จังหวัด อำเภอ ซึ่งประสบภัยน้ำท่วม
ปภ.เผยน้ำท่วมแล้ว 29 จังหวัด เดือดร้อนเกือบ 2 ล้านคน ตาย 17 22 ตุลาคม 2553 15:30 น.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถานการณ์น้ำท่วม 12 วัน มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 29 จังหวัด 186 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อน 4.5 แสนครัวเรือน เกือบ 2 ล้านคน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 17 ราย สูญหาย 1
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในระหว่างวันที่ 10-22 ตุลาคม 2553 มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 29 จังหวัด 186 อำเภอ 1,355 ตำบล 8,609 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 456,823 ครัวเรือน 1,280,344 คน ผู้เสียชีวิต 17 ราย สูญหาย 1 ราย ถนนไม่สามารถใช้สัญจรได้รวม 17 เส้นทาง ใน 7 จังหวัด ดังนี้
จ.พิจิตร น้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งใน 5 อำเภอ 19 ตำบล 34 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,120 ครัวเรือน 4,000 คน ได้แก่ อำเภอสามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนางราง โพทะเล และสากเหล็ก
จ.ชัยนาท น้ำท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ 40 ตำบล 342 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 16,940 ครัวเรือน 44,987 คน ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท เนินขาม หันคา วัดสิงห์ หนองมะโมง มโนรมย์ และสรรพยา
จ.สุพรรณบุรี น้ำในแม่น้ำท่าจีนไหลเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ 61 ตำบล 304 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 44,300 ครัวเรือน 121,436 คน ได้แก่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี บางปลาม้า สองพี่น้อง สามชุก หนองหญ้าไซ และเดิมบางนางบวช
จ.อ่างทอง น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ 52 ตำบล 215 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,950 ครัวเรือน 4,335 คน ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง ป่าโมก ไชโย วิเศษชัยชาญ โพธิ์ทอง สามโก้ และแสวงหา
จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำน้อย เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มการเกษตรใน 5 อำเภอ 54 ตำบล 297 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 4,494 ครัวเรือน 13,977 คน ได้แก่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา บางไทร มหาราช ผักไห่ และบางบาล
จ.ระยอง น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 6 ตำบล 32 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองระยอง และวังจันทร์
จ.ตราด เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเกาะช้าง และแหลมงอบ
จ.สระแก้ว น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ 10 ตำบล 1 เทศบาล 32 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 6,346 ครัวเรือน 25,800 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 40,000 ไร่ ได้แก่ อำเภออรัญประเทศ วังน้ำเย็น ตาพระยา และโคกสูง
จ.นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ 31 อำเภอ 376 ตำบล 2,158 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 452,174 ไร่ ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา สูงเนิน ขามทะเลสอ โนนแดง คง เสิงสาง หนองบุญมาก จักราช เทพารักษ์ ด่านขุนทด บ้านเหลื่อม โนนสูงโชคชัย พิมาย โนนไทย ห้วยแถลง ปากช่อง สีคิ้ว ปักธงชัย ขามสะแกแสง เฉลิมพระเกียรติ พระทองคำ บัวใหญ่ ครบุรี บัวลาย เมืองยาง ศรีดา ชุมพวง วังน้ำเขียว ลำทะเมนชัย และแก้งสนามนาง
จ.ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 4 ตำบล 14 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,870 ครัวเรือน 5,610คนได้แก่ อำเภอนาดี และกบินทร์บุรี ความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ
จ.ลพบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ 120 ตำบล 1,012 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี โคกสำโรง ชัยบาดาล พัฒนานิคม ลำสนธิ ท่าหลวง หนองม่วง สระโบสถ์ โคกเจริญ บ้านหมี่ และท่าวุ้ง
จ.นครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 25 ตำบล ราษฎรเดือดร้อน 2,226 ครัวเรือน 6,698 คน ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ ตาคลี ลาดยาว หนองบัว ท่าตะโก และไพศาลี
จ.ชัยภูมิ น้ำท่วมในพื้นที่ 16 อำเภอ 113 ตำบล 1,305 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 63,610 ครัวเรือน 185,742 คน ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ เกษตรสมบูรณ์ ภูเขียว บำเหน็จณรงค์ เนินสง่า จัตุรัส บ้านเขว้า แก้งคร้อ หนองบัวแดง หนองบัวระเหว คอนสวรรค์ ซับใหญ่ คอนสาร ภักดีชุมพล เทพสถิติ และบ้านแท่น
จ.สระบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ 111 ตำบล 86,1000 ครัวเรือน 185,995 คน เสียชีวิต 1 ราย ได้แก่ อำเภอเมืองสระบุรี บ้านหม้อ พระพุทธบาท มวกเหล็ก แก่งคอย วังม่วง เสาไห้ เฉลิมพระเกียรติ ดอนพุด หนองแซง หนองแค วิหารแดง และหนองโดน
จ.เพชรบูรณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ 49 ตำบล 271 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ หนองไผ่ ศรีเทพ บึงสามพัน และวิเชียรบุรี
นครนายก น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบ้านนา 2 ตำบล ราษฎรเดือดร้อน 500 ครัวเรือน 1,500 คน
จ.ศรีสะเกษ น้ำล้นสปริงเวย์เข้าท่วมในพื้นที่อำเภอขุนหาญ ความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ
จ.ตาก น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 39 ตำบล 1 เทศบาลนคร 267 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 30,332 ครัวเรือน 100,006 คน ได้แก่ อำเภออุ้งผาง พบพระ แม่สอด ท่าสองยาง แม่ละมาด และบ้านตาก
จ.สุรินทร์ น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ 33 ตำบล 252 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 25,422 ครัวเรือน 96,594 คน ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ สังขะ บัวเชด ศรีขรภูมิ ศรีณรงค์ ชุมพลบุรี และกาบเชิง
จ.บุรีรัมย์ น้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ 62 ตำบล 485 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 13,275 ครัวเรือน 51,877คน ความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ ได้แก่ อำเภอโนนดินแดง สตึก ปะคำ บ้านกรวด ประโคนชัย เฉลิมพระเกียรติ ละหานทราย นางรอง หนองหงส์ ลำปลายมาศ และชำนิ
จ.ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ 27 ตำบล 153 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 4,582 ครัวเรือน 16,084 คน ได้แก่อำเภอภูผาม่าน บ้านไผ่ และชุมแพ
จ.นนทบุรี แม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 54 ตำบล 128 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 15,027 ครัวเรือน 17,940 คน ได้แก่ อำเภอเมืองนนทบุรี ปากเกร็ด บางกรวย บางใหญ่ บางบัวทอง และไทรน้อย
จ.ปทุมธานี น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ 39 ตำบล ราษฎรเดือดร้อน 13,197 ครัวเรือน 26,394 คน ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี สามโคก ลาดหลุมแก้ว ธัญบุรี ลำลูกกา คลองหลวง และหนองเสือ
จ.กำแพงเพชร น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 33 ตำบล 248 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 31,758 ครัวเรือน 33,763 คน ได้แก่ อำเภอขาณุวรลักษบุรี ปางศิลาทอง ไทรงาม บึงสามัคคี ทรายทองวัฒนา ทรายทอง พรานกระต่าย
จ.นครปฐม แม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบางเลน และปริมาณน้ำแม่น้ำท่าจีนในพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม นครชัยศรี สามพราน กำแพงแสน มีระดับสูงขึ้น
จ.อุทัยธานี น้ำจากแม่น้ำวงก์และคลองโพธิ์ ไหลเข้าสู่แม่น้ำแควตากแดด ส่งผลทำให้น้ำท่วมในพื้นที่ตำบลเนินแจง และตำบลโนนเหล็ก อำเภอเมืองอุทัยธานี พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 300 ไร่ ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องแล้ว
จ.สิงห์บุรี น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่อำเภออินทร์บุรี 2 ตำบล 1 เทศบาล 18 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,042 ครัวเรือน 2,084 คน
จ.จันทบุรี ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองจันทบุรี แก่งหางแมว เขาคิชฌกูฏ มะขาม สอยดาว และโป่งน้ำร้อน
จ.เชียงใหม่ น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ 25 ตำบล 109 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 5,901 ครัวเรือน 14,867 คน ได้แก่ อำเภอดอยเต่า ชัยปราการ แม่วาง จอมทอง ดอยหล่อ ฮอด สันป่าตอง และสะเมิง
นอกจากนี้ จ.ลำปาง เกิดดินถล่มทับเส้นทางลำปาง-เชียงใหม่ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 28-29 ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ประสบภัยได้จัดส่งเรือท้องแบน 650 ลำ ถุงยังชีพ 88,760 ถุง เต๊นท์ 116 หลัง ไปติดตั้งเพื่อให้ผู้ประสบภัยมีที่พัก อาศัยชั่วคราว รถผลิตน้ำดื่ม 8 คัน น้ำดื่ม 75,209 ขวด เครื่องสูบน้ำ 134 เครื่อง รถกู้ภัยทุกชนิด 463 คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง 4 คัน สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000149214