22 พฤศจิกายน 2567, 20:44:24
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ละคร หมอหงวน แสงดาวแห่งศรัทธา เวลา 20:20น.ทุกวันจันทร์ อังคาร Thai PBS  (อ่าน 16292 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 19:59:56 »


                                        

                     เชิญชวนพวกเรา ดูละครชีวิตจริงของ น.พ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%99_%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C

         ผู้ใฝ่ฝันให้ คนไทยทุกคนในแผ่นดิน โดยเฉพาะชาวนาชาวไร่  คนจนในชนบท

ได้สิทธิ์เข้าถึงการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน หรือ การสาธารณสุขมูลฐาน ฟรี

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,4704.0.html

         ใช้เวลาหลายปีผลักดัน โครงการสุขภาพดี ถ้วนหน้า  

จนเกิดโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค และใช้เวลาที่เหลือของชีวิต ทำงานอย่างหนัก

อุทิศตัวพัฒนาโครงการ ตามความฝันของตนเอง

         จนที่สุด ได้จากพวกเราไปด้วยโรคมะเร็ง   sorry ในวัยเพียง 50ต้นๆ  เมื่อ 2ปีที่แล้ว

ชมละคร หมอหงวน แสงดาวแห่งศรัทธา  เวลา 20:20น.หลังข่าว ทุกวันจันทร์ อังคาร

เริ่ม 1 มีค.2553 ช่อง Thai PBS และ ร่วมสืบสานฝัน ปณิธาน ของหมอหงวน ให้เป็นจริง

ด้วยการเร่งขับเคลื่อนงานสาธารณสุขมูลฐานปี 2529ให้เป็นจริงถึงแม้จะถึงช้าปี2553แล้วก็ตาม

           http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3394.0.html

                          และ เป็นกำลังใจให้กับครอบครัว นิตยารัมภ์พงศ์


                                      ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ
         ร่วมดู ร่วมปณิธาน  และ ร่วมไว้อาลัย วีรบุรุษ แห่งงานสาธารณสุข sorry

                          

หมอหงวน แสงดาวแห่งศรัทธา  โจ จิรายุส วรรธนสิน รับบท หมอหงวน

         ดู หมอหงวน แสงดาวแห่งศรัทธา ย้อนหลังได้ ที่เวบ

         http://www.thaifreetv.net/tv/replay_tv.php

ฟังเพลง แสงดาวแห่งศรัทธา ที่ http://www.musicatm.com/view.php?No=5812

         win win win                                                                                                                                                                                
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 18:00:32 »

ลืมดูตอนที่1
หรือดูย้อนหลังไม่ได้ แบ่งช่วงดูจาก youtube นะครับ

http://www.youtube.com/watch?v=BKpjUtuQZXI

http://www.youtube.com/watch?v=eq8XDhj5Hjc

http://www.youtube.com/watch?v=f4be2fK4Ikg

http://www.youtube.com/watch?v=v94zbp--5qg

http://www.youtube.com/watch?v=s-9p1xg3RVY




      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #2 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 23:29:02 »


ประวัติ นายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์

เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2495 ที่กรุงเทพมหานคร
จบการศึกษาแพทย ศาสตร์บัณฑิต คณะแพทย์ศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ในปี 2520
 เริ่ม รับราชการที่รพ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ในปี2521 จนกระทั่งปี 2526 เป็นผู้อำนวยการรพ.ราษีไศล
 และย้ายมาเป็นผู้อำนวยการรพ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา
 ซึ่งการทำงานทั้งสองแห่งได้บุกเบิกการสร้างสุขภาพชุมชน จนเป็นที่รักของชาวบ้านอย่างมาก
 และที่รพ.บัวใหญ่ นพ.สงวน ได้รับคัดเลือกเป็นแพทย์ดีเด่นประจำปี 2528
 ด้วยผลงานขยายเตียงรองรับ ผู้ป่วยจาก 30 เตียงเป็น 60 เตียง ในเวลา 3 ปี
 จัดทีมบริหารให้คล่องตัว มีประสิทธิภาพ วางแผนงานใช้สาธารณสุขมูลฐานเป็นกลยุทธ์แก้ปัญหา
 ตั้งกอง ทุนยา กองทุนโภชนาการหมู่บ้านและชุมชน ฯลฯ



ในปี 2538 เป็นผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เป็นรองปลัดกระทรวงสาธารณสุขในปี 2544-2546
 ก่อนที่จะมาเป็นเลขาธิการสปสช.สองสมัย

ก่อนเสียชีวิต นพ.สงวน ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด
 และมีอาการทรุดหนักด้วยอาการน้ำท่วมปอด และไตไม่ทำงานหนึ่งสัปดาห์ก่อนเสียชีวิต
 ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อเวลา ประมาณ 16.15 น. ของวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2551 ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยอายุ 56 ปี
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #3 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 23:30:36 »

สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ (18 มีนาคม พ.ศ. 2495 - 18 มกราคม พ.ศ. 2551)
 เป็นนายแพทย์ที่มีผลงานดีเด่นในการ บุกเบิกและผลักดันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จนรัฐไทยรับไปเป็นนโยบายใช้จริง
 โดยพรรคไทยรักไทยได้นำไปใช้เป็นนโยบายที่ เรียกว่า "30 บาทรักษาทุกโรค" ในสมัยรัฐบาลทักษิณ 1
(แท้จริงแล้วตามหลักคิดนี้มีอยู่ในรับ ธรรมนูญปี พ.ศ. 2540 และไม่ต้องเสียเงินแม้สักบาทเดียว)[1]
 นาย แพทย์สงวนเป็นเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) คนแรกและดำรงตำแหน่ง 2 สมัยติดกัน
 จนกระทั่งเสียชีวิต และเป็นประธานชมรมแพทย์ชนบท รุ่นที่ 8 (พ.ศ. 2528-2529)


กลุ่มแพทย์ ชนบทและผู้เคยร่วมงานกับนพ.สงวน เช่น นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบทรุ่นที่ 22
และ นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยสังคมและสุขภาพ (สวสส.) ยกย่องนพ.สงวนว่าเป็น
 "รัฐบุรุษแห่งวงการสาธารณสุขไทย"[2][3]
นาย แพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2495
 เป็นลูกคนสุด ท้องจากพี่น้องทั้งหมด 6 คนในครอบครัวชาวจีนในกรุงเทพมหานคร
 ศึกษาระดับ มัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
 จากนั้นศึกษาต่อระดับอุดม ศึกษาที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย หมอสงวนเป็นนักกิจกรรม
ได้ออกค่ายในช่วงก่อนเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ. 2516 ซึ่งทำให้ได้พบประสบการณ์ที่ไม่เคยประสบมาก่อน
 นอกจากกิจกรรมออก ค่ายแล้ว จากนิสัยรักการอ่าน เขายังเป็นบรรณาธิการหนังสือ "มหิดลสาร" ของมหาวิทยาลัยอีกด้วย
 หนังสือที่เขาชอบอ่านคือ วารสารสังคมปริทัศน์ เศรษฐศาสตร์ชาวบ้าน และ หนังสือพิมพ์มหาราช

หลังจากเขาเรียนจบในปี พ.ศ. 2520 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา พ.ศ. 2519
 บรรยากาศความตื่นตัว ของนักศึกษามีอยู่ทั่วไป นักศึกษาด้านการแพทย์จบใหม่ล้วนมีความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม
 และอยากไป ทำงานชนบท หมอสงวนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เขาเข้าทำงานที่โรงพยาบาลวชิระ กรุงเทพมหานคร อยู่ 1 ปี
 ก่อนจะออกไปเป็นแพทย์ชนบท ที่ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ อยู่ 5 ปี

[/b][/color]
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #4 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 23:34:53 »

อาลัยรัก แสงดาวแห่งศรัทธาดวงนั้น

.
วิทยุจีนแดงเครื่องเล็กๆ ส่งเสียงบอกสัญญาณเวลาเคารพธงชาติยามเย็น


ฉันกำลังจะจัดการปลุก วิญญาณกองไฟให้คืนชีวิตอีกหน ยามหนาวเหน็บในเวลาค่ำคืน กองไฟเท่านั้นที่เป็นเพื่อนเราได้อย่างแท้จริง
 หาใช่ดวงดาวที่พราว แสงอยู่ไกลลิ่บนั่นไม่ แม้แต่แสงจันทราที่เจิดจ้าปานเย้ยหยันคนจรนอนไพรให้สะเทือนในหัวใจ
 ก็ ไม่เคยให้ความอบุอ่นใดๆได้

"คนอย่างฉัน ไม่สนใจแสงดาว ไม่ต้องการแสงจันทร์ เพราะฉันอยู่กับผืนดิน" ชาวไร่อหังการณ์อย่างฉัน ประกาศชัดเจนอย่างนี้ทุกค่ำคืน
แต่แล้วเสียงทุ้มห้าวของผู้อ่านข่าว ในยามเย็น ก็บอกว่า



มะเร็งปอดคร่าชีวิต "นายแพทย์ สงวน นิตยารัมภ์พงศ์" เลขาธิการ สปสช. ด้วยวัย 55 ปี


.ฉันนิ่งอึ้ง งงงันไปชั่วครู่ ทำไมเร็วหนักหนา ทำไมเร่งรีบที่จะจากไปนักเล่าคะหมอ

ฉัน เห็นภาพในทีวี หมอยังมีหน้าตาสดใส แม้จะมีข่าวแว่วๆมาถึงแล้วว่าหมอเป็นมะเร็ง
 แต่ฉันก็ยังหวังว่าหมอน่าจะ อายุยืนกว่าคนที่ไม่ได้เป็นหมอ...มะเร็งไม่เคยให้เวลาใครยาวนานจริงๆ


คืนนี้..ดาวล้านดวงที่พร่างพราวบนท้อง ฟ้า ยิ่งไร้ความหมาย

ฉันนั่งนิ่งๆ ริมหน้าต่าง มองหาร่องรอยของดาวดวงหนึ่งทางทิศเหนือ

ดาวบางดวง แม้ดับแสงลงแล้ว แต่ยังคงมีไออุ่นอวลไออยู่ในใจฉันเสมอ


มันกลายเป็นสายน้ำอุ่น ที่หลั่งล้นลงสู่ร่องแก้มอย่างเงียบๆ

..........



"นาย แพทย์ สงวน นิตยารัมภ์พงศ์"



มีผู้คนมากมายหลายล้านคนบนโลก นี้ แต่ทำไมเราต้องมาพบกัน มาร่วมทำกิจกรรม หรือมาทำงานด้วยกัน


เช่น ฉันกับหมอหงวน



หมอหงวนคือพี่ คือครูบาอาจารย์ ที่พร้อมจะสอนงานให้น้องๆที่ร่วมงานตลอดเวลา




"เฟืองตัวใหญ่หมุนเร็ว เฟืองตัวเล็กจะยิ่งหมุนเร็วขึ้น"
 นี่คือคำพูดของนายแพทย์หนุ่มที่เต็มไป ด้วยพลังชีวิตแห่งการสร้างสรรค์งานเพื่อคนด้อยโอกาส




ใน ขณะนั้น โรงพยาบาลสูงเนิน โรงพยาบาลบัวใหญ่ โรงพยาบาลประทาย และโรงพยาบาลชุมพวง ในจังหวัดนครราชสีมา
 ได้ร่วมทีมกันทำงานด้านสาธารณสุขมูลฐานเพื่อชุมชน เนื่องจากผู้อำนวยการทั้งหลายล้วนอยู่ในชมรมแพทย์ชนบท
 มีอุดมการณ์แรงกล้าในการทำงาน




พี่ใหญ่ของกลุ่ม คือนายแพทย์สำเริง (หมอแหยง) รองลงมาคือหมอหงวน
 ที่ต่างเป็นตัวแทนของกันและกันได้ราวกับมีสมองแบบคู่แฝด
 เช่น ในขณะที่หมอแหยงกำลังบรรยายเนื้อหาการทำงานหรือหลักการทำงานให้เด็กๆอย่าง เราเข้าใจ
แต่เมื่อมีเหตุให้ต้องออกจากห้องประชุมไปทำอย่างอื่น คนที่เดินเข้ามาใหม่
 คือหมอหงวน (โดยที่ไม่ได้นั่งอยู่ในห้องนั้นมาก่อน) ก็จะบรรยายต่อได้ทันที ในประเด็นนั้นๆ
 และเกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆ จนกลายเป็นเรื่องเฮฮาหาทางจับผิดคุณหมอทั้งคู่ แต่เราก็ไม่เคยพบความผิดพลาด




นั่น แสดงว่า สิ่งที่พูดคือสิ่งที่ออกมาจากข้างใน หลอมรวมมาเป็นหลักการร่วมในการทำงาน



โครงการต่างๆที่เกิด ขึ้น จึงเป็นโครงการพิเศษนอกเหนือการรักษาคนไข้ การประชุมงาน
 จะเป็นเวลานอกราชการ หากไม่ใช่เวลากลางคืนก็ต้องเป็นเสาร์อาทิตย์ จนเรียกได้ว่า "ไม่มีเวลาส่วนตัว
 หมอทั้งหลายไม่เคยมีวันหยุด แม้เวลานอนก็ต้องใช้วิธีงีบหลับบนรถ ในเวลาเดินทาง

การทำงานมากและ หนัก แต่คุณหมอทั้งหลายที่ร่วมโครงการไม่เคยมีอารมณ์เครียดให้พวกเราได้เห็น ยิ่งมีอุปสรรคยิ่งสนุก
โดยเฉพาะหมอหงวน ที่มีความเฮฮาอารมณ์ดี ยิ้มแก้มปุ๋ม มีเขี้ยวเสน่ห์ คือความทรงจำที่ฉันเก็บไว้ หมอไม่เคยดูแก่ชราลงไปเลย
 แม้ภาระหน้าที่จะเพิ่มมากขึ้น

แต่แล้วข่าว ว่าหมอเป็นมะเร็ง ก็ถูกส่งต่อมาถึงฉัน จากกลุ่มเพื่อนที่เคยทำงานร่วมกันในทีม 4 โรงพยาบาล เมื่อปีที่แล้ว
ฉัน ไม่ได้เจอหมอหงวนนานเกือบสิบปี และสองปีที่ทำงานภายใต้การดูแลของหมอ ฉันได้ความฝัน ได้พลังชีวิต ได้ความมุ่งมั่น ที่ส่งผ่านมาจากหมอ แม้เราจะไม่ได้ร่วมงานกัน แต่ในเส้นทางเดิน ฉันเชื่อว่าฉันกำลังเดินตามรอยเท้าของหมอผู้รักงานคนนี้เสมอ


ในวันก่อนนั้น...โครงการที่เราทำร่วมกับ ชุมชน จึงกลายมาเป็นแม่แบบของงานพัฒนาสาธารณสุขทั่วประเทศ เช่น โครงการ จปฐ. (ความจำเป็นพื้นฐาน) หรือในส่วนของโรงพยาบาลบัวใหญ่เอง ที่เริ่มสำรวจและทำงานกับกลุ่มคนพิการ จนกระทั่งงานฟื้นฟูคนพิการได้รับการยอมรับในเชิงนโยบาย กลายเป็นงานหนึ่งที่มีสำคัญในการพัฒนาบุคลากรของประเทศในปัจจุบัน




และต้องไม่ลืมที่จะรวมเรื่อง การเป็นหัวขบวนปฏิรูประบบสุขภาพไทยครั้งใหญ่
 ในการสร้างความเป็นธรรมทาง ด้านสุขภาพให้กับประชาชน
 ในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือที่ รู้จักกันว่าโครงการ 30 บาท
 ซึ่งมีการวางแผนนำเสนอต่อรัฐบาลก่อนหน้า รัฐบาลทักษิณ แล้วด้วย

หาใช่ เกิดจากความคิดของอดีตนายกคนนั้นไม่
[/color]
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
jeam
สมาชิกวิสามัญ
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 574

« ตอบ #5 เมื่อ: 02 มีนาคม 2553, 23:48:11 »

แม้แต่วลี "คิดใหม่ ทำใหม่" อดีตนายกคนนั้น ก็ไม่ได้คิดเอง แต่มาจากคนนี้ครับ

      บันทึกการเข้า

I think, therefore I am.
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 03 มีนาคม 2553, 08:51:56 »

เห็นด้วยกับพี่ตะวันและพี่เจียมครับ
เพราะ สิ่งที่อดีตนายกทักษิณ คิดได้ด้วยตนเอง มักเป็นวิธีการทำเงินให้กับตนเองและญาติพี่น้อง

จะอย่างไร ก็ไม่อาจปฎิเสธว่า
เพราะความมีวิสัยทัศน์และเก่งพอของอดีตนายก จึงเข้าใจความคิดของหมอหงวน โดยผ่านหมอเลี้ยบ
และยังเข้าใจคำว่า "คิดใหม่ ทำใหม่"

เพราะความคิดนั้น มีมาก่อน แต่ไม่เคยมีผู้มีอำนาจเข้าใจ


ทุกวันนี้ ก็มีความคิดดีๆเกิดขึ้นทั่วโลก และแม้แต่ความคิดดีๆของนักคิดคนไทย
แต่ก็หาผู้มีอำนาจที่เข้าใจไม่ได้...ผลจึงใม่เกิด

..............................................

อดีตนายกทักษิณ
เป็นได้เพียง คนรู้จักตัดต้นไม้  เพื่อสร้างบ้านสวย
แต่ ไม่มีความสามารถปลูกต้นไม้  เพื่อสร้างความร่มรื่น

(ต้นไม้ถูกตัดหมด  จะเกิดอะไรขึ้นครับ)


.............................................
คนเราเกิดมาแตกต่า่ง

ไม่ทุกคนหรอกครับ ที่อยากมีบ้านใหญ่โตยังกับวัง
ไม่ทุกคนหรอกครับ ที่อยากเป็นเจ้าของรถหรูราคาแพงระยับ
ไม่ทุกคนหรอกครับ ที่อยากมีเงินไม่รู้จักพอ (เช่นใครบางคน)

แรงขับในการกระทำสำหรับบางคน คือ เงินทอง ทรัพย์สมบัติ
แรงขับในการกระทำสำหรับบางคน คือ ความสุขของคนรอบข้าง
แต่แรงขับในการกระทำสำหรับบางคน คือ ความผาสุกของทุกชนชั้นในสังคม

ในโลกนี้ มีคนที่ขอให้ตัวเองอิ่ม  ใครจะอดก็ช่าง
ในโลกนี้ มีคนที่อิ่มก็อิ่มด้วยกัน อดก็อดด้วยกัน
และในโลกนี้ ก็มีคนที่ยอมอด เพื่อให้คนอื่นอิ่ม

ประเทศไทยเรา มีฟันเฟืองที่ดีๆเพื่อขับเคลื่อนสังคมไม่น้อย
ขาดแต่เครื่องยนต์ที่มีคุณภาพเพื่อส่งผ่านพลังไปสู่ฟันเฟืองเหล่านั้นครับ

เครื่องยนต์ที่มีคุณภาพ ซื่อสัตย์อย่างเดียวไม่พอ ต้องเก่งด้วยครับ

.......................................

ติดตามชม "หมอหงวน แสงดาวแห่งศรัทธา"  ทางทีวีไทย 20.20 น.ทุกวันจันทร์และอังคาร กันนะครัีบ


      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #7 เมื่อ: 03 มีนาคม 2553, 10:18:24 »

อ้างถึง
ข้อความของ yc เมื่อ 03 มีนาคม 2553, 08:51:56
เห็นด้วยกับพี่ตะวันและพี่เจียมครับ
เพราะ สิ่งที่อดีตนายกทักษิณ คิดได้ด้วยตนเอง มักเป็นวิธีการทำเงินให้กับตนเองและญาติพี่น้อง

จะอย่างไร ก็ไม่อาจปฎิเสธว่า
เพราะความมีวิสัยทัศน์และเก่งพอของอดีตนายก จึงเข้าใจความคิดของหมอหงวน โดยผ่านหมอเลี้ยบ
และยังเข้าใจคำว่า "คิดใหม่ ทำใหม่"

เพราะความคิดนั้น มีมาก่อน แต่ไม่เคยมีผู้มีอำนาจเข้าใจ


ทุกวันนี้ ก็มีความคิดดีๆเกิดขึ้นทั่วโลก และแม้แต่ความคิดดีๆของนักคิดคนไทย
แต่ก็หาผู้มีอำนาจที่เข้าใจไม่ได้...ผลจึงใม่เกิด

..............................................

อดีตนายกทักษิณ
เป็นได้เพียง คนรู้จักตัดต้นไม้  เพื่อสร้างบ้านสวย
แต่ ไม่มีความสามารถปลูกต้นไม้  เพื่อสร้างความร่มรื่น

(ต้นไม้ถูกตัดหมด  จะเกิดอะไรขึ้นครับ)


.............................................
คนเราเกิดมาแตกต่า่ง

ไม่ทุกคนหรอกครับ ที่อยากมีบ้านใหญ่โตยังกับวัง
ไม่ทุกคนหรอกครับ ที่อยากเป็นเจ้าของรถหรูราคาแพงระยับ
ไม่ทุกคนหรอกครับ ที่อยากมีเงินไม่รู้จักพอ (เช่นใครบางคน)

แรงขับในการกระทำสำหรับบางคน คือ เงินทอง ทรัพย์สมบัติ
แรงขับในการกระทำสำหรับบางคน คือ ความสุขของคนรอบข้าง
แต่แรงขับในการกระทำสำหรับบางคน คือ ความผาสุกของทุกชนชั้นในสังคม

ในโลกนี้ มีคนที่ขอให้ตัวเองอิ่ม  ใครจะอดก็ช่าง
ในโลกนี้ มีคนที่อิ่มก็อิ่มด้วยกัน อดก็อดด้วยกัน
และในโลกนี้ ก็มีคนที่ยอมอด เพื่อให้คนอื่นอิ่ม

ประเทศไทยเรา มีฟันเฟืองที่ดีๆเพื่อขับเคลื่อนสังคมไม่น้อย
ขาดแต่เครื่องยนต์ที่มีคุณภาพเพื่อส่งผ่านพลังไปสู่ฟันเฟืองเหล่านั้นครับ

เครื่องยนต์ที่มีคุณภาพ ซื่อสัตย์อย่างเดียวไม่พอ ต้องเก่งด้วยครับ

.......................................

ติดตามชม "หมอหงวน แสงดาวแห่งศรัทธา"  ทางทีวีไทย 20.20 น.ทุกวันจันทร์และอังคาร กันนะครัีบ



น้องยังชิน ซาบซึ้งใจมากในข้อความของน้อง
ในโลกนี้ จะมีซักกี่คนที่จะยอมอด เพื่อให้คนอื่นได้อิ่ม
ตอนที่พี่ตัดสินใจเข้าป่า ก็คิดเช่นนี้ ยินดีที่จะเสียสละทุกๆอย่างในชีวิต
 เพื่ออุทิศให้กับการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ดีกว่า ของสังคม

แต่ทุกวันนี้ พี่ไม่ได้คิดเช่นนั้นแล้ว ไม่อาจเสียสละได้มากเช่นนั้นได้อีก
เพียงแต่ ปฏิบัติตนเพื่อความเป็นธรรมในสังคม เท่าที่จะทำได้
หรือเสียสละได้เท่าที่ตัวเราไม่เดือดร้อน
แสวงหาความสุขให้กับชีวิต และครอบครัว


แต่ก็ยังมีคนที่เขาพร้อมเสียสละได้ตลอดกาล
และหมอ หงวน ก็เป็นคนหนึ่งในจำนวนนั้น
ขอคารวะและเทิดทูน ในความดีของหมอ สงวน..แสงดาวแห่งศรัทธา ที่จะส่องสว่างไปชั่วนิรันดร์
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 04 มีนาคม 2553, 01:02:23 »

น้องๆคะ

พีแอ๊ะขออนุญาตนำบทความที่พี่แอ๊ะเขียน ในblog พี่แอ๊ะมาให้อ่านนะคะ

วันจันทร์ ที่ 21 มกราคม 2551

แด่คุณหมอสงวนด้วยดวงใจ

Posted by prapasri , ผู้อ่าน : 871 , 08:36:57 น.  
หมวด : ไดอารี่

  

                                                                       แด่คุณหมอสงวนด้วยดวงใจ


      เมื่อวันศุกร์ที่ 18มกราคม 2551 ขณะที่ดิฉันและคณะกรรมการสมาคมโรงพยาบาล

โรงพยาบาลเอกชน ประชุมกันอยู่เราก็ได้รับแจ้งจาก นายแพทย์เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์

ท่านนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชนและนายกแพทยสมาคมว่า  คุณหมอสงวน นิตยารัมพงษ์

ได้เสียชีวิตแล้ว   ดิฉันรู้สึกตกใจมาก เพราะเพิ่งเห็นคุณหมอในโทรทัศน์เมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง

 และคิดว่าอาการคุณหมอดีขึ้นแล้ว เพราะคุณหมอได้ให้สัมภาษณ์ เรื่องโครงการของ สสปช.

อย่างเป็นปกติดี  ดิฉันยังคุยกับสามีว่า คุณหมอสงวน คงอาการดีขึ้น จากมะเร็งที่ปอดแล้ว

คงเป็นบุญที่คุณหมอได้ช่วยเหลือประชาชนในเรื่องโครงการสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศ

ทำให้หายจากโรคร้ายได้  

    ดิฉันรีบโทรแจ้งให้คุณหมอกวี ไชยศิริ ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์


(ต่อ)
 
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 04 มีนาคม 2553, 01:05:04 »

และคุณหมอชูชัย ศุภวงศ์  เพื่อนรักของดิฉันได้ทราบ

และโทรแจ้งคุณหมอหาญ สามีของดิฉัน เราได้แต่เสียดายคุณหมอในดวงใจของเรา

สำหรับคุณหมอสงวนและดิฉันไม่ได้สนิทสนมกันโดยส่วนตัว เพราะดิฉันไม่ใช่แพทย์

 และท่านไม่ได้เป็นรุ่นน้องจุฬา แม้ว่าเราผ่านกระบวนการ

ปฎิวัติโดยนักศึกษาและประชาชนมาด้วยกันทั้ง 14 ตุลา16 และ 6ตุลา19

 แต่ ดิฉัน รู้สึกสนิทสนมกับท่านและชื่นชมในผลงาน

และการทำงานที่ท่านที่มีความตั้งใจทำงาน  มีการทำงานที่ความประนีประนอมสูง

 และไม่ได้รังเกียจหรือเกี่ยงว่าดิฉันทำงานในสาธารณสุขภาคเอกชน

ดิฉันมีโอกาสสัมผัสตัวตนของคุณหมอสงวนแบบใกล้ชิดสามสี่ครั้งในฐานะ

ที่ดิฉันทำงานในองค์กรภาคประชาชน  แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่า

ดิฉันเป็นผู้หญิงไฮโซ เป็นคนรวย แต่งตัวสวย แต่ถ้าคนที่รู้จักดิฉันจริงๆจะพบว่า

 คนรวยก็สามารถติดดินได้ รักประชาชนได้เหมือนกัน อยู่กับคนจนได้เหมือนกัน

รักความยุติธรรม และไม่เอาเปรียบใคร  แต่พอเรามาทำกิจการโรงพยาบาลเอกชน

 แพทย์บางท่านที่คิดว่าตัวเองมีอุดมการณ์ก็จะมองว่าเรา

ไม่มีอุดมการณ์ แต่คุณหมอสงวน ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ค่ะ
     
    ดิฉันทำงานเป็นเอ็นจีโอสายผู้หญิงมากว่า20กว่า ปี

 สร้าง อาชีพ สร้างงาน สร้างศักดิ์ศรี ให้ผู้หญิงอิสาน และประชาชนจากราษีไศล

 ก็มาหาคุณหมอหาญ ให้คุณหมอหาญรักษามากพอสมควร

      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 04 มีนาคม 2553, 01:07:04 »

เรียกว่าเราได้ช่วยเหลือประชาชนด้วยกันตลอดมา

   เมื่อ รัฐบาลเริ่มโครงการ สามสิบบาทรักษาทุกโรคใหม่ๆ

 ดิฉันได้สมัครเข้าไปเป็นกรรมการในโครงการนี้ในสาย เครือข่ายด้านสตรีด้วย

 คุณหมอสงวนเห็นผู้หญิงอิสานไปเชียร์ดิฉันเยอะมาก

 ดิฉันทราบด้วยสายตาของคุณหมอว่าท่านเอาใจช่วยดิฉันเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ไป

  มีส่วนร่วมในงานนี้

 แต่ดิฉันไม่สามารถเข้าไปนั่งในตำแหน่งตรงนั้นได้ ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้เสียใจแต่อย่างใด

แต่ก็ได้ นำโรงพยาบาลนายแพทย์หาญที่ยโสธรเข้าโครงการสามสิบบาท

  เพื่อสนับสนุนโครงการดีๆอย่างนี้ด้วยค่ะ
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 04 มีนาคม 2553, 01:09:53 »

ดิฉัน ได้พบกับคุณหมอสงวนอีกครั้ง

เมื่อดิฉันดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

 คณะทำงานสาธารณสุขและพัฒนาคุณภาพชีวิต

ที่ดิฉันทำงานอยู่ได้เชิญคุณหมอ สงวน มาบรรยาย

เรื่องการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประชาชนระดับล่าง

 คุณหมออารมณ์ดี และยิ้มแย้มกับดิฉันอีกเช่นเคย

และแสดงอาการดีใจที่ได้พบดิฉันอีกครั้ง

ดิฉันแนะนำตัวเองว่าเป็นภรรยาคุณหมอหาญจากยโสธร

ในวงการแพทย์ เราจะดีใจที่ได้พบกับครอบครัวแพทย์กันอยู่แล้ว

 และเราได้พบกันในงานสัมมนาอีกหลายๆครั้ง
 
ที่คุณหมอเป็นผู้นำการสัมนา คุณหมอมีความอดทนสูงที่ต้องตอบคำถามต่างๆ

 เพราะช่วงหลังๆนี้ระบบสาธารณสุขของ

ไทยเปลียนไปอย่างชนิดที่แทบจะตามกันไม่ทัน
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 04 มีนาคม 2553, 01:13:12 »

ดิฉันได้ทราบว่าคุณหมอเป็นมะเร็งที่ปอดมาสองสามปีที่แล้ว

แต่ก็คิดว่าต้องดีขึ้น เพราะสมัยนี้ยามะเร็งใหม่ๆดีขึ้นมาก

และคุณหมอเป็นคนอารมณ์ดี

มีความคิดเชิงบวกตลอด ทำแต่ความดี คงจะหายได้

หรือยืดอายุไปได้นานกว่านี้อีกมากนัก

 จึงดีใจมากเมื่อเห็นคุณหมอในโทรทัศน์เมื่อเดือนที่แล้ว

 เห็นคุณหมออ้วนขึ้นด้วย ไม่คิดว่าคุณหมอจะจากไปในวันนี้

 สิ่งดีๆ ที่คุณหมอทำไว้ให้กับประเทศชาติ

คงเป็นผลบุญให้คุณหมอได้มีความสุขในสัมปรายภพ

 ขอบคุณคุณหมอที่ทำงานให้กับประชาชนคนไทยจนวินาทีสุดท้าย

   ของชีวิตคุณหมอ

    แด่คุณหมอสงวนด้วยดวงใจ
 
     จาก

  นายแพทย์หาญ และ ประภาศรีสุฉันทบุตร

  กลุ่ม ร.พ หาญ อินเตอร์เนชั่นแนล ยโสธร มุกดาหาร แหลมฉบัง
 
 นายแพทย์ต้นกล้า สุฉันทบุตร  ฝ่ายศัลยกรรมร.พ ตำรวจ

 นักศึกษาแพทย์ ฉายตะวัน สุฉันทบุตร     ร.พ ราชวิถี

 นักศึกษาแพทย์หญิง กลางดาว  สุฉันทบุตร    ร.พ ราชวิถี

  นายก้องไกล สุฉันทบุตร  university of Leeds,UK.






      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
yc
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557

เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 04 มีนาคม 2553, 21:41:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 03 มีนาคม 2553, 10:18:24
อ้างถึง
ข้อความของ yc เมื่อ 03 มีนาคม 2553, 08:51:56
เห็นด้วยกับพี่ตะวันและพี่เจียมครับ
เพราะ สิ่งที่อดีตนายกทักษิณ คิดได้ด้วยตนเอง มักเป็นวิธีการทำเงินให้กับตนเองและญาติพี่น้อง

จะอย่างไร ก็ไม่อาจปฎิเสธว่า
เพราะความมีวิสัยทัศน์และเก่งพอของอดีตนายก จึงเข้าใจความคิดของหมอหงวน โดยผ่านหมอเลี้ยบ
และยังเข้าใจคำว่า "คิดใหม่ ทำใหม่"

เพราะความคิดนั้น มีมาก่อน แต่ไม่เคยมีผู้มีอำนาจเข้าใจ


ทุกวันนี้ ก็มีความคิดดีๆเกิดขึ้นทั่วโลก และแม้แต่ความคิดดีๆของนักคิดคนไทย
แต่ก็หาผู้มีอำนาจที่เข้าใจไม่ได้...ผลจึงใม่เกิด

..............................................

อดีตนายกทักษิณ
เป็นได้เพียง คนรู้จักตัดต้นไม้  เพื่อสร้างบ้านสวย
แต่ ไม่มีความสามารถปลูกต้นไม้  เพื่อสร้างความร่มรื่น

(ต้นไม้ถูกตัดหมด  จะเกิดอะไรขึ้นครับ)


.............................................
คนเราเกิดมาแตกต่า่ง

ไม่ทุกคนหรอกครับ ที่อยากมีบ้านใหญ่โตยังกับวัง
ไม่ทุกคนหรอกครับ ที่อยากเป็นเจ้าของรถหรูราคาแพงระยับ
ไม่ทุกคนหรอกครับ ที่อยากมีเงินไม่รู้จักพอ (เช่นใครบางคน)

แรงขับในการกระทำสำหรับบางคน คือ เงินทอง ทรัพย์สมบัติ
แรงขับในการกระทำสำหรับบางคน คือ ความสุขของคนรอบข้าง
แต่แรงขับในการกระทำสำหรับบางคน คือ ความผาสุกของทุกชนชั้นในสังคม

ในโลกนี้ มีคนที่ขอให้ตัวเองอิ่ม  ใครจะอดก็ช่าง
ในโลกนี้ มีคนที่อิ่มก็อิ่มด้วยกัน อดก็อดด้วยกัน
และในโลกนี้ ก็มีคนที่ยอมอด เพื่อให้คนอื่นอิ่ม

ประเทศไทยเรา มีฟันเฟืองที่ดีๆเพื่อขับเคลื่อนสังคมไม่น้อย
ขาดแต่เครื่องยนต์ที่มีคุณภาพเพื่อส่งผ่านพลังไปสู่ฟันเฟืองเหล่านั้นครับ

เครื่องยนต์ที่มีคุณภาพ ซื่อสัตย์อย่างเดียวไม่พอ ต้องเก่งด้วยครับ

.......................................

ติดตามชม "หมอหงวน แสงดาวแห่งศรัทธา"  ทางทีวีไทย 20.20 น.ทุกวันจันทร์และอังคาร กันนะครัีบ



น้องยังชิน ซาบซึ้งใจมากในข้อความของน้อง
ในโลกนี้ จะมีซักกี่คนที่จะยอมอด เพื่อให้คนอื่นได้อิ่ม
ตอนที่พี่ตัดสินใจเข้าป่า ก็คิดเช่นนี้ ยินดีที่จะเสียสละทุกๆอย่างในชีวิต
 เพื่ออุทิศให้กับการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ดีกว่า ของสังคม

แต่ทุกวันนี้ พี่ไม่ได้คิดเช่นนั้นแล้ว ไม่อาจเสียสละได้มากเช่นนั้นได้อีก
เพียงแต่ ปฏิบัติตนเพื่อความเป็นธรรมในสังคม เท่าที่จะทำได้
หรือเสียสละได้เท่าที่ตัวเราไม่เดือดร้อน
แสวงหาความสุขให้กับชีวิต และครอบครัว


แต่ก็ยังมีคนที่เขาพร้อมเสียสละได้ตลอดกาล
และหมอ หงวน ก็เป็นคนหนึ่งในจำนวนนั้น
ขอคารวะและเทิดทูน ในความดีของหมอ สงวน..แสงดาวแห่งศรัทธา ที่จะส่องสว่างไปชั่วนิรันดร์


ผมนับถือและชื่นชมจิตใจของพี่ตะวันมากเช่นกันครับ
คนที่เคยมีดาวศรัทธาในหัวใจ รุ่นเดียวกับพี่ ส่วนใหญ่ดาวดับไปนานแล้ว
แต่สำหรับพี่ตะวัน แสงจากพี่ยังส่องทางให้น้องๆหลายคนอยู่
แม้ว่า จะมีบางฉายฉาน ที่ผมไม่อยากมองตามบ้าง

การยอมอดของคน ก็คงอดเพียงบางมื้อบางครั้งเท่านั้น เพราะต้องรักษาชีวิตเพื่อสร้่างฝัน

ดีใจและขอบคุณครับ

..................................................

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 04 มีนาคม 2553, 01:05:04
และคุณหมอชูชัย ศุภวงศ์  เพื่อนรักของดิฉันได้ทราบ

และโทรแจ้งคุณหมอหาญ สามีของดิฉัน เราได้แต่เสียดายคุณหมอในดวงใจของเรา

สำหรับคุณหมอสงวนและดิฉันไม่ได้สนิทสนมกันโดยส่วนตัว เพราะดิฉันไม่ใช่แพทย์

 และท่านไม่ได้เป็นรุ่นน้องจุฬา แม้ว่าเราผ่านกระบวนการ

ปฎิวัติโดยนักศึกษาและประชาชนมาด้วยกันทั้ง 14 ตุลา16 และ 6ตุลา19

 แต่ ดิฉัน รู้สึกสนิทสนมกับท่านและชื่นชมในผลงาน

และการทำงานที่ท่านที่มีความตั้งใจทำงาน  มีการทำงานที่ความประนีประนอมสูง

 และไม่ได้รังเกียจหรือเกี่ยงว่าดิฉันทำงานในสาธารณสุขภาคเอกชน

ดิฉันมีโอกาสสัมผัสตัวตนของคุณหมอสงวนแบบใกล้ชิดสามสี่ครั้งในฐานะ

ที่ดิฉันทำงานในองค์กรภาคประชาชน  แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่า

ดิฉันเป็นผู้หญิงไฮโซ เป็นคนรวย แต่งตัวสวย แต่ถ้าคนที่รู้จักดิฉันจริงๆจะพบว่า

 คนรวยก็สามารถติดดินได้ รักประชาชนได้เหมือนกัน อยู่กับคนจนได้เหมือนกัน

รักความยุติธรรม และไม่เอาเปรียบใคร  แต่พอเรามาทำกิจการโรงพยาบาลเอกชน

 แพทย์บางท่านที่คิดว่าตัวเองมีอุดมการณ์ก็จะมองว่าเรา

ไม่มีอุดมการณ์ แต่คุณหมอสงวน ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ค่ะ
     
    ดิฉันทำงานเป็นเอ็นจีโอสายผู้หญิงมากว่า20กว่า ปี

 สร้าง อาชีพ สร้างงาน สร้างศักดิ์ศรี ให้ผู้หญิงอิสาน และประชาชนจากราษีไศล

 ก็มาหาคุณหมอหาญ ให้คุณหมอหาญรักษามากพอสมควร



พี่แอ๊ะครับ
สายตาที่พี่แอ๊ะมองหมอหงวน แล้วสะท้อนให้เห็นนั้น
น่าจะเป็นกำลังใจให้ครอบครัวของคุณหมอสงวน และคนที่มีใจรักเพื่อนมนุษย์

ขอบคุณครับ

ชวนดูละครด้วยครับ


      บันทึกการเข้า
Soponเท่านั้น
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,405

« ตอบ #14 เมื่อ: 06 มีนาคม 2553, 14:21:33 »

ผมรู้จักพี่หมอหงวน ซึ่งเป็นพี่ห้อง128 มศ.5 เตรียมอุดมฯตั้งแต่ปี2514-2515 แต่ไม่สนิทกับท่าน ได้ติดตามผลงานของท่านด้วยความชื่นชมในฐานะพี่ห้องและพี่โรงเรียน sorry เพื่อนในห้องที่เตรียมฯคนหนึ่งเรียนแพทย์มหิดลฯหลังพี่หมอหงวน1ปี และได้ร่วมงานกับท่านอย่างใกล้ชิด น่าจะมีเรื่องราวกล่าวถึงอยู่ในละคอนแสงดาวแห่งศรัทธาด้วยเหมือนกัน
ส่วนพี่หมอสำเริง แหยงกระโทก(หมอแหยง)ก็เป็นรุ่นพี่ห้องมศ.4 และดูเหมือนจะเป็นพี่ห้องมศ.5 ห้องเดียวกับพี่หมอหงวนด้วย พี่สำเริงเป็นคนใจดี เป็นที่รักของน้องๆมาก มีความเป็นชาวบ้าน(นอก)เต็มตัว เคยเรียนวิศวะฯ จุฬาฯ1ปีก่อนสอบเข้ามหิดลฯในปีถัดมา พี่สำเริงทำงานเพื่อชนบทมาตลอดและก้าวหน้าทางราชการมากจนเป็นรองอธิบดีตั้งแต่ยังหนุ่ม ตอนหลังได้ข่าวว่าผันตัวเองลงเล่นการเมืองท้องถิ่น ไม่ทราบว่าเปลี่ยนไปอย่างไรหรือไม่
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #15 เมื่อ: 06 มีนาคม 2553, 20:54:10 »


        ส่วนพี่หมอสำเริง แหยงกระโทก(หมอแหยง)ก็เป็นรุ่นพี่ห้องมศ.4 และดูเหมือนจะเป็นพี่ห้องมศ.5 ห้องเดียวกับพี่หมอหงวนด้วย พี่สำเริงเป็นคนใจดี เป็นที่รักของน้องๆมาก มีความเป็นชาวบ้าน(นอก)เต็มตัว เคยเรียนวิศวะฯ จุฬาฯ1ปีก่อนสอบเข้ามหิดลฯในปีถัดมา พี่สำเริงทำงานเพื่อชนบทมาตลอดและก้าวหน้าทางราชการมากจนเป็นรองอธิบดีตั้งแต่ยังหนุ่ม ตอนหลังได้ข่าวว่าผันตัวเองลงเล่นการเมืองท้องถิ่น ไม่ทราบว่าเปลี่ยนไปอย่างไรหรือไม่

                                                                                                Soponเท่านั้น
                                                                                        

          ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

                              

          ขอเข้ามาอธิบาย ผม ชื่อ สำเริง เหมือนกัน เป็นรุ่นน้อง พี่สำเริง แหยงกระโทก ผมเรียน ร.ร.เตรียมอุดม พญาไท เหมือนกัน แต่เข้าปี พ.ศ.2515 เมื่อตอนเป็นแพทย์ฝึกหัด ไปทำงาน ร.พ.นครราชสีมา แล้วไปฝึกงาน ร.พ.อำเภอ ที่่ อำเภอสูงเนิน พี่สำเริง แหยงกระโทก เป็นผู้อำนวยการ ร.พ. เคยร่วมงานกับพี่สำเริง พยาบาลยัง เรียกชื่อ สำเริง 2 เวลาพูดถึงหมอสำเริง เพื่อให้รู้ว่าพูดถึงใคร  

         เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ

                            

         ตอนนี้พี่สำเริง 1 ได้ออกจากการเป็น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และ รองอธิบดี มาทำงานการเมือง ขณะนี้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เพื่อทำงานด้านที่ 3 ของสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา  

         ผมสำเริง 2 ขอเดาว่า พี่สำเริง 1 คงมองว่า เป็นด้านที่ 1 ให้ความรู้เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งไม่ถูกต้อง แล้ว เป็นด้านที่ 2 รวมกลุ่มคนที่รู้ปัญหา เป็น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ก็แล้วยังแก้ปัญหาให้เกิด สุขภาพดีถ้วนหน้าไม่ได้ มีอีกด้านหนึ่ง ที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลง มาก คือ ด้านการเมือง พี่สำเริง 1 จึงลงเล่นการเมือง ระดับจังหวัด

         ในอนาคต พี่คงจะเล่นระดับชาติ เพื่อทำด้านที่ 3 ออกกฏหมาย และ บังคับใช้งาน สาธารณสุขมูลฐาน ตามกฏบัตรออตตาวา (Ottawa Charter) ให้เป็นจริงได้เมื่อทำค่รบ 3 ด้าน ดู งานสาธารณสุขมูลฐาน เพิ่มเติมที่

         http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3394.0.html

        ผมขอร่วมเป็นกำลังใจช่วยเชียร์ พี่ สำเริง 1 ทำด้านที่ 3 ส่วน สำเริง 2 จะขอเป็นด้านที่ 1 และ ด้านที่ 2 ของสามเหลี่ยม ต่อไป ไม่มีความสามารถทำงานด้านที่ 3 ไม่ถนัด ขอโพสต์กระทู้ ความรู้ เพื่อให้เกิดการรวมตัวกันของผู้มีความรู้ สมาชิกชาวซีมะโด่ง ครับพี่โสภณ

         ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ


      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Soponเท่านั้น
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,405

« ตอบ #16 เมื่อ: 08 มีนาคม 2553, 22:29:47 »

ขอบคุณครับ หมอสำเริง2 ผมจำคุณได้ดี ชาวหอฯปี17 ตัวโตๆ
ชื่นชมแนวคิด และได้ติดตามกระทู้ของคุณ(น้อง)หมอมาบ้างเป็นระยะๆ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #17 เมื่อ: 21 เมษายน 2553, 21:27:27 »

ฝากไว้เป็นอุทธาหรณ์ครับ โรงพยาบาลในจังหวัดสระบุรี....

อนาถใน รพ.ขน'ผู้ป่วย'ทิ้งในสุสาน
วันพุธ ที่ 21 เมษายน 2553 เวลา 7:28 น

                                                 

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 20 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายชำนาญ บุตรแสง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก ว่ามีรถตู้ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี นำผู้ป่วยมาทิ้งไว้ในสุสานสว่างอาริยะธรรมสถาน หมู่ 11 ต.สาริกา ตอนนี้ได้นำผู้ป่วยมาอยู่ที่วัดเขาแดง หมู่ 11 ต.สาริกา จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพบนายสุรเชษฐ์ หงส์ขาว สะอาด อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 480 ซอยลาดพร้าว 132 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ในชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาลดังกล่าว ตามกางเกงมีแต่กลิ่นอุจจาระและกลิ่นปัสสาวะคละคลุ้งไปหมด.
   
นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า เคยไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบียหลายปี พอกลับมาบ้านปรากฏว่าภรรยาได้หนีไป และต่อมาเธอก็เสียชีวิต ส่วนตนได้ล้มป่วยเป็นโรคเบาหวาน เงินที่มีอยู่หมดไปกับการรักษาตัว และพยายามบากหน้าไปหาญาติพี่น้อง แต่ไม่มีใครต้อนรับ จึงต้องอยู่แบบอด ๆ อยาก ๆ เรื่อยมา จนกระทั่งได้เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าวนานเป็นเดือน โดยอยู่แบบอนาถา มีอาหารให้กินนิดเดียว พอตกกลางคืนจะหิวมาก และในวันนี้ทางโรงพยาบาลบอกกับตนว่าหมดเวลาที่จะอยู่ต่อไปแล้ว หลังจากนั้นตอนสายทางโรงพยาบาลได้นำรถตู้พาตนมาปล่อยทิ้งเอาไว้ในสุสานแห่งนี้ โดยบอกว่าเดี๋ยวจะมีคนมารับ จากนั้นรถของโรงพยาบาลก็ขับออกไป โดยปล่อยตนทิ้งเอาไว้ เบื้องต้นนายชำนาญและชาวบ้านทนเห็นสภาพน่าเวทนาของนายสุรเชษฐ์ไม่ไหว จึงส่งตัวไปรักษาที่ รพ.นครนายก.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=419&contentID=61085
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #18 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2553, 09:13:02 »


คลี่หัวใจ "นพ.วินัย สวัสดิวร" กับทุกปัญหาหลักประกันสุขภาพ

ขอขอบคุณ เวบนิภา และ น.ส.พ. ผู้จัดการ วัน พุธ ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
http://news.nipa.co.th/news.action?newsid=12981



เผลอแผล็บเดียว สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ก็ก้าวสู่ปีที่ 7 แล้ว
ตลอดระยะเวลา6ปีที่ผ่านมา สปสช.ได้สร้างหลักประกันสุขภาพครอบคลุมคนไทย47ล้านคน
ให้ได้รับหลักประกันสุขภาพ

การรักษาพยาบาล การป้องกันโรค การฟื้นฟูสุขภาพ และการส่งเสริมป้องกันโรค

อย่างครอบคลุม ทั่วถึง และเท่าเทียม ด้วยระบบการให้บริหารที่ไม่น้อยหน้าระบบประกันสุขภาพอื่นๆ
ปัจจุบันสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อยู่ภายใต้การบริหารงานของ

นพ.วินัย สวัสดิวร ซึ่งต้องรับภาระหนักในการดูแลสุขภาพของคนเกือบทั้งประเทศ ต่อจาก



นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ อดีตเลขาธิการ สปสช.คนแรก

ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด จึงถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

ในวันสบายๆ นพ.วินัย ได้เปิดใจกับ "ASTVผู้จัดการรายวัน"
ถึงการทำงานในช่วงเวลา1 ปี ที่ผ่านมา

"การรับไม้ต่อจากคุณหมอสงวนเป็นเรื่องที่น่าหนักใจเพราะหมอสงวนเป็นคนที่มีความสามารถสูง
เป็นคนดีมีบารมี มีคนรู้จักและให้ความสนใจ นั่นคือ ข้อหนักใจ

แต่ข้อสบายใจ คือ

หมอสงวน ได้วางรากฐาน ระบบต่างๆ ไว้อย่างดีเยี่ยม ทีมงาน สปสช.ก็ไม่เปลี่ยนแปลง
ทำให้งานที่ต้องสานต่อเชื่อมโยงกันได้อย่างสบาย

อย่างไรก็ตาม ก็มีความกังวลอยู่บ้างเกี่ยวกับกรณีที่อาจเกิดการเปรียบเทียบระหว่างเลขาฯ คนเก่า
และเลขาฯคนใหม่"

นพ.วินัย บอกยิ้มๆ และภายหลังจากลงมือสู้งานหนักตลอด 1 ปี นพ.วินัย มองว่า

ภาระงานต่างๆ ในการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพเพื่อประชาชน มีเรื่องอีกมากมายที่ต้องทำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถึงแม้ประชาชนจะมีสิทธิในการรักษาพยาบาลอยู่แล้ว
แต่ในทางปฏิบัติการเข้าถึงบริการจริงๆ ยังยาก

ต้องพัฒนาสถานบริการคุณภาพใกล้บ้านให้ได้ต่อไป

 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><