= = = เวียตนาม เว้ ฮอยอัน ดานัง = = =

<< < (261/266) > >>

เหยง 16:
อีกตอนหนึ่งครับ จาก ผู้จัดการออนไลน์

วีรบุรุษ 'หมีลาย' กลับคืนถิ่นทั้งน้ำตา
18 มีนาคม 2551 10:01 น.

               
 
       ผู้จัดการออนไลน์-- พิธีรำลึกฆาตกรรมหมู่ราษฎรเวียดนามที่หมีลาย (My Lai) เมื่อ 40 ปีก่อนซึ่งจัดขึ้น
ในวันเสาร์ (15 มี.ค.) ที่ผ่านมา ได้ผ่านไปอย่างเศร้าสร้อย แต่มีความหมายเป็นพิเศษเมื่อ อดีตพลปืนเฮลิคอปเตอร์
ที่เสี่ยงชีวิตเข้าขัดขวางการสังหารหมู่ของทหารสหรัฐฯ ได้กลับไปร่วมงานพิธีด้วย
       
       น่าเสียดายที่นักบินเฮลิคอปเตอร์ วีรบุรุษอีกคนหนึ่งไม่มีโอกาสได้กลับไปร่วมงานรำลึกครบรอบปีสำคัญนี้
เนื่องจากได้เสียชีวิตไป 2 ปีก่อนด้วยโรคมะเร็ง
       
       ลอว์เรนซ์ คอลเบิร์น (Lawrence Colburn) อดีตพลปืนเฮลิคอปเตอร์ ที่ปฏิบัติการเสี่ยงชีวิตเข้าขัดขวาง
กองกำลังทหารราบทีมสังหาร และสามารถช่วยชีวิตชาวหมีลายได้จำนวนมากได้กลับไปร่วมงานและพบกับ
เพื่อนเก่าที่เขาเคยช่วยชีวิตเมื่อ 40 ปีก่อน
       
       ทั้งสองฝ่ายเจอกันในสภาพน้ำตานองหน้า
       
       คอลเบิร์นได้บอกกับทุกคนด้วยความเศร้าสร้อยว่า ตนเองพร้อมกับ ร.ท.ฮิวจ์ ทอมป์สัน (Hugh Thompson)
อดีตนักบินเฮลิคอปเตอร์ใจเด็ด ได้กลับไปที่หมีลายเมื่อ 7 ปีก่อนและสัญญาว่าจะร่วมกันกลับไปฉลองครบรอบ
ปีที่ 40 ปีที่ 50 หรือกระทั่งปีที่ 60 ตราบเท่าที่ยังสามารถไปได้
       
       แต่แล้วผู้หมวดทอมป์สันก็จากไปก่อนเวลาอันควร

                         
 
       อย่างไรก็ตามยังมีทหารผ่านศึกสหรัฐฯ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีสังหารหมู่หมีลาย ไปร่มพิธีจำนวนหลายคน
ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และยังมีผู้แทนจากสมาคมผู้ประสบเคราะห์กรรมจากระเบิดปรมาณูสหรัฐฯ ที่เมืองฮิโรชิมา
ประเทศญี่ปุ่นนำคณะใหญ่ไปร่วมพิธีด้วย เพื่อช่วยแบ่งเบาความทุกข์โศรกของชาวเวียดนาม
       
       ทางการท้องถิ่นและพรรคคอมมิวนสิต์ยังได้จัดพิธีอย่างเป็นทางการ ทหารได้นำมาลาไปวางที่อนุสรณ์สถานฯ
สดุดีดวงวิญญาณของผู้ตาย มีเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางและระดับท้องถิ่นไปร่วมเป็นจำนวนมาก สื่อของทางการ
เวียดนามกล่าว
       
       หมีลายเป็นชื่อกลุ่มบ้านเรือนราษฎรกลุ่มเล็กๆ ที่ตั้งอยู่กระจายไปตามสภาพท้องทุ่งนาข้าว ในเขตบ้านเซินหมี
(Son My) อ.เซินติ๋ง (Son Tinh) จ.กว๋างหงาย (Quang Ngai) ทุกวันนี้ ชาวเวียดนามจึงเรียกโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น
ปีนั้นว่า "การสังหารหมู่ที่เซินหมี" (Son My Massacre)
       
       ความจริงแล้วทหารสหรัฐฯ ได้สังหารชาวเวียดนามในเขตหมู่บ้านอีก 2-3 แห่งที่อยู่เรียงรายติดๆ กัน แต่การเข่น
ฆ่ากลุ่มใหญ่เกิดขึ้นในเขตหมีลาย ชาวโลกจึงเรียกเหตุการณ์นี้ว่า "การสังหารหมู่ที่หมีลาย" (My Lai Massacre)
       
       ชาวบ้านหมีลาย และเซินหมี ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 40 รูป ไปสวดมนต์ในพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้ที่ตก
เป็นเหยื่อกระสุนและระเบิดของทหารสหรัฐฯ ท่ามกลางบรรยากาศอันเคร่งขรึมและเย็นเยือก ทั้งนี้เป็นรายงานของ
หนังสือพิมพ์แท็งเนียน
       
       ในเวลาเช้าตรู่วันที่ 16 มี.ค.2511 หมวดทอมป์สันกับพลปืนประจำเครื่อง พร้อมหัวหน้าลูกเรืออีก 1 คนคือ จ่าเกลนน์
อันดรีอ๊อตตา (Glenn Andreotta) ได้ไปพบเหตุการณ์ทหารราบกำลังรัวกระสุนสังหารเข้าใส่ชาวบ้าน ทั้งในหมู่บ้านและ
เขตรอบๆ บ้านหมีลาย
       
       ทั้งหมดตกลงกันนำเฮลิคอปเตอร์ลงจอดตรงกึ่งกลางระหว่างกำลังทหารราบที่ไล่ยิง กับชาวบ้านที่พากันวิ่งหนีสุดชีวิต
พลคอลเบิร์นได้หันปืนกลไปยังทหารอเมริกันที่กำลังคลุ้มคลั่ง เสี่ยงต่อการปะทะ แต่ก็สามารถช่วยชีวิตชาวเวียดนามได้นับร้อยๆ
       
       ทั้งคอลเบิร์นและอันดรีอ๊อตตา ช่วยกันคุ้มกันให้ผู้หมวดทอมป์สัน ขณะเผชิญหน้ากับกองกำลังทหารราบของฝ่ายเดียวกัน



               
 
       หมวดทอมป์สันได้ช่วยเปิดหลุมหลบภัย เพื่อให้ชาวหมีลายนับร้อยสามารถหลบหนี เวลาต่อมายังได้บินกลับไปที่นั่นอีก
ครั้งหนึ่ง นำชาวบ้านและเด็กๆ ที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งไปส่งยังโรงพยาบาลใกล้เคียง
       
       ความพยายามที่ถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ของนักบินกับพลปืนเฮลิคอปเตอร์ลำนั้น ทำให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงยก
เลิกคำสั่งปฏิบัติการกวาดล้างในเขตหมีลาย-เซินหมี
       
       สงครามเวียดนามยุติไปแล้วหลายปี ในปี 2541 กองทัพบกสหรัฐฯ จึงได้สดุดี "ผู้กล้าหาญทั้งสาม" ด้วยเหรียญ
Soldier's Medal ซึ่งเป็นเหรียญตราสูงสุดตอบแทนความกล้าหาญของทหารหาญ ในกรณีที่ไม่ได้เผชิญหน้ากับศัตรู
       
       สำหรับอันดรีอ๊อตตาได้เสียชีวิตในสนามรบเวียดนามอีกเพียง 3 สัปดาห์ถัดมาหลังกรณีที่บ้านหมีลาย





             
 
       วีรกรรมของหมวดทอมป์สันกับพลพรรคทั้ง 2 ไม่เป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางจน กระทั่งในช่วงทศวรรษที่ 1980
เมื่อ ศ.เดวิด อีแกน (David Egan) ศาสตราจารย์เกียรติคุณแห่งมหาวิทยาลัยเคลมสัน (Clemson) ได้ยินเรื่องนี้ และ
ทำจดหมายล่ารายชื่อขอการสนับสนุนสุดีวีรกรรม จนนำมาสู่การมอบเหรียญเกียรติยศในปี 2541
       
       คอลเบิร์นได้บอกกับชาวหมีลายในวันนี้ว่า ทั้งตัวเขาเองและผู้หมวดทอมป์สันที่ล่วงลับต่างก็ปรารถนาที่จะเยียวยา
รอยแผลแห่งสงคราม ไม่ใช่แค่ที่หมีลายเท่านั้น แต่ทั่วทั้งเวียดนาม
       
       แต่จนกระทั่งวันนี้รอยแผลจากรอยกระสุน ก็ยังคงปรากฏให้เห็นทั่วไปในเขตบ้านหมีลาย ขณะที่ชาวบ้านกำลังร่วม
กันสร้างความหวังใหม่ๆ







       นายโด๋หว่า (Do Hoa) ปัจจุบันอายุ 49 ปี เป็นเด็กคนหนึ่งที่หมวดทอมป์สันกับพลปืนคอลเบิร์นได้ช่วยชีวิตเอาไว้
เมื่อ 4 ปีก่อน แต่ชีวิตผกผันทำให้ต้องเข้ารับโทษจำคุกในช่วงที่หมวดทอมป์สันกับพลคอลเบิร์นกลับไปหมีลายในปี 2541
       
       แต่นั้นมาด้วยความเศร้าสะเทือนใจของสังคมที่ได้รับรู้เรื่องราวในความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ระหว่างชาวหมีลาย
กับอดีตทหารสหรัฐฯ สองคนนี้ หนังสือพิมพ์แท็งเนียนจึงได้เป็นหัวหอกในการทำเรื่องขออภัยโทษให้แก่นายหว่า จนกระ
ทั่งประสบความสำเร็จในปี 2543


       
       นายหว่าซึ่งในปัจจุบันมีทายาทวัย 18 เดือน 1 คนได้พบกับพลคอลเบิร์นอีกครั้งหนึ่งในพิธีรำลึกวันเสาร์ที่ผ่านมา
มิตรจากแดนไกลได้แสดงความยินดีที่ได้เห็นคนที่เคยช่วยชีวิตเอาไว้มีภรรยาสวยและมีลูกตัวเล็กๆ ที่น่ารัก แท็งเนียนกล่าว.
 
 
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9510000032673

เหยง 16:
ไกด์บิว หรือ บิวตี้ บอกกับคณะซีมะโด่งทัวร์ว่า คนเวียตนามเรียก ทหารชาวเวียตนามที่ร่วมรบในสงครามว่า

เวียตยาน หรือเวียตยาง คือชาวเวียตนามผู้ทรยศ ก็คือ ทหารเวียตนามใต้ที่เข้ากับรัฐบาลและสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น

เวียตกง คือ ชาวเวียตนามใต้ที่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลเวียตนามใต้ และสู้รบต่อต้านรัฐฐาลเวียตนามใต้และทหารสหรัฐ.

เวียตมินห์ คือ ทหารชาวเวียตนามเหนือ ที่ร่วมรบเพื่อปลดปล่อยเวียตนามใต้

yyswim:
ข้อมูลข้างบน ผมอ่านแล้วสะเทือนใจระดับนอนแทบไม่หลับ

เมืองไทยสงบ ไร้สงคราม บุญของคนไทยเป็นอย่างยิ่ง

ขอบคุณเหยง ที่ช่วยนำมาแบ่งปันให้อ่าน

ตอนนี้ ข่าวนี้ทีวียังไม่นำมาออกข่าวเลย

เมื่อไหร่ ข่าวนี้ออกทีวี คนไทยจึงจะตื่นตัว ว่ามั๊ย?

เหยง 16:
ข่าวสำหรับคณะซีมะโด่งทัวร์เมืองจีน-ปักกิ่ง ครับ

จีนระดมตร.พิเศษหลายพันทั่วปักกิ่ง
24 สิงหาคม 2552 14:51 น.

                       

กองกำลังลาดตะเวนพิเศษ เริ่มปฏิบัติการในวันที่ 22 สิงหาคม 52 เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการก่อกวนอำนาจทางการเมืองที่เกิดขึ้น
ในช่วงวันแซยิดใหญ่ของ จีนใหม่ คือวันครบรอบ 60 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ 1 ตุลาคม 2552-ข่าวเอ เอฟ พี
 
       เอเอฟพี-จีนจัดตั้งจุดตรวจหลายร้อยจุดทั่วกรุงปักกิ่งในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้เริ่มระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
หลายพันนายประจำจุดตรวจต่างๆเหล่านี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัยก่อนช่วงอ่อน
ไหวทางการเมืองที่สุดช่วงหนึ่งของจีน คือ วันครบรอบ 60 ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งตรงกับวันที่
1 ตุลาคม ไชน่า เดลี่ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวหัวหน้าหน่วยตำรวจพิเศษ นาย หวัง จวิน
       
       สำหรับหน้าที่ของจุดตรวจเหล่านี้จะคอยติดตามผู้คน พาหนะ ที่เข้าออกเมืองหลวง ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง
นับพันนายจะตระเวนตามสถานีรถไฟใต้ดิน สะพาน และสถานีรถไฟ ตลอดจนสถานที่สำคัญต่างๆ
       
       สื่อจีนรายงานมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงวันชาติปีที่ 60 นี้ อลังการมากเสียยิ่งกว่ามาตรการฯในช่วงโอลิมปิก
ปักกิ่ง 2008 เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่อ่อนไหวมากที่สุด
       
       เหตุการณ์จลาจลระหว่างเชื้อชาติที่อูหลู่มู่ฉี เมืองเอกของเขตปกครองตัวเองชนชาติมุสลิมอุยกูร์มณฑลซินเจียงเมื่อ
ต้นเดือนกรฎาคม ที่มีผู้คนเสียชีวิตร่วม 200 คน บาดเจ็บนับเกือบ 2,000 คน นั้นยิ่งกระตุ้นความหวาดระแวงถึงลัทธิแบ่ง
แยกดินแดน ที่จีนมักกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับลัทธิก่อการร้าย ภัยคุกคามแบ่งแยกดินแดนที่ผู้นำจีนกลัวสุดได้แก่กรณีเรียก
ร้องอำนาจปกครองตัวเองของชาชาติทิเบต และมุสลิมอุยกูร์ในซินเจียง และวันชาติที่ผู้นำคอมมิวนิสต์จีนได้ประกาศ
“จีนใหม่” พร้อมส่งกองกำลังเข้าประกาศอำนาจเหนือดินแดนทั้งสอง ดูน่าจะเป็นโอกาสทองให้ชนกลุ่มน้อยที่มีความคับ
ข้องใจต่อรัฐบาลกลาง ออกมาป่าวร้องปัญหาและเคลื่อนไหวเป้าหมายของพวกเขา
       
       ทั้งนี้ ผู้นำจีนคอมมิวนิสต์ประกาศสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ปี 2492

จาก ผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9520000096276
 
 

เหยง 16:
อ้างถึง ข้อความของ yyswim เมื่อ 24 สิงหาคม 2552, 21:20:09

ข้อมูลข้างบน ผมอ่านแล้วสะเทือนใจระดับนอนแทบไม่หลับ

เมืองไทยสงบ ไร้สงคราม บุญของคนไทยเป็นอย่างยิ่ง

ขอบคุณเหยง ที่ช่วยนำมาแบ่งปันให้อ่าน

ตอนนี้ ข่าวนี้ทีวียังไม่นำมาออกข่าวเลย

เมื่อไหร่ ข่าวนี้ออกทีวี คนไทยจึงจะตื่นตัว ว่ามั๊ย?

พี่นพ' ครับ

จะเปิดหน้าใหม่สำหรับ "คณะซีมะโด่งทัวร์เมืองจีน-ปักกิ่ง" ไหมครับ??

ถ้าสมควร พี่ช่วยดำเนินการด้วยครับ และ Copy ส่วนที่เกี่ยวข้องกับเมืองจีน ที่มีอยู่ไปไว้ห้องใหม่ด้วยครับ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว