ความรักของประธานค่ายความรักๆเจ้าขา จู่ๆก็มาไม่ทันตั้งตัว...
ผู้ชายหล่อเหลาคนนั้น จู่ๆพบกันมิทันตั้งตัว.......
เพลงของพุ่มพวงดังขึ้น ทุกครั้งที่พ่อหนุ่มน้อย"มานพ"เดินไปอาบน้ำที่สระตอนเย็น
พี่มานพของเรานุ่งผ้าขาวม้าทะมัดทะแมง แถมรวบชายผ้าไปเหน็บไว้ข้างหลัง
ไม่ยอมให้ชายผ้าปลิวไป ปลิวมาเหมือนหนุ่มคนอื่นๆ
ขณะสาวๆว่ายน้ำอยู่ในสระนำของหมู่บ้าน พวกหล่อนถูสบู่ดำและผุดดำว่ายกันอย่างสนุกสนาน
และแน่นอนพวกหนุ่มๆชาวค่ายที่ตามมาทีหลังก็มักจะนุ่งผ้าขาวม้า เดินทอดน่องกินลมผ่านมาอย่างช้าๆ
ถือโอกาศชำเลืองสาวๆที่อยู่ในน้ำอย่างเอียงอาย
รอจนสาวๆอาบน้ำเสร็จพวกหนุ่มๆค่อยๆแหย่ตัวลงน้ำ
ใช้เท็คนิกพิเศษพอก้นสัมผัสน้ำก็รีบถอดผ้าขาวม้าโยนขึ้นมาให้เพื่อน
ส่วนตัวเองก็จะเหลืออันเด้อร์แวร์ชิ้นเล็กๆปิดไว้พอเป็นพิธี
ครั้นดวงตะวันลับตาสาวๆกลับที่พักกันหมดแล้วก็จะเหลือเฉพาะหนุ่มๆเท่านั้น
เวลานี้ชายหนุ่มที่ตามมาทีหลังผ้าขาวม้าและกางเกงในก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป
เพราะคิดว่าความมืดคืออาภรณ์ชั้นดีแถมไม่ต้องเสียเวลาซัก
พวกเอ็งอย่าเล่นน้ำนานนัก พวกเรารอกินข้าวอยู๋....พี่มานพตะโกนบอกเพือนๆ
พี่สิงห์ถอดผ้าขาวมาวางไว้นะ ผมจะได้ขอยืมใส่กลับ.....บวรตะโกนมาจากในน้ำ
เออ.....พี่สิงห์รับปากพลางถอดผ้าขาวมาเหลือแต่อันเด้อร์แวตัวน้อย
แว๊บ......ไฟฉายส่องมาตรงที่พี่สิงห์ยืนพอดี
ใครแกล้งกูวะ กำลังโป๊พอดี.....พี่สิงห์เอามือป้องหน้าบังแสงไฟ
เกี้ยเองคะ มาหาพวงกุญแจ หล่นตรงที่พี่สิงห์ยืนพอดี.....เกี้ยตอบ
ตูมๆๆ.....เสียงพี่สิงห์กระโดดลงน้ำพร้อมเอามือปิดส่วนนั้นไว้
คิกๆๆ.....เสียงพวกเราหัวเราะเพราะพี่สิงห์ไม่ยอมขึ้นจากน้ำทั้งที่เกี้ยเดินกลับไปตั้งนานแล้ว
(หมายเหตุ เกี้ยคือสาวคณะบัญชีรุ่น15 ซึ่งหนุ่มๆชาวหอยุคนั้นยอมรับว่าเป็นคนที่มีนัยตาเซ็กซี่ที่สุด)