Greeting From Germany part IV : Just For You... EM 2020! (UEFA Europa Cup 2020)

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 05 กรกฎาคม 2555, 14:53:58
	อ้างถึง ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 05 กรกฎาคม 2555, 08:46:31 ...อนุโมทนาได้จ้ะ...น้องหนุงหนิง... ...เวลาใครเค้ากำลังถวายอะไรอยู่... ...ถ้าเรายกมือขึ้นอนุโมทนา... ...เราก็จะได้บุญเหมือนกันค่ะ... ...ดังนั้นเวลาใครทำบุญอะไร...กล่าวอนุโมทนา...ยินดีในบุญของคนอื่น... ...ส่วนคนที่ชอบไปแขวะไปขวางการทำบุญของคนอื่น... ...นอกจากไม่ได้บุญแล้ว...บางทีอาจเป็นบาปโดยไม่ได้ตั้งใจด้วยค่ะ... เอ,ยินดีในบุญของผู้อื่น.. กะการทำเองในความหมายที่หนิงหมายถึง ก็ยังคนละอย่างกันอยู่ดีนี่คะพี่ตู่?? ยกตัวอย่าง,บุคคลที่ชอบทำบุญ เค้าจะอิ่มในบุญที่เค้าประกอบทำ (ตั้งใจ,ลงทุน,ลงแรง,บากบั่น, เสียสละเวลา เพื่อละจากหน้าที่อื่น เพื่อไปประกอบการทำบุญ..) นั่นคือผลบุญที่เค้าได้รับ จากการ"ให้" จิตเค้าจะผ่องใสปลอดโปร่งว่าได้ประกอบ การที่ส่งผลดีแก่ผู้อื่น ตัวเค้าละจากการตระหนี่ ทีนี้การอนุโมทนา...ยกจบหัว ใส่ซองช่วย ฝากไปทำบุญด้วย...หนิงก็ยังมองว่าอย่างน้อย เค้าก็ได้พยายามประกอบการทำบุญในแบบ ที่ง่ายที่สุดเท่าที่ความสะดวกของเค้าจะอำนวย "ฝาก"ไปทำบุญ...เคยเห็นถึงขนาด"ฝาก"อาหาร ไปใส่บาตร...นี่ยังถือว่าได้พยายามทำอะไรบ้าง. แต่ประการสุดท้ายนี่ พี่ตู่ขา.. ไม่ทำอะไรเลย ไม่ลงทุนอะไรเลย ไม่เสียสละอะไรเลย แต่,ยกมือจบ อนุโมทนา ...ฉันได้รับบุญด้วย เท่าเทียมหรือมากกว่า...ตามแต่จิตจะติ๊ต่าง ว่าผู้ที่ไปประกอบทำบุญได้เท่าไหร่ ฉันก็จะอนุโมทนาได้เท่ากัน?? โอยยยย.. หนิงคิดแบบฝรั่งจริงๆด้วยคะพี่ตู่ของหนู!!

              อย่างน้อย มันก็ได้ความสุข และตนเอง ณ เวลานั้นไม่ได้ทำบาป  นี่ละกุศลแท้จริงกับตนเอง ครับ

               สวัสดี

[khesorn mueller]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 05 กรกฎาคม 2555, 15:01:31
	เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑ มิถุนายน พี่สิงห์ ก็ไปทำบุญเพล ที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เนื่องในวาระครบ ๑๐๐ วัน ที่พี่กุ้งเสียชีวิตลง ด้วยโรคมะเร็ง                              ทุกครั้งที่พระให้พรเวลาใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน และไปทำบุญ พี่สิงห์จะแผ่เมตตาอุทิศผลบุญนั้น ให้กับแม่พี่สิงห์ คุณพัชรี( RCU 24)ที่กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง และพี่กุ้ง ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง พร้อมทั้งเพื่อนฝูงชาวซีมะโด่ง สรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นประจำ ครับ                              ไปครั้งนี้เป็นวันอาทิตย์ พระเลยน้อย และได้ไปเห็นเด็กนักเรียนมาทำบุญ ฟังธรรม ที่วัด จึงนำภาพมาฝากครับ                              สวัสดี

พี่สิงห์,
หนิงรู้สึกเศร้าไปกับข่าวร้ายนี้จัง.
เพียงได้ยินว่าใครป่วย..ก็เป็นความทุกข์อยู่แล้วคะ
ไม่เฉพาะเจ้าตัว..ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง บุคคลใกล้ชิด..
ล้วนอยากร่วมในความทุกข์ ความเจ็บ เพื่อให้เค้าบรรเทา
ทุเลาลงในเร็ววัน..

พี่กุ้งนี่ ชาวหอเหรอคะพี่สิงห์?
เสียเมื่อไหร่คะ?

พี่พัชรี 24...โอ,ใช่ที่หนิงนึกภาพไว้รึปล่าวนี่
ตกใจอีกแล้วคะเนี่ย..

[khesorn mueller]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 05 กรกฎาคม 2555, 15:06:18
	อย่างน้อย มันก็ได้ความสุข และตนเอง ณ เวลานั้นไม่ได้ทำบาป  นี่ละกุศลแท้จริงกับตนเอง ครับ                สวัสดี

ความสุข คือ บุญ ใช่มั้ยคะพี่สิงห์?
คนมีความสุข คือ คนที่มีบุญ?

จะได้ทำบุญ หรือ ไม่ได้ทำบุญในรูปธรรม เค้าก็มีความสุข?
แต่ความสุข เพิ่มหรือลดปริมาตร ปริมาณได้ คือใช้ไป กินบุญเก่า
มีแต่หมดลงหากไม่ชดเชย?

บุญกะบาป คนละเรื่องกัน..ชดเชยคละเคล้าเฉลี่ยกันไม่ได้?
หักกลบลบหนี้กันก็ไม่ได้ด้วย?

จริงๆแล้ว..
ทุกอย่างก็แยกแยะกันดีนี่คะพี่
ไม่ได้ยากต่อการเข้าใจ..

บุญก็คือ บุญ
บาปก็ส่วนบาป
ทุกข์ก็ส่วนทุกข์
สุขก็ต่างหาก..

เอ,แล้วกุศลนี่..
เป็น"ผล"ของบุญใช่มั้ยคะ?
บุญที่มีมากๆเป็นดอกเบี้ยคือกุศล?

พี่อย่าทำให้หนิงงงคะ
หนูไม่ชอบคิดซับซ้อน.

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 05 กรกฎาคม 2555, 15:34:24
	อ้างถึง ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 05 กรกฎาคม 2555, 15:01:31                              เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑ มิถุนายน พี่สิงห์ ก็ไปทำบุญเพล ที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เนื่องในวาระครบ ๑๐๐ วัน ที่พี่กุ้งเสียชีวิตลง ด้วยโรคมะเร็ง                              ทุกครั้งที่พระให้พรเวลาใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน และไปทำบุญ พี่สิงห์จะแผ่เมตตาอุทิศผลบุญนั้น ให้กับแม่พี่สิงห์ คุณพัชรี( RCU 24)ที่กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง และพี่กุ้ง ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง พร้อมทั้งเพื่อนฝูงชาวซีมะโด่ง สรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นประจำ ครับ                              ไปครั้งนี้เป็นวันอาทิตย์ พระเลยน้อย และได้ไปเห็นเด็กนักเรียนมาทำบุญ ฟังธรรม ที่วัด จึงนำภาพมาฝากครับ                              สวัสดี พี่สิงห์, หนิงรู้สึกเศร้าไปกับข่าวร้ายนี้จัง. เพียงได้ยินว่าใครป่วย..ก็เป็นความทุกข์อยู่แล้วคะ ไม่เฉพาะเจ้าตัว..ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง บุคคลใกล้ชิด.. ล้วนอยากร่วมในความทุกข์ ความเจ็บ เพื่อให้เค้าบรรเทา ทุเลาลงในเร็ววัน.. พี่กุ้งนี่ ชาวหอเหรอคะพี่สิงห์? เสียเมื่อไหร่คะ? พี่พัชรี 24...โอ,ใช่ที่หนิงนึกภาพไว้รึปล่าวนี่ ตกใจอีกแล้วคะเนี่ย..

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                                  พี่กุ้ง เป็นเจ้านาย เป็นภรรยาพี่พงษ์ศักดิ์ และเป็นประธาน บริษัท P.S.T.C. concrete จำกัด ที่สระบุรี ไม่ใช่ชาวซีมะโด่ง แต่เคารพกันมานานมากกว่า ๓๐ ปี

                                  ส่วนคุณพัชรี  นั้น ก็คือคนที่เธอคิดนั่นแหละ ถูกต้อง แต่ไม่ต้องกังวล เธอทำใจได้  วันที่พี่สิงห์ ไปเยี่ยมที่บ้าน ก็ได้คุยธรรมะให้ฟัง  ให้ปฏิบัติธรรม เธอปล่อยวางได้  ยอมรับได้  และขณะนี้สบายดี  เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายในการรักษา คือ ฉีดวัคซีนป้องกัน ไปตามฆ่าให้สิ้นซาก เพราะเกิดจากกรรมพันธ์ มิใช่จากโปรตีน  เธอปฏิบัติตัวเองได้ดีมาก  จึงไม่ทุกข์อะไรเลย  พี่สิงห์  ให้เธอไม่ต้องคิด และห่วงอะไรทั้งสิ้น  อยู่กับมัน  เอามันเป็นเพื่อนถ้าเขายังอยู่  ลูกสองคนก็บวชให้แม่หมดแล้ว  มีทุกอย่างสมบูรณ์แล้ว  ความทุกข์  กลัว  กังวล  จึงเอาชนะสติตนเธอเองไม่ได้  ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง ครับ

                                   ตอนนี้คิดว่าเธอหายแล้ว ครับ

                                   สวัสดี

[Manop Klabdee]

		อ้างถึง			ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 05 กรกฎาคม 2555, 15:46:31
	อ้างถึง ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 05 กรกฎาคม 2555, 15:06:18               อย่างน้อย มันก็ได้ความสุข และตนเอง ณ เวลานั้นไม่ได้ทำบาป  นี่ละกุศลแท้จริงกับตนเอง ครับ                สวัสดี ความสุข คือ บุญ ใช่มั้ยคะพี่สิงห์? คนมีความสุข คือ คนที่มีบุญ? จะได้ทำบุญ หรือ ไม่ได้ทำบุญในรูปธรรม เค้าก็มีความสุข? แต่ความสุข เพิ่มหรือลดปริมาตร ปริมาณได้ คือใช้ไป กินบุญเก่า มีแต่หมดลงหากไม่ชดเชย? บุญกะบาป คนละเรื่องกัน..ชดเชยคละเคล้าเฉลี่ยกันไม่ได้? หักกลบลบหนี้กันก็ไม่ได้ด้วย? จริงๆแล้ว.. ทุกอย่างก็แยกแยะกันดีนี่คะพี่ ไม่ได้ยากต่อการเข้าใจ.. บุญก็คือ บุญ บาปก็ส่วนบาป ทุกข์ก็ส่วนทุกข์ สุขก็ต่างหาก.. เอ,แล้วกุศลนี่.. เป็น"ผล"ของบุญใช่มั้ยคะ? บุญที่มีมากๆเป็นดอกเบี้ยคือกุศล? พี่อย่าทำให้หนิงงงคะ หนูไม่ชอบคิดซับซ้อน.

                           "กุศล"  ไม่ใช่เป็นผลของ "บุญ" หรือ "ความสุข"

                           แต่ "บุญ" หรือ "ความสุข" ต่างหากที่ผลของ "กุศล"

                           "กุศล" ก็เป็นกรรม(การกระทำ) ชนิดหนึ่งที่ต้องกระทำ ที่เน้นเฉพาะการกระทำที่เป็นความดี สิ่งดีๆ ทำดี พูดดี คิดดี ที่ผู้รู้(วิญญูชนม์)ทั้งหลายพึงยอมรับว่าเป็นสิ่งที่สมควรกระทำ เช่น ไม่เบียดเบียนสัตว์  ไม่ฆ่าสัตว์  ไม่ลักทรัพย์ ไม่พูดในทางไม่ดีทั้งหลาย...... รวมทั้งการกระทำที่สร้างความสงบสุขให้เกิดต่อสังคม  บ้านเมือง หรือ การช่วยเหลือ  อนุเคาระห์ต่างๆ..... ครับ

                           พระพุทธองค์ ถึงให้ทำความเพียร ๔ ประการเสมอ(สัมมัปธาน ๔) คือ ทำกุศล ที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้น ละอกุศลที่ยังไม่เกิด ไม่ให้เกิดขึ้น ละอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ให้หมดไป และเจริญกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ด้วยความเพียร อย่างสม่ำเสมอ อยู่เป็นนิจ

                           ส่วน "อกุศล"  คือ ความหมายของการกระทำในทางที่ตรงกันข้ามกับ "กุศล"

                           ส่วน "ดร.กุศล"  นั้น ต้องไปถามเจ้าตัวเอาเอง เพราะผมไม่รู้  รู้แต่เพียงว่า มนุษย์ตนนั้น ที่มีรูปร่างแบบนั้น เมื่อตาเห็น จิตมันจะนึกจากความจำ(สัญญา)ขึ้นมาได้ว่า รูปนั้น เขาสมมติให้ชื่อ "ดร.กุศล" เป็นอันเข้าใจกันได้ ครับ

                           สวัสดี

[khesorn mueller]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 06 กรกฎาคม 2555, 10:06:29
	สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก                                   พี่กุ้ง เป็นเจ้านาย เป็นภรรยาพี่พงษ์ศักดิ์ และเป็นประธาน บริษัท P.S.T.C. concrete จำกัด ที่สระบุรี ไม่ใช่ชาวซีมะโด่ง แต่เคารพกันมานานมากกว่า ๓๐ ปี                                   ส่วนคุณพัชรี  นั้น ก็คือคนที่เธอคิดนั่นแหละ ถูกต้อง แต่ไม่ต้องกังวล เธอทำใจได้  วันที่พี่สิงห์ ไปเยี่ยมที่บ้าน ก็ได้คุยธรรมะให้ฟัง  ให้ปฏิบัติธรรม เธอปล่อยวางได้  ยอมรับได้  และขณะนี้สบายดี  เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายในการรักษา คือ ฉีดวัคซีนป้องกัน ไปตามฆ่าให้สิ้นซาก เพราะเกิดจากกรรมพันธ์ มิใช่จากโปรตีน  เธอปฏิบัติตัวเองได้ดีมาก  จึงไม่ทุกข์อะไรเลย  พี่สิงห์  ให้เธอไม่ต้องคิด และห่วงอะไรทั้งสิ้น  อยู่กับมัน  เอามันเป็นเพื่อนถ้าเขายังอยู่  ลูกสองคนก็บวชให้แม่หมดแล้ว  มีทุกอย่างสมบูรณ์แล้ว  ความทุกข์  กลัว  กังวล  จึงเอาชนะสติตนเธอเองไม่ได้  ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง ครับ                                    ตอนนี้คิดว่าเธอหายแล้ว ครับ                                    สวัสดี

พี่สิงห์ขา,
ขอบพระคุณคะ.
หนิงเอาใจช่วยพี่เค้าคะ..
เป็นการต่อสู้ที่อ้างว้าง
ที่หนัก ที่ต้องเดิมพัน
เพราะบุคคลใกล้ตัวจะเสียขวัญ
เป็นสภาวะที่จิตคะ สำคัญ.

[khesorn mueller]

		อ้างถึง			ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 06 กรกฎาคม 2555, 10:16:41
	"กุศล"  ไม่ใช่เป็นผลของ "บุญ" หรือ "ความสุข"                            แต่ "บุญ" หรือ "ความสุข" ต่างหากที่ผลของ "กุศล"                            "กุศล" ก็เป็นกรรม(การกระทำ) ชนิดหนึ่งที่ต้องกระทำ ที่เน้นเฉพาะการกระทำที่เป็นความดี สิ่งดีๆ ทำดี พูดดี คิดดี ที่ผู้รู้(วิญญูชนม์)ทั้งหลายพึงยอมรับว่าเป็นสิ่งที่สมควรกระทำ เช่น ไม่เบียดเบียนสัตว์  ไม่ฆ่าสัตว์  ไม่ลักทรัพย์ ไม่พูดในทางไม่ดีทั้งหลาย...... รวมทั้งการกระทำที่สร้างความสงบสุขให้เกิดต่อสังคม  บ้านเมือง หรือ การช่วยเหลือ  อนุเคาระห์ต่างๆ..... ครับ                            พระพุทธองค์ ถึงให้ทำความเพียร ๔ ประการเสมอ(สัมมัปธาน ๔) คือ ทำกุศล ที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้น ละอกุศลที่ยังไม่เกิด ไม่ให้เกิดขึ้น ละอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ให้หมดไป และเจริยกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ด้วยความเพียร อย่างสม่ำเสมอ อยู่เป็นนิจ                            ส่วน "อกุศล"  คือ ความหมายของการกระทำในทางที่ตรงกันข้ามกับ "กุศล"                            ส่วน "ดร.กุศล"  นั้น ต้องไปถามเจ้าตัวเอาเอง เพราะผมไม่รู้  รู้แต่เพียงว่า มนุษย์ตนนั้น ที่มีรูปร่างแบบนั้น เมื่อตาเห็น จิตมันจะนึกจากความจำ(สัญญา)ขึ้นมาได้ว่า รูปนั้น เขาสมมติให้ชื่อ "ดร.กุศล" เป็นอันเข้าใจกันได้ ครับ                            สวัสดี

พี่สิงห์ง่ะ..
หนิงกำลังเคลิบเคลิ้มตั้งใจ
อ่านด้วยความไคร่ครวญจริงจัง
มาตื่นตัวสุดขีดตรงตอนท้าย!!
พี่ดร.กุศล ผุดภาพขึ้นมาทันใด
ให้คิดถึง!!
จริงด้วยคะ..ไม่ผิดเลย ที่ว่า:
กุศล..คือ บุญ และ ความสุข.

[khesorn mueller]

พี่ๆน้องๆคะ
ด้วยวันก่อนคุยกะพี่สิงห์เรื่องงานกีฬาโอลิมปิค ลอนดอน 2012
ที่จะมีขึ้นปลายเดือนนี้...27 July- 12 Aug. 2012

ว่าจะคอยตามข่าวมาลงที่นี่
พอดีไปเจอะฟิล์มดีนี้ของสถานีข่าวของรัฐ
96 MB คะ ไม่ต้องแปลก็ชมรู้เรื่องคะ
พูดถึงที่จัด(ลอนดอน) นักกีฬาจากที่ต่างๆ
อดีตนักกีฬาที่ยังมีบทบาท พูดถึงนักกีฬา
จากประเทศที่außergewöhnlich..

Countdown für London 2012

ยังชมไม่จบคะขณะที่พยายามแปะ
ชมไปพร้อมๆกันเลยคะ

<a href="http://122.155.18.14/~zp00000612/mediaplayer.swf?file=http://media.ndr.de/progressive_geo/2012/0531/TV-20120531-1211-5501.hi.mp4" target="_blank">http://122.155.18.14/~zp00000612/mediaplayer.swf?file=http://media.ndr.de/progressive_geo/2012/0531/TV-20120531-1211-5501.hi.mp4</a>

Quelle: http://olympia.ard.de/london2012/videos/olympia523.html

[khesorn mueller]

ชมtrailerของเค้าคะ
HD

<a href="http://122.155.18.14/~zp00000612/mediaplayer.swf?file=http://media.ndr.de/progressive_geo/2012/0702/TV-20120702-1441-3401.hi.mp4" target="_blank">http://122.155.18.14/~zp00000612/mediaplayer.swf?file=http://media.ndr.de/progressive_geo/2012/0702/TV-20120702-1441-3401.hi.mp4</a>

Quelle: http://olympia.ard.de/london2012/videos/olympia531.html

[khesorn mueller]

2 ฟิล์มข้างบน
ทราบว่า..ที่เมืองไทยดูไม่ได้
นอกเขตเยอรมันนีเค้าไม่ให้ดู
จบเห่คะ....ฟิล์มดีดี๊

เดี๋ยวหาใหม่คะ

[too_ploenpit]

		อ้างถึง			ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 05 กรกฎาคม 2555, 14:53:58
	อ้างถึง ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 05 กรกฎาคม 2555, 08:46:31 ...อนุโมทนาได้จ้ะ...น้องหนุงหนิง... ...เวลาใครเค้ากำลังถวายอะไรอยู่... ...ถ้าเรายกมือขึ้นอนุโมทนา... ...เราก็จะได้บุญเหมือนกันค่ะ... ...ดังนั้นเวลาใครทำบุญอะไร...กล่าวอนุโมทนา...ยินดีในบุญของคนอื่น... ...ส่วนคนที่ชอบไปแขวะไปขวางการทำบุญของคนอื่น... ...นอกจากไม่ได้บุญแล้ว...บางทีอาจเป็นบาปโดยไม่ได้ตั้งใจด้วยค่ะ... เอ,ยินดีในบุญของผู้อื่น.. กะการทำเองในความหมายที่หนิงหมายถึง ก็ยังคนละอย่างกันอยู่ดีนี่คะพี่ตู่?? ยกตัวอย่าง,บุคคลที่ชอบทำบุญ เค้าจะอิ่มในบุญที่เค้าประกอบทำ (ตั้งใจ,ลงทุน,ลงแรง,บากบั่น, เสียสละเวลา เพื่อละจากหน้าที่อื่น เพื่อไปประกอบการทำบุญ..) นั่นคือผลบุญที่เค้าได้รับ จากการ"ให้" จิตเค้าจะผ่องใสปลอดโปร่งว่าได้ประกอบ การที่ส่งผลดีแก่ผู้อื่น ตัวเค้าละจากการตระหนี่ ทีนี้การอนุโมทนา...ยกจบหัว ใส่ซองช่วย ฝากไปทำบุญด้วย...หนิงก็ยังมองว่าอย่างน้อย เค้าก็ได้พยายามประกอบการทำบุญในแบบ ที่ง่ายที่สุดเท่าที่ความสะดวกของเค้าจะอำนวย "ฝาก"ไปทำบุญ...เคยเห็นถึงขนาด"ฝาก"อาหาร ไปใส่บาตร...นี่ยังถือว่าได้พยายามทำอะไรบ้าง. แต่ประการสุดท้ายนี่ พี่ตู่ขา.. ไม่ทำอะไรเลย ไม่ลงทุนอะไรเลย ไม่เสียสละอะไรเลย แต่,ยกมือจบ อนุโมทนา ...ฉันได้รับบุญด้วย เท่าเทียมหรือมากกว่า...ตามแต่จิตจะติ๊ต่าง ว่าผู้ที่ไปประกอบทำบุญได้เท่าไหร่ ฉันก็จะอนุโมทนาได้เท่ากัน?? โอยยยย.. หนิงคิดแบบฝรั่งจริงๆด้วยคะพี่ตู่ของหนู!!

...เคยเห็นหลวงพ่อบางวัดท่านเปรียบเทียบให้ฟัง...

...ให้เห็นง่ายๆเป็นรูปธรรม...ว่ายินดีในบุญของคนอื่น...เราจะได้ประมาณ 30 เปอร์เซ็นค่ะ...

...ถ้าคนที่มีจิตเป็นกุศล...ทำไม่ยาก...

...แต่บางคนอาจคิด...เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง...หรือทำไปนานๆ...ก็หยุดทำเพราะเมื่อยมือ...

...หรือเกิดอวิชชาเพราะไม่ศรัทธา...อันนี้ก็พูดยากค่ะ...มันมองไม่เห็น...

...ส่วนบุญที่ฝากเค้าไปทำ...สู้เราทำเองไม่ได้ค่ะ...

...เราฝากของให้คนอื่นไปทำบุญแทน...

...คนๆนั้นจะได้รับบุญมากกว่าเรา...

...พี่ตู่ฟังหลวงพ่อเทศน์มาค่ะ...หรือบางทีก็อ่านหนังสือมา...

[khesorn mueller]

		อ้างถึง			ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 10 กรกฎาคม 2555, 09:09:48
	...เคยเห็นหลวงพ่อบางวัดท่านเปรียบเทียบให้ฟัง... ...ให้เห็นง่ายๆเป็นรูปธรรม...ว่ายินดีในบุญของคนอื่น...เราจะได้ประมาณ 30 เปอร์เซ็นค่ะ... ...ถ้าคนที่มีจิตเป็นกุศล...ทำไม่ยาก... ...แต่บางคนอาจคิด...เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง...หรือทำไปนานๆ...ก็หยุดทำเพราะเมื่อยมือ... ...หรือเกิดอวิชชาเพราะไม่ศรัทธา...อันนี้ก็พูดยากค่ะ...มันมองไม่เห็น... ...ส่วนบุญที่ฝากเค้าไปทำ...สู้เราทำเองไม่ได้ค่ะ... ...เราฝากของให้คนอื่นไปทำบุญแทน... ...คนๆนั้นจะได้รับบุญมากกว่าเรา... ...พี่ตู่ฟังหลวงพ่อเทศน์มาค่ะ...หรือบางทีก็อ่านหนังสือมา...

โห พี่ตู่,ตั้ง 30 %เชียวเหรอคะ?
1ใน 3 ของคนที่ต้องไปร้อน..
ไปไกล ดั้นด้น ฝ่าฟัน ตั้งใจ
เพื่อตระเตรียม ขนไป ขับไป
เข้าไปให้ถึง ซึ่งการ...ทำบุญ?

อย่างงี้,หนิงคิดใหม่คะ:
ถ้าหากการทำบุญ ทำไปแล้ว
ไม่ได้บอกใคร ลืมบอก
เพราะไม่ต้องการรบกวนใคร
เพราะไม่รู้จะบอกไปทำไม
เพราะเป็นเรื่องของเรา เป็นprivate
ต้องการทำเงียบๆ ต้องการการทำ
ในขอบเขต...ถามว่า,เราบาป
เราไปปิดกั้นการจ่ายแจก 30 %
"บุญ"ที่ควร"บอก"ต่อไปยังทุกผู้,
ผู้ที่ซึ่ง...รู้แล้ว อาจผ่านๆ อาจไม่ได้แม้แต่
นึกภาพตาม อาจอนุโมทนาไปงั้นๆ
อาจไม่ได้อยากจะตามเราไปทำด้วย..ฯลฯ

hmmm,พี่ตู่คะ
หลายแง่จริงด้วยค่ะ

หนิงยังเชื่อในเรื่อง"give and take"ที่มีสุขภาพคะ
ไม่มีการให้อย่างเดียว หรือรับอย่างเดียว..ไม่ว่า
จะในหรือนอก ขาดความสมดุลในจุดนี้เมื่อไหร่
จะบุญหรือบาป...กลายเป็นเรื่องเอกกัตตะบุคคลคะ
เค้ามองยังไงจากมุมเค้า และอีกฟากนึงมองยังไง..

แต่กุศลจิต..ไม่ควรที่จะผูกกะการกระทำในสิ่งของ
ในรูปธรรมอย่างเดียวคะ ไม่งั้น,อย่างการ"ทำบุญ"
กลายเป็นเรื่อง ทำเพื่อได้...ได้อะไร...ได้เท่าไหร่
มากน้อยแค่ไหน..ยาวไกลไปถึง ทำมาก ได้มาก
ทำน้อย ได้น้อย

หนิงเห็นวัดลาวที่โน่น,ให้เขียน ให้บอก ใครใส่ซอง
เท่าไหร่...สาวๆญาติโยม จบกันหลายร้อย €
ไร้ความสมดุล ตรงที่...เป็นหลายร้อย € ที่พวกเธอ
กว่าจะทำมาหาได้ยากเย็น อย่าพักต้องไปทราบที่มา
เบื้องหลังว่ากว่าจะทำมาได้ต้องเบียดเสียนความเป็นอยู่
ของแต่ละคนยังไง...

ขณะเดียวกัน หนิงแฝงไปโบสถ์กะครอบครัว
รู้จักเห็นหน้าคนที่ไป..ว่าฐานะความเป็นอยู่ของพวกเค้า
เป็นยังไง กระนั้น,การหยอดตู้ตรงประตูทางออก
ของพวกเค้าคะ มีเหตุมีผลที่ทำให้เราไม่รู้สึกว่า..
เราทำน้อยไป จะได้บุญน้อย?ต้องหยอดให้มากกว่า
เกินหน้าคนอื่นๆมั้ย? บาทหลวงจะมาเทศน์ว่ากล่าวคนไป
ว่าต้องลดความตระหนี่ และต้องให้ให้มากขึ้น? ไม่คะ!
บาทหลวงที่มีเงินเดือนเหมือนข้าราชการ รายงานเรียบร้อย
อาทิตย์ที่แล้วญาติโยมมาฟังเทศน์ บริจาคเงิน 125 €
ขอขอบคุณในกุศลทุกผู้...เงินนั้นเข้ากองทุนที่มียอดเท่านั้น
เท่านี้...รายจ่ายเท่านั้นเท่านี้ค่าดอกไม้ ค่าเทียนไข..
เหลือเท่านี้ โบสถ์ยินดีเป็นที่ยิ่ง....

แหม่พี่,เราหยอด5 € 10 € ดีใจสุดๆที่ได้ยินแบบนั้น
เป็นความปลื้ม เป็นความปิติ เป็นอะไรดีคะ
ที่แค่ไปฟังอย่างเดียว..เหมือนชำระจิตให้
คิดตาม เพราะที่เค้าเทศน์เป็นชีวิตประจำวันที่
ทั้งบาทหลวง ทั้งญาติโยมคนฟัง..เรื่องเดียวกัน
ไม่มีปาฏิหาริย์ ไม่มีมหัศจรรย์ ลี้ลับลวงใดๆ
เรื่องที่ไม่เลือกฐานะคนฟัง ไม่แยกคนฟัง
เรากลับบ้าน ไปดำเนินชีวิตปกติ...

ตรงนี้คะ,การได้มีโอกาส เห็น คิด กระทำ
ทำให้เรื่องบุญ เรื่องทำบุญ สำหรับหนิง
...neutral!

[Manop Klabdee]

"กรรม คือการกระทำ"

ใครทำ "กรรม" อะไรไว้  ย่อมได้รับผล"กรรม" นั้นเสมอ จะช้า หรือเร็วเท่านั้น

ทำดี ย่อมได้รับผลดี

ทำชั่ว ย่อมได้รับผลชั่ว

เราหนี "กรรม" นั้นไปไม่พ้น

พระพุทธองค์ ทรงสอนไว้อย่างนี้

การอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ จริง

[khesorn mueller]

แล้ว,
พี่สิงห์ต้องการจะบอกอะไรคะ?
เอาที่พี่สิงห์บอกนะคะ
หลวงพ่อ ไม่เอาคะ!
เพราะก็คือเค้าบอกนั่นแหละพี่!

[too_ploenpit]

		อ้างถึง			ข้อความของ khesorn mueller เมื่อ 10 กรกฎาคม 2555, 19:38:41
	อ้างถึง ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 10 กรกฎาคม 2555, 09:09:48 ...เคยเห็นหลวงพ่อบางวัดท่านเปรียบเทียบให้ฟัง... ...ให้เห็นง่ายๆเป็นรูปธรรม...ว่ายินดีในบุญของคนอื่น...เราจะได้ประมาณ 30 เปอร์เซ็นค่ะ... ...ถ้าคนที่มีจิตเป็นกุศล...ทำไม่ยาก... ...แต่บางคนอาจคิด...เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง...หรือทำไปนานๆ...ก็หยุดทำเพราะเมื่อยมือ... ...หรือเกิดอวิชชาเพราะไม่ศรัทธา...อันนี้ก็พูดยากค่ะ...มันมองไม่เห็น... ...ส่วนบุญที่ฝากเค้าไปทำ...สู้เราทำเองไม่ได้ค่ะ... ...เราฝากของให้คนอื่นไปทำบุญแทน... ...คนๆนั้นจะได้รับบุญมากกว่าเรา... ...พี่ตู่ฟังหลวงพ่อเทศน์มาค่ะ...หรือบางทีก็อ่านหนังสือมา... โห พี่ตู่,ตั้ง 30 %เชียวเหรอคะ? 1ใน 3 ของคนที่ต้องไปร้อน.. ไปไกล ดั้นด้น ฝ่าฟัน ตั้งใจ เพื่อตระเตรียม ขนไป ขับไป เข้าไปให้ถึง ซึ่งการ...ทำบุญ? อย่างงี้,หนิงคิดใหม่คะ: ถ้าหากการทำบุญ ทำไปแล้ว ไม่ได้บอกใคร ลืมบอก เพราะไม่ต้องการรบกวนใคร เพราะไม่รู้จะบอกไปทำไม เพราะเป็นเรื่องของเรา เป็นprivate ต้องการทำเงียบๆ ต้องการการทำ ในขอบเขต...ถามว่า,เราบาป เราไปปิดกั้นการจ่ายแจก 30 % "บุญ"ที่ควร"บอก"ต่อไปยังทุกผู้, ผู้ที่ซึ่ง...รู้แล้ว อาจผ่านๆ อาจไม่ได้แม้แต่ นึกภาพตาม อาจอนุโมทนาไปงั้นๆ อาจไม่ได้อยากจะตามเราไปทำด้วย..ฯลฯ hmmm,พี่ตู่คะ หลายแง่จริงด้วยค่ะ หนิงยังเชื่อในเรื่อง"give and take"ที่มีสุขภาพคะ ไม่มีการให้อย่างเดียว หรือรับอย่างเดียว..ไม่ว่า จะในหรือนอก ขาดความสมดุลในจุดนี้เมื่อไหร่ จะบุญหรือบาป...กลายเป็นเรื่องเอกกัตตะบุคคลคะ เค้ามองยังไงจากมุมเค้า และอีกฟากนึงมองยังไง.. แต่กุศลจิต..ไม่ควรที่จะผูกกะการกระทำในสิ่งของ ในรูปธรรมอย่างเดียวคะ ไม่งั้น,อย่างการ"ทำบุญ" กลายเป็นเรื่อง ทำเพื่อได้...ได้อะไร...ได้เท่าไหร่ มากน้อยแค่ไหน..ยาวไกลไปถึง ทำมาก ได้มาก ทำน้อย ได้น้อย หนิงเห็นวัดลาวที่โน่น,ให้เขียน ให้บอก ใครใส่ซอง เท่าไหร่...สาวๆญาติโยม จบกันหลายร้อย € ไร้ความสมดุล ตรงที่...เป็นหลายร้อย € ที่พวกเธอ กว่าจะทำมาหาได้ยากเย็น อย่าพักต้องไปทราบที่มา เบื้องหลังว่ากว่าจะทำมาได้ต้องเบียดเสียนความเป็นอยู่ ของแต่ละคนยังไง... ขณะเดียวกัน หนิงแฝงไปโบสถ์กะครอบครัว รู้จักเห็นหน้าคนที่ไป..ว่าฐานะความเป็นอยู่ของพวกเค้า เป็นยังไง กระนั้น,การหยอดตู้ตรงประตูทางออก ของพวกเค้าคะ มีเหตุมีผลที่ทำให้เราไม่รู้สึกว่า.. เราทำน้อยไป จะได้บุญน้อย?ต้องหยอดให้มากกว่า เกินหน้าคนอื่นๆมั้ย? บาทหลวงจะมาเทศน์ว่ากล่าวคนไป ว่าต้องลดความตระหนี่ และต้องให้ให้มากขึ้น? ไม่คะ! บาทหลวงที่มีเงินเดือนเหมือนข้าราชการ รายงานเรียบร้อย อาทิตย์ที่แล้วญาติโยมมาฟังเทศน์ บริจาคเงิน 125 € ขอขอบคุณในกุศลทุกผู้...เงินนั้นเข้ากองทุนที่มียอดเท่านั้น เท่านี้...รายจ่ายเท่านั้นเท่านี้ค่าดอกไม้ ค่าเทียนไข.. เหลือเท่านี้ โบสถ์ยินดีเป็นที่ยิ่ง.... แหม่พี่,เราหยอด5 € 10 € ดีใจสุดๆที่ได้ยินแบบนั้น เป็นความปลื้ม เป็นความปิติ เป็นอะไรดีคะ ที่แค่ไปฟังอย่างเดียว..เหมือนชำระจิตให้ คิดตาม เพราะที่เค้าเทศน์เป็นชีวิตประจำวันที่ ทั้งบาทหลวง ทั้งญาติโยมคนฟัง..เรื่องเดียวกัน ไม่มีปาฏิหาริย์ ไม่มีมหัศจรรย์ ลี้ลับลวงใดๆ เรื่องที่ไม่เลือกฐานะคนฟัง ไม่แยกคนฟัง เรากลับบ้าน ไปดำเนินชีวิตปกติ... ตรงนี้คะ,การได้มีโอกาส เห็น คิด กระทำ ทำให้เรื่องบุญ เรื่องทำบุญ สำหรับหนิง ...neutral!

...น้องหนุงหนิงคะ...

...บาปบุญที่ได้รับ...ไม่ได้ตัดสินจากบุญอันใดอันหนึ่งอย่างเดียว...

...การทำบุญมีหลายวิธี...และจะได้บุญมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลายอย่างค่ะ...

...ทั้งผู้ให้...ผู้รับ...และสิ่งของที่นำมาทำบุญได้มาโดยถูกต้องหรือไม่...

...รายละเอียดเยอะมาก...ถ้าสนใจต้องไปหาหนังสือธรรมะอ่านค่ะ...

...หรือขอจากอากู๋ก็ได้ค่ะ...

...คนเราเกิดมาไม่รู้กี่ร้อยชาติแล้ว(ถ้าพูดแบบผู้ที่มีศรัทธาในศาสนาพุทธ)...

...แต่ละชาติก็ทำบุญและกรรมกันมามากมาย...

...แต่ละคนจึงมีทั้งความดีและความชั่วอยู่ในตัวค่ะ...

...บุญบางอย่างได้บุญมากโดยไม่ต้องใช้เงินก็มี...เช่น...วิปัสนา...

...ส่วนที่น้องหนุงหนิงเห็นว่า...30 เปอร์เซ็นที่ได้จากการอนุโมทนามากไป...

...อันนี้หมายถึงว่าเป็นการอนุโมทนาในขณะที่ผู้นั้นกำลังทำบุญอยู่นะคะ...

...ถ้าอนุโมทนาภายหลัง...ผลบุญที่ได้คงลดน้อยลงค่ะ...

...ลองคิดดูว่าในขณะที่ผู้ใดผู้หนึ่งกำลังทำบุญอยู่...เช่น...กำลังตัดสินใจหยอดตู้ทำบุญ...

...แต่มีคนมาขัดการทำบุญโดยการกล่าววาจาอะไรก็ได้ให้เราลังเล...และไม่ใส่เงินลงตู้...

...สุดท้ายก็ไม่มีบุญเกิดขึ้นกับคนใดคนหนึ่ง...และถ้าคำพูดนั้นไม่มีความจริง...สุดท้ายอาจบาปด้วยกันทั้งคู่...

...คงเห็นประโยชน์หรือบุญจากการอนุโมทนาแล้วนะคะ...

[too_ploenpit]

...น้องหนุงหนิงอาจเถียงว่า...

...แล้วถ้าคนที่มาขัดขวางการทำบุญของเราเค้าพูดความจริงล่ะ...

...จะมิเป็นประโยชน์หรือ...เพราะเราจะได้ไม่ถูกหลอกหรืออะไรก็แล้วแต่นะคะ...

...อันนี้ก็ให้พิจารณาจากปัจจัยอื่นๆอีกเช่น...วัด...พระ...

...ความศรัทธาต่อวัดหรือสถานที่นั้นๆว่า...สมควรที่จะนำเงินไปทำบุญหรือไม่นะคะ...

...รายละเอียดปลีกย่อยมันเยอะค่ะ...ไม่สามารถสรุปได้ลงในเวลาสั้นๆค่ะ...

[too_ploenpit]

...เวลาทำบุญใหญ่ๆ...พระท่านให้บอกบุญคนเยอะๆค่ะ...

...ส่วนเค้าจะทำหรือไม่ทำก็เป็นเรื่องของเค้า...

...เหมือนการต่อเทียนจาก 1 เล่ม...เป็นหลายๆเล่ม...

...บุญยิ่งขยายเพิ่มขึ้น...ไม่มีวันหมดไป...

...ทำบุญคนเดียวโดยไม่บอกคนอื่น...อานิสงค์คือ...จะเป็นเศรษฐีแต่ไม่มีเพื่อนค่ะ...

...บอกให้คนทำบุญเยอะแยะ...แต่ตัวเองไม่ทำ...อานิสงค์คือ...จะมีเพื่อนมากแต่จนค่ะ...

...จำมาจากหนังสือธรรมะค่ะ...ถ้าสนใจหาอ่านดูได้จากอากู๋ค่ะ...

[khesorn mueller]

พี่ตู่คะ,
การบอกบุญ...บางทีเป็นอะไรสองด้านที่
คนบอกคิดอย่างนึง คนถูกบอกคิดอีกอย่าง
หนิงเห็นการบอกบุญในรูปการแจกซอง..
คนแจก,รับหน้าที่มาจากวัด..ต้องการ/อยาก
ให้บุญนั้นขยายตัวมากๆเทียนต่อเทียนอย่างพี่ว่า..
เค้าใช้วจีกรรมอันถนัดในการให้งานเค้าสำเร็จ
โดยการฝากแจกต่อคนละ5ซอง10ซองต่อๆกันไป
จะตามเก็บเมื่อไหร่ ต้องใส่ซองกันทุกคน?
คืนซองไม่แจกต่อได้มั้ย?คนรับอยากทำบุญขณะนั้นมั้ย?
บางทีคะพี่ตู่,ที่การทำบุญไม่ใช่เรื่อง"อยากทำ"อย่างเดียว
แต่เป็นเรื่องกึ่งบังคับทำ!! ตรงที่,คนรับซองแทบไม่มีทางเลือก
การให้เขียน ว่าบริจาคเท่าไหร่ยิ่งตะขิดตะขวงใจในบางคน
ที่เค้ารู้สึกว่าการทำบุญของเค้าถูกนำไปประกาศ/บอกต่อ
ควรที่จะเป็นAnonymitätเพื่อความสบายใจที่เท่าเทียมสิว่า
ความรู้สึกของการ"ให้"มีเนื้อแท้ที่เหมือนกัน...ไม่ว่าในซองนั้น
จะ100 หรือ 1,000 หรือ 10,000 หรือ 100,000 ตราบเท่าที่
คนใส่ซอง...อยากทำ ทำด้วยจิตของการให้ ให้ตามกำลัง
ให้เท่าที่เค้าเห็นสมควร...ไม่มีความจำเป็นต้องประกาศ?

บริจาคมากๆได้รับเกียรติคุณจารึกชื่อ..ก็อีกเรื่องคะ,นั่น
คือข้อแลกเปลี่ยนบังคับที่ผู้บริจาคทำบุญรู้ล่วงหน้า..
อยากทำ ไคร่ทำ...เชิญตามสบายคะ ดีทั้งนั้น!

เศรษฐีที่ไม่มีเพื่อน...เค้าอาจชอบก็ได้พี่ ไม่มีเรื่องกวน
มีเพื่อนมากๆแล้วเงินไม่เหลือเพราะต้องคอยนั่นนี่กะเพื่อนตลอด
เป็นสองด้าน สองpoleที่...มองดีๆบางทีไม่มีใครทุกข์ระทมในนั้น
ก็อาจเป็นได้คะพี่..ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของเศรษฐี หรือของคน
เพื่อนมาก/พวกมากลากไป...ที่มีส่วนประกอบคือ"ฐานะ"มาเป็น
ตัวแยกความพึงพอใจในชีวิตของเค้าก็เป็นได้..

หนิงมองถูกมั้ยคะ?

[khesorn mueller]

		อ้างถึง			ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 11 กรกฎาคม 2555, 09:35:33
	...น้องหนุงหนิงอาจเถียงว่า... ...แล้วถ้าคนที่มาขัดขวางการทำบุญของเราเค้าพูดความจริงล่ะ... ...จะมิเป็นประโยชน์หรือ...เพราะเราจะได้ไม่ถูกหลอกหรืออะไรก็แล้วแต่นะคะ... ...อันนี้ก็ให้พิจารณาจากปัจจัยอื่นๆอีกเช่น...วัด...พระ... ...ความศรัทธาต่อวัดหรือสถานที่นั้นๆว่า...สมควรที่จะนำเงินไปทำบุญหรือไม่นะคะ... ...รายละเอียดปลีกย่อยมันเยอะค่ะ...ไม่สามารถสรุปได้ลงในเวลาสั้นๆค่ะ...

จริงคะ,
รายละเอียดปลีกย่อยคะที่มากมาย
ศึกษาจริงจัง ต้องตั้งใจตั้งมั่น
เอาจริง เอาจังให้ได้...มีสถานที่ให้ไป
แยกกันเด็ดขาด ระหว่าง 2 โลกแห่ง
การใช้ชีวิต การอุทิศตน เพื่ออะไรก็ตาม
คนเราควรที่จิต/ขวัญเค้าสงบสุขคะ
ถึงจะตั้งใจปฏิบัติตน ตามความเชื่อความสนใจ

โลกข้างนอก..ชีวิตทางโลก ไม่ควรถูกมอง
จากอีกโลกคือโลกทางธรรม ทางวัด ว่า
คือโลกแห่งกิเลส โลกียะ บาป ชั่ว โสมม
เพราะนั่นคือส่วนประกอบสำคัญที่พยุงฟื้นฟู
ให้โลกทางวัดทางธรรมอยู่ได้!
บางคำสอน,เราอ่านแล้ว เราตั้งคำถามได้น่ะพี่
เรารู้สึกว่าจริงเหรอ? ตรงนี้คะ,ที่ญาติธรรมทุกคน
ควรที่จะคิดได้และกล้าคิด..ใครมีจิตคิดเพียร
เป็นการตัดสินใจของเค้า เราไม่ว่าอะไรอยู่แล้วคะ
แต่อย่าค่ะ!อย่าเปลี่ยนฟากแล้วเริ่มมองอีกฟากว่า
คือนั่นนี่โน่น ที่เค้ามีเค้าเป็นเค้าจัดการเค้าข้ามผ่านไม่ได้!
มันไม่แฟร์ที่จะเผยแพร่ต่อไป...ว่าคนที่ไม่เพียร ไม่ทำอย่างเค้า
คือยังอยู่ในความไม่รู้? อยู่ในกิเลส? อยู่ในความไม่เที่ยงที่ยึดติด?

พี่ตู่คะ,วันนึงหนิงอาจจะบวชก็ได้พี่
หากยังมีอะไรที่สามารถทำให้เราสนใจใฝ่รู้
ต้องการหาคำตอบที่แท้ที่ชีวิตให้ไม่ได้..
ตอนนี้,ทำหน้าที่ในโลกนี้ให้ตลอดรอดฝั่ง
แค่นี้ก็ยากเย็นสุดๆแล้วคะ...ยังไม่สามารถ
หนี/ละ/ตัดจาก commitmentทั้งปวงที่ชีวิตมีไปได้
ชาตินี้คะที่ต้องconcentrate ...500ชาติที่แล้วไม่รู้คะ
ไม่สามารถระลึกได้... ชาติหน้า ยังมาไม่ถึง ก็ไม่ใช่ปัญหา!

[khesorn mueller]

...นี่ตัวเอง,สองคนข้างหน้าน่ะ หน้าตาเป็นยังไงนะ?
...ถามเค้าได้ไง! ตัวเองรู้จักสองคนนั้นนานกว่าเค้าอีก!

...

<a href="http://www.youtube.com/v/fD7YPBILEHU?" target="_blank">http://www.youtube.com/v/fD7YPBILEHU?</a>

http://www.youtube.com/watch?v=fD7YPBILEHU

[khesorn mueller]

พี่สิงห์ พี่ตู่คะ
หนิงตามข่าวงานโอลิมปิค ลอนดอน 2012 ทุกวัน
อีก 16วัน? เค้าตรึงกำลังทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ
รัดกุมเพื่อป้องกัน การก่อวินาศกรรม(อย่างที่เคยเกิด
ที่มิวนิค ?)จากผู้ก่อการร้าย...ชาวบ้านเริ่มอึดอัด
เพราะเค้ากำลังอยู่ในอารมณ์สนุกสนานของงานกีฬา
ไหงหน้าบ้าน/บนหลังคาจามาติดตั้ง misseilตรวจจับ
ทำลายทางอากาศ...ฮ้ายยย เริ่มสนุกแล้วพี่!

เครื่องแบบนักกีฬาเยอรมันออกมาแล้วเมื่อวาน
ให้นักกีฬาไปลงชื่อรับได้เลย.

[khesorn mueller]

Portrait London 2012

Olympic ครั้งที่ 30ที่ London 2012
จัดที่นี่เป็นครั้งที่ 3 -->1908,1948 และ 2012
27 Juli - 12 Aug 2012
26 ชนิดกีฬา 302 รางวัล

Olympia stadion 80,000ที่นั่ง
ริมน้ำ North Greenwich Arena 20,000ที่นั่ง
ที่Hydepark

ชมลอนดอนแบบ HDกันคะ

<a href="http://www.youtube.com/v/o7XHZCozu0k?" target="_blank">http://www.youtube.com/v/o7XHZCozu0k?</a>

http://youtu.be/o7XHZCozu0k

[khesorn mueller]

อุ๊ย,ชุดนักกีฬาโอลิมปิค ลอนดอน 2012ทีมเยอรมัน
เก๋สุดขีด!

กรี๊ดดดดด

พี่ขาดูคะ,
ฟ้า-ชมพูเค้าทำให้เก๋ได้!!
แม้สองสีนี้,combinateไม่ดี
เห่ยทันที...ได้เหมือนกัน...คิกๆ

[khesorn mueller]

อยู่บนตัวathletic
หนุ่มๆสาวๆวัยอ่อนๆ
รูปร่างนักกีฬา..
ยิ่งดูดีคะพี่น้อง!

คอยชมวันเปิดคะ
เดินขบวน เอ๊ย เดินพาเหรดกัน
ด้วย uniformนี้คะ!

เปิดให้ทุกคนมารับได้ตั้งกะเมื่อวาน.









Quelle: http://www.bild.de/sport/olympia-2012-london/olympia-2012/thomas-bach-bei-offizieller-einkleidung-24905458.bild.html

[Manop Klabdee]

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                                  หน้าที่จะหาเสื้อมาใส่ดูบ้างครับ เท่ดี

                                  โอลิมปิค ก็คงเหมือนกับ ฟุตบอลยูโร ที่ผ่านมา พี่สิงห์ คงไม่ได้ดู เพราะ เป็นจอดำอีกเช่นเคย และคงไม่ลงทุนไปซื้อกล่องใหม่แน่ๆ ครับ

                                   เอาไว้ติดตาม ในนี้ดีกว่า  หรือไม่ติดตามเลยก็ดี ครับ

                                   ลืมบอกไป พี่สิงห์ เพิ่งเห็นภาพกรุงลอนดอน วันนี้เอง หนาแน่นมากครับ บ้านเรือน

                                   ราตรีสวัสดิ์ครับ