อ่านสถานการณ์ หน้า 1 ของ ไทยโพสต์
ขู่แดงไม่รับ-ไม่ยุบ ‘มาร์ค’เดินสายแจงทุกสีพท.ปูดแกนนำถูกซื้อตัวข่าวหน้า 17 พฤษภาคม 2553 - 00:00 "อภิสิทธิ์" เดินสายแจงโรดแม็พ ยันไม่คิดนิรโทษกรรมความผิดอาญา-ก่อการร้าย ครวญโทร.บอกแฟนๆ "แม้ว" ล็อบบี้พรรคร่วมหวังเปลี่ยนขั้ว ขณะที่ประชาธิปัตย์คลอดมติหนุน 5 แนวทางปรองดองเต็มที่ เชิญทุกเสื้อหารือ แต่เสื้อแดงยังไม่ยอมนับสอง หลังพันธมิตรฯ เล่นแรงประณามรัฐบาลปรองดองกับขบวนการก่อการร้ายรัฐไทยใหม่ "มาร์ค" ขู่ถ้าแดงยังไม่รับเงื่อนไขจะเลิกข้อตกลงยุบสภา เพื่อไทยปล่อยข่าวแกนนำแดงถูกซื้อตัว เงินบริจาคไม่โปร่งใส บางคนกลายเป็นเสี่ยไปแล้ว
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาตลอดทั้งวันชี้แจงข้อเสนอโรดแม็พปรองดองกับฝ่ายต่างๆ และการประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พฤศจิกายนปีนี้ โดยเริ่มต้นจากการเข้าหารือกับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่รัฐสภา ท่ามกลางกระแสข่าว ส.ส.ของพรรคไม่เห็นด้วยกับแผนโรดแม็พ
ทั้งนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกมายืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งกับนายอภิสิทธิ์ตามที่เป็นข่าว
ส่วนนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะทุกคนก็อยากให้บ้านเมืองเรียบร้อย และทุกคนก็มั่นใจในตัวนายกฯ บางทีนายกฯ อาจจะมีข้อมูลบางสิ่งบางอย่างที่พรรคไม่มีโอกาสได้รับรู้ เพราะที่ผ่านมาการตัดสินใจของนายกฯ จะอยู่บนพื้นฐานของความมีเหตุมีผลและรอบคอบเสมอ ดังนั้นอะไรที่เป็นประโยชน์กับพรรคและบ้านเมือง คิดว่าคงไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทุกคนก็เชื่อมั่นนายกฯ แม้กระทั่งนายชวนเอง เพราะเท่าที่รู้นายชวนก็ไม่ได้ขัดแย้งกับนายกฯ อะไรมากมาย เพียงแต่เป็นห่วงเรื่องนิติรัฐที่เราจะต้องช่วยกันรักษาให้ได้
ต่อมา นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับแผนโรดแม็พที่นายกฯ เสนอ โดยมีความเห็นว่าสนับสนุนแนวทางของนายกฯ ในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการเมือง รักษาสถาบันสูงสุด ให้ความเป็นธรรมประชาชนและผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ความรุนแรง รวมถึงสะสางและสร้างความมั่นคงในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
"พรรคสนับสนุนกรอบการกำหนดการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ซึ่งพรรคได้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ ว่าเป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ได้เป็นนายกฯ เฉพาะคนที่เห็นด้วยกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเสียสละในวาระของรัฐบาลเพื่อยุติความรุนแรงและการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น"
นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า ขณะนี้จึงต้องรอคำตอบจากกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อที่จะคืนพื้นที่โดยเร็วที่สุด และหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เพราะหากมีการปิดถนนก็จะเป็นอุปสรรคไม่สามารถทำให้กระบวนการปรองดองเดินหน้าไปได้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดเรื่องการยุบสภา
โฆษก ปชป.บอกว่า ในที่ประชุมได้มีการเปิดให้สมาชิกแสดงความคิดเห็น โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าได้หารือกับนายอภิสิทธิ์มาโดยตลอด และบอกว่าที่ผ่านมาได้แสดงความเห็นชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการยุบสภาในกรอบ 9 เดือนที่เสนอในรอบแรก เพราะปัญหาวิกฤติทางการเมืองไม่ได้มาจากการทำงานของรัฐสภา แต่มาจากการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม แต่ก็เห็นว่าการที่นายกฯ แสดงวุฒิภาวะในการหารือกับทุกฝ่าย หลีกเลี่ยงการสูญเสีย ยอมสละเวลาในการดำรงตำแหน่ง ก็ถือว่าเป็นการยอมสละในทางการเมือง เพื่อให้สังคมก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยนายชวนได้ยืนยันการตัดสินใจและสนับสนุนแนวทางการสร้างกระบวนการสมานฉันท์ของนายกฯ โดยทางพรรคจะต้องมีหน้าที่ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ
เชิญหลากกลุ่มชี้แจง ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า นายกฯ ได้ประกาศชัดว่าโรดแม็พที่มีขึ้นจะมีการเชิญชวนทุกภาคส่วนมาร่วมหารือ เพราะโรดแม็พนี้ไม่ได้เป็นการต่อรองระหว่างรัฐบาลและแกนนำ นปช. อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมหารือ ดังนั้นถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่รับ นายกฯ ก็บอกว่าจะไม่เจรจาอีกต่อไป เพราะคำตอบเหล่านี้มีความชัดเจนอยู่ในตัว โดยใน 1-2 วันนี้ นายกฯ จะเชิญทุกภาคส่วนมาร่วมหารือ เช่น กลุ่มคนเสื้อหลากสี ภาคประชาชน เพื่อทำความเข้าใจกับข้อที่ไม่เข้าใจของประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม นายอภิสิทธิ์ได้ชี้แจงถึงความจำเป็นที่ต้องประกาศโรดแม็พเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ต่างๆ เพราะทราบมาว่าในที่ชุมนุมมีกองกำลังผู้ติดอาวุธและว่าจ้างคนในชุมนุมบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิงมานั่งโดยรอบที่ประชุม ซึ่งหากมีการสลายการชุมนุมและเกิดการสูญเสีย โดยเฉพาะกับเด็กและผู้หญิง เชื่อว่าสังคมคงจะยอมรับไม่ได้ แม้แต่ตนเองก็คงจะอยู่ในสังคมไม่ได้ ทางออกทั้ง 5 ข้อนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด และยืนยันว่าจะไม่มีการนิรโทษกรรม แม้แต่ในส่วนของกองทัพและรัฐบาลเอง เพราะมั่นใจว่ากองทัพซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายและมีหลักฐาน นับเป็นครั้งแรกที่มีการสลายการชุมนุมทางการเมืองที่มีผู้บาดเจ็บล้มตาย แต่ก็ไม่มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม
"หากเสื้อแดงชุมนุมต่อโดยไม่รับข้อเสนอของผมผมก็ไม่สนใจ เมื่อได้ยื่นข้อเสนอไปแล้วและยืนยันที่จะบริหารประเทศต่อไป และปล่อยให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ขอยืนยันว่าจะไม่มีการยุบสภา" แหล่งข่าวอ้างคำพูดนายกฯ
แหล่งข่าวยังอ้างคำพูดนายนายบัญญัติว่า ขอให้เป็นผลประโยชน์ของประชาชนและสังคมด้วย ไม่เช่นนั้นเผลอๆ รัฐบาลอาจจะอยู่ไม่ได้ ดีไม่ดีอาจอยู่ไม่ถึง 4 เดือนด้วยซ้ำ โดยเฉพาะกลุ่มที่สนับสนุนพรรคอย่างกลุ่มเสื้อหลากสีที่สนับสนุนพรรคออกมาร่วมปกป้อง ทุกวันนี้เรากลับไม่ดูแลอะไรเขาเลย
เที่ยงวันเดียวกัน ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณากระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรีเรื่อง การแก้ไขวิกฤติการเมืองตามข้อเสนอ 5 ข้อ โดยนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเสนอโรดแม็พของนายกฯ 5 ข้อนั้นจะทำอย่างไรให้ชัดเจน
ส.ส.ผู้นี้วิตกกังวลว่า จะมีโรดแม็พซ้อนโรดแม็พอีกฉบับของท่านที่มีการพูดว่า พล.อ. ป จะขึ้น ผบ.ทบ.คนใหม่ ก็เป็นเงื่อนปมอีกเรื่องหนึ่ง คนไม่เชื่อมั่นว่าคนที่ทำผิดจะไม่ถูกลงโทษ เพราะการจะปล่อยให้บุคคลต่างๆ ออกมาอย่างนี้ หากจะเคลียร์เรื่องแล้ว ขออย่าได้ตั้งบุคคลที่เกี่ยวกับการสังหารหมู่ประชาชนขึ้นเป็น ผบ.ทบ.
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ตอบกระทู้ว่า ภาพรวมแผนได้รับการตอบสนอง นปช.ก็ตอบรับ แต่ยังมีเงื่อนไขไม่ยุติการชุมนุม เรารอดูจะตอบรับหรือไม่ ส่วนเสื้อหลากสีก็ไม่ยอมรับแผน ตนก็จะเชิญตัวแทนเสื้อหลากสีมาพูดคุยในวันพรุ่งนี้ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็กำลังทำความเข้าใจว่าแผนนี้คืออะไร ไม่ใช่ปรองดองรัฐบาลกับคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด แต่เป็นความปรองดองของคนทั้งประเทศ
นายกฯ ยังกล่าวว่า ในทางปฏิบัติการเลือกตั้งใหม่ที่ประกาศว่าจะเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย.นั้น การจะเลือกตั้งได้ต้องทำหลังจากมีการยุบสภาไม่น้อยกว่า 45 วัน และไม่เกิน 60 วัน ซึ่งก็จะเกิดในครึ่งเดือนหลังเดือนกันยายน
"5 เรื่องที่เสนอผมคิดว่าครอบคลุม ถ้ามันง่ายคงไม่สะสมมา 4-5 ปี ประเด็นที่ผมเสนอเป็นเรื่องที่ต้องเกิดความสงบทางการเมืองจริงๆ เช่น ถ้าผมไปอีสานแล้วเกิดเหตุรุนแรงขึ้นจะมาบอกว่าไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เป็นแดงเทียม มันไม่ได้ ถ้าต้องทำงานตามข้อเสนอของผมถือว่าเราทำงานร่วมกันแล้ว ถ้าเป็นไปตามนี้เป้าหมายก็คือเลือกตั้ง 14 พฤศจิกายน จะยุบเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยในช่วงเดือนกันยายนด้วย"
ทหารไม่คิดนิรโทษกรรมตัวเอง ส่วนเรื่อง ผบ.ทบ.นั้น นายอภิสิทธิ์ชี้แจงว่า สิ่งที่เราเคยเห็นในอดีตคือเมื่อเกิดเหตุการณ์สูตรสำเร็จคือการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งทุกเหตุการณ์ แต่วันนี้กองทัพมีจุดยืนที่ชัดเจน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ระบุว่ากองทัพมีเอกภาพและพูดชัดว่าจะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และทุกคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย หลังวันที่ 10 เม.ย. พล.อ.อนุพงษ์พูดว่าไม่มีความจำเป็นต้องออกนิรโทษกรรม เพราะกองทัพมั่นใจว่าทำถูกกฎหมาย และไม่ต้องการนิรโทษกรรมผู้ก่อการร้ายทุกเหตุการณ์ ดังนั้นกระบวนการนี้ตนให้ความมั่นใจได้ถึงความเป็นธรรมที่จะเกิดขึ้น
ต่อมา 15.00 น. นายอภิสิทธิ์ตอบข้อซักถามกับบรรดาอินเตอร์ชิพพรรคประชาธิปัตย์ รุ่นที่ 8 ในโครงการให้ความรู้และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนทางการเมือง ที่รัฐสภา มีคำถามเรื่องการยุบสภา ซึ่งนายอภิสิทธิ์ตอบว่า "อันนี้ทราบดี เพราะมีประสบการณ์ที่บ้านอยู่บ่อยๆ แต่เราก็ต้องเดินหน้าทำความเข้าใจ หลายคนเมื่อทำความเข้าใจแล้วก็ดีขึ้น เรียนตรงๆ ว่าผมก็เจอเฉพาะ SMS อย่างเดียวก็แย่แล้ว เขาส่งมาว่า ไอ้เฮงซวย เคยสนับสนุนมึง ตรงนี้ผมได้โทร.กลับไปพูดด้วย 2-3 คำ ทุกอย่างก็ดีขึ้น ส่วนใหญ่มีโทร.กันมาเป็นร้อยคน เท่าที่ผ่านมาดูเหมือนจะมีคนเดียวที่ไม่พอใจ ที่เหลือเข้าใจมากขึ้น"
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวว่า ในแง่ของการรักษากฎหมายส่วนบางคนก็หงุดหงิดบอกว่าพวกก่อการร้าย คำถามก็คือว่าถ้าเรารักประชาธิปไตย เราบอกว่ารักษากฎหมาย เราเจอผู้ก่อการร้ายเราจะทำอะไร ผมยังไม่เห็นกฎหมายมาตราไหนอนุญาตให้ผมส่งคนเข้าไปยิงผู้ก่อการร้ายทิ้ง สุดท้ายก็ต้องจับกุมแล้วดำเนินคดีผ่านกระบวนการผ่านศาล ผมว่าข้อเสนอผมจะสามารถทำให้เราจับกุมหลายคนที่ก่อการร้ายได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องมีเด็กและผู้หญิงมาล้อมหลายคน
ถามว่า เมื่อนายกฯ ตัดสินใจยุบสภาแล้วมีความมั่นใจแค่ไหนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาเป็นรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องการจะให้ยืนยันนั้นตนตอบไม่ได้ เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้งไม่มีอะไรแน่นอน รู้แต่ว่าตนไม่ได้ตั้งใจยุบสภาไปเป็นฝ่ายค้านแน่ ตรงนี้ก็ต้องสู้การเมืองในที่สุด แล้วก็ต้องไปสู้การที่เลือกตั้งไม่ปีนี้ก็ปีหน้า ดังนั้นพรรคก็จะเตรียมการให้ดีที่สุด ก็จะเป็นหน้าที่พรรคการเมืองต้องมีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า การหาเสียงครั้งหน้าจะมีความปลอดภัยในการหาเสียงหรือไม่ และคิดว่าวันนี้ประสบความสำเร็จหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สำหรับตนแล้วจะมีชีวิตยาวอีกสักระยะ และการที่ถามว่าประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วหรือยัง ตนคิดว่าต้องอยู่อีกสัก 20-30 ปีคงจะตอบได้ ตั้งใจว่าชีวิตคงไม่สิ้นสุดลงที่การเมือง ตอนนี้อายุ 46 ปี และเมื่ออายุ 50 ปีต้นๆ จะเริ่มคิดถึงอาชีพอื่นได้ ส่วนการหาเสียงจะปลอดภัยหรือไม่ คงไม่ต้องไปถึงหาเสียง ทุกวันนี้ก็มั่นใจอยู่แล้วว่าชีวิตไม่ปลอดภัย แต่จะทำอย่างไรได้ เมื่อมันเป็นแบบนี้เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด กลัวก็ไม่ได้ แต่ไม่ควรประมาท
นายธนวัฒน์ วาหะรักษ์ อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 2 คณะรัฐศาสตร์สาขาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เผยว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ได้ได้ส่งข้อความไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือของนายกรัฐมนตรีในเวลา 22.54 น. เนื่องจากผิดหวังในการแก้ปัญหาการชุมนุมของกลุ่ม นปช. โดยข้อความที่ส่งไประบุว่า "เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าทักษิณคือทรราชขายชาติ แต่พอเห็นท่านนายกฯ ตัดสินใจแบบนี้หมดเลย ซึ่งความศรัทธา ระวังท่านจะกลายเป็นทรราชคนต่อไปทำไมไม่จัดการให้เด็ดขาด ช่วยตอบหน่อย"
"มาร์ค"ครวญถูกบีบ เขาบอกว่า จากนั้นเวลา 23.08 น. ก็ได้รับโทรศัพท์จากนายกรัฐมนตรีซึ่งโทร.กลับมา ซึ่งยืนยันว่าเป็นเสียงของนายกรัฐมนตรีจริงๆ "ท่านย้ำว่าขณะนี้ท่านถูกกดดันจากทุกฝ่ายอย่างหนัก โดยเฉพาะจากอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ที่พยายามล็อบบี้ ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงขั้วรัฐบาล ซึ่งท่านถูกบีบคั้นมาก ท่านจึงจำเป็นต้องตัดสินใจหาทางแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด และเพื่อที่จะให้มีโอกาสได้ตั้งหลักและหายใจได้บ้าง"
สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นไปอย่างเงียบเหงาเนื่องจากมีฝกตกลงมา จึงทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องหลบอยู่ภายในเต็นท์และใต้มุมตึกอาคารห้างร้าน ขณะที่บนเวทีปราศรัยทางแกนำ นปช.ได้มีการสลับผลัดเปลี่ยนขึ้นบนเวทีเพื่อกล่าวโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศความชัดเจนในประกาศวันยุบสภา
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. แถลงภายหลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติเห็นด้วยกับแนวทางปรองดองตามที่นายอภิสิทธิ์เสนอว่า เมื่อท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ออกเป็นเช่นนี้ นปช.พร้อมที่จะเริ่มต้นนับสองในกระบวนการหาทางออกเพื่อความปรองดอง และคิดว่าวันนี้แกนนำ นปช.จะมีการหารือกันถึงแนวทางที่จะนำไปสู่บทสรุปในการคลี่คลายสถานการณ์ แต่อาจยังไม่ข้อสรุปเบ็ดเสร็จในวันนี้ เพราะต้องใช้เวลา เช่นเดียวกับรัฐบาลที่จะมีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 7 พ.ค.
เลขาธิการ นปช.กล่าวว่า เรื่องการกำหนดวันยุบสภา แกนนำ นปช.ต้องมีการหารือกันว่าเรื่องนี้จะมีความจำเป็นที่ต้องมีการกำหนดวันที่แน่นอนหรือไม่ ถ้ารัฐบาลมีเหตุผลและอธิบายเรื่องนี้อย่างไรก็ว่ามา ทางแกนนำ นปช.จะได้มีการนำไปหารือกัน
ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวิตผ่าน twitter ในชื่อ @thaksinlive เมื่อเวลา 15.25 น. ที่ผ่านมาว่า "มีประเด็นว่าการปรองดองทำไม่ได้ เพราะต้องมาถามผม ก็ขอพูดชัดๆ ว่าผมเรียกร้องให้เกิดความปรองดองมานานแล้วตั้งแต่มีการปฏิวัติใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง
จนถึงปัจจุบันก็ยืนยันอยากให้เกิด ยิ่งเรียกร้องผมก็ยิ่งถูกรังแกมาตลอด แต่ไม่เคยเปลี่ยนใจ แต่จะปรองดองได้อย่างไรก็ต้องคุยกับแกนนำเสื้อแดงโดยตรง ผมมีเพียงแค่ให้คำปรึกษาที่จะให้เกิดความปรองดอง ที่มีความตั้งใจจริงและจริงใจต่ออนาคตประเทศ ไม่ใช่คอยเอารัดเอาเปรียบกัน
ส่วนความไม่ยุติธรรมที่ผมและพี่น้องที่ถูกฆ่าถูกทำร้าย ถ้าไม่สามารถแสวงหาความเป็นธรรมในประเทศได้ เราก็จะขอใช้เวทีโลกต่อสู้จนกว่าความเป็นธรรมจะเกิด ไม่มีคำว่ายอมแพ้ครับ"
ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) อาทิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายพิภพ ธงไชย, นายสำราญ รอดเพชร, นายศิริชัย ไม้งาม, นายศรัณยู วงศ์กระจ่าง, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า, นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงาน และนายปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ โฆษกฯ ร่วมกันออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 9 ประณามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการปรองดองกับขบวนการก่อการร้ายของรัฐไทยใหม่
พล.ต.จำลองยืนยันว่า การออกมาของพันธมิตรฯ ไม่ได้ไล่นายอภิสิทธิ์ แต่เผื่อไว้ว่าถ้าไม่ฟังความเห็นกันก็ควรที่จะลาออกไป ซึ่งพันธมิตรฯ เองก็ยังไม่ได้คิดว่าจะเอาใครมาเป็นนายกฯ แทน แต่ตนเห็นว่าเมื่อดำรงตำแหน่งแล้วประเทศชาติล้มเหลวก็ต้องออกไป ยืนยันว่ารัฐจะต้องปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งต้องยอมรับว่าหลังจากที่นายกฯ ประกาศแผนดังกล่าว ทำให้ทหารหมดกำลังใจลงไปมาก และไม่พร้อมที่จะออกไปจัดการ เพราะนายกฯ ทำอะไรแบบกล้าๆ กลัวๆ
ด้านนายสมศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่กลับปล่อยให้มีการละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจน แล้วอยู่ๆ จะมาปรองดองเจรจาลับๆ ระหว่างตัวแทน พ.ต.ท.ทักษิณและตัวแทนของรัฐโดยจะมานิรโทษกรรมทางการเมือง เป็นการปล่อยปละละเลย จึงขอให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมาย
ปัดเอี่ยวการเมืองใหม่ "ถ้านายกฯ ยอมปรองดองกับขบวนการติดอาวุธ อีกหน่อยก็คงมีคนติดอาวุธมาชุมนุมเรียกร้องได้ทั้งนั้น ซึ่งอะไรที่เป็นเรื่องผิดกฎหมายนี่ต้องจัดการ" นายสมศักดิ์กล่าว และว่า ข้อเสนอดังกล่าวนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งพรรคพร้อมที่จะลงเลือกตั้งเสมอ
ส่วนนายพิภพกล่าวว่า ขณะนี้นายกฯ กำลังทิ้งประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลมาตลอดเพื่อสู้กับระบอบทักษิณ อยู่ๆ นายกฯ กลับมาปรองดอง ซึ่งแผนปรองดองแห่งชาติในข้อ 1-4 นั้น เป็นสิ่งที่ควรทำมาตั้งแต่สมัยจัดตั้งรัฐบาลแล้วก็ไม่ทำ ตนเชื่อว่าตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 14 พ.ย. ก็จะไม่สามารถทำได้ เพราะปัญหาต้องแก้ไขระยะยาว
"นี่เป็นเพียงแค่คำประกาศที่สวยหรู ส่วนในข้อ 5 นั้น ดูเหมือนว่ามีการตกลงระหว่างรัฐบาลและพรรคพวกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นใจความทั้งหมดของข้อตกลงในการนิรโทษกรรม นายกฯ จะต้องชี้แจงและอธิบายให้ชัดเจนว่า เป็นข้อตกลงในการเจรจาลับหรือไม่" แกนนำ พธม.ผู้นี้กล่าว
นายสุริยะใสกล่าวว่า ขณะนี้พันธมิตรฯ ยังไม่กำหนดเวลาเพื่อรอคำตอบของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งการประณามนายกฯ ในครั้งนี้ก็ถือเป็นเรื่องรุนแรงที่สุดแล้วสำหรับรัฐบาลชุดนี้
สำหรับแถลงการณ์ พธม.มีทั้งสิ้น 6 ข้อ มีสาระสำคัญว่า รัฐบาลจะต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ มิใช่ไปเจรจาปรองดองยอมจำนนกับขบวนการก่อการร้ายของรัฐไทยใหม่อยู่ในขณะนี้ การประกาศว่าจะให้ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พ.ย.นั้น ถือเป็นการทำลายกระบวนการปฏิรูปประเทศและทำลายกระบวนการยุติธรรมหลักนิติรัฐอย่างย่อยยับ
ทำให้นักการเมืองจะสนใจแต่การแย่งชิงอำนาจในการเลือกตั้ง ทำให้ข้าราชการจะไม่ทำหน้าที่ในการเอาคนทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองมาลงโทษ ทั้งกลุ่มอันธพาลทางการเมืองที่ติดอาวุธ ขบวนการก่อการร้าย และขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ขบวนการสื่อการเมืองเพื่อโค่นล้มอำนาจฝ่ายตรงกันข้าม จะทำให้บรรยากาศนับตั้งแต่วันประกาศวันยุบสภา วันเลือกตั้ง และหลังการเลือกตั้ง จะกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ไร้ขื่อแป
หลังท่าทีของ พธม.ออกมาเช่นนี้ ทำให้คนเสื้อแดงต้องรอดูท่าทีนายกฯ อีกครั้ง โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.แถลงว่า แต่เดิมแกนนำ นปช.มีแผนที่ประชุมกันวันนี้ เพราะคิดว่ารัฐบาลจะนับหนึ่งเสร็จ แต่ทว่ามีการคัดค้านของกลุ่ม พธม. ถึงขั้นที่นายอภิสิทธิ์ต้องเชิญเข้าพบเช่นเดียวกับกลุ่มคนเสื้อหลากสีและพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้การประชุมของเราต้องขยับออกไปอีกอย่างน้อย 1 วัน เพราะนายกฯ ยังนับหนึ่งไม่เสร็จ เมื่อท่าทีของรัฐบาลยังไม่ชัดเจน สิ่งที่เราทำคือรอต่อไปเพื่อให้นายกฯ ไปทำความเข้าใจกับหลายฝ่ายในส่วนของรัฐบาลก่อนที่จะมาเริ่มต้นกระบวนการของเราต่อไป
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า หากต้องการให้ทุกอย่างยุติลงหลังกระบวนการของรัฐบาลกับคนเสื้อแดงเสร็จสิ้น ก็ควรมีผู้ใหญ่สักคนเป็นคนกลาง แล้วให้พันธมิตรฯ นปช. พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และทุกพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงกองทัพ จะต้องมาลงสัตยาบันร่วมกันว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้งของประชาชน หากประชาชนเลือกพรรคการเมืองไหนก็ต้องให้สิทธิพรรคการเมืองนั้นบริหารประเทศ
นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า หลังจากยุติการชุมนุม จะขอใช้ชีวิตส่วนตัวบ้าง โดยจะพาครอบครัวไปพักผ่อน พร้อมกับตั้งใจว่าขอลาอุปสมบทเป็นเวลา 19 วัน หลังจากไปบนไว้ที่วัดป่าเรไร จ.สุพรรณบุรี ไว้แล้วว่าหากการชุมนุมได้รับประชาธิปไตยจริงก็จะลาบวช และตนคาดว่าจะลงสมัคร ส.ส. แต่ขอเป็นระบบปาร์ตี้ลิสต์
ปูดแกนนำแดงถูกซื้อตัว การเปลี่ยนท่าทีมารับแผนปรองดองของคนเสื้อแดงนี้ แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยระบุว่า กระแสข่าวสะพัดว่าสามเกลอได้รับน้ำเลี้ยงจำนวนมากจากการชุมนุมในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะยอดเงินบริจาคที่ไม่มีการแจ้งยอดหรือวัตถุประสงค์การใช้จ่าย จนสร้างความเคลือบแคลงใจให้กับแนวร่วมบางส่วน นอกจากหลายฝ่ายเห็นว่าช่วงหลังสามเกลอมีท่าทีเปลี่ยนไป แกนนำบางคนไม่มีอะไรมาก่อน แต่วันนี้เหมือนดินสู่ดาว
และยังมีข่าวว่า ช่วงหลังมีแกนนำ นปช.บางรายถูกซื้อตัวจากฝ่ายรัฐบาล เพียงแต่รัฐบาลไม่ได้ซื้อโดยตรง อาจประสานผ่านทางพ่อค้านักธุรกิจ กลุ่มทุนขนาดใหญ่ เห็นได้จากก่อนการชุมนุมใหญ่แกนนำบางคนที่เคยเดินสายตรวจสอบการถือครองที่ดินขององคมนตรีและเครือข่ายอำมาตย์ รวมถึงกลุ่มทุน โดยพุ่งเป้าไปที่การรุกป่าใน จ.เลย ที่เกี่ยวพันกับบริษัทน้ำเมาชื่อดังและองคมนตรีบางคน แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป ไม่มีการตรวจสอบเหมือนกรณีการออกมาโจมตีกรณีการรุกที่เขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา และเขาสอยดาว จ.จันทบุรี
นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในคดียิงกลาโหมนั้นคุ้นหน้ากันมาก คนพวกนี้ได้เคยมาเสนอกับตนให้ใช้แนวการก่อวินาศกรรมหลังเวที ตนได้ตักเตือนไปว่ารับไม่ได้กับวิธีนี้ เมธีที่ถูกจับเขาก็ไม่ได้เข้าใจการต่อสู้ ทำไปโดยความรู้สึกของตัวเอง ได้มีการตักเตือนอยู่ตลอดเวลา ทำกันอย่างอิสระทั้งนั้น อย่างสุชาติ นาคบางไทร ที่โดนคดีหมิ่นตนยังเคยเตือน ชูชีพ ตนยังเตือนแต่กลับถูกสวน มาเวลานี้อย่ามัวตั้งแง่ 3 เกลอแค่ต้องการอธิบายให้ประชาชนเพื่อหาทางลงให้ชัดๆ เท่านั้น หากยังเป็นเช่นนี้อยู่ต่อไป 3 เกลอจะนำพากันไปลงเหวเท่านั้นเอง
เวลา 16.30 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำ พธม. พร้อมด้วยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรฯ ได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ที่รัฐสภา โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา คนสนิทนายกฯ และรัฐมนตรีคนอื่นเข้าร่วมหารือด้วย โดยใช้เวลาหารือกว่า 2 ชั่วโมง
จากนั้น นายปานเทพกล่าวว่า ได้หารือถึงภาพรวมเพื่อชี้แจงในจุดยืนของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา โดยเฉพาะที่จะนำไปผูกกับการปฏิรูปประเทศ ซึ่งนายกฯ ได้ยืนยันแล้วว่าจะยึดถือคำพูดเดิมว่าจะไม่มีการนิรโทษกรรม หรือการจับมือเพื่อตั้งพรรคร่วมรัฐบาล จะยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไปนั้นคงต้องขอมติภายในกลุ่มพันธมิตรฯ อีกครั้ง เรายังคงยืนยันขอให้นายกฯ ทบทวนกรอบเวลาและกระบวนการที่จะไปเจรจากับกลุ่มที่มีปัญหา รวมถึงเรื่องการเจรจาในผลประโยชน์ของนักการเมืองกันเอง ซึ่งนายกฯ ได้ยืนยันว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้ฝ่ายใดทั้งสิ้น
ด้านนายพิภพกล่าวว่า ที่มาวันนี้ไม่ใช่มาเจรจา แต่มาเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นทั้งสองฝ่าย เคารพความเห็นซึ่งกันและกัน นายกฯ ไม่ได้ก้าวก่ายความเห็นของพันธมิตรฯ เพียงแต่เรามาขยายความถึงความกังวลใจ
ด้านนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนที่มีการแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมเพราะหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกแถลงการณ์ในวันนี้นั้น ตนคิดว่าบางครั้งมันอยู่บนข้อมูลที่คลาดเคลื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่าแผนปรองดองเขียนไว้ว่าอย่างไร และสำคัญกว่านั้นคือ ตนมีเจตนาอะไรในการเสนอแผนนี้ จึงมีการแลกเปลี่ยนกัน และคิดว่ากลุ่มพันธมิตรฯ คงเข้าใจมากขึ้น
"ในส่วนของผู้ชุมนุมนั้น ผมคิดว่าไม่มีประเด็นใดๆ เพิ่มเติมแล้ว เพราะผมสร้างความชัดเจนไปแล้ว และวันนี้ผมตอบกระทู้ของพรรคฝ่ายค้านที่ตอบชัดเจนแล้ว และหวังว่าหากเข้าสู่กระบวนการปรองดองจริงต้องยุติการชุมนุมโดยเร็ว"
เมื่อถามว่า ตอนนี้สถานการณ์ชุมนุมอาจยืดเยื้อแล้วและใกล้ถึงวันที่ 15 พ.ค.ตามที่แกนนำ นปช.ประกาศมอบตัวนั้น รัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายก่อนหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า วันที่ 15 พ.ค.มันนานไปแล้ว เมื่อใดที่ชัดเจนว่าไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกระบวนการนั้น ตนจะถือว่าการที่ตนเสนอเรื่องยุบสภานั้นเป็นอันยกเลิกไป และตนก็ทำในส่วนอื่นๆ ของโรดแม็พ 5 ข้อ และการบังคับใช้กฎหมายก็เดินต่อไป
ถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าที่เสื้อแดงประวิงเวลาในขณะนี้ เพราะต้องการขนอาวุธสงครามออกจากพื้นที่ชุมนุม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจอยู่ ฉะนั้นเรื่องอาวุธอย่างไรก็ต้องถูกตรวจ
นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี กล่าวว่า การยุบสภาในเวลาอันรวดเร็วภายใต้แรงกดดันของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่คณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เสนอมาทั้ง 6 ข้อนั้นล้วนแต่เป็นประโยชน์ของนักการเมืองทั้งสิ้น ส่วนคนเสื้อแดงขาดความชอบธรรมที่จะมากำหนดอะไร เพราะคนที่ทำผิดกฎหมาย การเสนอยุบสภาเพียงต้องการได้อำนาจคืนมา เพื่อถ่ายโทษให้ทักษิณเท่านั้น ไม่อยากให้นายกฯ ทำตามความต้องการของคนที่ทำผิดกฎหมาย และไม่ทราบว่าที่นายกฯ ประกาศยุบสภาในเวลาอันรวดเร็วเป็นการฮั้วกับกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่
ที่เวทีราชประสงค์ ช่วงค่ำมีการขึ้นเวทีปราศรัยของแกนนำ นปช.ที่น่าสนใจคือนายนิสิต สินธุไพร ประธานโรงเรียน นปช. กล่าวว่า นับจากนี้เสื้อแดงได้ทำโครงการ 1 ตำบล 1 รถปิกอัพ ขึ้นเพื่อให้คนเสื้อแดงจากแต่ละหมู่บ้านตำบลมาร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์อย่างต่อเนื่องไม่เลิกจนกว่าจะมีความชัดเจนเรื่องวันยุบสภา พร้อมกับให้ทุกหมู่บ้านคนเสื้อแดงทำผ้าป่าระดมทุนคนเสื้อแดง โดยในวันศุกร์ที่ 7 พ.ค.นี้จะเริ่มจากขอนแก่นที่จะมีรถปิกอัพ 500 คันแล่นเข้าราชประสงค์ในเวลา 11.00 น.เป็นแห่งแรก เรียกว่า "ขอนแก่นโมเดล" จากนั้นจะตามด้วยจังหวัดต่างๆ เช่น อุดรธานี ร้อยเอ็ด
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้การเจรจาระหว่างแกนนำเสื้อแดงกับฝ่ายรัฐบาลมีความพยายามประสานงานกันมาตลอดหลังจากการเปิดโต๊ะเจรจารอบสองล้มไป โดยก่อนหน้าที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะแถลงโรดแม็พเมื่อกลางดึกวันที่ 3 พ.ค.53 ฝ่ายเสื้อแดงมอบหมายการเจรจาให้กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รวมถึงทีมงานการเมืองของ พล.อ.ชวลิต ที่ทำการเจรจากับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ อย่างต่อเนื่องถึงกรอบข้อตกลงต่างๆ โดย พล.อ.ชวลิตและ พ.อ.อภิวันท์จะแจ้งความคืบหน้าให้กับนายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นหลัก แต่ช่วงหลังการเจรจาสะดุดลงชั่วคราวหลัง ศอฉ.มีการทำเอกสารแผนผังเครือข่ายล้มเจ้าที่มี พล.อ.ชวลิตรวมอยู่ด้วย ทำให้ พล.อ.ชวลิตและแกนนำเสื้อแดงไม่พอใจมาก และการเจรจาสะดุดลงไปช่วงหนึ่ง จนกระทั่งสุดท้ายนายอภิสิทธิ์ได้ออกโรดแม็พดังกล่าวออกมา
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในช่วงเย็นวันที่ 6 พ.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับแกนนำ นปช.บางคนเพื่อสอบถามท่าทีของแกนนำว่าจะเอาอย่างไร หากสลายการชุมนุมแล้วมวลชนคนเสื้อแดงจะเอาด้วยหรือไม่ โดย พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า ทุกอย่างให้แกนนำตัดสินใจได้เลย ขอเพียงการเจรจาทุกอย่างต้องชัดและเคลียร์ อย่าให้คลุมเคลือในข้อกฎหมายและเงื่อนเวลา เช่น ช่วงเวลาการยุบสภากับคดียุบพรรค และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกับสอบถามเรื่องจำนวนผู้ชุมนุมว่ามีมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน จนทำให้ในช่วงค่ำมีการผุดโครงการ 1 ตำบล 1 รถปิกอัพ.
http://www.thaipost.net/node/21876