= = = เวียตนาม เว้ ฮอยอัน ดานัง = = =

[yyswim]

95
อุ อุ เสียงจากข้างหลังของผม เริ่มบ่น...

“ใกล้ ทางออก หรือ ยัง ?”

[yyswim]

96
พื้นดินแบบนี้ น่าจะใกล้เคียงกับยุคสมัยนั้น

[yyswim]

97
เออ เขาจะหุงอาหาร ขับถ่าย หรือนอน กันยังไงนี่ ?

ที่ ที่เป็นของแต่ละครอบครัว อยู่กัน แคบมากๆ

ต้องนอนเบียดกัน ครอบครัวละประมาณ 3 คนด้วย

[yyswim]

98
เริ่มได้รับ ลมเย็น และอากาศสดชื่น

[yyswim]

99
โอ ข้างบน คือ สวรรค์บนดิน

อยู่ข้างล่าง อึดอัด และอับ


สำหรับผม..

ได้ไปเห็น น่ะ ชอบ แต่ให้ลงไปซ้ำ... ขอ ไม่ เอา ดีกว่า

เห็นใจ ชาวบ้านเวียตนาม ในสมัยนั้นมาก ... เขาอยู่กันข้างล่าง นานหลายปี

[yyswim]

ภาพที่ 100
ขณะนี้ รถบัสนำพวกเราเดินทางต่อไปยังเมืองเว้ 

เพื่อไปล่องเรือชมแม่น้ำหอมยามค่ำคืน

ฟังและชมดนตรีพื้นเมืองขับกล่อมบนเรือ หัวมังกรสองหัว





แล้วผมจะมาโพสต์ต่อครับ

ยังจะมีคนติดตามชม ไหมเนี่ย? ติดตามต้วมเตี้ยม น่าอายเค้าเนาะ...

จาก
http://yyswim.bloggang.com/

[prapasri AH]

พี่นภขา

ติดตาม  อยู่ค่ะพี่นภ คิดว่าหลายคนก็คง ตามติด ที่รูปที่พี่นภถ่ายรูปมาอยู่เช่นกัน

แอ๊ะตื่นเช้าก็รีบเข้ามาดูก่อนเลยค่ะ  thank you หลายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

[manopkd]

		อ้างถึง			ข้อความของ yyswim เมื่อ 10 กรกฎาคม 2552, 23:01:52
	68 เธอบอกรักจุฬา

ขอบคุณมากครับ พี่นภดล  ผมได้รับรูปห้องน้ำ ปตท.แล้วครับ ขอบคุณมากๆๆๆ ในความกรุณาของพี่ครั้งนี้ ครับ

พี่อย่าลืมโพสต์รูปแยะๆ นะครับ คุณน้องเก๋  ก็ติดตามดูอยู่ครับ และหลายๆท่านก็เฝ่าติดตามทุกวัน ว่าวันนี้พี่นภดล จะโพสต์รูปอะไร เล่าถึงเรื่องอะไรครับ  คุณน้องเก๋  แกไม่สามารถโพสต์ขอบคุณพี่นภดล และคุณเหยง  ได้ แต่บอกว่ารูปสวยมากค่ะ เก๋ไม่เคยถ่ายรูปได้สวยขนาดนี้ค่ะ  คุณน้องเก๋  ได้โทรศัพท์ไปหาน้องบิว และน้องอัน ให้เข้ามาดูรูปที่โพสต์ไว้  คุณน้องบิว ดีใจ ครับ
            ใครจะสวัสดีกับน้องเก๋  น้องอัน และน้องบิว  ที่นี่ก็ได้ครับ เพราะเธอติดตามอ่าน ครับ ขอบคุณมากๆๆๆๆ
 

[manopkd]

ขอบคุณมากครับพี่นภดล  ผมจำได้ว่า รูปบนเรือพี่ถ่ายไว้แยะ กรุณาโพสต์มากๆ นะครับ ผู้ชมกำลังติดตามชมอยู่ครับ และหลายรูป น้องบิวยิ้มสวย บนเรือครับ

[manopkd]

สวัสดี ยามเช้าครับ คุณประภาศรี - พี่หมอหาญ ที่รักและผู้มีน้ำใจงามครับ
                        เธอตื่นเช้าจังเลย ผมขอบังอาจแนะนำเธอ เช้าๆอย่างนี้ ลองเดินตามพี่หาญไปที่สนามเทนนิสซิครับ แต่เธอไม่ต้องตีเทนนิส หรอก เพียงแค่เธอไปเดินสูดอากาศยามเช้า อาจจะแกว่งแขนไปมาก็ได้ แสดงแดดยามเช้าเป็นแสงแดดที่มีประโยชน์ไม่ทำให้ผิวเสีย แต่จะทำให้ดูเปรงปรั่ง สวยงาม เธอตามพี่หมอหาญไปให้ได้สักสองอาทิตย์ ถือว่าไปเป็นเพื่อนแก  รับรองภายหลังจากนั้นเธอจะติดใจ แต่สองอาทิตย์แรก  จะทำร้ายจิตใจเธออย่างมาก ต้องพยายามคิดว่า เธอต้องไปคุมพี่หาญ และเป็นเพื่อนพี่หาญที่แสนรัก  ถ้าผ่านสองอาทิตย์แรกไปแล้ว รับรองเธออยากไปเดินยามเช้าทุกวัน เพราะร่างกายเธอจะดีขึ้นเลื่อยๆ เดินเหิรคล่องแคล้ว สุขภาพแข็งแรง หายใจโล่งสดชื่น และเธอจะสุขใจ ครับ
                                     เป็นห่วงเธอจริงๆ  ยาก็คือสารเคมีชนิดหนึ่งที่แปลกปลอมเข้าไปในร่างกายเรา  ถ้าเราอ่อนแอ อาจจะแสดงอาการก็ได้ แต่การเดินออกกำลังกายยามเช้า มันเป็นเรื่องของธรรมชาติ ย่อมเป็นผลดีกว่าไหนๆ และไม่ต้องเสียสตางค์ ครับ ขอบคุณที่เธอติดตามอ่าน จนจบ ครับ

[เหยง 16]

16 วัดเทียนมู่



วัดเทียนมู่ เป็นวัดในพระพุทธศาสนา นิกายเซน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหอม มีเจดีย์แปดเหลี่ยม สูงลดหลั่นกัน 7 ชั้นเป็นเอกลักษณ์
เมื่อเข้าวัดไป ทางซ้ายมีระฆังสำริดขนาดใหญ่ น้ำหนักประมาณ 2 ตัน ตั้งอยู่ หากตีแล้วอธิษฐานจะมีโชค ชื่อเสียงโด่งดัง แต่
ที่แน่ๆ คือเมื่อตีแล้ว เสียงระฆังดังกังวานดีมาก, ส่วนด้านขวา มีรูปเต่า ซึ่งผู้คนไปลูบหัวเต่าอธิษฐานขอพรให้มีอายุยืนเช่นเต่า
ดังเช่น 2 ผู้เฒ่า ที่ไปยืนลูบหัวเต่าอยู่ในขณะนี้ ทั้งๆที่ผู้เฒ่าคนหนึ่งบอกว่า ขออยู่เป็นโสด เพราะอีกไม่นานก็จะตายแล้ว
(ฟังและดูพฤฒิการณ์แล้ว จะเชื่ออย่างไรดี)

[เหยง 16]

17 วัดเทียนมู่

ตรงประตูทางเข้าวัดเทียนมู่ มีทวารบาล(เทพเฝ้าประตู) 2 องค์ที่ประตูทั้ง ด้านซ้ายและขวา





ซึ่งองค์ขวามือ เมื่อพิจารณาจากพระพักตร์ดำแล้ว น่าจะเป็นเทพกวนอู เทพแห่งความซื่อสัตย์ที่นับถือกันอย่างแพร่หลาย

[เหยง 16]

18 วัดเทียนมู่

ผ่านประตูใหญ่เข้าไปเจอเจดีย์แปดเหลี่ยม เจ็ดชั้น แล้วเดินอ้อมเข้าไปจะพบกระถางธูปสำริดขนาดใหญ่ตั้งหน้าวิหาร
ซึ่งสาธุชนได้จุดธูปบูชาถวายอยู่ตลอดเวลา การจุดธูปของที่นี้ มีทั้ง 1 ดอกบ้าง 3 ดอกบ้าง จุดเป็นกำมือบ้าง ไม่เคร่งครัดเช่นคนไทย



ผ่านกระถางธูปสำริด จะพบวิหารซึ่งมีสามเณรดูแลอยู่ ภายในมีองค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (เจ้าแม่กวนอิม) ตั้งกลาง
ด้านหลังจะมีพระพุทธรูป 3 องค์ ซึ่งองค์กลางคือ พระอมิตาภะพุทธเจ้า(ภาพอาจไม่ชัดเจน เนื่องจากแสงสว่างน้อยมาก)




ภาพนี้ น้องLaem ช่วยปรับแต่งให้ชัดเจนขึ้น
ข้อสังเกตุ- วัดทุกวัด หรือสถานที่ท่องเที่ยว จะไม่มีการใช้เครื่องขยายเสียงแบบของประเทศไทย ที่โฆษกหรือมัคทายก
จะพยายามใช้เสียงดังลั่น เชิญชวนผู้คนให้ทำบุญ แบบไม่เกรงใจและเป็นการรบกวนสมาธิของผู้มาแสวงบุญอย่างยิ่ง 

[เหยง 16]

19 วัดเทียนมู่



และเมื่อเดินอ้อมหลังวิหารไป เป็นสิ่งที่ชาวเวียตนามและพุทธศาสนิกชนมาเยี่ยมชมมากเป็นพิเศษก็คือ
รถยนต์เก๋งออสติน AUSTIN สีฟ้า ทะเบียน DBA 599 ซึ่งเป็นของอดีตเจ้าอาวาสวัดเทียนมู่ แห่งนี้
ซึ่งเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2506 ซึ่งอยู่ในช่วงวันวิสาขบูชา พระภิกษุดิ๊กกวางดึก เจ้าอาวาสวัดเทียนมู่
ได้ขับรถยนต์เก๋งออสตินคันนี้ไปยัง กรุงไซ่ง่อนหรือกรุงโฮจิมินห์ซิตี (ชื่อปัจจุบัน) ซึ่งเหล่าพระภิกษุและ
พุทธศาสนิกชนพากันไปประท้วง รัฐบาลของโงดินห์เดียม ส่วนใหญ่เป็นพวกที่นับถือคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
ที่ออกกฎห้ามชาวพุทธบำเพ็ญศาสนกิจ และชุมนุมกันตามวัด ด้วยกลัวจะปกครองไม่ได้และมีปัญหาต้อง
ทำการสลายฝูงชนชาวพุทธอยู่เป็นเนืองนิจ ผู้คนล้มตายจนฝังใจและประท้วงกันมาตลอด

ท่านเจ้าอาวาส ดิ๊กกวางดึก ขับรถยนต์ออสตินมาถึงย่านใจกลางเมืองในช่วงสายๆ หน้าสถานที่ชุมนุมประท้วง
ของชาวพุทธ จากนั้นท่านเปิดฝากระโปรงรถ ถ่ายน้ำมันจากรถมาราดตัวท่านแล้วจุดไฟเผาตัวเอง ในท่านั่ง
โดยไม่รู้สึกต่ออันตรายที่กำลังเกิดขึ้น



ไฟได้โหมไหม้ร่างกายของท่านจนหมด มรณภาพ ณ จุดนั้น แต่กลับเหลือหัวใจของท่าน ซึ่งต่อมาได้มีการนำ
หัวใจของท่านไปเก็บรักษาไว้ ส่วนรถยนต์ออสตินได้นำกลับมาเก็บไว้ในวัดเทียนมู่ เพื่อเป็นอนุสรณ์สืบมา

         

[เหยง 16]

20 วัดเทียนมู่

สิ่งหนึ่งที่บรรดานักทัวร์ทุกคน พากันเบื่อหน่ายก็คือ ห้องน้ำ ระหว่างเดินทาง ในสถานที่ท่องเที่ยว แม้กระทั่งในภัตตาคาร
คือ ห้องน้ำ ไม่เพียงพอเมื่อเทียบสัดส่วนของผู้เดินทางไปเยี่ยมชม หรือไปรับประทานอาหาร และขณะเดินทาง ไม่มีห้องน้ำ
ให้แวะทำกิจส่วนตัว แม้กระทั่งในบางปั้มน้ำมัน ก็มีห้องน้ำน้อยมาก

                               

ห้องน้ำหญิง มีน้อยมาก ความสะอาดไม่ต้องกล่าวถึง พื้นห้องแฉะนองไปด้วยน้ำตลอดเวลา ซึ่งที่วัดเทียนมู่มีห้องน้ำสาธารณะ
เพียงที่เดียวทั้งวัด สุภาพสตรีต้องยืนรอกันเป็นแถวยาว และหากห้องน้ำชายว่าง จึงเข้ามาใช้ได้ แต่บางสถานที่แสบมาก คือ
ห้องน้ำชาย มีแต่โถฉี่ ไม่มีห้องสำหรับถ่ายหนัก สุภาพสตรีเลยได้อดใช้ ในยามจำเป็น



อย่างไรก็ตาม เมื่อบอกกับคนขับรถทัวร์ที่พาเราตะลอนไปทั่วเวียตนามภาคกลางว่า "ฉิ้งฉ่อง" โชเฟอร์จะรู้ว่า เราต้องการเข้าห้องน้ำครับ

[เหยง 16]

21 วัดเทียนมู่


หลังจากเสร็จภาระกิจ การยืนรอคิวเข้าห้องน้ำในวัดเทียนมู่แล้ว คณะซีมะโด่งทัวร์ ก็เดินลงจากวัดมาได้เล็กน้อย
ก็พบกับแผงค้าเล็กๆ เข้า การต่อรองเพื่อซื้อ-ขาย ก็เกิดขึ้น ในขณะที่เดินออกมาตรงปากทางซอยตัดทางใหญ่
ก็มีร้านเล็กๆ ขายเต้าฮวยร้อน ถ้วยละ 10 บาท, หากต้องการเต้าฮวยเย็น ก็จะตักน้ำแข็งเติมให้ ซึ่งผู้ทานจะได้รส
เต้าฮวยร้อนไปสักสอง-สามช้อน จากนั้นพอน้ำแข็งละลาย ลิ้นก็เริ่มรับรู้กับเต้าฮวยเย็น รสชาติออกหวาน ทำให้
คณะซีมะโด่งทัวร์ ทานไปกันคนละ 2 ถ้วยเป็นส่วนใหญ่ ทั้งๆที่ อีกประมาณครึ่งชั่วโมงจะได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว

[เหยง 16]

22 เงินบาทไทย และการต่อราคาสินค้า

ส่วนใหญ่แล้ว เงินบาทไทยเป็นที่รู้จักและเชื่อถือของชาวเวียตนาม เช่นเดียวกับที่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และอาจรวมถึง
จีนแผ่นดินใหญ่บางแห่ง เช่น จูไห่ เซินเจิ้น ซึ่งสามารถใช้เงินบาทไทยซื้อของได้ การนำเงินบาทไทยไปใช้จึงสมควรย่อย
เป็นธนบัตรใบเล็ก เช่น 10 บาท(ที่นั่นยังมีใช้), 20 บาท-ควรนำติดตัวไปมากสักหน่อย, 100 บาท-เยอะได้, 500 หรือ 1,000 บาท
ในส่วนนี้ถ้าซื้อของย่อยหรือของราคาต่ำ ไม่ควรใช้ เพราะไม่มีทอนและอาจจะไม่ทอนให้ เหรียญ 5 และ 10 บาท ที่นั่นใช้ด้วยครับ
เข้าห้องน้ำสาธารณะ ครั้งละ 5 บาท หากเอาแบงค์ 100 บาทจ่าย เขาจะพยายามทอนให้เป็นเหรียญ 5 บ้าง 10 บ้าง จนครบ
เพราะเขาจะเก็บธนบัตรฉบับราคาสูงๆ ไว้เนื่องจากได้ราคา ส่วนคนไทยเราใช้ทุกอย่างจนเคย จึงไม่รู้สึก แต่มีบ้างที่ไม่ยอมรับ
เหรียญทอน อาจจะด้วยสาเหตุเดียวคือเพราะหนักกระเป๋า

ในเรื่องการต่อราคาสินค้า ที่บอกว่า ให้ต่อราคาอย่างน้อย 50% และต่อราคาลงไปอีกด้วยการกล่าวว่า "เบิร์ด-เบิร์ด แปลว่า ขอลดอีก"
นั้น ชาวเวียตนามรู้นิสัยคนไทยดีว่า ต้องต่อราคาและต่ออย่างหนัก หากไม่ถูกใจกลับไปจะนอนไม่หลับเป็นแน่ เขาจึงลดคุณภาพสินค้า
เพื่อให้สมกับราคาที่จะขายให้เรา ในทางกลับกัน หากแม่ค้าไทย เช่น สินค้า OTOP หรือสินค้าที่ระลึกหรือของฝากของจังหวัดต่างๆ
มาเจอนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่อราคาอย่างเอาเป็นเอาตาย แม่ค้าคนไทยจะอารมณ์เสีย โกรธผู้ซื้อกันหรือไม่ มีใครคิดถึงกันบ้างไหม     

[Leam]

ชมภาพ และ อ่านเรื่อง แล้ว......เหมือนได้ไปด้วยเลยครับ

ขอบคุณ.....พี่สิน...พี่สิงห์...พี่เหยง....และท่านอื่นๆที่ไม่ได้เอ่ยนามด้วยครับ

[Leam]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 11 กรกฎาคม 2552, 11:14:38
	22 เงินบาทไทย และการต่อราคาสินค้า ในเรื่องการต่อราคาสินค้า ที่บอกว่า ให้ต่อราคาอย่างน้อย 50% และต่อราคาลงไปอีกด้วยการกล่าวว่า "เบิร์ด-เบิร์ด แปลว่า ขอลดอีก" นั้น ชาวเวียตนามรู้นิสัยคนไทยดีว่า ต้องต่อราคาและต่ออย่างหนัก หากไม่ถูกใจกลับไปจะนอนไม่หลับเป็นแน่ เขาจึงลดคุณภาพสินค้า เพื่อให้สมกับราคาที่จะขายให้เรา ในทางกลับกัน หากแม่ค้าไทย เช่น สินค้า OTOP หรือสินค้าที่ระลึกหรือของฝากของจังหวัดต่างๆ มาเจอนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่อราคาอย่างเอาเป็นเอาตาย แม่ค้าคนไทยจะอารมณ์เสีย โกรธผู้ซื้อกันหรือไม่ มีใครคิดถึงกันบ้างไหม

พี่เหยง.....ครับ

ผมคิดว่า...สัดส่วนการกำหนดราคาต่อกำไร......แตกต่างกัน
ของไทยไม่บอกราคาเผื่อต่อมาก.....เหมือน เวียดนาม หรือ จีน
(ผมเคยซื้อกระเป๋าจากจีน......ซื้อได้ที่ราคา 30% ของราคาที่คนขายบอก,กลับมาเมืองไทยเจอของเหมือนกันเป๊ะเลย แถมยังราคาถูกกว่าที่ผมซื้อเล็กน้อย เลยเจ็บใจนิดๆ)

[pusadee sitthiphong]

อาจารย์เหยง
ป้อมขอลาโรงเรียนหนึ่งอาทิตย์
เขาให้ไปเรียนหนังสือที่หัวหิน
แล้วจะกลับมาอ่านต่อเน้อ
ชาวซีมะโด่งไปเที่ยวที่ไหนมีท่านพี่นพกับเหยงไปด้วย
คนไม่ได้ไปรู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยกันจริงๆอย่างน้องเขาว่าค่ะ
confirm

[manopkd]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 11 กรกฎาคม 2552, 09:10:25
	16 วัดเทียนมู่ วัดเทียนมู่ เป็นวัดในพระพุทธศาสนา นิกายเซน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหอม มีเจดีย์แปดเหลี่ยม สูงลดหลั่นกัน 7 ชั้นเป็นเอกลักษณ์ เมื่อเข้าวัดไป ทางว้ายมีระฆังสำริดขนาดใหญ่ น้ำหนักประมาณ 2 ตัน ตั้งอยู่ หากตีแล้วอธิษฐานจะมีโชค ชื่อเสียงโด่งดัง แต่ ที่แน่ๆ คือเมื่อตีแล้ว เสียงระฆังดังกังวานดีมาก, ส่วนด้านขวา มีรูปเต่า ซึ่งผู้คนไปลูบหัวเต่าอธิษฐานขอพรให้มีอายุยืนเช่นเต่า ดังเช่น 2 ผู้เฒ่า ที่ไปยืนลูบหัวเต่าอยู่ในขณะนี้ ทั้งๆที่ผู้เฒ่าคนหนึ่งบอกว่า ขออยู่เป็นโสด เพราะอีกไม่นานก็จะตายแล้ว (ฟังและดูพฤฒิการณ์แล้ว จะเชื่ออย่างไรดี)

สิ่งที่ผมอธิฐาน คือ ขอให้สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย  มีสมองปราดเปลื่องสามารถทำงานได้ประสพความสำเร็จ และมีเงินใช้สอยไม่ขาดมือ ครับ ไม่ได้ขอให้ร่ำรวย หรือ มีแฟนครับ

[prapasri AH]

สิงห์ คนดี จากประภาศรีคนงาม หุๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณมากที่แนะนำให้ฉันไปเดินตอนเช้า เพื่อเป็น เพื่อน เอ๊ย.."คุม" พี่หาญ

ตอนนี้ มี ลูกกะต้น กะลูก กระต๊อบ ไป"คุม"เเทนจ้า

ฉันตื่นเช้าได้ แต่จะให้ไปเดินตอนเช้า ฉันขี้เกียจ ฉันต้องแต่งตัว อาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน สาระพัด

แต่เธอรู้ไหม ฉันเดินทุกเย็น เดินวันละ 5-6 กม. ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือ ชั่วโมงครึ่ง

 หรือต้องให้ได้ไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมง

เดินจนติดแล้ว คอยดูนาฬิกาว่าเมื่อไรจะถึง 5 โมง ซะที

พี่หาญบังคับให้เดิน วันไหนฉันเบี้ยว พี่แก จะหน้างอไม่พอใจ

แล้วก็  "แช่ง" เอ๊ย "ขู่" ฉันว่า "เดี่ยวก็อ้วนตายหรอก"

หรือ  เดี๋ยวก็เป็นโรค โน้น  โรคนี้   ตอนแรกฉันไปเดินด้วยความจำใจ

แต่ตอนนี้ฉันติดการเดินออกกกำลังซะแล้ว วันไหนไม่ได้เดินรู้สึกหงอยเหงา จ้า

[Kaimook]

 ตามชมค่ะพี่ และลูกชายพี่แอ่ะหล๊อหล๋อจริงๆด้วยค่ะ

[swsm]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 11 กรกฎาคม 2552, 09:11:23
	19 วัดเทียนมู่ ไฟได้โหมไหม้ร่างกายของท่านจนหมด มรณภาพ ณ จุดนั้น แต่กลับเหลือหัวใจของท่าน ซึ่งต่อมาได้มีการนำ หัวใจของท่านไปเก็บรักษาไว้ ส่วนรถยนต์ออสตินได้นำกลับมาเก็บไว้ในวัดเทียนมู่ เพื่อเป็นอนุสรณ์สืบมา

ทึ่งเรื่องหัวใจเจ้าอาวาสนะคะ
ทั้งที่ควรจะไหม้หมดก่อนกระดูกด้วยซ้ำไป

ทำไมจึงยังเหลืออยู่เพียงชิ้นเดียว

พี่แหยงอธิบายได้ละเอียดจริง ๆ
น้องที่ไม่ได้ไป  ก็พลอยได้ความรู้ตามไปด้วยเลยค่ะ

[เหยง 16]

23 Cafe on the rock



กาแฟร้อน 1 แก้ว ที่จู๋ดำ-กวางดำ-สมเกียรติ วิศว16 สั่งในราคา 20 บาท ข้างๆร้านขายเต้าฮวย ขณะรอคณะซีมะโด่งทัวร์
ทำการต่อรองราคาซื้อ-ขายของที่ระลึกข้างวัดเทียนมู่ เมื่อบอกแม่ค้าว่าต้องการกาแฟเย็น เธอก็ตักน้ำแข็งใส่ให้ดังภาพ
ทั้งกาแฟทั้งน้ำแข็งมีเพียงครึ่งแก้วครับ แต่จู๋ดำบอกว่า รสชาติกาแฟดี-ใช้ได้ครับ



ในขณะที่พี่แววตา-บช14 ซื้อขนมที่ทำด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์และงา ในราคา 20 บาท ด้วยเห็นว่าคุ้มกับราคาและมีถึง 4 ชั้น
เมื่อซื้อแล้ว ยังมีแม่ค้ารายอื่นมาเสนอขายเพิ่มในราคาเพียง 10 บาท เมื่อแกะออกรับประทาน พบว่า แผ่นบนเท่านั้นที่โรย
เม็ดมะม่วงและงาขาวไว้มากมายดังที่เห็น แต่ 3 แผ่นข้างล่างไม่ได้โรยงาไว้เลย สรุป-โดนหลอกเข้าแล้ว