☼☼☼ ร่วมคุยกันในมุมมองของคุณแม่~แวะพักทักทายเอ๋ 24 ☼☼☼

[dtoy]

		อ้างถึง			ข้อความของ jacky เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 09:25:00
	อ้างถึง ข้อความของ churaipatara เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 08:06:04 ครอบครัวของจักรค่ะ ว้าว.... ตอนนี้ไอ้เด็กที่อยู่ตรงกลางภาพ มันสูงกว่าผมแล้ว แต่อ้วนขึ้นนิดหน่อย

งั้นอย่ารอช้า  เอารูปมาอัพเดทซะโดยดีป๋า

สวัสดีค่ะเอ๋

[churaipatara]

		อ้างถึง			ข้อความของ dtoy เมื่อ 30 กรกฎาคม 2552, 10:02:20
	อ้างถึง ข้อความของ jacky เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 09:25:00 อ้างถึง ข้อความของ churaipatara เมื่อ 29 กรกฎาคม 2552, 08:06:04 ครอบครัวของจักรค่ะ ว้าว.... ตอนนี้ไอ้เด็กที่อยู่ตรงกลางภาพ มันสูงกว่าผมแล้ว แต่อ้วนขึ้นนิดหน่อย งั้นอย่ารอช้า  เอารูปมาอัพเดทซะโดยดีป๋า สวัสดีค่ะเอ๋

สวัสดีค่ะต๋อย

[churaipatara]

ข้อ ๒๕  ผู้พิพากษาสมทบพึงเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆตามที่ผู้บริหารงานศาลเยาว

ชนและครอบครัว  พิจารณาเห็นสมควร

คำอธิบาย

บางกรณีผู้บริหารงานศาลเยาวชนและครอบครัว  อาจพิจารณาให้ผู้พิพากษาสม

ทบเข้าร่วมกิจกรรมอื่น  เช่น  เข้าร่วมการประชุมสัมมนากับหน่วยงานอื่น  หรือ

มอบหมายให้ไปร่วมกิจกรรมกับหน่วยงานอื่น  ผู้พิพากษาสมทบพึงปฏิบัติตาม

แม้จะไม่ใช่หน้าที่ของตนโดยแท้



จากประมวลแนวทางการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตน

ของผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัว

ศาลเยาวชนและครอบครัว พ.ศ ๒๕๔๗

[churaipatara]

[churaipatara]

[jacky]

สวัสดียามเย็น ดร.เอ๋
ป้าต๋อย เด๋วถ่ายรูปอัพเดทเสร็จจะรีบส่งคับ

[Lamai]

สวัสดีค่ะเอ๋

[Kaimook]

สวัสดียยามดึกค่ะดร.เอ๋

[churaipatara]

สวัสดีวันศุกร์ค่ะ จักร ไมโกะ และอ้อย ดีใจค่ะที่แวะมา

[churaipatara]

หลานพิมคนเก่งค่ะ

[Kaimook]

		อ้างถึง			ข้อความของ churaipatara เมื่อ 31 กรกฎาคม 2552, 08:30:52
	หลานพิมคนเก่งค่ะ

หวัดดียามสายค่ะดร.เอ๋วันนี้อากาศแจ่มใสดีจังค่ะ
  หลานพิมน่ารักจังนะคะแถมเก่งด้วยค่ะ

[churaipatara]

		อ้างถึง			ข้อความของ Kaimook เมื่อ 31 กรกฎาคม 2552, 09:41:29
	อ้างถึง ข้อความของ churaipatara เมื่อ 31 กรกฎาคม 2552, 08:30:52 หลานพิมคนเก่งค่ะ หวัดดียามสายค่ะดร.เอ๋วันนี้อากาศแจ่มใสดีจังค่ะ   หลานพิมน่ารักจังนะคะแถมเก่งด้วยค่ะ

รออ่านงานเขียนของอ้อยอยู่นะคะ

[churaipatara]

โบว์ ลูกสาวคนโต นางรำของโรงเรียนค่ะ









โบว์ วันงานแข่งขันเปียโนโฟร์แฮนด์ค่ะ

[churaipatara]

ข้อ ๒๖  ผู้พิพากษาสมทบพึงส่งเสริมความสามัคคีในหมู่คณะในการทำงานร่วม

กัน

คำอธิบาย

ผู้พิพากษาสมทบเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะสงเคราะห์เด็กและเยาวชนที่มีปัญ

หา  ปกป้องคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นผู้เยาว์ในคดีแพ่ง

และส่งเสริมสถานภาพครอบครัว  ผู้พิพากษาสมทบแต่ละคนต่างได้รับการคัด

สรรจากบุคคลในชุมชนซึ่งประสบความสำเร็จในชีวิต  และมีศักยภาพสูง  แต่

งานของผู้พิพากษาสมทบเป็นงานอาสาสมัคร  ทั้งเป็นงานหนัก  จึงต้องอาศัย

ความร่วมมือร่วมใจกันทำกิจกรรมต่างๆเพื่อประโยชน์ของเด็กและเยาวชนซึ่ง

จะก่อให้เกิดผลงานที่มีเอกภาพ มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล

การที่ผู้พิพากษาสมทบซึ่งมาจากหลากหลายอาชีพและต่างมีศักยภาพสูง  จะมา

ร่วมมือกันทำงานได้จะต้องมีความสามัคคี  ซึ่งเป็นหัวใจของการทำงานร่วมกัน

เป็นหลักยึดเหนี่ยว  จึงขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้า

อยู่หัวฯ เกี่ยวกับสามัคคีธรรมซึ่งพระราชทานแก่สามัคคีสมาคมในพระบรมราชู

ปถัมภ์  เพื่ออัญเชิญไปอ่านในการประชุมใหญ่ประจำปี  เมื่อวันที่ ๑๐-๑๑ เมษา

ยน ๒๕๒๕  มาให้ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานร่วมกันดังนี้

“ความสามัคคีพร้อมเพรียงกันเป็นพื้นฐานที่สำคัญยิ่งในการปฏิบัติบริหารงาน

ใหญ่ๆ  เช่น งานของแผ่นดิน  และความสามัคคีนี้จะเกิดมีขึ้นมั่นคงได้  ก็ด้วย

บุคคลในหมู่คณะมีคุณธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวผูกพันทางจิตใจของกันและ

กันไว้  คุณธรรมเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจนั้น

ประการหนึ่ง  ได้แก่  การให้  คือ  ให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือกัน  ให้อภัยไม่ถือ

โทษกัน  ให้คำแนะนำตักเตือนที่ดีต่อกัน

ประการที่สอง  ได้แก่  การมีวาจาดี  คือพูดแต่คำสัจคำจริงต่อกัน  พูดให้กำลังใจ

กัน  พูดแนะนำประโยชน์กัน  และพูดให้รักใคร่ปรองดองกัน

ประการที่สาม  ได้แก่  การทำประโยชน์ให้แก่กัน  คือประพฤติปฏิบัติตนให้เกิด

ประโยชน์  เกื้อกูลทั้งแก่กันและกัน  และแก่หมู่คณะโดยส่วนรวม

ประการที่สี่  ได้แก่  การวางตนได้อย่างสม่ำเสมอ เหมาะสม  คือไม่ทำตัวให้ดี

เด่นกว่าผู้อื่น  และไม่ด้อยให้ต่ำทรามไปจากหมู่คณะ

หมู่คณะใดมีคุณธรรมเครื่องยึดเหนี่ยวกันไว้ดังกล่าว  หมู่คณะนั้นย่อมมีความ

เจริญมั่นคงขึ้นด้วยสามัคคีธรรม

[churaipatara]

น้องสน ถือเป็นตัวอย่างเยาวชนที่ดีคนหนึ่ง ตั้งใจเรียนและทำกิจกรรมมีประโยชน์ให้กับมหาวิทยาลัย





เวลาว่างรับสอนหนังสือ หารายได้โดยรบกวนทางบ้านน้อยที่สุด

[churaipatara]

ของฝากจากหยุมพรวันนี้ค่ะ


--------------------------------------------------------------------------------

หนังสือ time magazine บอกว่าที่อเมริกา ได้มีงานวิจัย พบว่า คนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก ก็คือ พระในทางพุทธศาสนา

โดยทดสอบด้วยการสแกนสมองของพระที่ ทำสมาธิ และได้ผลลัพธ์ ออกมาว่าเป็นจริง..

หลักความเชื่อของศาสนาพุทธ ก็คือ เหตุที่ทำให้เกิดความสุข นั้นก็คือ อยู่กับปัจจุบันขณะ ปล่อยวางได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว

ควบคุมความอยากที่ไม่มีสิ้นสุด ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ทะเลาะ และใช้หลัก เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ให้อภัย ตัวเอง

และผู้อื่น มีจิตใจเมตตากรุณา และเสียสละเพื่อผู้อื่น  อริยะสัจ 4 สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบและ บอกไว้ ว่าด้วย ทุกข์ สมุทัย

 มรรค นิโรธ แท้จริงแล้วก็คือ ทางเดินไปหาคำว่า " ความสุข " เพราะถ้าเมื่อไรเรากำจัด " ความทุกข์ " ได้แล้ว ความสุขก็จะ

เกิดขึ้นทันที  อุปสรรคของความสุข ก็คือ แรงปรารถนา และตัณหา พระอาจารย์บอกว่า คนเราจะมีความสุขมันไม่มีขึ้นอยู่กับว่า

 " มีเท่าไร " แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าเรา " พอเมื่อไร " ความสุขไม่ได้ขึ้นกับจำนวนสิ่งของที่เรามีหรือเราได้...

ท่านสังเกตเอาจากชาวนาที่ จ อุบล ถ้าบ้านไหนมีควายไว้ช่วยทำนา 1 ตัว บ้านนั้นจะมีความสุข แต่เมื่อไร ที่ชาวนาคนไหน

อยากจะได้ ควาย ตัวที่ 2 ปั๊ป ชาวนาคนนั้นจะไม่มีความสุข เลย  เพราะต้องเริ่มคิดว่าจะทำไงดีถึงจะได้ควายอีกสักตัว เราก็

เหมือนกัน เมื่อไรที่เรา อยากได้รถคันใหม่ อยากได้บ้านใหม่ อยากไปเที่ยว อยากจะมัดใจไอ้หมอนั้น ให้ได้ (อิอิ) ฯลฯ เราจะ

เริ่มเป็นทุกข์ เพราะเราต้อง คิดหาทางที่จะเอามันมาให้ได้ มาเป็นของเรา..  ดังนั้นวิธีจะมีความสุข อันดับแรก ต้อง " หยุดให้

เป็น และพอใจให้ได้ " ถ้าเราไม่หยุดความอยาก(ที่มากเกินไป) ของเราแล้วละก็ เราก็จะต้องวิ่งไล่ตาม หลายสิ่งที่เรา " อยากได้ "

 แล้วนั่นมัน เหนื่อย!!!และความทุกข์ ก็จะตามมา...   ข้อต่อมาที่ทำให้เราเป็นสุข คือ การมองทุกอย่างใน แง่บวก เมื่อเสร็จงาน

แล้วกลับถึงบ้าน คนที่บ้านถามว่า วันนี้เป็นไงบ้าง ? ส่วนใหญ่เราจะตอบว่า " โดนบอสด่า มา วุ่นวาย ลูกค้า งี่เง่า ฯลฯ " ทำไมเรา

ถึงชอบคิดถึงแต่เรืองไม่ดี ในชีวิตแต่ละวัน แน่นอน เราต้องเจอทั้งเรื่องดี และไม่ดี แต่ถ้าเราอยากจะมีความสุขเราต้องเริ่ม ด้วยการ

มองแต่สิ่งดีๆ มองให้เป็นบวก เพื่อที่ใจเราจะได้เป็นบวก คิดถึงสิ่งที่เราทำสำเร็จแล้วในวันนี้ สิ่งดีๆที่เราได้ทำ....

ข้อต่อมาคือ การให้ หมายรวมถึงการให้ในรูปแบบสิ่งของหรือ เงิน เรียกว่าบริจาค และการให้ ความเมตตา กรุณาต่อกัน ให้อภัย

ทั้งตัวเอง และคนอื่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ เป็นปัจจัย ทำให้เรามีความสุข.... การปล่อยวาง ให้ได้ ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และ

ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าเรื่องจะร้ายแรงและเศร้าโศกเพียงใด จำไว้ว่า มันจะโดน เวลา พัดพามันไปจากเราไม่ช้าก็เร็ว

 เราจะผ่านพ้นไปได้.... และยอมรับในความเป็นจริงของชีวิต ไม่ว่า จะเป็นเรื่องที่เราไม่ชอบเพียงใด ไม่ว่า ผิดหวัง สูญเสีย เจ็บ

ป่วยล้วนแล้วแต่ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เราทุกคนต้องได้ผ่าน บททดสอบนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร...

ขอให้เรารักษาใจเราให้เป็นสุข อยู่เสมอ เพราะความสุข มันอยู่ใกล้แค่นี้เอง แค่ที่ ใจของเรา นี่เองแหละ ...
 
 

 

[churaipatara]

เยาวชนคนเก่งของครอบครัว24ค่ะ

[churaipatara]

ชาย ส่งมาให้ค่ะ

[phraisohn]

ดีค้าบพีเอ๋

[jacky]

		อ้างถึง			ข้อความของ churaipatara เมื่อ 31 กรกฎาคม 2552, 11:09:59
	น้องสน ถือเป็นตัวอย่างเยาวชนที่ดีคนหนึ่ง ตั้งใจเรียนและทำกิจกรรมมีประโยชน์ให้กับมหาวิทยาลัย เวลาว่างรับสอนหนังสือ หารายได้โดยรบกวนทางบ้านน้อยที่สุด

บักสน
ซีจี

[churaipatara]

หมวดที่ ๔  แนวทางการปฏิบัติตน

ส่วนที่ ๑  วินัย

ข้อ ๒๗  ผู้พิพากษาสมทบจักต้องรักษาวินัยของผู้พิพากษาสมทบตามที่ระบุใน

ส่วนนี้โดยเคร่งครัด

คำอธิบาย

แม้ผู้พิพากษาสมทบไม่ได้เป็นข้าราชการแต่เป็นเจ้าพนักงานผู้ใช้อำนาจตุลาการ

พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวฯมาตรา ๓๑  จึงให้นำบทบัญ

ญัติว่าด้วยวินัยและการรักษาวินัยสำหรับข้าราชการตุลาการ  ตามกฎหมายว่า

ด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการมาใช้บังคับแก่ผู้พิพากษาสมทบโดยอนุโลม

วินัย  หมายถึง  ข้อห้ามและข้อปฏิบัติที่กำหนดไว้ให้รักษาในการดำรงตำแหน่ง

หน้าที่  หากฝ่าฝืนแล้วย่อมมีโทษ  ซึ่งถ้าเป็นข้าราชการตุลาการ  โทษทางวินัย

จะมี ๕ สถาน ได้แก่  ๑ )  ไล่ออก  ๒)  ปลดออก  ๓)  ให้ออก  ๔)  งดเลื่อนตำ

แหน่งหรืองดเลื่อนเงินเดือน  และ ๕)  ภาคทัณฑ์  ส่วนโทษทางวินัยของผู้พิพาก

ษาสมทบโดยอนุโลม  มี  ๒  สถาน  คือ ๑)  ให้พ้นจากตำแหน่ง  และ ๒)  ภาค

ทัณฑ์  ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณา

คดีเยาวชนและครอบครัว  พ.ศ. ๒๕๓๔  มาตรา ๒๘ ,  ๓๑  และพระราชบัญ

ญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓  มาตรา ๗๖

[churaipatara]

ข้อ ๒๘  ผู้พิพากษาสมทบจักต้องอยู่ในมารยาทอันดีงาม  ขณะพิจารณาพิพาก

ษาคดี

คำอธิบาย

ในเวลาพิจารณาพิพากษาคดี  ผู้พิพากษาสมทบต้องอยู่ในมารยาทอันดีงามกล่าว

คือ  เมื่อออกนั่งพิจารณาจักต้องปฏิบัติตนให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาของทุกคนที่อยู่

ในศาล  ต้องสำรวมตน  มีสติตั้งมั่นเป็นกลาง  จะโต้เถียงหรือพิพาทกับคู่ความ

ทนายความ  ที่ปรึกษากฎหมาย  พยาน  หรือบุคคลใดไม่ได้เป็นอันขาด  การซัก

ถามคู่ความหรือพยานต้องทำอย่างเป็นกลางด้วยวาจาสุภาพ  ใช้ถ้อยคำที่เหมาะ

สม  ไม่กระทบกระเทียบเปรียบเปรย  ทั้งน้ำเสียงและทีท่า  ไม่ปล่อยตัวตาม

สบาย

[churaipatara]

โบว์ เชียร์ลีดเดอร์ตอนเรียนมัธยมค่ะ

[churaipatara]

ข้อ  ๒๙  ผู้พิพากษาสมทบจักต้องไม่ทุจริตต่อหน้าที่  ไม่ประมาทเลินเล่อใน

หน้าที่  และจักต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง  มิให้เสียหายแก่ราชการ

คำอธิบาย 

การระมัดระวังมิให้เสียหายแก่ราชการนั้น  ต้องระมัดระวังทั้งในทางทรัพย์สิน

และในทางความเสื่อมเสียของสถาบันตุลาการ  การทำกิจกรรมจะต้องไม่ให้มี

ข้อครหา  หรือมีลักษณะสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น  เช่น  การเชิญชวนให้บริ

จาคทรัพย์เพื่อนำมาสงเคราะห์เด็กและเยาวชน  พึงกระทำด้วยความระมัดระวัง

มิให้เสื่อมเสียแก่สถาบันตุลาการ  หากการไม่ระมัดระวังนั้นถึงขนาดประมาท

เลินเล่อ  อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง  หรือเป็นการ

กระทำการทุจริตต่อหน้าที่กล่าวคือ  ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประ

โยชน์อันมิควรได้สำหรับตนเองหรือผู้อื่น  เป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง

มีโทษถึงขั้นให้พ้นจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบ

ครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.๒๕๓๔  มาตรา ๒๘ (๕)

ประกอบพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓

มาตรา ๗๗

[Kaimook]

		อ้างถึง			ข้อความของ churaipatara เมื่อ 31 กรกฎาคม 2552, 09:54:41
	โบว์ ลูกสาวคนโต นางรำของโรงเรียนค่ะ โบว์ วันงานแข่งขันเปียโนโฟร์แฮนด์ค่ะ

น้องโบว์ทั้งสวยทั้งเก่งเลยนะคะเอ๋