24 พฤศจิกายน 2567, 03:31:29
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1]   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ...  (อ่าน 3437 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« เมื่อ: 23 ธันวาคม 2552, 08:23:50 »

ซี. เจ. ฮวง และบริษัท ซัมมิท กรุ๊ฟ  ...  ปิ๊งๆ


ซี.เจ เป็นนักเรียนจาก MIT  สหรัฐอเมริกา  มีเพื่อนๆ ที่จบมาด้วยกัน และเป็นเพื่อนรักกันมาก จำนวน 3 คน  และนั่นคือที่มาของคำว่า “SUM"  ซึ่งแปลว่า สาม และ MIT เลยรวมกันเป็น SUMMIT Group


ซี. เจ. หลังจากจบจาก MIT แล้ว  ก็มุ่งหน้าเดินทางเข้าสู่เมืองไทย  เพื่อนรักอีกท่านหนึ่งเดินทางไปสู่ไต้หวัน  โดยมีเพื่อนอีกหนึ่งคนยังคงปักหลักอยู่ที่อเมริกา เพื่อเป็น Connection หาสินค้าต่างๆ และติดต่อธุรกิจต่างๆให้


ซี.เจ. เดินทางมาเมืองไทยด้วยเงินเพียง US$ 1,000.- เท่านั้น  พร้อมด้วยการเป็นเอเย่นต์ยาของบริษัทไฟเซอร์ 


ต่อมาได้มาเห็นลู่ทางทำมาหากินในเมืองไทย  โดยการเข้าติดต่อกับนักการเมืองที่มีอำนาจมากในสมัยนั้น  จึงได้เช่าโรงกลั่นน้ำมันของกรมการพลังงานทหารบก  ซึ่งมีโรงกลั่นอยู่ที่บางจาก  เพื่อกลั่นน้ำมันให้แก่รัฐในยามสงคราม หรือที่เรียกว่า ยุทโธปกรณ์  ก็คือ  “น้ำมันตราสามทหาร”  ในสมัยนั้น 


ในเวลาต่อมา  ก็ทำการเช่าปั๊มจำหน่ายน้ำมันของสามทหารทั้งหมด เพื่อดำเนินการหากำไรในยามไม่มีสงครามและในที่สุด ก็ได้สัมปทานโรงกลั่นน้ำมัน “สามทหาร”  มีปั๊มน้ำมันทั่วประเทศไทย  ทำการกลั่นน้ำมันมีรายได้ปีละหลายหมื่นล้านบาท  และรับเหมาส่งน้ำมันดีเซลให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า  และขยายกิจการออกไปสู่กิจการปิโตรเคมีหลายแห่ง  มีบริษัทในเครือหลายบริษัท  จนเป็นธุรกิจชั้นนำของเมืองไทยในขณะนั้น


ซี.เจ. …..เป็นคนไต้หวัน ที่พูดได้แต่ภาษาอังกฤษ  ตลอดจนการใช้งานต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษทั้งสิ้น  แต่เขาคงพูดไทยได้พอสมควร  เพราะเขาอยู่ในเมืองไทยมากว่า 10 ปีแล้ว  จนร่ำรวยเป็นเศรษฐีคนหนึ่งของเมืองไทย



      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #1 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2552, 08:42:20 »

ประมาณปี 2512


ธนาคารกรุงเทพทำ ระบบ On Line แห่งแรกในประเทศไทย โดยให้ลูกค้าทำรายการฝากถอนข้ามสาขาได้เป็นรายแรก 


การที่ธนาคารกรุงเทพเปิดบริการได้อย่างนั้น เป็นการตีขนดหางของพญานาคตัวที่สองคือ ธนาคารของชาวนาไทย (ธนาคารกสิกรไทย) ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญอยู่อย่างรุนแรง 


ธนาคารกสิกรไทย เลยวางโครงการที่จะใช้คอมพิวเตอร์บ้าง โดยจ้าง  ดร. จากสำนักงานสถิติแห่งชาติเข้ามาเป็นที่ปรึกษา


ศึกการแข่งขันระหว่างสองธนาคารนี้ก็ประหลาด  ทางธนาคารกรุงเทพเอง มีนโยบายที่จะให้บริการด้านลูกค้าก่อน คืองานอะไรที่ทำความสำคัญ หรือให้ความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ธนาคารกรุงเทพจะจับตรงนั้นก่อน โดยทำระบบ On Line ไปยังสาขาถึง 7 สาขาในขณะนั้น  แต่ดวงธนาคารกรุงเทพไม่ค่อยดี ที่ต้องไปเล่นกับระบบ On Line ซึ่งยังใหม่มากในประเทศไทย ในขณะเดียวกัน ก็เกี่ยวกับสายโทรศัพท์ขององค์การโทรศัพท์ซึ่งยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ บางครั้งคอมพิวเตอร์ส่งสัญญาณไปยังเครื่องเทอมินัลก็มีเพลงจีนประกอบไปด้วย ทำให้การ ON Line ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ระบบล่มบ่อย ทำให้ลูกค้าต้องรอนาน และเอือมระอากับบริการของธนาคารกรุงเทพไปตามกัน



ธนาคารกสิกรไทยก็เฝ้าตามตามความเคลื่อนไหวของธนาคารกรุงเทพอย่างใกล้ชิด  เห็นธนาคารกรุงเทพมีข้อผิดพลาดตรงเอาระบบบริการลูกค้าออกไปให้บริการด้านคอมพิวเตอร์ก่อน  ในขณะเดียวกันกับความไม่พร้อมของระบบและหน่วยงานทั้งหลาย อันทำให้ลูกค้าเกิดความไม่เชื่อมั่น 


ธนาคารกสิกรไทยเลยเอาใหม่  หันมาวางระบบคอมพิวเตอร์โดยเน้นไปที่ข้อมูลของลูกค้า หรือ Customer Information System หรือ CIS ก่อน และเมื่อสำเร็จใช้ได้ผลดีแล้ว จึงให้บริการออกไปยังส่วนที่เกี่ยวกับการบริการลูกค้าต่อไป
      บันทึกการเข้า
  หน้า: [1]   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><