◄◄◄ << เมียงู >>►►► .. Life is Beautiful ..

[dtoy]

มาแรงและเร็ว(แบบกระฉูด)จริงนะกระทู้นี้

ชนิดว่าขาดหายไปวันสองวันตามแทบไม่ทันเลยอ่ะ

เคยอ่านเจอเหมือนกันค่ะเรื่องของ คิม ฟุค

เธอเป็นวีรสตรีที่กล้าหาญและเข้มแข็งจริงๆ

ที่สำคัญเธอรู้จักการให้อภัย

มันไม่ใช่อะไรที่ง่ายเลย  เมื่อสิ่งนั้นมันคือชีวิตทั้งชีวิตของเธอเอง

เป็นตัวอย่างต่อมวลมนุษย์ที่พิเศษมาก

นี่ก็เป็นลักษณะประจำชาติอย่างหนึ่งของชาวเวียดนาม
คือมีความมุ่งมั่นแรงกล้า  อดทนต่อความยากลำบาก
มองโลกในแง่บวกและมีการปรับตัวสูง

ขอบคุณนะคะทั้งพี่เสธฯ และพี่หยี

[ตุ๋ย 22]

เห็น คิมฟุค  ตอนเด็กแล้วสงสารมาก  แต่ทำไมจงเกลียดจงชังอเมริกันจัง

[หนุน'21]

 

เข้ามากว่าจะตามกระทู้นี้ทัน
เล่นเอาเหนื่อยไปเลย
ครบเครื่อง ครบรสจริงๆ

หะยีกับพี่ๆ น้องๆ
ชื่นชม ๆ ๆ

จริง จริง
ครับ

 

[I-Love-CU]

 

[พศินน์]

Kim Phuc  ชื่อเต็ม Phan Thị Kim Phúc    อ้างอิง  http://en.wikipedia.org/wiki/Phan_Thị_Kim_Phúc
เธอเป็นหลักฐานที่มีชีวิต  ผลของความโหดร้้ายของสงคราม  ท้ายที่สุดผลร้ายก็ตกอยู่ที่พลเรือน โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง  ที่ยังมีชีวิต ในภาพ ผมเข้าใจว่า Kim Phuc เป็นสิ่งแสลงสำหรับ American เพราะว่าสงครามเวียดนามก่อให้เกิดความสุญเสีย แก่ชีวิตทหารอเมริกัน เป็นจำนวนมาก และเป็นหลักฐานที่ว่า ทหารอเมริกัน ใช้อาวุธที่ทำลายล้างสูงมาก   เพียงเพราะต้องการต่อสู้กับทหารที่รบแบบกองโจร  จึ้งต้องใชระเบิดนาปาล์ม (Napalm Bomb) http://en.wikipedia.org/wiki/Napalm  คือเผาป่า เพื่อฆ่าหนู..   ที่ร้ายคือมีการใช้ระเบิดเคมี ที่ทิ้งสารพิษ อย่างไดออกซิน เป็นมกดกบาปของสงครามนี้ด้วย    http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet6/envi5/yellowrain/rainn.htm


  

[swsm]

น้องซอย  .. พี่เริ่มเปิดประตูเข้าประเทศเวียดนามแล้ว..
ลุยเลยค่ะ

คราวนี้พี่จะเป็นผู้ชมและผู้อ่านที่ดี .. อิอิอิ

[dtoy]

ชาวเวียดนามส่วนใหญ่เกลียดอเมริกันมาก  จะว่าอย่างงั้นก็ได้

เมื่อปี ๙๑ และ ๙๒ ต๋อยได้เดินทางไปจัดสัมมนาที่กรุง HCMC

ได้พบเห็นเหตุการณ์ที่บอกได้ว่า  คุณเวียดเกลียดคุณกัน

นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันได้รับการต้อนรับที่หยาบคาย  ดูถูกกระทั่งถ่มน้ำลายใส่หน้า
คงจะเคียดแค้นฝังใจจำ

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น

จะว่าเกลียดจนเข้ากระดูกซะทีเดียวก็ไม่ถูกต้องนัก

เพราะชาวเวียดนามก็ฝากความหวังของประเทศไว้กับมหาอำนาจอย่างอเมริกา
ดูได้จากการเลือกตั้งประธานาธิบดีในขณะนั้น  ต๋อยอยู่ที่นั่นพอดี
พอ Republican -- Bush (senior) หลุดจากตำแหน่งและ Democrat -- Clinton ขึ้นมาแทน
ได้สร้างความผิดหวังให้กับชาวเวียดนามเป็นอย่างยิ่ง
เพราะนโยบายของ Bush สอดคลัองกับความต้องการของชาวอินโดจีนในขณะนั้น

นั่นเมื่อเกือบ  ๒๐ปี ที่แล้ว
แต่ในยุค ๒๐๐๙ นี้ ความเกลียดความแค้น และอะไรๆ ก็คงจะเจือจางตามกาลเวลา
เอ  หรือว่าคนเวียดไม่ได้ลืมอะไรง่ายดายเช่นคนไทย

[swsm]

อืมม์ .. น่าคิดค่ะน้องต๋อย
แต่หากจะถามว่าชาวเวียดเป็นคนที่ลืมอะไรง่ายไหม ??

ในความเห็นของพี่ .. พี่ว่าไม่นะคะ
มันคงเป็นแค้นฝังใจที่ลึกจนกว่าจะยอมทำใจให้ลืมได้ .. !! 

[swsm]

รูปนี้ .. คือการกระทำของคนเวียดนามต่อคนเวียดนาม .. ด้วยกันเอง
ใช่ไหมคะ ??

[เหยง 16]

น่าจะเป็นภาพของผู้บัญชาการตำรวจกรุงไซ่ง่อน(ขณะนั้น) ยิงเวียดกง(ชาวเวียดนามรักชาติที่ต้องสงสัยว่าเป็นแนวร่วม)
ในขณะออกตรวจพื้นที่
ภาพนี้ฮือฮามากในขณะนั้น เท่ากับประจานกระบวนการจับกุมที่ไม่มีการสอบสวนและลงโทษผ่านศาลยุติธรรม
โดยสามารถสังหารข้าศึกที่ถูกจับกุมได้ทันที และทำให้เวียดกงไม่ยอมจำนนให้ถูกจับกุมอีกต่อไป
และต้องต่อสู้จนถึงที่สุด
ภาพนี้น่าจะเป็นช่วงก่อนเวียตนามแตก สัก 3-5 ปี

ในอดีตผู้บริหารชาวเวียตนามต้องพูดภาษาฝรั่งเศสได้ เป็นคริสเตียน จึงจะได้รับการโปรโมทตำแหน่ง

[Leam]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 18 พฤษภาคม 2552, 14:08:33
	น่าจะเป็นภาพของผู้บัญชาการตำรวจกรุงไซ่ง่อน(ขณะนั้น) ยิงเวียดกง(ชาวเวียดนามรักชาติที่ต้องสงสัยว่าเป็นแนวร่วม) ในขณะออกตรวจพื้นที่ ภาพนี้ฮือฮามากในขณะนั้น เท่ากับประจานกระบวนการจับกุมที่ไม่มีการสอบสวนและลงโทษผ่านศาลยุติธรรม โดยสามารถสังหารข้าศึกที่ถูกจับกุมได้ทันที และทำให้เวียดกงไม่ยอมจำนนให้ถูกจับกุมอีกต่อไป และต้องต่อสู้จนถึงที่สุด ภาพนี้น่าจะเป็นช่วงก่อนเวียตนามแตก สัก 3-5 ปี ในอดีตผู้บริหารชาวเวียตนามต้องพูดภาษาฝรั่งเศสได้ เป็นคริสเตียน จึงจะได้รับการโปรโมทตำแหน่ง

ขออนุญาตเพิ่มเติมข้อมูลอีกนิดเพื่อความสมบูรณ์ของภาพและเรื่องครับ.........พี่เหยง

คนยิงคือ.....Nguyen Ngoc
เหตุเกิดเมื่อ......วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พศ. 2511

[Leam]

อีกภาพหนึ่ง.........

ที่ฝังใจและทำให้คนเวียดนามเกลียด.....อเมริกัน






เป็นภาพทหารอเมริกันใช้รถหุ้มเกราะ....ลากศพทหารเวียดกงประจาน
ภาพนี้ถ่ายเมื่อปี พศ. 2509

[Leam]

ภาพจากเวียดนาม.....ที่โลกไม่เคยลืม....อีกสักภาพ


                                           


ท่าน Thich Quang Duc, พระภิกษุชาวเวียดนาม....นั่งเผาตนเองประท้วงนโยบายของรัฐบาล
ภาพนี้ถ่ายเมื่อปี พศ. 2506

[เจตน์]

ทำไมคนเราถึงได้โหดร้ายกันได้ถึงเพียงนี้...........แค่ต่างกันที่สีผิว แค่ต่างกันที่ศาสนาความเชื่อ แค่ต่างกันที่แนวคิด......แค่นั้นจริงๆ

[swsm]

		อ้างถึง			ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 18 พฤษภาคม 2552, 14:08:33
	น่าจะเป็นภาพของผู้บัญชาการตำรวจกรุงไซ่ง่อน(ขณะนั้น) ยิงเวียดกง(ชาวเวียดนามรักชาติที่ต้องสงสัยว่าเป็นแนวร่วม) ในขณะออกตรวจพื้นที่ ภาพนี้ฮือฮามากในขณะนั้น เท่ากับประจานกระบวนการจับกุมที่ไม่มีการสอบสวนและลงโทษผ่านศาลยุติธรรม โดยสามารถสังหารข้าศึกที่ถูกจับกุมได้ทันที และทำให้เวียดกงไม่ยอมจำนนให้ถูกจับกุมอีกต่อไป และต้องต่อสู้จนถึงที่สุด ภาพนี้น่าจะเป็นช่วงก่อนเวียตนามแตก สัก 3-5 ปี ในอดีตผู้บริหารชาวเวียตนามต้องพูดภาษาฝรั่งเศสได้ เป็นคริสเตียน จึงจะได้รับการโปรโมทตำแหน่ง

ขอบคุณค่ะพี่เหยง พี่แหลม ที่มาร่วมแชร์   

[เจตน์]

พี่หะยีไม่ไปดริ๊งหรือครับ

[swsm]

กะลังจะไปค่ะ ..
แต่ก่อนจะปิดเครื่อง  ขอแวะมาเช็คเรตติ้งก่อน

อิอิอิ .. เมื่อไรเราจะมา กทม. สักทีเนี่ย .. !!! ฮึ

[เจตน์]

ไม่รู้ ไม่ชี้ .....ขอให้สนุกนะครับ แล้วหลอกให้พี่แหลมยิ้มถ่ายรูปให้ได้นะพี่ 

[ตุ๋ย 22]

เวียตนามกำลังดี  ผมเป็นคนหนึ่งที่เกลียดอเมริกัน

[phraisohn]

ทำไมโหดร้ายจัง

[เหยง 16]

		อ้างถึง			ข้อความของ Leam เมื่อ 18 พฤษภาคม 2552, 16:04:48
	ภาพจากเวียดนาม.....ที่โลกไม่เคยลืม....อีกสักภาพ                               ท่าน Thich Quang Duc, พระภิกษุชาวเวียดนาม....นั่งเผาตนเองประท้วงนโยบายของรัฐบาล ภาพนี้ถ่ายเมื่อปี พศ. 2506

ภาพนี้พอจะให้ข้อมูลได้ว่า
ในสมัยนั้นคนเวียตนามเหมือนกัน แต่หากพูดฝรั่งเศสได้ นับถือคริสศาสนานิกายโรมันคาทอลิก
จะเป็นคนชั้นปกครองของเวียตนาม
จริงๆแล้ว ชาวเวียตนามนับถือพุทธศาสนาคือประชากรหลักของประเทศนี้
แต่เพราะชนชั้นปกครองถูกสั่นคลอนด้วยประชาชนที่ตนเองปกครอง และจากเวียตนามเหนือ
การบังคับห้ามประกอบศาสนกิจเวียนเทียนในวันมาฆะบูชา, วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา
เนื่องจากช่วงเวียนเทียนเป็นเวลาค่ำคืนและเป็นการชุมนุมของกลุ่มคนชาวพุทธทั้งประเทศ
พระซึ่งเป็นผู้นำชุมชนจึงออกมาประท้วงคำสั่งห้ามดังกล่าวและเผาตัวเอง(รอบๆในรูปจะเห็นแต่พระ)
จนที่สุดเวียตนามเหนือบุกลงใต้เพื่อช่วยปลดปล่อย(น่าจะเรียก"เวียตกง")
ร่วมกับชาวเวียตนามใต้(น่าจะเรียก"เวียตมินต์") เป็นที่มาของสงครามเวียตนามเต็มรูปแบบ
หลังจากปราบฝรั่งเศสที่เบียนเดียนฟูเสร็จ และอเมริกาเข้าไปสวมรอยแทน แต่ไม่แก้ปัญหาชนชั้นให้จบก่อน
และสงครามเวียตนามจบลงด้วยการที่สหรัฐถอนทหารออกไป แบบหนีแทบไม่ทัน
ในสมัยของคิสซิงเจอร์เป็น รมต.ต่างประเทศ ราวๆปี 2517-18-19 หลังเกิด 14 ตุลา ในประเทศไทย
รวมทั้งการล่มสลายของลาวฝ่ายขวาและรัฐบาลสีหนุในเขมรด้วย

[I-Love-CU]

ประมาณ ๓ ปีที่แล้ว ได้มีโอกาสไปเวียดนาม โดยเข้าทางชายแดนจีนตอนเหนือ แล้วนั่งรถไฟลงมายังฮานอย และล่องใต้จนถึงถึงโฮจิมิน ซิติ้
เวียดนามพัฒนาไปได้เร็วพอควร ทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ และคนก็ดูขยันดี

ที่อินเดีย มีพระและแม่ชีเวียดนามมาศึกษาต่อด้านศาสนาหลายร้อยคน ในความเห็นส่วนตัวพระจากเวียดนามมีบุคลิกที่ดูสงบและน่านับถือที่สุด หากเปรียบเทียบกับพระต่างชาติทั้งหมดที่นี่

เมื่อปีที่แล้วท่านติช นัท ฮันห์ (Thich Nhat Hanh)เดินทางจากฝรั่งเศส มาแสดงธรรมที่นิวเดลี โชคดีได้มีโอกาสเข้าฟังธรรมด้วย

[swsm]

เคยมีเพื่อนเวียดนามเหมือนกันในระหว่างเรียนและอบรมระยะยาว..
เราจะเห็นความขยันของเขาที่โดดเด่นมาก ..
เพราะไม่โดดเรียน
ไม่เบี้ยวกิจกรรมที่ครูมอบให้ทำ แม้จะมีปัญหาด้านภาษาอังกฤษมากกว่าเรา

นึกถึงสมัยที่ตัวเองเป็นเด็ก ๆ ..
เราแข่งเป็นเสือตัวที่ 5 กับมาเลเซีย

เวลานั้น  เวียดนามคืออะไรก็ไม่รู้ก็อยู่ข้างหลังมาาาาาาก
จนเราไม่เหลียวมองว่าเป็นคู่แข่งเลย

มาวันนี้ .. ต้องถามตัวเองใหม่

เพราะบทเรียนจากความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานจากสงคราม
ผสมผสานกับความขยันที่จะก่อร่างสร้างตัว
เป็นไปได้ไหมว่า ..

สักวันหนึ่งเวียดนามจะแซงหน้าเราไป 
แล้วเราก็ต้องไปหา benchmark กับประเทศด้อยพัฒนากว่าแทน !?!     

[I-Love-CU]

พี่หะยี

ไม่ต้องห่วงหรอกครับว่าใครจะแซงหน้าไทย

ขอแค่เราแซงหน้าตัวเองให้ได้ก็พอ แต่ตอนนี้ มันแบบยึกๆยักๆ จะก้าวก็ไม่ก้าว จะถอยก็ไม่ถอย

ล้มๆลุกๆ ทรงๆตัวอยู่แบบผีอมโรค   

 

ว่าแต่ นอนดึกมาก จะเป็นหมีแพนด้า หน้าไม่เด้ง นะครับ 

[suriya2513]

เป็นสัจธรรม ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยละครับ
ไม่มีอะไรจะยืนหยัดอยู่ได้นิรันดร์
เมื่อเราอยู่อย่างสุขสบายจนคุ้นชิน
เราจะไม่มีทางที่จะสร้างลูกหลานของเราให้แข็งแกร่งได้
เพราะคนจะแข็งแกร่งได้ ต้องถูกเคี่ยวกรำด้วยความยากลำบากเท่านั้น
ไม่มีหนทางลัด
คล้ายๆกับการมีสุขภาพดี จะได้มาก็ต้องอดทนเหนื่อยยากออกกำลังกาย
จะไปหาโอสถทิพย์ที่ไหนมากินเข้าไปก็ถ่ายออกมาเปล่าๆ