23 พฤศจิกายน 2567, 07:40:19
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25 26 ... 33  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน  (อ่าน 329299 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 23 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #575 เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2554, 21:19:20 »

“เหลิม” เดือดดวลฝีปากนักข่าว โดนจี้ออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษเพื่อ “แม้ว” เมินม็อบต้าน    
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    

วันนี้ (17 พ.ย.) ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้ายจะตั้งกระทู้ถามสดถึงการประชุมลับของคณะรัฐมนตรีที่มีการพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขอพระราชทานอภัยโทษ ที่อาจมีเนื้อหาเอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ตนพยายามชี้แจงให้มากที่สุด แต่ว่าคงลงรายละเอียดไม่ได้ เพราะหากชี้แจงแล้วสุดท้ายบทสรุปไม่เป็นไปตามที่ตนชี้แจงก็จะเกิดความเสียหายกับทุกภาคส่วน แต่ขอยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย และไม่ทำอะไรเพื่อคนคนเดียวโดยเด็ดขาด กรอบกฎหมายเป็นอย่างไรต้องเป็นไปตามนั้น แนวคิดและนโยบายของแต่ละรัฐบาลมีความแตกต่างกัน นโยบายของพรรคการเมืองก็แตกต่างกัน อย่างกรณีนโยบายการรับจำนำหรือประกันราคาข้าวก็เห็นแตกต่างกัน
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพูดเช่นนี้เท่ากับว่าการคืนความเป็นธรรม หรือการพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านเป็นนโยบายของรัฐบาลนี้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ขอไม่พูดรายละเอียด เพราะใน พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ ไม่ได้กำหนดตัวบุคคล หากมีกฎหมายแล้วก็ต้องประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา คงจะพูดก่อนไม่ได้ ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ ส่วนการที่มีการวิจารณ์รัฐบาลกระทำระคายเบื้องพระยุคลบาทนั้น ตนขอไม่แสดงความเห็นเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องไม่บังควร แต่ยืนยันว่ารัฐบาลทำภายใต้กรอบของกฎหมาย
       
       เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม เคยออกเอกสารเกี่ยวกับขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษ ถึงขณะนี้ยังยืนยันขั้นตอนตามเอกสารเดิมหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่เคยจัดทำเอกสารดังกล่าว คงเป็นความเข้าใจผิด อย่างไรก็ตาม เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงการรวบรวม พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ของปี 50 และปี 53 มาบอกนักข่าว ไม่ใช่เป็นเอกสารของตน ซึ่งยอมรับว่าหลักการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ของทุกรัฐบาลล้วนจะแตกต่างกัน เพราะมีแนวคิดที่ไม่เหมือนกัน บางรัฐบาลก็เขียนกฎเกณฑ์อยู่เหนือกฎหมาย สำหรับรัฐบาลชุดนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการมากว่า 20 คน ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องที่รัฐบาลทำเอง เป็นเรื่องที่กระทรวงยุติธรรมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการต่อ ซึ่งหาก ครม.อนุมัติแล้วจะส่งไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาความถูกต้องอีกครั้ง หากกฤษฎีกาเห็นว่าไม่ผิดกฎหมายก็จะส่งเรื่องเพื่อนำทูลเกล้าฯ ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาขององคมนตรีอีกด้วย
       
       เมื่อถามว่า เมื่อเป็นการเสนอเรื่องโดยกระทรวงยุติธรรม เหตุใดจึงบอกว่าไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า อะไรก็ตามที่ไม่ผิดกฎหมาย ตนกล้าทำ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่แล้วเสร็จ เมื่อถามย้ำว่ามีความกังวลหรือไม่ว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวตอบว่า น้ำผึ้งไม่ได้มีหยดเดียว แต่น้ำผึ้งมีเป็นขวด ตนเชื่อว่าไม่มีเรื่องอะไร พวกที่ไม่เข้าใจก็ชี้แจงเมื่อเรื่องเสร็จก็จะเรียบร้อยทั้งหมด ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องเปิดเผย เพราะเรื่องยังไม่แล้วเสร็จ
       
      ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักษ์สันติ ในฐานะอดีต รมว.ยุติธรรม สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ไม่ถือเป็นความลับ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า นักการเมืองจะเห็นเหมือนกันได้อย่างไร หากเห็นเหมือนกันตอนเลือกตั้งก็คงได้คะแนนเท่ากันไปแล้ว
       
       เมื่อถามต่อว่า หากประเด็นเรื่องออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ไม่ใช่ความลับแล้วมีเหตุผลใดที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องลับเพราะยังไม่แล้วเสร็จ การจะเป็นความลับหรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรี ไม่มีอะไรพิเศษ บางคนสงสัยว่าเหตุใดตนต้องรับผิดชอบในเรื่องการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ก็เป็นเพราะตนจบดอกเตอร์ทางกฎหมาย ส่วนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ก็ชำนาญด้านรัฐศาสตร์ สำหรับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ก็เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ ซึ่งครั้งนี้อาจจะไม่ใช่กณรีพิเศษเพียงครั้งเดียว
       
       ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ตามปกติการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ จะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า หากพูดอะไรไปก็เกรงว่าจะกระทบใจนักข่าว ในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ พิจารณา 311 วาระในวันเดียวยังสามารถทำได้ และหากทำเหมือนกันทุกเรื่อง พรรคประชาธิปัตย์คงไม่แพ้เลือกตั้ง และพรรคเพื่อไทยคงไม่ได้มาถึง 265 ที่นั่ง
       
       ต่อข้อถามถึงความเป็นห่วงในฐานะคณะรัฐมนตรี ว่าจะเกิดความขัดแย้งในหมู่ประชาชน และมีการออกมาชุมนุมกันอีกครั้ง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เชื่อว่าคงไม่มี อีกอย่างส่วนตัวไม่เคยมองโลกในแง่ร้าย ในเมื่อรัฐบาลทำตามกฎหมาย ปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้น แต่หากเป็นเรื่องที่ทำผิดกฎหมายตนคงไม่เอาด้วย ส่วนการเคลื่อนไหวของนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดรที่จะมีการรวบรวมมวลชนนั้น ตนไม่ทราบ และไม่เคยเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนเสื้อแดง จึงไม่รู้ว่าเป็นการระดมมวลชนแบบใด
       
       เมื่อถามว่า การถวายคำแนะนำถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการรับรองของคณะรัฐมนตรีจะเป็นอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เมื่อถามย้ำอีกว่า ในส่วนของความเหมาะสมและเหตุผลที่อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งของบ้านเมืองอยู่ในขอบข่ายที่ต้องนำมาพิจารณาหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่มีอะไรขัดแย้ง ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนที่มีการเคลื่อนไหวของสังคมออนไลน์หรือกลุ่มต่างๆ เพื่อต่อต้านนั้น ถือเป็นสิทธิ สามารถทำได้ เพราะรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยต้องรับฟังความเห็นทุกภาคส่วน
       
       เมื่อถามต่อว่า หากมีความมั่นใจว่าเป็นเรื่องที่ทำถูกกฎหมายแล้ว เหตุใดจึงไม่สามารถเปิดเผยได้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “ยังไม่ถึงเวลาแม่คุณทูนหัว”
       
       เมื่อถามว่า หากทำเช่นนี้มองหรือไม่ว่าจะเป็นการกดดันองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าจะต้องทำตามในสิ่งที่มีการถวายคำแนะนำ รองนายกฯ กล่าวตอบว่า “ผมไม่ตอบ เพราะหากยืนสัมภาษณ์ต่อไป คุณสมจิตร (น.ส.สมจิตร นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานที่โทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ซึ่งเป็นผู้ถาม) อาจจะเป็นผู้ที่ติดคุก”
       
       สำหรับกรณีที่มีการวิจารณ์ว่าหลักเกณฑ์ใน พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ที่ออกในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังมีการระบุว่าผู้ที่ได้รับการอภัยโทษ ต้องมาอยู่ในสถานที่คุมขังก่อน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เรื่องนี้ตนสามารถตอบได้ซ้ำไปซ้ำมาว่าจะทำได้ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย รวมทั้งขอปฏิเสธด้วยว่า เหตุที่ไม่เปิดเผยเรื่องออกมาตอนนี้ ไม่ได้กังวลว่าสังคมจะออกมาต่อต้าน เพราะไม่มีความจริงใดที่จะปิดบังเป็นความลับได้ตลอด ส่วนใครจะออกมาต่อต้านก็ขอให้ต้านไป
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเกิดความขัดแย้งขึ้นในช่วงวันมหามงคล คณะรัฐมนตรีจะแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวตอบว่า “คุณสมจิตรเป็นนักข่าวมานาน ผมไม่อยากต่อว่า อะไรที่มันเปิดไม่ได้ ผมก็ยังไม่เปิด คุณถามผมไม่จนหรอก คำถามนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าถาม รู้สึกว่าคุณกล้าจริงๆ เลย”
       
       เมื่อถามอีกว่า คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับมาภายในปีนี้ตามที่พรรคเพื่อไทยได้เคยหาเสียงไว้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ตนปราศรัยในช่วงเลือกตั้ง ที่เมื่อไปในพื้นที่ที่มีคนรัก พ.ต.ท.ทักษิณ หากไม่พูดถึงจะเป็นไปได้อย่างไร ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับมาหรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะว่า พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ยังไม่ออก
       
       ผู้สื่อข่าวพยายามถามย้ำว่า หากพูดเช่นนี้แล้ว ความรับผิดชอบของนักการเมืองในการปราศรัยหาเสียงอยู่ที่ใด ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิมหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวถึงกรณีผู้เสียชีวิต 91 รายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.53 ในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยอ้างว่าเรื่องนี้ยังไม่มีคนตายเลย เหตุใดจึงพยายาม
       
      เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะได้มีโอกาสเข้าร่วมงานฉลองมงคลสมรสของ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาวหรือไม่ ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “แล้วคุณจะไปพาดพิงอะไรเรื่องครอบครัวคนอื่น ซึ่งผมคงตอบคำถามแทนไม่ได้ มีเคเบิลทีวีช่องไหนขอให้นำคำพูดของคุณสมจิตรไปออกทุกคำพูดหน่อย” เมื่อกล่าวจบ ร.ต.อ.เฉลิมได้เดินออกจากวงล้อมสื่อมวลชน โดยกล่าวทิ้งท้ายว่าตนไม่เคยหนีนักข่าว เพราะเป็นคนชอบพูด แต่ที่ต้องไปวันนี้ เพราะกลัวมีคนติดคุก
       
      ผู้สื่อข่าวรายงานในระหว่างการให้สัมภาษณ์นั้น บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด และมีการตอบโต้กันไปมาระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิมกับผู้สื่อข่าวอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะคำถามถึงการเอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ในการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ครั้งนี้ รวมไปถึงประเด็นที่เกี่ยวกับการใช้พระราชอำนาจ โดย ร.ต.อ.เฉลิมได้พยายามหลีกเลี่ยง โดยอ้างว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรและอาจเข้าข่ายการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมไปถึงพยายามตักเตือนผู้สื่อข่าวว่า บางคำถามมีความไม่เหมาะสม และขอให้ทีวีดาวเทียมบางช่องนำถ้อยคำของผู้สื่อข่าวไปออกอากาศทั้งหมดอีกด้วย
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #576 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 10:48:27 »

นครสวรรค์รับครัวเรือนละ 30,000 บาท ที่อื่นได้รับเท่าไหร่เอ่ย‏
 


เห็นภาพแล้วยิ่งเลอะจริง ๆ ทำไปได้ไงเนี่ย ….
ทำไมชดเชยที่นครสวรรค์ได้หลังละ 30,000 บาท แจกกันครึกครื้น แต่ที่อื่นท่วมเหมือนกันแต่ให้เพียงหลังละ 5,000 บาท
หาเสียงล้วนๆ หรือเลือกปฏิบัติ


ถ้าเป็นเงินส่วนตัว เขียนป้ายแบบนี้ก็ไม่ว่าอะไรศรัทธาด้วย แต่ถ้าเป็นเงินหลวง ต้องเสมอภาคทุกหลัง 30,000
ภาพนี้ดูแล้วคิดว่ามันโจ๋งครึ่มไปไหมครับ


หมายเลข 1. ถ้าเป็นเงินส่วนตัวของท่าน เขียนป้ายแบบนี้ผมก็ไม่ว่าอะไรนะครับ ศรัทธาด้วย
                  แต่ถ้าเป็นเงินหลวง ก็ต้องเสมอภาคทุกหลัง 30 000 นะครับ
หมายเลข 2. ท่านกำลัง"กำกับการโพสต์" ให้โชว์เงินสดเหรอครับ
หมายเลข 3. ป้ามือไม่มีแรง เงินสดไม่แบออกมา เลยมีผู้เอามือมาช่วยกลัวไม่เห็นเงิน
หมายเลข 4. ชูขึ้นมาสูงๆ เดี๋ยวไม่เห็นเงิน
หมายเลข 5. กำกับการโพสต์ถ่ายให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้

ยังด้านกันอีกหรือครับเขียนไม่อายแผ่นดินไทย ลูกน้องท่านทำเรื่องใหญ่ๆไว้เยอะในของบริจาค
แต่นี่ ท่านทำเองเลยนะนายกฯ  ลาออกไปเถอะครับ!!!!
 เงินภาษีผม มาเขียนว่าบริจาคโดย ท่านได้ไง เงินท่านเหรอที่บริจาคน่ะ



      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #577 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 11:57:07 »

คลายเครียดครับ พี่น้อง

โรคบ้าๆ ที่มากับน้ำท่วม  555
อยากดูภาพประกอบ คลิก ไฟล์ ใต้หัวข้อ

โรคเป๋อ
 http://mblog.manager.co.th/uploads/2449/images/flood-01.jpg
โรคนี้ค้นพบครั้งแรกในจังหวัดปู้เอ่อ มณฑลยูนาน ประเทศจีน จึงเรียกกันว่าโรคปู้เอ่อ คนไทยเราเรียกเพี้ยนเป็น โรคปูเอ๋อ ต่อมาจึงลดรูปเหลือเพียง โรคเป๋อ เท่านั้น สาเหตุของโรคเกิดจากการขาดสารไอโอดีนมาตั้งแต่เด็ก ร่างกายจึงไม่สามารถสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาสมอง ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะคิดเฉื่อย ทำช้า มีปัญหาในการพูด พูดจาตะกุกตะกัก ลิ้นไม่สัมพันธ์กับฟัน พูดผิดบ้างถูกบ้าง แม้จะมีโพยให้อ่านก็ยังอ่านผิดอ่านถูก หากอาการหนักขึ้น จะทำให้อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ไม่สามารถควบคุมได้ บางครั้งอยู่ดีๆ ก็หัวเราะขึ้นมาในลิฟท์ หรือบางทีนั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ก็ร้องไห้ขึ้นมาเฉยๆ หากอาการหนัก
ถึงขั้นจำแนกความแตกต่างของสิ่งของไม่ได้ เช่น แยกแยะระหว่างเรือดำน้ำ กับเรือดันน้ำไม่ออก เห็นหญ้าแฝกเป็นหญ้าแพรก หรือไม่รู้ว่าเดือนพฤศจิกา ควรลงท้ายด้วย คม หรือ ยน ให้รีบนำส่งแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด หากโรคนี้เกิดกับผู้นำประเทศ จะมีศัพท์เฉพาะเรียกว่า cAIDS ซึ่งมาจาก (crab's Abnormal, Idiot, and Dumb Syndrome) หรือภาวะภูมิผู้นำบกพร่อง ไม่ควรให้บริหารประเทศต่อไป เพราะจะทำให้ฉิบหายกันหมด เหมือนดังนิทานเรื่องแม่ปู กับลูกปู ที่แม่ปูไม่มีทางพาลูกปูเดินตรงทางได้ วิธีป้องกันสำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้คือ ทานอาหารที่มีสารไอโอดีน ซึ่งมีมากในอาหารทะเล แต่ในยามน้ำท่วม คงยากที่จะหาอาหารทะเลกินกัน จึงขอแนะนำให้พกเกลือไอโอดีนติดตัวไว้ใช้ในการปรุงรสอาหาร
 
น้ำท่วมป(ล)อด
 http://mblog.manager.co.th/uploads/2449/images/flood-02.jpg
เป็นอาการเกิดจากความดัน(ทุรัง)โลหิตสูงเกินปกติ ทำให้มักจะแสดงอารมณ์แบบสุดโต่ง ตัดสินใจผิดพลาด แต่ก็ไม่เคยมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง (ทั้งในที่แจ้งและที่ลับ) ยามใดมั่นอกมั่นใจก็ออกมาแสดงท่าทีขึงขัง โชว์พาวฯ เต็มที่ ประกาศกร้าว แต่พอผลออกมาแป้กก็ทำลอยหน้าลอยตา เหมือนไม่ได้ทำอะไรไว้ วันดีคืนดีก็ทำหน้าตาตื่นออกมาตะโกนโหวกเหวกให้ชาวบ้านขวัญผวา แต่จริงๆ ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนเด็กเลี้ยงแกะในนิทาน หลังๆ ชาวบ้านรู้ทัน เลยไม่ให้ค่าอะไรต่อไปอีก ผู้ที่รู้สึกว่าเกิดอาการนี้ขึ้นกับตัวเอง ควรจะอยู่นิ่งๆ เฉยๆ ไม่ต้องเสนอหน้าออกมาให้ความเห็นอะไรอีกแล้ว เพราะมันไร้ค่า พูดไปก็เหมือนไม่พูดเพราะไม่มีใครสนใจฟังแล้ว ถ้ายังขืนทู่ซี้ต่อไป จะเกิดอาการเสียเซลฟ์จนพูดไม่ออก กลายเป็นโรคน้ำท่วมปากไปในที่สุด
 
คางครก
 http://mblog.manager.co.th/uploads/2449/images/flood-03.jpg
โรคนี้จะมีอาการคางบวมคล้ายโรคคางทูม แต่รุนแรงกว่าคือปูดบวมออกมาคล้ายรูปครก น่าเกลียดน่ากลัวมาก สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อไวรัสตอแหล (Torlae Virus) อาจจะถึงขั้นตอแหลขึ้นสมองคิดว่าสิ่งที่ตัวเองพูดคือความจริง คอยเพ้อแต่เรื่องทหารจะปฏิวัติ แรกๆ ก็ว่าทหารจะฉวยโอกาสน้ำท่วมปฏิวัติ ต่อมาก็เล่นลิ้นว่าโชคดีที่น้ำท่วมทหารเลยไม่ได้ปฏิวัติ พอเห็นประชาชนชื่นชมการทำงานของทหารในภาวะน้ำท่วมและต่อว่ารัฐบาลที่แก้ปัญหาไม่เอาอ่าว ก็ออกมาใส่ร้ายว่าทหารช่วยน้ำท่วมไม่เต็มที่จงใจจะวางยารัฐบาล ในขณะที่ตัวเองไม่เห็นทำ 5 อะไรกับเขา เอาแต่แหกปากไปวันๆ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ ควรจะสงบปากสงบคำไว้ เพราะถ้าขืนยังพูดตอแหลมากอาการจะยิ่งหนัก ครกที่คางจะยิ่งใบใหญ่ขึ้น อาจจะถึงขั้น ช็อกตาถลน กัดลิ้นตัวเอง ใครเห็นเข้าควรสงเคราะห์ด้วยการเอาสากยัดปาก แล้วตำแรงๆ สักทีสองที
 
พองขน
  http://mblog.manager.co.th/uploads/2449/images/flood-04.jpg
ในช่วงน้ำท่วม ควรทำความสะอาดเท้าทุกครั้งหลังลุยน้ำ ไม่งั้นอาจจะติดเชื้อราฟอเก็ตฟุต (Forget Foot) หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่าโรควัวลืมตีน ลักษณะพิเศษของโรคนี้ก็คือเชื้อจะลามอย่างรวดเร็วไปที่ผิวหนังรอบตัว เกิดขี้เรื้อนขึ้นในรูขุมขน ขนลุกขนพอง เวลาเดินไปไหนมาไหนต้องเดินกร่างกางแขน เพราะเดี๋ยวขนที่พองจะทิ่มตัวทำให้น้ำหนองไหล ผู้ที่เป็นหนักจะมีอาการทางประสาทที่เรียกว่า จองหองพองขน ได้ดีนิดหน่อย ทำเบ่งไปทั่ว ชูคอลอยหน้าลอยตา คล้ายกิ้งก่าได้ทอง อยากได้เรือก็ขู่จะเอาดื้อๆ คุยโวว่าตัวเองใหญ่กว่าอธิบดี ชาวบ้านเห็นแล้วสมเพช เหมือนคนเล่นไพ่ที่ตัวเองถือแค่ดอกจิก แต่นึกว่าตัวเองเจ๋งกว่าโพธิ์ดำ
 
อัณฑะพาล
 http://mblog.manager.co.th/uploads/2449/images/flood-05.jpg
โรคนี้เป็นอาการแทรกซ้อนของคนที่เป็นมะเร็งที่ลูกอัณฑะ ฮอร์โมนของร่างกายไม่สมดุลย์ ส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์ ทำให้เป็นคนมี 2 บุคลิก ยามอยู่ต่อหน้าก็ดูใสซื่อ มีเมตตาการุณอ่อนน้อมถ่อมตน แต่พอลับหลังก็โหสถุลมาก ชอบใช้กำลังทำตามความต้องการตัวเอง เห็นแก่ตัวไม่เคยรักษาสัญญาที่ให้ไว้ หัวค่ำออกมาเจรจาอย่างดิบดี แต่พอตกดึกก็ยกพวกกลับมาพังคันดินกั้นน้ำ คนที่ป่วยเป็นโรคนี้ควรแก้เคล็ดโดยให้ผู้หญิงช่วยถีบสักทีสองที อาการจะทุเลาลงชั่วคราว แต่ถ้าจะป้องกันอาการกำเริบอย่างถาวร ควรเอาโซ่ล่ามอัณฑะผูกไว้กับเสาบ้าน ไม่ควรปล่อยออกมาเพ่นพ่าน สร้างความเดือดร้อนข้างนอก
 
ตานขโมย
 http://mblog.manager.co.th/uploads/2449/images/flood-06.jpg
โรคนี้เกิดจากพยาธิในท้องและลำไส้ที่คอยแย่งอาหารที่กินลงไป ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร เจริญเติบโตไม่เต็มที่ ผอมแห้งหนังติดกระดูก คล้ายๆ เปรตขอส่วนบุญ แม้ว่าจริงๆ แล้วตัวเองจะร่ำรวยมหาศาล มีอันจะกินแค่ไหน แต่กินเท่าไรก็ให้พยาธิไปหมด เลยทำให้กินเท่าไรไม่รู้จักพอ แล้งน้ำใจ หนักขึ้นถึงขั้นขโมยของคนอื่นเขามากินมาใช้ ในช่วงน้ำท่วมควรระวังให้ดี คนที่ป่วยเป็นโรคนี้มักอยู่ตามแหล่งรับบริจาคกลางของรัฐ คอยจองของที่ประชาชนบริจาคเข้ามาติดชื่อสวมรอยว่าเป็นของตัวเอง ขนาดส้วมที่ญี่ปุ่นบริจาคมาให้ มีป้ายติดเห็นๆ ว่ามาจากญี่ปุ่น ก็ดันมีคนเอาชื่อไปเขียนไว้ที่ส้วมซะงั้น
 
ตาแด๊งแดง
 http://mblog.manager.co.th/uploads/2449/images/flood-07.jpg
โรคตาแด๊งแดง มีอาการรุนแรงโรคตาแดงหลายเท่านัก เหตุเพราะภูมิคุ้มกันทางปัญญาต่ำ จึงทำให้ไวรัสแดงเข้าทำลายกระจกตาดำอย่างถาวร ทำให้มีโลกทัศน์แคบ มองเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นคนหนีคุกเป็นพระเจ้า ในยามน้ำท่วมควรมีการตรวจคัดกรองผู้ที่จะเอาของไปบริจาคให้ชาวบ้านก่อน ไม่งั้นหากคนที่ป่วยเป็นโรคนี้นำของไปบริจาคจะบริจาคให้ไม่ทั่วถึง เพราะถ้าบ้านไหนไม่ติดธงแดง หรือใส่เสื้อแดง จะไม่เอาของให้ ส่วนผู้ประสบภัยที่ป่วยเป็นโรคนี้ก็เหมือนกัน ถ้าเกิดทหารเอาของมาแจกก็จะด่าทหาร ถ้าอาสาสมัครเอาของไปให้ ก็จะบังคับให้เขาไปใส่เสื้อแดงมาก่อนถึงจะยอมรับของ แต่พอเขาทำท่าจะกลับก็ดันเสียดายร้องตะโกนบอกไปว่า ให้เอาของวางทิ้งไว้ตรงนั้น เดี๋ยวไปหยิบเองซะงั้น
 
ข้อนิ้วอักเสบ
http://mblog.manager.co.th/uploads/2449/images/flood-08.jpg
โรคนี้มักเกิดกับคนที่เล่น facebook โดยเฉพาะภาวะน้ำท่วมอย่างนี้อัตราการเกิดข้อนิ้วอักเสบจะพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว เหตุเพราะคนอ่านโพสต์ที่ด่าการทำงานล้มเหลวของศปภ. และความปัญญาอ่อนของผู้นำประเทศแล้วรู้สึกโดนโจ กด like ให้แทบไม่ทัน บางครั้งสะใจเกินไปหน่อย ถึงขั้นกระทืบ like กดแรงเกินพิกัดติดกันหลายครั้ง ส่งผลให้นิ้วทำงานเกินกำลังเดี้ยงไป จนต้องเข้าเฝือก แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ ลดละความพยายามเอานิ้วมือซ้ายกดแทน คาดว่าหากนิ้วชี้มือซ้ายเดี้ยงไปอีก คงได้เอานิ้วกลางกดแทน
 
ที่มา - http://mblog.manager.co.th/kenjionline/th-118053/
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #578 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 22:40:23 »


เนชั่นทันข่าว    ข่าวด่วนธุรกิจ    The Nation    
 จ่าย 1 พันแลกลงชื่อหนุนพ.ร.ฎ.อภัยโทษ
18 พย. 2554 20:38 น.

    นายจำเรือง นกเล็ก นักจัดรายการวิทยุท้องถิ่นคลื่นความถี่ 87.5 เม็กกระเฮิร์ท จ.สิงห์บุรี เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากประชาชน ว่า ขณะนี้ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลต้นโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี มีแกนนำประชาชน ได้นำเงินไปให้กับประชาชนรายละ 1,000 บาท โดยขอให้ประชาชนที่รับเงินนำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านมาให้ พร้อมรับรองลายมือชื่อไปมอบให้ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการสนับสนุนพระราชกฤษฎีการดังกล่าว ซึ่งก็มีประชาชนจำนวนหนึ่งนำสำเนาบัตรประจำตังและสำเนาทะเบียนบ้านไปมอบให้


      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #579 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 23:14:21 »

'ตุลย์'นำค้านอภัยโทษ'ทักษิณ'-ส.ว.สรรหาร่วมชุมนุม

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"หมอตุลย์"นำทีมเปิดปราศรัยค้านพ.ร.ฎ.อภัยโทษ"ทักษิณ" ขณะที่กลุ่มส.ว.สรรหาเข้าร่วมการชุมนุม


สวนลุมพินี  -  เมื่อเวลา 16.00 น. นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน หรือกลุ่มคนเสื้อหลากสี เปิดเวทีปราศรัยที่บริเวณลานด้านหน้าอนุสาวรีย์ ร.6 พร้อมกับตั้งโต๊ะล่ารายชื่อให้ประชาชนร่วมลงชื่อในหนังสือคัดค้านกระทรวงยุติธรรมถวายฎีกาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลังจาก ครม.ผ่านมติเห็นชอบ พรฎ.อภัยโทษ โดยมีประชาชนจำนวนมาก มาร่วมฟังการปราศรัยและร่วมลงชื่อ

 โดย นพ.ตุลย์ กล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า จะนำรายชื่อทั้งหมดไปยื่นให้นายกฯ โดยนัดชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลในวันอังคาร ที่ 22 พ.ย.เวลา 09.00 น. ซึ่งเป็นวันประชุม ครม. ทั้งนี้ในหนังสือคัดค้าน ได้ระบุเหตุผล 3 ประการ

1.ฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นฎีกาที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะลงนาม โดยบุคคลที่ไม่ตรงตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้ และไม่เคยมีธรรมเนียบปฏิบัติช่วยหนักโทษหนีคดี

2. เมื่อมีการถวายฎีกาที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ย่อมเป็นการระคายเคื่องต่อเบื้องพระยุคลบาท เพราะคนที่ ลงนามไว้เป็นจำนวนมากถึงกว่าล้านคน หากฎีกาถูกยกอาจมีความไม่พอใจหรือพาให้มีความรู้สึกไม่ดีต่อสถาบัน

3. ผู้หลบหนีคดีไม่เคยสำนึกผิดหรือถูกคุมขัง ยังทำตัวเป็นปรปักษ์ต่อชาติ จึงไม่น่าจะเข้าข่ายได้รับการพิจารณา ดังนั้น ขอให้กระทรวงยุติธรรมและบุคคลทุกฝ่าย หยุดการกระทำอันเป็นการละคายเคืองเบื้องยุคลบาท โดยการที่จะนำเสนอต่อสำนักพระราชวัง เพื่อทรงมีพระราชวินิจฉัย

นพ.ตุลย์ ปราศรัยอีกว่า เวลา 13.30 น. วันจันทร์ที่  21 พ.ย. จะเดินทางไปที่ทำเนียบองคมนตรี เพื่อคัดค้านร่าง พรฎ.อภัยโทษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการชุมนุมมีเพียงเจ้าหน้าที่เทศกิจกทม. และ ตำรวจจราจรคอยอำนวย ความสะดวก ส่วนบนสะพานไทยเบลเยี่ยม คอยดูความมปอลดภัย

ด้านกลุ่มสยามสามัคคี พร้อมด้วยเครือข่ายนักวิชาการ และภาคประชาสังคม ร่วมจัดเสวนา เรื่อง "พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ซ้ำเติมวิกฤต่ระเทศไทย" ที่อาคารสโมสรพลเมืองอาวุโสแห่งเมืองกรุงเทพ (ลุมพินี ฮอลล์) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่เวทีเสวนาจะเริ่ม ทางทีมงานได้จัดแสดงดนตรี ขับกล่อม จาก นายวสันต์ สิทธิเขต และ นายประทีป ขจัดภัย ให้กับประชาชนที่มาร่วมรับฟัง

นอกจากนั้นแล้วมีบุคคลสำคัญทยอยเดินทางมาร่วมเวทีแล้ว อาทิ นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีต สว., นายสมชาย แสวงการ, น.ส.สุมล สุตวิริยะวัฒน์ สว. สรรหา

นายประสาร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมเคลื่อนไหวคัดค้านร่างพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2554 ว่า ตนยังไม่ทราบว่า กลุ่มดังกล่าวจะเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง แต่กลุ่มสยามสามัคคีนั้น ต้องเดินตามแนวทางที่ได้วางไว้ อย่างไรก็ตามคาดว่างานเสวนาดังกล่าวจะมีประชาชนมาร่วมไม่ตำกว่า 1,500 คน

 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #580 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2554, 23:20:38 »

ปูแจงขออภัยโทษทักษิณสื่อนอก

ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์สื่อนอก อ้างเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษให้ทักษิณ ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา อ้อนนักลงทุนต่างชาติอย่าพึ่งหนีไทย

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีของสหรัฐรายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ที่กล่าวกับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจาครั้งที่ 19 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซียว่า อยากจะขอให้นักลงทุนต่างชาติทั้งหลายโปรดได้เชื่อมั่นและลงทุนในไทยต่อไป และรัฐบาลขอให้คำมั่นว่าจะไม่ยอมให้เหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้เกิดขึ้นซํ้าอีกในอนาคต  อย่างแน่นอน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีนักลงทุนต่างชาติจำนวนมากต่างแสดงความข้องใจและสงสัย ตลอดไปจนถึงการออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเกี่ยวกับแผนบริหารจัดการปัญหานํ้าท่วมของภาครัฐที่ไม่มีความแน่นอนและขาดเอกภาพในการทำงานจนสร้างความสับสนเกี่ยวกับข้อมูลที่ถูกต้อง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลจะพลิกวิกฤติที่เกิดขึ้นมานี้ให้กลายเป็นโอกาส ด้วยการยกเครื่องแผนบริหารจัดการนํ้าใหม่ขึ้นใหม่ทั้งหมด  อีกทั้งยังกล่าวด้วยว่ารัฐบาลจะยังคงจะยึดถือแนวนโยบายการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศต่อไป โดยผ่านทาง นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นตํ่า(300 บาท/วัน) ถึงแม้ว่าจะมีผู้ประกอบการหลายภาคส่วนแสดงความคัดค้านก็ตาม โดยกลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้มองว่าจะทำให้ต้นทุนในการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังอยู่ในภาวะซบเซา

"เราต้องกลับมาแก้ไขปัญหาที่รากฐานของปัญหา และปัญหาสำคัญของไทยก็คือช่องว่างทางรายได้ระหว่างคนจนและคนรวยที่มีอยู่มาก ดังนั้นนโยบายการเพิ่มค่าแรงขั้นตํ่าของรัฐบาลอย่างน้อยก็จะกลายเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยบรรเทาปัญหาช่องว่างทางรายได้ตรงนี้"

ส่วนประเด็นด้านการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษซึ่งในขณะนี้กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมไทย ที่กำลังเป็นที่สนใจของสื่อในประเทศและต่างประเทศนอกเหนือจากเรื่องนํ้าท่วม ว่าจะนำมาซึ่งความแตกแยกในการเมืองไทยครั้งใหม่  ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า กระบวนการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาและตัดสินใจอยู่

"มันเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปที่จะมีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนักโทษ ก่อนถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่  5 ธันวาคม  ของทุกๆปีอยู่แล้ว ทั้งนี้กระบวนการทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาเสนอชื่อผู้สมควรได้รับพระราชทานอภัยโทษอยู่" ยิ่งลักษณ์กล่าวปิดท้าย

ความเห็นผู้อ่าน
คุณ psmart: 18 พ.ย. 2554 ,23:15 น.

อ้า ปาก ก้อ เห็น ลิ้น เป็๋น แฉกๆ แล้วววววววว ปู เอ๋ยยยยยยยยยยยยย !!

    ถูกใจ 0 คน
    ขัดใจ 0 คน

คุณ ffun: 18 พ.ย. 2554 ,23:15 น.

น่าสงสารนายกหญิงคนนี้จริงๆ อะไรหนอที่ดลจิตดลใจให้เธอมารับทุกข์แทนพี่ ชาย....ถ้าเธอไม่ได้เป็นนายกฯ เธอจะมีชีวิตอยู่สุขสบาย ไม่ต้องตากแดด ลุย น้ำ ลุยฝน เหนื่อยกาย ทุกข์ใจแสนสาหัสแบบทุกวันนี้ ........ .......ถ้าเธอได้สนทนาธรรมกับ พระรักเกียรติ แห่งศูนย์ปฏิบัติธรรมวัง พญานาค วัดใหม่สุขธนะศรีนคราราม บ้านวังชัย ต.เวียงคำ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เธอจะได้แนวความคิดที่ดี ใช้หลักธรรมของพุทธศาสนา เพื่อ ช่วยให้ตัวเธอและพี่ๆของเธอ รู้จักปล่อยวาง ไม่ยึดติดกับวัตถุ ..... ...... เธอจะได้พบกับสัจธรรมของชีวิตและความสุขที่แท้จริง ......พระรักเกียรติ กล่าวตอนหนึ่งว่า"อาตมารู้จักทักษิณดี เคยบอกแล้วว่า โทษจำคุก 2 ปี แต่เมื่อจำคุกจริงๆ ไม่ถึงหรอก อย่างมากไม่กี่เดือน เมื่อมาจำ คุกจริงแล้ว ให้รัฐบาลของน้องตัวเอง (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ขออภัยโทษ ตามหลักปรองดองเลย ปัญหาจะได้จบความสามัคคีจะได้เกิด มิฉะนั้นจะตอบ คำถามคนอื่นอย่างไร จะต้องยอมนิรโทษกรรมให้คนอื่นด้วยหรือไม่ และจะตอบ คำถามคนที่ติดคุกยอมรับโทษตามกฎหมายได้อย่างไร สิ่งที่จะทำเพื่อคนคนเดียว นั้น ไม่มีวันที่จะสร้างความปรองดองได้ ตราบเท่าที่ยังมีคนไม่ยอมรับ และไม่ได้ รับการปฎิบัติบนมาตรฐานเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ" พระรักเกียรติกล่าว

    ถูกใจ 0 คน
    ขัดใจ 0 คน

คุณ slim: 18 พ.ย. 2554 ,23:14 น.

ประโคมข่าวประชาสัมพันธ์โดยไม่สามารถทำได้จริงก็คือการตอแหลดีๆนี่เอง.....ต่างชาติ เขาไม่โง่หรอก ใครเขาจะมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรงอีก ในเมื่อทุกอย่างไม่ทำตาม ครรลอง....

    ถูกใจ 0 คน
    ขัดใจ 0 คน

คุณ psmart: 18 พ.ย. 2554 ,23:12 น.

ตรง ประ เด็น เข้ม สุดๆ..... คุณ jaa เห็นด้วยยยยยยยยยยยยยยย !!

    ถูกใจ 0 คน
    ขัดใจ 0 คน

คุณ psmart: 18 พ.ย. 2554 ,23:08 น.

ปู แดง ออก มา หลอ แหล อีก แล้ววววววววววววววว ครับ ท่าน !!

    ถูกใจ 1 คน
    ขัดใจ 0 คน

คุณ pj2011: 18 พ.ย. 2554 ,23:03 น.

การขออภัยโทษให้กับผู้ต้องขัง ไม่ใช่จะมีการขอทุกปีไปส่วนใหญ่จะมีวาระต่างๆ อย่างเช่นปีนี้ เป็นปีที่คนไทยร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 84 พรรษา * *พระเจ้าอยู่หัว ปัญหาเก่าไม่แก้ ดันหาปัญหาใหม่มาให้คนไทยอีกแล้ว คน ตระ*ลนี้ รู้จักคำว่า คุณแผ่นดิน กันบ้างหรือไม่

    ถูกใจ 1 คน
    ขัดใจ 0 คน

คุณ daffodil: 18 พ.ย. 2554 ,22:53 น.

คนๆนี้ การกระทำและคำพูดสวนทางกันตลอด...

    ถูกใจ 1 คน
    ขัดใจ 0 คน

คุณ purity: 18 พ.ย. 2554 ,22:53 น.

ถ้ามันเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปที่จะมีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ แล้วทำไมต้องเป็นถึงขั้น ประชุมลับเหมือนกับว่ากระทบความมั่นคงของประเทศ

    ถูกใจ 1 คน
    ขัดใจ 0 คน

คุณ data11: 18 พ.ย. 2554 ,22:47 น.

ไม่อยู่เมืองไทยน้ำลดหลายพื้นที่เลยหรือว่าแผ่นดินมันสูงขึ้น

    ถูกใจ 1 คน
    ขัดใจ 0 คน

คุณ purity: 18 พ.ย. 2554 ,22:42 น.

ปัญหารากฐานของไทยคือการศึกษาต่างหาก สังเกตได้ว่ามีตั้ง 15ล้านเป็นอย่างน้อยที่ไม่มี....

    ถูกใจ 3 คน
    ขัดใจ 0 คน


      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #581 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 13:23:27 »

 YouTube: ปู Fail โกอินเตอร์ อ่านโพยต้อนรับฮิลลารี่ คลินตัน ผิด ฮาได้อีกไม่ผิดหวัง เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ

                 ปู Failโกอินเตอร์ อ่านโพยต้อนรับ  ฮิลลารี่ คลินตัน จาก welcome เป็น overcome
                        เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ

                        เชิญคลิก พบความฮา..กับปูเชิญยิ้มได้แล้วครับ...5555555

                   http://www.youtube.com/watch?v=MY8UnkUVHEA&sns=fb
                                    www.youtube.com
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #582 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 13:35:06 »



รายการ ทีนี่ไทยพีบีเอส ช่วงตอบโจทย์ สัมภาษณ์  เป็นเอก รัตนเรืองผกก.หนังชื่อดัง
 ออกอากาศทางสถานไทยพีบีเอส วันที่ 16 พ.ย. 54
น่าสนใจทีเดียว...คลิกเลย
 
 http://www.youtube.com/watch?v=R4aEm-equs0
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #583 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 13:40:06 »

 
 
 
Subject: FW: ขอขอบคุณท่านนายกหญิงจิงๆๆ
 

 
เกิดมาก็หลายสิบปี ต้องขอบคุณท่านนายกจริงๆครับ...
ที่ทำให้เราได้เห็นอะไรที่ไม่เคยได้เห็นมาตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมา  ไม่ว่าจะเป็น.......


    ได้เห็น นายกหญิงคนแรกและอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย แต่กลับนำความฉิบหายมาให้กับประเทศมากที่สุด

    ได้เห็น รถจอดเต็มแม่งทุกสะพานและทางด่วน เหลือทางวิ่งแค่ช่องเดียวทั่ว กทม
    ได้เห็น ถุงทรายราคาแพงพอๆกับถุงข้าว
    ได้เห็น มาม่า ปลากระป๋อง น้ำดื่ม แม่งหมดห้าง

    ได้เห็น ไข่ไก่ที่โคตรแพงฟองละ 8 บาท และยังหาซื้อไม่ได้
    ได้เห็น เซเว่นร้าง มีเหลือแต่พนักงานคิดเงิน
    ได้เห็น shelf ที่ว่างเปล่าในโลตัส
    ได้เห็น แม่งน้ำดื่มแพงกว่าน้ำมัน
    ได้เห็น ของที่ทุกบ้านต้องมี คือ กระสอบทราย

    ได้รู้ รสชาติของนำ้ดื่มจากคลองประปาผสมศพคนตายลอยคอ คละน้ำเน่า
    ได้เห็น สันดานคนไทย vs นิสัยคนญี่ปุ่น เมื่อเจอวิกฤติ
    ได้เห็น น้ำท่วมกทมและปริมณฑล แบบมิดหัวแบบตัวเป็นๆ
    ได้เห็น คนถูกจระเข้กัดที่กลางเมืองหลักสี่

        ได้เห็น คนพายเรือกลางถนน แล้วต้องปีนจากเรือขึ้นไปต่อรถไฟฟ้า

        ได้เห็น ว่าทำไมเครื่องบินแม่งถึงเรียกว่าเรือบิน

        ได้เห็น ที่ดอนกลับน้ำท่วมแต่แม่งที่หนอง(งูเห่า)น้ำไม่ท่วม

        ได้เห็น ไอ้คนเตี้ยมันโคตรเก่งและโคตรเอี้ย มันสั่งได้ว่าให้น้ำมันท่วมหรือไม่ท่วมตรงไหนก็ได้

        ได้เห็น ที่สุพรรณบุรีสูงกว่าภูเขา น้ำจะไม่ท่วมตลอดปีตลอดชาติ
        ได้เห็น คนนั่งเก้าอี้หรือนั่งบนกล่องกระดาษก็ขี้ได้ด้วย

        ได้เห็น รถก็ห่อเป็นของขวัญได้เหมือนกัน
        ได้เห็น เรือพลาสติกราคาแพงเท่ารถมอเตอร์ไซค์
        ได้เห็น ค่าเรือจ้างมหาโหดต้องควักจ่ายเป็นพัน
        ได้เห็น คนแม่งต้องนั่งคุกเข่ากด ATM

        ได้เห็น ความหมายของคำว่า "เอาอยู่" ก็คือ "ฉิบหาย ณ บัดดล"
        ได้เห็น ของบริจาคกองเป็นภูเขาแต่ชาวบ้านยังไม่มีของกิน
        ได้เห็น คนเลวชาติเอาของบริจาคไปใส่ชื่อเอี้ยๆของตัวเอง
        ได้รู้ว่า ประเทศไทยมีเดือนที่ 13 คือพฤศจิกาคม
        ได้เห็น อยุธยาเสียกรุงครั้งที่ 3 ในช่วงชีวิต
        ได้เห็น นิคมอุตสาหกรรมแตก 7 นิคมแบบเละเทะ
        ได้เห็น ตลาดน้ำที่แม่งใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ที่พุทธมณฑล 1 - 6
        ได้เห็น คนตกงานเป็นล้านคนในพริบตา

        ได้เห็น คนแก่ คนพิการ ต้องถูกหามลงเรืออย่างน่าสงสารและสมเพช

        ได้เห็น หมาและแมวถูกทิ้งเป็นพันๆตัว

        ได้เห็น ธนาคารใหญ่สีลมตั้งบังเกอร์สูง แม่งอย่างกับจะไปรบกับเขมรแดง

        ได้เห็น พัทยาและหัวหินแทบระเบิดเต็มไปด้วยผู้อพยพ

        ได้เห็น คนกลางมุ้งเป็นบ้านนอนเต็มสะพานลอย

        ได้เห็น คนถูกไฟดูดตายเป็นร้อย
        ได้เห็น วัดพระแก้ว วัดคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย ถูกน้ำท่วม

        ได้เห็น คนใช้แหจับปลากลางถนนวิภาวดี
        ได้เห็น บ้านริมทะเลสาบเป็นแสนๆหลัง

        ได้เห็น ครอบครัวกระเด็นกระดอน ปู่ย่าตายายไปอยู่ต่างจวฺ. พ่อแม่ไปอยู่โรงแรม. ลูกวัยรุ่นไปอยู่คอนโดเพื่อน, สัตว์เอาไปฝากเลี้ยง
        ได้เห็น ปัญญาชนกรอกทราย
        ได้เห็น ควายบริหารประเทศ

        ได้เห็น ประจักษ์ตากับความหมายที่ว่านำ้ท่วมไม่กลัว แต่กลัวผู้นำโง่

        ได้เห็น คนที่แม่งเป็นแต่ตัดริบบิ้น, ทาสี และยืนบีบน้ำตาก็เป็นนายกประเทศไทยได้
        ได้เห็น นายกผมตั้ง ปากแดง แก้มชมพู แม่งสวยทุกวัน ไม่ว่าปชช.จะตกทุกข์ได้ยากยังไง

        ได้เห็น ไอ้น้องน้ำมันโคตรเก่งเลย สอบเข้าได้ตั้งหลายมหาวิทยาลัย
        ได้เห็น ทหาร 1 คนมีค่ามากกว่า ส.ส. ทั้งสภา แต่มีเงินเดือนไม่ถึง 10% ของส.ส. 1 คน

         ได้เห็น น้ำใจและความแน่วแน่ ของทหารแบบไม่เคยคิดสงสัย ว่าเค้าทำเพื่อใคร เพื่ออะไร ทั้งที่ โดน ส.ส. ของพวกที่นั่งด่าอยู่ทุกวัน...     บลา .               บลา บลา!! #บลา

      และสุดท้าย

        ได้เห็น นายกไทยหน้าด้านที่สุดในโลก ทำประเทศไทยฉิบหาย 9 แสนล้าน ยังหน้าด้านไม่ลาออกไป แต่กลับบีบน้ำตาให้คนสงสาร


____ทั้งหมด ทั้งมวลนี้เพราะคำว่า "เอาอยู่ค่ะ" ขอบคุณท่านจากใจจริงๆครับ
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #584 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 14:07:15 »

ถวิล เปลี่ยนสี RCU 15
” ยันไม่ถอดใจ สู้เพื่อความเป็นธรรมต่อ ชี้ “ปู” หมดสิทธิยื้อแก้คำร้อง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    

      
“ถวิล เปลี่ยนศรี” อดีตเลขาฯ สมช.โพสต์เฟซบุ๊ก ยันสู้เพื่อหาความเป็นธรรมต่อ ไม่มีถอดใจ
หลังกลไก ก.พ.ค.อืดกว่า 2 เดือนไร้ความคืบหน้า
ระบุ “ปู” หมดเวลายื้อเพราะขยายเวลาแก้คำร้องจาก ก.พ.ค.ครั้งที่ 2 แล้ว
       
       นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลาขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เลขาฯ สมช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กมีเนื้อหาว่า
“ข่าวของผมเงียบหายไปนาน ไม่ใช่เพราะผมนั้นถอดใจหรือเลิกล้มที่จะต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม แต่เป็นเพราะ
 1.เรื่องอุทกภัยหลายจังหวัดเป็นเรื่องใหญ่เมื่อเทียบกับเรื่องของผม จึงอยากให้โอกาสของทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ได้ให้ความสนใจในการร่วมกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้พี่น้องคนไทยได้ผ่านพ้นทุกข์ครั้งนี้โดยเร็ว
       
       2.อย่างไรก็ตาม เรื่องของผมนั้นก็ยังอยู่ในกระบวนการและเดินไปตามขั้นตอนของ กพค.อยู่ดี
และความคืบหน้าล่าสุดขณะนี้คือ นายกรัฐมนตรี ในฐานะคู่กรณีได้ขอขยายเวลาในการแก้คำร้องของผมออกไปอีก 30 วัน เป็นครั้งที่ 2
หลังจากที่ได้ขอขยายมาแล้ว 30 วัน ซึ่งได้สิ้นสุดลงในวันที่ 5 พ.ย.54 ที่ผ่านมา”
       
       สำหรับ นายถวิล ถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งเลาขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีต ผบ.ตร.มาดำรงตำแหน่งเลขาฯ สมช. เปิดทางให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชายของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตพี่สะใภ้ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็น ผบ.ตร.
       
       การย้ายนายถวิลออกจากตำแหน่งเกิดขึ้นหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้าบริหารประเทศได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นก็มีการแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.วิเชียรไปดำรงตำแหน่งเลขฯา สมช. และน.ส.ยิ่งลักษณ์เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.) แต่งตั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็น ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ในขณะที่กว่า 20 จังหวัดของประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตน้ำท่วมอย่างหนักจนนิคมอุตสาหกรรม 6 แห่งจมน้ำ ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมที่จมน้ำรายหลังสุด คือ นิคมฯ นวนคร ที่ประสบกับภัยน้ำท่วมในวันที่ 17 ตุลาคม ก่อน น.ส.ยิ่งลักษณ์จะแต่งตั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เป็น ผบ.ตร.เพียงสองวัน
       
       ขณะที่นายถวิลได้ใช้สิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม หรือ ก.พ.ค. เมื่อวันที่ 12 กันยายน ในกรณีที่คณะรัฐมนตรี มีมติโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยมีนางสายสุนีย์ ธูปทอง เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน ซึ่งในสำนวนคดีได้ระบุผู้ถูกร้องคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว เนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงที่ใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม จนถึงขณะนี้เป็นเวลากว่าสองเดือนแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการของ ก.พ.ค. กระทั่งนายถวิลได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คในข้างต้น
       
       ทั้งนี้ ตามระเบียบของ ก.พ.ค.จะสามารถขอขยายเวลาการแก้คำร้องได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วัน
เท่ากับว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หมดสิทธิขยายเวลาเป็นครั้งที่สามและต้องยื่นการแก้คำร้องต่อ ก.พ.ค.หลังจากยื้อเวลามานานกว่า 2 เดือน
 และครบกำหนดการขยายเวลาครั้งที่ 2 ไปเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา


ถวิล..สู้ๆๆๆ....
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #585 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 14:20:17 »

ลับ + อภัยโทษ + ทักษิณ = ความขัดแย้งรุนแรงรอบใหม่ ความปรองดองแห่งชาติ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ผมไม่เชื่อว่าใครอยากจะเห็นเมืองไทยเรา กลับเข้าไปสู่วังวนแห่งการเผชิญหน้า และความรุนแรงรอบใหม่


 แต่อาการลับๆ ล่อๆ ของรัฐบาลและลีลาอันน่าสงสัยของผู้นำรัฐบาล ต่อร่างพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ ทำให้เห็นเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากว่าสังคมไทยจะถูกผลักให้กลับไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่อีกแล้ว

 เพราะถ้าใครรู้ว่าหากทุจริตคอร์รัปชันในหน้าที่ ฉ้อฉลต่อประชาชน แม้จะถูกจับได้ ศาลตัดสินว่าผิดเต็มประตู แต่วันหนึ่งข้างหน้าจะได้รับการอภัยโทษ, เขาก็จะเป็นนักการเมืองหรือข้าราชการที่โกงกินบ้านเมืองโดยไม่หวั่นกลัว

 ในทำนองเดียวกัน ถ้าหากเขารู้ว่าคนที่ถูกตัดสินจำคุกด้วยข้อหาค้ายาเสพติดก็มีสิทธิที่จะได้รับการอภัยโทษ, เขาก็จะเห็นว่าปัญหายาเสพติดของบ้านเมืองที่รัฐบาลทุกรัฐบาลอ้างว่าเป็นนโยบายสำคัญอันดับต้นๆ นั้น, ความจริง เขาก็ไม่ได้เอาจริงเอาจังสักเท่าไหร่

 หากสองเรื่องนี้มาผสมผสานเป็นเรื่องเดียวกันใน “เหตุผลแนบท้าย” ของร่างกฎหมายเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษที่คณะรัฐมนตรีเสนอ, ก็เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณจากรัฐบาลว่าคอร์รัปชันกับยาเสพติด เป็นความผิดปกติที่ไม่ร้ายแรง, ใครถูกจับได้ก็สามารถขออภัยโทษกันในวันข้างหน้าได้

 แต่ถ้าหาก “เหตุผลแนบท้าย” ที่ว่านี้ให้กรณีคนติดคุกได้รับอภัยโทษเพียงเฉพาะปีนี้เท่านั้น, ผมก็ต้องตั้งข้อสงสัยว่านี่เป็นการ “ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ” สำหรับคนบางคนเท่านั้น

 ซึ่งก็เท่ากับว่าคำกล่าวอ้างเรื่อง “นิติรัฐ” และ “ความยุติธรรม” สำหรับคนทุกชนชั้นทุกกลุ่มคนในสังคมของรัฐบาลก็เป็นเพียงคำโฆษณาชวนเชื่อหาเสียงเท่านั้น


 รัฐบาลยืนยันว่า 1. จะไม่ทำอะไรผิดกฎหมาย และ 2. จะไม่ทำอะไรเพื่อคนใดคนหนึ่ง
 ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร เพราะไม่ต้องสัญญา รัฐบาลไหนก็ทำสองอย่างนี้ไม่ได้อยู่แล้ว

 แต่คำถามก็คือว่าหากทำอะไรที่สร้างความแตกแยกให้กับบ้านเมืองมากขึ้น และส่งสัญญาณว่าด้วยค่านิยมต่อเรื่องคอร์รัปชันและความผิดเรื่องยาเสพติดในทางตรงกันข้ามกับความถูกต้องชอบธรรมแห่งสังคม, จะมิเป็นการสร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงที่จะทำให้ประเทศชาติขยับใกล้หายนะอีกรอบหนึ่งหรือ?

 ในขณะที่ทั้งรัฐบาล, ฝ่ายค้าน, และภาคประชาชนได้ประกาศให้ “ความปรองดองแห่งชาติ” เป็นเป้าหมายร่วมกันตามที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่เรียกร้องต้องการ, ไฉนเราจึงเห็นความเคลื่อนไหว “ในทางลับ” และ “กิจกรรมผิดปกติ” ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร (15 พ.ย.) ที่ผ่านมา?

 คนที่ถูกศาลตัดสินจำคุก แล้วหลบหนีออกไป กล่าวหาว่ากระบวนการยุติธรรมกลั่นแกล้งเขา และไม่เคยยอมรับว่าตนได้ทำผิดจะขออภัยโทษได้อย่างไร?

 นี่ย่อมเป็นคำถามที่สังคมไทยต้องหาคำตอบจากรัฐบาล...หากลงท้าย คนที่จะได้ประโยชน์จากการที่รัฐบาลเขียนภาษาของร่างพระราชกฤษฎีกาให้ไปเอื้อต่อคุณทักษิณ ชินวัตร อย่างชัดแจ้ง

 และหากเป็นเช่นนั้นจริง ต่อแต่นี้ไป ใครที่ถูกศาลตัดสินว่าผิดแล้วกระทำเช่นเดียวกันอย่างนี้...คือหลบหนีคำสั่งศาล, กล่าวหากระบวนการยุติธรรม, และไม่ยอมรับว่าตนได้กระทำผิดตามคำพิพากษาก็จะต้องเรียกร้องสิทธิที่จะได้รับการอภัยโทษได้เช่นกัน...อย่างนั้นหรือ?

 นี่มิใช่การสร้างตัวอย่างเพื่อบั่นทอนความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและส่งสัญญาณว่าหากคุณมีอำนาจทางการเมืองเพียงพอ, คุณก็สามารถง้างทุกอย่างได้ รวมทั้งกฎหมายและกติกาว่าด้วยความถูกต้องเป็นธรรมหรือ?

 รัฐบาลควรจะต้องเคารพและอย่างน้อยก็ให้เกียรติขั้นพื้นฐานกับสติปัญญาของคนในสังคมไทย เพราะการที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บอกว่า “ไม่ทราบรายละเอียด” ของร่างพระราชกฤษฎีกาขออภัยโทษเพราะไม่ได้เป็นประธานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนั้น ย่อมจะทำให้คนไทยไม่น้อยรู้สึกถูกเหยียดหยามว่าไร้สติปัญญาที่จะรู้ทันลูกเล่นทางการเมืองที่ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร

 เบื้องหลังการที่นายกฯ ค้างคืนที่สิงห์บุรี จนมาประชุมคณะรัฐมนตรีวันนั้นไม่ได้นั้นย่อมไม่สำคัญเท่ากับความจริงที่ว่า ไม่ว่านายกฯ จะทราบหรือไม่ทราบเรื่องนี้, ผู้ที่จะสนองพระบรมราชโองการในกรณีนี้ก็คือนายกรัฐมนตรีเอง


 ในคำตัดสินให้จำคุกคุณทักษิณ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีนี้มีสาเหตุหลักคือความชัดแจ้งของ “ผลประโยชน์ทับซ้อน” ในการใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับภรรยาของตน

 และหากนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ลงนามสนองพระบรมราชโองการในกฎหมายที่ให้อภัยโทษพี่ชายตนเองด้วย, ก็หนีไม่พ้นข้อครหา “ผลประโยชน์ทับซ้อน” อีกเช่นกัน

 ผลต่อส่วนบุคคล ต่อกลุ่มคน ต่อพรรค ต่อรัฐบาล หรือต่อฝ่ายค้านก็ยังไม่ร้ายแรงเท่ากับว่าหากเรื่องนี้ไม่ดำเนินการให้เป็นที่ยอมรับของสังคมส่วนที่มีคำถามเหล่านี้, คำว่า “ปรองดอง” ก็จะโบยบินออกไปทางหน้าต่าง

 ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่คุณทักษิณจะต้องทำร้ายน้องสาวของตนเอง ที่อาสามาแก้ปัญหาความขัดแย้งของสังคมไทย

 ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่คุณทักษิณจะยอมให้รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ แอบยัดไส้คดีของตนเพื่อให้รอดจากความผิดอย่างไร้ความสง่างามเช่นนี้

 เพราะเมื่อคุณทักษิณ เชื่อในความบริสุทธิ์ของตนเอง และต่อต้านสิ่งที่คุณทักษิณอ้างว่าขาดความเป็นธรรมในอดีต ก็ควรจะต้องกลับมาต่อสู้คดีอย่างองอาจกล้าหาญสมกับความเป็นลูกผู้ชาย และไม่ควรจะทำให้ประเด็นร่าง พ.ร.ฎ.นี้กลายเป็นชนวนแห่งความขัดแย้งอย่างรุนแรงให้กับคนไทยอีกครั้งหนึ่ง

 เพราะไม่มีเหตุผลใดๆ ที่ผู้รักประเทศชาติคนไหน จะก่อให้เกิดเหตุที่จะผลักดัน ให้เกิดการเผชิญหน้ารอบใหม่ในประเทศของเรา ให้บอบช้ำหนักหน่วงไปกว่านี้แล้ว
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #586 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2554, 20:41:55 »

Yingluck did it again!‏


ตัวอย่างความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของนายกฯยิ่งลักษณ์
 Good afternoon ladies and gentlemens of the media, it is a greats pressure and ฮอนเน่อ for me to welcome the Secretary….and to คอนเก็ตจูเลด him on his re-election (คำนี้คนสวยลิ้นพันกัน เพื่อนที่เขาฟังบอกว่ากลัวเธอจะออกเสียง R ไม่ใช่  L ) ...

 รวมๆก็ว่าเขามีปัญหาเดียวกับภาษาไทยคือรอ เรือ  ลอ ลิง   ออกเสียง   l r t th sh ch ไม่ได้     และ เติม s ผิดที่

 

Emphasize อ่านว่า  เอ็มพาไซ้

Flood  อ่านว่า  ฝัด

 มีประโยคหนึ่ง พูดว่า
 Thai Government is working around the clock and to helping relief of flood-effect people in the cooperation
 with the publics and private sector.

 
มีคน comment  ว่า กลัวเธอจะพูดเป็น  Thai Government is working aloud the cock ..

 
.................แถมให้  อันนี้ เป็นคำถามจาก AFP วันที่แถลงกับ Clintion  ดูลีลาการตอบของทั้งสองแล้ว ....เอ้อออออ no comment

 


จาก web site  US department of State

QUESTION: Thank you, Madam Secretary. Thank you, Madam Prime Minister. I wanted to follow up a little bit on what you’re talking about the political reconciliation. You mentioned that with the floods, Madam Secretary, with the floods that it was important to have reconciliation. For both of you, do you feel that all sides in Thailand are on the same side right now at this time of floods? Are people working together? What are the signs you see on that?

And if I can kind of follow up to the prime minister, there have been reports that your cabinet is working on an amnesty that could potentially affect former Prime Minister Thaksin. I wanted to see if you could comment on that, say whether that is true, and if so, why?

SECRETARY CLINTON: Well, I will start by reiterating that we have encouraged the Thai Government to continue to move forward with the political reconciliation process, to address the violence that surrounded the political unrest of recent years, particularly through the Truth and Reconciliation Commission for Thailand. This encouragement from us comes from our shared commitment with Thailand to democratic values and institutions that underpins both of our nations and our alliance.

And we are encouraged by the many steps that the government continues to take to consolidate strong, democratic institutions, to ensure good governance, to guarantee the rule of law, and to protect the rights and freedoms of its citizens. The free and fair elections that were held in Thailand in August demonstrated Thailand’s commitment to the democratic process. It is certainly up to the government and people of Thailand to determine exactly how to proceed, but we are encouraging it and quite heartened at the steps we have seen taken.

PRIME MINISTER YINGLUCK: (Inaudible) to go back to your questions, your question is – sorry that I missed this cabinet meeting because by coincident of the trip that – to go back, was on Monday night. And in this detail, I think I’ll – the deputy prime minister will handle this. But normally in the process, that will be the common process, and everything we have to make sure that it’s (inaudible) law and then will be applied for everyone. Thank you.

 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #587 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 19:24:53 »

“ประชา” ถอย! ยันใช้ พ.ร.ฎ.อภัยโทษยุค ปชป.ลั่น “ทักษิณ” ไม่ได้ประโยชน์แน่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    

      
รัฐมนตรียุติธรรม แจง พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ใช้ของเก่ายุค ปชป.ทำไว้เหมือนเดิม ทุจริต-ยาเสพติด-หนีคุก ไม้่ได้รับประโยชน์ ทำไขสือ“ทักษิณ” สั่งถอย อ้างออกมาแถลงช้า เพราะเป็นเรื่องลับ ซ้ำยังติดน้ำท่วม แต่แย้มหากได้พระราชทานอภัยโทษจริงตนก็ไม่อยู่
       

       เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 20 พ.ย. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงถึงการออกร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดำเนินการในทางลับ การเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษทุกปีที่ผ่านมาก็ดำเนินการในทางลับมาโดยตลอด และดำเนินการเกือบทุกปีในช่วงโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช แต่เนื่องจากมีการวิพากษ์วิจารณ์และทำให้ประชาชนเกิดความสับสนในเรื่องนี้ ในฐานะที่เป็นคนเสนอร่างฯ จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจ
       

       นายประชากล่าวต่อว่า ในเรื่องนี้นั้นนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในรัฐบาลที่แล้ว ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง โดยคำสั่งของกระทรวงยุติธรรมเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2554 คำสั่งที่ 67/2554 ว่าด้วยเรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการพระราชทานอภัยโทษ มีคณะบุคคลได้รับการแต่งตั้งขึ้นมา 20 คน ประกอบด้วยปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน รองปลัดกระทรวงยุติธรรมหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาพฤตินิสัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นรองประธาน และมีกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ เช่น ราชเลขาธิการ หรือผู้แทน หรือเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม หรือผู้แทน อธิบดีกรมคุมประพฤติ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นต้น
       
       พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า จากนั้นคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้เสนอหลักเกณฑ์การพระราชทานอภัยโทษต่อนายพีระพันธ์ ซึ่งได้มีความเห็นชอบในหลักการ โดยมีเนื้อหาสำคัญ 2 ประการ คือ 1.ให้ขอพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวให้แก่นักโทษเด็ดขาดซึ่งมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป โดยไม่มีเงื่อนไข เว้นคดีต้องโทษประหารชีวิตและคดีเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ 2.ขอพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวให้แก่นักโทษเด็ดขาดที่มีอายุตั้งแต่ 60-69 ปี โดยยกเลิกหรือผ่อนคลายเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ เท่าที่จะกระทำได้ เว้นแต่คดีซึ่งต้องโทษประหารชีวิตความผิดร้ายแรง และมีกำหนดโทษสูง และคดียาเสพติดให้โทษ ซึ่งเดิมการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกา พ.ศ. 2553 เงื่อนไขเหล่านี้ถูกกำหนดไว้ในบัญชีความผิดท้าย พ.ร.ฎ.ก็ยังมีอยู่ เงื่อนไขนี้นายพีระพันธ์เห็นชอบและตนก็ได้เห็นชอบตามนั้น ทั้งนี้ร่างฯ ของนายพีระพันธ์เนื้อหาสาระที่ได้เห็นชอบไปนั้น เราไม่มีการหักล้างอะไร เป็นเพียงถ้อยคำเท่านั้นที่แตกต่างไปบ้าง
       
       พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า จากนั้นเมื่อตนเข้ารับหน้าที่คณะกรรมการชุดดังกล่าวก็ได้เสนอเรื่องมาตนอีกครั้ง ตามที่นายพีระพันธ์เห็นชอบไปแล้วนั้น ซึ่งตนได้เซ็นรับทราบ และเห็นควรดำเนินการต่อไป เมื่อ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา เรื่องจึงกลับไปคณะกรรมการและร่างฯขึ้นมาและเสนอตนอีกครั้ง ซึ่งตนได้แทงเรื่องไปว่ามอบให้กรมราชทัณฑ์นำร่างนี้ไปหารือคณะกรรมการกฤษฎีกาให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา(ป.วิอาญา) แล้วนำกลับเสนอตนอีกครั้งว่ามีการหารือและกฤษฎีกามีความเห็น ซึ่งตนเห็นชอบ และเสนอคณะรัฐมนตรีเมื่อ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ร่างนั้นตนขอเรียนด้วยความสัตย์จริงว่าเป็นเรื่องลับ เพราะอยู่ขั้นตอนดำเนินการ คือส่งให้สำนักงานกฤษฎีกาดำเนินงาน เมื่อพิจารณาแล้วก็จะนำเข้าคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
       
       “มีการถามต่อมาว่าร่างฯ นี้เอื้อประโยชน์ให้คนใดคนหนึ่งหรือไม่ ตอบด้วยความสัตย์จริงว่าไม่มีแล้ว คนต้องโทษการทุจริต ตามกฎหมาย ป.ป.ช.ก็ยังอยู่ในบัญชีแนบท้าย ผู้ต้องหาเกี่ยวกับยาเสพติดก็ยังอยู่ ไม่ได้ขาดหายไปไหน การวิพากษ์วิจารณ์อาจทำให้ประชาชนสับสน จึงต้องเรียนให้ชัดเจนและไม่น่าห่วงอะไร เพราะเป็นร่างฯ ที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีส่วนใดขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแต่อย่างใด และที่ห่วงทำประโยชน์คนใดคนหนึ่งก็ยืนยันว่าไม่มี” พล.ต.อ.ประชากล่าว
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคฝ่ายค้านจะนำเรื่องดังกล่าวมาอภิปรายด้วย ได้เตรียมความพร้อมแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ตนตอบได้ แต่หากเรื่องใดเป็นเรื่องลับ คงพูดไม่ได้ เพราะเป็นชั้นความลับของเอกสารของคณะรัฐมนตรี คงตอบได้เพื่อไม่ให้สับสน แต่ในเนื้อหาที่ยื่นมาไม่มีเรื่องนี้ แต่ดีใจที่จะได้ชี้แจง และมีหลายเรื่องที่ต้องอภิปราย ว่าความจริงคืออะไร
เมื่อถามว่าโทษทุจริตมีการตัดออกหรือไม่ คนที่ไม่ได้รับโทษหรือคนที่หนีคดีมีโอกาสได้รับประโยชน์จากร่าง พ.ร.ฎ.นี้หรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ยืนยันว่า “ไม่มีครับ” เมื่อถามต่อว่ายืนยันว่าต้องเป็นนักโทษที่ติดคุกมาก่อน พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า “ถูกต้องครับ”
       
       เมื่อถามว่าทำไมถึงเลือกที่จะแถลงภายหลังที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีจดหมายเปิดผนึกออกมา
พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าใครมีหนังสืออะไร แต่ในฐานะที่รับผิดชอบ มีการวิพากษ์วิจารณ์ จึงตัดสินใจมาให้ข้อมูล

เมื่อถามว่าตอบให้ชัดได้เลยหรือไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ได้รับประโยชน์จาก พ.ร.ฎ.นี้
 พล.ต.อ.ประชา หยุดคิดแล้วย้อนถามว่า “จะให้ตอบเลยเหรอครับ ถูกต้องครับไม่ได้ประโยชน์”

       
       เมื่อถามว่าการที่ออกมาแถลงความชัดเจนเป็นเพราะกระแสการต่อต้านรุนแรงขึ้น และส่อจะทำให้สังคมเกิดความขัดแย้งอีกครั้งใช่หรือไม่

พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ที่จริงแล้วเรายุ่งกับน้ำมาพอสมควร เดือดร้อนกันมหาศาล เราก็มาเจอปัญหาอย่างนี้อีก เรื่องความลับราชการก็คงทราบดีถึงระเบียบปฏิบัติ มีข้อห้ามกำกับ แต่ถ้าจะเกิดผลเสียหายต่อส่วนรวมตนในฐานะคนรับผิดชอบ ตนก็ออกมาชี้แจง

เมื่อถามว่าคณะรัฐมนตรีสัปดาห์นี้จะมีการพิจารณาต่อหรือไม่
 พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ต้องดูที่กฤษฎีกา ยืนยันร่างฯ ของตนและนายพีระพันธ์ไม่ได้ขัดแย้งกัน
       
       เมื่อถามว่านายพีระพันธ์ระบุว่าร่างฯ ที่คณะกรรมการเสนอมาและเข้าคณะรัฐมนตรีขัดแย้งกัน
พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า มันก็น่าจะไม่จริง
 เมื่อถามว่าแต่เดิมการพิจารณาร่าง พ.ร.ฎ.แต่เดิมไม่มีการประชุมลับทำไมครั้งนี้ถึงประชุมลับ
 พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า พระราชกฤษฎีต้องเป็นเรื่องลับ ดูกฎหมายได้
       
       เมื่อถามว่าหลังออกมาให้ความชัดเจนความขัดแย้งจะคลี่คลายได้หรือไม่ เพราะคนเสื้อแดงเตรียมที่จะระดมคนมาชนกับกลุ่มที่คัดค้านเรื่องนี้ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ จึงต้องรีบมาชี้แจง อยากให้บ้านเมืองเดินได้ บอบช้ำมามากแล้ว เรื่องน้ำก็สาหัส เรื่องในอดีตก็หนักหนา แล้วจะมามีเรื่องนี้อีกหรือ
       
       “ผมในฐานะผู้รับผิดชอบก็เรียนชี้แจง ถ้าผมพอมีเกียรติอยู่บ้าง ก็คงจะได้รับความเชื่อถือบ้างในข้อมูลนี้”พล.ต.อ.ประชา กล่าว และว่า การมาชี้แจงไม่ได้ช้าเกินไป เพระเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องลับอยู่
       
       เมื่อถามว่าเหตุใดก่อนหน้านี้ไม่มาชี้แจงว่าทักษิณ ไม่ได้ประโยชน์จาก พ.ร.ฎ.นี้ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า มันพูดไม้ได้ เป็นเรื่องความลับ เมื่อถามว่าหากสุดท้าย พ.ต.ท.ทักษิณได้รับการอภัยโทษ จะทำอย่างไร พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า “ผมก็ไม่อยู่” พร้อมกับหัวเราะ

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #588 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 19:53:29 »

สุริยะใส"ทวิตวิพากษ์จดหมาย"แม้ว" 3 ปมสำคัญ ซัดเดินเกมนิรโทษกรรมให้ตัวเองตลอดเวลา

manager.com

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 พฤศจิากายน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ ทวิตข้อความในชื่อ @Suriyasai ถึงกรณีจดหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า ลับลวงพราง ทักษิณร่อน จม.บอกเสียสละเพื่อปรองดอง

ผมอ่าน จม.คุณทักษิณที่เขียนด้วยลายมือล่าสุดกรณี พ.ร.ฎ.อภัยโทษว่าตนพร้อมเสียสละ นั้น มี 3 ปม ที่ต้องตีความ
ปมแรก ใน จม.ไม่มีบรรทัดไหนประกันว่าคุณทักษิณจะไม่เป็น 1 ในจำนวน 26,000
นักโทษที่ได้อภัยโทษในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ ถ้ามีชื่อโผล่มา ก็คงมีคำอธิบายว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลและเป็นพระราชอำนาจ ตนไม่เกี่ยว
ทุกฝ่ายควรหยุดเคลื่อนไหวเพราะมีพระราชวินิจฉัยแล้วŽ


ปมสอง ใน จม.บอกว่า ตนพร้อมเสียสละ แม้ไม่ได้รับความเป็นธรรมมา 5 ปี พี่น้องที่สนับสนุนผมก็อย่าผิดหวัง แสงแห่งธรรมปรากฏทุกอย่างจะจบเอง ข้อความนี้ย้ำยืนยันว่า คุณทักษิณยังไม่ยอมรับผิดตามคำพิพากษาศาล และแน่นอนย่อมไม่มีวันรับโทษใดๆ แต่ให้ผู้สนับสนุนรอ วันแสงแห่งธรรมŽ นัยยะหนึ่งก็ประกันว่าคุณทักษิณไม่ได้อยู่เฉย แต่เดินเกมนิรโทษกรรมให้ตัวเองตลอดเวลา หาช่องหาจังหวะรุกบ้างถอยบ้าง เฉกเช่น พ.ร.ฎ.นี้ ถ้าสุดท้ายต้องถอยเพราะแรงต้านมากกว่าที่คิด ไม่ได้จมไปกับมวลน้ำ อีกไม่เกิน 3 วัน นายกฯ จะแถลงด้วยตัวเองว่า รัฐบาลนี้จะไม่ทำเพื่อคนๆ เดียวŽ


ปมสาม วาทกรรม รู้จักให้อภัยž žหรือ Forgive and Forget ลืมเรื่องเก่าเข้าสู่มิติใหม่ๆ... เอาเข้าจริงๆ คนที่ยังลืมไม่ได้และยังจมปรักอยู่ อยู่กับอดีตที่รุ่งโรจน์ ปล่อยวางไม่ลงก้าวสู่มิติใหม่ๆ ไม่ได้ก็คือ คุณทักษิน นึกถึงช่วงวอดีโอลิงก์ปลุกม็อบราชประสงค์ ก็คงจะเห็นภาพชัด ประเทศนี้ยังต้องการความเสียสละอีกมาก เพื่อก้าวสู่มิติใหม่ๆ ผมว่าเริ่มต้นที่ผู้นำอย่างคุณทักษิณกลับมารับโทษตามคำพิพากษาของศาลนี่ต่างหากเป็น แสงธรรมž ของทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบคุณทักษิณ ซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันครับŽ
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #589 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 22:36:37 »


             สวัสดีครับตะวัน

                             รายการที่นักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิวิพากษ์วิจารณ์เมื่อ  2 วันก่อน

                      <a href="http://www.youtube.com/watch?v=qYDCYzdVudg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=qYDCYzdVudg</a>

                      <a href="http://www.youtube.com/watch?v=zlFnrAfDCTs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=zlFnrAfDCTs</a>

                      <a href="http://www.youtube.com/watch?v=_41uM2paq2Q" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=_41uM2paq2Q</a>
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #590 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2554, 22:55:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2554, 22:36:37

             สวัสดีครับตะวัน

                             รายการที่นักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิวิพากษ์วิจารณ์เมื่อ  2 วันก่อน

                      <a href="http://www.youtube.com/watch?v=qYDCYzdVudg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=qYDCYzdVudg</a>

                      <a href="http://www.youtube.com/watch?v=zlFnrAfDCTs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=zlFnrAfDCTs</a>

                      <a href="http://www.youtube.com/watch?v=_41uM2paq2Q" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=_41uM2paq2Q</a>
ขอบคุณครับพี่แก้ว ที่นำข้อมูลมาเพิ่มเติม ให้สมบูรณ์
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #591 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2554, 09:24:36 »

ปูด "แม้ว" ผวารบ.ล่ม กลับใจสั่งถอย พ.ร.ฎ.อภัยโทษ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    

      
แหล่งข่าวพท. ปูดเบื้องหลังสั่งเบรก พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ชี้"แม้ว" ผวากระแสต้านแรงฮือเคลื่อนไหวล้มรบ. โยนคำสั่งตัดไฟต้นลมห้ามตัดแต่งเนื้อหาพ.ร.ฎ. ตั้งข้อสังเกตสัญญาณสั่งถอยเนื้อหาไม่ชัดเจน กลบประเด็นมุ่งอภัยโทษทักษิณ เชื่อหวันตกเป็นเป้าโจมตีแทรกแซงการเมือง หลังรบ.ระบุเป็นความลับ
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า หลังจากรัฐบาลตัดสินใจเดินเกมเสนอร่างพ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ เพื่อช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนำเข้าสู่การพิจารณาของครม.เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุมครม. แทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่ปรากฎว่าเกิดกระแสต่อต้านจากสังคมเป็นวงกว้าง ทั้งยังเปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามที่จ้องถล่มออกมาเคลื่อนไหวอีกรอบ เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีอาจเกิดวิกฤติรอบใหม่ส่งผลร้ายต่อรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงได้สั่งให้ตัดไฟแต่ต้นลม บอกรัฐบาลให้แก้ไขร่างพ.ร.ฎ.ใหม่ โดยไม่ให้กระทำการใดๆตัดหรือเพิ่มเนื้อหาเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ
       
       พร้อมกันนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เขียนจดหมายส่งสัญญาณถอย และสั่งการให้พล.ต.อ.ประชา ออกมาแถลงข่าวปฏิเสธว่า รัฐบาลจะดำเนินการช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ สำหรับจดหมายที่พ.ต.ท.ทักษิณเขียนนั้น มีสัญญาณถอยแต่เนื้อหายังคลุมเครือ เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ พูดชัดไม่ได้ เพราะถ้าทำเช่นนั้นก็เท่ากับบอกว่าพ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษมีจุดมุ่งหมายทำเพื่อประโยชน์ตนเอง นอกจากนั้นเรื่องนี้รัฐบาลยังระบุว่าเป็นความลับ หากพูดไปจะเท่ากับแทรกแซงรัฐบาล
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #592 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2554, 09:26:44 »

"ปานเทพ" แจงยังมีเวลา รอสถานการณ์สุกงอม ค่อยเคลื่อนไหวยังไม่สาย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
      
"ปานเทพ" แจงเหตุ 3 เหตุผลยังไม่ด่วนเคลื่อนไหว เชื่อมวลชนต้านพ.ร.ฎ.อภัยโทษเยอะ "พล.ต.อ.ประชา" ไม่พลิ้วตระบัตสัตย์แน่ ประกอบกับยังจับไม่มั่นคั้นไม่ตาย รบ.ยังเปลี่ยนเนื้อหาประชุมได้ ชี้หากรบ.เล่นลิ้น พธม.ยังมีเวลาแก้ไขสถานการณ์ ลั่นชุมนุมทั้งทีต้องขจัดข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุด
       
       วันที่ 21 พ.ย. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สัมภาษณ์สดผ่านรายการยามเช้าริมเจ้าพระยา ถึงสาเหตุยังไม่ชุมนุมเคลื่อนไหวว่า
 (1.)เดิมที พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เขียนจดหมายส่งสัญญาณถอย พ.ร.ฎ.อภัยโทษ เรายังไม่เชื่อมั่นต่างคิดเป็นการเล่นคำ หวังให้ประชาชนเข้าใจผิด หรือไม่ก็ต้องการแยกให้ภาพตัวเองออกจากรัฐบาล แต่หลังจากพล.ต.อ.ประชา ออกมาย้ำว่าจะยึดตามโครงสร้างเดิมเมื่อ 2553 ด้วยเหตุนี้ย่อมไม่ใช่ขั้นตอนที่พันธมิตรฯ จะไปคัดค้านเนื้อหาใดๆอีก จึงหมดเงื่อนไขชุมนุม
       
       (2.) แม้ท่าทีของครม. ประกอบกับแกนน้ำเสื้อแดง จะระบุพร้อมเคลื่อนไหวช่วยพ.ต.ท.ทักษิณเต็มที่ มีเหตุอันชวนให้เราเข้าใจได้ว่ามีการเอื้อประโยชน์ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ จริง แต่ต่อให้เราเข้าใจได้ว่า มติคณะรัฐมนตรี แก้ไขร่าง พ.ร.ฎ.อภัยโทษแล้ว ทั้งหมดยังเป็นเพียงข้อสันนิษฐานทั้งสิ้นว่าน่าจะเป็นการทำเช่นนั้น ยังไม่เคยมีใครให้เราเห็นเอกสารจริงๆเลยว่ามีการแก้หรือไม่ เป็นช่องว่างทำให้รัฐบาลยังสามารถเปลี่ยนเนื้อหาประชุมได้ตลอด ดังนั้น เมื่อเรายังจับไม่มั่นคั้นไม่ตาย ยังไม่ชัดเจน ที่ชัดเจนที่พึงจะพอมีตอนนี้คือสัญญาณที่ รมว.ยุติธรรม ผู้เป็นต้นเรื่องส่งออกมา ด้วยเหตุนี้ ทำให้เงื่อนไขพันธมิตรฯในการไปชุมนุมที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาอ่อนลง อย่างไรก็ดีไม่ได้หมายความว่า เราจะเชื่อร้อยเปอร์เซ็น แต่การไปชุมนุมในสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจน สู้เก็บออมกำลังไว้ชุมนุมในสถานการณ์ที่ชัดเจนมากกว่านี้ดีกว่า
       
       3. แม้ที่ผ่านมาครม.จะเก็บความลับในการประชุมได้ แต่ในขั้นตอนต่อไปจะต้องส่งเรื่องไปคณะกรรมการกฤษฏีกา หากไม่มีการแก้ไขจริง ในขั้นตอนนี้ เราน่าจะรู้ได้ ยังมีเวลาพอที่จะดูเนื้อหาเอกสาร และยังยับยั้งได้ทัน กลับกันหากไปชุมนุมในสถานการณ์ที่ไม่ชั้ดเจน จะเป็นการลดทอนกำลังโดยไม่จำเป็น และอาจตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายที่ไม่หวังดีได้
       
       นายปานเทพ กล่าวทิ้งท้ายว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณ หรือ พล.ต.อ.ประชา ตระบัตสัตย์ ตนเชื่อว่าสถานการณ์ในฝ่ายรัฐบาลจะเลวร้ายไปกว่านี้ ทังนี้จากที่สังเกตข้อความในจดหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ สามารถวิเคาะห์ได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่มีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และยังไม่พร้อมรับผิด อีกอย่างกำลังห่วงเรื่องบรรยากาศปรองดอง ในโอกาสนี้ขอถือโอกาสเตือนไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ หากมีการเผชิญหน้าระหว่างมวลชนกลุ่มต่างๆ หลังการตรา พ.ร.ฎ.อภัยโทษ จนเกิดการปะทะบาดเจ็บล้มตาย คนที่จะอยู่ไม่ได้ในท้ายที่สุดคือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วยภายใต้องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้เรายังไม่ตัดสินใจชุมนุมในตอนนี้

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #593 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2554, 09:29:00 »

สยามสามัคคี เมิน “แม้ว” ถอย! ชี้พฤติกรรมรัฐน่าสงสัย นัดล่าชื่อ ส.ว.พรุ่งนี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    

      
“สยามสามัคคี” เมิน “นช.แม้ว” เขียนจดหมายเปิดผนึก ออกตัวไม่ขอเอี่ยว พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ยังไม่ไว้ใจรัฐงุบงิบออก กม.พิสดาร ชี้ ต้องเคลื่อนไหวดักทาง หวั่นลักไก่จนเสร็จแล้วเบรกไม่ทัน
       
       วันนี้ (20 พ.ย.) พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ในฐานะแกนนำกลุ่มสยามสามัคคี เปิดเผยว่า ทางกลุ่มยังคงเดินหน้าคัดค้านร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ....ต่อไป แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเขียนจดหมายเปิดผนึกออกมาว่า พ.ร.ฎ.ดังกล่าวจะไม่เอื้อประโยชน์ให้ตนเองก็ตาม เนื่องจากพฤติกรรมของรัฐบาลที่ผ่านมานั้น ทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลง โดยเฉพาะประเด็นการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษฯ ที่ขัดต่อหลักนิติรัฐ และเข้าข่ายแทรกแซงการใช้อำนาจของตุลาการ ทั้งนี้ ถือว่ารัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้วส่วนหนึ่ง ทางกลุ่มจึงต้องออกมาเคลื่อนไหว เพื่อที่จะเป็นการป้องปรามไม่ให้รัฐบาลออกกฎหมายที่ขัดหรือละเมิดกฎหมายด้วยกันเอง
       
       “หลายฝ่ายท้วงติงว่าการกระทำยังไม่แล้วเสร็จ การออกมาเคลื่อนไหวจึงไม่เหมาะสม แต่ทางกลุ่มเห็นว่าหากไม่เริ่มคัดค้านตอนนี้ แต่รอจนกว่า พ.ร.ฎ.ออกมาและเป็นการกระทำที่เสร็จสมบูรณ์คงไม่มีประโยชน์อันใดที่จะออกมาเคลื่อนไหว” พล.อ.สมเจตน์ ระบุ
       

       พล.อ.สมเจตน์ กล่าวด้วยว่า ในสัปดาห์หน้าทางกลุ่มจะเคลื่อนไหว 3 รูปแบบ คือ วันที่ 21 พ.ย.จะมีการล่าชื่อ ส.ว.เพื่อยื่นคัดค้านต่อราชเลขาธิการ และองคมนตรี ส่วนวันที่ 22 พ.ย.จะส่งตัวแทนกลุ่มจะไปแสดงตัวต่อ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เพื่อขอยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ และในวันที่ 25 พ.ย.จะมีการชุมนุมที่สวนลุมพินี
       
       อนึ่ง พล.อ.สมเจตน์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวก่อนที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม จะแถลงข่าวยืนยันว่า ร่าง พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษยังคงเป็นร่างเดิมที่ทำไว้ในรัฐบาลประชาธิปัตย์ โดยไม่มีการตัดเงื่อนไขแนบท้ายที่ว่าจะไม่พระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องขังคดียาเสพติดและคดีทุจริต รวมทั้งผู้ที่หลบหนีคำพิพากษา ซึ่งเท่ากับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ได้รับประโยชน์จากการพระราชทานอภัยโทษในปีนี้
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #594 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2554, 09:47:26 »

ฝ่าไฟแดงไม่สำเร็จ กระแสต้านหนัก-ไร้สัญญาณตอบรับ

   
โดย...ทีมข่าวการเมืองposttoday.com

โดนต้านมากๆ ทักษิณ ชินวัตร เลยต้องแสดงจุดยืนต่อพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) อภัยโทษ

ทว่า เนื้อหาในแถลงการณ์จากดูไบเขียนด้วยลายมือก็ไม่ชัดเจน ออกได้ทุกมุม แน่นอนฝ่ายต้าน ย่อมไม่ไว้ใจในบท “หลายหน้า” ของทักษิณ เพราะตีความได้สองทาง

ด้านหนึ่ง เดินหน้าออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษพ่วงตัวเอง รุกแบบเงียบๆ ต่อไป อ้างว่า “รัฐบาลนี้ไม่ทำเพื่อผม” แต่มองอีกมุม ทักษิณส่งสัญญาณถอยจริง แต่ไว้ฟอร์มไม่ให้เสียหน้า

แถลงการณ์ที่อ้างเหตุผล “ถอย” 3 ข้อ “ขอเสียสละเพื่อส่วนรวม” นัยว่า ไม่ขอได้ประโยชน์จาก พ.ร.ฎ.อภัยโทษเนื่องจาก
1.สถานการณ์ขณะนี้บ้านเมืองกำลังเดือดร้อนจากมหาอุทกภัย จำเป็นต้องมีความสามัคคีปรองดองภายในชาติ ถึงจะร่วมกันผ่านให้พ้นจากวิกฤตโดยเร็ว

2.ไม่อยากเห็นความพยายามใดๆ ที่จะทำให้บรรยากาศความปรองดองที่กำลังเกิดขึ้น เสียหาย

3.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงพระประชวรอยู่ เราต้องไม่ทำให้พระองค์ทรงหนักพระราชหฤทัยเป็นอันขาด

พิจารณาลึกๆ ทักษิณ ไม่ได้ปฏิเสธว่า เขาได้ประโยชน์จากออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษของรัฐบาลน้องสาว โดยระบุว่า “มีข่าวว่า อาจมีผมรวมอยู่ด้วย...แต่ผมยังเชื่อว่ารัฐบาลนี้ไม่ทำเพื่อกลุ่มเดียว”

ถามว่า “เงื่อนไข” ที่ทักษิณเป็นห่วง จึงต้องยอมถอย เพิ่งเกิดขึ้นหรือไม่ คำตอบคือไม่ เพราะช่วงที่รัฐบาลผลักดัน พ.ร.ฎ.อภัยโทษในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็อยู่ในช่วงที่ประชาชนเดือดร้อนจากวิกฤตน้ำท่วมอย่างหนัก และในหลวงก็ทรงพระประชวรและทรงเป็นห่วงพสกนิกรที่ทุกข์ร้อนจากปัญหาน้ำท่วม ช่วงดังกล่าว ทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ส เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ว่า เรื่อง พ.ร.ฎ.อภัยโทษ อยู่ที่พระบรมราชวินิจฉัย

เป็นคำตอบสุดท้ายของทักษิณว่าไม่ยอมถอย ไม่ว่าใครจะคัดค้านหนักหน่วงแค่ไหน ทั้งหมดอยู่ที่สถาบัน

แต่ผ่านมา 2 วัน แถลงการณ์วานนี้เจ้าตัวอ้างว่า เป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วม ห่วงในหลวง และห่วงความขัดแย้ง จึงขัดแย้งกับที่ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ส

ทำไมทักษิณถึงยอมถอยและสั่งให้น้องสาวตัวเอง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เลิกช่วยพี่?

เดิมการประเมินของฝ่ายทักษิณ เชื่อว่า เกมนี้จะได้มากกว่าเสีย...

ได้ก็คือ ทักษิณได้กลับไทยฟรีๆ โดยไม่ต้องติดคุก ถ้าเสียก็อาจถูกด่า มีกลุ่มม็อบต้านออกมายุบยับ รัฐบาลอาจเสียรังวัดบ้าง แต่รัฐบาลก็มีม็อบแดงคอยช่วย บวกลบแล้ว น่าจะพอเอาอยู่

จนรัฐบาลน้องสาว “วางแผนแยบยล” เสนอ พ.ร.ฎ.อภัยโทษพ่วงพี่ชายแบบลองดูกันสักยก อ้างว่า เป็นเรื่องลับ ป้องกันฝ่ายคัดค้านหยิบมาโจมตี เมื่อเกิดกระแสต้านมากๆ นี่จึงทำให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม พลิกพลิ้วได้ว่า พ.ร.ฎ.อภัยโทษไม่เอื้อประโยชน์ให้ทักษิณ เพราะต้องเป็นบุคคลที่รับโทษแล้วเท่านั้น ซึ่งถ้าบริสุทธิ์ใจจริง มีคำถามว่า เหตุใด พล.ต.อ.ประชา ไม่ออกมาปฏิเสธตั้งแต่แรก รอจนทักษิณส่งสัญญาณถอย

อย่างไรก็ดี ข่าววงในแจ้งว่าก่อนหน้านี้ “นายใหญ่” อ้างแกนนำกลุ่มการเมืองต่างๆ ขอให้มั่นใจ เพราะเคลียร์ระดับสูงไว้แล้ว พรรคร่วมอย่าต่อต้าน สุดท้ายไม่รู้ว่าที่อ้างต่อสายคุยเสร็จสรรพ เป็นตัวจริงหรือตัวปลอม หรือแกล้งอ้างเพื่อสยบแรงกระเพื่อมภายในรัฐบาล เพราะการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นเป้าหมายของทักษิณอยู่แล้ว ดังที่เจ้าตัวและแกนนำเสื้อแดงประกาศมานานว่า น่าจะมีข่าวดีในเดือน ธ.ค.และจะกลับมาฉลองงานแต่งลูกสาวปลายปีนี้

ทว่าเหตุที่ฝ่ายดูไบกลับลำ ประเมินว่า พ.ร.ฎ.อภัยโทษไม่น่าจะสำเร็จ

เพราะประการแรก กระแสต่อต้านภายนอกที่ยังรุนแรง

เดิมเพื่อไทยคาดว่า “ม็อบต้าน” น่าจะอ่อนพลังลง และฝ่ายเหลือง แกนนำหลักชุมนุมคัดค้านก็เงียบ แต่กลับไม่เป็นดังคาด ปมขอพระราชทานอภัยโทษพ่วงทักษิณครั้งนี้ กลับเรียกแขกให้เครือข่ายกลุ่มต้านทั้งหลายกลับมาเข้มแข็ง

แค่ยกแรก ทั้งม็อบหลากสี ม็อบเหลือง ตัวละคร นักเคลื่อนไหวก็โผล่มาแบบเต็มเหนี่ยว ทั้งของเดิม ของใหม่ นำโดย สนธิ ลิ้มทองกุล นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แก้วสรร อติโพธิ ฯลฯ ตามด้วยกิจกรรมคัดค้านหลายรูปแบบ

ทั้งการเข้าชื่อของกลุ่มประชาชนเพื่อถวายฎีกา และเข้าชื่อถอดถอน ครม.ทั้งคณะ กลุ่ม สว. ลงชื่อ กลุ่มนักวิชาการออกแถลงการณ์คัดค้าน

โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตร นัดชุมนุมใหญ่หน้าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาวันนี้ ทักษิณ จึงรีบชิงตัด “ไฟแต่ต้นลม” รวมถึงตัดเกมฝ่ายค้านหยิบเรื่องนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา

ประการต่อมา สัญญาณจากในกลุ่มกูรู นักกฎหมายรุ่นเดอะในกฤษฎีกา ที่ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนซึ่งวันนี้กำลังก่อปฏิกิริยาภายใน ขณะที่สัญญาณจากระดับบนก็ไม่แจ่มชัด

อีกประการ ถ้ารัฐบาลดันทุรังไปเรื่อยๆ แรงกดดันจะตกอยู่ที่ “ทักษิณ” กระทบไปที่ “ยิ่งลักษณ์” และรัฐบาลทั้งคณะ ซึ่งยังสาหัสจากการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ผิดพลาด

ไม่เฉพาะการเผชิญหน้าของม็อบเหลือง ม็อบแดงที่จะเป็นวิกฤตความขัดแย้งอีกรอบ เสี่ยงต่อการนองเลือดกับ “ปมทักษิณ” ม็อบน้ำที่เดือดร้อนก็อาจมาผสมโรงจนรัฐบาลน้องสาวอาจจบไม่สวยแน่และมีอันต้องพังก่อนวัยอันควรจากวิกฤตศรัทธาที่จะมาเร็วกว่าที่คิด

เพราะแก้ปัญหาให้ตัวเองเร็วมากกว่าแก้ปัญหาให้คนส่วนใหญ่

 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #595 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2554, 09:56:13 »

การเมือง : บทวิเคราะห์
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2554
ไม่รับ"อภัยโทษ"รอ"นิรโทษกรรม"

โดย : สุทธิรักษ์ อุฒมนตรี

   
    การไม่ขอรับอภัยโทษในคดีที่ศาลฎีกานักกาเมือง ตัดสินจำคุำ 2 ปี ดูเหมือนจะทำให้ "ทักษิณ" เป็นพระเอก
แต่ความจริงเขายังมีคดีค้างในศาลอีกจำนวนมาก



มติ "ลับ" คณะรัฐมนตรีที่มี เฉลิม อยู่บำรุง นั่งหัวโต๊ะประธานการประชุม เรื่องการเสนอพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) อภัยโทษ พ.ศ..... ซึ่งเนื้อหาที่ยัง "ปิดลับ" แต่ที่สุดได้เปิดเผยโดยแหล่งข่าวในคณะรัฐมนตรี ว่า ได้ตัดเนื้อหา ในส่วนของพ.ร.ฎ.2553 เรื่องความผิดที่เกี่ยวกับยาเสพติด ความผิดคดีคอร์รัปชัน ไม่ให้ได้รับการอภัยโทษ รวมถึงตัดเนื้อหาในส่วนของนักโทษที่หลบหนีคดี ให้ได้รับอภัยโทษโดยไม่ต้องอยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่

จากเนื้อหาที่สอดรับกันทั้งหมดนี้ ผู้ที่จะได้รับการอภัยโทษ 26,000 คน ซึ่งจะรวม ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โดนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 2 ปี ในคดีทำผิดกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542

ท่ามกลางเสียนเพรียกของความ "ถูกต้อง-ชอบธรรม" ได้มีกลุ่มหนุนกลุ่มต้านแนวทางดังกล่าว

โดยกลุ่มหนุนแน่นอน ย่อมจะเป็นคนเสื้อแดง ทั้ง กอ สุขสวัสดิ์ แกนนำคนเสื้อแดงลำปาง และ ขวัญชัย สารคำ หรือไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ซึ่งคนหลังนี้ขู่ว่าจะนำมวลชนมา "ชน" กับกลุ่มต่อต้าน ซึ่งก็คือ กลุ่มสยามสามัคคี ที่นำโดย พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ที่ก่อนหน้านี้ ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง "คัดค้านพ.ร.ฎ.อภัยโทษ พ่วงทักษิณ แก้หลักเกณฑ์กฎหมาย กดดันพระเจ้าอยู่หัว" และอีกกลุ่ม เครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน หรือกลุ่มเสื้อหลากสี ที่มี  ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ในฐานะผู้ประสานงานเป็นแกนนำ เข้าชื่อถวายฎีกา คัดค้านพ.ร.ฎ.อภัยโทษ

และก่อนที่จะถึงวันที่ 21 พ.ย. ที่ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยผ่านหน้าเฟซบุ๊ก ว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะมีการยื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และจัดชุมนุมเพื่อคัดค้าน "ร่างกฎหมายเพื่อทักษิณ หยุดทำลายหลักนิติรัฐ" ในวันจันทร์ที่ 21 พ.ย. 2554 ที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถนนพระอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.

ล่าสุดฝ่ายประชาสัมพันธ์ พรรคเพื่อไทย ได้เผยแพร่จดหมายของ ทักษิณ ชินวัตร ที่เขียนขึ้นด้วยลายมือ โดยมีข้อความว่า

ที่ดูไบ สหรัฐ อาหรับอิไมเรตส์
    20 พฤศจิกายน 2554

    พี่น้องไทยที่เคารพรัก เนื่องด้วยขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในภาวะวิกฤตจากปัญหาน้ำท่วม ผมเป็นห่วงและต้องการให้ประเทศและพี่น้องประชาชนผ่านพ้นวิกฤตโดยเร็ว ซึ่งต้องการความสามัคคีปรองดองในชาติ จึงจะร่วมกันฝ่าฟันภัยธรรมชาติในครั้งนี้ได้ ผมขอสนับสนุนทุกมาตรการที่จะนำไปสู่ความปรองดองในชาติ และไม่อยากเห็นความพยายามใดที่จะทำให้บรรยากาศนี้เสียหาย และผมพร้อมที่จะเสียสละความสุขส่วนตัวทั้งๆที่ผมไม่ได้รับความเป็นธรรมมากว่า 5 ปีแล้ว เพื่อพี่น้องประชาชนผมจะอดทน

    จากการเสนอพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษประจำปีซึ่งปีนี้เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ คบ 84 ปี จึงมีข่าวว่าอาจจะมีผมรวมอยู่ด้วย ผมมั่นใจในหลักการที่ว่ารัฐบาลจะไม่ทำการใดๆ ที่ให้ประโยชน์แก่ผมหรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นการเฉพาะ ยิ่งกว่านั้นการกระทำใดๆ ในช่วงนี้ต้องเป็นไปเพื่อนำประเทศสู่ความปรองดองและฟันฝ่าวิกฤตจากภัยธรรมชาติ น้ำท่วมใหญ่เท่านั้น

    อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงพระประชวรอยู่ เราต้องไม่ทำให้พระองค์ทรงหนักพระราชหฤทัย เป็นอันขาดและผมก็มั่นใจว่าท่านนายกฯของเรามีแนวคิดและความตั้งใจเช่นเดียวกับผม สำหรับพี่น้องที่สนับสนุนผม ห่วงใยผมก็ขออย่าใดผิดหวัง เพราะเมื่อแสงแห่งธรรมปรากฏทุกอย่างจะจบเอง เพราะบ้านเมืองจะอยู่ในภาวะขัดแย้งอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้

    ท้ายนี้ ผมขอเรียกร้องทุกฝ่ายที่รักชาติบ้านเมืองจริง ต้องรู้จักคำว่า "Forgive and Forget"  คือรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกัน ลืมเรื่องเก่าๆเข้าสู่มิติใหม่ของวันพรุ่งนี้  เพื่อบ้านเมืองและลูกหลานเราครับ

    ด้วยความรักและคิดถึง
    พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

นอกจากมีการเผยแพร่จดหมายฉบับภาษาไทยซึ่งเขียนด้วยลายมือแล้ว ยังมีการแผยแพร่จดหมายฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นตัวพิมพ์ ด้วย

เพียง 5 วันที่จุดประเด็นเรื่องพ.ร.ฎ.อภัยโทษ ทำให้หนึ่งช่วยกลบข่าวน้ำท่วมที่รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ที่ปล่อยประชาชนเดือดร้อนทั่วทุกหัวระแหง มีคนตายไปแล้วกว่าครึ่งพันคน
 
ดูเหมือนเพื่อไทย ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ จะยอมถอยในเรื่องที่จะนำ ทักษิณ กลับประเทศมาร่วมงานแต่งลูกสาวในเดือนธ.ค.นี้

แต่ความจริงแล้ว เรื่องนี้มีการวางพล็อตเรื่องสอดรับกันเป็นฉากๆ

ซึ่งต้องย้อนกลับไปที่ รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 16 พ.ย. อนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคมาตุภูมิ ได้เสนอเลื่อนญัตติด่วนที่ 5 เรื่อง ขอให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ เป็นผู้เสนอ

ในวันเดียวกัน ก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาตามวาระในญัตติด่วน ที่ 4 เรื่อง ขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาข้อเสนอลบล้างผลพวงของการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จากคณาจารย์กลุ่มนิติราษฎร์

และวันที่ 18 พ.ย. มีการประชุมกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ นัดแรก ที่ประชุมมีมติให้ พล.อ.สนธิ เป็นประธาน กมธ.ส่วนรองประธานมีทั้งหมด 5 คน คือ วัฒนา เมืองสุข พล.ต.อ.วิรุฬห์ ฟื้นแสน ส.ส.บัญชีรายชื่อเพื่อไทย สามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ และ ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย

พล.อ.สนธิ แถลงว่า จะนำผลสรุปของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่มีคณิต ณ นคร เป็นประธาน มาเป็นพื้นฐานของกรอบแนวความคิด และจะใช้สถาบันที่เป็นกลางเพื่อศึกษาวิจัย ค้นหาวิธีทางในการปรองดอง อาทิเช่น สถาบันพระปกเกล้า โดยมีระยเวลาการทำงาน 30 วัน

ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น 13 ก.ย.2554  ฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าคณะรัฐมนตรี เห็นชอบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงยุติธรรม เสนอ เรื่องแต่งตั้ง อุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธานกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 3 วรรค 2 กำหนดว่า การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม

สมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในฐานะสมาชิกกลุ่มสยามสามัคคี กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ถึงกรณีที่ ทักษิณ ส่งจดหมายไม่ต้องการขอพระราชทานอภัยโทษ ว่า ก่อนหน้านี้ 1 วัน ทราบว่ามีการวางแผนให้ ทักษิณ เขียนจดหมายขึ้นมา เพราะเมื่อหยั่งกระแสที่มีเสียงคัดค้านจำนวนมาก ก็จะเล่นบทให้ "ทักษิณ" เป็นพระเอกเป็นผู้เสียสละ ด้วยข้ออ้างเพื่อให้เกิด "ความปรองดอง"

ก่อนหน้านี้มีข่าวมาโดยตลอดว่า พรรคเพื่อไทย โดยการคิดของคนบนชั้น 26 ได้เตรียมการมาแต่ต้น กล่าวคือ การเล่นเกมเสียสละเพื่อการปรองดอง พร้อมกับการตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ที่มีจุดหมายปลายทางคือ การออก "กฎหมายนิรโทษกรรม" ให้กับคนทุกสี รวมถึงคนบ้านเลขที่ 109 บ้านเลขที่ 111

นี่จะสอดรับการตั้ง ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ที่จะศึกษาและมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ให้ ตั้ง ส.ส.ร. 3 เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญแบบเดียวกับรัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายเดียว และจุดมุ่งหมายเดิมของเพื่อไทย เสื้อแดง และทักษิณ


หากเดินตามแผนนี้สำเร็จ ทักษิณ จะได้รับนิโทษกรรม ความผิดทั้งหมดที่ตัวเองและบริวารก่อขึ้น โดยคดีเหล่านี้ยังคาอยู่ในศาลฎีกานักการเมืองอีกหลายคดี และบางส่วนอยู่ในชั้นสอบสวนของป.ป.ช. รวมถึงการกลับมาเล่นการเมือง ตามที่ทักษิณ เคยลั่นวาจาเสมอว่าจะกลับมาเป็นนายกฯ เมื่อประชาชนต้องการ และวันนี้คนเสื้อแดง จำนวนมากยังต้องการ ทักษิณ อยู่

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #596 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2554, 23:03:27 »

 แก้วสรร อติโพธิ ถอดรหัส "การเมืองไทยกำลังแปลงร่างเป็นระบอบทักษิณใหม่"
>

>           
>                "ทักษิณ"    ได้เรียนรู้แล้ว วางแผนแล้วและกำลังทุ่มเทจะกลับมาใหม่    เมื่อมอง "ทักษิณ" ให้ไกลและลึกจะพบว่ารัฐบาล "ปู"   เป็นเพียงรัฐบาลเฉพาะกาลรับงานจัดตั้งผู้คนปูทางให้ "ทักษิณ" กลับมาเท่านั้น    ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ในทางสังคมจิตวิทยาการเมืองจะยังผลเป็นเช่นการรัฐ ประหารที่ราบคาบมาก   จากนั้นกระแสนี้ก็จะนำไปสู่การรื้อรัฐธรรมนูญ สถาปนาระบอบทักษิณ (รวมศูนย์) ที่เบ็ดเสร็จมั่นคงในที่สุด

>                ระยะจัดตั้ง

>                   1.ฟูมฟักขบวนการเสื้อแดง ( 2552-ปัจจุบัน)

>                 2.ชนะเลือกตั้งตอบแทนรากหญ้าดึงชนชั้นกลางเป็นแนวร่วม(กรกฎา 2554)

>                 3.ส่งคนยึดราชการสำคัญ (สิงหา – ตุลา 2554)

>                  ระยะรัฐประหาร

>                  4.ตราพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในวโรกาสครบ 7 รอบในหลวง ( ธันวา 2554)

>                 5.ทักษิณกลับมาถูกกักขังและได้รับอภัยโทษ ( พฤศจิกา 2554) 

>                  ระยะสถาปนาระบบรองรับระบอบ


>                   6.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ : เนื้อหาและกระบวนการ (กันยา 2554- มิถุนา 2555)

>                   7.รัฐธรรมนูญใหม่..เลือกตั้งใหม่..ระบอบทักษิณใหม่(สิงหา 2555)


>                    ฐานคิดของบทวิเคราะห์นี้

>                    แผนการกลับสู่อำนาจของทักษิณ  - ทักษิณ ได้คิดและวางแผนและลงมือตามแผนแล้วด้วยว่า ต้องกลับมาครองอำนาจให้ได้เร็วที่สุด และมั่นคงที่สุด โดยมีขั้นตอนสำคัญคือ

>                    1.ชนะเลือกตั้งด้วยมวลชนแดง+เงิน+สินบนประชานิยมสุดขั้ว

>                    2.ให้รัฐบาลปูทำหน้าที่พาทักษิณ กลับบ้านในช่วงพระราชทานอภัยโทษ 5 ธันวาคม  พร้อมฉวยโอกาสกำราบกลุ่มขัดขวางให้ราบคาบ

>                       3.สร้าง กระบวนการสถาปนารัฐธรรมนูญใหม่ มี ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ร่วมกับนักวิชาการที่สำคัญตัวว่าหัวก้าวหน้าอีกจำนวนหนึ่งทำงานออกแบบและเผย แพร่ความคิด จากนั้นเข้าสวมบทบาทเป็นแกน ส.ส.ร. แล้วจบด้วยประชามติทั้งประเทศที่ต้องจุดพลุ “ประชาธิปไตย”กันสุดเหวี่ยง ราวกับวันชาติสหรัฐเลยทีเดียว

>                         4. เลือกตั้งใหม่ได้ระบอบทักษิณใหม่  ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมวิทยาการเมือง  โดยครรลองความเปลี่ยนแปลงข้างต้น   แม้ตัวระบบตามรัฐธรรมนูญจะยังดูเป็นระบบผู้แทนอยู่ก็ตาม    แต่ตัวความคิดและความเคลื่อนไหวในระบอบการปกครองใหม่จะบิดเบือนไปจากระบอบประชาธิปไตยโดยสิ้นเชิง


>                            การกลับมาของทักษิณ ในธันวา 2554 จะมีค่าไม่ต่างจากการรัฐประหาร ทุกสถาบันทั้งสูงต่ำจะชะงักงัน และสยบยอม เปิดทางโล่งต่อการรื้อรัฐธรรมนูญใหม่ในกลางปี 2555


>                            โครงสร้างรัฐธรรมนูญใหม่จะมีเพียงสภาเดียว องค์กรอิสระจะถูกยกเลิกหรือลดอำนาจและถือกำเนิดโดยคัดสรรของสภาผู้แทน สำหรับอำนาจตุลาการ นั้น ตุลาการตำแหน่งสูงและคณะกรรมการตุลาการ จะถูกกลืนให้แต่งตั้งโดยความเห็นชอบของสภา อำนาจฝ่ายบริหารจะมีมากขึ้นทั้งอำนาจปรับกระทรวงทบวงกรม โยกย้ายข้าราชการระดับสูงได้โดยลำพัง จนเป็นเสมือนระบบกึ่งประธานาธิบดี


>                            ในส่วนความเคลื่อนไหวนั้น ขบวนการคนเสื้อแดงจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว ใช้เครือข่ายเข้ายึดกุมการปกครองท้องถิ่นระดับต่าง ๆ อย่างไม่หยุดหย่อน สถานีวิทยุชุมชนเสื้อแดงจะถูกพัฒนาเป็นโครงข่ายสื่อสารของขบวนการมวลชนแดง ครอบคลุมทั้งประเทศและเจาะลึกได้ทุกพื้นที่


>                           สำนักข่าวแดง ผลิตสื่อล้างสมองต่าง ๆ  จะลงหลักปักฐานทั้งสื่อเคเบิ้ลทีวี จานดาวเทียม และรายการวิทยุชุมชนแดงด้วยความเคลื่อนไหวแบบสองขาร้อยปากอย่างนี้ ในที่สุดแล้วการเลือกตั้งต่างๆ ก็จะเป็นเพียงพิธีกรรม รองรับอำนาจของมวลชนเสื้อแดงเท่านั้น

>                         นอกจากระบบและความเคลื่อนไหวแล้ว  ในส่วนความคิดนั้น  แนวคิดในเชิงอุปถัมภ์อำนาจนิยมจะต้องถูกทำนุบำรุงอย่างเต็มพิกัด  ทักษิณ   คือความหวังที่พึ่งได้สำหรับทุกคน

>                          ใครขวางทักษิณคือคนที่ขวางอนาคตของชาติ   ลูกปืนคือเครื่องมือหลักในการแก้ปัญหา 3   จังหวัดและปัญหายาเสพติด  เอ็นจีโอ และนักวิชาการคือคนเพ้อเจ้อ อนาคตทุกคนมีทักษิณดูแลอยู่แล้ว   พบทักษิณได้ทุกเวลาทุกที่ในสื่อรอบตัวทุกชนิด
>
ระยะจัดตั้ง

>
>                        ขั้นตอนสำคัญในการกลับมาของระบอบทักษิณก็คือ  การจัดตั้งยึดฐานกำลังทั้งในระบบและนอกระบบการปกครอง ให้พร้อมต่อการยึดอำนาจกำราบเสี้ยนหนามให้จงได้ ซึ่งก็มีสามขั้นตอนย่อยคือ

>                         1. ฟูมฟักขบวนการคนเสื้อแดง (2550–ปัจจุบัน) ระบอบทักษิณเดิมมีโครงข่ายอุปถัมภ์ในชุมชนต่างๆ อยู่แล้ว ยังขาดแต่วาทะกรรมแห่งความเกลียดชัง นักจัดตั้ง ความเคลื่อนไหวรวมหมู่ ทุนรอน และสื่อล้างสมองที่สมบูรณ์เท่านั้น ซึ่งบรรดานายหน้าค้าอำนาจของชุมชนต่างๆ และซ้ายเก่าทั้งปวง ก็ได้เข้ารับงานพัฒนามวลชนเสื้อแดงอย่างถึงรากถึงโคนมาตลอด จนใช้งานเปล่งศักยภาพได้สูงสุด นำชัยชนะในสนามเลือกตั้งมาให้ทักษิณได้อย่างเด็ดขาดในการเลือกตั้งที่ผ่านมานี้


>                          ขบวนการเสื้อแดงจะต้องพัฒนาขยายตัวรุกเข้ายึดอำนาจในระบบต่อไปทั้ง กองทุนหมู่บ้าน  อบต.และเทศบาลต่างๆ สำหรับการใช้กำลังนั้น คนเสื้อแดงส่วนหนึ่งจะถูกจัดตั้งแทรกซึมเข้าไปอยู่ในระบบอาสาสมัครต่างๆ ของภาครัฐ ไม่เว้นแม้แต่ระบบลูกจ้างป่าอนุรักษ์ ทั้งหมดนี้ต้องพร้อมที่จะลุกขึ้นมาเป็นทหารบ้านจับปืนต่อสู้กับกองทัพได้เสมอ โดยมิต้องพูดถึงกองกำลังอันธพาลที่พร้อมจะรังควานเป้าหมายได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว


>                         การแทรกคนเสื้อแดงเข้าไปถือปืนของรัฐนี้เห็นได้ทั้งในกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากร โดยมุมมองเช่นนี้การแต่งตั้งแกนนำเสื้อแดงเข้าไปมีตำแหน่งในกระทรวงต่างๆ ส่วนหนึ่ง จึงมิอาจมองอย่างตื้นเขินเห็นเป็นเพียงการให้รางวัลเท่านั้น เพราะถ้าเข้าใจถึงแผนการเข้ายึดฐานที่ตั้งต่างๆ ในอำนาจรัฐแล้วก็จะเห็นได้ในทันทีว่า นี่คือส่วนหนึ่งของขบวนการแปลงร่างการเมืองการปกครองไทยนั่นเอง


>                        2.ชนะเลือกตั้ง ขายนโยบายประชานิยมสุดลิ่มทิ่มประตู (กรกฎา 2554 ) ระบอบทักษิณชนะเลือกตั้งปี 2554 ด้วยการตลาดประชานิยมที่ต้องตาต้องใจ ด้วยฐานมวลชนที่คึกคักในหลายพื้นที่  และการจัดการที่แม่นยำ

>                     ข้อที่น่าสังเกตในการเลือกตั้งครั้งนี้  ก็คือสินค้าประชานิยมที่ทักษิณ คิดและโฆษณาขึ้นมาอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู คลุมเป้าหมายทุกชนชั้นทุกวัย โดยไม่คำนึงเลยว่าจะทำได้หรือไม่ในระยะยาว ขอแต่เพียงให้ได้ใจ ได้คะแนนได้อำนาจก่อนก็เป็นอันเพียงพอ ซึ่งก็ทำให้คู่แข่งทั้งหลายและนักวิชาการทั้งปวงงงงันกันเป็นอันมากว่าจะ เป็นการหลอกลวงผู้บริโภคหรือไม่ ซึ่งแม้จนปัจจุบันนี้ก็ยังพากันไล่ล่าคาดคั้นกันอยู่ทุกวัน

>                      การไล่ล่าคาดคั้นเช่นที่ว่านี้นับเป็นความหลงผิดอย่างยิ่ง เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถูกวางแผนให้เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจทำหน้าที่พาทักษิณ กลับบ้านภายใน 1 ปีเท่านั้น ไม่มีทั้งเวลาและหน้าที่ต้องทำให้นโยบายที่สัญญาไว้เป็นจริงแต่อย่างใด


>                     3.ส่งคนยึดราชการสำคัญ (สิงหา – ตุลา 2554) ราชการสำคัญในที่นี้คือราชการที่จำต้องใช้เพื่อเป็นฐานในการกลับมาของทักษิณ เริ่มจากที่ต้องใช้งานโดยตรงคือตำรวจและราชทัณฑ์ กองกำลังที่ต้องใช้เสริมหรือแทรกแซงหรือก่อกวนฝ่ายตรงข้ามทั้งอาสามหาดไทย และลูกจ้างหน่วยอนุรักษ์ป่า จากนั้นจึงเป็นฐานรอบนอกคือสื่อของรัฐทั้งหมด


>                        ระยะรัฐประหาร

>                      4.เตรียมพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษครบ 7 รอบในหลวง (ตุลา  2554)   การอภัยโทษเป็นการทั่วไป โดยพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 7 รอบ ใน 5 ธันวา 2554 นี้ หากถือแบบอย่างตามพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษปีก่อนๆ ก็จะมีบทบัญญัติอภัยโทษด้วยเหตุสูงอายุของผู้ต้องขังที่อายุเกิน 60 ปีและเหลือโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีอย่างแน่นอน คงเหลือแต่ปัญหาว่าจะวางเงื่อนไขให้ต้องเคยต้องโทษมาก่อนหรือไม่ซึ่ง ตัวอย่างในพระราชกฤษฎีกาปี 2550 จะกำหนดว่าต้องรับโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม มาในปีล่าสุดคือปี 2553 ก็ผ่อนคลายเลิกเงื่อนไขนี้ไป


>                        เชื่อได้ว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์จะต้อง พยายามให้กฤษฎีกาปี 2554 ยืนหลักการไม่มีเงื่อนไขเช่นปี 2553 อย่างแน่นอน จากนั้นจึงให้ทักษิณ กลับมามอบตัวรับฟังคำพิพากษาให้ศาลออกหมายขัง แล้วถูกคุมขังในโรงเรียนพลตำรวจบางเขน สักระยะหนึ่งประมาณ 2 อาทิตย์   (สถานที่นี้ รัฐมนตรียุติธรรม พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก ได้เร่งประกาศเป็นเรือนจำไปเรียบร้อยแล้ว )  จากนั้นเมื่อประกาศพระราชกฤษฎีกาแล้ว  ทักษิณก็จะพ้นการคุมขังประมาณวันที่ 10 ธันวาคม ไปในที่สุด


>                        แผนการนี้เชื่อได้เกินครึ่งแล้วว่า เป็นแผนจริงของทักษิณ เพราะมิใช่การขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการเฉพาะรายเหมือนฎีกาแดง 3 ล้าน เป็นเรื่องที่ยอมเข้ามาถูกคุมขังให้ได้จังหวะจนได้พระมหากรุณาธิคุณเช่น เดียวกับนักโทษอื่นๆ ทำให้ลบภาพสองมาตรฐานออกไปได้ และยังได้อ้างพระมหากรุณาธิคุณปิดปากฝ่ายต่อต้านอีกด้วย


>                          5.การกลับมาถูกขังและการพ้นโทษของทักษิณ (พฤศจิกา 2554) ประเมินได้ว่าช่วงพฤศจิกายน 2554 นี้ ทักษิณจะสามารถสร้างภาพในระดับสากลให้เห็นเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพและความร่วมมือ มีแรงหนุนจากธุรกิจน้ำมันระดับโลกอย่างแน่นหนา ภายในประเทศเองนั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็พยายามลากเข็นนโยบายหลักให้เห็นลวกๆ ไประยะหนึ่งแล้ว ทั้งการลดราคาน้ำมันและจำนำข้าว

>             
>                          การกลับมาของทักษิณในพฤศจิกานี้   จึงมีความพร้อมในทางการเมืองอยู่มาก คงเหลือแต่ด่านในทางกฎหมายเท่านั้นว่าจะฟันฝ่าต่อไปอีกได้หรือไม่ เพราะมีคดีความที่ฟ้องศาลแล้ว เป็นจำเลยแล้ว และรอดำเนินคดีอยู่หลายคดีด้วยกัน  ซึ่งต่อปัญหาคดีเหล่านี้ฝ่ายทักษิณ ก็จะต้องฟันฝ่าต่อไป  โดย ..


>
>                         1.ต้อง เดินหน้าใช้ ส.ส.เพื่อไทย และส.ว.แดงในสภาแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญในนามของการปฏิรูปหลักนิติธรรมแห่ง ชาติ ตรากฎหมายนิรโทษกรรม หรือเพิกถอนการดำเนินคดีทั้งปวงให้สิ้นสุดไปให้ได้

>                        2.ระหว่างนี้ต้องไม่ยอมให้ศาลในคดีที่เหลือใช้อำนาจคุมขังทักษิณ โดยการปฏิเสธไม่ให้ประกันตัวเป็นอันขาด

>
>                       หากผ่านด่านข้อ 2 ไปได้ ทักษิณก็จะพ้นที่คุมขัง พ้นโทษคดีที่ดินรัชดา
> ในนามของการพระราชทานอภัยโทษ แล้วเดินหน้าร่างรัฐธรรมนูญใหม่สถาปนาระบอบใหม่ โดยไม่มีใครมีกำลังเผยอหน้าเป็นเสี้ยนหนามได้อีกต่อไป ทั้งในและนอกระบบ จนสามารถกล่าวได้ว่าการพ้นโทษในธันวาคมนี้ มีผลเทียบได้ไม่ต่างจากการรัฐประหารแต่อย่างใดเลย

>                       ด่านข้อ 2 นี้ ลูกบอลจะตกอยู่ที่ กระบวนการยุติธรรม ว่า จะสามารถตั้งหลักเริ่มดำเนินคดีที่เหลือกับทักษิณได้หรือไม่เมื่อใด และที่สำคัญจะให้ประกันตัวหรือไม่ ซึ่งหากไปถึงวันพิจารณาเปิดคดี นำตัวจำเลยทักษิณ ไปศาลพร้อมคำขอประกันเมื่อใด มวลชนแม่ยกแดงจะต้องแห่แหนไปล้อมศาลอย่างแน่นอน โอกาสประทะซึ่งหน้าระหว่างนิติรัฐกับกำลังมวลชน ก็จะพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดโดยพลัน การเกิดเหตุการณ์ชุลมุนทางอำนาจเหมือนกรณี 6 ตุลาคมจะเป็นไปได้สูงยิ่ง

>             
>                       ระยะสถาปนาระบบเพื่อรองรับระบอบทักษิณ(รวมศูนย์)


>                        6.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่   เนื้อหาและกระบวนการ (กันยา 2554 - สิงหา 2555) โฟกัสของรัฐธรรมนูญใหม่จะอยู่ที่การปรับระบบตรวจสอบเสียใหม่ แล้วจึงตราบทเฉพาะกาลย้อนหลังไปมีผลลบล้างการเอาโทษทั้งปวงที่กระทำต่อ ทักษิณ ไว้ ทั้งในระดับ คตส. ป.ป.ช.และศาลฎีกาอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ทักษิณก็เดินหมากให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการพิเศษ ชื่อ คอ.นธ. มี นายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธานทำการศึกษาและประชาสัมพันธ์สร้างกรอบคิดฝังลงไปในสังคมเป็นการปู ทางไว้ก่อนแล้ว


>                        จนในราวเดือน มีนา 2555 กระบวนการเลือก ส.ส.ร.ก็จะเริ่มขึ้น โดยต้องมีพิมพ์เขียวเตรียมไว้ก่อนแล้วอย่างแน่นอน ซึ่งนอกเหนือจากแนวทางที่ได้จาก คอ.นธ.แล้ว ก็น่าจะล่วงเข้ามามีบทบัญญัติยกเลิกวุฒิสภาด้วยอีกส่วนหนึ่ง


>                          ในส่วนกระบวนการนั้นก็แน่นอนว่าต้องมีการประชาสัมพันธ์ถ่ายทอดการร่างรัฐธรรมนูญ ใหม่เป็นการใหญ่  แล้วนำไปสู่การลงประชามติขอความเห็นจากประชาชน แล้วนำมาขอมติรับรองจากรัฐสภาอีกชั้นหนึ่ง

>                        น่าเชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญใหม่นี้ จะถูกปรุงแต่งแสดงตัวเป็นประชาธิปไตยอย่างสุดแรงเกิดทั้งการยกเลิกวุฒิสภา, จำกัดอำนาจองค์กรอิสระทั้งปวง,การให้สภาผู้แทนรับรอง กต.หรือตุลาการระดับสูง หรือองค์กรอิสระ, การนำระบบลูกขุนมาใช้ในศาลไทยฯ เป็นต้น
> ทั้งหมดนี้ ในปัจจุบันต้องมีแนวทางและเจ้าของความคิดซุ่มร่างวางแนวไว้แ??้วทั้งสิ้น  และในไม่ช้าผู้สมคบทางวิชาการเหล่านี้จะปรากฏตัวให้เห็นเป็นตัวเป็นๆอยู่ใน คน.อธ.อย่างแน่นอน


>                        7.รัฐธรรมนูญใหม่..เลือกตั้งใหม่..ระบอบทักษิณ ใหม่ ( สิงหา  2554) ประเมินได้ว่ากระบวนการร่างรัฐธรรมนูญใหม่นี้จะต้องถูกเร่งรัดอย่างยิ่ง ดังจะเห็นได้จากการเร่งปล่อยกระแสความคิดเรื่องหลักนิติธรรมแห่งชาติโดยกลไก คอ.นธ.มาตั้งแต่เดือนที่สองของรัฐบาล  แล้วต้องตามด้วยการสร้างเวทีสาธารณะกระพือความเห็นตามเป็นระลอกไปตลอด จนไม่ต้องเสียเวลาทำความคิดในสังคมให้มากมายในช่วงร่างรัฐธรรมนูญอีกต่อไป กรณีจึงเป็นไปได้ว่าน่าจะได้รัฐธรรมนูญใหม่ในราวเดือนมิถุนายน 2555 แล้วอีก 2 เดือนต่อมาก็จะได้นายกรัฐมนตรีใหม่ชื่อทักษิณ ชินวัตร


>                           การปกครองนับแต่นั้นจะเป็นระบอบทักษิณใหม่ มีฐานมวลชนเสื้อแดงเกลื่อนอยู่ในชุมชนทุกแห่ง นายหน้าหรือแกนนำจะแทรกอยุ่ใน อบต.และเทศบาลต่างๆ  ข้าราชการที่สวามิภักดิ์จะถูกแต่งตั้งมาดูแลพื้นที่ทั้งปวง

 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #597 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 09:01:36 »


                           รื้อคดีที่ดินรัชดา ชี้ชัด"แม้ว"ผิด  ตัวการทำชาวบ้านล้มละลาย



                            http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000148597
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #598 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 09:25:20 »

ประมวลสองด้าน พิสูจน์ดี-ชั่ว ร่าง ‘พ.ร.ฏ.อภัยโทษ’ ฉบับลับหมกเม็ดใต้น้ำท่วม    
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน



นับตั้งแต่วันที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวหัวแก้วหัวแหวนของทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ได้ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลายคนก็รู้ดีว่าน้องสาวคนนี้ย่อมทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้พี่ชายได้กลับมายังแผ่นดินเกิดไม่วันใดก็วันหนึ่ง และแล้ววันนั้นมันก็มาถึง เพราะในช่วงวิกฤตน้ำท่วมที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีโดยการนำของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้มีการประชุมวาระลับเกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งจะเป็นการกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับคุณสมบัติของนักโทษที่จะเข้าข่ายในการเข้ารับพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งเนื้อหาของ พ.ร.ฎ. ซึ่งมีการคุยกันนั้นมีอยู่หลายจุดที่จะเข้าข่ายที่จะสามารถเอื้อประโยชน์ให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะนักโทษหนีคดี
       
       แน่นอนว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ย่อมกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในสังคม ซึ่งความเห็นโดยรวมก็ได้แบ่งออกเป็นสองขั้วอย่างชัดเจน คือขั้วที่เห็นแก่ชาติบ้านเมืองเป็นหลักดังนั้นจึงไม่ยอมให้ พ.ร.ฎ. ที่เอื้อประโยชน์แก่คนใดคนหนึ่งคลอดออกมาโดยง่าย ส่วนอีกฝั่งก็คือพวกที่รักและคิดถึงนายของเขา จึงอยากให้ พ.ร.ฎ. ฉบับนี้ออกมาพานายของเขากลับบ้าน
       
       เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ดังนั้น การรับฟังเหตุผลของทั้งสองฝ่ายจึงเป็นเรื่องที่สามารถทำได้และสมควรทำ ซึ่งหลังจากได้รับข้อมูลเหล่านี้มาแล้ว แต่ละคนก็คงจะประมวลผลกันได้ว่าเหตุผลของฝั่งไหนฟังขึ้นหรือไม่ขึ้นอย่างไร
       
       มิบังควรได้รับอภัยโทษ
       
       อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
       ผู้นำฝ่ายค้าน
       รัฐบาลต้องฟังประชาชนควบคู่ไปด้วย ถ้าอยากจะฟังพ.ต.ท.ทักษิณด้วยก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญคือนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับจากอาเซียนแล้วต้องรีบประกาศว่าไม่ทำแล้วเพื่อให้สังคมเกิดความสบายใจ จะได้เดินหน้าในเรื่องอื่นที่มีความสำคัญมากกว่า ส่วนแนวคิดที่รัฐบาลจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องว่ากันต่อไปว่าทำเพื่ออะไร ตนอยากย้ำว่าถ้าทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ของส่วนรวมก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าทำเพื่อมุ่งตอบโจทย์คน ๆ เดียวฝืนหลักกฎหมายหลายอย่างก็จะเป็นปัญหา หลักก็มีง่าย ๆ เพียงเท่านี้
       
       เทพไท เสนพงศ์
       ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์
       เรื่องนี้เป็นการโยนหินถามทาง เพื่อจะฉวยโอกาสช่วงที่มีกระบวนการต่อต้านขึ้นมาจำนวนมาก ก็เลยแสดงอาการเข้าเกียร์ถอย เพื่อที่จะหนีการเผชิญหน้า พฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณไม่ต่างอะไรกับนักย่องเบา ที่จะเข้าไปขโมยทรัพย์สิน เมื่อเจ้าของรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ก็โยนของที่ขโมยทิ้งไป เพื่อจะให้ตัวเองพ้นจากความผิด ดังนั้นเรื่องนี้เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และทำเพื่อตัวเองทั้งหมด
       
       แก้วสรร อติโพธิ
       อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)
       เรื่องนี้เป็นเรื่องการออกกฎหมายของรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับจดหมายหรือเจตนาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งทั้งหมดนี้รัฐบาลต้องนำร่าง พ.ร.ฎ.อภัยโทษ มาให้ประชาชนดูให้ชัดเจนไปเลย อย่ามาอ้างว่าเป็นความลับ เพราะหลักกฎหมายที่เกี่ยวกับความลับก็มีอยู่ คือเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย ไม่ได้อยู่ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า ลับก็คือความลับ ทั้งนี้ เป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะหยุดเรื่องนี้หรือจะแก้ไข โดยการออกคำสั่งระงับร่างฉบับเก่า และให้กระทรวงยุติธรรมแก้ไขใหม่ ถ้าโปร่งใสและชัดเจนทุกอย่างก็จบ
       
       ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์
       ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ
       คนเราต้องมีความสง่างาม โปร่งใส อย่างกรณีตนก็ถูกกล่าวหาจาก คตส. (คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ) ในคดีหวยบนดิน และกล้ายาง ก็ยังต่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สู้คดีอย่างโปร่งใส ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณสมควรอย่างยิ่งที่จะสู้คดีอย่างโปร่งใส เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอดีตผู้นำที่จบสาขาบริหารงานยุติธรรม และจบจากโรงเรียนตำรวจ ควรเดินตามเส้นทางสุภาพบุรุษ ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้บ้านเมือง ทำทุกอย่างสง่าผ่าเผย
       
       สนธิ ลิ้มทองกุล
       แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
       การกระทำเช่นนี้ถือนี้เป็นเรื่องที่น่าเกลียด และเป็นเรื่องที่เลวทรามต่ำช้ามาก วันนี้การกระทำของพรรคเพื่อไทยพิสูจน์ชัดเจนว่า การเมืองปัจจุบันที่เกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตย คือการเมืองที่มุ่งช่วยคนคนเดียวจริงๆ และเป็นการจงใจจะทำลายหลักนิติรัฐ โดยอ้างเรื่องนี้บังหน้า การเมืองในลักษณะนี้ไม่ใช่การเมืองปรองดอง หรือการสร้างความสามัคคี แต่เป็นการเมืองเพื่อคนคนเดียว พันธมิตรฯ ไม่นิ่งเฉยแน่นอน โดยทางแกนนำพันธมิตรฯ กำลังจะพิจารณาเนื้อหาสาระของ พ.ร.ฎ.นิรโทษกรรม อย่างรอบคอบ และจะประชุมกันเพื่อกำหนดท่าทีโดยเร็วที่สุด
       
       นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์
       แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี
       หากเรื่องดังกล่าวเป็นจริง รัฐบาลจะต้องมีคำชี้แจงว่าทำไมต้องแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ เพื่อช่วยเหลือคนเพียงคนเดียว อีกทั้งยังเป็นเวลาที่ไม่เหมาะสม เพราะบ้านเมือง ประชาชน กำลังได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม หากมีการพยายามดำเนินการเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ จริง รัฐบาลนี้ก็อยู่ไม่ได้ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะอยู่อย่างไม่มีความสุขเช่นกัน
       
       เสรี สุวรรณภานนท์
       อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)
       ที่ผ่านมาการออกกฎหมายลักษณะดังกล่าวก็ทำกันมาตลอด ในโอกาสสำคัญๆ แต่มีปัญหาตรงที่ร่างนี้มี พ.ต.ท.ทักษิณ อาจได้ประโยชน์ด้วย เลยถูกวิพากษ์วิจารณ์หนัก เพราะของเดิมที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ กำหนดเงื่อนไขยกเว้นคดีพาเสพติดและคดีทุจริตคอร์รัปชั่นด้วย ดังนั้น ครม.เมื่อตัดสินใจเอง ก็ต้องรับผิดชอบในปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย
       
       กงกฤช หิรัญกิจ
       ประธานฝ่ายนโยบาย สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)
       คิดว่าหากจะมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษควรจะเป็นพระราชกฤษฎีกาที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งใดๆ ในทางการเมืองมาก จนเกิดการปะทะที่รุนแรงและทำให้เสียภาพลักษณ์ต่อประเทศไทย และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวมจะดีกว่า
       
       ทวี ชูทรัพย์
       อดีตอธิบดีกรมราชฑัณฑ์
       ข่าวมันออกมาว่า ครั้งนี้มันเป็นการล็อกสเปก คนที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษจะต้องมีอายุเกิน 60 ปี ต้องโทษจำคุกต่ำกว่า 3 ปี และลงท้ายว่าจะติดคุกมาก่อนหรือไม่ติดก็ได้ ซึ่งตรงนี้แหละที่ทำให้ผมมายืนอยู่ตรงนี้ และมาบอกกับท่านทั้งหลายว่า ถ้าเป็นอย่างนี้อย่าเอาด้วยเลย ไม่รู้เลยว่าจะมาไม้ไหน ในร่างฯ ที่เห็นเป็นการยกโทษจำคุกตามมาตรา 55 เป็นอำนาจศาล จะเอามาออก พ.ร.ฎ. อภัยโทษไม่ได้ นี่ประการแรก
       ประการต่อมา คนที่ไม่เคยติดคุกจะไม่มีต้นฉบับอะไรอยู่ที่กรมราชทัณฑ์ ไม่มีอะไรสักอย่าง จะมาอ่านหนังสือพิมพ์ว่า คนนั้นต้องโทษไม่เกิน 3 ปี อายุเกิน 60 ปี จะต้องปล่อยไป ตัวก็ไม่มีให้ปล่อย
       
       ดร.เสรี วงษ์มณฑา
       นักวิชาการ
       สติปัญญาของพวกเขาไม่ได้โง่กว่าเรา เราเองยังคิดออกตามหัวข้อนี้ว่า อภัยโทษจะเป็นการเพิ่มวิกฤตของบ้านเมือง เรายังรู้แล้ว เขาจะไม่รู้หรือ เขารู้ แต่เขากำลังทดสอบพวกเรา อย่าสอบตกเด็ดขาด เขากำลังมองว่าพันธมิตรฯ แตกแล้ว เขากำลังมองว่า สีโน้นสีนี้มีจำนวนก็แค่สองพันสามพัน เขาคิดว่าเขาได้ย้ายข้าราชการไว้เรียบร้อยหมดแล้ว สื่อหลายรายอยู่ในมือเขาแล้ว เขามั่นใจว่าเขาจะชนะแน่นอน แล้วเราจะยอมหรือ?
       
       -------------------------------------------------------------------------
       
       สู้เพื่อนายใหญ่...ได้กลับแผ่นดินไทย
       
       สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล
       รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
       เงื่อนไขทั้ง 2 ข้อ (คดียาเสพติดและคดีคอร์รัปชัน) เป็นการออกเพิ่มเติมในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เติมได้ เราก็มีสิทธิตัดทิ้งได้ คุณเติมฉันไม่ว่า แต่ฉันตัดอย่ามาโวย ทั้งนี้การออกพระราชกฤษฎีกาถือเป็นอำนาจของ ครม.ที่มีสิทธิทำได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องนำเข้าสภาฯ หารือ เหมือนสมัยที่รัฐบาลประชาธิปัตย์เคยออกพระราชกฤษฎีกากู้เงิน 4 แสนล้านบาท เชื่อว่าพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษจะไม่จุดชนวนให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองให้มีการปลุกม็อบสีต่างๆ ตามมาภายหลัง เพราะเราเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 15 ล้านเสียง ซึ่งทุกประเทศเช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ก็ต้อนรับประเทศไทยที่เข้าสู่ประชาธิปไตย มีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง
       
       ประชา ประสพดี
       ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย
       พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นคนไทยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเหมือนกัน และก็เคยทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ พรรคประชาธิปัตย์อย่ามาหมกมุ่น ตามจองล้างจองผลาญ พ.ต.ท.ทักษิณ สังคมสัมผัสได้ถึงความอิจฉาริษยาและความเห็นแก่ตัวของพรรคประชาธิปัตย์ ที่กลัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะได้ประโยชน์ และกลัว พ.ต.ท.ทักษิณจนขนหัวลุก การดำเนินการของรัฐบาลเป็นการทำเพื่อส่วนรวม ไม่ได้มุ่งหวังทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง
       
       ธิดา ถาวรเศรษฐ
       รักษาการประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
       คุณสมบัติของผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษต้องอายุ 60 ปีขึ้นไป โทษไม่เกิน 3 ปี และมีข้อติติงในเรื่องคดียาเสพติดและทุจริต ซึ่ง พ.ต.ท. ทักษิณก็ไม่ได้ถือว่ามีโทษทุจริต เพราะเป็นเพียงการเซ็นรับรองในกรณีที่ดินรัชดาฯ เพียงแต่เขาอ้างว่าไม่ถูกต้อง ในฐานะข้าราชการที่ไปเกี่ยวข้องด้วย ไม่ได้เป็นการฉ้อโกงใดๆ ปัญหาทางกฎหมายเรียกว่า เป็นปัญหาทางเทคนิคข้อกฎหมายไม่ใช่ปัญหาทุจริต
       
       ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
       รองนายกรัฐมนตรี
       ที่ผ่านมา เคยมีกรณีกระทรวงยุติธรรม มีความเห็นว่ามีรายชื่อที่ไม่สมควรได้รับพระราชทานอภัยโทษ แต่เมื่อผลท้ายสุดก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ที่ผมบอกว่าเป็นความลับ เพราะรักษาความในประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง ที่ต้องรักษาความลับไว้ เพราะหากไม่ทำเช่นนั้นอาจถูกยื่นถอดถอนได้ ฐานทำผิดวินัย พวกผมกว่าจะได้มาเป็นรัฐบาลยากลำบาก เมื่อได้เป็นแล้วก็อยากเป็นให้ครบ 12 ปี ที่ไม่บอกไม่ใช่ว่าผมกลัวใครต่อต้าน
       
       ขวัญชัย ไพรพนา
       ประธานชมรมคนรักอุดร
       การที่กลุ่มต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน เป็นกลุ่มคนเก่าๆ ที่อยู่หลังฉากต้องการทำลายอดีตนายกฯ ทักษิณเพียงอย่างเดียว ไม่เคยคิดถึงคนอื่น ทุกวันนี้ครอบครัวของนักโทษที่อยู่ข้างนอกหลายชีวิต หลายหมื่นครอบครัวต่างรอความหวังในวันที่ 5 ธันวาคม ผมขอฝากไปยังผู้ที่เขียนบทอยู่ข้างหลังที่สร้างปัญหากับประเทศว่า ขอให้หยุดได้แล้ว บ้านเมืองจะได้เดินหน้าต่อไป และนี่คือความต้องการที่เป็นหัวใจสำคัญของเราในการเรียกร้องประชาธิปไตย ความยุติธรรม และความต้องการที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย
       
       ปัณณวัฒน์ นาคมูล
       ผู้ประสานงานกลุ่ม นปช. จังหวัดอุตรดิตถ์
       หากได้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาประเทศไทย จะเป็นการช่วยให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตน้ำท่วมรอบนี้ได้โดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านมาก็เห็นการแก้ปัญหาให้แก่บ้านเมืองแล้วว่าเป็นอย่างไร ถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ จะเรียกความเชื่อมมั่นของนักลงทุนภาคเอกชน และชาวต่างชาติได้ รวมทั้งการวางแผนเพื่อรับมือกับกับอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต เพราะฉะนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในสังคมได้ให้โอกาสให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่บ้านเมือง ทุกคนรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ผิดอะไร แต่ที่ต้องอยู่ต่างประเทศเพราะเกิดจากการกลั่นแกล้งทางการเมือง ที่คิดจะทำลายล้างกันอย่างเดียว แต่ถึงเวลานี้บ้านเมืองเกิดวิกฤตทำให้ขาดคนดีมีฝีมือเข้ามาแก้ไข อยากให้ทุกฝ่ายเห็นแก่ส่วนรวม ช่วยกันนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาประเทศไทย และเชื่อว่าความปรองดองในบ้านเมืองจะเกิดขึ้นตามมา
       
       ก่อแก้ว พิกุลทอง
       ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
       วันนี้ต้องพูดกันตรงๆ ว่ามวลชนคนเสื้อแดงมีมากกว่ามวลชนที่คัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษอยู่แล้ว ที่ผ่านมาคนเสื้อแดงรู้สึกเหมือนถูกกระทำมาตลอด ยิ่งถ้าต้องให้ยอมรับการกลั่นแกล้งทั้งหมดอีกยิ่งเป็นไปไม่ได้ จึงไม่แปลกเลย หากมีคนคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษแล้วมวลชนคนเสื้อแดงจะออกมา วันนี้คนเสื้อแดงทุกคนพร้อมอยู่แล้ว หากเกิดปัญหาขึ้นมาก็จะกลายเป็นมวลชนชนมวลชน ซึ่งประเทศจะเสียหายมากกว่านี้
       
       จรัล ดิษฐาอภิชัย
       อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และอดีตแกนนำ นปช.
       ประเทศไทยไม่เคยมีประเพณี แต่ในทางหลักการทำได้ เพราะเป็นเรื่องพระราชอำนาจ ผมคิดว่า สมเด็จนโรดมสีหนุ กษัตริย์ กัมพูชา เคยให้อภัยโทษกับคนที่เกี่ยวข้องในการทำรัฐประหารแต่ล้มเหลวในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ปี 2540 โดยคนเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทย ผมยังเคยไปพบเขาเลย กลุ่มสมเด็จนโรดม รณฤทธิ์ กลุ่มพระพุทธะเสรี กลุ่มซอนซาน เวลานั้นกัมพูชามีนายกฯ 2 คน อีกคนคือ สมเด็จรณฤทธิ์ บริหารไปมา ก็เกิดความขัดแย้ง จึงทำรัฐประหารมีการยิงกัน แต่ล้มเหลว แล้วหนีมาอยู่ไทย ผมยังไปเยี่ยมเขา ต่อมาสมเด็จฯฮุนเซน ก็เห็นว่าเพื่อความปรองดองชาติ จึงกราบทูลให้ สมเด็จสีหนุ พระราชทานอภัยโทษ ต่อมาสมเด็จนโรดม รณฤทธิ์ เคยถูกฟ้อง ศาลตัดสินจำคุก ก็หนีไปอยู่ประเทศอื่น สมเด็จนโรดม สีหมุณี ก็พระราชทานอภัยโทษ แม้ว่า สมเด็จนโรดม รณฤทธิ์ จะไม่ได้อยู่ในคุก ฉะนั้น โดยหลักการ ก็คลุมถึงคนที่หลบหนีก็ได้ แต่ประเทศไทย ไม่เคยมีประเพณีนี้
       
       ..........
       
       แต่หลังจากการถกเถียงกันด้วยข้อมูล เหตุผลรวมไปถึงอารมณ์ของทั้งกลุ่มผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกำลังดำเนินไป ล่าสุด ข้อถกเถียงเหล่านั้น ก็ค่อยๆ เงียบเสียงลงชั่วคราว เนื่องมาจาก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ซึ่งมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง ได้ออกมาให้คำมั่นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมาว่า แท้จริงแล้ว พ.ร.ฎ. อภัยโทษที่กำลังดำเนินการอยู่นั้น เป็นพ.ร.ฎ. ที่ไม่เอื้อประโยชน์กับใครเป็นพิเศษ และในส่วนของบัญชีแนบท้ายที่เกี่ยวกับเรื่องของคดีทุจริตและคดียาเสพติดก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม
       
       “ผมขอเรียนด้วยความสัตย์จริงว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องลับและอยู่ระหว่างการดำเนินการ เมื่อผ่าน ครม.แล้วก็ส่งให้กฤษฎีกาตรวจและกลับเข้าสู่ ครม. และที่มีการถามว่า พ.ร.ฎ.ดังกล่าวเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือไม่ ตอบด้วยความสัตย์จริงว่าไม่ เพราะบัญชีแนบท้ายคดีทุจริตตามกฎหมาย ป.ป.ช.ก็อยู่ในร่างโดยสมบูรณ์ และไม่มีเนื้อหาที่ขัดต่อ ป.วิอาญา ยืนยันว่าเนื้อหาสาระร่าง พ.ร.ฎ.ของผม เหมือนร่าง พ.ร.ฎ.ที่นายพีระพันธุ์เสนอ เพียงแต่บางถ้อยคำอาจมีความแตกต่างกันบ้าง”
       
       แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ใช่ว่าภาคประชาชนจะนิ่งนอนใจได้ เพราะจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ทักษิณและพรรคพวก ล้วนแต่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว และเชี่ยวชาญในเรื่องของการหลอกล่อหมกเม็ดและลักไก่เพื่อผลประโยชน์ของตนเองเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น พ.ร.ฎ. ฉบับนี้ จึงเป็น พ.ร.ฎ. ที่คนไทยทุกคนต้องเฝ้าระวังเอาไว้ไม่ให้คลาดสายตา
       
       >>>>>>>>>>
       
       ………
       
       เรื่อง : ทีมข่าว CLICK
       ภาพ : วรวิทย์ พานิชนันท์

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #599 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2554, 10:25:21 »

หาช่องล้างนิติรัฐ อุกฤษอ้างยุติสองมาตรฐานรับไม้แม้วยึดสื่อรัฐชวนเชื่อ

    ข่าวหน้า 1Thaipost.net

22 พฤศจิกายน 2554 -

  "อุกฤษ" รับไม้ต่ออ้างยุติธรรมสองมาตรฐาน หาช่องล้างกฎหมายครั้งใหญ่ รอน้ำลดยึดโทรทัศน์-วิทยุโฆษณาชวนเชื่อ เสื้อแดงอีสานยังชุมนุมต่อ "ขวัญชัย" ให้เหตุผลกลุ่มต้านรัฐบาลไม่หยุดแดงก็ไม่หยุด ส.ว.-ภาคประชาชนไม่เชื่อคำพูด "ประชา" ลุ้นจับตารัฐบาลใกล้ชิดหวั่นลักไก่ช่วย "ทักษิณ"
    เป็นจังหวะที่สอดรับการเขียนจดหมายยอมถอย จากการมีชื่อในพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุกในคดีคอรัปชั่น โดยเมื่อวันจันทร์ นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4  มี 4 ข้อ ตอบสนองความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะกรณีที่ระบุว่ายุติธรรมสองมาตรฐาน ซึ่งมีการประโคมกันมาอย่างยาวนาน
    แถลงการณ์ 4 ข้อ ประกอบด้วย


 1.ระหว่างนี้มีน้ำท่วมใหญ่ ประชาชนจำนวนมากได้รับความทุกข์แสนสาหัสต้องอพยพหนีน้ำ ไม่พ้นแม้แต่คณะกรรมการและคณะทำงานของ คอ.นธ. จึงทำให้ไม่มีการประชุมตามที่กำหนดไว้ แต่ได้มอบหมายให้กรรมการทุกคนทำงานตามที่มอบหมายไว้ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการเมื่อน้ำลดลงและมีความสะดวกในการจัดประชุม
    2.อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ประธานคณะกรรมการ คอ.นธ.จะนำความเห็นและข้อเสนอแนะแก่หน่วยงานต่างๆ ของรัฐ เพื่อส่งเสริมหลักนิติธรรมให้เป็นผลทางรูปธรรม โดยมุ่งหวังที่จะให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมตามกฎหมายและหลีกเลี่ยง "ความยุติธรรมสองมาตรฐาน” รวมทั้งให้ความเห็นในการเตรียมออกกฎหมาย เพื่อใช้บังคับแก่ประชาชนในประการที่อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ และขัดต่อหลักนิติธรรม
    3.เอกสารดังกล่าวจะเป็นรูปแบบ "ความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.)" โดยจะส่งตรงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะติดตามผลว่าความเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวได้รับการพิจารณาหรือไม่
    4.เมื่อส่งความเห็นและข้อเสนอแนะไปแล้ว จะให้ทำลงในเว็บไซต์ของ คอ.นธ. และอาจมีการทำความเข้าใจกับประชาชนโดยรายการโทรทัศน์ของ คอ.นธ. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยทุกสัปดาห์ โดยจะเริ่มเมื่อปัญหาน้ำท่วมได้กลับสู่สภาพปกติแล้ว

     ขณะที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับทางทหาร และตนได้พูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพเป็นการส่วนตัวแล้วว่า เราจะไม่เข้าไปยุ่งในเรื่องของภาคการเมือง และทุกคนไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ ไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้อง ปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบได้ดำเนินการไปตามหน้าที่ ส่วนกองทัพจะดูแลเรื่องทุกข์สุขของประชาชน ฟื้นฟูผู้ที่ประสบอุทกภัยต่อไป จะไม่เข้าไปยุ่งในเรื่องดังกล่าว ส่วนเรื่องนี้จะเป็นการสร้างเงื่อนไขทางสังคมหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ต้องไปถามผู้ที่เกี่ยวข้อง
    "เราคุยกันแล้วถึงแนวความคิดเรื่องการปรองดอง และขณะนี้ก็กำลังดำเนินการอยู่ กองทัพทำงานให้ในนามของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนมีความสุขความสบายใจตามนโยบาย และภาพของความรักความปรองดองก็เกิดขึ้น จึงเป็นส่วนหนึ่งที่อยากรักษาไว้"
    เขาบอกว่า ไม่อยากให้มีการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ เพราะมันไม่สมควร แต่เท่าที่ทราบขณะนี้ทุกอย่างกำลังจะคลี่คลายและกำลังสบายใจขึ้น 

        นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ส่งจดหมายชี้แจงตอบโต้ประเด็นการเมือง โดยเฉพาะกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณเขียนจดหมายเรื่องนิรโทษกรรม เพราะกลัวรัฐบาลล้มเนื่องจากแรงต้านว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ทราบเนื้อหาและรายละเอียดของร่าง พ.ร.ฎ.ที่รัฐบาลกำลังจะพิจารณา และไม่ทราบว่าจะมีการขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ใครบ้าง ไม่ทราบว่าข้อสรุปเป็นอย่างไร เพราะแม้แต่รัฐมนตรีบางคนก็ยังไม่ทราบ แต่เมื่อเรื่องนี้มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง และอาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางความคิด พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งมีความรักและเป็นห่วงประเทศ อยากเห็นความสามัคคีปรองดอง
    จึงเห็นว่าควรรีบสร้างความชัดเจนในเรื่องนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งลุกลาม และแม้ท่านไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะนอกจากมีการยึดอำนาจท่านที่ประชาชนเลือกมา ยังมีการตั้งบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อท่านมาสอบสวนคดี ซึ่งขัดกับหลักนิติรัฐและนิติธรรมโดยสิ้นเชิง แต่ท่านพร้อมเสียสละความสุขส่วนตัวของท่านเพื่อประชาชนส่วนใหญ่

    ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีร่าง พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ที่อาจเอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เรื่องนี้ฝ่ายค้านถามตนมาตลอด ไม่สามารถพูดได้เพราะเป็นความลับ เนื่องจากยังไม่ได้มีการรับรองในข้อกฎหมายดังกล่าว ที่จะต้องรอฟังจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก่อนว่า สามารถใช้ได้หรือไม่ มีความเห็นอย่างไร ยังไม่ทันได้รู้เรื่องอะไรกลุ่มต่างๆ ก็เตรียมการชุมนุมแล้ว
    "ถึงแม้ว่าจะเคยบอกเอาไว้ระหว่างหาเสียงให้พรรคเพื่อไทย เมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้วจะเอา พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาก็ตาม ซึ่งเคยบอกแล้วว่าเป็นแค่นโยบายเท่านั้น แต่ผมจะไม่ใช้วิธีนี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็มีวิธีที่จะทำให้ถูกต้องอยู่แล้ว แต่ยังไม่ขอบอกตอนนี้ว่าเป็นวิธีการอะไร" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

    ขณะที่คนเสื้อแดงยังคงเคลื่อนไหวหนุนให้มีการขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มพลังมวลชนในนาม "กลุ่มรักสันติ” จาก 14 หมู่บ้าน ต.เจริญสุข  อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ กว่า 200 คน นำโดยนางสำรวย ศรีมะเรือง ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีตำบลเจริญสุข เป็นแกนนำกลุ่มพลังมวลชน ได้รวมตัวกันเดินทางมาชุมนุมพร้อมชูป้ายข้อความต่างๆ อาทิ "ชาวบุรีรัมย์สนับสนุน พ.ร.ฎ.อภัยโทษ เพื่อความปรองดองของชาติ, ทำบุญ ให้อภัยทาน สร้างสมานฉันท์ ให้อภัยโทษ และหยุดเล่นกีฬาสี มาให้อภัยกันเถิด” เพื่อแสดงพลังสนับสนุนพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ พร้อมให้กำลังใจและสนับสนุนการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย 
 
        เช่นเดียวกับที่ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายจักรวุฒิ ไตรวัลลภ หรือ "ตี๋ไก่" แกนนำคนเสื้อแดงโคราช นำแนวร่วมจำนวนกว่า 200 คน มาแสดงพลังสนับสนุนร่วมผลักดันร่าง พ.ร.ฎ.ขอพระราชทานอภัยโทษ

    นายขวัญชัย สาราคำ หรือขวัญชัย ไพรพนา ประธานกลุ่มแดงรักเจ้า กล่าวถึงกรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) หยุดชุมนุมคัดค้าน พ.ร.ฎ.ว่า คนเสื้อแดงจะยังคงเดินหน้าชุมนุมใน 20 จังหวัดภาคอีสานต่อไปเหมือนเดิมตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากยังคงมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว ซึ่งคนเหล่านี้รับแผนมาเพื่อทำลายรัฐบาลโดยเฉพาะ ดังนั้น ถ้าจะให้เรายุติการชุมนุมก็ต้องให้คนเหล่านี้หยุดการเคลื่อนไหวเสียก่อน แต่ถ้ากลุ่มคนเหล่านี้ไปขับไล่อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่ไปยุ่งเลย
    "เชื่อว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงจะไม่ทำให้เกิดความรุนแรงแตกแยกเพิ่มมากขึ้น แต่เป็นเพียงการตั้งเวทีปราศรัยเท่านั้น ไม่มีการเคลื่อนขบวนไปไหน ปราศรัยเสร็จเราก็กลับ จึงไม่น่าที่จะทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น” นายขวัญชัยกล่าว

    วันเดียวกันนี้ ที่ประชุมวุฒิสภามีการหารือก่อนเข้าสู่วาระการประชุม โดย รศ.พรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ ส.ว.สรรหา ได้ขอหารือโดยฝากไปยังนายกรัฐมนตรี เนื่องจากได้ทราบว่าตามที่ พล.ต.อ.ประชายืนยันว่า จะคงไว้ซึ่งฐานความผิดที่ไม่ควรได้รับการพระราชทานอภัยโทษ คือความผิดคดียาเสพติดและความผิดฐานทุจริต ถ้าลบล้างออกไปก็เท่ากับว่ารัฐบาลหลอกลวงประชาชนมาตั้งแต่ต้น เพราะเคยระบุไว้ในการแถลงนโยบายว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการของรัฐบาลนี้
    "ถ้ามีการถวายพระราชกฤษฎีกาที่ด่างพร้อยเช่นนี้ ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระ ปรมาภิไธย โดยมีนักโทษจำนวน 26,000 คนเป็นตัวประกัน เท่ากับว่าเป็นการกดดันพระองค์ท่านอย่างชัดเจน และคนไทยที่จงรักภักดียังมีมากกว่า 50 ล้านคนคงจะไม่ยอม ทางที่ดีที่สุดขอให้นายกรัฐมนตรีแถลงย้ำให้ประชาชนมั่นใจและสบายใจมากกว่านี้” รศ.พรพันธุ์กล่าว


    ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา หารือว่าตนทราบว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้เขียนจดหมายถึงคนไทย แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าจะไม่ขอรับสิทธิ์พระราชทานอภัยโทษ เพื่อลดปัญหาที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งได้ ดังนั้น ตนขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ออกมาแถลงถึงความชัดเจนต่อเรื่องดังกล่าว เพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจไม่ขัดแย้งกัน
     ที่ทำเนียบองคมนตรี นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน พร้อมแนวร่วม เดินทางเข้ายื่นหนังสือคัดค้านการตรา พ.ร.ฎ.ต่อคณะองคมนตรี เนื่องจากเห็นว่าร่างกฎหมายที่เอื้อประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะนั้นผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง การนำร่างกฎหมายที่ผิดหลักกฎหมายเช่นนี้ขึ้นกราบบังคมทูลถวาย เพื่อขอให้ทรงลงพระปรมาภิไธยนั้น ย่อมเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
    เขาบอกว่าแม้ พล.ต.อ.ประชาจะระบุว่า ร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2554 จะเหมือนกับพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2553 ในสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม แต่ก็ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ว่านายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะเห็นด้วย และปฏิบัติตามคำแถลงของ พล.ต.อ.ประชา และหากไม่มีการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษจริง ก็อาจมีการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมหรือพระราชบัญญัติล้างมลทินในภายหลังด้วย” นพ.ตุลย์กล่าว 
 
   
    ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวว่า จากข้อมูลที่เราสืบทราบมา ในร่างพระราชกฤษฎีกาที่เขาจะส่งไปให้สำนักงานกฤษฎีกาพิจารณานั้น เขามีข้อความที่ระบุชัดว่า แม้กระทั่งคนที่ไม่ได้ติดคุกอยู่ก็สามารถจะได้รับการพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งตรงนี้เรายอมไม่ได้เพราะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ แต่ทีนี้พอเราแถลงข่าววันเสาร์ วันอาทิตย์เขาถอย พี่น้องเราทั่วประเทศไทยกำลังขึ้นมา เราก็เลยต้องแจ้งให้เขาหยุด แต่ก็มีหลายฝ่ายซึ่งเขายินดีที่จะมาก็เลยมากัน ทั้งหมดนี้ขอยืนยันในเจตนารมณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าเราเป็นคนที่มีเหตุผล
           "หากเขาไม่ถอย เราเชื่อมั่นว่าเราคงจะชุมนุมยาวนาน แล้วก็จะมีคนเข้ามาร่วมเป็นหมื่นเป็นแสนอย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่าสิ่งที่รัฐบาลได้ทำในเรื่องของพระราชกฤษฎีกาที่จะยกโทษให้โดยที่ไม่ต้องมารับโทษ เป็นเรื่องที่คนทุกภาคส่วนของสังคมไม่ยอมรับ” นายสนธิกล่าว.

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
  หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25 26 ... 33  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><