churaipatara
|
 |
« ตอบ #5750 เมื่อ: 12 มีนาคม 2555, 10:43:49 » |
|
 ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมฯสวยมากค่ะ..
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5751 เมื่อ: 12 มีนาคม 2555, 10:57:08 » |
|
น้องสาวที่น่ารัก-นางสาวชัชฏาภรณ์ ไชยสัตย์ เป็นอาจารย์คนขยันที่ราชภัฏอุบลฯ..แวะมาให้กำลังใจพวกเราค่ะ.. 
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5752 เมื่อ: 12 มีนาคม 2555, 11:14:04 » |
|
กลับจากอุบลฯถึงศรีสะเกษก็ต่อด้วย.. รับทานข้าวเย็นกับแฟนคลับ-ผู้อาวุโสสองท่าน..ซึ่งเมตตาและให้กำลังใจเอ๋..ทุกเรื่องค่ะ..ครอบครัววีสมหมายและครอบครัวพาทยกุล.. 
|
|
|
|
Uncle Na
Cmadong พันธุ์แท้
  
ออฟไลน์
รุ่น: 2524-2201
คณะ: นิเทศ
กระทู้: 4,957
|
 |
« ตอบ #5753 เมื่อ: 12 มีนาคม 2555, 15:19:24 » |
|
สวัสดีครับ ดร.เอ๋ เพื่อนๆ
|
จิตใจที่จุดประกายแล้ว คือทรัพยากรที่ทรงพลังที่สุดบนพิภพ เหนือพิภพ และใต้พิภพ/จิตวิญญาณมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้/ โดย เอพีเจ อับดุล กาลัม/สุวิทย์ วิบูลเศรษฐ์ แปล
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5754 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 08:45:40 » |
|
สวัสดีค่ะลุงณะ..
เมื่อวานประชุมสามัญ พ.สมทบตั้งแต่บ่ายโมงถึงสี่โมงครึ่ง..เช้านี้เป็นตัวแทนไปประชุมที่ศาลากลางจังหวัดฯ ..ต้องไปแล้วเดวคุยกันใหม่ค่ะ..
|
|
|
|
Pete15
|
 |
« ตอบ #5755 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 09:00:54 » |
|
สวัสดี ครับ น้องเอ๋ และสมาชิก.......ฮะฮะฮา...อย่างนี้ เรียกว่ามือประชุม อาชีพ หรือ อาชีพ นักประชุม...? ถ้าต้องเตรียมงาน เองด้วยก็คงเหนื่อยพอควร แต่ถ้าเพียงร่วมประชุมก็ค่อยยังชั่ว.....ขอให้มีความสุข และ สนุก ครับ
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5756 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 12:15:28 » |
|
ค่ะพี่ปี๊ด..เช้านี้ ประธานคณะผู้พิพากษาสมทบ-นายศรีวรรณ เกียรติสุรนนท์ มอบให้ไปประชุมแทน..
ด้วยจังหวัดศรีสะเกษ โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ ได้กำหนดจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ
"การจัดทำโครงการเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมจังหวัดศรีสะเกษ ประจำปีงบประ
มาณ ๒๕๕๕" แก่องค์กรสาธารณประโยชน์และองค์กรสวัสดิการชุมชน..ณ ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ชั้น ๕ ศาลากลางจังหวัดศรีสะ
เกษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้องค์กรสาธารณประโยชน์และองค์กรสวัสดิการชุมชน ได้มีความรู้ความเข้าใจในการจัดทำ -
โครงการด้านการพัฒนาสังคม ให้สอดคล้องกับประเด็นปัญหาทางสังคมของจังหวัด ยุทธศาสตร์จังหวัด และนโยบายของรัฐบาลอีก
ทั้งค้นหาสถานการณ์ปัญหาสังคมในจังหวัดศรีสะเกษ..
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5757 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 12:23:23 » |
|
รับฟังเรื่อง พ.ร.บ.ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ.๒๕๔๖ และกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมจังหวัดศรีสะเกษ โดยประธาน
คณะอนุกรรมการบริหารกองทุนฯ.. / การบรรยายพิเศษ เรื่อง สถานการณ์ทางสังคมจังหวัดศรีสะเกษ ยุทธศาสตร์จังหวัดด้านการพัฒนา
สังคม และนโยบายของรัฐบาล โดยนายคมกริช คุณะดิลก พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ / เทคนิคการเขียน
โครงการที่มีคุณภาพ ..
ช่วงบ่าย จะมีการชี้แจงแบบเสนอโครงการ กสส.๐๑ และหลักเกณฑ์การพิจารณาโครงการเชิงประเด็น โดย นักพัฒนาสังคมชำนาญการ
พิเศษ / แบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นสถานการณ์ปัญหาสังคมในจังหวัดศรีสะเกษ โดย คณะอนุกรรมการบริหารกองทุน ฯ / นำเสนอผล
การระดมความคิดเห็น ฯ ..
ขณะอยู่ในห้องประชุมฯ..ก็มีการติดต่อบริจาคร่วมสร้างพระอนุสาวรีย์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ ฯ เข้ามาเป็นระยะๆ..
เอ๋ก็ประสานไปยังนางทิพวรรณ ศรีสรานุกรม นายสมบัติ เกียรติสุรนนท์และเจ้าหน้าที่การเงินศาลฯ เพราะบางท่านอาจสะดวกมอบให้
เป็นเงินสดหรือจะโอนเข้าบัญชี..เอ๋กลับจากการประชุมช่วงเที่ยงก็รีบติดตามเรื่องให้เรียบร้อย..ดีใจค่ะที่มีการร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อประ
โยชน์ส่วนรวมเช่นนี้..
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5758 เมื่อ: 13 มีนาคม 2555, 12:49:19 » |
|
ในส่วนตัว..
บริจาคในนาม นางจุไรภัทร์ ปาลิ-วนิช และ ชนัญชิดา - ปิยะสิทธิ์ -สิทธา . เป็นจำนวนเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท
บริจาคในนาม นางจุไรภัทร์ ปาลิ-วนิช และ นิสิตเก่าหอพักจุฬาฯรุ่นรหัส ๒๕๒๔ . เป็นจำนวนเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท
จะได้รับการจารึกชื่อที่ฐานของพระอนุสาวรีย์ ฯ ค่ะ ..ดีใจที่ได้ทำบุญร่วมกันนะคะ..
เอ๋โชคดีที่มีครอบครัวและมีลูกสามคนนี้และยังโชคดีที่ได้รู้จักเพื่อนรุ่น ๒๔ คบหากันยาวนานถึง30ปี..เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมแล้วล่ะค่ะ..
กำหนดพิธีอัญเชิญพระรูปขึ้นประดิษฐาน ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยได้รับเกียรติจาก นายไพโรจน์ วายุภาพ ประ -
ธานศาลฏีกา เป็นประธานในพิธี..ในวันนั้นเอ๋เป็นคณะทำงานในฝ่ายพิธีการค่ะ..
|
|
|
|
dtoy
|
 |
« ตอบ #5759 เมื่อ: 14 มีนาคม 2555, 07:53:14 » |
|
หวัดดีค่ะเอ๋ ขออนุโมทนาในบุญกุศลที่เอ๋ตั้งใจทำด้วยนะคะ คิดถึงค่ะ
|
Live Your Dream
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5760 เมื่อ: 14 มีนาคม 2555, 08:32:15 » |
|
สวัสดีค่ะต๋อย..
ดีใจที่ต๋อยแวะมาคุยกับเพื่อนๆ คิดถึงต๋อยเช่นกันค่ะ..
เช้านี้ มานั่งดูตารางงานต่างๆของตัวเอง..พยายามจัดหมวดหมู่ซะหน่อยค่ะต๋อย อะไรที่ต้องใช้ช่วงเวลานึงแต่ได้งานหลายๆอย่างพร้อม
กันไปด้วย เช่น หลักสูตรความฉลาดทางอารมณ์ใกล้จะเปิดสอนแล้ว-ศูนย์ให้คำปรึกษาเยาวชนและครอบครัวก็สมควรแก่เวลาที่ต้องเกิด
ขึ้นอย่างจริงจังแล้ว..(หารือกับนักจิตวิทยาประจำศาลเมื่อวานนี้ และจะต้องคุยกับพ.สมทบฝ่ายวิชาการด้วยกันก่อน)ดังนั้นจึงแบ่งเวลาหา
ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกจากตำราและซีดีที่นักจิตวิทยานำมาให้ศึกษา ก็อ่านหนังสือที่อยากอ่านเพื่อสองงานนี้ ให้ได้ประโยชน์ควบคู่
กันไป นั่นก็คือ อัจฉริยะสร้างสุข-คู่มือดูแลสมอง ให้ฉลาดและมีความสุข-วิทยาศาสตร์ความสุขกับวนิษา เรซ..ค่ะ เธอทั้งสวยน่ารักและ
เฉลียวฉลาดมาก.. ชื่นชมสาวน้อยคนนี้จริงๆนะคะ แค่อ่านสิ่งต่างๆที่เธอถ่ายทอดก็มีความสุขตามไปด้วยแล้ว..ตั้งใจว่าจะอ่านให้จบในวัน
สองวันนี้และบันทึกสาระสำคัญไว้ ได้ประโยชน์หลายอย่างแน่นอนค่ะ..
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5761 เมื่อ: 14 มีนาคม 2555, 15:10:04 » |
|
สาระสำคัญจาก คู่มือดูแลสมอง ให้ฉลาดและมีความสุข..
-ผลงานจากห้องวิจัยเกี่ยวกับความสุขและความสำเร็จในชีวิตยืนยันว่า การมีความสุขเป็นเรื่องที่สร้างได้ ทดลองได้ พิสูจน์ได้ตาม
หลักวิทยาศาสตร์ แถมความสุขยังเป็นเรื่องที่มีผลต่อความสำเร็จระยะยาวของชีวิตโดยตรงอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากใน
วงการวิทยาศาสตร์
-ในปัจจุบันจึงมีนักวิจัยแนวใหม่ค้นคว้าเรื่องอารมณ์สุขกันมากขึ้น ..เป็นจิตวิทยาเชิงบวก หรือวิทยาศาสตร์ความสุข เชื่อกันว่าจะ-
สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้
-เมื่อเราเข้าใจสมอง.. ก็จะเข้าใจอารมณ์และที่มาของอารมณ์ต่างๆของตัวเอง เราก็จะสามารถดูแลจัดวางโครงสร้างชีวิตที่บันดาล
สุขและลดทอนความทุกข์อย่างได้ผลและตรงจุด..
-ค้นพบว่าทักษะและนิสัยของมนุษย์ที่ถูกสร้างมาให้เป็นกันชนโรคทางจิตเภทชนิดต่างๆ ทักษะเหล่านี้ได้แก่ ความกล้าหาญ การ
มองโลกในแง่ดี การมีทักษะทางสังคมดี การมีศรัทธา การทำงานด้วยใจรัก การมีความหวัง ความซื่อสัตย์ ความอดทนอดกลั้น -
ความกระตือรือร้น การมองอย่างลึกซึ้ง ฯ ..
|
|
|
|
Lamai
|
 |
« ตอบ #5762 เมื่อ: 14 มีนาคม 2555, 22:00:00 » |
|
เอ๋จ๋าไปกินทุเรียนกัน 
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5763 เมื่อ: 15 มีนาคม 2555, 08:41:18 » |
|
ช่วงนี้..แค่ไอติมกับข้าวเหนียวมะม่วงเป็นบางวัน..ก็ทำให้กลมขึ้นแล้วนะคะไมโกะ..กำลังพยายามลดอีกซัก5กก.คงจะยิ่งสบายตัว..
ว่าแต่..เมื่อไหร่จะแวะมาแถวศรีสะเกษหรืออุบลบ้างล่ะคะ..รออยู่..
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5764 เมื่อ: 15 มีนาคม 2555, 09:09:33 » |
|
สาระสำคัญ(ต่อ)
-งานวิจัยพบว่า การฝึกการมองในแง่บวกสามารถลดภาวะซึมเศร้าในเด็กและผู้ใหญ่ได้..หากเราต้องการป้องกันไม่ให้เด็กวัยรุ่นที่เติบโต
ในสลัมมีภาวะเสี่ยงต่อการเสพยา ..เราต้องค้นหาคุณลักษณะเด่นที่ดีงามในตัวเขา และดูแลให้ลักษณะเด่นนั้นแสดงตัวออกมาให้มาก
ที่สุด
-โลกของจิตวิทยาเชิงบวกไม่ได้บอกว่าให้เราเลือกเอาแต่ความสุข..แต่ชี้ให้เห็นว่า หากเราเลือกสร้างชีวิตบนคุณลักษณะเชิงบวกของ
ตัวเอง เช่น ความคิดที่สดใส การมองโลกอย่างมีความหวัง มีความรัก และกระตือรือร้นกับทุกสิ่ง หรือเลือกทำในสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ..
แทนที่จะไปหมกมุ่นอยู่กับการซ่อมแซมบางสิ่งที่ซ่อมไม่ได้ในเวลาอันสั้นเช่น ความโกรธ อารมณ์เจ้าคิดเจ้าแค้น ความทุกข์ใจที่ไม่เก่ง
คณิตศาสตร์ หรือรูปร่างหน้าตาที่ไม่ถูกใจตัวเองแล้ว..ชีวิตของเราก็น่าจะมีความสุขอย่างแท้จริงขึ้นมาได้พอสมควร
-หลักการนี้ไม่ได้บอกให้เราเพิกเฉยหรือเก็บกดความทุกข์ แต่เป็นการลงทุนในเรื่องบวกให้ค่อยๆเพิ่มขึ้น..และดูแลเรื่องลบให้ค่อยๆลด
ลงในชีวิต..
|
|
|
|
Pete15
|
 |
« ตอบ #5765 เมื่อ: 15 มีนาคม 2555, 09:15:07 » |
|
สวัสดี ครับ น้องเอ๋ ตามอ่าน งานวิจัย อยู่ ครับ น่าสนใจ
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5766 เมื่อ: 15 มีนาคม 2555, 09:19:12 » |
|
สวัสดีค่ะพี่ปี๊ด..หนังสือประเภทนี้ ใช้ประโยชน์ได้ในงานหลายอย่างของเอ๋น่ะค่ะ..หนูดีเธอเขียนหนังสือได้น่าอ่านและวางไม่ลงเลย..
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5767 เมื่อ: 15 มีนาคม 2555, 09:28:42 » |
|
สาระสำคัญ(ต่อ)
"คนที่มีความสุข เป็นพิเศษในสังคม" งานวิจัยพบว่า ..
หนึ่ง คือ "วิธีตีความปัญหา" พวกเขาตีความปัญหาเป็นเชิงบวกมากกว่า..เช่น มักถามตัวเองว่า เกิดเรื่องร้ายๆ แต่เราได้เรียนรู้อะไรดีๆบ้าง..
สอง พวกเขามีช่วงเวลา"พลิกฟื้นเยียวยา"ที่เร็วมาก เช่น สมมติว่าคนทั่วไปอกหักมักจะใช้เวลาประมาณสามเดือนกวาจะหายเจ็บ..แต่คน
กลุ่มนี้อาจใช้เวลาไม่ถึงเดือน พวกเขาเยียวยาตัวเองเร็วมาก..
ไม่มีใครในโลกนี้มีชีวิตที่ง่ายกว่าใคร..วิธีมองโลกและวิธีเยียวยาตัวเองเมื่อเกิดปัญหาต่างหาก เป็นตัวตัดสินว่าใครจะเป็นคนที่มีความสุข
เป็นพิเศษในสังคม..
"หากจะแสวงหาความรู้ แต่ละวันจงหมั่นเติม..หากจะแสวงหาปัญญา แต่ละวันพึงละวางบางสิ่ง.." เล่าจื๊อ
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5768 เมื่อ: 15 มีนาคม 2555, 10:48:38 » |
|
พ.สมทบฝายวิชาการ..และเพื่อนคนเก่งของเอ๋ค่ะ รองปธ.พ.สมทบฝ่ายวิชาการ นางสุชาดา จรรยาสุทธิวงศ์.. 
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5769 เมื่อ: 15 มีนาคม 2555, 14:44:37 » |
|
สาระสำคัญ(ต่อ)
-รู้มาก..มีมาก ไม่ได้ประกันว่าโลกนี้จะดีขึ้นหรือเราจะสุขขึ้น ความสุขจะมีขึ้นได้เมื่อเรารู้ว่าควรวางสิ่งใดลง วางลงเมื่อไหร่ และวางลง
เพื่ออะไร..ความสุขประเภทนี้มาพร้อมกับปัญญา มาพร้อมกับความสามารถในการตั้งคำถามที่จะนำเราไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นได้..
-ในสมองมีเซลล์สมองมากกว่าหนึ่งแสนล้านเซลล์ มีความสามารถในการส่งข้อมูลถึงกันในเวลาเพียงเสี้ยววินาที..มีความยืดหยุ่นปรับ
ตัวได้รวดเร็ว มากกว่าหน่วยชีวภาพใดๆ..
-สมองถูกสร้างมาให้ทำหน้าที่เพื่อ.."การเอาชีวิตรอด"..
-สัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของเรานั้น มีติดตัวกันมาตั้งแต่กำเนิด..และเป็นสัญชาตญาณที่รุนแรงที่สุดในบรรดากระบวนการคิด
ที่ซับซ้อนทุกชนิด
-ภารกิจสำคัญของสมองในการเอาชีวิตรอดนั้นต้องเกี่ยวพันกับอารมณ์รุนแรงหลายชนิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ อารมณ์กลัวและโกรธ..
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5770 เมื่อ: 15 มีนาคม 2555, 14:54:36 » |
|
หนูป๋อมแป๋ม - นส.ณัชชาอร ศรีภักดี จนท.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ..ให้การต้อนรับอย่างดีค่ะ ได้รู้จักคนดีคนน่ารักเพิ่มขึ้นแค่วันละคนสองคน..ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งนะคะ.. 
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5771 เมื่อ: 15 มีนาคม 2555, 15:21:59 » |
|
สาระสำคัญ(ต่อ)
-หากใครใช้ความทุกข์เป็น เขาก็จะอยู่นิ่งๆกับตัวเอง หยุดยั้งโปรเจ็กต์ต่างๆชั่วคราว..เพื่อให้สมองและร่างกายมีเวลาได้หยุดพัก เพื่อ
ตรึกตรองในสิ่งที่ตัวเองได้ทำไป..และเมื่อพลังงานค่อยๆเริ่มถูกจ่ายกลับมาแล้ว คนส่วนใหญ่มักพบว่า เขามีความคิดเห็นเกี่ยวกับชี-
วิตและปัญหาของเขาที่ลึกซึ้งและรอบด้านมากขึ้น เรียกว่ามีเวลา"ตกตะกอน"ทางความคิด..
-หัวใจหลักอยู่ที่การทำอะไรก็ได้ที่สร้างสรรค์และทำให้สมองไม่ว่างไปคิดเรื่องทุกข์ เมื่อทำไปสักพัก สมองจะตัดจากวงจรทุกข์เข้าสู่
วงจรสร้างสรรค์เอง..
-สมอง เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของจักรวาลก็จริง..แต่ก็เป็นอวัยวะหนึ่งในร่างกายมนุษย์ซึ่งตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขของความไม่สมบูรณ์แบบ..
สมองไม่ได้ถูกยกเว้นจากกฏแห่งวิวัฒนาการที่ต้องเปลี่ยนแปลงปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ..จนดีที่สุด แล้วก็หยุดนิ่ง..
-การเลือกวิถีชีวิตที่ไม่ต้องกลัวหรือโกรธเป็นประจำ..การจัดวางชีวิตใหม่ให้เป็นอิสระจากอารมณ์เหล่านี้ได้มากขึ้น เพียงวันละนิดๆจะ
เป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่เราจะมอบให้สมอง..
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5772 เมื่อ: 15 มีนาคม 2555, 15:34:05 » |
|
สาระสำคัญ(ต่อ)
-วิถีชีวิตที่ผ่อนคลาย สบายๆ..แต่ท้าทายการใช้ฝีมือของตัวเอง ได้ทำงานที่เราถือว่าคุ้มค่าเวลาในชีวิต ได้มีคนรอบตัวที่เราไว้วางใจ..
และสบายใจที่จะอยู่ใกล้ๆ รู้สึกปลอดภัยเสมอๆ..ไม่ต้องหวาดกลัว ไม่ต้องโกรธเกรี้ยว นี่เป็นวิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับสมองมากที่สุด..
-ความสุขทำให้คนฉลาดขึ้นได้..ความทุกข์ความเครียด ความหดหู่ซึมเศร้า ทำให้คนเราฉลาดน้อยลงได้..
-ถ้าอยากเป็นคนความจำดี จำแม่น เรียนอะไร ฟังอะไรครั้งเดียวก็จำได้ เราต้องฝึกโดยเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเห็นภัยร้ายของการมีความ
ทุกข์สะสมต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน..เห็นภัยของการกอดทุกข์..
-แต่อีกมุมหนึ่งนั้น ความเครียดและความทุกข์ในระยะสั้นๆ อาจให้ผลตรงกันข้าม..คือกลับทำให้สมองทำงานได้ดีด้วยซ้ำ เช่น ความ
เครียดอ่อนๆในช่วงก่อนสอบ ยิ่งทำให้เราอ่านหนังสือได้ดีขึ้น จำได้แม่นขึ้น เพราะสารเคมีที่หลั่งออกมาสำหรับความเครียดในระยะ
สั้นที่ชื่อว่า"อะดรีนาลิน"นั้น เป็นคนละตัวกับฮอร์โมนความเครียดระยะยาว..
|
|
|
|
|
churaipatara
|
 |
« ตอบ #5774 เมื่อ: 15 มีนาคม 2555, 16:00:37 » |
|
สาระสำคัญ(ต่อ)
-คนที่มีความสุขมากๆ นอกจากหน้าตาแจ่มใส ผิวพรรณดี ดวงตาใสแจ๋วแล้ว..ลึกเข้าไปในสมองของเขา หากเราเห็นได้เหมือนเครื่อง
สแกนสมองของโรงพยาบาล จะเห็นว่าภายในนั้นกำลังมีสารเคมีดีๆหลั่งออกมาบำรุงสมองอยู่เป็นจำนวนมาก..โครงสร้างของเส้นใย
สมองก็วางรูปแบบทางเดินใหม่ๆไปเรื่อยๆตามระยะเวลาที่เราอารมณ์ดี..
-ระบบการศึกษาทุกวันนี้ก็พยายามสอนนักเรียนให้เรียนด้วยความสุขเสมอๆ..เพราะเรารู้แล้วว่า เมื่อคนมีความสุข เขาจะฉลาดขึ้นเรียน
เก่งขึ้น และหัวไวขึ้น เพราะได้รับการบำรุงดูแลจากสารดีๆที่หลั่งออกมาในสมองนั่นเอง..
-งานวิจัยพบว่า ความคิดลบมีผลร้ายไม่เพียงแต่สำหรับความฉลาดเท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและความมีอายุยืนยาวของ
เราด้วย ส่วนความคิดบวกเป็นวิตามินชีวิตเพื่ออายุที่ยืนยาวและสดใส ที่เราเติมให้ตัวเองได้ทุกๆวัน..
|
|
|
|
|