13
มาอธิบายต่อ กรณีของ
น้องบิวตี้ หรือน้องบิว หรือ กุลธิดา ซึ่งพี่สิงห์-มานพ บอกว่า เธอต้องต่อสู้กับปัญหาทุกอย่างพร้อมกับ
ครอบครัวเพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้และวิชาชีพ เพราะในประเทศเวียตนามมีความเข้มงวดในระเบียบและกฎหมายเป็นอย่างมาก เช่น
การห้ามมีบุตรคนที่สามในครอบครัว อันเป็นการไม่ช่วยควบคุมจำนวนพลเมืองชาวเวียตนามซึ่งปัจจุบันมีมากถึง 85 ล้านคนแล้ว
ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อข้อแนะนำที่ 11 ของคณะกรรมการตรวจตรา คณะกรรมการกลางพรรค ในเวียดนามถือเป็นกฎเหล็ก
ครอบครัวที่มี่บุตรคนที่สามจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางสังคม และถ้าหากเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐจะถูกสอบสวนทางวินัย
ซึ่งอาจจะมีโทษถึงการถูกปลดออกจากตำแหน่ง และหากเป็นเจ้าหน้าที่ของพรรคคอมมิวนิสต์ก็จะถูกไล่ออกจากพรรค หากการสอบ
สวนพบว่ามีความผิดจริง ถือเป็นการละเมิดต่อมติที่ 94 ของคณะกรรมการกรมการเมืองซึ่งเป็นองค์กรบริหารสูงสุดของพรรค
คอมมิวนิสต์เวียตนาม
ซึ่งเธอเกิดเป็นบุตรคนที่สามของครอบครัวข้าราชการเล็กๆของเมืองเว้ โดยก่อนหน้านั้นคุณแม่ของเธอไปโรงพยาบาลเพื่อจะ
ทำแท้งแล้ว แต่วันนั้นโรงพยาบาลปิดเพื่อทำความสะอาดทั้งโรงพยาบาลและนัดให้ไปหาในวันต่อมา แต่เมื่อพ้นวันนั้นไป
คุณแม่เธอเลิกความคิดที่จะทำแท้งลูกคนนี้ และให้กำเนิดเธอออกมา โดยครอบครัวถูกลดสวัสดิการตลอดจนถูกตัดเงินเดือน
ของคุณพ่อลง ทั้งครอบครัวจึงลำบาก แต่ด้วยมานะของเธอที่ตั้งใจเรียนและสอบทุนรัฐบาลมาเรียนที่จังหวัดอุบลราชธานี
โดยไม่เคยรู้จักภาษาไทยมาก่อนเลย แต่ด้วยความสามารถทำให้เธอตั้งใจเรียนภาษาไทยจนอ่านออกเขียนได้ภายใน 8 เดือน
และเข้าเรียนในระดับปริญญาตรีจบด้วยคะแนนที่ดีภายใน 4 ปี และขณะนี้กำลังเรียนต่อในระดับปริญญาโท สถานศึกษาเดียวกัน
โดยบอกว่าจะพยายามเรียนให้จบด้วยวงเงิน 1 แสนบาท? โดยใช้เวลาว่างจากวันหยุดและว่างจากการเรียนมาเป็นไกด์นำเที่ยว
จังหวัดดานัง เว้ ฮอยอัน ซึ่งเป็นเวียตนามตอนกลางและเป็นฝั่งที่เธอรู้จักดีเพราะเป็นคนเมืองเว้นั่นเอง
ล่าสุดสำนักนายกรัฐมนตรีเวียตนามมีคำแถลงลงวันที่ 29 มิถุนายน 52 นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung)
ได้ออกคำสั่งสัปดาห์ที่แล้วให้สอบสวนทางวินัยและปลด ประธานเจ้าหน้าที่บริการสายการบินเวียดนามนายฝั่มหง็อกมีง (Pham Ngoc Minh)
ฐานมีบุตรเกิน 2 คนตามกฎหมายกำหนด โดยมีบุตรกับภรรยาคนแรก 1 คน และมีบุตรกับภรรยาคนที่สอง 2 คน ซึ่งถือเป็นการกระทำผิด
ร้ายแรงในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ ขณะที่รัฐบาลกำลังพยายามอย่างหนักในการควบคุมจำนวนประชากร ซึ่งยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
นายมีง (Minh) มีฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นสมาชิกระดับสูงของพรรค แ ละถ้าหาการสอบสวนปรากฏว่า
ได้กระทำความผิดจริง จะไม่มีทางเป็นอื่นไปได้ นอกจากจะต้องถูกให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ในปัจจุบัน รวมทั้งถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ เนื่องจากกฎหมายไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐและพรรคคอมมิวนิสต์มีภรรยาเกิน 1 คน ถ้าหากพบว่ากระทำผิดจริง
นายมีง (Minh) อาจมีโทษถึงจำคุกอีกด้วย ภาพเอเอฟพีวันที่ 16 มิ.ย.2552 นายฝั่มหง็อกมีง (Pham Ngoc Minh) ผู้อำนวยการใหญ่และซีอีโอ
บริษัทสายการบินเวียดนามแถลงข่าวร่วมกับนายโทมัส เอ็นเดอร์ส (Thomas Enders) ซีอีโอของ
แอร์บัสในงานแสดงอากาศยานที่เลอบูเฌ (Le Bourget) ชานนครปารีส ซึ่งฝ่ายเวียดนามได้เซ็น
บันทึกซื้อแอร์บัส A321 เพิ่มอีก 16 ลำ กับ A350-900XWD อีก 2 ลำ กลับบ้านยังไม่ทันข้ามเดือน
บิ๊กบอสทำท่าจะถูกสอยจากเก้าอี้เสียแล้วด้วยเรื่องการบ้านการมุ้งแท้ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวสารจากผู้จัดการออนไลน์, 3 กรกฎาคม 2552 อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000075398