|
TAE2540
Full Member
ไม่มีคำว่าสายเสียแล้ว สำหรับความรักที่แท้จริง
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2540
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 507
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2552, 20:49:37 » |
|
เห็นด้วยครับกับการประเมินการเรียนรุ้ โดยออกข้อสอบอัตนัย
ทุกวันนี้ผมก็ออกข้อสอบแบบอัตนัย เป็นแบบเขียนตอบ อธิบาย วิเคราะห์ อ่านของเด็กๆ แล้วก็มีทั้งสนุกๆ เศร้าๆ กับคำตอบ และการเขียนของเด็กๆ ก็ต้องค่อยๆ ให้เด็กได้ฝึกฝนกันต่อไป
แต่การเขียนตอบแบบอัตนัย ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของการตรวจ การให้คะแนนครับ คงไม่ต้องอธิบายว่าเป็นข้อจำกัดยังไง
ถ้าคนตรวจคนเดียว ก็ดีครับ ถ้าเป็นทีมก็ต้องทำความเข้าใจกันก่อนตรวจ มีเกณฑ์ที่แน่นอน
แต่ถ้าเป็นการทดสอบระดับชาติ ยากครับที่จะหาความยุติธรรมกับคำตอบของเด็กได้
ยังไงก็แล้วแต่ ทำได้เท่าที่ทำครับ
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2552, 06:19:10 » |
|
ข้อจำกัดในการตรวจข้อสอบอัตนัย นี้ ถ้ากำหนดเกณฑ์การตรวจให้ชัดเจน
ให้ตรวจแบบ วิชาเรขาคณิต ที่ต้องอ้างอิง ทฤษฎีบท,สัจพจน์,นิยาม ฯลฯ
เพื่อพิสูจน์ คำตอบของผู้ตอบ
ถ้้าพิสูจน์คำตอบ โดยอ้างอิงความรู้ได้ดี ก่อน ซตพ.(สิ่งซึ่งต้องพิสูจน์)
ก็ควรได้คะแนนดีด้วย ไม่จำเป็นต้องเป็นคำตอบ เพียงคำตอบเดียวเท่านั้นที่ได้คะแนน
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2552, 20:16:36 » |
|
วารินทร์ พูนศิริวงศ์ ประธานกรรมการ หนังสือพิมพ์แนวหน้า
ขึ้นอยู่กับการศึกษา และคุณภาพของตัวเอง (วารินทร์ พูนศิริวงศ์)
การเมืองคือ การรวมตัวของบุคคลที่ควรจะมีความซื่อสัตย์สุจริตและความรู้ พร้อมด้วยประสบการณ์ต่างๆ ที่มีคุณต่อสังคม เพื่อเข้าไปบริหารประเทศชาติให้มีความเจริญรุ่งเรืองในด้านต่างๆ โดยเฉพาะความสะดวก ปลอดภัยในการดำเนินชีวิตของประชาชน และสำคัญที่สุดคือ การให้การศึกษาต่อเยาวชน อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ เพื่อให้เป็นบุคคลที่ประกอบไปด้วยความรู้ ความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยปราศจากความหลงตัว ลืมตัว ที่จะประพฤติชั่ว หาแต่ผลประโยชน์ใส่ตนเองและพรรคพวก เมื่อเขาได้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งจะเป็นเจ้าของประเทศต่อจากบรรพบุรุษในช่วงต่อไป
จึงไม่ใช่ทุกคนจะเป็นนักการเมืองที่ดีได้
ถ้าเยาวชนไทยทั้งหลายได้รับการศึกษาที่มีหลักสูตร หลักเกณฑ์ที่ถูกต้องสมบูรณ์ และมีชีวิตอยู่ในสภาพของสังคมที่ดีดังกล่าวแล้ว ทั้งมีความพร้อมไปด้วยความซื่อสัตย์ต่อสังคมที่ประกอบไปด้วยขนบประเพณีที่ดี งดงาม
พวกเขาเหล่านี้แหละที่จะเป็นผู้มีโอกาสบุกเบิก สร้างสภาพการเมืองที่ดีต่อสังคมได้ต่อไปในอนาคต โดยไม่คิดถึงแต่ตัวเองเป็นสิ่งแรก แล้วลูกหลานเหลนเราก็มีโอกาสที่จะภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทยโดยสมบูรณ์ไปด้วยวัฒนธรรมที่ดีและงดงามอย่างเป็นรูปธรรม
มิใช่เป็นแต่นามธรรมหลอกกันอยู่อย่างทุกวันนี้ จากพวกโจรการเมืองผู้ไร้มนุษยธรรม มีแต่ใจที่เป็นโจรซึ่งมีอยู่มากมายในขณะนี้ ได้ใช้โอกาสในฐานะที่เป็นนักการเมืองโจร ปอกลอกปล้นทรัพย์สมบัติของชาติไปอย่างไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย ซ้ำยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมจอมปลอม ขึ้นชั้นไฮโซอย่างหน้าด้านหน้าหนาเกลื่อนไปหมดบนจอทีวีแทบทุกคืนวัน
ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ระบบการศึกษาของประเทศไทย ควรจะต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วให้มีศักยภาพที่จะสอนให้คนมีความรู้ที่แท้จริง ให้โอกาสนักเรียนที่จะสามารถพัฒนาความรู้ ความสามารถ มีความคิดเห็นส่วนตัวกับตำราและการสอนของครูอาจารย์ที่มุ่งสอน ด้วยสติปัญญา ไม่ใช่สอนตามตัวหนังสือที่พิมพ์อยู่ในตำราเท่านั้น หรือสอนจากความทรงจำของเรื่องไร้สาระ ที่ท่องจำมาถ่ายทอดสู่นักเรียน ซึ่งจะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้นกับการเรียนแต่อย่างใด
คุณภาพเด็กไทยที่จบจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศไทยเวลานี้ โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่มีมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นอย่างมากมาย เมื่อผู้เขียนได้มีโอกาสสัมภาษณ์เวลามาสมัครงาน ของเด็กที่จบจากวิทยาลัยต่างจังหวัด พบว่า มีความรู้น้อยมาก โดยเฉพาะความรู้ทั่วไปหรือความรู้รอบตัว แม้แต่ภาษาอังกฤษง่ายๆ ก็ยังไม่เข้าใจ การใช้ภาษาก็พิมพ์สะกดตัวผิดมากอย่างน่ากลัว!
แล้วเรายังหวังที่จะมีนักการเมืองที่มีคุณภาพและไม่โกงกินในอนาคตได้อย่างไร ถ้าหลักสูตรของการศึกษาของประเทศไทย ยังย่ำอยู่กับที่ ตราบเท่าทุกวันนี้!!
วันที่ 15/12/2009
นำมาจาก
http://www.naewna.com/news.asp?ID=191482
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
Ron Samyan
Cmadong พันธุ์แท้
ล้อมวงเข้ามา จะเล่าให้ฟัง
ออฟไลน์
รุ่น: RCU 32 ( Cologne )
คณะ: Science ( Physics )
กระทู้: 2,666
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 10:16:56 » |
|
กระทู้นี้ ดีนะครับ อยากมาร่วมแจมด้วย
แต่อยากหาอีกสักกระทู้ที่ว่าด้วย ความเท่าเทียมทางการศึกษาของเด็กไทยในชนบทและในเมือง
|
|
|
|
บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 11:15:57 » |
|
เห็นด้วยกับพี่รอน ครับ
|
RCU80 จงเจริญ
|
|
|
Ron Samyan
Cmadong พันธุ์แท้
ล้อมวงเข้ามา จะเล่าให้ฟัง
ออฟไลน์
รุ่น: RCU 32 ( Cologne )
คณะ: Science ( Physics )
กระทู้: 2,666
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 25 กุมภาพันธ์ 2553, 12:47:38 » |
|
อย่างเช่น โรงเรียนในตัวอำเภอ จะมีงบประมาณนั่น ประมาณนี่ มากมาย คุณภาพการศึกษาก็ดีกว่า
แต่พอห่างตัวอำเภอออกไป งบประมาณก็น้อย ขาดแคลนบุคลากร ทั้งที่ เป็นการศึกษาพื้นฐานภาคบังคับ แต่การจัดสรรงบประมาณ ไม่เท่าเทียมกัน คุณภาพการศึกษา ก็ต่างกัน...
กลายเป็นว่า..ถ้าผมเกิดในชนบท ก็ถือเสียเปรียบทางด้านการศึกษา ที่รัฐจัดให้เสียแล้ว แล้วอย่างนี้ สิทธิที่ประชาชนที่ได้รับในชนบทก็ไม่เท่าเทียมกับคนในเมือง..นะซิ
ปัญหานี้ เห็นมาตั้งแต่เด็กจนโต และก็เป็นข้ออ้างมาตลอดว่า เรามีปัญหาเรื่องการศึกษาของคนที่อยู่ในชนบท ก็รัฐจัดให้เขาอย่างนั้น..นี่... กลายเป็นว่าเด็กในชนบทจะมีโอกาสคือ พ่อแม่ มีตังค์หน่อย แล้วมีโอกาสได้เข้ามาเรียนในเมือง
|
|
|
|
บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 11:21:03 » |
|
เราจะทำยังไงดีน๊อ เพื่อให้การศึกษาไทย เท่าเทียมกัน เลยขออาสาวิเคราะห์ตามหลักการนะครับ หลักการระบบแก้ปัญหาทางอุตสาหกรรม ง่ายๆ 4 M (man machine material method) และสามารถประยุกต์เข้าสู่ระบบการศึกษาไทย Man = ครูผู้สอน Machine = สื่อการสอน รวมทั้ง Infrastructure Material = เด็กนักเรียน Method = วิธีการสอน
ผมจะพูดปัญหาและสถานการณ์ปัจจุบันให้ก่อนนะครับ แล้วค่อยแก้ปัญหา ปัญหานี้อาจจะไม่ใช่ว่าจะเหมือนกันทุกที่ แต่ต้องบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาให้ จะได้พัฒนาและปิดช่องโหว่ ผมเลยขอยกตัวอย่างที่ผมประสบมาบ้านผมก็แล้วกัน Man = ครูผู้สอนหรือบุคคลากรทางการศึกษา ไม่มีครูผู้สอน หรือขาดแคลนครูผู้สอน งานเยอะเกินไป ไม่มีการกำหนด spec ครูผู้สอน ครูผู้สอน สอนแบบตามหลักสูตรเกินไป ไม่ได้สอนเพื่อพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ ครูเงินเดือนน้อย ต้องขวนขวาย สังคมครูชนบท ต้องเด่นต้องโก้ เลยสร้างภาระ เพื่อสร้างฐานะตัวเอง มีระบบศักดินาในระบบราชการเกินไป
(ช่วยเติมหน่อยครับ) Machine = สื่อการสอน รวมทั้ง Infrastructure ปัจจุบันนี้มีแค่ หนังสือ ชอล์ค และกระดานดำ ข้อมูลใน internet ยากที่จะทำการเข้าใจ เมืองไทยเมืองร้อน เด็กคิดไม่ออกเมื่อเจออากาศร้อน (ช่วยเติมหน่อยครับ)
Material = เด็กนักเรียน เด็กนักเรียนชอบความสะบาย อยากเล่นตามวัยของเขา นักเรียนมีสิ่งเร้าภายนอกมากเกินไป ทำให้เสียสมาธิในการเรียน ปัญหาสังคม เด็กไม่สนใจเรียน เด็กนักเรียนถูกยัดเยียดให้เรียนรู้มากๆก่อน เพราะเด็กตัดสินใจไม่ได้ว่าโตขึ้นจะเป็นอะไร เลยต้องเอาให้เยอะไว้ก่อน แล้วค่อนตัดออกตอนมหาวิทยาลัย เด็ก ตจว มองไม่เห็นตัวอย่างทางความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมที่ดี ความหลากหลายทางอาชีพมีน้อย
(ช่วยเติมหน่อยครับ)
Method = วิธีการสอน แผนการสอนที่ใช้ เมื่อสิบปีที่แล้ว ตอนนี้ยังใช้อยู่หรือเปล่า หลักศูตรและโครงสร้างหลักสูตร เพื่อให้เด็กเรียนรู้ วิธีการสอนยังเป็นวิธีเดิมๆ ขาดนวัตกรรมใหม่ๆ หรือรูปแบบการสอนใหม่ เนื้อหาหลักสูตรแน่นเกินไป เด็กไม่มีเวลาคิด เพราะการสอนของไทยเป็นแบบป้อน
(ช่วยเติมหน่อยครับ)
บางหัวข้อ เป็นที่บางแห่งนะครับ รวมๆๆมา เลยดูเหมือนการศึกษาไทยช่างเลวร้ายเหลือเกิน
|
RCU80 จงเจริญ
|
|
|
Ron Samyan
Cmadong พันธุ์แท้
ล้อมวงเข้ามา จะเล่าให้ฟัง
ออฟไลน์
รุ่น: RCU 32 ( Cologne )
คณะ: Science ( Physics )
กระทู้: 2,666
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 11:37:36 » |
|
วิเคราะห์ ได้ตรงใจพี่เลยนะครับ...เป็นอย่างที่น้องว่านั่นละ ถ้าเป็นโรงงานอุตสาหกรรม...เหนื่อยกันแน่ครับ ไม่ว่าจะใช้ 4M ANONA DOE หรือแม้แต่ 6 Sigma..ตายอย่างเขียดครับ
เห็นไหมละครับ..ว่าการศึกษาบ้านเรามีปัญหาเยอะครับ ทางออกของการแก้ไข..ก็เห็นมีจัดสัมนากันบ่อยนะครับ
แต่ผมว่าปัญหา มันถูกมองมาจากข้างบน แล้วแก้ปัญหาแบบนั่งเทียน แต่ถ้ามองปัญหาจากด้านล่างขึ้นไป จะเห็นชัดครับ
หรืออย่างในโรงงานอุตสาหกรรม ถ้ามัวนั่งแก้ปัญหาในห้องประชุม ...เดี้ยงครับ ต้องลงเข้าไปเก็บข้อมูลในไลน์การผลิตครับ..ถึงจะเข้าใจปัญหาที่แท้จริงครับ
|
|
|
|
บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 12:06:54 » |
|
เอาไงดีพี่รอน หรือเราจะเสนอไปเรื่อยๆ เพื่อให้เห็นแก่นแท้
|
RCU80 จงเจริญ
|
|
|
Ron Samyan
Cmadong พันธุ์แท้
ล้อมวงเข้ามา จะเล่าให้ฟัง
ออฟไลน์
รุ่น: RCU 32 ( Cologne )
คณะ: Science ( Physics )
กระทู้: 2,666
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 12:19:07 » |
|
พี่มองว่า... อย่างนี้นะครับ เวบบอร์ดของเราก็เป็นเด็กจุฬาฯ เป็นผู้มีความรู้และผู้ทรงคุณวุฒิมากมาย หลากหลายสาขาอาชีพ หากเรามองเห็นปัญหาเรื่องใด เรื่องหนึ่ง ช่วยกันเสนอความคิด วิจารณ์ ในสิ่งที่เราเห็น...เหมือนๆกับว่าเรากำลังจัดสัมนาวิชาการผ่านเวบบอร์ด
หากความคิดไหนดีๆ ก่อประโยชน์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมา อย่างน้อยๆ คงจะมีผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้มีอำนาจ ในจุฬาฯของเรา นำเรื่องต่างๆเหล่านี้ ไปศึกษาและทบทวน
หลายๆเรื่องครับ ไม่ใช่เรื่องการศึกษาเรื่องเดียว ระดับชาวจุฬาฯแล้ว...คิดอะไรที่สร้างสรรค์สังคมได้อีกตั้งมากมายครับ
|
|
|
|
บ่าวหน่อ เมืองพลาญ
Full Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2540
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 490
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 14:06:01 » |
|
มี Model นี้ด้วยเหรอครับ เห็นมีแต่"อาจสามารถโมเดล"
|
RCU80 จงเจริญ
|
|
|
Ron Samyan
Cmadong พันธุ์แท้
ล้อมวงเข้ามา จะเล่าให้ฟัง
ออฟไลน์
รุ่น: RCU 32 ( Cologne )
คณะ: Science ( Physics )
กระทู้: 2,666
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2553, 14:51:59 » |
|
นั่นซิ ไม่มีนี่..เพื่อนเจษ ส่วนอาจสามารถโมเดล ... บ่าวหน่อ เมืองพลาญ หนุ่มบึงพลาญชัย คงรู้จักดีแน่
|
|
|
|
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์
รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2553, 09:11:45 » |
|
ขอขอบคุณเวบแคนนอทอินโฟ 1 กรกฏาคม 2553 ที่ีเอื้อเฟื้อข่าว http://cannot.info/feed/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99
ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผอ.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)
ปรับวิธีสอนสร้างเด็กไทยคิดเป็น หลังพบคะแนนสอบโอเน็ต ความสามารถในการคิดวิเคราะห์จะ ได้คะแนนต่ำซึ่งเป็นภาพสะท้อนของเด็กทั้งประเทศว่ายังขาดความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์
สมศ.ได้ดำเนินการประเมินคุณภาพภายนอก รอบที่ 2
สถานศึกษาที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ 9 ประเภท ได้แก่
1.ร.ร.ส่งเสริมความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์, 2.ร.ร.ในพื้นที่ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้, 3.ร.ร.พระปริยัติธรรมฯ, 4. ร.ร.ส่งเสริมความสามารถพิเศษด้านกีฬา, 5.ร.ร.นานาชาติ, 6.ร.ร.ศึกษาสงเคราะห์, 7.ร.ร.เฉพาะความพิการ, 8.ร.ร.ตำรวจตระเวนชายแดน, 9.ศูนย์การศึกษาฯนอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ซึ่งภาพรวมสถานศึกษาในกลุ่มนี้ได้รับการรับรองร้อยละ 80 ขึ้นไป ถือว่าค่อนข้างดี
ยกเว้น
มาตรฐานที่ 5 ผู้เรียนมีความรู้และมีทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตร ซึ่งเชื่อมโยงกับคะแนนสอบโอเน็ต
มาตรฐาน 4 ความสามารถคิดวิเคราะห์จะได้คะแนนต่ำซึ่งเป็นภาพสะท้อนของเด็กทั้งประเทศว่า ยังขาดความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ ซึ่งคงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการสอนใหม่
ส่วนเกณฑ์มาตรฐานอื่นๆ จะมีการปรับให้เหมาะสมกับประเภทของสถานศึกษาพิเศษมากขึ้น ในการประเมินรอบ 3 ต่อไป. ที่มา : www.thairath.co.th วันที่ 01 Jul 2010 - 05:15
XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX
การประเมินสถานศึกษาตามข่าว คือ Check ซึ่งอยู่ใน 1 ใน 4 ของวงจรคุณภาพ ของเดมมิงส์ PDCA
ประเทศเรากำลังมุ่งเน้นปฏิรูปประเทศใหม่ ให้เป็นประเทศคุณภาพ
ประเทศคุณภาพมีวงจรคุณภาพ เป็นแนวทาง
การวางแผน Plan จากข้อมูลโดยรอบด้าน
การทำตามแผน Do ตามแผนทุกประการ อย่างไม่ออกนอกแผน
การประเมิน Check มีคณะกรรมการตรวจสอบภายในและภายนอกมาตรวจว่าทำตามแผนทุกประการ
การแก้ไข Act เพื่อให้เข้าสู่แผนที่ต้องการ เมื่อพบปัญหา ก็กลับมาเริ่มต้นแก้ไขใหม่ ให้วงจรหมุนต่อไปได้
เพื่อรับการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่ไม่หยุดนิ่ง
ตัวอย่าง ที่ผมทำงานอยู่ ที่ ร.พ.พนมสารคาม ได้รับการประเมินเป็น ร.พ.คุณภาพแล้ว
และ ทำ ชา SHA : Sustainable Hospital Accreditation การรักษาคุณภาพอย่างยั่งยืน
http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,4376.0.html
กรรมการตรวจสอบทั้งภายใน และ ภายนอก ไม่ว่ามาตรวจสอบเมื่อไร จะคงคุณภาพตลอดกาล
กระทรวงสาธารณสุข ต้องการให้ทุก ร.พ.ที่เปิดดำเนินการ จะต้องผ่านการพัฒนาและประเมิน
จนมีใบรับรอง ร.พ.คุณภาพประกาศ ให้ผู้ใช้บริการได้มั่นใจ
ถ้าไม่ได้ใบรับรอง ต้องแก้ไขให้ได้ มิฉะนั้นจะถูกสั่งปิด เพื่อประโยชน์ของผู้รับบริการ
|
3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
|
|
|
|