ทุกวันนี้คนปินส์ เรียกสั้นดีกว่านะ เพราะชาวปินส์เขาชอบพูดสั้นๆค่ะ
เหมือนคนไทยโดยเฉพาะคนไทยภาคใต้ที่เป็นชาวเกาะ จะตัดคำพูดยาวๆออกไป
เช่น ดาร์ลิ๋ง ก็เรียก ลิ๋ง
เชอรี่ ก็เรียก รี่
ประภาศรี คงเรียก ศรี..... หุๆๆๆ ....เชยจังเลย น้องๆอย่าเรียก"พี่ศรี" เชียวนา
ณ.วันนี้คนปินส์ จะจนกว่าคนไทย คนปินส์ต้องดิ้นรนทำมาหากินมากกว่า
ที่เขาจน เพราะ brain drain ส่วนหนึ่ง คนเก่งๆ เรียนจบแล้วจะไปอยู่ประเทศอื่นกันหมด
เช่นแพทย์ เขา เรียนแล้วจะได้ licence ที่ทำงานในอเมริกา ได้
สอบ usmile ได้ง่ายๆ เพราะหลักสูตรเขาเป็นแบบเดียวกับอเมริกา
แพทย์ไทย นิยม อ่านว่า "ยูสะมาย"
แพทย์ไทยจะสอบได้ยากมาก พี่แอ๊ะยังเคยหัดทำข้อสอบ usmile.ในหนังสือของลูกเลยค่ะ
เรียกว่าไม่เจียมตัว ไม่เก่งแล้วยังทะลึ่งไปทำข้อสอบแพทย์อีก
แต่ก็ทำได้หลายข้อนะคะ หุๆๆๆๆๆวิศวกร พยาบาล และคนเก่งๆทั้งหลาย ออกนอกประเทศกันหมด
และที่สำคํญไม่เหมือนคนไทยนะคะ เมื่อไปอยู่ที่ไหนแล้วอยากกลับมาแก่และตายที่เมืองไทย
คนปินส์เขาจะไม่อยากกลับมาเจอความลำบากเเร้นแค้นอีกเลย
คนปินส์ นับถือศาสนา คริสต์นิกายนิกายคาทอลิก
ทำให้เป็นอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงของรัฐบาล ในการควบคุมประชากร
เขาจะไม่คุมกำเนิดกัน เพราะกลัวบาป
ผลที่ตามมา ก็คือประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ปินส์มีประชากร 92 ล้านคน
เพิ่มในอัตราสูงกว่า 2% ต่อปี
ถ้าเขารณรงค์ให้มี ลูกสองคน เหมือนประเทศไทย ประชากร จะไม่ขึ้นมามากอย่างนี้
คนปินส์บ้าอเมริกาเหมือนคนไทย หรือมากกว่า เพราะเขาตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่ง (สเปน และอเมริกา)
คนปินส์จะโกรธ และเกลียดญี่ปุ่นมาก
เพราะเขาเจ็บปวดจาก สงครามโลกคัรั้งที่สอง
ที่ญี่ปุนบอมบ์เขา และทรมานพวกเขา
ปัจจุบันเขาชอบจับคนญี่ปุนที่ไปท่องเที่ยว
จับไปเรียกค่าไถ่ แต่เขาไม่ฆ่า แต่เรียกเอาเงิน และสั่งไม่ให้บอกตำรวจ
ใครที่หน้าตาเหมือนญี่ปุ่น เช่นพี่สว.ชรินทร์ อย่าไปเชียวนา....
ภาพนี้เป็นภาพวันอาทิตย์ ที่เขาไปโบสถ์ แน่นโบสถ์เลยค่ะ โบสถ์เล็กมาก
ไม่เหมือนคนไทย มีวัดกว้างขวางมาก แต่ไม่ค่อยไปวัด กันเลยยยยยยยยยยยยย
พี่แอ๊ะ ยังไม่ชอบไปวัดเลย กลัวผีอ่ะ