23 พฤศจิกายน 2567, 07:20:36
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 33  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน  (อ่าน 329083 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Aj.O
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,241

« ตอบ #275 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2553, 21:46:09 »

http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=2&t=23615
ไอ่ใจหมา เอ๋งพาขย้อน ยังไม่เลิกซ่าส์ครับท่าน... สะใจจัง
เสียชื่อ อดีตปรมาจารย์ป๋วย จริงๆ...
      บันทึกการเข้า

...
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #276 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2553, 01:44:55 »

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=ELNZFcYbYsM" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=ELNZFcYbYsM</a>

ไอ้เต้น ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ประกาศให้เผา ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

      บันทึกการเข้า

Aj.O
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,241

« ตอบ #277 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2553, 17:58:36 »

พวกแดงกาฬสินธุ์ ที่อยากจะถอนสัญชาติไทยน่ะ...ผมอยากรู้ว่า?
ถ้ามันถอนได้จริงๆ > ผมมีสิทธิ์กระทืบมันตาย โดยไม่ผิดกฏหมาย มั้ยครับ!
ในเมื่อไม่มีบัตร ไม่มีสัญชาติ ก็ไม่ควรจะมีสิทธิ์ในฐานะ ประชาชน คนหนึ่ง
แต่เป็นได้แค่ หมาขี้เรื้อน ตัวหนึ่งเท่านั้น...

      บันทึกการเข้า

...
Aj.O
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,241

« ตอบ #278 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 17:16:12 »

แล้วพวกสื่อส่วนใหญ่ทางทีวี ที่ชอบโปรโมตแนวคิด คนไทยรักกัน? สามัคคีกัน?
ไม่ใช้ความรุนแรง!
ผมสงสัยว่าทำไมผมต้องยอมรับเรื่องชาตินิยมพรรค์นี้ด้วยวะ?

มันไม่ใช่สัจจะนิรันดร์สักหน่อย กะไอ้แค่มนุษย์ที่บังเอิญมาอาศัยในเขตแดนเดียวกัน ที่มนุษย์สมมติขึ้นมา
วันไหนมันจะทำร้ายเรา มารุกรานพื้นที่ส่วนตัวของเรา
เมื่อนั้นมันก็มีฐานะเป็นศัตรูของเราเท่านั้นเอง จะให้ท่องคาถาบ้าบอทำซากอะไร? งี่เง่าฉิบ!

เพราะคนกลุ่มอื่นๆเอาแต่กลัว หรือไม่ก็หน่อมแน้ม เอาแต่ท่องคาถารู้รักสามัคคี หรือเปล่า?
เลยทำให้รู้สึกวาไม่มีความชอบธรรมที่จะตอบโต้
เลยกลายเป็นว่า คนถ่อยก็สามารถแสดงความถ่อยได้ตามใจชอบ
เพราะคำว่า สามัคคี ไม่เคยอยู่ในหัวมันแต่แรกแล้ว...

ถ้าชุมชนต่างๆ สัก 50% กล้าออกมาลุยกับพวกมัน แบบ รามคำแหง ล่ะก็...ผมว่าขบวนการของพวกมันจะอยู่ไม่ได้
เพราะพวกนี้เอง ไม่ได้เป็นคนส่วนใหญ่ อย่างที่เข้าใจ...ไม่น่าจะถึง 1 ใน 10 ของคนทั้งประเทศด้วยซ้ำไป!
เพียงแต่เสียงส่วนใหญ่ เลือกที่จะเงียบ หรือไม่ก็ล่าถอย

ไอ้ปริญญา น่ะ...ตัวงี่เง่าเลย ไม่รู้อะไรแล้วเสือกมาพ่น ทำเป็นสะอื้นว่าทำไมคนไทยต้องทำร้ายกัน
ผมฟังแล้ว โคตรเกลียดขี้หน้าสุดๆ ไม่ต่างกับฟังพวกแกนนำเสื้อแดงเลยว่ะ
      บันทึกการเข้า

...
Kittiwit Pk
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 281

« ตอบ #279 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2553, 19:04:14 »

ขออนุญาตโพสต์หน่อยครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=B6QpK-8sjmY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=B6QpK-8sjmY</a>
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #280 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2553, 20:23:00 »

เพิ่งกลับมา ไปต่างประเทศหลายสิบวัน
เศร้าใจมากเลย
พวกเลวๆมันทำได้อย่างไรนะ ชั่วร้ายมากเลย
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #281 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2553, 14:01:54 »

ใครว่า "ประชาธิปไตย" กินไม่ได้?
ใครว่า "ประชาธิปไตย" ไม่มีตัวตน?
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คนเสื้อแดง พิสูจน์มาให้เห็นแล้ว














      บันทึกการเข้า

Aj.O
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,241

« ตอบ #282 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2553, 20:21:44 »

บทความหนึ่งจาก เวบบอร์ดเสรีไทย
http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=2&t=15105

อ้างจาก: อิทรายุธ
วิเคราะห์ คนเสื้อแดง(3)กลุ่มพลังที่เป็นแค่ถั่วงอกทางการเมือง
Postby อิทรายุธ » Wed Nov 18, 2009 2:54 pm

มวลชนพื้นฐานของเสื้อแดงเป็นกลุ่มพลังแบบใดในทางการเมือง?
มวลชนพื้น ฐานเหล่านี้เดิมทีคือผู้หลับไหลทางการเมือง ไม่เคยตระหนักถึงการมีส่วนร่วมทางการเมืองมากไปกว่าการเลือกตั้งสองนาที เสร็จ ตลอดระยะเวลายาวนานของการพัฒนาประเทศ ตามแบบแผนการพัฒนายุคใหม่ คนเหล่านี้ถูกกีดกันออกจากการพัฒนา ถูกเอาเปรียบ ถูกสูบดึงทรัพยากร แต่ไม่ค่อยได้รับผลการพัฒนาอย่างยุติธรรม

เราอาจกล่าวได้ว่าเขาคือ เบี้ยล่างของกระบวนการพัฒนาตลอดมา

มาบัดนี้เขาเกิดตื่นตัวทางการ เมืองขึ้นมาแล้ว จากประชาชนที่หลับไหล ขาดการมีส่วนร่วม(passive) มาเป็นประชาชนที่ตื่นและอยากมีส่วนร่วม(active) จำนวนของประชาชนกลุ่มนี้มีหลายล้าน มองในแง่หนึ่งสำหระบประเทศ การที่มีประชนจำนวนมากขนาดนี้ตื่นตัวมาขอมส่วนร่วมทางการเมือง ย่อมเป็นสิ่งที่ดี แต่......

แต่....เขาหลับไหลมานาน ขาดการสั่งสมข้อมูลความรู้ จึงมีอาการของคนเพิ่งตื่น ที่งัวเงียและขี้โมโห และที่เขาตื่นนั้นจริงๆแล้วก็เป็นเพราะถูกสถานการณ์ถีบให้ตื่นมากกว่าจะตื่น เอง

การรับรู้แรกๆของเขาหลังจากเพิ่งตื่น คือเขาพบว่าตลอดเวลาของการพัฒนาชาติ เขาถูกเอาเปรียบ เขาไม่ได้รับผล เขาตกเป็นเบี้ยล่าง นี่ยิ่งกระตุ้นอารมณ์โกรธแค้น เกลียดชัง จนไม่อาจคุมสติอยู่ได้ เมื่อสติไม่มา ปัญญาจึงหายหมด

เปรียบเทียบไป แล้ว พวกเขาเหมือนคนที่ถูกหลอกให้อดหิวมานาน ถูกทำให้เข้าใจว่าเขาไม่มีสิทธิในอาหารหม้อใหญ่ของชาติ ทั้งๆที่วัตถุดิบในการปรุงนั้นบางทีก็ไปเอามาจากบ้านของเขาเอง มาบัดนี้เขาเกิดรู้ขึ้นมาแล้วว่าเขามีส่วนเป็นเจ้าของหม้อข้าวด้วยคนหนึ่ง จึงกระโจนเข้าใส่อาหาร ด้วยอาการของคนโมโหหิว มิใยที่พันธมิตรเสื้อเหลืองจะเตือนด้วยความหวังดีว่าอาหารนั้นเจือปนยาพิษ เขากลับโกรธด้วยอารมณ์แบบก่องข้าวน้อยจะฆ่าเพื่อน หาว่าพันธมิตรจะมาขวางให้เขาหมดสิทธิ

ขณะเดียวกัน พลันที่เขาตื่นตัวขึ้นมา ขอมีส่วนร่วม ก็มีพวกชั่วร้ายที่คอยยุแยง ปลุกปั่นให้เขาก่อคงามรุนแรง ด้วยคนชั่วพวกนั้นรู้ดีว่า ไม่ยากอะไรเลยกับการปั่นให้คนโมโหหิวเกิดการคลั่ง และพวกชั่วเล็งเห็นผลแล้วว่าจะใช้ประโยชน์จากพวกเพิ่งตื่นนี้อย่างไร เพราะพวกนี้นั่นเองที่กอบโกยเอาอาหารของชาติไปมากที่สุด และคิดจะปันแค่เศษอาหารเล็กๆน้อยๆให้พวกเพิ่งตื่นเท่านั้น

ฝ่าย พันธมิตรนั้นเล่ารู้ดีและรู้ทันพวกชั่ว จึงพยายามเตือนพวกเพิ่งตื่น กลับได้รับความเกลียดชังเป็นการตอบแทน พันธมิตรพยายามเสนอหนทางที่ได้ผลและยั่งยืนสำหรับการมีส่วนร่วมทางการเมือง ในชาติ แต่ก็ถูกพวกชั่วปลุกปั่นพวกเพิ่งตื่นว่าพันธมิตรจะขวางให้พวกเพิ่งตืนอดหิว ต่อไป

ดังนั้นในฐานะกลุ่มพลังทางการเมือง แท้จริงแล้วหากไม่ถูกปลุกปั่นโดยพวกชั่ว ที่ผลิตสารพัดความเท็จมาเห่กล่อม การตื่นขึ้นของคนเสื้อแดงก็จะเป็นต้นทุนที่ดีของชาติได้ในระยะยาว เพราะประชาชนที่ตื่นตัวย่อมดีกว่าประชาชนที่หลับไหล แต่เมื่อถูกวิชามารของพวกชั่วเข้าครอบงำ พวกเขาจึงกลายเป็นซอมบี้ที่คลุ้มคลั่งแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ตลอดเวลา

กลุ่ม พลังอันเป็นถั่วงอกทางการเมือง ที่น่าจะเติบโตขึ้นเป็นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแก่ประเทศได้ จึงกลายเป็นกลุ่มพลังที่ทำลายชาติ แทนที่จะสร้างชาติ อย่างน่าเสียดาย
      บันทึกการเข้า

...
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #283 เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2553, 21:47:38 »

มีบทความที่ดี ที่วิเคราะห์การต่อสู้ของคนเสื้อแดงได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อยากให้ได้อ่านกัน
เขียนโดยนักวิชาการที่ถือว่า เป็นฝ่ายสนับสนุนเสื้อแดง และเป็็นคนเดือนตุลาคนหนึ่ง
ที่มีความคิดความอ่านที่มีเหตูมีผล


วันที่ 01 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 18:00:00 น.   มติชนออนไลน์

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล: วิพากษ์ "คลื่น" การเคลื่อนไหว 3 "ระลอก" ของ "เสื้อแดง"

หมายเหตุ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เขียนวิเคราะห์และวิพากษ์ขบวนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงลงใน เว็บบอร์ดแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา มติชนออนไลน์เห็นว่าบทความดังกล่าวมีเนื้อหาน่าสนใจ จึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่ออีกครั้ง ณ ที่นี้


"คลื่น" การเคลื่อนไหว 3 "ระลอก" ของ "เสื้อแดง" ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการอภิปรายถกเถียง ในแง่ทิศทาง จังหวะก้าว ความผิดพลาด ฯลฯ พิสูจน์ให้เห็นอย่างแน่นอนว่า นี่ไม่ใช่การมี "สุขภาพดี" ของขบวนการทางการเมือง และขบวนการนี้ ขึ้นต่อการตัดสินใจ และกำหนดของกลุ่มคนเล็กน้อยเพียงหยิบมือเดียว


[1] ระลอกที่ 1


22 กรกฎาคม 2550 นี่คือช่วง "ก่อนประวัติ ศาสตร์" (pre-history) ของขบวนการเสื้อแดง การก่อรูปขึ้นจากการยุบพรรคไทยรักไทย การเข้าแทนที่ (take-over) การเคลื่อนไหวต้านรัฐประหารของกลุ่มย่อยอื่นๆที่ดำเนินไปก่อนหน้านั้น (โดยเฉพาะของ "คนวันเสาร์", รองลงมาคือ "เครือข่าย 19 กันยา" และ "พลเมืองภิวัฒน์" ก่อนหน้านั้น "พีทีวี" จัดชุมนุม 2-3 ครั้ง แต่ประเด็นไม่แหลมคมอะไร เช่น ไม่ยอมชูประเด็น เปรม เลย เป็นต้น) แต่แล้ว ไม่ถึง 2 เดือนดี (ต้นมิถุนายน ถึง 22 กรกฎาคม) ก็ "ลงเอย" ด้วยการไปปะทะหน้าบ้านเปรม (ซึ่งความจริง หลีกเลี่ยงได้) และที่ irony (ตลกร้าย) คือ ขณะที่กลุ่มย่อยก่อนหน้านี้ เคลื่อนไหวมา ครึ่งปีกว่า ไม่เคยถึงขั้นปะทะ กลุ่ม พีทีวี เคลื่อนไหวเพียงเดือนเศษ ก็ลงเอยที่ปะทะ


ผลคือ เกิดการชะงักชั่วคราว และ "ถอย" ลงชั่วคราวระดับหนึ่ง แกนนำถูกจับครั้งแรก และการชุมนุมยุติไป พอดีมีการเคลื่อนไหวเรื่องรับรองรัฐธรรมนูญ ก็เลยกลายเป็นการรณรงค์ในเรื่องนั้นแทน


การลงมติรัฐธรรมนูญแพ้ แต่พอดีเลือกตั้งชนะ ขบวนการเคลื่อนไหวมวลชนจึงหายไป (มีออกมาในรูปรายการทีวี "ความจริงวันนี้" แทนบางส่วน)


[2] ระลอกที่ 2


เมษายน 2552 การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ครั้งแรกของ "เสื้อแดง" โดยตรง (เกิด ตุลาคม 2551 ในท่ามกลางกระแสชุมนุมพันธมิตร และกรณี "น้องโบว์") ชุมนุมใหญ่สิ้นปี 2551 และเริ่มรณรงค์ มีนาคม 2552 ตามจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ทักษิณ ประกาศเปิดโปง เปรม (และ ปีย์ ฯลฯ) โดยตรง เป็นครั้งแรก "เสียงตบมือกึกก้อง" ให้กับการปราศรัยของจักรภพ, ก่อแก้ว


แต่ลงเอย ที่ สงกรานต์ 2552 ที่แกนนำถูกจับอีก และการชุมนุมถูกสลายไป พร้อมการตกเป็นฝ่ายรับทางการเมืองจากกรณีพัทยา มหาดไทย ยึดรถเมล์ รถน้ำมัน ในกรุงเทพ ฯลฯ


เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2552 มีการปรากฏตัวรณรงค์ใหม่อีก แต่คราวนี้ กลายเป็นเรื่อง "ล่าลายชื่อถวายฎีกา" ซึ่งเปรียบเทียบกับสิ่งที่ทำในช่วง ตุลาคม, ธันวาคม และ มีนาคม-เมษายน แล้ว ถือเป็นการ "ก้าวถอยหลัง" อย่างเห็นได้ชัด


[3] ระลอกที่ 3


มีนาคม - พฤษภาคม 2553


คราวนี้ ลงเอย ด้วยการถูกปราบหนักหน่วง และเสียหายทางการเมือง หนักหน่วง ยิ่งกว่า ระลอกที่ 2 หลายเท่า (ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคนตาย ที่ผมยืนยันว่า คือการพ่ายแพ้ที่สำคัญที่สุด) เครือข่าย กลไกต่างๆ ที่สะสมขึ้นมาในระยะ 2 ปีเศษ ถูกทำลายเกือบหมด (ทีวี, วิทยุชุมชน, นิตยสาร ฯลฯ) ขณะนี้ ยังบอกได้ยากว่า จะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้หรือไม่


การเคลื่อนไหวที่แต่ละระลอก ลงเอยด้วยการแพ้ ด้วยการตกเป็นฝ่ายรับ และด้วยความเสียหาย (ที่มากขึ้นกว่าครั้งก่อน) เช่นนี้ ถ้าเป็นขบวนการทางการเมือง ที่เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ในประเทศอื่น (หรือในประเทศในอดีต) คงตามมาด้วยการอภิปราย ถกเถียง อย่างกว้างขวาง ถึงประเด็นทิศทาง จังหวะก้าว ความผิดพลาด ฯลฯ แล้ว


แต่ปรากฏว่า ไม่มีเลย


บรรดากองเชียร์เสื้อแดง มักจะภูมิใจว่า ขบวนการของตนเป็นขบวนการ"ประชาธิปไตย" เรียกว่าเป็นขบวนการเปลี่ยนแปลงสังคมและการเมืองในลักษณะ "โครงสร้าง" หรือในลักษณะ "ระบอบ" เลยทีเดียว (โค่น "ระบอบอำมาตย์" เป็นต้น)


แต่มีขบวนการเปลี่ยนแปลงสังคมลักษณะนี้ ในประเทศไหนหรือ ที่ช่าง อับจน ยากไร้ ในแง่ของการถกเถียงกันภายใน (internal debate) เกี่ยวกับเรื่องทิศทาง จังหวะก้าว ยุทธวิธี ความผิดพลาด ฯลฯ อย่างขบวนการเสื้อแดง ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา? ทั้งๆที่เห็นได้ชัดว่า การเคลื่อนไหวแต่ละระลอก ล้วนลงเอยที่การล้ม หรือ ถอยหลัง ในเวลาสั้นๆ หลังการเคลื่อนไหวเสมอ


เอาตัวอย่างง่ายๆ อย่างกรณี ยื่นฎีกา เห็นได้ชัดว่า เป็นอะไรบางอย่างที่ "เป็นปัญหา" แน่ (problematic) แต่มีการอภิปราย ถกเถียงหรือ? โดยเฉพาะในแง่ของภาพรวม ต่อการต้องการเปลี่ยนแปลงเป็นระบอบประชาธิปไตย


เอาเข้าจริงแล้ว การกำหนดกรณีอย่าง ถวายฎีกา หรือแม้แต่ กรณีเรื่อง "ยุบสภา" ครั้งล่าสุด (ไม่ต้องพูดถึงในเชิงยุทธวิธี ที่มุ่ง "ชน" การยึดราชประสงค์ การไม่ยอมลง ไม่ยอมเจรจา เป็นต้น) เป็นผลมาจากการระดม กลั่นกรอง ขึ้นมาจาก การถกเถียงภายในของขบวนการ ของมวลชน และคนสนับสนุนทั้งหลาย ฯลฯ หรือมาจากการกำหนด ของคนไม่กี่คน พูดง่ายๆคือ ของคนไม่กี่คนบรรดาที่ใกล้ชิดกับทักษิณ?


บรรดากองเชียร์เสื้อแดง มักจะไม่พอใจ เมื่อถูกพวกผู้จัดการ พวก "อำมาตย์" โจมตีว่า เป็น "ขบวนการเพื่อทักษิณ" โดยพยายามโต้แย้งว่า มวลชน หรือ เสื้อแดง ได้ "ก้าวข้าม" "ก้าวพ้น" ทักษิณ ไปแล้ว (แม้แต่ทักษิณเอง ก็ออกมาพูดเช่นนี้) หลังๆ บรรดานักวิชาการที่หันมาเชียร์เสื้อแดงกันมากขึ้นก็พยายามอธิบายทำนองเดียว กัน ด้วยการยกเรื่อง "ความเปลี่ยนแปลงในชนบทไทย" ฯลฯ มาสนับสนุน


แต่ถามจริงๆว่า มีขบวนการเพื่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมือง- สังคม ที่ไหน ที่มีลักษณะอับจน ในแง่ของชีวิตทางภูมิปัญญาภายใน (internal intellectual life) ในแง่ของการขาดแคลนการดีเบต (อภิปราย) ในเรื่องทิศทาง จังหวะก้าว ความผิดพลาด อย่างเด่นชัดมากๆ อย่างที่เสื้อแดงเป็นอยู่ในระยะ 2-3 ปีมานี้? มีขบวนการเพื่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมือง- สังคม ที่อ้างเป้าหมายใหญ่โต (โค่น "ระบอบอำมาตย์") ขนาดนี้ แต่ยังขึ้นต่อ การตัดสินใจ ในแง่ทิศทาง ประเด็น จังหวะก้าว ของคนเพียงไม่กี่คน หรือกระทั่ง ผูกติดอยู่กับ คนๆเดียว (ทักษิณ) ในระดับที่มากขนาดนี้?


ทั้งหมดนี้ ไม่ได้แสดงให้เห็นลักษณะ "การมีสุขภาพดี" (healthy) ของขบวนการ แต่อย่างใด


การพ่ายแพ้ครั้งหลังสุดนี้ เป็นการพ่ายแพ้ที่รุนแรง และเสียหายอย่างมาก (เฉพาะเรื่องชีวิตคนเรื่องเดียวก็ประเมินค่าไม่ได้) โดยไม่เพียงแต่ไม่ได้อะไรเพิ่มขึ้น (วันยุบสภาตามที่เรียกร้อง) แต่ยังเสียหายในแง่กลไกต่างๆ ดังที่กล่าวข้างต้น อีกมหาศาล (ทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์)


ถ้าพ่ายแพ้ และเสียหายถึงขั้นนี้ แล้วยังไม่สามารถ "ก่อให้เกิด" (generate) การอภิปราย แสวงหา สรุป ในแง่ความผิดพลาด ในแง่แนวทาง ทิศทาง ไปถึงในแง่บุคคลากรอีก (คือยังคง อับจนในเรื่องเหล่านี้อีก เช่นที่ผ่านๆมา)


ปล. สำหรับ ผู้ที่คิดจะโต้แย้ง ในส่วนที่ผมเขียนถึงขบวนการเปลี่ยนแปลงสังคมที่ "สุขภาพดี" ในประเทศอื่นๆ ที่ไม่ขึ้นต่อผู้นำคนเดียว แบบกรณี เสื้อแดง กับทักษิณ ว่า แล้วในกรณีรัสเซีย หรือ จีน ล่ะ?


ขอตอบว่า


ทั้งความสำเร็จของการปฏิวัติรัสเซีย และการปฏิวัติจีน หาได้ ขึ้นต่อ หรือผูกติดกับ เลนิน หรือ เหมา ในลักษณะที่ถูกโฆษณาภายหลังปฏิวัติแล้ว แต่อย่างใด


และที่สำคัญ ขอให้ดูว่า เวลาพูดถึง การนำของเลนิน หรือ ของเหมา หมายถึงอะไร?


ในขบวนปฏิวัติของประเทศเหล่านั้น ก่อนการปฏิวัติสำเร็จ ที่สำคัญคือ งานเขียนเป็นร้อยๆชิ้นของคนเหล่านี้ คือ การนำในเชิงความคิด ในเชิงไอเดียต่างๆ


ทักษิณ นี่มีงานเขียนอะไร หรือ แม้แต่ สปีช (คำกล่าวสุนทรพจน์) ก็ได้ ที่เรียกได้ว่า มีลักษณะมีเนื้อหาในเชิงนำทางด้านความคิด จริงๆ? มีงานเขียน หรือ สปีช ใด ที่อธิบาย อภิปราย ในแง่จุดมุ่งหมาย วิธีการ ยุทธวิธีการต่อสู้ สรุปข้อผิดพลาด ฯลฯ อย่างที่เห็นเต็มไปหมดในงานเขียนของเลนิน หรือของ เหมา?


คือ ยิ่งเปรียบเทียบ ก็น่าจะยิ่งเห็นปัญหา "ความอับจนทางภูมิปัญญา" ที่กล่าวถึงในกระทู้
[/color]ได้
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #284 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2553, 12:10:24 »

ข้อความข้างล่างนี้ไม่มีลิ้งค์ ถ้าเวบมาสเตอร์เห็นว่าไม่สมควรก็ลบไปได้เลย
แต่ที่นำเสนอหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนตาดำๆที่ไม่รู้อิโหนอิเหน่กับเขา จะซวยเปล่าๆ


เพื่อนๆ   ได้รับเมลส่งต่อมา ให้ระวังนะ

อยู่บ้านปลอดภัยสุด  บอกลูกบอกหลาน ด้วยล่ะ

 
คำเตือนนี้ดูไม่น่าจะเป็นจริงได้เลย  แต่ระวังไว้ก็ดี  บ้านเมืองเราเดี๋ยวนี้ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นจ้ะ

 จริงเท็จไม่รู้ ระวังหน่อยก็ดี     โปรดใช้ วิจารณญาณ ในการตามข่าว
แต่กันไว้ดีกว่าแก้

ช่วงนี้อย่ากลับดึก งดการพบปะเพื่อนฝูง อยู่กะครอบครัวซะนะ
และอย่าลืม แจ้ง พ่อแม่ของแต่ละท่าน ด้วยล่ะ
สูงวัยกันแล้ว เดี๋ยววิ่งหลบระเบิด กันไม่ทัน
 
เตือนด่วน!!!  ได้รับการ confirm แล้ว  นักรบชุดดำชุด 2 ออกมาแล้ว
หลัง 18.00 น. จะมีงานใหญ่ . . . ระเบิดจุดสำคัญ  เผาเมือง  ดับไฟ  และยิงฆ่าประชาชนทั่วไป
ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับสถานการ์ณทางการเมืองแล้ว  ได้รับคำสั่งมาให้ยิงทิ้งทุกคนที่เดินถนน
หลัง 18.00 น. อย่าออกจากบ้านนะ . . ช่วยเตือนต่อด่วน!!!


ยืนยันแล้ว  กองกำลังผสมว้าแดง + ไทยใหญ่ กระเหรี่ยง เขมร 2,000 นาย  กำลังเข้า กทม.
ชื่อ หน่วยรบ "โรนิน"  ที่เสธ. แดง เคยไปฝึกไว้  กำลังเดินทางเข้า กทม.
ช่วยกันแจ้งด้วยครับ  "จริงเท็จประการใด ช่วยออกมาบอก มาเตือนด้วยนะครับ"

ผู้ชุมนุมโกรธแค้นแกนนำ  เผาบ้าน  เผาเมือง  เพราะอยู่ดีๆ ก็ไปมอบตัว  เงินก็ไม่ยอมจ่าย
อุตส่าห์มานั่งตากแดดตากฝนอยู่ 2 เดือน

 
 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #285 เมื่อ: 03 กรกฎาคม 2553, 21:38:01 »

'ประสงค์'ปูด'ทักษิณ-ฮุนเซน'รวมหัวป่วนไทย
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


  อดีตเลขาธิการสมช. ระบุผู้นำเขมรปลุกกระแส"วันแห่งความโกรธ" 2-3สัปดาห์หน้าชายแดนอาจเกิดเหตุรุนแรงพร้อมๆ เกิดเหตุร้ายในเมืองไทย


นาวาอากาศตรี ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เปิดเผยกับ"สำนักข่าวเนชั่น" ถึงกระแสข่าวลอบสังหารผู้นำรัฐบาล ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง ไม่อาจประมาทได้ ตนตรวจสอบข่าวจากหลายแหล่งยืนยันตรงกันว่าขณะนี้หัวโจกฮาร์ดคอร์ที่มีอาวุธ มีกระสุนปืน ราว 1,500 คน ยังกระจายตัวอยู่ในกทม.ต่างจังหวัด และกัมพูชา พร้อมจะใช้ความรุนแรงได้ทุกเมื่อ ส่วนที่จับได้เป็นแค่ผู้ปฏิบัติหางแถว

สำหรับเป้าหมายมี 2 ส่วน คือ สาธารณูปโภคของประชาชน เพื่อทำลายขวัญประชาชน สร้างบรรยากาศความหวาดกลัวในสังคมเหมือน 3 จังหวัดภาคใต้ และลอบสังหารบุคคลสำคัญในฝ่ายการเมืองหรือผู้นำขององค์กรอิสระที่เขาเชื่อว่าไปทำร้ายคนเสื้อแดง ขบวนการนี้มีการประชุมกันหลายแห่ง รวมทั้งในกัมพูชาที่มีผู้นำเสื้อแดงไม่ว่าจะเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายจักรภพ เพ็ญแข เข้าออก มีสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาให้การสนับสนุนสร้างบ้านพักรับรองให้อยู่อย่างสะดวกสบาย

"ตั้งแต่ผมรับผิดชอบงานความมั่นคงของบ้านเมืองมา ยังไม่เคยเห็นยุคไหนการข่าวแย่ขนาดนี้ สถานการณ์ตอนนี้รัฐบาลต้องเน้นยุทธศาสตร์ความมั่นคงในการดูแลความปลอดภัยของประชาชน ไม่ใช่แค่รับโทรศัพท์สนุกสนานไปวันๆ เหมือนเด็กเล่นขายของ ฝ่ายความมั่นคงต้องจับตางานวันแห่งความโกรธแค้นที่ทางกัมพูชาปลุกกระแสชาตินิยมขึ้นในหมู่คนเขมร อาจก่อความรุนแรงขึ้นบริเวณชายแดนใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า โดยมีการนัดหมายก่อการพร้อมกับประเทศไทย เพื่อให้กำลังตำรวจทหารเกิดความสับสนไม่สามารถป้องกันภัยได้ มีอดีตทหารชั้นผู้ใหญ่ร่วมมือกับตำรวจบางเป็นผู้วางแผน และยังใช้งานคนเสื้อดำที่เคยก่อการในช่วงม็อบ ขอเตือนว่ากรณีระเบิดรถเข็นเงาะที่พรรคภูมิใจไทยเป็นแค่ก่อกวนเล็กน้อย แต่ของจริงกำลังเกิดขึ้น" อดีตนักการข่าวกล่าว
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #286 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2553, 09:38:00 »

ชีวิตแก้วมีแต่ตู่นำ..แก้วเดินก้าวตาม ๆ ตู่เดิน 
 

โดย บัณรส บัวคลี่ 28 มิถุนายน 2553 13:36 น.  Manager online
 
 
 
 เพื่อน ๆ เรียก “ก่อแก้ว พิกุลทอง” ว่า “แก้ว” ตั้งแต่เรียนหนังสือที่พังงา-ภูเก็ต
       
       ประวัติชีวิตของก่อแก้วน่าทึ่งมาก เป็นเด็กเรียนดีระดับที่สอบคณิตศาสตร์ได้อันดับหนึ่งของภาคใต้เมื่อปี 2526
       
       และนำมาสู่การได้รับรางวัลพระราชทานประจำปีการศึกษา 2526 ซึ่งในปีนั้นนักเรียนทั้งจังหวัดภูเก็ตได้รับ 4 คน เป็นของเทศบาลปลูกปัญญา 1 (ประถม) สตรีภูเก็ต 2 และที่เหลือ 1 เป็นของนายก่อแก้ว พิกุลทองจากภูเก็ตวิทยาลัยซึ่งนำมาปลาบปลื้มมาสู่พี่น้องในตระกูลพิกุลทองอย่างสูง
       
       ตระกูลพิกุลทองเป็นตระกูลใหญ่ พื้นเพหลักอยู่ที่ ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง พังงา ปัจจุบันมีผู้ใช้นามสกุลนี้หลักร้อย ต.กะไหล มีชื่อเสียงในการผลิตพุงปลา และพุงปลาแห้ง (ไตปลาในภาษากลาง) ปรากฏคนในตระกูลนี้หลายคนที่ยึดอาชีพนี้ที่ ต.กะไหลในปัจจุบัน
       
       ก็เป็นแบบเดียวกับตระกูล ‘ดามาพงษ์’ ตระกูลใหญ่แห่งบ้านหนองโดน อ.จัตุรัส ชัยภูมิที่เคยมีการสำรวจสำมะโนผู้ใช้ตระกูลนี้ในเขตอำเภอร่วมครึ่งร้อย หรือตระกูล ‘เอ่งฉ้วน’ แห่งกระบี่ที่มีผู้ใช้นามสกุลนี้จำนวนมากเป็นร้อย ดังนั้นผู้ที่ใช้นามสกุลพิกุลทองในพังงา-ภูเก็ตปัจจุบันอาจจะไม่เกี่ยวข้องในทางการเมืองกับก่อแก้วเลยก็มี
       
       อ.ตะกั่วทุ่งอยู่ติดภูเก็ตที่เจริญกว่ากันมาก แต่ในยุค 2524-26 การเดินทางไม่สะดวกเหมือนปัจจุบัน เดินทางด้วยรถสองแถวไม้แบบพื้นถิ่น(เหมือนในหนังเรื่องสะพานรักสารสิน) ก็ใช้เวลาค่อนวัน ก่อแก้วจากบ้านมาเรียนที่ตัวจังหวัดภูเก็ตอย่างตั้งใจ แบบเจียมเนื้อเจียมถ่อมและด้วยความเก่งด้านคณิตศาสตร์จึงกลายเป็นความภาคภูมิใจของโรงเรียนในยุคนั้น
       
       ก่อแก้ว เรียนต่อด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่ลาดกระบังจบด้วยคะแนนเกียรตินิยม และก็ต่อ MBA ที่ม.กรุงเทพต่อจากนั้นทำงานที่บริษัทน้ำมันคาลเท็กซ์อยู่ 6 ปี เขาใช้ช่วงเวลาดังกล่าวเก็บเกี่ยวความรู้เรื่องวงการน้ำมันจนถึงปี 2536 จึงลาออกมาทำธุรกิจของตัวเองประเภทงานก่อสร้าง ทำแท็งค์ เคเบิ้ล ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมน้ำมัน
       
        ระหว่างการออกมาเป็นนักธุรกิจเจ้าของกิจการระหว่าง 2536-2545 นี่เองที่เขาต้องไปเจอกับบุคคลจากหลากหลายวงการ การเป็นเจ้าของกิจการรับจ้างของไทยย่อมหนีไม่พ้นวังวนเครือข่ายข้าราชการ-รัฐวิสาหกิจ-ผู้มีอำนาจทางการเมือง ก่อแก้วได้รู้จักกับ ตู่-จตุพร พรหมพันธุ์ ในช่วงดังกล่าว
       
       ตู่-จตุพร กับ แก้ว-ก่อแก้ว เกิดปีเดียวกัน 2508 จะด้วยชะตากรรมฉันท์ใดก็ไม่ทราบที่เด็กเรียนเก่งระดับที่ 1 ภาคจบการศึกษาอย่างรวดเร็วจากป.ตรีจนจบป.โทภายใน 5 ปี กับนักศึกษาโค่งเรียนยังไงก็ไม่ยอมจบ 12 ปีถึงกลายเป็นคู่ซี้ปึ๊กนัดดื่มกินกันเสมอ
       
       ร้านประจำของก๊วนนี้อยู่แถวคลองประปา-สามเสน !
       
      ตู่-จตุพรทำงานในทีมของอ้วน-ภูมิธรรมในยุคก่อตั้งพรรคและอ้วน-ภูมิธรรมก็ส่งตู่ให้ทำงานในทีมรมต.ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ตู่ได้ดิบได้ดีในพรรคหลังจากนั้นจึงได้แนะนำแก้ว-ก่อแก้วให้ อ้วน-ภูมิธรรมรู้จัก
       
       แก้ว-ก่อแก้ว ร่วมทีมหาเสียงไทยรักไทยส่วนที่ต้องไปจัดการงานล่วงหน้ากับ ตู่-จตุพร ในช่วงปลาย 2547 และเมื่ออ้วน-ภูมิธรรม ได้เป็นรมช.คมนาคมในสมัยทักษิณ 2 ก่อแก้ว จึงได้อวยตำแหน่งเป็นรักษาการ ผ.อ.รสพ.
       
       เส้นทางการเมืองของก่อแก้วจึงไม่อาจปฏิเสธภาพการอยู่ในขบวนของ ตู่-จตุพร และ อ้วน-ภูมิธรรม
       
       ก่อแก้วโตอย่างรวดเร็วหลังรัฐประหาร 19 ก.ย. เพราะผูกอยู่กับการเคลื่อนไหวของสามเกลอ และเขาถูกผลักดันให้ลงส.ส.มาก่อนหน้านี้แล้ว หาใช่เพิ่งครั้งนี้ไม่

       
       หลังจากพรรคพลังประชาชนถูกยุบ เนวินแยกตัวมาตั้งพรรคภูมิใจไทย ก่อแก้วแม้จะมีภารกิจสร้างเครือข่ายแดงในภูเก็ต-พังงา แต่ก็ถูกวางตัวให้ลงส.ส. เขตหลักสี่-บางซื่อ แทนศุภมาศ อิศรภักดีที่ตามเนวินไปอยู่ภูมิใจไทยตั้งแต่ปลายปี 52 เป็นต้นมาก่อแก้วลงพื้นที่หลักสี่ถี่ขึ้น แต่ก็ต้องเปลี่ยนแปลงกะทันหันเพราะ “ตู่” ดันให้ลงสมัครเขต 6 แทนณัฐวุฒิที่ติดปัญหาคุณสมบัติ
       
       ชีวิตของก่อแก้ว นับจากนี้จึงต้องขึ้นเขาลงห้วยไปตามที่ตู่-จตุพรกำหนด ขนาดที่ตู่กำหนดเองแล้วว่าเขาจะเป็นแม่ทัพหาเสียงในพื้นที่ให้กับก่อแก้วแทน
       
       ชีวิตของก่อแก้วที่ผูกอยู่กับขบวนสามเกลอและตู่-จตุพรเปลี่ยนแปลงไปมาก จากเดิมที่เป็นนักเรียนเรียบร้อยสมองไวขยันขันแข็ง ครั้นพอจบออกมาเขามีหัวทางธุรกิจและมุมมองการทำมาหากินที่เพื่อนฝูงยอมรับ แต่เมื่อต้องมาเป็นแกนนำมวลชนตั้งแต่ยุค นปช. 2 ต่อเนื่องมาถึงคนเสื้อแดง เขาเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเองต่อไป
       
       ตอนที่แดงใกล้แตก ก่อแก้วอยู่ในกลุ่มอยากลงอยากจบในระดับเดียวกับ วีระ-จาตุรนต์-วิสา แต่ก็ถูกเหตุการณ์ลากให้ตกกะไดพลอยโจนไปอยู่กับ “ตู่-จตุพร”
       
       ชะตาคนเป็นเฉกนี้เอง “แก้ว-ตู่” เหมือนเป็นคู่บุญคู่กรรมที่ถูกกำหนดไว้ !
       
       จากที่เคยเป็นเด็กเรียบร้อยเรียนดีระดับที่ได้รับรางวัลพระราชทานเป็นเกียรติยศให้กับตระกูล “พิกุลทอง” แต่ชะตาก็ผกผันให้ก่อแก้วถูกออกหมายจับจากตำรวจสภ.อ.แม่ริม เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเจ้าของท้องที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
       
       เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อ 22 มีนาคม 2552 ก่อนหน้าเมษาเลือดแค่เดือนเดียว มีการจัดงานความจริงวันนี้สัญจรครั้งสำคัญของภาคเหนือระดมมากันหลายจังหวัด
       
      วันนั้นเวทีแดงขึ้นป้ายใหญ่ในแคมเปญ “Red in the land” นอกจากทักษิณโฟนอินแล้วยังระดมคนสำคัญเสื้อแดงทั้งสมชาย วงศ์สวัสดิ์ขึ้นเวทีใกล้ ๆทุ่ม และยังมีจักรภพ เพ็ญแข วรพล พรหมิกบุตร เหวง-วิสา ส.ส.เหนือเกือบทั้งหมด ฯลฯ
       
       บรรยากาศฮึกเหิมแบบแดง ๆ จนทำให้ก่อแก้วที่ขึ้นเวทีตอนประมาณใกล้ 5 ทุ่มหลุดพูดถ้อยคำที่หมิ่นเหม่ออกมาในทำนองที่ว่า “ปลดรูปบุคคลสำคัญ” จนกลายเป็นการถูกออกหมายจับดังที่กล่าว

       
       ก่อแก้ววันนี้ถูกการเมืองจูงไปไกลจากชีวิตนักธุรกิจเล็ก ๆ ที่พออยู่พอกินประสบความสำเร็จที่พึงมีเมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกัน กลายเป็นนักการเมืองที่เดินไปตามเส้นทางที่เพื่อนตู่กำหนด คดีความรุงรัง
       
       ก่อแก้วมีลูกน้อยเพิ่งเกิด เขาแต่งงานกับสาวสวยจากย่านเยาวราชแถวโรงแรมใกล้ ๆ สาทรเมื่อสองปีกว่า ๆ เพื่อนคนหนึ่งบอกว่าแก้วแต่งกับลูกสาวร้านทองเยาวราช แต่คนที่รู้ดีบอกว่าธุรกิจของครอบครัวภรรยาขายของเล่นในซอยตั้งโต๊ะกัง
       
       ในรายละเอียดของครอบครัวอย่าไปรู้เลยเพราะเขาไม่เกี่ยว เสียดายอย่างเดียวที่ชีวิตหอมหวานครอบครัวเพิ่งแต่งงานและเพิ่งมีลูกน้อยก็พลอยถูกการเมืองเข้ามารุกราน
       
      การแข่งขัน ส.ส.เขต 6 รอบนี้ไม่ใช่พรรคการเมืองส่งคนเหมาะสมแข่งบนสนามเลือกตั้ง แต่หากเป็นแกนนำม็อบสายเหยี่ยวคนสำคัญผลักดันเกมภายใต้ความเห็นชอบของนายใหญ่ที่จนตรอกเต็มไปด้วยความคั่งแค้นอยากเอาคืน
       
       การเลือกตั้งรอบนี้มีขึ้นท่ามกลางเสียงระเบิด และคดีก่อวินาศกรรมรวมถึงบรรยากาศของการพยายามปลุกอารมณ์มวลชนท้องถนนอีกครั้ง
       
       ชีวิตของก่อแก้วที่เคยถูกวางตัวให้ลง ส.ส.เขตหลักสี่-บางซื่อ ก็ถูกคู่กรรมตู่-จตุพรขีดให้ใหม่แข่งในสนามที่ไม่ใช่ท้องทุ่งแสนแสบไอ้ขวัญ-อีเรียมเคยลงเล่น แต่เป็นพื้นที่ชานกรุงที่มีบ้านจัดสรรหนาแน่นเป็นลำดับ
       
       ผลการเลือกตั้งไทยรักไทยเมื่อ 10 ปีก่อนคงเอามาวัดอะไรไม่ได้กับเขต 6 ในปัจจุบัน เพราะหากมีชาวกรุงเทพฯออกจากบ้านมาเกิน 70% เหมือนเมื่อปี’50 พรรคเพื่อไทยจะลำบากเต็มกลืน
       
       และที่สำคัญอารมณ์ของคนกรุงฯในวันนี้คงไม่อยากเห็นเสียงการรณรงค์เลือกตั้งประสานกับเสียงระเบิดซาเล้งขายเงาะที่หน้าบ้านของพวกเขา
       
       ความดื้อดึงของตู่-จตุพรเมื่อเดือนพฤษภาคมทำให้เพื่อนร่วมแนวอย่าง วิสา คัญทัพเขียนระบายออกมาทำนองว่าขบวนแดงถูกคนหนุ่มดื้อรั้นประเมินกำลังตัวเองผิดชักนำให้พังพินาศ
       
       และจตุพรคนที่ทำให้ขบวนแดงพังพินาศคนนี้ ก็กำลังนำก่อแก้ว พิกุลทองและพรรคเพื่อไทยทั้งพรรคสู่สนามการช่วงชิงที่ไม่ใช่การเลือกตั้งธรรมดาอีกครั้ง
       

        ในวันนี้ชีวิตแก้วมีแต่ตู่นำ..แก้วได้แต่เดินก้าวตาม ๆ ตู่เดิน...
       
       เขามาไกลจากตะกั่วทุ่งจนยากหวนกลับแล้วจริง ๆ !
 
 

 
 
 
 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #287 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2553, 18:54:06 »

วันที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 05:09:09 น.   มติชนออนไลน์

กะรอย นายทุนทีวีดาวเทียมใหม่เพื่อไทย กก.บริษัทใกล้ชิด “ทักษิณ” โยง"เสี่ยโป๋"แก๊งออฟโฟร์ยุค“สมัคร"

แกะขุมข่ายทีวีดาวเทียมใหม่ พรรคเพื่อไทย พบกรรมการบริษัทใกล้ชิด“ทักษิณ” เคยอยู่ก๊วนเดียวกับ“เสี่ยโป๋”แก๊งออฟโฟร์ยุครัฐบาล“สมัคร”

ภาย หลังจาก “พีเพิลแชนแนล (พีทีวี)”  ทีวีดาว เทียมของคนเสื้อแดงถูกปิดตายโดยคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุก เฉิน (ศอฉ.) ตั้งแต่ช่วงการชุมนุนโค่นรัฐบาลในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

 

ล่าสุด พรรคเพื่อไทยได้ผุดทีวีดาวเทียมช่องใหม่เรียบร้อยแล้วโดยใช้ชื่อว่า “เอเชีย อัพเดต”

 


 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ว่า เอเชีย อัพเดต เป็นสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องใหม่ที่จะเปิดขึ้นแทน  พี ทีวี เป็นของบริษัท เดโมเครซี นิวส์ เน็ตเวิร์ค จำกัด ตั้งอยู่ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลลาดพร้าว ขณะที่สถานีโทรทัศน์พีเพิลแชนแนลอยู่ชั้นที่ 6

 

 ช่องใหม่นี้จะออกอากาศผ่านดาวเทียม รับชมได้ผ่านจานรับสัญญาณดาวเทียมทุกชนิดที่เคยได้รับชมพีเพิลแชนแนลได้ โดยจูนเครื่องรับสัญญาณไปที่ความถี่ 3690 H และซิมโบเรตที่ 03333 เริ่มออกอากาศในวันเดียวกันนี้ 

 

 ผู้ดำเนินรายการ ประกอบด้วย  นาย จิรายุ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ นายการุณ โหสกุล (ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย)  น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ และ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้ประกาศข่าวช่อง 3

 

 “มติชนออ นไลน์”ตรวจสอบ ข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท เดโมเครซี นิวส์ เน็ตเวิร์ค จำกัด  จดทะเบียนวันที่ 18 พฤษภาคม 2552  ทุนจด ทะเบียน 5 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 2539 อาคารอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว ชั้น 5 ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ  มีกรรมการ 2 คนคือ

 

 1.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน ซึ่งมีความใกล้ชิดกับแกนนำพรรค พท. และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี   และ  2.นายวิมล จันทร์จิราวุฒิกุล   อดีตคณะทำงานวิชาการและนโยบายพรรคพลังประชาชน (พปช.)

 

 จากการตรวจสอบพบว่า นายวิมลเคยทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชื่อ บริษัท คอนโซลิเดทไวร์ จำกัด  (ชื่อเดิม บริษัท คอนโซลิเดทเท็คโน จำกัด)  และ ธุรกิจให้คำปรึกษาชื่อ บริษัท ยูเนียนไทย ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

 

ทั้งนี้  บริษัท คอนโซลิเดทไวร์ จำกัด ก่อตั้งวันที่ 8 กรกฎาคม 2530 ทุนจดทะเบียน 7.5 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 555 อาคารรสาทาวเวอร์ ชั้น 12 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ มี  นายพีรพันธุ์ พาลุสุข   ส.ส. ยโสธรพรรคเพื่อไทย และคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย เป็นกรรมการ  ร่วม กับ  นาย บุญไชย คำบุญเรือง นางสุจิตรา วัชรจิตติภัณฑ์  นายประภาส ธิติวรเวศม์ และ นายกัมปนาท ละม้ายอินทร์  เลิกกิจการในปี 2542

 

ส่วน บริษัท ยูเนียนไทย ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด  8 มีนาคม 2527 ทุน จดทะเบียน 1 ล้านบาท  ที่ตั้งเลขที่ 16 ซอยเทพประสิทธิ์ ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตพระโขนง กรุงเทพฯ  โดยเป็นกรรมการรว่มกับ นายธีรพล นพรัมภา  (เสี่ยโป๋) เลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมัย นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี  ซึ่งเคยถูกจัดอยู่ในแก๊งออฟโฟร์ ร่วมกับ นายเนวิน ชิดชอบ

 นอก จากนี้นายธีรพลเคยทำธุรกิจเช่าซื้อร่วมกับนายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ  (เสี่ยกบ) อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด    และ  นางนฤมล กัลยาณมิตร บริษัท ดิศดี จำกัด

นี่คือขุมข่ายของทีวีดาว เทียมใหม่พรรคเพื่อไทย ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรต้องติดตามกันต่อไป

..........
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Aj.O
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,241

« ตอบ #288 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2553, 21:37:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 01 กรกฎาคม 2553, 21:47:38
มีบทความที่ดี ที่วิเคราะห์การต่อสู้ของคนเสื้อแดงได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อยากให้ได้อ่านกัน
เขียนโดยนักวิชาการที่ถือว่า เป็นฝ่ายสนับสนุนเสื้อแดง และเป็็นคนเดือนตุลาคนหนึ่ง
ที่มีความคิดความอ่านที่มีเหตุมีผล...

ยอมรับว่า บทความนี้ ไอ้หงอกเขียนได้เข้าท่าครับ... กร๊ากกกก....

แม้ว่าบทความอื่นๆอีกหลายบทความของมัน ก่อนหน้านี้...จะเป็นแค่ขยะ ก็ตาม บรึ๋ยยย
โดยเฉพาะเรื่องเล่าเกี่ยวกับสถาบันฯ เนี่ย...โคตรมั่วและสตรอเบอรี่ได้ใจ ชอบอวดโง่โชว์ควายอยู่ประจำ
http://serithai.net/phpbb3/viewtopic.php?f=2&t=5237
http://serithai.net/phpbb3/viewtopic.php?f=2&t=4411
http://serithai.net/phpbb3/viewtopic.php?f=2&t=12170
      บันทึกการเข้า

...
Aj.O
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,241

« ตอบ #289 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2553, 21:49:40 »

โอ๊ย ช่วยด้วย...ผมโดนอะไรบางอย่าง บล็อกไม่ให้เข้ามาอ่านหรือเม้นต์กระทู้การเมืองได้ครับ...  เขินน๊า!!
(แต่ยังอ่านกระทู้อื่นได้ตามปกติ)
อันนี้เลยลองเปลี่ยนเครื่องใหม่เพื่อโพสข้อความครับ
แต่ตอนนี้สนใจดูบอลโลกมากกว่าครับ อย่างน้อยก็เปลี่ยนอิริยาบทของเราได้บ้าง  gek
      บันทึกการเข้า

...
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #290 เมื่อ: 06 กรกฎาคม 2553, 22:40:58 »

อ้างถึง
ข้อความของ Aj.O เมื่อ 06 กรกฎาคม 2553, 21:49:40
โอ๊ย ช่วยด้วย...ผมโดนอะไรบางอย่าง บล็อกไม่ให้เข้ามาอ่านหรือเม้นต์กระทู้การเมืองได้ครับ...  เขินน๊า!!
(แต่ยังอ่านกระทู้อื่นได้ตามปกติ)
อันนี้เลยลองเปลี่ยนเครื่องใหม่เพื่อโพสข้อความครับ
แต่ตอนนี้สนใจดูบอลโลกมากกว่าครับ อย่างน้อยก็เปลี่ยนอิริยาบทของเราได้บ้าง  gek
หวัดดีน้อง จารย์โอ สบายดีนะครับ..อะไรมันดูเรียบๆ แต่อย่าวางใจ คลื่นใต้น้ำมันป่วนแรงน่าดูเลยน้อง
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #291 เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2553, 10:10:38 »

กษิตเยือนเยอรมนี ถกมอนเตเนโกร-เจอเสื้อแดงราวี
06 กรกฎาคม 2553 เวลา 11:50 น.
ระหว่างการพบปะคนไทย ณ สถานทูตไทยในเยอรมนี
ในครั้งนี้ได้มีกลุ่มคนไทยในเยอรมนีที่เป็นคนเสื้อแดงราว 10 คน ได้มาถือป้ายประท้วง นายกษิต บริเวณหน้าสถานทูต

โดย...พิเชษฐ์ ชูรักษ์Posttoday online

ระหว่างวันที่ 4-6 ก.ค. นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ มีภารกิจเดินทางเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ พร้อมกับใช้โอกาสนี้ในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจของไทยด้วย

ทั้งนี้ นายกษิต ได้หารือกับ นายมิลาน โรเซน รมว.ต่างประเทศ มอนเตเนโกร ที่สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเบอร์ลิน โดยนายกษิต แถลงว่า ได้มีการหารือหลายประเด็นตั้งแต่การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบทวิภาคี รวมไปถึงกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้หนังสือเดินทางมอนเตเนโกร ซึ่งในประเด็นนี้ต่างฝ่ายเห็นว่าไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ มอนเตเนโกรยังยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยผ่านทางตำรวจสากลในการดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ



“ส่วนหนังสือเดินทางที่ออกให้อดีตฯ นายกฯ ก็เป็นเรื่องที่มอนเตเนโกรสามารถดำเนินการได้ แต่ย่อมอดคิดไม่ได้ว่ากระทบต่อเรา ซึ่งมอนเตเนโกรทราบดีว่าการที่ประเทศจะเข้าเป็นสมาชิกอียูได้ต้องมีศักดิ์ศรี มีความน่าเชื่อถือ แต่เขาก็ได้ยืนยันกฎเกณฑ์ของเขา รวมถึงได้อธิบายว่าอดีตนายกฯ ของไทยยังไม่ได้เข้าไปลงทุนอย่างเป็นกิจจะลักษณะ” นายกษิต กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา นายกษิต ได้พบกับกลุ่มคนไทยในเยอรมนี ประมาณ 50 คน ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเบอร์ลิน โดยนายกษิต กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่เลือกปฏิบัติ แต่มีสิทธิในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อปกป้องความปลอดภัยและระบอบประชาธิปไตย ที่ผ่านมามีการสร้างลัทธิความเกลียดชัง มีคนไทยไม่กี่คนที่ต้องการฆ่าคนไทยอย่างเลือดเย็น แล้วโยนบาปให้คนอื่น ขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่จะขจัดปัญหาคอร์รัปชัน

ทั้งนี้ ระหว่างการพบปะคนไทย ณ สถานทูตไทยในครั้งนี้ได้มีกลุ่มคนไทยในเยอรมนีที่เป็นคนเสื้อแดงราว 10 คน ได้มาถือป้ายประท้วง นายกษิต บริเวณหน้าสถานทูตด้วยการนำแผ่นผ้าเขียนข้อความโจมตีนายกษิต ว่าเป็นผู้ก่อการร้ายที่ได้เป็นรัฐมนตรี และระหว่างการหารือกันในห้องประชุมได้มีกลุ่ม|คนเสื้อแดงอย่างน้อย 3 คนที่แสดงตัวได้ร่วมพบปะพูดคุยถึงปัญหาการใช้ชีวิตในเยอรมนีกับ นายกษิต ในห้องประชุมด้วย

หญิงไทยเสื้อแดงรายหนึ่งถามนายกษิตว่า ที่กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนเลว แต่ในสมัยรัฐบาลชุดนี้ประเทศมีแต่ถอยหลังลงคลอง ยาเสพติดเต็มไปหมด และยังมีสองมาตรฐานในการดำเนินคดี

นายกษิต ตอบว่า รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายช่วยเหลือประชาชนมากมาย เช่น เรียนฟรี 15 ปี ซึ่งไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำ มีการประกันราคาข้าว ช่วยเงินคนชรา 500 บาท และอาสาสมัคร 600 บาทต่อเดือน ปัญหายาเสพติดก็มีการแก้ไข แต่ใช้วิธีการแก้ไม่เหมือนรัฐบาลในอดีตที่ถูกโจมตีอย่างมาก

ขณะที่หญิงเสื้อแดงอีกรายได้ย้อนนายกษิตอีกว่า ไม่มีทหารที่ไหนในโลกฆ่าประชาชน ซึ่งนายกษิตได้ตอบโต้ทันทีว่า ไม่จริง ที่ยูเครน จอร์เจีย และที่อื่นๆ ในโลกก็มีการบังคับใช้กฎหมาย อย่าเชื่อแต่ความคิดตัวเอง ในประเทศอียูก็มีทุกปี มีทั่วโลก โดยตอนนี้ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วมีนายคณิต ณ นคร เป็นประธ]น

หญิงรายนี้แย้งสวนขึ้นทันทีว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเป็นคนของรัฐบาลทั้งสิ้น นายกษิต กล่าวว่า เป็นการคิดไปเอง ทั่วโลกกำลังจับตาการดำเนินการของรัฐบาล ฉะนั้นจะต้องยึดหลักสิทธิมนุษยชน ให้เกิดความโปร่งใส เพราะทั่วโลกกำลังจับตาอยู่ ไม่ใช่ดูจากตาคุณคนเดียว

ระหว่างที่สถานการณ์การซักถามเป็นไปด้วยความตึงเครียดได้มีกลุ่มคนไทยที่เหลือลุกขึ้นกล่าวว่า “กษิตสู้ๆ” ทำให้ผู้เข้าร่วมตบมือกันลั่นห้อง

ในตอนท้ายกลุ่มคนเสื้อแดงได้พยายามแทรกคำถามเพื่อโจมตีนายกษิตและรัฐบาลอีก ทำให้นายกษิตถึงกับตัดบทว่า “ขอเถอะ อย่ามาตอแยกับผมเลย” ในที่สุดเจ้าหน้าที่สถานทูตจึงขอให้ถามเป็นคำถามสุดท้ายและยุติการหารือเพื่อรับประทานอาหารค่ำด้วยกัน

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #292 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2553, 10:43:03 »

ซีเอ็นเอ็นไล่บรรณาธิการออกหลังชมผู้ก่อการร้าย

09 กรกฎาคม 2553 เวลา 07:05 น.posttoday

ซีเอ็นเอ็นไล่ นาง ออคตาเวีย นัสเซฮร์ บรรณาธิการอาวุโสโต๊ะข่าวตะวันออกกลางออกจากงานหลังจากที่เธอได้เขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์ ว่าเธอให้การเคารพอย่างสูงต่อ นายโมฮัมเหม็ด ฮุสเซ็น ฟัดลัลเลาะห์ ผู้นำมุสลิมชีอะชาวเลบานอนซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที 4 กรกฎาคม ตรงกับวันชาติสหรัฐ ซึ่งเชื่อว่า  นาย ฟัดลัลเลาะห์มีความสัมพันธ์กับกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ที่สหรัฐขึ้นบัญชีก่อการร้าย

ในข้อความทวิตเตอร์ของ ออคตาเวีย เขียนไว้ว่า “เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ได้ข่าวถึงการสูญเสีย ซายอิด โมฮัมเหม็ด ฮุสเซ็น ฟัดลัลเลาะห์ เขาเป็นหนึ่งในผู้นำเฮซบอลเลาะห์ที่ฉันให้การเคารพอย่างยิ่ง”

“ฟัดลัลเลาะห์ เป็นผู้กล้าเหนือพรมแดนที่ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เป็นชีวิตที่ฉันไม่สามารถบรรยายได้ในทวิตสั้นๆ นั้น เป็นเรื่องราวที่ฉันเสียใจอย่างสุดซึ้ง” ออคตาเวียกล่าว

ทั้งนี้ ในจดหมายเวียน ของ ปารา โคซาวี รองประธานอาวุโสของซีเอ็นเอ็น ได้ระบุว่า “ณ จุดนี้ เราต่างเชื่อว่า ความน่าเชื่อถือของเธอในฐานะบรรณาธิการอาวุโสกิจการตะวันออกกลางนั้นจะยังคงได้รับการยอมรับต่อไป ในฐานะที่เป็นทั้งเพื่อนร่วมงาน และเป็นมิตรสหาย เราจะคิดถึง ออคตาเวียทุกวัน”

ในจดหมายเวียนของ โคซาวี ระบุด้วยว่า ออคตาเวีย ได้ยอมรับผิดอย่างเต็มที่ ซึ่งเธอบอกว่า เธอไม่ควรจะเขียนข้อความเช่นนั้นออกไปโดยที่ไม่มีบริบทแวดล้อมใดๆ”


      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #293 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2553, 10:18:46 »

นที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14:31:31 น.   มติชนออนไลน์

ไอเอ็มเอฟเตือนชาติเอเชียรับมือ"วิกฤตหนี้ยุโรป" ระวังเงินทุนไหลเข้าอย่างรวดเร็วจนเกิดภาวะฟองสบู่ !!

กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอ ฟเตือนผู้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจในเอเชียให้เตรียมรับมือวิกฤตที่อาจหนักหน่วง ขึ้นจากปัญหาการเงินโลก อาทิ วิกฤตหนี้ในยุโรป


เอเอฟพีรายงานว่า โดมินิก สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟกล่าวว่า "ผู้วางนโยบายต้องจับตามองผลกระทบด้านลบอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลพวงจากปัญหาหนี้ท่วมในยูโรโซนซึ่งจะทำให้มีกระแสเงินทุนไหลเข้า เอเชียจำนวนมากจนอาจเกิดภาวะฟองสบู่ได้"


อย่างไรก็ตามสเตราส์-คาห์นมองว่า ไม่น่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำซ้ำสอง เพราะตอนนี้เศรษฐกิจโลกอยู่เป็นเส้นทางการฟื้นตัว และชี้ว่าเอเชียเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังประชาคมโลกหลุด พ้นจากหายนะทางเศรษฐกิจครั้งนี้


เมื่อสัปดาห์ก่อนไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่าในปีนี้เอเชียจะเติบโต 7.5% เทียบกับอัตรา 4.6% ของทั้งโลก


แต่เนื่องจากมีแนวโน้มว่าสถานการณ์ตกต่ำในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปอาจกินเวลายาวนานกว่าที่คาดไว้ ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟจึงกระตุ้นในประเทศแถบตะวันออกเร่งเพิ่มการลงทุนและการ บริโภคในประเทศเพื่อทดแทนการพึ่งพาการส่งออก


เขาย้ำว่า "ความเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะเกิดขึ้นในเอเชียควรเป็นไปเพื่อสนับสนุนตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจแหล่งที่ สองให้เป็นไปอย่างยั่งยืน" ซึ่งรวมถึงเครือข่ายทางสังคมที่เข้มแข็งที่จะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายใน ประเทศ โครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพเพื่อสนับสนุนการลงทุนภาคครัวเรือน รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #294 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2553, 10:38:08 »

ตอบโจทย์!เช็คบิลพันธมิตรฯ "สมยศ"ทำเพื่อใคร?สนองใคร? 
 
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 12 กรกฎาคม 2553 22:56 น.
 
 
       ตอบโจทย์ พันธมิตรฯ กับ "พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง" สีกากีผู้มีอำนาจ วาสนาขึ้นสู่ตำแหน่งใหญ่ โดยการก้าวจากเป็นนายตำรวจติดตามรับใช้"มนตรี พงษ์พานิช"สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดสอยห้อยตามจน "มนตรี พงษ์พานิช" จบชีวิตด้วยโรคร้าย ก่อน "มนตรี" จะเสียชีวิตลงได้ฝากฝัง "สมยศ" ให้ติดตาม "พี่ห้อย เนวิน ชิดชอบ" ตั้งแต่สมัยมียศเพียง "พ.ต.ต." จน "สมยศ" เติบใหญ่ไต่ระดับขึ้นเป็นนายพล
       
       จากแบ็กกราวนด์พอสังเขปกับการก้าวเดินในหน้าที่ทางราชการ ที่อยู่คู่กับนักการเมืองมาโดยตลอด "สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง" ตำรวจสีน้ำเงินผู้นี้ยังมีความสนิทสนมและได้รับความไว้วางใจจาก"พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ"ผบ.ตร. สมัยนั้น ให้ดูแลเช็คบิล เกี่ยวกับคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
       

       หากเปรียบเทียบการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯซึ่งเริ่มเรียกร้องความชอบธรรม ให้ประเทศเข้าสู่เส้นทางการเมืองรูปแบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งจุดแตกหักที่เกิดขึ้นกับพันธมิตรฯคือ การที่รัฐบาล "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" นายกรัฐมนตรีผู้ที่ไม่มีโอกาสได้เยี่ยงกายเข้าไปนั่งบริหารงานภายในทำเนียบรัฐบาลเลย ได้สั่งการให้มีการสลายการชุมนุมพันธมิตรฯเมื่อ 7 ตุลา 2551 จนต้องเสียเลือด เนื้อ ชีวิต แขนขาขาด กันจำนวนมาก แถมแกนนำบางคนถูกยัดเยียดข้อหาก่อการร้าย ให้ทั้งๆที่เมื่อการสลายชุมนุมเบ็ดเสร็จ ส่งผลให้รัฐบาล "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผงาดนั่งบริหารประเทศจวบจนถึงวันนี้ ควบคู่ไปกับ "เนวิน ชิดชอบ" ผู้ซึ่งถูกสั่งเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี ยังคงมีบทบาทและเป็นฟันเฟืองตัวสำคัญในการขับเคลื่อน และเป็นเงาคอยสั่งงานภายใต้รัฐบาลชุดนี้
       
      เมื่อย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่ประชาชนทั้งประเทศไม่อาจลืมเลือนไปได้กับการที่แกนนำ นปช.นำผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ออกมาเคลื่อนไหว ยึดหัวหาดแหล่งธุรกิจหัวใจหลักของประเทศมีการซ่องสุ่มอาวุธ ยุทรโธปกรณ์ดั่งยกสนามรบมาไว้ใจกลางเมืองหลวง จนเกิดวินาศกรรมก่อจราจลเผาบ้านเผาเมือง นำไปสู่การจับกุมแกนนำ นปช.ได้บางส่วนในข้อหาหนักผู้ก่อการร้าย กับเหตุที่ประชาชนมือเปล่า ถือมือตบขึ้นเวทีปราศรัยเรียกร้องประชาธิปไตยของ พันธมิตรฯ แล้ว มันห่างไกลกันเหลือเกินกับข้อหาก่อการร้าย และข้อหาซ่องโจร
       
       ไม่แตกต่าง และไม่ผิดแปลกไปมากกว่านี้แล้ว หากจะฟันธงให้มองทะลุเกมหักขา แผนเจาะสกัดเส้นเลือดใหญ่หวังผลให้พรรคการเมืองใหม่ ซึ่งทุกคนทราบเป็นนัยอยู่แล้วว่าเป็นของพันธมิตรฯ จะต้องลงเป็นคู่แข่งหน้าใหม่ที่จะแย่งชิงคะแนนจากสนามเลือกตั้งครั้งต่อไป ดังนั้นไม่น่าตกใจ แต่กลับมองว่าเป็นเหตุพิลึกที่ "สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง" ผู้ใต้บังคับบัญชาของ "เนวิน ชิดชอบ" แบบพฤตินัย จะออกมาสร้างกระแสกดดันออกหมายเรียกพันธมิตรฯในช่วงนี้
       

       ภาพตำรวจสีน้ำเงินฉายความเป็นตัวตนชัดเจน หากย้อนลำดับเหตุการณ์ที่จงใจ หรือ บังเอิญ เกิดขึ้นกับกลุ่มพันธมิตรฯในช่วงนี้ เริ่มกันตั้งแต่
       
       10 ก.ย. 51 ก่อนเกษียณอายุราชการเพียงไม่กี่วัน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ขณะนั้นได้ลงนามคำสั่งเปลี่ยนตัวหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมหน้าสนามบินดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากเดิม พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร.มาเป็น พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้ามารับผิดชอบคดีแทน
       
       สำหรับการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ เป็นการดำเนินการวันเดียวกับ ที่ พล.ต.อ.พัชรวาท มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. แถลงโต้ กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดต่อ พล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น.
       
       17 ก.ย. 51 พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เดินหน้าทำภารกิจตามที่นายมอบหมาย โดยเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนของ บช.น. บช.ภ.1 และ บช.ก.ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกจากที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.ท.สมยศ รับหน้าที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนแทน พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผช.ผบ.ตร.การประชุมครั้งนั้น"สมยศ" อ้างว่า เพื่อตรวจสอบสำนวนอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะมีการออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา โดยเขาพูดว่า ตามปกติแล้วข้อกล่าวหาซึ่งอัตราโทษในการกระทำความผิดในลักษณะนี้ ก็สามารถขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายจับได้เลย ซึ่งขณะนี้สำนวนคดีได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆไปแล้วกว่า 80-90%
       
       25 ก.ย. 51 พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง และ สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ได้นำแฟ้มสำนวนคดีพันธมิตรฯจำนวน 42 แฟ้มมามอบให้ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง โดย "สมยศ"พูดภายหลังรับสำนวนว่า จะมีการพิจารณาออกหมายเรียกแกนนำพันธมิตรฯ ครั้งที่ 2 ให้มารับทราบข้อกล่าวหาเป็น 2 ส่วนไม่รวมกันทีเดียวเหมือนครั้งที่ผ่านมา และพิจารณาทยอยเรียกคราวละ 3-5 คน ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนของ สน.ดอนเมือง และสภ.ราชาเทวะ ซึ่งความเห็นตรงนี้ถือเป็นความเห็นเดิมของคณะทำงานที่มี พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มออกหมายเรียกในต้นเดือนตุลาคม 2551
       
       8 ก.ค.52 ที่กองปราบปราม พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพันธมิตรฯหลังจากเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 52 พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.ได้ลงนามมีความเห็นสั่งการให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการกับผู้ต้องหาทั้งหมดไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
       
       สำหรับคดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 52 คณะพนักงานสอบสวนได้เปิดเกมรุก โดยนำความเห็นและนำสำนวนการสอบสวนที่มีจำนวนเอกสารมากกว่า 10 กล่องใหญ่ เดินทางไปยังที่ศาลอาญา ถ.รัชดาฯเพื่อหมายมั่นไปขออนุมัติศาล ออกหมายจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด โดยจำนวนผู้ต้องหาที่พนักงานสอบสวน จะขออนุมัติออกหมายจับกุมร่วมกันทั้ง 2 คดี นั้นมีด้วยกันทั้งหมด 113 คน แต่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนที่เดินทางไปรอที่ศาล กลับต้องรออยู่จนกระทั่งหมดเวลาการทำการของศาล ทำให้ต้องเดินทางกลับ โดยมีรายงานว่า เหตุที่ทำให้ต้องรอ เนื่องจากว่าไม่มีคำสั่งจากทางผู้บังคัญชาระดับสูง ให้เสนอหมายจับ ตามที่"พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง"ต้องการ
       

       2 ก.พ. 53 พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประชุมพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว ที่กองปราบปราม โดยที่ประชุมได้นำผลการตรวจหลักฐาน ซึ่งมีทั้งภาพจากแผ่นซีดี, ภาพถ่าย และข้อมูลหลักฐานจากสื่อมวลชน บันทึกการสอบปากคำพยาน บันทึกของพนักงานสอบสวน พยานเอกสาร พยานวัตถุ มาร่วมตรวจสอบกับข้อกฏหมายต่างๆ เพื่อดูความสมบูรณ์ของสำนวนทั้งหมด
       
       11 ก.ค.53 ภายหลังจาก พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.ได้ลงนามมีความเห็นสั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนคดีพันธมิตรฯดำเนินการกับผู้ต้องหาตามขั้นตอน และเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ประชุมคณะพนักงานสอบสวน พร้อมได้มีคำสั่งออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม รวม 79 คน
       
       โดยพนักงานสอบสวนได้แบ่งผู้ถูกกล่าวหาออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก คือ ผู้ถูกกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนชุดเดิมได้ออกหมายเรียกเพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว แต่ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหา กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มที่มีโทษเกิน 3 ปี โดยมีลำดับการเข้ารายงานตัว ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. - 6 ก.ย.เริ่มช่วงเช้าเวลา 09.30 น. ช่วงบ่ายเริ่มเวลา 13.00 น.
       
      วันนี้แม้"พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง"จะออกมายืนยันว่า การออกหมายเรียก 79 พันธมิตรฯเป็นการทำหน้าที่ตามคำสั่งของ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.ที่ลงนามสั่งการ และไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองก็ตามที แต่จากพฤติการณ์ข้างต้นที่กล่าวมา ถือว่ามีคำตอบอยู่ในตัวของมันเองแล้วว่า"สมยศ พุมพันธุ์ม่วง"ทำเพื่อใคร? สนองใคร?
 

 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #295 เมื่อ: 14 กรกฎาคม 2553, 10:55:19 »

ผลงานชิ้นโบว์แดงของตำรวจไทย.ใจท่านเหี้ยมหาญ (แค่ขึ้นไปร้องเพลง ก็เป็นผู้ก่อการร้าย..ผลงานท่าเยี่ยมจริงๆๆ)

จอย” ร้องไห้ถูกยัดเยียดข้อหาชุมนุม แฟนโวยป้องสถาบันแต่ถูกผู้ใหญ่ที่ศรัทธารังแก
 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กรกฎาคม 2553 00:04 น.
 
 

    “แม็ค” แฟน “จอย ศิริลักษณ์” เผยนางเอกสาวร้องไห้ถูกยัดเยียดข้อกล่าวหาชุมนุมที่สนามบิน พ้อเอาชื่อเสียงหน้าที่การงานปกป้องสถาบัน แถมยังเป็นหนี้หัวโต แต่กลับถูกผู้ใหญ่ที่เคยศรัทธารังแก บอกอีกฝ่ายสบายใจได้แฟนสาวไม่คิดเล่นการเมือง แม้จะถูกหลายที่ทาบก็ตาม
       
       เกี่ยวกับกรณีที่นางเอกสาว “จอย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค” ได้ขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีพันธมิตรฯ แล้วถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหาชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง รวมทั้งข้อหาการก่อการร้าย และข้อหาซ่องโจรนั้น
       
       ต่อมานางเอกสาวได้เขียนข้อความตอบแฟนๆ ที่เข้ามาให้กำลังใจผ่านทวิตเตอร์เป็นจำนวนมากว่า พร้อมจะสู้เพราะเชื่อมั่นว่าตัวเองไม่ผิด โดยจะให้ “แม็ค วินัย วัฒนราษฎร์” แฟนหนุ่มดูแลเรื่องกฎหมาย หากมีใครหมิ่นประมาทเธอในเรื่องดังกล่าวผ่านหนังสือพิมพ์หรืออินเทอร์เน็ต ด้านฝ่ายชายเองก็ให้ความช่วยเหลือแฟนสาวเต็มที่ โดยขอร้องแฟนๆ ผ่านทวิตเตอร์เช่นกันว่า หากใครพบเห็นข้อความกล่าวหา “จอย” ทั้งจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร เว็บไซท์ รวมทั้งคอมเม้นท์ในเว็บ ขอให้ส่งมาให้ตนดู
       
       นอกจากนั้น “แม็ค” ยังได้เขียนระบายอารมณ์แทนแฟนสาวว่า มีคนเสนอเงินและทาบทามให้ “จอย” เล่นการเมืองมากมาย แต่แฟนสาวปฏิเสธ อีกทั้งยังพูดถึงผู้ใหญ่ที่เคยศรัทธามาทำร้าย “จอย” กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้หายไปหมด
       
       “จอยจะไม่เลือกข้าง หรือทำอะไรด้วยอารมณ์และความโกรธ ผมขอให้คนที่ผมเคยศรัทธา จงวางใจได้ แต่ความรู้สึกดีๆ มันคงไม่เหลืออีกแล้ว เข้าปีที่ 7 แล้วที่เราคบกัน มีเรื่องมากมายที่ผมเห็นมาตลอด มีคนเสนอเงินให้ ทาบทาม แต่เธอปฏิเสธทุกครั้ง ไม่ได้มีแต่คุณหรอกไม่ต้องทำร้ายกันขนาดนี้ก็ได้ เธอไม่เล่นหรอกการเมือง เธอไม่ไปแข่งกับพวกคุณหรอก ตราบใดที่มันยังสกปรกโสมมอยู่”
       
       “เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ เธอทิ้งมันมาตลอด คุณอยากรู้มั้ยนางเอกคนนึงในวงการบ้านเรา มีเงินในบัญชีเท่าไหร่ ตั้งแต่เธอออกไปปกป้องสถาบัน แล้วคุณรู้มั้ยเธอมีหนี้อยู่เท่าไหร่ หนี้เพราะเชื่อคนที่เธอไว้ใจไง คนที่เธอเคารพ ที่บอกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ แต่เธอก็ยังสู้ และไม่เคยขายตัว และจิตวิญญาณของตัวเองให้กับใคร ยังศรัทธาและเชื่อในความดีที่ทำ เธอไม่เคยทำให้ตัวเองน่าสงสาร หรือเศร้าเสียใจให้ใครเห็น ทั้งๆที่ในใจเธอ คงท้อและเหนื่อยมากๆ”
       
       “ผมอยากขอ ในฐานะปชช.คนนึง ขอให้พวกคุณเล่นการเมืองแบบใสสะอาดซะที อย่าเอาความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนนึง ไปเป็นเหยื่อ ปชช.สู้เพื่อพวกคุณมามากแล้ว แลกมาด้วยชีวิตและน้ำตา ไม่ต้องเอาเงินมาให้พวกเรา ไม่ต้องมาชมเรา ขอแค่คุณทำในสิ่งที่ถูกต้องแค่นั้นเอง คุณอายเหรอ ที่จะบอกว่าเคยคุยกับเรา รู้จักเรา หรือเคยมีอุดมการณ์เดียวกับเรา เคยร่วมกันออกมาปกป้องสถาบันกับเรา อะไรที่ทำให้อุดมการณ์ของคุณเปลี่ยนไป ถึงกับทำร้ายเพื่อนได้ เพราะอำนาจเหรอ หรือเพราะคุณกลัวอะไร”
       
       “ผมจะเช็ดน้ำตาให้เธอ และจะพาเธอ ออกไปสู้โลกแห่งความเป็นจริง จะเดินอยู่ข้างๆเธอ ไม่ว่าเธอจะถูกยัดเยียดให้เป็นอะไร ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้จอยครับ ข่าวนี้ผมว่าจอยก็แย่แล้ว ขอบคุณครับที่นายกมาตอกย้ำอีก ด่าสักคำไม่เคยออกจากปากจอย ละเอียดแล้วหรอ หมดคำพูดแล้วครับ... จุกอก”
 
 
 
 
 
 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Aj.O
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,241

« ตอบ #296 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2553, 00:24:26 »

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 09 กรกฎาคม 2553, 10:43:03
ซีเอ็นเอ็นไล่บรรณาธิการออกหลังชมผู้ก่อการร้าย

09 กรกฎาคม 2553 เวลา 07:05 น.posttoday

ซีเอ็นเอ็นไล่ นาง ออคตาเวีย นัสเซฮร์ บรรณาธิการอาวุโสโต๊ะข่าวตะวันออกกลางออกจากงานหลังจากที่เธอได้เขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์ ว่าเธอให้การเคารพอย่างสูงต่อ นายโมฮัมเหม็ด ฮุสเซ็น ฟัดลัลเลาะห์ ผู้นำมุสลิมชีอะชาวเลบานอนซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที 4 กรกฎาคม ตรงกับวันชาติสหรัฐ ซึ่งเชื่อว่า  นาย ฟัดลัลเลาะห์มีความสัมพันธ์กับกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ที่สหรัฐขึ้นบัญชีก่อการร้าย

ในข้อความทวิตเตอร์ของ ออคตาเวีย เขียนไว้ว่า “เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ได้ข่าวถึงการสูญเสีย ซายอิด โมฮัมเหม็ด ฮุสเซ็น ฟัดลัลเลาะห์ เขาเป็นหนึ่งในผู้นำเฮซบอลเลาะห์ที่ฉันให้การเคารพอย่างยิ่ง”

“ฟัดลัลเลาะห์ เป็นผู้กล้าเหนือพรมแดนที่ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เป็นชีวิตที่ฉันไม่สามารถบรรยายได้ในทวิตสั้นๆ นั้น เป็นเรื่องราวที่ฉันเสียใจอย่างสุดซึ้ง” ออคตาเวียกล่าว

ทั้งนี้ ในจดหมายเวียน ของ ปารา โคซาวี รองประธานอาวุโสของซีเอ็นเอ็น ได้ระบุว่า “ณ จุดนี้ เราต่างเชื่อว่า ความน่าเชื่อถือของเธอในฐานะบรรณาธิการอาวุโสกิจการตะวันออกกลางนั้นจะยังคงได้รับการยอมรับต่อไป ในฐานะที่เป็นทั้งเพื่อนร่วมงาน และเป็นมิตรสหาย เราจะคิดถึง ออคตาเวียทุกวัน”

ในจดหมายเวียนของ โคซาวี ระบุด้วยว่า ออคตาเวีย ได้ยอมรับผิดอย่างเต็มที่ ซึ่งเธอบอกว่า เธอไม่ควรจะเขียนข้อความเช่นนั้นออกไปโดยที่ไม่มีบริบทแวดล้อมใดๆ”


จะเอากลุ่มผู้ก่อการของอาหรับ อย่างพวก บินลาเดน ไปเทียบไอ้เหลี่ยมนั่น คงไม่สมควรเท่าไหร่
ลุงบินลาเดน เค้าร้ายกับเครือข่ายของอเมริกาก็จริง...แต่เค้าไม่เคยเผาบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง
แบบที่ไอ่เหลี่ยมมันทำ ครับ

ฮิตเลอร์ก็เช่นกัน เขาโหดเหี้ยมกับชาวยิว รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็เพื่ออำนาจของชาวประเทศเค้าเอง
เวลาแพ้สงคราม ฮิตเลอร์ยังมีศักดิ์ศรีพอที่จะยอมตาย โดยไม่เรียกร้องความเห็นใจจากศัตรู

..ต่างกับไอ้หน้าตัวเมีย อย่างไอ่เหลี่ยมและสามเกลอ...
*ที่ตอนแรกเสือกหาญกล้าว่าจะประกาศสงคราม!
แต่พอตัวเองแพ้ เสือกมาอ้างสิทธิมนุษยชน? ขอความเห็นใจจากฝ่ายนั้นฝ่ายนี้
ทั้งที่พวกตัวไปท้าชนเขาก่อน...
หน้าด้านหน้าทน ชนิดว่าฮิตเลอร์ หรือสตาลิน หรือพลพตแห่งเขมรแดง ยังไม่หน้ามึนพอที่จะทำแบบนี้เลย
      บันทึกการเข้า

...
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #297 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2553, 11:24:37 »

อ้างถึง
ข้อความของ Aj.O เมื่อ 15 กรกฎาคม 2553, 00:24:26
อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 09 กรกฎาคม 2553, 10:43:03
ซีเอ็นเอ็นไล่บรรณาธิการออกหลังชมผู้ก่อการร้าย

09 กรกฎาคม 2553 เวลา 07:05 น.posttoday

ซีเอ็นเอ็นไล่ นาง ออคตาเวีย นัสเซฮร์ บรรณาธิการอาวุโสโต๊ะข่าวตะวันออกกลางออกจากงานหลังจากที่เธอได้เขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์ ว่าเธอให้การเคารพอย่างสูงต่อ นายโมฮัมเหม็ด ฮุสเซ็น ฟัดลัลเลาะห์ ผู้นำมุสลิมชีอะชาวเลบานอนซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที 4 กรกฎาคม ตรงกับวันชาติสหรัฐ ซึ่งเชื่อว่า  นาย ฟัดลัลเลาะห์มีความสัมพันธ์กับกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ที่สหรัฐขึ้นบัญชีก่อการร้าย

ในข้อความทวิตเตอร์ของ ออคตาเวีย เขียนไว้ว่า “เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ได้ข่าวถึงการสูญเสีย ซายอิด โมฮัมเหม็ด ฮุสเซ็น ฟัดลัลเลาะห์ เขาเป็นหนึ่งในผู้นำเฮซบอลเลาะห์ที่ฉันให้การเคารพอย่างยิ่ง”

“ฟัดลัลเลาะห์ เป็นผู้กล้าเหนือพรมแดนที่ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย เป็นชีวิตที่ฉันไม่สามารถบรรยายได้ในทวิตสั้นๆ นั้น เป็นเรื่องราวที่ฉันเสียใจอย่างสุดซึ้ง” ออคตาเวียกล่าว

ทั้งนี้ ในจดหมายเวียน ของ ปารา โคซาวี รองประธานอาวุโสของซีเอ็นเอ็น ได้ระบุว่า “ณ จุดนี้ เราต่างเชื่อว่า ความน่าเชื่อถือของเธอในฐานะบรรณาธิการอาวุโสกิจการตะวันออกกลางนั้นจะยังคงได้รับการยอมรับต่อไป ในฐานะที่เป็นทั้งเพื่อนร่วมงาน และเป็นมิตรสหาย เราจะคิดถึง ออคตาเวียทุกวัน”

ในจดหมายเวียนของ โคซาวี ระบุด้วยว่า ออคตาเวีย ได้ยอมรับผิดอย่างเต็มที่ ซึ่งเธอบอกว่า เธอไม่ควรจะเขียนข้อความเช่นนั้นออกไปโดยที่ไม่มีบริบทแวดล้อมใดๆ”


จะเอากลุ่มผู้ก่อการของอาหรับ อย่างพวก บินลาเดน ไปเทียบไอ้เหลี่ยมนั่น คงไม่สมควรเท่าไหร่
ลุงบินลาเดน เค้าร้ายกับเครือข่ายของอเมริกาก็จริง...แต่เค้าไม่เคยเผาบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง
แบบที่ไอ่เหลี่ยมมันทำ ครับ

ฮิตเลอร์ก็เช่นกัน เขาโหดเหี้ยมกับชาวยิว รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็เพื่ออำนาจของชาวประเทศเค้าเอง
เวลาแพ้สงคราม ฮิตเลอร์ยังมีศักดิ์ศรีพอที่จะยอมตาย โดยไม่เรียกร้องความเห็นใจจากศัตรู

..ต่างกับไอ้หน้าตัวเมีย อย่างไอ่เหลี่ยมและสามเกลอ...
*ที่ตอนแรกเสือกหาญกล้าว่าจะประกาศสงคราม!
แต่พอตัวเองแพ้ เสือกมาอ้างสิทธิมนุษยชน? ขอความเห็นใจจากฝ่ายนั้นฝ่ายนี้
ทั้งที่พวกตัวไปท้าชนเขาก่อน...
หน้าด้านหน้าทน ชนิดว่าฮิตเลอร์ หรือสตาลิน หรือพลพตแห่งเขมรแดง ยังไม่หน้ามึนพอที่จะทำแบบนี้เลย


ใช่แล้ว ตอนอยู่บนเวที บอกว่าขอตายบนถนน ไม่ทันไร ขอใช้สิทธิ สส.คุ้มครอง ไอ้คางคกตาขาว ขี้ขลาดจริงๆ
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #298 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2553, 11:30:00 »

แผนเบื้องลึก ขุมทรัพย์เขาพระวิหาร
  manerger online 15 กค. 2010     
      เป็นเรื่องที่คารังคาซังมานาน สำหรับปัญหาบริเวณเขาพระวิหาร และการปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย 1 ในเรื่อง ซึ่งเป็นที่มาเหตุความขัดแย้งคือ “ผลประโยชน์” เกี่ยวเนื่องกับความมั่นคง ทางเศรษฐกิจ และทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งกลุ่มนักการเมือง และนักธุรกิจกลุ่มนายทุนได้วางแผนฮุบพื้นที่ขุมทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องจากบริเวณนี้กันอย่างมีขั้นตอน โดยพื้นที่ซึ่งกลุ่มผู้มีประโยน์เหล่านี้ร่วมมือกับเขมรหวังยึดพื้นที่ 1.5 ล้านไร่ ใน 7 จังหวัดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไล่ตั้งแต่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้วจันทบุรี และตราด ซึ่งเป็นผลจากการใช้แผนที่ตามแบบฝรั่งเศสวัดจากมาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่รัฐบาลยุคทักษิณฉวยโอกาสต่อยอดตอนที่รัฐบาลชุดชวน หลีกภัย ไปลงนามไว้
       
       ที่สำคัญ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเสียดินแดนเท่านั้น เพราะหากมองในแง่มุมเศรษฐกิจ นั่นหมายถึงมูลค่าทางการค้าชายแดนทั้ง 7 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าการเกษตรที่มีมูลค่ามากมาย โดยปี 2552 มูลค่าการค้าระหว่างไทย - กัมพูชามีถึ 56,578.4 ล้านบาท แบ่งเป็นส่งออก 53,918.4 นำเข้า 2,660 ล้านบาท และ 5 อันดับแรกที่มีการส่งออกสูงสุดคือ สระแก้ว ตราด จันทบุรี สุรินทร์ และตราด
       
       การค้าตลอดแนวเขตแดนไทย-กัมพูชา ถือว่ามีแนวโน้มที่ดี เพราะมีหลายจุดจะมีแผนการพัฒนา เช่น บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นช่องทางที่มีการค้าขายและประชาชนไปมาหาสู่กันจำนวนมาก แต่ยังขาดความสะดวก ศุลกากร, ตรวจคนเข้าเมือง ต่างมีความเห็นตรงกันว่าจะทำให้บริเวณนี้มีความสะดวกมากขึ้น และมีการจัดระเบียบกันใหม่ทั้งหมด
       
       ไม่เพียงการเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ จากกรณีพิพาทครั้งนี้ หมายถึง การยึดพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว แนวปราสาท โบราณสถานต่างๆ โดยสร้างแนวการท่องเที่ยวจากเขาพระวิหารเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงไปยังชายแดนหลายจังหวัดดังกล่าว นอกจากนั้นยังกินพื้นที่ป่าสงวนอุทยานแห่งชาติ พื้นที่อุทยานเกาะกูด จังหวัดตราด ซึ่งมีแหล่งแก๊สธรรมชาติระหว่างไทยกับเขมรอยู่ 2 จุด ซึ่งเป็นขุมทรัพย์ ที่หมายปองมาครอบครองของนักธุรกิจ-นักการเมือง
       
       ผลประโยชน์มหาศาลที่ได้หากยึดพื้นที่ 1.5 ล้านไร่ ดูจากความสัมพันธ์ระหว่างฮุนเซนกับทักษิณ ซึ่งรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ โดยสนธิ ลิ้มทองกุล ชี้ให้เห็นว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในยุทธศาสตร์ของโลกตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา ได้มีการสำรวจพลังงานทั่ว ซึ่งในทะเลของประเทศไทยมีอยู่ 2 จุด คือจุดที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทยกับเขมรในอ่าวไทย และอีกจุดหนึ่งก็คือ แอ่งปัตตานี
       
       จากผลประโยชน์ทางพลังงานนี่เอง ทำให้ปฎิบัติการยึดพื้นที่ของเขมรเริ่มขึ้นเมื่อฮุน เซน เป็นนายกรัฐมนตรี และมีการเจรจากับฝรั่ง โดยมีทักษิณร่วมมือกับโมฮัมหมัด อัลฟาเยด เจ้าของห้างแฮร์ร็อดส์ ซึ่งทักษิณเคยพาไปดูพื้นที่ในทะเล เพราะโมฮัมหมัด อัล ฟาเยด อยากจะมาลงทุนที่นั่น
       
       ขณะที่ข้อมูลบางส่วนจากข้อเขียน ในนิตยสาร ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ เรื่อง “ 25 กรกฎาคม 53 วันฉลองเส้นเขตแดนกัมพูชากับการสูญเสียดินแดนไทย!!” ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า สิ่งที่ทำให้รัฐบาลไทยส่งสัญญาณยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ซึ่งจัดทำโดยฝรั่งเศสแต่เพียงฝ่ายเดียว ประการหนึ่ง่ทหาร ข้าราชการ และนักการเมืองบางส่วนก็ได้รับประโยชน์ทำมาหากินกับฝ่ายกัมพูชาทั้งการค้าสินค้าหนีภาษี สินค้าลักขโมย บ่อนการพนัน การรับเหมาก่อสร้างถนน และการขายสิ่งปลูกสร้างให้กับชาวกัมพูชาเป็นอีกประการหนึ่ง
       
       ผลประโยชน์ทางด้านพลังงานแสดงให้เห็นจากปรากฏการณ์ วันที่ 25 กรกฎาคมนี้ จะมียักษ์ใหญ่เชฟรอนของอเมริกา ทั้งซีนูกของจีน และโทเทลสัญชาติฝรั่งเศส 3 มหาอำนาจทางด้านพลังงาน ซึ่งมีตัวแทนอยู่ในคณะกรรมการ 7 ชาติที่จะเข้าไปเสนอแผนบริหารจัดการกับพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารหากกัมพูชาได้รับอนุมัติเป็นมรดกโลกครั้งนี้ด้วย
       
       เพราะผลประโยชน์ทางพลังงานในอ่าวไทยนั้นยั่วยวนให้มหาอำนาจพร้อมที่จะทำอะไรก็ได้เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ในอ่าวไทยมากที่สุด เกมการขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก และการบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารและพื้นที่รอบในฐานะเป็นมรดกโลกจึงเกิดขึ้นเป็นฉากแรก
       
       ขณะที่มีข้อมูลที่น่าสนใจจาก เขาพระวิหารดอทเน็ต ที่กล่าวในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของ ทักษิณ ชินวัตร กับฮุน เซน ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี2551 พล.อ.เตีย บัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าทักษิณจะลงทุนธุรกิจพลังงาน โดยเฉพาะการเช่าเกาะกง
       
       อย่างไรก็ตามข้อมูลซึ่งโยงใยจากความสัมพันธ์ของ ทักษิณ กับบริษัทที่ทำธุรกิจพลังงาน เพิร์ล ออยล์ ที่มีกลุ่มทุนเทมาเส็กของรัฐบาลสิงคโปร์ และ แฮร์รอดส์ เอ็นเนอร์ยี่(ประเทศไทย)ที่ทักษิณพยายามชักชวนเข้าไปลงทุนในกัมพูชา รวมทั้งนำบริษัท ปตท.สผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) หรือPTTEPI ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ปตท. ซึ่งทักษิณและเครือข่าย มีหุ้นได้ไปร่วมทุนกับบริษัทอื่นที่จดทะเบียนในกัมพูชา ขอรับสัมปทานจากกัมพูชาในการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ ในบล็อก B หรือที่ PTTEPI ตั้งรหัสโครงการว่า โครงการ G9/43 และปรากฏด้วยว่า PTTEPI มีความสัมพันธ์ในการลงทุนกับเพิร์ล ออยล์ ในที่สุด
       
       ข้อมูลเหล่านี้ เป็นข้อมูลในเชิงประชาสัมพันธ์ของ Te Duong Tara ผู้อำนวยการ Cambodian National Petroleum Authority เมื่อต้นปี พ.ศ. 2549 และมีข้อมูลประกอบที่น่าสนใจอีกด้วยว่า Te Duong Tara ผู้อำนวยการ องค์กรที่คล้ายปตท. ซึ่งสมเด็จฮุน เซน ตั้งขึ้นมาคนนี้ เป็นคนเชื้อสายเวียดนาม และตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ก็ถูกชาวบ้านและนักลงทุนต่างชาติตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใสและธรรมาภิบาลในการบริหารองค์กร วิพากษ์วิจารณ์ว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มมากกว่าประเทศชาติ
       
       ***************
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #299 เมื่อ: 15 กรกฎาคม 2553, 22:59:17 »

[color=#ff2700]รวบมือขวา “เสธ.แดง” ชุดดำยิงถล่มแฟลตลุมพินี แฉ เสธ.แดงสั่งการ!    
[/color]

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม    15 กรกฎาคม 2553 13:31 น.manager online



ตร.191 ตามรวบตัว “หรั่ง เทวรัตน์” อดีตมือขวา “เสธ.แดง” ถึงห้องพักในโรงแรมตัวเมืองลพบุรี หลังหนีเตลิดถึงกัมพูชา จนทนลำบากไม่ไหวต้องหนีมากบดานในโรงแรมดังกล่าว ก่อนจะถูกจับตัวได้ เจ้าตัวสารภาพติดตามเสธ.แดงมาหลายปี ทั้งยังเป็นครูฝึกนักรบพระเจ้าตาก รับเป็นหนึ่งในทีมเสื้อดำยิงเอ็ม 79 ถล่มแฟลต สน.ลุมพินี และยิง ตร.2 นายดับคาด่านศาลาแดง แฉเหตุการณ์ทั้งหมด “เสธ.แดง” เป็นผู้สั่งการ เผยเป็นผู้ต้องหาอันดับที่ 1 ที่ทางดีเอสไอต้องการตัวมากที่สุด
       
       

       
       วันนี้ (15 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบก.สปพ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1053/2553 ลงวันที่ 19 พ.ค.53 ข้อหาก่อการร้ายและฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และเป็นอดีตมือขวาของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ภายในโรงแรมฟอร์ยู ห้องหมายเลข 17 ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี หลังจากสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามากบดานที่โรงแรมดังกล่าว จากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.สปพ.ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายที่คุ้มกันดูแลความปลอดภัย โดยมี พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดื รอง ผบช.น.ร่วมทำการสอบปากคำด้วย
       
       พล.ต.ต.ธนพลเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้ถูกออกหมายจับด้วยกัน 3 คดี ประกอบด้วย หมายจับข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หมายจับข้อหาก่อการร้าย และหมายจับข้อหาทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนหาเบาะแสของคนร้าย เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยสืบทราบว่าหลังจากก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกบดานที่ประเทศกัมพูชา แต่หลังจากที่เสธ.แดงเสียชีวิต ผู้ต้องหาได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย เพราะทนความลำบากไม่ไหว จากนั้นได้หลบหนีไปยังที่ต่างๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันออก จนกระทั่งมีการสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้เข้ามาพักภายในโรงแรมดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าจับกุม
       
       ด้าน พ.ต.อ.ภาณุรัตน์กล่าวว่า จากการสอบสวนคาดว่าผู้ต้องหาน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงต่างๆ ในหลายพื้นที่ที่เกิดขึ้นทั่วกรุงเทพฯ เพราะมีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธ และได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี โดยหลังจากนี้หากสอบปากคำผู้ต้องหาเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
       
       จากการสอบสวน นายสุรชัยให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ติดตามเสธ.แดงมานานหลายปี พร้อมทั้งเป็นครูฝึกกลุ่มนักรบพระเจ้าตากให้เสธ.แดง มา 3 ปี แล้ว และเป็นหนึ่งในทีมงานคนเสื้อดำก่อเหตุยิงเอ็ม 79 เข้าไปในแฟลตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา และยังเป็นคนที่ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงใส่ตำรวจที่ตั้งด่านรักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณแยกศาลาแดงจนเสียชีวิต 2 นาย เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เสธ.แดง เป็นผู้สั่งการ แต่ไม่ขอเปิดเผยว่ามีผู้ร่วมขบวนการกี่คน นอกจากนี้ เสธ.แดงยังเคยพาตนและกลุ่มคนเสื้อดำทั้งหมดไปฝึกการใช้อาวุธและยุทธวิธีการ รบ รวมทั้งการสลับเปลี่ยนซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ประเทศไต้หวันด้วย
       
       มีรายงานข่าวว่า นายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ อายุ 25 ปี เป็นผู้ต้องหาอันดับ 1 ที่ทางดีเอสไอต้องการตัวมากที่สุด โดยนายสุรชัยได้เดินทางกลับจากประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา และรวมตัวกับกลุ่มลูกน้องของเสธ.แดง จากนั้นได้มีการติดต่อกับภรรยาว่าพักอยู่ที่โรงแรมเล็กๆ ในจังหวัดลพบุรี และจะโอนเงินมาให้หลังจากที่เสร็จงานใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด สำหรับงานใหญ่ที่ผู้ต้องหารับมานั้นน่าจะเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารนายอำนาจ ศิริชัย อายุ 58 ปี นายก อบจ.จังหวัดนครสวรรค์ เนื่องจากวันเกิดเหตุจุดที่นายสุรชัยอยู่ห่างจากจุดที่นายก อบจ.นครสวรรค์ ถูกยิงเพียง 30 กิโลเมตร นอกจากนี้ ผู้ต้องหากำลังจะรับงานใหญ่ให้ลอบสังหารบุคคลสำคัญของประเทศ โดยได้รับการช่วยเหลือจากนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดลพบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนขยายผลต่อไป
       
       ต่อมา เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ดีเอสไอ พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ ผบก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ตปพ.) พร้อมชุดอรินทราช 26 ควบคุมนำตัวนายสุรชัย เทวรัตน์ หรือหรั่ง อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย มาส่งให้ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ท่ามกลางการอารักขาความปลอดภัยของเข้มงวด จากนั้นพนักงานสอบสวนคดีก่อการดีเอสไอได้นำตัวเข้าห้องสอบสวนทันที
       
       ทั้งนี้ พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า นายสุรชัย หรือหรั่ง เป็นผู้ต้องหาตามคดีพิเศษที่ 18 /2553 เป็นคดีหลักเกี่ยวกับการก่อการร้าย น่าจะเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในหลายพื้นที่ จากการสืบสวนสอบสวนหลังจากนี้จะทำให้เห็นภาพร่วมของการก่อการร้ายชัดเจนขึ้น เบื้องต้นในวันที่ 16 ก.ค. ดีเอสไอจะควบคุมตัวไปฝากขังต่อศาลอาญา พร้อมคัดค้านการประกัน เพื่อส่งตัวผู้ต้องหาไปควบคุมในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานค

       
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
  หน้า: 1 ... 10 11 [12] 13 14 ... 33  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><