22 พฤศจิกายน 2567, 16:26:22
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 63 64 [65] 66 67 ... 94   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: .....ผล ดอก ใบ ลำต้น ราก.....  (อ่าน 1045945 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 16 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #1600 เมื่อ: 21 มีนาคม 2555, 13:27:08 »

อ้างถึง
ข้อความของ YA เมื่อ 21 มีนาคม 2555, 13:24:45
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 21 มีนาคม 2555, 12:34:15
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 21 มีนาคม 2555, 08:12:57
รอดูสายพันธุ์ เจ๋ง ๆ ของเสี่ยยาอยู่เหมือนกันนะครับ  เหอ เหอ

 เหอๆๆ รักนะ

พันธุกรรมศาสตร์.... มีเรื่องของการกลายพันธุ์และผ่าเหล่า ด้วยนะครับ

HA... HA... HA...


บ้านผมที่ยะลา อยู่ห่างจาก อำเภอธารโต มากครับ
เลยไม่น่าห่วง


 เหอๆๆ  เหอๆๆ  เหอๆๆ .... ครับ
      บันทึกการเข้า
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #1601 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 06:29:40 »


.....สวัสดีครับ พี่ตู่..พี่ปิ๊ด..พี่อร..พี่ทราย..พี่อ้อย..เฮียหนุน..เสี่ยแหลม..ครูตุ๋ย..น้องหยี..น้องยา และพี่น้องทุกท่าน
     เราไปดูไม้เย็นๆกันครับ๕๕๕.....



.....ไม้น้ำ (Aquatic Plants).....






พรรณไม้น้ำ (Aquatic Plants)
   พรรณไม้น้ำหรือพืชน้ำ ( aquatic plant, hydrophyte, aquatic weed, water plant ) หมาถึงพืชที่เจริญเติบโตอยู่ในน้ำ
หรือมีช่วงชีวิตหนึ่งที่เจริญอยู่ในน้ำ ซึ่งอาจจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด หรือโผล่บางส่วนขึ้นสู่บริเวณผิวน้ำ ลอยอยู่ที่ผิวน้ำ หรือเจริญเติบโตลอยอยู่ริมฝั่ง
รวมถึงพืชที่เจริญเติบโตในที่ที่มีน้ำขัง พื้นที่ชันแฉะ ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม

ประเภทพรรณไม้น้ำ
เราจัดแบ่งประเภทพรรณไม้น้ำได้หลายแบบดังนี้

1.จัดจำแนกตามแหล่งน้ำที่พบ
1.1.limnophyte หมายถึงพืชที่สามารถขึ้นได้ในน้ำจืด เช่น ธูปฤษี ผักตบชวา จอก แหน พบตามหนอง คลอง บึง บริเวณชายฝั่งถึงใต้น้ำ
1.2.halophyte หมายถึงพืชที่ขึ้นได้ในที่ที่มีความเค็ม ตั้งแต่ป่าชายเลน จนไปถึงหญ้าทะเล
                      แบ่งเป็น 2 ระบบใหญ่ ๆ คือ นิเวศป่าชายเลน และ นิเวศหญ้าทะเล

2.การจำแนกตามหลักการจำแนกตามอาณาจักรพืช
2.1 Bryophyte ได้แก่ Moss, Liverwort
2.2 Pteridophyt ได้แก่ Fern
2.3 Tracheophyte ได้แก่ พืชใบเลี้ยงคู่ พืชใบเลี้ยงเดี่ยว

3. จัดจำแนกตามลักษณะและรูปแบบการเจริญเติบโตในแหล่งน้ำตามธรรมชาติ
3.1 พืชใต้น้ำ ( submerged plant ) เป็นพืชที่มีการเจริญเติบโตอยู่ไต้น้ำทั้งหมด ส่วนของราก ลำต้น ใบจมอยู่ใต้น้ำ
     อาจมีการยึดเกาะกับพื้นดินที่อยู่ใต้น้ำ หรือไม่มีก็ได้ รากอาจมีลักษณะเป็นฝอยสั้น ๆ แตกตามข้อ หรือแตกเป็นกอยู่ใต้ดิน
     พืชบางชนิดเมื่อมีดอกจะชูขึ้นมาเหนือผิวหน้าน้ำ เพื่อผสมเกสร พืชกลุ่มนี้จะสามารถแลกเปลี่ยนก๊าซและธาตุอาหารจากน้ำได้โดยตรง
     ดังนั้นท่อลำเลียงน้ำและท่อลำเลียงอาหารของพืชกลุ่มนี้จึงมีไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับพืชบกหรือพืชน้ำกลุ่มอื่น ๆ
     โครงสร้างภายในของลำต้นและใบจะมีช่องว่างมากเพื่อใช้ในการสะสมก๊าซและช่วยในการพยุงตัวให้ลอยได้
     อาจมีรูปร่างหลายแบบ เช่น เป็นแถบ หรือ แผ่นยาว หรือ แตกออกเป็นฝอย ใบมักจะอ่อนบางและเปราะ
     ประกอบด้วยเซลล์ไม่กี่ชั้น ใบไม่มีคิวตินเคลือบและไม่มีปากใบ
     พืชกลุ่มนี้ได้แก่ สาหร่ายเส้นด้าย สาหร่ายหางกระรอก สาหร่ายพุงชะโด สันตะวาใบพาย สันตะวาใบข้าว สันตะวาใบเดียว

3.2 พืชที่โผล่เหนือน้ำ ( emerged plant ) เป็นพืชที่มีการเจริญเติบโตอยู่ในน้ำบางส่วน มีรากและลำต้นเจริญเติบโตใต้น้ำ
     ส่วนรากจะยึดติดกับพื้นดินใต้น้ำได้ดี มีส่วนใบและดอกเจริญที่ผิวน้ำหรือเหนือน้ำ ส่วนใบและต้นมีลักษณะแข็งแรงกว่าพืชใต้น้ำ
     ใบด้านบนจะมีคิวตินเคลือบบาง ๆ ปากใบมักอยู่ผิวด้านบนมากกว่าผิวใบด้านล่าง ปากใบมักเปิดอยู่ตลอดเวลา
     พืชบางชนิดอาจมีใบใต้น้ำและเหนือน้ำ ในต้นเดียวกันและมีลักษณะที่เหมือนกันหรือต่างกันได้เช่น บัว ผักตับเต่า แว่นแก้ว โสนเทียนนา บัวบา
     สาหร่ายญี่ปุ่นบัวหลวง บัวสาย
     บริเวณโคนต้นของพืชบางชนิดอาจมีเนื้อเยื่อโปร่ง ๆ สีบางเรียกว่า arenchymatous tissue สำหรับทำหน้าที่เก็บสะสมอากาศไว้
     เพื่อใช้หายใจเช่น โสน เทียนนา ผักปอด

3.3 พืชลอยน้ำ ( floating plant ) เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตและลอยอยู่ที่ผิวน้ำ มีส่วนรากเจริญอยู่ใต้น้ำ ส่วน ต้น ดอก ใบ ชูขึ้นเหนือระดับน้ำ
     หรือเจริญอยู่ที่ระดับน้ำ ลอยไปใด้อย่างอิสระ หากเจริญอยู่บริเวณที่น้ำตื้น ส่วนรากจะยิดติดกับพื้นดินใต้น้ำใด้
     พืชในกลุ่มนี้อาจมีขนาดเล็กเพียง 2 มม. เช่น ไข่น้ำ หรือมีขนาดใหญ่มากเช่น ผักตบชวา
     พืชกลุ่มนี้จะมีการปรับตัวให้ลอยน้ำเช่น แหนเป็ด ผักตบชวา ผักตบไทย ผักบุ้ง จอกหนู แหนแดง
     ใบมีรูปร่างเรียงตัวกันหลายแบบเช่น อาจเรียงตัวซ้อนกันเป็นวงรูปถ้วยเช่น จอก จอกหูหนู
     บางชนิดมีใบ 2 แบบ เช่น กระจับ มีใบใต้น้ำคล้ายราก ใบที่ผิวน้ำเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน

3.4 พืชชายน้ำ ( marginal plant ) เป็นพืชที่อยูริมตลิ่ง หรือหนองน้ำมีน้ำถ้วมขังตื้น ๆ เช่น กก โสน เป็นต้น
     มีรากเจริญอยู่ในดิน ชูส่วนลำต้น ใบ ดอก ขึ้นมาเหนือน้ำ ในบางครั้งอาจมีลักษณะคล้ายพืชกลุ่ม emerage plant จมไม่สามารถแยกกลุ่มได้

ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของพรรณไม้น้ำ
1. ปัจจัยทางกายภาพ แสง อุณภูมิ ความขุ่น ลักษณะพื้นท้องน้ำ ความเร็วความแรงของกระแสน้ำ
    พืชน้ำบางชนิดมีประสิทธิภาพในการสังเคราะห์แสงได้สูง
2. ปัจจัยทางเคมี ได้แก่ pH ความเค็ม ปริมาณธาตุในน้ำและในดิน
3. ปัจจัยทางชีวภาพ ได้แก่พวกแมลง สัตว์กินพืช โรค

Division Bryophyta
     เป็นพืชชั้นต่ำมีส่วนที่คล้าย ราก ลำต้น ใบ ไม่มีเนื้อเยื่อถาวรที่เป็นเนื้อเยื่อลำเรียง
     มีวงจรชีวิตแบบสลับ ( alternative of generation ) โดยระยะที่เจริญเป็นแบบอิสระคือ ต้น
     gametophyte ( n )
     ส่วนต้น sporophyte ( 2n ) จะเจริญอยู่บน gametophyte พืชในกลุ่มนี้ได้แก่ ข้าวตอกฤษี ( Sphagnum moss )
     มอสน้ำ ( Java moss )

Division Pteriophyta
     พืชกลุ่มนี้มีวิวัฒนาการสูงกว่า Bryophyte คือ มีเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร มีส่วน ราก ลำต้น ใบ ที่แท้จริง
     แต่ยังไม่มีดอกที่ใช้ในการสืบพันธุ์ มีวงจรชีวิตแบบสลับ ( alternative of generation ) คือพืชที่เป็นต้น sporophyte จะเจริญอยู่
     บนต้น gametophyte ระยะหนึ่งต่อมาเมื่อต้น gametophyte ตายไป ต้น sporophyte ก็สามารถเจริญเติบโตอย่างเป็นอิสระต่อไปได้
     พืชในกลุ่มนี้คือกลุ่มเฟิร์น ซึ่งเรานิยมเรียกใบเฟิร์นว่า frond ใบอ่อนมีลักษณะม้วนงอเรียกว่า circinate leaf
     ใบแก่ยาวมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว หรือใบกระกอบแบบขนนก หนือใบประกอบแบบนิ้วมือ
     ใบเฟิร์นท่ำหน้าที่สร้าง spore เรียกว่า reproductive frond
     ใบที่ไม่มีการสร้าง spore เรียกว่า vegetative frond พืชในกลุ่มนี้เป็นพืชน้ำได้แก่ ผักกูดน้ำ ผักกูดเขากวาง ปรง จอกหูหนู

Division Tracheophyta
     พืชกลุ่มนี้เป็นพืชที่มีดอก เป็นพืชที่มีวิวัฒนาการสูงแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่มากสามารถขึ้นทั้งในน้ำและบนบก พืชมีดอกที่เราพบเห็นทั่วไป
     sporophyte ( 2n ) เมื่อเจริญเติบโตมีการสร้างดอก ซึ่งมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ ( pallen ) และเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย ( egg )
     ซึ่งเป็น gametophyte ( n ) เนื่องมาจากมีการแบ่งเซลล์แบบ meiosis เมื่อมีการผสมกันจะได้ zygote ( 2n )
     พืชในกลุ่มนี้จัดอยู่ใน Class Anglospermae สามารถจัดจำแนกได้เป็น 2 Subclass คือ
1. Subclass Dicotyledonae กลุ่มพืชในเลี้ยงคู่ ตัวอย่างของพืชน้ำที่เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ ได้แก่ ผักบุ้ง แว่นแก้ว บัว โสน บัวหลวง กระจับ สาหร่าย
                                          ข้าวเหนียว เป็นต้น
2. Subclass Monocotyledonae กลุ่มพืชใบเลี้ยงเดี่ยวได้แก่ พลับพลึง บอน จาก จอก ตาลปัตรฤษี พุทธรักษา สันตวาใบพาย หญ้าทะเล
                                          สาหร่ายหางกระรอก แหน ไข่น้ำ เตย ข้าว หญ้า ผักตบชวา ดีปลีน้ำ เป็นต้น

โทษของพรรณไม้น้ำ
1. ทำให้แหล่งน้ำเน่าเสียเมื่อมีการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว เมื่อมันตายลงแบคทีเรียจะย่อยสลายทำให้ออกซิเจน ในน้ำลดลงอย่ารวดเร็ว
    ทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย
2. พืชบางชนิดมีหนามแหลม บางชนิดมีอันตรายต่อสัตว์น้ำวัยอ่อน เช่น สาหร่ายข้าวเหนียว จะมีถุงขนาดเล็กอยู่ที่โคนใบ  
    จะผลิตน้ำย่อยที่ย่อยโปรตีนได้ คอยจับแมลง แพลงก์ตอน และลูกปลาเป็นอาหาร
3. สามารถดูดซับธาตุอาหารต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วถ้ามีปริมาณมาก ทำให้สัตว์น้ำหรือพืชอื่นไม่สามารถนำเอาแร่ธาตุไปใชได้
4. เป็นอุปสรรคต่อการคมนาคม การระบายน้ำ การทดน้ำ ทำให้แหล่งน้ำตื้นเขิน เช่น ผักตบชวา จอกหูหนู

ประโยชน์ของพันธุ์ไม้น้ำ
1. ใช้เป็นแหล่งอาหารของคนและสัตว์โดยตรง เช่น ผักบุ้ง เผือก บอน ไข่น้ำ ผักแว่น ผักกูด บัว กระจับ เป็นต้น
2. เป็นแหล่งวางไข่และหลบภัยของสัตว์น้ำนานาชนิด เช่น รากของผักตบชวา ตามใบมีสาหร่ายมาเกิดและเจริญเติบโตอยู่
3. การเพิ่มก๊าซออกซิเจนให้แก่แหล่งน้ำ
4. สามารถนำมาใช้บำบัดน้ำเสียเนื่องจากสามารถดูดซับธาตุอาหารต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น ผักตบชวา ธูปฤๅษี
5. มีความสำคัญทางเศรษฐกิจใช้เป็นพันธุ์ไม้น้ำสวยงามประดับตู้ปลา ทำให้เกิดธุรกิจพันธุ์ไม้น้ำในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ

การเพาะขยายพันธุ์ไม้น้ำสวยงาม
การขยายพันธุ์ไม้น้ำสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นกับธรรมชาติของพันธุ์ไม้น้ำ สามารถสรุปได้ดังนี้
1.   การขยายพันธุ์แบบอาศัยเพศ ไม่นิยมทำ เพราะเจริญเติยโตช้า
2.   การขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ ได้แก่
2.1 การขยายพันธุ์โดยใช้สปอร์ของพืชในกลุ่มเฟิร์นต่างๆ
2.2 การขยายพันธุ์โดยใช้ส่วนต่างๆ ของพืช เช่น หัว เหง้า ลำต้น
2.3 การเพาะเลือกเนื้อเยื่อ ชนิดที่นิยมคือ Anubias sp.


การปลูกพันธุ์ไม้น้ำในแปลงเพาะพันธุ์
1. การปลุกแบบครึ่งบกครึ่งน้ำ เป็นการปลูกที่นิยมกันมาก จะมีส่วนที่เป็นแปลงดินและส่วนที่เป็นบ่อ จะเอาพืชมาปักชำบนแปลงดินก่อน
   เมื่อโตแล้วจึงนำไปลงบ่อ
2. การปลูกแบบใช้ดิน ไม่ค่อยนิยมทำเนื่องจากมีต้นทุนค่อนข้างสูง
3. การปลูกพันธุ์ไม้น้าแบบใต้น้ำ จะมีการตัดแล้วนำไปปักชำใต้น้ำ

ลักษณะสำคัญของพันธุ์ไม้น้ำกลุ่มต่างๆ
Division Chlorophyta
     ชนิดไม่มีรากลำต้นและใบที่แท้จริงเรียกส่วนของพืชทั้งหมดว่า Thallass ประกอบด้วยเซลล์ที่มีลักษณะเหมือนกัน
     มีทั้งที่อยู่เป็นเซลล์เดียว (Unicellular) หลายเซลล์ (Multicellular) รวมกลุ่ม (Colony) หรือเรียงเป็นเส้นสาย (Filament)
     มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ



<a href="http://www.youtube.com/watch?v=6gWtL3V30DQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=6gWtL3V30DQ</a>

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=PWwD7zzMOWE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=PWwD7zzMOWE</a>

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Lsa8VhLGh2s" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Lsa8VhLGh2s</a>



ขอขอบคุณ
http://th.discuscommunity.com/index.php?topic=338.0
http://www.youtube.com/watch?v=6gWtL3V30DQ&feature=results_main&playnext=1&list=PL2299B911FF304D53

      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #1602 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 06:54:29 »

มา ครับ น้องตี๋ ได้ ความรู้เยอะ ครับ
      บันทึกการเข้า
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #1603 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 07:10:02 »

อ้างถึง
ข้อความของ Pete15 เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 06:54:29
มา ครับ น้องตี๋ ได้ ความรู้เยอะ ครับ
.....สวัสดีตอนเช้าครับ พี่ปิ๊ด  ทานข้าวเช้ายังครับ.....
      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #1604 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 08:22:23 »

สวัสดีค่ะน้องตี๋และพี่น้อง
แวะมาชมภาพไม้น้ำ ชอบมั๊กๆค่ะ
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #1605 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 13:47:55 »

น้องตี๋คะ
 พี่ถามหน่อย
ต้นเฟิร์น ที่น้ำท่วมตายไปแล้ว
หากเราเก็บกระถางไว้
จะมีเชื้อ  ซึ่งอาจจะหมายถึง สปอร์ หรือ ระยาง หรือเหง้า หรืออื่น ๆ
ที่จะยังคง เจริญเติบโตได้อีกไหม
 เพราะ บางที่ตามธรรมชาติ หน้าแล้ง ต้นแห้งตายตามธรรมชาติ
พอฝนตก ก็จะงอกใหม่ได้
 แต่น้ำท่วม จะงอกมาใหม่ได้หรือเปล่าไม่รู้นะ หรืออาจจะเน่าเกินกว่าจะงอกมาได้
 ถามด้วยความหวังค่ะ
 มีประสบการณ์ไหมคะ
      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #1606 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 13:59:12 »

สวัสดีครับพ่อเลี้ยง
ห้องนี้เพรียบพร้อมไปด้วยสาระน่ารู้ครับ
ขอชื่นชม


 รักนะ รักนะ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #1607 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 14:24:11 »

อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 13:59:12
สวัสดีครับพ่อเลี้ยง
ห้องนี้เพรียบพร้อมไปด้วยสาระน่ารู้ครับ
ขอชื่นชม

 รักนะ รักนะ
น้องตี๋ยังไม่ตัดสินใจเข้าสังกัดค่ายแมงโม้น่ะน้องหนุน
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #1608 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 15:08:27 »


สวัสดียามบ่ายครับ.... พี่ตี๋..พี่อร..พี่ปี๊ด..พี่ทราย..พี่หนุน และพี่น้องทุกท่าน

ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องพรรณไม้น้ำ ครับพี่ตี๋


      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #1609 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 15:13:24 »

อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 14:24:11
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 13:59:12
สวัสดีครับพ่อเลี้ยง
ห้องนี้เพรียบพร้อมไปด้วยสาระน่ารู้ครับ
ขอชื่นชม

 รักนะ รักนะ
น้องตี๋ยังไม่ตัดสินใจเข้าสังกัดค่ายแมงโม้น่ะน้องหนุน

คุณสมบัติครบถ้วน... สำหรับสมาชิกสามัญประเภทโม้แบบมีสาระครับ

HA... HA... HA...
      บันทึกการเข้า
Lamai
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,712

« ตอบ #1610 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 21:31:45 »

สวัสดีเจ้า......อ้ายตี๋ ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #1611 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 23:21:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 21:31:45
สวัสดีเจ้า......อ้ายตี๋ ปิ๊งๆ

.....เจ้า ขอบคุณครับ 
     บะเดี่ยวฝุ่น ชม นักกว่า ลป แหม น้อ 
     น้องไมสบายดีนะครับ
     ได้ยินว่า บ่ เคยเป็นหวัดมาสิบปี ยาแก้อักเสบ บ่ฮู้จัก   แม่ยิงเหล็กแต้ว่า
     เปิ้นมีสูตรเด็ดใช้ส่วนตัวโล้๕๕๕.....
      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #1612 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 23:24:12 »

อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 15:13:24
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 14:24:11
อ้างถึง
ข้อความของ หนุน'21 เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 13:59:12
สวัสดีครับพ่อเลี้ยง
ห้องนี้เพรียบพร้อมไปด้วยสาระน่ารู้ครับ
ขอชื่นชม

 รักนะ รักนะ
น้องตี๋ยังไม่ตัดสินใจเข้าสังกัดค่ายแมงโม้น่ะน้องหนุน

คุณสมบัติครบถ้วน... สำหรับสมาชิกสามัญประเภทโม้แบบมีสาระครับ

HA... HA... HA...

.....๕๕๕ มีลักษณะอยู่ในสายเลือดครับ.....
      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #1613 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 23:32:47 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 13:47:55
น้องตี๋คะ
 พี่ถามหน่อย
ต้นเฟิร์น ที่น้ำท่วมตายไปแล้ว
หากเราเก็บกระถางไว้
จะมีเชื้อ  ซึ่งอาจจะหมายถึง สปอร์ หรือ ระยาง หรือเหง้า หรืออื่น ๆ
ที่จะยังคง เจริญเติบโตได้อีกไหม
 เพราะ บางที่ตามธรรมชาติ หน้าแล้ง ต้นแห้งตายตามธรรมชาติ
พอฝนตก ก็จะงอกใหม่ได้
 แต่น้ำท่วม จะงอกมาใหม่ได้หรือเปล่าไม่รู้นะ หรืออาจจะเน่าเกินกว่าจะงอกมาได้
 ถามด้วยความหวังค่ะ
 มีประสบการณ์ไหมคะ

.....สวัสดีครับ พี่อร
     คิดว่า ถ้าความชื้นเหมาะสม สปอร์ที่หล่นเหลืออยุ่จะขึ้นมาใหม่ครับ   
     แนบวิธีขยายพันธุ์เฟิร์นมาครับ.....



      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #1614 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 23:57:27 »

อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 08:22:23
สวัสดีค่ะน้องตี๋และพี่น้อง
แวะมาชมภาพไม้น้ำ ชอบมั๊กๆค่ะ
.....สวัสดีครับ พี่ทราย  
     เอาการจัดและดูแลมาฝากครับ.....


การจัดตู้พรรณไม้น้ำ
    
    การจัดตู้พรรณไม้น้ำจำเป็นต้องเข้าใจถึงธรรมชาติและความต้องการของพรรณไม้น้ำเสียก่อน
พรรณไม้น้ำหรือบางครั้งที่เราคุ้นเคยเรียกกันว่าสาหร่าย
มีสาหร่ายจริงเพียงบางส่วนนั้น มีความต้องการปัจจัยสำคัญ ๆ หลายประการ คือ แสงสว่างที่พอเหมาะและเพียงพอ
ซึ่งตู้ปลาทั่วไปจะมีน้อยเกินไป
ปุ๋ยและแร่ธาตุอาหารที่จำเป็นที่สม่ำเสมอ ซึ่งตู้ปลาส่วนใหญ่ก็ไม่มีเพราะใช้น้ำประปา ซึ่งถูกกำจัดออกไปเกือบทั้งหมดแล้ว
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับใช้ในการสังเคราะห์แสง
กระแสน้ำที่ช่วยพัดพาแลกเปลี่ยนของเสียบนใบพืชน้ำ
ตู้ปลาโดยทั่วไปมักขาดสิ่งที่กล่าวมา ทำให้พรรณไม้น้ำที่ปลูกไว้ค่อย ๆ ตายไป
เมื่อเราเตรียมอุปกรณ์ให้ได้ตามความต้องการของพรรณไม้น้ำ แล้วจะพบว่าพรรณไม้น้ำจะอยู่ทนทานมาก
ตลอดจนมีการขยายพันธุ์เจริญเติบโตเพิ่มขึ้นอีกด้วย


อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับจัดตู้พรรณไม้น้ำ
         1. ตู้ปลา ตู้ปลาส่วนใหญ่นิยมใช้ตู้กระจก ความลึกไม่ควรลึกเกิน 24 นิ้ว
เพื่อความสะดวกในการตกแต่ง และแสงสว่างจะส่องไปถึงพื้นตู้
ส่วนรูปทรงและความกว้างยาวขึ้นอยู่กับพื้นที่ตั้งขนาดเหมาะสม
ส่วนใหญ่จะไม่นิยมตู้ขนาดไม่ใหญ่มากนัก
ไม่ควรให้ตู้พรรณไม้น้ำถูกแสงแดดส่องโดยตรง เพราะการควบคุมปริมาณแสงทำได้ยาก
และอุณหภูมิของน้ำอาจเปลี่ยนแปลงได้ง่าย และยังป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำอีกด้วย
         2. ระบบแสงสว่าง แสงสว่างที่พอเหมะโดยประมาณ คือใช้หลอดฟลูออเรสเซนท์ ขนาด 20 วัตต์ต่อน้ำ 40 ลิตร
โดยความลึกของน้ำไม่เกิน 18 นิ้ว สีของหลอด
ควรเลือกสีที่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติเพราะหากเลือก
แสงสีแดงหรือแสงช่วงคลื่นยาว พืชจะสังเคราะห์แสงได้ดีที่สุด ทำให้พืชโตในทางยืดตัว
แสงสีน้ำเงินหรือช่วงคลื่นสั้น พืชจะเป็นพุ่มไม่ยืดตัว ดังนั้นจึงควรผสมสีหลอดเพื่อไม่ให้พืชยืดตัวเร็วเกินไปหรือโตช้าเกินไป
          3. น้ำและระบบกรองน้ำ พรรณไม้น้ำต้องการน้ำที่มีความสะอาด ความกระด้างน้อย
ปกติน้ำประปาที่พักไว้ 2-3 วัน สามารถนำมาใช้ได้ดี อุณหภูมิของน้ำควรให้มีอุณหภูมิที่ค่อนข้างเย็นจะได้ผลดีกว่า
อุณหภูมิที่พอเหมาะคือ 26-27 ํC กระแสน้ำมีความสำคัญต่อพรรณไม้น้ำมาก
กระแสน้ำจะช่วยพัดพาของเสียหรือสิ่งสกปรกบนใบไม้ให้หลุดออกไป
และพัดพาเอาน้ำสะอาดที่มีปุ๋ยและก๊าซที่จำเป็นสำหรับพืชมาให้กับพรรณไม้น้ำ
ในตู้พรรณไม้น้ำจึงควรมีเครื่องปั๊มน้ำขนาดเล็กเพื่อทำกระแสน้ำในตู้
ระบบกรองน้ำที่เหมาะสมคือระบบปั๊มกรองมุมตู้ (CORNER FILTER) ซึ่งใช้ติดตั้งภายในตู้
มีฟองน้ำเป็นวัสดุกรองและมีปั๊มน้ำเป็นตัวปั๊มให้น้ำผ่านวัสดุกรองพร้อมเป่าออกมาให้เกิดกระแสน้ำในตัว
ซึ่งเมื่อฟองน้ำสกปรกก็สามารถถอดมาทำความสะอาดได้ง่าย
          4. วัสดุที่ใช้ปลูกพรรณไม้น้ำ โดยทั่วไปจะใช้กรวดแม่น้ำหรือกรวดควอท์ขนาดเล็กประมาณ 2-3 มม.ปูพื้นตู้ปลา
ให้หนาประมาณ 2-3 นิ้ว ไม่ควรใช้กรวดปะการัง เนื่องจากจะทำให้น้ำมีความกระด้างมาก
ใต้ชั้นกรวดอาจใช้ปุ๋ยพรรณไม้น้ำสำเร็จรูปซึ่งมีแร่ธาตุหลายชนิด
โดยเฉพาะมีธาตุเหล็กที่ช่วยให้พืชน้ำแข็งมีใบสีเข้มสวย และอาจมีฮอร์โมนเร่งรากผสมอยู่ ช่วงให้พรรณไม้น้ำฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
          5. การให้ปุ๋ยและ CO2 เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรรณไม้น้ำอยู่ได้ดีและเจริญเติบโตเป็นปกติ
ในน้ำประปาที่เรานิยมนำมาใช้ใส่ตู้และขาดแร่ธาตุที่จำเป็นต่อพืชน้ำหลายชนิด
ธาตุอาหารที่พืชน้ำต้องการ ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม เหล็ก แมงกานีส และอื่นๆ
ส่วนใหญ่เราจะไม่ใส่ฟอสฟอรัสมากเกินไป เนื่องจากจะทำให้เกิดตะไคร่ได้ง่าย
โปแตสเซียมจะเป็นธาตุที่ขาดแคลนในตู้พรรณไม้น้ำ ในขณะที่ไนโตรเจนได้จากสิ่งขับถ่ายของปลา
เหล็กและแมงกานีสจะไม่มีหรือมีก็ได้ แต่ตกตะกอนได้ง่ายเมื่อถูกกับออกซิเจน
ปุ๋ยทั่วไปที่ใช้ในฟาร์มพรรณไม้น้ำในเมืองไทย คือ สูตร 27:17:10 หรือ 30:20:10
ในขนาดความเข้มข้น 0.25 ppm. ส่วนในพัน
ส่วนสิ่งที่พึงระวังในการใช้ปุ๋ยคือ การผสมเป็นสารละลาย เพื่อให้สะดวกในการใช้ อาจเกิดแก๊ซขึ้นในขวดเมื่อเก็บไว้นาน
ดังนั้นปุ๋ยที่ดีจึงควรเป็นปุ๋ยที่ทำเป็นสารละลายแล้วอยู่ตัวได้นาน ไม่เสื่อมสภาพง่าย
ในชั้นกรวดที่พื้นตู้เราอาจใส่ปุ๋ยเม็ดสำเร็จรูปที่มีจำหน่ายตามร้านขายพรรณไม้น้ำ ก็จะช่วยให้พรรณไม้น้ำเจริญเติบโตได้ดีขึ้น
         การให้ CO2 พรรณไม้น้ำที่ได้รับ CO2 จะเจริญเติบโตดีมาก มีใบกว้างและสมบูรณ์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ปกติตู้ปลาที่ใส่ปลาอาจมี CO2 จากการหายใจของปลาและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ บ้าง แต่ไม่เพียงพอจึงต้องให้ CO2 เสริม
ซึ่ง CO2 นอกจากจะเป็นประโยชน์กับพรรณไม้น้ำที่เกี่ยวกับการสังเคราะห์แสงแล้ว
ยังช่วงรักษา pH และความกระด้างของน้ำให้พอเหมาะสำหรับการเลี้ยงปลาด้วย
ปริมาณการให้ก๊าซ   CO2 ขึ้นอยู่กับความกระด้างและ pH ของน้ำ
หากค่า pH ของน้ำต่ำกว่า 7 ก็ไม่ควรให้ก๊าซ CO2
ปริมาณที่พอเหมาะสำหรับการให้ก๊าซ CO2 คือ 5-15 มิลลิกรัมต่อลิตร และไม่ควรเกิน 20 มิลลิกรัมต่อลิตร
การให้ CO2 มากเกินไปจะก่อให้เกิดผลเสียกับปลาคุณภาพของน้ำ
ไม่ควรให้ก๊าซ CO2 ในเวลากลางคืนหรือเมื่อปิดไฟในตู้ เนื่องจากพรรณไม้น้ำไม่ได้ทำการสังเคราะห์แสง
เครื่องให้ก๊าซ CO2 ที่ทันสมัยจะมีการควบคุมปริมาณ CO2 ในน้ำไม่ให้สูงเกินไปแบบอัตโนมัติ
อย่างไรก็ดี หากสามารถตรวจสอบปริมาณก๊าซ CO2 ในน้ำไม่ให้สูงเกิน 20 มิลลิกรัมต่อลิตร จะแน่นอนที่สุด
วิธีการให้ก๊าซ CO2 มีหลายวิธี อาจใช้ถังก๊าซ CO2 เปิดสายต่อผ่านหัวฟู่ลงในน้ำ
ส่วนใหญ่จะมีเครื่องควบคุมปริมาณที่พอเหมาะแบบอัตโนมัติ หรือใช้ชุดผลิตก๊าซ CO2 สำเร็จรูป (CO2 kit) สำหรับพรรณไม้น้ำที่มีจำหน่ายตามร้านขายพรรณไม้น้ำใหญ่ ๆ

การดูแลรักษาตู้พรรณไม้น้ำ
          การดูแลโดยทั่วไป ได้แก่ การตัดหรือเก็บใบเหลือง ใบเน่าออก
พร้อมกับการทำความสะอาดทั่วไป เช่น ตะไคร่บนกระจก หรือทำความสะอาดเครื่องกรองน้ำ
ควรทำการเปลี่ยนน้ำประมาณ 20-30 % เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้น้ำบริสุทธิ์มากขึ้น
ควรเช็คสภาพของหลอดไฟที่ใช้ หลอดฟลูออเรสเซนที่ใช้ครบ 6 เดือนควรเปลี่ยนใหม่
ตู้ที่มีตะไคร่อาจใส่ปลากินตะไคร่น้ำ เช่น ปลามิดไนท์ ปลาน้ำผึ้ง เป็นต้น
ปลาจะช่วยกินตะไคร่น้ำเล็ก ๆ และช่วยทำความสะอาดใบไปด้วย และควรเลือกปลาที่ไม่กินพรรณไม้น้ำ
ควรเช็คคุณภาพของน้ำอย่างสม่ำเสมอ ระมัดระวังอย่าให้อุณหภูมิสูงหรือต่ำจนเกินไป
หากมีปลาป่วยไม่ควรใส่สารเคมีรักษาโรคปลาลงในตู้ ควรแยกออกมารักษา
ควรใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอเพื่อความสมบูรณ์ของพรรณไม้น้ำ


การเลือกปลาที่ใส่ในตู้พรรณไม้น้ำ
          ส่วนใหญ่ปลาที่ใส่จึงนิยมปลาขนาดเล็กเป็นฝูง จะแลดูสวยงาม
ปลาที่นิยมใส่ส่วนมากจะเป็นปลานีออน ปลาซิวขนาดเล็ก เช่น ปลาซิวขวาน ซิวหางแดง เป็นต้น
รวมทั้งนิยมใส่ปลาที่ช่วยกินตะไคร่และทำความสะอาดใบ พวดปลามิดไนท์ ปลาเล็บมือนาง ปลาน้ำผึ้ง
การใส่ปลาควรรอให้น้ำในตู้พรรณไม้น้ำที่ปลูกเสร็จแล้วใสดีเสียก่อน ปลาจะไม่เกิดความเครียด
และปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้ง่าย
ปลาหลายชนิดกินพรรณไม้น้ำเป็นอาหาร เช่น ปลาทอง ปลาตะเพียน เป็นต้น จึงไม่ควรใส่ลงไป
ส่วนปลาชนิดอื่นที่โตเร็วและเมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดใหญ่ก็ไม่ควรใส่ลงไป
เพราะจะเป็นปัญหาในการจับออกและอาจรื้อพรรณไม้น้ำในตู้ได้
ในตู้พรรณไม้น้ำอาจไม่ใส่ปลาก็ได้ยังคงมีความสวยงามอยู่ และจะสะดวกที่ไม่ต้องให้อาหารปลาทุกวันอีกด้วยครับ



<a href="http://www.youtube.com/watch?v=0WrEu9lvT_g" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=0WrEu9lvT_g</a>

ขอขอบคุณ
             http://www.vcharkarn.com/varticle/39064
             http://www.youtube.com/watch?v=0WrEu9lvT_g

      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #1615 เมื่อ: 24 มีนาคม 2555, 00:18:25 »

อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 15:08:27

สวัสดียามบ่ายครับ.... พี่ตี๋..พี่อร..พี่ปี๊ด..พี่ทราย..พี่หนุน และพี่น้องทุกท่าน

ขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องพรรณไม้น้ำ ครับพี่ตี๋



.....สวัสดีครับ เสี่ยแหลม  ยินดีครับ.....
      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #1616 เมื่อ: 24 มีนาคม 2555, 00:24:04 »

อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 17 มีนาคม 2555, 15:21:13
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 16 มีนาคม 2555, 14:30:14
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 มีนาคม 2555, 23:33:28
คิดออกแระ... สปาต้องใช้กันเยอะแน่ๆ ดอกเกลือเนี๊ยะ
ตลาดต้องการเยอะ เจ้าของบ้านหายไปนี่ ...
สงสัยไปขูดหาดอกเกลือแหงๆ
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 16 มีนาคม 2555, 18:17:08
ไปรับดอกเบี้ยจากธนาคารมังคะ .. คงใช้เวลานับนานหน่อย เพราะมันเย๊อะ!!      สะใจจัง
.....สวัสดีครับ พี้ทราย หาแถวเพ้บ่ป่ะไกลทะเลครับ๕๕๕

      สวัสดีครับ น้องหยี อยากให้เยอะอย่างที่ว่าจังครับ๕๕๕

     ช่วงนี้มัวแต่วุ่นตามงานของลูกสาวครับ คือ ผลงานความคิดของออมได้ส่งเข้าโครงการ กรุงไทยยุววาณิช

     มี รร ทั่วประเทศพันกว่าแห่งส่งเข้าร่วม คัดเหลือ ๑๐ ทีม สุดท้าย ( รร มงฟอร์ด ส่งเข้าประกวด ๕ ทีม)

     บังเอิญทีมของออม เข้ารอบ ๑๐ ทีมสุดท้าย ผลงานชื่อ วู๊ดเวร์คเลโก้   

     ตัดสินรอบชิง วันศุกร์ที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๕

     ที่ ๑ ถึง ๓ ได้ไปดูงานที่ประเทศเกาหลี   ที่๑ ได้เงินรางวัล ๕๙๐,๐๐๐ บาทครับ
     ขอโทษครับแก้ไขหน่อยครับ รางวัลที่๑  ได้เงินรางวัล  ๓๙๐,๐๐๐ บาท 
                         รางรองชนะเลิศ ๒ รางวัลๆละ  ๓๕๐,๐๐๐ บาท
                         รางวัลชมเชย   ๗ รางวัลๆละ    ๘๕,๐๐๐ บาท ครับ


     



    ในฐานะผู้ปกครองที่รับผิดชอบการผลิตทั้งหมด คอยติดตามงานเพิ่มเติมสงสัยว่าจะหวุดหวิด

     อีกสองวันต้องแพคของทั้งหมด  ชุดเพิ่มเติมสุดท้ายช่างบอกว่าคง จะ เสร็จพรุ่งนี้ครับ

     แล้วผมจะเอา ผลงานมาโชว์ ครับ ( พวกแมงโม้๕๕๕๕๕).....




     
ผลงานครับ



.....สวัสดีครับ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ 
     ผลออกมาแล้วครับ สักเกือบสามทุ่ม  ได้รางวัล รองชนะเลิศอันดับ ๑  ครับ
     ขอบคุณสำหรับทุกแรงใจแรงเชียร์ครับ.....


      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #1617 เมื่อ: 24 มีนาคม 2555, 00:25:15 »

พี่ปิ๊ด มาครับ
      บันทึกการเข้า
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #1618 เมื่อ: 24 มีนาคม 2555, 01:25:49 »

อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 24 มีนาคม 2555, 00:24:04
อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 17 มีนาคม 2555, 15:21:13
อ้างถึง
ข้อความของ ทราย 16 เมื่อ 16 มีนาคม 2555, 14:30:14
อ้างถึง
ข้อความของ Leam เมื่อ 13 มีนาคม 2555, 23:33:28
คิดออกแระ... สปาต้องใช้กันเยอะแน่ๆ ดอกเกลือเนี๊ยะ
ตลาดต้องการเยอะ เจ้าของบ้านหายไปนี่ ...
สงสัยไปขูดหาดอกเกลือแหงๆ
อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 16 มีนาคม 2555, 18:17:08
ไปรับดอกเบี้ยจากธนาคารมังคะ .. คงใช้เวลานับนานหน่อย เพราะมันเย๊อะ!!      สะใจจัง
.....สวัสดีครับ พี้ทราย หาแถวเพ้บ่ป่ะไกลทะเลครับ๕๕๕

      สวัสดีครับ น้องหยี อยากให้เยอะอย่างที่ว่าจังครับ๕๕๕

     ช่วงนี้มัวแต่วุ่นตามงานของลูกสาวครับ คือ ผลงานความคิดของออมได้ส่งเข้าโครงการ กรุงไทยยุววาณิช

     มี รร ทั่วประเทศพันกว่าแห่งส่งเข้าร่วม คัดเหลือ ๑๐ ทีม สุดท้าย ( รร มงฟอร์ด ส่งเข้าประกวด ๕ ทีม)

     บังเอิญทีมของออม เข้ารอบ ๑๐ ทีมสุดท้าย ผลงานชื่อ วู๊ดเวร์คเลโก้  

     ตัดสินรอบชิง วันศุกร์ที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๕

     ที่ ๑ ถึง ๓ ได้ไปดูงานที่ประเทศเกาหลี   ที่๑ ได้เงินรางวัล ๕๙๐,๐๐๐ บาทครับ
     ขอโทษครับแก้ไขหน่อยครับ รางวัลที่๑  ได้เงินรางวัล  ๓๙๐,๐๐๐ บาท  
                         รางรองชนะเลิศ ๒ รางวัลๆละ  ๓๕๐,๐๐๐ บาท
                         รางวัลชมเชย   ๗ รางวัลๆละ    ๘๕,๐๐๐ บาท ครับ


    



     ในฐานะผู้ปกครองที่รับผิดชอบการผลิตทั้งหมด คอยติดตามงานเพิ่มเติมสงสัยว่าจะหวุดหวิด

     อีกสองวันต้องแพคของทั้งหมด  ชุดเพิ่มเติมสุดท้ายช่างบอกว่าคง จะ เสร็จพรุ่งนี้ครับ

     แล้วผมจะเอา ผลงานมาโชว์ ครับ ( พวกแมงโม้๕๕๕๕๕).....




    
ผลงานครับ



.....สวัสดีครับ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ  
     ผลออกมาแล้วครับ สักเกือบสามทุ่ม  ได้รางวัล รองชนะเลิศอันดับ ๑  ครับ
     ขอบคุณสำหรับทุกแรงใจแรงเชียร์ครับ.....




น้องออมเก่ง..

ยินดีด้วยครับ....

แล้วน้องออมจะไปเกาหลีเมื่อไรครับ?
      บันทึกการเข้า
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #1619 เมื่อ: 24 มีนาคม 2555, 06:41:29 »

.....สวัสดี+ขอบคุณครับเสี่ยแหลม  
    
     ช่วงไปดูงานน่าจะสิงหาคมครับ

     แต่ทีมน้องออมทั้งหมด ๗ คน หลายคนติดโอลิมปิกวิชาการและเวลาเรียนพิเศษ

     ทำให้ไม่สามารถไปเสนอผลงานได้ด้วยตัวเอง จึงส่งทีมอื่นไปเสนอแทนครับ

     รายชื่อ นร ที่ได้ไปดูงาน ตปท จะใช้ชื่อ นร ที่ไปเสนอผลงานที่ กทม ครับ.....

    
      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #1620 เมื่อ: 24 มีนาคม 2555, 06:45:27 »



.....ฝากข่าว ปชส ครับ.....

      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #1621 เมื่อ: 24 มีนาคม 2555, 06:46:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 06:29:40

.....สวัสดีครับ พี่ตู่..พี่ปิ๊ด..พี่อร..พี่ทราย..พี่อ้อย..เฮียหนุน..เสี่ยแหลม..ครูตุ๋ย..น้องหยี..น้องยา และพี่น้องทุกท่าน
     เราไปดูไม้เย็นๆกันครับ๕๕๕.....



.....ไม้น้ำ (Aquatic Plants).....






พรรณไม้น้ำ (Aquatic Plants)
   พรรณไม้น้ำหรือพืชน้ำ ( aquatic plant, hydrophyte, aquatic weed, water plant ) หมาถึงพืชที่เจริญเติบโตอยู่ในน้ำ
หรือมีช่วงชีวิตหนึ่งที่เจริญอยู่ในน้ำ ซึ่งอาจจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด หรือโผล่บางส่วนขึ้นสู่บริเวณผิวน้ำ ลอยอยู่ที่ผิวน้ำ หรือเจริญเติบโตลอยอยู่ริมฝั่ง
รวมถึงพืชที่เจริญเติบโตในที่ที่มีน้ำขัง พื้นที่ชันแฉะ ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม

ประเภทพรรณไม้น้ำ
เราจัดแบ่งประเภทพรรณไม้น้ำได้หลายแบบดังนี้

1.จัดจำแนกตามแหล่งน้ำที่พบ
1.1.limnophyte หมายถึงพืชที่สามารถขึ้นได้ในน้ำจืด เช่น ธูปฤษี ผักตบชวา จอก แหน พบตามหนอง คลอง บึง บริเวณชายฝั่งถึงใต้น้ำ
1.2.halophyte หมายถึงพืชที่ขึ้นได้ในที่ที่มีความเค็ม ตั้งแต่ป่าชายเลน จนไปถึงหญ้าทะเล
                      แบ่งเป็น 2 ระบบใหญ่ ๆ คือ นิเวศป่าชายเลน และ นิเวศหญ้าทะเล

2.การจำแนกตามหลักการจำแนกตามอาณาจักรพืช
2.1 Bryophyte ได้แก่ Moss, Liverwort
2.2 Pteridophyt ได้แก่ Fern
2.3 Tracheophyte ได้แก่ พืชใบเลี้ยงคู่ พืชใบเลี้ยงเดี่ยว

3. จัดจำแนกตามลักษณะและรูปแบบการเจริญเติบโตในแหล่งน้ำตามธรรมชาติ
3.1 พืชใต้น้ำ ( submerged plant ) เป็นพืชที่มีการเจริญเติบโตอยู่ไต้น้ำทั้งหมด ส่วนของราก ลำต้น ใบจมอยู่ใต้น้ำ
     อาจมีการยึดเกาะกับพื้นดินที่อยู่ใต้น้ำ หรือไม่มีก็ได้ รากอาจมีลักษณะเป็นฝอยสั้น ๆ แตกตามข้อ หรือแตกเป็นกอยู่ใต้ดิน
     พืชบางชนิดเมื่อมีดอกจะชูขึ้นมาเหนือผิวหน้าน้ำ เพื่อผสมเกสร พืชกลุ่มนี้จะสามารถแลกเปลี่ยนก๊าซและธาตุอาหารจากน้ำได้โดยตรง
     ดังนั้นท่อลำเลียงน้ำและท่อลำเลียงอาหารของพืชกลุ่มนี้จึงมีไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับพืชบกหรือพืชน้ำกลุ่มอื่น ๆ
     โครงสร้างภายในของลำต้นและใบจะมีช่องว่างมากเพื่อใช้ในการสะสมก๊าซและช่วยในการพยุงตัวให้ลอยได้
     อาจมีรูปร่างหลายแบบ เช่น เป็นแถบ หรือ แผ่นยาว หรือ แตกออกเป็นฝอย ใบมักจะอ่อนบางและเปราะ
     ประกอบด้วยเซลล์ไม่กี่ชั้น ใบไม่มีคิวตินเคลือบและไม่มีปากใบ
     พืชกลุ่มนี้ได้แก่ สาหร่ายเส้นด้าย สาหร่ายหางกระรอก สาหร่ายพุงชะโด สันตะวาใบพาย สันตะวาใบข้าว สันตะวาใบเดียว

3.2 พืชที่โผล่เหนือน้ำ ( emerged plant ) เป็นพืชที่มีการเจริญเติบโตอยู่ในน้ำบางส่วน มีรากและลำต้นเจริญเติบโตใต้น้ำ
     ส่วนรากจะยึดติดกับพื้นดินใต้น้ำได้ดี มีส่วนใบและดอกเจริญที่ผิวน้ำหรือเหนือน้ำ ส่วนใบและต้นมีลักษณะแข็งแรงกว่าพืชใต้น้ำ
     ใบด้านบนจะมีคิวตินเคลือบบาง ๆ ปากใบมักอยู่ผิวด้านบนมากกว่าผิวใบด้านล่าง ปากใบมักเปิดอยู่ตลอดเวลา
     พืชบางชนิดอาจมีใบใต้น้ำและเหนือน้ำ ในต้นเดียวกันและมีลักษณะที่เหมือนกันหรือต่างกันได้เช่น บัว ผักตับเต่า แว่นแก้ว โสนเทียนนา บัวบา
     สาหร่ายญี่ปุ่นบัวหลวง บัวสาย
     บริเวณโคนต้นของพืชบางชนิดอาจมีเนื้อเยื่อโปร่ง ๆ สีบางเรียกว่า arenchymatous tissue สำหรับทำหน้าที่เก็บสะสมอากาศไว้
     เพื่อใช้หายใจเช่น โสน เทียนนา ผักปอด

3.3 พืชลอยน้ำ ( floating plant ) เป็นพรรณไม้ที่เจริญเติบโตและลอยอยู่ที่ผิวน้ำ มีส่วนรากเจริญอยู่ใต้น้ำ ส่วน ต้น ดอก ใบ ชูขึ้นเหนือระดับน้ำ
     หรือเจริญอยู่ที่ระดับน้ำ ลอยไปใด้อย่างอิสระ หากเจริญอยู่บริเวณที่น้ำตื้น ส่วนรากจะยิดติดกับพื้นดินใต้น้ำใด้
     พืชในกลุ่มนี้อาจมีขนาดเล็กเพียง 2 มม. เช่น ไข่น้ำ หรือมีขนาดใหญ่มากเช่น ผักตบชวา
     พืชกลุ่มนี้จะมีการปรับตัวให้ลอยน้ำเช่น แหนเป็ด ผักตบชวา ผักตบไทย ผักบุ้ง จอกหนู แหนแดง
     ใบมีรูปร่างเรียงตัวกันหลายแบบเช่น อาจเรียงตัวซ้อนกันเป็นวงรูปถ้วยเช่น จอก จอกหูหนู
     บางชนิดมีใบ 2 แบบ เช่น กระจับ มีใบใต้น้ำคล้ายราก ใบที่ผิวน้ำเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน

3.4 พืชชายน้ำ ( marginal plant ) เป็นพืชที่อยูริมตลิ่ง หรือหนองน้ำมีน้ำถ้วมขังตื้น ๆ เช่น กก โสน เป็นต้น
     มีรากเจริญอยู่ในดิน ชูส่วนลำต้น ใบ ดอก ขึ้นมาเหนือน้ำ ในบางครั้งอาจมีลักษณะคล้ายพืชกลุ่ม emerage plant จมไม่สามารถแยกกลุ่มได้

ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของพรรณไม้น้ำ
1. ปัจจัยทางกายภาพ แสง อุณภูมิ ความขุ่น ลักษณะพื้นท้องน้ำ ความเร็วความแรงของกระแสน้ำ
    พืชน้ำบางชนิดมีประสิทธิภาพในการสังเคราะห์แสงได้สูง
2. ปัจจัยทางเคมี ได้แก่ pH ความเค็ม ปริมาณธาตุในน้ำและในดิน
3. ปัจจัยทางชีวภาพ ได้แก่พวกแมลง สัตว์กินพืช โรค

Division Bryophyta
     เป็นพืชชั้นต่ำมีส่วนที่คล้าย ราก ลำต้น ใบ ไม่มีเนื้อเยื่อถาวรที่เป็นเนื้อเยื่อลำเรียง
     มีวงจรชีวิตแบบสลับ ( alternative of generation ) โดยระยะที่เจริญเป็นแบบอิสระคือ ต้น
     gametophyte ( n )
     ส่วนต้น sporophyte ( 2n ) จะเจริญอยู่บน gametophyte พืชในกลุ่มนี้ได้แก่ ข้าวตอกฤษี ( Sphagnum moss )
     มอสน้ำ ( Java moss )

Division Pteriophyta
     พืชกลุ่มนี้มีวิวัฒนาการสูงกว่า Bryophyte คือ มีเนื้อเยื่อลำเลียงอาหาร มีส่วน ราก ลำต้น ใบ ที่แท้จริง
     แต่ยังไม่มีดอกที่ใช้ในการสืบพันธุ์ มีวงจรชีวิตแบบสลับ ( alternative of generation ) คือพืชที่เป็นต้น sporophyte จะเจริญอยู่
     บนต้น gametophyte ระยะหนึ่งต่อมาเมื่อต้น gametophyte ตายไป ต้น sporophyte ก็สามารถเจริญเติบโตอย่างเป็นอิสระต่อไปได้
     พืชในกลุ่มนี้คือกลุ่มเฟิร์น ซึ่งเรานิยมเรียกใบเฟิร์นว่า frond ใบอ่อนมีลักษณะม้วนงอเรียกว่า circinate leaf
     ใบแก่ยาวมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว หรือใบกระกอบแบบขนนก หนือใบประกอบแบบนิ้วมือ
     ใบเฟิร์นท่ำหน้าที่สร้าง spore เรียกว่า reproductive frond
     ใบที่ไม่มีการสร้าง spore เรียกว่า vegetative frond พืชในกลุ่มนี้เป็นพืชน้ำได้แก่ ผักกูดน้ำ ผักกูดเขากวาง ปรง จอกหูหนู

Division Tracheophyta
     พืชกลุ่มนี้เป็นพืชที่มีดอก เป็นพืชที่มีวิวัฒนาการสูงแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่มากสามารถขึ้นทั้งในน้ำและบนบก พืชมีดอกที่เราพบเห็นทั่วไป
     sporophyte ( 2n ) เมื่อเจริญเติบโตมีการสร้างดอก ซึ่งมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ ( pallen ) และเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย ( egg )
     ซึ่งเป็น gametophyte ( n ) เนื่องมาจากมีการแบ่งเซลล์แบบ meiosis เมื่อมีการผสมกันจะได้ zygote ( 2n )
     พืชในกลุ่มนี้จัดอยู่ใน Class Anglospermae สามารถจัดจำแนกได้เป็น 2 Subclass คือ
1. Subclass Dicotyledonae กลุ่มพืชในเลี้ยงคู่ ตัวอย่างของพืชน้ำที่เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ ได้แก่ ผักบุ้ง แว่นแก้ว บัว โสน บัวหลวง กระจับ สาหร่าย
                                          ข้าวเหนียว เป็นต้น
2. Subclass Monocotyledonae กลุ่มพืชใบเลี้ยงเดี่ยวได้แก่ พลับพลึง บอน จาก จอก ตาลปัตรฤษี พุทธรักษา สันตวาใบพาย หญ้าทะเล
                                          สาหร่ายหางกระรอก แหน ไข่น้ำ เตย ข้าว หญ้า ผักตบชวา ดีปลีน้ำ เป็นต้น

โทษของพรรณไม้น้ำ
1. ทำให้แหล่งน้ำเน่าเสียเมื่อมีการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว เมื่อมันตายลงแบคทีเรียจะย่อยสลายทำให้ออกซิเจน ในน้ำลดลงอย่ารวดเร็ว
    ทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย
2. พืชบางชนิดมีหนามแหลม บางชนิดมีอันตรายต่อสัตว์น้ำวัยอ่อน เช่น สาหร่ายข้าวเหนียว จะมีถุงขนาดเล็กอยู่ที่โคนใบ   
    จะผลิตน้ำย่อยที่ย่อยโปรตีนได้ คอยจับแมลง แพลงก์ตอน และลูกปลาเป็นอาหาร
3. สามารถดูดซับธาตุอาหารต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วถ้ามีปริมาณมาก ทำให้สัตว์น้ำหรือพืชอื่นไม่สามารถนำเอาแร่ธาตุไปใชได้
4. เป็นอุปสรรคต่อการคมนาคม การระบายน้ำ การทดน้ำ ทำให้แหล่งน้ำตื้นเขิน เช่น ผักตบชวา จอกหูหนู

ประโยชน์ของพันธุ์ไม้น้ำ
1. ใช้เป็นแหล่งอาหารของคนและสัตว์โดยตรง เช่น ผักบุ้ง เผือก บอน ไข่น้ำ ผักแว่น ผักกูด บัว กระจับ เป็นต้น
2. เป็นแหล่งวางไข่และหลบภัยของสัตว์น้ำนานาชนิด เช่น รากของผักตบชวา ตามใบมีสาหร่ายมาเกิดและเจริญเติบโตอยู่
3. การเพิ่มก๊าซออกซิเจนให้แก่แหล่งน้ำ
4. สามารถนำมาใช้บำบัดน้ำเสียเนื่องจากสามารถดูดซับธาตุอาหารต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น ผักตบชวา ธูปฤๅษี
5. มีความสำคัญทางเศรษฐกิจใช้เป็นพันธุ์ไม้น้ำสวยงามประดับตู้ปลา ทำให้เกิดธุรกิจพันธุ์ไม้น้ำในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ

การเพาะขยายพันธุ์ไม้น้ำสวยงาม
การขยายพันธุ์ไม้น้ำสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นกับธรรมชาติของพันธุ์ไม้น้ำ สามารถสรุปได้ดังนี้
1.   การขยายพันธุ์แบบอาศัยเพศ ไม่นิยมทำ เพราะเจริญเติยโตช้า
2.   การขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ ได้แก่
2.1 การขยายพันธุ์โดยใช้สปอร์ของพืชในกลุ่มเฟิร์นต่างๆ
2.2 การขยายพันธุ์โดยใช้ส่วนต่างๆ ของพืช เช่น หัว เหง้า ลำต้น
2.3 การเพาะเลือกเนื้อเยื่อ ชนิดที่นิยมคือ Anubias sp.


การปลูกพันธุ์ไม้น้ำในแปลงเพาะพันธุ์
1. การปลุกแบบครึ่งบกครึ่งน้ำ เป็นการปลูกที่นิยมกันมาก จะมีส่วนที่เป็นแปลงดินและส่วนที่เป็นบ่อ จะเอาพืชมาปักชำบนแปลงดินก่อน
   เมื่อโตแล้วจึงนำไปลงบ่อ
2. การปลูกแบบใช้ดิน ไม่ค่อยนิยมทำเนื่องจากมีต้นทุนค่อนข้างสูง
3. การปลูกพันธุ์ไม้น้าแบบใต้น้ำ จะมีการตัดแล้วนำไปปักชำใต้น้ำ

ลักษณะสำคัญของพันธุ์ไม้น้ำกลุ่มต่างๆ
Division Chlorophyta
     ชนิดไม่มีรากลำต้นและใบที่แท้จริงเรียกส่วนของพืชทั้งหมดว่า Thallass ประกอบด้วยเซลล์ที่มีลักษณะเหมือนกัน
     มีทั้งที่อยู่เป็นเซลล์เดียว (Unicellular) หลายเซลล์ (Multicellular) รวมกลุ่ม (Colony) หรือเรียงเป็นเส้นสาย (Filament)
     มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ



<a href="http://www.youtube.com/watch?v=6gWtL3V30DQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=6gWtL3V30DQ</a>

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=PWwD7zzMOWE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=PWwD7zzMOWE</a>

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=Lsa8VhLGh2s" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=Lsa8VhLGh2s</a>



ขอขอบคุณ
http://th.discuscommunity.com/index.php?topic=338.0
http://www.youtube.com/watch?v=6gWtL3V30DQ&feature=results_main&playnext=1&list=PL2299B911FF304D53


อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 24 มีนาคม 2555, 06:45:27


.....ฝากข่าว ปชส ครับ.....

      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
Pete15
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,460

« ตอบ #1622 เมื่อ: 24 มีนาคม 2555, 07:00:13 »

สวัสดี เช้าวันเสาร์ ครับ น้องตี๋
      บันทึกการเข้า
ti2521
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,987

« ตอบ #1623 เมื่อ: 24 มีนาคม 2555, 07:10:23 »

อ้างถึง
ข้อความของ Pete15 เมื่อ 24 มีนาคม 2555, 07:00:13
สวัสดี เช้าวันเสาร์ ครับ น้องตี๋

.....สวัสดีครับ พี่ปิ๊ด.....
      บันทึกการเข้า

เพื่อซีมะโด่งจุฬาฯ
สำหรับผม
อย่างไรก็ได้
Lamai
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,712

« ตอบ #1624 เมื่อ: 24 มีนาคม 2555, 09:05:54 »

อ้างถึง
ข้อความของ ti2521 เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 23:21:51
อ้างถึง
ข้อความของ Lamai เมื่อ 23 มีนาคม 2555, 21:31:45
สวัสดีเจ้า......อ้ายตี๋ ปิ๊งๆ

.....เจ้า ขอบคุณครับ 
     บะเดี่ยวฝุ่น ชม นักกว่า ลป แหม น้อ 
     น้องไมสบายดีนะครับ
     ได้ยินว่า บ่ เคยเป็นหวัดมาสิบปี ยาแก้อักเสบ บ่ฮู้จัก   แม่ยิงเหล็กแต้ว่า
     เปิ้นมีสูตรเด็ดใช้ส่วนตัวโล้๕๕๕.....

ชอบสูตรนี้เพราะทำให้ไม่ป่วย ไม่ต้องกินยา ที่สำคัญ..ไม่ต้องเสียเงิน เหอๆๆ เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 63 64 [65] 66 67 ... 94   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><