การเมือง : ทัศนะวิจารณ์วันที่ 2 พฤศจิกายน 2554 01:00
วีระศักดิ์ พงศ์อักษร
แกะรอยการเมือง -
weerasak@nationgroup.com "ยิ่งลักษณ์"..เปลี่ยนไป !โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ต.ค.ที่ผ่าน หากสังเกตให้ดีจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
เพราะข่าวสารที่ส่งผ่านรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน" ได้เปลี่ยนไปอย่างมีนัย" เพราะหากย้อนไปดูก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน 25 ต.ค.2554 นายกรัฐมนตรีใช้ทีวีรวมการเฉพาะกิจ ออกมา "พูดความจริง" กับประชาชนด้วยความระทึกยิ่งว่ามวลน้ำก้อนใหญ่กำลังเข้ามาถล่มเมืองหลวง และพลังน้ำรุนแรงเกินศักยภาพของระบบจะต้านทานได้ พร้อมไล่ยาวว่า เขตไหนบ้างจะท่วมเท่าไหร่ ด้วยปัจจัย เหตุผลใดบ้าง และกรณีที่เลวร้ายที่สุดบางพื้นที่ อาจจะท่วม 1.5 เมตร
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ตามมาด้วยการประกาศหยุดราชการใน 21 จังหวัด วันที่ 27-31 ต.ค.2554 ซึ่งเป็นการบ่งชี้ความวิตกของมหันตภัย และหนุนให้คนเมืองหลวงอพยพ ไปต่างจังหวัด ซึ่งตามมาด้วยศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) และ กทม.ที่ย้ำถึงเรื่องอพยพอย่างต่อเนื่อง ว่ากันว่า "ยิ่งออกจากกรุงเทพฯ มากเท่าไหร่ยิ่งดี"
ประชาชน..ก็ปฏิบัติตาม อย่างไม่ต้องสงสัย แห่กันจองรถ บขส.... เครื่องบินเต็มทุกเที่ยว ทุกขบวน ออกต่างจังหวัด ....คนทั้งโลกได้เห็นภาพถนนบนทางด่วน กลายเป็นที่จอดรถที่ยาวที่สุด
การปะทะของชาวบ้านสองระดับ ท่วมกับน้ำแห้งมีให้เห็นในหลายพื้นที่..ซึ่งสะท้อนถึงความรุนแรงของระดับน้ำ ข้อมูลจากกรมชลประทาน ข้อมูลจาก ศปภ. ข้อมูลจากนักวิชาการอิสระ ก็ชี้ไปทางนั้น
การออกมาเตือนด้วยการ "บอกความจริง" คือสิ่งที่สังคมจะได้เตรียมพร้อม!
แต่หลังจากนั้น 4 วัน "ยิ่งลักษณ์ เปลี่ยนไป"!
ในรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 วันที่ 29 ต.ค.2554 นายกรัฐมนตรี ออกมาให้ความหวัง และพยายามให้ข้อมูล เพื่อ "ลดความกลัว" ของประชาชนลง
"มีข่าวดี...ภาพรวมสถานการณ์ภาคกลางเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ระดับน้ำนครสวรรค์ และชัยนาทเริ่มลดลง น้ำที่ท่วมทุ่งและพื้นที่เกษตรได้ไหลเข้าสู่ลำน้ำสาขาต่างๆ ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาก็ลดลง คาดการณ์ว่าจะลดต่ำลงเป็น 3 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน"
"หากเร่งระบายน้ำและทุกส่วนเร่งดำเนินการก็สามารถลดปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่ กทม. รักษาคันกั้นน้ำแนวพระราชดำริ และควบคุมปริมาณน้ำใน กทม.ได้ หากเป็นเช่นนี้คาดการณ์ว่าน้ำที่ท่วมใน กทม.จะเริ่มลดลงในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน"
ตามมาด้วยการไม่ยืดวันหยุดราชการ..ซึ่งสะท้อนว่าในมุมมองของรัฐบาล สถานการณ์น่าจะดีขึ้นอย่างมากแล้ว ..ตามมาด้วยการยืนยันหลายรอบ หลายเวลาว่า "มวลน้ำก้อนใหญ่ได้ผ่านไปแล้ว"
หากใครเชื่อตามนี้ (นอกเสียจากไม่เชื่อ)...ก็ต้องหันมารื้อกระสอบทราย ทำลายกำแพงหน้าบ้าน เอารถออกจากทางด่วน กลับมาทำตัวตามปกติ โดยเฉพาะ กลุ่ม กทม.ชั้นใน
ไม่แปลกหากผู้นำจะบอกข้อมูล "ชุดใหม่" ที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัย ภายใน 4 วัน
แต่มีอยู่สองเหตุการณ์ ที่น่าจะ "เชื่อ" และ "เข้าใจ" ได้ว่า อารมณ์ที่เปลี่ยนไปของนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่น่าจะมาจากฐาน "ข้อมูล"..แต่น่าจะมีจากการปรับกลยุทธ์
กลยุทธ์ "คิดเกมใหม่" เพื่อฟื้นคะแนนนิยมของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังตกต่ำอย่างหนัก แถมเจอข่าวของบริจาคลอยเต็มดอนเมืองเข้าไปอีก ยิ่งหนักกว่าเดิม ผู้เก๋าเกมการเมืองย่อมรู้ว่า "เริ่มเอาไม่อยู่"
เพราะโดยหลักการตลาดที่ "พี่ชาย" ยึดมาประยุกต์เกมการเมืองนั้นเชื่อว่า "ผู้คิดเกมใหม่" ย่อมได้เปรียบ เพราะเป็นผู้ว่ากติกาด้วยตัวเอง
ดังนั้นเกมเช่นนี้...มีเพียง "ทักษิณ ชินวัตร" เท่านั้น ถึงจะเป็นกุนซือทำให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เปลี่ยนไปได้แค่ช่วง 4 วัน
ยิ่งได้ยินครั้งแรกว่ามีโปรเจคยักษ์ "New Thailand"..9 แสนล้านบาทนั้น คำเหล่านี้ย่อมทายไม่ผิดว่าใครเป็นคนคิด! เพราะหากย้อนไปในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บริหารประเทศแล้ว มักได้สรรหาคำในตระกูลเหล่านี้มากมาย อีกหนึ่งปัจจัยแวดล้อมที่ยืนยัน "ความเชื่อ" นี้ คือคำสัมภาษณ์และทวิตเตอร์ของอดีตนายกรัฐมนตรีล่าสุด
วันที่ 29 ต.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานจากประเทศเดนมาร์ก ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาร่วมงานกฐินพระราชทาน ที่วัดไทยเดนมาร์กพรหมวิหาร กรุงโคเปนเฮเกน
มีคำให้สัมภาษณ์ที่แรก ที่สอดคล้องกันว่าสถานการณ์ "จะดีขึ้น"
"ทราบว่าน้ำจากทางเหนือ นครสวรรค์ ลพบุรี อยุธยา ปริมาณน้ำลดลงแล้ว แต่ กทม.เจอน้ำทะเลหนุนอีก เชื่อว่าหลังวันที่ 2 พ.ย. ทุกอย่างจะคลี่คลาย"
เมื่อถูกถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์โทรมาปรึกษาเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบ้างหรือไม่ ? คำตอบจากอดีตนายกฯ คือ "คุยกัน มีอะไรก็ปรึกษากันตลอด ช่วงนี้ท่านนายกฯ ทำงานหนัก นานๆ จึงโทรมาปรึกษาแนวทางในการจัดสรรงบประมาณที่จะเข้าไปช่วยเหลือและฟื้นฟูให้กับประชาชน"
ทวิตเตอร์ล่าสุด 1 พ.ย.2554 ก็เขียนในทำนี้ พร้อมย้ำว่า "ความจริงผมแอบทำงานอยู่ห่างๆ"
จึงไม่แปลกหากวันนี้ "ยิ่งลักษณ์...เปลี่ยนไป" แต่หากย้อนชีวิตของเธอดู ก็อาจจะไม่เปลี่ยนเลยก็เป็นได้ เพราะนี่คือตัวตนที่แท้จริง..หญิงสาวผู้ไม่เคยปฏิเสธคำสั่งของ "พี่ชาย"!