว ก็ปรับมาเป็น “ประเทศชาติต้องอยู่รอด ลูกหลานไทยจึงจะอยู่ได้” เพราะหากประเทศชาติอยู่ไม่รอด อาชญกรรมเกิดขึ้นมากมาย แล้วจะอยู่ได้ยังไงกัน สังคมก็ล้มเหลว อยู่กันไม่ได้ ดังนั้นประเทศชาติต้องมีความมั่นคงความมั่งคั่ง ทั้งหมดจะต้องถูกจัดระเบียบ การจัดระเบียบที่ดีที่สุดนั้นต้องเริ่มที่เรา และคนใกล้ตัวเรา โดยเฉพาะเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่น
       
      -แสดงว่านี่คือเหตุผลที่แท้จริงในการลาออกจากพรรค
       
       ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะถ้าไม่ลาออกในตอนนั้น ผมรู้ว่าจะไม่มีเวที และไม่ทันต่อการที่จะออกมาบอกสังคม รู้แล้วว่ามีอะไรบ้างที่ไม่ควร และอะไรที่มันไม่น่าจะเป็นในกฎหมายฉบับนี้ที่จะหมดอายุสิ้นเดือน มิ.ย.56
       
       -ความผิดปกติของทีโออาร์โครงการบริหารจัดการน้ำมูลค่า 3 แสนล้านคืออะไร
       
       ตั้งแต่กระบวนการเขียนทีโออาร์ ที่ออกมา 9 เล่ม 10 แผนงาน (โมดูล) แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ A1-A6 ที่เป็นโครงการในส่วนของภาคเหนือ และ B1-B4 ในส่วนของฝั่งตะวันออก โดยทุกโมดูลเหมือนกันหมดในเรื่องของรูปแบบวิธีการ ต่างกันแค่สถานที่โครงการ และจำนวนน้ำที่คาดการณ์ จำนวนเงินที่ตั้งไว้ หากนำทุกโมดูลมาเปรียบเทียบกันจะรู้ว่ามีความไม่ชอบพากลในแต่ละโมดูล และเน้นในแต่ละข้อกำหนดย่อยของแผนงานด้วย
       
       -ทีโออาร์มีพิรุธตรงไหนบ้าง
       
       มีตั้งแต่หัวข้อที่ 1 บทนำในแต่ละแผนงานเลย ซึ่งทุกๆแผนงานเขียนเหมือนกันหมด ขนาดโมดูล A6 กับ B4 ที่เป็นเรื่องของงานระบบฐานข้อมูล ก็ยังมีเนื้อความเหมือนกันโมดูลอื่นๆที่เป็นงานเกี่ยวกับการก่อสร้าง ทั้งๆ ที่เป็นคนละเนื้องาน โดยในบทนำของทุกๆโมดูลมีการกำหนดว่า รัฐบาลไทยได้พิจารณากรอบแนวคิดที่เห็นว่ามีความเหมาะสมจำนวน 3 ราย หมายความว่า กรอบแนวคิดที่รัฐบาลคัดมาแล้วจะเป็นของผู้รับเหมา 3 ราย ตามปกติแล้วแต่ละรายคงไม่เสนอแนวคิดเดียวกัน แต่ถ้าเผอิญว่าทั้ง 3 รายเสนอมาเหมือนกัน แสดงว่ามีการฮั้วกัน
       
       ถัดมาในส่วนของหัวข้อที่ 2 วัตถุประสงค์ที่ระบุว่า เพื่อศึกษาสำรวจ ออกแบบและก่อสร้าง ซึ่งก็จะเปลี่ยนเพียงชื่องานในแต่ละแผนงาน อย่าง A1 บอกว่าให้สามารถผันน้ำจำนวน 1,300 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม) ภายใต้งบประมาณไม่เกิน 50,000 ล้านบาท ผมเน้นคำว่าไม่เกินที่ระบุไว้ หมายความว่าถ้าเกิดทำจริงๆแค่ 20,000 ล้านบาท เหลือช่องว่างอีกตั้ง 30,000 ล้านบาท อย่างนี้จะไม่มีการแบ่งให้มีการใช้งบประมาณเท่ากับที่ทีโออาร์กำหนดไว้ 50,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่ามีการทำอย่างนี้แน่ๆ
       
       นอกจากนั้นในทีโออาร์ยังระบุข้อความเป็นภาษาอังกฤษที่ผมไม่เข้าใจความหมายทั้งเรื่องการก่อสร้างแบบ Design-Build with Guaranteed Maximum Price (GMP) มันแปลว่าอะไร ถ้าให้ผมตีความก็คงแปลว่า สร้างไปออกแบบไปด้วยการประกันราคาอันสูงที่สุด ซึ่งอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจ โดยเฉพาะที่คุณปลอดประสพพูดหลายครั้งบอกว่าคิดไปทำไปเป็นการก่อสร้างรูปแบบใหม่ คือให้เงินไปแล้วค่อยศึกษา ถามว่าถ้ามันไม่คุ้ม คุณทำยังไง ยกเลิกไหม สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่รัฐควรประเมินก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ทำไปประเมินไป ผมก็เลยไปถามยูเอ็นเพื่อให้ช่วยศึกษาตรงนี้
       
       -มีการตั้งข้อสังเกตว่าแผนงานทั้งหมดยังไม่ได้มีการศึกษาที่อย่างละเอียดเลย
       
       จะเห็นว่าในส่วนของหัวข้อที่ 4 เรื่องขอบเขตงานหลัก ก็มีระบุให้ผู้รับเหมาต้องทำการศึกษา ทั้งเรื่องความเหมาะสม การวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมสังคม/สุขภาพ ตลอดมาถึงข้อสำคัญข้อ 4.1.3. ที่พูดถึงความคุ้มค่าด้านเศรษฐศาสตร์และการเงิน หรือพูดง่ายๆสร้างไปแล้วจะคุ้มไหม และมีตัวประเมินผลยังไง ก็ถามเหมือนเดิมว่า ถ้าไม่คุ้มจะสร้างต่อไหม ถ้าไม่สร้างต่อ เงินที่เบิกจ่ายหลังเซ็นต์สัญญาไปแล้ว 5 เปอร์เซ็นต์จะทำยังไง จะเสียเปล่าไหม จะเอาคืนจากใคร และหากผู้รับจ้างฟ้องกลับมา จะเป็นการเสียค่าโง่ไหม ก็ถามต่อไปอีกว่า ทำไมไม่ทำการศึกษาก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงตรงนี้
       
       ในส่วนของข้อ 4.2 การออกแบบ ซึ่งในแผนงาน A1 และโมดูลอื่นๆที่ระบุถึง “อาคารประกอบอื่นเพื่อใช้ส่งน้ำชลประทาน” ตรงนี้คงหมายความว่าสร้างไว้เผื่อน้ำแล้ง แต่ยังมีเรื่อง “การรองรับการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ” อีก อาจจะต้องการให้เหมือนกับเขื่อนภูมิพล แต่ทำไมไม่เขียนลงไปให้ชัดเจนเลยว่าให้มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งสองส่วนนี้มีห้อยท้ายว่า “หากมีศักยภาพและมีความจำเป็นในภายหลัง” ก็สงสัยว่าทำไมต้องเผื่อ ทำไมไม่ทำไปเลย แถมยังมีลูกมั่วเรื่องการพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและการนันทนาการอีกด้วย ตกลงอาคารที่ว่านี้จะทำเพื่ออะไรกันแน่
       
       -เรื่องการเวนคืนที่ดินก็ส่อว่าจะมีปัญหา
       
       ในทีโออาร์ระบุเรื่องการจัดหาที่ดินและการขออนุญาตใช้พื้นที่ไว้ในข้อ 4.3 ที่ให้ผู้รับจ้างร่วมดำเนินการกับหน่วยงานราชการ ซึ่งระบุขั้นตอนไว้ตลกมากคือ หากเป็นที่ดินของเอกชน ให้ผู้รับจ้างไปตกลงราคา หากตกลงก็ให้จ่ายเงินให้เจ้าของที่ดิน เหมือนกับว่าอยู่ๆคุณเอาเงินไปให้ใครก็ไม่รู้ซื้อที่ดิน ราคาเท่าไรก็ไม่รู้ แต่สุดท้ายให้โอนมาให้รัฐก็แล้วกัน แบบนี้ไม่ถูกต้อง เพราะในทีโออาร์ระบุไว้กว้างมาก รวมถึงให้อำนาจบริษัทมากเกินไป ทำให้มีโอกาสสูงที่รัฐจะได้ของแพง และอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างกัน ทั้งผู้รับจ้าง เจ้าหน้าที่รัฐ กับเจ้าของที่ดิน รู้เห็นเป็นใจกันหาประโยชน์ หรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอื่นๆที่จะทำตัวเป็นนายหน้า และยิ่งเมื่อมาดูขั้นตอนถัดมาก็บอกว่า ถ้าผู้รับจ้างไปเจรจาไม่ได้ให้มาบอกรัฐบาล เดี๋ยวจะออกกฎหมายเวนคืนที่ดินให้ ถามว่าทำไมไม่ออกกฎหมายเวนคืนมาเลย เพื่อปิดช่องโหว่ในการปสวงหาผลประโยชน์
       
       -พูดได้ไหมว่ามีความตั้งใจเขียนทีโออาร์ให้ออกมาแบบนี้
       
       ไม่อยากพูดอย่างนั้น แต่ต้องบอกว่าเป็นความหละหลวมมากกว่า คนทำอาจจะไม่ได้คิด ไม่ได้อ่าน ซึ่งทำให้ผมตั้งข้อสังเกตว่า หลายๆข้อจะเป็นต้นเหตุแห่งการทุจริต และจะเชื่อได้อย่างไรว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะทำหน้าที่ตรงไปตรงมา จึงต้องถามไปยังคุณปลอดประสพ และกรรมการ กบอ.ว่า ทำเอกสารออกมาแบบนี้ได้อย่างไร เพราะที่กล่าวไปถือเป็นประเด็นใหญ่ที่เห็นถึงความไม่ชอบมาพากล ยังมีประเด็นยิบย่อยอื่นๆอีกมาก
       
       -สรุปโครงการบริหารจัดการน้ำทั้งหมดนี้ยังจำเป็นไหม
       
       ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ และให้แท้งไปก่อน แล้วค่อยมาเริ่มต้นว่าสิ่งไหนจำเป็นต้องทำ พ.ร.ก.นี้จะหมดอายุเดือน มิ.ย.นี้ ก็ปล่อยให้หมดไป เพราะจนถึงวันนี้ความคืบหน้าก็เห็นมีเพียงทีโออาร์ไม่กี่หน้า แต่ละโมดูลก็ลอกกันมา เปลี่ยนแค่ตัวเลขนิดหน่อย หากยังดันทุรังก็มีความเสี่ยงสูงที่จะไม่สำเร็จ หรือหากดำเนินการต่อ ผลก็จะออกมาไม่ดีแน่ มีปัญหาตามมาอีกมากมาย เพราะเร่งรีบจนเกินไป ที่สำคัญผมยืนยันว่าแผนงานแก้ปัญน้ำแล้งน้ำท่วมทั้งประเทศ ตามแนวยุทธศาสตร์ของผมจะใช้เงินไม่ถึงแสนล้านบาท เพียงไม่ 1-1.5 หมื่นล้านก็ทำโครงการพวกนี้ได้แล้ว โดยใช้กายภาพแม่น้ำคูคลองที่มีอยู่
       
       -ข้อสังเกตที่ว่ามาทั้งหมดเคยบอกในพรรคไหม
       
       เคยพูดทั้งโดยตรงโดยอ้อม เคยเขียนหลายๆครั้งผ่านทางเฟซบุ๊กบ้าง หรือส่งข้อความให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบางคน ก็ไม่มีฟีดแบ็คอะไรเลย บางคนก็บอกว่าต้องรีบทำเพราะเดี๋ยวน้ำจะมา แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ เพราะโดยทฤษฎีและประวัติศาสตร์ น้ำไม่ได้มาถี่แบบนั้น ซึ่งก็ไม่ใช่ข้ออ้างว่าจะไม่ทำ การป้องกันน้ำท่วมน้ำแล้งยังต้องมี เพียงแต่ผมอยากชี้ให้เห็นว่ามันมีความไม่ปกติในทุกๆทีโออาร์ของโครงการนี้
       
       -การต่อสู้เรื่องนี้เล็งเห็นผลอย่างไรบ้าง
       
       ก็อยากให้มีการศึกษารายละเอียดก่อนค่อยดำเนินโครงการ เพราะข้อมูลของราชการก็มีอยู่แล้ว โดยเฉพาะของกรมชลประทาน ทำไมถึงไม่ศึกษากันก่อน แล้วยังมาเขียนข้อกำหนดเฉพาะงานอันไม่ฉลาด และไม่รัดกุมนี้ เหมือนกับมีเจตนาเอื้อให้เกิดการหาประโยชน์โดยไม่ชอบ ซึ่งผมเชื่อว่าตัวนายกฯยิ่งลักษณ์ไม่รู้ว่าทีโออาร์เขียนออกมาแบบนี้ ถ้ารู้ ท่านคงไม่ให้ทำ และคงไม่ยอมให้มีการทำอย่างนี้แน่ นายกฯก็ไม่ได้รู้ทุกอย่าง เพียงแต่สั่งงานลงมา ส่วนคนรับผิดชอบจะไปทำยังไงแบบไหน นายกฯคงไม่ได้ตามลงมาตรวจดูทุกตัวอักษร
       
       -คาดหวังว่าทางยูเอ็นจะดำเนินการอย่างไรต่อ
       
       ทางยูเอ็นรับปากแล้วว่าจะส่งให้ ป.ป.ช.โดยเร็ว และเขาก็เชื่อว่าทาง ป.ป.ช.จะตามตัวผมไปให้ข้อมูล และยังสนับสนุนให้ผมไปยื่นเรื่องต่อศาลปกครองด้วย เพื่อให้ทันการณ์ก่อนวันที่ 3 พ.ค.ที่จะมีการประกาศผู้ชนะประมูล เพื่อต้องการให้สั่งระงับการดำเนินการดังกล่าวของ กบอ.ไว้ชั่วคราว จนกว่ากระบวนการทุกอย่างจะโปร่งใส ตรวจสอบได้
       
       -ทำไมเลือกที่จะยื่นต่อยูเอ็นก่อน แทนที่จะเป็นศาลปกครอง
       
       เพราะว่าไทยเป็น 1 ในรัฐภาคีของยูเอ็น ได้ลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ตั้งแต่เมื่อปี 2546 แต่ไปให้สัตยาบันเมื่อปี 2554 ขณะที่ประเทศอื่นพอลงนามแล้วก็จะให้สัตยาบันเลยในเวลาไม่นาน และอยากถามว่าตั้งแต่ให้สัตยาบันมาเราได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ไม่มีการดำเนินการอะไรให้เกิดความโปร่งใสและสุจริตเลย ยังคงมีพฤติกรรมกันแบบเดิมๆ อะไรหลายๆอย่างส่อไปทางทุจริตทั้งนั้น ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็ยังมีพฤติกรรมในการออกข้อกำหนดเฉพาะงานหรือทีโออาร์ในเชิงส่อในทางทุจริตทุกๆรัฐบาลที่ผ่านมา และเมื่อยื่นคำร้องต่อศาลปกครองแล้ว ก็หวังว่าศาลท่านจะใช้อำนาจที่มีเพื่อผลพวงประโยชน์แห่งรัฐ
       
       -อย่างนี้ก็ต้องถามไปถึงร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทที่อยู่ในชั้นกรรมาธิการ สภาฯตอนนี้
       
       เรื่องนี้จะเป็นประเด็นที่ผมได้เตรียมการศึกษาไว้แล้ว และจะเปิดเผยข้อมูลให้ทราบต่อไป
       
       -ถึงวันนี้หลายคนก็ยังสงสัยถึงสาเหตุการลาออกจากพรรคเพื่อไทย
       
       หลายคนทั้งในพรรคเพื่อไทย และเพื่อนๆต่างพรรค มาถามผมว่า พี่เทนคิดยังไงลาออกจากพรรค อยู่ในพรรคก็โคตรใหญ่ จะลาออกมาทำไม ซึ่งผมก็บอกว่า ไม่เห็นต้องมีความภาคภูมิใจกับความเล็กความใหญ่ เพราะผมก็คือผม ชื่อนามสกุลหรือหน้าตาอาจจะเปลี่ยน อาจจะศัลยกรรมได้ แต่ตัวตนผมเปลี่ยนไม่ได้ เมื่อผมอึดอัดในหลายๆเรื่อง ซึ่งไม่มีโอกาสที่จะพูดออกมาเต็มปาก จะทำก็ทำได้ไม่เต็มที่ ตัดสินใจอยู่นานจึงได้ทำหนังสือลาออก ไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย เพียงต้องการให้บ้านเมืองสังคมรู้ถึงความชัดเจนในตัวตน และยืนยันว่าไม่ได้เอาดีใส่ตัว เพราะที่ผ่านมาผมก็เป็นเสียงข้างน้อยในพรรคมาโดยตลอด บางทีไม่ได้พูดเพื่อให้เป็นข่าว หรือบางคนก็เอาคำพูดในที่ประชุมออกมาว่า ผมพูดอย่างนั้นอย่างนี้ ผมก็รับเคราะห์ไป ทั้งที่บางเรื่องไม่ได้พูด
       
       -แสดงว่ามีปัญหาในพรรคพอสมควร อย่างนี้ที่ผ่านมามีใครมาตำหนิบ้างไหม
       
       บอกว่ามีปัญหาคงไม่ถูก เพราะไม่เคยมีใครมาตำหนิติติง ไม่มีใครมายุ่งกับผมในเรื่องความคิดความอ่าน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมขอบคุณพี่ๆน้องๆในพรรคเพื่อไทย แม้ถึงวันนี้ที่ออกมาทำเรื่องนี้ ก็ไม่มีใครมาต่อว่าผมเลย เพราะเขาเหล่านั้นรู้ดีว่า ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง และนี่ก็คือตัวตนของผม
       
       -คิดว่าการเคลื่อนไหวเรื่อง พ.ร.ก. 3.5 แสนล้านบาทจะทำให้มีปัญหากับพรรคเพื่อไทยไหม
       
       ผมไม่เชื่อว่าจะมีปัญหากัน เพราะผมต่อสู้บนความถูกต้อง กับในพรรคผมก็ไม่เคยเกลียดใคร ทุกคนรู้จักตัวตนของนายอุเทนดี ที่ไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าอยู่ในพรรคหรือออกมาแล้ว อะไรก็แล้วแต่ต้องมีความชอบธรรมและถูกต้อง แต่หากมีทั้งสองอย่างพร้อมกันก็ถือว่าสมบูรณ์แบบ บางครั้งอาจจะชอบธรรมแต่ไม่ถูกต้อง หรือบางครั้งมันถูกต้องแต่ไม่ชอบธรรมก็มี เป็นแบบว่ามันต้องฝืนความรู้สึกกันบ้าง
       
       -ถูกมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวเพราะอกหักจากพรรคเพื่อไทย
       
       ผมจะไปอกหักอะไร ชีวิตไม่ต้องการอะไรแล้ว ธุรกิจส่วนตัวก็อยู่ตัวมีเลี้ยงตัวเองได้ ครอบครัวก็ไม่มีปัญหา ลูกสาวคนเดียวก็เรียนจบปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยชิงหัว ประเทศจีน แล้วจะไปต้องการอะไรอีก ที่ผ่านมาแม้เคยเรียกร้อง แต่ก็ไม่ใช่ร้องขอ บทบาทหน้าที่ที่ผ่านมาก็ได้รับการมอบหมายมาเอง โดยเฉพาะตอนที่มีบทบาทในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ในฐานะประธานคณะกรรมการประธานผันน้ำลงทะเลฯก็ได้รับมอบหมายเอง
       
       -กับพรรคเพื่อไทยวันนี้อยู่ในฐานะอะไร
       
       ก็ยังเหมือนเดิม พี่ๆน้องๆในพรรคหลายคนก็ยังติดต่อกันอยู่ บางทียังชวนผมไปกินข้าวที่พรรค ผมก็บอกว่าออกมาแล้ว ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว กลัวจะน่าเกลียด แต่ความเป็นจริงก็ไปได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร อย่างวันนี้ผมก็ยังมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา รมว.กลาโหม ให้กับพี่โอ๋ (พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณฑัต) อยู่ ตอนลาออกจากพรรคก็ไปถามท่านว่าจะให้ลาออกจากที่ปรึกษาด้วยไหม พี่โอ๋ก็ยังบอกว่าไม่ต้อง เพราะที่ตั้งผมเป็นที่ปรึกษา ไม่ใช่เพราะอยู่พรรคเดียวกัน
       
       -ฟังจากหลายๆอย่างกับนายกฯยิ่งลักษณ์ก็ยังให้ความเคารพกันอยู่
       
       เคารพมาก ยังรักยังเคารพ รวมทั้งท่านทักษิณด้วย ซึ่งผมทำงานด้วยแล้วสบายใจ เพียงแต่คนรอบข้างของท่านมีปัญหา ซึ่งผมไม่เชื่อใจ ในจดหมายลาออกจากพรรค ผมก็ส่งถึงคนรอบข้างท่าน ผมไม่โจมตีใครโดยตรง เพียงแต่ต้องการสะกิดให้เห็นว่าบ้านเมืองต้องอยู่รอด ประเทศต้องอยู่รอด พรรคเพื่อไทยถึงอยู่ได้
       
       -สมมติว่านายกฯยิ่งลักษณ์หรือคุณทักษิณมาขอให้ยุติการเคลื่อนไหว จะตอบว่าอะไร
       
       ต้องถามว่าผมใหญ่ขนาดที่จะสกัดเรื่องนี้ได้หรือ ผมไม่มีทางทำได้ สิ่งที่จะทำได้คือ อำนาจศาล และประชาชนที่จะเห็นถึงความชอบธรรมถูกต้อง ประเทศชาติประชาชนให้โอกาสคุณแล้ว อยากให้รักษาโอกาสนี้ และทำให้ดีที่สุด เพื่อพี่น้องประชาชนและบ้านเมือง
       
       -มีใครเป็นกุนซือ หรือร่วมคิดในการออกมาต่อสู้ในเรื่องนี้บ้างไหม
       

       ไม่มีเลย ผมคิดเองทำเอง หนังสือที่ทำถึงยูเอ็นก็ร่างกันเอง ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษที่แม้ไม่ถนัด ก็ปรึกษาเพื่อนและลูกสาว อาศัยใช้อินเตอร์เน็ต หรือแอพลิเคชั่นแปลคำศัพท์ในมือถือบ้าง อย่างคำร้องที่กำลังจะนำไปยื่นศาลปกครองก็ทำเอง เรื่องไหนไม่รู้ เราก็เข้ากูเกิลเสิร์ซหาข้อมูลเอา
       
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9560000050437
       

 
 
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8401 เมื่อ: 28 เมษายน 2556, 19:59:06 »

กลับจากเดินออกกำลังที่อุทยานสวรรค์มา ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครับ
วันอาทิตย์ คนไปออกกำลังมีน้อยลง อาจจะเป็นเพราะมีกิจกรรมในครอบครัว
แต่ไม่ได้ตามไปดูในห้างว่า คนเยอะขึ้นหรือไม่ ??
ซึ่งการเดินทางเป็นวิธีหนึ่งในการลดการใช้ไฟในบ้าน
แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการซื้อของ ทานข้าวนอกบ้าน
ผมใช้วิธีผสมผสาน ด้วยการซื้อของกลับมาทำและทานข้าวที่บ้าน
สรุปใช้ไป 50 บาท..อิ่มแล้วครับ!!
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8402 เมื่อ: 28 เมษายน 2556, 20:48:37 »

ปิดท้ายของวันนี้ ด้วยข่าวดี (ซึ่งลืมแจ้งให้ทราบ) คือวันนี้เป็นวันคล้ายวันบรมราชาภิเษกสมรสครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8403 เมื่อ: 29 เมษายน 2556, 07:21:28 »

อากาศร้อนขึ้น โดยเฉพาะในภาคเหนือซึ่งฝนลดลง
ทุกภาคยกเว้นภาคใต้ทั้งสองฝั่ง (ฝนในระดับร้อยละ 40-60 ของพื้นที่) มีปริมาณฝนลดลง
ยังมีลมกระโชกแรงในพื้นที่ที่มีฝนตกและฟ้าคะนอง
กทม.และปริมณฑล มีฝนร้อยละ 30 ของพื้นที่


พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 29 เมษายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  ลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามา
ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเป็นแห่งๆ สำหรับภาคใต้มีฝนกระจายในระยะนี้
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ  อากาศร้อนในตอนกลางวันและมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่
บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน และตาก
อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม อำนาจเจริญ

และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และตราด

อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา

อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง ภูเก็ต และกระบี่

อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากทางด้านตะวันออกของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8404 เมื่อ: 29 เมษายน 2556, 08:04:09 »

วันนี้วันจันทร์

ทำงานด้วยความเป็นสุข
อีก 2 วันเป็นวันหยุด (อีกแล้ว ??)
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8405 เมื่อ: 29 เมษายน 2556, 16:24:11 »

อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 29 เมษายน 2556, 15:54:25
เหยงจ๊ะ
ได้รับหนังสือของ 'ดวงจำปา' แล้ว
น่าอ่านมากจ๊ะ ขอบคุณมากๆ
 หลั่นล้า หลั่นล้า




17500 win
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8406 เมื่อ: 29 เมษายน 2556, 16:27:48 »

พี่ติ๋ว เพิ่งมาตอบเมื่อประมาณบ่ายสองครึ่งที่ผ่านมาว่า ได้รับหนังสือแล้วเช่นกัน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8407 เมื่อ: 29 เมษายน 2556, 20:00:17 »

เอาไปฝากพี่สิงห์ที่ห้องแล้วครับ ว่าสังคมมอง รฟท. กันอย่างไร ??

รถไฟไทย
ถูกทุกข้อ                                                                                                                    29 April 2556 - 00:00

เรียน คุณอัตถ์ อัตนัย ที่เคารพ
         ๑."ร.ฟ.ท." ย่อมาจาก "รถไฟไทย" คุณอัตถ์ทราบบ้างมั้ยว่ารถไฟไทยมันห่วยจังเลยยย์ย์ (เวลาอ่านกรุณาใส่ทำนอง "ต.ช.ด." ย่อมาจาก "ตำรวจตระเวนชายแดน" ด้วย มันจะได้อรรถรสและสุนทรีย์-ศิลป์ ดีกว่าอ่านเฉยๆ แล้วมันก็ช่วยคลายร้อนให้ด้วยนะ จะบอกให้...ฮา ฮา)
         ๒.ข่าวรถไฟฟรีสายพิษณุโลก-กทม.ตกรางแถวหลักสี่ มีคนบาดเจ็บเล็กน้อย (ข่าวนี้รู้กันทั่วแล้ว ไม่ขอลงในรายละเอียด) แต่ที่น่าสนใจคือ คำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่การรถไฟกล่าวว่า "จากการตรวจสอบพบว่า จานเหล็กรองราง และตะปูตอกรางไม้หมอนบางส่วนถูกขโมยไป ประกอบกับความร้อนจึงทำให้รางขยายและไม้หมอนเคลื่อน เมื่อรถไฟวิ่งผ่านมาจึงเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว (นสพ.บ้านเมือง ๖ เม.ย.๕๖) คำบอกกล่าวเช่นนี้ เชื่อได้หรือไม่? สมมุติว่า เชื่อได้ ควรมีความเห็นดังนี้
         ๓.ข่าวสังคม นสพ.เดลินิวส์ ให้ความเห็นว่า กับแค่ตะปูตอกแผ่นเหล็กบังคับรางให้อยู่กับไม้หมอนในเขตเมืองหลวงแท้ๆ ยังไม่มีปัญญาดูแลรักษา แล้วจะไปทำโครงการรถไฟความเร็วสูง มูลค่า ๒.๒ ล้านล้านบาท....ให้สำเร็จได้อย่างไร? ยังดีที่รถไฟตกรางเป็นขบวนนั่งฟรีแบบหวานเย็น จึงบาดเจ็บแค่ ๓ คน หากเป็นรถไฟความเร็วสูงวิ่ง ๒๕๐ กม./ช.ม. แล้วถูกขโมยตะปู...ไม่รู้ว่าจะตายมากน้อยเท่าไร? (นสพ.เดลินิวส์ ๗ เม.ย.๕๖)
         ๔.แต่ถ้าสมมุติว่า ไม่เชื่อ (คำบอกกล่าวของเจ้าหน้าที่รถไฟ) มาดูคนที่เขาให้ความเห็นเข้าท่ากว่า คือ "นายประภัสร์ จงสงวน" (ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย) กล่าวไว้ว่า "สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ปัญหาเกิดจากรางหรือปัญหาขบวนรถไฟ เนื่องจากขบวนที่เกิดเหตุ หัวรถจักรไม่ได้ตกราง แต่ขบวนที่มีผู้โดยสารตกรางทั้งหมด (เดลินิวส์ ๖ เม.ย.๕๖)
         ๕.ครับ ในเมื่อคุณประภัสร์ (ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.) มีความละเอียดลออ รอบคอบ ไม่ด่วนสรุปปัญหาที่เกิดขึ้น ผมในฐานะประชาชนคนใช้รถไฟประจำ (ทั้งฟรีและไม่ฟรี) ซึ่งปกติผมใช้บริการระหว่าง "บ้านโป่ง-ธนบุรี" เป็นประจำอยู่แล้ว ขอตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการบริการรถไฟไทยดังนี้
         ๕.๑ รถไฟไทยเข้าสถานีไม่เคยตรงเวลาเป็นส่วนใหญ่ อย่างที่สถานีบ้านโป่งจะเขียนบอกไว้เลยว่าขบวนนั้น-ขบวนนี้จะช้าไป ๒๐ นาที, ๔๐ นาที, ๙๐ นาที, ๑๒๐ นาที ฯลฯ เป็นต้น (ซึ่งเป็นเรื่องดีที่บอกให้ประชาชนรู้) แต่มันไม่ดีตรงที่เป็น "ปัญหา" ที่การรถไฟแก้ไม่ตกซักที (ผมเคยไปอยู่ที่ญี่ปุ่น ๒ ปีเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ก็ใช้บริการรถไฟเขาเป็นประจำ ปรากฏว่ารถไฟของเขาวิ่งเข้าสถานีตรงตามเวลาได้อย่างมหัศจรรย์ ถ้าจะคลาดเคลื่อนบ้างก็เพียง ๑-๒ นาทีเท่านั้น แล้วเขาจะรีบปรับแก้ทันทีให้ตรงเวลาในสถานีต่อไป)
         ๕.๒ ผมเคยคุยกับคนตรวจตั๋วรถไฟ (ของไทย) ถามเขาตรงๆ ว่า "ทำไม...รถไฟจึงช้าประจำ" เขาตอบว่า "รถไฟนี้อายุใช้งานมาหลายสิบปีแล้ว เป็นมือสองซื้อมาจากต่างประเทศ (แล้วก็ไม่รู้ว่ารถไฟนี้ เขาใช้ภายในประเทศของเขามากี่ปีแล้ว)...รถไฟพวกนี้จึงเสียบ่อย...ซ่อมประจำ...วิ่งเร็วมากก็ไม่ได้ นอกจากนี้ รางรถไฟก็วางมาหลายปีแล้ว  วิ่งเร็วจะมีปัญหา ยกตัวอย่างจากอำเภอบ้านโป่ง (สถานีทรงพล) รถไฟวิ่งไปเมืองกาญจน์-น้ำตก รางชำรุดทรุดโทรมมาก ถ้าวิ่งเร็วรถจะตกราง" ผมถามต่อว่า "แล้วการรถไฟแก้ไขอย่างไร?....เปลี่ยนรางใหม่ให้ดีขึ้นแล้วซื้อรถไฟใหม่ที่มีคุณภาพมาวิ่ง" พนักงานรถไฟผู้ชรา นัยน์ตาเศร้าคนนั้น ส่ายหน้าช้าๆ "ไม่ใช่...เขาใช้วิธีปักป้ายข้างทางบอกว่าอย่าวิ่งเกินเท่านั้น..เท่านี้..กิโลเมตร/ชั่วโมง  เพราะถ้าเร็วกว่านั้นจะเกิดอันตราย" (O-WAN-MY GOD)
         ๖. ผมถึงเข้าใจว่าการรถไฟเขามีวิสัยทัศน์ (อันล้าสมัย) แก้ไขปัญหาเช่นนี้เอง ดังนั้นรถไฟวิ่งช้าประจำไม่ต้องพูดถึง รถเสีย รถไฟตกรางประจำ (เพียงแต่ไม่เป็นข่าวเท่านั้น) เก้าอี้ม้านั่งตกหงายหลังบ่อยๆ ฝรั่งหน้าเหรอ แต่คนไทยหัวเราะคิกคัก น้ำดื่มและในส้วมไม่มี เพราะบริษัทที่จ้างเด็กมันอู้ไม่ค่อยทำงาน (แถมมีรายชื่อปลอมเบิกเงินจากการรถไฟเกินหลายสิบคน พนักงานรถไฟแอบกระซิบบอกผม) ส้วมตามสถานีต่างๆ สร้างใหม่แล้วให้คนนอกประมูลเก็บแพงมากๆ (เช่นที่สถานีนครปฐม เข้าห้องน้ำ ๕ บาท อาบน้ำ ๑๐ บาท) รถเครื่องจอดที่สถานีเก็บวันละ ๑๐ บาท ถ้าค้างคืนไม่โทร.บอกปรับเพิ่มอีก ๑๐ บาท คนใช้บริการควักกระเป๋าไป (การรถไฟคงจะรวย) อ้าว! ได้ข่าวว่ารถไฟไทยขาดทุนทุกปี สะสมหนี้บานตะไท ไชโย! (๓ ครั้ง) รถไฟไทยจงเจริญ....
      วิสัยทัศน์อย่างนี้...แล้วรัฐบาลปูจ๋า...จะกู้เงินมาทำโครงการรถไฟ..แน่ใจหรือว่า ๕๐ ปีใช้หนี้หมด
         ๗.คุณอัตถ์ที่เคารพยังมีอีก และผมเห็นว่าสำคัญมากต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาติ คือ ผมสังเกตเห็นสองข้างทางรถไฟ (สายใต้) "ระหว่างสถานีคลองบางตาลกับสถานีหนองปลาดุก" มีการขุดดินเพื่อเอาทราย ๒ ข้างทางรถไฟ ยาวหลายกิโลเมตร ขุดเป็นหลุมลึกถึงลึกมาก กว้างขนาดทะเลสาบเห็นจะได้ มองไปที่ก้นหลุมเห็นรถสิบล้อบรรทุกดินและรถแบ็กโฮขุดดิน มองเห็นเหมือนรถจี๊ปเล็กๆ
      ผมเคยคิดเล่นๆ ว่า สักวันถ้าดินใต้รางรถไฟทรุดตัวลง รถไฟคงถล่มลงมา แล้วเมื่อนั้นรถไฟสายใต้คงต้องหยุดยาวเป็นอัมพาตไปทั้งภาคทีเดียว  ตอนแรกผมคิดว่าผมคิดพิเรนทร์คนเดียว พอผ่านมาเป็นปีผู้โดยสารคนอื่นเริ่มพูดแบบที่ผมคิด ข้อสำคัญเขาขุดมาหลายปีแล้วครับ และทุกวันนี้ก็ยังขุดอยู่...และในอนาคตคงจะขุดอีกต่อไป...จนเกิดโศกนาฏกรรมนั่นแหละ จึงเป็นข่าวแล้วก็จะมี ข้อแก้ตัวจากฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ประดุจว่าคนไทยทั่วไปไม่รู้จัก คติธรรมที่ว่า "คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว" ยังงั้นแหละ
         ๘.ที่ผมแปลกใจคือ พนักงานรถไฟทั้งที่ขับไป-ขับมา และเจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องอยู่บนรถไฟ วันหนึ่งๆ คงวิ่งเป็นร้อยขบวน พวกเขาไม่เคยสังเกตเห็นบ้างเลยหรือ?  ถ้าสังเกตเห็น เขาไม่รายงานให้บอร์ดรถไฟทราบเลยหรือ? หรือเขาอาจรายงาน แต่บอร์ดรถไฟไม่สนใจ ต้องรอให้เกิด "โศกนาฏกรรมหมู่"? มันยังไงกันแน่...คุณอัตถ์อย่าเพิ่งเชื่อผมนะ...ให้นักข่าวไปถ่ายภาพมาโชว์...แล้วค่อยเชื่อ
         ๙.ผมแปลกใจผู้ให้อนุญาตสัมปทานขุดดิน-ขุดทราย ผมเข้าใจว่าเป็นรอยต่อจังหวัดนครปฐมต่อกับ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ท่านผู้ว่าฯ นครปฐมหรือผู้ว่าฯ ราชบุรีผู้อนุญาต ทุกท่านสบายดีอยู่หรือ? เวลาท่านจะอนุญาต ไม่เคยไปดูพื้นที่เลยหรือว่ามันจะเกิดอันตรายหรือไม่? ผมอยากให้ รัฐมนตรีมหาดไทยย้ายผู้ว่าฯ ทั้ง ๒ จังหวัดไปอยู่ที่สามจังหวัดภาคใต้จังเลย จะได้ฉลาดหูตาแววไวขึ้น? หรือไม่ก็ผู้ว่าฯ ประเภท "หูหนวก-ตาบอด" จะได้จุด จุดจุดไปซะที
        ๑๐.สุดท้ายขอขอบคุณคุณอัตถ์ อัตนัย ที่กรุณาให้ผมได้ระบายอะไรๆ เกี่ยวกับ "รถไฟไทย" บ้าง......
                            แรงเกื้อ ชาวหินฟ้า
      นั่นนะซิ ถ้าหมุดรางรถไฟความเร็วสูงถูกขโมย ไม่ตายยกขบวนหรือครับ   อย่าไปเปรียบเทียบกับญี่ปุ่นเขาเลยครับ แค่เสียเวลา ๕ นาที เขาโค้งคำนับขอโทษแล้วขอโทษอีกจนน่ารำคาญ ฮ่าๆๆ     
      คำว่ารถไฟหวานเย็นมันเหมาะกับรถไฟไทยแล้วหละครับ มันเป็นมานานจนชินชากับคำว่าหวานเย็น และไม่มีรัฐบาลไหนลุกขึ้นมาแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
      ปัญหามันมีหลายระดับ ตั้งแต่รัฐบาลยันเจ้าหน้าที่ระดับล่างสุดของการรถไฟแห่งประเทศไทย เข้าทำนองรัฐบาลไม่สนใจ คนการรถไฟฯ ไม่กระตือรือร้น    ถ้าใครเคยใช้บริการรถไฟไทยจะรู้ดี แค่ไปถามว่าทำไมรถไฟถึงเสียเวลา คุณก็ถูกมองแบบแปลกๆ ด้วยสายตาตั้งคำถาม ไอ้หมอนี่หลุดมาจากไหน ฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงปัญหาอื่นๆ เลยครับ
      ผมรอดูอยู่ว่ารัฐบาลไหนจะมีแนวทางปฏิรูปการรถไฟฯ อย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่จะสร้างโน่นสร้างนี่ แต่การบริหารภายในองค์กรยังเป็นเต่าล้านปี ถ้าไม่แก้ไขอะไร ต่อให้มีรางคู่มันก็ตกรางได้ครับ. 

http://www.thaipost.net/news/290413/72813
      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #8408 เมื่อ: 29 เมษายน 2556, 21:21:38 »

สวัสดีตอนหัวค่ำครับพี่เหยง

น่าเป็นห่วง รฟท. นะครับ

ผมยังนึกถึงบรรยากาศการนั่งรถไฟระยะไกล

นอนค้างคืนบนรถไฟ นั่งจิบเบียร์ กินอาหารเย็น ก่อนกางเตียง

ชมวิวสองข้างทาง เพลินนะครับ  แต่นั่นมันนานมาแล้ว  ครับ....
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8409 เมื่อ: 30 เมษายน 2556, 06:55:28 »

หนุน


พี่เคยนั่ง รฟท ตู้นอน เมื่อตอนอยู่ปี 2 และเป็นปฎิคมของหอชาย สมัยที่พี่สิงห์เป็นหัวหอชาย
นั่งไปบ้านพี่วีระ เทพายบรรลือ วศ&พี่หอ ที่หาดใหญ่
แล้วต่อรถทัวร์จากหาดใหญ่ไปภูเก็ต แล้วนั่งรถทัวร์กลับ กทม.
สรุปได้ว่าจัดทัวร์หอไปภูเก็ต
ในช่วงนั้นมีการจัดทัวร์หอไป ปราณบุรี, ภูกระดึง และจัดปี 1 ไปสระบุรี
เพื่อเลือกว่าจะจัดทัวร์หอไปลงที่ใด
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8410 เมื่อ: 30 เมษายน 2556, 08:54:15 »

ภาคเหนือครองแชมป์ความร้อนสูงถึง 40 องศา
ฝนยังมีทุกภาค แต่มากสุดในภาคใต้ทั้งสองฝั่ง


พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 30 เมษายน 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นเข้ามา
ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจายในระยะนี้
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ  อากาศร้อนในตอนกลางวันและมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน และตาก อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคกลาง  อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และตราด

อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา

อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง ภูเก็ต และกระบี่
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากทางด้านตะวันออกของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8411 เมื่อ: 30 เมษายน 2556, 10:04:12 »

เมื่อวานเย็น ระหว่างเฝ้าเว็ปซีมะโด่งไป ทำงานไปด้วยครับ

1.คุมลงเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด เพราะฝนตกแล้ว ชาวไร่เริ่มมองหาเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดไปปลูกกัน


2.คุมล้างรถตักล้อยางและตรวจหาจุดที่ต้องซ่อมบำรุง เพื่อเตรียมขึ้นสินค้าไปขาย


3.ดูแลซ่อมรถพ่วง


4.คุมช่างซ่อมรถตักอีกคัน ซึ่งต้องซ่อมหนักเพราะใช้งานทุกวัน
      บันทึกการเข้า
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #8412 เมื่อ: 30 เมษายน 2556, 10:42:22 »




ขยันดีจังเพื่อนเรา น่าภูมิใจแทนแม่ของลูกและลูกทั้งสามสาวจังเลย พวกเขามีบุญสมที่เขาสะสมไว้เรื่อยๆจ้า

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 30 เมษายน 2556, 10:04:12
เมื่อวานเย็น ระหว่างเฝ้าเว็ปซีมะโด่งไป ทำงานไปด้วยครับ

1.คุมลงเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด เพราะฝนตกแล้ว ชาวไร่เริ่มมองหาเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดไปปลูกกัน


2.คุมล้างรถตักล้อยางและตรวจหาจุดที่ต้องซ่อมบำรุง เพื่อเตรียมขึ้นสินค้าไปขาย


3.ดูแลซ่อมรถพ่วง


4.คุมช่างซ่อมรถตักอีกคัน ซึ่งต้องซ่อมหนักเพราะใช้งานทุกวัน

      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8413 เมื่อ: 30 เมษายน 2556, 10:51:35 »

คุณติ๋ม

งานไม่เป็นอุปสรรค์ ยิ่งมีงานมาก ยิ่งมั่นคง
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8414 เมื่อ: 30 เมษายน 2556, 10:54:05 »

ดูข้อมูลผู้ประสบภัยธรรมชาติ.....ที่ต้องประสบภัยจากการถูกซ้ำเติม ??

วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 10:35 น.  ข่าวสดออนไลน์
พายุถล่มศรีสะเกษบ้านพัง รันทดกู้เงินร้อยละ10ซ่อม ผวจ.สั่งเร่งช่วย

       เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 30 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ที่บริเวณตรงข้าม ร.ร.บ้านปุน ต.สระเยาว์ อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นตลาดขายผลิตผลทางการเกษตรและอาหารการกินทุกประเภท ปรากฏว่าชาวบ้านได้พากันนำเอาสังกะสี และเสาไม้มาทำการซ่อมแซมบ้านเรือน ร้านค้าของตนเอง ซึ่งถูกพายุฝนพัดถล่มบ้านพังยับเยิน เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยบ้านเรือน ร้านค้าส่วนมากจะพังยับเยิน เนื่องจากโดนพายุพัดถล่ม และมีต้นไม้หักโค่นลงมาทับบ้านเรือนร้านค้า ข้าวของทรัพย์สินของมีค่าได้รับความเสียหายจำนวนมาก ขณะที่ชาวบ้านส่วนหนึ่งได้นำเอาโต๊ะมาวางตั้งขายสินค้าผลิตผลทางการเกษตร เพื่อไม่ให้ผลิตผลต้องเน่าเสีย และเพื่อเป็นการหารายได้มาซ่อมแซมบ้านเรือนของตนเอง

 นางปัทมา ละมูล อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่  75 ม. 8 ต.สระเยาว์ อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายอาหารเครื่องดื่มและถูกลมพายุพัดบ้านพังยับเยิน กล่าวว่า นับตั้งแต่บ้านเรือนร้านค้าของตนโดนลมพายุพัดบ้านพังก็ยังไม่มีส่วนราชการใดเข้ามาให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด  มีเพียงสำนักงานเหล่ากาชาด จ.ศรีสะเกษ  ที่นำเอาบะหมี่สำเร็จรูปและปลากระป๋องน้ำดื่ม เครื่องอุปโภค บริโภค มาแจกให้ เพื่อเป็นการให้การช่วยเหลือชาวบ้านเบื้องต้น แต่ยังไม่มีการให้การช่วยเหลือด้านวัสดุ หรือว่าเงินที่ช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้านเรือน  ร้านค้าของตน  และเพื่อนบ้านที่ประสบชะตากรรมเดียวกันแต่อย่างไร ตนต้องไปหากู้เงินจากนายทุนเงินกู้มา จำนวน 30,000 บาท ดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 10 นำเอาเงินมาใช้ในการซ่อมแซมบ้านเรือน เนื่องจากว่า หากไม่ทำการซ่อมแซม ก็จะไม่มีสถานที่ในการค้าขายสินค้า อาหาร และเครื่องดื่ม เป็นรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว

 ด้านนายประทีป กีรติเรขา ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ อ.ศรีรัตนะ เร่งสำรวจความเสียหายของบ้านเรือน ร้านค้าของชาวบ้านที่ประสบภัยพิบัติครั้งนี้อย่างเร่งด่วนที่สุดแล้ว เพื่อที่จะได้ดำเนินการให้การช่วยเหลือชาวบ้านเป็นเงินสด เพื่อที่จะได้นำเอามาใช้ในการซ่อมแซมบ้านเรือนร้านค้าที่เสียหาย ส่วน อบต.ที่รับผิดชอบพื้นที่ประสบภัยพิบัตินั้น สามารถให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยได้อย่างเต็มที่ตามสถานะคลังที่มีอยู่ได้ทันที ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่จะต้องเร่งรัดในการให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยพิบัติอย่างเต็มที่และเร่งด่วนที่สุดต่อไป

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk56STVNamsxTUE9PQ==&subcatid=
   
   
 
   
 
 
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #8415 เมื่อ: 30 เมษายน 2556, 15:41:35 »

คุณเหยงคะ
ป้อมได้รับหนังสือ ประมวลลำนำกลอน ของ "ดวงจำปา"  แล้ว ขอบคุณมากนะคะ
เหมือนอ่านบันทึกประจำวันของพี่ปิ้งเลย
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8416 เมื่อ: 30 เมษายน 2556, 16:27:12 »

คุณป้อม

รับทราบครับ ยังมีรออีก 1 รายคือ น้องเริง
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8417 เมื่อ: 30 เมษายน 2556, 16:50:40 »

ไปถ่ายบัตร ปชช มาครับ

บัตรหมดต้องรออีก 1 เดือน

      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #8418 เมื่อ: 30 เมษายน 2556, 17:01:37 »

ครับผม

เข้ามาเยี่ยมชม

บัตรหมดตลอดๆๆๆเลย ฮ่า ฮ่า
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8419 เมื่อ: 30 เมษายน 2556, 21:41:11 »

น้องเริง

เขาบอกเด็ก 7 ขวบช่วงนี้ไปถ่ายบัตรกันเยอะเพราะปิดเทอม บัตรจึงหมด
กรมฯ เขาไม่รู้เลยหรือว่าเด็กอายุตั้งแต่ 7 ขวบขึ้นไป มีปีละกี่คน ?? จะได้เตรียมบัตรเปล่าให้พอ
      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #8420 เมื่อ: 30 เมษายน 2556, 23:42:17 »


ที่นี่คือประเทศไทยครับพี่เหยง รัฐบาล...
ทำอะไรที่ดีกว่า แตกต่างออกไป จะผิดสำแดงครับ เหอ เหอ



 ปิ๊งๆ จ๊าากกก ขึ้นเลย
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
ติ๋ม จันทร์ฉาย
Hero Cmadong Member
***


เป็นญาติพี่น้องกับซีมะโด่ง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2516
กระทู้: 1,692

« ตอบ #8421 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2556, 01:34:07 »


เป็นสัจจะที่ปฏิเสธไม่ได้เลย ดีใจด้วยที่มีงานยุ่งเสมอ
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 30 เมษายน 2556, 10:51:35
คุณติ๋ม

งานไม่เป็นอุปสรรค์ ยิ่งมีงานมาก ยิ่งมั่นคง

      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8422 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2556, 09:02:28 »

ฝนตกมากกว่าเมื่อวานเล็กน้อย (ราวๆ ร้อยละ 10) ในขณะที่ภาคใต้ทั้ง 2 ฝั่ง มีฝนในปริมาณเท่าเดิน (ร้อยละ 40 - 60)

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 1 พฤษภาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัด
แม่ฮ่องสอน ลำปาง สุโขทัย และตาก
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์

อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ
นครพนม สกลนคร มุกดาหาร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  อากาศร้อนในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา

อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา

อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดตรัง และสตูล

อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนและด้านตะวันออกของพื้นที่

อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #8423 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2556, 18:15:10 »

สวัสดีครับ

อากาศร้อนเอามากๆ แดดยังเปรี้ยงอยู่เลย
เดี๋ยวคงต้องใช้วิชามาร ออกไปอบแอร์ในห้างซะแล้ว ??
      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #8424 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2556, 19:07:02 »


นโยบายเดียวกับที่บ้านผมเลยครับพี่เหยง ฮ่า ฮ่่า
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
  หน้า: 1 ... 335 336 [337] 338 339 ... 472   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><