22 พฤศจิกายน 2567, 21:28:38
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: "เลิกผูกขาด ระบุ ร.พ. มาเป็นเลือกเข้ารักษา ร.พ.ได้เสรีตามความพอใจ ที่ได้รับบริการ"  (อ่าน 12251 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« เมื่อ: 12 ตุลาคม 2552, 18:30:45 »


                                        

            น.พ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

           ..............................................................................................

           เลขาธิการกล่าวด้วยว่า นอกจากคนไทยจะใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทองได้ในอนาคต

ยังมีโครงการที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาในการขยายสิทธิของประชาชน

                           ในโครงการของสปสช.

           ให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลใดก็ได้ภายในจังหวัด

โดยไม่จำกัดสิทธิตายตัวว่าต้องเข้ารับการรักษาเฉพาะแห่ง


ซึ่งปัจจุบันมีโครงการนำร่องใน 8 จังหวัด คือ

1.แพร่ 2.พิษณุโลก 3.อุบลราชธานี 4.ยโสธร

5.ราชบุรี 6.นครนายก 7.ศรีสะเกษและ 8.พังงา

นำมาจาก น.ส.พ.ข่าวสด วันจันทร์ ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2552

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNakV5TVRBMU1nPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHhNQzB4TWc9PQ==

 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า

ผลของการที่ให้รักษาฟรีได้ภายในจังหวัดเดียวกัน คือ

1.ลดงานเขียนใบส่งตัวให้แพทย์ และ ประชาชนไม่ต้องมารอขอใบส่งตัว

2.คนไข้มีอำนาจต่อรองบริการ สามารถเลือก ร.พ.ที่บริการดี ภายในจังหวัดได้

3.ร.พ.แต่ละแห่ง ภายในจังหวัด ต้องแข่งขันกันเพื่อรักษาคนไข้ไว้ไม่ให้ออกไป

เพราะ คนไข้ที่มาใช้บริการจะเป็นผลงานของแต่ละ ร.พ.


 sing sing sing

ข่าวรักษาได้ตามความพึงพอใจในบริการที่ได้ ยกเลิกการจำกัดให้ใช้เฉพาะ ร.พ.
 
http://www.waddeeja.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=waddeejacom&thispage=8&No=1258480

หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า

      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #1 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2552, 21:10:11 »




พณฯท่าน วิทยา แก้วภราดัย

ร.ม.ต.กระทรวงสาธารณสุข นิติศาสตร์ จุฬาฯ รหัส 16


ปัญหาที่่จะมี จากการให้ประชาชนใช้บัตรทองรักษาได้ทุกที่ในจังหวัด

ซึ่งในอนาคต ท่าน ร.ม.ต.จะขยายให้ใช้บัตรทอง ได้ทั้งประเทศ คือ

เมื่อคนไข้ไม่พอใจการรักษาจะเวียนไปรักษาหลาย ๆ ร.พ.ในประเทศ

ทำให้สิ้นเปลืองยา และ เพิ่มงานให้แต่ละ ร.พ.


แต่มีทางแก้ ได้ด้วยการ

ทำ ระบบ E-Goverment ใช้คอมพิวเตอร์ในการบันทึกข้อมูล



ซึ่งทั้งสถานีอนามัย หรือ ร.พ.สร้างเสริมสุขภาพตำบลในอนาคต และ ร.พ.อำเภอ

เกือบทุกแห่งได้พัฒนา นำคอมพิวเตอร์บันทึกประวัติคนไข้ลงคอมพ์อยู่แล้ว

สามารถพัฒนานำมาต่อยอด ให้เป็น เทเลเมดดิซิน ด้วยการใช้วิดิโอคอนเฟอเรนซ์ และ

ใช้ระบบ ธนาคารออนไลน์ ที่ทำสำเร็จแล้ว
ได้แก่

ธนาคาร แต่ละแห่ง เป็น E-Banking สามาารถฝาก ถอน เงิน ต่างสาขาได้

เมื่อทำรายการในแต่ละสาขา จะไปรวมข้อมูลในไฟล์สมุดบัญชีของเจ้าของได้

ดังนั้น เมื่อทำสำเร็จแล้ว มีคนไข้ไปรักษาที่ ร.พ.ใด เมื่อบันทึกข้อมูลการรักษา

ข้อมูล จะไปรวมที่เดียวกัน ในไฟล์ข้อมูลประวัติคนไข้ ทำให้เมื่อไปรักษา

ที่ ร.พ.ใด ก็ตาม เมื่อดึงประวัติคนไข้ขึ้นมา จะมีประวัติการรักษาทุกที่ให้เห็น

สามาารถทราบได้ว่า รักษาได้ยาอะไร แพทย์ท่านใดรักษา ฯลฯ

ทำให้แพทย์สามารถให้การประเมินผลการรักษาได้ และ

ให้การรักษาต่อเนื่องได้ทันที ไม่ต้องให้ยาเพิ่มถ้ารู้ว่าได้ยาอะไรแล้ว

ที่สำคัญที่สุด จะเกิดการเรียนรู้ระหว่าง ร.พ.

 ทำให้ แพทย์ได้เห็น แนวทางการรักษาของแพทย์แต่ละคน

เป็นการเรียนรู้ร่วมกัน สอนงานกัน มีปรึกษากันทางออนไลน์

ความรู้ทางการแพทย์จะได้รับถ่ายทอดออกไป

ทุก ร.พ.จะช่วยกันพัฒนาคุณภาพการรักษา

มีประโยชน์ต่อประชาชนที่เข้ารับการรักษาได้

 หลั่นล้า หลั่นล้า หลั่นล้า


      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #2 เมื่อ: 15 ตุลาคม 2552, 20:19:55 »

เห็นด้วยกับโครงการผู้ใช้บัตรทองเลือกรักษาที่ ร.พ. ใดก็ได้ในจังหวัด เดือนที่แล้วไปใช้บริการ
ร.พ. ของมหาวิทยาลัย  พยาบาลขอให้กรอกแบบสอบถามความพึงพอใจในการใช้บริการ
ถือโอกาสเขียนแสดงความคิดเห็นว่าควรขยายบริการรักษาฟรีแก่ประชาชนทั่วไปนอกเหนือจาก
บุคลากรมหาวิทยาลัย  มีโครงการนำร่องแล้วก็พอมีความหวังเป็นจริง
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2552, 20:20:33 »


คุณวิทยา แก้วภราดัย  (น้องน้อย) นิติ จุฬา2516

พี่แอ๊ะมั่นใจ ว่าเขาเป็นคนดี และไม่โกง การันตีได้ค่ะ

ตั้งแต่เป็นสส.มาก็ไม่ได้ดิ้นรน จะเป็นรัฐมนตรี

แต่พรรค ต้องการคนสะอาด อย่างคุณวิทยา มานั่งตรงนี้

แต่ก็ไม่วายยย โดนเหวี่ยงแหจนได้

แต่พี่แอ๊ะว่าน้องน้อยคิดถูกแล้ว ที่มีสปิริต ลาออก เพื่อให้ การตรวจสอบ ทำได้สะดวก

แต่เราคิดว่าจะหาท่านใด ที่ เหมาะสม ในตำแหน่งนี้ได้

นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นใคร
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2552, 20:25:32 »

น้องมีนาคะ

ป้จจุบัน ที่ยโสธร คนไข้เลือกใช้ร.พ ไหนก็ได้ค่ะ
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #5 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2552, 12:17:09 »

...สวัสดีปีเก่าและปีใหม่ค่ะพี่แอ๊ะ

...ดีใจกับชาวยโสธรที่เป็นจังหวัดนำร่องเลือกใช้ ร.พ.ไหนก็ได้ แสดงว่าทุกหน่วยงานด้านสาธารณสุข
มีความพร้อมสูง คาดว่าพี่แอ๊ะต้องมีส่วนเป็นหัวแรงสำคัญงานนี้แน่เลย
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #6 เมื่อ: 13 เมษายน 2553, 22:08:52 »


                  พกบัตร ปชช.เที่ยวสงกรานต์ฉุกเฉินเข้ารพ.ฟรี

                                              

         นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)แนะพกบัตรประชาชน เที่ยวสงกรานต์ เพื่อใช้สิทธิเข้ารักษาตัว ใน โรงพยาบาลฟรี กรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยให้ข่าวว่า

         ระหว่างวันที่ 10-18 เม.ย. 2553 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปท่องเที่ยวและเยี่ยมญาติตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งหลังจากที่ รัฐบาลมีนโยบายให้ประชาชนไทยมีบัตรประจำตัวประชาชนเพียงใบเดียวที่สามารถใช้ในการรับบริการสาธารณสุขจากหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้อย่างสะดวกมากขึ้น

         สำหรับประชาชนที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ไม่จำเป็นต้องพกบัตรทองแล้ว และหากเกิดกรณีเจ็บป่วยกระทันหันหรือฉุกเฉิน รวมทั้งประสบอุบัติเหตุ ผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ากว่า 47 ล้านคน สามารถเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลของรัฐ หรือ โรงพยาบาลเอกชนที่ใกล้ที่สุด เพื่อช่วยชีวิตหรือช่วยผ่าตัดเร่งด่วน ก่อนส่งตัวกลับไปรักษาพยาบาลที่หน่วยบริการประจำต่อไป

         และหากพบเหตุฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ ให้โทรแจ้งที่ 1669 ทั่วประเทศเพื่อขอรับความช่วยเหลือภายใน 30 นาที ทั้งนี้การใช้สิทธิการเจ็บป่วยฉุกเฉินดังกล่าวนั้น ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ขึ้นอยู่กับความจำเป็น ซึ่งเป็นผลมาจากมติของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้ยกเลิกการจำกัดความคุ้มครองการเจ็บป่วยฉุกเฉิน จากเดิมไม่เกินปีละ 2 ครั้งเปลี่ยนเป็นผู้ป่วยสามารถใช้บริการนอกหน่วยบริการที่กำหนดได้ตามความจำเป็นไม่จำกัดจำนวนครั้ง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นอย่างแท้จริง

         เลขาธิการ สปสช. กล่าวด้วยว่า สำหรับการเข้ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินนั้น ต้องมีข้อบ่งชี้ว่าโรค หรืออาการของโรคมีลักษณะรุนแรง ต้องรักษาเป็นการเร่งด่วน หากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือทุพพลภาพหรืออาจจะเป็นอันตรายต่อผู้อื่นได้ หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที รวมทั้งโรคที่ต้องผ่าตัดด่วนหากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายต่อชีวิต ซึ่งโรงพยาบาลที่ให้การรักษาผู้ป่วยบัตรทองสามารถเบิกค่ารักษาได้จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติตามจริงแต่ไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยจากเรื่องดังกล่าว สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช.โทร. 1330 ตลอดเวลา

นำมาจาก น.ส.พ.ไทยรัฐ วันพฤหัสบดี ที่ 8 เมษายน 2553

http://www.thairath.co.th/content/edu/75646

                                     ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

         นำข่าวมาบอก พวกเราว่า ในกรณีฉุกเฉิน ใช้บัตรประชาชน เข้า ร.พ.ได้ทุกแห่งที่ใกล้ที่สุด ไม่ว่าเอกชนก็เข้าได้ ซึ่งใช้ได้ตลอด ทุกเวลา ไม่เฉพาะสงกรานต์ เท่านั้น เป็นมาตรการของรัฐ ที่จะช่วยให้ประชาชนทุกคนเมื่อเจ็บป่วยฉุกเฉิน เข้ารักษาได้ทุกที่ ที่ใกล้ที่สุด ไม่ว่า ใช้สิทธิบัตรอะไรก็ตาม บัตรประกันสุขภาพ หรือ เดิมเรียก บัตรรักษาฟรี 30 บาท  บัตรประกันสังคม บัตรข้าราชการ ฯลฯ ทั้งหมดนี้ใช้ได้ทั้งหมด

         ในอนาคตถ้ามีการเชื่อมข้อมูลระหว่าง ร.พ.ทั่วประเทศ ด้วยระบบอินเตอร์เนต จะเกิด ร.พ.ออนไลน์ เหมือน ธนาคาร ที่ทำออนไลน์ ดูข้อมูลปัจจุบัน ของลูกค้าได้ไม่ว่าไปทำธุรกรรมสาขาใด ก็จะบันทึกรวมในแฟ้มเดียวกัน จึงทำให้สามารถใช้สิทธิรักษาได้ทั้งประเทศ

         ทุก ร.พ.ที่ให้บริการสามารถรู้ประวัติว่าไปรักษาที่ใด ได้ยาอะไร ใช้บัตรประชาชน ร่วมกับลายนิ้วมือ หรือ แล้วแต่จะกำหนดในอนาคต เพื่อเก็บรักษาประวัติการเข้าถึงข้อมูลต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าของประวัติ ผลจากการเข้าดูประวัติการรักษาได้ทุกที่ จะทำให้แพทย์สามารถประเมินผลการรักษาที่เคยได้ เพื่อให้การรักษาต่อเนื่องได้ทันที ประหยัดยา ช่วยแพทย์ให้ดูการรักษาของ ร.พ.อื่น เป็นการเรียนรู้ทางการแพทย์ระหว่างแพทย์ด้วยกัน  ผู้ป่วยก็สะดวกในการเข้าถึงบริการ รักษาที่ใดก็ได้ ฟรี ทั่วประเทศตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข


                                     win win win    

        
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 16 เมษายน 2553, 08:13:56 »

คุรหมอสำเริงคะ

เมื่อไรจะรักษาได้ โดยไม่ต้องใช้สิทธิ ฉุกเฉินคะ
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #8 เมื่อ: 16 เมษายน 2553, 16:50:00 »

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 16 เมษายน 2553, 08:13:56
คุณหมอสำเริงคะ

เมื่อไรจะรักษาได้ โดยไม่ต้องใช้สิทธิ ฉุกเฉินคะ

                                                    

             จะรักษาได้ โดยไม่ต้องใช้สิทธิฉุกเฉิน เมืื่่่่อ ร.พ.ทุกแห่งใช้คอมพิวเตอร์บันทึกข้อมูล

แล้วส่งทางอินเตอร์เนตให้ สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช. ทำการตรวจสอบข้อมูล


             แล้วจ่ายใ้ห้ตามระบบการวินิจฉัยกลุ่มโรคร่วม หรือ Diagnosis Related Groups : DRG

และ ตามผลการรายงานว่าสมบูรณ์มากน้อยเท่าไร ซึ่งเป็นวิธีคิดการจ่ายเงินของ สปสช.

             ถ้าข้อมูลที่ส่งให้ไป ไม่ครบถ้วนจะถูกตัดเป็น % จนกว่า ข้อมูลที่ส่งไปดี ก็จะจ่ายครบ

เป็นการจูงใจให้ทำข้อมูลให้สมบูรณ์ ตามที่เป็น มาตรฐาน ของ สปสช. ต้องการให้ทำ


หมายเหตุ ที่ สปสช.ทำระบบนี้เพื่อให้การจ่ายเงินกับสถานพยาบาล ที่ผู้ป่วยเข้าไปรักษา
ที่ไปตรวจจริงแทน ระบบเดิมที่ เหมาจ่ายล่วงหน้า ร.พ.ใกล้บ้าน แล้วบังคับให้ไปรักษาที่นั่นเท่านั้น เตือน

           ทำให้ประชาชนไม่ต้องถูกบังคับไปรักษาเฉพาะ ร.พ.ที่ได้รับเงินล่วงหน้า ซึ่งเป็นการ

ผูกขาด ขัดกับ ระบบเสรี ที่ต้องให้ประชาชนเลือก ร.พ.ได้ตามความพอใจ

          ส่วนเรื่องกลัวว่าคนไข้จะตะเวนไปรักษาหลายที่ เพื่อเบิกยา สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย

สามารถแก้ได้ด้วยการทำ ระบบ เดียวกับที่ ธนาคารออนไลน์ เบิกถอนต่างสาขาได้


          จะรู้ข้อมูลการรักษาปัจจุบันของคนไข้ ได้ ทราบว่าไปรักษาที่ใด ได้ยาอะไร เพื่อช่วย

ประเมินผลการรักษา เพื่อให้การรักษาต่อได้ทันที ไม่ต้องจ่ายยาซ้ำถ้ารู้ประวัติการรักษา

          การเข้าถึงประวัติผู้ป่วย แล้วแต่ในอนาคตจะใช้อะไร เป็นการรักษาความลับผู้ป่วย

          ผลดีต่อระบบสุขภาพ ที่จะได้จากการมีระบบออนไลน์  คือ

1.ทำให้คนไข้เลือก ร.พ.ที่จะเข้ารักษาได้ ไม่ถูกบังคับให้รักษาเฉพาะ ร.พ.

2.ทำให้ทุก ร.พ.ต้องพัฒนาคุณภาพ ให้ประชาชนพึงใจ เพื่อเข้ามารักษา

3.ทำให้เกิดการเรียนรู้ระหว่าง ร.พ. ได้เห็นวิธีรักษาของ ร.พ.อื่น ๆ

4.ทำให้ สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ : สปสช. เข้ามาตรวจสอบคุณภาพได้


                      gek gek gek


      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #9 เมื่อ: 29 กันยายน 2553, 22:06:20 »


                    สธ.ชู “บัตร ปชช.ใบเดียวรักษาโรคฟรี” สปสช.เตรียมวางระบบกันล่ม
                             โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   29 กันยายน 2553
                              http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000136773

                        

       วันนี้ (29 ก.ย.) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)  นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.สธ. และ  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สธ.(ตามลำดับในรูป) ร่วมกันแถลงข่าวโครงการ “รักษาฟรี 48 ล้านคน แค่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว”
      
       โดย นายจุรินทร์กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนด้านการเข้ารับบริการจากสถานพยาบาลในสังกัดของรัฐที่แต่ละคนได้ลงทะเบียนไว้ โดย สธ.ได้ประสานงานร่วมกับ สปสช.เรื่องการวางระบบรายชื่อผู้มีสิทธิรักษาฟรีไว้เรียบร้อยแล้ว

        ซึ่งประชาชนสามารถเริ่มใช้สิทธิดังกล่าวในวันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป โดยรักษาได้ทั้งกรณีเจ็บป่วยทั่วไปและกรณีฉุกเฉิน ตามเงื่อนไขของการรักษาเช่นเดิม คือ หากเจ็บป่วยทั่วไปก็ต้องนำบัตรประชาชนไปยื่นในสถานพยาบาลที่ลงทะเบียนไว้ แต่หากฉุกเฉินก็เข้ารับบริการในสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
      
       นายจุรินทร์กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถใช้ใบสูติบัตร หรือสำเนาทะเบียนบ้านไปยื่นเข้ารับบริการแทนบัตรประชาชน ส่วนผู้สูงอายุให้ใช้บัตรประชาชนล่าสุดที่มีอยู่ในตัวเพื่อใช้บริการ หรืออาจใช้บัตรอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ก็ได้ ที่มีรูปถ่ายและมีเลข 13 หลักระบุไว้
      
       “สำหรับสิทธิในการรักษานั้นสามารถรักษาได้ทั้งโรคมะเร็ง เอดส์ เบาหวาน ความดัน หัวใจและไตทั้งล้างไต เปลี่ยนไต แต่กรณีฟอกไตนั้นไม่ได้คุ้มครอง ร้อยเปอร์เซ็น เช่น กรณีที่มีค่าใช้จ่ายฟอกไต 1,500 บาท รัฐจ่ายให้ 1,00 บาท ที่เหลืออีก 500 ประชาชนต้องเสียเอง” นายจุรินทร์กล่าว
      
       ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต กล่าวว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ได้ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลในสังกัด สธ.ทั่วประเทศ เพื่อตรวจความพร้อมระบบฐานข้อมูลในเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งก็พบว่า

       รพ.กว่า 200 แห่งที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถใช้ระบบดังกล่าวได้แล้ว ทั้งนี้ ในเมื่อ สธ.เตรียมการเรื่องบุคลากรและระบบไว้เสร็จสิ้นแล้ว อยากขอความร่วมมือกับ ทางโรงพยาบาลที่เข้าร่วมในเรื่องของการอำนวยความสะดวกทั้งน้ำไฟ ให้มีความพร้อมตลอดเวลาเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกอย่างทั่วกัน

                  win win win

 XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

        ปัจจุบัน ระบบการใช้อินเตอร์เนต เชื่อมโยงยังไม่พร้อมทุก ร.พ.   การรักษาได้ทุกที่ ตามความพอใจที่ได้รับบริการยังทำไม่ได้ คงรักษาเฉพาะ ร.พ.ที่ระบุไว้ก่อน

                    

        แต่เมื่อระบบอินเตอร์เนตเรียบร้อยทุก ร.พ.มีิอินเตอร์เนต และ เป็นสมาชิกเครือข่ายสาธารณสุข Virtual Private Network:VPN ได้แล้วสามารถจะรักษาคนไข้ได้ทุก ร.พ.ไม่บังคับให้ใช้สิทธิ

        เนื่องจาก เมื่อคนไข้เข้ามารักษา ที่ ร.พ.ใด ก็ได้ ที่เข้าใช้บริการ แพทย์ที่ ร.พ.นั้น ซึ่งจะเป็นสมาชิก เครือข่ายสาธารณสุข จะสามารถล็อคอินเข้าไปใน ร.พ.ที่คนไข้ใช้บริการอยู่เพื่อดูประวัติการรักษา และ สามารถให้การรักษาต่อได้ทันที ประหยัดยารู้ว่าคนไข้ได้รับยาอะไรไปแล้ว ผลการรักษาเป็นอย่างไร ให้การรักษาได้ต่อเนื่องทันที เมื่อจะเรียกเก็บค่ารักษา ก็สามารถเรียกเก็บกับ สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช.ทางเนตได้ เมื่อ สปสช.ตรวจสอบหลักฐานว่าสมบูรณ์ถูกต้อง เบิกตามราคากลางที่ยุติธรรมของแต่ละโรค Diagnostic Related Group : DRG ก็จะโอนเงินให้ ร.พ.ที่รักษาทางเนตได้ทันที ไม่ต้องฝากเงินค่ารักษาไว้กับ ร.พ.ใกล้บ้าน แล้วบังคับให้รักษาใกล้บ้านที่ได้รับเงินล่วงหน้าไว้แล้วอีกต่อไป

       ประชาชนจะสะดวก รักษาได้ทุกที่ ร.พ.ต้องปรับตัวแข่งกันเรื่องคุณภาพ เพื่อจูงใจให้คนเข้ามาใช้บริการเพื่อมีเงินรายได้เข้า ร.พ.เป็นค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่  ค่ายากับเวชภัณฑ์ และ ค่าบริหารจัดการ ร.พ.
       คาดว่าไม่เกินปี พ.ศ.2555 เหอๆๆ เหอๆๆ emo20:)):)ระบบอินเตอร์เนต จะพร้อมทำให้ประชาชนได้หัวเราะ ฮา ๆ ๆ เลือก ร.พ.รักษาได้ทุกที่ แพทย์ที่จะให้การรักษา เข้าดูการรักษาที่เคยได้ให้การรักษาต่อได้ทันที ทางเครือข่ายสาธารณสุข VPN

                รักนะ รักนะ รักนะ

XXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXXX

               สธ.ชูยกระดับสถานีอนามัยวางเป้าสู่รพ.สุขภาพชุมชน
               ขอขอบคุณ วันศุกร์ 23 กรกฎาคม 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
               http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=8&contentID=80098

                              

              สถานีอนามัยที่กำลังจะพัฒนาให้เป็นโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพตำบล(รพสต.)

   เมื่อวันที่ 22 ก.ค. นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข
มีนโยบายพัฒนาระบบบริการสุขภาพของประเทศ โดยจะยกระดับ

   สถานีอนามัยกว่า 9,000 แห่งทั่วประเทศ ขึ้นเป็น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)
มีบุคลากรประมาณ 27,000 คน ร่วมดำเนิน งานกับอาสาสมัครสาธารณสุขอีกประมาณ980,000 คน
บทบาทของ รพ.สต.ยังรวมถึงการดูแลอนามัยสิ่งแวดล้อมในหมู่บ้าน
เป็นมิติใหม่ของการปฏิรูประบบบริการสุขภาพ

    
   นางพรรณสิริกล่าวว่า สำหรับผู้ปฏิบัติงานใน รพ.สต. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักวิชาการสาธารณสุข
เจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน เจ้าพนักงานทันตภิบาล และเจ้าหน้าที่พยาบาลหรือเรียกว่า

                   หมออนามัยของประชาชน

   กระทรวงสาธารณสุข ได้เห็นชอบในหลักการและดำเนินการผลักดันเพื่อให้เกิด

                พ.ร.บ.วิชาชีพ การสาธารณสุข

   ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณาและตรวจสอบตาม กฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกา

   ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ยังได้เร่งปรับปรุงโครงสร้าง กำหนดบทบาทหน้าที่ของ
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และ รพ.สต. ให้ชัดเจน

   รพ.สต.ขณะนี้โดยเฉลี่ยมีกำลังเจ้าหน้าที่แห่งละประมาณ 2-3 คน และ รมว.สาธารณสุข มี
นโยบายเพิ่มขวัญกำลังใจบุคลากรสาธารณสุขทุกสาขาที่ปฏิบัติงานในภาครัฐ
ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาทบทวนระบบการจ่ายค่าตอบแทน
กำลังคนด้านสาธารณสุข เพื่อเร่งทบทวน วิเคราะห์หลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนโดยรวม.

                         win win win

))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))

         เมื่อยกฐานะ สถานีอนามัย ที่มีอยู่แล้ว 9 พันกว่า แห่งนี้ขึ้นเป็น รพสต.จะทำให้มี
รพ.ให้ประชาชนเลือกใช้บริการเพิ่มขึ้นทันที 9 พันกว่า แห่ง พอเีพียงให้ประชาชนเลือก
ใช้บริการได้

         ข้อดีทำให้ ทุก ร.พ.จะต้องแข่งกันด้านคุณภาพของบริการเพื่อผูกใจประชาชนไว้
ให้มาเป็นคนไข้ประจำให้ได้มิฉะนั้น จะไม่มีรายได้จาก สปสช.ที่ต้องส่งข้อมูลการรักษา
แต่ละเดือนไปให้ตรวจสอบก่อน เมื่อผ่านการสุ่มตรวจก็จะโอนเงินเข้าทาง  E-Banking


                         รักนะ รักนะ รักนะ    
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #10 เมื่อ: 25 ตุลาคม 2553, 21:23:29 »


ขอขอบคุณเวบกรุงเทพธุกิจ วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม 2553 ที่เอื้อเฟื้อข่าว
ปรับโฉมบัตรผู้ประกันตน ใบเดียวใช้ได้ทุกรพ.

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/life/20101025/359257/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%89%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%99-%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%9E..html

         สปส.ปรับโฉมบัตรประกันสังคมจากบัตรอ่อนเป็นบัตรสมาร์ทการ์ด เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ประกันตนเข้ารักษาพยาบาลได้ทุกโรงพยาบาลในสังกัด

               

         นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ สปส.มีนโยบายการเปลี่ยนบัตรประกันสังคมจากบัตรอ่อน เป็นบัตรสมาร์ทการ์ด เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ประกันตนในการเข้ารักษาพยาบาลในสังกัด ทั้งนี้ บัตรดังกล่าวจะเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ถือบัตรกับสถานพยาบาลต่างๆ คล้ายกับการใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวในระบบสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่สามารถเข้ารักษาพยาบาลได้ทุกโรงพยาบาลโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งขณะนี้ สปส.กำลังเจรจราและทำข้อตกลงกับโรงพยาบาลในสังกัด

         "ในเบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะจัดทำบัตรในลักษณะไหน อาจเป็นบัตรสมาร์การ์ดหรือบัตรแม่เหล็ก ทั้งนี้ภายในบัตรนอกจากจะมีข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการรักษาพยาบาลของผู้ประกันตนแล้ว ยังมีข้อมูลในส่วนอื่นๆที่เป็นเรื่องสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนด้วย อาทิ ข้อมูลการจ่ายเงินสมทบเงินของนายจ้างและเงินบำเหน็จบำนาญที่จะได้รับ"นายเฉลิมชัยกล่าวและว่า ยังเป็นการป้องการทุจริตการใช้สิทธิซ้อน โดยมีการใช้บัตรคนอื่นมาใช้สิทธิการรักษา 
 
                         win win win
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><