23 พฤศจิกายน 2567, 07:43:33
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 33  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน  (อ่าน 329329 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 12 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #100 เมื่อ: 11 มีนาคม 2553, 11:47:12 »

แจกแจงค่าใช้จ่ายม็อบเสื้อแดง
       “แม้ว” ควักวันละ 300 ล้านบาท!?
     

 
       อิจฉาแกนนำ “เสื้อแดง” หลังทักษิณทุ่มไม่อั้นกับการ “จัดขบวนม็อบ” บุกกรุง นักเคลื่อนไหวระบุค่าใช้จ่ายทะลุวันละ 300 ล้านบาท ขณะที่ระดับแกนนำรับแบบเนื้อๆ ด้วยการชักหัวคิว 50:50 “ชาวบ้าน-พระสงฆ์จีวรแดง” รับทรัพย์วันละ 1,000 บาท ชี้ให้จับตากลุ่มที่มีหน้าที่ก่อวินาศกรรม - ปั่นเหตุการณ์ความรุนแรง ระบุกลุ่มนี้ใช้เงินมาก ครั้งเดียวสามารถ “ตั้งตัวได้” แถมรับโดยตรงจาก “”นายใหญ่”
       
       
       การจัดม็อบป่วนประเทศของกลุ่มคนเสื้อแดงในเที่ยวนี้ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการ “ว่าจ้าง” จากเจ้าของเงินซึ่งหลายๆ ฝ่ายได้ออกมามาวิเคราะห์ค่อนข้างจะเป็นไปในแนวทางเดียวกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทุ่มงบประมาณในครั้งนี้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนี้จะกลายเป็น “ขนมหวาน” ให้กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาสู้เพื่อเขาอีกครั้งหนึ่ง
       
       ค่าหัวพุ่ง 1,000 บาท/คน/วัน
       
       ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการเครือข่ายประชาชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในการจัดม็อบป่วนกรุงของกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งนี้นับได้ว่า "นายใหญ่"ลงทุนค่อนข้างมหาศาลเพราะเขาคาดหวังว่าการป่วนครั้งนี้ จะทำให้เกมการเมืองพลิกไปเข้าฝ่ายของเขาเพราะจากการข่าวจากหลายๆสายเชื่อว่าครั้งนี้น่าจะใช้งบประมาณในการจัดม็อบวันละไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท โดยกลุ่มระดับแกนนำทั้งบรรดา ส.ส.กลุ่ม นปช.ในต่างจังหวัดและแกนนำกลุ่มต่างๆได้จัดระบบการจ่ายค่าแรงไว้วันละ 1,000 บาทต่อคนต่อวัน
       
       “กลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะคนในอำเภอ อาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ดได้รวบรวมรายชื่อผู้ที่จะเข้าร่วมการชุมนุมไว้แล้ว และมีการสัญญาว่าจะจ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่เท่าๆกันคือชาวบ้านกับพระสงฆ์หัวละ 1,000 บาทต่อคนต่อวัน ซึ่งจากเดิมนั้นจะจ่ายเพียงวันละ 300 -500 บาทต่อคนต่อวัน โดยเงินจะผ่านมา ส.ส.ในพื้นที่ผ่านต่อไปยังหัวคะแนนในระดับต่างๆ โดยมีการกำชับกันว่าครั้งนี้ห้ามมีการชักหัวคิวเด็ดขาด”
       
       จากการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งนี้ ได้มีการจัดกำลังคนไว้ตามสถานที่ต่างๆ นั้นเขาคงจะไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นแต่น่าจะมีการเคลื่อนขบวนไปตามสถานที่ต่างๆต่อเนื่องฉะนั้นค่าหัววันละ 300-500 บาทจึงไม่คุ้มกับค่าเหนื่อยซึ่งเมื่อคนที่มาร่วมไม่รู้สึกว่าคุ้มก็จะมีกลุ่มคนบางกลุ่มมาในช่วงเช้าและกลับในช่วงบ่ายทำให้คนลดน้อยลงไปฉะนั้นการใช้จำนวนเงินหลักพันบาทเข้าล่อไว้น่าจะเป็นการบริหารจัดการที่เขาจะใช้
       
       อย่างไรก็ตาม การจัดม็อบในครั้งนี้จะแตกต่างไปจากครั้งที่ผ่านมา คือจะมีการแยกค่าใช้จ่ายออกจากกันอย่างชัดเจนนั่นคือกลุ่มแกนนำที่มีหน้าที่บริหารคนก็จะได้รับเงินส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจจะผ่านมาทาง ส.ส.โดยแกนนำที่เข้าถึงทักษิณโดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่บ้านเลขที่ 111 เป็นผู้กุมเงินไว้อีกทอดหนึ่ง ส่วนเงินส่วนหนึ่งจะถูกจ่ายผ่าน “คนสนิท” ทักษิณ วึ่งจะมีทั้งแกนนำและคนในครอบครัว เพื่อจ่ายแก่กลุ่มผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ก่อวินาศกรรมและกลุ่มที่จะเป็นหัวหอกในการสร้างความรุนแรง
       
       “กลุ่มนี้ไม่รู้ว่ามีเม็ดเงินเข้ากระเป๋าเท่าไหร่แต่รู้ๆ กันว่า เงินจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงาน เช่นหากให้ไปจุดไฟเผาสถานที่ราชการ จะมีราคาหนึ่ง ให้ไปเผาป้องตำรวจจะมีราคาหนึ่ง ซึ่งถ้าใครอยู่ในกลุ่มนี้รับรองได้ว่าเลิกม็อบเขาจะสามารารถตั้งตัวได้อย่างแน่นอน”
       
       “ทักษิณ-นายทุน”
       แยกกันจ่ายแต่รวมกันตี
       
       ส่วนแหล่งข่าวที่เคยร่วมจัดม็อบให้พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ไม่มีใครที่รู้ว่าจริงๆ แล้ว ทักษิณ ชินวัตร หว่านเงินไปกับม็อบครั้งนี้เป็นจำนวนเท่าใดกันแน่ แต่ความจริงที่ปรากฏจาก “สายข่าว"หลายๆฝ่ายมีข้อมูลตรงกันว่าได้มีการแยกจ่ายเงินในสามรูปแบบคือ
       
       1.จ่ายผ่านบรรดาแกนนำซึ่งทั่วประเทศมีอยู่ประมาณ 100 คน คนละ 200,000-1,000-000 ล้านบาทแล้วแต่ความสำคัญของแกนนำ
       
       2.จ่ายผ่าน ส.ส.ในสังกัดพรรคเพื่อไทย โดยใช้จำนวน ส.ส.กำหนดอัตราการจ่ายโดยมีราคาไม่ต่ำกว่าคนละ 10 ล้านบาท และ ส.ส.เหล่านี้จะกระจายเงินผ่านหัวคะแนนตั้งแต่ระดับจังหวัดไปจนถึงระดับหมู่บ้าน
       
       3.จ่ายผ่านอดีต ส.ส.และผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 111 เพื่อกระจายสู่หัวคะแนนของตัวเอง
       
       “ส่วนที่ 3 นี้หลายฝ่ายรู้อยู่แล้วแต่ส่วนที่น่ากลัวที่สุดคือตอนนี้มีผู้ร่วมลงขันช่วยทักษิณแล้ว ซึ่งก็คือกลุ่มคนที่คาดว่าจะเสียประโยชน์จากคำพิพากษาของศาลเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเม็ดเงินส่วนนี้จะกระจายไปยังหัวคะแนนของแต่ละคนและเม็ดเงินจากคนกลุ่มนี้ก็มีไม่น้อย”
       
       ดังนั้น หากนำเงินส่วนแรก บวกเข้ากับส่วนที่เสียประโยชน์จากคดียึดทรัพย์ จะทำให้อัตราการจ่ายเงินสำหรับม็อบครั้งนี้เพิ่มขึ้นไปอีก
       
       อย่างไรก็ตาม การดำเนินการจัดขบวนม็อบในครั้งนี้ถือว่าทักษิณได้ใช้กลยุทธ์ “แยกกันจ่ายรวมกันตี” กล่าวคือเขาได้เปิดโอกาสให้กลุ่มก๊วนต่างๆเข้าถึงตัวได้ง่ายขึ้นเพื่อเป็นการ “สกรีน” ของจริง ของปลอมไปในตัวและสามารถจำกัดอัตราการจ่ายได้ด้วยตัวเองเพราะเดิมนั้นการใช้วิธีแบบเหมาจ่ายทำให้เม็ดเงินที่ลงไปถึงม็อบจริงๆเหลือน้อยทำให้การดึงคนเป็นไปด้วยความลำบากมากขึ้น
       
       “เป็นที่รู้กันว่าเดิมนั้นการจัดกระบวนม็อบแต่ละครั้งแกนนำจะหักเป็นค่า “เสี่ยง” เข้ากระเป๋าตัวเองมากน้อยตามความเห็นชอบของแกนนำกลุ่มต่างๆโดยสูงสุดจะมีการหักหัวคิวมากถึง 50:50 ทำให้สังคมได้เห็นความแตกแยกกันเองของแกนนำอันเนื่องมาจากการจัดสรรผลประโยชน์ไม่ลงตัวอยู่บ่อยๆ”
       
       ขณะเดียวกัน การชุมนุมครั้งนี้คาดว่าจะใช้เงินประมาณวันละ 300 ล้านบาท หากชุมนุมกี่วันก็คูณด้วยจำนวนวันก็จะเป็นเงินที่นายใหญ่และพรรคพวกต้องจ่ายให้กับม็อบเสื้อแดงครั้งนี้
       
       3 วันเงินสะพัดทั่วประเทศ
       
       ด้าน อวยชัย วะทา นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และประธานสมาพันครูในภาคอีสาน กล่าวว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มม๊อบเสื้อแดงที่จะระดมเข้ากรุงเทพฯในวันที่ 12-14 มีนาคมนั้น คาดว่าจะมีเข้ามามากที่สุดไม่เกิน 1.2 แสนคน จากที่ตั้งเป้าไว้ 1 ล้านคน เนื่องจากรัฐบาลมีการสื่อสารถึงข้อมูลข้อเท็จจริงผ่านสื่อต่างๆ ได้ดีขึ้น รวมทั้งทีมงานของ เนวิน ชิดชอบ ก็เข้ามาช่วยเรื่องการยับยั้งมวลชนได้มาก รวมทั้งคำพิพากษาของศาลในคดียึดทรัพย์ ก็มีส่วนทำให้ชาวบ้านได้เข้าใจถึงความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และบางส่วนก็กลัวความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น ทำให้ไม้เดินทางขึ้นมาแสดงพลังที่กรุงเทพฯมากตามที่แกนนำกลุ่มเสื้อแดงคาดการณ์ไว้
       
       การจัดม็อบในครั้งนี้คาดว่าจะใช้เงินมหาศาล โดยจะจัดงบให้กับจังหวัดต่างๆของพื้นที่พรรคเพื่อไทยจังหวัดละ 10-15 ล้านบาท เงินจำนวนนี้จะแบ่งเป็นค่าจ้างให้กับชาวบ้านที่เข้าร่วมชุมนุมซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นพวกฮาร์ดคอร์ ที่เป็นกลุ่มชาวบ้านที่เคยผ่านการอบรมจากโรงเรียนการเมืองที่ตั้งโดยกลุ่มเสื้อแดง ตระเวนไปยังตำบลต่างๆ ปลุกระดมให้ลุกขึ้นมาต่อต้านอำนาจรัฐ ซึ่งพวกนี้จะได้หัวละ 1,000 บาทต่อวัน คาดว่าจะมีประมาณ 2 หมื่นคน กลุ่มที่ 2 จะเป็นชาวบ้านธรรมดา ได้ค่าหัวประมาณ 300-500 บาท ต่อวัน แต่ก็จะถูกหักหัวคิดถึงชาวบ้านไม่เกิน 200 บาท ซึ่งจะเป็นการจ่ายให้ก่อนวันละ 100 บาท ที่เหลือจะให้หลังจากเสร็จงานแล้ว กลุ่มนี้จะมีประมาณ 1 แสนคน โดยเงินในการจ้างคนส่วนนี้ตกวันละไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท
       
       นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าพาหนะเดินทาง การเครื่องเสียงจิปาถะต่างๆ โดยในส่วนของค่าอาหารจะให้หัวละ 100 บาทต่อวัน ซึ่งจะต้องใช้เงินอีก 12 ล้านบาทต่อวัน ค่าเครื่องเสียง ค่าบริหารจัดการต่างๆอีกวันละประมาณ 3-5 ล้านบาทต่อวัน ส่วนค่ารถจะให้ค่าน้ำมันกับรถปิคอัพคันละ 3,000 บาทต่อวัน ค่ารถ 6 ล้อ วันละ 5,000 บาทต่อวัน รวมแล้วคาดว่าจะมีรถปิคอัพเข้ากรุงเทพประมาณ 1 หมื่นคัน และรถ 6 ล้ออีกประมาณ 2 พันคัน ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้จะมีประมาณ 40 ล้านบาทต่อวัน รวมแล้วจะมีค่าใช้จ่ายวันละ 127 ล้านบาท ซึ่งถ้ามาชุมนุม 7 วันตามที่คาดไว้ ก็จะใช้เงินเฉียด 1,000 ล้านบาท
       
       อย่างไรก็ตาม คาดว่าการชุมนุมครั้งนี้รัฐบาลจะรับมือใหว และจะไม่ยืดเยื้อนานสุดจะไม่เกิน 7 วัน ซึ่งถ้าเกินจากนี้จะไม่สามารถควบคุมมวลชนได้จะเหลือผู้ที่อยู่ชุมนุมยืดเยื้อไม่เกิน 3 หมื่นคน ที่มาด้วยใจอย่างแท้จริง คาดว่าในจำนวนนี้จะมาจากภาคเหนือประมาณ 1 หมื่นคน อีสาน 1 หมื่นคน ที่เหลือมาจากภาคต่างๆอีก 1 หมื่นคน

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #101 เมื่อ: 11 มีนาคม 2553, 11:51:41 »

หยุดคิดเถอะคนเสื้อแดง ก่อนเข้าร่วมเกมเผาเมือง 
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มีนาคม 2553 01:21 น.
 
 
  เรื่องมันฟ้อง   
    โดย...กรงเล็บ
       
       วันนี้ไม่มีใครเป็นศัตรูกับทักษิณ แต่ทักษิณต่างหากที่ทำตัวเป็นศัตรูของชาติจากพฤติกรรมเห็นแก่ตัวที่ยอมทำทุกวิถีทาง เพียงเพื่อให้ตัวเองได้รับชัยชนะบนความย่อยยับของชาติบ้านเมือง
       
       ในภาวะที่บ้านเมืองกำลังจมอยู่กับวังวนความขัดแย้งทางความคิด ที่ถูกขยายผลให้กลายเป็นความแตกแยกของคนในชาติ เพียงเพื่อประโยชน์เฉพาะของคนบางกลุ่มอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ คำถามที่เรามักจะได้ยินอยู่เสมอคือ ประเทศจะไปรอดไหม หรือไม่ก็จะทำอย่างไรให้ชาติผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ โดยไม่เกิดความสูญเสีย
       
       เป็นความกังวลที่อยู่ในใจคนไทยส่วนใหญ่ เป็นความวิตกที่ไม่เกินเลยจากความเป็นจริง แต่สภาพการณ์เช่นนี้คนไทยต้องก้าวข้ามความหวาดกลัวไปสู่การมีสติ และใช้ปัญญาไตร่ตรองถึงต้นเหตุแห่งปัญหาเพื่อจะได้ดับทุกข์ให้ถูกที่
       
       ขบวนการเสื้อสีต่างมิใช่จุดเปลี่ยนที่สร้างความแตกแยกในสังคม อย่างที่หลายคนพยายามยัดเยียดให้เป็นเช่นนั้น เพราะสังคมไทยอยู่เย็นเป็นสุขบนพื้นฐานความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันมาช้านานแล้ว เพิ่งจะถูกจุดชนวนแยกบ้านเมืองออกเป็นฝักเป็นฝ่าย
       
       ก็เมื่อคนเลวขึ้นครองอำนาจ และเริ่มแบ่งแยกประชาชนจากนโยบายขาดจิตสำนึกที่ว่า
       
       “...คนนครสวรรค์ให้ความไว้วางใจรัฐบาล เลือกส.ส.รัฐบาลทั้งจังหวัดต้องได้รับสิทธิ์ดูแลเป็นพิเศษก่อน รัฐบาลต้องดูแลคนทั้งประเทศ แต่เนื่องจากเวลาจำกัดต้องเอาเวลาไปให้จังหวัดที่ไว้วางใจเราก่อนเป็นพิเศษ จังหวัดไหนให้ความไว้วางใจน้อยเราก็จะไปทีหลัง จังหวัดไหนให้เราทั้งจังหวัดเราก็จะช่วยพัฒนาเต็มที่”
       
       วาทะนี้ไม่เพียงแบ่งแยกประชาชน แต่ยังแฝงไปด้วยการข่มขู่ประชาชนที่อยู่ในปกครองของตัวเองและแอบซ่อนการใช้ภาษีคนทั้งประเทศไปติดสินบนให้คนเลือกตัวเองอีกด้วย
       
       ผู้ปกครองที่มีวิธีคิดสองมาตรฐานเช่นนี้หรือ ที่คนเสื้อแดงใฝ่ฝันอยากให้กลับมาปกครองประเทศหรือ ?
       
       ลองนั่งนิ่ง ๆ แล้วตั้งสติคิดทบทวนดูให้ดีว่า คุ้มค่ากันหรือไม่ที่จะเอาชาติบ้านเมืองไปแลกกับผู้นำที่ขาดธรรมาภิบาลอย่างนช.ทักษิณ ชินวัตร
       
       วันนี้ไม่มีใครเป็นศัตรูกับทักษิณ แต่ทักษิณต่างหากที่ทำตัวเป็นศัตรูของชาติจากพฤติกรรมเห็นแก่ตัวที่ยอมทำทุกวิถีทาง เพียงเพื่อให้ตัวเองได้รับชัยชนะบนความย่อยยับของชาติบ้านเมือง
       
       คนเสื้อแดงเองก็มิใช่ไร้ซึ่งสติปัญญา หากลดทอนทิฐิลงและมองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยเหตุและผล จะเห็นข้อเท็จจริงว่า ความตกต่ำในชีวิตที่ทักษิณกำลังเผชิญอยู่นั้น เป็นกงล้อแห่งกรรมที่ตามไล่ล่าเขา หาใช่มีใครถาโถมความคั่งแค้นใส่เขาไม่
       
       ลองพิจารณาพัฒนาการความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ผ่านแกนนำเสื้อแดง จะยิ่งเห็นชัดเจนว่าคนกลุ่มนี้ไม่เคยมีพี่น้องเสื้อแดง และชาติบ้านเมืองอยู่ในหัวสมอง มีแต่ผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง
       
       แกนนำเสื้อแดงสมุนทักษิณ ปลุกระดมเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา มาวันนี้ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หางโผล่ บอกว่าถ้ารัฐบาลยุบสภาก็เป็นแค่หลักกิโลเมตรแรก แต่การต่อสู้จะยังไม่จบ และไม่ใช่สงครามครั้งสุดท้ายจนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศ
       
       ความเคลื่อนไหวที่ไต่ระดับจากข้ออ้างล้มอำนาจรัฐ ไปสู่การแบไต๋เผยธาตุแท้ถึงความพยายามจะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของประเทศ มิใช่เพิ่งปรากฏให้เห็นจากคำพูดของณัฐวุฒิเท่านั้น แต่ขบวนการส่งต่อชุดความคิดล้มล้างสถาบันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
       
       ทั้งการส่งสัญญาณสร้างความเปลี่ยนแปลงประเทศให้เหมือน เนปาล
       
       เปลี่ยนแปลงประเทศเหมือนประเทศจีนในสมัยของซุนยัดเซน
       
       หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนแปลงประเทศเหมือนช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส
       
       ทุกการเปลี่ยนแปลงที่ถูกอ้างถึง ล้วนแต่เป็นการโค่นล้มระบอบพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้น เช่นนี้แล้วจะแก้ตัวว่าไม่คิดหมิ่นหรือล้มล้างเบื้องสูงได้อย่างไร?
       
       ถ้ามองกันอย่างเปิดใจกว้าง ความคิด ความเชื่อทางการเมืองของแต่ละคน ไม่ใช่สิ่งที่จะมาตัดสินผิด ถูก เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล
       
       แต่การใช้ความรุนแรงและอิงแอบคนเลวเพื่อไปสู่เป้าหมายทางความเชื่อของตัวเองต่างหาก เป็นเรื่องที่มิอาจให้อภัย
       
       อุดมการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้นเพราะต้องการให้เกิดประโยชน์สุขต่อคนทั้งชาติ มิใช่เพียงเพื่อสานฝันตกค้างให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือแอบอ้างเอาประชาธิปไตยมาฉาบหน้าแล้วใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือเพียงเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดกลับสู่อำนาจ โดยใช้ชีวิตประชาชนเป็นเครื่องเซ่นสังเวยไปสู่ความสำเร็จ
       
       พี่น้องเสื้อแดงแสนซื่อลองตรองดูหน่อยว่า หากวันนี้รัฐบาลต้องล้มครืนลงแล้วพรรคเพื่อไทยเข้ามากุมอำนาจเป็นนอมินีให้ทักษิณอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย
       
       ระบบของประเทศจะถูกทำลายด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรม
       
       กัมพูชาจะได้ปราสาทพระวิหารและพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรโดยรอบ เราคนไทยยอมที่จะสูญเสียอธิปไตยเหนือดินแดนนั้นได้หรือ
       
       ฯลฯ
       
       แต่ถ้าสถานการณ์เลวร้ายถึงขีดสุดเกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย
       
       ทักษิณกลับประเทศคืนสู่อำนาจโดยไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใดที่คนไทยเคยรู้จักรองรับ เพราะเมื่อถึงวันนั้นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็จะถูกร่างขึ้น เพื่อเอื้อให้ทักษิณกลับสู่เส้นทางการเมืองอีกครั้งหนึ่งแม้จะเป็นผู้ที่เคยถูกตัดสินให้ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินก็ตาม
       
       บ้านดีที่เคยมีพ่อจะอยู่ในสภาพใดยังยากที่จะจินตนาการ แต่สิ่งที่พี่น้องเสื้อแดงควรถามตัวเองให้จงหนัก คือ
       
       จริงหรือที่พวกคุณจะมีความสุขกับวัตถุนิยมที่ ทักษิณ มอมเมาไปได้ตลอดรอดฝั่ง
       
       จริงหรือที่ประเทศชาติจะอยู่รอดได้ภายใต้การบริหารราชการที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนยอมเอาผลประโยชน์ชาติไปแลกอย่างที่ทักษิณทำ
       
       จริงหรือที่บ้านเมืองจะมีมาตรฐานเดียวและได้รับความเป็นธรรมจากคนอย่าง ทักษิณ ที่มีความคิดผิดไม่เป็น แพ้ไม่ได้ ไร้ความละอายต่อบาป
       
       จริงหรือว่าชาติจะมีระบบปกครองที่ทันสมัยเป็นสากล เพราะเราปฏิเสธรากเหง้าของบรรพบุรุษที่มีกษัตริย์เป็นนักรบรวบรวมแผ่นดินให้ได้ชี่อว่าเป็น “ชาติ”
       
       จริงหรือที่พลังแห่งทศพิศราชธรรมกว่า 60 ปี แห่งการครองราชย์ขององค์พ่อหลวง จะมีคุณค่าน้อยกว่ามายาภาพ 6 ปีของ ทักษิณ
       
       วันนี้พี่น้องเสื้อแดงลองทบทวนดูด้วยสติทั้งหมดที่มี แล้วตัดสินใจเดินออกจากเกมเผาบ้านเผาเมืองนี้เสีย หากมีอุดมการณ์ความเชื่อทางการเมืองใดที่ต้องการต่อสู้ ก็ขอให้อยู่บนหนทางที่ถูกต้องชอบธรรม ไม่ใช่ใช้ความรุนแรงและกฎหมู่มาบังคับให้คนทั้งประเทศต้องยอมรับ
       
       เพราะเชื่อเถอะว่าคนไทยไม่มีวันยอม! ไม่ว่าการปกครองจะเปลี่ยนแปลงเป็นระบอบใด คนไทยต้องการผู้ปกครองที่มีความเสียสละ และหัวใจเป็นธรรม ซึ่งทักษิณไม่ใช่

 
 
 
 
 
 
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #102 เมื่อ: 11 มีนาคม 2553, 15:57:11 »


จาก นสพ. แนวหน้า ขอบคุณครับ
      บันทึกการเข้า

Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #103 เมื่อ: 12 มีนาคม 2553, 02:25:10 »

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Feo3HQ-6_jA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Feo3HQ-6_jA</a>

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ล่าสุดวิดีโอลิงค์มายังเวทีคนเสื้อแดง ที่ชุมนุมอยู่ที่หน้าอนุสาวรีย์ย่าโม จ.นครราชสีมา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 6 มี.ค.53 ว่า "มีคนป่วยที่มารักษา 30 บาทรักษาทุกโรค ติดต่อขออาสาที่จะติดระเบิดพลีชีพเพื่อช่วยผม (พ.ต.ท.ทักษิณ)"

นี่คือกลยุทธ์ในการต่อสู้ของทักษิณ คือใช้ความเท็จมาเสนอ เพื่อสร้างภาพสร้างสถานการณ์ให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง แต่โครงเรื่องนี้มันโกหกไม่เนียน แค่ป่วยก็รีบไปหาหมอก็เพราะกลัวตาย พอหายป่วยแล้วยังจะวิ่งไปหาความตายด้วยการพลีชีพอีก มันน่าขัน

นายอดิศร เพียงเกษ ประกาศว่า "ถ้าการชุมนุมครั้งนี้ชนะ ก็จะจับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มาแขวนคอที่สนามหลวง"

คุณอดิศรต้องการพิพากษาลงโทษ พล.อ.เปรม โดยไม่ตั้งข้อหาว่า พล.อ.เปรมมีความผิดสถานใด และไม่ให้โอกาส พล.อ.เปรมต่อสู้ข้อกล่าวหาเลยแม้แต่น้อย มันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน ที่พวกเสื้อแดงเรียกร้องหาประชาธิปไตย เขาก็จัดให้อยู่แล้ว

การจะลงโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ในทุกข้อหาเขาก็เอาไปฟ้องศาล มีคณะผู้พิพากษามีทนายความแก้ต่าง แล้วคุณก็บอกว่าไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยที่คุณต้องการ คุณต้องการให้มีการจับคนมาแขวนคอได้ตามใจชอบ มันเป็นระบอบเผด็จการที่โหดเหี้ยม


จม. ส่วนหนึ่งของคุณ พินิจนันท์ พนม  ที่มีมายังคุณสามวา สองศอก  นสพ. ไทยโพสท์
http://www.thaipost.net/news/120310/19221
      บันทึกการเข้า

Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #104 เมื่อ: 12 มีนาคม 2553, 16:01:52 »


คนปลายซอย โดยเปลว สีเงิน

ครับ...ผมรับรู้ได้ถึง "ความตื่นตัว" แทนการ "ตื่นกลัว" ของประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนในกรุงเทพมหานคร ต่อความเหิมเกริม-ย่ามใจของทักษิณที่สั่งสมุนแดงปฏิบัติการ "ยกทัพยึดกรุง" ที่เริ่มตั้งแต่วันนี้ (๑๒ มี.ค.๕๓) เป็นต้นไป เมื่อประเมินขั้นแรกเห็นชัดว่า "ทักษิณแพ้" ด้านมวลชนตั้งแต่ยกแรก ไม่ต้องดูอะไรมากครั้งนี้ "พื้นที่ข่าว" ฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้ยึด ไม่ใช่ทักษิณเป็นฝ่ายยึดเหมือนครั้งก่อนๆ

และนั่นสะท้อนถึงอะไร?

สะท้อนถึงแก่นลึกจากใจประชาชนว่า "กูไม่เอามึงแล้ว...ทักษิณ" เพราะทั้งสิ้น-ทั้งปวงในความเป็นตัวมึง พฤติกรรม-สันดานของมึง และความร่ำรวยของมึง ประชาชนทั้งหลาย "รู้เช่นเห็นชาติ" หมดแล้วว่า ส่วนใหญ่มันได้ไปจากการปล้นชาติ-ปล้นประชาชน!

และไม่เพียงเท่านั้น เมื่อปล้นได้ไป แทนที่จะสำนึก อย่างน้อยก็ในบุญคุณชาติ แต่ตรงกันข้าม กลับได้กระทำตนเหมือนลูกกล้วยที่ฆ่าต้นกล้วย ใช้เงินที่ได้ไปนั้นหว่านโปรย หลอกล่อ-หลอกใช้ประชาชนให้สวมเสื้อแดงมาล้มบ้าน-ล้มเมือง ด้วยอ้างโง่ๆ ว่า...นี่คือการทวงหาประชาธิปไตย!?

ประชาธิปไตยไม่ได้หายไปไหน เมื่อเช้าวานผมดูโทรทัศน์ยังเห็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย (นอมินีทักษิณ) ตั้งกระทู้รุกไล่ไต่ถามนายกฯ อภิสิทธิ์เหยงๆ

ก็นี่ไง "ระบบรัฐสภา" อันเป็นรูปธรรมอย่างหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยที่ประเทศไทยเราก็มีอยู่ เป็นความเสมอภาคทางสังคมที่ให้ตัวแทนประชาชนเข้าไปทำหน้าที่ "ร่วมบริหารประเทศ" ในฐานะฝ่ายค้าน คอยคาน คอยตรวจสอบการบริหารฝ่ายรัฐบาล เพื่อยังประโยชน์สูงสุดให้เกิดกับประเทศชาติ และประชาชน

ชัดว่าประเทศไทยวันนี้ "ประชาธิปไตย" ยังมีอยู่ แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือ "ความกตัญญูรู้คุณ" ต่อชาติบ้านเมือง และประชาชนของทักษิณ "แดงตัวพ่อ" คนเดียวเท่านั้น!

วันนี้...คนไทยหน่ายระอา ไม่เอากะท่านแล้ว ทักษิณเอ๋ย นี่...อ่านนี่ดู ท่านทันสมัยเล่นทวิตเตอร์ ส่วนผมยังโลว์เทคทางอี-เมล์อยู่ เช้าวานเปิดหน้าจอขึ้นมา ก็มีข้อความเด้งผึงเรียงแถวรอท่า อย่างเช่น....

"ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.ทุกวัน เวลา 6 โมงเย็นหลังเพลงชาติในวิทยุกระจายเสียงจบลง ชาว กทม.บนท้องถนนจะร่วมกันบีบแตรยาวเป็นเวลา 1 นาที เพื่อไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของเสื้อแดงในครั้งนี้ รถยนต์หลายแสนคันทั่ว กทม.จะดังขึ้นพร้อมกัน ให้สำนักข่าวทั่วโลกได้เห็นการทำอารยะขัดขืนของชาว กทม.เป็นครั้งแรกของโลก

ใครเห็นด้วยโปรดปฏิบัติตามโดยการบีบแตร และส่งต่อแนวคิดนี้ ไม่ว่าจะเป็นทางบีบี facebook twitter hi5 หรือเมล์ต่างๆ เดี๋ยวจะไม่ทัน"

ผมเป็นคนบ้านนอก แต่อยู่กรุงเทพฯ มา ๕๐ ปี พอจะอนุโลมเรียกเป็น "ชาว กทม." ได้อยู่ ก็พร้อมจะบีบแตรยาว ๑ นาที เป็นการร่วมแสดงพลังต่อต้านการชุมนุมแบบอันธพาล แต่ติดอยู่ตรงว่า "ขับรถไม่เป็น" อย่างหนึ่ง และตอนเย็นไม่ค่อยได้ออกไปทางไหนอีกอย่างหนึ่ง ฉะนั้น ขอบีบอยู่ในใจและในที่ตั้งก็แล้วกัน

ยังมีอีกหลายข้อความที่ไหลเข้ามา ล้วนเป็นข้อความแสดงทัศนะต่อต้านขบวนการแดงของทักษิณ และมีข้อความหนึ่งที่ผมอยากนำมาให้รับทราบกัน "ด้วยสติ" เพื่อความไม่ประมาทและระมัดระวัง ไม่ใช่ให้ตื่นกลัว ดังนี้ครับ

เตือนระวังเหตุป่วนเมือง ระวังระเบิด ปืน บริเวณรถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดิน รวมถึง 33 จุดอันตราย 1.ศาลฎีกา 2.ศาลอาญา 3.ธนาคารกรุงเทพ สีลม 4.ธนาคารกรุงเทพ นานา 5.ธนาคารกสิกรไทย นานา 6.ธนาคารไทยพาณิชย์ สนง.ใหญ่ 7.พระบรมหาราชวัง 8.รพ.ศิริราช 9.เมเจอร์ฯ รัชโยธิน 10.บิ๊กซี ราษฎร์บูรณะ 11.เซ็นทรัลเวิลด์ 12.เซ็นทรัล ลาดพร้าว 13.ตลาดพรานนก 14.ตลาดมีนบุรี 15.ตลาดดาวคะนอง

16.ตลาดปัฐวิกรณ์ 17.แยกอรุณอัมรินทร์ 18.แยกร่มเกล้า (สี่แยก) 19.แยกเกษตรนวมินทร์ 20.แยกเกษตรนวมินทร์ ตัดลาดปลาเค้า 21.แยกเกษตรนวมินทร์ ตัดวัดประดิษฐ์มนูธรรม 22.แยกนวมินทร์ 23.แยกนราธิวาสฯ ตัดสีลม 24.แยกสีลมตัดพระรามสี่ (รพ.จุฬาฯ) 25.สี่แยกสะพานควาย

26.สี่แยกคลองเตย 27.ถนนรามคำแหง 28.ถนนรามอินทรา ตัดสุวินทวงศ์ 29.ที่ว่าการ กทม. 30.สวนลุมพินี 31.รร.ปทุมวัน ปริ๊นเซส 32.ช่างกลปทุมวัน และ 33.ช่างกลอุเทนถวาย

ครับ...นี่เป็นการแสดงถึง "ความร่วมมือ-ร่วมใจ" ในภาคประชาชนที่ "ทนต่อไปไม่ไหว" กับการกระทำระยำเมืองของคณะทักษิณ และได้ส่งสัญญาณเป็น "สื่อใจ" เชื่อมโยงจากประชาชนถึงประชาชนด้วยกันในสถานการณ์จาก ๑๒ มีนานี้เป็นต้นไป

ในภาครัฐ ครั้งนี้รู้สึกว่าได้รับความเข้าใจและร่วมมือจากประชาชนด้วยดี โดยเฉพาะจากการที่รัฐบาลประกาศใช้ "พ.ร.บ.ความมั่นคง" ให้ทหารออกมาร่วมทำหน้าที่ดูแลบ้านเมืองในฐานะ "เจ้าพนักงาน" เหมือนตำรวจ นอกจากไม่มีเสียงคัดค้านแล้ว ตรงกันข้าม กลับมีเสียงสนับสนุนจากทุกฝ่าย

แม้กระทั่งฝ่ายสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งปกติการท่องเที่ยวจะอ่อนไหวกับคำว่า "สถานการณ์ไม่ปกติ" เป็นพิเศษ แต่ครั้งนี้ตัวนายกสมาคมเองซึ่งเป็นสุภาพสตรี ท่านออกมาพูดชัดเจน...สนับสนุนรัฐบาลใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่าย "ชุมนุมได้" แต่ให้อยู่ในกรอบกฎหมาย และต้องไม่ใช้ความรุนแรง!

ท่านชื่ออะไรผมจำไม่ได้ น่าจะเป็น "คุณมัยรัตน์ พีระญาณโกเศส" ถ้าผิด-อภัยด้วย ผมขอชมเชยท่านที่มี "ภาวะผู้นำ" ชัดเจนสมกับที่เป็นผู้นำขององค์กรหนึ่ง ในยามที่ผู้ตามสับสน แต่ผู้นำแสดงท่าทีไปซ้าย-ไปขวาชัดแจ้ง อย่างนี้ไปรอด ไปรุ่งแน่ และไม่เพียงแค่พูด ท่านทำด้วย เท่าที่ผมติดตามดู ท่านเป็นทูตสันติ ยกคณะไปหาทุกฝ่าย รวมทั้งฝ่ายเสื้อแดง

"ชุมนุมได้ แต่อย่าให้เกิดความรุนแรงนอกกรอบกฎหมาย"!

ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ นับวันจะเก่ง แสดง "ภาวะผู้นำ" ยามวิกฤติให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ผมว่าดีนะครับ ถ้าสังคมไทยก้าวผ่านคำว่า "พลังเงียบ" ไปสู่การ "กล้าคิด-กล้าทำ-กล้าแสดงออก" มากขึ้นเท่าไหร่ แทนที่เอะอะก็อ้าง..ธุระไม่ใช่บ้าง..ไม่อยากยุ่งบ้าง...สังคมบ้านเมืองก็จะออกจากวังวนแห่งดินแดน "คนดีหดหัว" สู่จุดหมาย ในความหมาย

มิติใหม่ของ "สังคมรวม" ได้ในไม่ช้า!?

แต่ก็ใช่ว่าผู้ชายจะไร้เสียซึ่ง "ภาวะผู้นำ" ผมว่านายกฯ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เหมือนคนเล่นของนะ ประเภทสักยันต์เสือเผ่น "หลวงพ่อเปิ่น" วัดบางพระ นครปฐม หรือสักเสือเผ่น สักหนุมาน ยันต์ ๕ แถวอาจารย์หนู อะไรประมาณนั้น คือผมสังเกตเห็นว่า ในภาวะปกติ ท่านก็เนวินลากไป สุเทพลากมา

แต่พอมีปัญหาท้าทายภาวะผู้นำ อย่างตอนเมษาเดือดก็ดี และตอนนี้ก็ดี ท่านอภิสิทธิ์แสดงภาวะผู้นำได้สมกับที่เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งการตัดสินใจ ทั้งการตอบโต้ ทั้งการแสดงท่าที ไม่มีกลัว ไม่มีหงอ "เป็นตัวของตัวเอง" ไม่เป็นหนุ่มอีตัน แต่เป็น "ไอ้หนุ่มยางตัน" ใครฟันมา...เด้งผึง แถมเดินหน้าใส่ทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ!

นับว่า "ใจถึง" และขลังพอควร ผ่านพิธีปลุกเสกถึง ๒ สมัย ทั้งเสี่ยงเป็น-เสี่ยงตายมาแล้ว ก็ยังบ่ยั่น แต่ครั้งนี้ "อย่าประมาท" ดวงยังไม่ถึงฆาตก็จริง แต่ไม่ควรให้แมลงวันได้ลิ้มเลือด แม้สักหยด!

เป็นนิมิตหมายดีอีกอย่าง ผมสังเกตว่า ฝ่ายข้าราชการบ้านเมือง โดยเฉพาะ "ตำรวจ-ทหาร" ทำงาน "ด้วยใจ" เกิน ๖๐% มีการยอมรับในรัฐบาล และศรัทธาในภาวะผู้นำฝ่ายบริหารของนายกฯ อภิสิทธิ์ "ทั้งปากและใจ" มากขึ้น

สรุปในภาพรวม คือ ครั้งนี้ประสานงาน เรียกว่า "ทำงานเป็นทีม" กันได้ดี และดูจะเป็นครั้งแรกที่ประชาชนมั่นใจโดยอัตโนมัติว่า "ทหารจะไม่มักใหญ่" แอบคิดการณ์ไกลไปถึงขั้น ฉวยจังหวะก่อการปฏิวัติ-รัฐประหาร!?

สงครามครั้งสุดท้ายของพม่าที่ยกมาตีไทย คือสงคราม ๙ ทัพ เอาเข้าจริงยกมาตีไทยไม่กี่ทัพหรอก เพราะยกมาก็ถูกทัพที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช" ทรงส่งไปรับมือ ไล่ตีหนีพ่าย บ้างตัดหัวเสียบประจานไว้ ที่เหลือ-เดนตาย กลับพม่าไปแทบไม่ทัน ทัพอื่นๆ ก็คร้ามเขี้ยวไทย หัวหด-ตดไม่ออก ถอนทัพกลับไป ตราบ ๒๒๘ ปี ไม่กล้ามาราวีอีกเลย

แล้วนี่...ทักษิณจะทำสงคราม ๑๐ ทัพ "พังบ้าน-พังเมืองตัวเอง" ในยามที่ฝ่ายรัฐ-ฝ่ายราษฎร์ รวมทั้งทหาร-ตำรวจ "ผนึกเป็นหนึ่ง"

คิดผิด-คิดใหม่ ก็ยังไม่สายนะ...ทักษิณ!
โดย เปลว สีเงิน  นสพ. ไทยโพสท์
ที่มา : http://www.thaipost.net/news/120310/19225
      บันทึกการเข้า

seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #105 เมื่อ: 12 มีนาคม 2553, 16:28:34 »

ไหน เสื้อแดงบอกว่า ชุมนุมโดยสันติไงครับ

แดงปทุมใช้โทร โข่งตบหัวชาวบ้านกลางถนน หน้าศาลากลาง
Pic_70261

กลุ่มเสื้อแดงปทุมฯ ใช้โทรโข่งตบหัวชาวบ้าน หน้าศาลากลาง เหตุไม่พอใจที่ให้เลื่อนรถไฮปาร์ค หลังทำรถติดยาว เผย ไร้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือ ทั้งที่อยู่ในพื้นที่จำนวนมาก...

เมื่อ เวลา 12.10 น.วันที่ 12 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดปทุมธานี ได้เกินเหตุชุลมุนขึ้น ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากคอยดูแลรักษาความสงบอยู่นั้น ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงขับรถกระจายเสียงและมีคนขึ้นไฮปาร์คเชิญชวนชาวบ้านออก มาร่วมชุมนุม ระหว่างนั้นได้มีนายธานินทร์ บุญเกษม อายุ 50 ปี อาชีพรับตกแต่งภายในได้ขับรถยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเซเว่น สีดำ หมายเลขทะเบียน ชล 9769 กทม. ขับผ่านซึ่งระหว่างนั้นการจราจรติดขัด ทำให้เกิดการโต้เถียงและมีปากเสียงกับนายสันต์ชัย เพชรประเสริฐ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่บ้านปทุมวิลเลจ ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งกำลังไฮปาร์คอยู่บนรถ ที่จอดอยู่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดปทุมธานี ก่อนที่นายสันต์ชัย เพชรประเสริฐ ได้ลงจากรถวิ่งปรี่เข้าไปชกต่อยพร้อมทั้งใช้โทรโข่งที่ใช้พูดฟาดเข้าใส่ร่าง ของนายธานินทร์ ก่อนจะเกิดการปลุกปล้ำชกต่อยกันอยู่ประมาณ 2 นาที ทำให้นายธานินทร์ ถูกตีด้วยโทรโข่งหน้าผากแตกเลือดอาบหน้า จึงได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาห้ามปรามแยกคู่กรณีออกจากกัน

นาย ธานินทร์ กล่าวว่า ตนขับรถมาจากจังหวัดนนทบุรี เพื่อไปทำธุระที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดปทุมธานี ซึ่งการจราจรติดขัดอย่างมากเพราะมีคนเสื้อแดงจอดรถไฮปาร์คอยู่ริมถนน ตนเองจึงได้บอกให้ขยับรถเพราะรถติดมาก จนคนเสื้อแดงไม่พอใจพร้อมทั้งตะโกนด่าตนเองและตรงเข้าทำร้ายร่างกายของตนจน ได้รับบาดเจ็บหน้าผากแตก เลือดไหลอาบ ซึ่งตนคงไม่ยอมความเพราะเป็นการทำร้ายประชาชน อีกทั้งตำรวจที่มีอยู่เป็นจำนวนมากหลายร้อยคน กลับไม่มีตำรวจคนใดเข้ามาช่วยเหลือตนเองแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.ท.บัญชา มีเลิศ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุและนำตัวคู่กรณีไปสอบสวนที่ สภ.เมืองปทุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ไทยรัฐออนไลน์

    * โดย ทีมข่าวภูมิภาค
    * 12 มีนาคม 2553, 15:05 น.


      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #106 เมื่อ: 12 มีนาคม 2553, 16:41:54 »

บทพิสูจน์ "ไม่มีใครจ้าง กูมาเอง?"

 








แฉจ่าย 400-500 ค่าหัวแดงถ่อยโคราช 2,700 คน ร่วมฝูงป่วนชาติยึดกรุง 14 มี.ค.
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – แฉจ่ายหัวละ 400-500 บาท เกณฑ์กลุ่มแดงถ่อยโคราช 2,700 คน ร่วมม็อบป่วนชาติยึดกรุง 14 มี.ค. พร้อมกระบะ 162 คัน-รถบรรทุก 6 ล้อ 20 คัน-อีแต๋น 25 คัน และเสบียงอาหาร สัมภาระอยู่ได้ 4 วัน นัดเข้ารวมฝูง ที่ อ.ปากช่อง พรุ่งนี้ (12 มี.ค.) ก่อนบุกยึดกรุง เผยแดงถ่อยภาคอีสาน 19 จังหวัด แบ่งเป็น 6 กลุ่ม 4 เส้นทางนรก เคลื่อนฝูงสู่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ล่าสุด กำหนดจุดรวมพลบริเวณหน้า “เอ้าท์เลท วิลเลจ เขาใหญ่”

วันนี้ (11 มี.ค.) แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ คนเสื้อแดง จ.นครราชสีมา มีความเคลื่อนไหวระดมมวลชนของกลุ่มตนเองเพื่อเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ที่ กรุงเทพฯ 14 มี.ค.นี้ รวมทั้งสิ้นประมาณ 24 กลุ่ม ทั้งที่เป็นกลุ่มของนักการเมือง ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) และ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงในแต่ละพื้นที่อำเภอ

ประเมินสถานการณ์ล่าสุด พบว่า ทั้ง 24 กลุ่มดังกล่าว จะมียอดรวมผู้เข้าร่วมชุมนุมทั้งสิ้นประมาณ 2,710 คน จำนวนรถยนต์กระบะ 162 คัน, รถบรรทุก 6 ล้อ 20 คัน, รถตู้ 10 คัน, รถเก๋ง 5 คัน และรถยนต์เพื่อการเกษตร หรือ รถอีแต๋น 25 คัน

โดยมีกำหนดเดินทางเป็นหมู่คณะไปรวมตัวกันยังจุดนัดหมายที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในวันพรุ่งนี้ (12 มี.ค.) ก่อนเดินทางเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ 14 มี.ค.ที่กรุงเทพฯ ส่วนค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนไหว ผู้เข้าร่วมชุมนุมจะได้ค่าตอบแทน 400-500 บาท/คน/วัน หากนำรถยนต์มาด้วยจะได้ 1,500 บาท/วัน/คัน และพบว่า ได้มีการเตรียมเสบียง สัมภาระสำหรับค้างคืนอยู่ได้ประมาณ 4 วัน

สำหรับแนวโน้มการใช้ความรุนแรงนั้น ควรจับตามกลุ่มนักรบทุ่งสัมฤทธิ์ และ การ์ด นปช.ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ที่เคยได้รับการฝึกมาแล้วมีความชำนาญในการใช้อาวุธ น่าจะมีแนวโน้มใช้ความรุนแรง

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ส่วนการเดินทางของกลุ่มเสื้อแดงภาคอีสานในภาพรวมทั้ง 19 จังหวัดนั้น จะแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม 4 สาย โดยกำหนดเดินทางจากพื้นที่ตั้งมุ่งหน้าสู่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมกันในวันที่ 12 มี.ค.

ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 จ.อุดรธานี, หนองคาย และ จ.หนองบัวลำภู กลุ่มที่ 2 จ.สกลนคร, นครพนม, มุกดาหาร กลุ่มที่ 3 จ.ขอนแก่น, กาฬสินธุ์ และ จ.มหาสารคาม ทั้ง 3 กลุ่มนี้ ร่วมกันเดินทางเป็นสายที่ 1 ไปตาม ถ.มิตรภาพ มุ่งหน้าสู่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

กลุ่มที่ 4 จ.ยโสธร, ร้อยเอ็ด และ จ.อำนาจเจริญ เดินทางเป็นสายที่ 2 ตามถนนสายหลักจาก จ.ยโสธร- อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด-อ.พยัฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม-อ.ประทาย จ.นครราชสีมา-ถ.มิตรภาพ ไปยัง อ.ปากช่อง

กลุ่มที่ 5 จ.อุบลราชธานี , ศรีสะเกษ และ จ.สุรินทร์ เดินทางเป็นสายที่ 3 ตามถนนทางหลวงหมายเลข 24 (สายโชคชัย-เดชอุดม)-อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา-ถ.มิตรภาพ ไปยัง อ.ปากช่อง

กลุ่มที่ 6 จ.เลย, ชัยภูมิ จ.นครราชสีมา เดินทางเป็นสายที่ 4 ตามถนนสายหลักจาก จ.เลย-จ.ชัยภูมิ-อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา-ถ.มิตรภาพ ไปยัง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้ ทุกกลุ่มจะมีธงแดงผืนใหญ่กลุ่มละ 3 ผืน ส่วนแต่ละจังหวัดมีธงแดงผืนเล็กเป็นสัญลักษณ์ พร้อมย้ำให้ทุกจังหวัดทำอย่างไรก็ได้ให้เป็นข่าวก่อนออกเดินทาง ไม่เช่นนั้นถือว่าล้มเหลว

“จุดนัดรวมพลหรือสถานที่ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงภาคอีสาน ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาระหว่างวันที่ 12-13 มี.ค.นี้ ล่าสุด ได้ข้อยุติอยู่ที่บริเวณหน้าศูนย์จำหน่ายสินค้าส่งออก เอ้าท์เลท วิลเลจ เขาใหญ่ (OUTLET VILLAGE KJAO-YAI) ริม ถ.มิตรภาพ กม.57 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง ซึ่งจะมีการตั้งเวทีปราศรัยถ่ายทอดสดไปยังเวทีกลางในกรุงเทพฯ บริเวณสะพานผ่านฟ้าด้วย โดยมี พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เขต 2 และ เขต 3 พรรคเพื่อไทย รับเป็นผู้ดูแลให้การสนับสนุน และอำนวยความสะดวกในพื้นที่เป็นหลัก” แหล่งข่าวคนเดิม กล่าว

ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000034727


      บันทึกการเข้า

Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #107 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553, 04:58:44 »

บทพิสูจน์ "ไม่มีใครจ้าง กูมาเอง?"

แจกกันจะจะ เสื้อแดงนครพนมรับหัวละสองพันก่อนล่องกรุง

นี่คือ ประชาธิปไตย แบบ ทักษิณ ชินวัตร ซื้อกันด้วยเงินครับ

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=izNHIDiBTT8" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=izNHIDiBTT8</a>
      บันทึกการเข้า

Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #108 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553, 06:16:45 »

      บันทึกการเข้า

seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #109 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553, 08:26:25 »



    ใช่แล้ว..ประเทศไทย ไม่ใช่ของ ทักษิณ/ 3เกลอหัวขวด/อริสมันต์/...และพวกเลวๆอีกหลายคน
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
ภาณุ ปาตานี
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,254

« ตอบ #110 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553, 08:31:33 »

อ้างถึง
ข้อความของ ตุ๋ย 22 เมื่อ 10 มีนาคม 2553, 20:53:46
ยังมีคนโง่ให้เค้าหลอก  แล้วก็มีคนฉลาดที่ได้ประโยชน์

คม ชัด จริงๆ... ครับพี่ตุ๋ย
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #111 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553, 14:21:58 »

พ่อจ๋า...ลูกยังจำภาพนั้นได้ติดตา
คืนนั้น....ดึกแล้ว....พ่อนอนไม่หลับ
พ่อให้คนพาพ่อไปนั่งริมแม่น้ำ...
พ่อทอดสายตาไปยังสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก
ในแววตาของพ่อ..เรียบเฉย..นิ่งดุษฎี
แต่ดูเหมือนมีร่องรอยกังวล..ปรากฎอยู่บนใบหน้าของพ่อ

ลูกรู้ได้ในใจทันทีว่า..พ่อคงคิดอะไรบางอย่างอยู่
ลูกเคยได้ยินหลวงตาบอกลูกว่า..พ่อของลูกนั้น
ไม่ใช่คนธรรมดา...พ่อของลูกมีธรรม 10 ประการ
พ่อบำเพ็ญเพียรในศีล ในธรรมตลอดมา..หลวงตายัง..
บอกอีกว่า...ให้ลูกๆทุกคน...จงเป็นคนดี เชื่อฟังพ่อ
ลูกคนใดทำได้...ชีวิต..จะประสบแต่..ความสุขความเจริญ
หากลูกคนใด..ทำให้พ่อต้องเสียใจ..จงระวังไว้
เพราะนั่น..จะเป็นกรรม..และลูกคนนั้น..จะต้องชดใช้

พ่อเคยย้ำอยู่เสมอว่า..พ่อไม่อาจให้ลูกเป็นคนดีได้ทุกคน
แต่ลูกคนไหนที่ไม่ดี..พ่อขอร้องว่า..อย่าให้ลูกคนนั้นดูแลบ้าน
เพราะคนไม่ดี...ย่อมปกครองบ้านไม่ได้..เหตุเพราะไร้คุณธรรม

ลูกไม่รู้หรอก..ว่าพ่อมีอนาคตังสญาณที่หยั่งรู้อนาคตได้หรือไม่
แต่ลูกมั่นใจในตัวพ่อเสมอมา...ว่า..หากพ่อของลูกคนนี้ยังอยู่
ไม่ว่าใคร..คนไหน..ที่พูดไม่ดี คิดไม่ดี ทำไม่ดี...
ไม่ว่า..จะทำต่อตัวพ่อ..หรือลูกคนอื่นที่เขาเคารพพ่อ
ลูกคนนั้น..จะพ่ายแพ้ภัยตัวเอง..เสมือนหนึ่งขว้างลูกบอล
เข้ากำแพง...ยิ่งแรงเท่าไหร่..มันจะสะท้อนเข้าหาตัวเอง
แรงมากเท่านั้น

คืนนั้น..หลังจากพ่อกลับจากนั่งเล่นริมแม่น้ำ
ลูกนอนหลับ..และฝันดี
ฝันว่ามีทวยเทพเทวดา..นับร้อยนับพันมาหาพ่อ
พร้อมอวยชัยให้พรพ่อ..ขอให้มีอายุยืนนาน
ในฝัน...ลูกยังเห็นแสงฉัพพรรณทรังสีบนตัวพ่อ
เปล่งประกาย...เทียบเท่าเหล่าเทวดานั้นทีเดียว

พ่อจ๋า...ลูกๆทุกคน ขอบอกพ่อว่า........
บ้านหลังนี้..ตราบที่มีพ่อคนนี้อยู่.......
จะไม่มีเภทภัยพาลใดๆมาทำร้ายพ่อหรือคนในบ้านได้
ด้วยเดช..และบุญบารมีของพ่อ..คุ้มครอง

ไม่ว่าวันนี้..วันไหน...ชาตินี้..หรือ..ชาติไหน
ลูกทุกคน..ขอเกิดเป็นลูกของพ่อทุกชาติไป..
ลูกทุกคนจะรักภักดีต่อพ่อ..เหมือนที่พ่อรักลูกทุกคน
ขอพ่อจงเป็นสุขชั่วนิจนิรันดร์ด้วยเถิด..สาธุ


กระทู้ การเมือง : ผู้จัดการ ออนไลน์
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #112 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553, 14:28:48 »



รูปนี้ copyมา แต่ไม่รู้เจ้าของครับ ขออนุญาตนำเสนอนะครับ รวมรูปข้างอีกหลายรูปนะครับ
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #113 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553, 14:29:36 »

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #114 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553, 14:32:40 »

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #115 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553, 14:33:41 »

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #116 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553, 14:34:36 »

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Aj.O
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,241

« ตอบ #117 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553, 22:35:07 »

เศร้าใจ ที่กำลังจะมีคนโดนหลอกอีก...เดี๋ยวนี้มันเล่นกันทาง H5 หรือเฟศบุ๊ค กันแล้ว

 
อ้างถึง   
http://www.facebook.com/event.php?eid=3 ... 091&ref=mf

ร่วมลงชื่อ จดหมายเปิดผนึกรัฐต้องหยุดการข่มขู่ ปราบปราม คืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนโดยการยุบสภา
สามารถลงชื่อ ได้ที่ nfn2000n@hotmail.com

จดหมายเปิดผนึกถึงสังคมไทย
สนับสนุนการชุมนุมอย่างสันติวิธี
รัฐต้องหยุดการข่มขู่ ปราบปราม
คืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนโดยการยุบสภา

การชุมนุมของประชาชนโดยสันติวิธี เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ความยุติธรรม ความเสมอภาค และระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องและก้าวหน้านั้น ถือเป็นสิทธิเสรีภาพอันสมบูรณ์ของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยทั่วโลก ซึ่งผู้ปกครอง ผู้บริหารประเทศและผู้มีอำนาจรัฐ ต้องไม่ใช้อำนาจ และกลอุบายใดๆในทุกวิธีการหรือทุกรูปแบบ เพื่อทำการลิดรอนสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน หรือเพื่อบิดเบือนทำลายความชอบธรรมของประชาชนที่ชุมนุมกันอย่างสันติและเปิดเผย

ตราบใดก็ตามที่ ผู้ปกครอง ผู้บริหารประเทศ และผู้มีอำนาจรัฐ กระทำในทางตรงกันข้าม โดยการกดขี่ริดรอนสิทธิเสรีภาพชองประชาชน ให้ถือได้ว่า พวกเขาเหล่านั้นเป็นพวกเผด็จการ เป็นพวกอำนาจนิยม และเป็นทรราชย์ต่อแผ่นดิน แม้ปากของพวกเขาจะเอ่ยอ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตยก็ตาม

ขณะที่ สื่อมวลชนทั้งของรัฐและเอกชน ที่ปัจจุบันนับวันจะมีอิทธิพลในโลกยุคข่าวสารข้อมูล มากยิ่งขึ้นก็เช่นเดียวกัน ควรต้องทำหน้าที่เสนอข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริง พินิจพิเคราะห์ข้อมูล อย่างสร้างสรรค์ เสนอข่าวอย่างรอบด้าน และที่สำคัญต้องเปิดโอกาสให้คู่ขัดแย้งได้เสนอข้อมูลและเหตุผลของตนเองผ่านสื่อมวลชนได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่ด้วยการโน้มเอียง บิดเบือน ปิดบังอำพราง และสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นระหว่างประชาชนในสังคม

ภายใต้ภาวะวิกฤตการเมืองและความขัดแย้งในสังคมไทยปัจจุบัน การประกาศการชุมนุมเคลื่อนไหวของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) อย่างสันติวิธี เปิดเผยและปราศจากอาวุธ ที่จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 14 มีนาคม 2553 ในครั้งนี้ ก็เช่นกันที่รัฐบาล และสังคมไทยต้องเคารพ สิทธิเสรีภาพอันสมบูรณ์ของประชาชนโดยแท้จริง

ดังนั้น เรา ผู้มีรายชื่อและองค์กรตามท้ายเอกสารนี้ มีความคิดเห็นและข้อเสนอดังนี้

1. รัฐบาลต้องไม่กระทำการข่มขู่ คุกคามต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน เช่น การตั้งด่านสกัด การจดทะเบียนรถ ฯลฯ และรัฐบาลต้องไม่ใช้ พรบ.ความมั่นคงภายใน พรบ.สถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งการประกาศใช้กฎอัยการศึก ซึ่งกฎหมายดังกล่าวสมควรยกเลิกด้วย

2. รัฐบาลต้องหยุดการใช้กลอุบายใส่ร้ายป้ายสี สื่อสารกล่าวหาล่วงหน้า และสร้างสถานการณ์บิดเบือนว่า กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการสร้างความรุนแรง เพื่อทำลายความชอบธรรมของการชุมนุมของประชาชน เช่น การกล่าวหาว่า ผู้ชุมนุมพกพาอาวุธ หรือกล่าวหาว่ามีการขนแรงงานด่างด้าวร่วมชุมนุมด้วย

3. กองทัพทหารซึ่งเป็นสมบัติของประชาชน ต้องไม่ทำร้ายหรือปราบปรามประชาชนผู้ชุมนุม โดยเด็ดขาด ต้องไม่ก้าวก่ายแทรกแซงกระบวนทางการเมืองอย่างสิ้นเชิง และพึงตระหนักว่า การยึดอำนาจรัฐประหารจะต้องถูกลงโทษประหารชีวิตโดยไม่มีการนิรโทษกรรมอีกต่อไป ทหารผู้ใต้บังคับบัญชามีสิทธิอันชอบธรรมที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบธรรมหรือที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบบประชาธิปไตยของประชาชน

4. สื่อมวลชน ต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือของรัฐที่นิยมเผด็จการ หรือผู้มีอิทธิพลที่มีอุดมการณ์ และการกระทำอันไม่เป็นประชาธิปไตย สื่อมวลชนต้องคำนึงถึงจริยธรรมและจิตวิญญาณของ ความเป็นสื่อมวลชนในสังคมประชาธิปไตย ที่ต้องสนับสนุนระบบการเมืองแบบประชาธิปไตย และนำเสนอข่าวต่อประชาชนอย่างรอบด้าน

5. ทางออกต่อวิกฤตความขัดแย้งในสังคมการเมืองปัจจุบัน ต้องมีการจัดการเงื่อนไขต่างๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งดังกล่าวในหลายประเด็น เช่น เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย เรื่องปัญหาความไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม เรื่องปัญหาสองมาตรฐานในการใช้กฎหมาย ฯลฯ ดังนั้น นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงต้องประกาศยุบสภา จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อคืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนในการตัดสินใจและมีส่วนร่วมในการแก้ไขวิกฤตการณ์ดังกล่าว

6. ขอเรียกร้องให้ประชาชนทุกคน เคารพหลักการกติกาประชาธิปไตย ระบบหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงของประชาชนในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรว่าเป็นหัวใจของประชาธิปไตย ระบบรัฐสภาที่อำนาจอธิปไตยมาจากประชาชน มีวาระการเลือกตั้งผู้บริหารประเทศที่แน่นอน ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพตรวจสอบ ถ่วงดุลอำนาจรัฐ และร่วมกันพัฒนาประชาธิปไตยในสังคมไทยให้ก้าวหน้าสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ลงชื่อองค์กร

กลุ่มแนวร่วมเกษตรกรภาคเหนือ(นกน)
สำนักกระจายอำนาจและปกครองตนเอง(กอ-ปอ)
กลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมภาคอีสาน(กสส.)
ชมรมส่งเสริมการเรียนรู้ภาคเหนือตอนล่าง
กลุ่มนักศึกษาภาคเหนือเพื่อประชาธิปไตย
กลุ่มประชาธิปไตยเพื่อรัฐสวัสดิการ

หลักการฟังดูเหมือนดี แต่ความจริงหลอกด่ารัฐบาลข้างเดียว พร้อมสนับสนุนให้ไอ้เหลี่ยมและพวกควายแดงบ่อนทำลายสังคม กลายๆ  
พี่เจี๊ยบ วรรธนา วีรยวรรธนะ นักร้องคนโปรดคนนึงของผม และแฟนเพลงของเค้าหลายๆคน กำลังจะกลายเป็นเหยื่อ...ไปร่วมลงชื่อให้พวกจิ้งจอกห่มหนังแกะ
จากที่เคยคุยกับเค้าทางเฟศบุ๊ค(ในฐานะแฟนเพลง) ค่อนข้างมั่นใจว่าเจ๊เค้าไม่ใช่เสื้อแดงแน่นอน แต่ออกแนวอินโนเซนต์ทางการเมืองมากกว่า(แบบพวกริบบิ้นขาวทั่วไป)
แม้ผมจะนับถือว่าเค้าเป็นอัจฉริยะด้านดนตรีก็ตาม

ปล. ถึงพี่วณิชย์  ปกติคนในห้องผมไม่ค่อยชอบม็อบทั้งสองสีครับ เลยไม่อยากเล่นแรงนัก เอาแค่พอรับทราบ...อีกอย่างคือ ไม่มีใครเป็นเครือข่ายมวลชนอะไรด้วย เขียนเชิงลึกไปก็ไม่มีประโยชน์
คุณโต้ง(ppornson) มีความรู้เรื่องการเมืองปัจจุบันดีมากครับ แต่เท่าที่สังเกต เค้าจะไม่ค่อยสนใจประวัติศาสตร์การเมืองเท่าไหร่
แต่จะว่าไป ไอ้ประวัติศาสตร์นี่แหละบ่อยครั้งมันคือวิชาที่เลวร้ายที่สุด! เพราะมันคือสิ่งที่ถูกบิดเบือนได้ง่ายกว่าปัจจุบันนัก ใครใคร่อยากล้างสมองคนก็เอาไอ้วิชานี้แหละมาใช้ เช่นไอ้สุธาควาย จิ๋มประเสริฐ...ที่ผมค้นคว้ามาทางนี้บ้าง เพื่อที่จะไปตอบโต้ประวัติศาสตร์บิดเบือนของพวกควายแดงโดยเฉพาะ
      บันทึกการเข้า

...
อ้อย31
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2531
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 342

« ตอบ #118 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553, 23:20:05 »

          เรื่องเล่าของแม่ค้า

   มีคนรู้จักไปซื้อของที่ตลาดแห่งหนึ่งในโคราช
เล่าให้ฟังว่า  ได้ยินเสียงคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่ง
ไปเดินสุ่มถามแม่ค้าและคนที่ไปซื้อของว่า 
"รักทักษิณไหม"  แม่ค้าคนหนึ่งตอบกลับทันทีว่า
"ไม่รักใครหรอก  รักในหลวงพระองค์เดียว"
คนเสื้อแดงกลุ่มนั้นก็ยังไม่ยอมแพ้
ถามใหม่ว่า"อยากไปกินข้าวฟรีที่กรุงเทพฯไหม"
คราวนี้แม่ค้าตอบไปว่า"ฉันกินแต่ข้าวที่บ้าน
ไม่ไปกินขี้ของใครหรอก" 

ฟังแล้วสะท้อนใจแทนคนเสื้อแดงจริงๆ

หมายเหตุ  จริงๆแล้วมีข้อความที่มากกว่านี้ 
                แต่ขอเล่าเพียงย่อๆค่ะ
      บันทึกการเข้า

สุขภาพดีชีวีมีสุข สุขได้เมื่อใจรู้จักพอ
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #119 เมื่อ: 14 มีนาคม 2553, 23:48:27 »

ก็มีคนที่งมงายกะทักษิณจริงก็มีไม่น้อยหรอกครับ  เป็นเพราะเงินก้เยอะ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
TAE2540
Full Member
**


ไม่มีคำว่าสายเสียแล้ว สำหรับความรักที่แท้จริง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2540
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 507

เว็บไซต์
« ตอบ #120 เมื่อ: 15 มีนาคม 2553, 10:22:32 »

อ้างถึง
ข้อความของ sugarcane เมื่อ 13 มีนาคม 2553, 23:20:05
          เรื่องเล่าของแม่ค้า

   มีคนรู้จักไปซื้อของที่ตลาดแห่งหนึ่งในโคราช
เล่าให้ฟังว่า  ได้ยินเสียงคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่ง
ไปเดินสุ่มถามแม่ค้าและคนที่ไปซื้อของว่า 
"รักทักษิณไหม"  แม่ค้าคนหนึ่งตอบกลับทันทีว่า
"ไม่รักใครหรอก  รักในหลวงพระองค์เดียว"
คนเสื้อแดงกลุ่มนั้นก็ยังไม่ยอมแพ้
ถามใหม่ว่า"อยากไปกินข้าวฟรีที่กรุงเทพฯไหม"
คราวนี้แม่ค้าตอบไปว่า"ฉันกินแต่ข้าวที่บ้าน
ไม่ไปกินขี้ของใครหรอก" 

ฟังแล้วสะท้อนใจแทนคนเสื้อแดงจริงๆ

หมายเหตุ  จริงๆแล้วมีข้อความที่มากกว่านี้ 
                แต่ขอเล่าเพียงย่อๆค่ะ

อ่านไปอมยิ้มไป กับแม่ค้าครับ

"รักในหลวงพระองค์เดียว"

ไม่มีใครเทียบได้ และไม่ควรเทียบพระองค์ท่าน

      บันทึกการเข้า
TAE2540
Full Member
**


ไม่มีคำว่าสายเสียแล้ว สำหรับความรักที่แท้จริง
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2540
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 507

เว็บไซต์
« ตอบ #121 เมื่อ: 15 มีนาคม 2553, 10:23:19 »

                       


เพลง อยากเห็นคนไทย รักกันได้อย่างเดิม

ลืมรสชาติของความพ่ายแพ้
จดจำรอยแผล วันที่คนไทยหัวใจสลาย
บนทางที่แตกต่างสีที่ทุกคนทำใจไม่ได้
น่าเศร้า ใจที่เห็นคนไทยไม่รักกัน

กลับมาทบทวนกันดูสักครั้ง
บทเรียนเบื้อง หลังได้สอนอะไรเรามากกว่านั้ น
เราลองวางปมปัญหาหันหน้ามาแล้วพูดจากัน
หน ทางเดียวจะช่วยให้ผ่านให้พ้นไป

*สู่ความสงบสันติสามัคคี
ร่วมใจ กันทำความดีถวายพ่อหลวงของไทย
หล่อหลอมเป็นใจเดียวกันมาสร้างสรรค์ทางเลื อกกันใหม่
อยากเห็นคนไทยรักกันได้อย่างเดิม

เมื่อยามหยาดฝนซาฟ้า ก็จะใส
แต่เราจะเห็นสายรุ้งพร่างพรายประกายหลากสี
เป็นความแตกต่าง สร้างสรรค์ที่ลงเอยกันด้วย ดีดี
เพราะเรามีความรักยึดเหนี่ยวในหัวใจ

*,*

ผ่าน พ้นมันไปยิ่งรักกันมากกว่าเดิม


ที่มา : http://www.weloveking.org/home.php
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #122 เมื่อ: 15 มีนาคม 2553, 10:34:27 »

รับม็อบแดง
รายงานข่าวโดย: ณ กาฬ 10 มีนาคม 2553 เวลา 23:32 น:นสพ. Posttofay.

เทือกเถาเหล่ากอ ตระกูลชินวัตร ต่างเผ่นออกต่างประเทศไปเรียบร้อยแล้ว
 เป็นการจากลาก่อนวันแดงเดือด คำอ้างที่เกิดขึ้นก็คือ
 เทือกเถาตระกูลนี้จะไปดูงานที่เยอรมนี เป็นกำหนดการที่วางไว้อยู่แล้ว ไม่ได้หายไปไหน

แหม ช่างบังเอิญได้ทุกคราว

ใครจะเชื่อก็เชื่อไป ให้เลือกเอาระหว่างจะเป็นคนกินข้าว หรือเป็นควายกินหญ้า

ลองย้อนกลับไปดูในอดีต ทุกครั้งที่เสื้อแดงชุมนุม หรือเกิดเหตุที่ส่อเค้าจะวุ่นวาย คนตระกูลชินวัตร เป็นต้องเผ่นไปต่างประเทศทุกคราว

ก็ไม่เป็นไร เสื้อแดงจะสู้ จะตายก็ว่าไป แต่ญาติโกโหติกาสปอนเซอร์ใหญ่ไปเรียบร้อย

คนโง่ย่อมตกเป็นเหยื่อคนฉลาด ยิ่งคนฉลาดแล้วคด ยิ่งอันตราย

และศึกแดงครั้งนี้ มันน่าสงสารประเทศเสียจริง

เป้าหมายม็อบเพียงเพื่อเงินและอำนาจ บ้านเมืองฉิบหายไม่คิดถึง

และคำถามที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ เราจะทำอย่างไรดี

คำตอบที่ไม่ยากนักก็คือ ไม่ต้องกลัวม็อบแดง

อย่ากลัวจนหยุดใช้จ่าย หยุดลงทุน ฯลฯ ทำทุกอย่างเหมือนเดิม

เจอหน้าเสื้อแดง อย่าด่า อย่าต่อว่า เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน

อาจจะแตกต่างความคิด อาจมาเพราะเงินหรือถูกหลอก แต่ยิ้มเข้าไว้ ด้วยเมตตา สงสาร และเห็นใจ

พวกเขาไม่ได้ผิดหรอก แต่คนผิดคือผู้ที่ทำให้พวกเขามามากกว่า

ทำใจให้ปกติ นี่แหละ คือการช่วยชาติ

แม้จะเกิดเหตุความวุ่นวาย แม้จะมีการป่วนเมือง แต่ให้ตั้งสติ อย่าโกรธแค้น

เพราะเมื่อมีความเสื่อม สุดท้ายความเสื่อมก็ต้องหายไป หากทุกคนตั้งสติ มองเห็นถึงพิษภัยที่เป็นอยู่ ก็ย่อมกลับไปสู่การฟื้นฟูได้อีก

ตบท้ายวันนี้อยากจะพูดถึงภิกษุผู้ทรงศีล ท่านเป็นพระที่มีลูกศิษย์ทั้งประเทศ วาจาเป็นหนึ่ง ไม่มีสอง พูดทีไรไม่เคยพลาด

มีเสียงพูดต่อกันมาว่า ท่านเคยพูดถึงนักการเมืองใหญ่คนหนึ่งว่า เลวกว่าเทวทัต

แม้นักการเมืองคนที่ว่าจะร่ำรวยล้นฟ้า แต่บรรดาทรัพย์สินที่ฉ้อฉลเอาไป สุดท้ายต้องคืนแผ่นดินหมด

และนักการเมืองคนนี้จะไม่ได้ตายที่แผ่นดินเกิด โดยกลับมาได้เพียงผ้าขาวห่อเดียวเท่านั้น

จริงไม่จริง ชีวิตนี้ ได้เห็นแน่นอน


      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #123 เมื่อ: 15 มีนาคม 2553, 10:43:51 »

ก่อนถึงเที่ยงวัน เสื้อแดงแกว่งภายใน บีบพื้นที่นายใหญ่ บล็อกแกนนำ

15 มีนาคม 2553 เวลา 08:50 น.จาก นสพ.POSTTODAY

ถึงแม้ฉากหน้าของแกนนำจะแสดงพฤติกรรมให้เห็นถึงความฮึกเหิมมั่นใจล้มรัฐบาลได้สามวันเจ็ดวัน   แต่ฉากหลังรับรู้กันแล้วว่า เมื่อนายใหญ่ยังไร้ถิ่นย่อมมีผลต่อการเรียกความมั่นใจในการเดินเกมรุก

โดย ทีมข่าวการเมือง

วาทะโหมกระพือของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.จนถึงวันนี้ ด้วยการบีบรัฐบาลยุบสภา  ถ้าหากไม่ยอมตามข้อเรียกร้องภายในเที่ยงของวันที่ 15 มี.ค.  จะยกระดับการเคลื่อนไหวเข้มข้นขึ้น  ทำเอาหลายฝ่ายวาดภาพ ถ้ารัฐบาลยืนกรานไม่สนเสียงเรียกร้อง ขณะที่ฝ่ายเสื้อแดงเดินเกมยื้อยาว  มีหวังประเทศไทยตกอยู่ในอาณาจักรแห่งความกลัวต่อไป



ยิ่งยื้อ ยิ่งลากยาว  ไม่ใช่เฉพาะประเทศอยู่ในความอึมครึม แต่ลึกๆแล้ว กระบวนการเคลื่อนไหวภายในแกนนำก็มีความอึมครึมยิ่งกว่า

อาการแกว่งภายในหมู่แกนนำ ส่งสัญญาณมานับแต่ก่อนตัดสินใจชุมนุมใหญ่  หลายคนเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับวันเวลาชุมนุมใหญ่  หลายคนรวนเรการบุกครั้งนี้จะชนะหรือไม่  หลายคนหวั่นวิตกว่าการต่อสู้ครั้งสุดท้าย จะเป็นการปิดฉากอนาคตทางการเคลื่อนไหว  แต่ในที่สุดจำต้องตัดสินใจเพราะคำสั่งนายใหญ่สั่งปิดเกม 

ปฏิบัติการ ตั้งแต่การโหมโรงวันแรกมีสัญญาณไม่สู้ดีส่งถ่ายออกมา ผลการชุมนุมจุดต่างๆในกทม. แม้แกนนำเสื้อแดงจะออกมาโพทนาประสบความสำเร็จ   แต่ลึกๆแล้วไม่ใช่ซุ่มเสียงในคีย์เดียวกัน   บนข้อเท็จจริง แกนนำบางราย มองว่า มีผู้คนมาร่วมแสดงพลังน้อยกว่าที่คิด   แกนนำบางรายออกอาการผวาตกใจกับปฏิกิริยาคนกรุงเทพส่วนใหญ่ปฏิเสธการเคลื่อนไหว  ยิ่งเจอสภาพแดงทำร้ายคนเสื้อชมพูที่จ.ปทุมธานี    ขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์หราสะเทือนใจผู้พบเห็น   ประจานกับแนวทางเคลื่อนไหวที่พร่ำบ่นเสมอต้องการยึดสันติวิธี ไม่เน้นความรุนแรง  แม้แต่  จตุพร พรหมพันธ์   ยังยอมรับเหตุการณ์คนเสื้อแดงชกต่อยคนใส่เสื้อชมพู   กระทบภาพใหญ่คนเสื้อแดงเสียหายได้

แค่การเริ่มต้นไม่สวยหรูอย่างที่คิด

อีกประการของความไม่ปกติ  โดยหลักของวันตีฆ้องออกศึก ก่อนแกนนำจะประกาศให้ทัพแดงสลายกลับไปพักผ่อน ควรจะโหมปลุกเร้าอารมณ์เล็กน้อย  ทว่าผิดคาด ไม่มีเสียงจากนายใหญ่ออกมาปลุกขวัญกำลังใจ     ท่ามกลางความฉงนสงสัย ไฉนคลื่นดาวเทียมถึงไม่ถ่ายทอดกลับมาเมืองไทย     

ไม่แปลกที่จู่ๆมีข่าวจากกระทรวงต่างประเทศ เปิดเผย รัฐบาลยูเออี อัญเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ  พ้นประเทศ เพราะผิดข้อตกลงที่เคยรับรู้กันว่า ให้อยู่ได้แต่ห้ามใช้เป็นฐานการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เมื่อประจักษ์ชัด พ.ต.ท.ทักษิณกำลังปลุกระดมป่วนเมือง จึงเข้าล็อคต้องออกนอกประเทศ  เจอเกมนี้ทักษิณตั้งตัวไม่ติด ตระเวนหาฐานที่มั่นชั่วคราว เพื่อเตรียมส่งคลื่นปลุกเร้าเผด็จศึกรัฐบาล แต่ในเมื่อไม่พร้อมก็ต้องล้มแผน   

ไม่น่าเชื่อสถานการณ์กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม แต่การติดต่อจากทักษิณทุลักทุเล   

แม้แต่วันที่  13 มี.ค. เมื่อมวลชนเข้ายึดราชดำเนิน  ควรจะมีความยิ่งใหญ่ผ่านวีดีโอลิงก์แต่ในที่สุดกลายเป็นรายการโฟนอินและเนื้อหาส่วนใหญ่ก็เป็นการโต้ข่าวรัฐบาลยังอยู่ในยูเออี  “ ผมไม่ได้โดนยูเออีให้ออกประเทศ  แค่กำลังเตรียมตัวไปยุโรปหาบุตรสาว “

คำชี้แจงที่ออกมา สะท้อนถึงความปั่นป่วนในจิตใจ  หวั่นไหวต่อการหาถิ่นที่อยู่ มีผลบกระทบต่อการปลุกระดม ถึงแม้ว่าคืนวันที่ 14 มี.ค. จะสามารถตั้งหลักถ่ายทอดวีดีโอลิงก์มาได้แต่ ถ้าพิเคราะห์ถึงการถ่ายทอด พบว่า ติดๆขัดๆ ห้องถ่ายทอดเหมือนอยู่ในโรงแรมเล็กๆ ไม่ใช่สถานที่ในประเทศยูเออี ท่ามกลางกระแสข่าวหลบเข้ามาอยู่แถวชายแดนกัมพูชา 

ซึ่งยิ่งใกล้ประเทศไทยมากเท่าไหร่ ก็ไม่ได้เป็นผลดีต่อทักษิณเท่านั้น   



ถึงแม้ฉากหน้าของแกนนำจะแสดงพฤติกรรมให้เห็นถึงความฮึกเหิมมั่นใจล้มรัฐบาลได้สามวัน เจ็ดวัน   แต่ฉากหลังรับรู้กันแล้วว่า  เมื่อนายใหญ่พะวงต่อการตั่งศูนย์บัญชาการ ไร้ถิ่น   ย่อมมีผลต่อการเรียกความมั่นใจในการเดินเกมรุกต่อ   อย่าลืมจะล้มรัฐบาลวันเดียวหรือยืดเยื้อ นายใหญ่คนเดียวเท่านั้นที่จะชี้ทิศทางมวลชน   

สภาพกรุงเทพ กลายเป็นลาวาสีแดงเต็มท้องถนนช่างเป็นภาพตื่นตายิ่ง แต่เหนืออื่นใดท่ามกลางปริมาณมวลชนทำให้บางฝ่ายมองว่าเป็นเพียงสีสันต์ทางการเมือง  ไม่ได้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง 

หากใครมองว่านี่คือการต่อสู้ทางการเมือง อาจถูกครึ่งเดียว  เพราะอีกด้านหนึ่งจากฝ่ายรัฐ มองว่า นี่คือการต่อสู้ภัยความมั่นคง ไม่แปลกใจ ที่รัฐงัดแผนความมั่นคงมากมายออกมาดำเนินการ   ปฏิบัติการจิตวิทยามวลชนถูกนำมาใช้ ทั้งมอบความปรารถนาดีเอาน้ำเย็นเข้าลูบคนอีสาน อำนวยความสะดวกหาพื้นที่จอดรถ บริการรถรับส่งผู้ชุมุนม อลุ้มอล่วยไม่ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปล่อยให้แหกด่านเข้าประชิดถึงพื้นที่ภายในกทม. 

จัดหา น้ำดื่ม ยารักษาโรคดูแลอย่างดี           

Huh? เหตุทำเช่นนี้เพราะอะไร คำตอบมาจากหลักการต่อสู้ภัยความมั่นคง ไม่ใช่เล็งแต่วิธีสลายการชุมนุมแต่ต้องตัดชนวนใหญ่การเคลื่อนไหวเสียก่อน 

ปริมาณอาจเป็นปัจจัยสำคัญตามสายตามุมมองต่างประเทศที่จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่ปริมาณอาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในมุมมองของการแก้ไขปัญหาความมั่นคง  สิ่งที่ฝ่ายมั่นคงวางหลักไว้   เมื่อเป้าหมายใหญ่ถูกสกัดการขับเคลื่อนพลังมวลชนจะเสียศูนย์     

ไม่แปลก จึงมีหมายศาลตามจับ “กีร์ ระเบิดขวด” อริสมันต์  พงษ์เรืองรอง ไม่แปลกพ.ต.ท.ทักษิณถูกบีบพื้นที่ให้เหลือน้อยลง นานาชาติแหยงที่จะให้ถิ่นพำนักตั้งจานดาวเทียมมาหามวลชน  แม้แต่ทูตเยอรมันก็ออกมายืนยันเพื่อสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทย หากพบอดีตนายกฯติดคดี  จะตะเพิดทันที  ยิ่งส่งสัญญาณถึงประเทศอื่นที่มีความสัมพันธ์อันดีกับไทยบีบพื้นที่พ.ต.ท.ทักษิณไปในตัว   

ตัวชูโรงถูกบล็อก  ลูกน้องถูกดำเนินคดี  ยิ่งโอกาสบีบยุบสภาไม่เป็นผล โมเมนตัมย้อนกลับไปกดดันอารมณ์เสื้อแดงให้พลุ้งพล่าง      เป็นโอกาสให้รัฐโหมจิตวิทยามวลชน ยึดพื้นที่สื่อ สร้างความเข้าใจอันดีให้สังคม สร้างความชอบธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

(ข้อวิจารณ์ว่ารัฐบาลรับเกินไป แต่แท้ที่จริงเป็นการตั้งรับให้มวลชนอ่อนแรงก่อนขยับเกมรุก ใช้ความได้เปรียบทลายความไม่ปกติของเสื้อแดง  เพื่อหาทางสร้างความปกติให้บ้านเมือง




 

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #124 เมื่อ: 15 มีนาคม 2553, 10:54:48 »

ท่านผู้หญิงวิระยาโผล่่เวทีเสื้อแดงเมื่อคืนนี้

 เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลา 24.00 น. ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล กรรมการมูลนิธิสายใจไทย ได้เดินทางมาให้กำลังใจผู้ชุมนุมที่เวทีปราศรัยสะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยมีนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช.ให้การต้อนรับ โดยใช้เวลาไม่นานก็เดินทางกลับ



จากนั้น นายวีระ เปิดเผยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ท่านประกาศตัวเป็นเสื้อแดงสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ นปช.มานานแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาที่ชุมนุมด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้มีการโทรศัพท์สอบถามกันเป็นระยะ โดยท่านประสงค์จะช่วยเหลือค่าอาหารแต่ไม่เปิดเผยจำนวนเงิน สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้มีแต่ไพร่ แต่มีหลากหลายชนชั้น

จาก นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ 15 มีค.53

หมายเหตุ: วิริยา ถูกสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวหาว่า อยู่เบื้องหลัง การลอบสังหาร สนธิ เมือปีที่แล้ว
และถูกเปิดโปง กรณีการอมเงิน ขายเสื้อที่อ้างว่า นำรายได้ถวายในวัง แต่ไม่มีเงินถวาย
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
  หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 33  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><