05 พฤศจิกายน 2567, 04:21:17
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอความช่วยเหลือเรื่องโรคมะเร็งหน่อยครับ  (อ่าน 8776 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ชาร์ป
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,119

« เมื่อ: 20 สิงหาคม 2552, 10:30:51 »

 สวัสดีครับพี่ ๆ ผมน้องชาร์ป รุ่น 2541 นะครับ
พอดี ภรรยาแฟนเพื่อนสนิทผมที่เรียนตอนมัธยม เธอป่วยเป็นโรคมะเร็งครับ (ทำให้ต้องแท้งลูกไปเมื่อปีที่แล้ว)
แล้วตอนนี้กำลังทำคีโมอยู่ครับที่ขอนแก่น

แล้วเมื่อคืนนี้ผมได้รับ e-mail จากเพื่อนผมมาขอคำแนะนำในการรักษา เพราะ ดูเหมือนตอนนี้ พยายามทำทุกวิธีแล้วยังดูเหมือนไม่ดีขึ้น
ผมอ่านดูแล้ว ท่าทางเขาคงตันจริง ๆ ถึงมี e-mail มายังเพื่อนเขาน่ะครับ
(ภรรยาเขาเป็นมะเร็งมาน่าจะปีหนึ่งแล้วล่ะครับ แต่ไม่ได้บอกเพื่อนเลย)

ผมเห็นว่าใน web cmadong นี้ มีพี่ ๆ น้อง ๆ ที่น่าจะรู้เรื่องมะเร็งอยู่มาก  จึงตั้งกระทู้เพื่อมาขอคำแนะนำ ในการรักษาภรรยาเพื่อผมคนนี้น่ะครับ

ผมขออนุญาติ post ข้อความ e-mail ของเพื่อนผม ลงในกระทู้นี้นะครับ เพื่ออธิบายถึงอาการที่เป็นอยู่น่ะครับ

ผมขอขอบพระคุณพี่ ๆ น้อง ๆ ไว้ล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

 sorry
Sharp
RCU2541

************************************************************************
สวัสดีพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ เราก้องนะ

                ก่อนอื่นขอขอบคุณทุกคนที่สละเวลาอ่าน พอดีเราต้องการความช่วยเหลือจากทุกคน
หลายๆคนอาจจะรู้แล้วว่าภรรยาของเราป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ เราจึงขอแจ้งก่อน
แฟนเราเป็นมะเร็งลำไส้ ลามมาติดที่ ตับ ต่อมน้ำเหลือง และผนังหน้าท้อง
 
ลองอ่านรายละเอียดดู ใครพอจะหาทางช่วยได้บ้าง ตอนนี้ถือว่าเข้าตาจนแล้วจริงๆ อะไรช่วยได้ ไม่เสียหาย
รบกวนเพื่อนๆ ช่วยด้วยนะครับ เราไม่รู้จะพึ่งใครได้แล้วจริง ไม่ว่าจะเป็น แพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์ทางเลือก
วิธีธรรมชาติบำบัด วิธีทางพุทธคุณ หรือ ไสยศาสตร์ก็ได้ถ้าไม่มีทางอื่นๆ รับฟังทุกข้อเสนอแนะ ลงอ่านรายละเอียดอย่างย่อ
ของการเจ็บป่วยแฟนเราดูนะครับ
 
 
*****การรักษาด้วยการผ่าตัด*****
         หลังจากผ่าตัดเมื่อ พ.ย. ปีที่แล้ว สามารถตัดเอาเซลล์มะเร็งที่ ลำไส้ ออกได้ทั้งหมด
ต่อมน้ำเหลืองตัดออกได้ไม่หมดก็เกือบหมดนะ ส่วนที่ผนังหน้าท้องหมอบอกว่าทำอะไรไม่ได้ เป็นจุดเล็กๆกระจายอยู่
ที่ผนังหน้าท้อง และที่ตับมี 4 เม็ด ตัดออกได้เพียงเม็ดเดียว โดย 3 เม็ดที่เหลือมีขนาด 4 3 และ 2 ซม.
 
 
*****การรักษาด้วยเคมีบำบัด******
 รักษาด้วยเคมีบำบัด มา 9 เดือนมีรายละเอียดดังนี้
         แฟนเราจะต้องเข้ารับเคมีบำบัดแบบ อยู่รพ.5 วัน กลับบ้าน 9 วัน สลับไปเรื่อยๆ บางครั้งก็มีเลื่อนบ้าง
ด้วยสาเหตุต ่างๆกัน  โดยจะซีทีดูผลที่ตับทุกการเคมีบำบัด 4 ครั้ง

               1.ซีทีครั้งที่ 1 เม็ดที่ตับลดลงทุกเม็ด เหลือขนาด 3.8 2 และ 1 ตามลำดับ ที่ต่อมน้ำเหลือง และผนังหน้าท้องมองไม่เห็นแล้ว  ทำให้อดนึกถึงโอกาสหายขายไม่ได้
               2.ซีทีครั้งที่ 2 เม็ดที่ตับลดลงทุกเม็ด เหลือขนาด 3.7 1.2 และ 1.0 ตามลำดับ ซึ่งลงลงน้อมากเมื่อเทียบกับครั้งแรก
ทำได้คนป่วยใจเสียพอสมควร แต่เอาวะ ยังไงก็ยังเล็กลง
               3.ซีทีครั้งที่ 3 เม็ดที่ตับทุกเม็ด ขนาดเท่าเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
 
นัดคีโมครั้งต่อมาคือหลังจากซีทีครั้งที่ 3  วันที่ 10 ส.ค. 2552 (ครั้งปัจจุบัน ขณะที่เขียน)
อ.เอื้อมแขบอกว่าเม็ดที่ตับน่าจะไม่ยุบแล้ว จึงส่งปรึกษาแพทย์ศัลย์ เพื่อผ่าเอาเม็ดที่ตับออก
วันที่ 18 ส.ค.2552 ทีมแพทย์ศัลย์แจ้งว่า "สามารถเอาเม็ดที่ตับออกได้
แต่ผู้ป่วยที่ถูกเซลล์มะเร็งลามมาที่ ผนังหน้าท้องแล้วจะไม่หายขาดอยู่ดี จึงให้คำตอบว่า
จะไม่ผ่าออกให้แต่ให้เคมีบำบัดไปเรื่อยๆ"
หลังจากนั้น 1 ชม. อ.เอื้อมแขก็เข้ามาพบในห้องพักแล้วแจ้งข่าวร้ายว่า แฟนเราไม่มีโอกาสหายขาด
แต่เคมีบำบัดจะช่วยยื้อชีวิตไปได้พอสมควร จึงให้เคมีบำบัดต่อ
 
 
******ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้เคมีบำบัดนะครับ สำหรับคนที่เป็นหมอ หรือพอรู้เรื่องเคมีบำบัด*******
แฟนเราได้รับยาเคมีบำบัด สูตร FOLFOX + AVASTIN ไป 10 ครั้ง จริงๆแล้ว สูตรนี้ต้องให้ 12 ครั้ง
แต่แฟนเราแพ้ยา Oxaliplatin ในรอบที่ 10 มีอาการไอ หายใจไม่ออก และมีผื่นตามตัว
อ.เอื้อมแขจึงเปลี่ยนยาเป็น สูตร FOLFIRI ได้ 1 ครั้งก่อน CT ครั้งที่ 3 และได้อีก 1 ครั้งหลังจากCT ไม่กี่วัน
ครั้งที่ให้อยู่ขณะเขียน จม.นี้เป็นครั้งที่ 3
 
 
 
 
 ****ยังไงเราขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นะ
จะE-mail หรอโทรมาก็ได้
ที่ konglue@hotmail.com หรือ โทรมาเบอร์ 080-7489082
เราเข้าใจว่าแพทย์แผนปัจจุบันยืนยันว่าไม่หาย แต่ก็ดีกว่าเห็นคนที่เรารักตายผ่อนส่งช้าๆโดยไม่ทำอะไรเลย
ปล.ปัจจุบันแฟนเราอาการทั่วไปเหมือนคนปกติทุกอย่าง
ไม่มีใครรู้ว่าป่วยถ้าไม่บอก มีแต่ผมที่บางลงกว่าคนปกติเล็กน้อย
ใครมีพ่อแม่ พี่ แฟน เป็นหมอแผนปัจุบัน โบราณ หรืออะไรก็ตาม
ถ้ามีวิธีดีๆแนะ นำ อย่างช่วยให้อยู่ได้นานขึ้นก็ยังดี ถ้าถึงขั้นหายได้จะขอบพระคุณอย่างสูง ขอบพระคุณทุกคนล่วงหน้านะครับ
 
 
 
 
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 

--------------------- ส่วนข้างล่างนี้เป็นที่มาอาการป่วยแบบละเอียดหน่อย ใครอยากอ่านก็อ่านนะ ไม่อ่านก็ไม่เป็นไร
กลัวว่าใจความจม. จะยาวไปจนไม่มีคนอ่านเลยแยกออกมา เอาไว้เป็นตัวอย่างสังเกตุอาการ
ไม่อยากให้ใครเป็นเลยจริงๆนะ มันโหดร้ายมาก --------------------------------
 
 
ช่วงที่ 1 คนหาว่าแฟนเราเป็นอะไรกันแน่
  ขอเล่าที่มาที่ไปก่อนละกันนะ คนที่มีเวลาน้อยอ่านย่อหน้าต่อไปเลยก็ได้ แฟนเราเข้าไปขอรับยา รักษาโรคหูรูดลำไส้อักเสบ
ที่รพ.ราชพฤกษ์ (เอกชนในขอนแก่น) วันไปเหมือนคนปกติทุกอย่ าง เพียงแต่ไปเอายามากินให้หายซะทีเพราะรำคาญ
อาการลมดัน แก๊สในท้องมาก แต่กลับปวดท้องในวันไปหาหมอ (ปวดครั้งแรก) หมอเห็นอาการแล้วไม่ยอมให้กลับ
หมอเจ้าของไข้ชื่อสมบัตร จำนามสกุลไม่ได้ นอนอยู่ราชพฤกษ์ คืนแรกมีไข้สูง และเสียดบริเวณตับ (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นตับ)
หายใจเข้าไม่สะดวกจนต้องให้ออกซิเจน นอน 1 คืนเช้าวันต่อมาหมอให้อัลตร้าซาวด์ดู ผลออกมาว่าเป็นฝีที่ตับ 1 เม็ด
ขนาดประมาณ 2 ซม. จึงขอย้ายมารพ.ศรีนครินทร์ (รพ.รัฐฯ ขนาดใหญ่ อยู่ในคระแพทย์ ม.ขอนแก่น) เพราะเบิกได้
ได้หมอเจ้าของไข้ชื่อ อ.อนัน ศรีพนัสกุล เป็นหมอ ศัลยฯ จากที่รพ.ราชพฤกษ์ ส่งตัวมา หมอทางนี้จึงรักษาต่อเลย
โดยให้ยาทางสายน้ำเกลือ แฟนผมนอนอยู่ ศรีนครินทร์ อยู่ 1 เดือน โดย ผลอัตราซาวน์ทุก 15 วัน บอกว่าเม็ดไม่เล็กลงเลย
แถมทีเม็ดใหม่ขึ้นมา 1 เม็ด จำขนาดไม่ได้ หมอจึงให้เจาะเอาชิ้นเนื้อตับไปพิสูจน์ว่าเป็นอะไรกันแน่ แต่รอผลใช้เวลานาน
หมอจึงให้กลับบ้านไปกินยาต่อที่บ้าน หลังจากนั้น 15 วัน
กลับมาหาหมออีกตามนัด โดยแฟนเราไปอัลตราซาวน์ที่ รพ. เอกชนชื่อ ขอนแก่นราม กับ หมอนุ้ย ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ช่วยเหลือ ดีมาก
เพราะคิวอัลตราซาวน์ใน รพ.ศรีฯ ค่อนข้างยาว ก็พบว่า 2 เม็ดที่ตับยังคงเดิม หมอบอกว่าเดี๋ยวคงดีขึ้น
เพราะเนื้อที่ตับที่ตัดมาเป็นเนื้อตายเฉยๆ จึงสรุปไม่ได้ว่าเป็นอะไร
เรา 2 คนกลับบ้านด้วยอาการไม่สบายใจ โดยหมอนัดทำ ซีทีไกด์
(คือการ เอ็กเรย์คอมพิวเตอร์ขณะตัดชิ้นเนื้อเลยเพื่อความแม่นยำของตำแหน่งที่ตัด) หลังจากนั้น 15 วันเราไปฟังผลโดยก่อนหน้า 1 วัน
เราไป อัลตร้าซาวด์ กับหมอนุ้ยเหมือนเดิม พบว่า เม็ดที่ตับเพิ่มเป็น 4 เม็ด ทุกคนช็อก แทบนอนไม่หลับ
ตั้งใจว่าจะไปหาหมอที่กรุงเทพดีไหม แต่ก็ใจเย็นให้หมอทำ ซีทีไกด์และรอผลก่อน ปรากฏว่าเป็นเนื้อตายเช่นเคย เรื่องนี้ขอขอบคุณ
นพ.รักศักดิ์ (เอ็กซ์) ที่ช่วยเหลือดูผลชิ้นเนื้อทำให้รู้ผลก่อนหมอนัด หมอนัดรอบต่อมาเราจึงขอประวัติจากหมอ เพื่อไปรักษาที่ กทม.
พอดี หมอนุ้ย และภัทร์แนะนำให้ไป หาอ.พิศาลที่คลีนิก
ก่อนหน้าจะไปพบอ.พิศาล มีอาการปวดท้องด้านซ้ายตำแหน่งเดิม อยู่เรื่อยๆ แต่ไม่บ่อยนัก ประมาณเดือนละครั้งหรือ 2 ครั้ง
และคลำพบก้อน บริเวณที่เจ็บด้วย
พอไปหาอ.พิศาลที่คลีนิก อ.พิศาลทราบว่าเป็นมะเร็งในเวลาที่คุยก ันเพียง 2 นาที หลังตรวจอ.แสดงสีหน้าไม่สบายใจกึ่งสงสารเรา
และถอนหายใจหลายครั้ง พร้อมตบบ่าผมหลายครั้ง วันนั้นผมยังไม่คิดว่าแฟนผมเป็นมะเร็ง เพราะคิดว่า เราอายุยังน้อย
แต่อ.ยังไม่บอกทันทีว่าเป็นมะเร็ง นัดเรากลับไปส่องกล้องที่ รพ.ศรีฯ ใน3 วันต่อมา
และแจ้งให้ผมทราบขณะที่แฟน ผมยังมึนยาสลบอยู่ ว่าเป็นมะเร็งลำไส้แล้วลามมาที่ตับ ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายแล้ว
และอ.ยืนยันว่าต้องบอกเจ้าตัวเพื่อจะได้รีบรักษา คืนวันที่โหดร้ายสำหรับผมและแฟนก็เริ่มขึ้น (จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีทีท่าจะจบลง)
 
 
ช่วงที่ 2 การรักษา
 อ.พิศาลส่งตัวไปให้ อ.อนันเจ้าของไข้คนเดิมผ่าตัด และ อ.เอื้อมแข สุขประเสริฐ เป็นคนให้เคมีบำบัด อ.อนันผ่าตัดด่วนให้
เป็นผ่านอกเวลา ผลออกมาว่า อ.อนันสามารถผ่าเซลล์มะเร็งที่ ลำไส้ ออกให้ได้หมด แต่เซลล์มะเร็งลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง
ตับ และผนังหน้าท้อง ที่ต่อมน้ำเหลือง อ.เอาออกเท่าที่ทำได้ ที่ตับ 4 เม็ด เอาออกได้ 1 เม็ด ที่ผนังหน้าท้อง มีเป็นเม็ดเล็กๆ เหมือนผื่น
กระจายอยู่ทั่วไปที่ผนังหน้าท้อง ตัวนี้เองที่เป็นจุดสำคัญที่ทำให้โอกาสหายเลือนลาง หลังจากร่างกายพร้องแล้ว แฟนเราก็ถูกส่งไปพบ
อ.เอื้อมแข เพื่อทำเคมีบำบัด อ.เอื้อมแขเป็นผู้หญิงเก่งที่ทำงานด้วยใจจริงๆ เราค่อนข้างอุ่นใจตอนอยู่ในมือ อ.เอื้อมแข
หลัง ทำเคมีบำบัด (คีโม) มาเป็นเวลา 9 เด ือน อ.เอื้อมแข จะให้ ซีทีดูผลเรื่อยๆ ทุก 2 เดือน พบว่า เม็ดที่ตับทีมีขนาด
4,3และ2 ซม. ตามลำดับ ลดลงเหลือ 3.7 1.2 และ 1.0 ซม ตามลำดับ จนมาถึง ซีทีครั้งล่าสุด เม็ดที่ตับขนาดเท่าเดิม
หมอจึงบอกว่าจะส่งปรึกษาหมอศัลยฯ เพื่อดูว่าจะผ่าเอาเม็ดที่เหลือออกได้หรือไม่ ถ้าเอาออกได้อาจมีโอกาสถึงขั้นหาย
แต่ผลออกมาว่า เม็ดที่ตับทั้งสามสามารถเอาออกได้ แต่สำหรับคนที่ลามไปติดผนังหน้าท้องแล้ว ก็จะไม่หายอยู่ดี ทีมหมอศัลยฯ
จึงลงความเห็นว่าจะไม่ผ่าให้ อ.เอื้อมแขจึงให้คีโมต่อไปเพื่อควบคุมไม่ไห้เม็ดที่ตับโตขึ้น ท่วมกลางความสิ้นหวังของคนในครอบครัว

****************************************************************************************

      บันทึกการเข้า
หอเจ้าจอม
มือใหม่หัดเมาท์
*

ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 28

« ตอบ #1 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2552, 12:06:46 »

แนะนำให้สอบถามโดยตรงที่บอร์ดสถาบันมะเร็งแห่งชาติ หรือที่ www.sirirajonline.com       โชคดีครับ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2552, 15:42:45 »

น้องชาร์ป,
โอ,น่าเห็นใจจริงๆค่ะ
ทั้งผู้ป่วยที่พยายามต่อสู้อย่างสุดกำลัง
ทั้งสามีคนใกล้ชิดที่เอาใจช่วยแม้แบ่งความเจ็บปวดแทนได้
พี่เชื่อว่าเค้าคงอยากทำ แทนที่จะเฝ้ามองภรรยาต่อสู้เพียง
ลำพัง.
พี่ขอส่งกำลังใจนะคะ ให้เธอสงบ ให้เธอตระหนักว่ามีคนที่
รักเธออยู่ใกล้ๆตลอด ขอเพิ่มแรงกายใจแก่เพื่อนน้องชาร์ป
ให้เข้มแข็ง เป็นที่ยึดเหนี่ยวของภรรยาเค้า ต่อสู้ให้ถึงที่สุด.

ส่งข่าวความคืบหน้าให้พี่ทราบบ้างนะคะ.


p.nn
      บันทึกการเข้า


ชาร์ป
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,119

« ตอบ #3 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2552, 16:19:58 »

อ้างถึง
ข้อความของ Pipat    Rabiab เมื่อ 20 สิงหาคม 2552, 12:06:46
แนะนำให้สอบถามโดยตรงที่บอร์ดสถาบันมะเร็งแห่งชาติ หรือที่ www.sirirajonline.com       โชคดีครับ

ขอบคุณพี่มากครับ ผมได้แจ้งให้เพื่อนผมทราบแล้วครับ และ แนะนำให้เขาไปติดต่อเองโดยตรงครับ
คิดว่าในฐานะญาติผู้ป่วยจะมีน้ำหนักมากกว่า เพื่อน ๆ น่ะครับ

และขอขอบคุณพี่หนุงหนิงแทนเพื่อนผมสำหรับกำลังใจนะครับ


      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #4 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2552, 21:34:45 »


  เพิ่งเข้ามา และ ได้อ่่านเนื้้อความกระทู้ แล้ว น่าเห็นใจกับผู้ป่วย และ ครอบครัวด้วยครับ 

อะไรที่เกิดขึ้นแล้ว ก็คงต้องยอมรับ ทำใจให้สงบ ตามธรรมเทศนาของพระพรหมคุณาภรณ์

ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ที่เวบจริยธรรม ที่ผมเคยโพสท์ไว้ที่

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=panomsarakham&month=08-2008&date=03&group=10&gblog=7

ข้อดีของความทุกข์ ที่

http://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=thecrow&id=1228

 gek gek gek
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2552, 12:53:50 »

สวัสดีครับ
                  พี่สิงห์เองก็ไม่ได้เป็นหมอครับ แต่ขอแนะนำว่า มะเร็งนั้นมันจะกำเริบเมื่อเราแพ้มันครับ  ของให้พยายามทำใจให้สบายนึกว่าเป็นเพื่อนเรา เราไล่เขาไม่ได้แล้ว แต่ก็สามารถอยู่อย่างเพื่อนได้นานๆได้ครับ หรือไม่เขาอาจจะอ่อนแอไปเองครับ ขอให้ฝึกใจอย่าท้อแท้ รักษาสุขภาพจิตต์ จะทำสมาธิก็ได้  ออกกำลังกายเท่าที่จะทำได้ เพื่อความแข็งแรงของร่างกาย รับประทานอาหารที่หลีกเลี่ยงการเจริญเติบโตของมะเร็ง ให้เน้นไปที่ผักต้ม  ปลาต้ม หรือผักสด หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ ทำกิจวัตร หรือทำงานไปตามปกติ  อย่าไปวิตก หรือ ให้ลืมไปเลยว่าเราเป็นมะเร็ง  ถ้าทำได้ ผมว่าแฟนจะอยู่ได้นานกว่าที่คิด หรือวาสนามีอาจจะชนะก็ได้ครับ  ขอให้ใช้วิธีธรรมชาติบำบัด คือ จิตต์ต้องร่าเริงแจ่มใส  ออกกำลังกายแบบโยคะที่หายใจเข้าออกลึกๆ ให้มากๆ และรับประทานอาหารแบบชีวจิตต์(ธรรมชาติ) ครับ  ช่วยได้แน่นอน
                  พี่สิงห์ก็แนะนำได้เท่านี้  หรือลองเข้าไปดูที่ ปาลาวีดอตคอมบ้างครับ เพราะเขารับคนไข้ฟื้นฟูโรคมะเร็งโดยเฉพาะ รักษาแบบธรรมชาติ คือ การกิน ออกกำลังกายทางหายใจ และจิตต์ ครับ
                  สวัสดี
      บันทึกการเข้า
ชาร์ป
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,119

« ตอบ #6 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2552, 23:16:31 »

ขอขอบคุณพี่ ๆ สำหรับคำแนะนำดี ๆ มากเลยครับ
ผมก็ได้ บอกต่อให้เพื่อนผมแล้วนะครับ
      บันทึกการเข้า
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #7 เมื่อ: 20 กันยายน 2552, 18:48:34 »




เพื่อน ชาร์ป เป็นอย่างไรบ้าง ไปรักษาที่ไหน

อยากทราบข่าวด้วยความเป็นห่วง

 gek gek gek



      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><