25 พฤศจิกายน 2567, 14:45:33
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 40 41 [42] 43   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: สู่เหย้า เมาท์เพื่อรุ่น ... RCU16  (อ่าน 304929 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #1025 เมื่อ: 28 มีนาคม 2553, 20:03:31 »

วันอาทิตย์อยู่บ้านติดตามข่าวทางทีวีทั้งวันเลยครับ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1026 เมื่อ: 28 มีนาคม 2553, 23:06:02 »

พี่ทั้งเปิดทีวี,  น.ส.พ. 2 ฉบับ มติชน-ไทยโพสต์, internet อ่าน online อีก 4-5 ฉบับ
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #1027 เมื่อ: 29 มีนาคม 2553, 23:38:55 »

ภูมิใจในตัวท่านนายกมากๆ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1028 เมื่อ: 30 มีนาคม 2553, 20:16:57 »

ไหวพริบทันกัน และคารมยังเหนือชั้นกว่า
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #1029 เมื่อ: 30 มีนาคม 2553, 21:05:28 »

สรุปแล้วก้เป็นไปอย่างที่คิด  ตกลงกันไม่รู้เรื่อง
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1030 เมื่อ: 31 มีนาคม 2553, 14:53:44 »

เผยนาทีระทึก "นศ.ไทยในฟลอริด้า" ถูกปืนเรเซอร์จ่อหัว! ฐานไม่เข้าเรียนให้ครบตามเกณฑ์วีซ่า

รายงานโดย อรสา ศรีสุขเสริม ผู้สื่อข่าวพิเศษมติชน จากฟลอริดา สหรัฐฯ


จากกรณีที่สำนักงานสอบสวน ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ไอซีอี.)  ประจำสำนักงานเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา  ประเทศสหรัฐอเมริกา (Immigration and Customs Enforcement: ICE) เข้าจับนักเรียนไทยเมื่อวันที่  26 กุมภาพันธ์ จำนวน 52 คน เป็นชาย  24 คน หญิง 28 คน ทั้งหมดถูกตั้งข้อหา กระทำผิดสถานะของวีซ่านักเรียนเอฟ วัน ( F-1) ซึ่งเรียกว่า วีซ่า ไวโอเลชั่น (Visa violation) ใน 3 กรณีแตกต่างกันไปแต่ละคน


กรณีที่ 1 นักเรียนไม่เข้าเรียนให้ครบ 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ตามเงื่อนไขผู้ที่ถือวีซ่าเอฟ วัน ต้องเข้าเรียนเต็มเวลาสม่ำเสมอ กรณีที่ 2 ไม่อนุญาตให้นักเรียนทำงาน และกรณีที่ 3  นักเรียนอยู่ในประเทศเกินกว่าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้การอนุญาตไว้ เรียกว่า โอเวอร์สเตย์ (overstayed ) โดยทางการสหรัฐเรียกปฏิบัติการครั้งนี้ว่าเป็น “การทลายการฉ้อฉลของโรงเรียนและนักเรียนครั้งใหญ่ที่สุด”


การจับกุมครั้งนี้ นอกจากมีนักเรียนไทยแล้ว ยังมีนักเรียนต่างชาติอื่นๆ เช่น ญึ่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย ตุรกี โคลัมเบีย สาธารณรัฐโดมินิกัน เตอร์กมินิสถาน คาร์กีซสถาน ฮอนดูรัส ซีเรีย เวเนซูเอลา และบราซิล อีกกว่า 50 คน ถูกจับกุมเช่นกัน ล้วนเป็นนักเรียนที่มีรายชื่อลงทะเบียนเรียนที่สถาบันสอนภาษาอังกฤษ ชื่อ "ฟลอริด้า แลงเควจ อินสทิทิวท์" (Florida Language Institute) คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ “โรงเรียนสีชมพู” เนื่องจากตัวอาคารทาสีชมพู และเก็บค่าเล่าเรียนถูกกว่าที่อื่น คิดราคา คอร์สละ 3 เดือน 1,000 เหรียญสหรัฐ  (ราว 32,000 บาท)  ขณะนี้โรงเรียนดังกล่าวได้ถูกสั่งปิดกิจการและเจ้าของโรงเรียนถูกทางการสหรัฐดำเนินคดี ตั้งข้อหาไม่ปฏิบัติตามระเบียบของสถาบันการศึกษา ฉ้อโกงรัฐ เป็นจำนวนเงินกว่า 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยให้นักเรียนลงทะเบียนเพื่อรักษาสถานภาพ และยินยอมให้นักเรียนเซ็นชื่อเข้าเรียนโดยไม่ต้องเข้าเรียนจริงได้
 

ความคืบหน้าล่าสุด นักเรียนไทยทั้งหมดที่ถูกจับกุมได้ถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่สถานกักกัน ชื่อ บราเวิร์ด ทรานซิชั่นแนล เซ็นเตอร์ (Broward Transitional Center) เมืองปอมปาโน่ บีช รัฐฟลอริดา ถึงปัจจุบันทั้งหมดยังไม่ได้รับการประกันตัวแต่อย่างใด และมีนักเรียนบางส่วนที่มีรายชื่อลงทะเบียนเรียนอยู่ในโรงเรียนดังกล่าว แต่ยังอยู่ในระหว่างติดตามเพื่อจับกุมตัวได้เดินทางกลับประเทศแล้วกว่า 15 คน ซึ่งนักเรียนกลุ่มนี้ไม่ได้ถูกตั้งข้อหาและได้แจ้งความจำนงผ่านสถานทูต ด้วยเกรงว่าหากถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐตรวจพบอาจถูกจับไปควบคุมตัวเช่นเดียวกับนักเรียนที่โดนจับกุมก่อนหน้า และขณะนี้ยังมีผู้แจ้งความจำนงขอกลับประเทศไทยและขอคำแนะนำมายังสถานทูต  เพื่อให้ข้อมูลในกรณีนี้โดยเฉพาะอยู่เป็นจำนวนมาก
 

นางภัทราวรรณ  เวชศาสตร์ อัครราชทูตที่ปรึกษา ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี ให้สัมภาษณ์ว่า สถานทูตไทยได้รับข้อมูลเรื่องการบุกจับนักเรียนจาก นางกัญญา มูลศิริ นายกสมาคมไทย-อเมริกันแห่งฟลอริด้าภาคใต้ จึงมายังเมืองไมอามี พร้อมคณะเจ้าหน้าสถานทูตไทย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือแก่นักเรียนไทย เนื่องจากการจับกุมครั้งนี้เป็นการจับกุมโดยความร่วมมือระหว่างกองตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐและกระทรวงความมั่นคงภายใน (Department of Homeland Security) ซึ่งได้ติดตามสืบสวนสอบสวนตามรายชื่อนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนดังกล่าวมาระยะหนึ่งแล้ว
 

อัครราชทูตที่ปรึกษา กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือนักเรียนไทยที่ถูกจับกุมตัวว่า ขณะนี้ถูกตั้งข้อหาคนละ 2-3 ข้อหาแตกต่างกันไป และหลายคนได้ติดต่อทนายความเพื่อเป็นตัวแทนในการดำเนินการทางศาลแล้ว โดยสถานทูตได้เข้ามาให้ข้อมูลด้านการติดต่อและพิจารณาคัดเลือกทนายความ ซึ่งสถานทูตได้นำรายชื่อทนายความที่ว่าความให้ฟรีหรือคิดค่าบริการในราคาไม่แพงมาให้กับนักเรียน ขณะเดียวกันญาติและผู้เกี่ยวข้องกับเด็กนักเรียนบางคนก็ได้ดำเนินการว่าจ้างทนายความไว้ให้กับนักเรียนแล้ว ซึ่งขณะนี้รอเพียงการขอประกันตัวและเข้าพบผู้พิพากษาเพื่อรับการพิจารณาคดีเป็นรายบุคคล คาดว่าคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง 


ขั้นแรกนี้นางภัทราวรรณ กล่าวว่า สถานทูตได้ให้ข้อมูลเพื่อสร้างความเข้าใจในการดำเนินการทางศาลกับนักเรียนไทยว่า  มีสองทางเลือกที่นักเรียนจะพิจารณาตัดสินใจด้วยตัวเองว่า ทางเลือกหนึ่ง จะเซ็นเอกสารยอมรับผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่  ซึ่งถ้ายินยอมเซ็นรับผิด ทนายความก็จะส่งเรื่องให้ศาลพิจารณาอนุมัติและส่งตัวกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับ แต่จะไม่สามารถกลับเข้ามาสหรัฐอีกเป็นเวลาสิบปี 


อีกทางเลือก จะต่อสู้คดีหรือไม่  แบ่งเป็น 3 กรณี หนึ่ง หากนักเรียนมีเอกสารหลักฐานการเข้าเรียนตามเกณฑ์ที่วีซ่าเอฟ วันกำหนด ประกอบกับเป็นบุคคลที่ทำประโยชน์ให้กับชุมชน เป็นผู้มีความประพฤติดี มีเอกสารรับรองจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเด็กนักเรียนมานำเสนอต่อศาล ก็จะได้รับการยกเลิกข้อกล่าวหา  สอง หากต่อสู้คดีและมีความผิด สามารถแจ้งความจำนงขอกลับประเทศไทยโดยสมัครใจ ซึ่งนักเรียนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางเอง  กรณีนี้นักเรียนอาจไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้ามาสหรัฐเป็นเวลา 3-10 ปี ขึ้นอยู่กับข้อกล่าวหาที่ได้รับ และสาม  หากต่อสู้คดีและศาลตัดสินว่ามีความผิด จะถูกบังคับกลับ (Orderly Deportation) ซึ่งศาลจะออกค่าใช้จ่ายให้ แต่จะไม่ได้รับอนุมัติวีซ่าให้กลับเข้ามาสหรัฐ เป็นเวลา 10 ปีเช่นกัน ทั้งนี้นักเรียนไทยยื่นความจำนงขอต่อสู้คดีเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเห็นว่า ยังพอมีหลักฐานนำเสนอเพื่อแก้กล่าวหา
 

นางภัทราวรรณ กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้สถานทูตได้เดินทางมาเยี่ยมเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนักเรียน และช่วยเหลือดูแลขอความร่วมมือกับทางการสหรัฐในเรื่องสถานที่กักกันให้อยู่ในสภาพดี  พบว่า สถานกักกันมีสภาพสะอาดเรียบร้อย  จัดแบ่งสถานที่พักแยกระหว่างหญิง-ชาย  ที่พักหญิงแบ่งเป็นห้องละ  5 คน ชายห้องละ 6-8 คน  แต่ละห้องมีโทรทัศน์ เครื่องเล่นซีดี   ภายในบริเวณสถานกักกันมีสนามกีฬาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ อาทิ   บาสเก็ตบอล ฟุตบอล วอลเลย์บอล  ฯลฯ  มีห้องสวดมนต์สำหรับผู้นับถือศาสนาอิสลาม  มีอาหารให้บริการ 3 มื้อ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรจะได้รับ 


"นอกจากนี้ ทางสถานฑูตยังได้เจรจาขอให้สถานกักกันจัดหาอาหารไทยเพื่อให้บริการแก่นักเรียนไทยในบางมื้อด้วย โดยมีนักเรียนไทยบางคนขออาสาสมัครเข้าไปเป็นพ่อครัว ปรุงอาหารไทยให้เพื่อนๆในสถานกักกันได้รับประทาน เพื่อเป็นการ  ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ไม่ฟุ้งซ่าน" นางภัทราวรรณ กล่าว


อัครราชทูตที่ปรึกษา กล่าวด้วยว่า  ในการประสานขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สหรัฐครั้งนี้  ทางการไทยไม่สามารถแทรกแซงทางการเมืองได้ ตามสนธิสัญญาเวียนนา ว่าด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  เนื่องจากมีญาติและผู้เกี่ยวข้องกับนักเรียนขอร้องให้สถานทูตเจรจาขอลดหย่อนผ่อนโทษให้กับนักเรียน   ผู้กระทำความผิด   แต่เนื่องจากข้อกล่าวหาที่นักเรียนไทยได้รับนั้นเป็นความผิดตามกฎหมายอย่างชัดเจน  สถานฑูตจึงทำได้เพียงขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่สหรัฐ ตรวจสอบเอกสารของนักเรียนแต่ละคนอย่างเร่งด่วนเพื่อให้การดำเนินการพิจารณาคดีเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด  ด้วยไม่ต้องการให้นักเรียนไทยต้องถูกกักตัวอยู่เป็นเวลานาน
 

สำหรับกฎระเบียบการเข้าเยี่ยมนักเรียนในสถานกักกันนั้น  จากการสอบถามนางกัญญา มูลศิริ  นายกสมาคมไทย-อเมริกันแห่งฟลอริด้าภาคใต้ ให้สัมภาษณ์ว่า  ผู้จะเข้าเยี่ยมนักเรียนต้องโทรศัพท์ นัดหมายเวลาจากนักเรียน โดยโทรศัพท์ฝากข้อความ ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ไว้ที่เบอร์ของสถานกักกัน เมื่อนักเรียนได้รับข้อความขอนัดพบแล้วจะโทรกลับเพี่อยืนยันการเข้าพบอีกครั้ง ระเบียบการเข้าพบทำได้กลุ่มๆละ 2-3 คน  ครั้งละ 45 นาที โดย วันเสาร์เปิดให้เข้าเยี่ยมนักเรียนหญิง ส่วนวันอาทิตย์ให้เข้าเยี่ยมนักเรียนชาย  ห้ามนำสิ่งของเครื่องใช้เข้าไปให้ผู้ถูกกักกัน  ทุกคนจะต้องสวมชุดสีเทาเหมือนกัน 
 

นางกัญญา กล่าวต่อว่า สมาคมไทย-อเมริกันแห่งฟลอริด้าภาคใต้ ได้รวบรวมเงินเพื่อให้ผู้ถูกกักกันไว้ใช้ในเบื้องต้น จำนวนคนละ 20 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยใส่เงินไว้ในบัตรมันนี่ ออร์เดอร์ (Money Order) ซึ่งผู้ถูกกักกันสามารถกดเงินใช้ได้เฉพาะในวันพุธ ครั้งละ 50  ดอลล่าร์ต่อสัปดาห์เท่านั้น  นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานอื่นร่วมให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นด้วย อาทิ  นางมาเรีย ดี.ซาลิโอล (Maria D.Sariol) กงสุลกิตติมศักดิ์ ,ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในฟลอริด้าภาคใต้ ฯลฯ รวมถึงความช่วยเหลือจากสมาคม Asian – American  Federation of Florida ซึ่งมีสมาชิกกว่า 60 สมาคมย่อยๆ อาทิ สมาคมจากเวียดนาม จีน เกาหลี พม่า อินโดนีเซีย  ได้พิจารณาเสนอให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย โดยเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านคำแนะนำปรึกษาแบบเป็นหมู่คณะ


ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศสหรัฐอเมริกา และสถานกงสุลไทย ได้มีหนังสือแจ้งเตือนใปยังกลุ่มนักเรียน นักศึกษาไทย เรื่อง ขอให้ระมัดระวังตรวจสอบสถานะการพำนักในสหรัฐฯ ระบุว่า ตามที่นักเรียนไทย 52 คนที่เคยลงทะเบียนเรียน หรือกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนสอนภาษา Florida Language Institute มลรัฐฟลอริด้า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ควบคุมตัวในข้อหาเกี่ยวกับการเข้าเมือง คือ ไม่เข้าเรียนเต็มเวลาตามประเภทวีซ่านักเรียน เอฟ1 (F1) หรือทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือพำนักอยู่ในสหรัฐฯเกินกำหนดเวลาที่อนุญาต และโรงเรียนดังกล่าวถูกปิดไปแล้วนั้น สถานกลสุลใหญ่ฯ ขอให้นักเรียนไทยระมัดระวังหมั่นตรวจสอบสถานะการพำนักในสหรัฐฯของตนเอง และปฏิบัติตามเงื่อนไขของสถานะวีซ่าอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องต่างๆ ตามคำเตือนและเงื่อนไขของทางการสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น ถูกจับกุมคุมขัง หรือส่งตัวออกนอกประเทศ


นายรวมพล  ไตรสารศีร  อายุ 35 ปี  อาชีพเชฟอาหารญี่ปุ่น  ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่ภรรยาถูกจับกุมตัวไปต่อหน้าต่อตาลูกชายวัยขวบเศษว่า  ตนเตรียมตัวจะเดินทางไปแอตแลนต้า โดยขับรถไปที่ออแรนโดแล้วจะขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวนิวยอร์คต่อ  ซึ่งมีแผนจะไปรับแม่ของภรรยาที่จะเดินทางมาจากประเทศไทยที่นั่น ในระหว่างเส้นทางตนได้จอดพัก ณ จุดพักรถเพื่อเข้าห้องน้ำ ขณะกำลังเดินมาที่รถมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายเดินมาประกบ  เมื่อมองไปที่รถก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกสองนายยืนประกบอยู่ข้างรถที่มีภรรยาและลูกชายนั่งอยู่  แล้วเจ้าหน้าที่ก็ถามตนว่าเป็นใคร ชื่ออะไร มีบัตรอะไรมาแสดงตัวบ้าง พร้อมทั้งแจ้งว่ามาตามหาคนชื่อนี้ เอ่ยชื่อภรรยาแล้วถามตนว่า รู้จักหรือไม่ หลังจากนั้นภรรยาก็ถูกควบคุมตัวไปในรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อพาตัวไปค้นหลักฐานการลงทะเบียนเรียนที่โรงเรียนดังกล่าว  ตนขับรถพาลูกตามรถตำรวจไปจนถึงบ้าน  เจ้าหน้าที่ก็ให้ตนรอข้างนอกและให้ภรรยาพาเข้าไปรื้อเอกสารโดยไม่ยอมปลดกุญแจมือ  แล้วในที่สุดภรรยาตนก็ถูกนำตัวไปยังสถานกักกันของ จนขณะนี้ก็ยังไม่ได้ปล่อยตัวออกมา และยังไม่ให้ประกันตัวใดๆทั้งสิ้น ทั้งๆที่จับตัวภรรยาผมไปเป็นรายแรกตั้งแต่วันที่26 กุมภาพันธ์แล้ว  ตอนนี้ลูกผมก็ร้องหาแม่ทุกวันเลย


นายกฤษณ์พล  ชัยสวัสดิ์  เพื่อนของผู้ที่ถูกจับกุมตัวไปโดยเจ้าหน้าที่ ไอซ์  กล่าวว่า เพื่อนของตนถูกจับกุมตัวไปจากบ้านพร้อมกัน 4 คน โดยเจ้าหน้าที่บุกมาที่บ้านกว่าสิบคน เข้าดำเนินการจับกุมด้วยวิธีค่อนข้างรุนแรงคือเอาปืนที่มีเรเซอร์จ่อหัว จับใส่กุญแจมือ เมื่อตรวจหลักฐานแล้วพบว่าเป็นนักเรียนที่ลงทะเบียนในโรงเรียนนี้ก็จับตัวขึ้นรถไป โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาจะพาไปที่ไหน  แต่เนื่องจากเพื่อนๆผมโดนจับเป็นกลุ่มก็ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่ เพราะเมื่อผมไปเยี่ยมหลังจากที่รู้ว่าเขาเอาตัวไปไว้ที่ปอมปาโน บีช  ก็เห็นว่าพวกเพื่อนๆกำลังใจดีมาก  ที่น่าสงสารก็เห็นจะเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนหรือญาติเลย  อาจจะเพิ่งมาจากเมืองไทยและเลือกเรียนที่โรงเรียนนี้ ยังไม่รู้จักใครเท่าไหร่ เมื่อเข้าไปอยู่ในสถานกักกันเลยต้องโดนไปนอนห้องเดียวกับคนชาติอื่นๆ


นางสาวรัชฎาภรณ์  สมัครกิจ  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเพื่อนซึ่งถูกจับกุม ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในสถานกักกันว่า เพื่อนของตนเลือกเรียนที่นี่เพราะปัจจัยหลักคือราคาถูก  ซึ่งเพื่อนก็เข้าเรียนตลอด ขณะนี้ได้รับจดหมายตอบรับให้เข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยหลายแห่งแล้ว เพราะสามารถสอบโทเฟล (TOEFL)ผ่านแล้ว  แต่ก็ต้องมาถูกจับกุมตามรายชื่อที่เจ้าหน้าที่ได้มาจากโรงเรียน  ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมเด็กนักเรียนกลายเป็นคนผิด เพราะความจริงแล้วโรงเรียนสามารถออกใบ ไอ ทเวนตี้(I-20)ให้เด็กนักเรียนได้  ซึ่งเท่ากับทางการได้ตรวจสอบมาตรฐานของโรงเรียนแล้ว 


“ขณะนี้เพื่อนกำลังติดต่อทนาย ซึ่งทนายก็บอกว่ามีเปอร์เซ็นต์ที่จะพ้นข้อกล่าวหา เพราะเพื่อนมีความตั้งใจที่จะเรียนจริง  มีหลักฐานที่ตรวจสอบได้ว่าพยายามเรียนและสอบเพื่อสมัครเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ไม่ใช่เรียนแต่ภาษาอยู่ 2-3 ปีแล้วยังไม่พัฒนาไปถึงไหน มัวทำอะไรอยู่  ตอนนี้เพื่อนรู้จากทนายแล้วว่ามีโอกาสรอด กำลังใจเขาก็ดีขึ้น แต่เขาก็ถามว่าเมื่อไหร่เขาจะได้ออกจากสถานกักกัน เพราะทนายบอกว่า เจ้าหน้าที่มีสิทธิกักตัวไว้ได้ถึง 180 วัน”นางสาวรัชฏาภรณ์ กล่าว


นายเอ (นามสมมุติ) นักเรียนไทยผู้หนึ่งซึ่งลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนที่ถูกสั่งปิดดังกล่าว เป็นคนหนึ่งที่ทางการสหรัฐติดตามจับกุมอยู่  ให้สัมภาษณ์ว่า ตนจบปริญญาตรีมาจากมหาวิทยาลัยเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่ง  ลงทะเบียนเรียนที่โรงเรียนนี้มาแล้วสองรอบ รอบแรกเมื่อปี 2007  แล้วจึงเดินทางกลับประเทศไทย หลังจากนั้นเดินทางกลับมาสหรัฐอีกครั้งเมื่อต้นปี 2010  จึงลงเรียนเป็นรอบที่สอง  ซึ่งโรงเรียนก็ออกใบ  ไอ- ทเวนตี้ (I-20)ให้ ตนก็ไม่เคยไปเรียน  ไม่เคยไปเช็คชื่อ ได้แต่ไปสอบตอนกลางภาค และปลายภาค ข้อสอบก็ง่ายๆ  ทั้งโรงเรียนตนเคยเห็นครูอยู่ 2-3 คน  ที่ว่าโรงเรียนนี้มีนักเรียน 500-600 คน ตนคิดว่าไม่น่าจะถึงหรอก แต่ตนก็ไม่ทราบเพราะในหนึ่งเทอมตนไปโรงเรียนแค่สองครั้งเท่านั้น
 

“ผมคิดว่าเด็กนักเรียนไทยที่มาลงทะเบียนเรียนที่นี่ ก็เพื่อจะได้ทำงาน ไม่ได้ตั้งใจจะเรียนอะไรจริงจัง เพราะส่วนใหญ่ก็ย้ายมาจากโรงเรียนอื่น พอรู้ว่าที่นี่ราคาไม่แพงและไม่เช็คชื่อก็แนะนำกันมาลงเรียนที่นี่จะได้มีเวลาทำงานหาเงินได้อย่างเต็มที่  เด็กที่ลงเรียนอย่างพวกผมก็พยายามจะทำให้ถูกกฎหมาย โดยแจ้งความประสงค์ในการเข้าประเทศว่าจะมาเรียน  และโรงเรียนนี้ก็ทำให้พวกผมอยู่ได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งผมว่าไม่ยุติธรรมเพราะพวกผมพยายามจะทำให้ถูกต้องตามกฎหมายกลับถูกไล่จับ แต่พวกที่โดดเรือมากลับไม่ถูกจับ” นายเอกล่าว


เมื่อถามถึงการใช้ชีวิตหลังจากเกิดกรณีกวาดจับนักเรียนที่กระทำผิดสถานะของวีซ่า เอฟ-วัน นายเอ กล่าวว่า ตนก็คงไม่หนีไปไหน  เพราะตอนนี้ย้ายบ้านจากที่เคยแจ้งไว้กับโรงเรียนแล้ว  ตอนนี้มีเพื่อนร่วมชะตากรรมหลายสิบคน  แต่ละคนก็พยายามหาทางออกเพื่อจะได้อยู่ต่อ  ซึ่งก็ติดต่อทนายเพื่อขอคำปรึกษาไว้บ้างแล้วแต่ถ้าจะถูกจับกุมและส่งกลับประเทศก็ยินยอม แล้วคงจะค่อยๆ หาทางกลับเข้ามาใหม่

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1269941655&grpid=&catid=02
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #1031 เมื่อ: 31 มีนาคม 2553, 20:45:12 »

ธุรกิจนำต่างชาติเข้าประเทศ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1032 เมื่อ: 01 เมษายน 2553, 09:31:43 »

หรือค้าทาส หรือค้ามนุษย์ไง !! ?? อเมริกาหรือที่ไหนๆ ก็เล่นเป็นทั้งนั้น
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #1033 เมื่อ: 01 เมษายน 2553, 21:49:28 »

โดยมีลูกคนรวยเป็นเหยื่อ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1034 เมื่อ: 02 เมษายน 2553, 10:27:58 »

ขออนุญาตเตรียมตัวออกเดินทางไป "เช็งเม้ง" ที่จังหวัดนครปฐม ครับ
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #1035 เมื่อ: 02 เมษายน 2553, 21:31:45 »

เดินทางปลอดภัยครับพี่เหยง
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1036 เมื่อ: 06 เมษายน 2553, 22:29:19 »

กลับมาตั้งแต่วันที่ 4 แล้วครับ พอดีต้องเตรียมงานบวชให้หลานชายในวันที่ 5 เลยปล่อยห้องนี้ไป 4 วันเต็มทีเดียว
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #1037 เมื่อ: 06 เมษายน 2553, 22:43:00 »

ป้อมก็ไปอีสเตอร์ที่เชียงรายมา ตื่นแต่เช้าไปร่วมพิธี ปีนี้พระเทศน์ไม่ค่อยสนุก ง่วงมาก
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #1038 เมื่อ: 06 เมษายน 2553, 22:55:09 »

พี่ป้อม,
ข่าวว่าโจรขโมยช็อคโกแล็ตไข่อิสเตอร์ไปจากร้าน
ทำให้เมื่อวานเมืองนั้นงดงานซ่อนไข่(chocolate)ให้เด็กๆหา.
สงสารเด็กจัง!
      บันทึกการเข้า


ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #1039 เมื่อ: 06 เมษายน 2553, 23:02:45 »

ซ่อนไข่ไดโนเสาร์หรอ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1040 เมื่อ: 07 เมษายน 2553, 09:07:20 »

ประเทศไทย
ในเดือนเมษายนของทุกปี ชาวจีน-เชงเม้ง เพื่อระลึกถึงบรรพบุรุษที่วายชนน์
ชาวไทย-สงกรานต์ อาบน้ำกระดูกบรรพบุรุษ และอาบน้ำพระสงฆ์ คนแก่
ฝรั่งและคริสเตียน-อีสเตอร์ ฉลองวันที่พระเยซูฟื้นจากการถูกตรึงกางเขน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1041 เมื่อ: 16 เมษายน 2553, 18:04:48 »

แต่ตอนนี้ ฝ่ายหนึ่งนั่งเงียบ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งตั้งเต๊นท์ด่าคนและปิดกั้นการจราจลอยู่กลางถนน
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #1042 เมื่อ: 16 เมษายน 2553, 20:49:46 »

มันเป็นกรรมะนิ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1043 เมื่อ: 16 เมษายน 2553, 21:50:29 »

ฝ่ายที่นิ่งเงียบก็กินเงินเดือนจากรัฐ, ฝ่ายที่ปิดถนนและด่าคนก็รับเงินค่าจ้างมา รวยทุกคน
กรรมจึงตกเป็นของคนส่วนที่เหลือ ซึ่งไม่รู้จะเจออะไรต่อไปอีก
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1044 เมื่อ: 19 เมษายน 2553, 12:05:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 04 มีนาคม 2553, 19:50:39
กรณีนักศึกษาพยาบาล วิทยาลันนครราชสีมา ยังไม่จบครับ...ติดตาม...

ยังไม่จบ! นศ.พยาบาลโคราช ม็อบหน้าย่าโม - ร้อง “สกอ.” จริงใจแก้ปัญหา

ยังไม่จบ! นศ.พยาบาลวิทยาลัยนครราชสีมา ทุกชั้นปีกว่า 100 คน ม็อบหน้าย่าโมร้องขอความเป็นธรรมจาก “สกอ.”
ให้จริงใจแก้ไขปัญหา ไม่ควรให้นักศึกษาต้องสอบเทียบโอนเพื่อเข้าเรียนในสถาบันใหม่ หวั่นไม่ได้เรียนสาขาพยาบาล
ตามตั้งใจเดิม เผยไม่มั่นใจอนาคตจี้เร่งเยียวยาเหตุเสียเวลาไม่ได้เรียนมาหลายเดือนแล้ว ขณะหนี้สินผู้ปกครองพอกพูน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000030891


ความคืบหน้าของนักศึกษาพยาบาล ว.นครราชสีมา และ ม.ราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี.....

นศ.พยาบาลเฮ!ได้ที่เรียนแน่นอน

การศึกษา-สาธารณสุข 19 เมษายน 2553 - 00:00

นักศึกษาพยาบาล  ว.นครราชสีมา  เฮ!  มีที่เรียนแน่นอนแล้ว  เตรียมจับฉลากเข้าเรียนต่อในสถาบันต่างๆ  ทันปีการศึกษา  53  นี้  แน่นอน
     รศ.นพ.กำจร  ตติยกวี  รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา  (กกอ.)  เปิดเผยความคืบหน้าแนวทางเยียวยานักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ของวิทยาลัยนครราชสีมา    ชั้นปีที่   2-4  จำนวน  135  คน  ซึ่งได้รับผลกระทบจากกรณีที่วิทยาลัยเปิดรับนักศึกษาโดยที่หลักสูตรยังไม่ผ่านการรับรองจากสภาการพยาบาล   ว่า   ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา   (สกอ.)  ได้ข้อสรุปในการเยียวยานักศึกษากลุ่มดังกล่าวแล้ว  โดยทางวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี   สังกัดกระทรวงสาธารณสุข   จะรับนักศึกษาเข้าไปศึกษาในสถาบันสังกัดจำนวน  67   คน  ส่วนที่เหลือ  68  คน  จะไปอยู่ในสถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ
     รศ.นพ.กำจรกล่าวอีกว่า  ส่วนการจัดที่นั่งให้กับนักศึกษาดังกล่าวจะใช้วิธีการจับสลากเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย  แต่ในการจัดที่นั่งให้นักศึกษาชั้นปี  4  ทาง  สกอ.พยายามจัดให้ไปอยู่ด้วยกันทั้งหมดเพื่อจะได้ช่วยเหลือกัน   ส่วนชั้นปีอื่นๆ   ก็ให้เกลี่ยกันไปตามความเหมาะสม   และขอให้สถาบันต่างๆ  หาทางช่วยเหลือนักศึกษาให้ไม่ต้องไปเริ่มต้นเรียนใหม่ทั้งหมด
     รศ.นพ.กำจรกล่าวต่อว่า  สำหรับมหาวิทยาลัยที่จะรับนักศึกษามีดังนี้  มหาวิทยาลัยขอนแก่นรับ   6  คน  มหาวิทยาลัยมหาสารคามรับ  6  คน  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒรับ  6  คน  มหาวิทยาลัยบูรพารับ  6  คน  มหาวิทยาลัยนเรศวรรับ  12  คน  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รับ   10  คน  วิทยาลัยพยาบาลตำรวจรับ  10  คน  และมหาวิทยาลัยสยามรับ  12  คน 
     ส่วนวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีที่ให้ที่นั่งกับนักศึกษาส่วนใหญ่จะเป็นสถาบันที่อยู่ทางภาคใต้   เพราะมีที่นั่งพอจะรับนักศึกษาได้   และเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรองจากสภาการพยาบาล   4  มาถึงปีแล้ว  จึงมั่นใจได้ว่าการเรียนการสอนมีคุณภาพ  และที่สำคัญผลผลิตที่ออกมาส่วนใหญ่จะสอบผ่านการขอใบประกอบวิชาชีพการพยาบาล
     "สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น  ขณะนี้  สกอ.กำลังให้ทางนิติกรช่วยร่างหนังสือสัญญาระหว่างนักศึกษากับวิทยาลัยนครราชสีมาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการไปศึกษาต่อในสถาบันต่างๆ  เพื่อเสนอต่อทางวิทยาลัยนครราชสีมาตามที่สถาบันรับปากไว้ว่าจะช่วยเหลือ  และยังเป็นการป้องกันไม่ให้สถาบันเบี้ยวค่าใช้จ่ายนักศึกษาด้วย   ทั้งนี้คาดว่านักศึกษาทั้งหมดจะเริ่มเรียนได้ทันปีการศึกษา  2553  นี้"  รองเลขาธิการ  กกอ.กล่าว
     ส่วนการเยียวยานักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์  มหาวิทยาลัยราชธานี  ที่สถาบันรับเกินจำนวนที่สภาการพยาบาลกำหนดนั้น  เท่าที่ทราบทางมหาวิทยาลัยจะไปหารือกับทางสภาการพยาบาล  แต่  สกอ.ก็สำรองที่นั่งให้กับนักศึกษาที่ไม่ต้องการจะเรียนที่มหาวิทยาลัยเดิม  โดยอาจจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ  (มรภ.)  ที่  สกอ.ได้เตรียมไว้ให้ขณะนี้มีแล้ว  400  กว่าที่นั่ง  จาก  มรภ.กว่า  10  แห่ง.


http://www.thaipost.net/news/190410/20984
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1045 เมื่อ: 24 เมษายน 2553, 12:47:29 »

เตือนอุดมศึกษาหยุดหลอกประชาชน

สกอ.จี้ยกร่างประกาศกระทรวงคุ้มครองผู้บริโภค คุมเข้มเปิดหลักสูตร เยียวยาหาที่เรียนใหม่ให้นักศึกษา  และหามาตรการป้องกันแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ขึ้นอีก... 

จากกรณีนักศึกษาร้องเรียนมหาวิทยาลัยซึ่งเปิดรับนักศึกษาหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพ   แต่ไม่ได้รับการรับรองหลักสูตรจากสภาวิชาชีพ   โดยมีการร้องเรียนเกิดขึ้นหลายแห่ง ได้แก่ นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา, นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี  ล่าสุดกลุ่มนักศึกษาที่จบหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล  มหาวิทยาลัยปทุมธานี ก็พบปัญหาถูกนายจ้างเปลี่ยนตำแหน่งและลดเงินเดือน เพราะหลักสูตรยังไม่ผ่านการรับรอง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ต้องเข้าไปเยียวยาหาที่เรียนใหม่ให้นักศึกษา  และหามาตรการป้องกันแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ขึ้นอีกนั้น 

ดร.สุเมธ  แย้มนุ่น  เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า  คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) รับทราบปัญหานี้  ตนวางแนวทางแก้ไขคือ มหาวิทยาลัยต้องหาสภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารว่าอย่าเปิดหลักสูตรที่ไม่ผ่านการรับรองจากสภาวิชาชีพ   และอย่าไปหลอกลวงประชาชน   เพราะจะส่งผลกระทบให้นักศึกษาได้รับการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพ จบแล้วเกิดปัญหาในการทำงาน   สำหรับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ก็ได้เปิดเผยข้อมูลหลักสูตรต่างๆให้ผู้เรียนทราบ  เพื่อจะได้เลือกเรียนหลักสูตรที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับองค์กรวิชาชีพ นักเรียนต้องสอบถามไปยังมหาวิทยาลัยที่อยากเข้าเรียนโดยตรงว่า   หลักสูตรวิชาชีพที่จะเรียนผ่านการรับรองจากสภาวิชาชีพแล้วหรือยัง   โดยขอดูหลักฐานคือ   จะต้องมีใบรับรองอย่างเป็นทางการก่อนสมัครเข้าเรียน กรณีการร้องเรียนที่เกิดขึ้น   จึงเป็นที่มาให้   กกอ.มีมติให้ยกร่างประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องสิทธิของนิสิต-นักศึกษา เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคทางการอุดมศึกษา ส่วนมหาวิทยาลัยจะต้องให้ข้อมูลที่เป็นจริงแก่นักเรียน ซึ่งกรณีหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลของมหาวิทยาลัยปทุมธานีนั้นค่อนข้างชัดเจนว่า เป็นการโฆษณาเกินจริง เปิดสอนทั้งๆที่หลักสูตรยังไม่ผ่านการรับรองจากสภาการพยาบาล   และหวังว่าจะได้รับการรับรองในปีถัดไป   สุดท้ายก็ไม่ผ่านการรับรอง   แบบนี้ถือว่าทำผิดกฎหมายตาม  พ.ร.บ.การศึกษาเอกชน  ส่วนมหาวิทยาลับของรัฐก็จะต้องได้รับโทษทางวินัย.

http://www.thairath.co.th/content/edu/78696
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #1046 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 13:33:03 »

รีบจัดการก่อนจะมีนักศึกษาลงทะเบียนเรียน
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1047 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 13:44:19 »

เห็นลงข่าวเพิ่มเติมอีกว่า ม.ปทุมธานี (อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้??) มีปัญหาเข้าข่ายหลอกลวงนักศึกษาเต็มๆ

ชี้ชัด ม.ปทุมฯ ลวงนักศึกษาโฆษณาเกินจริง
การศึกษา-สาธารณสุข  24 เมษายน 2553 - 00:00

   เลขาฯ  กกอ.ปลุกจิตสำนึกมหาวิทยาลัยอย่าหลอกลวงประชาชน  เตือน  นศ.ตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจก่อนเข้าเรียน  โดยเฉพาะหากเป็นคณะที่องค์กรวิชาชีพต้องรับรอง  ควรตรวจข้อมูลถึงแหล่ง  ชี้  ม.ปทุมธานี  โฆษณาเกินจริงหวังลวง  นศ.เข้าเรียน
                                                                 ฯลฯ

อ่านข่าวเต็มฉบับได้ที่

http://www.thaipost.net/news/240410/21219

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1048 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 13:49:46 »

ลองอ่านข่าวนี้.....

วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 11:13:47 น.  มติชนออนไลน์

เผยผู้หญิงออกเดทเฉลี่ย 24 ครั้ง ก่อนพบ"ผู้ชายที่ใช่"

"เทเลกราฟ"รายงานเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ว่า UKdating.com เปิดเผยผลสำรวจกระทำต่อกลุ่มสำรวจจำนวนกว่า 2,100 คน ว่า ผู้หญิงอังกฤษจะออกเดทเฉลี่ย 24 ครั้ง ก่อนจะพบผู้ชายที่ใช่และเหมาะสมสำหรับพวกเธอ ขณะที่ 7 % ออกเดทถึง 41-60 ครั้ง



รายงานระบุว่า ในการออกเดทแต่ละครั้ง ประเมินผู้หญิงจะหมดเงินราว 85 ปอนด์ (หรือราว 4,250 บาท )ส่วนใหญ่หมดไปกับการทำผสม ชุดแต่งกาย ค่าเดินทาง และค่าอาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่ผลสำรวจพบว่า 1 ใน 3 จะถอนตัวเลิกเดททันที หากพบว่าพวกเธอออกเดทกับคนที่ไม่ใช่

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1272168847&grpid=03&catid=
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #1049 เมื่อ: 29 เมษายน 2553, 21:24:27 »

ออกเดทครั้งแรก  ตื่นเต้น  เดินไม่ถูกเลยพี่เหยง  โดนผู้หญิงแซวด้วย
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
  หน้า: 1 ... 40 41 [42] 43   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><