14 พฤศจิกายน 2567, 13:19:01
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 32 33 [34] 35 36 ... 472   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุยกับ เหยง 16 - พิเชษฐ์ เชื่อมฯ-เตรียมฉลอง 100 ปี หอซีมะโด่ง จุฬาฯ  (อ่าน 2580174 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 15 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #825 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2553, 18:06:51 »

ปกติการแข่งเรือ จะดูกันที่เรือยาวใหญ่ 55 ฝีพาย

ส่วนเรือจมื่นไวย์ เป็นเรือขนาดกลาง 30 ฝีพาย






ประวัติเรือ จมื่นไวย์
สังกัด วัดตะเคียนเลื่อน ตำบล ตะเคียนเลื่อน อำเภอเมืองนครสวรรค์
ประวัติเรือ "จมื่นไวย์" พ.ศ.2478 พระเดชพระคุณหลวงพ่อชอุ้ม ได้นิมิตขุดเรือยาว 2 ลำ พร้อมด้วยช่างขุดเรือ ตลอดจนชาวบ้านตะเคียนเลื่อน ต่างก็ให้การสนับสนุน ชื่อว่า หมื่นไวยวรนารถ ต่อมาได้เลื่อนยศให้ชื่อว่า จมื่นไวย์ มีความยาว 16 เมตร สร้างชื่อเสียงให้กับหมู่บ้านวัดตะเคียนเลื่อน เพราะไปทำการแข่งขันที่ไหนก็ได้รับแต่ชัยชนะและโด่งดังไปทั่วคุ้งน้ำในสมัยนั้น (เรือจมื่นไวย์ หรือ วีระกร คำประกอบ รองแชมป์ประเทศไทย ปี 2548 ณ สะพานพระราม ๘ กทม. และเคยเป็นแชมป์สนามนครสวรรค์ ในนาม จมื่นไวย์ บิ๊กซี เสื้อเขียว (ฉายาลูกเจี๊ยบ) ลูกศิษย์หลวงพ่อชอุ้ม วัดตะเคียนเลื่อน อำเภอเมืองนครสวรรค์)

ผลจากการแข่งขันเรือยาวทุกครั้งที่ได้รับชัยชนะ สิ่งที่ภาคภูมิมากที่สุดคือการที่ได้รับรางวัล "พานแว่นฟ้าของพระยาพหลฯ ที่งานไหว้พระวัดจอมคีรีนาคพรต ในวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 12 ประกอบกับช่วงนั้น ท่านพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างบูรณวัดตะเคียนเลื่อน พร้อมกับการก่อสร้างคุ้มประตูอุโบสถ

ประวัติการขุดเรือ
- ขุดจากไม้
- ขุดโดยช่าง
- ขนาดของเรือ กว้าง       เมตร           ความยาว     วา    ศอก  บรรจุฝีพาย  คน
- เริ่มก่อสร้างวันที่      เดือน                พ.ศ.
- สร้างแล้วเสร็จวันที่     เดือน             พ.ศ.
- งบประมาณที่ใช้ขุด  บาท

ประวัติการปรับปรุงเรือ

เกียรติยศ-รางวัลผลงานของเรือจมื่นไวย์
พ.ศ.2547
อันดับ 2 สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์
อันดับ 2 งานตักบาตรเทโวฯ จังหวัดอุทัยธานี
อันดับ 2 สนามวัดสาลโคดม อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
อันดับ 2 สะพานพระราม ๘ กทม. ในนาม "วีระกรนครสวรรค์"

http://www.thailongboat.com/home/viewthread.php?tid=5141
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #826 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2553, 19:05:27 »

หักคอเงินเดือน ส.ส.คนละ 2 พัน ช่วยน้ำท่วม
วันอังคาร ที่ 02 พฤศจิกายน 2553 เวลา 15:31 น

คกก.ช่วยเหลือน้ำท่วมของสภาฯ หักคอเงินเดือน ส.ส.คนละ 2,000 บาท สมทบช่วยน้ำท่วม

วันนี้ (2 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ว่า ได้มีการประชุมคณะกรรมการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สภาผู้แทนราษฎร ในโครงการ “สภารวมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” ครั้งที่  2 โดยมี นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน

ซึ่งหลังการประชุมได้มีมติที่จะนำถุงยังชีพไปช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัย พร้อมเรือ ดังนี้ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ส่งถุงยังชีพ 250 ถุง พร้อมเรือ 3 ลำ จ.ปทุมธานี ถุงยังชีพ 250 ถุง พร้อมเรือ 2 ลำและ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่งถุงยังชีพ 500 ถุงพร้อมเรือ 2 ลำ ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้สนับสนุนข้าวสารอีก 1 หมื่นถุง ส่วนในพื้นที่อื่น ๆ กำลังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมของ และเรือไปช่วยต่อไป เช่น จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เตรียมเรือไว้ให้เรือ 3 ลำ เป็นต้น

นายศักดา กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาในเรื่องการบริจาคเงินของ ส.ส.ที่ระเบียบของ กกต.ระบุว่า ส.ส.ห้ามบริจาค หรือรับเงินเกิน 3,000 บาทนั้น ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ทำหนังสือสอบถามไปยัง กกต.เรียบร้อยแล้ว โดยทาง กกต.แจ้งว่าจะนำเรื่องดังกล่าว เข้าหารือต่อที่ประชุมใหญ่ กกต. ในวันที่ 4 พ.ย.นี้
                                       ฯลฯ

อ่านรายละเอียดของข่าวทั้งหมดที่........
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=101765&categoryID=8

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #827 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2553, 19:25:19 »

ไม่เพียงแต่ประเทศไทยที่เจอฝนตกและน้ำท่วมอย่างรุนแรง มาเลเซียก็เช่นกัน

สองรัฐมาเลย์ น้ำท่วมอ่วม ฝกหนัก ปชช.อพยพหลายพัน
2 พย. 2553 09:49 น.

หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ของมาเลเซีย และหนังสือพิมพ์เสตรทส์ ไทม์ส ของสิงคโปร์ รายงานว่าประชาชนมากกว่า 3 พันคน จากหมู่บ้านราว 50 แห่ง ในรัฐเคดาห์และปะลิส ของมาเลเซีย ต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง

สภาพอากาศเลวร้าย ที่ดำเนินมาตั้งแต่วันอาทิตย์ ยังทำให้ถนนหลายสายต้องปิดการจราจรรวมทั้งทางด่วน นอร์ธ-เซาธ์ เอ็กเพรสส์เวย์ ในเมืองชางลัน เป็นระยะทาง 10.2 กิโลเมตร ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก

ถนนหลายสายไม่สัญจรผ่านไปได้ เพราะจมอยู่ใต้น้ำลึก 2 เมตร มีการติดตั้งป้ายเตือนบรรดาผู้ขับขี่ยวดยาน เลี่ยงเส้นทางเชื่อมระหว่างบูกิต คายู ฮิตัม กับชางลัน ไปใช้ถนนทางหลวงชางลัน-กัวลา ปะลิส แทน

ที่รัฐเคดาห์ มีประชาชนมากกว่า 2 พันคน จากหมู่บ้าน 35 แห่ง ในรัฐเคดาห์ ต้องอพยพด่วนไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง ส่วนที่รัฐปะลิส มีประชาชน 1,218 คน จากหมู่บ้าน 17 แห่ง อพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้วเช่นกัน

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=477249&lang=T&cat=
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #828 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2553, 19:25:51 »

ที่สุดคนไทยก็ไม่ยอมทนรับภาระให้ใคร ??

กทม. ปัดทำ "คนอยุธยา" เดือดร้อน
2 พย. 2553 16:54 น.

นาย สัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ(สนน) กทม. กล่าวถึงกรณีผู้นำชุมชนกว่า 60 คน ใน จ.พระนครศรีอยุธยา แสดงท่าทีที่จะไม่ยอมแบกรับภาระน้ำท่วมแทนคนกรุงเทพฯ และเสนอให้ขุดเจ้าพระยา 2 ว่า การขุดเจ้าพระยา 2 คาดว่าจะทำนอกเขตกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานกลางต้องเข้ามาดูแล และต้องมีการพูดคุยกันในระดับจังหวัดซึ่งตนคงไม่สามารถให้คำตอบตรงนี้ได้ เพราะเป็นเรื่องนโยบายของรัฐบาลมากกว่า ส่วนกรณีที่บอกว่าคนอยุธยาฯ แบกรับน้ำแทนคนกรุงเทพฯ นั้น ตนมองว่าไม่ใช่ประเด็น แต่จุดสำคัญก็คือท้องถิ่นแต่ละแห่งควรดูแลเรื่องระบบระบายน้ำ และแนวป้องกันน้ำท่วมของพื้นที่ตนเองให้ดีเสียก่อน ซึ่งหากมีการทำระบบป้องกันน้ำท่วมที่ดีอยู่แล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาในพื้นที่มาก หรือมีก็อาจจะกระทบส่วนน้อยเท่านั้น

นายสัญญา กล่าวว่า สำหรับการเตรียมแผนป้องกันน้ำท่วมช่วงน้ำทะเลหนุนสูงในวันที่ 8 พ.ย.นี้ เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมเรื่องเครื่องมือในการระบายน้ำ เช่น เครื่องสูบน้ำประจำบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนี้ได้กำชับให้เสริมแนวกระสอบทรายให้แข็งแรง ในจุดที่ไม่มีเขื่อนป้องกันน้ำท่วม ส่วนน้ำในคลองย่อยในพื้นที่กทม. ขณะนี้อาจมีระดับลดต่ำลง และอาจทำให้น้ำเน่าเสียบ้าง ขอให้คนที่อาศัยริมคลองเข้าใจ เนื่องจาก กทม. ต้องบริหารจัดการน้ำโดยลดระดับน้ำในคลองลงเพื่อรองรับน้ำทะเลหนุนและน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาโดยเฉพาะวันที่ 8 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นการทำเพื่อส่วนรวมดังนั้นอยากให้ประชาชนที่บ่นเรื่องน้ำเน่าเสียเข้าใจด้วย

ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ข่าวว่าบริเวณเขื่อนหน้าโรงเรียนพลาธิการ เขตบางซื่อนั้น มีแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมเกิดรอยร้าว นายสัญญา กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบเป็นแนวเขื่อนของโรงเรียนพลาธิการนั้น พบว่าเป็นเขื่อนที่ใช้งานมานานและเกิดรอยร้าวเนื่องจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก อย่างไรก็ตาม สนน.ได้เข้าไปเสริมแนวกระสอบทรายหลังเขื่อนที่มีปัญหาแล้ว และหลังจากสถานการณ์น้ำลดลง จะตรวจสอบรอยร้าวร่วมกันโรงเรียนพลาธิการอีกครั้ง

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=477385&lang=T&cat=


7560=6  win
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #829 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 10:30:33 »

คลิปการแข่งเรือพาย
http://www.clipmass.com/tag/%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A7
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #830 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 11:43:02 »

คุณครูเริง

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเรือ เรือแข่งมักใชฝีพายส่วนหนึ่งจากทหารและคนพื้นบ้านประกอบกัน
ในฤดูหนึ่งๆ จะมีความแข่งแกร่งที่ไม่เท่ากัน ขึ้นกับฝีพายที่มาผสม ถ้าแกร่งจะชนะทั้งฤดูเลย
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #831 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 12:16:16 »

งามหน้าไทยอันดับ7หัวขโมย
วันพุธ ที่ 03 พฤศจิกายน 2553 เวลา 9:17 น


น.ส.คลิโอ อึ้ง ผู้จัดการทั่วไปด้านบริหารลูกค้าประเภทช่องทางการจัดจำหน่าย ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก บริษัท เช็คพอยท์ ซิสเต็มส์ อิงค์ จำกัด เปิดเผยถึงผลศึกษาระดับการโจรกรรมธุรกิจค้าปลีกระดับโลกประจำปี 53 ที่ได้สำรวจห้างค้าปลีก 42 ประเทศทั่วโลกเดือน ก.ค. 52-มิ.ย. 53 พบว่า มูลค่าความเสียหายของห้างค้าปลีกที่ถูกขโมยสินค้าในประเทศไทยติดอันดับที่ 7 ของ โลก และติดอันดับที่ 2 ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยมีมูลค่าสินค้าถูกขโมยสูงถึง 1,005 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 31,150 ล้าน บาท ลดลง 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ลดลงน้อยกว่าค่าเฉลี่ยการขโมยสินค้าในห้างค้าปลีกทั่วโลกที่ลดลง 5.6% และในเอเชียลดลง 6.5%
   
สำหรับปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เกิดการโจรกรรมในห้างค้าปลีก มาจากการลักเล็กขโมยน้อยมากที่สุด ส่วนใหญ่มาเป็นแก๊ง  ในสัดส่วนประมาณ 48.9% รองลงมาเป็นการ ทุจริตจากพนักงาน สัดส่วน 23.4%, การทำเอกสารผิดพลาด 21.5% และมาจากผู้ผลิตสินค้า (ซัพพลายเออร์) ส่วนสินค้ายอดนิยมที่ถูกขโมยมากที่สุดคือ เครื่องสำอาง รอง  ลงมาเป็นสินค้าบำรุงผิว และสินค้าเพื่อ ความงามและสุขภาพ เนื่องจากสินค้าดังกล่าวจะจัดวางไว้อย่างโดดเด่นและมีขนาดเล็ก ทำให้ถูกขโมยได้ง่าย รวมถึงมีราคาแพง และสามารถนำไปวางจำหน่ายในตลาดได้ง่าย ประกอบกับพฤติกรรมของกลุ่มผู้หญิงไทยรักสวยรักงามสูงมาก อันดับสามเป็นสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น
   
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไทยจะติดอันดับของประเทศที่มีการขโมยสินค้าในห้างค้าปลีกเป็นอันดับ 2 ของโลกก็ตาม แต่กลับมีการลงทุนเพื่อติดตั้งระบบป้องกันถูกขโมยน้อย ที่สุดในเอเชีย โดยมีเงินลงทุนเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันขโมยประมาณ 86 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 0.13% ของยอดรายได้รวมในแต่ละปี ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของเอเชีย ที่มีการลงทุนประมาณ 0.19% ของรายได้รวม และทั่วโลก สัดส่วน 0.34% ซึ่งแนวโน้มการขโมยสินค้าในห้างค้าปลีกที่ยังอยู่ในระดับสูง ยังส่งผลให้คนไทยต้องเสียเงินให้กับห้างค้าปลีกประมาณ 1,500 บาทต่อคนต่อปี เพื่อใช้ไปป้องกันการทุจริต ปรับเพิ่มราคาสินค้าเพื่อชดเชยจำนวนสินค้าที่ถูกขโมยไป ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาทุกปี
   
ทั้งนี้ ข้อมูลทั่วโลกในปีนี้ ห้างค้าปลีกถูกขโมยสินค้า คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 107,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 5.6% จากปีก่อน โดยประเทศที่ถูกขโมยสินค้าในห้างค้าปลีกมากที่สุดคือ ประเทศ อินเดีย รองลงมาเป็น บราซิล และเม็กซิโก ส่วนในเอเชีย-แปซิฟิก มูลค่าความเสียหายประมาณ 16,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับหนึ่งเป็นประเทศอินเดีย รองลงมาไทย และมาเลเซีย ขณะที่ประเทศไต้หวัน เป็นประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่มีการขโมยสินค้าในห้างค้าปลีกต่ำที่สุด และใช้เงินในการติดตั้งระบบป้องกันการขโมยน้อยเช่นกัน มาจากคนในประเทศไต้หวัน มีนิสัย ซื่อสัตย์ นอกจากนี้ผลการสำรวจยังพบว่า จำนวนขโมยในห้างค้าปลีกทั่วโลกอยู่ที่ 6.18 ล้านคน เพิ่มขึ้น 100% จากปีก่อน ส่วนในเอเชีย-แป  ซิฟิก มีจำนวนขโมย 154,320 คน เพิ่มขึ้น 100% จากปีก่อนเช่นกัน
   
“แนวโน้มการขโมยสินค้าทั่วโลกลดลงมาจากการที่หลายประเทศเพิ่มงบประมาณในการติดตั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยดูแลสินค้าอย่างเข้มงวดในห้างมากขึ้น โดยค่าเฉลี่ยของการขโมยสินค้าทั่วโลก ทำให้ค่าเฉลี่ยของครัวเรือนต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น 5,654 บาทในปีนี้ เพราะห้างค้าปลีก ต้องเพิ่มงบประมาณดูแลสินค้ามากขึ้น หรือใช้แนวทางปรับเพิ่มราคาสินค้า เพื่อชดเชยจำนวนสินค้าที่ถูกขโมยไป ขณะที่สินค้าในห้างค้าปลีกทั่วโลกที่ถูกขโมยมากสุด คือ  เสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าสำหรับใส่ชั้นนอก.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=310&contentID=101844
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #832 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 13:09:27 »

พบเสาหลักเขตไทยที่รัฐเคดาห์
http://www.songkhlafm97.com/fm97/index.php?option=com_kunena&Itemid=65&func=view&catid=6&id=37
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #833 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 15:44:59 »

คุณครูเริง

มันกลายเป็นของเก่าทางประวัติศาสตร์ ที่ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้อีกต่อไป ถึงการเป็นดินแดนในประเทศไทย
ผิดกับหลักเขตแดนที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บางหลักสูญหายไป จนสร้างปัญหาให้ประเทศไทยอยู่ในขณะนี้
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #834 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 19:14:03 »

psst,พี่เหยงขา
ถามอะไรหน่อยค่ะ
จำได้เลาๆว่าอันดับหนึ่ง
ที่มีขโมยมากสุด...บราซิล?
      บันทึกการเข้า


เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #835 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 19:26:04 »

ในรายงานข่าวบอกว่า ที่หนึ่งเป็น อินเดีย, รองมาเป็น บราซิล, และตามด้วย เม็กซิโก
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #836 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 19:29:23 »

ของประเทศไทย เถียงกันอยู่ 2 จังหวัด ตามคำพังเพย

ราชบุรี สีหมากสุก แต่จะตายไม่วายติดคุก
เพชรบุรี สีบัวโรย แต่จะตายไม่วายขโมย

จนถึงเดี๋ยวนี้ ยังไม่รู้ว่าใครที่สุดกว่ากัน ??
  งง งง  สะใจจัง
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #837 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 19:55:22 »

วันนี้ออกไปดูระดับน้ำที่เขื่อนหน้าตลาดตึกแดง เช่นเดิม

ระดับน้ำลดลงไปอีก รวม 5 ขั้นบันไดหรือประมาณ 100 ซ.ม.จากผิวถนนของเทศบาล ซึ่งระดับนี้ถือว่าปลอดภัยแน่นอนแล้ว เว้นแต่จะเจอฝนในระดับที่ตกคืนเดียวถึง 500 มิลลิเมตรแบบอำเภอหาดใหญ่เข้าเท่านั้น



ในภาพ มีสองสามีภรรยา กำลังทำพิธีปล่อยปลา ในขณะที่เด็กๆ รวม 4 คนที่อยู่ด้่านหลัง ยืนคอยรอเวลาให้ทั้งคู่ปล่อยปลา เพื่อลงไปจับกลับ ส่วนจะจับไปขายต่อหรือไปแกง ไม่ได้ติดตามดูต่อครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #838 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2553, 20:03:25 »

จุดที่เคยเป็นที่ขายปลา เต่า ให้คนซื้อไปปล่อยเมื่อหลายวันก่อนในช่วงน่้้ำท่วม



เปลี่ยนมาวางขายเขียงไม้แทนแล้ว และแทบไม่รู้มาก่อนเลยว่า จุดนี้เคยมีการเตรียมป้องกันน้ำท่วมขั้นสูงสุดของจังหวัดนครสวรรค์



พร้อมๆกับ นักตกปลา ที่มาพร้อมกับเบ็ด


      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #839 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2553, 08:42:15 »

สวัสดีครับ RCU ทุกท่าน

วันนี้ฟ้าเปิด แดดดีและอบอุ่นกว่าเมื่อวานนี้
คงต้องติดตามปัญหาน้ำท่วมขังบวกกับน้ำทะเลหนุนสูงของกรุงเทพและจังหวัดปริมณฑล เช่น นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ช่วง 6-10 พ.ย. นี้
ไม่ทราบมี RCU ในจังหวัดที่มีน้ำท่วมขังเดือดร้อนกันหรือไม่??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #840 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2553, 12:12:12 »

สวัสดีครับ ผู้ซ่อนตัว 1 ท่าน

ทักทายชาว RCU ด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #841 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2553, 13:23:02 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 08:42:15
สวัสดีครับ RCU ทุกท่าน

วันนี้ฟ้าเปิด แดดดีและอบอุ่นกว่าเมื่อวานนี้
คงต้องติดตามปัญหาน้ำท่วมขังบวกกับน้ำทะเลหนุนสูงของกรุงเทพและจังหวัดปริมณฑล เช่น นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ช่วง 6-10 พ.ย. นี้
ไม่ทราบมี RCU ในจังหวัดที่มีน้ำท่วมขังเดือดร้อนกันหรือไม่??

เกรงว่าเค้าๆจะออกมาเข้าเนตไม่ได้สิคะพี่
ไม่รู้จะแจ้งข่าวยังไง
      บันทึกการเข้า


เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #842 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2553, 17:01:04 »

คงต้องขอให้ RCU ซึ่งอยู่ในแต่ละจังหวัดที่มีน้ำท่วม ช่วยกันตรวจสอบ เผื่อจะได้ช่วยเหลือกัน

เดิม จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสุพรรณ ลุ่มน้ำโขง-ชี-มูล รวม 38 จังหวัด + 10 จังหวัดภาคใต้ เป็น 48 จังหวัด จาก 77 จังหวัดทั้งประเทศ ก็เกินครึ่งไปเยอะแล้ว


ก่อนหน้านั้น ในช่วงปลายเดือนกันยายน มีจังหวัดราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคิรีขันธ์ เจอฝนและน้ำท่วมไปก่อนหน้าแล้ว
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #843 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2553, 18:35:36 »

สวัสดีตอนเย็นครับ พี่เหยง พี่เริง พี่หนิง และทุกท่าน


ลงชื่อติดตามอ่านต่อครับ
 หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #844 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2553, 20:37:58 »

สวัสดี ดร.มนตรี

ตามข่าวน้ำท่วม ต้องตามข่าวทาง ที วี ถึงอัพเดททัน
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #845 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2553, 20:45:23 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 20:37:58
สวัสดี ดร.มนตรี

ตามข่าวน้ำท่วม ต้องตามข่าวทาง ที วี ถึงอัพเดททัน


แต่อ่านจากกระทู้ พี่เหยง ได้ความรู้สึก อีกแบบ  ที่ TV ไม่มีให้ครับ ^_^

เทกแคร์ครับพี่ ... ขออนุญาตไปพักผ่อนก่อน นะครับ ...
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #846 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2553, 21:29:14 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 03 พฤศจิกายน 2553, 20:03:25
จุดที่เคยเป็นที่ขายปลา เต่า ให้คนซื้อไปปล่อยเมื่อหลายวันก่อนในช่วงน่้้ำท่วม



เปลี่ยนมาวางขายเขียงไม้แทนแล้ว และแทบไม่รู้มาก่อนเลยว่า จุดนี้เคยมีการเตรียมป้องกันน้ำท่วมขั้นสูงสุดของจังหวัดนครสวรรค์



พร้อมๆกับ นักตกปลา ที่มาพร้อมกับเบ็ด




ปรับเปลี่ยนได้ไวจริง ๆ ค่ะ
ทำให้นึกถึงตลาดนัดบนทางรถไฟที่อัมพวา ..
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #847 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2553, 11:07:17 »

กำลังให้ลูกสาวไปเข้า บ/ช ช่วยชาวใต้เพิ่ม หลังอ่านบทความนี้แล้วครับ
แต่เพราะไม่ได้คิดจะเอาใบเสร็จไปเคลมภาษี จึงให้ไปแบบให้เปล่าครับ ถือเป็นการทำบุญรายสัปดาห์ก็แล้วกัน


เปิดปัจจัย 4 'ถุงยังชีพ' น้ำท่วมใหญ่แต่ไม่ท่วมหัวใจไทยทั้งชาติ
4 พฤศจิกายน 2553 18:29 น.

 
       กลายเป็นวิกฤตที่ใหญ่กว่าที่ใครจะคาดคิด สำหรับอุทกภัยครั้งใหญ่ ที่ไม่ว่าจะอยู่ในมุมไหนของประเทศ ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน หรือภาคใต้ที่ต่างก็เผชิญชะตากรรมเดียวกัน
       
       อย่างตอนนี้พบว่าผู้ได้รับผลกระทบไปแล้วมากกว่า 1.8 ล้านครัวเรือน หรือราวๆ 6 ล้านคน ในพื้นที่ 39 จังหวัด 384 อำเภอ 2,838 ตำบล 24,575 หมู่บ้าน ซึ่งแม้หลายๆ แห่งจะกลับคืนสู่ภาวะปกติกันบ้างแล้ว แต่ก็คงต้องยอมรับความจริงว่า ซากความสูญเสียทั้งที่เจออยู่หรือผ่านไปแล้วนั้นช่างรุนแรง และต้องการได้รับการเยียวยาอย่างเร่งด่วน ซึ่งหนึ่งในภารกิจที่หลายๆ คนรีบยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างเร่งด่วน ก็คือการแจกจ่าย 'ถุงยังชีพ' นั่นเอง
       
       เปิดของออกจากถุง
       
       สังเกตได้จากหลายๆ หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนที่ต่างระดมแรงระดมใจมาช่วยทำถุงยังชีพแจกจ่ายอย่างหยุดหย่อน หนักบ้างเบาบ้างแล้วแต่กำลังศรัทธาและทุนทรัพย์ของแต่ละที่ โดยของที่อยู่ภายในนั้นก็มีความแตกต่างกันไป ไม่เหมือนกัน แต่เน้นที่ความจำเป็นของผู้ประสบภัยเป็นหลัก
       
       อย่างถุงยังชีพของชุดธารน้ำใจสภากาชาดไทย ตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็อัดแน่นไปด้วย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 30 ซอง ปลากระป๋อง 6 กระป๋อง ผักกาดดอง 6 กระป๋อง ปลาราดพริก 6 กระป๋อง ข้าวหอมมะลิกระป๋อง 150 กรัม 6 กระป๋อง น้ำพริก 2 กระปุก ไก่ทอดกระเทียม 2 กระป๋อง เครื่องดื่มช็อกโกแลตผง 3 in 1 (1X6 ซอง) 2 ถุง ข้าวสาร 5 กิโลกรัม โลชันกันยุง 1 ขวด เทียนไข 2 เล่ม ไฟแช็ก 1 อัน ไฟฉายพร้อมถ่าน 1 ชุด ยาสามัญประจำบ้าน 1 ชุด ยาแก้น้ำกัดเท้า 1 หลอด เกลือไอโอดีน 1 ถุง ถุงขยะสีดำขนาดเล็ก 6 ใบ และถุงขยะสีดำขนาดใหญ่ 6 ใบ
       
       ขณะที่ถุงยังชีพพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นั้น ถือว่าหนักไม่แพ้กัน เพราะภายในนั้นมีที่ทั้งปลากระป๋องแบบฝาดึง 2 กระป๋อง น้ำพริก 5 กระปุก ผักกาดดองแบบฝาดึง 2 กระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 10 ซอง ขนมขบเคี้ยว 2 ห่อ นมสด 6 กระป๋อง ผ้าเช็ดตัว และผ้าขาวม้า อย่างละ 1 ผืน ข้าวสาร 1 กิโลกรัม เสื้อยืด กางเกง รองเท้าแตะ 1 ชุด เกลือ 1 กระปุก สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แป้ง ไฟแช็ก อย่างละ 1 อัน น้ำดื่มขนาดเล็ก 6 ขวด ยาพาราเซตามอล ยาลดกรดในกระเพาะ ยาแก้แพ้ อย่างละ 20 เม็ด ยาทาแก้โรคผิวหนัง 2 หลอด ยาทาแก้เคล็ดขัดยอก 1 หลอด ยาใส่แผลสด 1 ขวด และปลาสเตอร์ปิดแผล 10 แผ่น
       
       ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเอง ก็แจ๋วไม่ใช่เล่น เพราะตามเทศบาลต่างๆ ก็มีการแจกทั้งข้าวสาร 5 กิโลกรัม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 6 ซอง ปลากระป๋องแบบฝาดึง 6 กระป๋อง น้ำมันพืช 1 ลิตร 1 ขวด น้ำปลา 1 ขวด และน้ำดื่มขนาดเล็ก 12 ขวด
       
       ด้านสโมสรโรตารี่ ก็มีน้ำใจก็เต็มเปี่ยมไม่แพ้กัน เพราะงานนี้แจกทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 5 ซอง ทิชชู่ 4 ม้วน ถุงดำ 1 ห่อ ไฟฉายพร้อมถ่าน 1 ชุด ยาทาแก้โรคผิวหนัง 1 หลอด ขนมปังกรอบไส้สับปะรด 1 ปี๊บ และน้ำดื่มขนาดเล็ก 6 ขวด ขนาดใหญ่ 2 ขวด
       
       แน่นอนว่าที่เอ่ยมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะนอกจากนี้ยังมีหน่วยงานอีกหลายร้อยแห่ง ทั้งช่อง 3 ทีวีไทย เอเอสทีวี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ฯลฯ ที่ต่างระดมพลเพื่อผลิตถุงยังชีพอย่างเต็มที่ เพราะช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้
       
       เปิดขั้นตอนการผลิต
       
       เห็นของหลากหลายในถุงยังชีพ ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยไม่น้อยว่า อะไรกันหนอที่เป็นปัจจัยสำคัญที่แต่ละหน่วยงานจะตัดสินว่าจะเลือกของชิ้นนั้นชิ้นนี้ลงไปในถุงกันบ้าง รวมไปถึงขั้นตอนที่จะส่งต่อถุงยังชีพไปสู่มือประชาชนด้วย
       
       ในฐานะที่เป็นหน่วยงานแรกๆ ซึ่งยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือประชาชน อภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เล่าถึงที่มาที่ไปของถุงยังชีพที่มูลนิธิฯ แจกว่า เป็นไปพระประสงค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประธานมูลนิธิฯ โดยของที่อยู่ในถุงนี้จะอาศัยหลักการที่ว่าครอบครัวที่ได้ถุงนั้นไปจะต้องสามารถดำรงชีวิตได้อยู่ประมาณ 7 วัน ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแจกจ่ายให้แก่พสกนิกรทั่วประเทศไปกว่า 30,000 ถุงแล้ว
       
       “ของที่อยู่ในถุง หลักๆ เลยก็คืออาหาร ซึ่งที่ต้องมีเลยก็อย่างเช่นข้าวสารอย่างดี 5 กิโลกรัม อาหารแห้ง อันได้แก่ปลากระป๋อง เครื่องกระป๋องทั้งหลาย โดยต้องมีอายุอย่างน้อยประมาณ 6 เดือน นอกจากนี้ก็มีพวกเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งใช้ประจำอยู่ทั้ง จาน ชาม ไฟฉาย ไม้ขีดไฟ อันต่อมาก็คือ ยารักษาโรค เพราะท่านบอกว่าในยามค่ำคืนฉุกเฉิน ไปโอสถศาลาไม่ทันก็สามารถรักษาในเบื้องต้นได้หมด แล้วก็มีพวกเสื้อผ้า ทั้งของผู้ชาย ผู้หญิง ของพระ พวกสบงจีวร
       
       “สรุปก็คือ ในถุงนี้คือปัจจัย 4 นั่นเอง โดยทั้งสองพระองค์จะเป็นผู้พิจารณาของทั้งหมด แล้วก็สั่งซื้อจากห้างใหญ่ๆ ซึ่งตอนนี้ก็รวมทั้งหมด 34 รายการ ส่วนน้ำหนักท่านก็ทรงเพิ่มเรื่อยๆ อย่างตอนแรกๆ ก็ 7-8 กิโลกรัม แต่ตอนนี้ก็ประมาณ 20 กิโลกรัมแล้ว (หัวเราะ)”
       
       หลังจากที่มีการคัดเลือกและเตรียมของเสร็จสิ้นแล้ว ก็ถึงเวลาที่หน่วยงานต่างๆ จะเร่งระดมพลอาสาสมัครใจบุญทั้งหลายมาช่วยกันแพ็กของ เพื่อดำเนินการส่งด้วย อย่าง ณัฐสิรี พงษ์ดี นักศึกษาชั้นปี4 คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ไปร่วมกิจกรรมของทีวีไทย
       
       “ทราบข่าวผ่านทางโทรทัศน์ว่า ต้องการคนอาสาสมัครมาช่วย ก็เลยรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ตนไปช่วย เพราะรู้สึกว่าอยากทำประโยชน์ให้แก่สังคมบ้าง ซึ่งพอมาก็ประทับใจมากๆ เพราะได้เห็นภาพความร่วมมือของหลายๆ ฝ่าย เช่นเห็นภาพครอบครัวที่พ่อแม่พาลูกมาช่วย หรือภาพของคุณลุงคนหนึ่งที่มาช่วย 4-5 วันติดๆ”
       
       เปิดใจคนรับของ
       
       เห็นหน่วยงานใจดีระดมพลกันหนักขนาดนี้ ก็คงต้องหันมาดูในฝั่งผู้ได้รับของกันบ้างว่าจะรู้สึกปลื้มใจกับน้ำใจของคนไทยที่มีให้กันในยามวิกฤตขนาดนี้
       
       อำนาจ เกิดเทพ หนึ่งในผู้ประสบภัยน้ำท่วม จากอำเภอเสาไห้ ตำบลม่วงงาม จังหวัดสระบุรี กล่าวว่า โชคดีมากที่ในหมู่บ้านมีคนมาแจกถุงยังชีพกันตลอด ทำให้อยู่กันอย่างไม่ลำบากมากนัก
       
       “ในหมู่บ้านน้ำท่วมเยอะมาก สูงประมาณ 3 เมตรได้ เวลาออกไปรับถุงยังชีพก็ต้องนั่งเรือออกไปรับ แต่ว่าปีนี้ได้รับความช่วยเหลือเร็วมาก ท่วมวันแรกของก็ถึงมือเราเลย เดลินิวส์ ไทยรัฐ ช่องสาม ของพระราชทานก็มา ส่วนใหญ่ของที่มีในถุงก็จะเป็นข่าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เราก็ได้ใช้หมดทุกอย่าง
       
       “บ้านเราน้ำท่วมทุกปีก็ต้องทำใจแหละครับ พยายามคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกที่ต้องวิ่งไปรับถุงยังชีพนะ ถามว่ามันก็ลำบากไหม ก็ลำบาก แต่เราจะทำอะไรได้ นอกจากคิดในแง่บวกเข้าไว้”
       .........
       
       แม้ช่วงนี้หลายๆ แห่งจะต้องประสบกับภัยพิบัติหนักหนาสักแค่ไหน แต่เชื่อว่าพอได้เห็นภาพความร่วมมือร่วมใจกันขนาดนี้ คงอดรู้สึกซึ้งกับมิตรภาพของคนไทยไม่ได้ ซึ่งก็คงเหมือนกับที่หลายคนชอบพูดกันว่า คนเราจะวัดน้ำใจกันได้ว่ามีแค่ไหน ก็ต้องเป็นช่วงลำบากนี่แหละ
       
       เพราะแม้ในความเป็นจริงถุงยังชีพเหล่านี้จะเป็นเพียงแค่เครื่องช่วยบรรเทาความปวดร้าวกับภัยพิบัติเท่านั้น แต่ในอีกมุมหนึ่งซึ่งสำคัญไม่แพ้กัน ก็ถือ ถุงเล็กๆ ดังกล่าวนั้นยังได้ใส่ พลังของน้ำใจอันเปี่ยมล้ม ความปรารถนาดี ความอยากช่วยเหลือ และความเป็นน้ำหนึ่งใจด้วยกันของทุกคนมีให้กันไว้เต็มถุง ซึ่งเพียงแค่เปิดออกมาก็รับรองว่า จะสัมผัสได้อย่างแน่นอน
       >>>>>>>>>>
       
       ผู้ที่สนใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมกับมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ติดต่อได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทเวศน์ โทร 0-2025-3333-5
       ………
       
       เรื่อง : ทีมข่าว CLICK
       ภาพ : ทีมภาพ CLICK

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000155968
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #848 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2553, 14:23:27 »

มีแป๊ะไว้ในห้อง..สวัสดีพี่แอ๊ะ13..ด้วยครับ

Forward Mail จากมติชนออนไลน์ครับ แสดงถึงน้ำที่ท่วมอำเภอสวนผึง จังหวัดราชบุรี ในช่วงเดือนกันยายนต่อเดือนตุลาคม 53 ก่อนฝนจะตกหนักที่โคราช

FW:ความน่าสะพึงกลัวของธรรมชาติ!! น้ำป่าพัดถล่มรีสอร์ทหวานพังยับ ทำแขกที่พักขวัญกระเจิง
วันที่ 04 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 23:48:14 น.


ผู้สื่อข่าว "มติชนออนไลน์" ได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำป่าไหลบ่าถาโถม จึงขออนุญาตคุณ "จิ้งจอกหลงกรุง" ที่โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม นำมาเผยแพร่ให้เห็นถึงความโหดร้ายของภัยธรรมชาติ ซึ่งบางทีต้นตอที่แท้จริงอาจจะมาจากฝีมือมนุษย์อย่างพวกเราก็ได้

 

*********************************************


+++บ้านอ้อมกอดขุนเขา+++ ในวันที่น้ำป่าไหลผ่าน

 

สวัสดีครับ เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวบีพี เป็นครั้งแรกที่ทำรีวิวด้วยใจที่ยังเต้น..ตึก..ตึก..อยู่ เพราะเพิ่งผ่านเหตุการณ์ที่ค่อนข้างระทึกขวัญมา
 

ไปกันเลยนะครับ..ณ..บ้านอ้อมกอดขุนเขา..อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี  ผมพักห้องนี้ครับ

 


เข้าไปหลบฝนในห้องก่อนครับ เพราะเปียกโชกกันทั้งผมและคุณภรรยา





ดูสิครับ ไดร์เป่าผมยังหว๊าน..หวาน



ออกไปดูระเบียงหลังบ้านบ้าง กรุณาสังเกตุน้ำสีแดงๆ และสะพานปูนด้านหลังนะครับ





ไปชมส่วนของหน้าบ้านกันบ้างครับผม เป็นสระน้ำรูปหัวใจครับ แต่ฝนตกผมเลยหลบน้ำฝน ถ่ายได้ไม่เต็มดวง หึหึ




 
คุณภรรยานั่งดูทีวี ในห้อง ส่วนผมไปดูระดับน้ำ

ที่ระเบียงหลังบ้านมีเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ท

นำกระสอบทรายมาลงไว้เยอะทีเดียว ซึ่งตอนแรก

ผมคิดว่าคงปลอดภัยแต่....




ฝนตกหนักตลอดจนกระทั่งมืด ผมจึงค่อย

ออกไปถ่ายรูปที่หน้าบ้านพัก แต่เป็นเพราะไม่สามารถ

วางขาตั้งกล้องได้รูปจึงเป็นเช่นนี้

รูปสุดท้ายของบ้านแอบรัก ในสภาพที่สวยยังที่สุดในสายตาผม


ถ่ายเมื่อเวลา 22.00น.ของวันที่ 3 ต.ค.2553 ครับบ




ผมและภรรยาเข้านอนกันเวลาประมาณ 22.30 น.
ณ เวลานั้น น้ำที่ลำธารหลังบ้านห่างจากระเบียง
ประมาณ 1.5 เมตร และฝนก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุดครับ

ผมมาสะดุ้งตื่นอีกครั้งเวลา 5.00 น.ภรรยาเรียกน่ะครับ
เธอบอกว่า เตรียมเก็บของเถอะ..
หา..ผมร้อง..ทำไมล่ะ
เธอกวักมือให้ไปดูน้ำที่ระเบียงหลังบ้าน
ผมตัวเย็นวาบน้ำมาถึงระเบียงแล้ว
และสะพานที่ผมบอกให้เพื่อนๆ ดูมันก็ขาดไปแล้ว
เราช่วยกันเก็บของยังไม่ทันเสร็จ
มีเสียงเคาะประตู เปิดออกไปเห็นน้องเจ้าหน้าที่
ยืนหน้าเครียดๆ ...บอกว่า คุณคะกรุณารีบเก็บของ
เราต้องย้ายออกจากที่นี่โดยเร็ว....
ผมกับภรรยาใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที
ในการกวาดทุกอย่างใส่กระเป๋าเดินทาง
น้องเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยยกทั้งถุงทั้งกระเป๋าผมจะยกเองเธอก็ไม่ยอม เฮ้อ..ซึ้ง

เรานั่งรถของน้องที่มาจอดด้านหลังของรีสอร์ท
ฝ่าสายฝนออกไปที่ส่วนต้อนรับ
น้องคนเดิมส่งเสร็จก็วิ่งกลับไปดูแลผู้เข้าพัก
บ้านอื่นต่อ เจ้าหน้าคนใหม่ยื่นข้อเสนอให้
เราไปพักรีสอร์ทอีกแห่งใกล้ๆ กับ Scenery
โดยบ้านอ้อมกอดฯ จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้
ไม่ต้อง ครับ(ค่ะ) ทั้งผมและภรรยาตอบพร้อมกัน
โธ่..แค่นี้บ้านอ้อมกอดฯ ก็เดือดร้อนจะแย่อยู่แล้ว
เรานั่งรอให้เช้าตรงนี้ก็ได้ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว
เจ้าหน้าที่คนนั้นยิ้มให้ แล้วกล่าวขอบคุณ

 
จากนั้นเธอก็โทร.สั่งให้แม่บ้านทำความสะอาด
ห้องรับรองที่อยู่ด้านบนของส่วนต้อนรับ แล้วให้
ผมและภรรยาเข้าไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้า
รอจนเช้า ได้เวลาอาหารเราสองคนค่อยลงไป
รับประทานอาหารเช้า ซึ่งจัดแบบบุฟเฟ่ท์
ที่ห้องอาหารของรีสอร์ท

ระหว่างที่กำลังทานอาหาร

ได้ยินคุณผู้หญิงซึ่งจำได้ว่า

เธออยู่บ้านสร้อยฟ้า ที่อยู่ติด

กับบ้านแอบรัก เธอว่า...

บ้านเราน่ะไม่เป็นไร แต่บ้าน

สีชมพูสิ ไม่เหลือ ไปหมดแล้ว..

หา..ผมกับภรรยาหันมองหน้ากัน

อะไรนะครับ... ผมถาม

..ก็บ้านข้างๆพี่น่ะ..มันพังลงมาหมดแล้ว..

 
แค่นั้นแหละครับ ผมมองหน้าภรรยา

เธอไม่พูดอะไร นั่งก้มหน้าเหมือนไม่สนใจ

แต่ผมรู้ว่าเธอเครียด เพราะเธอไม่กินอะไรต่ออีก

นิ่งไปสักครู่เธอก็บอกว่า..ไปดูบ้านเรากัน.. 

ไม่มีคำพูดจากผม..เพราะพูดไม่ออกครับ

ได้แต่ลุกเดินจูงมือกันไป ฝนยังไม่หยุด

แต่เราไม่สนใจ ภรรยาผมปกติเธอกลัวฝน

อย่างกับอะไรดี เพราะเธอเป็นโรคภูมิแพ้

แต่ครั้งนี้เธอเดินเร็วซะจนผมต้องวิ่งอ่ะ



แล้วภาพที่เราสองคนเห็นตรงหน้า

มันทำให้ลูกผู้ชายอย่างผมน้ำตาซึม

บ้านที่เราอยู่อย่างมีความสุขแม้เพียง

คืนเดียวมีสภาพเป็นอย่างนี้..ไปแล้ว




เรายืนอยู่พักนึง แล้วก็เดินกลับไปที่ส่วนต้อนรับ
เห็นเจ้าหน้าที่ผู้ชาย 2 คน คุยกันอยู่เรื่องน้ำท่วม
ผมถามว่าถนนที่จะเข้าตัวเมืองเป็นอย่างไรบ้าง
เจ้าหน้าที่บอกว่า..ตอนนี้รถเล็กยังแล่นได้..แต่ถ้า
ผ่านไปอีกชั่วโมงก็ไม่แน่ เพราะฝนยังไม่หยุดตก
น้ำบนเขาตะนาวศรีก็ไหลลงมาเรื่อยๆ

ผมกับภรรยาจึงตัดสินใจกลับกรุงเทพฯทันที
เราชำระเงินส่ว นที่เกินทั้งหมด ก่อนจะกล่าวอำลา
...บ้านอ้อมกอดขุนเขา..ในเวลาประมาณ 8.00 น.
และมาถึง บ้านที่บางบัวทองเวลา ใกล้เที่ยงครับ


จากคุณ
: จิ้งจอกหลงกรุง เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 17:15:58
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1288871335&grpid=01&catid=
      บันทึกการเข้า
เริง2520
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,341

« ตอบ #849 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2553, 15:43:21 »

ปีนี้อยุธยา งดแข่งเรือ เพราะน้ำท่วมมากๆที่ลำน้ำจะใช้แข่ง  แต่ที่อื่นยังเหมิอนเดิม
http://www.siamnava.com/fff/index.php?topic=3749.0
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 32 33 [34] 35 36 ... 472   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><