ผลการฟ้องศาลปกครองของนักเรียน ม. 6 ที่รูปภาพขาดหายไป 1 บานและยังมีสาเหตุอื่นอีกด้วย2 เด็กม.6 โผล่! แจมขอเข้าสอบแพทย์ด้วย หลังศาลให้สิทธิ์ 2 รายแล้ว "กสม."เล็งเรียกร้องให้อีก 37 รายวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 09:20:39 น.ผู้สื่อข่าว มติชนออนไลน์ รายงานว่า คดีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะผู้ฟ้องคดีแทน น.ส.ศรัญญา จันนามวงค์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ยื่นฟ้องประธานกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย และกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) เนื่องจากน.ส.ศรัญญาถูกตัดสิทธิสอบตรง (Direct Admissions) เข้าคณะแพทยศาสตร์ รามาธิบดี เพราะรูปสมัครขาดจำนวน 1ใบ ต่อมาในคดีนี้ได้มีเด็กนักเรียนที่ถูกตัดสิทธิ์ ได้ร้องสอดเข้ามาในคดีอีก 3 ราย รวมเป็น 4 ราย โดยศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาคำบังคับ 2 ราย กรณีขาดรูปหนึ่งใบ ให้มีสิทธิ์เข้าสอบได้ ในขณะที่อีก 2 ราย ศาลไม่ออกคำสั่งทุเลาคำบังคับให้เข้าสอบ
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. วันที่ 30 ตุลาคม แหล่งข่าวรายงานว่า นร.ชั้น ม.6 สองคนได้เข้าทำการสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย น.ส.ศรัญญา เข้าสอบที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมี นพ.แท้จริง ศิริพานิช กรรมการสิทธิฯ ติดตามไปคอยอำนวยความสะดวกด้วย ขณะที่ น.ส.ศิริขวัญ เจริญสุขโสภณ เข้าสอบที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โดยมีนายปริญญา ศิริสารการ กรรมการสิทธิฯ เดินทางไปด้วยเช่นกัน
นพ.แท้จริง เปิดเผยว่า บรรยากาศเรียร้อยดี ทาง กสพท. ได้เตรียมการให้นักเรียนได้เข้าไปแสดงตัวพร้อมให้บัตรไปนั่งสอบได้แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีเด็กอีกรายทราบว่าชื่อนายปิยะพงษ์ (ไม่ทาบนามสกุล) ซึ่งได้ข่าวว่าศาลสั่งทุเลาคำบังคับให้สิทธิ์เด็กที่ขาดรูปหนึ่งใบเข้าสอบได้ จึงได้มาแสดงตัว และทาง กสพท.ก็ให้สอบด้วย นับเป็นเรื่องที่ดีมากๆ "กรณีนี้อาจจะชี้ชัดลงไปไมได้ว่าความผิดพลาดอยู่ที่ใครกันแน่ เพียงแต่ในขณะที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ ในขณะที่ศาลให้ความคุ้มครองให้เข้าสอบไปก่อนนั้น ถือว่าเป็นเรื่องดี หากไม่ให้สอบจะเป็นการเยียวยาที่ยากเกินแก้ไข เสียดายว่าหลายๆ คนที่มีปัญหาในลักษณะเดียวกันไม่ได้มาสอบด้วย เพราะเวลาสั้นมาก" กรรมการสิทธิฯ รายเดิม กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ของ กสม.ตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญ 2550 ที่เราใช้สิทธิ์ในการฟ้องเองและได้รับการเยียวยาแก้ไข เพราะแต่เดิมเราใช้วิธีการเชิญคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยซึ่งใช้เวลานานมากกว่าปัญหาจะยุติ แต่หากเราดำเนินการฟ้องได้เองก็จะทำให้ง่ายขึ้น
นพ.แท้จริง กล่าวว่า เห็นว่าการไปตัดสิทธิ์ใครควรจะต้องพิจารณาให้รอบคอบมากกว่านี้ รวมทั้งเปิดโอกาสที่จะให้แก้ไขข้อผิดพลาดได้ อย่างน้อยผู้สมัครก็ได้ให้เบอร์ อีเมล์ ที่อยู่ ในการติดต่อกลับกรณีเกิดปัญหาอยู่แล้ว ฉะนั้นการจะติดต่อกลับไปนั้นมีช่องทางอยู่แล้ว ทางคณะกรรมการผู้พิจารณาก็น่าที่จะใช้ช่องทางดังกล่าวให้โอกาสในการแก้ไขข้อผิดพลาดให้ถูกต้อง ไม่ใช่ตัดสิทธิเสียตั้งแต่ต้นก็ถือเป็นเรื่องที่ออกจะใจร้ายไปนิด ก็หวังว่าจากกรณีจะนำไปสู่บรรทัดฐานต่อไป
ด้านนายปริญญา เปิดเผยบรรยากาศการสอบที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ว่า บรรยากาศดีมาก โดย น.ส.ศิริขวัญก็ได้เข้าห้องสอบแล้ว
นอกจากนี้ มีเด็กอีกคนที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็มาขอเข้าสอบด้วยเช่นกัน และ กสพท.ก็ได้อนุญาตให้เข้าสอบแล้ว เป็นเรื่องน่ายินดีมาก ทำให้ กสม.เกิดแนวคิดว่าอาจจะเรียกร้องให้มีการออกข้อสอบเฉพาะให้กับผู้ที่พลาดสิทธิที่เหลืออีกกว่า 30 คน กรณีขาดรูปหนึ่งใบ ซึ่งอาจจะไม่ได้รับทราบข่าวสารเรื่องการสั่งคำบังคับของศาล คิดว่าถ้าตรงนี้เป็นไปได้ก็จะทำให้ทุกคนได้รับความยุติธรรมที่เท่าเทียมกัน"การไม่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตหรือคอมพิวเตอร์เป็นปัญหาสำคัญของเด็กในต่างจังหวัด แต่อาจจะไม่มีปัญหาสำหรับเด็กในตัวเมืองหรือจังหวัดใหญ่ อย่างในกรุงเทพฯ บ้านผมอยู่ต่างจังหวัดปัญหาอย่างนี้ผมทราบดี แต่เราต้องอย่าลืมว่าเรายังมีช้างเผือกในต่างจังหวัดอีกมาก แต่การใช้ช่องทางอินเตอร์เน็ตจะเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กอย่างไม่ครบถ้วน ไม่เพียงพอ ยิ่งเป็นช่วงปิดเทอมไม่ต้องพูดถึงโอกาสที่จะเปิดเน็ตได้ยิ่งน้อย หากจะต้องติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบอะไรก็ทำให้ไม่ทราบเรื่องได้ ผมคิดว่าทั้งระบบการศึกษาทั้งระบบต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้หนัก" นายปริญญา กล่าว
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 29 ตุลาคม
ศาลปกครอง ได้มีคำสั่งทุเลาคำบังคับให้กับ 1.น.ส.ศรัญญา จันนามวงค์ และ 2.น.ส.ศิริขวัญ เจริญสุขโสภณ กรณีปัญหารูปขาดหนึ่งใบ ทำให้ทั้งสองคนได้สิทธิเข้าสอบในวันที่ 30 ตุลาคม ส่วนอีก 2 ราย ได้แก่ 1.นายวสุพล วงศ์วิไลวรรณ และ 2.น.ส.ณัฐชา ดำแจ่ม กรณีไม่ได้ลงชื่อรับรองเอกสาร ไม่ได้สิทธิในการคุ้มครองให้เข้าสอบ ทั้งนี้ จากคำสั่งศาลให้เหตุผลโดยสรุปว่า
ศาลเห็นว่าผู้ถูกฟ้องคดีมิได้มีกระบวนการสอบสวน ตรวจสอบให้เป็นที่เชื่อได้ว่ามีการส่งรูปไม่ครบจริงตามอ้าง ประกอบกับการไปเข้าสอบของเด็กทั้งสองคนนี้ (น.ส.ศรัญญา และ น.ส.ศิริขวัญ) อยู่ในวิสัยที่ผู้ถูกฟ้องคดีจะดำเนินการให้ได้ จึงมีคำสั่งทุเลาคำบังคับตามคำสั่งตัดสิทธิ์ คือให้มีสิทธิในการเข้าสอบ ในขณะที่ผู้ฟ้องคดีอีก 2 คน (นายวสุพลและนายณัฐชา) เป็นปัญหาที่ไม่ได้ลงชื่อรับรองในเอกสารสำคัญจึงไม่มีเหตุที่จะออกคำสั่งทุเลาคำบังคับได้
ด้าน
นายคมสัน เมธีกุล ผู้รับมอบอำนาจ น.ส.ศรัญญา เปิดเผยว่า
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ให้สิทธินักเรียนที่มีปัญหาในลักษณะเดียวกันอีก 39 ราย โดยเฉพาะในส่วนที่มีปัญหารูปขาดหนึ่งใบได้มีโอกาสเข้าร่วมสอบในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ด้วย
สำหรับแถลงการณ์มีใจความว่า
"คณะกรรมการสิทธิฯ ในฐานะผู้ฟ้องคดีแทน ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้ง 2 ราย ที่ได้รับโอกาสเข้ารับการสอบคัดเลือกดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สำหรับนักเรียนที่ถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าสอบโดยเฉพาะในประเด็นของการขาดรูปหนึ่งใบ ขณะนี้มีจำนวน 39 คน หลังจากที่ทราบข่าวเรื่องนี้ จึงทยอยส่งเรื่องร้องเรียนเข้ามา กสม.จึงมีข้อเสนอต่อ กสพท. ว่านอกจากการปฏิบัติตามคำสั่งศาลในกรณีผู้ฟ้องคดีทั้งสองรายข้างต้นแล้ว ยังควรคืนสิทธิให้แก่นักเรียนทั้งหมดที่ถูกตัดสิทธิ์ไปโดยไม่เป็นธรรม ในลักษณะเดียวกันด้วย กล่าวคือสมควรเปิดโอกาสให้นักเรียนเหล่านั้นได้มีสิทธิเข้าสอบเช่นเดียวกัน" ก่อนหน้านี้ วันที่ 28 ตุลาคม ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลไต่สวนคู่ความคดีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะผู้ฟ้องคดีแทน น.ส.ศรัญญา จันนามวงค์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ยื่นฟ้องประธานกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย และกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และ 2 เนื่องจากน.ส.ศรัญญาถูกตัดสิทธิสอบตรง (Direct Admissions) เข้าคณะแพทยศาสตร์ รามาธิบดี เพราะรูปสมัครขาดจำนวน 1ใบจากทั้งหมดที่ต้องการคือ 5 ใบ โดยขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งตัดสิทธิ์สอบและขอให้ศาลออกคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว โดยศาลได้ใช้เวลาไต่สวนนานกว่า 2 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ฝ่ายผู้ฟ้องคดีมีกรรมการสิทธิมนุษยชนเดินทางเข้าให้ปากคำ 3 รายด้วยกัน ได้แก่ มี นพ.แท้จริง ศิริพานิช นายปริญญา ศิริสารการ และนางวิสา เบ็ญจมะโน นายคมสัน เมธีกุล ผู้รับมอบอำนาจ น.ส.ศรัญญา และมารดา
นายคมสัน กล่าวว่า ศาลได้ซักในประเด็นที่ว่ารูปทั้ง 5 ใบนั้นได้นำไปใช้ทำอะไรบ้าง มีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน โดยทางผู้ถูกฟ้องก็ชี้แจงว่า
ใบสมัครทั้ง 5 ใบนำไปใช้ดังนี้ 1.ติดใบสมัคร 2.ติดบัตรประจำตัวผู้สอบ ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ในวิชาเฉพาะ 3.ติดบัตรประจำตัวผู้สอบ ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ในวิชาสามัญ 4.ให้กรรมการผู้ควบคุมสอบมีเพื่อพิจารณาเปรียบเทียบว่าผู้สมัครกับผู้สอบตรงกันหรือไม่ 5.สำหรับกองอำนวยการ สำรองไว้กรณีที่ผู้เข้าสอบอาจจะลืมนำมา ซึ่งทางผู้ฟ้องคดีก็ได้ทำคำคัดค้านไปว่ารูปใบที่ 5 ไม่มีความจำเป็น เนื่องจากสามารถใช้ใบที่ 4 มาประกอบก็ได้ และเป็นเพียงใบสำรองเท่านั้น
นายคมสันกล่าวว่า ในส่วนประเด็นการแจ้งเตือนนั้น ทางผู้ถูกฟ้องคดีก็ให้เหตุผลว่าได้ประกาศแจ้งเตือนผู้ที่มีเอกสารหลักฐานไม่ครบผ่านเว็บไซต์ พร้อมกับขยายเวลาให้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ช่องทางเดียวที่จะสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับการสอบได้นั้นมีเพียงหนทางเดียวคือการเปิดเว็บไซต์เท่านั้น อีกทั้งไม่ได้มีการกำหนดวันในการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเริ่มเมื่อไหร่ ทำให้นักเรียนไม่แน่ใจว่าควรจะเริ่มตรวจสอบได้เมื่อไหร่ ผู้รับมอบอำนาจ กล่าวว่า ทราบมาว่าในการตัดสิทธิ์สอบตรงแพทย์นี้ มีผู้สมัครทั้งหมด 29,008 ราย มีผู้ที่ส่งเอกสารครบและตรงเวลาทั้งหมด 28,745 ราย
มีผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ทั้งสิ้น 185 ราย โดยมีผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์สอบเพราะขาดรูปเพียง 1 ใบ ทั้งสิ้น 41 ราย อย่างไรก็ตาม
ทราบมาว่าจากกรณีของน้องศรัญญา ทำให้มีผู้มาฟ้องในกรณีลักษณะเดียวกันเพิ่มขึ้น แต่อาจจะเป็นการที่ขาดหลักฐานอื่นๆ ก็ได้ ซึ่งหวังว่าจากคดีนี้จะสร้างบรรทัดฐานที่ดีให้เกิดขึ้น"อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่าทั้งฝ่ายผู้ฟ้องและฝ่ายผู้ถูกฟ้องต่างก็มีเจตนาที่ดีต่อตัวเด็กเอง ส่วนศาลท่านจะพิจารณาเป็นอย่างไร ก็แล้วแต่ดุลพินิจของท่าน แต่ยืนยันว่าทุกฝ่ายมีเจตนาที่ต่อเด็ก แต่อาจจะขาดการพิจารณาในบางประเด็นก็เป็นได้" นายคมสัน กล่าว
นางวิสา กล่าวว่า ในวันนี้ศาลได้นัดไต่สวนเพื่อฟังเหตุผลทั้ง 2 ฝ่าย คือฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้อง โดยน.ส.ศรัญญาได้ยืนยันต่อศาลว่าได้ส่งเอกสารเพื่อสมัครสอบครบถูกต้องทุกขั้นตอน รวมถึงรูปถ่ายจำนวน 5 รูป จึงคิดว่าอาจจะเกิดข้อผิดพลาดรูปตกหล่นช่วงการเปิดซองเอกสาร ทั้งนี้ ศาลปกครองกลางจะแจ้งผลการไต่สวนให้คู่กรณีทราบในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ว่าจะให้น.ส.ศรัญญามีสิทธิ์เข้าสอบในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ หรือไม่
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1288270390&grpid=&catid=no