22 พฤศจิกายน 2567, 15:26:50
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 87 88 [89] 90 91 ... 131   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"  (อ่าน 794983 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 31 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #2200 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2553, 11:00:07 »

ศาลากลาง จ. อุบลฯ ที่ทำงานเก่า ของ คุณ เถกิง  สิงห์ดำ รุ่น 3 

      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #2201 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2553, 11:42:29 »

ภาพ: เครดิตโครงการฯต้นแบบ ม.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

ขยายโครงการสู่พื้นที่เป้าหมาย ทั่วประเทศ   สะใจจัง






      บันทึกการเข้า
ภาณุ ปาตานี
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,254

« ตอบ #2202 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2553, 12:32:42 »

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 24 พฤษภาคม 2553, 07:44:46
อยากให้เจ๊ดา เข้าไปนอนบนเตียงนอน อย่างผู้ถูกคุมขังบ้าง

เธอจะใส่ชุดสีไร นะ

แต่กางเกงในคงจะ สีเเลงงงงงงงงงงงงงง


คาดการณ์เฉยๆ นะโอเคครับพี่แอ๊ะ

แต่ไม่อยากจะเห็น...เลยครับ

คาดว่า...จะทรงกลม
      บันทึกการเข้า
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #2203 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2553, 15:16:06 »

พี่แอ๊ะครับ ถ้ารู้จักเขียนอะไรติดหน้าร้านสักนิดแบบนี้ เช่นดังภาพ ก็จะไม่โดนทำลาย
ถ้าอนาคตจะมีอีก เอาภาพเช็ดหน้าสีแดง ติดรถไว้สักผืน ก็จะไม่โดนตรวจค้น

นี่คือบ้านป่าเมืองเถื่อน อีกนานสักเท่าไหร่ครับ เราจะมีประชาธิปไตยที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ
เป็นนิติรัฐที่แท้จริง ไม่มีคอร์รัปชั่น เก็บภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย คนรวยคนมั่งมี รู้จักบริจาคให้คืนกับสังคม
พัฒนาการศึกษาให้กับเยาวชน และชนบทให้ดีขึ้น
ไม่สร้างความฟุ้งเฟ้อทางด้านวัตถุหรือเทคโนโลยี่ ที่รู้จักซื้อมาจากต่างประเทศ แต่ผลิตหรือพัฒนาไม่เป็น
อย่าบ้า Ipod Iphone Ipad I-ba อยู่เลย 


      บันทึกการเข้า

เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2204 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2553, 15:29:37 »

ตรวจตัวเลขเพื่อเตือนความจำ ของ 4 นายกรัฐมนตรี

4 นายกฯ 4 ยุคการสูญเสีย (ชีวิต)

 
จอมพลถนอม กิตติขจร - พล.อ.สุจินดา คราประยูร - สมชาย วงศ์สวัสดิ์ - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
  
นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทยตั้งแต่ปี 2475 เกิดเหตุการณ์ให้ประวัติศาสตร์ต้องบันทึกไว้หลายต่อหลายเหตุการณ์ มีทั้งการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี และ เหตุการณ์ที่เลวร้ายสุดๆ ที่ไม่มีใครอยากเกิดขึ้นเลย โดยเฉพาะเหตุการณ์การต่อสู้ทางการเมือง ที่อ้างถึง "ประชาธิปไตย" ต่อสู้ ชุมนุม ยืดเยื้อ กระทั่งมีการปราบปรามจนมี "คนไทย" บาดเจ็บ ล้มตายกันเป็นจำนวนมาก

ท่ามกลางการบริหารประเทศของผู้นำสูงสุดของไทย มีทั้งคนที่เห็นด้วย ชื่นชม ทำตาม ขัดแย้ง ต่อต้าน ไม่ปฏิบัติตาม เป็นธรรมดาการทำงานในบรรยากาศชื่นชมที่เป็นไปอย่างราบรื่น แต่หลายต่อหลายครั้งการบริหารประเทศภายใต้บริบทที่ปกคลุมไปด้วยความขัดแย้ง รุนแรง ต้องจบลงด้วยความสูญเสีย ที่ยากจะลืมลง    

"14 ตุลา" ยุค จอมพลถนอม กิตติขจร

เริ่มมาจากการที่ จอมพลถนอม กิตติขจร ทำการรัฐประหารตัวเองในวันที่ 17 พ.ย. 14 เหตุการณ์ครั้งนั้นนักศึกษา และ ประชาชนมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจตนเองจากจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และ จอมพลประภาส จารุเสถียร บุคคลสำคัญในรัฐบาล ก็ไม่ได้รับการยอมรับเหมือนจอมพลถนอม แต่กลับต่ออายุราชการให้ตัวเอง ประกอบกับการทุจริตคอร์รัปชั่นจำนวนมาก สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน เป็นอย่างมาก กระทั่งวันที่  6 ต.ค. 14 มีบุคคล 100 คน เช่น นักวิชาการ นักการเมือง นักคิด นักเขียน นิสิต นักศึกษา เป็นต้น ร่วมลงชื่อร้องขอรัฐธรรมนูญ

จากนั้นนักศึกษาได้เดินแจกใบปลิวเรียก ร้องรัฐธรรมนูญตามสถานที่ต่างๆในกรุงเทพมหานคร ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมประชาชน และ นักศึกษา ด้วยข้อหา "คอมมิวนิสต์"  และ ถูกเรียกขานว่าเป็น "ขบถรัฐธรรมนูญ" สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้แก่ นักศึกษา ประชาชนอย่างมาก นำไปสู่การชุมนุมใหญ่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ยื่นคำขาดให้ทางรัฐบาลปล่อยตัวทั้งหมด แต่เมื่อถึงเวลาแล้วรัฐบาลก็กระทำการเดินขบวนครั้งใหญ่จึงเริ่มต้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ตามถนนราชดำเนิน สู่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยมีแกนนำเป็นนักศึกษาและมีประชาชนเข้าร่วมด้วยจำนวนมาก นำไปสู่การนองเลือดในเช้าตรู่วันที่ 14 ต.ค. เกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน  จึงเกิดการปะทะกันกลายเป็นการจลาจล เฮลิคอปเตอร์ยิงปืนลงมาเพื่อสลายการชุมนุม

เหตุการณ์ยังไม่สงบลงง่ายๆ โดยกลุ่มทหารได้เปิดฉากยิงเข้าใส่นักศึกษาและ ประชาชนอีกครั้ง นักศึกษาพยายามพุ่งรถบัสที่ไม่มีคนขับเข้าใส่สถานีตำรวจ ที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ประกาศท้าทายกฎอัยการศึก ประกาศว่าจะอยู่ที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย กระทั่งวันที่ 15 ต.ค. ได้มีประกาศว่า จอมพลถนอม จอมพลประภาส และ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร ได้เดินทางออกนอกประเทศแล้ว เหตุการณ์จึงค่อยสงบลง

เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 หรือ วันมหาวิปโยค เป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาและประชาชนในประเทศไทย มากกว่า 500,000 คน โดยในเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 77 ราย บาดเจ็บ 857 ราย และสูญหายอีกจำนวนมาก

"35 พฤษภาทมิฬ" ยุค พล.อ. สุจินดา คราประยูร

การรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร  นำไปสู่การเคลื่อนไหวคัดค้าน ต่อต้านของประชาชนอย่างกว้างขวาง เนื่องจากมองว่า เป็นการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) โดยการอดอาหารของ ร.ต. ฉลาด วรฉัตร และ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรม ในขณะนั้น สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย และการสนับสนุนของพรรคฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเอกภาพ พรรคความหวังใหม่และพรรคพลังธรรม มีข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง และเสนอให้ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง

การชุมนุมยืดเยื้อตั้งแต่เดือน เม.ย. 35 แต่ช่วงที่มีการปะทะกันรุนแรงในช่วงวันที่ 17-20 พ.ค. โดยวันที่ 17 พ.ค. มีการเคลื่อนขบวนประชาชนจากสนามหลวงไปยังหน้าทำเนียบรัฐบาล ตำรวจและทหารได้สกัดการเคลื่อนขบวน จึงก่อให้เกิดการปะทะกันระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีการบุกเผาสถานีตำรวจ กระทั่งในวันที่ 18 พ.ค. รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพมหานคร และให้ทหารทำหน้าที่รักษาความสงบ แต่ได้นำไปสู่การปะทะกันกับประชาชน มีการใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ชุมนุมในบริเวณถนนราชดำเนินจากนั้นจึงเข้าสลาย และได้ควบคุมตัว พล.ต. จำลอง และยืนยันว่าไม่มีการเสียชีวิตของประชาชน แต่การชุมนุมต่อต้านของประชาชนยังไม่สิ้นสุด เริ่มมีประชาชนออกมาชุมนุมอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพ  จนวันที่ 19 พ.ค. เจ้าหน้าที่เริ่มเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณถนนราชดำเนินกลางได้ และควบคุมตัวประชาชนจำนวนมากขึ้นรถบรรทุกทหารไปควบคุมไว้ จนเหตุการณ์บานปลายรุนแรง

วันพุธที่ 20 พ.ค. 35 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานองคมนตรี และ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรีและรัฐบุรุษ นำพลเอกสุจินดา  และ พลตรี จำลอง เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท โอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชดำรัสแก่คณะผู้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย  หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ พลเอก สุจินดา จึงกราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ มอบหมายให้ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปพลางก่อน

เหตุการณ์ที่ประชาชนเคลื่อนไหวประท้วงดังกล่าวนำไปสู่เหตุการณ์ปราบปรามและปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกับประชาชนผู้ชุมนุม มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

"7 ตุลาวิปโยค" ยุคนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

17 ก.ย. 51 ทายาทการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน รักษาการหัวหน้าพรรค ได้รับการเลือกจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย ต่อจากนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ท่ามกลางกระแสคัดค้านว่าเป็นนอมินี เป็นสายตรง และ การทำงานต่างๆ ยังคงสืบทอดอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เต็มรูปแบบจนทำให้ประชาชน นำโดยกลุ่มพันมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีการชุมนุมคัดค้านรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2548

กระทั่ง วันที่ 7 ต.ค. 2551 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุ่นที่ 2 นำมวลชน ชุมนุมต่อเนื่องหน้ารัฐสภา เพื่อไม่ให้รัฐบาลนายสมชาย แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและ ได้มีการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยตำรวจอ้างว่าใช้เพียงแก๊สน้ำตาแบบยิง แก๊สน้ำตาแบบขว้างและโล่ ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯมีการใช้ ขวดน้ำ และหิน ปะทะกันจนถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 คน และ บาดเจ็บจำนวนกว่า 443 คน 
พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบเหตุการณ์ครั้งนี้และ ต่อมารัฐบาลนายสมชาย ถูกตัดสินคดีจนทำให้พรรคพลังประชาชน ที่นายสมชาย เป็นหัวหน้าพรรคถูกศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินยุบ ทำให้นายสมชาย หมดสภาพโดยทันที แต่เหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่จบสิ้น

"สงกรานต์เลือด"-"พฤษภาเดือด" ยุคนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 51 กลุ่มผู้ต่อต้านคัดค้านที่้ชื่อว่า "กลุ่มคนเสื้อแดง" ได้มีการต่อต้านประท้วงอย่างทันที โดยเริ่มจากการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงและเคลื่อนขบวนมาปักหลักชุมนุมอย่างยืดเยื้อบนถนนรอบทำเนียบรัฐบาล  เรียกร้อง 1. พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ต้องพิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี
 2. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
 3. การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การปรับปรุงใดๆ ให้ดีขึ้นตามหลักสากล ต้องมีการปรึกษาหารือกันระหว่างนักประชาธิปไตยผู้มีประวัติและพฤติกรรมเชิดชูระบอบประชาธิปไตยเป็นที่ประจักษ์
 ซึ่งแกนนำคนเสื้อแดงได้เรียกร้องให้เวลา 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้น จะมีการยกระดับการชุมนุม หลังพ้นกำหนด 24 ชั่วโมงตามที่ได้เรียกร้อง ผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้ทยอยเดินทางชุมนุมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ และปิดกั้นถนนสำคัญหลายสาย เช่น ถนนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

กระทั่งวันที่ 11 เม.ย. 52 มีการบุกเข้าไปในโรงแรมรอยัล คลีฟ บีช รีสอร์ท และขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ได้ทำการปิดถนนตามแยกต่าง ๆ ภายในกรุงเทพมหานคร  ต่อมารัฐบาลได้ประกาศพระราชบัญญัติบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานครและใกล้เคียง หลังจากที่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในระหว่างมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ต่อมาวันที่ 14 เม.ย. 52 กำลังทหารและตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตา กระสุนจริงและกระสุนฝึกหัดเข้าสลายการชุมนุมที่บริเวณแยกดินแดง

จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 70 คนแกนนำประกาศยุติการชุมนุมบนถนนรอบทำเนียบรัฐบาลเพื่อป้องกันการสูญเสียที่จะเพิ่มขึ้นจากการปราบปรามของรัฐบาล จากนั้นแกนนำ 5 คน คือ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายแพทย์เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายสุพร อัตถาวงศ์ได้เข้ามอบตัวต่อ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนับเป็นการยุติเหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าว

กระทั่ง มีการรวมกลุ่มใหม่ของแกนนำรุ่น 2  โดยใช้ฤกษ์พฤษภาทมิฬ 17-20 พ.ค.แต่ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นเพียงการชุมนุมเป็นครั้งครา ต่อมาได้มีการประกาศชุมนุมใหญ่โดยปักหลักที่บริเวณผ่านฟ้าลีลาศ ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.53 และขยายไปตั้งเวทีใหญ่ที่สี่แยกราชประสงค์ แต่รัฐบาลเห็นว่ามีการชุมนุมกันเป็นเวลานาน และ กระทำผิดกฎหมายร้ายแรง เป็นที่มาของการ "ขอคืนพื้นที่" 10 เม.ย.จนเป็นเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ต่อเนื่องมาวันที่ 19 เม.ย. รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ นำกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุม จนแกนนำต้องประกาศสลายการชุมนุม เดินทางไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นครั้งที่ 2

ซึ่งการปฏิบัติการ ระหว่างวันที่ 10 เม.ย. และ 19 พ.ค. ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน กรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) ได้รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นกว่า 80 ราย บาดเจ็บทั้งส้ินกว่า 1.3 พันคน  

ภาวนาและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุการณ์การสูญเสียครั้งที่ผ่านๆ มาจะเป็นบทเรียน อุทาหรณ์สุดท้ายให้กับคนไทยทุกคน (ย้ำว่าทุกคน) ที่จะช่วยไม่ให้ชาติบ้านเมืองติดหล่ม "ประชาธิปไตย" จนเกิดเป็นโศกนาฏกรรมทางการเมือง

http://www.thairath.co.th/content/pol/84859
      บันทึกการเข้า
อ้อย 14
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,055

« ตอบ #2205 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2553, 19:47:25 »

 เหนื่อย ว๊าย....หมดนี่  อภิสิทธิ์ หล่อสุด  รองลงมาก็ สุจินดา..... win ตาสมชาย ไปไกลๆๆ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2206 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2553, 19:56:40 »

ต้องอ่านเอาเองครับ ระหว่าง "ใจล์ อึ้งภากรณ์" กับ "ฟิลิป คันนิ่งแฮม" กรณีการชุมนุมของเสื้อแดงและการสลายการชุมนุม

วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 18:26:06 น.  มติชนออนไลน์
วิวาทะ "ไจล์ อึ้งภากรณ์" กับ "คันนิ่งแฮม" เสื้อแดงต่อสู้เพื่อรากหญ้าหรือทักษิณ กันแน่?

ประเทศไทยก็ถูกจับตามองจากนานาชาติว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเหมือนหรือต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นที่จตุรัสเทียนอันเหมิน ตอนที่มีการปฏิบัติการกับนักศึกษาที่ออกมาประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยจากรัฐบาลจีนหรือไม่ ?


     เมื่อไม่นานมานี้ รายการทีวี   Democracy Now  ได้เชิญ คนไทย และฝรั่ง ที่ติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดมาพูดคุยในรายการ  ในหัวข้อ “การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเรื่องความยากแค้นของคนรากหญ้าอย่างแท้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงฉากหน้าสำหรับอดีตนายกรัฐมนตรี มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลที่โดนขับไล่


    ผู้ร่วมรายการคนแรกคือ   "ไจล์   อึ้งภากรณ์ "    ซึ่งขณะนี้อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ เขาเคยเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ  ก่อนที่จะหลบหนีหลังจากเขียนหนังสือวิพากษ์วิจารณ์การทำรัฐประหารโดยทหารในปี 2006 เขาเป็นผู้ที่สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดง


   อีกคนคือ "ฟิลิป คันนิ่งแฮม" นักเขียนอิสระ ที่มีงานเขียนครอบคลุมพื้นที่เอเชียมากว่า 20 ปี เขาสอนที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัย Doshisha ในประเทศไทย งานเขียนของเขาปรากฏอยู่ในหนังสือพิมพ์ Bangkok Post  


   โดยมี  เอมี่ กู๊ดแมน เป็นผู้ดำเนินรายการ
 
  นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  สิ่งที่กลุ่มคนเสื้อแดงต้องการคือ ประชาธิปไตย เพราะว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาผ่านทางทหาร และที่จริงรัฐบาลนี้เป็นผลพวงมาจากการเกิดรัฐประหารในปี 2006 และคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร ดังนั้นคนเสื้อแดงจึงเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ เรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และแม้ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเข้ามาอยู่ที่ใจกลางของกรุงเทพมหานครถึง 2 เดือนแล้ว แต่พื้นที่ส่วนนั้นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าและโรงแรมหรูหรา แม้กระนั้นรัฐบาลก็ยังเคลื่อนกำลังพลแม่นปืนและหน่วยพิฆาตเข้ามา ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมารัฐบาลฆ่าคนไปแล้ว 67 คน และมีคนเจ็บนับพัน อันที่จริงตอนนี้มันถึงเวลาที่รัฐบาลต้องสั่งให้หยุดยิงทันที และเข้ามาเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดง
 

เอมี่ กู๊ดแมน : ไจล์  ก่อนหน้านี้ คนเสื้อแดงเสนอการเจรจาแล้วรัฐบาลปฏิเสธ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :   พวกกลุ่มคนเสื้อแดงเสนอที่จะเจรจากับรัฐบาลอีกครั้ง ฝ่ายรัฐบาลต้องการจะเอาชนะและรักษาอำนาจโดยการใช้กำลัง   คุณต้องตระหนักว่ารัฐบาลชุดนี้สั่งให้มีการเซ็นเซอร์ทีแย่ที่สุดที่เคยมีมาในประเทศไทย มีการเซ็นเซอร์ทางอินเตอร์เน็ต สื่อต่างๆในทุกรูปแบบ รัฐบาลแทรกแซงแม้แต่ทางเฟซบุ๊ค และทางด้านอื่นๆอีก  คุณจะเห็นว่าสิ่งที่ทำให้รัฐบาลยังคงมีอำนาจอยู่ก็มี 2 อย่าง คือการสั่งเซ็นเซอร์และกองกำลังที่โหดเหี้ยม พวกเขาไม่พร้อมที่จะให้โอกาสประชาชนตัดสินใจว่าต้องการจะให้ใครเข้ามาบริหารประเทศ โดยวิธีการอย่างไร
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  ฟิลิป คันนิ่งแฮม คุณเคยอยู่ในญี่ปุ่น ตอนนี้อยู่ที่ เมืองอิตาคา นิวยอร์ก  จากที่คุณเฝ้าดูสถานการณ์ คุณคิดว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นที่ประเทศไทย
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน :   ผมขออ้างบทกวีที่มีชื่อเสียงของ Gil Scott-Heron ที่ว่า “หากมีการปฏิวัติก็จะไม่มีการออกอากาศทางโทรทัศน์”  นี่มีการออกโทรทัศน์ ซึ่งมันก็ไม่ใช่การปฏิวัติ สิ่งที่ทุกคนเห็นเกิดขึ้นที่เมืองไทยเป็นการปฏิวัติปลอมๆ ที่ถูกกวนให้คุกรุ่นขึ้นมาโดยมหาเศรษฐีนักธุรกิจที่ร่ำรวยและมากอิทธิพลที่ต้องระเห็ดออกไปนอกประเทศที่คุณกำลังพูดถึง มันมีความคับข้องใจอยู่จริง มีคนยากจนอยู่จริงๆ มีข้อผิดพลาด และความอ่อนไหวแฝงอยู่ที่ง่ายมากที่จะยั่วยุ มันคงจะเหมือนกับมหาเศรษฐีในตระกูลร๊อกกี้เฟลเลอร์เข้าไปสนับสนุนทางการเงินให้เกิดความวุ่นวายในสลัม หากพวกเขาถูกจับและถูกเนรเทศ หรืออะไรทำนองนี้แหละครับ ผมหมายความว่า มันเป็นสถานการณ์ที่แปลกมาก และเป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้ามากๆก็ตาม ผู้คนกำลังจะตาย พวกเขาตายเพื่อมหาเศรษฐีที่เปี่ยมอิทธิพล ฟังดูไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย


ถ้าหากว่าประเทศไทยต้องการประชาธิปไตยหรือระบอบสังคมนิยม ซึ่งคุณไจล์ ต่อสู้มาเป็นเวลานาน ผมก็พอจะรับได้ว่ามันมีเหตุผลพอ แต่นั่นต้องเป็นการต่อสู้แบบสันติ แต่นี่กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ใช่กลุ่มคนที่สันติ
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  เชิญคุณไจล์ค่ะ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  มันเหลวไหลที่พูดว่าคนเสื้อแดงไม่ใช่เป็นคนที่รักสันติ อันที่จริงพวกเขาเป็นคนที่มีวินัยมากๆ และพยายามที่จะรักษาให้เป็นการชุมนุมประท้วงที่สันติ ต่อหน้าของรัฐบาล และรัฐบาลต่างหากที่นำทหารติดอาวุธและรถถังออกมาบนถนน รัฐบาลไหนๆก็ตามที่พยายามที่จะสลายการชุมนุมที่สันตินี้โดยการใช้อาวุธ รถถังและปืน แล้วก็ฆ่าคนไป 65 คน นี่ต้องประณามว่ามันผิด
 

ผมคิดว่าฟิลิปได้รับข้อมูลที่ผิดๆเกี่ยวกับคนเสื้อแดง ผมหมายความว่า .. คุณทักษิณ ชินวัตร คนที่ผมไม่ได้สนับสนุนและไม่เคยลงคะแนนให้ รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดว่าเขาละเมิดสิทธิมนุษยชน … คุณทักษิณมาจัดตั้งกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้หรอกครับ กลุ่มคนเสื้อแดงจัดตั้งโดยอดีตพรรคการเมือง คือพรรคไทยรักไทย จนวิวัฒนาการมาเป็นกลุ่มการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนรากหญ้า พวกเขาเก็บเงินกันเอง พวกเขาจัดตั้งสถานีวิทยุชุมชน พวกเขาประกอบด้วยหลายๆกลุ่มจากที่ต่างๆ หากคุณไปในบริเวณการชุมนุมของคนเสื้อแดง คุณจะเห็นป้ายของกลุ่มต่างๆชูอยู่สลอนเต็มไปหมด คุณจะได้ยินการขอเรี่ยไรเงินบนเวทีชุมนุมตามกำลังศรัทธา พวกเขาไม่ได้มาตายเพื่อคุณทักษิณ ชินวัตร พวกเขาไม่ชาวไร่ชาวนาที่โง่เง่า ไม่รู้เรื่องรู้ราว หรือไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่ความจริงพวกเขาเป็นชาวไร่ชาวนาและคนงานจากชานเมืองที่มีข้อมูลพร้อม พวกเขาโกรธที่สิทธิของเขาตามระบอบประชาธิปไตยถูกปล้น และนั่นมันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในกระจายความมั่งคั่งในประเทศไทย
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ผมขอพูดอะไรหน่อยได้ไม๊ ผมคิดว่าสิ่งที่คุณไจล์กับผมเห็นพ้องต้องกันก็คือ มันไม่ถูกต้องที่จะใช้กองทหารมาหยุดยั้งประชาชน มันไม่เข้าท่าที่จะใช้กองทหารเป็นเครื่องมือ มันบ้า มันรุนแรงและไม่ถูกต้อง ผมเห็นด้วยกับคุณไจล์ว่าทหารไม่ควรที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
 

ผมกับคุณไจล์เคยอาศัยอยู่บนถนนเดียวกันในกรุงเทพ เราสอนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เรามีความคิดเห็นแตกต่างกันในเรื่องของคนเสื้อแดง ผมเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นประกอบด้วยคนหัวรุนแรง ผมเชื่อว่าความยากจนนั้นมีอยู่จริง ความต้องการที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายระบบในเมืองไทยนั้นมีอยู่ สามารถสัมผัสได้ในอณูของบรรยากาศรอบๆตัว แต่มันไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดง


   .. ผมนั่งฟังพวกเขาทุกวัน ดูการออกอากาศทางโทรทัศน์ของพวกเขาอย่างใกล้ชิดในช่วงที่ผมศึกษาเรื่องนี้ พวกเขาดูถูกคนต่างชาติ เขาดูถูกเกย์ พวกเขาเกี่ยวข้องกับการโฆษณาที่น่าขัน เช่น hominem attack    เขาเล่นกับฝูงชน มันเหมือนกับประสานกับคุณทักษิณ เหมือนๆกับมุสโสลินีหรืออะไรทำนองนั้น บางคนเปรียบเทียบคุณทักษิณกับ Berloscerni แต่ผมว่าเหมือนมุสโสลินีมากกว่า พวกเขาร้องเพลงสรรเสริญคุณทักษิณ มันเหมือนระบอบฟาสซิสต์ที่น่าละอาย   เพราะคนเหล่านี้ไฮแจ๊ค เหล่าคนยากคนจนให้มาร่วมสังฆกรรม ไฮแจ๊คความคับข้องใจของคนจนมารับใช้มหาเศรษฐีพลัดถิ่น เพียงเพื่อเศรษฐีคนนั้นจะได้กลับมาประเทศไทย และรับเงินของเขาคืน
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  เชิญคุณไจล์ ค่ะ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ผมคิดว่า คุณฟิลิป คันนิ่งแฮมไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ระบอบฟาสซิสต์ดีพอ มันง่ายมากที่จะเฉไฉออกนอกทาง ฟาสซิสต์ไม่เรียกร้องประชาธิปไตย และไม่มีความเห็นที่แตกต่าง อาจจะใช่ที่คนเสื้อแดงบางคนอาจจะหยาบกระด้างอยู่บ้างขวางโลก บางคนอาจจะต่อต้านเกย์ และหลายคนอาจจะพูดในทำนองต่อต้านคนต่างชาติ แต่คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่ทำอย่างนั้น คนเสื้อแดงส่วนใหญ่พยายามที่จะให้ความเห็นที่แตกต่าง พวกเขาไม่ใช่กลุ่มที่ติดอาวุธ พวกฟาสซิสเป็นพวกชนชั้นกลางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย หรือกลุ่มคนเสื้อเหลืองต่างหาก ที่ไม่ต้องการให้เกิดสิทธิของคนยากจนตามวิถีทางของประชาธิปไตย และอื่นๆ ผมคิดว่านี่มันเป็นการให้ร้ายสำหรับคนเสื้อแดงที่เกินเลยไปแล้ว
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ไจล์ ทำไมคุณจึงซื่ออย่างนี้ ผมไม่อยากจะเชื่อเลย
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นคะ
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ผมคิดว่าคุณไจล์รู้ดีอยู่แล้ว หากคุณไจล์ฟังคำปราศรัยอย่างที่ผมฟัง มันไร้สาระจริงๆ ผมรู้ว่ามีคนเสื้อแดงที่พูดโน้มน้าวจิตใจคนได้เก่งๆ มีคนที่จัดฉากเก่ง แต่มันมีเงินจากสถานีโทรทัศน์จากคนของทักษิณ พวกเขาจัดฉาก พวกเขาจัดให้มีเหตุการณ์ประท้วงปลอมๆ การปฏิวัติปลอม มันไม่ใช่ของจริง .. ผมอยู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989 ผมรู้ว่าของจริงน่ะมันเป็นยังไง ผมรู้ว่าการลุกขึ้นต่อสู้จริงๆมันมีลักษณะอย่างไร แต่นี่มันไม่ใช่


สิ่งที่เกิดขึ้น .. และผมยอมรับว่ามันใช่ -- ผมรู้ว่ามันเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ให้รู้ว่ามีการลุกฮือขึ้นต่อสู้แล้ว และประเทศไทยจะอยู่ในสภาวะที่เปราะบาง สถานการณ์มันอ่อนไหว มันเหมือนทุกอย่างจะล่มสลาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ และนี่อันตรายมาก ผมไม่อยากจะเห็นว่าประเทศไทยล่มลายกลายเป็นแบบฟาสซิสต์ …
 

มีการพิสูจน์ออกมาแล้วว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นกลุ่มที่ติดอาวุธ พวกเขายิงเข้าใส่ทหารด้วยอาวุธต่างๆ ตั้งแต่หนังสติ๊กกับลูกแก้ว ระเบิดขวด ระเบิดเพลิง คนเสื้อแดงมีปืน ปืนสั้น นี่มันไม่ใช่การเคลื่อนไหวอย่างสันติอหิงสา เด็กนักศึกษาที่จตุรัสเทียนอันเหมินไม่เคยทำเช่นนั้น มันไม่มีความรุนแรง มันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย .. การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงได้รับการหนุนหลังจากมหาเศรษฐีที่มีอิทธิพล ผมยอมรับไม่ได้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณไจล์จึงสนับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  คุณไม่เข้าใจ ผมรู้ เพราะว่าคุณไม่ได้เตรียมตัวที่จะมายอมรับในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น คุณเพียงแต่ติดตามข่าวจากอินเตอร์เน็ตและดูทีวีอยู่ที่นั่น ผมอยู่ร่วมในการเคลื่อนไหวประท้วงที่กรุงเทพ ผมมีเพื่อนๆที่ร่วมเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง และจากการวิเคราะห์ของคุณคันนิ่งแฮมที่ว่าคนยากจนถูกไฮแจ๊คมาเพื่อคุณทักษิณนั้น มันเป็นการดูถูกคนเสื้อแดงแท้ๆนับล้านๆคน นี่มันเป็นเรื่องเก่าๆแบบเดียวกับที่พวกนักวิชาการเชื่อว่าคนไทยธรรมดาๆคิดด้วยตัวเองไม่เป็น จัดตั้งสิ่งต่างๆด้วยตัวเองไม่เป็น …
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน :  ไจล์   ผมรับไม่ได้นะ มันเป็นการหลอกลวงที่ไม่ยุติธรรมเลย
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  มันใช่ ..
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : หากใครบางคนไม่เห็นด้วยกับคุณ มันไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น .
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊ ฟิลิป? ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊?
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : เชิญ
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  นี่มันเป็นแนวความคิดเดียวกับคนชั้นกลางในเมืองไทยที่มีต่อคนเสื้อแดง และด้วยการแก้ตัวแบบนี้ทำให้พวกเขาไม่เชื่อในระบอบประชาธิปไตย และเป็นเหตุผลที่เขาสนับสนุนเรื่องการรัฐประหาร เพราะเขาพูดว่าคนเสื้อแดงทุกคนถูกคุณทักษิณซื้อ และถูกปั่นหัวโดยทักษิณให้ลงคะแนนให้ ..
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : คุณจะยอมรับไม๊ล่ะว่า คนเสื้อแดงบางคนถูกซื้อ และบางคนไม่ แต่ยอมรับไม๊ว่าบางคนถูกซื้อจริงๆ


นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊ ฟิลิป   ให้ผมพูดให้จบก่อนได้ไม๊  


เอมี่ กู๊ดแมน :  ไจล์ คำถามนั้น มีบางคนถูกซื้อหรือไม่
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  คนเสื้อแดงไม่ได้ถูกซื้อแน่นอน คุณทักษิณไม่ต้องซื้อใคร เพราะแม้ว่ารัฐบาลของคุณทักษิณได้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่น่ากลัว แต่คุณทักษิณก็เป็นคนที่นำระบบสุขภาพถ้วนหน้ามาใช้ ซึ่งเป็นระบบที่ดีกว่าที่อมริกาเสียอีก ในแง่ของการดูแลสุขภาพและการรักษาที่คนยากจนได้รับ รัฐบาลคุณทักษิณสร้างงานให้คนยากคนจน โดยไม่จำเป็นที่จะต้องหยิบยื่นเงินทองมาให้ หากสิ่งที่รัฐบาลสัญญาแล้วสามารถทำให้มันเกิดขึ้นจริงๆ ผู้คนลงคะแนนให้กับสิ่งที่เขาต้องการ และมันเป็นการดูถูกอย่างยิ่งที่คนไทยถูกตราหน้าว่าได้รับการพิสูจน์ว่าถูกตบตาและซื้อโดยคุณทักษิณ
ประเด็นก็คือ ทำไมมหาเศรษฐีที่ทรงอิทธิพลอย่างคุณทักษิณจึงชนะใจของคนยากจนอย่างท่วมท้น คำตอบอยู่ที่สุญญากาศของการไม่มีพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายในประเทศไทย คุณรู้ไม๊นับตั้งแต่พรรคคอมมูนิสต์พังทลาย และคุณทักษิณสามารถที่จะ
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ไจล์ นี่เป็นจุดอ่อนของการวิเคราะห์ของคุณ ผมรู้ว่าคุณเอียงซ้ายมานาน เราเคยไปที่ …
 

นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  เสียใจ หากคุณไม่สามารถให้ผมพูดให้จบเสียก่อน
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : คุณรู้ไม๊ อนุสาวรีย์ของคนเดือนตุลา …
 

เอมี่ กู๊ดแมน :  ขอให้คุณ ฟิลิป คันนิ่งแฮม พูดให้จบก่อนค่ะ เชิญค่ะ คุณ ฟิลิป คันนิ่งแฮม

 
ฟิลิป คันนิ่งแฮน : คุณรู้มี ไอเดียที่ว่า .. ผมรู้สึกว่าคุณกระเหี้ยนกระหือรือที่จะให้พวกเอียงซ้ายทำอะไรบางอย่างที่คุณมองว่าเป็นเป็นการเริ่มต้นที่ผิด .. และคุณผิดพลาดที่คิดว่ามันเป็นเรื่องจริง นี่เป็นการเริ่มต้นที่ผิด มันไม่ใช่ของจริง


นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ขอโทษ คุณไม่ได้ฟัง คุณพูดแซงขึ้นมาและไม่ได้ฟังผมพูด คุณมีภาพฝันในหัวของคุณว่าผมเชื่อในเรื่องอะไรบางอย่าง และคุณก็เริ่มต้นที่จะเถียงกับคนไร้ค่า ผมพูดว่าคุณทักษิณสามารถแบ่งแยกสังคมไทย ระหว่างคนรวยกับคนจน เพราะว่าไม่มีพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมหาเศรษฐีที่ทรง
อิทธิพลอย่างคุณทักษิณสามารถกุมหัวใจของคนยากคนจนได้
 

ฟิลิป คันนิ่งแฮน : นั่นเป็นเรื่องที่น่าเศร้า ใช่ไม๊?

 
   ในที่สุดทั้ง 2 คนสรุปว่า
นายไจล์ อึ้งภากรณ์ :  ผมคิดว่าวิธีที่จะหยุดวิกฤติการณ์ก็คือ รัฐบาลควรจะสั่งให้หยุดยิงทันที และจัดให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมตามวิถีทางของประชาธิปไตย


ฟิลิป คันนิ่งแฮน : ผมคิดว่าทหารควรจะถอนตัวออกไป ผมคิดว่ามันน่ากลัวมากในสิ่งที่ทหารกำลังทำอยู่ ผมต่อต้านสิ่งนี้เต็มที่ แต่ผมไม่สามารถจะบอกว่ากลุ่มคนเสื้อแดงเป็นประชาธิปไตยหรือพวกหัวเอียงขวา    พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเช่นกัน และผมคิดว่าเป็นเรื่องของตำรวจที่จะต้องจับกุมและดำเนินการ

 

(ต้นฉบับภาษาอังกฤษ)


 Debating the crisis in Thailand on Democracy now:Is Red Shirt Movement a Genuine Grassroots Struggle, or Front for Ousted Ex-PM, Billionaire Tycoon?
Guests;


Giles Ji Ungpakorn, Thai dissident living in exile in Britain. He was a university lecturer in Thailand before having to flee after writing a book criticizing the 2006 military coup. He is a Red Shirt supporter.
 

Philip Cunningham, freelance journalist who has covered Asia for over twenty years. He has taught at Chulalongkorn University and Doshisha University in Thailand. His writings frequently appear in the Bangkok Post.
 

GILES JI UNGPAKORN: what the Red Shirts want is democracy, because the present government was installed by the military, and it’s actually the fruit of a military coup in 2006 and various judicial coups. So, demanding fresh elections, demanding proper democratic elections is perfectly legitimate. And even though they have been occupying the center of Bangkok for two months, it’s only a shopping center and a site for luxury hotels, yet the government has deployed snipers and assassination squads. And since the beginning of April, they’ve actually been responsible for sixty-seven deaths and thousands of injuries. And really, the time has come for the government to order an immediate ceasefire and for them to enter into genuine talks with the Red Shirts.
 

AMY GOODMAN: And what about the latest developments, Ji, the offer of the Red Shirts to participate and the government saying no?
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, the Red Shirts have made repeated offers to negotiate with the government, and the government really wants to shoot its way to a victory and to stay in power through the use of force.


You also have to realize that this government has brought about the worst censorship ever in Thailand. It censors all the internet, the media, in all shape and form. They even attack Facebook and everything else.


So the two things that they’re using to stay in power are censorship and brutal force. And they’re not prepared to actually offer the chance of the people to actually make a decision about who should run the country and in what way.


AMY GOODMAN: Philip Cunningham, I had said you’re in Japan; you’re now in Ithaca, New York. But can you give your observations on what’s happening in Thailand right now?
 

PHILIP CUNNINGHAM: Yes. You know, as a poet Gil Scott-Heron said, he famously said that "the revolution will not be televised." And it’s being televised, but it’s not a revolution. What we see in Thailand, I think, is a sham revolution, and I think it’s something stirred up primarily by the billionaire tycoon in exile, who you mentioned. There are real grievances. There are real poor people. There are fault lines, and in sensitive areas in Thailand, which are very easy to provoke. It would sort of be like Rockefeller funding riots in the ghettos, if he had somehow been arrested and sent into exile or something like that. I mean, it’s a really strange situation. It’s a hugely tragic situation. The people are dying. They’re dying for a billionaire tycoon in exile. It doesn’t make sense.

Does Thailand need democracy, the kind of socialism that Ji has been working for? Yes, I think that would be fine. But it has to be peaceful, and the Red Shirts are not peaceful.
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, it’s nonsense to say that the Red Shirts aren’t peaceful. They’ve actually been very, very disciplined and try to maintain a peaceful demonstration in the face of the government, which actually brings armed soldiers and tanks onto the streets. Any government that tries to disperse a peaceful demonstration using armed tanks, guns, and so on, and kills sixty-five people, I think needs to be condemned.

But I’m afraid Philip is misinformed about the Red Shirts. I mean, Thaksin Shinawatra—and I’m no supporter of him; I never voted for him and have always criticized his abuse of human rights—Thaksin Shinawatra was incapable of organizing the Red Shirts. The Red Shirts were organized by former leaders of Thai Rak Thai, and they developed into a grassroots movement. They collect money in their own communities. They run community radio stations. They have different groups. If you go to any Red Shirt protest, you can see the signs up of the different groups, and you can hear people making donations on the stage and so on. And they’re not dying for Thaksin Shinawatra. They’re not stupid peasants, ignorant peasants who don’t know what they’re doing. They’re actually very well-informed small farmers and urban workers who are incensed by the fact that their democratic rights have been robbed and that this is part of the system that allows such inequality of wealth in Thailand.
 

PHILIP CUNNINGHAM: I think one thing Ji and I absolutely agree on is that it’s never right to use an army to suppress the people. I think it’s an extremely blunt instrument. It’s crazy. It’s bloody. It’s violent. And that’s wrong. And I completely agree with Ji that the army should not be involved in this.
 

However, Ji and I used to live on the same street in Bangkok. We taught at the same university. But we really disagree on our analysis of the Red Shirts. I believe the Red Shirts are a fascist movement. I believe the poverty is real. The need, the hunger, for a systemic change, a kind of change in Thailand, is there. It’s in the air. But there is nothing about the Red Shirts—I listen to them every day. I monitor their broadcasts. I’m doing a media study of that. And they insult foreigners. They insult gays. They engage in ridiculous ad hominem attacks. They are playing to the crowd. It’s kind of like a cross between—with Thaksin. And they sing songs in dedication to Thaksin. I mean, it’s sort of like, you know, Mussolini or something like that. Some people compare Thaksin to Berlusconi. I think it’s a little more like Mussolini. They sing for Thaksin. It is fascism, and it is a shame, because these people are hijacking the poor people, hijacking the genuine grievances of the poor, to serve a billionaire in exile so he can get back to Thailand and get his money back.
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, I don’t think that Philip Cunningham really understands the definition of "fascism." It’s easy to bandy it about. Fascists don’t demand democracy. Fascists don’t have differences of opinion. Yes, there are elements of the Red Shirts who are rough and ready, and some of them are anti-gay, and some of them talk in terms of being anti-foreign, but the majority don’t do that. The majority actually try to give differences of opinion. And this is not an armed group. The fascists are the middle-class peoples who aren’t for democracy, the Yellow Shirts. They are the people who want an end to democratic rights for the poor and so on. And I think that’s just a really outrageous slander on the Red Shirts.
 

PHILIP CUNNINGHAM: Well, Ji, you’re so naive. I just can’t believe it.

 
AMY GOODMAN: Why are you saying that?


PHILIP CUNNINGHAM: Well, I think Ji knows very well that the—you know, if he listens to the speeches—I mean, Ji could listen to the speeches as well as I do. It’s nonsense. There is good rhetoric. There’s good drama. This is money from a TV station from Thaksin’s media people. They’ve put together a media show. They’ve put together a sham

demonstration, a sham revolution. It’s not the real thing. I was in a Tiananmen in ′89. I know what these things look like. I know what a spontaneous uprising looks like. This is not a spontaneous uprising.
 

What has happened—and I will acknowledge this—is that you′ve kind of had a chain reaction. You have some real spontaneous uprising now. Thailand is in a very brittle state. It’s very delicate. It’s at the kind of end of an era. And anything could happen, and this could be extremely dangerous. I just don’t want to see Thailand go down a fascist road.

And the Red Shirts have proven to be armed. They’re shooting at soldiers with slingshots, Molotov cocktails. There are people with guns, pistols. It is not a peaceful movement. The students in Tiananmen Square never did that. There was no violence. There’s no comparison to this. This is a bankrupt tycoon-backed Red Shirt movement. I just can’t accept—I just can’t understand why Ji supports it.
 

GILES JI UNGPAKORN: Well, you can’t understand, I know, because you’re not prepared to accept what’s going on. I follow the reports on the internet. I’m watching the TV there. I’ve been on Red Shirt demonstrations in Bangkok. I have friends who are in the Red Shirt movement. And the fact is that Philip’s analysis, you know, that it’s all being run by Thaksin and the movement is being hijacked, is an insult to the millions of Thais who are genuine Red Shirts. It’s the same old story from the academics, who believe that ordinary Thai people can’t think for themselves, can’t organize themselves—

PHILIP CUNNINGHAM: Ji, that’s just—that’s—I cannot accept that. That is a very unfair sleight.
 

GILES JI UNGPAKORN: It’s just that—
 

PHILIP CUNNINGHAM: Just because someone disagrees with you doesn’t mean they don’t understand [inaudible]—


GILES JI UNGPAKORN: How about letting me finish, Philip? How about letting me finish?
 

PHILIP CUNNINGHAM: Go ahead.
 

GILES JI UNGPAKORN: It’s the same kind of attitude that the middle class in Thailand have towards the Red Shirts, and it’s their justification for why they don’t believe in democracy and why they supported a coup d’?tat, because they said, you know, the Red Shirts have all been bought by Thaksin and they’re being manipulated by him into voting for him—
 

PHILIP CUNNINGHAM: Would you acknowledge that some of them have been bought, and a lot of them are not, but would you acknowledge that some of them have been bought?
 

GILES JI UNGPAKORN: How about letting me finish, Philip? How about letting me finish?


AMY GOODMAN: That question, Ji—that question, Ji, of whether some of them have been bought, bought off?
 

GILES JI UNGPAKORN: No, they haven’t, actually. You don’t need to buy people off, because the government, Thaksin’s government, horrendous though it was in terms of human rights abuses, actually brought in a universal healthcare system. It’s actually better than the healthcare system in the United States, in terms of what the poor get. They had pro-poor policies to create jobs. They don’t need to hand people money if the government actually offers and then delivers on that. People actually vote for what they want. And it’s actually very, very insulting to the Thai population to claim that they’ve been hoodwinked and bought by Thaksin.

Now, the issue is, really, is how come a tycoon like Thaksin can win the hearts and minds of the poor? And the answer is that this shows that there was a vacuum on the left in Thailand, you know, ever since the Communist Party collapsed, and Thaksin was able to work—
 

PHILIP CUNNINGHAM: Ji, this is the weakness of your analysis. I know you’ve been on the left for a long time. We went to the—
 

GILES JI UNGPAKORN: Sorry, if you could just let me finish—
 

PHILIP CUNNINGHAM: —you know, the stonecutter that was making the monument for October—
 

AMY GOODMAN: Let Philip Cunningham make a statement. Go ahead, Philip Cunningham.


PHILIP CUNNINGHAM: And, you know, this idea that—I just feel like you’re so hungry for the left to do something that you’re seeing a false dawn, and you’re mistaking it for the real thing. This is a false dawn; this is not the real thing.
 

GILES JI UNGPAKORN: Sorry, but you’re not listening. You’re speaking over me. You’re not listening to what I say. You’ve got some dream in your head about what I believe in, and you’re starting to argue with a straw man. I’m saying that Thaksin can—was able to exploit the divisions within Thai society between the rich and the poor because the left didn’t exist. And that’s how come a tycoon like Thaksin can win the hearts and minds of the poor.  


PHILIP CUNNINGHAM: That’s a sad statement, isn’t it?

 

Both end up with:
GILES JI UNGPAKORN: Well, I think the way to end the present crisis is that the government should order an immediate ceasefire and that there should be proper, genuine democratic elections.


PHILIP CUNNINGHAM: OK, I think the army should leave also. I think it’s absolutely horrendous what the army is doing. I’m totally against that. But I cannot say that the Red Shirts are democratic or in the right. They are also a problem. And I think it’s a police problem. They have to be arrested and taken care of.

 


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274700394&grpid=01&catid=00
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2207 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2553, 22:59:14 »

ท่าน เถกิง เจริญศิริ เป็นคุณอา หรือคุณพ่อน้องมนตรีคะ


อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 24 พฤษภาคม 2553, 11:00:07
ศาลากลาง จ. อุบลฯ ที่ทำงานเก่า ของ คุณ เถกิง  สิงห์ดำ รุ่น 3 


      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2208 เมื่อ: 24 พฤษภาคม 2553, 23:04:11 »

หากต้องส้ง ที่ โรงพยาบาล คนบ้า ร.พ รักษาโรคจิต ชื่อสวนสราญรมย์ ที่สุราษฎร์ เขาเรียกว่าไปหลังคาเเดง


อ้างถึง
ข้อความของ Intania๑๖ เมื่อ 24 พฤษภาคม 2553, 15:16:06
พี่แอ๊ะครับ ถ้ารู้จักเขียนอะไรติดหน้าร้านสักนิดแบบนี้ เช่นดังภาพ ก็จะไม่โดนทำลาย
ถ้าอนาคตจะมีอีก เอาภาพเช็ดหน้าสีแดง ติดรถไว้สักผืน ก็จะไม่โดนตรวจค้น

นี่คือบ้านป่าเมืองเถื่อน อีกนานสักเท่าไหร่ครับ เราจะมีประชาธิปไตยที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ
เป็นนิติรัฐที่แท้จริง ไม่มีคอร์รัปชั่น เก็บภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย คนรวยคนมั่งมี รู้จักบริจาคให้คืนกับสังคม
พัฒนาการศึกษาให้กับเยาวชน และชนบทให้ดีขึ้น
ไม่สร้างความฟุ้งเฟ้อทางด้านวัตถุหรือเทคโนโลยี่ ที่รู้จักซื้อมาจากต่างประเทศ แต่ผลิตหรือพัฒนาไม่เป็น
อย่าบ้า Ipod Iphone Ipad I-ba อยู่เลย 


      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2209 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 08:48:59 »

ประเทสไทยเกิดเรื่อง เพื่อนบ้านซ้ำเติม...ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร ?? แต่คนไทยเสื้อแดงไม่คิด

อ่านคอลัมม์ "ท่านขุนน้อย" ของวันนี้ (อังคารที่ 25 พฤษภาคม 2553)

ฝรั่งเวียดนาม!!!
ท่านขุนน้อย 25 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งอเมริกา ฝรั่งยุโรป หรือฝรั่งออสเตรเลีย ฯลฯ ที่ออกมาแสดงปฏิกิริยาต่อสถานการณ์การเมืองไทยในช่วงระยะที่ผ่านมา  คงพอสรุปได้ว่า...ไม่ถึงกับต้องไปวิตก กังวล อะไรมากมายนัก เพราะโดยสไตล์ของบรรดาฝรั่งเหล่านี้ ก็คงต้องออกมาในแนวประมาณนี้นั่นแหละ หนักบ้าง เบาบ้าง ไปตามทัศนะ วิธีคิด ตามระดับความเข้าใจ ของใคร-ของมัน...แต่ที่น่าฉุกใจ และน่าตั้งข้อสังเกตเอาไว้ให้มากๆ เห็นทีจะไม่มีอะไรเกินไปกว่า ฝรั่งเวียดนาม เพื่อนบ้านผู้อยู่ใกล้ชิดติดพันกับประเทศไทยของเรานี่เอง....
            ---------------------------------------------
     อันที่จริง...นับตั้งแต่ช่วงต้นๆ  ที่บรรดาพวกเสื้อแดงได้แสดงอาการกระเหี้ยน กระหือรือ มุ่งที่จะทำร้ายประเทศตัวเองกันอย่างเป็นระบบ ปฏิกิริยาที่ปรากฏในสังคมเวียดนามต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศไทย...ก็ออกจะดูแปลกๆ แปร่งๆ อย่างเห็นได้โดยชัดเจน โดยเฉพาะปฏิกิริยาที่ถูกสะท้อนออกมาจากสื่อมวลชนเวียดนาม ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ หรือ อยู่ภายใต้การชี้นำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ที่ทำให้สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก พร้อมที่จะให้ข้อสรุปไปในแนวทางเดียวกัน ดังที่หน้าต่างประเทศหนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ ได้นำมารายงานเอาไว้ว่า สื่อฯ ในเวียดนามยอมรับว่า ได้รับคำชี้นำจากทางการคอมมิวนิสต์ ให้พยายามโหมประโคมข่าวการชุมนุมประท้วงของคนเสื้อแดง เพื่อสร้างข้อเปรียบเทียบให้เห็นว่า เวียดนามมีระบบการเมืองที่มั่นคง และมีความสงบกว่าประเทศไทย เหมาะสำหรับเป็นแหล่งลงทุนมากกว่าประเทศไทย...
         --------------------------------------------------
     ตามรายงานข่าวในหน้าต่างประเทศ ผู้จัดการ นอกจากจะนำเอาคำยืนยันของนักหนังสือพิมพ์เวียดนามที่ระบุว่าทางการ หรือพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้พยายามชี้นำสื่อฯ ของรัฐ ให้พยายามหยิบเอาข่าวคราวความฉิบหายของประเทศไทย มาใช้ให้เป็นประโยชน์สำหรับประเทศเวียดนามแล้ว  ยังได้ตีพิมพ์คำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ทางการเวียดนาม อย่างนาย ฝั่ง เจียน ขู หรือ ฟาม เชียน คู (Pham Chien Khu) แห่งสถาบันวิจัยเพื่อมติสังคม (Research Institute for Social Opinion) ที่สรุปถึงการนำเอาวิกฤติในประเทศไทยมาพลิกให้เป็นโอกาสสำหรับประเทศเวียดนาม ได้อย่างชนิดเขี้ยวลากดิน ปีกงอก แถมพ่นไฟได้ด้วย ดังที่ระบุเอาไว้ว่า... มันคงเป็นสิ่งที่ถูกต้องโดยตรรกะอยู่แล้วว่า ถ้าหากนักลงทุนต่างชาติมองเห็นว่า เวียดนามมีระบบการเมืองที่มั่นคงกว่า เขาเหล่านั้นย่อมเกิดแรงจูงที่จะย้ายฐานการลงทุนจากไทยไปยังเวียดนาม...
        -----------------------------------------------------
     อย่างไรก็ตาม...เป็นที่ทราบๆ  กันมาโดยตลอดว่า ความพยายามแข่งขัน ช่วงชิงโอกาส ของประเทศเวียดนามต่อประเทศไทยนั้น ไม่ใช่เพิ่งจะมาปรากฏแค่ในช่วงระยะนี้ หรือในช่วงวิกฤตการณ์คราวนี้เท่านั้น เพราะแม้แต่วิกฤตการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ก็เป็นที่พิสูจน์ชัดแล้วว่า ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากวิกฤติเหล่านี้แบบเต็มๆ ก็คือเวียดนามนั่นเอง!!! โดยไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งวิเคราะห์อะไรให้ลึกซึ้งมากมายเกินไป แค่มองดูตัวเลขสินค้าเวียดนามในกัมพูชาที่พุ่งปรู๊ดๆ ปร๊าดๆ แทบจะแซงหน้าสินค้าไทยซึ่งลดลงไปแบบฮวบๆ ฮาบๆ หลังจากที่อดีตหุ่นเชิดเวียดนาม อย่างนายกรัฐมนตรี ฮวยเซ็ง ท่านได้ออกมาประเคนแข้งเข้าใส่ประเทศไทยชนิดดอกต่อดอก ก็พอใช้เป็นข้อสรุปได้ไม่ยาก...
       -------------------------------------------------------
     แต่ก็นั่นแหละ...ถ้าหากมันเป็นเพียงแค่การตอดนิด ตอดหน่อย หรือ การช่วงชิงจังหวะ โอกาส ไปตามสภาวะการแข่งขันโดยเสรี คงไม่ถึงกับต้องไปถือสาหาความอะไรมากมาย ในฐานะเพื่อนบ้านใกล้เคียงกัน ในฐานะพี่ๆ น้องๆ ที่น่าจะมีสายเลือดเดียวกันด้วยซ้ำ ต้องเรียกว่า...ขอกันกินยังมากกว่านี้!!! แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สิ่งที่มันออกจะขัดหู ขัดตา และอาจก่อให้เกิดความรู้สึกแตกต่างไปจากความเป็นพี่ๆ น้องๆ ก็ดันปรากฏขึ้นมา จนทำให้ใครต่อใครในประเทศไทย ชักจะเสียความรู้สึกต่อเวียดนามอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ นั่นก็คือ กรณีที่ประเทศเวียดนามในฐานะประธานอาเซียน ได้ตัดสินใจออกแถลงการณ์เรียกร้องสันติภาพ และเสถียรภาพในประเทศไทย อันถือได้ว่าเป็นแถลงการณ์ที่แสดงออกถึงความพยายามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของประเทศสมาชิกอาเซียน ชนิดที่แทบไม่เคยมีการปฏิบัติกันมาก่อน...
      --------------------------------------------------------
     ด้วยเหตุนี้...จึงไม่น่าแปลกใจอะไรมากมายนัก ที่ภายใต้การแสดงปฏิกิริยาของเวียดนามในลักษณะเช่นนี้นี่เอง ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย นาย กรณ์ จาติกวณิช จำต้องเอ่ยคำพูดบางประโยคในระหว่างการเดินทางไปสัมมนาที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อไม่นานมานี้ ตามที่สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานเอาไว้ดังนี้ว่า เวียดนามได้พยายามช่วงชิงโอกาส ในขณะที่ประเทศไทยกำลังมีปัญหา ด้วยการเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติให้เข้าไปลงทุนในเวียดนาม แต่ทั้งนั้น ทั้งนี้...ถือเป็นบทเรียนให้คนไทยรับรู้ได้ว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้น ไม่มีใครในสังคมไทยได้รับประโยชน์ แต่กลับทำให้ต่างชาติอาศัยโอกาสใช้ความได้เปรียบที่มีอยู่ ช่วงชิงโอกาสจากประเทศไทยไปแล้ว...
       -------------------------------------------------------
     แน่นอนว่า...ถ้าหากคำพูดของรัฐมนตรี กรณ์ จาติกวณิช เป็นไปดังที่สำนักข่าวต่างประเทศได้เผยแพร่ออกมา ก็คงต้องสรุปว่า ถือเป็นคำพูดที่...พูดอีกก็ถูกอีกนั่นแหละ ในเมื่อขนาดคนไทยด้วยกันเอง ยังไม่เห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมืองของตัวเอง แล้วจะไปโอดครวญ วิงวอน ขอร้อง ให้คนที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียง แม้นจะเคยเป็นพี่ๆ น้องๆ กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน มาแสดงออกถึงความปรารถนาดี เห็นอก เห็นใจ โดยบริสุทธิ์ใจ มันย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแน่ๆ งานนี้...มีแต่ต้อง กลืนเลือด เอาไว้เป็นลิ่มๆ เท่านั้น รวมทั้งหนีไม่พ้นที่จะต้องระแวด ระวังตัวเอาไว้ให้จงหนัก จากปฏิกิริยาของเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามเท่าที่ปรากฏให้เห็นมาเป็นระยะๆ จนกระทั่งมาถึง ณ ขณะนี้ ถือได้ว่าเป็นการ ส่งสัญญาณ ให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า ถ้าหากเรายังมัวแต่กัดกัน ตีกัน จนไม่อาจสร้างเอกภาพ ความสามัคคี ภายในสังคมของเราเองได้แล้วล่ะก็...โอกาสที่ประเทศไทยจะกลายเป็น แหนมเนือง ชิ้นโตของประเทศเพื่อนบ้าน ย่อมมีความเป็นไปได้สูงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...
      --------------------------------------------------------
     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก ไลเคอร์กัส แห่ง สปาร์ต้า... การเป็นพันธมิตรโดยใกล้ชิดกับรัฐที่มุ่งหวังแต่เพียงอำนาจ ไม่เคยนำมาซึ่งความปลอดภัยต่อเสรีรัฐทั้งหลาย...

http://www.thaipost.net/news/250510/22496
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2210 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 08:59:57 »

ห้องนี้ ไม่เคยหลับ ไม่เคยนอน มีชาวหอเข้า-ออกเป็นประจำ

สมาชิกไม่ทราบสังกัดชื่อ Galinkaasiolia เข้ามาเปิดห้องขายภาพโป๊ในห้องปรัชญา และการเมืองเรื่องใกล้ตัว ทีเดียว 3 ห้องเลย

ภาพสวยมาก ผมโหลดแล้วขอให้ วม.ลบ กลัวชาวหอจะแย่งดู  เค้าไม่ยอม  5 5 5 5  เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า
opas
Hero Cmadong Member
***


โอภาส 3211 สิง1207 1212 2813
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2534
คณะ: Architecture
กระทู้: 1,754

« ตอบ #2211 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 09:45:20 »

ดีแล้วครับ   การลงทุนของต่างชาติ   ก็คือตัวเพิ่มค่านิยมวัตถุ  ต้นเหตุของปัญหาทั้งปวง

มีน้อยๆ ลงหน่อย  ก็ดี   แบบไทยๆ ก็อยู่ได้สบายอยู่แล้ว ไม่ต้องพึ่งใครเลยด้วยซ้ำไป


ผิดหลักการไม๊เนี่ย


 เหนื่อย เหนื่อย เหนื่อย
      บันทึกการเข้า

ฉันคิดไปเป็นชาวเกาะ...มีชีวิตกลางแดดและคลื่นลม
จะจูบอำลาสังคม........แสงสีในเมืองนภา
เบื่อชีวิตในเมือ.ง........งึม งำ  งึม งำ........................
.........................ตามฉันมาเป็นชาวเกาะเอย ย  ย   ย
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2212 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 11:58:56 »

เอ้า...บรรดาแม่ยก ทราบแล้วเปลี่ยน......

"เสธ.ไก่อู"...ใครอย่านึกว่าแค่ซีม่าร์ !
25 พฤษภาคม 2553 10:24 น.


       บอกกันตามตรงเลยว่า การที่รัฐบาลและศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือศอฉ. ได้รับชัยชนะ อันเป็นชัยชนะของประเทศนั้น ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งมาจากผลงานการประชาสัมพันธ์ของ พ.อ.สรรเสริญ หรือเสธ.ไก่อู แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. ที่ถูกบรรดาแกนนำเสื้อแดง พูดให้บรรดาสาวกเฮฮากันบนเวทีว่า เบื่อศอฉ.จริงๆ เพราะตั้งแต่เช้าก็ส่งไก่อูออกมาขันทุกเช้า ครั้นเอาเข้าจริง การทำหน้าที่ของเสธ.ไก่อู กลับกลายเป็นหอกทิ่มแทงจนบรรดาแกนนำเจียนตายคาเวทีก็หลายครั้งหลายหน
       
       ยกตัวอย่าง ให้เห็นกันชัดๆ หลังเกิดเหตุ "แดงเถื่อน-พฤษภานรก" จากการชุมนุม มีบุคคลกลุ่มหนึ่ง ซึ่งต้องเรียกว่า คนร้าย พาพวกบุกเข้าปล้นร้านสะดวกซื้อ ทำลายข้าวของพังราพณาสูร ปล้นเอาสิ่งของมีค่าไปจนหมด เสธ.ไก่อู นำคลิปภาพหลังเกิดเหตุมาให้ประชาชนชม แล้วชี้ไปที่ ชั้นวางแผงหนังสือ พร้อมกับอธิบายว่า "จะเห็นได้ว่า กลุ่มคนร้าย เข้าปล้นเอาสิ่งของมีค่าไปจนหมด ยกเว้นเพียงหนังสือ ก็เพราะพากันรับรู้ข้อมูลข่าวสารด้านเดียวเท่านั้น" บอกได้คำเดียว คำอรรถาธิบายของเสธ.ไก่อูนั้น "แสบเข้าไส้ ถึงทรวง" ดีจริงๆ หะแรก...บรรดาแกนนนำแดงคงนึกว่าแค่ "ซีมาร์" มาซึ้งภายหลังดีว่า อนิจจา...ทิงเจอร์! นี่หว่า...
       
       เห็นทีการแต่งตั้งโยกย้ายเที่ยวหน้านี้ จปร. 27 จะได้นายพลเพิ่มอีกหนึ่งคน แต่ไม่รู้จะเป็นพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิดหรือไม่ แต่ถ้าคุณสมบัติยังไม่ครบ ก็ต้องรอไปก่อน เพราะสิ่งที่เสธ.ไก่อูได้ทำมานั้น ล้วน "เพื่อผืนดินไทย" ซึ่งคณานับมากกว่ายศ-ตำแหน่งเป็นไหนๆ แต่ถ้ากองทัพบกจะตกรางวัล "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ดึงเอาเสธ.ไก่อูมาใช้ตั้งแต่ปฏิวัติ 49 ควรจะควักกระเป๋า จ่ายค่ากรีดถุงใต้ตาให้เป็นรางวัลปลอบใจก็จะดีไม่น้อย (ฮา)
ฯลฯ

จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000071823
 
 
      บันทึกการเข้า
ภาณุ ปาตานี
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,254

« ตอบ #2213 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 12:06:03 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 08:59:57
ห้องนี้ ไม่เคยหลับ ไม่เคยนอน มีชาวหอเข้า-ออกเป็นประจำ

สมาชิกไม่ทราบสังกัดชื่อ Galinkaasiolia เข้ามาเปิดห้องขายภาพโป๊ในห้องปรัชญา และการเมืองเรื่องใกล้ตัว ทีเดียว 3 ห้องเลย

ภาพสวยมาก ผมโหลดแล้วขอให้ วม.ลบ กลัวชาวหอจะแย่งดู  เค้าไม่ยอม  5 5 5 5  เหอๆๆ

ขอโหวตรับรองให้ Galinkaasiolia เป็นสมาชิกถาวรครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2214 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 14:01:03 »

ท่านผู้ว่าฯ ชวน เป็นรุ่นพี่รัฐศาสตร์และชาวหอ 2514

"ครม."เด้ง 4 ผวจ.เข้ากรุเซ่นเผาศาลากลาง
25 พค. 2553 13:18 น.


กระทรวงมหาดไทย โดยนายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงได้เสนอวาระเพื่อทราบต่อครม.โดยมีการโยกย้ายผู้ว่า 4 จังหวัดช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทยได้แก่

1.นายปราโมช สัจจรัตน์ ผู้ว่าขอนแก่น โดยมีนายพยัพ ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าฯขอนแก่นรักษาราชการแทน
2.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่ามุกดาหาร โดยให้นายชาญวิทย์ วสยางกูร ที่ปรึกษา 10 ด้านการบริหาร รักษาการผู้ว่ามุกดาหาร

3.นายชวน ศิรินันทร ผู้ว่าอุบล โดยให้นายวิชิต ชาตไพสิฐ ที่ปรึกษา 10 ด้านความมั่นคง รักษาการผู้ว่าอุบล
4.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าอุดรธานี โดยให้นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ รองผู้ว่าอุดรรักษาราชการแทน

ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 2553

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=449850
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2215 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 14:26:57 »

ศาลอาญาอนุมัติหมายจับฐานเป็น"ผู้ก่อการร้าย" กับ นช.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว นับเป็นเกียรติประวัติกับครอบครัวนี้ตลอดไป

ศาลอนุมัติหมายจับ “ทักษิณ” เป็นผู้ก่อการร้ายเต็มตัว!
25 พฤษภาคม 2553 13:53 น.

 
       ศาลอนุมัติหมายจับ “ทักษิณ” เป็นผู้ก่อการร้ายแล้ว โดยต่อไปเป็นหน้าที่ของอัยการที่จะประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อตามล่าตัว “แม้ว” เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในไทยต่อไปให้ได้
       
       วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 611 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคำร้องที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขออนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1, 135/2 และ 135/3 โดยเมื่อวานนี้ (24 พ.ค.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำพยานเข้าไต่สวนรวม 3 ปาก ประกอบด้วย นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ, พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นการไต่สวนลับ ไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องร่วมฟังการพิจารณา และศาลนัดฟังคำสั่งในวันนี้ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนและผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ารับฟังเช่นเดิม
       
       ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ มี พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ เดินทางมารับฟังคำสั่ง และเปิดเผยภายหลังการรับฟังคำสั่ง ว่า ศาลได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า คดีมีพยานหลักฐานตามสมควร ให้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในข้อหาก่อการร้ายได้ โดยขั้นตอนต่อไปนี้ จะต้องไปดำเนินการตาม ป.วิอาญา ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานอัยการ ที่จะประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการตามล่าตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยต่อไป

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000072010
 
      บันทึกการเข้า
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #2216 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 16:10:11 »




ศาลอนุมัติหมายจับ"ทักษิณ" ข้อหา"ก่อการร้าย"


25 พค. 2553 14:04 น.


ศาลอาญารัชาดาภิเษก อนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในข้อหาก่อการร้าย ยุยง ปลุกปั่น ให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย หรือ นปช. ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน ตามพยานหลักฐาน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษร้องขอ โดยมีพยานหลักฐานเป็นคลิป การวีดีโอลิงค์ ซึ่งเป็นหลักฐานที่เพียงพอ หลังจากนี้ทาง ดีเอสไอ เตรียมติดตามตัว หากพบว่า อดีตนายกฯทักษิณ" พำนักอยู่ในประเทศใด จะใช้กฎหมายระหว่างประเทศขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=449859




http://i894.photobucket.com/albums/ac145/nick1usa/ResizeofWantedThaksin.jpg 

ถ้ารัฐบาลตั้งรางวัลสินบนนำจับ สัก 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เชื่อว่า คงจะมีตำรวจต่างประเทศ อาสาจับให้แน่นอน

      บันทึกการเข้า

prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2217 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 16:36:30 »


จะช่วยผู้ว่า ชวน ได้ยังไงนี่ ท่านเป็นคนดีมากๆเลย


คลังสมองซีมะโด่ง ต้องช่วยกันแล้ว

จริงๆแล้ว นปช. เข้ามาขอพบท่านแบบจะทำร้าย ผู้ว่า ด้วยนะ

หลังจากไม่ได้ทำร้าย เลยเผาจวน ซะเลย

เห็นใจจัง แต่อาจจะได้ไปอยู่จังหวัดใหญ่เดือนตุลาก็ได้นะ

เด่วต้องโทรไปคุยกับสส.  และผู้ใหญ่ เเถวนี้ก่อนค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 14:01:03
ท่านผู้ว่าฯ ชวน เป็นรุ่นพี่รัฐศาสตร"ครม."เด้ง 4 ผวจ.เข้ากรุเซ่นเผาศาลากลาง
25 พค. 2553 13:18 น.


กระทรวงมหาดไทย โดยนายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงได้เสนอวาระเพื่อทราบต่อครม.โดยมีการโยกย้ายผู้ว่า 4 จังหวัดช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทยได้แก่

1.นายปราโมช สัจจรัตน์ ผู้ว่าขอนแก่น โดยมีนายพยัพ ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าฯขอนแก่นรักษาราชการแทน
2.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่ามุกดาหาร โดยให้นายชาญวิทย์ วสยางกูร ที่ปรึกษา 10 ด้านการบริหาร รักษาการผู้ว่ามุกดาหาร

3.นายชวน ศิรินันทร ผู้ว่าอุบล โดยให้นายวิชิต ชาตไพสิฐ ที่ปรึกษา 10 ด้านความมั่นคง รักษาการผู้ว่าอุบล
4.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าอุดรธานี โดยให้นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ รองผู้ว่าอุดรรักษาราชการแทน

ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 2553

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=449850
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
yyswim
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2511
คณะ: "นิเทศศาสตร์"
กระทู้: 9,245

เว็บไซต์
« ตอบ #2218 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 17:23:17 »

  ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะครับ ไม่รู้ว่าจะนำไปแอบไว้ตรงไหน


ถึง น้องแอ๊ะ13...

พี่นภ ไปเกาะหมุย ด้วย คร้าบ 

ไปราวบ่ายสามโมงมั๊ง? ของวันที่ 28 พ.ค.53

ไปพร้อมกับน้องสาว ชื่อเบญจมาศ

พี่นภไม่ได้จองตั๋วเอง ก็เลยไม่แน่ใจเรื่องเวลา น้องเบญจัดการให้หมด ทั้งการเดินทางและที่พัก

วันกลับ คงจะสัก 30 พ.ค. 53 เวลากลับน่าจะเป็นไฟลท์สุดท้าย ราวๆ4ทุ่ม มั๊ง?

เจ๊ดวง ต้องอยู่กับคุณแม่ครับ ก็เลยไม่ได้ไป


ครูยุทธ ไม่ทราบว่า จะไปหรือเปล่า? น่าที่จะมีคนเชิญชวน

ครูยุทธ จะไม่ค่อยมีคนไปเยี่ยมครูยุทธบ่อยนัก อาจจะเป็นครูที่ไม่ช่างพูด 

พี่นภไปหานานๆครั้ง  ครูยุทธจะดีใจ ฝากกล้วย ฝากขนมเข่ง ใส่มาให้ในรถเลย



ดีใจมากครับ ที่รู้ว่าน้องแอ๊ะจะไปด้วยในงานนี้ รุ่นน้องแอ๊ะคนดังทั้งนั้น

รุ่น9 ของพี่นภ ไม่รู้จะไปกันสักกี่คน ถึงหนึ่งโต๊ะหรือเปล่า ก็ยังไม่รู้เลย

แล้วเราเจอกันนะ

อยากจะกินน้ำพริกมุงมัง กับไข่เจียว ด้วย  อิ อิ


อู้ด พรเทพ คงจะไปใช่มั๊ย?

คิดถึง อู้ด เสียดายเนาะ อู้ดเขาไม่ค่อยเข้ามาโพสต์คอมเมนต์ในกระทู้



ขอนอกเรื่อง...

วันเสาร์อาทิตย์ ที่เพิ่งผ่านมา พี่ไปทำตัวกลมกลืน กะ น้องๆรุ่น24 

รุ่น24  รุ่นน้องตี้ถาปัด24 น้องแจง24 รุ่นป๋าทู24 รุ่นหมูพจน์24 รุ่นจิ้งจก24

น้องแอ๊ะคงจะรู้จัก นะ

ไปกินผลไม้ในสวนผลไม้ ที่จ.จันทบุรี ….สวนของ คุณเก๊า24

เจอหมอเสียด16  เจอหมอบุญเลิศ16   เจอ จ๋าย16

ก่อนจะไป ก็มีการโทร.ชักชวน ดร.ป๋อง  สิงห์มานพ ครับ

แต่ทราบว่า พอดี ติดธุระในวันนั้น



พี่นภขอนับว่า เป็นทริปที่สนุกมากๆทริปหนึ่ง ของปีนี้

น้องๆรุ่น 24 รักผูกพันสนิทสนมกัน หัวเราะกัน แซวกัน แบบเหมือนวัยเรียนเลย

ผลไม้อย่างทุเรียนเนื้อดี แกะกันให้แบบไม่อั้น

มังคุด วางให้หยิบกินเป็นเข่งใหญ่

แถม ใครใคร่อยากเด็ดอะไรในสวนทาน ก็เด็ดจากต้นเอาเลย

อุ อุ กล้ามั๊ย? เด็ด ผลสละ จากต้น

แต่ไม่ต้องกลัว ผลสละ จัดวางในถาดใหญ่รอไว้แล้ว



อาหารทะเลที่จัดเตรียม และอาหารจันทบุรีที่จัดเตรียม ก็สุดยอด ระดับ A+

ระหว่างกำลังทาน มีโทร.แซวกับ น้องหนุงหนิง27 ที่เยอรมันด้วย ยั่วปากน้องหนุงหนิงน่ะ

น้องหนุงหนิงรุ่นเดียวกับ น้องจิ๋วRCU27 น้องจิ๋วจบ Botany  เป็นคนข้างกาย เก๊า24

แล้วก็ส่งโทร.หมุนเวียน ไปที่แต่ละคน วันนั้นพูดยาวนาน ราว 30 นาที

อุ อุ ป๋าทู ใจดีจริงๆ เพราะเป็นเครื่องของป๋าทู24


น้องไพรสน49 ก็ไปนะ สนุกสนานมาก

รถที่ขับกันไป โอ น่าจะสักสิบคัน เพราะสังเกต การจัดโต๊ะอาหาร มีถึง 6 โต๊ะ

หากโต๊ะละ 8 คน ก็ราวๆ 48 คน

เสียดาย ไม่มีใครนับจำนวน เป็นสถิติที่ชัดเจน จดเอาไว้



คอมเมนต์นี้ ขออนุญาตบอกน้องแอ๊ะ และอีกหลายๆท่านที่อยากจะชมรูปและเรื่อง

ลองเข้าไปอ่าน "สังสรรค์สองสี่-ปาร์ตี้สัญจร.ตอน-22-23พฤษภา มาชิมผลไม้ถึงสวน อบอวลด้วยรัก" ได้นะครับ

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3295.1675.html



ขออภัย เขียนให้อ่านยาวเลย




      บันทึกการเข้า

จาก สิน
http://yyswim.bloggang.com
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2219 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 19:01:24 »

เมื่อกี่ โทรไปถาม ในรัฐบาลแล้ว เค้าบอกว่าเป็นความจำเป็นต้องย้ายเพราะถือว่าคุมสถานการณ์ไม่ได้

เด่วจะย้าย ผู้บังคับการตำรวจ ตามจังหวัดเหล่านี้ อีกระลอก ค่ะ

ทำไงได้ล่ะ ผู้ว่าจะทัดทาน ฉีแดงได้ไง สงสารท่นน ผู้ว่า จังเลย



อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 16:36:30

จะช่วยผู้ว่า ชวน ได้ยังไงนี่ ท่านเป็นคนดีมากๆเลย


คลังสมองซีมะโด่ง ต้องช่วยกันแล้ว

จริงๆแล้ว นปช. เข้ามาขอพบท่านแบบจะทำร้าย ผู้ว่า ด้วยนะ

หลังจากไม่ได้ทำร้าย เลยเผาจวน ซะเลย

เห็นใจจัง แต่อาจจะได้ไปอยู่จังหวัดใหญ่เดือนตุลาก็ได้นะ

เด่วต้องโทรไปคุยกับสส.  และผู้ใหญ่ เเถวนี้ก่อนค่ะ

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 14:01:03
ท่านผู้ว่าฯ ชวน เป็นรุ่นพี่รัฐศาสตร"ครม."เด้ง 4 ผวจ.เข้ากรุเซ่นเผาศาลากลาง
25 พค. 2553 13:18 น.


กระทรวงมหาดไทย โดยนายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงได้เสนอวาระเพื่อทราบต่อครม.โดยมีการโยกย้ายผู้ว่า 4 จังหวัดช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทยได้แก่

1.นายปราโมช สัจจรัตน์ ผู้ว่าขอนแก่น โดยมีนายพยัพ ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าฯขอนแก่นรักษาราชการแทน
2.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่ามุกดาหาร โดยให้นายชาญวิทย์ วสยางกูร ที่ปรึกษา 10 ด้านการบริหาร รักษาการผู้ว่ามุกดาหาร

3.นายชวน ศิรินันทร ผู้ว่าอุบล โดยให้นายวิชิต ชาตไพสิฐ ที่ปรึกษา 10 ด้านความมั่นคง รักษาการผู้ว่าอุบล
4.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าอุดรธานี โดยให้นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ รองผู้ว่าอุดรรักษาราชการแทน

ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. 2553

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=449850

      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2220 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 19:05:36 »

พี่นภ แล้วเจอกันนนะคะ คิดถึงน้องเบญ จังเลย

เขาให้ใส่ กางเกงขาว เสื้อสีน้ำทะเล (ลูกทะเลขาว)

พี่นภเตรียมกางเกง สีขาวไปนะคะ เสื้อเขาทำเสื้อยืดไว้ให้ค่ะ


อ้างถึง
ข้อความของ yyswim เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 17:23:17
  ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะครับ ไม่รู้ว่าจะนำไปแอบไว้ตรงไหน


ถึง น้องแอ๊ะ13...

พี่นภ ไปเกาะหมุย ด้วย คร้าบ 

ไปราวบ่ายสามโมงมั๊ง? ของวันที่ 28 พ.ค.53

ไปพร้อมกับน้องสาว ชื่อเบญจมาศ

พี่นภไม่ได้จองตั๋วเอง ก็เลยไม่แน่ใจเรื่องเวลา น้องเบญจัดการให้หมด ทั้งการเดินทางและที่พัก

วันกลับ คงจะสัก 30 พ.ค. 53 เวลากลับน่าจะเป็นไฟลท์สุดท้าย ราวๆ4ทุ่ม มั๊ง?

เจ๊ดวง ต้องอยู่กับคุณแม่ครับ ก็เลยไม่ได้ไป


ครูยุทธ ไม่ทราบว่า จะไปหรือเปล่า? น่าที่จะมีคนเชิญชวน

ครูยุทธ จะไม่ค่อยมีคนไปเยี่ยมครูยุทธบ่อยนัก อาจจะเป็นครูที่ไม่ช่างพูด 

พี่นภไปหานานๆครั้ง  ครูยุทธจะดีใจ ฝากกล้วย ฝากขนมเข่ง ใส่มาให้ในรถเลย



ดีใจมากครับ ที่รู้ว่าน้องแอ๊ะจะไปด้วยในงานนี้ รุ่นน้องแอ๊ะคนดังทั้งนั้น

รุ่น9 ของพี่นภ ไม่รู้จะไปกันสักกี่คน ถึงหนึ่งโต๊ะหรือเปล่า ก็ยังไม่รู้เลย

แล้วเราเจอกันนะ

อยากจะกินน้ำพริกมุงมัง กับไข่เจียว ด้วย  อิ อิ


อู้ด พรเทพ คงจะไปใช่มั๊ย?

คิดถึง อู้ด เสียดายเนาะ อู้ดเขาไม่ค่อยเข้ามาโพสต์คอมเมนต์ในกระทู้



ขอนอกเรื่อง...

วันเสาร์อาทิตย์ ที่เพิ่งผ่านมา พี่ไปทำตัวกลมกลืน กะ น้องๆรุ่น24 

รุ่น24  รุ่นน้องตี้ถาปัด24 น้องแจง24 รุ่นป๋าทู24 รุ่นหมูพจน์24 รุ่นจิ้งจก24

น้องแอ๊ะคงจะรู้จัก นะ

ไปกินผลไม้ในสวนผลไม้ ที่จ.จันทบุรี ….สวนของ คุณเก๊า24

เจอหมอเสียด16  เจอหมอบุญเลิศ16   เจอ จ๋าย16

ก่อนจะไป ก็มีการโทร.ชักชวน ดร.ป๋อง  สิงห์มานพ ครับ

แต่ทราบว่า พอดี ติดธุระในวันนั้น



พี่นภขอนับว่า เป็นทริปที่สนุกมากๆทริปหนึ่ง ของปีนี้

น้องๆรุ่น 24 รักผูกพันสนิทสนมกัน หัวเราะกัน แซวกัน แบบเหมือนวัยเรียนเลย

ผลไม้อย่างทุเรียนเนื้อดี แกะกันให้แบบไม่อั้น

มังคุด วางให้หยิบกินเป็นเข่งใหญ่

แถม ใครใคร่อยากเด็ดอะไรในสวนทาน ก็เด็ดจากต้นเอาเลย

อุ อุ กล้ามั๊ย? เด็ด ผลสละ จากต้น

แต่ไม่ต้องกลัว ผลสละ จัดวางในถาดใหญ่รอไว้แล้ว



อาหารทะเลที่จัดเตรียม และอาหารจันทบุรีที่จัดเตรียม ก็สุดยอด ระดับ A+

ระหว่างกำลังทาน มีโทร.แซวกับ น้องหนุงหนิง27 ที่เยอรมันด้วย ยั่วปากน้องหนุงหนิงน่ะ

น้องหนุงหนิงรุ่นเดียวกับ น้องจิ๋วRCU27 น้องจิ๋วจบ Botany  เป็นคนข้างกาย เก๊า24

แล้วก็ส่งโทร.หมุนเวียน ไปที่แต่ละคน วันนั้นพูดยาวนาน ราว 30 นาที

อุ อุ ป๋าทู ใจดีจริงๆ เพราะเป็นเครื่องของป๋าทู24


น้องไพรสน49 ก็ไปนะ สนุกสนานมาก

รถที่ขับกันไป โอ น่าจะสักสิบคัน เพราะสังเกต การจัดโต๊ะอาหาร มีถึง 6 โต๊ะ

หากโต๊ะละ 8 คน ก็ราวๆ 48 คน

เสียดาย ไม่มีใครนับจำนวน เป็นสถิติที่ชัดเจน จดเอาไว้



คอมเมนต์นี้ ขออนุญาตบอกน้องแอ๊ะ และอีกหลายๆท่านที่อยากจะชมรูปและเรื่อง

ลองเข้าไปอ่าน "สังสรรค์สองสี่-ปาร์ตี้สัญจร.ตอน-22-23พฤษภา มาชิมผลไม้ถึงสวน อบอวลด้วยรัก" ได้นะครับ

http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3295.1675.html



ขออภัย เขียนให้อ่านยาวเลย





      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2221 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 19:09:32 »

ดูหน้าชัดๆ คนเขียงใหม่ดึง"ธงในหลวง"โยนทิ้งน้ำ.......


ชมคลิป แดงเชียงใหม่ห้าว! แค้นสลายชุมนุม พาลถอน “ธงในหลวง” โยนทิ้งน้ำ
25 พฤษภาคม 2553 15:02 น.

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=tyV2ZT0hxTY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=tyV2ZT0hxTY</a>

       ASTVผู้จัดการ – แดงเชียงใหม่แค้นแกนนำประกาศสลายการชุมนุม 19 พ.ค.ก่อจลาจลหน้าจวนผู้ว่าฯ พาลโยนธงสีเหลืองอักษรพระปรมาภิไธย ภปร ที่ปักเคียงกับธงชาติไทยบนสะพานนวรัฐ ทิ้งแม่น้ำปิงเกลี้ยง
       
   
       
       
       จากกรณีเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ คนเสื้อแดงประกาศสลายการชุมนุม ณ แยกราชประสงค์ หลังเจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เข้ากดดัน จนก่อให้เกิดการวินาศกรรม และจลาจลขึ้นทั่วกรุงเทพฯ และลุกลามไปทั่วประเทศ ล่าสุด วานนี้ (24 พ.ค.) ได้มีประชาชนโพสต์คลิปวิดีโอลงในเว็บไซต์ยูทูป เป็นภาพการก่อการจลาจลที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 19 พ.ค.
       
       เหตุการณ์การจลาจลที่จังหวัดเชียงใหม่ เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน บริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เชิงสะพานนวรัฐ อ.เมืองเชียงใหม่ โดย นปช.จังหวัดเชียงใหม่ จำนวนประมาณ 50 คน ได้นำยางรถยนต์มากองที่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าฯ ก่อนราดน้ำมันจุดไฟเผา จนเกิดกลุ่มควันจำนวนมาก นอกจากนี้ กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวยังขว้างปาขวดน้ำและสิ่งของเข้าไปในจวนผู้ว่าฯ ใช้หนังสติ๊กยิงประทัดยักษ์เข้าไปในจวนผู้ว่าฯ เป็นระยะ จนเจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรบริเวณสะพานนวรัฐข้ามแม่น้ำปิงเป็นการชั่วคราว
       
       สำหรับภาพคลิปวิดีโอดังกล่าว ตอนหนึ่งปรากฏภาพชายสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว ได้เดินไปตามทางเท้าบนสะพานนวรัฐ และได้พยายามถอนธงสีเหลืองอักษรพระปรมาภิไธย ภปร ซึ่งปักอยู่เคียงกับธงชาติไทยบนสะพาน โยงทิ้งลงสู่แม่น้ำปิง ด้วยท่าทางโกรธแค้น ก่อนที่ นปช.อีกคนหนึ่งที่ใส่เสื้อแจ๊กเก็ตแขนยาวสีเขียวขี้ม้าจะกระทำถอนธงสีเหลือง ตามชายคนดังกล่าวบ้าง จากนั้นคนกลุ่มดังกล่าวจึงเดินไปรวมตัวกัน
       
       พฤติกรรมการจาบจ้วง หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และบ่อนทำลายสถาบันหลักของประเทศไทยนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อย่างเช่น กรณีเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2551 หลังพิธีพระราชทานเพลิงศพ “น้องโบว์” น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ เพียงวันเดียว กลุ่มคนรักเชียงใหม่ ได้เปิดเวทีปราศรัยสนับสนุนรัฐบาลต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจัดบริเวณหน้าโรงแรมแกรนด์วโรรส โดยวันดังกล่าวแกนนำผู้ปราศรัยแสดงอาการโกรธแค้นต่อเหตุการณ์พิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างชัดเจน โดย นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 ปราศรัยถึงการเดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ที่สนามหลวง และมีตอนหนึ่งที่กระทบกระเทียบกับสถาบันสูงสุดอย่างหมิ่นเหม่ โดยได้พูดว่า คนเชียงใหม่นับถือแค่กษัตริย์ 3 องค์เท่านั้น ก็คือ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งประดิษฐานอยู่หน้าศาลากลางหลังเก่า (พญาเม็งราย พญางำเมือง และ พ่อขุนรามคำแหง) ไปกรุงเทพฯ ก็ไปสักการะเฉพาะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเท่านั้น (อ่านข่าว : นปก.เชียงใหม่เหิม บอกคนเชียงใหม่นับถือแค่อนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ (16 ต.ค. 51))
       

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000072066
 
      บันทึกการเข้า
yyswim
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2511
คณะ: "นิเทศศาสตร์"
กระทู้: 9,245

เว็บไซต์
« ตอบ #2222 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 20:04:31 »

ถึง น้องแอ๊ะ...

ขอบคุณครับที่บอกเรื่องให้เตรียมกางเกงขาวไปด้วย

เสื้อทะเลขาว ค่อยไปหาซื้อเอาข้างหน้า
      บันทึกการเข้า

จาก สิน
http://yyswim.bloggang.com
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #2223 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 20:05:49 »

ไม่ได้ไปด้วย .. แต่ขอรอชมภาพนะคะ  พี่สิน    รักนะ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #2224 เมื่อ: 25 พฤษภาคม 2553, 22:15:25 »

เสื้อยืด สีน้ำทะเล เขาเตรียมไว้ให้ค่ะ พี่นภ

ถ้าไม่รังเกียจ พักบ้านแอ๊ะก็ได้นะคะ เพื่อนๆพรเทพก็พักที่ตลิ่งงาม

เพือนแอ๊ะ น้องเหนียว เจ๊สี่ โสภา สารา ก็คงไปนอนกับแอ๊ะที่ตลิ่งงามค่ะ

ยกบ้านสวย ให้ ผู้ชายพักกัน ส่วนพรรคพวกแอ๊ะพักตรง resort ค่ะ

อยากให้พี่นภไปพักกะเเอ๊ะจัง ตอนเช้าจะได้ลุกมาทานขนมครก ตลิ่งงาม

และเอ่อๆๆๆๆ อยากให้พี่นภถ่ายรูปให้สวยๆ นะอ่ะ

เข้าไปดูบ้าน www.samuidelma.com ค่ะ


เเต่เอียด สุภร  คนบ้านหินลาด เขาจะให้ไปพัก resort เขา

คงแย่งตัวกันน่าดูชม งานนี้

ขอไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ จะไป หน่วยแพทย์พอ.สว. เข้าเฝ้าถวายเงิน เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ค่ะ

งานนี้จับพี่หาญไปเข้าเฝ้าด้วยค่ะ
ตื่นเต้นมากค่ะที่จะได้ รับใช้พระองค์ท่าน
อ้างถึง
ข้อความของ yyswim เมื่อ 25 พฤษภาคม 2553, 20:04:31
ถึง น้องแอ๊ะ...

ขอบคุณครับที่บอกเรื่องให้เตรียมกางเกงขาวไปด้วย

เสื้อทะเลขาว ค่อยไปหาซื้อเอาข้างหน้า

      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
  หน้า: 1 ... 87 88 [89] 90 91 ... 131   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><