23 พฤศจิกายน 2567, 01:36:47
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 2 [ทั้งหมด]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: "อินเตอร์เนต ครบ รอบ 40 ปี เมื่อวันทีี่ 29 ต.ค.2552"  (อ่าน 22938 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 31 ตุลาคม 2552, 11:17:59 »


           อินเทอร์เน็ต ซึ่งทำโลกใบนี้แคบลงมาอยู่เพียงปลายนิ้วมือ

             เพิ่งมีอายุครบ 40 ปีไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี้เอง


                             คมชัดลึก : 31 ต.ค.2552

    

           อินเทอร์เน็ตถือกำเนิดขึ้นเมื่อ เลียวนาร์ด เคลนร็อค และ คณะนักวิจัยของ ม.แคลิฟอร์เนีย

วิทยาเขตลอสแองเจลิส (ยูซีแอลเอ)


           ทำให้คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งของยูซีแอลเอสามารถ "คุย" กับ คอมพิวเตอร์อีกเครื่องที่

สถาบันวิจัยแห่งหนึ่งได้ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2512

           อย่างไรก็ตาม เคลนร็อค ซึ่งตอนนี้อายุอานามปาเข้าไป 75 ปีแล้ว มองว่าอินเทอร์เน็ต

เพิ่งเข้าสู่วัยรุ่น และ ยังต้องเติบโตอีกไกล แต่ถึงกระนั้น เขาก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับแอพพลิเคชั่น

ใหม่ๆ อย่าง เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และยูทูบ ที่คนนำเอาอินเทอร์เน็ตไปต่อยอดพัฒนาเป็นอย่างมาก

          เคลนร็อคพูดถึงอินเทอร์เน็ตราวกับพูดถึงลูกๆ โดยบอกว่า

           ถึงแม้จะมีความประพฤติแบบผีเข้าผีออกอยู่สักหน่อย แต่อินเทอร์เน็ตก็สร้าง

ความปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมากให้แก่พ่อแม่ แล้วก็สังคม

          เคลนร็อคบอกว่าเขาเชื่อมาโดยตลอดว่าคอมพิวเตอร์ถูกกำหนดมาให้คุยกันได้

แล้วเครือข่ายที่เกิดขึ้นตามมาก็ควรจะใช้งานง่ายเหมือนโทรศัพท์ แล้วก็บอกว่า

ไม่เคยคิดฝันมาก่อนเลยว่าแม่ วัย 99 ปี ของเขาจะได้เล่นอินเทอร์เน็ตกับเขาด้วยเหมือนกัน

           สำหรับอนาคตของอินเทอร์เน็ตนั้น เคลนร็อคมองว่า

จะแทรกซึมเข้าไปในทุกสิ่งทุกอย่าง และก้าวเข้าไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง

เคลนร็อคได้ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายๆ ว่า หากเขาเดินเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง

ห้องนั้นจะรับรู้ว่าตัวเขาอยู่ที่นั่น แล้วก็จะพูดคุยกลับมา


          ขอขอบคุณ น.ส.พ.คมชัดลึก ที่เอื้อเฟื้อข่าว

http://www.komchadluek.net/detail/20091031/35074/4%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95.html

                  หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 18:18:36 »

 
                      'Social network' อาวุธสื่อสารโลกออนไลน์

           ปฏิเสธไม่ได้อีกแล้วว่า "Social network" (การที่ผู้คนสามารถทำความรู้จัก และเชื่อมโยงกันใน ทิศทางใดทิศทางหนึ่ง)

          สังคมบนโลกออนไลน์กลายเป็นอาวุธลับร้ายแรงยิ่งกว่าระเบิดปรมาณูไปแล้ว  เพราะตอนนี้ "Social network" ไม่ได้จำกัดเฉพาะการใช้สื่อใหม่มาทำการตลาดเท่านั้น ยังขยายวงการเชื่อมต่อไปยังโลกการเมือง

           โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ "วันวิปโยค 10 เม.ย. 2553" จนทำให้คนไทยต้องบาดเจ็บนับร้อยและเสียชีวิตถึง 25 คน  แต่ก็ไม่ได้ทำให้วิกฤติทางการเมืองยุติลง สถานการณ์ความแตกแยกขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทยยังคงดำเนินต่อไป และในปัจจุบัน "สังคมออนไลน์" ก็กำลังกลายเป็นอีกเวทีสื่อสารในเรื่องนี้อย่างเข้มข้น
 
           ***ใช้เฟชบุ๊กเป็นสื่อ รวมตัวต้านการเมือง เพราะตอนนี้กลุ่มเสื้อหลากสีโดยการรวมตัวของ

                      

          น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มประชาชนพิทักษ์ชาติ รวมตัวกันออกมาต่อต้านเรียกร้องให้คนเสื้อแดงคืนพื้นที่แยกราชประสงค์ให้คนกรุงเทพฯ และให้กำลังใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ต่อไป อย่ายุบสภา อย่าลาออก พร้อมทั้งแจกสติกเกอร์เขียนข้อความไม่ยุบสภา แจกใบปลิว และล่ารายชื่อถอดถอน ส.ส.จำนวน 3 คน คือ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ,นายการุณ โหสกุล และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย

           ที่สำคัญไปกว่านั้นการรวมตัวของกลุ่มเสื้อหลากสีไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่เพียงการระดมพลเท่านั้น แต่ทว่า น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ยังใช้  Social network ทั้งเฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ เป็นสื่อแสดงเพื่อความสันติภาพ และ ยุติความรุนแรง

           ว่ากันว่าการรวมตัวในวันที่ 15 เมษายน 2553 ที่ผ่านมาของกลุ่มเสื้อหลากสี และ การใช้สื่อผ่านเฟชบุ๊กรวบรวมได้ประมาณ 1 พันคนออกมาต่อต้านคัดค้านกลุ่มคนเสื้อแดง นอกเหนือจากนี้ยังมีสมาชิกเฟชบุ๊กอีกจำนวน 300,000 คน

           ทั้งนี้ข้อเรียกร้องของกลุ่มเสื้อหลากสีเรียกร้องต่อคนเสื้อแดงดังนี้

1.หยุดล่วงละเมิดสถาบันกษัตริย์ และที่ปรึกษาของพระองค์

2.หยุดการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงและอาวุธสงครามที่ก่อให้เกิดการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์

3.หยุดการใช้ความเท็จหลอกหลวงผู้ชุมนุมให้เกิดความแตกแยก

4.หยุดการข่มขู่ บังคับผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัดให้ชุมนุมต่อ และ

5.หยุดการชุมนุมที่กีดขวางการจราจรที่สำคัญโดยเฉพาะบริเวณสี่แยกราชประสงค์


           นายปรเมศวร์ มินศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัณฑิต เซ็นเตอร์ จำกัด และ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ www.kapook.com เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า

           ขณะที่บรรดานักการเมืองเกือบทุกพรรคก็ยังพึ่งช่องทางของ เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ ในการติดต่อสื่อสารตัวอย่างที่ชัดเจนและโดดเด่นทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถึงกับเปิดเว็บไซต์ภายใต้ชื่อ www.abhisit.org ไม่นับรวม เว็บไซต์ของสื่อต่างๆ และพรรคการเมืองต่างๆ อีกจำนวนไม่น้อยที่เปิดให้ประชาชนติดตามเนื้อหา ความเคลื่อนไหวด้านต่างๆในเว็บไซต์ของตน

           เรียกได้ว่าตอนนี้ Social network หรือ สังคมเสมือนจริงสามารถเชื่อมต่อโลกให้แคบลงได้ถนัดตา และ ถือว่าเป็นอาวุธร้ายแรงบนโลกไซเบอร์ หรือ ว่าไม่จริง!!!

                      ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

          ขอขอบคุณ น.ส.พ.ฐานเศรษฐกิจ  22 - 24  เมษายน พ.ศ. 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว

           http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=28489:social-network-&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=494

          เวบซีมะโด่งของเราก็เป็นหนึ่งใน 'Social network' ที่เชื่อมโยงให้ออนไลน์ติดต่อกัน เป็นการระดมความคิด จากหลากหลายสาขา มาร่วมกันคิด ให้ความรู้ ให้ปัญญา ให้ความฉลาด ให้มีความสามารถ ก็จะ แก้ จน แก้ โง่ แก้ เจ็บ ได้ แต่อย่างไรก็ตามยังคงเป็นเหมือนดาบสองคม ต้องมีกฏหมายสื่ออินเตอร์เนต ควบคุมไม่ให้เกิดความเดือนร้อนต่อส่วนรวมด้วย

                     win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #2 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2553, 09:53:44 »


"ไอซีที" ปรับเพิ่ม 3 หน่วยงานความมั่นคงด้านข้อมูล



ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี

ไอซีที พร้อมปรับโครงสร้างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ใหม่
ยกสายงานความมั่นคง ปลอดภัยของข้อมูลด้านไอซีที และสายงานวิจัยพัฒนา 3 หน่วยงาน
รอที่ประชุม ก.พ.ร. หลังนำเรื่องเข้าเดือน เม.ย.53…

ให้เป็นแกนนำด้าน ICT ของ ประเทศอย่างชัดเจน และเป็นรูปธรรม
เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานราชการมีความมั่นใจในการดำเนินงาน
 
เนื่องจากไอซีทีเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศทุกๆ ด้าน
จึงจำเป็นต้องมีหน่วยงานรับผิดชอบในระดับประเทศมากำกับดูแล
เพื่อขับเคลื่อนนโยบายด้านไอซีทีในระยะยาวด้วยการปรับปรุงโครงสร้างใหม่ให้เหมาะสม
โดยมีการจัดตั้งคณะทำงานจัดทำแผนพัฒนากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ที่มีนายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
เป็นประธานคณะทำงาน

“คณะ ทำงานฯ ชุดนี้จะทำหน้าที่สำรวจความต้องการและกำหนดผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และ
จัดการประชุมสัมมนาสร้างความเข้าใจให้กับกลุ่มดังกล่าว พร้อมกันนี้ยังทำหน้าที่วิเคราะห์ และ
กำหนดทิศทางการพัฒนากระทรวงฯ

โดยเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มาให้ข้อมูลรายละเอียดเพื่อจัดทำแผนพัฒนากระทรวงฯ
ให้มีความเหมาะสม จัดการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผน ที่จัดทำขึ้นด้วย” รมว.ไอซีที กล่าว

ร.ต.หญิงระนองรักษ์ กล่าวอีกว่า จะมีการปรับปรุงโครงสร้างใหม่โดยเพิ่มส่วนราชการใหม่ใน

สายงานความมั่นคง ปลอดภัยของข้อมูลด้านไอซีที และสายงานวิจัยพัฒนา

จำนวน 3 หน่วยงาน คือ

กรมสำรวจ และ ทำแผนที่พลเรือน

สำนักงานส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ

สำนักงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร


ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ความเห็นชอบในการจัดตั้ง

รมว. ไอซีที กล่าวด้วยว่า กระทรวงฯ ยังได้ผลักดันให้มีการจัดตั้ง

สำนักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
เพื่อเป็นหน่วยงานดำเนินกิจกรรมหรือบริการต่างๆ
ด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความมั่นคงปลอดภัยน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจบริการทางด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีความเข้มแข็ง

มีศักยภาพสามารถแข่งขันได้  ทั้ง ในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนช่วยสนับสนุนให้
ผู้ทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งประชาชน และนักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมฯ
อันจะส่งผลให้มูลค่าในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศเพิ่มสูงขึ้น
โดยล่าสุด กระทรวงฯ ได้ส่งคำขอจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ไปยัง
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เรียบร้อยแล้ว และ
คาดการณ์ว่าจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ก.พ.ร. ภายในเดือนเม.ย.2553

ขอขอบคุณ น.ส.พ.ไทยรัฐออนไลน์ วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม 2553,

http://www.thairath.co.th/content/tech/80307

 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #3 เมื่อ: 23 พฤษภาคม 2553, 14:50:19 »


หัวเว่ย จับมือ United Information Highway Co., Ltd. : UIH วางโครงข่ายบรอดแบนด์



กก.ผจก.บริษัทหัวเว่ย กล่าวด้วยว่า ความร่วมมือกับ UIH ในครั้งนี้ ยังเป็นการร่วมมือกัน
พัฒนาตลาดบริการโทรคมนาคมบรอดแบนด์ในประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย

นอกจากจะใช้งานได้ทั่วประเทศแล้ว เครือข่าย Nationwide Broadband Network
ยังไม่มีข้อจำกัดทางแบนด์วิธ จึงทำให้องค์กรผู้ใช้บริการสามารถใช้เครือข่ายความเร็วสูงนี้
เพื่อการทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น

ระบบงานธนาคาร การบริหารสินค้าคงคลัง หรือแม้แต่การกระจายข้อมูลมัลติมีเดียไปยังสาขาย่อย
รวมถึงยังรองรับการขยายธุรกิจขององค์กรในอนาคตด้วย

ขอขอบคุณ น.ส.พ.ไทยรัฐ วันอาทิตย์ ที่่ 23 พ.ค.2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/tech/84726

ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ



Virtual Private Network
first post: Tue 16 January 2007 last update: Tue 10 April 2007

Virtual Private Network หรือ เครือข่ายเสมือนส่วนตัว ที่ทำงานโดยใช้
โครงสร้างของเครือข่ายสาธารณะ หรืออาจจะวิ่งบนเครือข่ายไอพีก็ได้
แต่ยังสามารถคงความเป็นเครือข่ายเฉพาะ ขององค์กร

ขอขอบคุณ วิชาการดอทคอม ที่เอื้อเฟื้อ ข้อมูลให้ดูเพิ่มเติมได้ที่

http://www.vcharkarn.com/varticle/17748

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ



อนาคต กระทรวงสาธารณสุข จะมีเครือข่ายสาธารณสุข VPN ที่มีทุก ร.พ.เข้าเป็นลูกข่าย
สมาชิกที่กระทรวงฯ อนุญาตเท่านั้นจึงจะเข้าสู่เครือข่ายได้


ทำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือ บุคลากรสาธารณสุขที่จำเป็น สามารถเข้าไปในลูกข่ายได้
มีประโยชน์ เช่น

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามารถล็อกอินเข้าไปรักษา ใน ร.พ.ลูกข่ายได้ คนไข้ไม่ต้องเดินทางมา
เมื่อมีการรักษาในคอมพ์แล้ว แพทย์ใน ร.พ.ลูกข่ายนั้นจะได้เรียนรู้เรื่องการรักษาได้
สามารถดูแลต่อได้ ถ้ามีปัญหาให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเดิมเข้ามาตรวจรักษาต่อได้ เป็นต้น




ตัวชี้วัดสุขภาพดีถ้วนหน้า

ตัวที่ 3 การมีบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน และ ตัวที่ 4 บริการมีคุณภาพ จะทำได้สำเร็จ

จากการ พัฒนาสถานีอนามัย ที่มีอยู่แล้วใกล้บ้าน เป็น ร.พ.สร้างเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.)
มีแพทย์ ร.พ.อำเภอนั้นเป็นแพทย์ประจำ รพสต. สามารถเข้ามาตรวจเองขับรถมา หรือ มา
ทางเครือข่าย VPNได้ โดยมีพยาบาลเวชปฏิบัติ อย่างน้อย 2 คนเพื่ออยู่ประจำตลอด มีเวรผลัดกัน
มีแพทย์ประจำเป็นที่ปรึกษา เมื่อฉุกเฉิน สามารถให้การปฐมพยาบาล และ เรียกรถพยาบาล 1669
มารับส่งต่อได้ทันที เป็นไปตาม Ottawa Charterพ.ศ.2529 เรื่อง สุขภาพดีถ้วนหน้า ที่

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3394.0.html

 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #4 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2553, 15:52:34 »


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=diTpeYoqAhc" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=diTpeYoqAhc</a>

      บันทึกการเข้า

Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #5 เมื่อ: 10 มิถุนายน 2553, 15:12:20 »


ขอขอบคุณเวบไทยรัฐวันพฤหัส ที่ 10 มิ.ย.53 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/tech/88587



กูรูฟันธง'โซเชียลเน็ตเวิร์ค'ตามจับคนร้ายได้แม้ปลอมตัว

ม.ศรีปทุมจัดสัมมนาการสร้างโรดแม็พวิถีชิวิตบนเครือข่ายสังคมออนไลน์หวังผู้ใช้ตระหนักการใช้งาน  
ผอ.เทคนิค กลต.เน้นสร้างความสมดุลการใช้งานแบบส่งเสริมและควบคุม ขณะที่ปธ.ชมรมเว็บโฮสติ้งเผยทั่วโลกตามจับผู้การร้ายผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค...

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาวิชาระบบสารสนเทศคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จัดสัมมนาวิชาการเรื่อง การสร้างโรดแม็พวิถีชีวิตบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบถึงผลกระทบต่อบุคคล ในสังคมกับการใช้งานเครือข่ายออนไลน์ และตระหนักถึงความรับผิดชอบมีจริยธรรมในการใช้งาน รวมทั้ง ทราบถึงประโยชน์ โทษ และความเหมาะสมต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยได้รับเกียรติจากวิทยากร ได้แก่ นายกำพล ศรธนะรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และนางภูมิจิต ศิระวงศ์ประเสริฐ ญอง และคณะ ประธานชมรมผู้ประกอบการเว็บโฮสติ้ง

นายกำพล ศรธนะรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) กล่าวว่า การใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คในหน่วยงานภาครัฐ จะต้องสร้างความสมดุลระหว่างการส่งเสริม และการควบคุม นอกจากนี้ยังมองว่าการโพสข้อความควรเป็นข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงมากกว่าการแสดงความคิดเห็น

นางภูมิจิต ศิระวงศ์ประเสริฐ ญอง ประธานชมรมผู้ประกอบการเว็บโฮสติ้ง กล่าวว่า โซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นช่องทางที่สื่อสารข้อมูลได้รวดเร็วมากกว่าสำนักข่าวบางแห่งในโลก ขณะที่ความน่าเชื่อถือ ยังไม่สามารถเชื่อได้100% อีกทั้ง โดยธรรมชาติในโลกอินเทอร์เน็ต การโพสข้อความบนโลกออนไลน์เชื่อถือยาก

ประธานชมรมผู้ประกอบการเว็บโฮสติ้ง กล่าวด้วยว่า

การเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์ แล้วโพสข้อความกล่าวหา หรือแสดงความคิดเห็น โดยที่
ผู้โพสปลอมตัวนั้น อย่าคิดว่าจะทำได้อย่างแนบเนียน หรือคิดว่าไม่มีใครรู้ เพราะ
ทั่วโลกใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คติดตามหาการก่อร้ายแต่ระยะเวลาการค้นหาต้องใช้เวลา.


 gek gek gek

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

นำข่าวนี้มาเพื่อเตือนผู้โพสต์ต้องคำนึงถึงกฏหมายอินเตอร์เนต อย่าละเมิดกฏหมาย

กฏหมายอินเตอร์เนตของไทย

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2550 ที่ผ่านมา ได้มีการประกาศกฎหมายว่าด้วย
การกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพ์พิวเตอร์และจะมีผลบังคับหลังจากประกาศแล้ว 30 วัน
โดยจะครบในวันที่ 17 กรกฎาคม 2550

ทำให้หลายฝ่ายต่างจับตามองถึงผลที่จะตามมา
เพราะปัจจุบันนี้คอมพ์พิวเตอร์ได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของการประกอบกิจการและ
การดำรงชีวิต ทำให้จำเป็นต้องมีกฎหมายขึ้นมารองรับการกระทำผิดที่จะเกิดตามมาด้วย
โดยใจความคร่าวๆ มีดังนี้

หมวด 1 ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

มาตรา 5 : เจาะเข้าไปในระบบที่หวงห้ามไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร
ปรับ 1 หมื่น จำ 6 เดือน

มาตรา 6 : ล่วงรู้วิธีการเจาะ ที่อาจจะทำให้เกิดความเสียหายและนำไปเผยแพร่
ปรับ 2 หมื่น จำ 1 ปี

มาตรา 7 : เจาะเข้าไปในข้อมูลที่หวงห้ามไว้
ปรับ 4 หมื่น จำ 2 ปี

มาตรา 8 : ดักข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่ไม่ได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ
ปรับ 6 หมื่น จำคุก 3 ปี

มาตรา 9 : ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลงบางส่วน หรือทั้งหมดของข้อมูลหรือชุดคำสั่งของคอมพิวเตอร์ผู้อื่น
ปรับ 1 แสน จำคุก 3 ปี

มาตรา 10 : ขัดขวางระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ผู้อื่น
ปรับ 1 แสน

มาตรา 11 : ส่งข้อมูลหรืออีเมล์โดยปกปิดปลอมแปลงที่มาของการส่ง เพื่อรบกวนระบบ
ปรับ 1 แสน

มาตรา 12 : ถ้าทำผิดตาม ม.9 หรือ 10

ม.12 วรรค 1 เสียหายแก่ประชาชน
ปรับ 2 แสนบาท จำคุก 10 ปี

ม.12 วรรค 2 เสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ
ปรับ 6 หมื่น - สามแสน จำคุก 3 - 15 ปี

มาตรา 13 : จำหน่ายชุดคำสั่ง Hack เพื่อทำความผิดตามม. 5 - 11
ปรับ 2 หมื่น จำคุก 1 ปี

มาตรา 14 ทำผิดต่อไปนี้ ปรับ 1 แสน จำคุก 5 ปี

1.นำไฟล์หรือข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่เป็นเท็จอันอาจจะสร้างความเสียหายให้แก่ผู้อื่น
2.เช่นเดียวกับข้อ1 ที่อาจจะสร้างความตระหนกต่อประชาชนหรือความมั่นคงของประเทศ
3.เช่นเดียวกับข้อ 1 ที่เป็นความผิดเกี่ยวกับประมวลกฎหมายข้ออื่นๆ
4.เช่นเดียวกับข้อ 1 ที่เป็นลักษณะลามกและข้อมูลนั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
5.เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นไฟล์หรือข้อมูลตามข้อ 1-4


มาตรา 15 : ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจให้การสนับสนุกตามม.14 มีความผิดด้วยเช่นกัน

มาตรา 16 : ผู้ใดนำภาพตัดต่อที่อาจสร้างความเสียหายกับผู้อื่นไปเผยแพร่
หรือนำไฟล์ไปจัดเก็บไว้ในสถานที่ที่คนทั่วไปอาจพบเห็น
ปรับ 6 หมื่น จำคุก 3 ปี

มาตรา 17 : ผู้ใดกระทำความผิดตามพรบ.นี้ทั้งในและนอกอาณาจักร ถ้า
1.ผู้ทำเป็นคนไทย หรือผู้เสียหายเป็นคนไทยหรือรัฐบาลไทย
2.ผู้ทำเป็นคนต่างด้าวและเสียหายเป็นคนไทยหรือรัฐบาลไทย
ต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร

ซึ่งกฎหมายว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพ์พิวเตอร์ ในหมวดที่ 1 มาตราที่ 5 -17
ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องบบุคคลทั่วไปโดยตรง สำหรับกฎหมายตัวเต็มสามารถเข้าไปอ่านได้ที่


http://www.thaiaudioclub.net/board/index.php?topic=31.0

 win win win

      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #6 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2553, 21:59:42 »


ขอขอบคุณเวบ ประชาชาติออนไลน์ วันเสาร์ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1276321465&grpid=02&catid=no



ยักษ์โน้ตบุ๊กปูพรมรุ่นใหม่ถล่มคอมมาร์ต"โตชิบา-เลอโนโว"เพิ่มงบฯขยายฐานโน้ตบุ๊กต่ำกว่า15,000

ยักษ์ไอทีพาเหรดเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ เตรียมอัดแคมเปญถล่มราคางาน"คอมมาร์ต" ปลาย มิ.ย.นี้

"โตชิบา-เลอโนโว" ประกาศช่วงชิงมาร์เก็ตแชร์เบียดขึ้นอันดับ 3 ทุ่มงบฯการตลาดเพิ่มเท่าตัว

"โตชิบา"อัดกิจกรรมตามร้านค้า ขยายฐานโน้ตบุ๊กราคาต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาท
กรุยทางตลาดต่างจังหวัด

นายถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด
กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์ของโตชิบาปี 2553 (เริ่มปีงบประมาณ เม.ย. 2553)

จะเน้นการนำโน้ตบุ๊กราคาต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาท เข้ามาทำตลาด 3-4 รุ่น เนื่องจากตลาดกลุ่มนี้
มีสัดส่วนถึง 30% ของตลาด จากเดิมที่จะมีการทำราคาพิเศษเพื่อจำหน่ายในงานคอมมาร์ตเท่านั้น

ทั้งนี้เพื่อช่วยให้โตชิบาสามารถแข่งขัน โดยเฉพาะการขยายฐานในตลาดต่างจังหวัดซึ่งจะช่วย
เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของโตชิบาในปีนี้ได้มากขึ้น
 
พร้อมกันนี้ บริษัทมีแผนเปิดโตชิบาช็อปปีนี้ จำนวน 10 แห่ง เช่น

อุดรธานี โคราช ภูเก็ต เป็นต้น รวมถึงการตกแต่งคอร์เนอร์ใหม่อีกกว่า 100 จุด พร้อมกับเพิ่ม
พนักงานขายหน้าร้านเป็น 200 ราย เพื่อรองรับแผนการขยายตลาดต่างจังหวัด
ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
 
"โน้ตบุ๊กราคาต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาท มีสัดส่วนขนาดใหญ่มาก แต่โตชิบากลับมีส่วนแบ่งการตลาด
ในเซ็กเมนต์นี้ 0%

เราจึงขอบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มไลน์สินค้ามากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด
ขณะเดียวกันรุ่นราคา 1.5-1.8หมื่นบาท ก็จะเพิ่มสินค้ามากขึ้นด้วย"

นายถกลกล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2553 บริษัทได้รับงบประมาณในการทำตลาดของกลุ่มธุรกิจไอที
200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเท่าตัว เป็นเพราะ

ยอดขายโน้ตบุ๊กในไทยของปี 2552 มีอัตราการเติบโตถึง 30% ทำให้บริษัทแม่เห็นความสำคัญ
และปี 2553 เป็นปีที่โตชิบาทำตลาดโน้ตบุ๊กในไทยมาครบ 25 ปี
ทำให้มีการลงทุนจัดกิจกรรมมากขึ้น
ซึ่งบริษัทจะทุ่มงบฯในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ พร้อมกับการ
ทำกิจกรรมการตลาดตามร้านค้ามากขึ้น
 
โดยล่าสุดโตชิบา เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ตระกูล Satellite ซึ่งมีทั้งซีพียูของอินเทล คอร์ ไอและ
เอเอ็มดี โดยมีระดับราคาตั้งแต่ 14,900 บาท จนถึง 39,900 บาท

โดยจะเน้นการทำตลาดขนาดหน้าจอ 13 นิ้วมากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์ของสีสันที่มีให้เลือกถึง 5 สี คือ
สีดำ เทา ขาว แดง และน้ำตาล ทิศทางการทำตลาดของโตชิบาจะมุ่งไปที่
การนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
 
นายถกลยังกล่าวด้วยว่า บริษัทวิจัยไอดีซีได้ปรับตัวเลขตลาดรวมโน้ตบุ๊กในไทยใหม่
จากเดิมคาดว่าจะมีโน้ตบุ๊กจำนวน 1.9 ล้านเครื่อง ลดลงเป็น 1.7 ล้านเครื่อง เพราะ
ผลกระทบทางการเมืองที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทำให้ตลาดยังมีการเติบโต
โดยโตชิบาตั้งเป้ามีส่วนแบ่งเป็นอันดับ 3 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 10%
จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งในตลาด 7-8%    
 
สำหรับงานคอมมาร์ตช่วง 24-27 มิ.ย.นี้ คาดว่าจะมีการแข่งขันและโปรโมชั่นกันอย่างรุนแรง
แน่นอน โดยเฉพาะแบรนด์จากอเมริกาและไต้หวัน
เพราะอยู่ในช่วงการเปลี่ยนรุ่นของครึ่งปีหลัง และมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามา

ทำให้ทุกแบรนด์ต้องแข่งขันกันอย่างเต็มที่แน่นอน และคาดว่าแรงกว่าทุกครั้งแน่ ๆ เพราะ
ธนาคารหลายแห่งมีการเสนอดอกเบี้ยราคาพิเศษให้ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำมาก ๆ

ทำให้บริษัทมีต้นทุนทางการเงินต่ำ สามารถทำแพ็กเกจโปรโมชั่นได้ทุกรุ่นและระยะเวลายาวขึ้น

  ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ
 
ด้านนายขจรเกียรติ อร่ามรัศมีกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์
บริษัท เลอโนโว ประเทศไทย กล่าวว่า

กลยุทธ์ของเลอโนโวปีนี้จะเน้นการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งคอนซูเมอร์และเอสเอ็มอี
พร้อมกับการขยายช่องทางจำหน่ายในต่างจังหวัดประมาณ 10 แห่ง

เน้นภาคอีสาน เหนือ และตะวันออก พร้อมกับเพิ่มเลอโนโวช็อปตามหัวเมืองมากขึ้น
ซึ่งล่าสุดเลอโนโวได้เปิดศูนย์บริการเลอโนโวแห่งแรก ที่พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ
ผ่านตัวแทนของบริษัทเดอะแวลลูซิมเต็มส์ด้วย
 
"ปีนี้เลอโนโวได้งบฯการตลาดจากบริษัทแม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เพราะ
บริษัทแม่มองเห็นศักยภาพของตลาดในประเทศไทย และยอดขายของเลอโนโวในปีที่ผ่านมา
รวมถึงขนาดตลาดของประเทศไทยโตขึ้นด้วย จึงให้การสนับสนุนอย่างมาก"
นายขจรเกียรติกล่าวและว่า
  
ผลประกอบการปี 2552 เลอโนโว ประเทศไทย มีการเติบโตเชิงรายได้ 150%
ขณะที่ยูนิตโต 240% ซึ่งเป็นเพราะมีสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
รวมถึงช่องทางจำหน่ายมีความพร้อมและเริ่มมีกิจกรรมทางการตลาดทำให้มีการเติบโต
ค่อนข้างสูง ขณะที่ปี 2553 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตเท่าตัว
พร้อมกับตั้งเป้าที่จะมีมาร์เก็ตแชร์อันดับ 3 ของตลาด
 
นอกจากนี้ต้นปีหน้า เลอโนโว ประเทศไทย มีแผนที่จะนำ

"เลอโฟน" สมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของเลอโนโว เข้ามาทำตลาด
ในไทยเป็นครั้งแรก จากปัจจุบันที่เลอโฟนจำหน่ายอยู่เฉพาะในจีนเท่านั้น

โดยจะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจภายใต้เลอโนโว ประเทศไทย แต่อาจจะไม่ได้
เน้นมากนักเพราะการแข่งขันสูง โดยจะเน้นนำเข้ามาเพื่อตอบสนองแฟน ๆ
ของเลอโนโวมากกว่า  
 
นายขจรเกียรติกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับตลาดไอทีครึ่งปีหลัง คาดว่าตลาดไทย
ยังมีการเติบโตอยู่ระดับซิงเกิลดิจิต จากปกติควรจะเติบโตระดับดับเบิลดิจิต เพราะ

สภาพเศรษฐกิจการเมืองที่ผ่านมาทำให้ตลาดเติบโตช้า
แต่ขณะนี้ปัจจุบันเริ่มพบว่าหลายรายมีการจัดกิจกรรมโปรโมชั่นตามหน้าร้านไอทีต่าง ๆ
กระตุ้นให้คนออกมาจับจ่ายตั้งแต่ต้นเดือน เพื่อไม่ให้คนอั้นรอซื้อในงานคอมมาร์ตอย่างเดียว
 
ล่าสุดเลอโนโว เปิดตัวโน้ตบุ๊ก IdeaPad Z ซีรีส์ เจาะกลุ่มมัลติมีเดียระดับกลาง 2 รุ่น

ราคาเริ่มต้นที่ 26,900 บาท ตระกูล V ซีรีส์ 2 รุ่น ราคาประมาณ 27,900 บาท และรุ่น Y560
สำหรับผู้ใช้งานมัลติมีเดียขนาดใหญ่ IdeaCenter C200 เดสก์ทอปประเภทออลอินวัน
ราคา 15,900 บาท เป็นต้น
 
สำหรับเอเซอร์ซึ่งเป็นผู้นำตลาดโน้ตบุ๊กในเมืองไทย ช่วงเดือนที่ผ่านมาได้เปิดคอมพิวเตอร์
โมเดลใหม่ในตระกูลแอสไปร์ ไทม์ไลน์ เอ็กซ์ (Aspire TimelineX)
เจาะตลาดโน้ตบุ๊กหรู บางเพียง 0.8 มิลลิเมตร ใช้ซีพียู อินเทล คอร์ ไอ
แบตเตอรี่รองรับการใช้งานนาน 10 ชั่วโมง มีให้เลือก 2 สี ดำและเงิน ด้วยหน้าจอขนาด 13 นิ้ว
และ 14 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 26,900 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) พร้อมด้วย
เน็ตบุ๊ก แอสไปร์ วัน ใหม่ ซีรีส์ D260 หน้าจอ 10.1 นิ้ว ให้เลือก 4 สี ได้แก่ ม่วง เงิน ดำ และ
ชมพูโอโรส ราคาเริ่มต้น 11,900 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ด้านฮิวเลตต์-แพคการ์ด หรือเอชพี มีแผนเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ในสัปดาห์หน้า

 เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

ได้โอกาศเลือกคอมพิวเตอร์โน๊ตบุคส์ และ เนตบุคส์ กันแล้วพวกเรา

win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #7 เมื่อ: 18 มิถุนายน 2553, 07:55:43 »


ก.ไอซีที ผนึกกำลัง 3 กระทรวงใหญ่ ร่วมวางนโยบายป้องกันและปราบปราม
ผู้กระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ทุกประเภทอย่างเด็ดขาด

ขอขอบคุณเวบสนุกดอทคอม และวันพฤหัส 17 มิ.ย. 53 ที่สนับสนุนเนื้อหา
http://news.sanook.com/943122-%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5-%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87-3-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88-%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1-.html

กระทรวงไอซีที ผนึกกำลัง กระทรวงยุติธรรม และ กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกันวาง

นโยบายป้องกันและปราบปราม ผู้กระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ทุกประเภทอย่างเด็ดขาด



นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที

กล่าวภายหลังลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือปฏิบัติงานและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
เกี่ยวกับการกระทำความผิดตาม

ประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

โดยจะเป็นการทำงานแบบป้องกันและปราบปรามขั้นเด็ดขาดกับผู้กระทำผิดในทุกรูปแบบ และ
นอกจากจัดการเว็บไซต์ไม่เหมาะสมแล้ว ยังเตรียมตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจ ตาม
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสืบสวน สอบสวน และปราบปราม
จากทั้ง 3 กระทรวงเพื่อมาร่วมเสริมการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น



ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า

หลังจากการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวแล้ว ภายใน 3 เดือน
จะเร่งขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานภาครัฐที่ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตให้กับภาคเอกชน
ให้กรองและช่วยปิดกั้นเว็บไซต์ไม่เหมาะสมก่อนเผยแพร่ไปสู่ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตอีกด้วย

win win win

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

นำข่าวมาให้พวกเราทราบว่าเครือข่ายเนต เป็น

ดาบสองคม ให้ทั้งประโยชน์ และ มีโทษ

จึงต้องมีการควบคุม ให้มีประโยชน์มากสุด และ เป็นโทษน้อยสุด Zero Approach

เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX



ทีซ่า ยังมีกำหนดการจัดสัมมนา เรื่อง ดาบสองคม...เหรียญสองด้าน สำหรับการใช้งาน
เครือข่ายสังคมออนไลน์ให้เกิดประโยชน์และมีความปลอดภัยในขณะเดียวกัน

ในวันที่ 21 ก.ค.2553 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอโนมา กรุงเทพฯ

ผู้สนใจสามารถสำรองที่นั่งได้ที่ 02-650-5771 กด 2 หรือ www.acisoniine.net/snscon2010

ขอขอบคุณเวบไทยรัฐ วันศุกร์ 18 มิ.ย.2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว

http://www.thairath.co.th/content/tech/90166

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

น้อง ๆ พี่ ๆ ที่ดูแลเวบซีมะโด่ง ของเรา น่าส่งตัวแทนไปร่วมฟัง ร่วมเสนอ และ ซักถามข้อสงสัย

ในวันที่ 21 ก.ค.2553 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอโนมา กรุงเทพฯ

                                                                                     รักนะ รักนะ รักนะ

      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #8 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553, 13:02:58 »


ขอขอบคุณเวบไทยรัฐ วันพุธ 23 Jun 2010 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/tech/91148



เปิดศักราชใหม่ของนักศึกษามหาวิทยาลัย นั่งนอนสอบไล่อยู่กับบ้าน

นักศึกษามหาวิทยาลัยของอังกฤษ อีกไม่นานจะสามารถ นั่งนอนสอบไล่ทางออนไลน์อยู่กับบ้าน
นึกจะสอบเมื่อใด จะกลางวันหรือกลางคืนก็ได้ตามใจชอบ แต่ก็ไม่อาจจะโกงข้อสอบได้

บริษัท สร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของสหรัฐฯ ได้สร้างโปรแกรมที่จะทำให้

นักศึกษาสามารถจะทำข้อสอบไล่อยู่กับบ้านได้ แต่ก็อยู่ในความดูแลของผู้คุมสอบที่ไม่เห็นตัว และ
ไม่อาจจะเปิดไฟล์ตำราดูได้ด้วย


เพราะโปรแกรมจะอายัดไฟล์ทั้งหมด และการเข้าอินเตอร์เน็ตด้วย เว้นแต่ไฟล์ที่จำเป็นในการสอบ และ
ผู้สอบจะต้องพิมพ์ลายมือ เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นคนเดียวกับผู้มีสิทธิสอบ

บริษัทกล่าวในเว็บไซต์ของตนว่า

"โปรแกรมดังกล่าวเท่ากับเอาห้องสอบไล่เข้าไปไว้ในยุคคอมพิวเตอร์"

win win win

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

นำเทคโนโลยี่ ทางด้านคอมพิวเตอร์ ว่าสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทุกวงการ ที่ต้องการได้

 เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ
 
 
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #9 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553, 19:45:14 »


ขอขอบคุณ เวบไทยรัฐ วันพุธ 23 มิถุนายน 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/tech/91439



นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ร่วมมือกับ
คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กทช. หารือ แนวทางผลักดันบรอดแบนด์ราคาถูก
ตั้งเป้าเข้าถึงประชาชน ขณะที่วางกรอบอย่างน้อย1ปี ดำเนินงาน...

23 มิ.ย. กระทรวงไอซีทีได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด  บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด  สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรม
ซอฟต์แวร์แห่งชาติ หรือ ซิป้า และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.)

เพื่อวางกรอบร่วมกันทำให้ประเทศได้ประโยชน์จากบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ
บรอดแบนด์  ขณะเดียวกัน ได้มีแนวทางตั้งคณะกรรมการบรอดแบนด์แห่งชาติขึ้น

โดยมีตัวแทนจาก กทช.และกระทรวงไอซีที มอบหมายให้
นายรอม หิรัญพฤกษ์ และนายบุญมาก ศิรินวกุล ทีมที่ปรึกษารับผิดชอบ

รมว.ไอซีที กล่าวต่อว่า การผลักดันบริการบรอดแบนด์ จะเน้นการเข้าถึงประชาชน
ในราคาที่เป็นธรรม และบริการที่มีคุณภาพ

โดยเบื้องต้น กทช.มีนโยบายจะให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง หรือไวแมกซ์
ราคาอยู่ที่ 99 บาทต่อเดือน

ขณะที่กระทรวงไอซีที ได้มอบนโยบายให้ ทีโอที หาแนวทางให้บริการบรอดแบนด์เริ่มต้น
ที่ความเร็ว 2 เมกะบิต ในราคา 150 บาทต่อเดือน ทั่วประเทศ เรื่องบรอดแบนด์ราคาถูก
ให้ทีโอที และกสท เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนจะมีเอกชนเข้าร่วมหรือไม่
ต้องดูนโยบายที่ชัดเจนอีกครั้งโดยจะผลักดันให้เร็วที่สุด อย่างน้อย 1 ปี


win win win

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

เมื่อเทคโนโลยี่ ราคาถูกลง เข้าถึงได้ง่าย จะถูกนำมาใช้พัฒนางานยากกลายเป็นง่ายได้ เช่น

ถ้ากระทรวงสาธารณสุข สร้างเครือข่ายของหน่วยงานสาธารณสุขขึ้น เริ่มจากเล็ก ๆ ระดับอำเภอ
จนขยายมาเป็น ระดับจังหวัด จนขยายใหญ่ คลุมทั้งประเทศ เป็นเครือข่ายสาธารณสุขระดับชาติ
เทคโนโลยี่เครือข่ายนั้นมีชื่อ
เรียกว่า



Virtual Private Network : VPN  

เครือข่ายขั้นต้นระดับอำเภอ จะมีโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพอำเภอ รพสอ.เป็นแม่ข่าย
มีโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพตำบล รพสต.เป็นลูกข่าย จะทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ที่ได้รับอนุญาตจากแม่ข่าย เข้าเครือข่ายได้ ซึ่งแต่ละคน จะได้สิทธิเข้าดูข้อมูลได้ไม่เท่ากัน
เพื่อเป็นการรักษาความลับของผู้ป่วย เครือข่ายนี้อยู่ในอินเตอร์เนต จะสามารถเข้าได้ทุกที่
ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ ล็อคอินเข้าไป ในเครือข่ายที่ต้องการ เช่น

แพทย์อยู่ที่ รพสอ. ล็อคอินเข้าไป ที่ รพสต.ที่รับผิดชอบ มีพยาบาลเวชปฏิบัติเปิดคอมให้
แพทย์เข้ามา เมื่อมีคนไข้มาตรวจ พยาบาลเวชปฏิบัติ ที่อยู่ที่ รพสต.ก็จะทำหน้าที่เหมือน
พยาบาลที่หน้าห้องตรวจโรค พิมพ์ประวัติเจ็บป่วย วัดไข้ วัดความดัน ฯลฯ ส่งเข้ามา
ห้องตรวจที่แพทย์ล็อคอินเข้ามาคอยอยู่ คนไข้จะมีพยาบาลเวชปฏิบัติ ที่ รพสต.นั้น
คอยช่วยเหลือแพทย์ในการตรวจร่างกายเพิ่มให้ถ้าแพทย์ต้องการให้ตรวจ เมื่อแพทย์สั่งยา
ทางคอมพิวเตอร์ ที่ รพสอ.ก็เหมือน Virtual แพทย์มานั่งพิมพ์สั่งยา ที่ รพสต.นั่นเอง

ผลทำให้คนไข้และแพทย์ไม่ต้องมาพบกันจริง แต่ใช้เสมือนการมาพบกันทางคอมพ์ Virtual แทน

 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #10 เมื่อ: 23 มิถุนายน 2553, 21:46:14 »


ขอขอบคุณเวบเดลินิวส์ วันพุธ 23 มิถุนายน 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=8&contentID=73973



“จุติ”ปิ๊งไอเดียส่งเจ้าหน้าที่ไอซีทีสอน ส.ส.-ส.ว.เล่นเฟสบุ๊ค-ทวิสเตอร์คาดเปิดประชุมสภาเริ่มทันที

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ได้ตั้งคณะทำงานรัฐมนตรี เพื่อประสานงาน และเตรียมส่งหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร
ประธานวุฒิสภา และเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

ให้กระทรวงไอซีทีส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยจัดอบรม ส.ส. และ ส.ว.ใช้เครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ค
(เฟสบุ๊ค และทวิสเตอร์) เพื่อเป็นช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างสมาชิก และประชาชน รวมทั้ง
รับฟังความเห็น และข้อเสนอ เพื่อใช้ในการปรับปรุงการทำงาน

ทั้งนี้ จากการหารืออย่างไม่เป็นทางการกับ ส.ส. และ ส.ว. ได้รับการตอบรับในเชิงเห็นด้วย
โดยให้ความเห็นว่า หลายคนมีความต้องการใช้ แต่ด้วยวัยวุฒิจึงยังไม่มีโอกาสได้เรียนการใช้งาน

ดังนั้น ไอซีทีในฐานะผู้ดูแลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศ จึงเห็นว่า

ควรยกระดับการสื่อสารของตัวแทนประชาชนให้ทันสมัย และรวดเร็วมากขึ้น

 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #11 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2553, 18:45:48 »


ขอขอบคุณเวบไทยรัฐ วันอาทิตย์ 27 มิถุนายน 2559 ที่เือื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/tech/92267



ไอบีเอ็มเปิดตัว'โซนาส'เสริมประสิทธิภาพจัดการข้อมูล

ออกตัวช่วยเทคโนโลยีใหม่ด้านสตอเรจ เพิ่มศักยภาพการบริหาร จัดเก็บ และสำรองข้อมูล
ลดความเสี่ยงจากเหตุไม่คาดฝัน พร้อมฉลองความสำเร็จ ครองแชมป์ตลาด

เอ็กซ์เทอร์นัล ดิสก์ สตอเรจ 7 ไตรมาส...

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เปิดตัวนวัตกรรมรูปแบบใหม่





“โซนาส” (Scale Out Network Attached Storage – SONAS)

เพื่อการทำงานร่วมกับคลาวด์ คอมพิวติ้ง และโซลูชันใหม่ๆ ด้านสตอเรจสำหรับองค์กรขนาดใหญ่
ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสำรอง

จัดเก็บข้อมูลในองค์กร เสริมความต่อเนื่องในการทำงานและลดความเสี่ยงทางธุรกิจ
ในกรณีข้อมูลสำคัญสูญหายจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

พร้อมข้อเสนอทางด้านการเงินจากไอบีเอ็ม เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระธุรกิจต่าง ๆ แบ่งเบาภาระการลงทุน
ด้านไอทีและเฉลิมฉลองความสำเร็จอันดับหนึ่ง ส่วนแบ่งตลาดผลิตภัณฑ์เอ็กซ์เทอร์นัล ดิสก์ สตอเรจ
ในประเทศไทยถึง 7 ไตรมาสติดต่อกัน

win win win

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

งานยุ่งยากเพียงไร จะแก้ด้วยเทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์ ที่โลกกำลังก้าว
เข้าสู่ยุค โลกไร้พรมแดนด้วย เทคโนโลยี่สารสนเทศ Information Technology : IT


 sing sing sing

 
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #12 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2553, 19:38:40 »


ขอขอบคุณเวบไทยรัฐ วันอาทิตย์ 27/06/2553 ที่สนับสนุนเนื้อหา
http://www.thairath.co.th/content/tech/92257



เปิดตัวโซลูชันระบบเปิดสำหรับ โลกยุคเสมือนจริง Virtual ทั้งการกำหนดค่าพร้อมใช้
สำหรับธุรกิจ ระบบสตอเรจ เซิร์ฟเวอร์ เวอร์ชวลไลเซชัน Vitualization พร้อมบริการ
หวังลดต้นทุน เพิ่มความยืดหยุ่นและคุณค่าธุรกิจ...

พื่อให้ลูกค้าสามารถติดตั้งโซลูชันดาต้าเซ็นเตอร์พร้อมรองรับเวอร์ชวลไลเซชันในตัวได้อย่างรวดเร็ว
เดลล์จึงนำเสนอรูปแบบการกำหนดค่าที่จัดทำขึ้นพร้อมใช้งานสำหรับ

ธุรกิจ (Business Ready Configurations) จากเทคโนโลยีล่าสุดของเดลล์

เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์จากเวอร์ชวลไลเซชันอย่างรวดเร็ว
ทั้งการทำงานโดยไฮเปอร์ไวเซอร์จากไมโครซอฟท์หรือวีเอ็มแวร์
ด้วยรูปแบบการกำหนดค่าแบบพร้อมใช้งาน ทำให้สามารถติดตั้งโซลูชันต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
โดยคุณสมบัติการกำหนดค่าพร้อมใช้งานมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ มาพร้อมกลุ่มเซิร์ฟเวอร์
ระบบสตอเรจ ระบบเครือข่าย และบริการรูปแบบต่างๆ

นอกจากนี้ เดลล์ยังเปิดตัวชุดอัพเดตการบริหารจัดการระบบสำหรับ LifeCycle Controller ,
Chassis Management Controller และ Integrated Dell Remote Access Controller (iDRAC)
เพื่อช่วยในกระบวนการบำรุงรักษาระบบอย่างต่อเนื่อง ลดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน เดลล์ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซีรี่ย์ J สำหรับ PowerConnect ด้วยความร่วมมือ
ด้านโออีเอ็มกับ จูนิเปอร์ และผลิตภัณฑ์ด้านระบบเครือข่ายรุ่นใหม่อื่นๆ ส่วนบริการต่างๆ จากเดลล์
ได้แก่ บริการให้คำปรึกษาในการจัดการดาต้าสำหรับ EqualLogic เพื่อรวมระบบ EqualLogic
ใน EqualLogic PS บริการบำรุงรักษาระบบเชิงรุกสำหรับ EqualLogic
ช่วยติดตามสถานะของระบบจัดเก็บข้อมูลขององค์กร และบริการจัดการข้อมูล
สำหรับ EqualLogic พร้อมให้คำปรึกษาแนวปฏิบัติจนถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการข้อมูล

 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

พัฒนาประเทศด้วยเทคโนโลยี่ สารสนเทศน์ Information Technology : IT เราจะได้ไม่แพ้
ประเทศเวียดนาม และ ประเทศเพื่อนบ้าน ที่ำกำลังจะิทิ้งเราห่าง  เหนื่อย ถ้าเราหยุดอยู่กับที่

 
 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #13 เมื่อ: 27 มิถุนายน 2553, 19:53:25 »


ขอขอบคุณเวบไทยรัฐ วันที่ 27/06/2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/tech/92236

'ไอซีที'วางกลยุทธ์หนุนอุตฯ ICT รับไทยเข้มแข็ง



นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร : ไอซีที กล่าวว่า

การพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ๆ นับเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยในการส่งเสริมและผลักดันศักยภาพ
ในทุกๆ ด้านของประเทศ เห็นได้จาก

ประเทศพัฒนาแล้วได้พยายามทุ่มเทในการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรม ใหม่ๆ เพื่อให้สามารถ
ส่งเสริมศักยภาพทางการแข่งขันของประเทศตนเอง เช่น

นวัตกรรมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน นวัตกรรมในด้านการคมนาคมขนส่ง
นวัตกรรมด้านการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
รวมถึงการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่างก็เป็น  พลวัตรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งสิ้น

รองปลัดไอซีที กล่าวด้วยว่า การสัมมนานี้จัดให้มีขึ้นทั้งหมด 2 ครั้งที่ จังหวัดชลบุรี โดย

ครั้งที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 มิ.ย. 2553 ที่ผ่านมา และ

ครั้งที่ 2 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 ก.ค. 2553

ได้มีการนำเรื่องเกี่ยวกับการส่งเสริมงานวิจัยไอซีทีเพื่อพัฒนาด้านสิ่ง แวดล้อมในนิคมอุตสาหกรรม
การส่งเสริมการใช้ไอซีทีอย่างมีจริยธรรม และการเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนด้วยไอซีทีมาเป็น
หัวข้อในการสัมมนาด้วย

ซึ่ง กระทรวง ฯ หวังว่าการสัมมนาครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของนักวิจัย
และนักประดิษฐ์ในการสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมด้านไอซีที  รวม ทั้งช่วยส่งเสริมผลักดันนักประดิษฐ์
นักวิจัยระดับเยาวชนให้สามารถนำความ รู้มาพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง และยังเป็นการสนับสนุนให้

นักศึกษา ผู้ประกอบการ และบุคคลทั่วไป ได้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ผลงาน
นวัตกรรมด้านไอซีที ตลอดจนช่องทางหนึ่งในการผลักดันให้เกิดนวัตกรรมไอซีทีในเชิงพาณิชย์
ที่ช่วยสร้างอุตสาหกรรมไอซีทีของไทยให้เข้มแข็งได้


 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

นำข่าวดี ว่า กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร : ไอซีที ของเรารับเป็นงานสำคัญ
ที่ต้องเร่งพัฒนาให้ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ การเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ตกยุค ICT


 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #14 เมื่อ: 28 มิถุนายน 2553, 19:15:31 »


ขอขอบคุณเวบไทยรัฐ วันจันทร์ 28/06/2553 ที่สนับสนุนเนื้อหา
http://www.thairath.co.th/content/tech/92509



นายจุติ ไกรฤกษ์ ร.ม.ต.กระทรวงไอซีที

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2553 นายจุติ ไกรฤกษ์ ร.ม.ต.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
กล่าวว่า วันที่ 29 มิ.ย.2553 จะเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ขออนุมัติงบประมาณจัดตั้งองค์การมหาชนขึ้นมาใหม่อีก 2 องค์การ คือ

1.องค์การ รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) วงเงิน 250 ล้านบาท และ

2.องค์การ การทำธุรกรรมทางการเงิน หรือ อีคอมเมิร์ซ วงเงิน 210 ล้านบาท


โดยแต่ละหน่วยงานจะมีอายุเพียง 5 ปี เท่านั้น และถือว่าเป็นทีมเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาและ
หวังให้เกิดประโยชน์ ถือว่า กฎระเบียบที่ออกมาจะมีคุณภาพทั้งหมด

ขณะที่ประเทศไทยมีองค์การมหาชนอยู่ 28 องค์การ ที่ในแต่ละปี
ของบประมาณเกือบ 400 ล้านบาท แต่ก็ไม่มีผลงานที่โดดเด่นและเกิดประโยชน์มากนัก

 gek gek gek
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #15 เมื่อ: 29 มิถุนายน 2553, 19:20:25 »


ขอขอบคุณเวบแคนนอต วันที่ 29 Jun 2010 - ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://cannot.info/feed/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88/%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%9A%20578%20%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%20%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%99

ครม.อนุมัติงบ 578 ล้าน ตั้งไอซีทีชุมชน
 


นพ.มารุต มัสยวานิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. นพ.มารุต มัสยวานิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ดำเนินการโครงการศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนเพื่อพ่อหลวง ในปีงบประมาณ 2554
วงเงิน 578 ล้านบาท จำนวน 1,000 แห่งทั่วประเทศ

จากปัจจุบันมีศูนย์ไอซีทีชุมชนอยู่แล้ว 877 แห่ง ใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 402.68 ล้านบาท
ซึ่งได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ไอซีทีชุมชนมาตั้งแต่ปี 2550-2553

ทั้งนี้เพื่อให้พื้นที่ห่างไกลสามารถได้ใช้บริการไอซีทีได้อย่างเหมาะสม และ
เป็นการลดช่องว่างการเข้าถึงบริการโทรคมนาคมได้ด้วย

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

นอกจากนี้ยังเห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)
สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการใช้บริการอินเทอร์เน็ตให้แก่ศูนย์ไอซีทีชุมชนในพื้นที่ที่ไม่มีโครงข่าย
โทรคมนาคมเข้าถึงและต้องใช้โครงข่ายดาวเทียม
เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านอินเทอร์เน็ตให้กับประชาชน

 win win win

ทั้งนี้ กระทรวงไอซีที ได้รายงานว่า การจัดตั้งศูนย์ไอซีทีชุมชนเพื่อพ่อหลวงในครั้งนี้
เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศไทยด้วยแผนปรองดองแห่งชาติ
ที่มุ่งเน้นสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม

รวมทั้งจะช่วยเสริมสร้างการเมืองที่ดีด้วย อีกทั้งยังมีผลการเพิ่มยอดผู้ใช้คอมพิวเตอร์และ
อินเทอร์เน็ตได้อย่างมาก และเมื่อมีการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น

จะนำไปสู่การสร้างงานและสร้างรายได้ในท้องถิ่น รวมถึงเกิดผู้ประกอบการขนาดกลางและ
ย่อม(เอสเอ็มอี)รายใหม่ในท้องถิ่น เช่น
การขายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) ผ่านเว็บไซต์ เป็นต้น

นายมารุต กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ครม.ยังได้อนุมัติโครงการถวายพระพรออนไลน์ตามที่
กระทรวงไอซีทีเสนอ โดยประชาชนที่มีความประสงค์จะใช้ช่องทางการแสดง
ความจงรักภักดีต่อพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถฯ ผ่านการถวายพระพรออนไลน์ โดนดาวน์โหลดหน้าเว็บไซต์ถวายพระพร
ได้ที่ www.ohmpps.go.th และ www.ourking.in.th เริ่มตั้งแต่ 12 ก.ค. – ธ.ค.53
 
 ที่มา : www.thairath.co.th

win win win

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXx

สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา เพื่อแก้ปัญหายาก ๆ ต้องอาศัย 3 ด้าน ของสามเหลี่ยม ประกอบกัน
 
ด้านที่ 1การให้ความรู้ การเปิดไอซีทีชุมชน นี้เป็นการเปิดช่องทางแสวงหาความรู้ได้กว้างขวาง

ด้านที่ 2 การรวมตัวกันของผู้ได้รับความรู้ แล้วร่วมกันนำมาสร้างเป็นวัฒนธรรมตามความรู้

ด้านที่ 3 การสร้างสภาพให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามความรู้ ทั้งเชิงบวก และ เชิงลบ

โดย การเลือก สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร หรือ สส. เข้าไปออกกฏหมายให้เกิดสภาพที่ต้องการ

เมื่อมีไอซีที ชุมชนนี้ เป็นด้านที่ 1 แล้ว ด้านที่ 2 และ ด้านที่ 3 จะตามมาเอง ทำให้เกิด



การปฏิรูปประเทศที่ไม่หยุดนิ่งตามวงจรคุณภาพของเดมมิงส์ PDCA : Plan Do Check Act


 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า
 
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #16 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2553, 08:21:02 »


ขอขอบคุณเวบเดลินิวส์ วันพฤหัสบดี ที่ 08 กรกฎาคม 2553 ที่สนับสนุนเนื้อหาข่าว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=316&contentID=76635



ไอซีที คุย รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ คืบหน้า คาดหลัง ก.พ. 2554
เปิดเว็บท่ารวมบริการออนไลน์หน่วยงานรัฐ

   
นายชัยโรจน์ จิรพัฒนเกียรติ ผู้   อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงความคืบหน้า
โครงการพัฒนาระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ (อี-เซอร์วิส) ว่า

ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมบริการของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อนำมาให้บริการบนเว็บไซต์

www.egov.go.th

ซึ่งเป็นเว็บท่า หรือเว็บไซต์กลาง ที่กระทรวงไอซีทีจัดทำขึ้น
เบื้องต้นจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการประมาณเดือน ก.พ. 2554

   
นายชัยโรจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริการอี-เซอร์วิสที่ไอซีทีรวบรวมไว้ให้บริการมี 24 บริการ
ซึ่งตามแผนการดำเนินงานสิ้นปีนี้จะทำแบบสอบถามเพื่อแจ้งไปยังหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ
แล้วรวบรวมข้อมูลบริการออนไลน์มาไว้ให้บริการผ่านเว็บท่า ส่วนบริการที่ต้องติดต่อโดยตรง
กับหน่วยงานราชการ จะนำมาเสนอบนเว็บไซต์ด้วย เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย
   
“ความคาดหวังในการให้บริการอี-เซอร์วิสของหน่วยงานภาครัฐ คือ
การทำให้ประชาชนสะดวกในการติดต่อราชการ   ซึ่งมากกว่าเวลาทำการปกติ และ
สามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง”
นายชัยโรจน์ กล่าว

win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #17 เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2553, 18:23:23 »


กระทรวงไอซีที เปิดรับฟังความคิดเห็น (ร่าง) กรอบนโยบาย ICT 2020  
อยู่ 7 ยุทธศาสตร์ ภายในส.ค.2553…




นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวถึง
การประชุมระดมความคิดเห็นต่อ ยุทธศาสตร์ ICT เพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ว่า

สืบเนื่องจากกรอบนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย ระยะ พ.ศ. 2544-2553 หรือ
IT 2010 จะสิ้นสุดระยะเวลาลงในปี 2553

คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงได้มีมติเห็นชอบวันที่ 11 ก.ย. 2550 ที่ผ่านมา ให้กระทรวงไอซีทีร่วมกับ
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค กระทรวงวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี จัดทำกรอบนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย
ระยะ พ.ศ. 2554-2563 หรือ ICT 2020 ขึ้น

เพื่อให้การดำเนินงานด้านการพัฒนา ICT ของประเทศมีความชัดเจนและต่อเนื่อง โดยคาดว่า
การจัดทำกรอบนโยบายดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือนส.ค.2553

ดังนั้น กระทรวงฯ จึงได้จัดการประชุมระดมความคิดเห็นต่อ (ร่าง) กรอบนโยบาย ICT 2020
ในภาพรวม และต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาตาม (ร่าง) กรอบนโยบายฯ 7 ยุทธศาสตร์ คือ


1.ยุทธศาสตร์ ICT เพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

2.ยุทธศาสตร์ การใช้ ICT เพื่อการบริการภาครัฐ

3.ยุทธศาสตร์ การใช้ ICT เพื่อสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม

4.ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรม ICT

5.ยุทธศาสตร์การพัฒนาทุนมนุษย์ด้วย ICT

6.ยุทธศาสตร์การใช้ ICT เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และ

7.ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ


ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะได้จัดการประชุมระดมความคิดเห็นต่อยุทธศาสตร์ดังกล่าวจำนวนทั้งหมด 7 ครั้ง
ตลอดเดือนก.ค.2553 นี้ เพื่อนำเสนอแนวคิดและสาระสำคัญของ (ร่าง) กรอบนโยบาย ICT 2020
ในภาพรวม และยุทธศาสตร์ทั้ง 7 รวมทั้ง เพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่อ...

ขอขอบคุณเวบไทยรัฐ วันพฤหัส 8 กรกฏาคม 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว

 http://www.thairath.co.th/content/tech/94490

 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #18 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2553, 18:36:06 »




บริการอินเตอร์เนตผ่านสายเคเบิ้ลแบบ เส้นใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) หรือ
ในชื่อบริการที่เรียกว่า "Fiber to the X" (FTTx)
 
    
จริง ๆ อยากจะเล่าเชิงเปรียบเทียบ เพราะหลายท่านอาจจะบ่นว่า มันแลดูจะข่าววิทยาการเกินไป

ดังนั้นก็จะพยายามเล่าแบบง่าย ๆ ก่อนว่า ในวงการโทรคมนาคมนั้น การใช้เส้นใยแก้วนำแสง
คล้ายกับแท่งแก้วส่องแสงที่ไว้ประดับแบบที่เคยเห็นตามผับตามบาร์ หรือร้านอาหารหรู ๆ นั่นแหละค่ะ

แต่เขาผลิตมาเป็นเส้นเล็กมาก ๆ แบบเส้นผม และยาวมากๆ เป็นกิโลเมตร เสร็จแล้วนำมารวมกัน
หลาย ๆ เส้นเพื่อความคุ้มค่า หุ้มด้วยเปลือกฉนวนด้านนอกเพื่อป้องกันการถูกทำลายแตกหัก ..
ก็แก้วนิคะ.. ย่อมเปราะบางเป็นธรรมดา แต่ว่ากันว่า ฉนวนป้องกันการแตกหักของใยแก้วนี้นั้น
บางรุ่นแข็งแรงพอให้รถถังวิ่งทับได้เลยนะคะ





เอาล่ะ ได้เส้นใยแก้วนำแสงมา ..แล้วไงต่อ..? มันจะส่งเนตไปได้ไงล่ะ?!..
ให้นึกถึงการส่งสัญญาณไฟฉาย SOS ขอความช่วยเหลือไงคะ ของใกล้ตัวแบบนี้หลายคน
อาจจะเคยทำเองด้วยซ้ำ เช่นว่าถ้าคุณอยากจะส่งซิกแนลให้หนุ่มเป้าหมายว่า ย่องเข้ามาได้แล้ว
พ่อหลับแล้ว จะตะโกน หรือโยนหิน ก็ดูจะก่อให้เกิดเสียงดัง เอาไฟฉายมาส่อง หรือเปิด-ปิดไฟห้อง
ก็ยังได้ แบบเปิดสองที Yes เปิดทีเดียวเท่ากับ No อะไรแบบนี้... เห็นไหมค่ะ แค่นี้ก็สื่อสารกันได้

รู้เรื่องแล้วใช่ไหม และยังมีอีกหลายคนใช้วิธีส่งแสงด้วยรหัสมอส (Morse) กันเป็นเรื่องเป็นราว


       
ประเด็นสำคัญของการใช้สายใยแก้วนำแสง คือความเร็วใช่ไหม แน่นอนค่ะ เพราะ
แสงเดินทางด้วยความเร็วประมาณ 300,000 Km/s (อ่าน: สาม-แสน-กิโลเมตร-ต่อ-วินาที)

ดังนั้น ในทางทฤษฎีที่คำนวณยากมากมายสรุปมา ว่ากันว่า ข้อมูลที่จะสามารถส่งผ่านเส้นใยแก้ว
นำแสงนี้ จะทำได้มากถึงเกือบ 50,000,000 Mbps (อ่าน: ห้า-สิบ-ล้าน-เมกกาบิต-ต่อวินาที) หรือ
ด้วยหน่วยนับเน็ตไฮสปีดบ้านเราตอนนี้ที่นิยมบอกกันเป็น "เมก" ก็จะเร็วขนาด "ห้า-สิบ-ล้าน-เมก"
มึนไปเลยใช่ไหมค่ะ สายใยแก้วนี้ รองรับได้ค่ะ

แต่ปัญหาอยู่ที่อุปกรณ์รับส่ง ต้นทางปลายทาง ยังทำได้ไม่ถึงขนาดนั้น เต็มที่ตอนนี้ก็อยู่
ที่ 10,000 Mbps ซึ่ง ถึงอุปกรณ์วันนี้มันยังปั่นสปีดไม่ได้เร็วขนาดห้าสิบล้านเมก

แต่ด้วยราคาที่ถูกลงเท่ากับสายทองแดง งั้นเราน่าจะเดินเส้นใยแก้วนำแสงไว้รอดีกว่าเพราะ
นั่นอาจจะเท่ากับว่า เราลงทุนเผื่ออนาคตไว้ ร้อยปี ด้วยต้นทุนที่ถูกมาก ๆ คุ้มค่าค่ะ


    
ทีนี้บริการที่เขาจะเปิดให้ใช้เลือกใช้กันมีชื่อมีแซ่แล้วนะคะ เราเรียกกันว่า

"Fiber to the X" ซึ่งแปลตรงตัวคือ "เส้นใยแก้วนำแสงไปยัง X"

ซึ่งยังคงฟังไม่ได้ศัพท์อยู่ดีเพราะ ตัว X เป็นตัวแปรที่แทนความหมายได้อีกหลายอย่าง เช่น
ถ้าจะต่อ สายใยแก้วนำแสงถึงในบ้านเลย ก็คือ

Fiber to the Home หรือ FTTH นอกจากนั้น ตัว X ก็ยังมี N=Node, C=Cabinet, B=Building
ซึ่งสรุปนะคะ H น่ะ หรูสุดแล้วค่ะคือวิ่งจากต้นทางเนตเข้าไปในบ้านกันเลย ดูรูปประกอบนะคะ


ฉบับหน้าจริง ๆ ยังนึกไม่ออกว่าจะมีอะไรเล่าต่อถึงความล้ำของเทคโนโลยี่
เส้นใยแก้วนำแสงนี้อีกไหม แต่ถ้า ไม่มีอะไรน่าสนใจ ก็จะไปเลี้ยวกลับไป เรื่องอื่น อาทิ
เช่น

เทคโนโลยี่ไร้สายแบบอื่น ๆ ซึ่งถ้าใครอยากรู้เรื่องอะไร ก็แนะนำกันมาได้นะคะ ที่
me@tricast.co.th ยินดีค้นคว้ามาเล่าให้ฟังแบบภาษาบ้าน ๆ อีกค่ะ

ขอขอบคุณเวบ me.in.th ที่่เอื้อเฟื้อข่าว

http://www.me.in.th/cat/letter/CatLetter06.php

 win win win
 
 
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #19 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2553, 20:35:04 »


ไอซีทีศึกษาซัพพลายเชน ก่อนวางนโยบายเสนอรัฐ
ขอขอบคุณเวบไทยรัฐ วันศุกร์ 9 กรกฏาคม 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/tech/94726



ธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.นายธานีรัตน์ สัมมนาซัพพลายเชนและโอกาสทางธุรกิจของอุตสาหกรรมICT
พร้อมดันซอฟต์แวร์และดิจิทัล คอนเทนต์ หวังสร้างโอกาสทางธุรกิจของอุตสาหกรรมICT ไทย...   

กล่าวว่า ขณะนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้มีบทบาทอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมทุกด้าน ทำให้หลายประเทศต่างให้ความสำคัญการใช้อุตสาหกรรมไอซีที
มาเป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญเพื่อแข่งขันกับนานาประเทศทั่วโลก


 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #20 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2553, 16:58:32 »


ขอขอบคุณเวบไทยรัฐ วันอาทิตย์ ที่ 18 กรกฏาคม 2553 ที่เอื้อเฟื้้อข่าว
http://www.thairath.co.th/column/tech/universe/95173



บรอดแบนด์สร้างชาติ

ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาเป็นวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์
ก่อนหน้าวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศยุโรปที่กำลังเผชิญและกำลังลุกลามไปยังอีกหลายประเทศ
สร้างความเจ็บปวดให้กับประชาชนในประเทศนั้นๆ เหมือนกับ
ประเทศไทยเราที่เคยมีประสบการณ์มาก่อนหน้านี้

ความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็คือการลงทุนของภาครัฐโดยเฉพาะ
การลงทุนด้านโครงการสาธารณูปโภค รัฐบาลของนายบารัค โอบามา ได้ให้คำมั่นว่า
จะลงทุนในโครงการบรอดแบนด์หรืออินเตอร์เน็ต ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นอีก
จำนวน 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณ 25,600 ล้านบาท
เป็นเงินกู้ก้อนใหม่และเงินช่วยเหลือ


ก่อนหน้านี้ได้มีการให้คำมั่นว่า รัฐบาลสหรัฐฯจะใช้งบประมาณสูงถึง 7,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หรือประมาณ 230,400 ล้านบาท เพื่อ ลงทุนโครงการบรอดแบนด์เพื่อเข้าถึงชาวบ้านที่ย่าน
ห่างไกลจากความเจริญโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานจำนวน 66 โครงการ
จะทำให้เกิดการสร้างงานโดยตรงเพิ่มขึ้นจำนวน 5,000 คน เพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ
ในหลายชุมชนของประเทศ ที่เกิดความทุกข์ยากในภาวะเศรษฐกิจถดถอย

"เมื่อเกิดจากภาวะวิกฤติได้   การลงทุนด้านเทคโนโลยีในยุคดิจิตอลเอจจะทิ้งไว้ให้กับชุมชน
ในระยะยาวผลประโยชน์ ทางเศรษฐกิจกับชุมชนที่จะไม่สามารถวัดค่าได้"

เป็นคำกล่าวของประธานาธิบดีโอบามาในการมอบเงินช่วยเหลือในการลงทุนบรอดแบนด์ใหม่

ปัจจุบันการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง  หรือบรอดแบนด์ของประชาชนในสหรัฐฯยัง
ตามหลังหลายๆประเทศ ซึ่งนายโอบามามุ่งมั่นที่จะปรับปรุงไล่ตามทันชาวบ้าน
โดยโครงการช่วยเหลือของรัฐจะมุ่งเน้นโครงข่ายไฟเบอร์ที่จะเป็นตัวนำอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
มาให้ชาวอเมริกันเข้าถึงได้ มากขึ้นและได้ประโยชน์ใช้เข้าถึงห้องสมุด โรงพยาบาล และกลุ่มธุรกิจ

รัฐบาลสหรัฐฯได้ทยอยออกกองทุนบรอดแบนด์จนถึงขณะนี้เป็นจำนวนเงินราว 2,700 ล้านดอลลาร์
สหรัฐฯหรือประมาณ 86,400 ล้านบาทจากงบทั้งหมด 7,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นับว่าเป็นงบจำนวนมหาศาลที่รัฐบาลสหรัฐฯได้เล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีบรอดแบนด์
ที่สร้างชาติได้อย่างไร ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าการพัฒนาเทคโนโลยีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ประเทศมหาอำนาจที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอย่างสหรัฐฯ แต่ล้าหลังประเทศอื่นเขา!


หนุ่มดิจิตอลcybernet@thairath.co.th

win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #21 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2553, 17:39:17 »


ขอขอบคุณเวบไทยรัฐ วันอาทิตย์ 18/07/2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/tech/97203

ซอฟต์แวร์ไทย ฉลุยCMMI ติดรองแชมป์เอเชียตะวันออก/ใต้



นายสมชาย ฉัตรรัตนา รองผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี หรือ ทีเอ็มซี กล่าวว่า
เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่า ซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพจะเกิดจากบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์มีกระบวน
การผลิตและการบริหารโครงการผลิตซอฟต์แวร์ที่มีมาตรฐานที่ดี และเป็นมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ
อาทิ มาตรฐาน CMMI (Capability Maturity Model Integration) เป็นแนวทางพัฒนากระบวนการ
ผลิตซอฟต์แวร์ให้มีคุณภาพ รวมถึงวิธีการวัดผลหรือประเมินกระบวนการผลิตซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดย
สถาบันวิศวกรรมซอฟต์แวร์ (Software Engineering Institute, SEI) แห่งมหาวิทยาลัยคาร์เนกี
เมลลอน (Carnegie Mellon) สหรัฐอเมริกา เป็นที่นิยมใช้แพร่หลายทั่วโลก
แต่บริษัทซอฟต์แวร์ที่เข้ารับการประเมินเพื่อให้ได้การรับรองมาตรฐาน CMMI นั้น จะต้องเตรียม
ความพร้อมทั้งกำลังคนและทุนทรัพย์  

ขณะนี้ ประเทศไทยมีบริษัทที่ได้รับการรับรอง CMMI จำนวนทั้งสิ้น 38 บริษัท จัดเป็นประเทศที่มี
บริษัทซอฟต์แวร์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโลก CMMI เป็นอันดับที่ 7 ในภูมิภาคเอเชีย และ
เป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากประเทศมาเลเซีย (จำนวน 71 บริษัท)




นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
กล่าวว่าโครงการ SPI@ease มุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งและศักยภาพให้กับอุตสาหกรรม
ซอฟต์แวร์ไทย อันถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของชาติ และเป็นส่วนประกอบ
ที่สำคัญยิ่งในการพัฒนาประเทศ โดยถือเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญในการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ
ของอุตสาหกรรมทุกสาขา

นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า โครงการสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจซอฟต์แวร์ในการปรับปรุงกระบวน
การพัฒนาซอฟต์แวร์ รุ่นที่ 2 (SPI@ease II)  มีระยะเวลาโครงการ 3 ปี
ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2553 – เดือนมี.ค.2556  เพื่อสนับสนุนการสร้างมาตรฐานการพัฒนาซอฟต์แวร์
และเข้ารับการประเมิน CMMI ให้แก่บริษัทซอฟต์แวร์ไทยอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดมีบริษัทที่สนใจ
สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 25  บริษัท

สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจซอฟต์แวร์ใดที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-583-9992 ต่อ 1433 และ1437


 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #22 เมื่อ: 18 กรกฎาคม 2553, 18:23:46 »


ขอขอบคุณเวบฐานเศรษฐกิจวันอังคารที่ 13 กรกฏาคม 2010 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=35787:2010-07-13-03-36-31&catid=123:2009-02-08-11-44-33&Itemid=491  

แม้ว่าเราจะให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ดิจิตอลคอนเทนต์
และ แอนิเมชัน มาเป็นเวลานาน ในฐานะอุตสาหกรรมดาวรุ่ง

แต่อุตสาหกรรมดังกล่าวยังเดินไปอย่างไร้ทิศทาง ล่าสุดกระทรวงไอซีที
ได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ
ดำเนินการศึกษาวิจัยโครงการส่งเสริมบทบาทของอุตสาหกรรมไอซีทีเพื่อการสนับสนุน
การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ระยะที่ 2" และจัดทำร่างแผนการพัฒนาอุตสาหกรรม
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย พ.ศ.2553-2556
   

ซึ่งแนวทางการศึกษามุ่งเน้นไปยังอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ดิจิตอลคอนเทนต์ และ
แอนิเมชัน  ที่ไทยยังมีโอกาสการแข่ง และสร้างการเติบโตในตลาดโลก  

เจาะข้อเสนอ'ทีดีอาร์ไอ'



ดร.สมเกียรติ  ตั้งกิจวานิชย์  สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ  

กล่าวว่าบทสรุปจากการศึกษาครั้งนี้นั้นทีดีอาร์ไอได้จัดทำข้อเสนอแนะไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง
ในอุตสาหกรรมว่าการพัฒนาซัพพลายเชนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไนไทยควรมีการขยาย

จากผู้ผลิตรับจ้างผลิต โออีเอ็ม ไปสู่ผู้ผลิตโอดีเอ็ม  คือ   การออกแบบ  
อาทิ การออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์แบบผังตัว
     

ขณะเดียวกันขยายไปสู่เจ้าของตราสินค้า (โอบีเอ็ม)  อาทิ  คาแรกเตอร์แอนิเมชัน      
ส่วนโอกาสทางธุรกิจสำหรับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์นั้นมีโอกาสเติบโตมหาศาล
โดยในการให้บริการซอฟต์แวร์ (Software as a Service) ควรเปลี่ยนจากการขายแรงงาน
ไปสู่การขายทรัพย์สินทางปัญญา   และขยายตลาดไปทั่วโลก    
 
เช่นเดียวกับซอฟต์แวร์แบบฝังตัว ที่ควรเปลี่ยนจากการขายแรงงานไปสู่ ผู้ขายทรัพย์สินทางปัญญา  
และสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการออกแบบ ขณะที่โมบายคอนเทนต์  สามารถขยายตลาดได้ทั่วโลก
เพื่อส่านแบ่งรายได้จากการขายในประเทศ  

โดยเปิดแอพ สโตร์ ขึ้นมาเพื่อเลี่ยงการแบ่งส่วนแบ่งรายได้ให้โอเปอเรเตอร์ 50%    
ส่วนซอฟต์แวร์เกมนั้นสามารถขยายตลาดได้ทั่วโลก    ซึ่งผู้ประกอบการต้องเพิ่มส่วนแบ่งรายได้
จากการขายในประเทศ   และซอฟต์แวร์ แอนิเมชัน สามารถขยายได้ทั่วโลก    
โดยการเพิ่มมูลค่าเพิ่มด้วยการสร้างคาแรกเตอร์ดันผู้ประกอบการโกอินเตอร์

หมายเหตุ

OEM = Original Equipment Manufacturing
ODM = Original Design Manufacturing
OBM = Original Brand Manufacturing

 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #23 เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2553, 07:48:17 »


คนเว็ปชี้รัฐต้องจริงจัง กม.คอมพิวเตอร์
ขอขอบคุณเวบสนุกดอทคอม วันพุธ 21 ก.ค. 53 ที่สนับสนุนเนื้อหา
http://news.sanook.com/953422-%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9B%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%A1.%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C.html



นายธาม เชื้อสถาปนศิริ ผู้ประสานงานมีเดีย มอนิเตอร์ ไทยแลนด์
ได้กล่าวในงานครบรอบ 3 ปี การบังคับใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ว่า

จากการที่ตนได้ติดตามข้อมูลข่าวสาร และวิเคราะห์สื่อสารมวลชนทุกแขนงบ่งชี้ให้เห็นถึง
ปฏิกิริยาของประชาชนในการรับฟังสื่อในปัจจุบัน หันมาบริโภคข่าวสารทางสื่ออินเทอร์เน็ตมากขึ้น

อีกทั้งยังมีการแสดงความคิดเห็นในเชิงที่เสียดสีหมิ่นเหม่กันอย่างแพร่หลาย โดยที่ผู้คนกลุ่มนี้
อาจยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังทำผิด บางรายถึงขั้นทำไปด้วยความสะใจและหาที่ระบาย
ความโกรธแค้น จากฝั่งที่ตนมีความคิดเห็นที่แตกต่างเท่านั้น

ตรงจุดนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกที่รุกลามเข้าสู่โลกไซเบอร์ ซึ่งหน่วยงาน หรือ
กลไกของรัฐที่มีหน้าที่ควบคุม กว่าจะดำเนินการต้องใช้เวลาอย่างยาวนาน

ทั้งหมดนี้เป็นอุปสรรคและปัญหาต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น

หากรัฐบาลไม่รีบปรับเปลี่ยนกฎระเบียบข้อบังคับ อนาคตคงจะควบคุมสื่ออินเทอร์เน็ตได้ยาก
นอกจากนี้ผู้ประสานงานมีเดีย มอนิเตอร์ ไทยแลนด์ ยังได้นำภาพบุคคลสำคัญต่างๆ ที่มี
การตัดต่อ และใช้คำพูดล้อเลียนเสียดสีมาแสดงให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับชมอีกด้วย


 gek gek gek

      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #24 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2553, 18:00:34 »


ขอขอบคุณเวบไทยรัฐ วันเสาร์ 24 กรกฏาคม 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/tech/98502



อินเดียเจ๋งเปิดตัวโน้ตบุ๊กถูกสุดในโลก35ดอลลาร์
 
เมื่อ 23 ก.ค. รัฐบาลอินเดีย เปิดเผยว่า อินเดียจะผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ “แล็บท็อป”

ราคาถูกที่สุดในโลก 35 ดอลลาร์ (ราว 1,120 บาท) ให้นักเรียนชั้นประถมจนถึงมหาวิทยาลัยทุกคน

เป็นเจ้าของได้ เพื่อพัฒนาการศึกษา ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

แล็บท็อปรุ่นนี้เป็นระบบหน้าจอสัมผัส (ทัชสกรีน) ใช้ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ ใช้พลังงานแสงแดดได้

ท่องอินเทอร์เน็ต ดูหนังฟังเพลงได้ พัฒนาโดยสถาบันเทคโนโลยี และ สถาบันวิทยาศาสตร์อินเดีย

รัฐบาล มีแผนจะวางจำหน่ายปีหน้า และ ทำให้ราคาต่ำ ลงเหลือ 20 หรือ10 ดอลลาร์ เมื่อมีการผลิต

ปริมาณมาก ขณะนี้กำลังติดต่อบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ๆ ของโลกอยู่

 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX



ช่องทางเข้าสู่การเรียนรู้ได้เปิดกว้างขึ้นแล้ว เมื่อมีเครื่องคอมพิวเตอร์ ราคาถูกลง จะ

มาแทนอุปกรณ์ สื่อสารมวลชน วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ E- Bookแทนหนังสือเรียน ฯลฯ

จะเกิดเครือข่ายโลกออนไลน์ Internet , เครือข่ายเชื่อมองค์กรที่อยู่ต่างที่ไว้ด้วยกัน หรือ VPN

เีครือข่ายภายในเชื่อมโยงระหว่างแต่ละจุดที่อยู่ภายในสถานที่ตั้งองค์กร Intranet ฯลฯ


XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

ถ้ากระทรวงสาธารณสุข สร้างเครือข่ายของหน่วยงานสาธารณสุขขึ้น เริ่มจากเล็ก ๆ ระดับอำเภอ

จนขยายมาเป็น ระดับจังหวัด จนขยายใหญ่ คลุมทั้งประเทศ เป็นเครือข่ายสาธารณสุขระดับชาติ

เทคโนโลยี่เครือข่ายนั้นมีชื่อ
เรียกว่า



Virtual Private Network : VPN  

ตัวอย่าง เครือข่ายขั้นต้นระดับอำเภอ ที่จะเป็นจุดเริ่มให้ขยายเป็นระดับประเทศ เป็น เครือข่ายระดับชาติ

เครือข่ายขั้นต้นระดับอำเภอ จะมีโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพอำเภอ รพสอ.เป็นแม่ข่าย

มีโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพตำบล รพสต.เป็นลูกข่าย จะทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข

ที่ได้รับอนุญาตจากแม่ข่าย เข้าเครือข่ายได้ ซึ่งแต่ละคน จะได้สิทธิเข้าดูข้อมูลได้ไม่เท่ากัน

เพื่อเป็นการรักษาความลับของผู้ป่วย เครือข่ายนี้อยู่ในอินเตอร์เนต จะสามารถเข้าได้ทุกที่

ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ เฉพาะผู้ที่มี User name/Password ล็อคอินเข้าไป ในเครือข่ายที่ต้องการ

เช่น แพทย์อยู่ที่ รพสอ. ล็อคอินเข้าไป ที่ รพสต.ที่รับผิดชอบ มีพยาบาลเวชปฏิบัติเปิดคอมให้

แพทย์เข้ามา เมื่อมีคนไข้มาตรวจ พยาบาลเวชปฏิบัติ ที่อยู่ที่ รพสต.ก็จะทำหน้าที่เหมือน

พยาบาลที่หน้าห้องตรวจโรค พิมพ์ประวัติเจ็บป่วย วัดไข้ วัดความดัน ฯลฯ ส่งเข้ามา

ห้องตรวจที่แพทย์ล็อคอินเข้ามาคอยอยู่ เหมือนมานั่งตรวจที่ รพสต. คนไข้ จะติดต่อกัน

ทาง ภาพ และ เสียงคุยกับ แพทย์ได้เหมือนมีแพทย์ มานั่งอยู่ที่นั่นจริง Virtual

เมื่อต้องการให้ตรวจร่างกายเพิ่มเติม พยาบาล รพสต.ช่วยตรวจร่างกายแทนตามแพทย์ต้องการ

เมื่อแพทย์สั่งยานั่ง ที่ รพสอ.ก็เหมือน Virtual แพทย์มานั่งพิมพ์สั่งยา ที่ รพสต.นั่นเอง

ผลทำให้คนไข้และแพทย์ไม่ต้องมาพบกันจริง แต่ใช้เสมือนการมาพบกันทางคอมพ์ Virtual แทน

เข้าได้ทุกที่ ลดค่าเดินทาง มาพบกัน แต่พบกันทาง VPN จะขอพบ แพทย์ท่านใด ที่ใด สาขาใด

ก็ได้ที่เป็นสมาชิก ไม่ต้่องเสียเวลา และ ค่าใช้จ่าย มาพบกัน แต่ ผลเหมือนมาพบกันจริงได้

เมื่อต้องการให้มาพบกันจริง ก็เขียนใบนัดให้มาพบตามวัน เวลา สถานที่ ที่นัดได้



การสาธารณสุขมูลฐานสู่ทศตวรรษที่ 4 ใกล้จะบรรลุผลสุขภาพดีถ้วนหน้าแล้ว

ทำให้ตัวชี้วัดสุขภาพดีถ้วนหน้าของ สาธารณสุขมูลฐาน

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3394.0.html

ตัวที่ 3การเข้าถึงบริการสุขภาพได้ง่ายใกล้บ้าน  และ

ตัวที่ 4 สถานพยาบาลที่ให้การดูแล มีคุณภาพ รักษาได้โดยแพทย์ที่เหมาะสม


หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า


 
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #25 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2553, 10:25:39 »


ขอขอบคุณเวบไทยรัฐวันศุกร์ 30 ก.ค.53 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.thairath.co.th/content/tech/99766



ทหารสหรัฐก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิตอลใช้"มือถือ"เป็นอาวุธ

กลาโหมสหรัฐฯดึงเอาโทรศัพท์มือถือ เข้าไปอยู่ในคลังแสงของตนแล้ว   ในขณะที่บริษัทสร้างอาวุธและอุปกรณ์ต่างกำลังแข่งกันสร้างโปรแกรม   เพื่อจะได้เอาโทรศัพท์มือถือ มาใช้ในสนามรบได้

บริษัทสร้างอาวุธเรย์เธิน ซึ่งเป็นผู้สร้างระบบอาวุธปล่อย "แพทริออต" อันมีชื่อเสียง ก็กำลังพัฒนาโปรแกรม เพื่อที่จะให้ทหารใช้โทรศัพท์มือถือ

ค้นหาข้าศึกในภูมิประเทศแวดล้อมเจอ ซึ่งโปรแกรมนั้นจะต้องแรงพอที่จะรับภาพถ่ายทางอากาศจากเครื่องบินหุ่นยนต์หรือดาวเทียม จับภาพของเล็กๆอย่างป้ายทะเบียนรถหรือใบหน้าบุคคลได้

หน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯได้ทดลองใช้สิ่งประดิษฐ์ และรับฟังคำแนะนำของบริษัทนี้อยู่แล้ว ทางบริษัทจะคิดโปรแกรมซึ่งระบบสื่อสารอันจำเป็นที่จะต้องเข้ารหัส สำหรับใช้งานตามดินแดน ที่ห่างไกลซึ่งยังไม่มีสัญญาณ

โปรแกรมเหล่านั้น นอกจากจะทำให้ทหารสามารถติดต่อกับพันธมิตร เพื่อให้ต่างรู้ความเคลื่อนไหวของกันและกัน ยังสามารถจะค้นหาศัตรูในเขตบริเวณใกล้เคียงได้ด้วย.

  ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

เทคโนโลยี่มือถือมีประโยชน์มากมาย ได้นำมาใช้ในการทหารเพื่อค้นหาข้าศึก และ ติดต่อกัน

 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #26 เมื่อ: 02 สิงหาคม 2553, 08:20:40 »


ขอขอบคุณเวบเดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 02 สิงหาคม 2553 ที่สนับสนุนเนื้อหาข่าว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=23&contentId=82130



'สารสนเทศ Information technology (IT)' เร่งพัฒนา คือยาดี!

ความเคลื่อนไหวในวงการแพทย์ไทยในกรณีที่ไม่ใช่เรื่องวุ่นๆแต่เป็นกรณีสร้างสรรค์ก็มีที่น่าสนใจ...

คือ "การพัฒนาสารสนเทศทางการแพทย์”
   
เพื่อให้บริการผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วจะเป็นการบูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ
จากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งจากสถานพยาบาล และหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน

เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการดูแลรักษาสุขภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการเข้ารับบริการของประชาชน
เป็นการระบุของ นพ.ฆนัท ครุธกูล ผู้จัดการศูนย์หัวใจ ฯ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล รามาธิบดี   
เป็นการระบุที่มีนัยเกี่ยวโยงถึงการที่จะมีการจัด ประชุมระดับชาติ

“เมดิคัล ดาต้า สแตนดาร์ดส์ เอ็กซ์โปร์” ในช่วงวันที่ 20-21 ส.ค. 2553
ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


โดยความร่วมมือกันระหว่าง โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ,
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ,สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
สมาคมเวชสารสนเทศไทย, คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ สำนักคณะกรรมการอุดมศึกษา
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
   
รศ.นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
ในฐานะประธานจัดงานประชุม ระบุว่า... การประชุมดังกล่าวนี้จะเกี่ยวกับ

“ระบบสารสนเทศทางการแพทย์” จะเป็นโอกาสที่ดีในการ “พัฒนาศักยภาพด้านสาธารณสุข”

โดยคณะผู้จัดประชุมมุ่งเน้นพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการแพทย์ ซึ่งเป็นบันไดขั้นสำคัญ
ในการใช้ประโยชน์จาก

ระบบสารสนเทศทางการแพทย์

เป็นตัวแปรหลักที่ต้องหาทางเลือกเพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์ร่วมกันเพื่อพัฒนาบุคลากร
ด้านเทคโนโลยีสาร สนเทศทางการแพทย์ได้ต่อเนื่อง
   
ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีเล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งต่อข้อมูลทางการแพทย์ เนื่องจาก
ระบบบริการสุขภาพเป็นข้อมูลที่ยากต่อการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันระหว่างโรงพยาบาล
เข้าถึงได้ยาก และแตกต่างกันออกไป


จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงและองค์กรที่เกี่ยวข้องจัดการประชุมเรื่องระบบสารสนเทศทางการแพทย์
เพื่อสนับสนุนการให้บริการทางการแพทย์ และหน่วยงานภาคเอกชนที่ส่งเสริมและผลักดันการนำ
เทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์ไปสู่ภาคอุตสาหกรรมเพื่อศักยภาพของประเทศไทยในด้านนี้
   
“การใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์มีประโยชน์มาก"

ตัวอย่างการใช้ทำประวัติและนัดหมาย จะสามารถกำหนดรายละเอียดผู้ป่วยได้สะดวกและรวดเร็ว
ไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องค้นหาแฟ้มประวัติผู้ป่วย และสามารถเติมข้อมูลเข้าไปให้ถูกต้อง รวมถึง
สามารถรู้สถิติสารสนเทศได้เร็วขึ้น อาทิ จำนวนผู้ป่วย, ประสิทธิ ภาพยา, การเบิกจ่ายยา, ราคายา,
รวมทั้งสามารถติดตามสถานการณ์ โรคต่าง ๆ และ

ส่งต่อข้อมูลระหว่างโรงพยาบาลกับโรงพยาบาลได้อีกด้วย ...รศ.นพ.อาทิตย์ ระบุ
   
ขณะที่ นพ.ฆนัท เสริมว่า... การจัดประชุม “เมดิคัล ดาต้า สแตนดาร์ดส์ เอ็กซ์โปร์” ครั้งนี้
ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์

http://cvmc.mahidol.ac.th/mds/

หรือติดต่อสอบถามที่ โทร. 0-2201-2211 ต่อ 237 ซึ่งนี่เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมด้าน
บุคลากรและการวิจัยในการรองรับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารทางสุขภาพของประเทศ
โดยเฉพาะด้านการกำหนดมาตรฐานและการกำหนดข้อมูลใช้ประโยชน์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยและ
รวมถึงการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน
   
ที่ผ่านมาในอดีต การรักษาผู้ป่วยมีปัญหาอันเนื่องจากระบบเกิดขึ้นหลายรูปแบบที่ทำให้
ผู้ป่วยเกิดอาการเบื่อแพทย์ เบื่อโรงพยาบาล เช่น
การที่ผู้ป่วยต้องเสียเวลาเกือบทั้งวันในการเข้าพบแพทย์ตามโรงพยาบาล หรือ การฟ้องร้อง
ซึ่งการพัฒนาระบบข้อมูลสุขภาพจะช่วยได้

   
“จะช่วยให้การสืบค้นข้อมูลของผู้ป่วยทำได้สะดวกรวด  เร็ว และช่วยให้แพทย์เข้าถึงข้อมูล
ได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งสามารถส่งต่อข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือ

ส่งต่อไปยัง กระทรวงสาธารณสุข เพื่อการกำหนดนโยบายสาธารณสุขของประเทศได้
อย่างมีประสิทธิภาพ”
...นพ.ฆนัท ระบุ
   
ทั้งนี้ การประชุมเกี่ยวกับ “ระบบสารสนเทศทางการแพทย์” ดังกล่าวนี้ ถือว่า
สอดคล้องโดยตรงกับ แผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนระบบพัฒนา
ข้อมูลข่าวสารสุขภาพที่ ครม.มีมติเมื่อ20 ก.ค.ที่ผ่านมา   
นี่เป็น “เรื่องไม่วุ่นเกี่ยวกับแพทย์” ที่น่าติดตามผล!!.


 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

เครือข่ายกระทรวงสาธารณสุข Virtual Private Network:VPN ใกล้จะมีจริงแล้ว
ทำให้รักษาได้ที่ ร.พ.ทุกแห่งที่ เป็นสมาชิกเครือข่ายสาธารณสุข VPN โดยประชาชนจะ
ใช้บัตรประชาชน สมาร์ทการ์ด เข้าตรวจได้ทุกที่ในประเทศไทย ใช้สิทธิฟรีรักษาได้
แพทย์ที่ทำการรักษาจะล็อคอินเข้าไปใน ร.พ.ที่คนไข้เคยรักษาได้ ทำให้รักษาต่อเนื่องได้ทันที

 win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #27 เมื่อ: 07 สิงหาคม 2553, 12:27:59 »


ขอขอบคุณเวบกรุงเทพธุรกิจ คอลัมภ์ทัศนะจากผู้อ่าน วันพฤหัส 5 สิงหาคม 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/reader-opinion/20100805/346592/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%87.html

"อินเตอร์เนต กับการเมือง" ประชาธิปไตยทางตรง คอลัมภ์ทัศนะจากผู้อ่าน



“ประชาธิปไตยทางตรง” จึงน่าจะเป็นคำตอบของการแก้ปัญหาความล้มเหลวของระบบการเมืองไทย
โดย อนล นาครทรรพ

ประชาธิปไตยทางตรง คือระบบที่ประชาชนเป็นผู้ใช้อำนาจทางการเมืองโดยตรงโดยไม่ผ่านผู้แทน เป็นระบบการปกครองที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการบริหารรัฐอย่างต่อเนื่องและโดยปราศจากข้อจำกัด ตามเจตนารมณ์ของประชาธิปไตย สำหรับท่านที่ยังนึกภาพไม่ออก สมมติว่าเราแต่ละคนต่างเป็นสมาชิกของชนเผ่าต่างๆ ที่อาศัยอย่างกระจัดกระจายบนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ภายใต้การปกครองเดียวกัน เมื่อถึงเวลาที่ต้องมีการถกเถียงตัดสินใจเงื่อนไขการบริหารและปกครอง เป็นไปไม่ได้ว่าสมาชิกทุกคนของทุกเผ่าจะสามารถเดินทางไปร่วมประชุมรอบกองไฟได้ แต่ละเผ่าจึงต้องเลือกส่งผู้แทนเผ่าข้ามแม่น้ำข้ามภูเขาไปรับรู้รับฟังและตัดสินใจแทนสมาชิกอื่นๆ ของเผ่า เป็นการเดินทางไปหาประชาธิปไตย

อย่างไรก็ตาม ประชาธิปไตยในปัจจุบันได้เดินทางมาหาสมาชิกทุกคนของทุกเผ่าแล้วผ่านระบบการสื่อสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ โทรศัพท์มือถือหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ ในเมื่อสมาชิกทุกคนของเผ่าสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้ตลอดเวลา และสามารถแสดงเจตจำนงของตนโดยทันทีเพียงด้วยการกดปุ่มบนเครื่องมือสื่อสาร

จึงยังมีความจำเป็นอีกหรือที่จะต้องส่งตัวแทนของเผ่าไปร่วมประชุมรอบกองไฟ ประชาธิปไตยได้เดินทางมาหาเราแล้ว เพียงแต่ตัวเราก้าวหน้าพอหรือยังที่จะกดปุ่มเปิดรับประชาธิปไตย

 gek gek gek

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

ขอขอบคุณเวบเดลินิวส์ วันเสาร์ ที่ 07 สิงหาคม 2553 เอื้อเฟื้อข่าว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=561&contentID=83511

อัดยับ ส.ส.ย้ายพรรค ชู้การเมือง เผย 6 คน จ่อหนีพท. บิ๊กสุเชื่อวุ่นอีกนาน นร.ตีกันแก้ง่ายกว่า



“บิ๊กสุ” เชื่อการเมืองยังคงเดือดต่อไป เย้ยรัฐบาลแค่แก้ปัญหาเด็กนักเรียนตีกันยังทำไม่ได้เลย แล้วจะเอาปัญญาอะไรมาแก้ให้คนไทยปรองดองกันได้ เพื่อไทยเล็งปรับโครงสร้างใหม่ เน้น 3 เรื่องหลัก มั่นใจชนะเลือกตั้งเพราะพบจุดอ่อนทั้ง ปชป.และ ภท. “ปลอดประสพ” ฉะยับ ส.ส.ย้ายพรรคแถมป่าวประกาศให้คนรู้ เปรียบเป็นการเล่นชู้ทางการเมือง พร้อมจับตาอีก 6 ส.ส.เตรียมอพยพ เผยหลายคนต่อรองผลประโยชน์กับรัฐบาลแลกยกมือโหวตผ่านงบประมาณ “ชวน”

แฉในสภามี ส.ส.ที่มาจากการซื้อเสียงกว่าครึ่ง ถือเป็นโรคร้ายในระบอบการเมือง


    
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีการจัดกิจกรรมวันรพี ประจำปี 2553
โดยในช่วงเช้ามีการอภิปรายในหัวข้อ

“ผู้แทน : แทนใคร?”



“ชวน”แฉสภาซื้อเสียงกว่าครึ่ง

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
ทุกวันนี้บ้านเมืองมีปัญหาก็ชี้ไปที่นักการเมือง แต่ตนมองว่าเป็นเรื่องของตัวบุคคล การเป็นผู้แทนจะแทนใครอยู่ที่ตัวเราเอง ในระบอบประชาธิปไตยเราปฏิเสธการมีตัวแทนไม่ได้ แต่โรคร้ายที่ติดมาในระบอบการเมือง คือการประพฤติมิชอบโกงกิน

ในสภามีพวกที่มาจากซื้อเสียงมากกว่าครึ่ง เริ่มจากที่มีโรคร้อยเอ็ด
สมัย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ สมัคร ส.ส.ก็มีการใช้เงิน เริ่มปรากฏขึ้น

    
นายชวนกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ส.ส. มีความรู้มากขึ้น แต่การมีความรู้จะไม่ช่วยให้สภาดีขึ้น
หากมีการซื้อเสียง ปัญหาอีกอย่างคือการไม่เคารพกฎหมาย คนต้องเคารพ กฎกติกาบ้านเมือง
พูดอะไรก็ต้องทำอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน นักการเมืองต้องมี
การพัฒนาตัวและความตั้งใจอย่าง  นายอภิสิทธิ์ไม่รู้อะไรก็ศึกษา.

gek gek gek

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

เพราะนักการเมือง มีทั้งดีและไม่ดีถ้าเราใช้เทคโนโลยี่สารสนเทศ IT:Information Technology
ได้แก่ ใช้ผ่านทางอินเตอร์เนต ในการประชาสัมพันธ์ การทำงานของรัฐบาล ของฝ่ายค้าน
ขององค์กรอิสระ ตลอดจนประชาชนร่วมอภิปรายปัญหาบ้านเมือง การลงคะแนนเสียง ฯลฯ
เป็นการใช้สิทธิทางตรงไม่ต้องผ่านตัวแทน ซึ่งมีโอกาศทำเพื่อตนเอง หรือ เพื่อพรรคได้
ทำให้ สมาชิกผู้แทนราษฏร สส.ที่เราเลือกให้ไปทำหน้าที่แทน
ไม่มีประโยชน์
สามารถ พยัคฆ์อรุณ
http://www.4shared.com/file/81734383/a2392aa0/00x22___-_.html

 win win win

      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: 1 2 [ทั้งหมด]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><