phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
   
บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557
|
 |
« เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553, 22:50:26 » |
|
สวัสดีครับพี่น้องทุกท่าน วันนี้ผมอยากจะเปิดประเด็นการแชร์ความรู้กันครับ ผมเชื่อว่าพี่น้องชาวหอทุกคนต่างก็อ่านหนังสือกันเป็นประจำ อาจจะเป็นหนังสือ วิชาการ หนังสือธรรมะ หนังสือก๊อดซิบ จิปาถะ และเชื่อว่า ในหนังสือที่ เราๆ่อ่านกัน ต้องมีสักเรื่องที่เราชอบ ใช่ไหมคับ
อีกประการหนึ่งก็คือ เว็บของเราเป็นที่รวมตัวกันของ บุคลากร ที่สำคัญๆเลยครับ มีหลากหลายอาชีพ จึงเป็นโอกาสอันดีที่พี่น้องเราจะได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ การทำงานคับ
วันนี้เลยอยากจะเชิญชวนทุกท่านมาร่วมแบ่งปันสิ่งดีๆที่ได้รับจากการอ่านหนังสือกัน และการทำงานกันนะครับ เผื่อว่า จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนครับผม

|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: 29 มีนาคม 2553, 07:15:01 » |
|
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: 05 เมษายน 2553, 08:23:56 » |
|
เรื่องเล่าดีดี...
 มหาเศรษฐีเกือบจะชราผู้หนึ่ง สุดแสนจะภูมิใจที่ลูกชาย วัยห้าขวบของเขากำลังจะได้
เข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดัง ซึ่งระดับเศรษฐีอย่างพวกเขาเท่านั้น ที่เข้าได้
โดยส่วนตัวของเขาเอง ก็อยากจะสอนให้ลูกชายรู้จักกับชีวิตจริงในโลก ควบคู่ไปกับ
การสอนทฤษฏีในโรงเรียน
ในวันหยุดเขาจะตระเวนพาลูกชายคนเดียวไป ท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ แล้ววันหนึ่ง
เขาก็คิดถึงหัวข้อการสอนเรื่อง
”ความยากจน”
เพราะเขามีความเชื่อว่า ลูกชายของเขาคงไม่มีวันรู้จักแน่นอน เขาจึงพอลูกชายไปเยี่ยม
ครอบครัวชาวนาครอบครัวหนึ่ง และพักอยู่กับชาวนาเป็นเวลา 1 วัน 1 คืน
เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ของเขาในวันต่อมา มหาเศรษฐีก็จะทดสอบว่า ลูกชายได้อะไรบ้าง
จากการไปพักแรมกับชาวนาผู้ยากจน
ลูกชายตอบคำถามบิดาว่า เขาขอขอบคุณเป็นอย่างมากที่ได้พาเขาไปพบกับชาวนา
และพักแรมที่นั่น ซึ่งทำ ให้เขาได้พบว่า....
ชาวนามีที่ทำงานเป็นท้องนาที่กว้างใหญ่ ในขณะที่พ่อมีเพียงห้องสี่เหลี่ยมที่ว่ากว้าง
แต่ก็ยังน้อยกว่าห้องทำงานของชาวนา อาหารที่ชาวนารับประทานสามารถหาได้ตลอดเวลา
รอบๆบริเวณบ้านโดย ไม่ต้องซื้อหา เวลารับประทานอาหารก็มีเพื่อน คุยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
พ่อแม่ลูก
ในขณะที่ตัวเองก็ต้องนั่งทานอาหาร กับโต๊ะอาหารที่ยาวเกือบสิบเมตร และ มีเก้าอี้
ว่างเปล่าทั้งสองด้าน
ลูกชาวนา ที่ซ้อนท้ายจักรยานของพ่อเขา ต้องกอดเอวพ่อให้แน่น เพื่อจะได้ไม่ตก
จากจักรยาน
แต่เขาเอง ต้องนั่งในรถที่ใหญ่โต อยู่ข้างหลังเพียงลำพังโดยมีคนขับรถพาไปทุกที่
ชาวนามีแสงดาวแสงจันทร์เป็นโคมไฟ ส่องสว่างตลอดเวลาในเวลากลางคืนโดย
ไม่ขาดแคลน
แต่เขา ก็มีเพียงแสงจากโคมไฟที่ต้องซื้อด้วยเงิน .........
ชาวนามีรั้วบ้านเป็นแม่น้ำภูเขาที่กว้างสุดลูกหูลูกตา แต่เขาเองกลับมีเพียงแค่กำแพง
บล๊อคในพื้นที่ไม่กี่ไร่
ลูกชาวนาได้มีเพื่อนเล่นเป็น จิ้งหรีดหิ่งห้อยนับร้อยนับพัน
แต่เขาเองกลับไม่มีใครเลย เขาขอบคุณพ่ออีกครั้งที่ทำให้เขารู้คำตอบว่า.....
จริงๆ แล้ว.......เรายากจนกว่าชาวนามาก
ปล.อ่านแล้วรู้สึกดีส่งต่อนะ ได้มาจากอีเมลล์

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: 05 เมษายน 2553, 13:46:51 » |
|

คนญี่ปุ่นมีอัตราการฆ่าตัวตายต่อปีที่สูง หนึ่งในวิธียอดนิยมคือการกระโดดให้รถไฟทับตาย
แต่รู้มั้ยว่าถ้าหากกระโดดให้รถไฟทับตาย พ่อแม่ญาติพี่น้องจะต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนที่แพงมหาศาล เพราะถือว่าทำความเดือดร้อนให้กับบริษัทรถไฟที่ต้องหยุดวิ่งเพื่อทำความสะอาดรางและรถไฟและต้องสูญเสียรายได้ ( จะตายทั้งที ก็อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนนะ ทางที่ดีอย่าตายดีกว่า)
นำมาจากอีเมลล์ ที่ส่งต่อมาให้
เป็นตัวอย่างในการใช้สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา เพื่อป้องกันไม่ให้โดดให้รถไฟทับเพื่อฆ่าตัวตาย

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: 05 เมษายน 2553, 14:25:14 » |
|
วิธีคิด วิธีทำงาน ในวันนี้

ในวันนี้ ฉันจะเป็นมิตรกับทุกคนที่ทำงานด้วยให้มากที่สุด
จะปฏิบัติเสมือนหนึ่งว่าคนเหล่านั้นมีส่วนให้ฉันได้ทำงานที่นี่ต่อไป
และขอขอบคุณที่มีพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงาน
ในวันนี้ ฉันจะไม่ทำตัวเป็นคนช่างตำหนิติเตียน
จะพยายามมองเห็นข้อดีในทุกสถานการณ์ และ หาข้อดีมาชมเชยทุกคนในที่ทำงานด้วย
ในวันนี้ ฉันจะไม่ยืนกรานว่าทุกสิ่งฉันทำ จะต้องสมบูรณ์เพียบพร้อม
จะไม่พยายามทำลายสถิติความเร็วใดๆ จะทำงานทุกอย่างตรงหน้าเต็มกำลังความสามารถ
แต่ไม่ใช่ด้วยความรู้สึกบีบคั้นจนทุกข์ทรมาน
ในวันนี้ ฉันคิดว่าตนเองมีความสามารถพอที่จะทำงานในความรับผิดชอบ
จะไม่มัวมาตั้งคำถามอย่างไม่จบสิ้นว่า มีตำแหน่งที่เหมาะสม และได้รับคุ้มค่าเหนื่อยแล้วหรือ
ในวันนี้ ฉันจะรู้สึกปลาบปลื้มที่ได้อยู่ในสังคมและยุคสมัย
ที่ไม่ต้องทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ ในสภาพอันโหดร้ายทารุณ
และขอบคุณที่ได้อยู่ในประเทศเสรี ที่ไม่มีใครมากะเกณฑ์ใช้งานได้
ในวันนี้ ฉันจะรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำงาน และ สุขกายสบายใจที่ไม่ต้องออกไปต่อสู้
ในสนามรบ หรือเจ็บป่วยจนต้องรอเข้าห้องผ่าตัด
วิธีคิด วิธีทำงาน ในวันนี้
ในวันนี้ ฉันจะไม่คาดหวังให้ใครมาทำดีกับฉัน จะไม่เปรียบเทียบรายได้หรือสถานภาพ
ของตนเองกับผู้อื่น จะพอใจอย่างที่ฉันเป็นอยู่
ในวันนี้ ฉันจะไม่คอยเป็นห่วงว่า “แล้วฉันจะได้อะไรจากงานนี้” จะคิดเพียงว่า วันนี้ฉัน
จะเข้าไปมีส่วนช่วยในเรื่องต่างๆได้อย่างไรบ้าง
ในวันนี้ เมื่อฉันออกจากที่ทำงานฉันจะไม่มัวครุ่นคิดว่าได้ทำงานไปมากแค่ไหนหรือยัง
ทำอะไรไม่เสร็จ แต่จะนึกถึงเวลาค่ำที่รออยู่ และรู้สึกขอบคุณสำหรับงานที่ทำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
หมายเหตุ : เป็นบทแปลและเรียบเรียงจากข้อเขียนของ นอร์แมน วินเซนต์ พีล
จากหนังสือเรื่อง “ความคิดเชิงบวก”
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: 05 เมษายน 2553, 21:37:32 » |
|

หลวงปู่ท่านมิได้ให้วัดผลการปฏิบัติที่ว่า ใครจดจำธรรมะได้มากกว่ากัน หรือ ใครรู้เห็น
ภายในได้พิสดารกว่ากัน
ท่านพูดซ้ำ ๆ แต่ว่า "โลภ โกรธ หลง ลดลงไหม หากลดลงจึงจะใช้ได้"
เพราะแม้มีความรู้มากมาย และ พิสดารล้ำลึกเพียงใด แต่กิเลสในใจ...
ไม่กระเทือนเลย ก็ยังใช้ไม่ได้
จึงว่าฟังธรรม ศึกษาธรรม ต้องมุ่งให้มัน
"ถึงใจ" มิใช่แค่ความ "เข้าใจ"
http://www.watthummuangna.com/home/community/index.php/topic,452.0.html

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #18 เมื่อ: 06 เมษายน 2553, 15:27:08 » |
|
วางระเบิดริมรั้วจุฬาฯสร้างสถานการณ์โชคดีกู้ทัน ขอขอบคุณสุทธิชัยหยุ่นดอทคอม วันอังคาร ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553 http://www.suthichaiyoon.com/detail/1553 
ในวันนี้ (6 เม.ย.) พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.มีคำสั่งด่วนแจ้งทางวิทยุสื่อสารถึง ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยในสังกัด ให้ทุก สน.จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลพื้นที่ที่มีจุดเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะ ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีความเห็นขัดแย้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่สายตรวจสน.ปทุมวัน ได้รับแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด บริเวณทางใกล้ทางเข้าประตูใหญ่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวงและเขตปทุมวัน กทม.
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) ที่เกิดเหตุบริเวณฟุตปาทเจ้าหน้าที่เก็บขยะของกทม. เป็นผู้แจ้งว่า พบวัตถุดังกล่าวอยู่ในถุงพลาสติกวางอยู่ใกล้เก้าอี้เหล็กสาธารณะของกทม. ห่างจากประตูจุฬาฯ ประมาณ 10 เมตร
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่องใช้ขวดอลูมิเนียมขนาดประมาณ 5 ลิตร ภายในบรรจุปุ๋ยยูเรีย ไฟแช็คแก๊ส 5 อัน น้ำมันโซล่า นอกจากนี้ยังมีเชือประทุไฟฟ้า สายไฟจำนวน 1 ชุด และดินระเบิด หรือฝักแคระเบิด ลักษณะระเบิดมีการจุดชนวนมีรอยไหม้ แต่ยังไม่ระเบิดเนื่องจากอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ นำส่งพฐ.ตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง
เบื้องต้นตำรวจคาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์หลังจากมีการชุมนุมกลุ่มเสื้อสีชมพูที่บริเวณลุมพินีเมื่อวันก่อน
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO ดู ดู่ พวกก่อการร้าย แม้แต่ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ก็ไม่เกรงกลัว มาวางระเบิดได้ ไม่เว้น นิสิต นักศึกษา หรือ คณาจารย์ ที่เป็นทรัพยากรบุคคลของชาติ อาจโชคร้ายได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต หรือ พิการได้

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #21 เมื่อ: 06 เมษายน 2553, 18:01:11 » |
|
“ผาสุก”ผ่าม็อบแดงแฝงสงครามชนชั้น วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553 ขอขอบคุณเวบสุทธิชัยหยุ่นดอทคอม http://www.suthichaiyoon.com/detail/1151
คนชนบท "จับใจ" นโยบายประชานิยมในสมัยรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร อีกทั้งตระหนักในแนวทาง รัฐสภาประชาธิปไตย ว่ามีความหมายกับตัวเอง

ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปรากฏการณ์ความขัดแย้งในสังคมไทยวันนี้ จะเรียกว่า
"สงครามชนชั้น"
มีทั้งใช่และไม่ใช่ เนื่องจากมีหลายเงื่อนไข หลากปัจจัยที่ทับซ้อนกันอยู่ในขบวนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะหากตกผนึกว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งนี้ มาจากปัญหาทางชนชั้นด้วย
ย่อเป็นโจทย์ใหญ่ให้ "รัฐไทย" ต้องคิดหาทางออกให้มากกว่าข้อสรุปว่าเป็น "ม็อบเติมเงิน"

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #22 เมื่อ: 06 เมษายน 2553, 20:17:47 » |
|
ข้าวโพดต้มสุกกับ มะเร็ง

กินข้าวโพดต้มสุกให้เยอะๆๆๆ เลย ตอนที่แม่เรากำลังรักษามะเร็งช่วงใกล้จะหาย เริ่มจะทานอาหารได้ เค้าจะกินข้าวโพดต้มทุกวันไปเหมาจาก Supermarket ทุกweek แล้วเค้าก็ฟื้นตัวเร็วมาก ช่วงนั้น ลิ้นเค้าจะ Anti เนื้อสัตว์ กลืนไม่ลงทานได้แต่ผักกะผลไม้ และจะอยากกินข้าวโพดทุกวัน
การแทะข้าวโพดหวานต้านโรคมะเร็งมีสารตัวล้างพิษมากกว่าผักผลไม้ นักวิจัยของ มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐฯ รายงานในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกาว่า
ข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกแล้วจะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายสูงขึ้นได้อย่างเด่นชัด เขาเผยว่าผิดกับที่เคยเชื่อกันมาก่อนว่า
ผักและผลไม้หากต้มปรุงสุกแล้วจะเสียคุณค่าทางอาหารลงไปสู้กินดิบๆ ไม่ได้ แต่ข้าวโพดหวานยังคงสามารถเก็บพลังเป็นตัวล้างพิษคงไว้ได้แม้ว่าจะเสียวิตามินซีไป
เขาได้พบในการต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิสูง115 องศาเซลเซียส ในเวลานาน ต่างกัน 10,25 และ 50 นาที
พบว่ายิ่งต้มนานจะทำให้มันมีสารอันเป็นตัวล้างพิษเพิ่มขึ้นเป็น22,44และ53 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสารที่ออกฤทธิ์เป็นตัวล้างพิษช่วยดับพิษของพวกอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นอันตรายกับเซลล์ของอวัยวะต่างๆ
ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวพันกับโรคอันเนื่องมาจากความแก่ชรา ต่างๆ อย่างเช่น ต้อกระจก และ โรคสมองเสื่อมอีกด้วย
คณะนักวิจัยแจ้งว่าข้าวโพดหวานที่ต้ม หรือ ปิ้งจะปล่อยสารประกอบที่เรียกว่า กรดเฟรุลิก อันเป็นคุณกับร่างกายยิ่งมากขึ้นเมื่อถูกความร้อนสูงขึ้นหรือเวลานานขึ้นกรดเฟรุลิกเป็นพวก พฤกษเคมีซึ่งในผักและผลไม้มีอยู่ไม่มากนัก แต่กลับพบมีอยู่อย่างอุดมในข้าวโพดผสมปนเป รวมอยู่กับอย่างอื่น
การทำให้มันสุกจึงช่วยทำให้มันปล่อยกรดเฟรุลิกออกมาได้มากขึ้น
หากท่านอ่านแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ กรุณาส่งต่อให้กับคนที่ท่านรักต่อไป...
ได้มาจากอีเมลล์
ค้นหาเพิ่มเติมพบเวบสภากาชาดไทย เรื่อง ข้าวโพดต้มกับมะเร็ง
http://www.redcross.or.th/pr/pr_news.php?db=3&naid=490

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #25 เมื่อ: 07 เมษายน 2553, 19:38:24 » |
|
“เครือข่ายจุฬาฯ” สุดทนม็อบแดง ร่อนอีเมลปลุกพลังเงียบแสดงพลัง 9 เม.ย.
 ผศ.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายจุฬาฯ เชิดชูคุณธรรมนำประชาธิปไตย (จคป.) และผู้ประสานงานเครือข่ายพลังเงียบ กล่าวว่า จากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ตนทราบดีว่า ทุกคนคงมีความอึดอัดมาก และเกิดความเดือดร้อนกันอย่างถ้วนหน้า จึงประสงค์ที่จะรวมคนที่มีแนวคิดเดียวกันอย่างเป็นกลุ่มก้อน เพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านการยุบสภา และไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่สร้างความเดือดร้อนต่างๆ ให้กับประชาชน “การเริ่มต้นครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวสืบเนื่องมาจากวันที่ 2 เมษายน จากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อสีชมพู ซึ่งเราก็ได้เจอกันแล้ว พูดคุยแสดงความคิดเห็นต่อกัน ซึ่งประจวบกับที่ผมก็กำลังรวบรวมรายชื่อคัดค้านการยุบสภาอยู่พอดี และก็ได้กลุ่มของอาจารย์ ตรีดาว อภัยวงศ์ มาช่วยกัน เลยตั้งใจจะจัดเป็นเวทีในการออกแสดงความคิดเห็นที่เป็นภาคประชาชน และก็เริ่มการติดต่อเพื่อชักชวนพลังเงียบที่สนใจโดยการส่งอีเมล และมันก็เป็นลูกโซ่ออกไป ให้คนอ่านที่สนใจได้ลองมาคุยกันถึงความเดือดร้อนจากการชุมนุม ความไม่เห็นด้วย ตลอดจนความอึดอัดต่างๆ ที่น่าจะปรับเปลี่ยนเป็นทิศทางแก้ไขโดยเราจะจัดเตรียมเวทีเครื่องเสียงไว้ให้ได้แสดงเสียงกันอย่างเต็มที่ ส่วนกระบวนการต่อไปก็อาจจะเป็นการรวบรวมเสียงให้เป็นกลุ่มก้อน หรืออาจะแถลงการณ์ความต้องการต่อไป” ทั้งนี้ เนื้อหาในอีเมลพลังเงียบฉบับดังกล่าวมีดังนี้ พลังเงียบทั้งหลาย ท่านกำลังมีอาการ อึดอัด เครียด วิตก กินไม่ได้ นอนไม่หลับมองไม่เห็นอนาคตของชาติ ขอเชิญมารวมตัวกันในงานชุมนุม “เราจะไม่เงียบอีกต่อไป ณ สวนจตุจักร ในวันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป (สีอะไรก็ได้ แต่งด สีแดง)"
ขอขอบคุณ ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 เมษายน 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000048349

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #26 เมื่อ: 07 เมษายน 2553, 21:14:40 » |
|
สธ.หวั่นโรคสมัยใหม่คุกคามคนเมือง ชู 7 เมษา วันอนามัยโลก “พลิกชีวิต-พัฒนาเมือง”

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงสาธารณสุข จัดกิจกรรมเนื่องในวันอนามัยโลก ปี 2553 ตั้งเป้าพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมืองรองรับการขยายตัวของประชากรในเขตเมือง พร้อมหวังลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคสมัยใหม่ที่เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง วันนี้ (7 เม.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยในพิธีเปิด การจัดกิจกรรมเนื่องในวันอนามัยโลก ปี 2553 ณ ห้องประชุมไพจิตร ปวะบุตร อาคาร 7 ชั้น 9 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า
ทุกวันที่ 7 เมษายนของทุกปี องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้เป็น “วันอนามัยโลก” และในปี 2553 นี้ ประเด็นที่ได้รับความสนใจและถูกกำหนดเป็นเนื้อหาสำคัญของวันอนามัยโลกคือเรื่องความเป็นเมืองกับสุขภาพ โดยกำหนดการรณรงค์ภายใต้หัวข้อ
“สุขภาพเขตเมืองเป็นเรื่องสำคัญ” (Urban Health Matters)
เพราะปัจจุบันความเป็นเมืองกำลังขยายตัวไปทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันพบว่า
ประชากรทั่วโลกที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองมีมากกว่าร้อยละ 50 หรือประมาณ 3,300 ล้านคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 67 หรือประมาณ 5,000 ล้านคน ในปี 2573
โดยประชากรโลกประมาณ 2 ใน 3 อยู่ในเขตเมือง และในจำนวนนี้มีแนวโน้มอยู่ในชุมชนแออัดร้อยละ 28 โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ความเป็นเมืองมีการขยายตัวมากขึ้นตามลำดับ และไม่ได้จำกัดเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเมืองปริมณฑล และเทศบาลเมืองต่างๆ เพราะจากข้อมูลปี พ.ศ.2552 ประเทศไทย มีประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองประมาณร้อยละ 36 ของประชากรทั้งประเทศหรือประมาณ 22 ล้านคน และคาดว่าในปี 2563 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า จะเพิ่มเป็นร้อยละ 38 หรือประมาณ 25 ล้านคน นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า การเคลื่อนย้ายประชากรจากชนบทสู่เมืองทั้งเพื่อการประกอบอาชีพและการศึกษาพบว่ายังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อความพร้อมด้านการจัดหาและให้บริการสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก ขั้นพื้นฐาน อีกทั้งก่อให้เกิดปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมและปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และคนยากจน เสี่ยงต่อการเกิดโรคสมัยใหม่ เพราะความเป็นเมืองทำให้ประชาชนมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ขาดการออกกำลังกาย บริโภคอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ก่อเกิดโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น รวมทั้งเกิดปัญหาสังคม เช่น อาชญากรรม และยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายที่จะส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชนทุกกลุ่มวัย ด้วยการเร่งพัฒนายุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพประชาชนเขตเมือง ทั้งในด้านการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเขตเมือง การป้องกันและควบคุมโรค การพัฒนาคุณภาพระบบบริการสาธารณสุขทุกระดับเพื่อลดช่องว่างและความไม่เป็นธรรมด้านสุขภาพของประชาชน โดยกำหนดให้วันที่ 7 เมษายน วันอนามัยโลก เป็นวันเริ่มต้นของการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเมือง “พร้อมทั้งจัดทำโครงการ 1,000 เมือง 1,000 ชีวิต พิทักษ์คุณภาพชีวิตคนเมือง เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับการจัดการเมืองของเทศบาลต่าง ๆ เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยการสรรหาเมืองดีเด่นเข้าร่วมกิจกรรม
โดยความเป็นเมืองดีเด่นต้องครอบคลุมใน 6 มิติ ได้แก่
ด้านเศรษฐกิจ ด้านวัฒนธรรม ด้านการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณสุข และ ด้านสังคม
ซึ่งขณะนี้มีเทศบาลเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 51 เมือง และกำลังเตรียมการเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มเติมจำนวน 16 เมือง รวม 67 เมือง และมีบุคคลตัวอย่างที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาคุณภาพชีวิตจนที่ประจักษ์แล้วจำนวน 9 คน ที่จะร่วมรณรงค์และดำเนินการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมยกระดับสภาพแวดล้อมชุมชนแออัดเขตเมือง และพัฒนาภูมิทัศน์และพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองเพื่อการพักผ่อนและการออกกำลังกาย เพื่อให้ประชาชนในเขตเมืองอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ปลอดภัย เอื้อต่อการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม
ทั้งนี้ เมืองที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับประกาศเกียรติคุณเป็นเมืองต้นแบบของโลกในที่ประชุมระดับโลก (Global Forum) ณ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนพฤศจิกายน 2553 ต่อไป” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในที่สุด
ขอขอบคุณ ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 เมษายน 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000048554

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #27 เมื่อ: 08 เมษายน 2553, 14:45:54 » |
|
พายาไปหาหมอ ข้อที่คนไข้ควรรู้  ผศ.ดร.ภูรี อนันตโชติ จั่วหัวแบบนี้ หลายคนคงอุทาน “อะไรฟะ พายาไปหาหมอ ? ? ? ” พร้อมกับหน้างงๆ แกมสงสัย ว่าทำไมต้องพา “ยา” ไปหาหมอ เพราะปกติมีแต่เมื่อป่วยแล้วต้องพา “ตัวเอง” ไปหาหมอเพื่อจะไปเอา “ยา” งานนี้ ผศ.ดร.ภูรี อนันตโชติ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะกรรมการมูลนิธิเพื่อการวิจัยและพัฒนาระบบยา (วพย.) มีคำตอบมาให้หายสงสัยกัน “ส่วนใหญ่พฤติกรรมคนไข้โดยมากแล้ว คือ เมื่อเกิดอาการป่วย จะมาพบแพทย์แล้วก็รับยากลับบ้าน พอกินยาไปได้สักพักจนอาการป่วยหาย คนไข้มักเลิกกินยา ยาที่ได้รับไปก็จะเหลืออยู่ในบ้าน เป็นแบบนี้หลายๆ หน ยาก็จะเหลือเยอะ กรณีแรกที่เราจะได้หากเราเอายาที่เรามีไปพบแพทย์ หรือจำชื่อยาว่าเรามียาอะไรบ้าง แพทย์ก็จะไม่ต้องจ่ายยาที่เรามี เราก็ไม่ต้องจ่ายเงินค่ายา หรือถ้าเป็นประกันสังคมหรือบัตรทอง ประเทศก็สามารถประหยัดงบประมาณเรื่องยาไปได้มาก” ประการสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยของคนไข้โดยตรงที่อาจารย์เภสัชคนเก่งรายนี้ให้ความกระจ่างก็คือ กรณีของคนไข้บางคน โดยเฉพาะคนไข้สูงอายุ ที่ป่วยด้วยโรคมากกว่า 1 โรค อาจจำเป็นต้องไปพบแพทย์มากกว่า 1 ราย มากกว่า 1 โรงพยาบาล และได้ยารักษาโรคมาหลายชนิด “ยาบางชนิดหากกินคู่กัน ฤทธิ์ยาจะขัดแย้งกันเอง กินคู่กันไม่ได้ ในขณะที่ยาบางชนิดหากกินคู่กันจะเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน หากกินคู่กันคนไข้อาจจะได้รับฤทธิ์ของยามากเกินจำเป็น เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด กับยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs (Non Steroidal Anti-inflamatory Drugs) หรืออาจทำงานแล้วลดประสิทธิภาพของยาตัวใดตัวหนึ่งให้ลดลง เช่นรับประทานยาคุมกำเนิด และยาปฏิชีวนะร่วมกัน ทำให้ยาคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพลดลง และอาจจะตั้งครรภ์ได้ ผศ.ดร.ภูรี อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ในกรณีที่คนไข้เปลี่ยนหมอ ในบางครั้งคนไข้จำชื่อยาไม่ได้หรือเรียกชื่อยาผิดพลาดไม่ถูกต้อง ก็อาจทำให้แพทย์และเภสัชกรไม่ทราบว่าคนไข้ใช้ยาอะไรอยู่ก่อน และยากต่อการวางแผนการรักษาและให้ยา ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความต่อเนื่องกับแผนการรักษาเดิม
“คือแพทย์เองก็ไม่มีเวลาซักประวัติคนไข้มากนัก อาจจะด้วยเพราะเวลาน้อย ตรวจคนไข้ตลอดทั้งวัน เวลาเฉลี่ยในการตรวจต่อคนคงมีไม่มากนัก แล้วบางครั้งคนไข้ก็อธิบายไม่เก่ง ไม่กล้าคุยกับแพทย์ การเอายาที่กินอยู่เป็นประจำ หรือยาที่ได้มาจากการรักษาก่อนหน้านี้ไปด้วย จะช่วยในการวินิจฉัยและเลือกแนวทางการรักษารวมถึงการตัดสินใจให้ยาของแพทย์ได้มากขึ้นในเชิงของข้อมูล หรือหากมียาเยอะมาก ก็สามารถใช้วิธีจดลิสต์ชื่อยามาให้แพทย์ดูก็ได้ แต่ต้องจดให้ละเอียดและถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นชื่อยารวมถึงปริมาณขนาดของยานั้น เพราะยาแต่ละชนิดก็มีปริมาณขนาดไม่เท่ากันเพื่อให้แพทย์เลือกสั่งจ่ายตามอาการของคนไข้ที่มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป” กรรมการมูลนิธิ วพย.รายนี้ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า การให้ข้อมูลเรื่องยาแก่แพทย์ผู้รักษาหรือ “ปฏับัติการพายาไปหาหมอ” นั้นสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่ง แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำกันเพราะไม่ค่อยตระหนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งนี้คือความปลอดภัยและประโยชน์ของคนไข้โดยตรง เพราะในทางทฤษฎีแล้ว การกินยาคู่ที่ไม่ควรกินด้วยกัน ถ้ากินติดต่อกันนานๆ ก็มีสิทธิ์อันตรายถึงชีวิตได้ “แม้ในทางปฏิบัติการกินยาคู่ที่ออกฤทธิ์ซึ่งกันและกันเมื่อคนไข้รู้สึกผิดปกติหรือไม่สบายตัวด้วยอาการข้างเคียงต่างๆ ก็จะมาพบแพทย์เพื่อให้แพทย์เปลี่ยนยาให้ แต่อย่างไรก็ตาม การให้ข้อมูลแก่แพทย์ให้มากที่สุดก็เป็นประโยชน์และสวัสดิภาพของคนไข้โดยตรงที่ควรใส่ใจ
ขอขอบคุณ ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 เมษายน 2553
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000048612

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #30 เมื่อ: 08 เมษายน 2553, 22:20:23 » |
|
เครือข่ายจุฬาฯ ยกเลิกชุมนุม 9 เม.ย.

วันนี้ (8 เม.ย.) ผศ.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายจุฬาฯ กล่าวว่า เดิมเครือข่ายจุฬาฯ จะนัดชุมนุม “เราจะไม่เงียบอีกต่อไป” ณ สวนจตุจักร ในวันศุกร์ที่ 9 เม.ย.2553 เวลา 16.00 น. แต่เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และไม่อยากให้กลุ่มคนเสื้อแดงใช้เป็นข้ออ้างว่า รัฐบาลปล่อยให้คนกลุ่มอื่นมาชุมนุม ดังนั้น เครือข่ายจุฬาฯ ยกเลิกการชุมนุมดังกล่าว.
ขอขอบคุณ น.ส.พ.เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี ที่ 08 เมษายน 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=8&contentID=58951
นำมาบอกพวกเราว่ายกเลิกชุมนุมแล้ว หลังประกาศภาวะฉุกเฉินร้ายแรง แล้ว จะนำความสันติ หันหน้าเข้ามาคุยกัน เพื่อให้ได้ชนะ ชนะ ได้ทุกๆ ฝ่าย

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #31 เมื่อ: 09 เมษายน 2553, 16:12:14 » |
|
เหลืองมาแล้ว พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)และคณะ ร่วมกันกดดันให้รัฐบาลดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับกลุ่มเสื้อแดง เพราะถือเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมายและส่อเค้านำไปสู่ความรุนแรง ขอขอบคุณ น.ส.พ.แนวหน้า วันศุกร์ ที่ 9/4/2010 ที่เอื้อเฟื้อข่าว http://www.naewna.com/news.asp?ID=206702 
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #35 เมื่อ: 09 เมษายน 2553, 21:40:44 » |
|
"จุรินทร์"เร่งยกสถานีอนามัย9.7พันแห่งเป็น รพ.สต.คุ้มครองสุขภาพ ของประชาชนในหมู่บ้าน

พณฯ ท่าน จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.)ดำเนินการจัดทำแผนเร่งรัดในการยกระดับสถานีอนามัย (สอ.) 9,770 แห่ง เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยจะประสานสำนักงบประมาณเพื่อของบประมาณในส่วนของ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟู และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 เพิ่มเติมอีก 8,200 ล้านบาท เพื่อใช้ปรับปรุงกายภาพของ สอ. พัฒนาบุคลากรและความพร้อมในส่วนอื่นๆ
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า การยกระดับแบ่ง สอ.เป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
1.รพ.สต.เดี่ยว มี 2,800 แห่ง จะมีบุคลากรหลัก 4 ตำแหน่ง คือ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน นักวิชาการสาธารณสุขชุมชน แพทย์หรือพยาบาลเวชปฏิบัติหรือพยาบาลวิชาชีพ และสหวิชาชีพ วิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่ง เช่น เภสัชกร เป็นต้น และ
2.รพ.สต.เครือข่าย ซึ่ง 1 เครือข่ายจะประกอบด้วย รพ.สต. 2-3 แห่ง รวม 2,700 เครือข่าย ภายใน รพ.สต.จะมีบุคลากรเพิ่มจาก 4 ตำแหน่งแรกอีก 3 ตำแหน่ง เป็นสหวิชาชีพต่างๆ ส่วน รพ.สต.ที่นำร่องในปี 2552 ทั้ง 1,000 แห่ง อยู่ระหว่างการประเมินผล
“กรณีรถพยาบาล 829 คัน ที่เดิมจะใช้งบ พ.ร.ก.ที่อนุมัติ 1,400 ล้านบาทในการจัดซื้อใช้ใน รพ.สต.นั้น

นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กำลังดำเนินการทบทวนว่าควรจะยกเลิกหรือไม่” นายจุรินทร์กล่าว

ด้าน นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัด สธ. กล่าวว่า งบไทยเข้มแข็งในส่วนของ พ.ร.ก.ที่จะขอเพิ่มจะใช้ยกระดับ สอ.เป็น รพ.สต.ในปี 2553 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
1.สอ.ที่รับผิดชอบประชากรต่ำกว่า 3,000 คน จัดสรรแห่งละ 5 แสนบาท มี 2,800 แห่ง
2.รับผิดชอบ 3,001-7,000 คน แห่งละ 7 แสนบาท มี 5,470 แห่ง และ
3.มากกว่า 7,000 คน แห่งละ 9 แสนบาท มี 1,500 แห่ง และ
4.สอ.ที่เป็นอาคารชั้นเดียวและก่อสร้างใหม่ 400 แห่ง จัดสรรแห่งละ 4,050,000 บาท
อนึ่งก่อนหน้านี้มีการจัดสรรงบประมาณในส่วนของ พ.ร.ก.เพื่อปรับปรุง สอ.เป็น รพ.สต. เพียง 2,000 แห่ง แห่งละ 1.35 ล้านบาท จาก สอ.ทั้งหมด 9,770 แห่ง
ขอขอบคุณ น.ส.พ.คมชัดลึก วันจันทร์ที่ 5 เมษายน 2553
http://www.komchadluek.net/detail/20100405/54932/%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A29.7%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%9E.%E0%B8%AA%E0%B8%95.%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A0%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99.html

สถานพยาบาลใกล้บ้าน ที่่มีคุณภาพ เข้าถึงง่าย เป็นไปตามตัวชี้วัดตัวที่ 3 และ 4 ของ การสาธารณสุขมูลฐาน ที่จะทำให้ประชาชนสุขภาพดี ดูแรื่อง สาธาณสุขมูลฐาน ที่ประเทศสมาชิกของ องค์การอนามัย ร่วมกันคิด ให้เกิดสุขภาพดีถ้วนหน้าของชาวโลก ตั้งแต่ปี 2529 ผ่านมา ปี 2553 เป็นเวลา 24 ปี มาแล้ว แต่ตัวชี้วัด 4 ตัวชี้วัด ก็ยังไม่สำเร็จ ข่าวที่นำมาลงนี้ มีนโยบายที่จะให้ สถานีอนามัยที่มีอยู่ทุกตำบลแล้ว พัฒนาเป็น ร.พ.สร้างเสริมสุขภาพตำบล จะทำให้สุขภาพดีถ้วนหน้าของพลโลก ในประเทศไทย ใกล้เป็นจริงได้ ดู เพิ่มเติมได้ที่
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3394.0.html

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #38 เมื่อ: 11 เมษายน 2553, 08:14:21 » |
|

พณฯ ท่่าน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์พิเศษ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ จำเป็นต้องทำเพื่อรักษากฎหมาย ไม่เช่นนั้นต่างชาติจะมองว่าประเทศอ่อนแอ ยันต้องพิสูจน์ผลการเสียชีวิตด้วยความโปร่งใสเป็นธรรม โดยพร้อมอยู่ทำหน้าที่ต่อเพื่อรักษาบ้านเมืองให้สงบ...
เมื่อเวลา 23.45 น.วันที่ (10 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์พิเศษผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โดยกล่าวว่า
ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ในเหตุการณ์ เมื่อช่วงค่ำของวันนี้ นับตั้งแต่มีปัญหาเรื่องการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ทางการเมืองที่มีบุคคลเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในประเทศและมีความเห็นแตกต่างอย่างรุนแรง
โดยรัฐบาลพยายามบริหารสถานการณ์โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศโดยเฉพาะการรักษาระบบและกฎหมาย ซึ่งเห็นว่าตลอดระยะเวลาการชุมนุม รัฐบาลไม่เคยปฏิเสธข้อรียกร้องของผู้ชุมนุมเลยแต่ประสงค์เพื่อการพูดคุยโดยใช้เหตุและผลเพื่อหาข้อยุติกันทุกฝ่าย เป็นครั้งแรกที่นายกฯมาเจรจากับแกนนำเป็นระยะเวลาถึง 2 วัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในที่สุดการเจรจาก็ไม่บรรลุผล รวมทั้งการชุมนุมก็นำไปสู่การละเมิดกฎหมาย เกินกว่าที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองหรือรองรับได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอดคือในด้านหนึ่งผู้ชุมนุมพยายามยกระดับการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ อีกด้านสังคมอยากให้รัฐบาลพยายามบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุม แม้ว่าตลอดระยะเวลารัฐบาลใช้วิธีอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด ถูกตำหนิว่าอ่อนแอไม่บังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะกับกลุ่มที่ได้รับความเดือนร้อนที่ต้องการให้การชุมนุมยุติลง เพราะหลายฝ่ายต้องการให้การชุมนุมยุติลง เนื่องจากมีผู้พยายามพร้อมใช้ความรุนแรง และก่อให้เกิดวินาศกรรมหลายครั้ง
“สถานการณ์ใน 2- 3 วันที่ผ่าน ทำให้รัฐบาลไม่มีทางเลือก จึงต้องแสดงแดงออกด้วยการบังคับใช้กฎหมาย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของผู้ชุมนุมกระทบกระเทือนต่อความเชื่อมั่นว่า ของประชาชนทั่วไปว่ากฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวกระทบกับสถาบันที่สำคัญในการปกป้องอธิปไตยและสถาบันหลักของชาติ ถ้ารัฐบาลไม่ดำเนินการใดเลยจะสะท้อนความอ่อนแอ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุผลนี้ จึงต้องแสดงออกการบังคับใช้กฎหมาย โดยเลือกขอพื้นที่บางส่วนเพื่อคืนกับประชาชนทั่วไป รัฐจึงต้องแสดงออกด้วยการบังคับใช้ กฎหมาย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ที่ชัดเจน คือ โดยเฉพาะการกำหนดแนวทางที่ใช้จะกระสุนจริง คือ มีสองกรณีคือยิงขึ้นฟ้าและเจ้าหน้าที่ปกป้องตัวเองจากอันตรายอย่างจวนตัว โดยตลอดเวลาช่วงบ่ายจนค่ำ
จากข่าวสารพบว่า การชุมนุมและการพยายามขอคืนพื้นที่ประสบปัญหาอุปสรรคต่างๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าพบภาพของอาวุธ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการใช้อาวุธ เอ็ม 79 ซึ่งทำให้ทหารเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะต้องการทำการพิสูจน์ว่าเสียชีวิตที่ไหน อย่างไร เมื่อไร สาเหตุใด การสูญเสีย ทั้งนี้ขอร้องว่าขณะนี้ไม่ควรหยิบยกประเด็นโดยกล่าวหาว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นฝีมือของฝ่ายใด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า กรณีความสูญเสียที่เกิดขึ้นต้องดำเนินการพิสูจน์เพื่อให้ความจริงเกิดขึ้นในสังคม ตนและรัฐบาลยังมีหน้าที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ต่อไปและพยายามทำทุกทาง ที่จะให้บ้านเมืองสงบและอยู่ในความถูกต้อง ขอให้คำมั่นว่าการดำเนินการของรัฐบาลจะตรงไปตรงมา โปร่งใส เป็นธรรม คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ประชาชนสูงสุด ประชาชนเป็นหลัก จะไม่ยึดผลประโยชน์ของตัวเองแม้แต่น้อยนิด
ขอขอบคุณ น.ส.พ.ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ ที่ 11 เมษายน 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/pol/76137

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #41 เมื่อ: 12 เมษายน 2553, 08:10:41 » |
|

นายฮานส์ แวน บาเลน ประธานลิเบอรัลอินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมี 107 พรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยเข้าร่วมเป็นสมาชิกทั่วโลก ได้แถลงถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า
รัฐบาลไทยจะต้องตัดสินใจระหว่างหลักนิติธรรมกับการเมืองบนท้องถนน ซึ่งเป็นการตัดสินใจระหว่างระบอบประชาธิปไตยในรัฐสภากับการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นประชาธิปไตยบนท้องถนน ซึ่งวันนี้แม้ตนจะไม่ได้พบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯแต่ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกันทางโทรศัพท์ ซึ่งทางเราก็เป็นห่วงและติดตามสถานการณ์การเมืองไทยอย่างใกล้ชิด และอยากให้เมืองไทยสงบไม่แตกแยก ไม่แยกสีเสื้อ และ
สนับสนุนให้รัฐบาลดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้การที่กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงมาบุกล้อมรัฐสภานั้น สิทธิในการแสดงออกถือเป็นสิทธิของประชาชน แต่ต้องไม่ละเมิด คุกคาม รุนแรงกับผู้อื่น ตนมีความกังวลกับการชุมนุมที่เกิดขึ้นที่ไกลเกินกว่ารัฐธรรมนูญจะกำหนด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่มี การแถลงข่าวดังกล่าวเป็นช่วงที่กลุ่มเสื้อแดงกำลังบุกเข้ามายังภายในรัฐสภา ทำให้การแถลงข่าวต้องหยุดลงกลางคัน และต่างรีบแยกย้ายกันออกจากห้องแถลงข่าวทันที
ขอขอบคุณ น.ส.พ.เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 12 เม.ย.2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=627&contentID=58740
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
นำข่่าว องค์กรระดับโลก ลิเบอรัลอินเตอร์เนชั่นแนล มีประเทศสมาชิก 107 พรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยเข้าร่วมเป็นสมาชิกทั่วโลก เสนอให้
รัฐบาลไทยจะต้องตัดสินใจระหว่างหลักนิติธรรมกับการเมืองบนท้องถนน ซึ่งเป็นการตัดสินใจระหว่างระบอบประชาธิปไตยในรัฐสภา กับ การเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นประชาธิปไตยบนท้องถนน

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #42 เมื่อ: 12 เมษายน 2553, 15:48:38 » |
|

มาร์คชี้"ก่อการร้าย"ป่วน 10 เม.ย. หวังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ขอขอบคุณ น.ส.พ.ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJM01UQTFOemN6TlE9PQ==
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า ขณะนี้เริ่มเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีบุคคลจำนวนหนึ่งซึ่งถือเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งอาศัยผู้ชุมนุมบริสุทธิ์มาเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือก่อความไม่สงบในบ้านเมืองหวังผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปัญหานี้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ จนถึงศอฉ.กำหนดที่จะต้องดำเนินการต่อไป โดยมุ่งหมายเพื่อแยกแยะกลุ่มก่อการร้ายออกจากผู้บริสุทธิ์
จึงขอเรียกร้องประชาชนว่าอย่าได้เข้าร่วมกระบวนการนี้ เมื่อแยกแยะชัดเจนก็จะกำหนดมาตรการต่อไปเพื่อแก้ไขสถานการณ์ไม่สงบ ส่วนปัญหาข้อเรียกร้องเรื่องความไม่ยุติธรรม ปัญหาประชาธิปไตยต้องแก้โดยฝ่ายการเมือง ทั้งนี้ตนและพรรคร่วมได้หารืออย่างต่อเนื่องนำข้อเสนอที่ใช้ในการเจรจากับแกนนำนปช.มาเร่งรัดปรับให้เป็นทางออกแก้ปัญหาการเมืองต่อไป การดำเนินการ 2 ส่วนนี้คือจำเป็นต้องแยกแยะให้ชัดเจนกับกลุ่มบริสุทธิ์และกลุ่มผู้ก่อการร้าย และการแก้ปัญหาการเมืองต้องทำอย่างคู่ขนาน ซึ่งขณะนี้หน่วยงานต่างๆ พรรคร่วมดำเนินอย่างเป็นเอกภาพเพื่อมุ่งไปสู่การแก้ปัญหาไม่สงบทั้งหมด
เหตุการณ์ปัญหาในวันที่ 10 เม.ย. จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและต้องมีผู้แสดงความรับผิดชอบ ซึ่งรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการประมวลเหตุการณ์เหมือนช่วงหลัง เม.ย. ปีที่แล้ว ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมือกับองค์กรที่มีหน้าที่โดยตรงและคณะกรรมการที่เป็นอิสระอย่างเช่นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ยืนยันว่าการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจะต้องทำอย่างต่อเนื่องทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ รวมถึงปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจด้วย ซึ่งรัฐบาลจะเร่งเดินหน้าสะสางอย่างเร็วที่สุด
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
นำเหตุการณ์ประวัติศาสตร์มาบันทึกไว้และร่วมเป็นกำลังใจให้ท่านนายกฯพาชาติผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #43 เมื่อ: 13 เมษายน 2553, 08:25:16 » |
|
มุกใหม่แบงค์ 1,000 ปลอม

วันก่อนไปกินข้าวกับเพื่อนที่ร้านเล็ก ๆ ริมถนนใน จ.ปราจีนบุรี ไปกินกัน 5 คน กินเสร็จก็สั่งเก็บเงิน ยอมรวม 280 บาท เพื่อนผมจ่ายแบ็งค์ 1,000 บาทให้ไป แม่ค้าก็รับไปแล้วเดินไปจะทอนเงิน
สักพักเดินกลับมาโวยวายว่า แบ็งค์ 1,000 บาท ที่จ่ายให้ไปนั้น เป็น " แบงค์ปลอม " แม่ค้าตะโกนว่าโต๊ะผมเสียงดังมาก แล้ววางแบงค์ปลอม 1,000 บาท ลงบนโต๊ะ ตอนนั้นคนในร้านมีอยู่ 3 - 4 โต๊ะ ก็เริ่มมอง ๆ มาที่โต๊ะผม
เพื่อนผมเพิ่งจะกดเงินมาจากตู้เอทีเอ็ม เป็นแบงค์ใหม่หมด เลขในแบงค์ก็เรียงกัน แต่ใบที่แม่ค้าเอามาวางคืนให้เป็นแบงค์เก่า ก็เลยเถียงกันไปเถียงกันมา แม่ค้าก็ยังไม่ยอม เพื่อนผมมันจึงแกล้งบอกว่า จำเลขในแบงค์ได้ แม่ค้าก็ไม่ยอม
พอดีมีสายตรวจมาซื้อของที่ร้านข้าง ๆ ก็เลยเดินไปเรียกตำรวจมา บอกให้ช่วยค้นตัวแม่ค้า ดูว่า มีแบงค์ 1,000 บาท ใบอื่นหรือไม่ แม่ค้าไม่ยอมให้ค้นตัว แต่เดินไปหยิบทอนมาให้ 800 บาท ( ทอนเกิน ) แล้วบอกตำรวจว่า ไม่มีอะไร ( ตำรวจไม่ยอมโวยวาย )
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงนะครับ อยากจะเตือนทุกคนให้ระมัดระวังมุกใหม่นี้ด้วย จ่ายแบงค์ 1,000 บาท จริง แต่ถูกหาว่าเป็นแบงค์ปลอม ทางที่ดีก่อนจ่ายแบงค์ 1,000 บาท ควรจำหมายเลขในแบงค์ไว้บ้างนะครับ เพื่อความปลอดภัย
ช่วยส่งต่อๆกันให้มาก ๆ นะครับ
ได้มาจากอีเมลล์นำมาบอกพวกเรา ให้ระวังด้วย จำเลขหมายแบงค์ 1,000 ที่จ่ายไปด้วยเพื่อกันเผื่อมีปัญหา 
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #45 เมื่อ: 13 เมษายน 2553, 10:25:50 » |
|
"มหาประชาชนเท่านั้นที่"ชาติต้องการ"
ท่านผู้อ่านที่มีความเจ็บปวดต่อสถานการณ์ "ไทยทรยศแผ่นดินไทย" กันเองทั้งหลาย เวลานี้ ไม่จำเป็นต้องถามกันแล้วว่า "อะไรเกิดขึ้นต่อชาติบ้านเมืองอันเป็นที่รักของเรา" และก็ไม่ต้องถามด้วยว่า
" เราควรจะทำกันอย่างไร" ณ ขณะนี้ ท่านยังจำประโยคอมตะประโยคหนึ่งได้ใช่ไหมที่ว่า " พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ" ผมค้นพบแล้วว่า ผู้ที่ประเทศชาติต้องการแท้จริง และตลอดกาล ไม่ใช่ใคร ที่ไหน คือ
ประชาชนมือเปล่า เราๆ ท่านๆ ทั้งหลายนี่เอง
จงกุมสติกันให้มั่น อย่าถาม-อย่าโทษใครทั้งนั้น ทั้งหลายทั้งปวงมันพิสูจน์ด้วยตัวมันเองชัดแจ้งแล้วว่า กลียุคบ้านเมืองขณะนี้ ไม่ใช่จากน้ำมือของพี่น้องประชาชนเสื้อแดง แต่มันมาจากบุคคลคนหนึ่งที่ทรยศต่อชาติบ้านเมือง ต่อพี่น้องประชาชนทุกคน วางแผน-สั่งการ-ซ่องสุมและจัดตั้ง

"กองกำลังทรยศชาติ" มันคนนั้นคือ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร"
อ้างมาทวงประชาธิปไตย หลอกใช้พี่น้องประชาชนตามจังหวัดต่างๆ สวมเสื้อแดงมารวมตัวกันชุมนุมเรียกร้อง แล้วใช้กองกำลังทรยศชาติที่ผ่านการฝึกและเพาะเลี้ยงมาแล้วอย่างดี แทรกซึมปะปนเข้ามา ทำทีเป็นว่าร่วมชุมนุมกับพี่น้องเสื้อแดง สงบ-สันติ ด้วยซื่อบริสุทธิ์
แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ มันแฝงเข้ามาพร้อมแผนก่อการจลาจล-ยึดประเทศ และรออาณัติสัญญานจากตัวการใหญ่ที่จะสั่งผ่านวิดีโอลิงค์ โดยอาศัยคราบพี่น้องประชาชนเสื้อแดงที่ชุมนุมกันอย่างบริสุทธิ์ใจบังหน้า ลุกขึ้นก่อการจลาจล เผาบ้านเผาเมืองหวังยึดครองประเทศแล้วสถาปนาอำนาจเถื่อนเป็นประชาธิปไตยระบอบเจ้ามูลเมือง แล้วอัญเชิญกบฏแผ่นดิน
"พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ให้กลับเข้ามา สถาปนาอำนาจใหม่ตาม "ต้นแบบ" ที่มันแอบฝังใจ
นั่นคือ "การปฏิวัติประชาชน ๑๔ กรกฎา" ล้มสถาบันกษัตริย์ แล้วสถาปนาอำนาจใหม่ ดังที่รู้จักกันทั่วไปว่า "ปฏิวัติฝรั่งเศส"
ทักษิณจงใจใช้วันที่ ๑๔ กรกฎาตั้งพรรคไทยรักไทย หลายคนเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง เมื่อมีนักวิชาการที่ร่วมงานตั้งพรรคครั้งนั้นออกมาแฉเบื้องหลัง แต่ถึง ณ วันนี้ จาก ๘-๑๓ เมษายน ๒๕๕๒ ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ปอกเปลือก-เปลือยตัวเองให้เห็นเนื้อใน "ไอ้บกฏแผ่นดิน" ล่อนจ้อน ทรยศชาติ ประชาชน ออกมาบัญชาการปล้นบ้าน-ชิงเมือง อันเห็นประจักษ์ตา และเป็นที่สิ้นความเคลือบแคลงสงสัยใดๆ กันไปแล้ว
ท่านผู้อ่านและประชาชนผู้รักชาติ รักบ้านรักเมืองทั้งหลาย ผมเยิ่นเย้อเพราะต้องการย้ำให้ท่านเข้าใจว่า
กลียุคบ้านเมืองครั้งนี้ อย่ามองฉาบฉวยเฉพาะหน้า จงใช้สติมองด้วยแยกแยะ อย่าเหมาโทษพี่น้องเสื้อแดงทั้งหมด เพราะเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าเมื่อพี่น้องเสื้อแดงที่หลงเข้าใจผิดตามคำปลุกปั่น-ยุยงทักษิณแต่แรก เห็นธาตุแท้ทักษิณ และทราบความจริงแล้วว่า ถูกทักษิณหลอกมาเป็น
"ประชาชนทักษิณ" ประกอบฉากเผาบ้าน-ชิงเมือง-ล้มสถาบันเบื้องสูง ไม่มีอะไรที่เรียกว่า "ประชาธิปไตย" ตามที่กล่าวอ้างเลย
จากหลายหมื่น-ถึงเรือนแสนของพี่น้องเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมแต่แรก เมื่อเห็น "หางแดง" ทักษิณโผล่ ได้พากันทยอย ถอยตัวออกห่างจากวงชุมนุมไปเรื่อยๆ ถอดเสื้อแดงทิ้งแล้วกลับบ้าน ไม่ยอมถูกหลอกใช้เป็นสะพานไปล้มสถาบัน-ปล้นบ้านชิงเมืองอีก จากเรือนหมื่น-เรือนแสนที่ว่านั้น เหลือเรือนพันหรือแค่หมื่นต้นๆ และนั่นคือ
" กองกำลังทรยศชาติ" ส่วนหนึ่งที่แฝงเข้ามาด้วยจงใจเจตนาลงมือก่อ! จลาจล โค่นล้มสถาบันบ้านเมือง ดังจะเห็นได้จากรูปแบบ
การยึดสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ รูปแบบการก่อการทั้งหมด กระทั่งอาวุธสงครามที่นำมาใช้ไม่ใช่ความคิดความอ่าน และยิ่งไม่ใช่ระดับปฏิบัติการของชาวบ้านสวมเสื้อแดงธรรมดาซึ่งไม่มีขีดสามารถและประสบการณ์ระดับนั้น หากแต่ว่า เป็นปฏิบัติการของผู้ผ่านการฝึกด้านศึกสงครามทั้งด้านยุทธการ และด้านยุทธิวิธีอย่างที่
"นักรบป่า" ฝึกอบรมกันมาชนิดช่ำชอง
จึงเป็นที่สรุปได้ว่า จลาจลยึดประเทศครั้งนี้ เกิดจากแกน "กองกำลังทักษิณ" กบฏแผ่นดินฝ่ายเดียว ประชาชนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมส่วนใหญ่ ไม่ร่วมมือ ไม่เป็นใจ ไม่เอาด้วย กับการ
กบฏแผ่นดินของทักษิณ เพื่อทักษิณ และโดยทักษิณ โดยแจ้งชัด
ท่านผู้อ่านที่เคารพ ผมบอกแต่ต้นแล้วว่า ประชาชนเต็มขั้นอย่างเราๆ
ท่านๆ เท่านั้นที่ "ชาติต้องการ-ตลอดกาล"
อย่าปัดว่าธุระไม่ใช่เอาแต่โยนใส่บ่าตำรวจ-ทหาร-ข้าราชการงานเมืองฝ่ายเดียว อย่าโทษใคร อย่าเกี่ยงใคร ในภาวะที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน จงร่วมมือกับรัฐบาล กับกองกำลังตำรวจ-ทหารที่ตั้งขึ้นตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อันมีพลเอกทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญช! าการทหารสูงสุด เป็นผู้กำกับดูแล
และจงให้กำลังใจ "นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรี ผู้ทำหน้าที่ผู้นำด้วยกำลังใจที่พิสูจน์แล้วว่า แกร่งกล้า อดทนและยืนหยัดอยู่ได้ในขณะที่ใครต่อใครอีกหลายคนต่างอยู่ในลักษณะ "ถอดใจให้โจร"
แต่นายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงจะผิด-จะถูกขนาดไหน ในภาวะชาติเผชิญภัย ยังสามารถยืนหยัดเป็นหลักใจ ไม่หันหลังหนีภัยทิ้งให้ประเทศชาติ-ประชาชนต้องเผชิญชะตากรรมเดียวดาย เหมือนขอนไม้ในคลื่นสึนามิ สู้เพื่อชาติ พลาดอย่างอาชาไนย ถึงตาย-เกียรติยศก็ยังดำรงไว้ จงภูมิใจเถอะ
อย่าให้ความเสียใจมาดับไฟนักสู้ในหัวใจท่านเลย ผมขอเป็นกำลังใจ และยืนอยู่เคียงข้างการทำหน้าที่ผู้นำชาติยามวิกฤติของท่าน
และข้อสำคัญ ท่านจงฟังและปรึกษาหารือคนอื่นๆ นอกจากที่อยู่รอบตัวไม่กี่คนให้มากเข้าไว้ ไม่มีใครรู้และเจนจบได้ในทุกเรื่อง อย่างกรณีนี้เช่นกัน งานบู๊กันเป็นของฝ่ายปฏิบัติการ ก็ควรฟังทหาร-ตำรวจเขาอะไรที่เป็นงานบุ๋น คือนโยบายบริหาร นั่นจึงเป็นงาน "กลั่นกึ๋น" ของท่านสั่งการออกไป
เหตุการณ์ครั้งนี้ บ้านเมืองยับเยิน-ย่อยยับยิ่งนัก ไม่ต้องพูดกันแล้วเรื่องจีดีพีเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความเชื่อมัน ความสำคัญทั้งหมดสรุปรวมอยู่ตรงหน้านี้ว่า จะควบคุมสถานการณ์ และยุติกบฏเผาบ้าน-ยึดเมืองนี้ ได้แบบไหน อย่างไร และ..วันไหน ?
ลูกผู้ชาย-วันนี้ ไม่ต้องไปโทษใคร ความชอบถ้ามี จงแจกจ่ายและยกย่องเขา ส่วนความผิด เมื่อเสร็จภารกิจกู้สถานการณ์แผ่นดิน ท่านต้องเตรียมคำตอบอันเป็นการ " ตัดสินใจ" ที่สาสมกับความสูญเสียของประเทศชาติครั้งใหญ่จากการบริหารในฐานะผู้นำของท่าน
เสียลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุข เสียไปเถอะครับ ถ้าการเสียนั้นเป็นการเสียเพื่อดำรง "ศักดิ์ศรีแห่งผู้นำ" บอกตรงๆ เห็นหน้าท่านออกทีวีตอนสองยามคืนก่อนท่ามกลาง ผบ.เหล่าทัพที่ก้มหน้า ซ่อนแววตาสงบนิ่ง
ในบรรยากาศที่เหมือนแถลงอยู่บนขั้วโลกคนเดียว แต่ท่านนายกฯ ยังสามารถรักษาบุคลิกภาพผู้นำ เพื่อไม่ให้ผู้ตามคือประชาชนอย่างพวกผมพลอยถอดใจ วูบหนึ่ง ผมสงสารท่านสุดขั้วใจจริงๆ
ท่านผู้อ่าน และประชาชนผู้รักบ้านรักเมือง และรักสถาบันทั้งหลาย ณ เวลานี้ เรากำลังถูกกบฏแผ่นดินคุกคามย่ำยีทุกด้าน อย่าแตกแยก อย่าแตกใจ และอย่านิ่งดูดาย เอาแต่เรียกร้องและร้องหาแต่ความ! ช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร และรัฐบาลอย่างเดียว สิ่งสำคัญเฉพาะหน้า เรา-ประชาชน ต้องผนึกแขนงไม้เป็นกอไผ่ รวมพลังต้านภัย ช่วยกันรักษาบ้าน-รักษาสถาบันไว้ไห้จงได้
อย่าเอาแต่นั่งพูด นั่งด่า อวดวิชาการแก่กล้า โชว์วิสัยทัศน์ด้วยการ "ด่าทุกมาตรการ" ที่ตำรวจ-ทหารและรัฐบาลนำออกมาใช้ ผมบอกได้คำเดียวว่า ถ้ามัวแต่แคร์กระแสโลก กระแสสื่อกลุ่มทุนอย่าง CNN ปล่อยให้โจรฆ่าประชาชน เผาเมือง ล้มสถาบัน โดยตำรวจ-ทหาร-รัฐบาลเอาแต่ "พับเพียบปราบ"
เพราะเหตุนี้ผมจึงขอย้ำ "ประชาชนคือคนที่ชาติต้องการ-ตลอดกาล" ถ้าประชาชนไม่รวมตัว-รวมใจ เห็นที ประเทศไทยจะราบคาบ "กบฏไทยผสมเทศ" จะเข้ามายึดครองต้องตามคำว่า " ถิ่นกาขาว" พวกเรา..ไม่เอากันอย่างนั้นมิใช่หรือ ?
รักนายกฯและจะอยู่เคียงข้างท่านตลอดไป
เปลว สีเงิน
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
ได้มาจากอีเมลล์ เห็นว่า ควรนำมาให้พวกเรา ได้อ่านด้วย
เพื่อร่วมเป็น ประชาชน คือ คนที่ชาติต้องการ-ตลอดกาล 
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #46 เมื่อ: 13 เมษายน 2553, 11:33:06 » |
|
ที่ประชุมกกต.มีมติ ยุบ ปชป. ขอขอบคุณที่เื้อื้่อเฟื้อข่าว น.ส.พ.เดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 12 เมษายน 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=627&contentID=59696
“กกต.”มีมติยุบพรรคประชาธิปัตย์กรณีเงินบริจาค258ล้านเตรียมแจ้ง อสส.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 12 เม.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการ กกต. ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ แถลงผลการประชุม กกต.วาระพิเศษ กรณีคดีเงินบริจาค จำนวน 258 ล้านบาท และ เงินกองทุนสนุบสนุนพรรคการเมืองจำนวน 29 ล้านบาท ที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหาอาจกระทำการเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง ทั้งนี้ ที่ประชุม กกต.พิจารณาใน 2 ข้อกล่าวหา โดย
ข้อกล่าวหาแรก กรณีพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเงินบริจาคจากบริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผ่านทางบริษัท เมซไซอะ บิสิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด เป็นจำนวนเงิน 258 ล้านบาท โดยทำสัญญาสื่อว่าจ้างทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆเป็นนิติกรรมอำพลาง เพื่อหลักเลี่ยงการรายงานการรับบริจาคเงินตามที่กฎหมายกำหนด อาจเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 66 (2) (3) แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2541 และมาตรา 94 (3) (4) (5) แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 โดย
ที่ประชุมมีมติคะแนนเสียงข้างมากให้นายทะเบียนพรรคการเมืองแจ้งต่ออัยการสูงสุดพร้อมด้วยหลักฐาน เพื่อให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป ตามาตรา 95 ของพ.ร.บ.ประกอบรับธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550
ข้อกล่าวหาที่สอง กรณีมีผู้แจ้งข้อกล้าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ใช้จ่ายเงินที่ได้รับจากเงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมืองจากสำนักงานกกต.ให้เป็นไปตามบทบัญญัติตามกฎหมายและการจัดทำการใช้จ่ายและการจัดทำการรายงานใช้จ่ายเงินสนับสนุนพรรคการเมืองไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงที่ยื่นต่อ กกต.อันเป็นการเข้าข่ายตามมาตาม มาตรา62 และ65 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2541 และมาตรา 82 และ 93 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 โดย
ที่ประชุม กกต. มีมติเอกฉันท์ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ โดยใช้มติเสียงข้างมากแจ้งต่ออัยการสูงสุดเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคประชาธิปัตย์ ตามมาตรา 95 ของพ.ร.บ.ประกอบรับธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 นายธนิศร์ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนจากนี้ทางกกต.ได้มอบหมายให้นายทะเบียนพรรคการเมืองดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดตามความเห็นแจ้งต่ออัยการสูงสุด
เมื่ออัยการสูงสุดได้รับเรื่องแล้วจะจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่หากเห็นว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอก็ต้องแจ้งกลับมายังนายทะเบียนเพื่อตั้งคณะทำงานร่วมกัน แต่หากเห็นว่ายังไม่ได้ข้อยุติ นายทะเบียนพรรคการเมืองก็สามารถส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง
ทั้งนี้การพิจารณาของนายทะเบียนครั้งนี้ใน2ประเด็นก็เห็นว่า คดีดังกล่าวอาจมีการกระทำความผิดจึงเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญจึงส่งให้ที่ประชุมกกต.พิจารณา เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 ประเด็น.
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
นำข่าวมาเก็บไว้ให้พวกเรา ได้ศึกษาเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #52 เมื่อ: 20 เมษายน 2553, 18:20:05 » |
|

การทำงานสันติวิธีท่ามกลางสถานการณ์ที่ร้อนแรง แบ่งฝักฝ่าย และเต็มไปด้วยความกลัว-โกรธ-เกลียดนั้นย่อมหนีไม่พ้นที่จะถูก
โจมตีจากทุกฝ่าย เช่น ถูกกล่าวหาว่าดิสเครดิตผู้ชุมนุมบ้าง
เข้าทาง-อวยประโยชน์แก่ผู้ชุมนุมบ้าง
เป็นอีแอบบ้าง ฯลฯ
นักสันติวิธีควรอดกลั้น ไม่ตอบโต้ เพราะทุกวันนี้มีการตอบโต้แรง ๆ กันมากจนเกินพอแล้ว....
ไม่ว่าจะถูกกระทำอย่างไร ขอให้นึกถึงสันติสุขของบ้านเมือง แล้วจะรู้สึกเลยว่า สิ่งที่กระทบกับเรานั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก
ทำงานนี้แล้วแม้ถูกด่าถูกเข้าใจผิด แต่หากช่วยให้ผู้คนโกรธเกลียดกันน้อยลง ทำร้ายกันน้อยลง หรือช่วยไม่ให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟได้ ก็นับว่าคุ้มค่าอย่างยิ่งแล้ว
นำมาจาก http://www.visalo.org/
 
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #53 เมื่อ: 21 เมษายน 2553, 07:05:06 » |
|
มองให้เห็นถึงรากเหง้าของปัญหา

สัมภาษณ์พระไพศาล วิสาโล โดยสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๓
พิธีกร คนไทยควรจะทำใจอย่างไรในสถานการณ์ขณะนี้
พระไพศาล อยากจะให้มองว่าความขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมดา เป็นธรรมดาของโลก เป็นธรรมดาของบ้านเมือง โดยเฉพาะความขัดแย้งที่เกิดจากความแตกต่างทางความเชื่อหรือเพราะผลประโยชน์ขัดแย้งกันก็ตาม ยิ่งในระบบประชาธิปไตยด้วยแล้วก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องขัดแย้งกัน แต่ตราบใดที่ยังใช้วิธีการที่สันติ ทั้งสองฝ่ายคือเจ้าหน้าที่รัฐไม่ใช้ความรุนแรง ผู้ชุมนุมก็อยู่ในสันติวิธี ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทุกข์ร้อนอะไร
เราก็จับตาดูไป อะไรที่เห็นว่าดีก็ควรสนับสนุน อะไรที่เห็นว่าไม่ดีก็ควรแนะนำตักเตือน
ขอขอบคุณ เวบวิสาโล และ อ่านบทสัมภาษณ์ทั้งหมดได้ที่ http://www.visalo.org/columnInterview/peace530317.htm

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #54 เมื่อ: 21 เมษายน 2553, 18:41:12 » |
|
มองประเทศไทยในแง่ดี (9) ทหารไม่ได้พ่ายแพ้ แต่ยอมรับว่าปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จ

พล.อ.สายหยุด เกิดผล ผู้ที่ติดตามเหตุการณ์เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 เมษายน 53 เมื่อทางรัฐบาลโดยคณะกรรมการ ศอฉ. สั่งการให้กองกำลังทหาร สนับสนุนด้วยกำลังตำรวจ และพลเรือน เข้ายึดพื้นที่คืนให้ประชาชนจากผู้ชุมนุมเสื้อแดง เพื่อเป็นของขวัญในวันสงกรานต์ เป็นการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ฉุกเฉิน อันเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล และก็ดูเหมือนจะเป็นไปตามคำเรียกร้องของประชาชนทั่วไป และฝ่ายผู้ชุมนุมก็คาดอยู่แล้วว่าจะมีการใช้กำลัง
การปฏิบัติการครั้งนี้ ท่านนายกรัฐมนตรี และโฆษกคณะกรรมการ ศอฉ. ก็ได้ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า
หนึ่ง รัฐบาลไม่ได้ทำการสลายผู้ชุมนุม หมายความว่า สิทธิ์การชุมนุมตามรัฐธรรมนูญนั้นยังอยู่ แต่ขณะนี้มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน,
สอง รัฐบาลจะใช้กำลังปฏิบัติการตามมาตรฐานสากล 7 ขั้นตอน จากเบาไปหาหนัก และ
สาม รัฐบาลห้ามทหารใช้ความรุนแรงเกินมาตรฐานสากลนี้โดยเด็ดขาด เพื่อมิให้ทหารถูกกล่าวหาว่า ทำการปราบปรามประชาชน เพราะทหารเป็นของประชาชน
ถ้าพิจารณาดูให้ดีจะเห็นว่าทางทหารได้ปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลโดยเคร่งครัด และในตอนต้นก็ปรากฏว่าได้ผล เพราะสามารถยึดพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คืนมาจากผู้ชุมนุม
แต่ต่อมาได้มีเหตุการณ์ที่รุนแรงเกิดขึ้น ก็เพราะปรากฏจากหลักฐาน ว่ามีกองกำลังติดอาวุธของบุคคลในชุดสีดำ ปะปนอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ได้ใช้อาวุธสงคราม M.79 ลูกระเบิดขว้าง อาวุธปืนเล็กยาว ยิงเข้าสู่ทหาร
ซึ่งเมื่อปรากฏเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงเช่นนี้ น่าที่ทหารจะถอนตัวเร็วกว่านี้ แต่ทหารก็ยังยึดมั่นในภารกิจโดยไม่เกรงกลัวอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งผู้บังคับบัญชาชั้น ผบ.พล., ผบ.กรม, เสนาธิการกองพล เสนาธิการกรม คงเดินหน้าเคียงข้างทหารเพื่อมุ่งปฏิบัติการตามภารกิจให้สำเร็จ
จึงเกิดการสูญเสียที่น่าสลดใจขึ้น เมื่อมีลูกระเบิดตกลงมาในกลุ่มทหาร จนเกิดการบาดเจ็บล้มตาย ต่อมาจึงได้รับคำสั่งให้ถอนตัวยุติการปฏิบัติการ
ดังนั้น คนทั่วไป แม้แต่ทางฝ่ายรัฐบาลได้ยอมรับกับประชาชน ว่าเป็นความพ่ายแพ้ของทหารฝ่ายรัฐบาล
แต่ประชาชนบางส่วนเห็นว่า
หนึ่ง ทหารไม่ได้พ่ายแพ้ เป็นแต่ปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จ ที่ปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จ เพราะสถานการณ์ฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยนแปลงไป จากการไม่ใช้อาวุธมาเป็นมีกองกำลังใช้อาวุธสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุม
สองทหารได้แสดงให้เห็นถึงความมีระเบียบวินัย และความกล้าหาญ ปฏิบัติการตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แม้แต่ต้องเผชิญกับอันตรายถึงชีวิตก็ตาม และ
สาม ประชาชนทั่วไปย่อมยืนยันได้อีกครั้งหนึ่งว่า ทหารนั้นเป็นของประชาชนตามที่เขียนไว้หน้าค่ายทหารทุกแห่ง และจะไม่มีวันใช้อาวุธปราบปรามประชาชนที่ไม่ถืออาวุธเป็นอันขาด นอกจากกองกำลังผู้ก่อการร้าย ซึ่งถือว่าไม่ใช่ผู้ชุมนุมตามสิทธิ์ในรัฐธรรมนูญ
แต่ถึงอย่างไร ก็อยากขอวิงวอนให้ประชาชน รวมทั้งรัฐบาล ได้พิจารณาในการใช้กำลังทหารครั้งต่อไปให้ดี เพราะทหารเป็นเครื่องมือสุดท้าย และก็เป็นความหวังสุดท้ายของประชาชนด้วย
ถ้ามีการประกาศใช้กฎอัยการศึก ผมขอเรียนว่า ในขั้นนั้น การปฏิบัติการของทหารจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะถ้าทหารแพ้ บ้านเมืองก็คงโกลาหล ไม่มีขื่อ ไม่มีแปร ทหารจะแพ้ไม่ได้ ก็ต่อเมื่อทหารสามารถใช้อาวุธและพลังอำนาจที่มีอยู่ทั้งสิ้น เข้าปฏิบัติการ และประชาชนให้การสนับสนุน
ผมเชื่อในพลังอำนาจของทหาร ขอให้การบังคับบัญชาแน่นแฟ้นตามสายการบังคับบัญชา ย่อมจะปฏิบัติภารกิจสำเร็จแน่นอน ส่วนความเสียหายใดๆ ที่จะเกิดขึ้น และตามมานั้น ผู้สั่งการและประชาชนที่สนับสนุนจะต้องรับผิดชอบด้วย ซึ่งผมหวังว่าคงจะไม่ถึงขั้นนี้นะครับ !
ผมและประชาชนที่เป็นกลางทั่วไป ขอสนับสนุนให้รัฐบาลประชาธิปไตย ภายใต้การนำของนายกอภิสิทธิ์ แม้ว่าจะไม่เป็นรัฐบาลประชาธิปไตยที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นรัฐบาลที่เลวน้อยกว่ารัฐบาลบางรัฐบาลที่ผ่านมา
ในระยะนี้ ขอให้ท่านอดทนอยู่ปฏิบัติการในการแก้ปัญหาต่อไป ด้วยการสนับสนุนของประชาชน ซึ่งจะค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
ถ้าท่านยังยึดถือกฎหมายของบ้านเมืองในการแก้ปัญหา เพราะ
การ “ยุบสภา” และการ “ลาออก” ในยามนี้ ในสายตาประชาชนที่เป็นกลางทั่วไป ไม่เชื่อว่าจะแก้ปัญหาใดๆ ได้ นอกจากจะเพิ่มความวุ่นวายในการช่วงชิงอำนาจทางการเมืองเพิ่มขึ้น โดยไม่มีใครรับผิดชอบต่อบ้านเมืองใดๆ ขอให้ท่าน กรุณาอดทน อย่าได้หลงเชื่อคำเสนอแนะที่แฝงไปด้วยผลประโยชน์ทางการเมือง ขอให้ยึดถือเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ท่านอาจกลายเป็น “ผู้นำ” ที่ประชาชนทั่วไปจะจดจำไปอีกนาน ผู้นำที่แท้จริงคือ “ผู้เสียสละ-จริงใจ และกล้าหาญ” ครับ!
OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
ได้รับมาจากอีเมลล์ขอให้ส่งต่อให้ชาวเนตได้อ่านกันมากๆจึงนำมาโพสต์บอกพวกเราที่เวบซีมะโด่งนี้ด้วย

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #55 เมื่อ: 21 เมษายน 2553, 19:39:29 » |
|
ink Dots - this is wild! Something to drive you crazy... From: Charoenchai Taitilanunt (charoenchai.t@thaiairways.com) Sent: Wednesday, April 21, 2010 1:37:52 PM To:......1 attachment Image.1.3...gif (37.7 KB)

Subject: Pink Dots - this is wild! Something to drive you crazy...
If your brain works normally this is neat. This is another example of an amazing illusion!!! The last sentence is so true..
If your eyes follow the movement of the rotating pink dot, the dots will remain only one color, pink.

However if you stare at the black ' + ' in the center, the moving dot turns to green.
Now, concentrate on the black ' + ' in the center of the picture. After a short period,
all the pink dots will slowly disappear, and you will only see only a single green dotrotating.
It's amazing how our brain works. There really is no green dot, and the pink ones really
don't disappear.This should be proof enough,we don't always see what we think we see .
Send this to all of your friends and amaze them.

น้องชาย ส่งมาให้เป็นชาวหอซีมะโด่ง วิศวะ รหัส 23 ทำงานไทยแอร์เวย์ จึงส่งมาให้พวกเราดูด้วย
มีอีเมลล์แอดเดรสข้างบน เพื่อนร่วมรุ่นเชิญติดต่อกันได้

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
|
prapasri AH
|
 |
« ตอบ #59 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 17:50:24 » |
|
นำมาให้อ่านค่ะ 
|
ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #60 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 19:20:50 » |
|
อินเทอร์เน็ต ซึ่งทำโลกใบนี้แคบลงมาอยู่เพียงปลายนิ้วมือ
เพิ่งมีอายุครบ 40 ปีไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี้เอง
คมชัดลึก : 31 ต.ค.2552

อินเทอร์เน็ตถือกำเนิดขึ้นเมื่อ เลียวนาร์ด เคลนร็อค และ คณะนักวิจัยของ ม.แคลิฟอร์เนีย
วิทยาเขตลอสแองเจลิส (ยูซีแอลเอ)
ทำให้คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งของยูซีแอลเอสามารถ "คุย" กับ คอมพิวเตอร์อีกเครื่องที่
สถาบันวิจัยแห่งหนึ่งได้ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2512
อย่างไรก็ตาม เคลนร็อค ซึ่งตอนนี้อายุอานามปาเข้าไป 75 ปีแล้ว มองว่าอินเทอร์เน็ต
เพิ่งเข้าสู่วัยรุ่น และ ยังต้องเติบโตอีกไกล แต่ถึงกระนั้น เขาก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับแอพพลิเคชั่น
ใหม่ๆ อย่าง เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และยูทูบ ที่คนนำเอาอินเทอร์เน็ตไปต่อยอดพัฒนาเป็นอย่างมาก
เคลนร็อคพูดถึงอินเทอร์เน็ตราวกับพูดถึงลูกๆ โดยบอกว่า
ถึงแม้จะมีความประพฤติแบบผีเข้าผีออกอยู่สักหน่อย แต่อินเทอร์เน็ตก็สร้าง
ความปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมากให้แก่พ่อแม่ แล้วก็สังคม
เคลนร็อคบอกว่าเขาเชื่อมาโดยตลอดว่าคอมพิวเตอร์ถูกกำหนดมาให้คุยกันได้
แล้วเครือข่ายที่เกิดขึ้นตามมาก็ควรจะใช้งานง่ายเหมือนโทรศัพท์ แล้วก็บอกว่า
ไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่าแม่ วัย 99 ปี ของเขาจะได้เล่นอินเทอร์เน็ตกับเขาด้วยเหมือนกัน
สำหรับอนาคตของอินเทอร์เน็ตนั้น เคลนร็อคมองว่า
จะแทรกซึมเข้าไปในทุกสิ่งทุกอย่าง และก้าวเข้าไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง
เคลนร็อคได้ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆ ว่า หากเขาเดินเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง
ห้องนั้นจะรับรู้ว่าตัวเขาอยู่ที่นั่น แล้วก็จะพูดคุยกลับมา
ขอขอบคุณ น.ส.พ.คมชัดลึก ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.komchadluek.net/detail/20091031/35074/4%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95.html

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #65 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2553, 07:57:11 » |
|
บึงกาฬ' จังหวัดน้องใหม่ ความปลื้มใจของชาวหนองคาย
ประเทศไทยเวลานี้มีจังหวัดด้วยกันทั้งสิ้น 76 จังหวัด แต่อีกไม่นานนักเราจะมีจังหวัดที่ 77 เกิดขึ้นนั่น คือ
"จังหวัดบึงกาฬ"
กระทรวงมหาดไทยจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอเป็นพ.ร.บ.จัดตั้งจังหวัด หลังจากที่มีการร้องขอมาตั้งแต่ปี 2537 ตามข้อเสนอของ นายสุเมธ พรมพันห่าว ส.ส.พรรคเสรีธรรม จ.หนองคาย
ข่าวนี้สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะชาวบึงกาฬ เพราะพวกเขาเหล่านั้นรอคอย และตั้งความหวังมานาน เนื่องจากสภาพพื้นที่อยู่ไกล กันดาร ความเจริญยังเข้าไม่ถึง แต่ต่อไปนี้ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ !!!
นายเลิศพรไชย ไชยฤทธิ์ นายอำเภอบึงกาฬ จ.หนองคาย เปิดใจกับ "ไทยรัฐออนไลน์" เป็นเรื่องที่น่ายินดีแทนพี่น้องชาวบึงกาฬ และอำเภอใกล้เคียง ที่จะได้มารวมตัวกันเป็นจังหวัดใหม่ เพราะจะทำให้สิ่งต่างๆ ในการอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน เช่น สาธารณูปโภค ถนนหนทาง การคมนาคม ที่สำคัญคือเรื่องเศรษฐกิจ จะเข้ามามากขึ้น และจะมีความมั่นคงและเจริญมากขึ้นกว่าตอนที่เป็นแค่อำเภอ
ส่วนเรื่องความคิดเห็นของชาวบ้านนั้น 95% ของชาวบ้านทั้งหมดก็เห็นด้วยในเรื่องนี้ เพราะก่อนที่จะมีการเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ก่อนชาวบ้านในทุกภาคส่วนก็เห็นด้วย รวมทั้งภาคเอกชนก็ให้การสนับสนุน ประชาชนส่วนใหญ่ในอ.บึงกาฬ 95% ล้วนแต่เป็นสัญชาติไทยทั้งสิ้น ถึงพื้นที่ส่วนหนึ่งของเราจะติดกับประเทศลาวก็ตาม ไม่ได้มีปัญหาเรื่องของคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง เพราะทางเราจะมีมาตรการจัดการอยู่แล้ว
"คิดว่าพอได้เป็นจังหวัดแบบเต็มตัว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งในเรื่องของความเป็นอยู่ของชาวบ้าน เรื่องของเศรษฐกิจ จะมีความเจริญมากขึ้น เพราะโดยส่วนมากการกระจายความเจริญจะมาจากจังหวัด และมาสู่อำเภอ ก่อนส่งต่อไปสู่หมู่บ้านต่างๆ เพราะฉะนั้นการที่จะได้เป็นจังหวัดนี้ มันจึงเป็นเรื่องที่ดีมากๆ"
"บึงกาฬ" เป็นอำเภอหนึ่งของจ.หนองคาย มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มีน้ำตก มีภูเขา เป็นอำเภอที่มีเขตพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง และฝั่งตรงข้ามแม่นำ้โขงจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน (ลาว) มีการคมนาคมที่สะดวก
มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงคือ
ทิศเหนือติดกับแขวงบอลิคำไซ (สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) ทิศตะวันออกติดกับอำเภอบุ่งคล้า ทิศใต้ติดกับอำเภอเซกา อำเภอศรีวิไล อำเภอพรเจริญ และอำเภอโซ่พิสัย ทิศตะวันตก ติดกับอำเภอปากคาด
ก่อนหน้านี้ทางจ.หนองคายได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 366,903 คน ปรากฏว่า
ประชาชน 98.83% เห็นด้วยในการจัดตั้งจ.บึงกาฬ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 126 แห่ง 96.04% เห็นด้วย หัวหน้าส่วนราชการในอำเภอและจังหวัดเห็นด้วย 100%
ซึ่งได้มีการจัดแบ่งอำเภอ จากเดิมทั้งหมด 17 อำเภอ ออกเป็น
อำเภอที่อยู่ในจ.หนองคาย เหลือ 9 อำเภอ ประชากร 506,343 คน ประกอบด้วย อ.เมือง, ท่าบ่อ, โพนพิสัย,ศรีเชียงใหม่, สังคม, สระใคร, เฝ้าไร่, รัตนวาปี และโพธิ์ตาก
ส่วนอำเภอที่จะอยู่ในจ.บึงกาฬ มี 8 อำเภอ ประชากร 399,233 คน ประกอบด้วย อ.บึงกาฬ, เซกา, โซ่พิสัย, พรเจริญ, ปากคาด, บึงโขงหลง, ศรีวิไล และบุ่งคล้า ซึ่งในส่วนของอ.บึงกาฬ ได้มีสถานที่ราชการสำคัญหลายแห่งตั้งอยู่ เพื่อรองรับการเป็นจังหวัดอยู่ก่อนแล้ว เช่น ศาลจังหวัดบึงกาฬ, อัยการจังหวัด, เรือนจำจังหวัดบึงกาฬ เป็นต้น
ขอขอบคุณ น.ส.พ.ไทยรัฐออนไลน์ ที่เอื้อเฟื้อข่าว วันเสาร์ ที่ 8 พฤษภาคม 2553 http://www.thairath.co.th/content/region/81547

ขอแสดงความยินดีกับชาวหอฯ จาก จ.บึงกาฬ ด้วยครับ

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #68 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 10:21:29 » |
|
เอาล่ะสิ.....น้ำมันพืช… อันตรายระดับชาติ !!!
 คนไทยตาสว่างเสียที… เลิกเสียเงินซื้อยาฝรั่ง ต้นเหตุเพียงแค่น้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึม อดีตเมื่อก่อน 30 ปีที่แล้ว คนไทยใช้น้ำมันมะพร้าว และ น้ำมันหมูทำกับข้าว จู่ ๆ โฆษณาฝรั่ง มากล่าวโทษวิถีไทยเดิม ๆ อ้างว่าน้ำมันมะพร้าว และ น้ำมันหมู ทำให้คลอเลสเตอรอลสูง เพราะจับตัวเป็นไข วิธีแก้คือ การใช้น้ำมันพืช ปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่เปลี่ยนมาใช้น้ำมันพืช เพราะความเชื่อที่ถูกฝรั่งฝังหัวมา แต่ปรากฏว่าอัตราการเป็นโรคต่างๆไขมันในเลือดสูง,โรคหัวใจ,โรคไต,ภูมิแพ้ เป็นต้น มากขึ้น วงการสุขภาพของตะวันตก เพิ่งจะมาตาสว่างเมื่อค้นพบโทษของน้ำมันพืช สหรัฐ ฯ ได้ออกมาตรการลด ละ เลิก ใช้ น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี(transfat oil) ในหลาย ๆ รัฐ
ท่านสามารถอ่านข่าวเหล่านี้ได้ เช่น
อาร์โนลด์ ชวาชเนกเกอร์ ผู่ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย กับการแบนการใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี โดยกล่าวว่า “การใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ…” http://gov.ca.gov/press-release/10291/ รัฐเท็กซัส…พระราชบัญญัติ ขจัดน้ำมันพืชแปรรูปให้หมดจากร้านอาหาร ภายใน สิงหาคม 2553 http://dallas.bizjournals.com/dallas stories/2009/05/04/daily72.html KFC เริ่มเห็นโทษของน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ออกเมนูไร้น้ำมันพืช Transfat http://abcnews.go.com/Health/OnCall/story?id=2615217< /FONT> McDonald ประกาศเริ่มใช้น้ำมันชนิดอื่น แทนน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีเมื่อปี 2007 http://www.msnbc.msn.com/id/16873869/ Dunkin Donut ประกาศเลิกใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีตั้งแต่ปี 2550 https://www.dunkindonuts.com/aboutus/press/PressRelease..aspx?viewtype=current&id=100102 เว๊บไซท์ ต่อต้าน transfat http://www.bantransfats.com/ โรคที่มากับน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี…
ระบบเผาผลาญอาหารเสื่อม, เบาหวาน, ธัยรอยด์, เสื่อสมรรถภาพทางเพศ, โรคหัวใจ, โรคอ้วน http://transfatdisease.com/why.html อาหารที่พบอยู่ทั่วไป มีน้ำมันพืชเสมอ… ก๋วยเตี๋ยว, ผัดไท, หอยทอด, ราดหน้า, ผัดผักทุกชนิด, ไก่ทอด, ปาท่องโก๋, ข้าวผัด ขนมอบ เบเกอรี่…สรุปรวมว่าอาหารทุกชนิดที่ใช้กะทะ (ผัด ทอด) ใช้น้ำมันพืชทั้งนั้น
น้ำมันพืชเกือบทุกชนิด ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ ซึ่งราคาถูก แต่ขวางระบบดูดซึม น้ำซึมผ่านไม่ได้ หากใช้วัสดุอื่นตามที่โฆษณาจริง เหตุใดจึงยังขายได้ในราคาถูกเช่นนั้น อย่าให้คำว่า ‘ไม่เป็นไข’ มาหลอกท่านได้อีก
น้ำมันพืชเมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 25 องศา จะดูสวยงาม ไม่เป็นไข ผิดกับน้ำมันหมู ที่เมื่อยู่ในอุณหภูมิต่ำ จะเป็นไข
แต่เมื่อน้ำมันพืชเข้าไปอยู่ในร่างกาย อุณหภูมิ 37 องศา จะกลายเป็นกาวเหนียว เกาะติดลำไส้ ตั้งแต่ลำคอลงมาถึงลำไส้ใหญ่ ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยพืชผักที่เราทานเข้าไป และ ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำชาธรรมดา
แต่น้ำมันจากสัตว์ และ น้ำมันมะพร้าว เมื่ออยู่ในอุณหภูมิร่างกาย จะไม่มีทางเป็นไข และ จะละลายกับน้ำได้ สารอาหารต่าง ๆ ยังซึมเข้าร่างกายได้
หากท่านลองนำน้ำมันพืช ใส่ภาชนะ แล้วไปตั้งทิ้งไว้กลางแดดสัก 10 นาที อุณภูมิจะประมาณ 30 กว่าองศา ใกล้เคียงร่างกายมนุษย์
ท่านเช็ดน้ำมันพืชออกได้ยากมาก เหมือนกับที่เขม่ากาวติดกะทะ เครื่องครัว เขม่ากาวเหนียวนั่นคือผลของน้ำมันพืชโดนความร้อน จำเป็นต้องใช้กรดมาล้างเท่านั้น
แต่หากท่านลองใช้น้ำมันหมู หรือ น้ำมันมะพร้าว ใส่ภาชนะแล้วตากแดด จะพบว่าล้างออกได้โดยง่าย
เมื่อน้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึมท่านทั้งหมด น้ำก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน เมื่อท่านทานน้ำ น้ำไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าไปใช้ในอวัยวะต่าง ๆ เลย
เมื่อน้ำซึมเข้าตัวไม่ได้ วิตามินที่มากับน้ำ เช่น วิตามินบี และ ซี ก็จะไม่เข้าร่างกายท่าน ขาดวิตามินบี ทำให้สมองมีปัญหา เฉื่อยชา ความจำสั้น
หากหญิงกำลังตั้งครรค์ มีโอกาสทำให้ลูกคลอดมาเป็นออทิสติค ขาดวิตามินซี ทำให้ภูมิคุ้นกันมีปัญหาเป็น ภูมิแพ้ หวัด ไวรัส
เมื่อภูมิคุ้มกันมีปัญหา ท่านก็จะติดโรคอื่น ๆ ได้ง่ายมาก จบลงด้วยการเสียเงินซื้อยาฝรั่ง เงินทองไหลออกนอกประเทศ เพราะเพียงแค่ท่านหลงเชื่อว่าน้ำมันพืชสมัยใหม่ไม่เป็นอันตราย น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี จำเป็นต้องผ่านกระบวนการ
- ฟอกสี (bleached) เพื่อให้สีดูสวย สดใส - แต่งกลิ่น (deodorized) เพื่อให้ไม่มีกลิ่นหื มีกลิ่นตามที่ต้องการ - ใส่ไฮโดรเจน (hydrogenated) กระบวนการเหล่านี้ ทำให้สารเคมีเปลี่ยน เมื่อทานเข้าไปแล้ว เป็นพิษต่อร่างกายโดยตรง
เมื่อใดที่เห็นข้างกล่องผลิตภัณฑ์ว่า มีน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ขอให้รู้ว่านั่นคือยาพิษ โยนทิ้งขยะทันที …
…Trans fats do not exist in nature. They are laboratory-designed and have adverse health consequences. They interfere with the body’s production of beneficial fatty acids and promote heart disease. As trans fatty acids offer no benefits and only clear adverse metabolic consequences, when you see the words partially hydrogenated on the side of a box, consider it poisonous and throw it in the trash. (Ascherio, A., and W. C. Willett. 1997. Health effects of trans fatty acids.. Am. J. Clin. Nutr. 66 (4 supp.): 1006S–10S.) http://www.diseaseproof.com/archives/hurtful-food-dunkin-donuts-kills-trans-fat.html ท่านอย่าเพิ่งเชื่อบทความใน e mail นี้ จนกว่า ท่านจะได้หาข้อมูลเพิ่มเติมใน search engine (google) ต่าง ๆ ด้วยตนเอง โดยพิมพ์ key word ต่อไปนี้ (พิมพ์ครั้งละ 1 คำ)
Transfat, transfat bill, vegetable oil bad health, hydrogenated oil, ละกอ, อันตราย น้ำมันพืช

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #69 เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2553, 08:14:56 » |
|
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #71 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2553, 08:27:47 » |
|
ตร.ภ.9ลั่นจับเจ้ามือโต๊ะบอลได้งดประกัน ขอขอบคุณเวบสนุกดอทคอมและ วันจันทร์ 21 มิ.ย. 53 07.45 น. ที่สนับสนุนเนื้อหา http://news.sanook.com/944231-%E0%B8%95%E0%B8%A3.%E0%B8%A0.9%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%8A%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99.html

พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร รอง ผบช.ภาค 9
รองผู้บัญชาการ ตร. ภูธรภาค 9 ขึ้นป้าย
หนี้ฟุตบอลไม่ต้องจ่าย ใครทวงหนี้ผิดกฎหมาย
ทั่วเมืองสงขลา ลั่นจับเจ้ามือได้ไม่ให้ประกันตัวแน่
รายงานข่าวจาก จ.สงขลา ว่า ได้มีแผ่นป้ายไวนิลขนาด 1 คูณ 1.50 เมตร ติดตามสี่แยก ในเมืองหาดใหญ่ และเมืองใหญ่ทั่วพื้นที่รับผิดชอบภาค 9 ประกาศเตือน
"หนี้พนันฟุตบอลไม่ต้องจ่าย"
ใครทวงหนี้ ผิดกฎหมาย ถูกข่มขู่แจ้ง
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร รอง ผบช.ภาค 9 หรือ
พ.ต.อ.สุรนาท วรรณวรรค รอง ผบก. รรท.ผกก.สภ.หาดใหญ่
ที่หมายเลข 0-7425-8444 0-7425-7990 และ 0-7431-3802
ข้อความสุดท้าย
จับเจ้ามือจะไม่ให้ประกันตัว
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร รอง ผบช.ภาค 9 เปิดเผยว่า
ตนยอมรับว่าในช่วงเทศกาลบอลโลก มีการเปิดแทงพนันฟุตบอลทั้งรายเล็ก รายใหญ่ มีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมากๆ ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบแรก ยังไม่มีปัญหา
เข้ารอบ 2 และ 3 จะมีปัญหาเกิดขึ้น เมื่อไม่มีเงินจ่ายหนี้ เจ้ามือพนันฟุตบอลจะส่งลูกน้องทวงหนี้ มีการข่มขู่เกิดขึ้น สุดท้ายมูลเหตุของปัญหาอาชญากรรมตามมา คนที่เป็นหนี้พนันบอลต้องไปลัก ปล้น จี้ ชิงทรัพย์ ขายทรัพย์สิน และ ขายตัว เพื่อหาเงินมาใช้หนี้พนันฟุตบอล
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 ตำรวจสามารถจับกุม เจ้ามือพนันฟุตบอลได้แล้ว 6 ราย
ตนกำชับตำรวจไม่ให้ประกันตัวทุกราย ส่วนผู้เล่นพนันฟุตบอลถูกข่มขู่ ให้ไปแจ้งความไว้ ที่ สภ. ไหนก็ได้ พร้อมให้บอกว่า
แทงพนันฟุตบอลที่ไหน มีใครเป็นเจ้ามือ ขอให้เอาโพยมาให้ตำรวจ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน จะกันผู้แจ้งไว้เป็นพยาน หากตำรวจคนใดไม่รับแจ้งความ ขอให้แจ้งมายังตน จะดำเนินการตั้งกรรมการสอบตำรวจคนนั้นทันที

|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
ดร.มนตรี
|
 |
« ตอบ #72 เมื่อ: 22 มิถุนายน 2553, 09:02:14 » |
|
Work-life balance is a broad concept including proper prioritizing between "work" (career and ambition) on one hand and "life" (pleasure, leisure, family and spiritual development) on the other. Related, though broader, terms include "lifestyle balance" and "life balance". Ref: http://en.wikipedia.org/  
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #74 เมื่อ: 08 สิงหาคม 2553, 07:57:43 » |
|
 Fw: วิธีช่วยฟื้นชีวิต แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คจาก1ชม.ให้กลับมา2-3ชม.เหมือนเดิม
ด้วยการทำ calibrate แบตเตอรี่ นี่คือคำตอบ ที่ได้มาจากฝ่ายสนับสนุนฮาร์ดแวร์ของบริษัท แอบเปิ้ล
ผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ Mac ชื่อดัง และโทรศัพท์ iPhone
เครื่องเล่นเพลงอย่าง iPod แนะนำมาอย่างนี้ครับ การปรับแต่งแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
เพื่อยืดอายุให้นานวันและมีพลังเพียงพอในการทำงานเสมอ
(โดยเฉพาะแบตเตอรี่ยุคใหม่ที่เป็น Lithion) ควรจะทำการ calibrate
ตามขั้นตอนดังนี้ 1. เสียบปลั๊กเพาเวอร์อะแดปเตอร์ให้ชาร์ตแบตเตอรี่ให้เต็ม100%.
2. ปล่อยให้มีการชาร์ทต่อไปอีกสัก 2 ชั่วโมง ซึ่งคุณยังสามารถใช้อุปกรณ์ได้ตามปกติ.
3. ถอดปลั๊กเพาเวอร์อะแดปเตอร์ แล้วใช้งานไปตามปกติจนกระทั่งแบตเตอรี่หมด
4. จนกระทั่งแบตเตอรี่หมดจริงๆ และเครื่องเข้าสู่ภาวะหลับ (sleep) 5. ปิดเครื่องหรือปล่อยให้มันหลับไป ทิ้งไว้ประมาณ 5 ชั่วโมงหรือมากกว่า
6. ครบ 5 ชั่วโมงแล้วเชื่อมต่อเพาเวอร์อะแดปเตอร์อีกครั้ง ทำการชาร์ทไฟให้เต็มที่อีกครั้ง
แบตเตอรี่ของคุณจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง. Tip: วิธีการนี้ผมลองทดสอบกับเครื่องโน้ตบุ๊คที่ใช้งานมาประมาณปีเศษ
จากที่เคยใช้งานได้นานสามชั่วโมงก็จะเหลือเพียงชั่วโมงเศษๆ เลยใช้วิธีการนี้ดูบ้าง
ปรากฏว่าทำให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้เกือบสองชั่วโมง
เลยทำการ calibrate ซ้ำไปสี่ห้าครั้ง เรื่องไม่น่าเชื่อก็บังเกิด
แบตเตอรี่ก้อนนั้นสามารถกลับมาจ่ายประจุได้สามชั่วโมงอีกครั้งหนึ่ง
ทดลองดูซิครับ อาจจะไม่ต้องเสียเงินห้าหกพันสำหรับแบตเตอรี่ก้อนใหม่ก็ได้นะครับ จะทดลองทำดู....มันก็ไม่เสียหายอะไร มิใช่หรือครับ
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
  
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
 |
« ตอบ #76 เมื่อ: 12 กันยายน 2553, 15:42:08 » |
|
วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 15:03:55 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1284278449&grpid=02&catid=no

เปิดหัวใจดวงแกร่ง"เจ๊เกียว"สุจินดา เชิดชัย ธุรกิจ เงินตรา ลิขิตฟ้า และบุญคุณ !
เปิดใจ "เจ๊เกียว" 53 ปีบนเส้นทางต่อสู้ จากเงิน 121 บาท กลายมาเป็นเศรษฐีพันล้าน เสียภาษีปีละร้อยล้าน เชื่อหรือไม่ว่า ไม่มี พระอาทิตย์ตกดินในอาณาจักรเชิดชัย เงินงอกตลอด 24 ชั่วโมง อยากรู้เคล็ดลับเศรษฐี ต้องอ่าน
ในแวดวงธุรกิจเดินรถ ไม่มีใครไม่รู้จัก "เจ๊เกียว" สุจินดา เชิดชัย เจ้าของสัมปทานรถทัวร์รายใหญ่และกิจการในเครือเชิดชัยกรุ๊ป อย่างแน่นอน จนหลายคนเรียกเธอว่า "เจ้าแม่รถทัวร์" "เจ้าแม้บ้าอะไรขับรถเอง บอดี้การ์ดสักคน ก็ไม่มี " เจ๊เกียว หลานย่าโม ตอบชัดเจน เชื่อหรือไม่ จากเงินลงทุนเพียง 121 บาท เจ๊เกียว สร้างอาณาจักรเชิดชัย ให้ยืนหยัดและมั่งคงมากว่า 53 ปีแล้ว ขณะที่เธอกลายเป็นเศรษฐีนีภูธร ผู้มีบารมี และคอนเน็กชั่นรอบด้าน ตั้งแต่เด็กขายกาแฟ นักการเมือง ไปจนถึงเจ้าสัวใหญ่ในเมืองไทย ทุกวันนี้ เจ๊เกียว ในวัย 73 กะรัต ยังคงทำงานหนักไม่ยอมเหน็ดเหนื่อย เธอนอนแค่วันละ 6 ชั่วโมง แถมยังขับรถเดินสายดิวส์ธุรกิจและพบปะสังสรรค์ผู้คนด้วยตัวเอง ยานพาหนะคู่ใจของเจ๊เกียว ไม่ใช่รถเบนซ์ หรือ BMW ป้ายแดง แต่เป็น ฮอนด้า ซีอาร์วี รุ่นล่าสุด ที่ดูโทรมมากแล้ว ใครอยากรู้ว่า "เจ๊เกียว" ใช้ชีวิตสนุกและมันส์แค่ไหน หรือ มีรสนิยมแบบใด "ประชาชาติธุรกิจ" ชวนเจ๊เกียว สนทนาว่าด้วยชีวิตหลากมิติของเธอ ที่ใครหลายคนอาจไม่เคยรู้ ...
--------------------------- @ ทำไมต้องมีรูปเจ๊เกียวติดข้างรถทัวร์ด้วยครับ ก็อยากจะให้เขารู้ว่า เชิดชัย บริหารโดยเจ๊เกียว ตอกย้ำแบรนด์ แต่ไม่ถูกนะนั่นน่ะ รูปละ 3 หมื่น แล้วก็มีเวอร์ชั่นถ่ายกับหลาน เป็นเวอร์ชั่นที่ไปเดินแฟชั่นโชว์กับหลาน ก็เลยนำมาติดไว้ด้วย ฉันเป็นคนชอบถ่ายรูป
@ ทุกวันนี้ ธุรกิจหลักของอู่เชิดชัยมีแต่รถยนต์ หรือแตกไลน์ไปอย่างอื่นด้วย ที่มีแตกไลน์ออกมาก็คือ บริษัทรับจัดไฟแนนซ์รถยนต์ เช่น อีซูซุ วอลโว่ และรถเอนกประสงค์ต่างๆ หรือคุณขอมาฉันก็จะซื้อให้ แล้วก็ทำเรื่องเงินกู้ แต่ต้องเกี่ยวกับรถยนต์(นะ)
@ แล้วมีกลยุทธ์สู้กับรถตู้ยังไงบ้าง ฉันกลับไม่อยากสู้(นะ) อยากให้เขาทำมาหากินไป เพราะเขาก็มีครอบครัว มีญาติพี่น้องที่ต้องดูแล ฉะนั้น เราก็ทำรถใหญ่ของเราไป คงไม่ไปต่อสู้ ถ้าไปต่อสู้ ก็ไปเจอลูกกระสุน เอาชีวิตไปตาย แล้วเราสมควรตายเหรอ ชีวิตเรายังน่ารื่นรมย์จะตาย มีความสุขออก @ แล้วมีวิธีปรับกลยุทธิ์รับมือกับธุรกิจสายนี้อย่างไรบ้าง เราก็ทำรถให้ดี เดินรถตรงเวลา รถสะอาด มีบริการที่ดี ทำมาตรฐานให้สูง มีคนขับรถดี อย่ามีอุบัติเหตุ ถ้ามีอุบัติเหตุก็ต้องดูแลเขาให้จบ ฉันยังอุตส่าห์ขอทางการ ขอประกัน ประกันหัวละ 10 บาท แล้วใช้ล้านนึงเวลาตาย แต่ตอนหลังเห็นเขาตัดออก วันละ 5 บาท แต่เอาอย่างฉันนี่แหละ ขึ้นรถทีนึงขอเก็บ 10 บาท มาทำประกัน แต่ต้องเก็บทั้งหมดนะ เก็บไม่ทุกบริษัทไม่ได้ แต่ก็อาจจะสำเร็จยาก แต่ก็ต้องพยายามสร้างมาตรฐานไปเรื่อยๆ
@ เรียกเจ๊เกียวเป็นเศรษฐีนีพันล้านได้มั๊ย ฉันไม่เคยคิดว่าตัวฉันเป็นเศรษฐี เพราะฉันเกิดมาลงทุนด้วยเงิน 121 บาท ลงทุนเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2501 คือวันแต่งงานฉัน แล้วฉันก็สร้างเนื้อสร้างตัวของฉันมาตลอด ถามว่าวันนี้ฉันมีกี่พันล้าน ก็คงไม่คิด เพราะฉันไม่เคยไปคำนวณ ฉันคิดแต่ว่า วันหนึ่งถ้าเงินไม่พอใช้ ฉันก็จะไปบอกแบงก์กรุงเทพ เอาเงินแบงก์กรุงเทพมาทำธุรกิจ เป็นพันธมิตรหลักเลย ฉันทำงานแล้วก็ผ่อนไปเรื่อยๆ จนหมด พอมีโครงการใหม่ก็ไปขออีก
 @ บอกเคล็ดลับการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จกับลูกๆหลานๆหน่อยจะได้มั๊ย คนเราต้องใช้หลักชีวิต 3 หลัก
1. ขยัน
2. ประหยัด และ
3. มีคุณธรรม
สามอย่างแค่นั้นเองอย่าไปเอามากหลาย ไม่ต้องไปทำอะไรผิด ไม่ต้องไปมีเรื่องกับใคร ไม่ต้องไปกลัวใคร เพราะเราไม่ได้ทำผิด
แล้วก็สอนลูกเราให้ถือศีล 5 เพราะถ้าทำได้ก็เลิศแล้ว ศีล 8 ก็เยอะไป แล้วชื่อเจ๊เกียวก็อยู่คู่ฟ้าเมืองไทยนี่แหละ ทำธุรกิจอู่เชิดชัยมา 53 ปี ตอนนี้อายุฉัน 73 แล้ว สำหรับเชิดชัยฉันเคยตั้งปณิธานไว้ว่า จะไม่มีตะวันตกดินที่เชิดชัย เพราะกลางวันได้รายรับจากอู่ ส่วน 6 โมงเย็นถึงตี 4 ถึงสว่าง ก็ได้เงินจากการเดินรถ มันเลยไม่มีตะวันตกดินที่เชิดชัย ได้เงิน 24 ชั่วโมง
@ เลือกตั้งครั้งต่อไป ลูกๆก็ยังอยู่เพื่อไทยเหมือนเดิม อยู่เพื่อไทยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพราะฉันถือบุญคุณเป็นหลัก @ แล้วถ้ามีคนถามเจ๊ว่า เจ๊ใส่เสื้อสีอะไรล่ะ ฉันนะเหรอ ฉันจะไม่ตอบ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในใจเราเอง ฉันจะไม่บอกใครเลย เพราะบอกไปแล้วก็มีทั้งบวกและลบ ฉะนั้น สิ่งที่บวกและลบจะไม่พูด อย่างเขาบอกว่า ให้ช่วยเอารถไปขนเสื้อแดง ฉันบอกว่า ฉันขนไม่ได้หรอก ถึงจ้างฉันก็ไปไม่ได้ เพราะว่ารถฉันมีหน้าที่วิ่งโดยสาร ไปไหนไม่ได้ แล้วอีกอย่าง ฉันไม่สามารถไปทำในสิ่งที่ ตัวเองต้องเดือดร้อน ฉันเป็นผู้หญิงนะ ใครจะคุ้มครองฉันล่ะ
ฉะนั้นฉันจะไม่บวกไม่ลบ ฉันก็จะ 50: 50 @ ได้ข่าวว่า เจ๊เป็นคนเชื่อในเรื่องโชค ฉันเชื่อในเรื่องโชค เวรกรรม ฟ้าลิขิต ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
ฉะนั้น ถ้าอยากรวยก็ต้องทำดี แต่ส่วนหนึ่งฉันว่าอยู่ที่การกระทำของเรา ฉันไม่ได้แขวนพระอะไรเลย แต่ตอนเช้า ฉันก็จะกรวดน้ำ สวดมนต์ แต่บทสวดฉันก็จะแต่งตั้งขึ้นมาเอง มีคาถาลับ (หัวเราะ) จากหลวงพ่อที่เดินธุดงค์บ้าง แต่ฉันไม่ได้วิ่งไปหาหลวงพ่อนะ แต่ต้องช่วยเหลือตัวเองก่อน เพียงแต่ฉันชอบดูหมอ ฉันมีหมอประจำตัวคู่บุญเจ๊เกียว ดูฤกษ์ยามให้ทุกอย่าง ยกหูกริ๊งเดียว ชื่อ หมอดูไพศาล ( ปราโมทย์ ปิตตะพันธุ์) @ เศรษฐีพันล้านอย่างเจ๊เกียว ใช้จ่ายวันละเท่าไหร่ บางวันไม่ได้ใช้เงินเลย เพราะกับข้าวที่บ้านมีเยอะ บางวันก็ 400-500 บาท @ โกรธหรือไม่สบายใจหรือเปล่า เวลาที่มีใครมาเรียกว่า มาเฟียบ้าง เจ้าแม่บ้าง อย่ามาเรียกฉัน ฉันไม่ใช่เจ้าแม่ เจ้าแม่บ้าอะไรขับรถเอง แล้วก็ไม่เห็นมีใครเดินตามเลย เพราะฉันไม่ชอบ ที่ขับรถเอง เพราะฉันชอบ มันส์ดี รถฉันใครอย่ามาซื้อต่อนะ โทรมน่าดูเลย แล้วเวลาขับ ตรงไหนสะพานสูงๆ ที่จำได้ ฉันจะเร่งเครื่องไม่เบรกเลย แล้วกระแทกให้ไปตกตรงกลางสะพาน แล้วเด้งสัก 3 เด้ง แต่ถ้าได้ 5 เด้ง เก่งที่สุดเลย ตึง ตึง ตึง @ ทุกวันนี้ชีวิตมีความสุขมั๊ยครับ เกินจะสุข อายุ 73 กำไรแล้ว ตื่นเช้ามา ก็ทำงาน แล้วก็นอนตี 3 บางทีช่วงค่ำ ก็ขับรถไปดูหนัง อย่างบุญชู ฉันไปดูมาแล้วนะ ขับรถไปเอง ไปซื้อตั๋ว เอาขนมใส่กระเป๋าไปกิน ใช้ชีวิตสนุกมาก หรือสักอาทิตย์หนึ่ง ฉันก็ไปตลาดสี่มุมเมือง ไปซื้อผัก จนกลิ่นผักเต็มรถไปหมด จะบอกให้ว่า กลางวันผักจะขายถูก เพราะผักมันตาย อย่างหน่อไม้ กลางคืนมัดละ 80 บาท กลางวันเหลือ 25 บาท
แล้วการที่เราไปตลาดก็ได้กำไร
กำไรที่ 1. เราก็ได้ของถูก ได้ไปช่วยชาวบ้านซื้อของ
กำไรที่ 2. ไปตลาดเหงื่อโชกทั้งตัว เคยไปโยคะร้อน ชั่วโมงครึ่ง เหงื่อยังไม่อออกเลย ไปตลาดซิ ไม่เกิน 20 นาที โอ้โห ! เหงื่อแตก ได้สุขภาพ @ เคยลำบากที่สุดแค่ไหน ก็ลำบากมาก แต่ก็สนุกดี ต้องวิ่งหาเงินกู้ มาใช้ในอู่ ลำบากมาก แต่ไม่เคยเกลียดตัวเอง (นะ) ไม่เคยท้อถอย ไม่เคยโทษชะตาชีวิต กรรมมา(กู) ก็สู้ก่อน สักวันบุญก็มาถึง คือ
วันนึง 24 ชั่วโมง ฉันจะใช้เวลา 18 ชั่วโมงให้เต็มที่ ขอนอนแค่ 6 ชั่วโมง ฉันเคยเลี้ยงหมู เคยตัดเสื้อ อะไรเป็นเงินทำหมด แล้วได้เงินมาก็จะเก็บดีๆ แล้วเงินมา ก็ต้องต่อเป็นเงิน ไปใช้หนี้แบงก์ ให้เงินทำหน้าที่ของมันไป @ ให้เงินทำหน้าที่ของมันไป เป็นอย่างไร ธุรกิจที่เราจะรวยได้ เราอย่าปล่อยให้ธุรกิจเรามีช่องว่าง สมมุติว่าใครจะเช่ารถ จะซื้อรถ พยายามตามให้ติดๆ แล้วก็ตั้งเป้า ปีนี้ 2 พันล้าน ปีหน้าเราอาจจะตั้ง 3 พันล้าน ปีต่อๆ ไป อาจจะตั้งมากกว่านั้น ฉะนั้นการเก็บเป้า ต้องเก็บตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 365 ทำทุกวัน ฉะนั้น ชีวิตฉัน ไม่เคยปวดหัว มีเวลาว่างก็ไปดูหนัง ชอบดูหนังรัก แล้วก็พวกเกี่ยวกับดวงดาว จักวาล ความเป็นไปของโลก โลกจะไปทางไหน อย่างนั้นชอบดู @เมื่อกี้บอกว่าชอบดูหนัง ดูละคร ละครดูเป็นบางเรื่อง อย่างกุหลาบไร้หนามก็ดู แต่จบไม่ดีเลยอ่ะ คนชั่วได้ดี คนทำไม่ดีก็ต้องได้ไม่ดี (หัวเราะ) ละครบางเรื่อง เพลงเพราะ เราก็อัดไว้ อย่างเพลงละครเรื่องไทรโศก อัดไว้เลย เพราะมาก (ว่าแล้ว ...เจ๊ก็ร้องเพลงละครไทรโศกให้นักข่าวประชาชาติฟัง) @ ชีวิตเจ๊เกียว เคยร้องไห้บ้างมั๊ย ชีวิตฉันไม่ค่อยมีน้ำตา สามีตายก็ไม่ร้องไห้ แปลกมั๊ย ก็จัดงาน แต่ดูละครแล้วร้องไห้ (หัวเราะ) คือบางทีชีวิตตัวละครที่รันทดจริงๆ เราก็สงสาร บางทีก็อยากเอาเงินไปช่วยเหลือคนที่ยากไร้ @ อยากให้คนรุ่นลูกหลาน หรือประวัติศาสตร์บันทึกชีวิตเจ๊อย่างไรบ้าง ไม่ต้องการดีกว่า ฉันไม่ต้องการความนิยมชมชอบจากใคร ไม่ต้องมาบอกว่าเจ๊เกียวดีหรือไม่ดี นี่เขียนพินัยกรรมตายไว้เลยว่า
1. ห้ามไปขอพระราชทานเพลิงศพ
2. ตายที่ไหน ให้เก็บเข้าบ้าน ทำพิธีแค่ 40-50 วัน ให้จบ
สวด 48 วัน วันที่ 49 เผา วันที่ 50 ลอยอังคารแล้วก็จบเลย
3. ห้ามรับพวงรีด ห้ามรับเงินช่วยเหลือ
4. ไม่ต้องเลี้ยงอาหาร นอกจากน้ำชา กาแฟ ขนม หรือ ซาลาเปา 9 สี แค่นั้นก็พอ   
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|