ไม่ลำบากเลยค่ะขวัญ ดีใจซะอีกว่าเพื่อนแวะมาแชร์ความคิดเห็นกัน.. เดวขอเวลาไม่เกินเย็นนี้ค่ะพร้อมแน่นอนค่ะเพื่อน
ข้อมูลมีก็นานหลายปีเต็มทีสำหรับเรื่องนี้ เป็นโอกาสอันดีที่จะอ่านเพิ่มเติมคราวนี้ล่ะค่ะ ขอบคุณขวัญมากที่เปิดประเด็นนี้
พอดีพึ่งเสร็จจากการเป็นองค์คณะพิจารณาคดีต่อเนื่อง ราวเที่ยง40นี้เอง.. ขวัญเสนอข้อมูลความคิดเห็นไปพลางๆก่อนได้เลยนะคะ..
อย่าหายไปไหนนะคะเพื่อน..เดวบ้านนี้เงียบเหงา พักผ่อนตามสบายไปพลางๆก่อนนะคะ ขอหารืองานโครงการกับฝ่ายวิชาการต่อ
อีกแป๊ปนึงนะคะ
5โมงเย็นแล้ว..เคลียร์งานเสร็จ หาข้อมูลใหม่ๆและพร้อมคุยต่อกับขวัญแล้วค่ะ
ขวัญคะ
นักวิชาการไทยบางท่านระบุว่า ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหานี้ สาเหตุอาจเกิดจากผู้ปกครองปล่อยให้เด็กอยู่ในโลกของคอมพิวเตอร์
จนชาชิน คิดว่าโลกในคอมพิวเตอร์เป็นโลกแห่งความเป็นจริง เป็นเพื่อนทำให้คลายเหงา ทำให้ไม่ร่วมกิจกรรมกับครอบครัว เพื่อน
มีโลกส่วนตัวสูง..ยิ่งถ้าพ่อแม่พี่น้องไม่เข้าใจ ก็จะทำให้น้อยใจเสียใจกับคนรอบข้าง ไปจนถึงกับทำร้ายตัวเองได้..
แนะนำว่าเด็กช่วงอายุ8-10ปี ไม่ควรจะเรียนรู้คอมพิวเตอร์ ควรจะได้ทำกิจกรรมที่มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว ธรรมชาติ ได้เล่นและ
ออกแรง..บางบ้านติดคอมพิวเตอร์ในห้องนอนลูก ยิ่งทำให้ติดคอมพิวเตอร์ ส่งผลต่อภูมิต้านทานทางจิตใจของเด็ก กลายเป็นคนไม่
หนักแน่น ปรับตัวยาก
ศูนย์พัฒนาศักยภาพมนุษย์ แนะนำว่าต้องพาเด็กออกสู่โลกแห่งความเป็นจริง สนับสนุนให้มีเพื่อนที่ดี ชักชวนกันทำกิจกรรมต่างๆถ้า
แก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ใช้กำลัง ดุด่า ฯ เด็กจะต่อต้านและคิดสั้นได้..
สาระสำคัญจาก youth.buddythai.com
ความเห็นส่วนตัวนะคะ เห็นด้วยกับบทความนี้ เพราะว่าต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหาจริงๆ ทางที่ดีควรจูงใจให้ลูกๆทำกิจกรรมอื่นก่อน
ที่จะถึงขั้นติดเกมนะคะ วิธีนี้ก็ใช้กับลูกๆทั้งสามเช่นกัน การให้ลูกเรียนรู้และแยกแยะโลกแห่งความเป็นจริงให้ได้ก็สำคัญมากนะคะ ไม่
เพียงแต่กับการเล่นคอมพิวเตอร์เท่านั้น การดูทีวี ละคร ฯลฯ กับลูกๆก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน พ่อแม่ผู้ปกครองจะมีโอกาสอธิบายสิ่งต่างๆ
ที่ลูกกำลังดูหรือซึมซับอยู่ วิธีนี้ใช้กับลูกๆและคิดว่าได้ผลค่ะ ถ้าเราสังเกตลูกหลานของบางครอบครัวที่ปล่อยให้ลูกดูทีวี เล่นคอมฯตาม
ลำพัง เปรียบเทียบกับครอบครัวที่พ่อแม่ผู้ปกครองใส่ใจและพร้อมแนะนำลูกหลาน จะสังเกตผลและความแตกต่างอื่นๆได้เลยนะคะ..
ขวัญและเพื่อนๆมีความคิดเห็นว่าอย่างไรคะในเรื่องนี้