23 พฤศจิกายน 2567, 06:08:43
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: การเมืองเป็นเรื่องสนุก ( จะเป็นประเด็นปลีกย่อย..เกร็ดเล็กๆน้อยๆ..ถากถาง..ขำขัน.)  (อ่าน 235302 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #475 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2555, 08:43:07 »

ซุกแต่หนี้-ดีแต่แจก

   

รายงานข่าวโดย: ..ณ กาฬ เลาหะวิไลย

ข่าวที่ทั้งโลกเฝ้าจับตาคือการแก้ปัญหาหนี้สินของประเทศกรีซ โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นจุดชี้เป็นชี้ตาย ที่รัฐสภาของกรีซจะต้องลงมติรับรองแผนการกู้เงินครั้งใหญ่ จำนวน 1.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

แน่นอน เงินก้อนนี้ไม่ใช่ของฟรี แต่เต็มไปด้วยเงื่อนไขมากมาย โดยเฉพาะการลดค่าใช้จ่าย อาทิ ต้องลดค่าจ้างขั้นต่ำในกรีซลง 22% ต้องลดการจ่ายเงินบำนาญ ลดการจ้างงานในภาครัฐ ฯลฯ

กรีซ มีทางเลือกแค่ 2 ประการ คือ ต้องผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อให้ได้เงินกู้ แต่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจและสังคม ต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย

หรืออีกทาง กรีซต้องยอมเป็นประเทศล้มละลาย

ทั้งหมดเกิดจากปัญหาหนี้สินของกรีซ


หนี้สินดังกล่าวสรุปรวบยอดแล้วมาจาก 2 สาเหตุ

นั่นคือการ ซุกแต่หนี้ กับ ดีแต่แจก


กรีซ เคยเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วสุดในยุโรปจากปัจจัยหลายประการ โดยเฉพาะการที่รัฐบาลใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจมหาศาล

รัฐบาลกรีซหลายชุดดำเนินการขาดดุลครั้งใหญ่เพื่อจัดหาเงินทุนแก่อาชีพภาคเอกชน บำนาญ และประโยชน์ทางสังคมอื่นๆ รวมถึงการเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ โดยไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีการพูดทำนอง ถ้าอุตสาหกรรมใดอยู่ในกรีซไม่ได้ก็ให้ย้ายไปประเทศอื่นด้วยหรือเปล่า

นั่นก็คือการแจก ใช้เงินประชานิยม ที่ทำให้เศรษฐกิจโต แต่แลกมาด้วยหนี้สินของประเทศ

เมื่อหนี้สินมากขึ้น รัฐบาลกรีซจึงเริ่มปฏิบัติการ ซุกหนี้ โดยรายงานสถิติทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างผิดๆ มาอย่างต่อเนื่อง มีเจตนาเพื่อให้ดูเหมือนว่ามีหนี้สินน้อย

ต้นปี พ.ศ. 2553 มีการค้นพบว่ารัฐบาลกรีซใช้วิธีซุกหนี้มากมายเพื่อให้รัฐบาลสามารถใช้จ่ายเงินได้เกินกว่ารายได้ โดยซ่อนตัวเลขหนี้สินที่แท้จริงจำนวนมหาศาล

แต่สุดท้ายกรีซก็ไม่รอด โดยเฉพาะเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐ ทำให้อุตสาหกรรมหลายประเภทประสบปัญหา

หลังน้ำลดตอก็เริ่มผุด กรีซต้องเผชิญกับความจริงของมายาประชานิยม


ประชาชนชาวกรีซกำลังชดใช้กรรม ตกงาน บ้านถูกยึด ไร้สวัสดิการ มองไม่เห็นอนาคต ไม่มีใครรู้ว่าวิกฤตหนี้จะจบลงเมื่อไร

ชาวกรีซนัดหยุดงานเพื่อประท้วงต่อการลดค่าใช้จ่าย การเพิ่มภาษี โดยมีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บหลายสิบคน และถูกจับกุม

เห็นกรีซแล้ว ก็ต้องขนพองสยองเกล้าอย่างไรก็ไม่รู้

ดูแล้วมันคุ้นๆ อย่างไรชอบกล

 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #476 เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2555, 09:36:52 »



ข้อสอบเข้ามหาลัย

1.ถ้านักเรียนได้มีโอกาสไปโรงแรม5ดาว นักเรียนจะไปพักชั้นใหน ให้เหตุผลด้วย

ก. ชั้น7
ข. ชั้น ว5
ค. ชั้นไม่สนสายตาใคร
 ง. ชั้นไปใหนเรื่องของชั้น
จ. ถูกทุกข้อ

เฉลย...ข้อ จ.ถูกทุกข้อ....

     
 
 
 
 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #477 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2555, 16:08:06 »

เอกยุทธ โพสต์เฟซบุ๊ก โต้คำชี้แจงนายกฯ ปมโฟร์ซีซั่น


จากกรณีที่วานนี้ (23 ก.พ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงกรณีการเดินทางไปที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน อีกทั้งไม่ได้หนีสภา รวมไปเผยว่าเหตุดังกล่าวเป็นเรื่องไร้สาระ และแค่เกมการเมือง จึงไม่ได้ออกมาชี้แจงนั้น

ทั้งนี้ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กตอบโต้การชี้แจงดังกล่าว ว่าเป็นคนละประเด็นกับการที่สังคมอยากรู้ ไม่ตอบให้ระเอียดครบถ้วน

“ยิ่งลักษณ์โพสท์ข้อความใน fb ชี้แจงข้อกังขา..แต่ข้อความที่เขียนคนละประเด็นกับที่สังคมและ ปชช.ผู้เสียภาษีกังขา..ไม่ตอบว่าพบใคร ? กี่คน ? ชั้นไหน ? คุยเรื่องอะไร ? และทำไมไม่เอา CCTV มาโชว์ให้ ปชช.เห็นและตอบให้ตรงประเด็น..พูดอย่างนี้ก็เหมือนเอาสีข้างเข้าถูครับ..ดูถูกปชช.ผู้เสียภาษีว่าโง่ จะตอบจะบอกอะไรก็ต้องฟังหรืออย่างไรครับ ?

นักการเมืองฝ่ายมีอำนาจเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ สส.ที่ออกมาทำหน้าที่ตรวจสอบแทน ปชช.ในกรณีโฟร์ซีซั่น..แต่ไม่เห็นฝ่ายรัฐบาลเร่งลัดเจ้าหน้าที่ให้หาตัวคนทำร้ายผมเลย..นี่แหละนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล..สุดยอดของการรับใช้..อำนาจมีไว้ปกป้องพวกตัวเองมากกว่า ปชช.ผู้เสียภาษี..เอาใจช่วย 3 สส.ที่ถูกแจ้งความครับ..ผมจะไปเป็นพยานให้..

เมื่อแจ้งความหมิ่นประมาท สส.ทั้งสามแล้ว..ตอนนี้ สส.ปชป.ทั้ง 3 สามารถใช้สิทธิทางกฏหมายขอพยานหลักฐาน CCTV มาประกอบคดีได้แล้ว..ดูซิว่าพวกอวดฉลาดใช้กฏหมายจะทำอย่างไร? หาก CCTV ถูกลบหรือหาย ก็จะถูกสังคมตัดสินเอง..แต่หากสามารถเอา CCTV ออกมาให้สังคมดูได้..คงหน้าแตกและได้เฮกันตรึม..ติดตามกันใกล้ชิดครับ..กำลังเข้าสู่จุดจบของเรื่องแล้ว..

ข้อเขียนของยิ่งลักษณ์ทาง fb นั้นเราคงต้องรอให้ยืนยันก่อน..เดี๋ยวเกิดโดน ปชช.ด่ามากๆก็อาจจะบอกว่าทีมงานเขียนผิดพลาดอีก แบบเดียวกับกรณีเอารูป รัชกาลอื่นมาขึ้นเป็นในหลวง..แล้วมาแก้ตัวทีหลัง..

ผมโดนทำร้ายเจ็บตัว ยังไม่แจ้งความเลยแถมโดนรองนายกฯขู่จะทำร้ายอีก..แต่คนเป็นนายกฯ โดน ปชช.กังขาและอยากให้ตอบในสิ่งที่ ปชช.ต้องการรู้และฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบ กลับโดนแจ้งความเพื่อเอาผิด..นี่ยุคเผด็จการครองเมืองแน่นอน..

ผมว่าสตรีที่ดีๆและเก่งๆของประเทศเราคงรู้สึกอับอายขายหน้ากับพวกอ้างคำว่าสตรีมาหากินนะครับ..” ในเฟซบุ๊กของ นายเอกยุทธ ระบุ

 

Mthai News

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #478 เมื่อ: 02 มีนาคม 2555, 12:47:42 »

BMW & A Blonde
 

A blonde buys the new Automatic BMW X8 sport.

She drives the Car perfectly well during the day, but at night the Car just
won't move at all.

She tries driving the car at night for a week but still no luck.

She then furiously calls the BMW dealers and they send out a technician to
her, the technician asks " Mam, are you sure you are using the right gears?"
Full of anger Yingluck replies "You fool, idiot man, how you could ask such a
question, I'm not stupid!!
 
I use D for the Day and N for the Night...".

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Soponเท่านั้น
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,405

« ตอบ #479 เมื่อ: 04 มีนาคม 2555, 07:28:21 »

วันนี้เพื่อนเราเก่งภาษาปะกิตแฮะ ดูซิ่ หูกระดิกเชียว
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #480 เมื่อ: 04 มีนาคม 2555, 22:04:59 »

อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 04 มีนาคม 2555, 07:28:21
วันนี้เพื่อนเราเก่งภาษาปะกิตแฮะ ดูซิ่ หูกระดิกเชียว
หูกระดิกนี่ ท่าทางไม่ใช่คนแหงๆๆ...
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #481 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 16:15:42 »

รายงานตัวครับ

      บันทึกการเข้า

seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #482 เมื่อ: 11 มีนาคม 2555, 22:35:25 »

“พี่กนก” สั่งสอน “น้องนภพัฒน์จักษ์” หลังนั่งเทียนเขียนข่าวอวย “จ.เจตน์”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
นายนภพัฒน์จักษ์ ยอมรับผิดพลาด​ที่อ้างอิงข้อมูลแหล่งเดี​ยว

โดนถล่มไม่หยุดจนต้องเอ่ย "ขอโทษ"


      
“นภพัฒน์จักษ์” ดิ้นไม่หลุด หลังถูก “กนก” โต้กลับ กรณีเขียนบทความชื่นชม “จ.เจตน์” โดยไม่สอบถามความจริง แต่กลับเชื่อทวิตเตอร์ของคนเสื้อแดง ซ้ำถูก “กนกแฟนคลับ” ถล่มยับว่าเป็นอีแอบแดง นั่งเทียนเขียนข่าว จนนักข่าวรุ่นน้องต้องขอโทษรุ่นพี่ ผ่านหน้าเฟซบุ๊ก
       
       จากบทความ หลังจากนั้น เวลาประมาณ 19.30 น. นายกนก รัตน์วงศ์สกุล ก็ได้ตอบกลับนายนภพัฒน์จักษ์ ดังนี้
       
       1.นภพัฒน์จักษ์ แน่ใจหรือว่า เขียนบทความนี้ 1 วันหลังจากเกิดเหตุ? เหตุเกิดวันไหนน้องรู้มั๊ย? ไม่ได้ถามเรื่องราวจากผม แต่ไปถามกับทีมงาน! คนไหนครับ? เพราะคืนนั้นไม่มีใครรู้มาก่อน ทั้งทีมงานช่อง 9 หรือทีมงานเนชั่น ผมเป็นคนโทร.แจ้งน้องทีมงานของทางเนชั่นคนเดียว มีคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในห้องกับผมคืนนั้น แล้วน้องคนนี้ก็ไม่ได้คุยอะไรกับนภพัฒน์จักษ์ จึงอยากรู้ว่า ไปถามจากทีมงานคนไหน?
       
       2.บทความนี้ ดูเผินๆเหมือนแสดงความปรารถนาดีกับผม แต่การเลือกนำเสนอมุมมองจากทวิตเตอร์กลุ่มที่มานั้น ผมมองว่า เป็นการแสดงความปรารถนาดี ช่วยอธิบายให้กลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นกลุ่มที่น้องนภพัฒน์จักษ์เข้าไปคลุกคลีอยู่หลายคน
       
       3.อะไรทำให้ นภพัฒน์จักษ์ เชื่อเนื้อหาจากทวิตเตอร์นั้นทั้งหมด? ความจริงผมไม่อยากพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก ถ้าเนื้อหาที่เห็นมันสอดคล้องตามข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่มันไม่ทั้งหมด “กลุ่มที่มาไม่ได้ทำเรื่อง แจ้งให้ อสมท.ทราบ” เป็นไปไม่ได้ ถ้าแจ้งประสานมาแล้ว ทาง อสมท.จะไม่แจ้งผม เพราะหลังจากเกิดเรื่อง ผมได้คุยกับผู้ใหญ่บางท่านของช่อง 9 ท่านน่ารักมาก ท่านลงมาขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น และบอกว่า ไม่มีใครรู้เรื่องมาก่อน อีกทั้งคนชื่อเจตน์ ก็ถามผมก่อนจะพูดคุยว่า “จะเรียกใครมาร่วมรับฟังไหม” เพราะเขาเห็นว่าตอนนั้น ก่อนที่น้องทีมงานจะมาอยู่ 1 คน ไม่มีใครอยู่กับผมเลย ก็เพราะคนกลุ่มนี้ มาโดยไม่ได้บอกใครในสถานีไง
       
       4.เนื้อหาที่นภพัฒน์จักษ์เอามาจากทวิตเตอร์ บอกว่า เห็นคุณกนก งงๆ ตกใจ ก็รู้เลยว่า ไม่รู้ตัวมาก่อน คนชื่อเจตน์จึงเข้ามา "สวัสดีพร้อมแนะนำตัวอย่างสุภาพ ถึงเหตุผลที่มาในคืนนั้น!!! ประโยคแรกที่คนชื่อเจตต์พูดกับผม คือ “ขอให้หยุด..เดี๋ยวก่อนๆ ขอพูดอะไรหน่อย..จะกลับมาหรือเปล่า? (ผมขอไปเปลี่ยนเสื้อ) จะหนีไปมั้ย?” แค่คำว่าสวัสดียังไม่มีเลยนภพัฒน์จักษ์
       
       5.ทั้งหมดที่มาในคืนนั้น ผมเห็นอยู่ 2-3 คน ที่ผมคิดว่าเขามีเหตุผล พูดคุยและรับฟังความเห็นจากผม ไม่ได้มาแบบตั้งป้อมจะให้ผมออกจากการทำรายการ 1 ใน 2-3 คนนั้น ยังขอจับมือกับผมในตอนท้าย ซึ่งผมประทับใจเค้าเป็นการส่วนตัว เสียดายที่ไม่ได้ถามชื่อ และหนุ่มคนนั้นเป็นคนตรงไปตรงมา เขาใส่เสื้อสีแดง บอกกับผมตรงๆ ว่า เขาเป็นเสื้อแดง เขาต้องการช่วยพี่น้องของเขาที่ติดคุกด้วย ม.112 ทั้ง 2-3 คนนั้น ไม่รวมคนชื่อเจตต์
       
       6.นภพัฒน์จักษ์ รู้มั้ย ที่เขามาในคืนนั้น ประเด็นหลักที่จะมาร้องเรียนผม คือเรื่องอะไร? น้องถึงไปเขียนบทความประมาณ ว่า เป็นเรื่องดีที่สื่อจะรับฟังความเห็นของประชาชน ผมรับฟังความเห็นของทุกๆคนเสมอ แต่คืนนั้นคนชื่อเจตน์เริ่มด้วย “จากกรณีที่ อ.วรเจตน์ ถูกทำร้ายร่างกาย เราคิดว่าคุณคือสื่อที่เป็นตัวปัญหาของเรื่องนี้!! คุณกนกเป็นสื่อในกระแสหลักที่ทำรายการด้วยความเห็นส่วนตัว ทำให้สังคมแตกแยก”
       
       สุดท้ายผมถึงบอกว่า กลุ่มคนที่มาไม่เคยดูรายการผม นภพัฒน์จักษ์ ก็คงไม่ได้ดู ถ้าดูจะรู้ว่าตั้งแต่หลังเลือกตั้งเป็นต้นมา รายการผมมีแต่ข่าว จับยาบ้า ค้ายาไอซ์ แฉบ่อน พระมั่วสีกา จานบินต่างดาว มะนาวแพง ไฟไหม้ หมอกควัน ศาลาการเปรียญเฮี้ยน ประเด็นเหล่านี้หรือที่ทำให้สังคมแตกแยก? ผมไม่อยากพูดเรื่องนี้นะ จนกระทั่งนภพัฒน์จักษ์ เขียนบทความ
       
       ระหว่างการพูดคุยกัน ของ นายกนก และ นายนภพัฒน์จักษ์ ผ่านทางหน้าเฟซบุ๊ก ก็ได้มีคนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก ในเชิงต่อว่านายนภพัฒน์จักษ์ เป็นเสื้อแดง และนั่งเทียนเขียนข่าว

       
       จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.นายนภพัฒน์จักษ์ ได้ยอมรับผิดที่อ้างอิงข้อมูลจากแหล่งเดียว แต่ขอยืนยันว่ามีเจตนาบริสุทธิ์
       
       “พี่กนกครับ ผมโดนด่าเยอะพอสมควร แต่ที่ไม่สบายใจที่สุดคือผมไม่อยากให้พี่เข้าใจเจตนาผมผิด เพราะผมเคารพ และนับถือพี่กนกมาตลอด
       
       ยอมรับว่า ครั้งนี้ผมผิดพลาดไปที่อ้างอิงข้อมูลแหล่งเดียว อยากอธิบายในทุกเรื่องแต่ผมไม่อยากลงรายละเอียดมาก เพราะตรงนี้เป็นที่สาธารณะ และตอนนี้ก็มีคนคอยอยากสร้างสถานการณ์ คอยเสี้ยม ค่อนข้างมาก
       
       ยังไงขออภัยพี่กนกมา ณ ที่นี้ ที่แม้ว่าผมจะยืนยันว่า ส่วนของบทความผมเขียนด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ แต่ก็ได้สร้างความลำบากใจให้กับพี่ครับ ส่วนรายละเอียดที่เหลือ ผมขอโอกาสรบกวนเวลาไปคุยกับพี่เป็นการส่วนตัวนะครับ เพราะไม่อยากให้กลายเป็นภาพคนเนชั่นทะเลาะกัน จะได้ไปขออภัยด้วยตัวเองด้วย
       
       เอมครับ”
       
       แต่กระแสต่อว่านายนภพัฒน์จักษ์ ก็ยังคงไม่หยุด จนกระทั่งล่าสุดเวลา 23.30 น.นายนภพัฒน์จักษ์ ก็ได้พิมพ์ขอโทษนายกนก
“ผมขอโทษพี่กนกครับ”
       
       ที่มา : www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=376617472355958&id=130660513618323


   
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #483 เมื่อ: 12 มีนาคม 2555, 10:30:07 »

เรื่องที่คนไทยรู้นานแล้ว แต่วอลล์สตรีท เจอร์นัล เพิ่งจะรู้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ข้อเขียนสั้นๆ เรื่อง “ Some Japanese Still in the Dark Over Thailand ‘s Flood Plan” ของ อีเลียนอร์ วาร์นอค ในบล็อก “ แจแปน เรียลไทม์ “ ของเว็บไซต์ ดิ วอลสตรีท เจอร์นัล ทำให้ ความพยายามที่จะสร้างภาพ “ ยิ่งลักษณ์ โกอินเตอร์” ของทีมงานด้านประชาสัมพันธ์ และสร้างภาพ นายกรัฐมนตรี นกแก้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่วางแผนกันมาอย่างดี พังทลายลงไปในชั่วข้ามคืน
       

        ก่อนหน้า การเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ของนักลงทุนญี่ปุ่น ต่อมาตรการป้องกันน้ำท่วมของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 6-9 มีนาคม ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์เสื้อแดงฉบับหนึ่ง ได้รับมอบหมายให้สร้างภาพภาวะผู้นำ ของนายกฯนกแก้ว ด้วยการนำกำหนดการการเยือน มาสร้างเป็นข่าวนำหน้า 1 ติดต่อกัน 2 วันซ้อน
       
       ภาพของนายกฯนกแก้ว ในการเดินทางไปโรดโชว์ ญี่ปุ่นหนนี้ ดูเก่งกล้า สมกับเป็นนักบริหารมืออาชีพ ด้วยภาษาพาดหัวข่าวที่บรรงจงปั้นให้โดนใจผู้อ่าน อย่าง “ ปูนำเจรจา” และ “ปู กล่อม (ซีอีโอ ญี่ปุ่น) รายตัว”
       
       ระหว่างการเยือน ข่าวภารกิจและความสำเร็จของนายกฯนกแก้ว ถูกจัดทำแบบสำเร็จรูปโดยทีมงานด้านประชาสัมพันธ์ ป้อนให้กับสื่อทุกสำนัก รายงานอย่างยาวเหยียด และละเอียดยิบทุกวัน ให้คนไทยได้ชื่นชมว่า บัดนี้ นักลงทุนญี่ปุ่น เกิดความมั่นใจในแผนการป้องกันน้ำท่วมของรัฐบาลแล้ว จะไม่ถอนการลงทุนออกจากประเทศไทย เพราะฝีมือการเจรจาหว่านล้อมของนายกฯนกแก้ว
       
       แต่แล้ว ข้อเขียนสั้นๆ ความยาวประมาณ 500 คำ เพียงชิ้นเดียวนี้ ก็ได้ทำลายภาพลวงตาที่สร้างขึ้นจากข่าวแจกหลายสิบชิ้น คิดเป็นจำนวนคำได้หลายหมื่นคำ ซึ่งสื่อมวลชนไทยช่วยกันถ่ายทอดให้คนไทยได้รับรู้ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ภายในพริบตา
       
       มันเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย ทีมงานสร้างภาพของนายกฯนกแก้ว คิดไม่ถึงว่า จะเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ขึ้น เพราะได้หาทางป้องกันไม่ให้ ฝันร้าย ที่เคยเกิดขึ้นครั้งที่ ฮิลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯมาเยือนไทย และการประชุมที่ดาวอส
       
       น่าเห็นใจ ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานอิ่นๆที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องทำงาน ภายใต้กรอบความรู้ สติปัญญา ที่จำกัดของผู้นำ
       
       ไม่รู้ว่า เป็นเพราะเรื่องนี้หรือเปล่า หลังนายกฯนกแก้ว เดินทางกลับถึงประเทศไทย จึงยังใม่มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เรื่อง การเยือนญี่ปุ่น เลย
       
       แจแปน เรียลไทม์ เป็นบล็อกที่รายงานข่าว ความเคลื่อนไหว ด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และไลฟ์สไตล์ ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่น โดยผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ดิวอลล์สตรีท เจอร์นัล และ สำนักข่าวดาวโจนส์ ในเว็บไซต์ WSJ -Japan ซึ่งมีบล็อกประเภทเดียวกันนี้อยู่หลายบล็อก แยกตามประเทศ ที่เป็นตลาดเป้าหมาย เช่น โคเรีย เรียลไทม์, สิงคโปร์ เรียลไทม์ และไชน่า เรียลไทม์ เป็นต้น
       
       ดิ วอลสตรีท เจอร์นัล เป็นหนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์ข่าว ของสหรัฐฯ ที่รายงานข่าวธุรกิจ การลงทุน ตลาดเงิน ตลาดทุน ทั่วโลก ได้รับการยอมรับ และมีอิทธิพลอย่างสูง ในหมู่ผู้กำหนดนโยบายทั้งภาครัฐและเอกชน รายงานข่าว และบทความที่เผยแพร่ เป็นการรายงานข้อเท็จจริง และสะท้อนความคิดเห็นของบุคคลในภาคธุรกิจ
       
       ความมึนงงว่า นายกรัฐมนตรีของไทยพูดอะไร และไม่มั่นใจในแผนป้องกันน้ำท่วมของรัฐบาลไทย จึงไม่ใช่ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน แต่เป็นบรรยากาศ และความรู้สึกของนักธุรกิจญี่ปุ่นหลายร้อยคน ที่มาร่วมการสัมมนาเมื่อบ่ายวันที่ 7 มีนาคม เพื่อรอฟังว่า รัฐบาลไทยซึ่งคุยว่า มีเงินอยุ่ในมือแล้ว 11,000 ล้านเหรียญ และมีแผนการป้องกันน้ำท่วมที่คิดขึ้นโดย พี่ชายนายกรัฐมนตรี
       
       เรื่อง นายกฯไทยไม่พูดภาษาอังกฤษ กับนักลงทุนญี่ปุ่น เป็นเพียงประเด็นเล็กๆ ที่ผู้เขียน เห็นว่า เป็นเรื่องแปลกอยู่ เพราะคนที่จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย เคนตั๊กกี้ สหรัฐอเมริกา น่าจะพูดภาษาอังกฤษได้ และหลายคนที่มาฟังนายกฯนกแก้ว อ่านภาษาไทยให้ฟังในวันนั้น ก็พูดภาษาอังกฤษได้ เพราะเป็นนักลงทุน นักธุรกิจ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า นายกฯ ไม่มั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษของตนเอง หลังจาก กรณีอ่านคำว่า “welcome” เป็น “overcome” ตอนกล่าวต้อนรับนางฮิลลารี่ คลินตัน เมื่อครั้งมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
       
       เรื่องที่ผู้เขียนคิดไม่ถึง และนักธุรกิจญี่ปุ่นบางคนเห็นว่า เป็นเรื่อง “ พิลึก” คือ การที่นายกฯนกแก้วอ่านสุนทรพจน์ เป็นภาษาไทย โดยไม่มีล่ามแปล มีแต่เพียงการแจกสุนทรพจน์ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ และญี่ปุ่น ให้ผู้ฟังไปอ่านเอง กระทรวงการต่างประเทศของไทยอ้างว่า เป็นข้อตกลงว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และประธานสภาหอการค้า ญึ่ปุ่นจะกล่าวเป็นภาษาญี่ปุ่น นายกฯไทยจะกล่าวเป็นภาษาไทย
       
       นายกฯญี่ปุ่น และประธานหอการค้าญี่ปุ่น พูดกับนักธุรกิจญี่ปุ่น ก็ต้องพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น โดยไม่ต้องมีล่ามแปล แต่นายกฯไทย ซึ่งเป็นฝ่ายไปง้องอน อ้อนวอน ให้เขาอย่าถอนการลงทุนออกไป ไปพูดภาษาไทยโดยไม่มีล่ามแปลให้คนญี่ปุ่นฟัง ใครๆก็ต้องเห็นว่า เป็นเรื่องพิลึก และไม่คิดว่า นายกรัฐมนตรีของไทยจะทำได้
       
       แต่เรื่องใหญ่ใจความ ของข้อเขียนของวาร์น็อคชิ้นนี้ น่าจะอยู่ตรงประโยคที่ว่า หลังจากที่นางสาวยิ่งลักษณ์ อายุ 44 ปี พูดกับผู้ฟังหลายร้อยคน เป็นเวลานาน 7 นาที โดยไม่มีล่ามแปล ทำให้ผูนำภาคธุรกิจจำนวนมากงงว่า เธอกำลังพูดเรื่องอะไร และพากันมะงุมมะงาหรา ไล่ดูเอกสารที่ได้รับแจกมา เพื่อเดาว่า เธอพูดถึงตรงไหนแล้ว
     
       “Ms .Yingluck then left the room in silence ,smiling and bowing as she went”
       

       การที่ กระทรวงต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย และนายสุรนันท์ เวชชาชีวะ โฆษกส่วนตัว ของนายกรัฐมนตรี ยกเรื่อง การไม่พูดภาษาอังกฤษของนายกฯนกแก้ว มาตอบโต้วอลล์สตรีท เจอร์นัล และคนที่วิพากษ์วิจารณ์ จึงเป็นเรื่องที่ผิดประเด็น เพราะความระหว่างบรรทัดของข้อเขียนชิ้นนี้คือ นายกรัฐมนตรีจากประเทศไทย ซึ่งเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ให้คงการลงทุนไว้ในประเทศไทยต่อไป โดยให้มั่นใจว่า รัฐบาลมีแผนป้องกันอุทกภัยเป็นอย่างดี ให้มั่นใจว่า น้ำจะไม่ท่วมนิคมอุตสาหกรรมอีก ปฏิเสธที่จะพูดกับนักลงทุนญี่ปุ่นอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นการแสดงความจริงใจ แต่ใช้วิธีส่งสาส์น ให้ไปอ่านกันเอง ปฏิเสธที่จะรับฟังคำถาม และตอบคำถามนักลงทุนเหล่านั้น อ่านโพยเสร็จ ก็โปรยยิ้ม เปิดตูด หนีออกจากห้องไปเลย เพราะไม่สามารถที่จะพูดอะไร ที่ไม่มีใครเขียนโพยให้ท่องไว้ก่อนได้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่คนไทยเห็นจนเบื่อ คร้านที่จะด่าแล้ว แต่วอลล์ สตรีท เจอร์นัล และนักลงทุนญี่ปุ่นเพิ่งจะรู้
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #484 เมื่อ: 17 มีนาคม 2555, 13:14:48 »


ว้าย..ย..ย..ซ์ ทีวี !! สื่อนี้ 'เพื่อไทย'

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน
      
      
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ออกตัวเอี๊ยดล้อฟรี...เลยทีเดียว สำหรับผู้บริหาร “สถานีโทรทัศน์ วอยซ์ ทีวี” ทีวีจานแดงแห่งค่ายเพื่อไทย “นายพานทองแท้ ชินวัตร” ซึ่งออกมาประกาศแน่นหนักถึง “ความเป็นกลาง” ในการทำหน้าที่สื่อ !!
       
       โดยรองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์วอยซ์ ทีวี ได้โพสต์ในเฟซบุ๊คส่วนตัวในชื่อ Oak Panthongtae Shinawatra เกี่ยวกับกรณีที่พันธมิตรฯ เลือดร้อน “กวีไกร โชคพัฒนเกษมสุข ” บันดาลโทสะทุบรถข่าวของ Voice TV ในขณะที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกำลังดำเนินกิจกรรมทางการเมือง บริเวณลุมพินีสถาน สวนลุมพินี ในช่วงบ่ายของวันที่ 10 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ในทำนองว่าถ้าเมืองไทยยังเลือกข้างเช่นนี้ คงยากที่จะเกิดความปรองดองสมานฉันท์ พร้อมทั้งโอดครวญขอความเห็นใจว่าวอยซ์ ทีวีถูกทำร้ายทั้งที่นำเสนอข่าวด้วยความเป็นกลาง
       
       “เมื่อได้อ่านความเห็นหลายด้านจา?กข่าวที่ออกมาเกี่ยวกับอดีตการ์?ดเสื้อเหลืองทุบรถผู้สื่อข่าวของ? Voice TV ที่ไปทำข่าวการชุมนุมของพันธมิต?รเมื่อถูกจับกุมกลับโดนด้วยการก?ล่าวหาจากพวกเดียวกันว่าเป็น "เหลืองเทียม"บ้าง "แดงปลอม"บ้าง ทำให้ผมรู้สึกหดหู่ใจและคิดว่าก?ารเมืองไทยหากยังเลือกข้างกันอยู่อย่างไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ ความสามัคคีปรองดรองของคนในชาติ? คงจะเกิดขึ้นได้ยากครับ โดยเฉพาะพฤติกรรม "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น" เมื่อพวกตัวเองทำผิดแล้วถูกจับไ?ด้ก็ กล่าวหาว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามทันที?อย่างไม่เขินอาย น่าจะหมดไปจากการเมืองยุคนี้แล้?ว แต่กลับยังคงเป็นการเมืองท่าไม้?ตายที่ใช้กันอยู่ทุกวี่วัน คิดแล้วก็ท้อใจครับ นี่ขนาด Voice TV เราเสนอข่าวอย่างเป็นกลางแล้วยั?ง โดนขนาดนี้ จะต้องให้เมืองไทยของเราแตกความ?สามัคคีกันจนล้าหลังเป็นอันดับบ๊วยของอาเซียนก่อนแล้วจึงค่อยหั?นหน้าเข้าหากันหรือเปล่าครับ เฮ้อออ..."
       
       นั่นคือ ข้อความจากเฟซบุ๊คของนายพานทองแท้
       
       ทันทีที่นายพานทองแท้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กโจมตีพันมิตรฯ ว่ามีพฤติกรรม “เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น” และสื่อที่เขาดูแลนั้นเสนอข่าวเป็นกลาง ไม่เลือกข้าง ไม่สร้างความแตกแยก “นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ ก็ออกมาสวนกลับทันควันว่า จากที่ติดตามการชุมนุมของพันธมิตรฯมาตลอดนั้น ยืนยันได้ว่าพันธมิตรฯ เป็นมวลชนที่ไม่นิยมความรุนแรง กรณีที่วอยซ์ทีวีถูกทุบรถนั้นนับเป็นเรื่องเล็กน้อยหากเทียบกับการคุกคามสื่อในสารพัดรูปแบบที่ ASTV ต้องพบเจอมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งการเสนอข่าวของวอยซ์ทีวี ภายใต้การกำกับดูแลของนายพานทองแท้นั้นก็ไม่ได้มีความเป็นกลางอย่างที่นายพานทองแท้อวดอ้าง
       
       “วอยซ์ทีวีถ้าเป็นกลางก็ควรจะรายงานให้รอบด้านมากกว่า ส่วนที่นายพานทองแท้ ระบุรู้สึกหดหู่ใจที่วอยซ์ทีวีถูกคุกคามนั้น สิ่งที่วอยซ์ทีวีโดนทุบรถเนี่ย มันเป็นแค่เรื่องขี้เล็บเท่านั้น รถที่คุณโดนทุบมันก็มีประกันอยู่ คุณก็ไปเคลมประกันได้ สื่อที่โดนคุกคามมาตลอดก็คือเอเอสทีวีต่างหาก ถ้าจะเทียบกันแล้ว เราโดนทั้งกระสุน ระเบิด ผู้สื่อข่าวได้รับบาดเจ็บจากการทำข่าว เราโดนคดีความในรอบ 4 - 5 ปีที่ผ่านมากว่า 184 คดี ฉะนั้นวอยซ์ทีวีโดนแค่คนที่ไม่หวังดีเข้ามาทุบรถแล้วมาร้องแร่แห่กระเชอ ผมถือว่าถ้าใจปลาซิวแบบนี้อย่ามาทำสื่อดีกว่า”นายจิตตนาถโต้กลับอย่างเผ็ดร้อน
       
       อย่างไรก็ดี หากใครไม่เคยติดตามการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ และเห็นแต่เพียงข้อความที่นายพานทองแท้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ก ก็คงอดชื่นชมในอุดมการณ์และจิตวิญญาณในการเป็นสื่อมวลชนของนายพานทองแท้ไม่ได้ เพราะแม้เขาจะเป็นหลานชายสุดที่รักของ 'น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' นายกรัฐมนตรี แห่งพรรคเพื่อไทย และเป็นลูกในไส้ของ 'นช.ทักษิณ ชินวัตร' ไอดอลของมวลชนคนเสื้อแดง แต่ก็ยังรู้ถูกรู้ผิด... แยกดีแยกชั่ว ได้ ไม่เสนอข่าวแบบบิดเบือนใส่ไข่ ฟอกดำเป็นขาว ทำถูกเป็นผิด !!
       
       แต่ความจริงมิได้เป็นเช่นนั้น
       
       ยิ่งเมื่อมีโอกาสได้ดูรายการรายการ Wake up Thailand ของวอยซ์ทีวี ซึ่งมี ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล , นายพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และ นายชูวัส ฤกษ์ศิริสุข บรรณาธิการเว็บไซต์ประชาไท เป็นผู้ดำเนินรายการ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการถกกันในประเด็นที่ทั้งแปลกทั้งแปร่ง คือหัวข้อเรื่อง “ของแพงที่ไหน? ตลาด ห้าง หรือริมถนน” ก็ให้รู้สึกว่าช่างขัดแย้งกับคำพูของผู้บริหารวอยซ์ทีวีที่ชื่อพานทองแท้อย่างสิ้นเชิง
       
       เพราะตลอดทั้งรายการพิธีการทั้ง 3 ท่านต่างประสานเสียงกันการันตีผลงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่าช่างดีเลิศประเสริฐศรี และขณะนี้ประเทศไทยก็ไม่ได้มีปัญหาข้าวของแพงอย่างที่ประชาชนพากันก่นด่า พร้อมทั้งแถไถว่าข้อมูลราคาสินค้าที่สื่อต่างๆ นำเสนอไปในทิศทางเดียวกันว่าได้ปรับตัวสูงขึ้นนั้นล้วนเป็นตัวเลขที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง
       
       อย่างเช่นข้อมูลของหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และบางกอกโพสต์ ที่ระบุว่าราคาข้าวแกงในปีนี้ได้ปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 20-30 บาท มาเป็น 35-40 บาท ขณะที่ก๋วยเตี๋ยวก็ขึ้นจาก 20-30 บาท เป็น 35-40 บาทนั้น ผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 คน แย้งว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากราคาสินค้าดังกล่าวนั้นขัดแย้งกับราคาวัตถุดิบที่ถูกลง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู ราคาเนื้อไก่ ราคาไข่ไก่ ราคาเนื้อหมู ราคากุ้ง ผักคะน้า กะหล่ำปลี ฯลฯ ทั้งๆที่ราคาสินค้าที่ผู้บริโภคต้องจ่ายในปัจจุบันนั้นก็เป็นไปตามที่หนังสือพิมพ์ดังกล่าวระบุจริงๆ
       
       “ถ้าต้นทุนไม่สูงขึ้นเนี่ย ผู้ประกอบการก็ไม่ควรที่จะไปขึ้นราคาสำหรับผู้บริโภค ยกเว้นเสียว่าถ้าคุณมีเหตุผลจริงๆ แต่ผมมีมุมที่ต่างกว่านั้นอีก คือ ผมคิดว่ามันไม่ได้แพงขึ้นเลยไง คือ ผมคิดว่า ข้าวแกง ผัก จากปีที่แล้วถึงปีนี้ ไม่ได้แพงขึ้นฮะ ผมก็กินอยู่ ผมว่ามันไม่ได้แพงขึ้น ก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ได้แพงขึ้น เพราะฉะนั้นกลับไปยุ่งเรื่องอุดมการณ์ต่อดีกว่าฮะ เรื่อง 112 รัฐธรรมนูญ นั่นแหละเรื่องสำคัญ เพราะข้าวไม่ได้แพง ” ม.ล.ณัฏฐกรณ์โชว์ความเป็นกลางในดวงใจของคนเสื้อแดงออกมาอย่างหมดเปลือก แถมยังด้านหน้าไปสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือมาตรา 112 ที่ย่ำยีหัวใจคนไทยทั้งชาติอีกต่างหาก
       
       ขณะที่ นายชูวัส ก็กล่าวสนับสนุนว่า “ ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าของแพงขึ้นเช่นกัน แต่คนรอบข้างกลับบ่นว่าของแพงขึ้น ดังนั้น ผมจึงฟันธงว่า การจุดกระแสเรื่องของแพงขึ้นมานี้เป็นเรื่องการเมือง มิใช่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนจริงๆ”
       
       ดูไปแล้วก็ช่างน่าขัน ไม่รู้ว่า มาตรา 112 กับเรื่องข้าวของแพงมันเกี่ยวกันยังไง ความเดือดร้อนจากปัญหาข้าวของแพงที่รัฐบาลควรเร่งแก้ไขก็กลับกลายเป็นเรื่องการเมืองที่ 'ถูกกุ' ขึ้นมา
       
       ที่ซังกะบ๊วยหนักที่สุดกว่าใครเพื่อนเห็นจะหนีไม่พ้นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชื่อ “นายพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์” ที่เชื่อมโยงตรรกะมั่วซั่วจนหลายคนตั้งคำถามว่า นี่หรือคืออาจารย์มหาวิทยาลัย
       
       “ข้าวแกง จากน้ำมันดีเซลขึ้นไปลิตรละ 3 บาท มันทำให้ข้าวแกงขึ้นไปตั้ง 5 บาท ถึง 10 บาท ได้ยังไง คุณเอาน้ำมันใส่ลงไปในข้าวแกงหรือไง?” นายพิชญ์ พูดพลางหัวเราะหึๆ
       
       ทั้งนี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างก็เห็นตรงกันว่าการจะนำเสนอข่าวในลักษณะที่แถไถบิดเบือนมั่วนิ่มเช่นนี้ได้คงเป็นเพราะเหล่าพิธีกรระดับปัญญาชนทั้ง 3 คนนั้นคงหลงลืมไปว่าประชาชนคนไทยไม่ได้หูหนวกบอดใบ้กระทั่งไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่รู้แม้กระทั่งความเป็นไปของราคาสินค้าที่เขาต้องกินต้องใช้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จะปั้นข้อมูลมายัดเยียดให้อย่างไรก็ได้ เพราะประชาชนคนไทยนั้นสมองไม่มีรอยหยัก ??
       
       ที่สำคัญหากนายพานทองแท้ซึ่งเป็นผู้บริหารสถานีวอยซ์ ทีวีไม่ได้คิดจะใช้สื่อสีแดงแห่งนี้บิดเบือนข้อมูลกลบปัญหาความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารงานของรัฐบาลเพื่อไทย ภายใต้การนำของ นายกฯยิ่งลักษณ์แล้วล่ะก็ เหตุไฉนจึงยอมให้มีข่าวที่โกหกบิดเบือนออกมาสู่สายตาประชาชนได้มากมายขนาดนี้
       
       นี่คงเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า ปรัชญาในการทำหน้าที่ของวอยซ์ทีวีนั้น หาได้เป็นไปดังสโลแกนที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสถานีประดิดประดอยขึ้นอย่างสวยหรูว่า “ Voice TV : Voice of the New Generation”
       
       หรือ “วอยซ์ทีวี : ทีวีเพื่อคนรุ่นใหม่” หากแต่เป็น “วอยซ์ทีวี : ทีวีเพื่อพรรคเพื่อไทย” !!

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #485 เมื่อ: 30 มีนาคม 2555, 20:30:48 »

ตะลึง!วารสารปากน้ำโพด่า'แม้ว'แขวะ'ปู'

ตะลึง!แจกวารสารประจำเดือน "นครสวรรค์-นครแห่งความสุข" กลางที่ประชุมประจำเดือนจังหวัดนครสวรรค์ เนื้อหาทำนองเสียดสี"รัฐบาลยิ่งลักษณ์" โชว์รูปภาพนักปกครองไร้คุณธรรม "ทักษิณ"ติดกลุ่ม ผู้ว่าฯสั่งทำลาย ลั่นเอาผิดรักษาการหัวหน้าสำนักงานจังหวัด

              30มี.ค.2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 29 มี.ค. นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมรองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ประชุมประจำทุกเดือนระดับหัวหน้าส่วนราชการทั้งจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีหัวหน้าส่วนราชการทุกอำเภอทั่วทั้งจังหวัดกว่า 100 คนเข้าร่วมประชุม

              การประชุมดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่กลุ่มงานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานจังหวัดนครสวรรค์ ได้แจกจ่ายหนังสือ ที่จัดทำขึ้นโดยสำนักงานจังหวัดนครสวรรค์ ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นวารสารประจำเดือน ของสำนักงานจังหวัดนครสวรรค์ ชื่อนครสวรรค์-นครแห่งความสุข ปีที่ 2 ฉบับที่ 10 เดือนมีนาคม พ.ศ.2555 จำนวนหลายร้อยเล่มให้บรรดาหัวหน้าส่วนและราชการที่ร่วมประชุมได้อ่าน โดยสารดังกล่าวจัดทำเป็นรูปเล่มสวยงาม ปก 4 สี จำนวน 47 หน้า

              เนื้อหาสาระในหนังสือวารสารเริ่มตั้งแต่บทบรรณาธิการ ที่ผู้เขียนใช้ชื่อว่า "ติ๊ก ดอทคอม" วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลด้วยเนื้อหา   เริ่มตั้งแต่ยกเอาเรื่องของการมอบรางวัลออสการ์ครั้งที่ 84 ที่มอบรางวัลแก่นักแสดงสาขาต่างๆโดยเฉพาะหนังเรื่อง THE IRON LADY ที่ผู้เขียนพูดถึงดารานำหญิงยอดเยี่ยมคือ เมอรีล สตรีฟ ที่แสดงเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษนางมาการ์เร็ต แธตเชอร์ ที่โดดเด่นเด็ดเดี่ยวเป็นผู้นำบนเวทีโลกที่เป็นที่ยอมรับ ไม่เคยนำเอาความเป็นผู้นำหญิงหลบเลี่ยงการตอบข้อสงสัยในประเด็นสาธารณะเหมือนนายกหญิงบางประเทศ ซึ่งเป็นที่เข้าใจของผู้อ่านได้ว่าหมายถึงใคร  ในย่อหน้าสุดท้ายของบทนำโจมตีการทำหน้าที่ของนายดิสทัต คำประกอบ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ถูก กกต.ให้ใบแดง

              ส่วนเนื้อหาในเล่มใช้ภาพประกอบในหน้าที่ 16-21 คอลัมน์ "ธรรมะส่องใจ" ที่บรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน เปรียบเทียบข้าราชการที่ดีและไม่ดี โดยในเนื้อหาได้แสดงรูปเปรียบเทียบระหว่าง กษัตริย์ จักรพรรดิ นักปกครอง ผู้นำที่มีคุณธรรม และ กษัตริย์ จักรพรรดิ นักปกครอง ผู้นำที่ไม่มีคุณธรรม ด้วยการแสดงรูปบุคคลทั้งสองกลุ่มอย่างชัดแจ้ง  ในการยกตัวอย่าง กษัตริย์ จักรพรรดิ นักปกครอง ผู้นำที่มีคุณธรรมได้นำเอารูปพระพุทธเจ้า ประธานาธิบดีลินคอล์น พระเยซูคริสต์ ประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดล่า ขงจื้อ มหาตมะคานธี กษัตริย์โซโลมอน นางอองซาน ซูจี จักรพรรดิเฮเดรียน และรัชกาลที่ 5 มาประกอบ

              ส่วนรูปที่แสดงถึง กษัตริย์, จักรพรรดิ, นักปกครอง, ผู้นำ, ที่ไร้คุณธรรม ในจำนวนนี้มีรูปของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีประกอบด้วย

              เมื่อวารสารดังกล่าวแจกจ่ายให้หัวหน้าส่วนราชการได้รับความสนใจจากข้าราชการระดับสูงต่างวิพากษ์อย่างกว้างขวาง  ล่าสุดนายชัยโรจน์สั่งให้เก็บวารสารของสำนักงานจังหวัดทำลายทันที  พร้อมตั้งกรรมการสอบรักษาการหัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครสวรรค์และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #486 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2555, 09:54:03 »



Nobel กับ Nobrain
ฟ้ากับดิน
สวรรค์กับนรก
สง่างามกับสมเพช
ศักดิ์ศรีกับอัปยศอดสู
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #487 เมื่อ: 06 มิถุนายน 2555, 22:53:17 »

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #488 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2555, 13:00:08 »

มะเร็งติดจรวดของผลงานของนางกิมิทาเทวีนางสงกรานต์ปีดุ

ชูพงศ์ ถี่ถ้วน เจ้าของเว็บไซด์ นปช.USA จาบจ้วงในหลวง กระดูกกดทับเส้นประสาทรุนแรงเจ็บปวดสาหัสยามที่ใช้ลมในปอดเปล่งเสียพูดนอนป่วยอยู่เมืองนอกไร้คนดูแลต้องออกมาขอเรี่ยไรเงินกินอยู่จากพวกเสื้อแดงบนหน้าเพจ คงจะไม่น่าจะรอดปีนี้

แป๊ะนรก นายอำพล ตั้งนพกุล ส่ง SMS จาบจ้วงสถาบันห้าคดี มะเร็งกินตายคาคุก หลังจากเข้าคุกได้ไม่กี่เดือน

สุรชัย แซ่ด่าน แกนนำแดงสยาม จาบจ้วงสถาบันสภาพแย่นอนป่วยในคุก ต่อมลูกหมากโต ประกอบกับเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และเคยทำบายพาสมาก่อน เคยได้รับการพระราชธานอภัยโทษหลายครั้งก็ไม่เข็ดหลาบครั้งนี้มีโอกาสตายคาคุก ตอนนี้หามออกมาที่รพ.ตำรวจ รักษาตัวมะเร็งที่กล่องเสียง ตอนนี้พูดไม่ได้แล้ว กลืนอะไรไม่ได้หายใจลำบาก น่าจะกลับนรกเร็วๆนี้

นายภิรมณ์ ศรีธาตุ แกนนำแดงระยอง อดีตผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทยระยอง นอนตายด้วยโรคมะเร็งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนแรกข่าวออกมาสับสนว่าเป็น นายยรรยงค์ แกนนำแดงเปิดหมู่บ้านแดงมาบตาพุด ระยอง ที่คนระยองออกมาต่อต้าน ที่จริงๆแล้วนายยรรยงค์ยังไม่ตาย แต่ก็เป็นมะเร็งระยะสี่กำลังจะตายเหมือนกัน

คิวต่อไป ดา ตอติโด ด่าในหลวงบนเวทีเสื้อแดงสนามหลวงนอนป่วยคาคุกข้อต่อขากรรไกรอักเสบ ก่อให้เกิดการยุบตัวลงจึงเกิดอาการอักเสบรุนแรงซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถอ้าปากได้อย่างคนปกติ อ้าปากได้เพียง 2 เซ็นติเมตร เท่านั้น ไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ เวลาแปรงฟันก็ต้องกระทุ้งแปรงสีฟันเข้าไปข้างใน เนื่องจากอ้าปากไม่ได้ เจ็บปวดสาหัส จากคนเคยอ้วนกลายเป็นผอมน่าจะอยู่กินข้าวในคุกได้ไม่นาน

ส่วนทักกี้หัวหน้าแก็งค์นายทุนใหญ่ยังต้องทรมารกับมะเร็งต่อมลูกหมากให้คีโมจนขนหัวร่วงหน้าบวมเป็นอึ่งเน่าต่อไป

โดย: Von Richthofen


      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #489 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2555, 18:44:20 »

Kanok Ratwongsakul

เห็นชาวเว็บขบขันเรื่องนายกฯพูดผิด ชาวโลกงงกับภาษาอังกฤษของท่านแล้ว
 ผมเห็นใจท่านจริงๆ จึงขอถือวิสาสะแนะนำบางอย่าง ในฐานะคนที่ใช้คำพูดทำงานคนหนึ่ง

1.ท่านพูดเร็วเกินไป ตัวเองอาจไม่รู้ตัว คนอื่นอาจดูไม่ออก แต่พูดผิดนับสิบหนเช่นนี้ ชัดเจนว่าพูดเร็วเกิน "เร็วเกินความคิด" (มิใช่ไม่มีความคิด
)
 2.จะดูโพยต้องเนียนกว่านี้ ดูโพยนั้นไม่ผิดและท่านสมควรจะดูมากๆ (ปล่อยพูดเองไม่ได้) แต่ท่านก้มดูมากไป ฝึกคนอ่านข่าวเวลาก้มดูสคริปต์ เราจะไม่ก้มมากจนคนดูเห็นกลางกบาลแบบนี้

3.นายกฯคนก่อนๆที่ภาษาอังกฤษ very poor รมว.ต่างประเทศช่วยได้ ไปเมืองนอกนายกฯไม่ต้องพูดเยอะ ให้รัฐมนตรีพูดนำแต่ รมว.คนนี้ very very poor! จึงไม่มีใครช่วยท่านได้ นอกจาก "ล่าม" ใช้ล่ามเลยครับ ไม่ต้องอาย ดีกว่าไป "บลาๆๆ" และท่านคงไม่แย่ถึงขนาดใช้ล่าม..แปลไทยเป็นไทยนะ

 4.ท่านมีเวลา 3 ปีก่อนรวมอาเซียน รีบท่องซะว่าประเทศไหนใช้นายกรัฐมนตรีหรือประธานาธิบดี จำให้แม่นก่อนว่า ไทยแลนด์ใช้นายกฯครับ

^^ ปล. สำนวน very poor แปลว่าภาษาของฉันยังไม่ดี ไม่ใช่ ภาษาอังกฤษฉัน "จนมาก"
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #490 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2555, 11:12:05 »

Watch Red Shirt ศูนย์ปฏิบัติการติดตามผู้ชุมนุมเสื้อแดง
สื่อแดง นำความเห็นของนักวิชาการบางคน ที่ขอตัดขาดกับพรรคเพื่อไทย มาเผยแพร่ทางอินเตอร์เนต


      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #491 เมื่อ: 14 มิถุนายน 2555, 15:52:47 »

ต่างชาติตะลึง!!! ปูนิ่มปล่อยมุขตลกคาเฟ่ระดับโลก เฮกว่า “ประเทศซิดนีย์”  น่าท้อแท้ใจยิ่งกว่า “เอาอยู่” ....

เพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง ส่งคลิปมหัศจรรย์ชิ้นนี้มาให้จขบ.ดู พร้อมย้ำว่า ให้ฟังที่ช่วงประมาณ 52:30 เป็นต้นไป อันเป็นช่วงเวลาที่นายกฯปูนิ่มด้นกลอนสด โดยปราศจากโพย
จขบ.ก็เป็นคนว่านอนสอนง่าย จึงเปิดคลิปดู แล้วก็ต้องตะลึง นะจังงัง กับ มุขตลกประเภทไม่เกรงใจชาวโลกของนายกฯประเทศไทย
ครับ นายกฯนกแก้วดั้นกลอนสดออกมาประมาณว่า  “ 10 countries in ASEAN contain about half population of the world..”
นั่นคือ “สิบประเทศในอาเซียนมีประชากรประมาณครึ่งหนึ่งของโลก”
มหัศจรรย์ยิ่งกว่า จังหวัดหาดใหญ่ น่าทึ่งยิ่งกว่าประเทศซิดนีย์แน่นอน


แท้จริงแล้ว ประชากรอาเซียนมีประมาณ 600 ล้านคน และเป็นประมาณ 8.8% ของประชากรโลก ซึ่งมีประมาณ 7,000 ล้านคน
นายกฯของประเทศไทย ไปศึกษาภูมิศาสตร์จากสำนักไหนไม่ทราบเหมือนกัน ถึงได้ดำน้ำออกมาว่า “อาเซียนมีประชากรประมาณครึ่งหนึ่งของโลก”
ก็นับเป็นมุขตลกคาเฟ่ที่คนไทยมารับรู้ช้ากว่าที่ควร
เพราะนายกฯไปปล่อยฮาในการประชุม World Economic Forum เมื่อ 1 มิย.
ทั่วโลก เขาได้เฮกันจนน้ำตาเล็ดแล้ว พี่ไทยถึงเพิ่งมีโอกาสรู้ น่าท้อแท้ใจไหมละครับ?

เพื่อให้ได้เห็นบรรยากาศ “นานาชาติ” ที่ทึ่งและตะลึงต่อปัญญาความรู้ของนายกฯมหัศจรรย์คนนี้
จขบ.ขอคัดความเห็น ทั้งที่ “เอาอยู่” และ “เอาไม่อยู่” กับมุขตลกนี้ เชิญหาความหรรษากันะครับ


Who really understand what she said?Huh?
jakjuventus 6 days ago 28 
I don't think she actually understood what she said either. hahaha
Patrick0215270 in reply to jakjuventus (Show the comment) 6 days ago 22 

ASEAN has a population of approximately 600 million people, which is 8.8% of the world's population. Yingluck, next time spend more time studying your speech, spend less time on your make up and hair do please, I know you are lazy but PLEASE ... for the sake of our Nation. Sad
Annie7546 27 minutes ago 2 
Yes she did say that, but what she said was beyond absurd, ASEAN population is about 600 millions. China's population alone is more than 1.3 billions. This is hilarious. I just wish she was more prepared.
marrykate24429 in reply to RynnerleinCFCx (Show the comment) 56 minutes ago
good question. Don't take anything Yingluck said seriously, we Thais don't. This is a woman who thinks "Sydney" is a "Country". If you know what I mean. lol
PexParkpoom in reply to RynnerleinCFCx (Show the comment) 1 day ago 3 
Is that true Thai PM said 10 South East Asia countries have about half of the population world? I don't think so. Well, I tried to ignore this Thai PM but she always make tons of mistakes....So sad for Thai people...
TheGalileo33 2 days ago 2 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #492 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2555, 22:38:06 »

กนก โพสต์ FB เชื่อ อู่ตะเภา ไม่เข้าครม. เพราะ รัฐบาลละอายใจ ไม่เชื่อ นาซ่า "พ่อพระ" เหน็บ หลอกได้แต่ "ปู ซิดนีย์แลนด์" ยิงมุก "อ้อมนำทีมร่วมปิดอู่" พร้อมเฉลย กล้ว ปู งง

นายกนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรชื่อดัง โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คส่วนตัว Kanok Ratwongsakul แสดงความไม่เห็นด้วยที่จะให้นาซ่ามาใช้สนามบินอู่ตะเภาในการสำรวจก้อนเมฆ ไม่เชื่อ นาซ่าจะเป็นพ่อพระ มีข้อความดังนี้

เบื้องหลังที่เรื่องอู่ตะเภาไม่เข้า ครม.วันนี้ เพราะรัฐบาลละอายใจ ขนาดดาราที่ไม่ค่อยสนใจการเมือง เค้ายังรู้เบื้องลึกที่สหรัฐมาขอใช้อู่ตะเภา คุณอ้อมจึงออกมาประกาศชัดๆ "ร่วมปิดอู่" มีแต่รัฐบาล "ปูโลกแคบ" ที่เชื่อนาซ่า แม่ม..ร้อยวันพันปี ไม่เห็นมันสนใจสภาพอากาศ อยู่ๆเจาะจงมาศึกษาการก่อตัวของก้อนเมฆที่สนามบินอู่ตะเภา กลัวจะไม่มีน้ำหนัก เลยแถมเรื่องจะใช้ที่นี่เป็นศูนย์ช่วยเหลือทางภัยพิบัติด้วย โห..พ่อพระโคตร! เชิญหลอก "ปู ซิดนี่ย์แลนด์" ไปเถอะ สื่ออย่างเรารู้ทัน ว่าแต่..she จะรู้มั๊ยว่า "อ้อมปิดอู่" นี่เป็นมุก เดี๋ยวหล่อนเกิดเชื่อขึ้นมาจริงๆว่า อ้อมนำทีมดาราคัดค้านด้วย ได้ฮากันอุจจาระบอมบ์เลย :-D ปล.นายกฯครับ จะเข้าใจว่า "อู่" ในโพสต์นี้หมายถึงอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่อู่รถเมล์ ขสมก.และ ไม่ใช่ "จังหวัดอู่ตะเภา" นะครับ ^^
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #493 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2555, 07:18:36 »

สังคมออนไลน์แพร่บทกวี "หงา คาราวาน" ซัดมีกลุ่มคนปล้นสีแดงไปย่ำยีเป็นของตัวเอง จนไม่กล้าใช้สีนี้ เพราะไม่มีใจให้ "วิสา" อดีตเพื่อนร่วมอุดมการณ์แต่งกลอนโต้ สีแดงคือเลือดประชาชนผู้ไร้สิทธิ์ ถูกไล่ยิงกลางถนน แต่ "เนาวรัตน์ - สุรชัย" ไม่ได้ยิน จึงไม่มีใจให้สีแดง ด้าน "สมศักดิ์ เจียมฯ" งง ทำไมอดีตฝ่ายซ้ายหลายคนหันมาเชียร์เจ้า
       
       วันนี้ (26 มิ.ย.) ทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่บทกวีของ นายสุรชัย จันทิมาธร หรือ หงา คาราวาน ศิลปินแห่งชาติ และศิลปินเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง เนื่องในโอกาสเป็นวันสุนทรภู่
       
       โดยบทกวีนี้มีใจความในทำนองว่า มีกลุ่มคนปล้นสีแดงไปย่ำยีเป็นของตัวเอง ทำให้ศิลปินเดือดร้อน ไม่กล้าที่จะใช้สีแดง เพราะไม่มีใจให้ วอนคืนสีแดงมา ก่อนจะเกิดสงคราม
       
       บทกวีฉบับเต็ม "หงา คาราวาน" มีดังนี้
       
       "ขอเรียนศาลแห่งสีที่เคารพ
       
       สีต้องใช้ไม่ครบกระบวนสี
       
       มีกลุ่มคนผูกขาดในชาตินี้
       
       ยึดสีแดงไปย่ำยีเป็นของตน
       
       ทำให้สีแดงแย่มีแต่ยุ่ง
       
       จะแต่งปรุงงานศิลป์ก็สับสน
       
       ศิลปินเดือดร้อนเกินจะทน
       
       เพราะสีแดงถูกปล้นขโมยไป
       
       เอาสีแดงคืนมาให้ข้าเถิด
       
       ก่อนจะเกิดสงครามห้ามไม่ได้
       
       ทุกวันนี้พวกข้าไม่กล้าใช้
       
       เพราะว่าใจไม่มีให้สีแดง..."
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
nok15
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529

« ตอบ #494 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2555, 20:15:22 »

                 สวัสดีตะวัน
                      เรามีภาพที่เหมาะกับห้องการเมืองเป็นเรื่องสนุก อยู่ภาพหนึ่ง
                      เราสงสัยว่าคุณเสื้อแดงเขาจะหมายถึงใคร   ต้องถามกูรูการเมืองอย่างตะวัน
                         
                         

                                   Nokja  งง งง
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #495 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2555, 22:34:10 »

ขอพวกเรา ปรบมือ เชียร์ ให้กำลังใจกับเพื่อนของเรา ที่เป็นคนดี มีจุดยืน ไม่เปลี่ยนสี เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
ขอชื่นชม ถวิล เปลี่ยนศรี RCU 15


“ถวิล” โวยสลายแดงข้อเท็จจริงถูกบิดเบือน ฉะ ขรก.ขายมโนธรรมเพื่อรักษาเก้าอี้

วันนี้(23ส.ค.)นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ อดีตเลขาธิการสภาความมั่งคงแห่งชาติ (สมช.) และอดีตเลขานุการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารในการสลายการการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.ปี 2553 ว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาบ้านเมืองกลับตาลปัตร ดูแล้วสับสนวุ่นวาย ซึ่งจะขอพูดในส่วนที่เกี่ยวข้องช่วงที่ตนเป็นเลขานุการ ศอฉ. และข้อเท็จจริงในเวลานั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องชอบธรรม แต่พอมาอีกเวลาหนึ่งกลายเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จากขาวเป็นดำ เวลาผ่านมาไม่กี่เดือนก็เปลี่ยนไป
       
       นายถวิลกล่าวว่า ข้อเท็จจริงบางอย่างถูกบิดเบือน ถูกทำให้เปลี่ยนแปลงไป แล้วเราจะเขียนประวัติศาสตร์ในระยะหลายๆ ปีได้อย่างไร ต่อไปข้างหน้าเราไม่ต้องเอาหัวเดินต่างเท้าหรือ โดยสิ่งตนจะพูดมี 3 ประเด็น คือ 1. เหตุการณ์ สถานการณ์ และการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในช่วงเกิดเหตุ พ.ค. 2553 2. กรณีที่หลายฝ่ายข้องใจ ที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พูดถึง ศอฉ. และการทำงานของ ศอฉ.ในขณะนั้น และ 3. คำสั่งทางยุทธการหรือแผนปฏิบัติงานที่รั่วไหลมาทางสื่อ
       
       1. เหตุการณ์ความไม่สงบมีความต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 จากกรณีที่ไปล้มการประชุมที่พัทยา และต่อเนื่องมาจนถึง พ.ค.2553 ซึ่งเริ่มมีความบิดเบือน ทั้งที่ความจริงมีข้อเท็จจริงเดียวและต้องไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งเหตุการณ์ปี 2553 เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ออกมารักษาความสงบ และศาลแพ่งก็มีการวินิจฉัยว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้
       
       “ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ไม่มีอะไรทำแล้วคว้าอาวุธมาไล่ฆ่าประชาชน อย่างที่มีความพยายามจะกล่าวหากัน ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนั้นถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ออกไปจะเป็นเรื่องที่แปลก เพราะตอนนั้นต้องรักษาความสงบให้ได้ และระงับการชุมนุมที่ไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งการออกของเจ้าหน้าที่ ผมยืนยันว่าทำไปด้วยความรู้สำนึกรู้ผิดชอบชั่วดี มีเจ้าหน้าที่หลายคนไม่สบายใจที่ออกไปทำงาน แต่ด้วยหน้าที่ที่รับผิดชอบก็ต้องไปปฏิบัติภารกิจให้เรียบร้อย เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ควรได้รับคำชมมากกว่าคำด่า หรือการหาว่าเขาไปฆ่าคน เราควรดำเนินการตามยุติธรรมมากกว่าในการไปค้นหาความจริง ไม่ใช่ไปกล่าวหาว่ามีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดอาวุธ เอาสไนเปอร์ออกไปไล่ฆ่าคน ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อเจ้าหน้าที่ เพราะคำสั่งที่ออกไปเป็นการพิจารณาที่รอบคอบแล้ว”
       
       นางยุวดี ธัญศิริ ผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำทำเนียบรัฐบาล จาก นสพ.บางกอกโพสต์ถามว่า เป็นการแก้ต่างให้ ศอฉ.หรือไม่ นายถวิลกล่าวว่า ไม่ได้แก้ต่าง แต่ตนเป็นส่วนหนึ่งของ ศอฉ. ยืนยันว่าการทำงานขณะนั้นเรายึดกฎหมาย ยึดหลักสากลในการทำงาน เป็นการออกคำสั่งโดยที่มีการพิจารณารอบคอบ
       
       ส่วนที่นางยุวดีถามว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติเกินกว่าเหตุหรือไม่ทำให้มีคนตาย 98 ศพ และบาดเจ็บอีกเป็น 2 พันคน นายถวิลกล่าวว่า ตนได้สะท้อนแล้วว่ามีคนบาดเจ็บร่วมพัน ซึ่งจำนวนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจจำนวนมาก เหตุการณ์ที่ลำดับให้ฟังจะเห็นว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียว หรือเกิดเพราะเจ้าหน้าที่ลุยปราบปรามสลายการชุมนุม ส่วนใหญ่เป็นการยิงเจ้าหน้าที่ และเหตุการณ์กระชับวงล้อม ซึ่งเมื่อช่วงกลางเดือน พ.ค. 2553 นั้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้บุกเข้าไป เพียงแต่ไปตั้งกำลังเพื่อปิดล้อม เจตนาที่พูดกันใน ศอฉ.คือต้องการให้สลายการชุมนุมเอง โดยไม่มีผู้เข้าไปร่วมชุมนุมใหม่ ให้ผู้ชุมนุมเก่าเดินทางกลับภูมิลำเนา จึงไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่ตะลุยเข้าไปยิง
       
       ส่วนที่ถามว่ามีบางส่วนเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่นั้น เมื่อมีข้อมูลการสอบสวนเบื้องต้นของดีเอสไอระบุเช่นนั้น ก็เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่จะมีการไต่สวน ร้องต่อศาล ศาลก็ให้มีการไต่สวน แต่ขณะนี้มันมีการกล่าวหานอกศาลแล้วว่าเจ้าหน้าที่ฆ่าประชาชน ซึ่งตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ออกไปทำงาน แม้มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เขาไม่มีสิทธิที่จะทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่มีอยู่ ถ้าเขาผิดจริงตามกระบวนการไปถึงชั้นศาล เขาก็ต้องรับผิดชอบ ซึ่งนั้นจะเป็นความยุติธรรม แต่ไม่ใช่มากล่าวหาเขาตรงนี้ ทั้งที่เป็นฝ่ายนำพาชาติบ้านเมืองให้ไปสู่ความสงบในขณะนั้น ถ้าสภาพที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นมีการเผาอาคาร มีการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ตนก็มองไม่เห็นว่าถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำงานในช่วงนั้นเหตุการณ์บ้านเมืองจะนำไปสู่อะไรบ้าง
       
       นายถวิลกล่าวว่า เรื่องที่ 2 การทำงานใน ศอฉ. โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น มอบให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็น ผอ.ศอฉ. และเป็นหัวหน้าผู้ปฏิบัติงาน ส่วนนายอภิสิทธิ์จะเข้าประชุมในฐานะนายกฯ ที่กรมทหารราบที่ 11 รอ.ด้วย ซึ่งการทำงานของ ศอฉ.จะมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะกรรมการ ซึ่งรวมถึงนายธาริตด้วย ส่วนตนเป็นเลขานุการตามกฎหมาย ซึ่งมีการประชุมกันทุกวัน และมีคณะกรรมการเข้าร่วมประชุม มีการประเมินสถานการณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกวัน
       
       ในการประชุมมีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง แต่ไม่มีการสั่งการปฏิบัติการในที่ประชุม ใครไม่เห็นชอบกับเรื่องที่ประชุมก็สามารถโต้แย้งได้ ซึ่งนายธาริตก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการประชุม หากไม่มีท่านเราคงเหนื่อยกว่านี้ เพราะท่านเป็นคนที่เสนอเรื่องที่มีประโยชน์ เมื่อประชุมเสร็จก็จะมอบให้หัวหน้าออกแผนปฏิบัติ เพราะเรื่องนี้จะให้นายสุเทพออกไปสั่งว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ ซึ่งแผนดังกล่าวเรียกว่าคำสั่งยุทธการ โดยทุกครั้งจะคำนึงถึงชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน แต่การปฏิบัติการเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่ใช่การชุมนุมที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีการใช้อาวุธ จะเห็นว่าช่วงกระชับวงรอบ 18-20 พ.ค. มีการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่
       
       นายถวิลกล่าวว่า 3. เรื่องคำสั่ง ซึ่งเรายึดกฎหมายและระเบียบราชการเป็นหลัก ซึ่งเรากำชับหัวหน้าผู้ปฏิบัติการตลอด แต่เราอาจจะไม่สามารถกำชับไปยังผู้ปฏิบัติการได้ ทั้งนี้เรากำชับให้ระวังความปลอดภัยของประชาชนมากที่สุด เพ่งเล็งไปที่ผู้ใช้อาวุธและต่อสู้กับเจ้าหน้าที่เป็นหลัก และคำสั่งที่รั่วไหลออกมาทางสื่อ ตนยังไม่เห็นว่ามีคำสั่งไหนลุแก่อำนาจหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไปฆ่าประชาชน ซึ่งลำดับขั้นตอนต่างๆ ก็เป็นไปอย่างถูกต้อง และแน่นอน คำสั่งเหล่านี้ไม่น่าจะออกมาตามสื่อ ซึ่งคำสั่งต่างๆ ไม่ใช่เรื่องของความลับ แต่การที่มีแตงโม มะเขือเทศ ส้มโอ อยู่ด้วย ฉะนั้นการสั่งการไม่ได้มีการสั่งการที่ชัดเจน แต่ตนยืนยันว่ามีการตกลงกันในเชิงนโยบาย กรรมการ ศอฉ.ทุกคนรับทราบก่อนจะออกเป็นแผนปฏิบัติการ
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า พูดมาทั้งหมดเหมือนแก้ต่างให้ ศอฉ. เพราะศอฉ.ไม่เคยพิสูจน์ให้เห็นเลยว่าชายชุดดำที่ออกมายิงเป็นใครบ้าง เหตุการณ์ที่มีการเผาต่างๆ ก็ไม่เห็นตัวชุดดำ นายถวิลกล่าวว่า เรื่องเหล่านี้ถูกกระแสทำให้ไม่ปรากฏขึ้นมา ความจริงการดำเนินคดีต่อกลุ่มที่ใช้อาวุธและกลุ่มชายชุดดำ มีการจับกุมดำเนินคดี แต่ขณะนี้มีการประกันตัวไปเกือบทั้งหมด แต่ขณะนี้มันมีกระแสอย่างอื่นเข้ามากลบ อย่างที่ถามเรื่องเพ่งเล็ง ใครเผาราชประสงค์ ชายชุดดำถูกดำเนินคดีหรือไม่ มันมีการจับกุม เพราะระหว่างที่ทำงานกันมา ตำรวจและดีเอสไอ มีการรายงานเข้ามาว่ามีการจับกุม ควบคุมตัวไว้แล้ว จนกระทั่งตนถูกต่อว่า และไปยืนยันนายธาริตว่าจากการสอบสวน ทราบข่าวว่ามีการไปฝึกอาวุธจากประเทศเพื่อนบ้าน ตนแถลงว่ารับทราบจริงและนายธาริตได้มีการรายงานผลงานการสอบสวนจริงๆ เรื่องแบบนี้ถูกกลบ ถ้าบ้านเมืองเราเป็นอย่างนี้ ความจริงก็ไม่เป็นความจริง ความจริงเวลาหนึ่ง กลายเป็นความเท็จเวลาหนึ่ง ถ้าบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ความจริงก็ไม่เป็นความจริง
       
       ต่อข้อถามว่า ที่บอก ศอฉ.ต้องรับผิดชอบร่วมกันเพื่อความชัดเจนให้สังคมโปร่งใส คำสั่งยุทธการทั้งหมดพร้อมแสดงให้สังคมได้รับรู้ รับทราบหรือไม่ นายถวิลกล่าวว่า ควรเป็นหน้าที่ของกฎหมาย ถ้าจำเป็นศาลจะเรียกดูได้ หากเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมทางเจ้าหน้าที่ของเราคงไม่ขัดข้อง ขณะนี้เป็นกระบวนการนอกศาล ซึ่งไม่เป็นธรรม
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า มองบทบาทการทำงานของนายธาริตในขณะนี้อย่างไรบ้าง นายถวิลกล่าวว่า นายธาริตทำงานทั้งในฐานะกรรมการ ศอฉ. รวมทั้งทำงานในฐานะอธิบดีดีเอสไอได้ทำงานหลายอย่าง ซึ่งเป็นผลดีต่อการระงับความรุนแรง การรักษาความสงบเรียบร้อย นายทหารหลายคนได้พูดคุยกับตนว่าถ้าไม่ได้นายธาริตเราจะเหนื่อยกันมากกว่านี้ เพราะนายธาริตอยู่ดีเอสไอ มีข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานในขณะนั้น โดยวิธีปฏิบัติของนายธาริตในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องร่วมมีอด้วยกับ ศอฉ.ในขณะนั้น เพราะมีเหตุการณ์เช่นที่ว่าเราพูดเรื่องหนึ่ง เมื่อเหตุการณ์หมดไปแล้วมันไม่เห็นภาพ ขณะนี้หากไปเดินแยกราชประสงค์ก็ไม่เห็นภาพที่เกิดขึ้นในขณะนั้น แต่ ณ วันนั้นมันไม่ใช่ ราชประสงค์เป็นพื้นที่ที่รัฐเข้าไปดูแลไม่ได้
       
       “ที่ถามถึงคุณธาริต ผมก็อยากให้กำลังใจท่าน ผมรู้จักกับท่านดี ท่านเป็นมืออาชีพ วันนี้ท่านก็ยังเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าหน่วยงานที่ต้องรักษาความยุติธรรม รักษาการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ผมว่าท่านไม่ละทิ้งตรงนั้น คนอื่นอาจจะสงสัยท่าน แต่ผมไม่เคยมีข้อสงสัยอะไรในตัวท่าน”
       
       ส่วนที่สังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์นายธาริตว่าเปลี่ยนไป นายถวิลกล่าวว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ ตนต่างหากที่เปลี่ยนเพราะตอนนั้นเป็นเลขาฯ สมช.แต่ตอนนี้ตนเป็นที่ปรึกษานายกฯ แต่นายธาริตยังเป็นอธิบดีดีเอสไอ
       
       ส่วนที่นายธาริตอ้างว่าไม่รู้ข้อมูลการสั่งการของฝ่ายยุทธการ นายถวิลกล่าวว่า การขอคืนพื้นที่เป็นความเห็นชอบร่วมกันของ ศอฉ. แต่การปฏิบัติมันสั่งการในที่ประชุมไม่ได้ ผู้ปฏิบัติหรือมีหน้าที่รับผิดชอบต้องไปออกแผนปฏิบัติของตัวเองตามกรอบที่ ศอฉ.ให้ไว้ ถ้ามีใครไม่เห็นด้วย หรือเห็นว่าการกระทำไม่ถูกต้องก็สามารถให้ความเห็นในที่ประชุมได้ เมื่อถามว่าแผนปฏิบัติในฐานะเลขาฯ ศอฉ.รับรู้ด้วยหรือไม่ นายถวิลกล่าวว่า แม้จะทราบก็อ่านแผนไม่ออกว่าสั่งการอย่างไร เมื่อถามว่าแผนออกมาแล้วต้องขออนุมัติจากใครจึงจะไปปฏิบัติได้ นายถวิล กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเร็ว มาก แค่สั่งการแล้วแยกย้ายกันปฏิบัติงานยังไม่ทันเลย ฉะนั้นคิดว่าเป็นความรับผิดชอบของหัวหน้าหน่วย ผู้ที่สั่งการออกไปปฏิบัติอย่างไร แต่ถ้าบอกว่าเอาแผนมาให้นายอภิสิทธิ์ หรือนายสุเทพดูก่อนหรือไม่ตนก็ไม่ยืนยันเพราะไม่ได้เห็นในส่วนนั้น
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า การปราบจลาจลทั่วโลกเขามีวิธีการสากลอยู่แล้ว ทำไมเราถึงใช้กำลังทหารติดอาวุธและรู้ว่าทหารทำแล้วต้องรุนแรง ไม่เหมือนตำรวจดำเนินการ นายถวิลกล่าวว่า ถ้าตนพูดทุกคนอาจจะเข้าใจตนผิด ตนคิดว่าวิธีการที่เราทำงานในบ้านเมืองเราอะลุ้มอล่วยมากที่สุดแล้วถ้าเทียบกับต่างประเทศ ส่วนที่ถามว่าทำไมใช้ทหารเพราะตำรวจไม่เพียงพอในการปฏิบัติงาน และตำรวจไม่พร้อมทำงาน เพราะบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ 7 ต.ค. 2551 ยังเลียแผลไม่หาย แม้จะบอกว่าตำรวจทำงานได้กลมกลืนมากกว่าเพราะถูกฝึกมา แต่ตำรวจก็ยังโดน เพราะฉะนั้น ทหารหรือไม่ใช่ทหารก็ไม่สำคัญเท่ากับเราสรุปบทเรียนเมื่อ 7 ต.ค. 2551 เอาคำสั่งศาลมาดูขอบเขตปฏิบัติได้มากแค่ไหน
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนว่าข้อเท็จจริงถูกเปลี่ยนไปตามรัฐบาลในแต่ละยุคหรือไม่ นายถวิลกล่าวว่า ตนรู้สึกอย่างนั้น แต่ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องอื่นเกินหน้าที่ของตน แค่นี้ก็กลุ้มใจพอแล้ว สักวันหนึ่งถ้าตนเดินมาแล้วเอาสองเท้าเดินแล้วคนบอกว่าเพี้ยนแล้วต้องใช้หัวเดินแทนถึงจะถูกต้อง ถ้าบ้านเมืองถึงขณะนั้นก็เลิกกัน และเจ้าหน้าที่รัฐยอมทุกอย่างเพื่อรักษาตำแหน่งหน้าที่เอาไว้ และทำทุกอย่างที่ฝืนมโนธรรม ฝืนความจริง ข้อกฎหมาย ก็เป็นความโชคร้ายของเรา แต่ตนไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน ตนจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น ส่วนที่ว่าหมายถึงนายธาริตหรือไม่นั้นก็ทุกท่าน ใครเป็นอย่างนั้นก็เป็นอย่างนั้น รวมถึงตนหากเป็นอย่างนั้นก็จะด่าตัวเอง
       
       ส่วน 98 ศพที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากใครจะต้องรับผิดชอบนั้น นายถวิลกล่าวว่า ใครทำผิดก็รับผิดชอบ แต่เจ้าหน้าที่ได้รับการคุ้มครองเพราะมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งนี้ คนที่เป็นนายกฯ ก็คงหนีไม่พ้นความรับผิดชอบ และจะต้องรับผิดชอบมากกว่านายสุเทพที่เป็น ผอ.ศูนย์ด้วยซ้ำ เพราะนายกฯ เป็นหัวหน้าบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะมอบให้ใครก็ต้องรับผิดชอบถ้ามีความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่ตนขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าให้เป็นเรื่องใครไปกล่าวหาใครว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะไม่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
       
       เมื่อถามว่าขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังพุ่งเป้าไปที่นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ที่จะให้รับผิดชอบ นายถวิลกล่าวว่า สังคมมันเพี้ยนไปมาก การสั่งการเป็นไปด้วยความรอบคอบ ทำไปด้วยความยั้งคิดอย่างมาก เราผ่านประสบการณ์อย่างนี้มาพอสมควร พอเวลาผ่านมาการไปรักษาความสงบเรียบร้อยในขณะนั้น แต่กระแสขณะนี้กลับบอกว่าออกไปฆ่าประชาชน ตนคิดว่ามันไม่ยุติธรรม
       
       “ถ้านึกย้อนปี 2 ปีที่ผ่านมา ลำดับเหตุการณ์ดูว่ามันมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียนว่าเจ้าหน้าที่รัฐถูกต่อว่าด้วยซ้ำจากประชาชนทั่วไปว่ารักษาบ้านเมืองอย่าปล่อยให้คนมาละเมิดกฎหมาย เอาประเทศไทยมาเป็นตัวประกัน ผมเรียกร้องให้ฉายหนังกลับไปว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น ผมคิดว่าการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่หย่อนด้วยซ้ำไป ด้วยความเป็นธรรม ผมอยากให้ไปดูพัฒนาการสถานการณ์ในขณะนั้นเทียบกับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ความยุติธรรมก็มีการเรียกร้องทั้ง 2 ฝ่าย อย่าฟังฝ่ายเดียว ฟังส่วนที่เป็นกลาง หรือกระบวนการยุติธรรม ผมคิดว่าความเป็นธรรม ข้อเท็จจริงมันมีอยู่หนึ่งเดียว ความจริงมันมีอยู่แล้ว แต่การเข้าหาความจริงต้องอาศัยองค์กร ผมคาดหวังว่าถ้าจะเอาชาติบ้านเมืองให้อยู่รอดต่อไปได้ เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ต้องทำงานอย่างมีจริยธรรม ตรงต่อหน้าที่ ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก”
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมควรเรียนรู้อย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น นายถวิลกล่าวว่า การชุมนุมเรียกร้องเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญมันจะมีต่อไป ดังนั้นต้องมีกฎเกณฑ์ในเรื่องนี้ และการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ถูกต้องจะต้องได้รับการคุ้มครอง มิฉะนั้นเมื่อ 7 ต.ค. 51 ตำรวจง่อยเปลี้ยเสียขาไป แล้วจะให้ปี 53 เจ้าหน้าที่ทหารเป็นอย่างนั้นไปด้วยหรือไม่ ต่อไปข้างหน้าจะเอาใครมาทำงาน เมื่อทำงานเสร็จสิ้น ไม่ชม แต่ไปไล่บี้อย่างนี้ มันไม่เป็นธรรม ต่อไปบ้านเมืองเกิดวิกฤตจะเรียกร้องใคร ถ้าไม่รักษาตรงนี้ก็เป็นประโยชน์ต่อบางกลุ่มในระยะสั้น แต่ระยะยาวลูกหลานจะทนทุกข์ต่อสิ่งที่เราทำวันนี้
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #496 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2555, 22:38:00 »

อ้างถึง
ข้อความของ nok15 เมื่อ 23 สิงหาคม 2555, 20:15:22
                 สวัสดีตะวัน
                      เรามีภาพที่เหมาะกับห้องการเมืองเป็นเรื่องสนุก อยู่ภาพหนึ่ง
                      เราสงสัยว่าคุณท่านเขาจะหมายถึงใคร   ต้องถามกูรูการเมืองอย่างตะวัน
                         
                         

                                   Nokja  งง งง
หวัดดีครับ นก
คนเขียน คงจะหมายความว่า แม้วเป็นสัตว์ ที่ยิ่งใหญ่
แต่หน้าของมันด้านมากๆๆ พอๆกับถนน ที่รถแล่นไปมาก็ไม่สึกหรอ....
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #497 เมื่อ: 29 กันยายน 2555, 13:11:51 »

ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

ลูกแมวแจกฟรีค่ะ


เด็กหญิงเรณู ปูผ้านั่งอยู่บนทางเท้าริมถนนหน้าบ้านของเธอ ข้างๆ มีตะกร้าใส่ลูกแมวที่เพิ่งเกิดใหม่จำนวนหนึ่ง  แม่หนูถือป้ายกระดาษแข็งเขียนด้วยดินสอสีเทียนว่า “ลูกแมวแจกฟรีค่ะ”
ทันใดนั้นก็มีรถเบ๊นซ์คันหรูราคาแพงเข้ามาจอดข้างหน้าทางเท้าที่เรณูนั่งอยู่ คนที่ก้าวลงมาจากรถคือหญิงวัยสี่สิบต้นๆ แต่งตัวหรูเริ่ด หนีบกระเป๋าใบละห้าหมื่นหกแสนโปรยยิ้มหวาน

โบกมือให้ชาวบ้านที่ชูป้ายประท้วงของแพงและสาปแช่งก่นด่าเรื่องน้ำท่วมตามแนวถนัด แล้วตรงมาที่เด็กหญิงเรณู

“สวัสดีจ้ะแม่หนูน้อย ฉันคือนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์นะจ๊ะ เรียกพี่ปูก็ได้ หนูมีอะไรอยู่ในตะกร้าหรือคะ”
“ลูกแมวตัวน้อยๆ ค่ะ” เรณูตอบ (นึกในใจ อีป้าดัดจริตนี่ตาถั่วหรือโง่กันแน่ อุตส่าห์มีป้ายมีลูกแมวร้องเหมียวๆยังไม่รู้อีกว่าอะไรอยู่ในตะกร้า)

 

 

“อายุสักเท่าไหร่จ๊ะเนี่ย” นายกฯ ปูถามต่อ
“พวกมันเพิ่งเกิดน่ะค่ะ ดูซิคะ ยังไม่ลืมตาเลย” เรณูตอบ

“แล้วรู้ไม้เป็นแมวพันธ์อะไรจ๊ะ” 
“อ๋อ เป็นแมวพันธ์เสื้อแดง เชียร์พรรคเพื่อไทยค่ะ” เด็กหญิงตอบพร้อมด้วยรอยยิ้ม
 นายกปูได้ยินก็เป็นปลื้มสุดๆ พอกลับมาถึงทำเนียบ เจ้าหล่อนก็รีบเรียกโฆษกพรรคกับฝ่ายคุมสื่อเข้าพบทันทีเพื่อเล่าเรื่องเด็กหญิงน่ารักกับตะกร้าลูกแมว หวังจะใช้ประชาสัมพันธ์แก้ภาพพจน์รัฐบาลห่วยแตกของเธอ พวกลูกขุนพลอยพยักและฝ่ายประชาสัมพันธ์ของพรรคต่างเห็นเป็นโอกาสเหมาะได้ออกสื่อรณรงค์แหกตาประชาชนที่กำลังด่ารัฐบาลให้เป็นปลื้ม แก้ภาพพจน์ของนายกซื่อบื้อได้โดยไม่ต้องลงทุนใช้เงินจ้างสื่อหิวเงิน จึงตกลงกันว่าจะรีบนัดสื่อมวลชนทั้งทีวี วิทยุ นสพ. ไปรอทำข่าวในวันรุ่งขึ้น โดยให้นายกปูกลับไปหาเด็กหญิงเรณูกับลูกแมวอีกครั้ง เพื่อให้เด็กหญิงพูดถึงลูกแมวในตะกร้าของเธอตามที่เธอบอกกับนายกฯ   
 
วันรุ่งขึ้น เด็กหญิงเรณูก็ยังคงยืนอยู่ตรงที่เดิม ถือป้าย "ลูกแมวแจกฟรี" และตะกร้าลูกแมวน้อยๆ ของเธอ มีผู้สื่อข่าวจากทั้งทีวีเครือข่ายของรัฐและเอกชน ทีวีดาวเทียม และช่างภาพผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่หลายฉบับที่ล้วนแต่สอพลอ(เผื่อประธานสภาจะส่งเทียบเชิญไปดูบอลที่อังกฤษคราวหน้า) พากันยืนมุงรอกันแน่นขนัด จนเมื่อรถเก๋งหรูของนายกฯ และคณะผู้ติดตามอีกหลายคันพากันมาจอด นายกปูลงจากรถรีบตรงรี่ไปที่หนูน้อยทันที ช่างภาพและกล้องทีวีแย่งกันถ่ายชุลมุน

"หวัดดีจ้ะหนู พี่ปูเองแหละ หนูช่วยบอกป้าอีกทีได้ไหมคะ เหมือนที่บอกเมื่อวานน่ะ ช่วยบอกพี่ๆ น้าๆ เพื่อนๆ ของป้าที่มาทำข่าวหน่อย ลูกแมวในตะกร้าที่หนูจะแจกฟรีเนี่ย เป็นแมวพันธ์อะไรหรือคะ"

"อ๋อ ได้ซิคะ ท่านนายก" เรณูยิ้มแก้มปริ ตอบเสียงดังฉาดฉาน "พวกมันเป็นแมวสลิ่ม กับ พันธมิตรเสื้อเหลืองค่ะ"

นังยกปูหน้าซีดเผือด รีบพูดตะกุกตะกักทันที "แต่..เอ้อ..แต่เมื่อวาน..หนูบอกพี่ว่าลูกแมวนี่เป็นพันธ์เสื้อแดง เชียร์เพื่อไทย..นี่คะ"

 

"หนูทราบค่ะ" เด็กหญิงยิ้มหวาน ตอบอย่างไม่ต้องคิด "เมื่อวานตามันยังปิดอยู่ แต่วันนี้ มันลืมตาได้กันหมดแล้วนี่คะ"  
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #498 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2555, 20:39:09 »

THAI PRIME MINISTER FALLS IN LOVE WITH OBAMA
By Frank Lake on November 19, 2012


http://weeklyworldnews.com/headlines/52772/thai-prime-minister-falls-in-love-with-obama/

The Prime Minister of Thailand, Yingluck Shinawatra, has fallen madly in love with President Obama.

Prime Minister Shinawatra is lovesick and wants to return with President Obama to live with him at The White House. ”The Prime Minister doesn’t care if she is the second wife to Michelle, she just wants to be with Barack Obama and will do anything for him,” said a source in the Thai government. ”She’s madly in love.”

President Obama and the Prime Minister could be seen laughing together and exchanging playful glances throughout a state dinner at the Government House in Bangkok on Sunday night.

They were joined by Secretary of State Hillary Clinton, who toasted to the U.S.-Thailand friendship with Shinawatra. Sources say Hillary was jealous and tried making “googly eyes” at Shinawatra.

President Obama said at a news conference on Sunday in Bangkok, that the U.S. is a ‘Pacific nation.’ Shinawatra yelled out… “we have so much in common, Barack!”

Obama’s praised Thailand for being a supporter of democracy in Myanmar, the once-pariah state that is rapidly reforming.

The Thai Prime Minister took Obama to her favorite spot – the Temple of Reclining Buddha. There she reportedly slipped him a note that simply said, “Be Mine. Recline.”

Observing traditional custom, Obama took off his shoes as a saffron-robed monk led him and the Thai Prime Minister into a private room.

They were at the beach in Pattaya two hours away but rushed to Bangkok just to see him. ‘I’m so thrilled that he won the election. When we heard he was coming, we decided to get here.’

Obama was also very popular in Myanmar.

According to sources in China, Obama is the hottest man in Asia.
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
nok15
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529

« ตอบ #499 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2555, 20:56:50 »


     กำลังคิดอยู่ว่าเอ...นักข่าวการเมืองลางาน

     เป็นเดือนได้ไง  ทั้งที่ช่วงนี้งานข่าวการเมือง

     มีให้ทำเยอะแยะ.   กำลังจะเสียแชมป์ให้น้องหยีแล้ว.

     ดีนะ   กลับมาเกาะกระแสข่าวhot-hit ได้ทัน.

     ไม่งั้นแฟนคลับคอข่าวการเมืองหนีหมดแน่

 
     
   
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><